ภาษาคอมพิวเตอร์ มนุษย์ ใช้ภาษาในการสื่อสารมาตงั้ แต่สมยั โบราณ การ ใช้ภาษาเป็นเร่ืองที่มนุษยพ์ ยายามถา่ ยทอดความคิดและ ความรสู้ ึกต่าง ๆ เพ่อื การโต้ตอบและส่ือความหมาย ภาษาที่มนุษยใ์ ช้ติดต่อส่ือสารในชีวิตประจาวนั เช่น ภาษาไทย ภาษาองั กฤษ หรือภาษาจีน ต่างเรียกว่า “ภาษาธรรมชาติ” (Natural Language) เพราะมี การศึกษา ได้ยิน ได้ฟัง กนั มาตงั้ แต่เกิดการใช้งาน คอมพิวเตอร์ ซ่ึงเป็นเคร่ืองมือทางอิเลก็ ทรอนิกสใ์ ห้ ทางานตามที่ต้องการ จาเป็นต้องมีการกาหนดภาษา สาหรบั ใช้ติดต่อสงั่ งานกบั คอมพิวเตอร์ ภาษาคอมพิวเตอรจ์ ะเป็น ”ภาษาประดิษฐ์” (Artificial Language) ท่ีมนุษยค์ ิดสร้างมาเอง เป็นภาษาท่ีมี จดุ มงุ่ หมายเฉพาะ มีกฎเกณฑท์ ี่ตายตวั และจากดั คืออยู่ ในกรอบให้ใช้คาและไวยากรณ์ท่ีกาหนดและมกี าร ตีความหมายท่ีชดั เจน จึงจดั ภาษาคอมพิวเตอรเ์ ป็น
ภาษาที่มีรปู แบบเป็นทางการ (Formal Language) ต่างกบั ภาษาธรรมชาติท่ีมีขอบเขตกวา้ งมาก ไม่มี รปู แบบตายตวั ที่แน่นอน กฎเกณฑข์ องภาษาจะขึน้ กบั หลกั ไวยากรณ์และการ ยอมรบั ของกลุ่มผใู้ ช้นัน้ ๆ ภาษา คอมพิวเตอรอ์ าจแบง่ ได้เป็น 3 ระดบั คือ ภาษาเคร่อื ง (Machine Language) ภาษาระดบั ตา่ (Low Level Language) และภาษาระดบั สงู (High Level Language)
ความหมายของซอฟตแ์ วร์ ซอฟตแ์ วร์ (Software) หมายถงึ ชุดคาสงั่ หรือ โปรแกรมท่ีคอยสงั่ การให้เคร่ืองคอมพิวเตอรท์ างาน ยงั รวมไปถึงการควบคมุ การทางานของอปุ กรณ์แวดล้อม ต่าง ๆ เช่น Modem, CD ROM, Drive เป็นต้น ซอฟตแ์ วรน์ ัน้ เป็นส่ิงที่มองไม่เหน็ จบั ต้องไม่ได้ แต่ รบั ร้กู ารทางานของมนั ได้ ซ่ึงจะต่างกบั ฮารด์ แวร์ (Hardware) เพราะสามารถจบั ต้องได้ ซอฟตแ์ วรเ์ ป็นศพั ทท์ ่ีมีความหมายกวา้ งขวางมาก บางครงั้ อาจรวมถงึ ผลลพั ธต์ ่างๆ เช่น ผลการพิมพท์ ี่ได้ จากเครอื่ งคอมพิวเตอรเ์ อกสารการพฒั นาซอฟตแ์ วร์ ตลอดจนค่มู ือการใช้ในการสงั่ งานแบบใดๆ ให้เครือ่ ง คอมพิวเตอรท์ างานตามที่เราต้องการนัน้ จะต้องอาศยั ซอฟตแ์ วรเ์ ป็นตวั เช่ือมระหว่างคนหรือผใู้ ช้เคร่ือง คอมพิวเตอรก์ บั เคร่อื งคอมพิวเตอรด์ ้วย
ดงั้ นัน้ ซอฟตแ์ วรจ์ ึงมีความสาคญั ทดั เทียมกบั ฮารด์ แวร์ ของเคร่อื งคอมพิวเตอรเ์ ลยทีเดียว ประเภทซอฟตแ์ วร์ ประเภทซอฟตแ์ วรอ์ าจจาแนกได้ตามลกั ษณะการทางาน ตามลกั ษณะการใช้งานแต่โดยทวั่ ไปแล้วอาจแบง่ ได้ เป็น 5 ประเภท คือ
1. ซอฟตแ์ วรร์ ะบบ (System Software) 2. ซอฟตแ์ วรป์ ระยกุ ต์ (ApplicationSoftware) 3. ซอฟตแ์ วรส์ าเรจ็ รปู (Packages Software) 4. ซอฟตแ์ วรส์ งั ่ ระบบงาน (Utility Software) 5. ซอฟตแ์ วรส์ ่ือสาร (CommunicationSoftware) ชนิดของซอฟตแ์ วร์ แบง่ ออกเป็ น 2 ประเภท 1. ซอฟตแ์ วรร์ ะบบ (SystemSoftware) หมายถึง ชดุ ของคาสงั่ ท่ีเขียนไวเ้ ป็นคาสงั่ สาเรจ็ รปู ซึ่ง จะทางานใกล้ชิดกบั คอมพิวเตอรม์ ากที่สุด เพอื่ คอย ควบคมุ การทางานของฮารด์ แวรท์ ุกอย่างและอานวย ความสะดวกให้กบั ผใู้ ช้ในการงาน
2. ซอฟตแ์ วรป์ ระยกุ ต์ (Application Software) คือ ซอฟตแ์ วรห์ รือโปรแกรมท่ีมาให้คอมพิวเตอรท์ างาน ต่างๆ ตามท่ีผ้ใู ช้ต้องการ ไม่วา่ จะด้านเอกสาร บญั ชี การจดั เกบ็ ขอ้ มลู เป็นต้น
หน้าที่ของระบบปฏบิ ัตกิ าร ระบบปฏิบตั ิการ (operating system) หรือ โอ เอส (OS) เป็นระบบซอฟต์แวรท์ ี่ทาหน้าท่ีจดั การ อปุ กรณ์คอมพิวเตอรแ์ ละแหล่งซอฟตแ์ วรแ์ ละบริการ โปรแกรมคอมพิวเตอร์ ระบบปฏิบตั ิการมีหน้าท่ีหลกั ๆ คือ การจดั สรรทรพั ยากร ในเครือ่ งคอมพิวเตอร์ เพื่อให้บริการซอฟตแ์ วรป์ ระยกุ ต์ ในเรอื่ งการรบั ส่งและจดั เกบ็ ขอ้ มลู กบั ฮารด์ แวร์ เช่น การส่งข้อมลู ภาพไปแสดงผลที่จอภาพ การส่งข้อมลู ไป เกบ็ หรืออ่านจากฮารด์ ดิสก์ การรบั ส่งขอ้ มูลในระบบ เครือข่าย การส่งสญั ญานเสียงไปออกลาโพง หรอื จดั สรร พนื้ ที่ในหน่วยความจา ตามท่ีซอฟตแ์ วรป์ ระยกุ ตร์ ้องขอ รวมทงั้ ทาหน้าท่ีจดั สรรเวลาการใช้หน่วยประมวลผล กลาง ในกรณีท่ีอนุญาตให้ซอฟตแ์ วรป์ ระยุกต์หลาย ๆ ตวั ทางานพรอ้ ม ๆ กนั
ระบบปฏิบตั ิการท่ีเป็นที่นิยมในคอมพิวเตอรส์ ่วนบคุ คล ทุกวนั นี้ ได้แก่ ไมโครซอฟท์ วินโดวส์ แมคโอเอส และลิ นุกซ์ นอกจากนี้ ยงั มีระบบปฏิบตั ิการตระกลู ยนู ิกซ์ ซึ่ง ได้รบั ความนิยมในเคร่อื งเซิรฟ์ เวอรท์ ี่ใช้กนั ในหน่วยงาน ระบบปฏิบตั ิการตระกลู ยนู ิกซท์ ่ีเป็นที่ร้จู กั กนั ดี ได้แก่ ยนู ิกซต์ ระกลู บีเอสดี เอไอเอกซ์ และโซลาริส และรวมถงึ ลินุกซซ์ ึ่งพฒั นาโดยอาศยั หลกั การเดียวกนั กบั ยนู ิกซ์ ระบบปฏิบตั ิการบางตวั ถกู ออกแบบมาสาหรบั การเรียน การสอนวิชาระบบปฏิบตั ิการโดยเฉพาะ เช่น มินิกซ์ ซินู หรอื พินโทส ในอปุ กรณ์อ่ืน ๆ ที่ควบคมุ ด้วยระบบคอมพิวเตอร์ ก็ อาจมีระบบปฏิบตั ิการเช่นกนั เช่น ไอโอเอส แอน ดรอยด์ หรือ ซิมเบยี น ในโทรศพั ทม์ ือถอื หรอื ระบบปฏิบตั ิการ TRON ในเคร่ืองใช้ไฟฟ้าตามบา้ น
ยกตวั อย่างโปรแกรม 1.microsoft access เป็นโปรแกรมในการจดั การระบบฐานขอ้ มลู ท่ี สามารถจดั เก็บขอ้ มลู จานวนมากๆ เขา้ มาและยงั สามารถพฒั นาแบบฟอรม์ และสรา้ งรายงาน ได้
อีกดว้ ย โดยสามารถใชพ้ ฒั นาระบบงานงา่ ยๆ จนถงึ ซบั ซอ้ น ได้ และยงั สามารถใชง้ านพรอ้ มกนั หลายๆ คน ได้ 2.Microsoft OneNote
เป็นสมดุ บนั ทกึ แบบดิจิทลั ท่ีทาใหค้ ณุ สามารถ รวบรวมขอ้ มลู และบนั ทกึ ยอ่ ทงั้ หมดของคณุ ไว้ ดว้ ยกนั ในท่ีเดยี วได้ ดว้ ยความสามารถในการ คน้ หาท่ีมีประสิทธิภาพมากขนึ้ ซง่ึ จะชว่ ยใหค้ ณุ คน้ หาสิง่ ท่ีคณุ ตอ้ งการไดอ้ ยา่ งรวดเรว็ 3.adobe flash
เป็นโปรแกรม Flash เป็นซอฟตแ์ วรท์ ่ีช่วยใน การสรา้ งสอ่ื มลั ติมีเดีย, ภาพเคล่ือนไหว (Animation), ภาพกราฟิกท่มี ีความคมชดั เน่ืองจากเป็นกราฟิกแบบเว็คเตอร(์ Vector), สามารถเลน่ เสียงและวดี โิ อ แบบสเตรโิ อได,้ สามารถสรา้ งงานใหโ้ ตต้ อบกบั ผใู้ ช้
จดั ทำโดย นำงสำวเพญ็ นภำ ตำทอง 1 สทธ 3 รหสั นักศึกษำ66302040098
Search
Read the Text Version
- 1 - 14
Pages: