01.แผนการพัฒนาตนเองรายบุคคล (ID Plan) ประจำปีการศึกษา 2564 เสร็จ

บันทกึ ข้อความ ส่วนราชการ โรงเรียนไชยฉมิ พลีวทิ ยาคม ท…่ี …………………………………………………………….….. วนั ท่ี 1 มิถนุ ายน พ.ศ. 2564 เร่อื ง ขออนมุ ตั ิแผนการพฒั นาตนเองรายบคุ คล (ID Plan) ประจาปีการศึกษา 2564 เรียน ผอู้ านวยการโรงเรียนไชยฉิมพลีวทิ ยาคม ด้วยข้าพเจ้านางสาววิลาวัลย์ จุลนันท์ ตาแหน่งครูอัตราจ้าง กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี ได้จดั ทาแผนการพฒั นาตนเองรายบุคคล (ID Plan) เพื่อเป็นการวางแผนการพัฒนาตนเอง เพ่อื การ ปฏิบัติงานในสถานศึกษาใหม้ ีคุณภาพ ตามสมรรถนะหลัก สมรรถนะประจาสายงาน และรายงานความต้องการใน การพัฒนาตนเอง เพ่ือนาความรู้ท่ีได้รับจากการเข้ารับการพัฒนาตนเองมาพัฒนาการจัดการเรียนการสอนให้มี ประสทิ ธภิ าพมากยง่ิ ขึน้ ในการน้ี ข้าพเจ้าขอให้ผู้อานวยการโรงเรียนอนุมัติแผนพัฒนาตนเองรายบุคคล (ID Plan) ปี การศึกษา 2564 สาหรับประกอบเปน็ หลกั ฐานในการเข้าพัฒนาตนเองต่อไป จงึ เรยี นมาเพอ่ื โปรดพิจารณา .................................................... (นางสาววิลาวัลย์ จุลนนั ท์) ตาแหนง่ ครูอัตราจา้ ง กลุ่มสาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ความเหน็ ของผู้อานวยการโรงเรยี น ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. .................................................... (นางสาวสุวภี อยุ้ นอง) ผู้อานวยการโรงเรยี นไชยฉมิ พลวี ิทยาคม

คานา การวางแผนการพัฒนาตนเองในการจัดห้องเรียนที่มีคุณภาพ (Individual Development Planning : ID Plan) เป็นการพัฒนาท่ีสนองตอบความต้องการของบุคคล ตอบสนองความสนใจในรูปแบบวิธีการพัฒนาที่จะ สง่ ผลต่อสมรรถนะในการปฏิบัติหน้าท่ีให้มีประสิทธิภาพ ท่ีตรงกับกระทรวงศึกษาธกิ าร ทม่ี ุ่งเน้นให้ครแู ละบุคลากร ทางการศึกษา พัฒนาตนเองโดยยึดหลักการประเมินสมรรถนะ (Competency Based Approach) ท่ีทาให้ ผู้ปฏิบัติงานสามารถรู้จุดเด่น จุดด้อยของความสามารถในการปฏิบัติงานของตน และสามารถพัฒนาตนเองให้ สอดคล้องกับความตอ้ งการท่ีจาเป็นของหน่วยงานและของตนเองอย่างแทจ้ ริง มกี ารพฒั นาอยา่ งต่อเนือ่ ง ทาใหก้ าร ปฏิบัติหน้าที่ มีความสมบูรณ์มีประสิทธิภาพและเกิดประสิทธิผลในการปฏิบัติงาน อันนาไปสู่การพัฒนาตนเองให้ เป็นครูมืออาชีพท่ีมีมาตรฐานในการปฏิบัติงานอย่างแท้จริงสามารถตรวจสอบได้ รายงานฉบับนี้ประกอบไปด้วย 3 ส่วน ไดแ้ ก่ ส่วนท่ี 1 ขอ้ มลู ส่วนบคุ คล สว่ นที่ 2 ผลการประเมนิ ตนเอง ส่วนที่ 3 แผนการพัฒนาตนเอง ในการกาหนดแผนพัฒนาคร้ังนี้เพ่ือสนองความต้องการของข้าพเจ้า จึงหวังอย่างยิ่งว่าการวางแผนพัฒนา ตนเองฉบบั น้ีจะมปี ระโยชนแ์ ก่ผ้สู นใจ วลิ าวัลย์ จลุ นันท์

