ทกุ ขข์ องชาวนาในบทกวี
ทุกขข์ องชาวนาในบทกวี สมเดจ็ พระกนษิ ฐาธริ าชเจา้ กรมสมเดจ็ พระเทพรตั นราชสุดาฯ สยามบรมราชกมุ ารี
ผูแ้ ตง่ สมเดจ็ พระเทพรตั นราชสุดาฯ สยามบรมราชกมุ ารี สมเดจ็ พระกนิษฐาธริ าชเจา้ กรมสมเดจ็ พระเทพ รตั นราชสุดาฯ สยามบรมราชกมุ ารี ฉนั ทลกั ษณ์ ความเรยี ง (รอ้ ยแกว้ ) จุดประสงคก์ ารแต่ง -แสดงใหเ้หน็ ถงึ ความทกุ ขย์ ากลาํ บากของชาวนาผ่านบท กวี -แสดงพระราชดาํ รเิ ก่ยี วกบั บทกวกี ไทยและบทกวจี นี ซง่ึ กลา่ วถงึ ชวี ติ และความทกุ ขย์ ากของชาวนา ขอบคุณภาพ จาก https://th.lovepik.com/
ลกั ษณะการประพนั ธ์ บท หน่ึงบทมี ๔ วรรค วรรคที่๑เรียกวา่ วรรคสดบั วรรคท่ี๒เรียกว่าวรรครบั วรรคที่๓เรียกวา่ วรรครอง วรรคที่๔เรียกวา่ วรรคส่ง วรรคแรกมี ๕ คาํ วรรคหลงั มี ๖ คาํ = ๑๑
บทกลอนของ จติ ร ภมู ิศกั ด์ิ เปิบขา้ วทกุ คราวคาํ จงสูจาํ เป็นอาจณิ เหงอ่ื กูทส่ี ูกนิ จงึ ก่อเกดิ มาเป็นคน ขา้ วน้ีนะมรี ส ใหช้ นชมิ ทกุ ชนั้ ชน เบ้อื งหลงั สทิ กุ ขท์ น และขมขน่ื จนเขยี วคาว จากแรงมาเป็นรวง ระยะทางนน้ั เหยยี ดยาว จากรวงเป็นเมด็ พราว ลว้ นทกุ ขย์ ากลาํ เค็ญเขญ็ เหงอ่ื หยดสกั กห่ี ยาด ทกุ หยดหยาดลว้ นยากเยน็ ปูดโปนก่เี สน้ เอน็ จงึ แปรรวงมาเป็นกนิ นาํ้ เหงอ่ื ทเ่ี รอ่ื แดง และนาํ้ แรงอนั หลงั่ รนิ สายเลอื ดกูทง้ั ส้นิ ทส่ี ูซดกาํ ซาบฟนั 30 ปี ทแ่ี ลว้
บทกวขี อง หลเ่ี ซิน หว่านขา้ วในฤดูใบไมผ้ ลิ ขา้ วเมลด็ หน่งึ จะกลายเป็นหมน่ื เมลด็ ในฤดูใบไมร้ ่วง รอบขา้ งไมม่ นี าทไ่ี หนท้งิ วา่ ง แต่ชาวนาก็ยงั อดตาย ตอนอาทติ ยเ์ ทย่ี งวนั ชาวนายงั พรวนดนิ เหงอ่ื หยดบนดนิ ภายใตต้ น้ ขา้ ว ใครจะรูบ้ า้ งวา่ ในจานใบนนั้ ขา้ วแต่ละเมด็ คอื ความยากแคน้ แสนสาหสั 100 ปี ทแ่ี ลว้
การทาํ นาแบบไทย
แบบฝึ กหั วเิ คราะหแ์ ละเปรยี บเทยี บบทกวที ง้ั สอง ................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................
บทวเิ คราะห์ เปรียบเทยี บ เฉลย กลวธิ กี ารอธบิ ายนนั้ ใหค้ วามรเู้ ชงิ วรรณคดี เปรยี บเทยี บแกผ่ อู้ า่ น โดยทรงใชก้ ารเปรยี บเทยี บ วธิ กี ารนําเสนอของบทกวไี ทยและบทกวจี นี วา่ “ เทคนิคในการเขยี นของหลเ่ี ชนิ กบั ของจติ ร ต่างกนั คอื หลเ่ี ชนิ บรรยายภาพทเ่ี หน็ เหมอื นจติ กรวาด ภาพใหค้ นชม สว่ นจติ รใชว้ ธิ เี สมอื นกบั นําชาวนามา บรรยายเรอ่ื งของตนใหผ้ อู้ า่ นฟังไดด้ ว้ ยตนเอง ” บทกวขี องหลเ่ี ชนิ เป็นบทกวที เ่ี รยี บงา่ ย แต่แสดง ความขดั แยง้ อยา่ งชดั เจน คอื แมว้ า่ ในฤดกู าล เพาะปลกู ภมู อิ ากาศจะเออ้ื อาํ นวยใหพ้ ชื พนั ธุ์ ธญั ญาหารบรบิ รู ณ์ดี แตผ่ ลผลติ ไมไ่ ดต้ กเป็นของผผู้ ลติ คอื ชาวนา จติ รเหมอื นไดเ้ ลา่ เรอ่ื งราวใหผ้ อู้ ่านฟังดว้ ย ตนเอง แนวคดิ ของกวที งั้ สองคนกค็ ลา้ ยคลงึ กนั คอื ตอ้ งการสอ่ื ใหผ้ อู้ า่ นไดเ้ หน็ วา่ สภาพชวี ติ ชาวนาในทกุ แงม่ มุ และทกุ สมยั ประสบความทกุ ขย์ ากไมแ่ ตกต่างกนั
คุณค่าทางวรรณศิลป์ คณุ ค่าดา้ นภาษา 1. ดา้ นกลวธิ กี ารแต่ง เน่อื งจากมกี ารแสดง ลาํ ดบั ความคดิ ทช่ี ดั เจน ลาํ ดบั เรอ่ื งราวได้ เขา้ ใจงา่ ย และมสี ่วนประกอบของงานเขยี น ประเภทบทความ ไดแ้ ก่ ส่วนนาํ เน้อื เรอ่ื ง และส่วนสรปุ 2. สาํ หรบั กลวธิ กี ารอธบิ ายนนั้ ผูแ้ ต่งไดใ้ ห้ ความรูเ้ชงิ วรรณคดเี ปรยี บเทยี บ โดย เปรยี บเทยี บวธิ กี ารนาํ เสนอของกวไี ทยและ จนี และแนวคดิ ของกวที งั้ สองทต่ี อ้ งการสอ่ื ถงึ ผูอ้ ่าน
คณุ ค่าดา้ นสงั คม 1. ช้ใี หเ้หน็ ความยากลาํ บากของชาวนาทป่ี ลูก ขา้ ว 2. ไมว่ า่ จะเป็นในไทย จนี หรอื ทใ่ี ดแห่งใดใน โลก สภาพชวี ติ ของชาวนาก็ลว้ นลาํ บาก ยากแคน้ ลาํ เค็ญเช่นเดยี วกนั ไมว่ า่ จะผ่านไปก่ี ยุคสมยั กต็ าม 3. สภาพชวี ติ ของชาวนาทถ่ี กู เอารดั เอาเปรยี บอยู่ เสมอ แมว้ า่ ในบทความน้จี ะไมเ่ สนอแนว ทางการแกไ้ ขปญั หา แต่การช้ใี หเ้หน็ ถงึ ปญั หา ก็มผี ลใหส้ งั คมและหน่วยงานทเ่ี ก่ยี วขอ้ ง ตระหนกั ถงึ ความสาํ คญั ของชาวนา และ ปญั หาทช่ี าวนาตอ้ งประสบ ซง่ึ อาจนาํ ไปสูแ่ นว ทางการแกไ้ ขปญั หาได้
คุณค่าดา้ นปญั ญา 1. ทาํ ใหเ้ขา้ ใจความรูส้ กึ ของชาวนาทต่ี อ้ ง ประสบ ปญั หาต่างๆ 2. ทาํ ใหไ้ ดร้ ูถ้ งึ ความทกุ ขย์ ากความลาํ บากของ ชาวนาในการปลูกขา้ ว 3. ทาํ ใหไ้ ดเ้หน็ ถงึ คุณค่าของขา้ วทไ่ี ด้ รบั ประทาน เป็นอาหารหลกั ใน การ ดาํ รงชวี ติ อยู่ของมนุษย์ 4. พระราชนิพนธเ์ รอ่ื งทกุ ขข์ องชาวในบทกวี ยงั แสดง ใหเ้หน็ วา่ สมเดจ็ พระกนิษฐาธริ าช เจา้ กรมสมเดจ็ พระเทพรตั นราชสุดาฯ เขา้ พระทยั และเอาพระทยั ใส่ปญั หาการ ดาํ รงชวี ติ ของชาวนาไทย ทง้ั ยงั สะทอ้ นให้ เหน็ ถงึ พระเมตตาอนั เป่ียมลน้ ของ พระองคท์ ท่ี รง มตี ่อชาวนาผูม้ อี าชพี ปลูก ขา้ ว เป็นหลกั อกี ดว้ ย
จบ บทเรยี น เร่อื ง ทกุ ขข์ องชาวนาในบทกวี
Search
Read the Text Version
- 1 - 13
Pages: