Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore อ่านคล่อง เขียนได้ บทที่ 4-6

อ่านคล่อง เขียนได้ บทที่ 4-6

Published by piousji.psu, 2020-09-23 00:40:32

Description: ไพอัส ฮูไซนะ
โรงเรียนดารุลอามาน

Keywords: อ่านคล่อง เขียนได้ บทที่ 4-6

Search

Read the Text Version



๒ บทท่ี ๔ หนังสือคือเพ่ือน ณ. หมู่บ้านแห่งหน่ึง มีครอบครัวหน่ึงอาศัยอยู่กันอย่างมีความสุข ซึ่งประกอบไปด้วยพ่อแม่ และลูกสาว ลูกสาวมีชอ่ื วา่ หนูน้อย รอบๆบา้ นของหนูน้อยเตม็ ได้วยต้นไม้และดอกไม้นานาชนิด ทกุ ๆ เช้าพ่อและแม่จะชวนหนูน้อยมาทากับข้าวด้วยกันอยู่ตลอด เม่ือทากับข้าวเสร็จ พวเขาท้ังสามพากัน มารับประทานอาหารเชา้ ดว้ ยกนั พอ่ : ทานเยอะๆนะลูก!จะได้แขง็ แรง หนูนอ้ ย : คะ่ ! คณุ พอ่ คุณแมก่ ็ทานเยอะๆ เหมือนกันนะคะ คณุ แม่ : ดีมากค่ะลูก! หลังงจากรับประทานอาหารเสร็จต่างพากันออกไปรดน้าต้นไม้และดอกไม้หน้าบ้านท่ีส่งผล ผลิตและกลิ่นหอมทั่วบ้าน ในขณะท่ีคุณพ่อก้ำลังรดน้ำต้นไม้อยู่ ก็พูดกับหนูน้อยว่ำ ... “หนูน้อย ต้องเป็นเด็กดีของพอ่ กับแมต่ ลออดไปนะลูก” พอ่ ส่งสายตาย้ิมให้กบั ลกู สาว ต้นไม้กับดอกไม้เปรีบเสมือนมนุษณ์ท่ีต้องการน้าและอาหารเพ่ือหล่อเลี้ยงชีวิตให้มีความ เจริญเติบโตงอกงามสง่ ผลผลติ ออกมใ่ ห้เราได้กนิ ได้ขาย

๓ อยู่มาวันหน่ึง คุณพ่อของหนูน้องต้องไปติดต่องานท่ีต่างจังหวัดเป็นเวลา ๒ วัน หนูน้อยต้อง อยบู่ ้านกับคุณแม่สองคน วนั นี้หนนู อ้ ยไม่ไดไ้ ปโรงเรยี นเพราะเปน็ วนั หยุดเสาร์อาทิตย์ หนนู อ้ ย : เหงาจัง! คณุ แม่ คุณแม่ : เดียวเราไปหอ้ งหนงั สอื กัน คณุ แม่และหนูน้อยจงึ เดินเข้าไปห้องหนงั สอื ในหอ้ งน้ันก็เต็มไปด้วยหนงั สอื เพราะคุณพ่อกับคุณแม่ ชอบอ่านหนงสือมากๆ ทันใดน้นั ! หนังสือจึงร้องทักทาย หนูนอ้ ยวา่ ... “หยิบอ่ำนฉนั ซิ!!! ฉันมีควำมรมู้ ำกมำยเลยนะ ฉนั มชี ื่อวำ่ …เดก็ น่ำกบั คำ้ คลองจอง ส่วนฉนั มีช่ือวำ่ ... กลอนสพ่ี ำเพลนิ ” หนูน้อยตกใจ! แลว้ หนั ไปถามคณุ แม่ว่า... ทาไมหนนู ้อยต้องอ่านหนังสือดว้ ยค่ะ! คุณแม่ คณุ แม่สง่ สายตา ย้ิม...แล้วพดู วา่ ... “หยิบอ่ำนซิลกู ! หนังสือนนั มีประโยชนม์ ำกมำย อยำ่ งเช่น ใหค้ วำมรู้ ควำม บนั เทงิ ควำมเพลิดเพลนิ สร้ำงทกั ษะ ฝกึ สมำธิกระบวนกำรคดิ ” หลังงจากน้นั หนูน้อยจึงหยบิ อ่าน หนังสอื เร่อื ง…เดก็ นำ่ รกั กับค้ำคลองจอง หนูน้อย : พดู กับแมว่ า่ ...หนูน้อยเคยเรียนแล้วนะเร่อื งค้ำคลองจองครเู คยสอนแล้วเปน็ คำทมี่ เี สียงสระเหมือนกันมีตัวสะกดในมำตรำเดยี วกัน เช่น ไป – ได้ เทยี่ ว – เดี๋ยว คณุ แม่ : เก่งมากลกู สว่ นแม่ได้หยิบหนงั สือเร่ือง..กลอนส่ีพาเพลิน แม่เป็นคนชอบกลอนมากสมัยเรียน แม่ชอบแต่งกลอนมาก หนูน้อยและคุณแม่อยู่ในห้องหนังสือจนถึงเย็น เขาทั้งสองอ่าน หนงั สือกันอยา่ งเพลิดเพลิน

๔ หลังจากน้ันมา หนูน้อยชวนแม่มาห้องหนังสืออีกครั้ง เมื่อเวลาผ่านไปเป็นเดือน หนูน้อยก็เร่ิมชอบอ่านหนังสือ เร่ิมเห็นคุณค่าของหนังสือเพ่ิมขึ้นเร่ือยๆ เวลาว่างๆ หรือใน วนั หยุดก็พากันมาอา่ นห้องหนงั สอื อย่สู มา่ เสมอ เพราะหนูนอ้ ยคิดว่า “ หนงั สอื คือเพ่อื น” ท่ดี ีที่สุดสาหรบั เขา สามารถให้ความรู้ ความบันเทงิ ความเพลิดเพลิน และทสี่ าคญั สามารถพกพาไปได้ ทุกเวลาและทุกสถานที่ คำศพั ทน์ ่ำรู้ ค้ำศพั ท์ ควำมหมำย เครื่องหมายใชเ้ ขียนแทนเสียง หรือคาพูด , ลาย หนงั สอื ลักษณ์อกั ษร , ตวั อกั ษร สง่ิ ทีม่ ีประโยชน์หรือมีมลู ค่าสูง คณุ ค่ำ ( คุนค่ำ, คนุ นะคำ่ ) เสมอเปน็ ปรกติ เชน่ มาประชุมสมา่ เสมอ, เสมอ สม่้ำเสมอ ( สะ-หมฺ ำ่้ -สะ-เหมอ ) ตามกาหนด เชน่ ส่งดอกเบ้ียสม่าเสมอ เพลิดเพลิน สนุกสนานไม่ร้จู ักเบื่อ, สนกุ สนานจนลืมกังวล เอรด็ อรอ่ ย ( อะ-เหร็ด-อะ-หร่อย ) อร่อยเหลือเกนิ , อร่อยจนตดิ ใจ

๕ ค้ำถำมท้ำยบท คำ้ ชีเเจง ใหน้ ักเรยี นอำ่ นค้ำถำม พรอ้ มเขยี นค้ำตอบในชอ่ งใหถ้ ูกต้อง ๑. ตวั ละครในเร่อื งมีกีค่ นใครบา้ ง ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ๒. ทุกๆ เช้าหลงั ทานอาหารเช้าเสร็จ คณุ พ่อคุณแม่และหนูนดิ พากันไปไหน ไปทาอะไรบ้าง

๖ ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ๓. เพราะอะไรคณุ แม่ถึงชวนหนนู ดิ ไปหอ้ งหนังสือ ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ๔.เม่ือเวลาผ่านไปเป็นเดือนหนูนอ้ ยเร่มิ ชอบอา่ นหนงั สือเพราะอะไร ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ๕. นกั เรยี นชอบอา่ นหนังสือเร่ืองอะไรมากทีส่ ุด เพราะอะไร ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………… ช่ือ-สกุ ล………………………………………………..……………..ชันป……………..…เลขที …………… เกณฑ์คะเเนน ( ๕ แนน) ขนึ้ อย่กู บั ดุพินจิ ของผสู้ อน คำคล้องจอง

๗ คำ้ คล้องจอง คอื เปน็ คาท่ีมเี สยี งสระเหมือนกัน มตี ัวสะกดในมาตราเดยี วกนั มตี ัวสะกดใน มาตราเดียวกัน เช่น คำ้ คลอ้ งจอง ๑ ค้ำ ไป - ได้ เท่ียว – เดี่ยว กิน – ดนิ หา - ตา ค้ำคลอ้ งจอง ๒ ค้ำ เช่น ชั่วนา ตาปี ( นา คลอ้ งจองกับ ตา ) คอขาด บาดตาย (ขาด คล้องจองกบั บาด ) รู้มาก ยากนาน ( มาก คลอ้ งจองกับ ยาก ) ไว้เน้ือ เช่ือใจ ( เนอื้ คลอ้ งจองกับ เชื่อ ) หมูไป ไกม่ า ( ไป คลอ้ งจองกบั ไก่ ) ค้ำคล้องจอง ๓ ค้ำ เช่น ตอ่ ความยาว สาวความยดื ( ยาว คลอ้ งจองกับ สาว ) ขงิ กร็ า ขา่ กเ็ เรง ( รา คลอ้ งจองกบั ขา่ ยม้ิ ดว้ ยปาก ถากด้วยตา ( ปาก คล้องจองกับ ถาก ) ยใุ ห้รา ตาใหร้ ั่ว ( รา คลอ้ งจองกบั ตา ) ฝนส่ังฟ้า ปลาสั่งหนอง ( ฟา้ คล้องจองกับ ปลา ) คำ้ คลอ้ งจอง ๔ ค้ำ เช่น ( งาม คล้องจองกับ ยาม ) โลกแสนสวยงาม ยามลมพัดมา ( ฉัน คล้องจองกับ มนั ) ต้นไมข้ องฉัน มันมดี อกสวย แบบฝกึ หดั ๑.๑ เรื่องค้ำคล้องจอง

๘ ค้ำชแี จง ให้นกเรียนโยงเสน้ จับค่คู ้ำทคี่ ลอ้ งจองกนั แล้วระบำยสใี ห้สวยงำม นางฟ้า ใจดี สดใส พิเศษ มะลิ ตาโต โรงเรยี น เตาไฟ วนั เสาร์ เขยี นอ่าน ชอ่ื -นามสุกล………………………………………………..……………..ช้ันป……………..…เลขที …………… เกณฑ์คะเเนน ( ๕ แนน) ขึน้ อยู่กับดุพินิจของผสู้ อน

๙ แบบฝกึ หดั ๑.๒ เรอ่ื งค้ำคล้องจอง คำ้ ชีแจง ใหน้ ักเรียนเลอื กคาเติมลงในช่องว่าง ให้คลอ้ งจองกับคาทข่ี ีดเส้นใต้ ได้ บุ้ง เทิง ผา่ น ตา เจด็ เขยี น เท้า ทรุด แจม่ ผ่อน เมือง ๑. ยม้ิ แยม้ …………….ใส ๒. นักเรียน ……………..อ่าน ๓. พกั …………….. นอนหลับ ๔. เจบ็ ไข้ ……………ปว่ ย ๕. ผกั …………… กงุ้ ทอด ๖. ชารุด …………….โทรม ๗. รุง่ เรือง .................ทอง ๘. บัน................ เริงใจ ๙. สมั ............... กามือ ๑๐.ลูกเป็ด ...............ตวั ชอ่ื -นามสกุ ล………………………………………………..……………..ชน้ั ป……………..…เลขที ……………

๑๐ เกณฑ์คะเเนน ( ๕ แนน ขน้ึ อยู่กับดพุ นิ ิจของผู้สอน กลอนสี่ กลอนส่ี เป็นคาประพันธ์ประเภทกลอน ใน ๑ บท มี ๒ บาท ๑ บาท มี ๒ วรรค วรรคละ ๔ คา กลอนส่ี ตามหลักฐานทางวรรณคดีไทย กลอนส่ีที่เก่าที่สุดพบในมหาชาติคาหลวงกัณฑ์ มหาพน ( สมัยอยุธยา ) แต่ต่อมาไม่ปรากฏในวรรณคดีไทยมากนัก มักแทรกอยู่ตามกลอนบทละคร ตา่ ง ๆ ตัวอยำ่ งกลอนสอน หนักเอาเบาสู้ เขน็ ครกข้นึ เขา

๑๑ นอนหลับไมร่ ู้ นอนคไู้ มเ่ ห็น ถ่ีลอดตาชา้ ง หา่ งลอดตาเลน้ นา้ เย็นปลาตาย นา้ ร้อนปลาเปน็ ชมพร เพช็ รอนันตก์ ุล เรียบเรยี ง แบบฝึกหดั ๒.๑ เรื่องกลอนส่ี ค้ำชแี จง ให้นักเรียนโยงเสน้ สัมผสั ฉันลกั ษณ์กลอนส่ีที่ก้ำหนดให้

๑๒ ชอื่ -นามสุกล………………………………………………..……………..ชัน้ ป……………..…เลขที …………… เกณฑ์คะเเนน ( ๕ แนน) ขนึ้ อยกู่ ับดุพินิจของผสู้ อน แบบฝึกหดั ๒.๒ เรือ่ งกลอนส่ี คำ้ ชแี จง ใหน้ ักเรียนหำค้ำมำเติมในช่องวำ่ งที่ก้ำหนดให้เปน็ กลอนส่ี ๒ บท เด็กดี.........................................ควรเรง่ ........................................................ เรยี นรวู้ ิชา................................................................นามา........................................................... ขยนั ...........................................พากเพียรฝึกฝน รจู้ กั ...........................................................................เกดิ ผ.................................................... ........

๑๓ ชอื่ -นามสุกล………………………………………………..……………..ชั้นป……………..…เลขที …………… เกณฑ์คะเเนน ( ๕ แนน) ขน้ึ อยูก่ ับดุพนิ ิจของผ้สู อน ข้อสอบ NT ปี ๒๕๖๑ ค้ำชเี เจง ใหน้ กั เรยี นอ่ำนขอ้ ควำมท่ีก้ำหนดให้ พร้อมทังเขียนตอบลงในช่องว่ำงให้ถูกต้อง ๑. อ่านข้อความตอ่ ไปนแ้ี ลว้ ตอบคาถาม ลมหายใจทล่ี กึ ยาว บ่งบอกถึงการมีสขุ ภาพปอดและหัวใจทแี่ ขง็ แรงผู้ที่ออกกาลังกายเปน็ ประจา จะมกี ารหายใจลกึ และยาว และมีอัตราการเต้นของหัวใจเป็นปกติ จากข้อความข้างตน้ นกั เรียนคิดว่าเพราะอะไร ตอบมา ๒ ข้อ ๑............................................................................................................................ ................................. .................................................................................................. .............................................................. ............................................................................................................................. ................................... ๒............................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................... ............................................................................................................................. ................................... ................................................................................................................................................................ ๒. อา่ นขอ้ ความต่อไปน้แี ล้วตอบคาถาม

๑๔ น้าผ้ึง เป็นน้าหวานเข็มข้นที่มีกลิ่นหอมและมีรสชาติหวานอร่อย ช่วยบรรเทาอาการไอ แก้เจ็บ คอ ลดเสมหะ ช่วยบารุงผิวพรรณและต่อต้านอนุมูลอิสระ น้าผึ้งท่ีไม่ได้คุณภาพจะมีรสแปรี้ยว ผู้เป็น เบาหวานควรระมดั ระวงั เพราะอาจเพิม่ ระดบั นา้ ตาลในเลือด จากข้อความข้างต้นกล่าวถึงเรอื่ งใด เป็นสาคัญ ตอบ............................................................................................. ........................................................... ……………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………… ชอื่ -นามสกุ ล………………………………………………..……………..ช้นั ป……………..…เลขที …………… เกณฑ์คะเเนน ( ๕ แนน) ข้ึนอยกู่ บั ดุพินจิ ของผสู้ อน

๑๕ บทท่ี ๕ ครอบครัวพอเพียง บา้ นทแี่ สนอบอุ่นของลูกปลา มีสมาชกิ ทัง้ หมด ๓ คน ประกอบไปด้วย พ่อแม่และลกู ปลา ลูก ปลาเป็นเดก็ ดี ขยนั หมน่ั เพียร ไม่ฟุ่มเฟือย เพราะพอ่ สอนลูกปลาวา่ ให้ใชว้ วี ิตแบบพอเพียง พออยู่ พอ กิน พอมี พอใช้ หลังจากท่ีนอนตอนเช้าลูปปลาจะรีบไปให้อาหารเป็ด อาหารไก่ รดน้าแปลงผักและรดน้า ตน้ ไมพ้ ืชผกั สวนครัวของแม่ทุกวันกอ่ นไปโรงเรียน แม่ : ลูกปลารีบไปอาบน้าแต่งตัวแล้วมาทานอาหารเชา้ ได้แล้งลูกเดี๋ยวไปโรงเรียนสาย แม่ส่ง เสยี งเรียกลกู สาวที่กาลงั เพลิดเพลนิ กบั การรดนา้ แปลงผัก

๑๖ ลกู ปลา : คะ่ ! แม.่ ... จากน้ันลูกปลาจึงรีบไปอาบน้าแต่งตัวมากินข้าวพร้อมหน้าพร้อมตา กินข้าวเสร็จแม่ไปส่งลูก ปลาที่โรงเรียน “ ตั้งใจเรียนนะลูกเย็นน้ีแม่มารับ ” แม่พูดพร้อมกับชูสองนิ้วเพ่ือเป็นกาลังใจในการ เรียนให้กับลูกสาว หลังจากเข้าแถวเสร็จ นักเรียนต่างแยกย้ายเข้าห้องเรียน จากน้ันครูขวัญจึงเข้ามา สอน วันนี้ครูจะมาสอนเร่ือง เศรษฐกิจพอเพียง ใครรู้บ้างว่าเศรษฐกิจพอเพียงคืออะไร ครูขอตัวแทน ๑ คน ออกมาหน้าช้ันเรียน ใครจะอาสาออกมาค่ะ! “หนูเองค่ะ! ” ลูกปลายกมือขึ้นตอบและเดิน ออกมาหน้าห้องเรียนอย่างมั่นใจและอธิบายว่า “ คาว่าเศรษฐกิจพอเพียงคือ ความพอประมาณ การ ใชช้ วี ิตแบบพออยู่ พอมี พอใช้ ความพอดีท่ีไม่นอ้ ยและไมม่ ากจนเกนิ ไป ” เพอ่ื น ๆ ต่างให้ความสนใจ และปรบมือให้กบั ลกู ปลา หนาน่ี : เกง่ มากเลยลกู ปลา ไช่ ๆ เก่งมากเลยลูกปลา สายนา้ : สายน้าพดู เสริมดว้ ยความสนใจ เธอไปเอาครูมาจากไหน ลูกปลา : จากพ่อแม่ฉันเองแหละ เพราะพ่อเป็นเกษตรกรอาเภอมีความรู้มากมายเกี่ยวกับ เศรษฐกิจพอเพยี ง และท่บี า้ นฉนั ก็ใช้ชีวิตแบบพอเพยี ง ถา้ ใครสนใจไปเท่ียวที่บา้ นฉนั ไดน้ ะ ทกุ คนในห้องต่างพูดพร้อมกันว่า...อยากไปๆ ครแู ละเพ่ือนๆ ตา่ งสรุปเรอ่ื งเศรษฐกิจพอเพียงอีกคร้ังๆ พร้อมๆกัน ท้ายคาบครสู ่ังให้นกั เรียนช่วยกนั แต่งคาขวัญโดยแบ่งกลุ่มๆ ละ ๓ คน แล้วนามาสง่ คุณครู ในคาบต่อไป และให้ส่งตัวแทนของแต่ละกลุ่มออกมานาเสนอคาขวัญหน้าชั้นเรียน กลุ่มใดได้คะแนน มากท่สี ุดจะไดค้ าขวัญหน้าห้องเรยี นชนั้ ประถมศึกษาปีท่ี๓

๑๗ วนั เสาร์ลูกปลาและเพื่อน ๆ ได้นัดกันแตง่ คาขวัญและถือโอกาสให้ พ่อของลูกปลาได้อธิบายเรื่องเศรษฐกิจพอเพียงและชมแปลงผัก การเล้ียง เปด็ และไก่ เดก็ ๆ ตน่ื เตน้ มาก! หลงั จากได้เรยี นรูเ้ ร่อื งเศรษฐกิจพอเพยี ง เสร็จแล้ว ก้อได้ทานขนมหวานท่ีแม่เตรียมไว้ จากนั้นก็พากันมานั่งเป็นวง เพ่อื ชว่ ยกนั แตง่ คาขวญั อยา่ งสนกุ สนาน โดยมีแมเ่ ป็นตวั ช่วยใหค้ าปรึกษากับเด็ก ๆ เช้าวันต่อมาลูกปลาและเพื่อน ๆ ตื่นเต้นมาก เพราะครูให้ส่งตัวแทนออกมานาเสนอคาขวัญ หน้าชน้ั เรียน โดยลูกปลาเป็นคนออกไปนาเสนอหน้าห้องเรยี น ความพอเพียงเพียงพอไม่ก่อหนี้ ชีวติ น้จี ะมสี ุขทุกขไ์ ม่ข่ม ความพอดีดีหนกั หนาน่านิยม รว่ มชนื่ ชมตามรอยบาทชาตเิ จรญิ เพอ่ื น ๆในหอ้ งต่างปรบมือให้กับกลุ่มของลูกปลา เม่อื ทุกออกมานาเสนอครบทุกกลุม่ ครูจงึ ประกาศและยนิ ดีกบั กลุ่มท่ีได้คะแนนมากทส่ี ดุ ในห้องคือ กล่มุ ของลูกปลา ลูกปลาและเพ่ือนๆ ตา่ ง กอดกนั ดว้ ยความดีใจ ส่วนครูและเพ่ือน ๆ ในห้องต่างปรบมือเสียงดังทั่วหอ้ ง ค้ำศัพทน์ ่ำรู้

๑๘ คำ้ ศัพท์ ควำมหมำย เศรษฐกิจพอเพยี ง ปรัชญาที่พระบาทสมเดจ็ พระเจ้าอยู่หัว พระราชทานเป็นแนวทางการดารงชวี ิต และปฏิบัติตนของประชาชนต้ังแต่ระดับครอบครัว ระดับชุมชน จนถึงระดับรัฐ คาขวญั ให้ดาเนินไปในทางสายกลาง ไม่ประมาท ไม่โลภ ไม่เบียดเบียนผู้อ่ืน คานึงถึง ความพอประมาณ ความมีเหตุผล มีภูมิคุ้มกันในตัว ตลอดจนใช้ความรู้และ เกษตรกร คุณธรรม เป็นพื้นฐานในการดารงชีวิตให้รอดพ้นจากวิกฤติ มีความมั่นคงและ ยั่งยนื ท่ามกลางกระแสโลกาภิวตั น์และความเปล่ยี นแปลงต่าง ๆ (กะ-เสด-ตรฺ ะ-กอน ) ถ้อยคาท่ีแต่งขนึ้ เพอื่ เตือนใจหรอื เพ่ือใหเ้ ป็นสริ มิ งคล ผู้ทาเกษตรกรรม สวนครัว บริเวณทปี่ ลกู พืชผักท่ีใชเ้ ป็นอาหารในครัวเรือน เชน่ พรกิ มะเขือ ขา่ ตะไคร้ โหระพา

๑๙ คำ้ ถำมทำ้ ยบท คำ้ ชีเเจง ใหน้ ักเรียนอ่ำนค้ำถำม พร้อมเขยี นค้ำตอบในช่องให้ถูกต้อง ๑. ตัวละครในเร่อื งมีกี่คนใครบ้าง ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ๒. กอ่ นไปโรงเรียนลกู ปลาทากจิ กรรมอะไรบ้าง ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………... ๓. คาว่า เศรษฐกจิ พอเพียง หมายถึงอะไร ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………... ๔. คาขวญั ทลี่ กู ปลาและเพ่ือนๆ ชว่ ยกนั แตง่ คอื ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………... ๕. จากเรือ่ ง ครอบครวั พอเพียง ให้นกั เรยี นกเขียนสรปุ ใจความสาคัญจากเรื่อง ใคร: ............................................................................................................................. ............ ................................................................................................................................................................ ทาอะไร : ............................................................................................................................. .... ..................................................................................................................................................... ..........

๒๐ ที่ไหน : .................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ................................... อย่างไร : ................................................................................................................................. ............................................................................................................................. .................................. ชื่อ-นามสุกล………………………………………………..……………..ชนั้ ป……………..…เลขที …………… เกณฑ์คะเเนน ( ๕ แนน) ขนึ้ อยู่กับดุพนิ ิจของผู้สอน กำรอำ่ นค้ำทเี่ ปน็ อกั ษร ควบกลำ้ ค้ำควบกล้ำ คือ คาที่มีพยัญชนะสองตัวเขียนเรียงติดกันอยู่ต้นพยางค์ และใช้สระเดียวกัน เวลาอ่านออกเสียงกล้าเป็นพยางค์เดียวกัน เสียงวรรณยุกต์ของพยางค์น้ันจะผันเป็นไปตามเสียง พยญั ชนะตวั หนา้ คาควบกล้า มี 2 ชนดิ คอื คาควบแท้ และ ควบไมแ่ ท้ ค้ำควบแท้ ได้แก่ พยัญชนะ ร ล ว ควบกับพยัญชนะตัวหน้า ประสมสระตัว เดียวกนั เวลาอา่ นออกเสียงพยัญชนะท้ังสองตัวพร้อมกัน เช่น พยัญชนะต้นควบกบั ร ได้แก่ พรอ้ ม เพราะ ใคร กรอง ครองแครง ขรขุ ระ พระ ตรง ครั้ง กราบ โปรด ปรกั ปรา ปรบั ปรงุ คร้นื เครง เครง่ ครดั ครอบครวั โปรง่ พยญั ชนะต้นควบกบั ล ไดแ้ ก่ กลบเกลือ่ น กลมกลิง้ เกล้ียกลอ่ ม เกลียวคล่ืน เคลื่อน คล้อย ปลา ปลวก ปล่อย เปลีย่ นแปลง คลุกคลาน เพลิง เพลิดเพลนิ คลอ่ งแคลว่ พยัญชนะต้นควบกับ ว ได้แก่ แกว่งไกว กวาด กว่า ขวาง ขว้างขวาน ขวิด แขวน ขวนขวาย ควาย เคว้งควา้ ง ควา่ ควาญ ความ แคว้น ขวญั ควัน

๒๑ ค้ำควบไม่แท้ ได้แก่ พยัญชนะ \" ร \" ควบกับพยัญชนะตัวหน้าประสมสระตัว เดยี วกนั เวลาอา่ นไม่ออกเสยี ง \"ร\" ออกเสยี งเฉพาะตัวหนา้ หรอื มิฉะนน้ั กอ็ อกเสียง เปน็ เสียงอนื่ ไป คำ้ ควบไม่แทท้ ่ีออกเสียงเฉพำะพยัญชนะตัวหน้ำ ได้แก่พยัญชนะ จ ซ ศ ส ควบกับ ร เชน่ จริง ไซร้ เศร้าสร้อย ศรี ศรทั ธา เสริมสรา้ ง สระ สรง สรา่ ง คำ้ ควบไม่แท้ ท ควบกับ ร แลว้ ออกเสียงกลำยเป็น ซ ไดแ้ ก่ ทรง ทราบ ทราม ทราย แทรก ทรดุ โทรม มัทรี อนิ ทรี นนทรี พุทรา แบบฝกึ หดั ๑.๒ เรอ่ื ง ค้ำควบกลำ้ ค้ำชแี จง ใหน้ ักเรยี นฝึกอ่ำนเปน็ ค้ำแล้วฝึกเขยี นค้ำควบกล้ำจำกทกี่ ้ำหนดให้ ตะกร้า กระบุง กรุงไกร กราบ ขา้ วเกรยี บ ข้าวเกรียบ นอนกรน เกรียวกราว ไตร่รอง ตระเตรียม ติดตรงึ ตรอมตรม เป่าแตร เครง่ ครดั ชื่อตรง โปรยปราย ปรวนแปร ตราปัม้ ปรักปรา ปรองดอง ปราบปราม ผ่อนปรน ปรีดา ตาปรอย .................................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................................. ..................................................................................................................................................................

๒๒ .................................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................................. ช่ือ-นามสกุ ล………………………………………………..……………..ชั้นป……………..…เลขที …………… เกณฑ์คะเเนน ( ๕ แนน) ขึ้นอยูก่ บั ดุพินิจของผสู้ อน แบบฝกึ หดั ๑.๒ เรือ่ ง ค้ำควบกล้ำ คำ้ ชีแจง ให้นักรยี นนำ้ คำ้ ควบกล้ำท่กี ำ้ หนดให้ไปใส่ในตำรำงให้ถูกต้อง กราบพระ สายสรอ้ ย กวา้ งขวาง ครอบครวั ตน้ ไทร รับทราบ แพรวพราว จรงิ แท้ ดบั เพลงิ ตรากตร่า ทรวดทรง ทรัพย์สิน ก่อสร้าง ควาญช้าง กองทราย กล้นั แกลง้ พทุ รา สระนา้ เพลงเพราะ ครื้นเครง คำ้ ควบกลำ้ แท้ คำ้ ควบกล้ำไมแ่ ท้

๒๓ ชอื่ -นามสุกล………………………………………………..……………..ช้ันป……………..…เลขที …………… เกณฑ์คะเเนน ( ๕ แนน) กำรอำ่ นคำ้ ที่เปขน็ น้ึ อยูก่ ับดพุ นิ ิจของผสู้ อน อกั ษรน้ำ อกั ษรน้ำ คอื พยัญชนะ ๒ ตัว ประสมอยูในสระเดยี วกนั มีวธิ กี ารออกเสยี งอักษรนา ดงั น้ี ๑. อำนออกเสยี งรวมกนั สนิทเปนพยำงคเดียว ไดแก ๑.๑ เม่ือ ห นา อักษรต่าเดีย่ ว ไดแก ง ญ น ม ย ร ล เวลาอา่ นออกเสยี ง พยางคเดียวสูงตามเสยี ง ห เชน หงาย หญา หนอน ไหม หยาม หรือ หลาน ๑.๒ เมอื่ อ นา ย มี ๔ คา ไดแก อยา อยู อยาง อยาก ๒. อำนออกเสยี ง ๒ พยำงคพยำงคแรกออกเสียง อะ ก่ึงเสยี ง พยำงคหลงั ออก เสยี งตำมสระท่ปี ระสมอยูและออกเสียงเหมือน ห น้ำ ดงั นี ๒.๑ อกั ษรสูงน้ำอักษรต้ำ่ เป็นอักษรเด่ียว เชน ขนม อานวา ขะ-หนม

๒๔ ฉลาม อานวา ฉะ-หลาม สมดุ อานวา สะ-หมุด ๒.๒ อกั ษรกลำงนำ้ อักษรต่ำ้ ทเี่ ปนอักษรเดย่ี ว เชน จมกู อานวา จะ-หมกู ตลาด อานวา ตะ-หลาด องนุ อานวา อะ-หงุน แบบฝึกหัด ๒.๑ เรอ่ื ง อกั ษรน้ำ คำ้ ชีแจง ใหน้ ักเรยี นหำคำ้ ทมี่ อี กั ษรนำ้ ตำมท่กี ำ้ หนดให้ ๑. อ นา ย ........................... ............................ ................................. ................................... ๒. ห นา ว ........................... ............................ ................................. ................................... ๓. ห นา ล ........................... ............................ ................................. ...................................

๒๕ ๔. ห นา ง ........................... ............................ ................................. ................................... ๕. ห นา ม ........................... ............................ ................................. ................................... ๖. ห นา ร ........................... ............................ ................................. ................................... ๗. ห นา ย ........................... ............................ ................................. ................................... ๘. ห นา ญ ........................... ............................ ................................. ................................... ๙. ห นำ น ............................... .................................. ................................ ................................ ชือ่ -นามสกุ ล………………………………………………..……………..ชนั้ ป……………..…เลขที …………… เกณฑค์ ะเเนน ( ๕ แนน) ข้นึ อยู่กับดุพินจิ ของผ้สู อน แบบฝกึ หดั ๒.๒ เร่อื ง อกั ษรน้ำ คำ้ ชแี จง ใหน้ กั เรียนเขยี นคำ้ อำ่ นจำกคำ้ ทก่ี ้ำหนดให้

๒๖ ๑. ผลิต อ่านวา่ ..................................................................... ๒. ฝร้ัง อ่านวา่ ..................................................................... ๓. ศาสนา อา่ นว่า ..................................................................... ๔. ประโยชน์ อา่ นวา่ ..................................................................... ๕. ประวัตศิ าสตร์ อ่านวา่ ..................................................................... ๖. ขยบั อ่านวา่ ..................................................................... ๗. ปลดั อ่านว่า ..................................................................... ๘. รศั มี อ่านวา่ ..................................................................... ๙. ตารวด อ่านว่า ..................................................................... ๑๐.ปรารถนา อา่ นวา่ ..................................................................... ชื่อ-นามสกุ ล………………………………………………..……………..ชน้ั ป……………..…เลขที …………… เกณฑ์คะเเนน ( ๕ แนน) ขึน้ อย่กู บั ดุพนิ จิ ของผู้สอน กำรอ่ำนคำ้ แบบเรียงพยำงค์

๒๗ อำ่ นคำทีม่ พี ยัญชนะต้น ๒ ตัว แบบเรียงพยำงค์ พยัญชนะตัวหน้าเปน็ อักษรตำ่ นาพยญั ชนะตวั หลัง ง ญ น ย ร ล ว ซง่ึ เปน็ อักษรต่าดว้ ยกันให้อ่านออกเสียง อะ ที่พยางค์หลังออกเสยี งอักษรตา่ ประสมกับสระตามปกติ เช่น พงา อา่ นวา่ พะ – งา พญา อา่ นว่า พะ – ยา ทนาย อ่านวา่ ทะ – นาย ทยอย อา่ นวา่ ทะ – ยอย ชรา อา่ นวา่ ชะ – รา แบบฝึกหัด ๓.๑ เร่ือง กำรอำ่ นคำแบบเรยี งพยำงค์ ค้ำชีแจง ให้นกั เรยี นเขียนคำ้ อ่ำนจำกคำ้ ท่ีกำ้ หนดให้

๒๘ ๑. ชวา อ่านวา่ ..................................................................... ๒. พงา อ่านวา่ ..................................................................... ๓. พญา อ่านวา่ ..................................................................... ๔. ทนาย อ่านวา่ ..................................................................... ๕. ทยอย อ่านว่า ..................................................................... ๖. ชรา อา่ นวา่ ..................................................................... ๗. พลงั อ่านวา่ ..................................................................... ๘. สรุป อ่านวา่ ..................................................................... ๙. จริต อา่ นวา่ ..................................................................... ๑๐. สมาส อา่ นว่า ..................................................................... ช่อื -นามสกุ ล………………………………………………..……………..ชั้นป……………..…เลขที …………… เกณฑ์คะเเนน ( ๕ แนน) ข้ึนอย่กู ับดพุ นิ ิจของผู้สอน กำรอำ่ นคำเลียนแบบอักษรนำ

๒๙ อา่ นคาทเ่ี ลยี นแบบอักษรนา คาบางคา พยางค์หลงั ออกเสียงวรรณยุกต์ ตามเสียงพยัญชนะตน้ ของพยางคห์ น้า ซงึ่ เป็นอกั ษรสงู หรอื อกั ษรกลาง เชน่ กาเนดิ กา – เนิด ( เหนิด ออกเสยี งวรรณยกุ ตร์ ะดับเดยี วกับ เกดิ ดาริ อ่านวา่ ดา – หฺริ ดารัส อา่ นว่า ดา – หรฺ ดั ตารวจ อ่านว่า ตา – หฺรวด ประโยชน์ อ่านวา่ ประ – โหยฺ ด ประวัติ อา่ นวา่ ประ – หวฺ ดั สารวจ อา่ นว่า สา – หฺรวด สาเรจ็ อ่านว่า สา – เหฺร็ด สิริ อ่านวา่ สิ – หรฺ ิ แบบฝึกหัด ๔.๑

๓๐ เร่ือง กำรอ่ำนคำเลยี นแบบอักษรนำ คำ้ ชแี จง ใหน้ กั เรยี นเขียนคำ้ อำ่ นจำกคำ้ ทีก่ ้ำหนดให้ ๑. ดาริ อ่านว่า ...................................................................................... ๒. ดารสั อ่านว่า ...................................................................................... ๓. ตารวจ อ่านวา่ ...................................................................................... ๔. ประโยชน์ อา่ นวา่ ...................................................................................... ๕. ประวตั ิ อา่ นวา่ ...................................................................................... ๖. สารวจ อ่านวา่ ...................................................................................... ๗. สาเร็จ อา่ นว่า ...................................................................................... ๘. สริ ิ อา่ นวา่ ...................................................................................... ชื่อ-นามสกุ ล………………………………………………..……………..ชั้นป……………..…เลขที ……………

๓๑ เกณฑ์คะเเนน ( ๕ แนน) ข้ึนอย่กู ับดุพนิ ิจของผสู้ อน แบบฝึกหัด ๔.๒ เร่อื ง กำรอ่ำนคำเลียนแบบอกั ษรนำ ค้ำชแี จง ใหน้ ักเรยี นแตง่ ประโยคจำกคำ้ ที่ก้ำหนดให้ ๑. ประโยชน์ : …………………………………………………………………………………………………………. ๒. ตารวจ : …………………………………………………………………………………………………………..... ๓. ประวัติ : …………………………………………………………………………………………………………..... ๔. สาเร็จ : …………………………………………………………………………………………………………....... ๕. สารวจ : ………………………………………………………………………………………………………….....

๓๒ ชื่อ-นามสกุ ล………………………………………………..……………..ชนั้ ป……………..…เลขที …………… เกณฑ์คะเเนน ( ๕ แนน) ขนึ้ อยู่กับดพุ ินจิ ของผสู้ อน คำ้ ขวญั คาขวัญ หมายถึง ถ้อยคา ขอ้ ความ คาคล้องจอง หรือบทกลอนส้นั ๆ เพอ่ื ให้จาไดง้ ่าย โดยอาจแบง่ ได้เป็น ๒ ประเภทดังน้ี ถ้อยคาหรอื ข้อความ ทีแ่ ตง่ ขึ้น เพอื่ เป็นเคร่ืองเตอื นใจ แสดงอดุ มคติ หรือเป้าหมายของกลุ่มหรอื องคก์ รนั้นๆ เชน่ คาขวญั วนั เด็ก คาขวญั ประจาโรงเรยี น เปน็ ต้น อ่ำนคำ้ ขวญั ค้ำขวญั จงั หวัดนรำธวิ ำส “ทกั ษณิ รำชตำ้ หนัก ชนรกั ศำสนำ นรำทศั น์เพลินตำ ปำโจตรงึ ใจ แหลง่ ใหญแ่ ร่ทอง ลองกองหอมหวำน”

๓๓ แบบฝึกหดั ๕.๑ เรื่อง ค้ำขวัญ คำ้ ชีแจง ให้นักเรยี นอ่ำนค้ำขวัญจำกคำ้ ที่ก้ำหนดให้ตำมคณุ ครูแลว้ อำ่ นเปน็ รำยคน มำรยำทงำม น้ำใจดี ทกุ ชีวี จะปลอดภัย อำกำศเป็นพศิ ขวี ิตจะสัน ตน้ ไมเ้ ท่ำนัน ทังกันและกัน ประเทศเป็นบ้ำน ทหำรเปน็ รัว เด็กดเี ป็นศรแี กช่ ำติ เดก็ ฉลำดชำตเิ จริญ ขับเร็วชดิ ขวำ ขบั ช้ำชิดซ้ำย สะอำดกำยเจรญิ วัย สะอำดใจเจริญสุข ยิมกันวนั ละนดิ จิตแจม่ ใส

๓๔ ชื่อ-นามสุกล………………………………………………..……………..ชน้ั ป……………..…เลขที …………… เกณฑ์คะเเนน ( ๕ แนน) ขนึ้ อยกู่ ับดพุ ินิจของผสู้ อน แบบฝึกหดั ๕.๒ เรื่อง ค้ำขวญั คำ้ ชแี จง้ ใหน้ ักเรียนเตมิ ค้ำขวัญตอ่ ไปนี ให้เปน็ ค้ำกะทัดรัดและคลอ้ งจองกัน ๑. ยม้ิ กนั วันละนดิ ......................................................................................... ๒. ป่าไมม้ ีคณุ คา่ ........................................................................................... ๓. พลังงานมีคุณค่า ...................................................................................... ๔. ประเทศเปน็ บา้ น ...................................................................................... ๕. เด็กดีเปน็ ศรีแก่ชาติ ...................................................................................

๓๕ ชื่อ-นามสุกล………………………………………………..……………..ชั้นป……………..…เลขที …………… เกณฑ์คะเเนน ( ๕ แนน) ขนึ้ อยูก่ ับดพุ นิ จิ ของผสู้ อน ขอ้ สอบ NT ปี ๒๕๖๑ ค้ำชเี เจง ให้นักเรยี นเลอื กค้ำตอบที่ถกู ต้องท่ีสดุ เพยี งค้ำตอบเดียวจำ้ นวนขอ้ ๑ และ ข้อ ๒ ๑. คนโบราณ ไม่กินทิงกินขว้ำง เม่ือกับข้าวเหลือก็จะเก็บไว้กินมื้อต่อไป หรือบางครั้งจะนา อาหารมาผสมโน่นผสมนเ่ี พ่ิมเติมจนไดอ้ าหารจานใหม่ท่ีนา่ รับประทาน เช่น แกงโฮะ คาท่ขี ีดเสน้ ใตม้ ีความหมายสอดคล้องกบั ข้อใด ๑.) การปรุงอาหาร ๒.) การถนอมอาหาร ๓.) การรคู้ ณุ คา่ ของอาหาร ๔.) การเลือกรบั ประทานอาหาร ๒. อา่ นบทสนทนาแลว้ ตอบคาถาม วีณา : เธอเขา้ ไปดูการ สำธติ ทาขนมต้มแลว้ หรอื ยัง ธิดา : ยงั ไมไ่ ดเ้ ขา้ ไปดเู ลยจ้ะ สถานที่คบั แคบ และนักเรยี นเขา้ ไปดูพร้อมกนั หลายคน บทสนทนา คาทข่ี ดี เส้นใต้มีความหมายสอดคล้องกบั ข้อใด

๓๖ ๑.) ปา้ สอนให้มานีทากระทง ๒.) แมบ่ อกวธิ กี ารเยบ็ ผ้าใหล้ กู สาว ๓.) พอ่ ใหม้ านะชว่ ยปลูกตน้ ไมใ้ นสวน ๔.) ลุงสานตะกร้าให้หลานดูเป็นตัวอยา่ ง ๓. ให้นกั เรยี นอ่านนิทานแล้วตอบคาถาม กระต่ายตัวหน่ึง ต้องการข้ามแม่น้าไปฝ่ังตรงข้าม ทันใดน้ันมันเห็นจระเข้ว่ายไปมากลาง แม่น้าจึงร้องตะโกนขอร้องให้จระเข้พาข้ามแม่น้า จระเข้เม่ือได้ยินเช่นนั้น ก็นึกดีใจว่าวันน้ีจะมีอาหาร อันโอชะแล้ว จึงรับอาสาพากระต่ายข้ามแม่น้า กระตา่ ยจึงขหี่ ลงั จระเขไ้ ป นกั เรียนคิดวา่ น่าจะเกดิ เหตุการณ์ใดขนึ้ ต่อไปนี้ ใหน้ กั เรยี นตอบคาถามพอสงั เขป ............................................................................................................................. ............................ ......................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ........................... ช่ือ-นามสกุ ล………………………………………………..……………..ชัน้ ป……………..…เลขที …………… เกณฑค์ ะเเนน ( ๕ แนน) ข้นึ อยกู่ บั ดพุ ินิจของผสู้ อน

๓๗ ปิ ดเทอมของฉัน… กบั นิทำนมหำสนุก กริ๊ง กรงิ๊ กริง๊ เสยี งโทรศพั ท์ดังข้นึ แต่เช้ามืด ...

๓๘ สวัสดคี ะ่ !! เสียงคณุ แม่รบั สาย คณุ แม่ : คะ่ ! พ่อ ลูกๆกาลงั แต่งตวั อยคู่ ่ะ พ่อ : จะเดินทางกันก่โี มง เดยี วกร็ ถติดถึงดึกๆ หรอก สง่ สารหลาน ๆ แม่ : จะเดินทางเวลา ๐๖.๓๐ น. เย็น ๆ นา่ จะถงึ บ้านเย็นๆ ค่ะพอ่ ปดิ เทอมใหญ่ของทุก ๆ ปี พอ่ และแมจ่ ะพาลกู ๆ กลบั บา้ นตา่ งจังหวัด ครอบครวั ของฟา้ ใสประกอบไปด้วยพ่อแม่ฟ้าใสและน้องสาวมชี ื่อว่าฟา้ ใหม่ เวลา ๐๖:๓๐ น. ถึงเวลาได้เดินทางไปบ้านคุณตากับรถสวนตัว คุณพ่อส่งเสียงถามลูกๆ ว่า พร้อมยังเด็ก ๆ ลูกๆตอบกลับมาว่า พร้อมค่ะคุณพ่อ... ระหว่างทางฟ้าใสและน้องฟ้าใหม่หลับตลอด ทาง ใช้เวลาเดินทางประมาณ ๑๐ ชัวโมง เมื่อถึงซอยเข้าหมู่บ้านของคุณตา แม่ได้ปลุกเด็ก ๆ ต่ืน ระหว่างทางเข้าบ้านคุณตามีต้นไมเ้ ขียวขจีตลอดทาง มีชาวนาหลายคนกาลงั เก่ียวข้าวอยู่ในทุ่งนาอัน กวา้ งใหญ่ และมีเด็กๆ หลายคนกาลังเลน่ ว่าวกนั อย่างสนกุ สนานอยูก่ ลางทุ่ง ฟ้าใส : วา้ ว!! … คณุ มคี นกาลงั เลน่ ว่าวด้วยคะ่ ! ฟ้าใหม่ : ไช่ ๆ มีคนกาลังเกีย่ วข้าวและเล่นวา่ ว หนูอยากเลน่ วา่ วดว้ ยจัง เสียงออน ของฟา้ ใหม่ คุณแม่ : คณุ แม่แทรกขึน้ มาว่า สมัยแมเ่ ดก็ ๆ กจ็ ะชว่ ย คุณยายเกยี่ วขา้ ว เผลอ ๆ ก็แอบไปเลน่ ว่าว จาได้วา่ ตอนนนั้ แมม่ คี วาม สุขมาก ๆ เลยแหละ ทุก ๆ ปีกจ็ ะมีการจดั งานประเพณีลงแขกเกย่ี วข้าวสืบสาน ประเพณีไทยควบคู่กับการใช้ชีวิตตามวิถีชาวนาไทย และมีการแข่งขันว่าวด้วย แต่เสียดายไม่ได้จัดมา หลายปีแลว้ เพราะตา่ งคนตา่ งออกไปหางานทาท่ีกรงุ เทพฯ เหลือแคไ่ มค่ นทย่ี ังคงทาอาชพี ชาวนาอยู่ พ่อขับรถเข้าบ้านคุณตาอย่างช้าๆ เพราะบ้านคุณตาเป็นบ้านในสวน โดยมีคุณตาคุณยายรอ รับหลานๆ อยู่หนา้ บ้าน หนา้ ตาคุณตากับคณุ ยายดูเบกิ บานและมคี วามสขุ เชียวแหละ !! ที่จะได้เจอกับ หลานๆ เม่ือพ่อจอดรถ เด็กๆ ว่ิงลงจากรถเข้าโอบกอดคุณตาคุณยายอย่างอบอุ่น ด้วยความที่ไม่เจอ กันนาน เพราะแม่จะพามาหาคุณตาแค่เทอมละคร้ัง พ่อกับแม่ทางานประจาจึงไม่สามารถลางานได้ บ่อยๆ ไปๆ ข้ึนบ้านกัน ไปอาบน้านะหลาน เสร็จแล้วก็ลงมากินข้าวใต้ถุนบ้านกัน คุณยายพูดข้ึนมา ยายเตรียมกับข้าวอร่อยๆ รอหลานๆ หลายอย่างเลยแหละ! ของชอบของหลานๆ ทั้งน้ันเลยนะ เม่ือ เสร็จจากการอาบน้าแต่งตัวแลว้ กพ็ ากันลงไปรับประทานอาหารใต้ถนุ บ้านที่มีลมเย็นๆ พัดไปมา เสร็จ จากการรบั ประทานอาหารกต็ ่างแยกยา้ ยกันเขา้ นอน เพราะเหน่อื ยและล้ากับการเดนิ ทางมาทั้งวัน

๓๙ เช้าวันรุ่งข้ึน หลงั รบั ประทานอาหารเช้าเสรจ็ คุณตาก็นั่งคุยกับหลาน ๆ อยา่ งสนุกสนานและ มีความสขุ ฟา้ ใส : เม่ือว่านระหว่างทางเข้าบ้านคุณตา หนูเหน็ คนกาลงั เกยี่ วข้าวและว่าวด้วยนะ หนูและ น้องอยากเล่นวา่ วด้วยจงั นา่ จะสนุกมากเลย แตห่ นูอยากฟังนิทานมากกว่าค่ะ คณุ ตา : คุณตาหัวเราะห์ดังขึ้น อะไรนะ อยากเลน่ วา่ ว แต่อยากฟงั นทิ านมากกวา่ อีก ไว้ พรงุ่ นต้ี าจะทาว่าวให้ แต่ต้องตอบคาถามจากนทิ านท่ีจะเล่าให้ฟังก่อนนะ ฟ้าใสและน้องฟ้าใหม่ก็ตกลง และต้ังหน้าตั้งตารอฟังนิทานจากคุณตาอย่างต้ังใจ โดยคุณตา เลา่ ว่า นิทานเรอ่ื งนม้ี ีชื่อวา่ “ ฤๅษเี ลียงลิง ” ตั้งใจฟงั ให้ดี ๆ นะ กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว มีฤๅษีใจดีตนหน่ึงบาเพ็ญเพียรด้วยจิตใจ เบิกบานในป่าอันแสนสวยงามและอุดมสมบรูณ์ บริเวณใกล้ๆอาศรมของ ฤๅษีนั้นเป็นที่อยู่อาศัยและหาอาหารของเจ้าลิงน้อยตัวหน่ึงด้วยความท่ีมี บ้านใกล้กนั เจา้ ลิงและฤๅษจี ึงมคี วามคุ้นเคยกันเปน็ อยา่ งดี บ่อยครง้ั ท่ีฤๅษนี า อาหารมาให้เจา้ ลิง จนเจา้ ลิงเคยตัวไม่ยอมไปหาอาหารกนิ เอง นับตั้งแต่น้ัน มาฤๅษีผู้ใจดีจงึ รับเลี้ยงเจ้าลิงไว้ ทุกวันฤๅษีจะต้องหาอาหารมาให้เจ้าลิงถึง ๓ ม้ือ กร๊อบ กร๊อบ กร๊อบ อร่อยจังเลยต่อไปนี้เราจะไม่ต้องไปหาอาหารกินเองแล้วสินะ ฮ่า ฮ่า ฮ่า เช้าวันหนึ่ง เจ้าลิง มาท่ี อาศรม ไหนลองค้นดูสิมีอะไรน่ากินบ้างเราจะกินให้หมดเลย ฤๅษีมาเห็นจึงตะโกนว่าหยุดนะเจ้าลงิ มัน ไม่ใช่ของเล่นของเจ้า หยุด หยดุ หยุด หยุดเดยี วน้ี ฤๅษีจึงตอ้ งเจอแต่เรื่องวุ่นวายทาให้ฤๅษปี วดหัว จน เริ่มจะทนไม่ไหว ฤาษีจึงเดินคิดไตร่ตรองว่าควรจะทาอย่างไรกับเจ้าลิงตัวน้ีดี หลังจากนั้นฤๅษีก็ไม่ให้ อาหารเจ้าลิงอีก และแกล้งทาเป็นไม่สนใจเดินผ่านเจ้าลิงไป เม่ือเจ้าลิงเห็นดังน้ันก็เลยคิดได้ว่าตัวเอง ทาใหเ้ ป็นแบบน้ัน จงึ รสู้ ึกเสยี ใจมาก เม่ือคุณตาเล่าเร่ืองเสร็จ ก็ได้ถามว่า นิทานสนุกไม แล้วนิทานเรื่องน้ีให้ข้อคิดอะไรบ้าง ตอบ ตาได้ไหม ฟ้าใสยกมือขึ้นอย่างม้ันใจว่า “ การที่เรารอคอยคนอ่ืนมาช่วยเหลืออยู่ตลอดเวลา สักวัน หนึ่งเราไม่มีเขาเราก็อยู่ไม่ได้ ฉะน้ัน จึงศึกษาและเรียนรู้ด้วยตัวของเราเอง ” ตาและคุณยายและคุณ พอ่ คณุ แม่ต่างปรบมอื ให้กบั ฟ้าใส เก่งมากเลยลูก แล้วคนอ่ืนๆ ตอบตาได้ไหม ทุกคนต่างหังเราะหแ์ ละ แสดงความคิดเห็นอย่างสนุกสนาน ทุกๆ ครั้งท่ีกลับมาหาคุณตาก็จะมีนิทานมาเล่าให้หลาน ๆ ฟังอยู่ ตลอด

๔๐ ค้ำศัพท์น่ำรู้ ค้ำศัพท์ ควำมหมำย นทิ าน เร่อื งท่ีเลา่ กันมา เชน่ นทิ านชาดก นทิ านอสี ป วา่ ว เครอ่ื งเลน่ อย่างหนึ่ง มีไม้ไผเ่ ป็นตน้ ผกู เปน็ โครงรูปต่าง ๆ แล้วปิดด้วยกระดาษหรือ ผา้ บาง ๆ มีสายเชอื กหรือปา่ นผกู กบั สายซงุ สาหรับชักให้ลอยตามลมสงู ข้ึนไปใน ขอ้ คิด อากาศ มีหลายชนดิ เชน่ วา่ วจุฬา ว่าวปกั เปา้ วา่ วงู ฤๅษี ประเด็นทเี่ สนอใหค้ ิด, ประเด็นทีช่ วนคดิ นกั บวชพวกหน่ึง มีมากอ่ นพุทธกาล สละบ้านเรอื นออกไปบาเพญ็ พรตแสวงหา ความสงบ

๔๑ ค้ำถำมทำ้ ยบท คำ้ ชีเเจง ใหน้ ักเรยี นอ่ำนค้ำถำม พร้อมเขยี นค้ำตอบในช่องให้ถกู ต้อง ๑. ตวั ละครในเรอื่ งมีก่ีคนใครบ้าง? ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ๒. ทุก ๆ ปใี นชว่ งปิดเทอมพ่อและแมจ่ ะพาฟ้าใสและน้องฟ้าใหม่ไปท่ีไหน ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………... ๓. คุณตาเล่านทิ านเรอื่ งอะไรทใ่ี ห้หลาน ๆ ฟัง ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… . ๔. นิทานเรอ่ื ง “ ฤๅษเี ลยี งลิง ” ท่ีคณุ ตาเล่าให้หลานๆ ฟงั ใหข้ ้อคิดอะไรบา้ ง ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………

๔๒ ๕. จากเรื่อง “ ปิดเทอมของฉนั กบั นทิ ำนมหำสนกุ ” ให้นักเรียนกเขยี นสรุปใจความสาคัญจากเรื่อง ใคร: ......................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ................................... ทาอะไร : ................................................................................................................................. ............................................................................................................................. .................................. ............................................................................................................................. ................................... ที่ไหน : ............................................................................................................................. ....... ........................................................................................................................... ..................................... อย่างไร : ............................................................................................................................. .... ............................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. .................................. ชือ่ -นามสุกล………………………………………………..……………..ชั้นป……………..…เลขที …………… เกณฑ์คะเเนน ( ๕ แนน) ขน้ึ อยกู่ บั ดพุ นิ จิ ของผสู้ อน คำ้ ทมี่ ีตัว ฤ ฤๅ ฤ จะมีใช้อยู่ไม่มากนัก การอ่านคาออกเสยี งท่ีมี ฤ ประสมอยู่ อาจแตกตา่ งกนั ไป เราจะมขี ้อสงั เกตบางประการในการใชแ้ ละออกเสยี งได้ดังน้ี ๑. ใช้โดดๆ มีความหมายว่า หรือ, ไม่ มักใชใ้ นคาประพันธ์ต่างๆ เช่น ฤจะใช่ หมายความว่า หรือจะใช่ ฤบงั ควร หมายความวา่ ไม่บงั ควร ๒. ใช้เปน็ คาหน่ึงพยางค์ หรอื เปน็ พยางค์หนา้ หรือหลงั ของคา โดยออกเสียง ริ รึ หรอื เรอ ได้ คอื อ่านออกเสียง ริ เชน่ ฤทธ์ิ อ่านว่า ริด สมั ฤทธ์ิ อ่านว่า สา - ริด อ่านออกเสยี ง รึ เช่น ฤทยั อ่านวา่ รึ - ไท นฤนาท อ่านว่า นะ - รึ - นาด

๔๓ อ่านออกเสียง เรอ เชน่ ฤกษ์ อ่านวา่ เริก ๓. ใชป้ ระสมกับพยญั ชนะซ่ึงจะแทนท้ังสระและ ร ควบ สระ ฤ ท่ีใชป้ ระสมกับ พยัญชนะดงั กล่าวจะไมม่ ีหลักในการอ่านทแี่ นน่ อน แต่มีข้อสังเกตดงั นี้ ประสมกบั ก ท ป ต มกั จะอา่ นออกเสยี ง ริ เชน่ องั กฤษ อ่านวา่ องั - กริด ทฤษฎี อ่านวา่ ทริด - สะ - ดี ( หมายถึง แบบ ) ปฤษฎางค์ อ่านวา่ ปริด - สะ - ดาง ( คาราชาศัพท์ หมายถงึ หลัง ) ตฤณมัย อา่ นวา่ ตรนิ - นะ - ไม ( หมายถงึ สนามหญ้า ) ประสมกบั พ ม มักจะอา่ นออกเสยี ง รึ เชน่ พฤศจิกายน อ่านว่า พรึด - สะ - จิ - กา - ยน พฤกษา อา่ นวา่ พรึก - สา มฤคทายวนั อ่านวา่ มะ - รกึ - คะ - ทา - ยะ – วนั ฤำ ในปจั จบุ ันไมน่ ิยมใช้ จะใช้เฉพำะในคำ้ ประพันธ์เท่ำนนั ฤำ มีวิธใี ช้ ๒ วิธีคือ ๑. ใชโ้ ดดๆ ไมป่ ระสมพยญั ชนะแปลวา่ หรอื อะไร ไม่ ไม่ใช่ เชน่ ฤาเบา = ไมเ่ บา (หมายถงึ ไม่ใช้นอ้ ย) ทาฤา = ทาอะไร ๒. ใชเ้ ปน็ พยางคห์ น้าคา เชน่ ฤาดี = ยินดี ฤาสาย = เชอื้ สายท่ีเลอื งลือ ฤๅษี =นักบวชอยใู่ นปา่ ***** ฤ เป็นสระทมี่ วี ิธใี ช้ และวิธอี ่านหลายอย่างแตกต่างกัน ดังนั้นเราควรฝึกสงั เกตการ อ่าน และจดจาไวเ้ พ่ือจะไดใ้ ชใ้ ห้ถกู ตอ้ ง *****

๔๔ แบบฝกึ หดั ๑.๑ เรือ่ ง คำ้ ที่มตี ัว ฤ ฤๅ

๔๕ คำ้ ชแี จง้ ใหน้ ักเรยี นเขียนคำ้ อ่ำนจำกค้ำทีก่ ้ำหนดให้ ๑. ทฤษฎี อ่านวา่ ....................................................................................................... ๒. ฤทธ์ิ อา่ นว่า ....................................................................................................... ๓. สมั ฤทธ์ิ อ่านว่า ....................................................................................................... ๔. ฤทัย อ่านว่า ....................................................................................................... ๕. นฤนาท อ่านว่า ....................................................................................................... ๖. ฤกษ์ อา่ นวา่ ....................................................................................................... ๗. ฤดู อ่านวา่ ....................................................................................................... ๘. พฤศจิกายน อา่ นว่า ....................................................................................................... ๙. พฤกษา อา่ นว่า ....................................................................................................... ๑๐.พฤหัสบดี อ่านวา่ ....................................................................................................... ชือ่ -นามสกุ ล………………………………………………..……………..ชั้นป……………..…เลขที …………… เกณฑ์คะเเนน ( ๕ แนน) ขนึ้ อยูก่ ับดุพนิ ิจของผสู้ อน แบบฝึกหัด ๑.๒

๔๖ เรื่อง ค้ำทมี่ ีตัว ฤ ฤๅ คำ้ ชีแจง ให้นกั เรียนแตง่ ประโยคจำกค้ำทกี่ ำ้ หนดให้ ๑. ฤดู แต่งประโยค : ...................................................................................................... ๒. ฤษี แตง่ ประโยค : ...................................................................................................... ๓. พฤหสั บดี แต่งประโยค : ..................................................................................................... ๔. พฤศจิกายน แตง่ ประโยค : ...................................................................................................... ๕. พฤษภาคม แตง่ ประโยค : ...................................................................................................... ๖. ประพฤติ แตง่ ประโยค : ...................................................................................................... ๗. องั กฤษ แตง่ ประโยค : ...................................................................................................... ๘. ทฤษฎี แต่งประโยค : ...................................................................................................... ๙. ฤทยั แต่งประโยค : ...................................................................................................... ๑๐. ฤๅดี แตง่ ประโยค : .....................................................................................................

๔๗ ชอ่ื -นามสุกล………………………………………………..……………..ช้ันป……………..…เลขที …………… เกณฑ์คะเเนน ( ๕ แนน) ขน้ึ อยกู่ ับดุพนิ ิจของผสู้ อน คำ้ ท่ีใช้ บัน บรร การเขียน บัน- และ บรร- ทเ่ี ปน็ พยางคห์ น้าของคา ทัง้ นหี้ มายถงึ คาไทยซึ่งมักจะใช้สับสนกัน เพราะไมม่ ีหลักเกณฑท์ ่ีตายตวั ๑. บัน- ใชเ้ ป็นพยำงค์หนำ้ ของคำ้ ตอ่ ไปนี บนั ดาล บันได บันทึก บนั กวด บนั จวบ บนั จวบ บนั จอย บันโหย บันดล บนั เดนิ บนั เทงิ บนั ลอื บันโดย บนั ทงึ บันยะบันยัง บันเหิน แต่ถ้าจาคากลอนตอ่ ไปน้จี ะช่วยให้การเขียนผดิ พลาดน้อยลง นอกจากจะเปน็ คาลกึ ซง้ึ จรงิ ๆ แต่ถ้าเปน็ คาที่ใช้กนั อยู่สามญั แล้วจะเขียนไม่ผิดเลย คำ้ ไทยทีใ่ ช้ “บนั ” นำ้ หนำ้ บันดาลลงบันได บนั ทึกใหด้ ูจงดี ร่ืนเรงิ บันเทงิ มี เสียงบนั ลอื สนั่นดัง บันเหินไปจากรวงรงั บนั โดยบนั โหยให้ บันเดินนั่งนอนบันดล บนั ทึงถึงความหลงั บันจวบจดั ตกแตง่ ตน ระวังปนกบั “ร– หนั ” บันกวดเอาลวดรดั คา “บัน” น้ันฉงน ๒. บรร- ใช้เปน็ พยำงคห์ น้ำของคำ้ ทแี่ ผลงมำจำก ประ- เช่น บรรจง แผลงมาจาก ประจง บรรจบ แผลงมาจาก ประจบ บรรจุ แผลงมาจาก ประจุ บรรทุก แผลงมาจาก ประทุก

บรรเทา แผลงมาจาก ๔๘ บรรลัย แผลงมาจาก บรรลุ แผลงมาจาก ประเทา บรรเลง แผลงมาจาก ประลัย ประลุ ประเลง แบบฝึกหดั ๒.๑ เร่อื ง ค้ำทใี่ ช้ บนั บรร คำ้ ชีแจง ใหน้ กั เรยี นหำค้ำท่ีใช้ “ บัน ” และ “ บรร ” ๑๐ คำ้ แลว้ นำ้ มำแตง่ ประโยค ค้ำ ประโยค

๔๙ ชื่อ-นามสุกล………………………………………………..……………..ชน้ั ป……………..…เลขที …………… เกณฑ์คะเเนน ( ๕ แนน) ข้ึนอยู่กับดุพนิ ิจของผ้สู อน แบบฝกึ หดั ๒.๒ เร่ือง คำ้ ท่ีใช้ บัน บรร คำ้ ชแี จง ใหน้ ักเรียนฝกึ อำ่ นแล้วขดี เส้นใตค้ ำ้ ทใ่ี ช้ “ บัน ” จำกที่กำ้ หนดให้ บนั ดาลลงบนั ได บันทึกใหด้ จู งดี รื่นเรงิ บนั เทิงมี เสียงบนั ลือสน่ันดงั บนั เหินไปจากรวงรัง บันโดยบนั โหยให้ บนั เดนิ นง่ั นอนบนั ดล บันทึงถึงความหลัง บันจวบจัดตกแต่งตน ระวงั ปนกบั “ร– หนั บันกวดเอาลวดรัด คา “บนั ” นัน้ ฉงน

๕๐ ช่อื -นามสกุ ล………………………………………………..……………..ชน้ั ป……………..…เลขที …………… เกณฑ์คะเเนน ( ๕ แนน) ขนึ้ อยู่กับดพุ นิ จิ ของผสู้ อน ค้ำทีใ่ ช้ รร ( ร หัน ) รร (รอ – หัน) เป็นตัวอักษรท่ีแผลงมาจาก รฺ ( รอ – เร – ผะ ) ในภาษาสนั สกฤต ในภาษาไทย รร ออกเป็นเสียงสระ -ะ (อะ) หรือสระ -ะ + น ( อัน ) ดังนี้ ๑. รร ออกเสียงเปน็ อะ และพยญั ชนะทต่ี ำมมำเป็นตัวสะกด ( รร = อะ + พยัญชนะสะกด ) เชน่ กรรม อ่านวา่ กัม ธรรม อา่ นว่า ทัม มรรค อ่านว่า มกั วรรค อ่านว่า วกั สรรพ อ่านว่า สับ ๒. รร ออกเสียงเปน็ อนั ( รร = อะ + น ) เช่น กรรไกร อ่านวา่ กัน + ไกร จรรยา อา่ นวา่ จนั + ยา บรรดา อ่านว่า บัน + ดา สรรหา อา่ นวา่ สนั + หา


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook