Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore Lesson1

Lesson1

Published by Sirinat Junsuri, 2023-06-13 07:46:38

Description: บทที่ 1 เรื่อง An Introduction Everyday Writing

Search

Read the Text Version

ENGLISH EVERYDAY ENGLISH WRITING Sirinat Junsuri

ENGLISH EVERYDAY ENGLISH WRITING LESSON 1 AN INTRODUCTION TO EVERYDAY WRITING Sirinat Junsuri

19 ชื่อเรอื่ ง แผนการจัดการเรยี นรูท้ ี่ 1 เวลาเรียนรวม 36 ชัว่ โมง ชอื่ วิชา การเขียนภาษาอังกฤษในชวี ิตประจำวัน สอนครั้งที่ 1 ช่ือหน่วย An Introduction to Everyday จำนวน 2 ช่วั โมง An Introduction to Everyday สาระสำคัญ สงิ่ สำคญั ของการเร่ิมเขียนภาษาอังกฤษในชวี ติ ประจำวนั คือ หลกั และวธิ กี ารเขยี นแบบต่างๆ ใน unit 1 น้ี เปน็ การปูพน้ื ฐานให้ผเู้ รยี นเกิดความเข้าใจในประเภทของการเขียนท่เี กิดขนึ้ ในชีวติ ประจำวนั หลกั ไวยากรณ์ วิธกี ารเขียน และรูปแบบต่างๆ ท่จี ำเป็นต่อการพัฒนาทกั ษะการเขยี น สมรรถนะประจำหนว่ ย 1. เขยี นขอ้ มูลบุคคล ข้อความและบันทึกย่อภาษาอังกฤษ 2. เขยี นบัตรอวยพรภาษาอังกฤษในโอกาสต่าง ๆ 3. เขยี นจดหมายส่วนตัวและจดหมายอเิ ลก็ ทรอนิกสภ์ าษาอังกฤษ 4. กรอกแบบฟอร์มภาษาอังกฤษชนดิ ต่าง ๆ 5. ใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศพัฒนาทกั ษะการเขียนภาษาองั กฤษ จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ ปฐมนิเทศ 1. จุดประสงค์รายวิชา สมรรถนะรายวิชา และคำอธบิ ายรายวิชา 2. แนวทางวดั ผลและการประเมนิ ผลการเรียนรู้ Unit 1: An Introduction to Everyday Writing (1) 1. รูแ้ ละเขา้ ใจประเภทของการเขียนภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวัน คุณลักษณะทพ่ี ึงประสงค์ มีการพัฒนาคณุ ธรรม จริยธรรม คา่ นิยม และคณุ ลักษณะอันพงึ ประสงคข์ องผู้สำเร็จการศึกษา สำนักงาน คณะกรรมการการอาชีวศกึ ษา ที่ครสู ามารถสงั เกตไดข้ ณะทำการสอนในเรื่อง 1. ความมมี นุษยสมั พันธ์ 2. ความมีวนิ ยั 3. ความรับผิดชอบ 4. ความซอื่ สตั ย์สจุ ริต 5. ความเชือ่ มนั่ ในตนเอง 6. การประหยัด 7. ความสนใจใฝร่ ู้ 8. การละเว้นสงิ่ เสพตดิ และการพนัน

20 9. ความรกั สามคั คี 10. ความกตญั ญกู ตเวที สาระการเรยี นรู้ ปฐมนิเทศ 1. จุดประสงคร์ ายวชิ า สมรรถนะรายวชิ า และคำอธิบายรายวิชา 2. แนวทางวัดผลและการประเมนิ ผลการเรียนรู้ Unit 1: An Introduction to Everyday Writing (1) 1. ประเภทของการเขยี นภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวนั กจิ กรรมการเรยี นรู้ ข้นั นำเขา้ สู่บทเรยี น 1. ผู้สอนบอกจดุ ประสงค์รายวชิ า สมรรถนะรายวิชา และคำอธบิ ายรายวชิ าตาม หลกั สูตรฯ 2. บอกแนวทางวัดและการประเมนิ ผลการเรยี นรู้ 3. ผสู้ อนนำเข้าสู่บทเรียนโดยให้ผเู้ รยี นอา่ นคำจำกัดความด้านล่างในรปู แลว้ ใหผ้ ู้เรยี นชว่ ยกันแปล ความหมาย Fax – จดหมายฉบับหน่งึ หรือข้อความทส่ี ง่ มาจากเคร่ืองอเิ ลก็ ทรอนิกส์ (โทรสาร) และนำมาพิมพเ์ ปน็ กระดาษา E-mail – จดหมายอเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ Letter - จดหมายเขยี นหรอื พมิ พ์ และส่งไปยงั ผ้รู บั Application form – เอกสารทใ่ี ชใ้ นการอธบิ ายตวั ตนของคณุ (จดหมายสมัครงาน) Resume – เอกสารที่แสดงถึงวฒุ กิ ารศกึ ษา ประวตั กิ ารทำงาน ที่นำไปยน่ื ใหฝ้ ่ายสมัครงาน

21 Text message – ขอ้ ความจากโทรศพั ท์ Postcard – การด์ ที่แนบรปู จากสถานท่ีทอ่ งเที่ยว และส่งไปให้ใครบางคน Diary – บนั ทึกความทรงจำจากประสบการณ์ของคุณในแต่ละวนั Greeting card – การด์ ที่คณุ ให้ในโอกาสพเิ ศษกบั ใครบางคน Group chat - กล่มุ พูดคุย เมือ่ ผเู้ รียนแปลความหมายเสร็จแลว้ ให้ผู้เรยี นเปิดหนงั สือวิชาการเขียนภาษาอังกฤษในชวี ติ ประจำวัน หน้าท่ี 2 practice A อา่ นและนำตัวเลขไปใส่ในกรอบสี่เหล่ยี มใหถ้ ูกต้อง ว่าคำท่ีอธิบายที่เปน็ ประเภท ของการเขยี นในรูปแบบไหน ขัน้ สอน 4. ผสู้ อนอธิบายความหมายของรปู แบบประเภทของการเขยี นภาษาองั กฤษในชวี ติ ประจำวันดงั นี้ Fax – จดหมายฉบบั หนงึ่ หรอื ข้อความทสี่ ่งมาจากเครอื่ งอิเลก็ ทรอนิกส์ (โทรสาร) และนำมาพิมพ์ เป็นกระดาษา (a letter or message that is sent in electronic form along a telephone line and then printed on paper) E-mail – จดหมายอิเล็กทรอนิกส์ (electronic mail) Letter - จดหมายเขยี นหรือพิมพ์ และสง่ ไปยังผู้รบั (a written or printed message that is put in an envelope and sent from one person to another) Application form – เอกสารทใี่ ชใ้ นการอธบิ ายตวั ตนของคุณ (จดหมายสมัครงาน) (an official document with spaces where you write information about yourself) Resume – เอกสารที่แสดงถงึ วุฒกิ ารศึกษา ประวตั ิการทำงาน ทนี่ ำไปยน่ื ให้ฝ่ายสมัครงาน (a document giving details of your education and previous jobs which you send to someone when you apply for a job)

22 Text message – ข้อความจากโทรศพั ท์ (message on a mobile phone) Postcard – การด์ ทแ่ี นบรูปจากสถานท่ีท่องเท่ียว และส่งไปให้ใครบางคน (a card with a photo or picture which is sent without an envelope) Diary – บันทึกความทรงจำจากประสบการณ์ของคุณในแตล่ ะวัน (a book in which you can write down the events or the experiences you have each day) Greeting card – การ์ดท่ีคุณใหใ้ นโอกาสพเิ ศษกับใครบางคน (a card that you give or send to someone on a special occasion) Group chat – กลมุ่ พูดคยุ (a discussion or messages that you exchange with people who share an interest on the Internet by phone and using a messaging service) 5. ผสู้ อนอธบิ าย types of everyday writing โดยใช้ขอ้ ความเบ้อื งตน้ ท่นี ักเรียนแปลตอนต้นคาบ เรยี น มาประกอบการอธิบาย Fax - a letter or message that is sent in electronic form along a telephone line and then printed on paper Fax เทคโนโลยีคมนาคมชนิดหนึ่งท่ีมีหน้าที่ในการถ่ายสำเนาถ่ายข้อมูลต่างๆ ผ่านทางอุปกรณ์บน เครือข่ายบนโทรศัพท์หรอื ที่หลายๆ คนจะเรยี กกันวา่ “ เคร่ืองโทรสาร ” โดยเคร่ืองโทรสารในยุคน้ี ก็ดูเหมือนไมค่ ่อยจะไดร้ บั ความนิยมกนั สักเทา่ ไรเนื่องจากมกี ารส่งอีเมล์ หรือ เอกสารอเิ ล็กทรอนิกส์ ท่ีทำงานและส่งข้อมูลได้รวดเร็วกว่าเครื่องโทรสารด้วยซ้ำ ไม่ว่าจะอยู่ท่ีไหนก็ตามแต่การส่งอีเมล์ก็ สามารถท่จี ะเปดิ ดูไฟลง์ านได้ตลอดเวลา text message - message on a mobile phone SMS ย่อมาจาก Short Message Service หรือบางคนเรียกว่า Text Messaging เป็นการส่ง ข้อความตัวอักษรส้ันๆ หากัน ซึ่งสามารถส่งได้หลายวิธี เช่นจากโทรศัพท์มือถือเคร่ืองนึง ไปยังอีก เคร่ืองนึง หรือส่งจาก Website ไปยังโทรศัพท์มือถือก็ได้ ซ่ึงวิธีน้ีนิยมใช้กันในทางธุรกิจ เพราะ สามารถท่ีจะจัดส่ง SMS เข้าหามือถือจำนวนมากได้ด้วยการจัดการผ่านระบบส่งเพียงครั้งเดียว หรือทเ่ี รยี กกันวา่ Bulk SMS E-mail – electronic mail อีเมล หรือ จดหมายอิเล็คทรอนิกส์ เป็นการแลกเปล่ียนข้อความกันโดยผ่านเครือช่ายคอมพิวเตอร์ มีท้ังแบบท่ีรับส่งกันเฉพาะภายใน หรอื ภายนอกองค์กร โดยข้อความน้ันจะตอ้ งประกอบด้วยเนื้อหา ทอี่ ยู่ของผสู้ ่ง และที่อยู่ของผู้รับ (ซ่ึงอาจมมี ากกว่าหนึ่ง) เป็นอย่างน้อย ประเทศไทยเร่ิมใช้การอีเมล ครั้งแรกในปี พ.ศ.2531 โดย มหาวิทยาลัยสงขลานครนิ ทร์ สง่ ข้อความส้ันๆ ในการทดสอบระบบไป ยัง มหาวทิ ยาลยั เมลเบริ ์น Postcard - a card with a photo or picture which is sent without an envelope

