คมู่ ือการขับข่ีรถจกั รยานยนต์อยา่ งปลอดภยั การทงิ้ ระยะห่างรถคันหนา้ ต้องทิ้งระยะห่างจากรถคันหน้าให้เหมาะสมกับความเร็วที่ใช้ เราสามารถ พิจารณาอย่างง่าย ๆ ได้โดยขับรถของเราด้วยความเร็วที่คงที่เท่ากับรถคันหน้า เมื่อ คันหน้าผ่านจุดใดจุดหนึ่ง เช่น หลักกิโลเมตรริมถนน รถของเราจะต้องผ่านจุด เดียวกนั น้ันในเวลาไมต่ ำ่ กว่า 2 วินาที (โดยนบั หนึ่งพนั หนึง่ เมือ่ รถคนั หน้าผา่ นจดุ น้ัน และเมือ่ เรานบั หนึง่ พันสอง รถเราผ่านจุดน้ันพอดี) หากต่ำกว่าน้ันแสดงว่าเราทิ้งระยะ ห่างจากรถคันหน้าน้อยเกินไป จะทำให้เบรกไม่ทัน เมื่อรถคนั หน้าหยุดรถทันทีทันใด การใช้ความเรว็ ตามกฎหมายจราจร รถยนต์น่ังในเขต กทม. เขตเมือง เขตเทศบาล ความเรว็ ไม่เกิน 80 กิโลเมตร/ ช่ัวโมง รถกระบะน้ำหนักรถรวมบรรทุกเกิน 1,200 กิโลกรัม ในเขต กทม. เขตเมือง เขตเทศบาล ความเร็วไม่เกิน 60 กิโลเมตร/ช่ัวโมง นอกเขตไม่เกิน 80 กิโลเมตร/ ชัว่ โมง หากมีป้ายกำหนดความเร็วอยู่ข้างทาง ให้ปฏิบัติตามป้ายกำหนด การแซง 1. เปน็ กฎตายตวั วา่ จะต้องแซงขึ้นทางขวาเสมอ 2. เมื่อแซงผ่านขึ้นมาแล้วให้ขับเป็นแนวตรงทิ้งระยะห่างจากคันที่ถูกแซง พอสมควร เพื่อให้รถที่ถูกแซงมีเวลาต้ังตวั 3. อย่ากลับเข้าเลนซ้ายในลกั ษณะเลี้ยวตดั หน้ารถทีถ่ ูกแซงอยา่ งกระช้ันชิด 4. รกั ษาอารมณ์อยา่ ให้ฉนุ เฉียวกับผู้ขบั รถคันอืน่ ที่อยู่รอบข้าง 5. อย่าเร่งเครื่องแข่งกับรถคันที่กำลังแซงอยู่ ปล่อยให้รถที่แซงผ่านไป โดยสะดวกและปลอดภัย 6. ถ้าท่านถูกรถอื่นแซง จงขับรถให้ช้าลงหรือเปิดโอกาสให้เขาแซง โดยสะดวก 47
คู่มือการขบั ข่ีรถจกั รยานยนตอ์ ยา่ งปลอดภยั 7. เมื่อได้รับสัญญาณแซงขึ้นหน้าจากรถคันหลัง ผู้ขับขี่รถที่มีความเร็วช้า หรือใช้ความเร็วต่ำกว่ารถคันอื่นที่ขับไปในทิศทางเดียวกัน ต้องยอมให้รถคันที่ใช้ ความเรว็ สงู กว่าผ่านขึ้นหน้า และผู้ขับขีร่ ถทีถ่ กู ขอทางต้องปฏิบตั ิดังนี้ - ให้สัญญาณเลี้ยวซ้ายตอบ (เปิดไฟเลี้ยวที่ติดอยู่ด้านซ้ายของรถ หรือให้สญั ญาณเลี้ยวซ้ายด้วยมือและแขน) - ลดความเรว็ - ขับรถชิดด้านซ้ายของทางเดินรถ เพื่อให้รถที่แซงผ่านขึ้นหน้าได้ โดยปลอดภัย กรณีใดแซงดา้ นซา้ ยได ้ 1. รถที่ถกู แซงกำลงั เลี้ยวขวา หรือให้สัญญาณวา่ จะเลี้ยวขวา 2. ทางเดินรถน้ันได้จดั แบง่ เปน็ ช่องเดินรถในทิศทางเดียวกัน ใช้ตั้งแต่ 2 ช่อง ขึ้นไป หา้ มแซงกรณีใดบ้าง 1. เมื่อรถกำลังขึ้นทางชัน ขึ้นสะพาน หรืออยู่ในทางโค้ง เว้นแต่จะมี เครื่องหมายจราจรให้แซงได้ 2. ภายในระยะ 30 เมตรก่อนถึงทางข้าม ทางร่วม ทางแยก วงเวียน หรือเกาะที่สร้างไว้ หรือทางเดินทีต่ ดั ข้ามทางรถไฟ 3. เมือ่ มีหมอก ฝน ฝุน่ หรือควนั จนทำให้ไมอ่ าจเห็นทางข้างหน้าได้ในระยะ 60 เมตร 4. เมื่อเข้าทีค่ บั ขนั หรือเขตปลอดภัย 48
คู่มือการขบั ขร่ี ถจกั รยานยนตอ์ ยา่ งปลอดภัย พระราชบญั ญตั ิจราจรทางบก พ.ศ. 2522 เกย่ี วกับสญั ญาณจราจรและเครือ่ งหมายจราจร สญั ญาณจราจรและเคร่อื งหมายจราจร ผู้ขับขี่จะต้องปฏิบัติให้ถูกต้องตามสัญญาณจราจรและเครื่องหมายจราจร ทีไ่ ด้ติดตั้งไว้ หรือทำให้ปรากฏในทาง หรือที่พนักงานเจ้าหน้าทีแ่ สดงให้ทราบ สัญญาณจราจร มี 3 ชนดิ 1. สัญญาณไฟจราจร หมายถึง สัญญาณจราจรที่ใช้ควบคุมการจราจร โดยโคมสัญญาณไฟจราจร ประกอบด้วย ดวงโคมอย่างน้อย 3 ดวง มีสีแดง สีเหลืองอำพนั สีเขียว บางกรณีกม็ ีรูปลกู ศร หรือกากบาท หรือข้อความ เช่น ● สัญญาณไฟจราจรสีเหลืองอำพัน ให้ผู้ขับขี่เตรียมหยุดรถหลังเส้น ให้รถหยุด เว้นแตไ่ ด้ขับเลยเส้นให้รถหยดุ ไปแล้ว กใ็ ห้ขับเลยไปได้ ● สญั ญาณไฟจราจรสีแดง หรือเครือ่ งหมายจราจรสีแดงทีม่ ีคำว่า หยุด ให้ผู้ขบั ขีห่ ยุดรถหลังเส้นให้หยุด ● สญั ญาณไฟจราจรสีเขียว หรือเครือ่ งหมายจราจรสีเขียวทีม่ ีคำว่า ไป ให้ผู้ขบั ขีข่ ับรถตอ่ ไปได้ ● สัญญาณไฟจราจรลูกศรสีเขียว ชี้ให้เลี้ยว หรือชี้ให้ตรงไป ให้ผู้ขับขี ่ เลี้ยวรถหรือขับรถตรงไปได้ตามทิศทางที่ลูกศรชี้ และต้องขับรถ ด้วยความระมัดระวัง ให้สิทธิแก่คนเดินเท้าในทางข้าม หรือรถที่มา ทางขวากอ่ น ● สัญญาณไฟจราจร กะพริบสีแดง ให้ผู้ขับขี่หยุดรถหลังเส้นให้หยุด เมือ่ เหน็ วา่ ปลอดภัยและไม่เป็นการกีดขวางการจราจรแล้ว จึงให้ขบั รถ ตอ่ ไปด้วยความระมดั ระวงั ● สัญญาณไฟจราจร กะพริบสีเหลืองอำพัน ให้ผู้ขับขี่ลดความเร็ว ของรถลงและผ่านทางเดินรถนั้นไปด้วยความระมัดระวัง การจะขับรถ ตรงไปหรือเลี้ยวรถ จะต้องเข้าอยู่ในช่องเดินรถให้ถูกต้อง ตั้งแต่เริ่มมี เครือ่ งหมายให้ปฏิบตั ิเช่นนั้น 49
ค่มู ือการขบั ข่รี ถจกั รยานยนตอ์ ยา่ งปลอดภยั สัญญาณไฟจราจรสีแดง ที่ทำเป็นรูปกากบาทเฉียงอยู่เหนือช่อง เดินรถใด ห้ามมิให้ผู้ขบั ขีข่ ับรถในชอ่ งเดินรถนั้น สัญญาณไฟจราจรสีเขียว ที่ทำเป็นลูกศรอยู่เหนือช่องเดินรถใด ให้ผู้ขับขีซ่ ึง่ ขบั รถในชอ่ งเดินรถนั้นขับรถผ่านไปได้ 2. สญั ญาณจราจรที่พนักงานเจ้าหน้าที่แสดงให้ปรากฏ ● เมื่อพนักงานเจ้าหน้าที่ยืน และเหยียดแขนซ้ายออกไปเสมอระดับไหล ่ ผู้ขับขี่ซึ่งขับรถมาทางด้านหลังต้องหยุดรถ หากลดแขนข้างเหยียดลง และโบกมือไปข้างหน้าจึงจะขับรถไปได้ ● เมื่อพนักงานเจ้าหน้าที่ยืน และเหยียดแขนข้างหนึ่งข้างใดออกไป เสมอระดับไหล่และตั้งฝ่ามือขึ้น ผู้ขับขี่ซึ่งขับรถมาทางด้านที่เหยียดแขน ข้างนั้นต้องหยุดรถ และถ้าพนักงานเจ้าหน้าที่พลิกฝ่ามือที่ตั้งอยู่นั้น แล้วโบกผ่านศีรษะไปทางด้านหลัง ให้ผู้ขับขี่ซึ่งหยุดรถอยู่นั้นขับรถ ผ่านไปได้ ● เมื่อพนักงานเจา้ หน้าทีย่ ืน และเหยียดแขนท้งั 2 ขา้ งออกไปเสมอ ระดับไหล่และตั้งฝ่ามือขึ้น ผู้ขับขี่ซึ่งขับรถมาทางด้านที่เหยียดแขน ทั้ง 2 ข้าง จะต้องหยุดรถ ● เมือ่ พนกั งานเจ้าหนา้ ทีย่ ืน และยกแขนขวาท่อนลา่ งต้ังฉากกับแขน ท่อนบนและต้ังฝ่ามือขึ้น ผู้ขับขี่ซึ่งขับรถมาทางด้านหน้าต้องหยุดรถ แต่ถ้าพนักงานเจ้าหน้าที่พลิกฝ่ามือที่ตั้งอยู่นั้นโบกไปด้านหลัง ให้ผู้ขับขี่ ซึง่ หยุดรถอยู่ทางด้านหน้าของพนักงานเจ้าหน้าที่ขับรถผ่านไปได้ ● เมื่อพนกั งานเจา้ หน้าที่ยืน และยกแขนขวาท่อนล่างตัง้ ฉากกบั แขน ทอ่ นบนและต้ังฝา่ มือขึน้ สว่ นแขนซ้ายเหยียดออกไปเสมอระดบั ไหล่ ผู้ขับขี่ซึ่งขับรถด้านหน้าและด้านหลังต้องหยุดรถ การหยุดรถให้หยุดรถ หลังเส้นให้รถหยุด ในกรณีที่ทางเดินรถใดไม่มีเส้นให้รถหยุด ให้ผู้ขับขี่ หยดุ รถห่างจากพนักงานเจ้าหน้าที่ในระยะไมน่ ้อยกว่า 3 เมตร 50
ค่มู อื การขับข่รี ถจกั รยานยนตอ์ ยา่ งปลอดภยั 3. เสียงนกหวีด เมื่อพนักงานเจ้าหน้าที่ใช้เสียงสัญญาณนกหวีดยาว 1 ครั้ง ให้ผู้ขบั ขีห่ ยุดรถทนั ที แต่ถ้าใช้เสียงสั้น 2 ครั้งติดตอ่ กัน ให้ผู้ขับรถผา่ นไปได้ *อย่างไรกต็ าม สญั ญาณจราจรหรือเครื่องหมายจราจร ถ้าพนักงานเจ้าหน้าที่ ในทางเดินรถนั้นเห็นสมควรเพื่อความปลอดภัย หรือความสะดวกในการจราจร จะให้สัญญาณจราจรเป็นอย่างอื่นก็ได้ ในกรณีเช่นนี้ให้ผู้ขับขี่ปฏิบัติการเดินรถ ตามสญั ญาณทีพ่ นกั งานเจ้าหน้าทีก่ ำหนดให้ เคร่อื งหมายจราจร แบง่ ออกเป็น 2 ชนิด 1. ชนิดแผน่ ป้ายทำดว้ ยโลหะหรือไม้ หรือวตั ถอุ ื่นทีแ่ ทนกนั ได้ มี 2 ประเภท คือ ● ประเภทบังคับ ซึ่งเป็นเครื่องหมายกำหนด บังคับ ห้าม หรือจำกัด บางประการเพือ่ บังคับการจราจรในทาง ● ประเภทเตือน ซึ่งเป็นเครื่องหมายเตือนให้ผู้ใช้ทางระวังอันตราย ความหมายในแผน่ เครือ่ งหมายนั้น ๆ “ขบั รถปลอดภยั ใส่ใจกฎจราจร 51
คู่มอื การขบั ขีร่ ถจักรยานยนต์อยา่ งปลอดภัย เครอื่ งหมายป้ายจราจร ปา้ ยจราจรประเภทบงั คับ ปา้ ย “หยุด” หมายความว่า ผู้ขับขี่ต้องหยุดรถก่อนถึงทางที่ขวางข้างหน้าหรือเส้น แนวหยุด และรอให้รถและคนเดินเท้าบนทางขวางข้างหน้าผ่านไปก่อน หยุด เมื่อเห็นว่าปลอดภัยและไม่เป็นการกีดขวางการจราจรที่บริเวณ ทางแยกน้ันแล้ว จึงให้เคลื่อนรถต่อไปด้วยความระมดั ระวงั ป้าย “ใหท้ าง” หมายความว่า ผู้ขับขี่ต้องระมัดระวังและให้ทางแก่รถหรือคนเดินเท้า บนทางขวางข้างหน้าผ่านไปก่อน เมื่อเห็นว่าปลอดภัยและไม่เป็นการ ให้ทาง กีดขวางการจราจรที่บริเวณทางแยกนั้นแล้ว จึงให้เคลื่อนรถผ่านไปได้ ด้วยความระมัดระวงั ปา้ ย “ให้รถสวนทางมาก่อน” หมายความวา่ ผู้ขับขีต่ ้องหยุดรถตรงตำแหนง่ ทีต่ ิดตั้งป้ายและรอให้รถ ที่กำลังสวนมาผ่านทางไปก่อน หากมีรถข้างหน้าหยุดรออยู่ก่อนก็ให้ ให้รถสวนทางมาก่อน หยุดรอถัดต่อกันมาตามลำดับ เมื่อรถที่สวนทางมาได้ผ่านไปหมดแล้ว จึงเคลือ่ นรถที่หยุดตรงป้ายนี้ผา่ นไปได้ ปา้ ย “ห้ามแซง” หมายความว่า ห้ามขบั รถแซงขึ้นหน้ารถคนั อื่นในเขตทางทีต่ ิดตั้งป้าย ห้ามแซง ป้าย “ห้ามเข้า” หมายความว่า ห้ามรถทกุ ชนิดเข้าไปในทิศทางที่ติดตั้งป้าย ห้ามเข้า 52
คู่มอื การขับขีร่ ถจักรยานยนตอ์ ยา่ งปลอดภัย ปา้ ย “ห้ามกลบั รถไปทางขวา” หมายความวา่ ห้ามกลบั รถไปทางขวาไมว่ ่าด้วยวิธีใด ๆ ห้ามกลับรถไปทางขวา ห้ามกลบั รถไปทางซ้าย ปา้ ย “หา้ มกลบั รถไปทางซา้ ย” หมายความว่า ห้ามกลับรถไปทางซ้ายไม่วา่ ด้วยวิธีใด ๆ ป้าย “ห้ามเลี้ยวซ้าย” ห้ามเลี้ยวซ้าย หมายความวา่ ห้ามเลี้ยวรถไปทางซ้าย ห้ามเลี้ยวขวา เดหิน้ารมถเปไปลทีย่ านงชซอ่ ้างย ห้ามเปลีย่ นช่อง เดินรถไปทางขวา ป้าย “หา้ มเลีย้ วขวา” หมายความวา่ ห้ามเลี้ยวรถไปทางขวา ปา้ ย “ห้ามเปลี่ยนชอ่ งเดินรถไปทางซา้ ย” หมายความวา่ ห้ามเปลี่ยนชอ่ งเดินรถหรือช่องจราจรไปทางซ้าย ป้าย “ห้ามเปลีย่ นชอ่ งเดินรถไปทางขวา” หมายความวา่ ห้ามเปลี่ยนชอ่ งเดินรถหรือช่องจราจรไปทางขวา 53
คู่มือการขบั ขรี่ ถจกั รยานยนตอ์ ยา่ งปลอดภยั ปา้ ย “หา้ มเลี้ยวขวาหรือกลบั รถ” หมายความวา่ ห้ามเลี้ยวรถไปทางขวาหรือกลับรถ ห้ามเลี้ยวขวาหรือกลบั รถ ปา้ ย “หา้ มเลีย้ วซ้ายหรือกลบั รถ” หมายความวา่ ห้ามเลี้ยวรถไปทางซ้ายหรือกลับรถ ห้ามเลี้ยวซ้ายหรือกลบั รถ ป้าย “หา้ มรถยนต์ผ่าน” หมายความว่า ห้ามรถยนต์ทุกชนิดผ่านเข้าออกในเขตทางที่ติดต้ังป้าย ห้ามรถยนต์ผา่ น ป้าย “ห้ามรถบรรทกุ ผ่าน” หมายความว่า ห้ามรถบรรทุกทุกชนิดผ่านเข้าออกในเขตทางที่ติดตั้ง ป้าย ห้ามรถบรรทกุ ผ่าน ป้าย “ห้ามรถจกั รยานยนต์ผ่าน” หมายความว่า ห้ามรถจักรยานยนต์ทุกชนิดผ่านเข้าออกในเขตทาง ที่ติดต้ังป้าย ห้ามรถจกั รยานยนตผ์ า่ น ปา้ ย “ห้ามรถพว่ งผ่าน” หมายความว่า ห้ามรถพ่วงหรือรถกึง่ พ่วงทุกชนิดผา่ นเข้าออกในเขตทาง ทีต่ ิดตั้งป้าย ห้ามรถพว่ งผา่ น 54
คู่มอื การขบั ขร่ี ถจักรยานยนต์อย่างปลอดภัย ปา้ ย “หา้ มรถยนต์สามลอ้ ผ่าน” หมายความว่า ห้ามรถยนต์สามล้อทุกชนิดผ่านเข้าออกในเขตทาง ที่ติดตั้งป้าย ห้ามรถยนตส์ ามล้อผา่ น ป้าย “ห้ามรถสามล้อผ่าน” หมายความว่า ห้ามรถสามล้อทุกชนิดผ่านเข้าออกในเขตทางที่ติดตั้ง ป้าย ห้ามรถสามล้อผ่าน ป้าย “หา้ มรถจกั รยานผ่าน” หมายความว่า ห้ามรถจักรยานทุกชนิดผ่านเข้าออกในเขตทางที่ติดตั้ง ป้าย ห้ามรถจกั รยานผา่ น ป้าย “หา้ มลอ้ เลื่อนลากเข็นผา่ น” หมายความว่า ห้ามล้อเลื่อนลากเข็นทุกชนิดผ่านเข้าออกในเขตทาง ที่ติดต้ังป้าย ห้ามล้อเลือ่ นลากเข็นผา่ น ปา้ ย “หา้ มรถยนตท์ ี่ใช้ในการเกษตรผา่ น” หมายความว่า ห้ามรถยนต์ที่ใช้ในการเกษตรทุกชนิดผ่านเข้าออก ในเขตทางทีต่ ิดตั้งป้าย ห้ามรถยนตท์ ี่ใช้ ในการเกษตรผ่าน ปา้ ย “ห้ามเกวียนผา่ น” หมายความวา่ ห้ามเกวียนทุกชนิดผ่านเข้าออกในเขตทางทีต่ ิดตั้งป้าย ห้ามเกวียนผา่ น 55
คู่มือการขับขร่ี ถจักรยานยนต์อยา่ งปลอดภัย ปา้ ย “ห้ามรถจกั รยานยนตแ์ ละรถยนตผ์ ่าน” หมายความว่า ห้ามรถจักรยานยนต์และรถยนต์ทุกชนิดผ่านเข้าออก ในเขตทางที่ติดต้ังป้าย ห้าแมลระถรจถกั ยรนยตาผ์ นา่ ยนน ต์ ปา้ ย “ห้ามรถจักรยาน รถสามลอ้ และลอ้ เลื่อนลากเขน็ ผา่ น” หมายความว่า ห้ามรถจักรยาน รถสามล้อ และล้อเลื่อนลากเข็น ทุกชนิดผา่ นเข้าออกในเขตทางที่ติดตั้งป้าย หแ้าลมะรลถ้อจเกัลรื่อยนาลนากรถเขสน็ าผมา่ ลน้อ ปา้ ย “หา้ มรถจักรยานยนตแ์ ละรถยนตส์ ามลอ้ ผ่าน” หมายความว่า ห้ามรถจักรยานยนต์และรถยนต์สามล้อทุกชนิด ผ่านเข้าออกในเขตทางทีต่ ิดตั้งป้าย แลหะ้ารมถรยถนจตกั ์สรยามานลย้อนผต่าน์ ปา้ ย “หา้ มใช้เสียง” หมายความว่า ห้ามใช้เสียงสัญญาณหรือทำให้เกิดเสียงที่ก่อการรบกวน ด้วยประการใด ๆ ในเขตทางที่ติดต้ังป้าย ห้ามใช้เสียง ปา้ ย “ห้ามคนผา่ น” หมายความวา่ ห้ามคนเดินเท้าผ่านเข้าออกในเขตทางที่ติดต้ังป้าย ห้ามคนผ่าน ป้าย “หา้ มจอดรถ” หมายความว่า ห้ามจอดรถทุกชนิดระหว่างแนวเขตที่กำหนด เว้นแต่ การหยดุ รบั สง่ คนหรือสิง่ ของช่ัวขณะ ซึ่งต้องกระทำโดยมิชกั ช้า ห้ามจอดรถ 56
คมู่ อื การขบั ข่ีรถจกั รยานยนต์อย่างปลอดภยั ป้าย “หา้ มหยดุ รถ” หมายความว่า ห้ามหยุดรถหรือจอดรถทุกชนิดระหว่างแนวเขต ที่กำหนดเป็นอันขาด ห้ามหยุดรถ ป้าย “หยุดตรวจ” หมายความว่า ผู้ขับขี่รถหยุดรถที่ป้ายนี้ เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตรวจ และให้เคลื่อนรถต่อไปได้เมื่อได้รับอนุญาตจากเจ้าหน้าที่ผู้ตรวจแล้ว หยดุ ตรวจ เทา่ น้ัน ป้าย “จำกัดความเร็ว” หมายความว่า ห้ามใช้ความเร็วเกินกว่าที่กำหนดเป็น “กิโลเมตร ตอ่ ชัว่ โมง” ตามจำนวนตัวเลขทีร่ ะบุในป้ายน้ัน ๆ ในเขตทางทีต่ ิดต้ังป้าย จำกดั ความเร็ว จนกวา่ จะพ้นระยะทีจ่ ำกดั ความเรว็ นั้น ป้าย “หา้ มรถหนกั เกินกำหนดผา่ น” หมายความว่า ห้ามรถทุกชนิดที่มีน้ำหนักเกินกว่าที่กำหนดหรือ เมือ่ รวมน้ำหนกั รถกับน้ำหนักบรรทุกเกินกวา่ ทีก่ ำหนดเปน็ “ตนั ” ตาม ห้ามรถหนักเกินกำหนดผา่ น จำนวนตวั เลขที่ระบใุ นป้ายนั้น ๆ ผา่ นเข้าออกในเขตทางทีต่ ิดต้ังป้าย ปา้ ย “หา้ มรถกวา้ งเกินกำหนดผา่ น” หมายความว่า ห้ามรถทุกชนิดที่มีความกว้างเกินกว่าที่กำหนดเป็น “เมตร” ตามจำนวนตัวเลขที่ระบุในป้ายนั้น ๆ ผ่านเข้าออกในเขตทาง ห้ามรถกว้างเกินกำหนดผ่าน ที่ติดตั้งป้าย ป้าย “ห้ามรถสูงเกินกำหนดผ่าน” หมายความว่า ห้ามรถทกุ ชนิดที่มีความสงู รวมท้ังของทีบ่ รรทุกเกินกวา่ ทีก่ ำหนดเปน็ “เมตร” ตามจำนวนตวั เลขทีร่ ะบุในป้ายน้ัน ๆ ผา่ นเข้าออก ห้ามรถสงู เกินกำหนดผ่าน ในเขตทางทีต่ ิดตั้งป้าย 57
คู่มอื การขับขี่รถจักรยานยนตอ์ ยา่ งปลอดภัย ป้าย “ห้ามรถยาวเกินกำหนดผ่าน” หมายความว่า ห้ามรถทุกชนิดที่มีความยาวเกินกว่าที่กำหนดเป็น “เมตร” ตามจำนวนตัวเลขที่ระบุในป้ายนั้น ๆ ผ่านเข้าออกในเขตทาง ห้ามรถยาวเกินกำหนดผา่ น ทีต่ ิดต้ังป้าย ปา้ ย “ให้เดินรถทางเดียว” หมายความว่า ผู้ขับขี่ต้องขับรถตรงไปตามทิศทางที่ป้ายกำหนด ให้เดินรถทางเดียว เปน็ ทางเดินรถทางเดียวเท่าน้ัน ป้าย “ใหเ้ ดินรถทางเดียวไปทางซา้ ย” หมายความวา่ ทางข้างหน้าเป็นทางบังคับให้เดินรถทางเดียวไปทางซ้าย ให้เดินรถทางเดียว เทา่ นั้น ไปทางซ้าย ปา้ ย “ใหเ้ ดินรถทางเดียวไปทางขวา” หมายความว่า ทางข้างหน้าเป็นทางบังคับให้เดินรถทางเดียวไปทางขวา ให้เดินรถทางเดียว เท่านั้น ไปทางขวา ปา้ ย “ใหช้ ิดซา้ ย” หมายความว่า ผู้ขับขี่ต้องขับรถผา่ นไปทางด้านซ้ายของป้าย ให้ชิดซ้าย ป้าย “ให้ชิดขวา” หมายความว่า ผู้ขบั ขี่ต้องขับรถผ่านไปทางด้านขวาของป้าย ให้ชิดขวา 58
คมู่ ือการขบั ข่ีรถจักรยานยนต์อย่างปลอดภยั ปา้ ย “ให้ชิดซ้ายหรือชิดขวา” หมายความว่า ผู้ขับขี่ต้องขับรถผ่านไปทางด้านซ้ายหรือทางด้านขวา ของป้าย ให้ชิดซ้ายหรือชิดขวา ป้าย “ให้เลีย้ วซา้ ย” หมายความว่า ผู้ขับขี่ต้องขบั รถเลี้ยวไปทางซ้ายแตท่ างเดียวเทา่ น้ัน ให้เลี้ยวซ้าย ปา้ ย “ให้เลี้ยวขวา” หมายความวา่ ผู้ขบั ขีต่ ้องขับรถเลี้ยวไปทางขวาแต่ทางเดียวเท่าน้ัน ให้เลี้ยวขวา ป้าย “ใหเ้ ลี้ยวซา้ ยหรือเลี้ยวขวา” หมายความวา่ ผู้ขบั ขีต่ ้องขบั รถเลี้ยวไปทางซ้ายหรือไปทางขวาเท่าน้ัน ให้เลี้ยวซ้ายหรือเลี้ยวขวา ปา้ ย “ใหต้ รงไปหรือเลีย้ วซ้าย” หมายความวา่ ผู้ขบั ขี่ต้องขบั รถตรงไปหรือเลี้ยวไปทางซ้ายเทา่ นั้น ให้ตรงไปหรือเลี้ยวซ้าย ป้าย “ใหต้ รงไปหรือเลี้ยวขวา” หมายความว่า ผู้ขับขีต่ ้องขับรถตรงไปหรือเลี้ยวไปทางขวาเทา่ นั้น ให้ตรงไปหรือเลี้ยวขวา 59
คมู่ อื การขับข่รี ถจกั รยานยนตอ์ ยา่ งปลอดภัย ป้าย “ชอ่ งเดินรถประจำทาง” หมายความว่า ช่องเดินรถที่ติดตั้งป้ายเป็นบริเวณที่กำหนดให้เป็นช่อง ช่องเดินรถประจำทาง เดินรถประจำทาง วงเวียน ช่องทางเดินรถมวลชน ปา้ ย “วงเวียน” ช่องเดินรถจักรยานยนต ์ หมายความว่า ผู้ขบั ขีร่ ถทุกชนิดต้องขบั รถวนทางซ้ายของวงเวียน และ รถที่เริ่มจะเข้าสู่ทางรอบบริเวณวงเวียนต้องหยุดรอให้รถที่แล่นอยู่ใน ช่องเดินรถจกั รยาน ทางรอบบริเวณวงเวียนผ่านไปก่อน ห้ามขับรถแทรกหรือตัดหน้ารถ เฉพาะคนเดิน ทีแ่ ล่นอยใู่ นเขตทางรอบบริเวณวงเวียน ป้าย “ชอ่ งเดินรถมวลชน” หมายความว่า ช่องเดินรถที่ติดตั้งป้ายเป็นบริเวณที่กำหนดให้เป็นช่อง เดินรถมวลชน และให้ใช้ได้เฉพาะรถที่มีจำนวนคนบนรถไม่น้อยกว่า ตวั เลขที่ระบใุ นป้าย ปา้ ย “ช่องเดินรถจักรยานยนต์” หมายความว่า ช่องเดินรถที่ติดตั้งป้ายเป็นบริเวณที่กำหนดให้เป็นช่อง เดินรถจกั รยานยนต ์ ป้าย “ชอ่ งเดินรถจักรยาน” หมายความว่า ช่องเดินรถที่ติดตั้งป้ายเป็นบริเวณที่กำหนดให้เป็นช่อง เดินรถจักรยาน ปา้ ย “เฉพาะคนเดิน” หมายความว่า บริเวณที่ติดตั้งป้ายเป็นบริเวณที่กำหนดให้ใช้ได้เฉพาะ คนเดินเท้าเท่านั้น 60
คมู่ อื การขบั ขี่รถจกั รยานยนตอ์ ย่างปลอดภยั ปา้ ย “ความเร็วข้ันต่ำ” หมายความวา่ ผู้ขับขีต่ ้องใช้ความเร็วไมต่ ่ำกวา่ ทีก่ ำหนดเปน็ “กิโลเมตร ตอ่ ชั่วโมง” ตามจำนวนตัวเลขที่ระบุในป้าย ความเรว็ ขั้นตำ่ ป้าย “สุดเขตบังคบั ” หมายความว่า หมดระยะบังคับตามความหมายของป้ายบังคับ ที่ได้ติดต้ังไว้ก่อนที่จะถึงป้ายนี้ สุดเขตบังคับ ป้ายจราจรประเภทเตือน ป้าย “ทางโค้งตา่ ง ๆ” หมายความว่า ทางข้างหน้าเป็นทางโค้งตามลักษณะลูกศรในป้าย ควรขบั รถให้ช้าลง และเพิ่มความระมดั ระวัง ปา้ ย “ทางแยกตา่ ง ๆ” หมายความว่า ทางข้างหน้าเป็นทางแยกตามลักษณะสัญลักษณ์ ในป้าย ควรขบั รถให้ช้าลง และเพิ่มความระมดั ระวัง 61
คมู่ อื การขับขี่รถจักรยานยนต์อยา่ งปลอดภัย ปา้ ย “วงเวียนขา้ งหนา้ ” หมายความว่า ทางข้างหน้าเป็นทางแยกมีวงเวียน ควรขับรถให้ช้าลง วงเวียนข้างหน้า และเพิ่มความระมัดระวัง ทางแคบทั้งสองด้าน ทางแคบด้านซ้าย ทางแคบด้านขวา ปา้ ย “ทางแคบทง้ั สองดา้ น” หมายความว่า ทางข้างหน้าแคบลงกว่าทางที่กำลังผ่านทั้งสองด้าน สะพานแคบ ควรขับรถให้ช้าลงและเพิ่มความระมัดระวงั ชอ่ งจราจรปิดด้านซ้าย ป้าย “ทางแคบดา้ นซา้ ย” หมายความว่า ทางข้างหน้าด้านซ้ายแคบลงกว่าทางที่กำลังผ่าน ควรขบั รถให้ช้าลง และเพิม่ ความระมดั ระวัง ป้าย “ทางแคบด้านขวา” หมายความว่า ทางข้างหน้าด้านขวาแคบลงกว่าทางที่กำลังผ่าน ควรขบั รถให้ช้าลงและเพิ่มความระมัดระวงั ปา้ ย “สะพานแคบ” หมายความว่า ทางข้างหน้ามีสะพานแคบรถสวนกันได้ไม่สะดวก ควรขับรถให้ช้าลง และระมัดระวังอันตรายจากรถที่สวนมาจาก อีกฝ่ังหนึง่ ของสะพาน ปา้ ย “ชอ่ งจราจรปิดดา้ นซ้าย” หมายความว่า ทางเดินรถข้างหน้าปิดการสัญจรทางด้านซ้าย ผู้ขับขี่ ควรเปลี่ยนใช้ชอ่ งเดินรถทีเ่ หลืออยดู่ ้วยความระมัดระวัง 62
คู่มือการขับข่ีรถจักรยานยนตอ์ ย่างปลอดภยั ป้าย “ชอ่ งจราจรปิดด้านขวา” หมายความว่า ทางเดินรถข้างหน้าปิดการสัญจรทางด้านขวา ผู้ขับขี่ ช่องจราจรปิดด้านขวา ควรเปลี่ยนใช้ชอ่ งเดินรถทีเ่ หลืออยดู่ ้วยความระมดั ระวงั ทางข้ามทางรถไฟ ไม่มีเครือ่ งก้ันทาง ทางข้ามทางรถไฟ ป้าย “ทางขา้ มทางรถไฟไมม่ ีเครื่องกนั้ ทาง” มีเครื่องกั้นทาง หมายความว่า ทางข้างหน้ามีทางรถไฟตัดผ่านและไม่มีเครื่องกั้นทาง ทางข้ามทางรถไฟ ควรขับรถให้ช้าลง และสังเกตดูรถไฟทั้งทางขวาและทางซ้าย ถ้ามี ติดทางแยก รถไฟกำลังจะผ่านมาควรหยุดรถให้ห่างจากทางรถไฟอย่างน้อย 5 เมตร และรอคอยจนกว่ารถไฟนั้นผ่านพ้นไป และปลอดภัยแล้ว จึงเคลื่อนรถต่อไป ไม่ควรขับรถตัดหน้ารถไฟในระยะที่อาจเกิด อนั ตรายเป็นอนั ขาด ป้าย “ทางข้ามทางรถไฟมีเครื่องกัน้ ทาง” หมายความว่า ทางข้างหน้ามีทางรถไฟตัดผ่านและมีรั้วหรือ มีเครื่องกั้นทาง ก่อนที่จะขับรถผ่านป้ายนี้ควรขับรถให้ช้าลง และ พร้อมที่จะหยุดรถเมื่อมีเสียงสัญญาณของเจ้าหน้าที่ดังขึ้น หรือเจ้าหน้าท ี่ ได้กั้นทาง หรือมีเครื่องกั้นทางปิดกั้น ถ้าข้างหน้ามีรถหยุดก่อน ให้หยุดรอถัดต่อมาตามลำดับ เมื่อเปิดเครื่องกั้นทางแล้ว รถที่หยุดรอ จึงเคลื่อนตามกนั ไป ป้าย “ทางขา้ มทางรถไฟติดทางแยก” หมายความว่า ทางข้างหน้ามีทางข้ามทางรถไฟอยู่ติดทางแยก ตามลักษณะสัญลักษณ์ ควรขับรถด้วยความระมัดระวัง ก่อนข้าม ทางรถไฟควรมองด้านซ้ายและด้านขวาตามแนวทางรถไฟ เมื่อเห็นว่า ปลอดภัยจึงขับรถต่อไป ในกรณีที่มีเครื่องกั้นทางควรปฏิบัติตาม สญั ญาณเครือ่ งก้ันทาง 63
คู่มือการขบั ขี่รถจักรยานยนตอ์ ย่างปลอดภยั ป้าย “ทางแคบ” หมายความว่า ทางข้างหน้าแคบลงกว่าทางที่กำลังผ่าน มีขนาดตาม ทางแคบ จำนวนตัวเลขที่กำหนดเป็น “เมตร” ตามที่ระบุในป้าย รถที่มีขนาด กว้างไม่เกินจำนวนตัวเลขที่ระบุในป้ายให้ผ่านไปได้ ควรขับรถให้ช้าลง ทางลอดตำ่ และเพิม่ ความระมัดระวัง ปา้ ย “ทางลอดตำ่ ” หมายความว่า ทางข้างหน้าจะต้องลอดช่องลอดต่ำ มีขนาดตาม ทางขึ้นลาดชัน จำนวนตัวเลขที่กำหนดเป็น “เมตร” ตามที่ระบุในป้าย รถที่มีความสูง หรือรวมทั้งสิ่งของที่บรรทุก สูงไม่เกินจำนวนตัวเลขที่ระบุในป้าย ทางลงลาดชัน ให้ผ่านไปได้ ควรขับรถให้ช้าลง และเพิม่ ความระมดั ระวงั ป้าย “ทางขึ้นลาดชนั ” เตือนรถกระโดด หมายความว่า ทางข้างหน้าเป็นทางลาดชันขึ้น ทางขึ้นเขา หรือ ขึ้นเนินสันเขา หรือสันเนินมีความลาดชันตามจำนวนตัวเลขที่กำหนด เป็น “ร้อยละ” ตามทีร่ ะบใุ นป้าย ซึง่ อาจบังสายตาทำให้มองไมเ่ ห็นรถ ที่สวนมา ควรขับรถให้ช้าลง เดินรถใกล้ขอบทางด้านซ้ายให้มาก และ ระมัดระวงั อันตรายจากรถทีส่ วนทางมา ป้าย “ทางลงลาดชนั ” หมายความว่า ทางข้างหน้าเป็นทางลาดชันลง ทางลงเขา หรือลงเนิน มีความลาดชันตามจำนวนตัวเลขที่กำหนดเป็น “ร้อยละ” ตามที่ระบ ุ ในป้าย ควรขับรถให้ช้าลง เดินรถใกล้ขอบทางด้านซ้ายให้มาก ควรใช้ เกียร์ต่ำเพื่อความปลอดภัย และไม่ปลดเกียร์หรือดับเครื่องยนต์ เป็นอนั ขาด ปา้ ย “เตือนรถกระโดด” หมายความว่า ทางข้างหน้าเปลี่ยนระดับอย่างกะทันหัน เช่น บริเวณ คอสะพาน ทางข้ามท่อระบายน้ำ หรือคันชะลอความเร็ว เป็นต้น ควรขับรถให้ช้าลง และเพิม่ ความระมดั ระวัง 64
คมู่ อื การขับขี่รถจกั รยานยนตอ์ ยา่ งปลอดภยั ปา้ ย “ผิวทางขรขุ ระ” หมายความว่า ทางข้างหน้าขรุขระมาก เป็นหลุมเป็นบ่อ หรือเป็นสัน ผิวทางขรุขระ ติดต่อกนั ควรขับรถให้ช้าลง และเพิ่มความระมดั ระวัง ทางเปน็ แอ่ง ทางลืน่ ป้าย “ทางเปน็ แอง่ ” ผิวทางรว่ น หมายความว่า ทางข้างหน้าเปลี่ยนระดับลงกะทันหัน หรือเป็นแอ่ง ระวงั หินรว่ ง ควรขบั รถให้ช้าลง และเพิม่ ความระมัดระวัง สะพานเปิดได้ ปา้ ย “ทางลืน่ ” หมายความว่า ทางข้างหน้าลื่นอาจเกิดอุบัติเหตุได้ง่าย ควรขับรถ ให้ช้าลง และระมัดระวังการลื่นไถล ไม่ควรใช้ห้ามล้อแรง ๆ ทันที การหยุดรถ การเบารถ หรือเลี้ยวรถในทางลื่น ต้องกระทำด้วยความ ระมดั ระวังเป็นพิเศษ ปา้ ย “ผิวทางรว่ น” หมายความว่า ทางข้างหน้าอาจมีวัสดุผิวทางหลุดกระเด็นเมื่อขับรถ ด้วยความเร็วสูง ควรขับรถให้ช้าลง และระมัดระวังอันตรายอันอาจ เกิดจากวสั ดุผิวทาง ปา้ ย “ระวังหินร่วง” หมายความวา่ ทางข้างหน้าอาจมีหินรว่ งลงมาในผิวทาง ทำให้กีดขวาง การจราจร ควรขับรถให้ช้าลง และเพิม่ ความระมัดระวงั ปา้ ย “สะพานเปิดได้” หมายความว่า ทางข้างหน้าต้องผ่านสะพานที่อาจต้องเปิดให้เรือผ่าน ควรขับรถให้ช้าลง และระมัดระวังในการหยุดรถเมื่อเจ้าหน้าที่จะปิด กั้นทางเพื่อเปิดสะพานให้เรือผ่าน เพื่อมิให้เกิดอันตรายต่อรถข้างหน้า และรถข้างหลงั 65
คู่มอื การขับขร่ี ถจักรยานยนตอ์ ยา่ งปลอดภัย ปา้ ย “ออกทางขนาน” หมายความว่า ทางหลักข้างหน้ามีช่องเปิดออกทางขนาน ผู้ขับขี่บน ทางหลักที่จะออกทางขนาน ควรเตรียมตัวเพื่อออกทางขนาน และ สำหรับผู้ขับขี่บนทางขนาน ควรระมัดระวังรถที่จะมาร่วมในทิศทาง ออกทางขนาน เดียวกนั ปา้ ย “เข้าทางหลกั ” หมายความว่า ทางขนานข้างหน้ามีช่องเปิดเข้าทางหลัก ผู้ขับขี่บน ทางขนานที่จะเข้าทางหลัก ควรเตรียมตัวเพื่อเข้าทางหลัก และ เข้าทางหลกั สำหรับผู้ขบั ขีบ่ นทางหลกั ควรระมดั ระวังรถที่จะมาร่วมในทิศทางเดียวกัน ป้าย “ทางคู่ข้างหนา้ ” หมายความว่า ทางข้างหน้าเป็นทางคู่มีเกาะหรือสิ่งอื่นแบ่งการจราจร เป็นสองทิศทาง ไปทางหนึ่งมาทางหนึ่ง ควรขับรถชิดไปทางด้านซ้าย ทางค่ขู ้างหน้า ด้วยความระมดั ระวัง ปา้ ย “สิน้ สุดทางคู่” หมายความว่า ทางข้างหน้าเป็นทางร่วมที่ไม่มีเกาะหรือสิ่งอื่น แบ่งการจราจร ควรขับรถให้ช้าลง เดินรถใกล้ขอบทางด้านซ้าย สิ้นสดุ ทางคู่ และเพิ่มความระมดั ระวัง ปา้ ย “ใหเ้ ปลีย่ นชอ่ งทางจราจร” หมายความว่า ควรเปลี่ยนช่องจราจรหรือเปลี่ยนช่อง เดินรถตามสัญลักษณ์ในป้าย ควรขับรถให้ช้าลง และ ให้เปลี่ยนช่องทางจราจร เพิ่มความระมดั ระวงั ปา้ ย “ทางร่วม” หมายความว่า ทางข้างหน้าอาจมีรถเข้ามาร่วมในทิศทาง เดียวกัน จากทางซ้ายหรือทางขวาตามลักษณะสัญลักษณ์ ทางรว่ ม ในป้าย ควรขบั รถให้ช้าลง และเพิม่ ความระมดั ระวงั 66
ค่มู อื การขบั ขีร่ ถจักรยานยนตอ์ ยา่ งปลอดภัย ป้าย “จุดกลบั รถ” หมายความวา่ ทางข้างหน้ามีที่กลบั รถ จดุ กลบั รถ ป้าย “ทางเดินรถสองทาง” หมายความวา่ ทางข้างหน้าเปน็ ทางเดินรถสองทาง ควรขับรถให้ช้าลง เดินรถใกล้ขอบทางด้านซ้าย และให้ระมัดระวังอันตรายจากรถที่ ทางเดินรถสองทาง สวนทางมา ปา้ ย “สญั ญาณจราจร” หมายความว่า ทางข้างหน้ามีสัญญาณไฟจราจร ควรขับรถให้ช้าลง และพร้อมที่จะปฏิบัติตามสัญญาณไฟจราจร สญั ญาณจราจร ป้าย “หยดุ ขา้ งหน้า” หมายความว่า ทางข้างหน้าที่ป้ายหยุดติดตั้งอยู่ ควรขับรถให้ช้าลง และเตรียมพร้อมที่จะหยดุ รถเมือ่ ถึงป้ายหยุด หยุดข้างหน้า ป้าย “ให้ทางขา้ งหน้า” หมายความว่า ทางข้างหน้ามีป้ายให้ทางติดตั้งอยู่ ควรขับรถให้ช้าลง และเตรียมพร้อมทีจ่ ะให้ทางเมื่อถึงป้ายให้ทาง ให้ทางข้างหน้า ป้าย “ระวังคนข้ามถนน” หมายความว่า ทางข้างหน้ามีทางสำหรบั คนข้าม หรือมีหมูบ่ ้านราษฎร อยู่ข้างทาง ซึ่งมีคนเดินข้ามไปมาอยู่เสมอ ควรขับรถให้ช้าลง ระวังคนข้ามถนน และระมัดระวังคนข้ามทาง ถ้ามีคนกำลังเดินข้ามทาง ควรหยุด ให้คนเดินข้ามทางไปได้โดยปลอดภัย 67
ค่มู ือการขับขร่ี ถจกั รยานยนต์อย่างปลอดภัย ป้าย “โรงเรียนระวงั เดก็ ” หมายความว่า ทางข้างหน้ามีโรงเรียนตั้งอยู่ข้างทาง ควรขับรถให้ช้าลง โรงเรียนระวงั เดก็ และระมดั ระวังอุบตั ิเหตุ ซึ่งอาจจะเกิดขึ้นแกเ่ ด็กนักเรียน ถ้าเดก็ นกั เรียน กำลังเดินข้ามทาง ควรหยุดรถให้เด็กนักเรียนข้ามทางไปโดยปลอดภัย ถ้าเป็นเวลาที่โรงเรียนกำลังสอน ควรงดใช้เสียงสัญญาณ และหยุด การก่อให้เกิดเสียงรบกวนด้วยประการใด ๆ ระวังสัตว์ ป้าย “ระวังสตั ว”์ ระวงั เครื่องบินบินต่ำ หมายความว่า ทางข้างหน้าอาจมีสัตว์ข้ามทาง ควรขับรถให้ช้าลง และเพิ่มความระมัดระวัง ระวังอนั ตราย เขตห้ามแซง ป้าย “ระวงั เครือ่ งบินบินต่ำ” หมายความว่า ทางข้างหน้าใกล้สนามบินและอาจมีเครื่องบินบินขึ้นลง สลับกนั ไป ในระดับต่ำ ควรขับรถให้ช้าลง หากเห็นเครื่องบินกำลังขึ้นหรือลง ผ่านทางข้างหน้า ควรหยุดรถให้เครือ่ งบินผ่านไปโดยปลอดภยั ปา้ ย “ระวังอันตราย” หมายความว่า ทางข้างหน้ามีอันตราย เช่น เกิดอุบัติเหตุ ทางทรุด เปน็ ต้น ควรขบั รถให้ช้าลง และเพิ่มความระมดั ระวัง ป้าย “เขตหา้ มแซง” ใช้ติดตั้งทางด้านขวาของทาง หมายความวา่ ทางชว่ งนั้นมีระยะมองเหน็ จำกัด ผู้ขับขี่อาจไม่สามารถ มองเห็นรถที่สวนมาในระยะที่จะแซงรถอืน่ ได้อย่างปลอดภัย ป้าย “สลบั กันไป” หมายความว่า ทางข้างหน้าจำนวนช่องเดินรถหรือช่องจราจรลดลง ควรขับรถให้ช้าลง และสลับกนั ไปด้านละคันอย่างระมัดระวงั 68
คูม่ อื การขบั ขร่ี ถจกั รยานยนตอ์ ย่างปลอดภัย ป้าย “เตือนแนวทางตา่ ง ๆ” หมายความว่า ทางตอนนั้นมีการเปลี่ยนแปลงแนวทางตามทิศทางที่ชี้ไป ควรขับรถ ให้ช้าลง และสลบั กันไปด้านละคนั อย่างระมดั ระวัง 2. ชนิดบนผิวทาง ขอบทาง ขอบวงเวียน หลัก ราว สะพาน กำแพง รัว้ และทีอ่ ื่น ๆ โดยใช้สี หมุดโลหะ กระเบื้องเคลือบ หรือวตั ถอุ ื่นทีแ่ ทนกนั ได้ ทา ตอก หรือฝงั ไว้ ● เครื่องหมายจราจรบนพื้นทาง ● เครื่องหมายจราจรบนขอบทาง 69
คมู่ อื การขับข่รี ถจกั รยานยนตอ์ ยา่ งปลอดภยั เครอื่ งหมายจราจรบนพนื้ ทางและขอบทาง เครอื่ งหมายจราจรประเภทบงั คบั “เส้นแบ่งทิศทางจราจรปกติ” มีลักษณะเป็น เส้นประสีเหลือง หมายความว่า เป็นเส้นแสดงการแบ่งแยกช่อง จราจรของรถที่มีทิศทางตรงกันข้าม ผู้ขับขี่ต้อง ขบั รถทางด้านซ้ายของเส้น ยกเว้นในกรณีทีต่ ้องการ เลี้ยวขวา หรือแซงขึ้นหน้ารถคันอื่น “เส้นแบ่งทิศทางจราจรห้ามแซง” มีลักษณะ เป็นเส้นทึบสีเหลืองเดีย่ วหรือค ู่ หมายความว่า ผู้ขับขีต่ ้องขบั รถไปทางด้านซ้ายของเส้น ห้ามขับรถผ่านหรือครอ่ มเส้นโดยเดด็ ขาด “เส้นแบ่งทิศทางจราจรห้ามแซงเฉพาะด้าน” มีลักษณะเป็นเส้นทึบสีเหลืองค่กู บั เสน้ ประสีเหลือง หมายความว่า รถทีอ่ ยู่ทางด้านเส้นทึบห้ามผา่ นหรือ ครอ่ มเส้นทึบโดยเดด็ ขาด ส่วนรถที่อยู่ทางด้านเส้นประ เมื่อเห็นว่าปลอดภัยอาจแซงขึ้นหน้ารถคันอื่น หรือ ข้ามเส้นดงั กล่าวนี้ด้วยความระมดั ระวัง “เส้นแบง่ ช่องเดินรถ” หรือ “เสน้ แบง่ ช่องจราจร” มีลักษณะเป็นเส้นประสีขาวแบ่งทางเดินรถ หรือทางจราจรที่มีทิศทางเดียวกันให้เป็นช่อง เดินรถ หรือช่องจราจร หมายความว่า ผู้ขับขี่ต้องขับรถภายในช่องทาง เดินรถหรือช่องจราจร ห้ามขับรถคร่อมเส้น เว้นแต่ จะเปลี่ยนช่องเดินรถหรือชอ่ งจราจร 70
ค่มู อื การขบั ขีร่ ถจักรยานยนตอ์ ยา่ งปลอดภยั “เส้นห้ามเปลี่ยนช่องเดินรถ” หรือ “เส้นห้าม เปลี่ยนช่องจราจร” มีลักษณะเป็นเส้นทึบสีขาว แบ่งทางเดินรถหรือทางจราจรในทิศทางเดียวกัน ให้เปน็ ชอ่ งเดินรถหรือชอ่ งจราจร หมายความว่า ผู้ขับขี่ต้องขับรถภายในช่องเดินรถ หรือช่องจราจร ห้ามขบั รถผ่านหรือคร่อมเส้น “เส้นแบง่ ชอ่ งเดินรถประจำทาง” มีลกั ษณะเป็น เส้นสีเหลืองกว้างและถี่ กรณีสวนทางจราจรปกติ และเส้นประสีขาวกว้างและถี่ กรณีทิศทาง เดียวกับทางจราจรปกติ ทงั้ นีโ้ ดยมีลูกศรสีเหลือง และอาจมีคำว่า “รถประจำทาง” หรือ “BUS” สีเหลือง ประกอบดว้ ย หมายความว่า เป็นช่องทางเดินรถประจำทาง ห้าม ขับรถประเภทอืน่ เข้าไปในช่องเดินรถประจำทาง “เครื่องหมายห้ามจอดรถ” มีลักษณะเป็นแถบ สีเหลืองสลบั ขาวแสดงที่ขอบคนั หิน หรือขอบทาง ด้านซ้ายของทางเดินรถหรือทางจราจร หรือ ที่อืน่ ๆ หมายความว่า ห้ามจอดรถทกุ ชนิดระหว่างแนวขอบ ทีก่ ำหนด เว้นแตก่ ารหยดุ รับส่งคนหรือสิง่ ของชวั่ ขณะ ซึง่ ต้องกระทำโดยมิชกั ช้า “เครื่องหมายห้ามหยุดรถ” มีลักษณะเป็นแถบ สีแดงสลับขาวแสดงที่ขอบคันหิน หรือขอบทาง ด้านซ้ายของทางเดินรถหรือทางจราจร หรือ ที่อืน่ ๆ หมายความว่า ห้ามหยุดรถหรือจอดรถทุกชนิด ระหวา่ งแนวเขตที่กำหนดเปน็ อนั ขาด 71
คู่มอื การขับข่รี ถจักรยานยนตอ์ ย่างปลอดภัย “เส้นแนวหยุด” มีลักษณะเป็นเส้นทึบสีขาวกว้างและ ขวางแนวทางเดินรถ หมายความว่า เมือ่ มีสญั ญาณจราจรบังคบั หยุดหรือป้ายหยดุ ผู้ขับขี่ต้องหยุดรถก่อนถึงเส้นแนวหยุด และเมื่อได้รับ สัญญาณจราจรให้ไป หรือเมื่อไม่เป็นเหตุให้กีดขวาง การจราจรแล้ว ให้ผ่านเส้นแนวหยดุ ไปได้ “เส้นให้ทาง” มีลักษณะเป็นเส้นประสีขาวกว้างและ ขวางแนวทางเดินรถ หมายความว่า ผู้ขับขี่ต้องขับรถให้ช้าลง หากเห็นว่า จะไม่ปลอดภัยต่อรถคนั อืน่ หรือคนเดินเท้าในทางขวางหน้า หรือเป็นการกีดขวางทางจราจร ผู้ขับขี่ต้องหยุดรถก่อนถึง แนวเส้นให้ทาง “เส้นทางข้าม” มีลักษณะเป็นแถบสีขาวกว้างและยาว หลาย ๆ แถบประกอบกันขวางทางเดินรถ หรือ เป็นเส้นทึบสีขาวสองเส้นขนานกันขวางแนวทางเดินรถ และมีเส้นแนวหยดุ หรือเสน้ ให้ทางประกอบ หมายความว่า ผู้ขับขี่ต้องขับรถให้ช้าลง และพร้อมที่จะ หยุดรถได้ทันท่วงที เมื่อมีคนเดินข้ามทาง ณ ทางข้ามนั้น ในเขตทางข้ามที่ไม่มีเจ้าหน้าที่หรือสัญญาณจราจร ให้คนมีสิทธิ ข้ามทางไปก่อน ฉะนั้น ในขณะที่คนกำลังเดินอยู่ในทางข้าม ผู้ขับขี่ต้องหยุดรถก่อนถึงเส้นแนวหยุดหรือเส้นให้ทาง และ เมือ่ คนเดินข้ามทางได้ข้ามไปแล้ว จึงจะเคลือ่ นรถต่อไปได้ “เส้นทแยงห้ามหยุดรถ” มีลักษณะเป็นเส้นทึบสีเหลือง ลากทแยงตัดกนั ภายในกรอบเสน้ ทึบสีเหลือง หมายความว่า ห้ามหยุดรถทุกชนิดภายในกรอบเส้นทแยง ห้ามหยุดรถ ยกเว้นรถทีห่ ยดุ รอเพือ่ เลี้ยวขวา 72
คู่มือการขบั ขรี่ ถจกั รยานยนต์อยา่ งปลอดภยั “ลูกศร” มีลักษณะเป็นลูกศรสีขาวหรือสีเหลือง แสดงทิศทางการจราจรให้รถตรงไป เลีย้ วซา้ ย เลีย้ วขวา เลีย้ วกลบั หรือรว่ มกนั หมายความว่า เมื่อปรากฏในช่องเดินรถหรือช่องจราจรใด ผู้ขับขี่ที่อยู่ในช่องเดินรถหรือช่องจราจรนั้นต้องปฏิบัติตาม เครื่องหมายนั้น “ให้ทาง” มีลักษณะเป็นรูปสามเหลี่ยมมุมแหลมสีขาว โดยมุมแหลมชี้สวนทิศทางการจราจร แสดงหรือทำให้ ปรากฏบนพื้นทางประกอบเส้นใหท้ าง หมายความว่า ผู้ขับขี่ต้องขับรถให้ช้าลง ถ้าเห็นว่าจะไม่ ปลอดภัยต่อรถคันอื่น หรือคนเดินเท้าในทางขวางหน้า หรือเป็นการกีดขวางการจราจร ผู้ขับขี่ต้องหยุดรถก่อนถึง เส้นให้ทาง “เขตปลอดภัย หรือเกาะสี” มีลักษณะเป็นแถบหรือ เส้นทึบสีขาวหรือสีเหลือง ตีทแยงกับแนวทิศทาง การจราจร หรือเป็นลักษณะก้างปลา และล้อมรอบ ด้วยเสน้ ทึบสีขาวหรือสีเหลือง หมายความว่า ห้ามขบั รถล้ำเข้าไปในพื้นทีด่ ังกล่าว “ช่องเดินรถมวลชน” มีลักษณะเป็นรูปสี่เหลี่ยม ขนมเปียกปูนสีขาวมุมแหลมอยู่ในทิศทางการจราจร ภายในสี่เหลี่ยมขนมเปียกปูนอาจมีตัวเลขแสดงจำนวน ขนั้ ตำ่ ของคนบนรถมวลชน หมายความว่า ช่องเดินรถหรือช่องจราจร ที่มีเครื่องหมาย ช่องเดินรถมวลชน เป็นช่องเดินรถหรือช่องจราจรสำหรับ รถตามชนิดหรือประเภทที่กำหนดหรือรถที่มีจำนวนคนบนรถ ไมน่ ้อยกว่าที่กำหนด 73
ค่มู อื การขบั ขรี่ ถจกั รยานยนต์อย่างปลอดภัย “เส้นช่องจอดรถ” มีลักษณะเป็นเส้นทึบสีขาว แสดงขอบเขตของชอ่ งจอดรถ หมายความว่า ผู้ขับขี่ต้องจอดรถภายในกรอบ เส้นช่องจอดรถ ห้ามจอดรถคร่อมเส้น หรือ ทำให้ส่วนใดของรถล้ำออกไปนอกแนวที่กำหนด “ข้อความบังคับบนพื้นทาง” มีลักษณะเป็นข้อความ สีขาวบนพื้นทาง เช่น คำว่า “หยุด” “ลดความเร็ว” “ขับช้า ๆ” เปน็ ต้น หมายความว่า ผู้ขบั ขี่ต้องปฏิบัติตามข้อความนั้น ๆ เครื่องหมายจราจรประเภทเตอื น “เส้นขอบทาง” มีลักษณะเป็นเสน้ ทึบหรือเส้นประ หรือแถบสีเหลือง สีขาว ยกเว้นเส้นขอบทาง ด้านติดกับเกาะกลาง หรือฉนวนแบ่งทิศทาง การจราจรเป็นสีเหลือง หมายความว่า เป็นแนวสดุ ขอบทางเดินรถ “เส้นแนวช่องจราจรผ่านทางแยก” มีลักษณะ เป็นเส้นประหรือเส้นทึบสีขาว แสดงแนวช่อง เดินรถหรือช่องจราจรบริเวณทางแยก หมายความว่า ควรขับรถไปตามแนวช่องเดินรถ หรือช่องจราจรดงั กล่าว “เส้นชะลอความเรว็ ” มีลักษณะเปน็ เสน้ หลาย ๆ เสน้ ขวางชอ่ งเดินรถหรือช่องจราจร หมายความว่า ควรขับรถให้ช้าลง และเพิ่มความ ระมดั ระวงั 74
คู่มือการขบั ข่รี ถจกั รยานยนตอ์ ยา่ งปลอดภยั “เส้นทางรถไฟผ่าน” มีลักษณะเป็นกากบาท สีขาวลากทแยงตัดกันพร้อมมีอักษรโรมัน RR ประกอบ หมายความว่า ทางข้างหน้ามีทางรถไฟตัดผ่าน ควรขับรถให้ช้าลง และเพิม่ ความระมดั ระวงั “เครื่องหมายขาวดำ” มีลักษณะเป็นแถบสีขาว สลับสีดำ แสดงหรือทำให้ปรากฏที่ขอบคันหิน หรือสิ่งกีดขวางอื่น ๆ เพือ่ ให้ผู้ใช้ทางเหน็ ขอบคนั หิน หรือสิง่ กีดขวางนั้น ๆ ได้ชัดเจนยิง่ ขึ้น “ข้อความเตือน” หรือ “แนะนำบนพื้นทาง” แสดงอักษรข้อความหรือสัญลักษณ์ให้ปรากฏ บนพื้นทาง หรือในบางกรณีอาจใช้ภาษาอังกฤษ ที่เขา้ ใจงา่ ย และเป็นคำทีส่ ากลนิยม เพือ่ แนะนำ หรือเตือนการจราจร เช่น แสดงชื่อสถานที่ ต่อท้ายลูกศรเตือนให้ระมัดระวังสภาพทางหรือ การจราจร หมายความว่า ผู้ใช้ทางควรปฏิบัติตาม และ ระมัดระวังการใช้ทางใช้ช่องเดินรถหรือช่องจราจร ให้ถกู ต้อง เป็นต้น 75
ด้วยความปรารถนาดจี าก งานผลิตสอ่ื และสง่ เสรมิ ความปลอดภัย สว่ นส่งเสริมความปลอดภยั สำนกั สวัสดิภาพการขนสง่ ทางบก กรมการขนสง่ ทางบก โทร. 0-2271-8621 พิมพท์ ี ่ โรงพิมพ์ชมุ นมุ สหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย จำกัด 79 ถนนงามวงศ์วาน แขวงลาดยาว เขตจตุจกั ร กรงุ เทพมหานคร 10900 โทร. 0-2561-4567 โทรสาร 0-2579-5101 นายโชคดี ออสวุ รรณ ผู้พิมพ์ผู้โฆษณา พ.ศ. 2554
งานผลิตสอ่ื และสง่ เสรมิ ความปลอดภัย สำนักสวสั ดภิ าพการขนสง่ ทางบก กรมการขน ง่ ทางบก กระทรวงคมนาคม 1032 ถนนพหลโยธนิ แขวงจอมพล เขตจตุจกั ร กรงุ เทพมหานคร 10900
Search