สารบญั หนา้ 1 เรือ่ ง 1 ส่วนท่ี 1 ข้อมูลส่วนบคุ คล 1 1. ขอ้ มลู สว่ นบุคคล 2 2. วชิ า/สาขา/กล่มุ สาระการเรยี นรู้ที่ทาการสอน 2 3. ผลงานทเ่ี กิดจากการปฏบิ ัตหิ น้าทใี่ นตาแหน่งปจั จุบนั 2 2 3.1 ผลที่เกิดจากการเรยี นรู้ 3 3.2 ผลทเ่ี กิดจากการพัฒนาวชิ าการ 3 3.3 ผลที่เกดิ กับผเู้ รยี น 4 3.4 ผลท่เี กิดกบั สถานศึกษา 4 3.5 ผลทีเ่ กิดกับชุมชน 4 สว่ นท่ี 2 ผลการประมนิ ตนเอง 5 ตอนท่ี 1 ผลการประเมินตนเองตามกรอบของ ก.ค.ศ. 6 ดา้ นที่ 1 ความรคู้ วามสามารถในการปฏิบัตงิ านในหน้าท่ี 7 ดา้ นท่ี 2 ทักษะการปฏบิ ตั ิงาน 8 ด้านที่ 3 ความเปน็ ครู 8 ตอนที่ 2 ผลการประเมนิ ศักยภาพของผเู้ รียนในสถานศึกษาตามจุดเน้นของ สพฐ. 10 ตอนที่ 3 ผลการประเมินศาสตร์การสอน ตามกรอบแนวคิดของหลักสตู รของสถาบันคุรุพัฒนา 10 สรปุ ผลการประเมินตนเอง 10 สว่ นท่ี 3 แผนการพัฒนาตนเอง 10 1. อันดับความสาคัญ/สมรรถนะที่จะพัฒนา 10 2. วธิ ีการ/รปู แบบการพัฒนา 3. ระยะเวลาในการพฒั นา 4. ประโยชนท์ คี่ าดวา่ จะไดร้ บั

สว่ นที่ 1 ข้อมูลสว่ นบคุ คล 1. ขอ้ มลู ส่วนบุคคล ชอื่ นางสาววลิ าวัลย์ ชอื่ สกลุ จลุ นันท์ ตาแหน่ง ครู อตั ราจา้ ง กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี คุณวุฒิทางการศึกษา 1. วุฒปิ รญิ ญาตรี ครุศาสตร์บณั ฑติ (คบ.) วิชาเอก คอมพวิ เตอร์ศกึ ษา จากสถาบันการศึกษา มหาวทิ ยาลัยราชภัฏธนบรุ ี เข้าปฏบิ ัตงิ าน วนั ที่ 1 เดอื น เมษายน พ.ศ. 2560 ณ โรงเรียนไชยฉมิ พลีวทิ ยาคม สงั กัด สานักงานเขตพ้ืนท่กี ารศกึ ษามัธยมศึกษากรงุ เทพมหานคร เขต 1 อายรุ าชการจนถึงปจั จบุ นั 4 ปี 5 เดือน อัตราเงินเดอื น 15,000 บาท 2. วชิ า/สาขา/กลุ่มสาระการเรียนรู้ที่ทาการสอน ว22103 วทิ ยาการคานวณ กล่มุ สาระวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ว23103 วทิ ยาการคานวณ 3 กลุ่มสาระวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ว23103 วทิ ยาการคานวณ กล่มุ สาระวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ว30283 คอมพิวเตอร์กราฟฟิก กลุ่มสาระวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ว30285 การนาเสนอสอื่ ประสม กลุ่มสาระวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี 3. ผลงานทเ่ี กิดจากการปฏบิ ัติหนา้ ท่ีในตาแหน่งปัจจุบัน 3.1 ผลท่ีเกิดจากการจดั การเรยี นรู้ 1.1 จัดทาแผนการจัดการเรียนรู้ รายวิชาวิทยาการคานวณ ท่ีมีการวิเคราะห์หลักสูตรแกนกลาง การศึกษาข้ันพื้นฐานพุทธศักราช 2551 และหลักสูตรสถานศึกษา มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวช้ีวัด และผลการเรยี นรู้ อยา่ งถูกตอ้ ง 1.2 มีการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยเน้นให้ผู้เรียนได้ปฏบิ ัติกิจกรรม (Active Learning) โดยเน้น ผู้เรียนเปน็ สาคัญ ด้วยกจิ กรรมทีห่ ลากหลายและสอดคลอ้ งกับธรรมชาตขิ องวชิ าวทิ ยาการคานวณ 1.3 มีแนวทางในการบริหารจัดการช้ันเรียนและจัดบรรยากาศในชั้นเรียนที่เหมาะสมและช่วย สง่ เสริมการเรยี นรขู้ องนกั เรยี น และมรี ะบบดูแลชว่ ยเหลือผู้เรียนทีม่ ีคณุ ภาพ 1.4 มีเครื่องมือการวัดและประเมินผลที่มีคุณภาพ มีความหลากหลายในการประเมินอย่างรอบ ด้าน ทั้งด้านความรู้ ด้านทักษะและกระบวนการ และด้านคุณลักษณะอันพึงประสงค์ รวมไปถึงสมรรถนะที่สาคัญ ของผเู้ รยี น และเนน้ การประเมินตามสภาพจริง 1.5 มีการแก้ปัญหาในชั้นเรียนด้วยกระบวนการวิจัยในชั้นเรียน โดยเน้นปัญหาท่ีพบเจอจากการ จดั กิจกรรมการเรียนรู้ หรอื ปญั หาจากการเรียนรู้ของนักเรยี น

1.6 มีส่ือ นวัตกรรมการเรียนรู้ และแหล่งการเรียนสาหรับใช้ประกอบการจัดการเรียนรู้ และให้ นักเรียนไว้สืบค้นเพ่ิมเติม เช่น เอกสารประกอบการเรียน ส่ือสไลด์ คลิปวิดีโอ และเว็บไซต์ และนาเทคโนโลยี ทางการศึกษาเข้ามาปรับใชใ้ นการจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ 3.2 ผลทเ่ี กดิ จากการพฒั นาวิชาการ 1) มีกิจกรรมท่ีส่งเสริมให้นักเรียนได้ใช้ความคิด กล้าแสดงออก และการแก้ปัญหาในรายวิชา วิทยาการคานวณ เช่นกิจกรรม Padlet ซ่ึงเป็นกิจกรรมท่ีให้นักเรียนได้แสดงความคิดเห็นออนไลน์ ผ่าน www.padlet.com , กิจกรรม Quizizz ซ่ึงเป็นกิจกรรมที่ให้นักเรียนทบทวนความรู้โดยการเล่นเกมผ่านเว็บไซต์ www.quizizz.com 2) มีกจิ กรรมบูรณาการเนือ้ หาในหอ้ งเรียนกบั ศาสตร์อน่ื ๆ ผ่านโจทย์ปญั หา 3.3 ผลที่เกิดกบั ผูเ้ รยี น 1) นักเรยี นมีผลสมั ฤทธ์ทิ างการเรยี นตามเกณฑท์ ีก่ าหนด 2) นกั เรียนมีระดับทกั ษะและกระบวนการทางเทคโนโลยี ผ่านเกณฑ์ท่ีครผู ้สู อนกาหนดไว้ 3) นักเรยี นมีระดบั คุณลักษณะอันพึงประสงค์ ผา่ นเกณฑท์ ีค่ รผู ู้สอนกาหนดไว้ 4) นกั เรยี นมชี ้นิ งาน/ผลงาน ทส่ี ะท้อนความคิดข้ันสงู เชน่ การคดิ วิเคราะห์ การสงั เคราะห์ การประเมินคา่ และความคดิ สร้างสรรค์ชัน้ งาน โดยใชค้ วามรูแ้ ละเน้ือหา 5)นกั เรยี นสามารถค้นควา้ หาความร้จู ากแหลง่ เรยี นรูท้ ี่ครูได้รวบรวมและแนะนาให้ได้อย่างถูกต้อง 3.4 ผลทเี่ กิดกบั สถานศกึ ษา 1) มีบรรยากาศทัง้ ภายในและภายนอกหอ้ งเรยี นท่ีเอ้ือต่อการเรยี นร้ขู องครูและนักเรยี น 2) โรงเรยี นไดร้ บั การสนับสนุนจากผู้ปกครอง ชมุ นุม หนว่ ยงาน องคก์ รตา่ งๆ 3) มีระบบการทางานทีเ่ ป็นทมี และมแี นวทางการทางานทเ่ี ปน็ ข้ันตอนชดั เจน 4) การนิเทศติดตามผลการปฏิบัติงานของครูทาให้การปฏิบัติงานมีความสมบูรณ์ และเป็นไปตาม เวลาที่กาหนด 5) มแี นวปฏบิ ัติด้านเอกสาร หลกั ฐานทางการศึกษาท่ีถกู ต้อง 6) การพัฒนางานมรี ะบบถูกตอ้ งและครบวงจร 3.5 ผลท่ีเกิดกบั ชุมชน 1) เกิดความสมั พันธท์ ี่ดีกับผ้ปู กครองนักเรียน และชมุ ชน 2) มีกจิ กรรมทางสังคมในด้านตา่ ง ๆ ร่วมกับชมุ ชนอยา่ งสม่าเสมอ 3) เปน็ แหลง่ เรยี นร้ทู ีส่ ามารถใหบ้ ุคคลภายนอกเขา้ มาศกึ ษาได้

ส่วนท่ี 2 ผลการประเมินตนเอง ตอนท่ี 1 ผลการประเมินตนเองตามกรอบของ ก.ค.ศ. ระดบั ความรู้ ดา้ นท่ี 1 ความรู้ความสามารถในการปฏิบตั ิงานในหนา้ ที่ มมี าก ปานกลาง มีนอ้ ย (3) (2) (1) รายการพิจารณาตนเอง  1. เนอื้ หา ในรายวชิ า/กลมุ่ สาระการเรียนรู้ ท่ีสอน  2. วธิ สี อน ถา่ ยทอดความร้เู ชิงเนื้อหา กิจกรรม บรบิ ท เปา้ หมายการ เรยี นรู้ ความรพู้ ้ืนฐาน การปรบั พ้ืนฐาน และอุปสรรคการเรียนรขู้ อง  ผ้เู รียน  3. หลกั การสอน และกระบวนการเรียนรู้ 4. หลกั สูตร การออกแบบ วางแผนการใช้ ประเมนิ และแนวทางการ  เรยี นรู้ในแตล่ ะเนือ้ หา  5. พน้ื ฐานการศึกษา หลักการศกึ ษา ปรัชญาการศึกษา จิตวิทยาสังคม   นโยบายการศกึ ษา จดุ มุ่งหมายการจัดการศึกษาต้งั แต่ระดบั ชาติ  จนถึงระดบั หลกั สูตร 9 12 6. การจัดการศึกษาแบบรวม และการตอบสนองตอ่ ความหลากหลาย 21 / ระดับปานกลาง ของผูเ้ รียน 7. ทฤษฎีการเรยี นรู้ และจิตวิทยาการเรียนรู้ 8. การใชเ้ ทคโนโลยี และสอื่ นวัตกรรมเพ่ือการเรียนรู้ 9. การวดั และประเมินผลการเรียนรู้ รวม คะแนนรวม / แปลผล เกณฑ์ คะแนน 9 – 15 ระดับความร้นู ้อย คะแนน 16 – 21 ระดบั ความรูป้ านกลาง คะแนน 22 – 27 ระดบั ความร้มู าก จากผลการประเมิน พบว่า ความรู้ความสามารถในการปฏิบตั ิงานในหน้าที่ โดยรวมอยู่ในระดับปานกลาง เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่า ควรได้รับการส่งเสริมในด้านวิธีสอน ถ่ายทอดความรู้เชิงเน้ือหา กิจกรรม บริบท เป้าหมายการเรียนรู้ความรู้พื้นฐาน การปรับพื้นฐาน และอุปสรรคการเรียนรู้ของผู้เรียน หลักการสอน และ กระบวนการเรียนรู้ การจัดการศึกษาแบบรวม และการตอบสนองต่อความหลากหลายของผู้เรียน ทฤษฎีการ เรียนรู้ และจิตวิทยาการเรยี นรู้ การใช้เทคโนโลยี และสื่อนวัตกรรมเพื่อการเรียนรู้ และการวัดและประเมินผลการ เรียนรู้

ดา้ นที่ 2 ทักษะการปฏิบัติงาน ระดับความสามารถ รายการพจิ ารณาตนเอง ทาได้ดี พอใช้ ไม่คอ่ ยไดท้ า (3) (2) (1) 1. การสรา้ งและหรือพฒั นาหลกั สูตร 2. การออกแบบหน่วยการเรยี นรู้  3. การจดั ทาแผนการจดั การเรยี นรู้ 4. กลยุทธ์ในการจดั การเรยี นรู้  5. การพฒั นาคุณภาพผูเ้ รยี น (ผลสัมฤทธ์ิ คุณลกั ษณะ สมรรถนะ) 6. การสร้างและการพัฒนาส่ือ นวัตกรรม เทคโนโลยีทางการ  ศึกษาและแหลง่ เรียนรู้  7. การวดั และประเมินผลการเรียนรู้ 8. การวิจัยเพอ่ื พฒั นาคุณภาพผเู้ รยี น  รวม  คะแนนรวม / การแปลผล   18 4 22 / อยู่ในระดับมาก เกณฑ์ คะแนน 8 – 13 ระดับทกั ษะน้อย คะแนน 14 – 19 ระดับทักษะปานกลาง คะแนน 20 – 24 ระดบั ทักษะมาก จากผลการประเมนิ พบว่า ทักษะการปฏิบัติงาน โดยรวมอยู่ในระดับมาก เม่ือพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่า ควรได้รับการส่งเสริมในเรื่องของกลยุทธ์ในการจัดการเรียนรู้ เพ่ือส่งเสริมให้นักเรียนได้รับการพัฒนาด้วย กระบวนการท่ีหลากหลายและเน้นให้ผู้เรียนได้ปฏบิ ัติกิจกรรมการเรียนรู้ มากกว่าการท่ีครูเป็นผู้บอกความรู้ให้กบั ผู้เรียน และการสร้างและการพัฒนาสื่อ นวัตกรรม เทคโนโลยีทางการศึกษาและแหล่งเรียนรู้ ให้มีความทันสมัย สอดคล้องกบั สถานการณ์ในปัจจุบันมากข้นึ

ดา้ นท่ี 3 ความเปน็ ครู ระดับความเปน็ ครู รายการพจิ ารณาตนเอง สูงมาก ปานกลาง ยังต้อง ปรับปรุง 1. ยดึ มัน่ ผกู พนั ศรทั ธาในวิชาชพี และทุ่มเทเพือ่ การเรียนรู้ของ (3) (2) (1) ผ้เู รียน  2. มีคุณธรรม จรยิ ธรรม และปฏบิ ตั ติ นเป็นแบบอย่างทีด่ ีแก่ผเู้ รียน ทงั้ กาย วาจา และจติ ใจ ดารงตนให้เปน็ ทเ่ี คารพ ศรัทธา และ  นา่ เชือ่ ถอื ทั้งในและนอกสถานศึกษา  3. ปฏิบตั ติ นตามจรรยาบรรณวชิ าชพี ครู  4. มีวินัยและการรกั ษาวินยั 5. เป็นบคุ คลแห่งการเรียนรู้ ปรบั ปรงุ และพัฒนาตนเองอย่าง  ตอ่ เน่อื งให้มคี วามรู้ความชานาญในวชิ าชีพเพ่ิมข้นึ  6. ปฏิบัตติ นโดยนาหลกั ปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพยี งมาใช้  7. มีทัศนคติทดี่ ีต่อบา้ นเมือง  8. มุ่งประโยชน์สว่ นรว่ มในการพัฒนาคณุ ภาพทางการศึกษา 24 รวม 24 / อยใู่ นระดับมาก คะแนนรวม / การแปลผล เกณฑ์ คะแนน 8 – 13 ระดบั ความเปน็ ครนู ้อย คะแนน 14 – 19 ระดับความเปน็ ครูปานกลาง คะแนน 20 – 24 ระดับความเปน็ ครมู าก จากผลการประเมิน พบว่า ความเป็นครู โดยรวมอยู่ในระดับมาก เม่ือพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่า ทุก ประเด็นมรี ะดับคะแนนทีแ่ สดงถึงความเปน็ ครูอยใู่ นระดบั มาก

ตอนท่ี 2 ผลการประเมนิ ศกั ยภาพของผเู้ รียนในสถานศกึ ษาตามจุดเนน้ ของ สพฐ. รายการศกั ยภาพผ้เู รยี นตามจุดเน้นของ สพฐ. ระดับศกั ยภาพ สงู มาก ปานกลาง ยงั ตอ้ งปรบั ปรุง 1. ดา้ นอ่านออก อ่านคล่อง เขียนได้ เขยี นคลอ่ ง (3) (2) (1) 2. ด้านคิดเลขเป็น คิดเลขคล่อง 3. ดา้ นการคิดข้นั พ้ืนฐาน  4. ดา้ นการคดิ ข้ันสงู  5. ด้านการสอ่ื สารอย่างสรา้ งสรรค์ตามช่วงวัย 6. ด้านการใช้ภาษาต่างประเทศ (ภาษาอังกฤษ)  7. ดา้ นการใช้เทคโนโลยเี พื่อการเรียนรู้  8. ดา้ นการแสวงหาความรดู้ ้วยตนเอง 9. ด้านใฝเ่ รยี นรู้  10. ด้านใฝด่ ี  11. ด้านทกั ษะชีวิต 12. ดา้ นอย่อู ย่างพอเพยี ง มุง่ มน่ั ในการศกึ ษาและการทางาน   รวม  คะแนนรวม / การแปลผล    6 10 5 21 / อยู่ในระดับปานกลาง เกณฑ์ คะแนน 12 – 20 ระดับศักยภาพน้อย คะแนน 21 – 28 ระดบั ศกั ยภาพปานกลาง คะแนน 29 – 36 ระดับศักยภาพสูงมาก จากผลการประเมิน พบว่า ระดับศักยภาพของผู้เรียนในสถานศึกษาตามจุดเน้นของ สพฐ. โดยรวมอยู่ใน ระดับปานกลาง เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่า ด้านท่ีต้องได้รับการปรับปรุง คือ ด้านคิดเลขเป็น คิดเลขคล่อง ด้านการคิดข้ันสูง ด้านการใช้ภาษาต่างประเทศ (ภาษาอังกฤษ) ด้านการแสวงหาความรู้ด้วยตนเอง ด้านใฝ่เรียนรู้ และระดบั ศักยภาพอยูใ่ นระดับปานกลาง คือ ด้านอา่ นออก อ่านคล่อง เขียนได้ เขียนคล่อง ด้านการคิดขั้นพื้นฐาน ด้านการส่ือสารอย่างสร้างสรรค์ตามช่วงวัย ด้านการใช้เทคโนโลยีเพ่ือการเรียนรู้ และด้านอยู่อย่างพอเพียง มุ่งม่ัน ในการศึกษาและการทางาน ทจี่ ะต้องได้รบั การส่งเสริมในลาดับตอ่ มา

ตอนที่ 3 ผลการประเมินศาสตรก์ ารสอน ตามกรอบแนวคดิ ของหลกั สตู รของสถาบนั ครุ ุพฒั นา รายการศาสตรก์ ารสอน ตามกรอบแนวคดิ ของ ระดับศกั ยภาพ หลักสตู รของสถาบนั คุรุพัฒนา สูงมาก ปานกลาง ยงั ตอ้ งปรับปรุง 1. การสอนในศตวรรษท่ี 21 2. การแกปญหาผูเรียน (3) (2) (1) 3. จิตวิทยาการแนะแนว/จิตวิทยาการจัดการเรยี นรู้ 4. การจดั การช้ันเรียน  5. การวิจยั พฒั นาการเรยี นการสอน/ชมุ ชนแหง่ การเรยี นรูทางวิชาชีพ 6. การพัฒนาหลักสตู ร  7. สะเตม็ ศึกษา (STEM Education) 8. การใช้ส่อื และเทคโนโลยีในการจัดการเรยี นรู  9. การวัดและประเมินผลการเรียนรู 10. การออกแบบการเรยี นรู  รวม  คะแนนรวม / การแปลผล      12 10 1 23 / อยูใ่ นระดบั ปานกลาง เกณฑ์ คะแนน 10 – 16 ระดบั ศาสตรก์ ารสอนนอ้ ย คะแนน 17 – 23 ระดับศาสตร์การสอนปานกลาง คะแนน 24 – 30 ระดับศาสตรก์ ารสอนสงู มาก จากผลการประเมิน พบว่า ระดับศาสตร์การสอน ตามกรอบแนวคิดของหลักสูตรของสถาบันคุรุพัฒนา โดยรวมอยู่ในระดับปานกลาง เม่ือพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่า ด้านที่ต้องได้รับการปรับปรุง คือ การใช้ส่ือและ เทคโนโลยใี นการจดั การเรียนรู้) และระดบั ศาสตรก์ ารสอนปานกลาง คือ การสอนในศตวรรษท่ี 21 การแกปญั หาผู เรียน จิตวิทยาการแนะแนว/จิตวิทยาการจัดการเรียนรู้ สะเต็มศึกษา (STEM Education) และการออกแบบการ เรียนรู้

สรปุ ผลการประเมินตนเอง ตอนท่ี 1 ผลการประเมินตนเองตามกรอบของ ก.ค.ศ. ด้านท่ี 1 ความร้คู วามสามารถในการปฏิบัติงานในหนา้ ที่ ควรได้รับการส่งเสริมในด้านวธิ ีสอน ถา่ ยทอด ความรู้เชิงเน้ือหา กิจกรรม บริบท เป้าหมายการเรียนรู้ความรู้พื้นฐาน การปรับพื้นฐาน และอุปสรรคการเรียนรู้ ของผู้เรียน หลักการสอน และกระบวนการเรียนรู้ การจัดการศึกษาแบบรวม และการตอบสนองต่อความ หลากหลายของผู้เรียน ทฤษฎีการเรียนรู้ และจิตวิทยาการเรียนรู้ การใช้เทคโนโลยี และสื่อนวัตกรรมเพ่ือการ เรยี นรู้ และการวดั และประเมนิ ผลการเรยี นรู้ ดา้ นที่ 2 ทักษะการปฏิบตั ิงาน ควรได้รบั การส่งเสรมิ ในเรื่องของกลยุทธ์ในการจัดการเรียนรู้ เพอ่ื สง่ เสริม ให้นักเรียนได้รับการพัฒนาด้วยกระบวนการท่ีหลากหลายและเน้นให้ผู้เรียนได้ปฏิบัติกิจกรรมการเรียนรู้ และการ สร้างและการพัฒนาสือ่ นวตั กรรม เทคโนโลยที างการศึกษา และแหล่งเรียนรู้ ด้านท่ี 3 ความเป็นครู ปฏิบัตหิ น้าทไี่ ด้ในระดับสงู มาก ตอนที่ 2 ผลการประเมินศกั ยภาะของผเู้ รียนในสถานศกึ ษาตามจุดเนน้ ของ สพฐ. ระดับศักยภาพของผู้เรียนในสถานศึกษาตามจุดเน้นของ สพฐ. ด้านท่ีต้องได้รับการปรับปรุง คือ ด้าน คิดเลขเป็น คิดเลขคล่อง ด้านการคิดข้ันสูง ด้านการใช้ภาษาต่างประเทศ (ภาษาอังกฤษ) ด้านการแสวงหาความรู้ ดว้ ยตนเอง ด้านใฝเ่ รยี นรู้ ตอนท่ี 3 ผลการประเมนิ ศาสตร์การสอน ตามกรอบแนวคิดของหลักสูตรของสถาบันครุ ุพฒั นา ระดับศาสตร์การสอน ตามกรอบแนวคิดของหลักสูตรของสถาบันคุรุพัฒนา ด้านท่ีต้องได้รับการ ปรบั ปรงุ คอื การใช้ส่ือและเทคโนโลยใี นการจดั การเรียนรู้ เพือ่ นาความรู้มาสร้างนวัตกรรมการเรยี นรู้ให้สูงข้นึ

ส่วนที่ 3 แผนการพัฒนาตนเอง 1. อนั ดับความสาคญั /สมรรถนะท่ีจะพัฒนา (ใหใ้ สห่ มายเลขเรียงตามลาดับความสาคัญของสมรรถนะที่จะพัฒนา) ( 2 ) การสอนในศตวรรษท่ี 21 ( 3 ) การแกปัญหาผู้เรยี น ( 4 ) จติ วิทยาการแนะแนว/จิตวิทยาการจดั การเรยี นรู้ ( 7 ) การจัดการช้ันเรยี น ( 8 ) การวิจัยพัฒนาการเรยี นการสอน/ชุมชนแหง่ การเรียนรูทางวิชาชพี ( 9 ) การพัฒนาหลักสูตร ( 1 ) สะเต็มศึกษา (STEM Education) ( 5 ) การใช้ส่ือและเทคโนโลยใี นการจัดการเรียนรู ( 10 ) การวดั และประเมนิ ผลการเรียนรู ( 6 ) การออกแบบการเรยี นรู 2. วิธีการ/รูปแบบการพฒั นา ศึกษาหาความรู้ทางอินเตอร์เน็ต และหลักสูตรออนไลน์ เกี่ยวกับการใช้สื่อและเทคโนโลยีในการจัดการ เรยี นรู้ 3. ระยะเวลาในการพฒั นา เร่ิมตน้ 16 พฤษภาคม 2564 สิน้ สดุ 31 มนี าคม 2565 4. ประโยชน์ที่คาดวา่ จะไดร้ บั 4.1 ผลลพั ธ์ทค่ี าดหวัง ด้านความรู้ : มีแนวทาง และความรู้ ความเข้าใจในการจัดการเรียนรู้โดยมุ่งเน้นการออกแบบกิจกรรม การเรียนการสอนเพื่อใหน้ ักเรียนสามารถสร้างองคค์ วามรู้ดว้ ยตนเองเพือ่ การดารงชีวติ ในศตวรรษที่ 21 โดยการจดั กิจกรรมการเรียนการสอนโดยเนน้ ผเู้ รียนเปน็ ศูนย์กลาง โดยให้นักเรียนได้เรียนรู้จากการเรียนแบบลงมือทา โดยมี ประเด็นคาถามอยากรู้เป็นตัวกระตุ้นสร้างแรงบันดาลใจให้นักเรียนอยากเรียน นาไปสู่ความกระตือรือร้นท่ีจะ สบื คน้ รวบรวมข้อมูลจากแหลง่ ตา่ งๆ ด้านทักษะ : พัฒนาทักษะการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนท่ีมุ่งส่งเสริมและพัฒนาให้นักเรียนเกิด ทักษะการคิดวิเคราะห์ ความคิดสร้างสรรค์ การแก้ปัญหาโดยคานึงถึงผู้อ่ืนและบริบทท่ีเกี่ยวข้อง มีการบูรณาการ ความรูจ้ ากศาสตร์ตา่ ง ๆ ทีช่ ว่ ยพัฒนาใหน้ กั เรียนมีทักษะในการเรียนรูแ้ ละปรับตัว มีทกั ษะทางด้านการเรียนรู้และ สร้างนวัตกรรมเพ่ือแก้ปัญหาหรือตอบสนองความต้องการในชีวิตประจาวัน โดยอาศัยความคิดเชิงสร้างสรรค์เพื่อ พัฒนานวตั กรรม ด้านความเป็นครู : พัฒนาตนเองให้มีความรู้ความสามารถ เป็นพ่ีเล้ียง/ที่ปรึกษา/แบบอย่าง ในการ แสดงถึงความรักและศรัทธาในวิชาชีพครู สรา้ งวฒั นธรรมการทางานร่วมกันอย่างมีคณุ ภาพและเป็นกัลยาณมิตร 4.2 ผลการนาไปใช้ในการพัฒนางาน

ทาใหม้ แี ผนการจดั การเรียนรู้ในเนน้ ผเู้ รยี นปฏิบัติ (Active Learning) มุ่งเน้นให้นักเรียนได้เรียนรู้ผ่าน การลงมือทากิจกรรมด้วยตนเอง ร่วมกับสื่อ เทคโนโลยีการเรียนการสอน และแหล่งเรียนรู้ท่ีครูได้รวบรวมไว้ รวมถึงนาการวจิ ัยในชัน้ เรยี น มาปรบั ปรุง แกไ้ ข และพฒั นา การเรยี นรขู้ องผ้เู รยี น 4.3 การสร้างชมุ ชนแห่งการเรียนรู้ PLC Online เครอื ขา่ ยระดบั ชาติ เป็นสมาชิกของกลุ่มท่ีมีบทบาททางด้านการศึกษา โดยทาตนให้เป็นผู้กระตือรือร้นในการเรียนรู้จาก องค์ความรู้ของผอู้ ่ืน อีกทัง้ ยังทาหน้าทเี่ ปน็ ผู้ถา่ ยทอดองค์ความรูข้ องตนเองให้กับผู้อนื่ เพอื่ การพัฒนาทีย่ ่งั ยนื ลงช่อื ........................................................................ (นางสาววลิ าวัลย์ จลุ นนั ท์) ผู้จดั ทาแผนพฒั นาตนเอง ความเห็นของผูบ้ ังคบั บัญชา ……………………………………………………………………………………………………………………….………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………….…………………………………… ลงช่อื ........................................................................ (นางสาวสุวภี อ้ยุ นอง) ตาแหนง่ ผูอ้ านวยการโรงเรยี นไชยฉิมพลวี ทิ ยาคม