23 ไปรษณียบตั รรูปภาพ ซึง่ เปน็ กระดาษแข็งทไ่ี ม่มีแสตมปแ์ ละด้านหลังเปน็ รูปภาพ Letter - a written or printed message that is put in an envelope and sent from one person to another จดหมาย คือข้อความท่ีเขียนขึ้นเพ่ือส่งสารจากบุคคลหน่ึงไปยังบุคคลหนึ่ง อาจมีความหมายรวมไป ถึงกระดาษหรือส่ือท่ีใช้เขียนหรือสร้างจดหมายน้ัน ในอดีตก่อนคริสต์ศตวรรษท่ี 19 จดหมายเป็น การสื่อสารท่ีเชื่อถือได้เพียงชนิดเดียวระหว่างบุคคลสองคนจากสถานที่ต่างกัน โดยการส่งผ่านทาง นกพิราบสื่อสารหรือด้วยบริการไปรษณีย์ เมื่อเทคโนโลยีพัฒนามากขึ้น มีการประดิษฐ์โทรเลข โทรศัพท์ โทรสาร หรือแม้กระท่ังอินเทอร์เน็ต ซึ่งสามารถส่งสารได้รวดเร็วกว่าจดหมาย ทำให้ จดหมายลดความสำคัญลงไป diary - a book in which you can write down the events or the experiences you have each day ไดอาร่ีเป็นเสมือนพื้นท่ีส่วนตัวของที่เปิดโอกาสให้เจ้าของสามารถเขียนเร่ืองใดๆก็ได้อย่างไม่จำกัด มันจึงทำหน้าที่ในการตอบสนองคนเขียนมากกว่าคนอ่าน หลายคร้ังท่ีเราได้เขียนไดอารี่เพียงเพ่ือ ปลดปล่อยความรู้สึกและรู้สึกพึงพอใจในภายหลัง และน่ันเป็นเพียงหน่ึงในข้อดีอย่างหนึ่งของการ จดบันทึกไดอาร่อี ย่างสมำ่ เสมอ application form - an official document with spaces where you write information about yourself เอกสารท่ีผู้สมัครงานต้องกรอกข้อความเพื่อให้บริษัทท่ีต้องการสมัครได้ทราบถึงข้ อมูลส่วนบุคคล ของตนเอง โดยใบสมคั รเป็นเอกสารทบ่ี รษิ ัทนำไปใช้เปน็ แนวทางในการสมั ภาษณง์ านต่อไป Greetings card - a card that you give or send to someone on a special occasion บัตรอวยพรเป็นชิ้นส่วนของสต็อกการ์ดมักจะท่ีมีภาพประกอบหรือภาพท่ีทำจากกระดาษ คุณภาพสูงที่มีการแสดงออกของมิตรภาพหรือความเช่ือม่ันอ่ืน ๆ แม้ว่าบัตรอวยพรมักจะได้รับใน โอกาสพิเศษเช่นวันเกิด , คริสมาสต์หรือวันหยุดเช่นวันฮาโลวีนที่พวกเขาจะถูกส่งไปยังท่ีจะ ถ่ายทอดความขอบคุณหรือแสดงความรู้สึกอ่ืน ๆ (เช่นแสดงความเสียใจหรือความปรารถนาดีท่ีจะ รบั เป็นอยา่ งดีจากการเจบ็ ป่วย ) Resume - a document giving details of your education and previous jobs which you send to someone when you apply for a job เอกสารประวัติย่อของผู้สมัคร ซ่ึงบอกให้ทราบถึงประวัติการทำงาน ประวัติการศึกษา และประวัติ ส่วนตวั ในรปู แบบที่ย่นย่อ คดั เลอื กเฉพาะข้อมูลทสี่ ำคญั และเป็นประโยชน์ในการสมคั รงานเทา่ นั้น group chat - a discussion or messages that you exchange with people who share an interest on the Internet by phone and using a messaging service

24 6. ผู้สอนถามคำถามนักเรียนโดยเป็นคำถามแบบควิซเล็กน้อยเกี่ยวกับประเภทของการเขียน ภาษาองั กฤษในชวี ิตประจำวนั What is the meaning of “fax”? 1. a discussion or messages that you exchange with people who share an interest on the Internet by phone and using a messaging service 2. a document giving details of your education and previous jobs which you send to someone when you apply for a job 3. a card that you give or send to someone on a special occasion 4. a letter or message that is sent in electronic form along a telephone line and then printed on paper What is the meaning of “Greeting card”? 1. a discussion or messages that you exchange with people who share an interest on the Internet by phone and using a messaging service 2. a document giving details of your education and previous jobs which you send to someone when you apply for a job 3. a card that you give or send to someone on a special occasion 4. a letter or message that is sent in electronic form along a telephone line and then printed on paper What is the meaning of “Resume”? 1. a discussion or messages that you exchange with people who share an interest on the Internet by phone and using a messaging service 2. a document giving details of your education and previous jobs which you send to someone when you apply for a job 3. a card that you give or send to someone on a special occasion 4. a letter or message that is sent in electronic form along a telephone line and then printed on paper

25 ข้นั สรุปและการประยุกต์ 7. ผู้สอนให้ผู้เรียนทบทวนความเข้าใจประเภทของการเขียนภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวนั (Types of everyday writing) เมอ่ื เสร็จแลว้ ผสู้ อนและผู้เรียนอภปิ รายร่วมกนั 8. ผู้สอนให้ผเู้ รียนทำแบบฝึกหดั เพ่ือทบทวนความเข้าใจในหน้า 3 เมื่อเสรจ็ แลว้ ผสู้ อนและผ้เู รียนเฉลย ด้วยกนั 9. ผู้สอนสรุปเน้อื หาของประเภทของการเขยี นภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวันโดยการใหน้ กั เรยี นทำ แผนผังสรปุ ประเภทของการเขยี นในรูปแบบ Mind Mapping ส่อื และแหล่งการเรียนรู้ 1. หนงั สอื เรยี น การเขียนภาษาองั กฤษในชวี ติ ประจำวันของ สำนกั พิมพ์ เอมพนั ธ์ จำกัด 2. กจิ กรรมการเรียนการสอน 3. สื่ออิเล็กทรอนิกส์, PowerPoint และเคร่ืองคอมพิวเตอร์ หลกั ฐาน 1. บนั ทกึ การสอนของผสู้ อน 2. ใบเช็ครายชื่อ 3. แผนจัดการเรียนรู้ 4. แบบฝกึ หดั 5. แบบประเมินและแบบสงั เกตต่างๆ

26 การวัดผลและการประเมินผล วิธีวัดผล 1. สงั เกตและประเมินพฤตกิ รรมรายบคุ คล 2. สังเกตและประเมนิ พฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลุ่ม 3. ตรวจแบบฝกึ หดั 4. สังเกตและประเมนิ พฤติกรรมด้านคุณธรรม จริยธรรม คา่ นิยม และ คุณลักษณะอันพึงประสงค์ เคร่อื งมอื วัดผล 1. แบบสังเกตพฤติกรรมรายบคุ คล 2. แบบประเมนิ พฤตกิ รรมการเข้ารว่ มกิจกรรมกลุ่ม (โดยคร)ู 3. แบบสังเกตพฤติกรรมการเข้าร่วมกจิ กรรมกลุ่ม (โดยผูเ้ รียน) 4. แบบฝึกหดั 5. แบบประเมนิ คุณธรรม จริยธรรม คา่ นิยม และคณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ โดยครู และผเู้ รียนรว่ มกนั ประเมิน เกณฑ์การประเมินผล 1. เกณฑ์ผ่านการสังเกตพฤติกรรมรายบุคคล ต้องไมม่ ีชอ่ งปรบั ปรุง 2. เกณฑผ์ ่านการประเมนิ พฤติกรรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลุ่มระดับดี 3. เกณฑผ์ ่านการสงั เกตพฤตกิ รรมการเขา้ ร่วมกจิ กรรมกลุม่ ระดับดี 4. แบบฝึกหดั มเี กณฑก์ ารผ่านร้อยละ 80 ขน้ึ ไป 5. แบบประเมินคุณธรรม จริยธรรม ค่านยิ ม และคุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ คะแนนข้นึ อยูก่ ับการประเมนิ ตามสภาพจรงิ กจิ กรรมเสนอแนะ สืบคน้ ข้อมลู เพม่ิ เติม https://www.dailywritingtips.com/writing-styles/

27 บนั ทึกหลังการสอน สปั ดาหท์ .่ี ............... ชอ่ื วชิ า.......................................................................................... รหัสวชิ า................................................. แผนกวชิ า........................................................ วันท่สี อน..................................... หน่วยท่.ี ......................... รายการสอน...................................................................... จำนวนช่ัวโมง.................................................... ภาคเรียนท่ี...................................... ปกี ารศึกษา................... จำนวนผู้เรยี น ชัน้ .......... กล่มุ ............ จำนวน........... คน เขา้ เรียน............... คน ขาดเรียน...............คน ชน้ั .......... กลุม่ ............ จำนวน........... คน เขา้ เรยี น............... คน ขาดเรียน...............คน 1.เน้ือหาที่สอน (สาระสำคัญ) ...................................................................................... ................................................................................................... ............................................................................................................................................................. ............................ .2.ผลการสอน ............................................................................................ ............................................................................................. ............................................................. ...................................................................................................... ...................... 3.ปัญหา อุปสรรค ทเ่ี กิดขึน้ ในระหว่างการเรยี นการสอน ......................................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................. ........................................ 4.แนวทางการแก้ปัญหาของครผู สู้ อน (แนวทางการทำวิจัย) ................................................................................................................................................................... ...................... ............................................................................................................. ............................................................................ ลงช่ือ..........................................................ผู้สอน (นางสาวสิรินาถ จันทรส์ รุ ิย์) ........../........../.......... ลงชอื่ ...........................................................หัวหน้าแผนก ลงช่ือ...........................................................หวั หน้างานหลกั สตู รฯ (นางกุศล พรผดุงธรรม) (นายสมศักดิ์ หลวงนา) ........../........../.......... ........../........../.......... ลงชื่อ..........................................................รองผู้อำนวยการฝ่ายวิชาการ (นายประเสรฐิ ถึงวสิ ยั ) ........../........../..........

28 ชือ่ เร่ือง แผนการจดั การเรยี นรูท้ ี่ 2 เวลาเรยี นรวม 36 ชั่วโมง ช่อื วิชา การเขียนภาษาอังกฤษในชวี ติ ประจำวัน สอนครง้ั ท่ี 2 ชือ่ หน่วย An Introduction to Everyday จำนวน 2 ชวั่ โมง An Introduction to Everyday สาระสำคญั ส่ิงสำคัญของการเริ่มเขยี นภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวัน คือ หลักและวิธีการเขียน แบบต่างๆ ใน unit 1 น้ี เปน็ การปพู ื้นฐานให้ผู้เรยี นเกิดความเข้าใจในประเภทของการเขียนทเี่ กิดขึ้นในชวี ิตประจำวัน หลกั ไวยากรณ์ วธิ ีการเขยี น และรูปแบบตา่ งๆ ท่จี ำเป็นต่อการพฒั นาทักษะการเขยี น สมรรถนะประจำหน่วย 1. เขยี นข้อมูลบุคคล ข้อความและบันทึกย่อภาษาอังกฤษ 2. เขียนบัตรอวยพรภาษาอังกฤษในโอกาสต่าง ๆ 3. เขยี นจดหมายสว่ นตัวและจดหมายอิเล็กทรอนิกสภ์ าษาองั กฤษ 4. กรอกแบบฟอร์มภาษาองั กฤษชนดิ ตา่ ง ๆ 5. ใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศพัฒนาทักษะการเขยี นภาษาองั กฤษ จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ Unit 1: An Introduction to Everyday Writing (2) 2. เข้าใจหลกั ไวยากรณส์ ำหรับการเขียนประเภทต่างๆ 3. จำแนกรูปแบบการเขยี นประเภทตา่ ง ๆ ได้ คุณลักษณะท่ีพึงประสงค์ มีการพฒั นาคณุ ธรรม จริยธรรม คา่ นิยม และคุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ของผู้สำเรจ็ การศกึ ษา สำนักงาน คณะกรรมการการอาชีวศึกษา ทค่ี รูสามารถสังเกตไดข้ ณะทำการสอนในเรอื่ ง 1. ความมีมนษุ ยสมั พันธ์ 2. ความมวี นิ ัย 3. ความรบั ผิดชอบ 4. ความซอ่ื สัตย์สุจริต 5. ความเชอ่ื ม่นั ในตนเอง 6. การประหยดั 7. ความสนใจใฝ่รู้ 8. การละเว้นสง่ิ เสพตดิ และการพนัน 9. ความรกั สามัคคี 10. ความกตัญญกู ตเวที

29 สาระการเรยี นรู้ Unit 1: An Introduction to Everyday Writing (2) 2. เขา้ ใจหลักไวยากรณ์สำหรับการเขยี นประเภทตา่ งๆ 3. จำแนกรปู แบบการเขยี นประเภทต่าง ๆ ได้ กจิ กรรมการเรยี นรู้ ขน้ั นำเข้าส่บู ทเรยี น 1. ผ้สู อนให้ผเู้ รียนดูตัวอยา่ งเรื่องทเ่ี รียนในวันนี้ในหวั ข้อ Parts of speech จากน้นั ผู้สอนต้ังคำถามกบั ผูเ้ รยี นว่านยิ ามของ Parts of speech คอื อะไร (แนวทางการตอบคำถามอาจตอบว่าเป็น ส่วนประกอบของโครงสร้างทางประโยคในภาษาองั กฤษ) Teacher: What is the definition parts of speech? Students:……………………………………………… Keyword: a category to which a word is assigned in accordance with its syntactic functions. In English the main parts of speech are noun, pronoun, adjective, determiner, verb, adverb, preposition, conjunction, and interjection. 2. ผ้สู อนมีคำถามนำเขา้ สูบ่ ทเรียน 2 ข้อเกยี่ วกับ Parts of speech 1. I want to go to a university in the United Kingdom. 1. Adjective 2. Preposition 3. Noun 4. Verb 2. I'm sure I've met your boyfriend before. 1. Verb 2. Preposition 3. Interjection 4. Pronoun

30 ข้ันสอน 3. ผู้สอนบรรยายใหผ้ เู้ รียนฟงั วา่ เนื้อหาที่เรียนในวันนน้ี นั้ เปน็ เรื่องเกยี่ วกับหลกั ไวยากรณ์ในการเขียน ประเภทตา่ ง ๆ และรูปแบบการเขยี นประเภทต่าง ๆ โดยอธิบายถงึ ความสำคัญของเนอ้ื หาทเี่ รยี นใน วนั น้ี 4. ผ้สู อนให้รายละเอยี ดและยกตัวอยา่ งคำศพั ท์ทใ่ี ช้เก่ียวข้องกับ Parts of speech

31 5. เม่ือผู้สอนอธิบายและใหร้ ายละเอียดตา่ งๆ เก่ียวกบั Parts of speech เรยี บร้อยแลว้ ผู้สอนใหผ้ เู้ รยี น เปิดหนังสือการเขียนภาษาองั กฤษในชีวิตประจำวัน หนา้ 5-6 Exercise B-D ดังนี้ Exercise B ผู้สอนให้ผู้เรียนแยกประเภทของคำศัพท์ในประโยค 1 ประโยคน้ันว่า คำใด เป็น Parts of speech ประเภทไหนบา้ ง Exercise C ผู้สอนให้ผู้เรียนเรียบเรียงประโยคข้ึนมาในช่องว่างให้ถูกต้องตามหลักของ ไวยากรณ์

32 Exercise D ผ้สู อนให้ผู้เรียนขดี เส้นใตแ้ ละนำคำทถี่ กู ตอ้ งมาใสใ่ นชอ่ งวา่ ง 6. ผู้สอนถามคำถามกับผู้เรียนเบ้ืองต้นเกี่ยวกับประโยคในภาษาอังกฤษ ว่าผู้เรียนรู้จักเก่ียวกับข้อมูล อะไรบา้ ง Teacher: Do you know sentence structure are? Students: ……………………………………………. Keyword: Sentence structure is how all the parts of a sentence fit together. If you want to make more advanced and interesting sentences, you first have to understand how sentence structure works. 7. ผู้สอนอธบิ ายโครงสรา้ งของประโยคในภาษาองั กฤษวา่ โครงสร้างประโยคในภาษาอังกฤษน้ันตอ้ ง ประกอบด้วยอะไรบ้าง Sentence structure grammar rules Aside from knowing the parts of a sentence, you also have to follow the grammar rules. In case you forget, here’s a quick list: • Capitalize the first letter of the first word in a sentence. • End a sentence with a period, question mark, exclamation point, or quotation marks.

33 • Most of the time, the subject of the sentence comes first, the verb comes second, and the objects come last. (Subject -> Verb -> Object) • If the subject is singular, the verb must also be singular. If the subject is plural, the verb must be plural. This is known as subject-verb agreement. • 8. หลังจากที่ผู้สอนอธิบายโครงสร้างของประโยคในภาษาอังกฤษให้แก่ผู้เรียน ผู้สอนให้ผู้เรียนเปิด หนงั สือการเขียนภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวัน หน้า 7-8 แบบฝึกหดั A-F ตามลำดับ ดังนี้ แบบฝึกหดั A ให้ผเู้ รยี นตอบคำถามว่าขอ้ ความน้ีเป็นประโยค หรือไม่เป็นประโยค แบบฝึกหัด B ให้ผเู้ รียนขดี เส้นใต้วา่ ข้อความใดเป็นประธานของประโยค

34 แบบฝึกหัด C ให้ผเู้ รียนเตมิ คำศพั ท์ในช่องวา่ งใหส้ มบรู ณ์ แบบฝึกหัด D-F ให้ผู้สอนเลือกให้ผู้เรียนทำในคาบเพียง หัวข้อ 1 หลังจากน้ันผู้สอนเฉลยกับ ผู้เรียนร่วมกนั

35 9. ผู้สอนอธิบายการเขียนประโยคในภาษาองั กฤษว่ามีรูปแบบใดบา้ งใหผ้ เู้ รยี นทราบ

36

37 10.ผู้สอนใหผ้ ้เู รยี นทำแบบฝึกหัดขอ้ A-D หน้า 10-11 หลังจากน้ันเฉลยแบบฝึกหดั ร่วมกัน แบบฝกึ หดั A ใหผ้ ู้เรยี นตอบว่าขอ้ ความทใ่ี ห้มาน้นั ถูกหรอื ผดิ แบบฝึกหัด B ให้ผู้เรียนตอบคำถามว่าข้อความที่ให้มานนั้ เรียกว่าอะไรในภาษาอังกฤษ แบบฝกึ หดั C ใหผ้ ้เู รียนตอบคำถามวา่ ประเภทของการเขียนประเภทน้คี ือประเภทอะไร แบบฝกึ หดั D ให้ผ้เู รียนเรยี งลำดบั ข้อความใหถ้ กู ต้อง

38 11.ผู้สอนถามคำถามผู้เรียนคร่าวๆ ว่า Subject-verb agreement คืออะไร โดยให้ผู้เรียน search หา คำตอบ หรอื แนวคำตอบใน internet What is subject-agreement? Students:……………………... Keyword: Subject-verb agreement means that the sentence is grammatically correct. Subject-verb agreement is usually more of a problem in present-tense sentences. 12.ผสู้ อนอธิบายความหมาย รวมถึงวธิ กี ารใช้ Subject-verb agreement ใหก้ บั ผู้เรียน 13.ผู้สอนให้ผู้เรียนทำแบบฝึกหัดข้อ A และ B หน้า 12 ในหนังสือวิชาการเขียนภาษาอังกฤษใน ชวี ติ ประจำวัน แบบฝกึ หดั A ใหผ้ ู้เรียนคน้ หาคำตอบในอนิ เทอร์เน็ต และเขียนตอบคำถาม www.grammarbook.com/grammar/ subjectverbagree.asp แบบฝึกหัด B ให้ผู้เรียนขีดเส้นใต้คำกริยาท่ีถูกต้อง หลังจากนั้นเรียบเรียงประโยคข้ึนมาใหม่ให้ เหมาะสม

39 14.ผู้สอนอธิบายประเภทของประโยคคำถามและประโยคปฏิเสธให้ผู้เรียนฟัง 15.ผู้สอนให้นักเรียนทำแบบฝึกหัดข้อ A-D หน้า 13 ในหนังสือวิชาการเขียนภาษาอังกฤษใน ชวี ิตประจำวัน แบบฝึกหดั A ให้ผเู้ รียนลองฝกึ ทำในเว็บไซต์ทีแ่ นบมา www.englishgrammar.org/change-statement-questions and learn how to change the affirmative sentences into questions using do, does, แบบฝกึ หัด B ให้ผเู้ รยี นเปลย่ี นรูปแบบจากประโยคบอกเล่าให้ดปน็ ประโยคคำถาม แบบฝกึ หัด C ใหผ้ เู้ รยี นตอบคำถามในเว็บไซต์ www.englishpractice.com/children/change-negative-2 a แบบฝกึ หดั D ใหผ้ เู้ รียนเปลีย่ นจากประโยคบอกเลา่ ทกี่ ำหนดมา ให้เปน็ ประโยคปฏิเสธ

40 16.ผู้สอนอธบิ ายประเภทของการเขียนวา่ มปี ระเภทอะไรบา้ งให้กบั ผู้เรยี น จากนนั้ ให้ผู้เรยี นทำ แบบฝกึ หดั ในหนังสือการเขยี นภาษาอังกฤษในชีวติ ประจำวนั หัวขอ้ A-I หนา้ 14-17

41

42 สรุปและการประยุกต์ 17.ผสู้ อนให้ผู้เรยี นทำแบบฝึกหัด monitor in progress เพอ่ื สรปุ ความรทู้ ง้ั บทเรยี นทีเรยี นมา

43 18. ผู้สอนใหผ้ ูเ้ รียนอดั วิดโิ อคลิป เล่าเร่อื งราวที่เรียนมาในบทเรียนนี้ โดยมคี วามยาวไม่เกนิ 5 นาที สอื่ และแหล่งการเรยี นรู้ 1. หนงั สอื เรียน วชิ าการเขยี นภาษาองั กฤษในชวี ิตประจำวัน (Everyday English Writing) ของ สำนกั พมิ พเ์ อมพนั ธ์ จำกดั 2. กจิ กรรมการเรียนการสอน 3. ส่อื อเิ ลก็ ทรอนิกส์ PowerPoint และเครอ่ื งคอมพวิ เตอร์ หลักฐาน 1. บนั ทกึ การสอนของผูส้ อน 2. ใบเชค็ รายชื่อ 3. แผนจัดการเรยี นรู้ 4. แบบฝึกหัด 5. แบบประเมนิ และแบบสงั เกตตา่ งๆ การวดั ผลและการประเมนิ ผล วธิ ีวดั ผล 1. สงั เกตและประเมินพฤตกิ รรมรายบุคคล 2. สงั เกตและประเมนิ พฤติกรรมการเข้ารว่ มกจิ กรรมกล่มุ 3. ตรวจแบบฝกึ หัด 4. สังเกตและประเมนิ พฤติกรรมด้านคุณธรรม จรยิ ธรรม ค่านิยม และ คุณลักษณะอันพึงประสงค์

44 เครื่องมอื วดั ผล 1. แบบสังเกตพฤติกรรมรายบคุ คล 2. แบบประเมินพฤติกรรมการเข้ารว่ มกจิ กรรมกลุ่ม (โดยครู) 3. แบบสงั เกตพฤติกรรมการเขา้ รว่ มกิจกรรมกลุ่ม (โดยผเู้ รียน) 4. แบบฝกึ หัด 5. แบบประเมนิ คุณธรรม จรยิ ธรรม คา่ นิยม และคุณลักษณะอันพึงประสงค์ โดยครู และผู้เรยี นรว่ มกนั ประเมิน เกณฑ์การประเมินผล 1. เกณฑผ์ า่ นการสงั เกตพฤตกิ รรมรายบุคคล ต้องไม่มชี ่องปรับปรงุ 2. เกณฑ์ผ่านการประเมนิ พฤติกรรมการเข้าร่วมกิจกรรมกลุ่มระดับดี 3. เกณฑผ์ า่ นการสังเกตพฤตกิ รรมการเข้ารว่ มกิจกรรมกลมุ่ ระดบั ดี 4. แบบฝึกหดั มเี กณฑก์ ารผา่ นร้อยละ 80 ขน้ึ ไป 5. แบบประเมินคุณธรรม จรยิ ธรรม คา่ นยิ ม และคุณลักษณะอันพึงประสงค์ คะแนนขน้ึ อย่กู ับการประเมินตามสภาพจรงิ กิจกรรมเสนอแนะ ผสู้ อนสามารถสามารถสืบคน้ เนอื้ หาเพ่ิมเตมิ จากเวบ็ ไซต์ ดังน้ี https://www.englishclub.com/grammar/parts-of-speech.htm https://www.grammarly.com/blog/sentencestructure/#:~:text=Sentence%20struc ure%20grammar%20rules&text=End%20a%20sentence%20with%20a,verb%20 must%20also%20be%20singular. https://www.masterclass.com/articles/types-of-sentences#what-are-sentences https://www.grammarbook.com/grammar/subjectVerbAgree.asp

45 บนั ทกึ หลังการสอน สัปดาหท์ ่ี................ ชอื่ วชิ า.......................................................................................... รหสั วิชา.................. ............................... แผนกวชิ า........................................................ วันที่สอน..................................... หน่วยท.่ี ......................... รายการสอน...................................................................... จำนวนช่ัวโมง.................................................... ภาคเรยี นท่.ี ..................................... ปกี ารศึกษา................... จำนวนผเู้ รียน ชนั้ .......... กลมุ่ ............ จำนวน........... คน เขา้ เรียน............... คน ขาดเรยี น...............คน ชัน้ .......... กล่มุ ............ จำนวน........... คน เข้าเรยี น............... คน ขาดเรียน...............คน 1.เน้ือหาทส่ี อน (สาระสำคญั ) ............................................................................................................................. ............................................................ ............................................................................................................................. ............................................................ .2.ผลการสอน .......................................................................................................................................................................... ............... ......................................................................................................................................................................................... 3.ปญั หา อุปสรรค ที่เกดิ ข้ึนในระหว่างการเรยี นการสอน ............................................................................................................................. ............................................................ ................................................................................................................................................. ........................................ 4.แนวทางการแก้ปญั หาของครูผสู้ อน (แนวทางการทำวิจยั ) ................................................................................................................................................................... ...................... ............................................................................................................. ............................................................................ ลงช่อื ..........................................................ผ้สู อน (นางสาวสริ ินาถ จันทร์สุริย์) ........../........../.......... ลงชอ่ื ...........................................................หวั หนา้ แผนก ลงชอื่ ...........................................................หวั หนา้ งานหลกั สตู รฯ (นางกุศล พรผดุงธรรม) (นายสมศกั ดิ์ หลวงนา) ........../........../.......... ........../........../.......... ลงชื่อ..........................................................รองผู้อำนวยการฝ่ายวิชาการ (นายประเสรฐิ ถึงวิสัย) ........../........../..........

Sirinat Junsuri


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook