96 วรรคสอง แห่งพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ.2522 ซ่ึง แก้ไขเพ่ิมเติมโดยพระราชบัญญัติน้ี เป็นเวลาสองปีนับแต่วันที่ พระราชบญั ญตั ินใ้ี ช้บงั คับ มาตรา ๕ ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รกั ษาการตามพระราชบญั ญัตนิ ้ี หมายเหตุ :- เหตผุ ลในการประกาศใชพ้ ระราชบญั ญตั ิฉบบั น้ี คือ โดยท่ีในปัจจุบัน อุบัติเหตุจากการจราจรทางบกมีผลต่อการ พฒั นาประเทศโดยตรงและมแี นวโน้มท่ีจะเพิ่มจานวนสูงข้ึนเป็น อันมาก สมควรกาหนดมาตรการเพื่อสร้างความปลอดภัยและ ลดความรุนแรงของอันตรายท่ีอาจเกิดขึ้นแก่ผู้ขับขี่รถยนต์และ คนโดยสารรถยนต์ โดยกาหนดให้ผู้ขับข่ีรถยนต์ต้องรัดร่างกาย ด้วยเข็มขดั นริ ภยั ไวก้ บั ท่ีนัง่ ในขณะขบั รถยนต์ และต้องจัดให้คน โดยสารรถยนต์ซึ่งน่ังที่น่ังตอนหน้าแถวเดียวกับที่น่ังผู้ขับข่ี รถยนต์รัดร่างกายด้วยเข็มขัดนิรภัยไว้กับท่ีนั่งในขณะโดยสาร รถยนต์ และคนโดยสารรถยนต์ดังกล่าวต้องรัดร่างกายด้วยเข็ม ขัดนิรภัยไว้กับท่ีนั่งในขณะโดยสารรถยนต์ด้วย จึงจาเป็นต้อง ตราพระราชบญั ญัติน้ี
97 พระราชบัญญัติจราจรทางบก (ฉบบั ที่ 6) พ.ศ. 2542 มาตรา ๒ พระราชบัญญัติน้ีให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจาก วันประกาศในราชกิจจานเุ บกษา หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใชพ้ ระราชบัญญตั ฉิ บบั น้ี คือ โดยที่ในปัจจุบันอุบัติเหตุร้ายแรงที่เกิดข้ึนบนท้องถนนอันเป็น เหตุให้เกิดอันตรายแก่ชีวิตและทรัพย์สินของบุคคลต่าง ๆ นั้นมี สาเหตุส่วนหน่ึงเนื่องมาจากผู้ขับขี่เมาสุราหรือของเมาอย่างอื่น หรือเสพวัตถุที่ออกฤทธ์ิต่อจิตและประสาทกลุ่มแอมเฟตามีน ในขณะขบั รถ แมจ้ ะได้มีการจบั กุมปราบปรามและป้องกันมิให้ผู้ ขับข่ีเสพหรือเมาส่ิงต่าง ๆ ดังกล่าวขณะขับรถแล้วก็ตาม แต่ก็ ปรากฏวา่ ยังมีผู้ขับขี่ท่ีฝ่าฝืนอยู่อีก สมควรกาหนดให้ผู้ตรวจการ ตามกฎหมายว่าด้วยการขนส่งทางบกและผู้ตรวจการ ตาม กฎหมายวา่ ด้วยรถยนต์มีอานาจดาเนินการเก่ียวกับการทดสอบ หรอื การตรวจสอบของมึนเมาหรือสารเสพติดดังกล่าว ในผู้ขับข่ี ได้เช่นเดียวกับพนักงานจราจรและพนักงานเจ้าหน้าท่ีตาม กฎหมายว่าด้วยการจราจรทางบก เพ่ือเป็นการแบ่งเบาภาระ ของเจ้าพนักงานดังกล่าวและปรับปรุงอานาจหน้าท่ีของเจ้า พนักงานจราจร พนักงานสอบสวน พนักงานเจ้าหน้าที่และ ผู้ตรวจการให้สามารถดาเนินการทดสอบหรือตรวจสอบ ตลอดจนจับกุมปราบปรามผู้ขับข่ีซึ่งเมาสุราหรือของเมาอย่าง อ่ืน หรือเสพวัตถุท่ีออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทกลุ่มแอมเฟตา มีนในขณะขับรถให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและทาให้เกิด
98 ความปลอดภัยในท้องถนนมากย่ิงข้ึน จึงจาเป็นต้องตรา พระราชบัญญัตนิ ี้ พระราชบญั ญัตจิ ราจรทางบก (ฉบับที่ ๗) พ.ศ. 25๕๐ มาตรา ๒ พระราชบัญญัตินี้ให้ใช้บังคับต้ังแต่วันถัดจาก วันประกาศในราชกจิ จานเุ บกษา มาตรา ๓ ใหแ้ ก้ไขคาว่า “รถยนต์” “รถจักรยานยนตร์” และ “เครื่องยนตร์” ในพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. ๒ ๕ ๒ ๒ แ ล ะ ท่ี แ ก้ ไ ข เ พิ่ ม เ ติ ม เ ป็ น ค า ว่ า “ร ถ ย น ต์ ” “รถจกั รยานยนต์” และ “เครอื่ งยนต์” ทกุ แห่ง หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชบญั ญัติฉบับน้ี คือ โดยท่ใี นปัจจุบันการโดยสารรถจักรยานยนต์เป็นที่นิยมกันอย่าง แพร่หลาย และจานวนอุบัติเหตุอันเนื่องจากรถจักรยานยนต์ได้ เพ่ิมมากข้ึน ประกอบกับการเกิดอุบัติเหตุทางถนนอัน เน่ืองมาจากการขับรถในขณะเมาสุราหรือของเมาอย่างอ่ืน หรือ เสพยาเสพติดให้โทษหรือวัตถุที่ออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทได้ เพ่ิมสูงขึ้นดว้ ย สมควรกาหนดให้คนโดยสารรถจกั รยานยนต์ต้อง สวมหมวกที่จัดทาข้ึนโดยเฉพาะเพื่อป้องกันอันตราย และ กาหนดให้ความผิดของผู้ขับขี่ท่ีได้ขับรถในขณะเมาสุราหรือของ เมาอย่างอื่น เป็นความผิดท่ีไม่อาจว่ากล่าวตักเตือนหรือทาการ เปรียบเทียบได้ รวมท้ังปรับปรุงบทกาหนดโทษสาหรับความผิด ฐานขับรถในขณะเมาสุราหรือของเมาอย่างอื่น หรือเสพยาเสพ ติดให้โทษหรือวัตถุท่ีออกฤทธ์ิต่อจิตและประสาท ตลอดจน ปรับปรุงประเภทของรถท่ีใช้บรรทุกคน สัตว์ หรือส่ิงของให้
99 ครอบคลุมถึงการบรรทุกของรถทุกประเภทด้วย จึงจาเป็นต้อง ตราพระราชบญั ญัตนิ ี้ พระราชบญั ญตั ิจราจรทางบก (ฉบบั ที่ ๘) พ.ศ. 25๕๑ มาตรา ๒ พระราชบัญญัติน้ีให้ใช้บังคับต้ังแต่วันถัดจาก วนั ประกาศในราชกจิ จานุเบกษา หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใชพ้ ระราชบัญญตั ฉิ บับนี้ คือ โดยที่ปัจจุบัน ผู้ขับข่ีใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่ในขณะขับรถ เป็น สาเหตุหน่ึงท่ีก่อให้เกิดอุบัติเหตุทางถนนและก่อให้เกิดอันตราย แก่ชีวิต ร่างกาย และทรัพย์สินของบุคคล สมควรแก้ไขเพิ่มเติม พระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. ๒๕๒๒ เพ่ือกาหนดห้ามผู้ ขับข่ีใช้โทรศัพท์เคลื่อนท่ีในขณะขับรถ เว้นแต่ในกรณีการใช้ โทรศัพท์เคล่ือนที่โดยใช้อุปกรณ์เสริมสาหรับการสนทนา โดยผู้ ขับข่ีไม่ต้องถือหรือจับโทรศัพท์เคลื่อนที่นั้น จึงจาเป็นต้องตรา พระราชบัญญตั นิ ี้ ประกาศคณะรกั ษาความสงบแห่งชาติ ฉบับท่ี ๘๗/๒๕๕๗ เรื่อง การแก้ไขเพิ่มเติมผู้รักษาการตามกฎหมายท่ี เกี่ยวข้องกับอานาจหน้าท่ีของเจ้าพนักงานตารวจ ลง วันที่ ๑๐ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๕๕๗ ข้อ ๔ ให้บรรดา กฎกระทรวง กฎ ระเบียบ ข้อบังคับ ประกาศ หรือคาส่ัง ที่ออกตามพระราชบัญญัติตามข้อ ๑ ข้อ ๒ และข้อ ๓ ทีใ่ ชบ้ งั คบั อยใู่ นวนั ก่อนวันที่ประกาศนีใ้ ช้บังคับ ยังคง ใชบ้ ังคบั ได้ต่อไปจนกวา่ จะมีการแก้ไขเพ่ิมเติม
100 พระราชบญั ญตั ิจราจรทางบก (ฉบับที่ ๙) พ.ศ. 25๕๗ หมายเหตุ :- เหตผุ ลในการประกาศใชพ้ ระราชบัญญัตฉิ บบั น้ี คือ โดยที่ปัจจุบันเมื่อเจ้าพนักงานจราจรหรือพนักงานเจ้าหน้าที่พบ การกระทาความผิดของผู้ขับขี่ไม่ว่าด้วยตนเองหรือด้วยเครื่อง อุปกรณ์ใด ๆ แล้วแต่ไม่อาจออกใบส่ังให้ผู้ขับข่ีได้ในขณะนั้น เพราะไม่สามารถเรียกให้ผู้ขับข่ีหยุดรถได้ ซึ่งส่งผลให้การบังคับ ใช้กฎหมายไม่มีประสิทธิภาพเท่าท่ีควร สมควรแก้ไขเพ่ิมเติม มาตรา ๑๔๐ วรรคหน่ึง แห่งพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. ๒๕๒๒ ซ่ึงแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติจราจรทางบก (ฉบับที่ ๔) พ.ศ. ๒๕๓๕ เพื่อให้เจ้าพนักงานจราจรหรือ พนักงานเจ้าหน้าท่ีที่พบการกระทาความผิดดังกล่าวสามารถส่ง ใบสงั่ ไปยังภูมิลาเนาของเจ้าของรถหรือผู้ครอบครองรถโดยทาง ไ ป ร ษ ณี ย์ ล ง ท ะ เ บี ย น ต อ บ รั บ ไ ด้ จึ ง จ า เ ป็ น ต้ อ ง ต ร า พระราชบัญญตั ิน้ี พระราชบัญญตั จิ ราจรทางบก (ฉบบั ที่ ๑๐) พ.ศ. 25๕๗ หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชบญั ญตั ิฉบบั น้ี คือ โดยที่เป็นการสมควรกาหนดมาตรการในด้านความปลอดภัย เพ่ือช่วยในการให้สัญญาณจราจรและสมควรกาหนดข้อ สันนิษฐานว่าผู้ขับข่ีขับรถในขณะเมาสุราหรือของเมาอย่างอื่น ในกรณีท่ีไม่ยอมให้ทดสอบโดยไม่มีเหตุอันควร อันจะเป็น มาตรการในการป้องกันการเกิดอุบัติเหตุที่เกิดจากผู้ขับขี่รถ
101 ขณะเมาสุราหรือของเมาอย่างอ่ืน จึงจาเป็นต้องตรา พระราชบัญญัติน้ี พระราชบญั ญัตจิ ราจรทางบก (ฉบบั ท่ี ๑๑) พ.ศ. 25๕๙ มาตรา ๒ พระราชบัญญัติน้ีให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจาก วนั ประกาศในราชกจิ จานเุ บกษา หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใชพ้ ระราชบัญญัตฉิ บับนี้ คือ โดยที่ในปัจจุบันได้มีการนาระบบการชาระเงินด้วยวิธีการ ธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์มาใช้เพ่ือการชาระค่าสินค้าและ บริการเพิ่มมากขึ้น สมควรเพ่ิมช่องทางการชาระค่าปรับตาม ใบสั่งด้วยวิธีการดังกล่าวในกรณีท่ีเจ้าพนักงานจราจรหรือ พนักงานเจ้าหน้าที่ไม่เรียกเก็บใบอนุญาตขับข่ี เพื่อเป็นการ อานวยความสะดวกให้แก่ผู้ขับขี่หรือเจ้าของรถในการชาระ ค่าปรับตามใบสั่งประกอบกับได้มีการโอนกรมตารวจไปเป็น สานักงานตารวจแห่งชาติแล้ว สมควรแก้ไขการระบุชื่อตาแหน่ง “อธิบดีกรมตารวจ” ตามกฎหมายว่าด้วยจราจรทางบก เป็น “ผู้บัญชาการตารวจแห่งชาติ” ในคราวเดียวกัน จึงจาเป็นต้อง ตราพระราชบญั ญตั ิน้ี คาส่ังหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติท่ี ๑๔/๒๕๖๐ เร่ือง มาตรการเพม่ิ ประสิทธิภาพการบังคับใช้กฎหมายว่า ด้วยการจราจรทางบก ข้ อ ๔ บ ท บั ญ ญั ติ ใ น ม า ต ร า ๑ ๔ ๑ / ๑ แ ห่ ง พระราชบญั ญตั จิ ราจรทางบก พ.ศ. ๒๕๒๒ ซ่งึ แก้ไขเพิ่มเติมโดย
102 คาสัง่ น้ี มใิ หใ้ ชบ้ ังคับกับใบสั่งที่เจ้าพนักงานจราจรหรือพนักงาน เจ้าหน้าท่ีออกให้ก่อนวันท่ีคาส่ังน้ีใช้บังคับ โดยให้นาบทบัญญัติ ในมาตรา ๑๔๑ ทวิ แห่งพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. ๒๕๒๒ ซ่ึงแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติจราจรทางบก (ฉบับที่ ๔) พ.ศ. ๒๕๓๕ ท่ีใช้บังคับอยู่ในวันก่อนวันท่ีคาส่ังนี้ใช้ บงั คับ มาใช้บงั คบั กบั ใบสงั่ ดังกล่าว ข้ อ ๕ ในก รณีเห็ นสม ควรน ายก รั ฐมนต รีหรื อ คณะรัฐมนตรีอาจเสนอให้คณะรักษาความสงบแห่งชาติแก้ไข เปลี่ยนแปลงคาสัง่ นี้ได้ ข้อ ๖ คาสั่งน้ีให้ ใช้ บังคับต้ังแ ต่ วันประก าศใน ราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
103 ป้ายจราจรประเภทป้ายบังคับ ป้ายบังคับ ได้แก่ ป้ายจราจรท่ีมีความหมายเป็นการ บังคับให้ผู้ใช้ทางปฏิบัติตามความหมายของเคร่ืองหมายจราจร ท่ีปรากฏอยู่ในป้ายนั้น โดยการกาหนดให้ผู้ใช้ทางต้องกระทา งดเว้นการกระทา หรือจากัดการกระทา ในบางประการ หรือ บางลกั ษณะ ป้ายบังคบั แบง่ เป็น ๒ ประเภท ดงั น้ี (๑) ป้ายบังคับที่แสดงความหมายตามรูปแบบและ ลักษณะท่ีกาหนด (๒) ป้ายบงั คบั ท่แี สดงดว้ ยขอ้ ความ หรือสัญลักษณ์ หรือ ทัง้ สองอยา่ งรวมกนั ป้ายหยุด หมายความว่า รถทุกชนิดต้องหยุด เมื่อเห็นว่าปลอดภัยแล้ว จึงให้เคล่ือนรถต่อไป ไดด้ ว้ ยระมัดระวงั ป้ายให้ทาง หมายความว่า รถทุกชนิดต้อง ระมัดระวังและให้ทางแก่รถ และคนเดินเท้า ในทางขวางหน้าผ่านไปก่อน เมื่อเห็นว่า ปลอดภัยและไม่เป็นการกีดขวางการจราจรที่ บริเวณทางแยกนั้นแล้ว จึงให้เคล่ือนต่อไปได้ ดว้ ยความระมดั ระวัง
104 ป้ายให้รถสวนทางมาก่อน หมายความว่า ให้ รถทุกชนิดหยุดรถตรงป้าย เพ่ือให้รถที่กาลัง สวนทางมาก่อน ถ้ามีข้างหน้าหยุดรออยู่ก่อน ก็ให้หยุดรถถัดต่อกันตามลาดับ เมื่อรถท่ีสวน ทางมาได้ผ่านหมดแล้ว จึงให้รถท่ีหยุดรอตาม ปา้ ยน้ีเคลื่อนไปได้ ป้ายห้ามแซง หมายความว่า ห้ามมิให้ขับรถ แซงขึน้ หนา้ รถคนั อน่ื ในเขตทางท่ีตดิ ตัง้ ปา้ ย ป้ายห้ามเข้า หมายความว่า ห้ามมิให้รถทุก ชนิดเข้าไปในเขตทางทีต่ ดิ ตง้ั ปา้ ย ป้ายห้ามกลับรถไปทางขวา หมายความว่า ห้ามให้กลับรถไปทางขวาไม่ว่าด้วยวิธีใดๆ ใน เขตทางทตี่ ิดตงั้ ปา้ ย ป้ายห้ามกลับรถไปทางซ้าย หมายความว่า ห้ามให้กลับรถไปทางซ้ายไม่ว่าด้วยวิธีใดๆ ใน เขตทางทตี่ ิดตั้งปา้ ย ป้ายห้ามเลี้ยวซ้าย หมายความว่า ห้ามมิให้ เลีย้ วรถไปทางซ้าย
105 ป้ายห้ามเลี้ยวขวา หมายความว่า ห้ามมิให้ เล้ียวรถไปทางขวา ป้ า ย ห้ า ม เ ป ล่ี ย น ช่ อ ง เ ดิ น ร ถ ไ ป ท า ง ซ้ า ย หมายความว่า ห้ามให้เปลี่ยนช่องเดินรถ หรือ ชอ่ งจราจรไปทางซา้ ย ป้ายห้ามเปลี่ยนช่องเดินรถไปทาง ขวา หมายความว่า ห้ามให้เปล่ียนช่องเดินรถ หรือ ชอ่ งจราจรไปทางขวา ป้ายหา้ มเลยี้ วขวาหรือกลับรถ หมายความว่า ห้ามมใิ ห้เล้ียวรถไปทางขวา หรือกลบั รถ ป้ายห้ามเลย้ี วซา้ ยหรอื กลบั รถ หมายความว่า ห้ามมิใหเ้ ลี้ยวรถไปทางซ้าย หรอื กลบั รถ ป้ายห้ามรถยนต์ หมายความว่า ห้ามรถยนต์ ทุกชนิดผา่ นเขา้ ไปในเขตทางท่ีตดิ ตง้ั ปา้ ย ป้ายห้ามรถบรรทุก หมายความว่า ห้าม รถบรรทกุ ทุกชนิดผ่านเขา้ ไปในเขตทางทตี่ ิดต้ัง ปา้ ย
106 ปา้ ยห้ามรถจกั รยานยนต์ หมายความว่า ห้าม รถจักรยานยนต์ผ่านเข้าไปในเขตทางที่ติดต้ัง ปา้ ย ป้ายห้ามรถพ่วง หมายความว่า ห้ามรถพ่วง หรือรถก่ึงพ่วงทุกชนิดผ่านเข้าไปในเขตทางท่ี ตดิ ต้งั ปา้ ย ป้ายห้ามรถยนต์สามล้อ หมายความว่า ห้าม รถยนต์สามล้อผ่านเข้าไปในเขตทางท่ีติดตั้ง ปา้ ย ป้ายห้ามรถสามล้อ หมายความว่า ห้าม รถสามลอ้ เขา้ ไปในเขตทางที่ติดตงั้ ปา้ ย ป้ายห้ามรถจักรยาน หมายความว่า ห้าม รถจกั รยานผา่ นเขา้ ไปในเขตทางทีต่ ัง้ ปา้ ย ป้ายห้ามล้อเลื่อนลากเข็น หมายความว่า หา้ มลอ้ เล่ือนลากเข็นผ่านไปในเขตทางที่ติดต้ัง ปา้ ย ป้ า ย ห้ า ม ร ถ ย น ต์ ท่ี ใ ช้ ใ น ก า ร เ ก ษ ต ร หมายความว่า ห้ามรถยนต์ที่ใช้ในการเกษตร ทุกชนดิ ผ่านเขา้ ไปในเขตทางท่ีติดตง้ั ป้าย
107 ป้ายห้ามรถแทรกเตอร์ หมายความว่า ห้าม รถแทรกเตอร์ผ่านเข้าไปในเขตทางที่ติดตั้ง ป้าย ป้ายห้ามเกวียน หมายความว่า ห้ามเกวียน ทกุ ชนดิ ผา่ นเขา้ ไปในเขตทางท่ตี ิดต้งั ปา้ ย ปา้ ยห้ามรถจักรยานยนต์ หมายความว่า ห้าม รถจักรยานยนต์ และรถยนต์ผ่านเข้าไปในเขต ทางที่ตดิ ตั้งปา้ ย ป้ายห้ามรถจักรยาน รถสามล้อ และ รถ จัก รย านยนต์ หมายความว่า ห้าม รถจักรยาน รถสามล้อ และรถจักรยานยนต์ ผ่านเข้าไปในเขตทางท่ตี ิดตง้ั ปา้ ย ป้ายห้ามรถจกั รยาน รถสามล้อ และลอ้ เลื่อน ลากเข็น หมายความว่า ห้ามรถจักรยาน รถสามล้อ และล้อเลื่อนลากเข็นทุกชนิด ผ่าน เข้าไปในเขตทางท่ตี ดิ ตัง้ ปา้ ย ป้ายห้ามรถจักรยานยนต์และรถยนต์สามล้อ หมายความว่า ห้ามรถจักรยานยนต์และ รถยนตส์ ามล้อทกุ ชนดิ ผ่านเข้าไปในเขตทางท่ี ตดิ ตงั้ ป้าย
108 ป้ายห้ามใช้เสียง หมายความว่า ห้ามให้ใช้ เสียงสัญญาณ หรือทาให้เกิดเสียง ท่ีก่อการ รบกวนด้วยประการใด ๆ ในเขตทีต่ ิดตง้ั ปา้ ย ป้ายห้ามคนผ่าน หมายความว่า ห้ามคนเดิน เท้าผา่ นเข้าไปในเขตทางที่ติดตง้ั ป้าย ป้ายห้ามจอดรถ หมายความว่า ห้ามให้จอด รถทุกชนิดระหว่างแนวน้ัน เว้นแต่การหยุด รับส่งคนหรือสิ่งของชั่วขณะ ซ่ึงต้องกระทา โดยมชิ ักชา้ ป้ายห้ามหยุดรถ หมายความว่า ห้ามให้หยุด หรือจอดรถทกุ ชนิดตรงแนวนน้ั เป็นอนั ขาด ปา้ ยหยุดตรวจหมายความวา่ ให้ผู้ขับรถหยุด รถที่ป้ายน้ี เพ่ือให้เจ้าหน้าที่ตรวจ และเคลื่อน รถต่อไปได้ เมื่อได้รับอนุญาตจากเจ้าหน้าที่ ผ้ตู รวจแล้วนนั้ ป้ายจากัดความเร็ว หมายความว่า ห้ามมิให้ ผู้ขับรถทุกชนิดใช้ความเร็วเกินกว่าที่กาหนด เป็นกิโลเมตรต่อช่ัวโมง ตามจานวนตัวเลขใน แผ่นป้ายน้ันๆ ในเขตทางที่ติดตั้งป้ายจนกว่า จะพ้นทีส่ ุดระยะทีจ่ ากดั ความเรว็ น้ัน
109 ปา้ ยห้ามรถหนกั เกนิ กาหนด หมายความว่า ห้ามมิให้รถทุกชนิดท่ีมีน้าหนักเกินกว่าท่ี กาหนด หรือเมื่อรวมน้าหนักรถกับน้าหนัก บรรทุกเกินกว่าท่ีกาหนดไว้เป็น “ตัน” ตาม จานวนตัวเลขในป้ายนั้นๆ เข้าไปในเขตทางท่ี ตดิ ตั้งป้าย ป้ายห้ามรถกว้างเกนิ กาหนด หมายความว่า ห้ามให้รถทุกชนิดท่ีมีความกว้างเกินกาหนด เป็น “เมตร” ตามจานวนตัวเลขในป้ายน้ันๆ เข้าไปในเขตทางที่ตดิ ตั้งปา้ ย ป้ายห้ามรถสูงเกินกาหนด หมายความว่า ห้ามมิให้รถทุกชนิดที่มีความสูงรวมทั้งของที่ บรรทุกเกินกว่ากาหนดเป็น “เมตร” ตาม จานวนตัวเลขในป้าย เข้าไปในเขตทางท่ีติดต้ัง ป้าย ป้ายห้ามรถยาวเกินกาหนด หมายความว่า ห้ามมิให้รถทุกชนิดท่ีมีความยาวเกินกาหนด เป็น “เมตร” ตามจานวนตัวเลขในป้ายน้ันๆ เขา้ ไปในเขตทางทตี่ ิดตั้งปา้ ย ป้ า ย ใ ห้ ร ถ เ ดิ น ท า ง เ ดี ย ว ไ ป ข้ า ง ห น้ า หมายความว่า ให้ขับรถตรงไปตามทิศทางที่ ปา้ ยกาหนด
110 ป้าย ทางเดินรถ ทางเดีย วไ ปท าง ซ้า ย หมายความว่า ให้ขับรถไปทางซ้ายแต่ทาง เดียว ป้ายท างเดิ นรถ ทางเดี ยว ไ ปท างขว า หมายความวา่ ให้ขบั รถไปทางขวาแตท่ างเดยี ว ป้ายให้ชิดซา้ ย หมายความวา่ ให้ขับรถผ่านไป ทางดา้ นซา้ ยของปา้ ย ปา้ ยให้ชดิ ขวา หมายความวา่ ให้ขับรถผ่านไป ทางด้านขวาของปา้ ย ป้ า ย ใ ห้ ร ถ ไ ป ท า ง ซ้ า ย ห รื อ ท า ง ข ว า หมายความว่า ให้ขับรถผ่านไปทางด้านซ้าย หรือทางดา้ นขวาของป้าย ป้ายให้เล้ียวซ้าย หมายความว่า ให้ขับรถ เล้ยี วไปทางซา้ ยแต่ทางเดยี ว ป้ายให้เล้ียวขวา หมายความว่า ให้ขับรถ เลยี้ วไปทางขวาแต่ทางเดยี ว
111 ป้ายให้เลี้ยวซ้ายหรือเลี้ยวขวา หมายความ ว่า ให้ขบั รถเลยี้ วไปทางซ้าย หรือไปทางขวา ป้ายให้ตรงไปหรือเลี้ยวซ้าย หมายความว่า ใหข้ บั รถตรงไป หรอื เล้ยี วไปทางซ้าย ป้ายให้ตรงไปหรือเลี้ยวขวา หมายความว่า ใหข้ ับรถตรงไป หรือเลีย้ วไปทางขวา ป้ายวงเวยี น หมายความว่า ให้รถทุกชนิดเดิน วนทางซ้ายของวงเวียน และรถที่จะเร่ิมเข้าสู่ ทางร่วมบริเวณวงเงินต้องหยุดให้สิทธิแก่รถท่ี แล่นอยู่ในทางรอบวงเวียนผ่านไปก่อน ห้าม ขับรถแทรกหรือตัดหน้ารถท่อี ยู่ในเขตทางรอบ บรเิ วณวงเวียน ป้ายช่องเดินรถประจาทาง หมายความว่า ช่องเดนิ รถท่ีติดต้ังป้ายเป็นบริเวณที่กาหนดให้ เป็นช่องเดินรถประจาทาง ป้ายช่องเดินรถมวลชน หมายความว่า ช่อง เดนิ รถที่ติดต้ังป้ายเป็นบริเวณที่กาหนดให้เป็น ชอ่ งเดนิ รถมวลชน ท่ีมคี นน่ังไมน่ ้อยกว่าตัวเลข ทีป่ รากฏในป้าย
112 ป้ายช่องเดนิ รถจกั รยานยนต์ หมายความว่า ช่องเดนิ รถท่ีติดต้ังป้ายเป็นบริเวณท่ีกาหนดให้ เป็นช่องเดินรถจักรยานยนต์ ป้ายช่องเดินรถจักรยาน หมายความว่า ช่อง เดินรถที่ติดตั้งป้าย เป็นบริเวณท่ีกาหนดให้ เป็นช่องเดินรถจกั รยาน ป้ายเฉพาะคนเดิน หมายความว่า บริเวณท่ี ติดต้ังป้ายเป็นบริเวณท่ีกาหนดให้เฉพาะคน เดินเท่าน้ัน ป้ายให้ใช้ความเร็ว หมายความว่า ให้ผู้ขับรถ ทุกชนิดใช้ความเร็วไม่ต่ากว่าท่ีกาหนดเป็น กิโลเมตรต่อชั่วโมง ตามจานวนตัวเลขในแผ่น ปา้ ยนน้ั ป้ายสดุ เขตบังคับ หมายความว่า พ้นสุดระยะ ท่ีบังคับตามความหมายของป้ายบังคับที่ติดต้ัง ไว้กอ่ น ***************
113 ป้ายจราจรประเภทเตือน ป้ายเตือน ได้แก่ ป้ายจราจรท่ีมีความหมายเป็นการ เตือนผู้ใช้ทางให้ทราบล่วงหน้าถึงสภาพทางหรือข้อมูลอย่างอื่น ที่เกิดขึ้นในทางหรือทางหลวงข้างหน้า อันอาจก่อให้เกิด อนั ตราย หรืออุบัติเหตุขึ้นได้ เพื่อให้ผู้ใช้ทางใช้ความระมัดระวัง ในการใช้ทางซึ่งจะช่วยป้องกันการเกิดอันตรายหรืออุบัติเหตุ ดังกลา่ วได้ ป้ายเตือนแบ่งเป็น ๓ ประเภท ดังน้ี (๑) ปา้ ยเตอื นตามรูปแบบและลกั ษณะทก่ี าหนด (๒) ป้ายเตือนท่ีแสดงด้วยข้อความ หรือสัญลักษณ์ หรือ ทั้งสองอย่างรวมกัน (๓) ปา้ ยเตือนในงานก่อสร้างต่าง ๆ ป้ายทางโค้งซ้าย หมายความว่า ทางข้างหน้า โค้งไปทางซ้าย ให้ขับรถให้ช้าลงพอสมควร และเดินรถชดิ ดา้ นซ้ายด้วยความระมัดระวัง ป้ายทางโค้งขวา หมายความว่า ทางข้างหน้า โค้งไปทางขวา ให้ขับรถให้ช้าลงพอสมควร และเดนิ รถชดิ ดา้ นซา้ ยด้วยความระมัดระวัง
114 ป้ายทางโคง้ รศั มีแคบเลย้ี วซา้ ย หมายความว่า ทางข้างหน้าเป็นทางโค้งรัศมีแคบไปทางซ้าย ให้ขับรถให้ช้าลงพอสมควรและเดินรถชิด ด้านซา้ ยดว้ ยความระมดั ระวัง ปา้ ยทางโค้งรัศมแี คบเล้ยี วขวา หมายความว่า ทางข้างหน้าเป็นทางโค้งรัศมีแคบไปทางขวา ให้ขับรถให้ช้าลงพอสมควรและเดินรถชิด ด้านซา้ ยด้วยความระมดั ระวัง ป้ายทางโค้งกลับเร่ิมซ้าย หมายความว่า ทาง ขา้ งหนา้ เปน็ ทางโค้งไปทางซ้ายแล้วกลับ ให้ขับ รถให้ช้าลงพอสมควรและเดินรถชิดด้านซ้าย ดว้ ยความระมัดระวัง ป้ายทางโค้งกลับเร่ิมขวา หมายความว่า ทาง ขา้ งหน้าเป็นทางโค้งไปทางขวาแล้วกลับ ให้ขับ รถให้ช้าลงพอสมควรและเดินรถชิดด้านซ้าย ด้วยความระมดั ระวัง ป้ า ย ท า ง โ ค้ ง ก ลั บ รั ศ มี แ ค บ เ ริ่ ม ซ้ า ย หมายความว่า ทางข้างหน้าเป็นทางโค้งรัศมี แคบไปทางซ้ายแล้วกลับ ให้ขับรถให้ช้าลง พอสมควร และเดินรถชิดด้านซ้ายด้วยความ ระมดั ระวงั
115 ป้ า ย ท า ง โ ค้ ง ก ลั บ รั ศ มี แ ค บ เ ริ่ ม ข ว า หมายความว่า ทางข้างหน้าเป็นทางโค้งรัศมี แคบไปทางขวาแล้วกลับ ให้ขับรถให้ช้าลง พอสมควร และเดินรถชิดด้านซ้ายด้วยความ ระมัดระวงั ป้ายทางคดเคี้ยวเริ่มซ้าย หมายความว่า ทาง ข้างหนา้ เป็นทางคดเคย้ี ว โดยเรม่ิ คดไปทางซ้าย ให้ขับรถให้ช้าลงพอสมควรและเดินรถชิด ดา้ นซ้ายดว้ ยความระมดั ระวงั ป้ายทางคดเค้ียวเร่ิมขวา หมายความว่า ทาง ขา้ งหนา้ เปน็ ทางคดเคี้ยว โดยเร่ิมคดไปทางขวา ให้ขับรถให้ช้าลงพอสมควรและเดินรถชิด ด้านซา้ ยด้วยความระมัดระวัง ป้ายทางเอกตัดกัน หมายความว่า ทาง ข้างหน้าเป็นทางแยกตามลักษณะสัญลักษณ์ ซึ่งอาจแสดงลักษณะสัญลักษณ์ทางเอกใหญ่ กว่าทางโท ให้ขับรถให้ช้าลงและเดินรถด้วย ความระมัดระวัง ป้ายทางเอกตัดกันรูปตัววาย หมายความว่า ทางข้างหน้าเป็นทางแยกรูปตัววาย ให้ขับรถ ด้วยความระมัดระวัง
116 ป้ายทางโทแยกทางเอกทางซ้าย หมายความ ว่า ทางข้างหน้ามีทางโทแยกไปทางซ้าย ให้ขับ รถดว้ ยความระมดั ระวงั ป้ายทางโทแยกทางเอกทางขวา หมายความ ว่า ทางข้างหน้ามีทางโทแยกไปทางขวา ให้ขับ รถดว้ ยความระมดั ระวัง ป้ า ย ท า ง โ ท แ ย ก ท า ง เ อ ก เ ย้ื อ ง กั น เ ร่ิ ม ซ้ า ย หมายความว่า ทางข้างหน้ามีทางโทแยกไป ทางซ้าย และหลังจากน้ันมีทางโทแยกไป ทางขวา ใหข้ ับรถดว้ ยความระมัดระวัง ป้ า ย ท า ง โ ท แ ย ก ท า ง เ อ ก เ ยื้ อ ง กั น เ ริ่ ม ข ว า หมายความว่า ทางข้างหน้ามีทางโทแยกไป ทางขวา และหลังจากน้ันมีทางโทแยกไป ทางซา้ ย ให้ขับรถด้วยความระมัดระวงั ป้ายทางโทเช่ือมทางเอกจากซ้าย หมายความ ว่า ทางข้างหน้ามีทางโทเข้ามาเช่ือมด้านซ้าย ให้ขับรถดว้ ยความระมัดระวัง ป้ายทางโทเช่ือมทางเอกจากขวา หมายความ ว่า ทางข้างหน้ามีทางโทเข้ามาเช่ือมด้านขวา ใหข้ บั รถดว้ ยความระมัดระวงั
117 ป้ า ย ท า ง โ ท แ ย ก ท า ง เ อ ก ท า ง ซ้ า ย รู ป ตั ว ว า ย หมายความว่า ทางข้างหน้ามีทางโทแยกจากทาง เอกไปทางซ้ายเป็นรูปตัววาย ให้ขับรถด้วยความ ระมดั ระวัง ป้ า ย ท า ง โ ท แ ย ก ท า ง เ อ ก ท า ง ข ว า รู ป ตั ว ว า ย หมายความว่า ทางข้างหน้ามีทางโทแยกจาก ทางขวาไปทางซ้ายเป็นรูปตัววาย ให้ขับรถด้วย ความระมดั ระวงั ป้ายวงเวียนข้างหน้า ห ม า ย ค ว า ม ว่ า ท า ง ข้างหน้าจะเป็นทางแยกมีวงเวียน ให้ขับรถให้ช้า ลง และขับรถเข้าสวู่ งเวียนดว้ ยความระมดั ระวงั ป้ายทางแคบลงท้ังสองด้าน หมายความว่า ทาง ขา้ งหนา้ แคบลงกว่าทางท่ีกาลังผ่านท้ังสองด้าน ผู้ ขั บ ร ถ จ ะ ต้ อ ง ขั บ ร ถ ใ ห้ ช้ า ล ง แ ล ะ เ พ่ิ ม ค ว า ม ระมัดระวังย่ิงขึ้น ขณะท่ีรถผ่านทางแคบผู้ขับรถ จะต้องระมัดระวังมใิ หร้ ถชนหรือเสียดสกี นั ปา้ ยทางแคบด้านซา้ ย ห ม า ย ค ว า ม ว่ า ท า ง ข้างหนา้ ด้านซ้ายแคบลงกวา่ ทางที่กาลังผ่าน ผู้ขับ รถจะตอ้ งขับรถให้ชา้ ลง และเพ่มิ ความระมัดระวัง ยงิ่ ข้ึน
118 ป้ายทางแคบดา้ นขวา ห ม า ย ค ว า ม ว่ า ท า ง ขา้ งหน้าดา้ นขวาแคบลงกว่าทางท่ีกาลังผ่าน ผู้ขับ รถจะตอ้ งขับรถให้ช้าลง และเพ่ิมความระมัดระวัง ย่งิ ขนึ้ ป้ายสะพานแคบ หมายความว่า ทางข้างหน้ามี สะพานแคบรถเดินหลีกกันไม่ได้ ให้ขับรถใช้ช้าลง และระมัดระวังอันตรายจากรถที่สวนมาจากอีก ฟากหนึ่งของสะพาน ถ้ามีป้ายอื่นติดตั้งอยู่ก็ให้ ปฏิบตั ติ ามปา้ ยนน้ั ๆ ด้วย ป้ายช่องจราจรปิดด้านซ้าย หมายความว่า ช่องทางจราจรข้างหน้าจะปิดงดการสัญจรในทาง ด้านซ้าย ให้ผู้ขับรถเปลี่ยนใช้ช่องทางที่เหลืออยู่ ดว้ ยความระมดั ระวัง ป้ายช่องจราจรปิดด้านขวา หมายความว่า ช่องทางจราจรข้างหน้าจะปิดงดการสัญจรในทาง ด้านขวา ให้ผู้ขับรถเปลี่ยนใช้ช่องทางที่เหลืออยู่ ด้วยความระมัดระวัง
119 ป้ า ย ท า ง ข้ า ม ท า ง ร ถ ไ ฟ ไ ม่ มี เ ค ร่ื อ ง ก้ั น ท า ง หมายความว่า ทางข้างหน้ามีทางรถไฟตัดผ่าน และไม่มีเครื่องกั้นทางให้ขับรถให้ช้าลงให้มาก และสังเกตดูรถไฟท้ังทางขวาและทางซ้าย ถ้ามี รถไฟกาลังจะผ่านมาให้หยุดรถให้ห่างจากรถไฟ อย่างน้อย 5 เมตร แล้วรอคอยจนกว่ารถไฟน้ัน ผา่ นพ้นไป และปลอดภัยแล้วจึงเคลอื่ นรถต่อไปได้ ห้ามให้ขับรถตัดหน้ารถไฟในระยะที่อาจเกิด อันตรายไดเ้ ปน็ อนั ขาด ป้ า ย ท าง ข้ า ม ท า ง ร ถ ไ ฟ มี เค รื่ อ ง ก้ั น ท า ง หมายความว่า ทางข้างหน้ามีทางรถไฟตัดผ่าน และมีร้ัว หรือมีเคร่ืองกีดขวางก้ันทาง ก่อนที่จะ ขับรถผ่านป้ายน้ันให้ขับรถให้ช้าลง และพร้อมที่ จะหยดุ รถได้ เมอ่ื มเี สยี งสญั ญาณของเจ้าหน้าท่ีดัง ขึ้น หรือเจ้าหน้าที่ได้ก้ันทาง หรือมีเคร่ืองกั้นทาง ปิดก้นั ถ้ามรี ถข้างหน้าหยุดรออยู่ก่อนก็ให้หยุดรอ ถัดต่อมาตามลาดับ เม่ือเปิดเครื่องก้ันทางแล้วให้ รถท่ีหยุดรอเคลอื่ นตามกนั ไปได้
120 ป้ายทางข้ามทางรถไฟติดทางแยก หมายความ ว่า ทางข้างหน้ามีทางข้ามทางรถไฟอยู่ติดทาง แยกตามลักษณะสัญลักษณ์ ควรขับรถด้วยความ ระมัดระวังก่อนข้ามทางรถไฟควรมองด้านซ้าย และด้านขวาตามแนวทางรถไฟ เม่ือเห็นว่า ปลอดภัยจึงขับรถต่อไป ในกรณีท่ีมีเคร่ืองกั้นทาง ควรปฏบิ ตั ติ ามสญั ญาณเครอื่ งกัน้ ทาง ป้ายทางแคบ หมายความว่า ทางข้างหน้าแคบลง ก ว่ า ท า ง ท่ี ก า ลั ง ผ่ า น มี ข น า ด ต า ม ตั ว เ ล ข เ ป็ น “เมตร” ที่แสดงไว้ที่ป้ายนั้น รถที่มีขนาดกว้างไม่ เกินจานวนตัวเลขที่บอกไว้ในป้ายให้ผ่านเข้าไปได้ แต่ใหข้ ับรถใหช้ ้าลง และเพิม่ ความระมัดระวังเป็น พิเศษ ถ้ามีป้ายอ่ืนติดต้ังไว้ก็ให้ปฏิบัติตามป้าย น้นั ๆ ด้วย ป้ายทางลอดต่า หมายความว่า ทางข้างหน้า จะต้องลอดช่องลอดต่า มีขนาดตามตัวเลขเป็น “เมตร” ที่แสดงไว้ป้ายนั้น รถที่มีความสูงรวมท้ัง สิ่งของท่ีบรรทุกสูงไม่เกินจานวนตัวเลขที่บอกไว้ ในป้ายให้ผ่านเข้าไปได้ แต่ให้ขับรถให้ช้าลง และ เพิ่มความระมัดระวังเป็นพิเศษ ถ้ามีป้ายอื่นติดตั้ง ไวก้ ็ใหป้ ฏบิ ัติตามปา้ ยนน้ั ๆ ดว้ ย
121 ปา้ ยทางข้ึนลงลาดชนั ห ม า ย ค ว า ม ว่ า ท า ง ข้างหน้าเป็นทางลาดชันข้ึนเขา หรือข้ึนเนินสัน เขาหรือสันเนินมีความลาดชันตามตัวเลขเป็น “ร้อยละ” ตามท่ีปรากฏในป้าย อาจกาบังสายตา ไม่ให้มองเห็นรถท่ีสวนมาให้ขับรถให้ช้าลง และ เดินรถให้ใกล้ขอบทางด้านซ้ายให้มากกับให้ ระมดั ระวงั อันตรายจากรถท่สี วนทางมา ป้ายทางขนึ้ ลงลาดชนั ห ม า ย ค ว า ม ว่ า ท า ง ข้างหน้าเป็นทางลาดชันลงเขา หรือลงเนิน มี ความลาดชันตามตัวเลขเป็น “ร้อยละ” ตามท่ี ปรากฏในปา้ ย ใหข้ บั รถช้าลง และเดนิ รถใกล้ขอบ ทางด้านซ้ายให้มาก และผู้ขับรถไม่ควรปลอด เกียร์ หรือดับเครื่องยนต์เป็นอันขาด ในกรณีที่ เป็นทางลงเขาหรือเป็นที่ชันมากให้ใช้เกียร์ต่า เพอื่ ความปลอดภยั ป้ายเตือนรถกระโดด หมายความว่า ทาง ขา้ งหนา้ เปล่ียนระดับอย่างกะทันหัน เช่น บริเวณ คอสะพาน ทางข้ามท่อระบายน้า และคันชะลอ ความเร็วเป็นต้น ผู้ขับรถจะต้องขับรถให้ช้าลง และเดินรถด้วยความระมดั ระวัง
122 ป้ายผิวทางขรุขระ หมายความว่า ทางข้างหน้า ขรุขระมากมีหลุม มีบ่อ หรือเป็นสันติดต่อกัน ให้ ขับรถให้ช้าลง และเพิ่มความระมัดระวังเป็น พิเศษ ป้ายทางเป็นแอ่ง หมายความว่า ทางข้างหน้า เปล่ียนระดับลงกะทันหัน หรือแอ่ง ผู้ขับรถ จะต้องขับรถใหช้ ้าลง และเพม่ิ ความระมัดระวงั ป้ายทางล่ืน หมายความว่า ทางข้างหน้าลื่นเมื่อ ผิวทางเปียกอาจเกิดอุบัติเหตุได้ง่าย ให้ขับรถให้ ช้าลงให้มาก และระมัดระวังการล่ืนไถล อย่าให้ ห้ามล้อโดยแรงและทันที การหยุดรถ การเบารถ หรือเลี้ยวรถในทางลื่นต้องกระทาด้วยความ ระมดั ระวังเป็นพเิ ศษ ป้ายผิวทางร่วน หมายความว่า ทางข้างหน้ามี วัสดุผิวทางหลุดกระเด็น เม่ือขับรถด้วยความเร็ว สูง ให้ขับรถให้ช้าลง และระมัดระวังอันตรายอัน เกิดจากวัสดุผิวทาง ป้ายระวังหินร่วง หมายความว่า ทางข้างหน้า อาจจะมีหินร่วงลงมาในผิวทาง ทาให้กีดขวาง การจราจร ให้ขับรถให้ช้าลง และระมัดระวัง อันตรายเป็นพิเศษ
123 ป้ายสะพานเปิดได้ หมายความว่า ทางข้างหน้า จะต้องผ่านสะพานท่ีเปิดให้เรือลอด ให้ขับรถให้ ช้าลง และระมัดระวังในการหยุดรถ เม่ือ เจา้ หนา้ ท่จี ะปดิ ก้ันทางเพ่ือเปิดสะพานให้เรือผ่าน เพ่ือมิให้เกิดอันตรายต่อรถข้างหน้า และรถข้าง หลงั ป้ายให้เปลี่ยนช่องทางจราจร หมายความว่า ให้ เปลี่ยนช่องทางจราจร หรือเปลี่ยนทางเดินรถ ตามสัญลักษณ์ในป้าย ให้ขับรถให้ช้าลง และ ระมดั ระวังอนั ตรายเป็นพิเศษ ป้ายออกทางขนาน หมายความว่า ทางหลัก ข้างหน้า จะมีช่องเปิดออกทางขนาน ผู้ขับรถบน ทางหลักท่ีจะออกทางขนานให้เตรียมตัวเพ่ืออก ทางขนาน และสาหรับผู้ขับรถบนทางขนานให้ ระมัดระวังรถท่ีจะมาร่วมในทิศทางเดยี วกันดว้ ย ป้ายเข้าทางหลัก หมายความว่า ทางขนาน ข้างหน้าจะมีช่องเปิดเข้าทางหลัก ผู้ขับรถบนทาง ขนานท่ีจะเข้าทางหลักให้เตรียมตัวเพ่ือเข้าทาง หลัก แ ล ะ สา หรับ ผู้ขั บ รถ บ นทา งหลั ก ใ ห้ ระมดั ระวังรถทจ่ี ะมารว่ มในทศิ ทางเดียวกนั ดว้ ย
124 ป้ายทางร่วม หมายความว่า ทางข้างหน้าจะมีรถ เข้ามาร่วมในทิศทางเดียวกัน จากทางซ้ายหรือ ทางขวา ตามลักษณะสัญลักษณ์ในป้าย ผู้ขับรถ จะต้องขับรถให้ช้าลง และเดินรถด้วยความ ระมัดระวงั ป้ายทางคู่ข้างหน้า หมายความว่า ทางข้างหน้า จะเป็นทางคู่มีเกาะ หรือสิ่งอ่ืนใด แบ่งการจราจร ออกเป็นสองทางไปทางหนงึ่ มาทางหน่งึ ให้ขับรถ ชดิ ไปทางด้านซ้ายด้วยความระมดั ระวงั ป้ายสิ้นสดุ ทางคู่ หมายความว่า ทางข้างหน้าเป็น ทางร่วมท่ีไม่มีเกาะ หรือสิ่งอื่นใดแบ่งการจราจร ให้ขับรถให้ช้าลง และชิดด้านซ้ายของทางและ เพ่ิมความระมดั ระวังยิ่งข้ึน ป้ายจุดกลับรถ หมายความว่า ทางข้างหน้าจะมี ท่ีกลับรถ
125 ป้ายทางเดินรถสองทาง หมายความว่า ทาง ข้างหน้าเป็นทางเดินรถสองทาง ผู้ขับรถจะต้อง ขับรถให้ช้าลง และเดินรถใกล้ขอบทางด้านซ้าย กับใหร้ ะมดั ระวงั อนั ตรายจากรถทส่ี วนทางมา ป้ายสัญญาณจราจร หมายความว่า ทางข้างหน้า มีสัญญาณไฟจราจร ให้ขับรถให้ช้าลง และพร้อม ทจี่ ะปฏิบตั ติ ามสญั ญาณไฟจราจร ป้ายหยุดข้างหน้า หมายความว่า ทางข้างหน้ามี ป้ายหยุดติดตั้งอยู่ ให้ผู้ขับรถเตรียมพร้อมที่จะ หยุดรถไดท้ นั ที เมอ่ื ขับรถถึงปา้ ยหยุด ป้ายให้ทางข้างหน้า หมายความว่า ทางข้างหน้า มีป้ายให้ทางติดตั้งอยู่ให้ผู้ขับรถเตรียมความ พรอ้ มท่จี ะให้ทางทนั ทเี มอ่ื ขับรถถึงป้ายให้ทาง ปา้ ยระวงั คนข้ามถนน ห ม า ย ค ว า ม ว่ า ท า ง ข้างหน้ามีทางสาหรับคนข้ามถนน หรือมีหมู่บ้าน ราษฎรอยู่ข้างทาง ซ่ึงมีคนเดินข้ามไปมาอยู่เสมอ ให้ขับรถให้ช้าลงพอสมควร และระมัดระวังคน ขา้ มถนน ถ้ามีคนกาลังเดินข้ามถนนให้หยุดให้คน เดินข้ามถนนไปไดโ้ ดยปลอดภัย
126 ปา้ ยโรงเรยี นระวงั เดก็ หมายความว่า ทาง ข้างหน้ามโี รงเรียนต้ังอยู่ข้างทาง ให้ขับรถให้ช้า ลงและระมดั ระวังอบุ ตั เิ หตุ ซึง่ อาจจะเกิดข้ึนแก่ เด็กนักเรียน ถ้าเด็กนักเรียนกาลังเดินข้ามถนน ให้หยุดรถให้เด็กนักเรียนข้ามถนนไปได้โดย ปลอดภัย ถ้าเป็นเวลาที่โรงเรียนกาลังสอน ให้ งดใช้เสียงสัญญาณและห้ามให้เกิดเสียงรบกวน ดว้ ยประการใด ๆ ป้ายระวังสตั ว์ หมายความว่า ทางขา้ งหน้าอาจ มีสั ต ว์ ข้ าม ท าง ให้ ขั บร ถ ให้ ช้ าล ง แ ล ะ ระมัดระวังอันตรายเป็นพเิ ศษ ป้ายระวังเคร่ืองบินบินต่า หมายความว่า ทาง ข้างหน้าเข้าใกล้สนามบินและอาจมีเคร่ืองบิน บินลงในระดับต่า ให้ขับรถให้ช้าลง หากเห็น เคร่ืองบินกาลังขึ้นหรือลงผ่านทางข้างหน้า ให้ หยุดรถให้เครอื่ งบินผา่ นไปได้โดยปลอดภัย ป้ายระวงั อันตราย หมายความว่า ทางข้างหน้า มีอันตราย เช่น เกิดอุบัติเหตุ ทางทรุด เป็นต้น ให้ขับรถให้ช้าลงให้มาก และระมัดระวัง อนั ตรายเป็นพเิ ศษ
127 ป้ายเขตห้ามแซง (ใช้ติดต้ังด้านขวาของทาง) หมายความว่า ทางช่วงนั้นมีระยะมองเห็น จากัด ผู้ขับรถไม่สามารถมองเห็นรถที่สวนมา ในระยะทจ่ี ะแซงรถอื่นๆ ได้ ป้ายเตือนแนวทางต่าง ๆ หมายความว่า ทาง ตอนนั้นมีการเปลี่ยนแปลงแนวทางตามทิศทาง ท่ีช้ีไป ผู้ขับรถจะต้องขับรถให้ช้าลงและเดินรถ ดว้ ยความระมัดระวงั ป้ายเตือนแนวทางต่าง ๆ หมายความว่า ทาง ตอนนั้นมีการเปลี่ยนแปลงแนวทางตามทิศทาง ที่ชี้ไป ผู้ขับรถจะต้องขับรถให้ช้าลงและเดินรถ ดว้ ยความระมัดระวงั
128 ป้ายสลับกันไป หมายความว่า ทางข้างหน้า จานวนชอ่ งจราจรลดลงผู้ขับรถจะต้องขับรถให้ ช้าลง และให้ขับรถสลับกันไปด้านละคันอย่าง ระมดั ระวัง ***************
129 เคร่ืองหมายจราจรบนพน้ื ทาง เครื่องหมายจราจรบนพ้ืนทาง ได้แก่ เครื่องหมาย จราจรที่ทาให้ปรากฏอยู่บนพื้นทาง ทางจราจร ไหล่ทาง ทาง เท้า ขอบทาง ขอบวงเวยี น หรอื ขอบคันหิน โดยการใช้กระเบื้อง หมุดโลหะ วัสดุสะท้อนแสง สี หรือวัสดุอ่ืนใด ปู ตอก ฝัง พ่น ทา รีดทับ หรือทาโดยวิธีอ่ืนใดเพ่ือให้ปรากฏซ่ึงเคร่ืองหมาย จราจร เครอื่ งหมายจราจรบนพ้ืนทางแบ่งเป็น ๒ ประเภท ดังน้ี (๑) เครื่องหมายจราจรบนพ้ืนทางประเภทบังคับ ได้แก่ เคร่ืองหมายจราจรท่ีมีความหมายเป็นการบังคับให้ผู้ใช้ทาง ปฏิบัติตามความหมายของเคร่ืองหมายนั้นโดยกาหนดให้ผู้ใช้ ทางต้องกระทา งดเว้นการกระทา หรือจากัดการกระทาในบาง ประการหรือบางลักษณะ (๒) เคร่ืองหมายจราจรบนพ้ืนทางประเภทเตือน ได้แก่ เครอื่ งหมายจราจรท่มี ีความหมายเปน็ การเตอื นผใู้ ช้ทางให้ทราบ ล่วงหน้าถึงสภาพทางหรือข้อมูลอย่างอื่นท่ีเกิดขึ้นในทางหรือ ทางหลวงข้างหนา้ อันอาจก่อให้เกิดอันตรายหรืออุบัติเหตุขึ้นได้ เพ่ือให้ผู้ใช้ทางใช้ความระมัดระวังในการใช้ทาง ซึ่งจะช่วย ป้องกนั การเกดิ อันตรายหรืออุบตั ิเหตดุ ังกลา่ วได้
130 เครื่องหมายจราจรบนพ้นื ทางประเภทบังคับ เส้นแบ่งทิศทางจราจรปกติ มี ลั ก ษ ณ ะ เ ป็ น เ ส้ น ป ร ะ สี เหลืองหมายความว่า เป็น เ ส้ น แ ส ด ง ก า ร แ บ่ ง แ ย ก การจราจรของรถที่มีทิศทาง ตรงกนั ขา้ ม ผู้ขบั ขต่ี ้องขับรถ ทางดา้ นซ้ายของเส้น ยกเว้น ในกรณีที่ต้องการเล้ียวขวา หรอื แซงข้นึ หน้ารถคนั อ่ืน เส้นแบ่งทิศทางจราจรห้าม แซง มีลักษณะเป็นเส้นทึบสี เ ห ลื อ ง เ ดี่ ย ว ห รื อ คู่ หมายความว่า ผ้ขู บั ขี่ต้องขับ รถไปทางด้านซ้ายของเส้น ห้ามขับรถผ่าน หรือคร่อม เสน้ โดยเดด็ ขาด
131 เส้นแบ่งทิศทางจราจรห้าม แซงเฉพาะด้าน มีลักษณะ เ ป็ น เ ส้ น ทึ บ สี เ ห ลื อ ง คู่ กั บ เ ส้ น ป ร ะ สี เ ห ลื อ ง ห ม า ย ค ว า ม ว่ า ร ถ ที่ อ ยู่ ทางด้านเส้นทึบ ห้ามผ่าน ห รื อ ค ร่ อ ม เ ส้ น ทึ บ โ ด ย เ ด็ ด ข า ด ส่ ว น ร ถ ที่ อ ยู่ ทางด้านเส้นประ เม่ือเห็นว่า ปลอดภัยอาจแซงขึ้นหน้ารถ คันอื่น หรือข้ามเส้นดังกล่าว นด้ี ว้ ยความระมดั ระวัง เส้นแบ่งช่องเดินรถ หรือ เส้นแบ่งช่องจราจร มี ลักษณะเป็นเส้นประสีขาว แบ่งทางเดินรถ หรือทาง จราจรท่ีมีทิศทางเดียวกัน ให้เป็นช่องทางเดินรถ หรือ ช่องจราจร หมายความว่า ผู้ ขับข่ีต้องขับรถภายในช่อง ทางเดินรถ หรือช่องจราจร ห้ามขับรถคร่อมเส้น เว้นแต่ จะเปล่ียนช่องทางเดินรถ หรอื ช่องจราจร
132 เส้นห้ามเปลี่ยนช่องเดินรถ หรือ เส้นห้ามเปล่ียนช่อง จราจร มีลักษณะเป็นเส้น ทึบสีขาวแบ่งทางเดินรถหรือ ท า ง จ ร า จ ร ใ น ทิ ศ ท า ง เดียวกัน ให้เป็นช่องเดินรถ หรือช่องจราจร หมายความ ว่า ผู้ขับข่ีต้องขับรถภายใน ช่องเดินรถ หรือช่องจราจร ห้ามขับรถผ่าน หรือคร่อม เส้น เส้นแบ่งช่องเดินรถประจาทาง มีลักษณะเป็นเส้นประสีเหลือง กว้างและถ่ี กรณีสวนทางจราจร ปกติ และเส้นประสีขาว กว้าง และถี่ กรณีทิศทางเดียวกับทาง จราจรปกติท้ังน้ี โดยมีลูกศรสี เหลือง และอาจมีคาว่า “รถ ประจาทาง” หรือ “BUS” สี เหลืองประกอบด้วย หมายความ ว่า เป็นช่องทางเดินรถประจาทาง ห้ามขับรถประเภทอ่ืนเข้าไปใน ชอ่ งเดินรถประจาทาง
133 เคร่ืองหมายห้ามจอดรถ มี ลักษณะเป็นแถบสีเหลือง สลับขาว แสดงท่ีขอบคันหิน หรือขอบทางด้านซ้ายของ ทางเดินรถ หรือที่อื่น ๆ หมายความว่า ห้ามจอดรถ ทุกชนิดระหว่างแนวเขตที่ กาหนด เว้นแต่การหยุด รับส่งคน หรอื สิ่งของชัว่ ขณะ ซึง่ ต้องกระทาโดยมิชกั ชา้ เคร่ืองหมายห้ามหยุดรถ มี ลักษณะเป็นแถบสีแดงสลับ ขาว แสดงทีข่ อบคันหนิ หรือ ข อ บ ท า ง ด้ า น ซ้ า ย ข อ ง ทางเดินรถ หรือทางจราจร หรือที่อื่น ๆ หมายความว่า ห้ามหยุดรถ หรือจอดรถทุก ชนิ ด ร ะ หว่ าง แ นว เข ต ที่ กาหนดเป็นอนั ขาด
134 เสน้ แนวหยุด มีลักษณะเป็น เสน้ ทึบสีขาวกว้าง และขวาง แนวทางเดินรถ หมายความ ว่า เม่ือมีสัญญาณจราจร บังคับหยุด หรือป้ายหยุด ผู้ ขั บ ข่ี ต้ อ ง ห ยุ ด ร ถ ก่ อ น ถึ ง เส้นแนวหยุดและเมื่อได้รับ สัญญาณจราจรให้ไป หรือ เมื่อไม่เป็นเหตุให้กีดขวาง การจราจรแล้ว ให้ผ่าน เสน้ แนวหยุดไปได้ เส้นให้ทาง มีลักษณะเป็น เส้นประสีขาวกว้าง และ ข ว า ง แ น ว ท า ง เ ดิ น ร ถ หมายความวา่ ผู้ขับขี่ต้องขับ รถให้ช้าลง หากเห็นว่าจะไม่ ปลอดภัยต่อรถคันอ่ืนหรือ คนเดินเท้าในทางขวางหน้า ห รื อ เ ป็ น ก า ร กี ด ข ว า ง การจราจร ผู้ขับข่ีต้องหยุด รถก่อนถึงแนวเสน้ ใหท้ าง
135 เส้นทางข้าม มีลักษณะเป็น แ ถ บ สี ข า ว ก ว้ า ง แ ล ะ ย า ว หลาย ๆ แถบประกอบกัน ขวางทางเดินรถ หรือเป็น เส้นทึบสีขาวสองเส้นขนาน กั น ข ว า ง แ น ว ท า ง เ ดิ น ร ถ และมีเส้นแนวหยุดหรือเส้น ให้ทางประกอบ หมายความ ว่า ผู้ขับขี่ต้องขับรถให้ช้าลง และพร้อมที่จะหยุดรถได้ ทันท่วงที เมื่อมีคนเดินข้าม ทาง ณ ทางข้ามน้ัน ในเขต ท า ง ข้ า ม ท่ี ไ ม่ มี เ จ้ า ห น้ า ท่ี หรือสัญญาณจราจร ให้คนมี สิทธิข้ามทางไปก่อน ฉะน้ัน ในขณะท่ีคนกาลังเดินอยู่ ในทางข้าม ผู้ขับขี่ต้องหยุด รถก่อนถงึ เส้นแนวหยุด หรือ เส้นให้ทางและเม่ือคนเดิน ข้ามทางได้ข้ามไปแล้ว จึงจะ เคลอื่ นรถตอ่ ไปได้
136 เส้นทแยงห้ามหยุดรถ มี ลักษณะเป็นเส้นทึบสีเหลือง ลากทแยงตั ดกันภายใน ก ร อ บ เ ส้ น ทึ บ สี เ ห ลื อ ง หมายความว่า ห้ามหยุดรถ ทุกชนิดภายในกรอบเส้น ทแยงห้ามหยุดรถ ยกเว้นรถ ที่หยุดรอเพ่ือเล้ียวขวา ลูกศร มีลักษณะเป็นลูกศรสี ขาวหรือสีเหลือง แสดง ทิศทางการจราจรให้รถตรง ไป เล้ียวซา้ ย เล้ียวขวา เลี้ยว ก ลั บ ห รื อ ร่ ว ม กั น หมายความว่า เมื่อปรากฏ ในชอ่ งเดินรถหรอื ชอ่ งจราจร ใด ผู้ขับขี่ที่อยู่ในช่องเดินรถ หรือ ช่อ งจร าจ รนั้น ต้ อ ง ปฏิบัติตามเครอ่ื งหมายนั้น
137 ให้ทาง มีลักษณะเป็นรูป สามเหล่ียมมุมแหลมสีขาว โดยมุมแหลมช้ีสวนทิศทาง การจราจร แสดงหรือทาให้ ปรากฏบนพื้นทางประกอบ เส้นให้ทาง หมายความว่า ผู้ ขับข่ีต้องขับรถให้ช้าลง ถ้า เห็นว่าจะไม่ปลอดภัยต่อรถ คั น อื่ น ห รื อ ค น เ ดิ น เ ท้ า ในทางขวางหน้า หรือเป็น ก า ร กี ด ข ว า ง ก า ร จ ร า จ ร ผู้ขับข่ีต้องหยุดรถก่อนถึง เส้นให้ทาง เขตปลอดภัย หรือเกาะสี มี ลักษณะเป็นแถบหรือเส้น ทึบสีขาว หรือสีเหลือง ตี ท แ ย ง กั บ แ น ว ทิ ศ ท า ง การจราจร หรือเป็นลักษณะ ก้างปลา และล้อมรอบด้วย เส้นทึบสีขาว หรือสีเหลือง หมายความว่า ห้ามขับรถล้า เขา้ ไปในพ้นื ท่ีดังกล่าว
138 ช่องเดินรถมวลชน มี ลักษณะเปน็ รูปสี่เหล่ียมขนม เปียกปูนสีขาว มุมแหลม อยู่ ในทิศทางการจราจร ภายใน สี่เหล่ียมขนมเปียกปูนอาจมี ตัวเลขแสดงจานวนขั้นต่า ของคนบนรถมวลชน หมายความว่า ช่องเดินรถ ห รื อ ช่ อ ง จ ร า จ ร ท่ี มี เ ค ร่ื อ ง ห ม า ย ช่ อ ง เ ดิ น ร ถ มวลชนเป็นช่องเดินรถหรือ ช่องจราจรสาหรับรถตาม ชนิด หรือประเภทท่ีกาหนด หรือรถท่ีมีจานวนคนบนรถ ไมน่ ้อยกว่าท่ีกาหนด เส้นช่องจอดรถ มีลักษณะ เป็นเส้นทึบสีขาว แสดง ข อ บ เ ข ต ข อ ง ช่ อ ง จ อ ด ร ถ หมายความว่า ผู้ขับข่ีต้อง จอดรถภายในกรอบเส้นช่อง จอดรถ ห้ามจอดรถคร่อม เส้น หรอื ทาให้ส่วนใดของรถ ล้าออกไปนอกแนวที่กาหนด
139 ข้อความบังคับบนพื้นทาง มีลักษณะเป็นข้อความสีขาว บ น พื้ น ท า ง เ ช่ น ค า ว่ า “หยุด” “ลดความเร็ว” “ขับช้า ๆ” เป็นต้น หมายความว่า ผู้ขับขี่ต้อง ปฏิบัตติ ามข้อความนน้ั ๆ ***************
140 เครื่องหมายจราจรบนพ้นื ทางประเภทเตือน เส้นขอบทาง มีลักษณะเป็น เ ส้ น ทึ บ ห รื อ เ ส้ น ป ร ะ ห รื อ แถบสี สีขาว ยกเว้นเส้นขอบ ทางด้านติดกับเกาะกลาง ห รื อ ฉ น ว น แ บ่ ง ทิ ศ ท า ง ก ารจราจร เป็นสีเหลือ ง หมายความว่า เป็นแนวสุด ขอบทางเดินรถ เ ส้ น แ น ว ช่ อ ง จ ร า จ ร ผ่ า น ทางแยก มีลักษณะเป็น เส้นประหรือเส้นทึบสีขาว แสดงแนวช่องเดินรถหรือ ช่องจราจรบริเวณทางแยก หมายความว่า ควรขับรถไป ตามแนวช่องเดินรถหรือช่อง จราจรดังกล่าว เส้นชะลอความเร็ว มีลักษณะ เป็นเส้นหลาย ๆ เส้น ขวางช่อง เ ดิ น ร ถ ห รื อ ช่ อ ง จ ร า จ ร หมายความว่า ควรขับรถให้ช้าลง และเพมิ่ ความระมัดระวัง
141 เส้นทางรถไฟผ่าน ลักษณะ เป็นกากบาทสีขาว ลาก ทแยงตัดกัน พร้อมมีอักษร โรมัน RR ประกอบ หมายความว่า ทางข้างหน้ามี ทางรถไฟตัดผ่าน ควรขับรถ ให้ช้าลง แ ละ เพิ่มความ ระมดั ระวัง เคร่ืองหมายขาวดา มี ลักษณะเป็นแถบสีขาวสลับสี ดา แสดงหรือ ทาให้ปรากฏ ที่ขอบคันหินหรือสิ่งกีดขวาง อ่ืน ๆ เพ่ือให้ผู้ใช้ทางเห็น ขอบคันหินหรือสิ่งกีดขวาง นัน้ ๆ ไดช้ ดั เจนย่งิ ข้ึน
142 ข้อความเตือน หรือแนะนา บนพ้ืนทาง แสดงอักษร ข้อความ หรือสัญลักษณ์ให้ ปรากฏบนพ้ืนทาง หรือใน บางกรณอี าจใช้ภาษาอังกฤษ ท่ี เ ข้ า ใ จ ง่ า ย แ ล ะ เ ป็ น ค า ท่ี สากลนิยม เพื่อแนะนาหรือ เตือนการจราจร เช่น แสดง ช่ื อ ส ถ า น ที่ ต่ อ ท้ า ย ลู ก ศ ร เตือนให้ระมัดระวังสภาพ ท า ง ห รื อ ก า ร จ ร า จ ร หมายความว่า ผู้ใช้ทางควร ปฏิบัติตาม และระมัดระวัง การใช้ทาง ใช้ช่องเดินรถ หรือช่องจราจรให้ถูกต้อง เป็นตน้ ***************
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148