วจิ ยั ในชัน้ เรยี น เร่ือง การแก้ปัญหาเดก็ ไม่รจู้ ักการรอคอย โดยการเล่านทิ าน ชอ่ื ผู้วจิ ัย นางเกศรินทร์ แขวนสันเทยี ะ ความเป็นมาและความสาคัญของปัญหา จะเหน็ ไดว้ ่าแนวทางการจัดการศึกษาของรัฐ มงุ่ เน้นให้เห็นความสาคัญของการมีคณุ ธรรม จรยิ ธรรม และมีจิตใจที่ดีงาม ต้ังแต่ช่วงปฐมวัยการจัดกิจกรรมหรือประสบการณ์การเรียนรู้ให้เด็กได้มีโอกาสพัฒนาทักษะ ทางภาษา จึงเป็นส่ิงจาเป็นท้ังนี้ ครูจะคอยคานึงถึงวุฒิภาวะ หรือความพร้อมทางพัฒนาการต่างๆ ของเด็กไปด้วย จากการสังเกตพฤติกรรมของเด็กช้ันอนุบาล 3 ท่ีตนรับผิดชอบพบว่า เด็กส่วนใหญ่ยังขาดคุณธรรมจริยธรรม และ จิตใจที่ดีงาม ไม่รู้จักการรอคอย อาจเกิดจากการท่ีเด็กไม่ได้ถูกปลูกฝังมาตั้งแต่แรกเริ่ม เด็กจึงขาดการปฏิสัมพันธ์ ด้านคุณธรรม จริยธรรม หากไม่ได้รับการแก้ไขจะส่งผลให้เด็กอยู่ร่วมกันอย่างไม่มีความสุขในอนาคต เด็กจะมี ปัญหาทั้งด้านการเรียนและการดาเนินชีวิต การที่ครูผู้สอนจะนาเอากิจกรรมการเล่านิทานส่งเสริมคุณธรรม ที่มี สาระทชี่ ว่ ยพัฒนาคณุ ธรรมดา้ นนใี้ นเด็กที่มปี ญั หาให้เป็นไปในทางท่ีดขี ึน้ เพราะการท่ีเด็กได้มีโอกาสได้รับฟังนิทาน ส่งเสริมคุณธรรมบ่อยๆ เด็กจะเกิดการคล้อยตามหรือมีจินตนาการตามนิทานที่ได้ยินได้ฟัง และปฏิบัติตามได้ใน ที่สดุ จะทาใหเ้ ด็กเหล่านนั้ เกิดความรู้สกึ ภาคภมู ใิ จในตนเอง สุดทา้ ยกพ็ ฒั นาแสดงออกทางดา้ นพฒั นาการด้านความ อดกลั้นอดทนต่อส่ิงยั่วยุ เด็กก็จะเกิดการเรียนรู้ทีละเล็กทีละน้อยจนในท่ีสุดเด็กจะอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุขกับ การเรียนรู้ตลอดไป วตั ถุประสงคข์ องการวิจัย เพอื่ พฒั นาจติ ใจเด็กในเร่ืองของความอดทนโดยใชน้ ิทานสง่ เสรมิ คณุ ธรรม 3 เรอื่ ง 1. รออีกหน่อยนะ 2. ชา้ งน้อยคอยได้ 3. หิง่ ห้อยและการรอคอย สมมุติฐานของการวจิ ัย กจิ กรรมเล่านิทานส่งเสริมคุณธรรม 3 เรอ่ื ง สามารถพัฒนาความอดกล้ัน อดทนของเด็กปฐมวยั ได้ดยี ิง่ ข้ึน ขอบเขตของการวิจัย 1. กลุ่มเปา้ หมายท่ีใชใ้ นการวิจยั คอื เดก็ นักเรียนชายและหญงิ ที่เรียนอยชู่ น้ั อนบุ าล 3 จานวน 17 คน 2. ตวั แปรที่ศกึ ษา 2.1 ตวั แปรตน้ ได้แก่ นิทานส่งเสรมิ คณุ ธรรม 3 เร่อื ง 2.2 ตัวแปรตาม ได้แก่ เทคนิคการเล่านิทานของครู 3. ระยะเวลาในการศกึ ษาวิจัย ใชเ้ วลา 2 เดอื น กรกฎาคม – เดอื น สงิ หาคม 2563 ผลทีค่ าดว่าจะไดร้ ับ 1. เดก็ ชัน้ อนุบาล 3 มคี วามอดทนมากข้ึน 2. ไดแ้ นวทางในการจดั กจิ กรรมเพื่อพัฒนาการดา้ นอารมณ์-จติ ใจสาหรบั เด็กปฐมวัย 3. เดก็ ปฐมวัยมพี ัฒนาการด้านอารมณ์-จิตใจมากขนึ้
วิธีการวิจยั นานทิ านสง่ เสริมคุณธรรมไปเล่าใหเ้ ด็กฟังก่อนการดื่มนมและเริม่ กจิ กรรมในตอนเช้าโดยเลา่ นิทานสัปดาห์ ละ 3 วนั เพ่ือฝกึ ใหเ้ ดก็ รู้จักการรอคอยในการทากิจกรรมต่าง ๆ ระหวา่ งวัน เครือ่ งมอื ทใี่ ชใ้ นการวจิ ัย การวิจยั ครง้ั นใี้ ชเ้ คร่ืองมือในการวิจัยดังน้ี 1. หนงั สอื นิทานส่งเสรมิ คุณธรรม จานวน 3 เรือ่ ง 2. แบบสังเกตพฤตกิ รรมมาตรฐานที่ 4 มีคณุ ธรรม จรยิ ธรรมและจิตใจท่ดี ีงาม การเก็บรวบรวมข้อมูล ผวู้ ิจัยเกบ็ รวบรวมข้อมลู ในภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2563 ระหวา่ งเดอื นกรกฎาคม ถึงเดือนสงิ หาคม 2563 โดยใช้แบบสงั เกตพฤติกรรม สถิตทิ ่ใี ช้ในการวเิ คราะห์ข้อมลู วเิ คราะห์คะแนนการมีความอดกลนั้ อดทนก่อนและหลังการใช้กิจกรรมจากแบบสงั เกตพฤตกิ รรมมี คุณธรรม จริยธรรม และจิตใจท่ดี ีงามโดยการหาคา่ ร้อยละ และเม่ือพจิ ารณาหลังการใชก้ ิจกรรมเล่านทิ านคะแนน การมีคุณธรรม จรยิ ธรรมและมีจติ ใจที่ดงี ามของเด็กปฐมวยั ดังนี้ รายการที่ 1 การรจู้ ักขอโทษและใหอ้ ภัย คิดเปน็ ร้อยละ 84 รายการที่ 2 การรอคอยตามลาดับก่อน-หลัง คิดเปน็ รอ้ ยละ 82 รายการที่ 3 การแสดงความรักเพ่ือน คิดเปน็ ร้อยละ 85 รายการที่ 4 การร่าเริงแจ่มใสอารมณ์ดี คดิ เป็นร้อยละ 87 สว่ นในภาพรวม คิดเป็นรอ้ ยละ 84.5 อภปิ รายผลการวจิ ัย การวิจัยครั้งน้ีมีจุดประสงค์เพื่อพัฒนาความอดทน อดกล้ันของเด็กปฐมวัย โดยใช้กิจกรรมการเล่านิทาน ซึ่งผลการใช้กิจกรรมดังกล่าว เป็นไปตามสมมุติฐานท่ีต้ังไว้ กล่าวคือ การใช้กิจกรรมเล่านิทานส่งเสริมคุณธรรม สามารถพัฒนาความอดกลั้น อดทนของเด็กปฐมวัยได้ดีย่ิงขึ้น ทั้งนี้เนื่องจากกิจกรรมการเล่านิทานเป็นแนวทาง หนึง่ ทจ่ี ะช่วยเสรมิ ความมีคณุ ธรรม จริยธรรมและมีจติ ใจทดี่ ีงามในกลุ่มเด็กท่ีมีปญั หาให้เป็นไปในทางที่ดีเพราะการ ที่เด็กได้ฟังนิทานส่งเสริมคุณธรรมบ่อยๆ เด็กจะเกิดการคล้อยตามหรือมีจินตนาการตามนิทานท่ีได้ยินได้ฟัง และ ปฏิบัติตามในท่ีสุดจะทาให้เด็กเหล่านั้นเกิดความรู้สึกภาคภูมิใจในตนเอง สุดท้ายก็พัฒนาการแสดงออกทางด้าน พัฒนาการดา้ นความอดกลัน้ อดทนตอ่ สงิ่ ยวั่ ยุเดก็ กจ็ ะเกดิ การเรียนร้ทู ีละเล็กทีละน้อย จนในท่ีสุดเด็กจะอยู่ร่วมกัน อยา่ งมีความสขุ กบั การเรยี นรู้ตลอดไป ผลการวิจัยคร้ังน้ีแสดงให้เห็นว่า การจัดกิจกรรมเล่านิทานช่วยพัฒนาความ อดกล้ัน อดทนของเด็กปฐมวัยได้ ดังน้ันผู้ที่เก่ียวข้องกับเด็กปฐมวัย สามารถศึกษาและใช้เป็นแนวทางในการจัด ประสบการณก์ ารเรยี นรูส้ าหรับเด็กปฐมวัย อันจะเป็นการปูพื้นฐานการมีคุณธรรม จริยธรรมและมีจิตใจที่ดีงามให้ เกิดกับเด็กจะช่วยให้เด็กกล้าคิด กล้าทาสิ่งต่างๆ ด้วยความม่ันใจ สามารถปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมหรือ เหตุการณ์ต่างๆ ดว้ ยความมัน่ ใจสามารถปรับตัวเขา้ กบั สภาพแวดลอ้ มหรอื เหตุการณ์ต่างๆ และอยู่ในสังคมได้อย่าง มคี วามสขุ ท้งั ในปจั จบุ ันและอนาคต
กจิ กรรมเตรยี มความพรอ้ มก่อนการฟังนิทาน เดก็ ๆ ดูนิทาน เรื่อง รออกี หนอ่ ยนะ กจิ กรรมฝกึ ทักษะการต้ังคาถาม และการตอบคาถามจากนิทาน เร่อื ง รออีกหน่อยนะ
กจิ กรรมสรุปเรอ่ื ง และแนวปฏิบัติตนในชวี ิตประจาวันจากนทิ าน รออีกหนอ่ ยนะ ทีม่ านิทาน รออีกหนอ่ ยนะ : https://www.youtube.com/watch?v=mTzcUOZlb_k&t=90s นิทานเรือ่ ง ช้างน้อย คอยได้ ณ หมบู่ า้ นแห่งหนึ่ง มีช้างน้อยและเพื่อนอาศัยอยู่ เช้าวันหยุดสดใสช้างน้อยนึกอยากจะกินไอศกรีมอร่อยๆ ขึ้นมาก็เลยเดินไปท่ีร้านขายไอศครีมแต่มองเห็นคนต่อ แถวอยู่ยาวเหยียดเลย ช้างน้อยก็เลยพูดกับตัวเองข้ึนว่า \"ไม่เป็นไร ไม่เป็นไร ช้างน้อยคอยได้\" อะฮ้า....ถึงคิวของ ช้างน้อยแล้วล่ะ. อ้า....อร่อยจังเลย เม่ือช้างน้อยกิน ไอศครีมหมดช้างน้อยก็อยากจะเข้าห้องน้าแต่มีคนยืนต่อ แถวอยเู่ ยอะแยะเลย ชา้ งน้อยจึงเดินไปต่อแถวแลว้ พูดกบั ตัวเองข้ึนว่า \"ไม่เป็นไร ไม่เป็นไร ช้างน้อยคอยได้\" ถึงคิวของช้างน้อยแล้วล่ะ เฮ้อ...โล่งท้องจังเลยเมื่อช้างน้อยเข้า ห้องน้าเสร็จจึงเดินออกมาเห็นเพื่อนๆกาลังเล่นชิงช้ากันอย่างสนุกสนาน ช้างน้อยอยากจะเล่นชิงช้าแต่มองเห็น เพอ่ื นๆเขา้ แถวรอเล่นอยู่หลายคนเลย ชา้ งน้อยจึงพูดกับตัวเองข้ึนอีกว่า \"ไม่เป็นไร ไม่เป็นไร ช้างน้อยคอยได้\" ถึง ควิ ของชา้ งนอ้ ยแล้วนี่นา ฮ่า ฮ่า ฮ่า สนุกจังเลย ในขณะที่ช้างน้อยเล่นชิงช้าอยู่นั้นอย่างสนุกสนานอยู่น้ันช้างน้อย เกิดหิวน้าข้ึนมาเดินไปต่อแถวแล้วพูดกับตัวเองขึ้นว่า \"ไม่เป็นไร ไม่เป็นไร ช้างน้อยคอยได้\" ถึงคิวของช้างน้อย แล้วล่ะ อึก อึก อึก ชื่นใจจังเลย เม่ือช้างน้อยด่ืมน้าอิ่มแล้วจึงมานั่งคิดว่าอยากจะลองปลูกต้นทานตะวันเอง แต่ การปลูกต้นทานตะวันนานมากเลย ช้างน้อยจึงพูดกับตัวเองข้ึนว่า \"ไม่เป็นไร ไม่เป็นไร ช้างน้อยคอยได้\" ถึงแม้ จ ะ ต้ อ ง ใ ช้ เ ว ล า เ นิ่ น น า น แ ต่ ช้ า ง น้ อ ย ก็ อ ด ท น ร อ ค อ ย แ ล ะ ห มั่ น ดู แ ล ต้ น ท า น ต ะ วั น อ ย่ า ง ต้ั ง ใ จ จนกระทง่ั ...........\"โอโ้ ฮ.....!สวยท่สี ดุ เลย ดีใจจังเลยช้างนอ้ ยทาสาเร็จแล้ว ไชโย!\" นิทานเร่อื งนี้สอนใหร้ ู้ว่า การร้จู ักการรอคอยลาดับก่อนหลังเป็นพลงั ท่ีเสรมิ สร้างวนิ ยั ให้กับตนเอง นามา เสรมิ ค่านยิ ม 12 ประการข้อที่ 8 การมรี ะเบยี บวนิ ัย การเคารพกฎหมาย ผู้นอ้ ยรจู้ ักเคารพผใู้ หญ่
ท่มี า : https://www.youtube.com/watch?v=W5o_FgCZWzQ
ห่งิ ห้อยกับการรอคอย
ท่มี านทิ านเร่ืองหิ่งห้อยและการรอคอย : https://www.youtube.com/watch?v=oeA4C8sjDYs
ห่งิ ห้อยกับการรอคอย ณ. หมู่บา้ นแหง่ หนึ่ง มเี ด็กน้อยอาศัยอยู่กบั ปู่ท่ีมีฐานะยากจน เค้ามักมคี วามรู้สึกวา่ ไม่วา่ จะอยากได้อะไร ป่ขู องเคา้ มักบอกวา่ ใหร้ อก่อนอยู่ร่าไป วันหนง่ึ ป่กู ็ชวนเด็กน้อยไปปลูกผกั และบอกว่าเราต้องปลูกผกั กนิ เองนะจะได้ ไม่ต้องไปซื้อเขา และวนั หนงึ่ เด็กน้อยนึกอยากจะกินอาหารในเมืองเหมือนกับคนอื่นปู่กบ็ อกให้เค้ารออกี เชน่ เดิม โดยบอกว่า “รอก่อนนะเด๋ยี วถา้ เราขายผลผลติ ได้แล้วปู่จะพาไปกนิ ” อยู่มาวันหนึ่งเด็กนอ้ ยทนไม่ไหวก็เดนิ ไปถามปวู่ ่า “ทาไมนะเวลาทีผ่ มอยากจะได้อะไรปู่ต้องบอกให้รอก่อนอยู่รา่ ไป ทาไมไม่พาไปทันที” ปกู่ ต็ อบวา่ “เพราะว่าเราไม่มีเงินอย่างไรล่ะหลานเอย๋ เราจึงต้องรอ” เด็กน้อยกถ็ ามปู่ว่า “ทาไมเราถึงไม่ไปหยบิ ยืมหรือเปน็ หนี้มากอ่ นเลา่ ข้าเห็นใครๆเขาเปน็ หนี้กนั ท้งั นั้น จะไดๆ้ อะไร ทนั ใจหน่อย” ปจู่ งึ สอนหลานว่า “หากไม่ใชเ่ รือ่ งจาเปน็ เราก็ไม่ควรสรา้ งหน้นี ะหลาน หากเรารอนดิ หน่อยเราก็จะไมเ่ ป็นหนี้ และ เรากจ็ ะมีความสุข” เด็กนอ้ ยไม่เขา้ ใจว่าการรอคอยมนั จะมีความสุขไดอ้ ย่างไร การจะมีความสุขได้มนั ต้องได้ทนั ทีสิ เม่ือเวลาผ่านไป นานวันเข้าเขาเกบ็ ความสงสยั พร้อมความไมเ่ ข้าใจปูแ่ ลว้ บ่นว่าข้าชักจะทนไม่ไหวอีกตอ่ ไปแลว้ ทาไมปู่ของข้าจงึ มี นสิ ัยผดิ แปลกไปจากคนอนื่ เชน่ น้ี คนอ่นื เวลาเคา้ อยากได้อะไรก็แค่เปน็ หนี้ก็ได้ของมาแลว้ ไมเ่ หน็ ต้องรออะไรเลย จึงตัดสนิ ใจออกเดนิ ทางไปหานกั พรต เม่ือเดินทางไปถงึ เขากเ็ ล่าเร่ืองราวของป่ใู หน้ ักพรตฟังและถามวา่ มสี ่ิงวิเศษอะไรที่สามารถเปลีย่ นนิสัยของปู่ไดบ้ า้ ง นักพรตเมื่อไดฟ้ ังก็บอกสอนว่า “การรอคอยก็เปน็ ส่ิงท่ดี ีแล้วนิ เปน็ จุดเริม่ ตน้ ของการรู้จักยบั ย้ังช่ังใจ ซงึ่ เปน็ บ่อเกดิ ของความเพียร เหตุใดเจา้ ถงึ คิดวา่ ปู่ไม่ดีล่ะ” เดก็ นอ้ ยกต็ อบวา่ “ก็คนอื่นเขาไมเ่ หน็ ต้องรออะไรเลย อยากได้อะไรเขาก็ไดท้ นั ที ถ้าไม่มีเงนิ เขาก็ไปหยิบยมื หรือ เป็นหนก้ี ไ็ ด้” นักพรตจงึ บอกว่า “การยืมเงินนน้ั ทาให้เกดิ ความกังวลทจ่ี ะตอ้ งหามาใชค้ นื และเวลาจา่ ยคืนกต็ ้องจา่ ยมากกวา่ เดิม ดงั นั้นก็จะทาใหค้ วามสขุ ของเราลดลง แต่ถ้าหากเรารู้จักรอ รอให้เปน็ เมือ่ ขณะทร่ี อเราก็มคี วามสขุ เพราะเรานึกถึง สง่ิ ของท่ีเราจะได้ และเมื่อได้มาดว้ ยความยากลาบากมนั ก็มคี ุณคา่ ทางจติ ใจมากกวา่ และทาใหเ้ รามคี วามสุข มากกวา่ เดิม” เดก็ นอ้ ยเมอ่ื ได้ฟงั ก็ยง่ิ ไม่เขา้ ใจและถามว่ามันจะเปน็ ไปได้อยา่ งไร ยงิ่ รอก็ย่ิงทุกทรมานเหมือนจะขาดใจ ผมไมเ่ ชื่อ หรอก ผมอยากไดข้ องวเิ ศษที่จะไปเปล่ยี นนสิ ัยปใู่ หต้ ามใจ อยากได้อะไรกซ็ ื้อให้ทันที มหี รอื ไม่ครับ เมื่อนกั พรตไดฟ้ ัง ก็บอกทางใหเ้ ดก็ นอ้ ยไปทเ่ี กาะกลางบงึ แหง่ หน่งึ ท่นี น่ั มีแมลงประหลาดทบ่ี นิ ไดแ้ ละมีแสงใน ตัวเอง และถา้ เจา้ จับแมลงประหลาดนัน้ ได้ เมื่อเจา้ นึกถึงสิ่งใดเจา้ จะไดส้ ิ่งน้ันทนั ที
เดก็ นอ้ ยได้ฟังก็รบี ออกไปทันที แต่เมื่อไปถึงเกาะนน้ั เด็กน้อยเดินไปเดนิ มาก็ไม่เห็นแมลงประหลาดสกั ตัว จงึ กลับมา หานกั พรตเพอ่ื ถาม นักพรตจึงตอบวา่ แมลงตวั นี้จะออกมาตอนกลางคนื เท่าน้นั เด็กนอ้ ยก็กลบั ไปท่เี กาะนั้นตอน กลางคืนอกี ที แตพ่ อไปก็ไม่เห็นแมลงประหลาดอกี เช่นเคยจึงกลบั มาหานักพรตอกี คร้งั นักพรตได้ฟังจงึ ถามว่าเจ้า ไปอย่างไร เด็กน้อยกต็ อบวา่ ผมก็ถือไฟสอ่ งไปสิครับ นักพรตจึงบอกว่าไม่ได้ แมลงประหลาดน้ันไม่ชอบแสงไฟ เด็ก นอ้ ยจึงกลบั ไปทีเ่ กาะอกี ครัง้ คราวนเ้ี คา้ ไปในความมดื ทาให้มองไม่เหน็ ทางจึงพลดั ตกน้า กท็ าให้ต้องเดนิ ทาง กลบั มาหานกั พรตอีก และถามว่าผมไม่มีไฟมองไม่เห็นทางแลว้ ผมจะไปทเ่ี กาะนั้นได้อยา่ งไร นกั พรตได้ฟังเช่นนนั้ จงึ กลา่ วว่า เจ้าก็ตอ้ งไปตอนกลางวนั สแิ ล้วรอให้ถงึ เวลากลางคนื เดก็ น้อยผู้นน้ั ได้ฟังกร็ ู้สึกดีใจ เขาจึงเดนิ ทางไปที่เกาะแหง่ นั้นอกี ครั้งพร้อมทั้งจนิ ตนาการถงึ หนา้ ตาของเจา้ แมลง ประหหลาดนัน่ วา่ จะเป็นอยา่ งไรอยา่ งมีความสุข พอเมื่อถึงเวลากลางคนื เขาก็เห็นแมลงตัวหนงึ่ บินเข้ามามีแสง สว่างในตวั เอง เดก็ น้อยย่ืนมือไปจบั หวงั วา่ จะเอากลบั บ้าน แตส่ ักพักฝูงหงิ่ ห้อยก็บนิ เข้ามาสอ่ งแสงระยบิ ระยบั ไป ท่ัวบริเวณ เดก็ นอ้ ยเกิดความสงสยั เราก็ผ่านไปผ่านมาทีป่ ่าแถบนี้บ่อยๆนะแตท่ าไมเราไม่เคยเหน็ ส่ิงมหศั จรรย์แบบ นม้ี าก่อนเลยนะ นนั่ คงเป็นเพราะเราไมร่ จู้ ักรอน่ันเอง คิดได้เสร็จเด็กน้อยกร็ สู้ ึกเบิกบานใจกป็ ลอ่ ยห่ิงห้อยในมือแลว้ พดู ว่า “เราไม่ต้องการเจ้าแลว้ เพราะเราเข้าใจแลว้ ว่า ความสขุ จากการรอคอยคอื อะไร ท่ีผ่านมาเราไม่มคี วามสขุ เพราะเราอยากได้ทกุ อยา่ งทันทที ี่ต้องการ” หลังจากน้ันเดก็ น้อยก็ไมเ่ คยใจเร็วด่วนได้ ไมเ่ อาใจไปผูกตดิ ให้กระวนกระวายใจอีกเลย เพราะเขารจู้ ักท่ีจะรอ และ ในทส่ี ุดเขากร็ ้จู กั ความสุขจากการรอคอย น่ันเอง ขอ้ คิดสะกดิ ใจ นทิ านเรื่องน้ีสอนให้รู้วา่ การรอนนั้ เป็นจดุ เริม่ ต้นของการยับยัง้ ชา่ งใจและความเพียร การร้จู ักรอได้รอเป็นน้ันเปน็ อปุ นสิ ยั ท่ีดี อยา่ งหนงึ่ ของผู้ทจ่ี ะประสบความสาเร็จเพราะการทางานใหญย่ อ่ มไม่สามารถทาไดใ้ นเร็ววนั หากไม่รู้จกั รอใหเ้ ป็น เย็นให้ได้ก็อาจร้สู ึกทอ้ แท้และลม้ เลิกไปเสยี กลางคนั ไดโ้ ดยง่าย
Search
Read the Text Version
- 1 - 12
Pages: