เนือ้ เร่อื งยอ่ มหาเวสสนั ดรชาดก ๑. กณั ฑ์ทศพร พระอนิ ทรท์ รงทราบว่าพระนางผสุ ดเี ทพกญั ญาผเู้ ปน็ ชายา จะต้องจุติจากดาวดึงส์สวรรคไ์ ปเกิดในโลกมนุษย์ จึงอนุญาตให้พระนางขอพรได้ ๑๐ ประการ พรท่พี ระนางขอมวี า่ ขอใหไ้ ดเ้ ป็นพระอัครมเหสขี องพระราชาแห่งกรงุ สพี ี ขอให้มี พระเนตรดางามประดุจตากวางท่มี ีอายุได้ ๑ ปี ขอให้มขี นคิ้วดางาม ขอใหม้ ีพระนามดังเดมิ ว่าผสุ ดี ขอให้มีพระครรภ์แบนราบและไม่นูนออกมาเวลาทรงครรภ์ ขอให้มีโอรสทีใ่ ฝใ่ นทาง ทาน มีชื่อเสียงเลื่องลือไปทัว่ ขอให้มโี อกาสช่วยคนให้รอดพน้ จากโทษประหารชวี ิต เม่ือลง มาเกดิ ในโลกมนษุ ย์ พระนางได้เปน็ พระมเหสขี องพระเจ้ากรุงสญชัย และเป็นพระราช มารดาของพระเวสสันดรตามพรที่ขอทกุ ประการ
-๒ - ๒. กัณฑห์ ิมพานต์ เมืองกลิงคราษฎร์ได้สง่ พราหมณม์ าทูลขอช้าง ปัจจยั นาคจากพระเวสสันดรเพือ่ ให้ฝนตกในบ้านเมืองของตนที่กันดาร และแห้งแล้งมานาน พระเวสสันดรประทานใหต้ ามคาขอ ทาให้ ชาวเมอื งเชตดุ รโกรธแค้นทพ่ี ระองคป์ ระทานช้างเผือกคบู่ า้ นคเู่ มืองใหแ้ ก่ ชาวเมืองอื่นจงึ พากนั ไปฟอ้ งร้องกล่าวโทษพระเวสสนั ดรต่อพระเจา้ กรงุ สญชัยโดยขอใหท้ รงเนรเทศพระเวสสันดรออกจากเมอื ง
-๓ - ๓. ทานกณั ฑ์ พระนางผุสดขี อพระราชทานอภยั โทษแกพ่ ระเวสสนั ดร แต่ไมเ่ ป็นผล ก่อนออกจากพระนคร พระเวสสันดรทรงบาเพญ็ สตั ตสดกมหา ทาน คอื การทาทานคร้ังใหญ่ โดยให้สิ่งของ ๗ อยา่ ง อยา่ งละ ๗๐๐ ได้แก่ ชา้ ง มา้ รถ สตรี โคนม ทาสชาย และทาสหญิง แล้วทรงราชรถออกจาก พระนครพรอ้ มพระนางมทั รแี ละโอรสธดิ าคอื ชาลีกับกัณหา ระหว่างทางมี พราหมณ์ขอพระราชทานม้าและรถทรง พระองค์กท็ รงบรจิ าคให้
-๔ - ๔. กณั ฑ์วนประเวศน์ (วนั ประเวศน์ หรือ วนปเวสน)์ พระเวสสนั ดร พระนางมทั รี และสองกุมารเสดจ็ ถึงเมืองของกษตั ริยเ์ จตราช กษัตริย์เจตราชพากนั มาเฝา้ และกราบทลู อญั เชิญใหพ้ ระเวสสันดรครองเมืองของพวกตน แต่พระเวสสันดร มิทรงรับ กษตั ริย์เจตราชจึงทรงส่งพระเวสสนั ดรพระนางมัทรีและสองกุมารไปยงั เขา วงกต โดยให้พรานเจตบตุ รเป็นนายด่านรกั ษาประตปู ่าคอยระวังไม่ให้ใครไปรบกวน พระเวสสนั ดรได้ ส่วนพระอนิ ทรไ์ ด้ตรสั ส่งั ใหพ้ ระวษิ ณุกรรมลงมาเนรมิตบรรณศาลา ให้เปน็ ทป่ี ระทับของพระเวสสนั ดร พระนางมทั รแี ละสองกุมาร
-๕ - ๕. กณั ฑช์ ูชก พราหมณเ์ ฒา่ ชชู กนาเงินท่ไี ด้จากการขอทานไปฝาก เพอื่ นไวจ้ านวน ๑๐๐ กหาปณะ (กษาปณ์) แลว้ ออกเดนิ ทางขอทานตอ่ ไป เพอ่ื นเหน็ ว่าชูชก หายไปนานหลายปเี ขา้ ใจวา่ ตายแลว้ กน็ าเงินไปใชจ้ ่ายจนหมด เมอ่ื ชูชกกลับมาทวงเงนิ ก็ไม่มี เงินคืนให้ จึงไดย้ กนางอมิตตดาผ้เู ปน็ บุตรสาวให้เปน็ ภรรยาของชูชก นางอมิตตดาตงั้ ใจ ปรนนบิ ัตชิ ชู กอยา่ งดี พราหมณ์ในหมู่บา้ นเหน็ วา่ ภรรยาของตนไมด่ เี หมือนนางอมิตตดา จึง ตาหนิและทาร้ายภรรยา พวกนางแค้นใจจึงไปดา่ วา่ นางอมิตตดา นางอมิตตดารอ้ งไห้เสยี ใจ ขอให้ชูชกเดินทางไปทูลขอชาลีและกณั หาจากพระเวสสันดรมาเปน็ ขา้ ทาสใหน้ างใช้สอย ชชู ก เดินทางไปถึงเขตแดนท่พี รานเจตบตุ รเฝ้าอยู่ ชชู กอา้ งว่าตนเปน็ ทตู ถือพระราชสาสนข์ องพระ เจ้ากรุงสญชยั เพื่อมาทลู เชญิ พระเวสสนั ดรกลับคืนพระนคร พรานเจตบุตรกห็ ลงเชือ่
-๖ - ๖. กัณฑ์จลุ พน พรานเจตบตุ รจดั เตรียมเสบยี งให้ชชู ก และ พรรณนาพรรณไมใ้ นปา่ หิมพานต์ใหช้ ูชกฟัง พรอ้ มทงั้ บอกเสน้ ทางแก่ ชูชก ชูชกออกเดินทางไปยงั เขาวงกต ระหว่างทางได้พบพระอจั จตุ ฤๅษีท่อี าศรม
-๗ - ๗. กัณฑ์มหาพน ชูชกลวงพระอจั จตุ ฤๅษีเชน่ เดียวกบั ท่ีลวง พรานเจตบุตร พระฤๅษีจึงบอกทางไปเขาวงกตแก่ชูชก และพรรณนา หมสู่ ัตวแ์ ละพรรณไมต้ ามเสน้ ทางใหช้ ชู กฟังอยา่ งละเอียด
-๘ - ๘. กณั ฑ์กุมาร ชชู กเดนิ ทางมาถึงสระใกลอ้ าศรมของพระเวสสนั ดร ในตอนพลบคา่ แตก่ ร็ อจนรงุ่ เช้าเพอ่ื ให้พระนางมทั รเี ขา้ ป่าไปหาผลไมก้ อ่ น แลว้ ชูชกจงึ เขา้ ไปทูลขอสองกุมารจากพระเวสสนั ดร พระเวสสันดร พระราชทานสองกมุ ารแกช่ ูชกพรอ้ มทัง้ กาหนดคา่ ตวั สองกุมารไวใ้ หช้ ชู กรู้ ดว้ ย ชชู กเฆ่ียนตสี องกุมารต่อหน้าพระเวสสนั ดร ทาใหพ้ ระเวสสนั ดรกร้ิว แตต่ อ่ มากท็ รงตัดความอาลัยได้และทรงปลอ่ ยใหช้ ชู กพาสองกมุ ารจากไป
-๙ - ๙. กณั ฑ์มัทรี พระนางมทั รีเสดจ็ เข้าป่าหาผลไม้ ระหวา่ งเดินทาง กลับพบสตั วส์ ามตวั ขวางทางไว้ เมื่อกลับมาถงึ อาศรม พระนางมทั รไี ม่ เหน็ กุมารท้งั สองจึงออกตามหา แต่ก็ไมพ่ บพระนางครา่ ครวญดว้ ยความ ทกุ ขโ์ ศกจนสลบไป เมื่อฟน้ื ข้ึนมา พระเวสสันดรกต็ รสั เลา่ ความจรงิ ใหฟ้ งั ว่าไดพ้ ระราชทานสองกมุ ารแกช่ ชู กไปแลว้ พระนางมทั รีร่วมอนโุ มทนาใน ปิยบตุ รทานนนั้
-๑๐ - ๑๐. กัณฑส์ กั กบรรพ พระอนิ ทร์เกรงว่าพระเวสสนั ดรจะ พระราชทานพระนางมทั รแี ก่ผทู้ ี่มาขอ จึงแปลงกายเปน็ พราหมณ์ ชรามาทูลขอพระนางมัทรี เมือ่ พระเวสสนั ดรพระราชทานใหแ้ ลว้ จึง ถวายคนื เพ่ือให้ทาหน้าท่ีปรนนบิ ัตพิ ระเวสสนั ดรตอ่ ไป
-๑๑ - ๑๑. กัณฑ์มหาราช ชูชกต้งั ใจพาสองกมุ ารเดนิ ทางกลับเมือง ของตน แต่เทวดาดลใจให้หลงเขา้ ไปในนครเชตดุ ร พระเจ้ากรุงสญ ชยั ทอดพระเนตรเหน็ ก็มรี ับสงั่ ใหน้ าตัวชชู กเขา้ เฝ้าฯ เมื่อสอบถาม จนทราบความจริงแลว้ ได้ทรงไถ่ตัวสองกมุ ารจากชชู ก ชูชกกิน อาหารโดยไม่ยงั้ จนถงึ แกค่ วามตาย พระเจา้ กรงุ สญชยั ใหพ้ ระชาลี นาทางพระองคพ์ รอ้ มทั้งไพร่พลไปยังเขาวงกตเพอ่ื อญั เชญิ พระ เวสสันดรกลบั พระนคร
-๑๒ - ๑๒. กัณฑฉ์ กษัตรยิ ์ เมื่อหกกษตั รยิ ์คือพระเจ้ากรุงสญชัย พระนางผสุ ดี พระเวสสนั ดร พระนางมัทรี พระชาลี และ พระกัณหาได้ทรงพบกัน ก็เกดิ ความเศรา้ โศกจนหมดสติ พระอินทรบ์ นั ดาลใหฝ้ นโบกขรพรรษตกลงมา ทาให้กษัตรยิ ์ทง้ั ๖ พระองคฟ์ ้ืน
-๑๓ - ๑๓. นครกัณฑ์ พระเจ้ากรงุ สญชัยขอใหพ้ ระเวสสนั ดรทรงลาผนวช เพอ่ื กลบั ไปครองบ้านเมืองดงั เดมิ ทงั้ ยงั ตรสั ขอขมาพระเวสสนั ดร เมอื่ เสดจ็ กลบั นครเชตุดรและได้ครองราชสมบตั แิ ลว้ พระเวสสันดรทรงปลอ่ ย สัตว์ที่ขังไว้ ท้ังมีพระประสงคจ์ ะบรจิ าคทาน พระอินทร์จงึ ทรงบนั ดาลฝน แก้ว ๗ ประการตกลงในพระนครทว่ มถงึ สะเอว ทรงให้ประชาชนมาขนเอา ไปตามความปรารถนา พระเวสสนั ดรทรงปกครองประชาราษฎรด์ ว้ ย ทศพธิ ราชธรรม บา้ นเมืองสงบสุข เมอื่ ส้นิ พระชนมไ์ ด้เสด็จสสู่ วรรคช์ ้ันดสุ ิต
-๑๔ - ในตอนท้ายเร่อื งมหาชาตมิ กี ารกลา่ วถึงการกลบั ชาติ มาเกิดของตวั ละครตา่ งๆ เช่น พระเจา้ กรุงสญชัยกลับ ชาติมาเปน็ พระเจ้าสุทโธทนะ พระนางผุสดเี ป็นพระนาง สริ ิมหามายา พระนางมัทรีเป็นพระนางยโสธราพิมพา พระชาลีเป็นพระราหลุ พระกัณหาเปน็ นางอบุ ลวรรณา เถรี พราหมณช์ ูชกเป็นพระเทวทัต นางอมติ ตดาเป็นนาง จญิ จมาณวิกา พรานเจตบตุ รเปน็ พระฉนั นะ อัจจตุ ฤๅษี เปน็ พระสารีบตุ ร ทา้ วสักกเทวราช (พระอินทร)์ เปน็ พระ อนรุ ทุ ธะ ข้าราชบริพารท่ีเหลือเป็นพุทธบริษทั ส่วนพระ เวสสนั ดรก็คือองค์สมเดจ็ พระสัมมาสมั พุทธเจ้าพระบรม ศาสดา
Search
Read the Text Version
- 1 - 16
Pages: