Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore KM สพอ.บางกรวย

KM สพอ.บางกรวย

Published by kongklome, 2020-06-29 09:15:23

Description: KM สพอ.บางกรวย

Search

Read the Text Version

องค์ความรู้ KM สำนักงานพัฒนาชุมชนอำเภอบางกรวย จังหวัดนนทบุรี

แบบบนั ทกึ องคค์ วามรรู้ ายบุคคล 1. ชอื่ องคค์ วามรู้ เทคนคิ การค้นหา (Champ) ตามโครงการประชุมเชงิ ปฏบิ ัตกิ ารคน้ หา ผปู้ ระกอบการชุมชน (Champ) 2. ชื่อเจ้าของความรู้ นายอุดมศกั ดิ์ ปานศรี พฒั นาการอำเภอบางกรวย จังหวดั นนทบรุ ี 3. องคค์ วามรทู้ ีบ่ ่งชี้ (เลือกไดจ้ ำนวน 1 หมวด) หมวดที่ 1 สรา้ งสรรคช์ ุมชนพ่งึ ตนเองได้ หมวดที่ 2 สง่ เสรมิ เศรษฐกิจฐานรากใหข้ ยายตัวอยา่ งสมดลุ หมวดท่ี 3 เสริมสรา้ งทุนชมุ ชนใหม้ ธี รรมาภิบาล / หมวดที่ 4 เสรมิ สรา้ งองคก์ รใหม้ ีขดี สมรรถนะสูง 4. ทีม่ าและความสำคัญในการจดั ทำองคค์ วามรู้ อตุ สาหกรรมการทอ่ งเทีย่ วเป็นธรุ กิจการทอ่ งเที่ยวท่สี ร้างรายได้ให้กบั ผู้ประกอบการการ ท่องเท่ียวและเป็นการกระจายรายได้ให้แก่ประชาชนในท้องถิ่นท่ีเป็นแหล่งท่องเท่ียว ส่งผลให้เศรษฐกิจของ ท้องถ่ินดีข้ึนและส่งผลต่อระบบเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศด้วย แต่เม็ดเงินท่ีหลั่งไหลเข้ามาจาก อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวผลประโยชน์ส่วนมากจะตกอยู่กับผู้ประกอบการ มีเพียงส่วนน้อยท่ีตกถึง มือ ประชาชนในท้องถ่ินโดยตรง ที่มีรายได้จากการขายของที่ระลึก ผลิตภัณฑ์ชุมชน และรายได้จากการบริการ จากเหตุผลดังกล่าวกรมการพัฒนาชุมชนจึงได้จัดทำโครงการชุมชนท่องเท่ียว OTOP นวัตวิถี เพ่ือให้ชุมชน สร้างรายได้ โดยการขายสินค้าอยู่ในชุมชน ทีมาจากการท่องเที่ยว โดยใช้เสน่ห์ ภูมิปัญญา วิถีชีวิต วัฒนธรรม และความคิดสร้างสรรค์ แปลงเป็นรายได้เพื่อสร้างชีวิตความเป็นอยู่ให้ดีขึ้น และได้ต่อยอดโครงการโดยได้ ร่วมกับ องค์การความร่วมมือระหว่างประเทศของญ่ีปุ่น (Japan International Cooperation Agency: JICA) ด ำเนิ น งาน โค รงก ารเพ่ื อ ส่ งเส ริม ผู้ ป ระก อ บ ก ารชุ ม ช น (Project for Community-Based Entrepreneurship Promotion) โดยมีเปา้ หมายเพอ่ื ให้เศรษฐกิจฐานรากในพน้ื ที่โครงการฯ ได้รบั การกระตุ้น ด้วยการเพิ่มขีดความสามารถของผู้ประกอบการในชุมชน และกำหนดวัตถุประสงค์เพื่อให้ผู้ประกอบการใน ชุมชนได้รับการพัฒนาตามแนวทางการจัดนิทรรศการแบบกระจายที่ผู้บริโภคได้ลงมือปฏิบัติด้วยตนเอง (Decentralized Hands – On Program Exhibition : D – HOPE ซึ่งโครงการดังกล่าวมีกิจกรรมการค้นหา Champ เพื่อสร้างโปรแกรมให้นักท่องเท่ียวได้ลงมือปฏิบัติ พร้อมรายละเอียดโปรแกรมท่ีผู้ที่ได้รับการ คัดเลือกให้เป็น Champ ได้ออกแบบเพ่ือเน้นเสนอความเป็นผู้ประกอบการของแต่ละคนที่เมื่อนำมารวมไว้ ด้วยกันช่วยสร้างความหลากหลายของแหล่งท่องเที่ยวในหมู่บ้าน ดังน้ันกระบวนการการคัดเลือกค้นหา Champ จึงมีความสำคัญ ท่ีจะทำให้การจัดนิทรรศการแบบมีส่วนร่วมสร้างเรียนรู้ และความประทับใจให้แก่ นักท่องเท่ียว ได้เห็นกระบวนการขั้นตอนการผลิตสินค้าและบริการ อันจะส่งผลให้ตัดสินใจเลือกซ้ือสินค้าและ บรกิ ารของชุมชนกลบั ไปทำให้เกดิ รายได้แก่ชมุ ชน ๕. กระบวนการลำดับขัน้ ตอน ๕.๑ คดั เลอื กชมุ ชนท่องเท่ยี ว OTOP นวตั วถิ ี ทีอ่ ยใู่ นเกณฑ์การประเมนิ ระดับ B เพื่อเข้ารว่ ม โครงการ

-๒- ๕.๒ ประสานผู้นำชุมชน เครือข่ายการท่องเท่ียว ส่วนราชการที่เก่ียวข้อง เพ่ือช้ีแจง วัตถุประสงค์ของโครงการและจัดเตรียมข้อมูลผู้ประกอบการและผลิตภัณฑ์ในชุมชนและเครือข่ายการ ทอ่ งเท่ยี ว ๕.๓ ศึกษาข้อมูลผู้ประกอบการชุมชน ปราชญ์ชุมชน ผู้นำชุมชน ส่วนราชการท่ีเกี่ยวข้อง เพอ่ื คดั เลือกเข้ารว่ มโครงการ จำนวน ๒๐ คน รวมถึงขอ้ มลู ของชุมชนท่องเทีย่ ว OTOP นวัตวิถี เปา้ หมายและ ชมุ ชนทีอ่ ยใู่ นเส้นทางการท่องเท่ยี ว ๕.๔ ศึกษาค้นคว้าจากเอกสารแนวทางการดำเนินงานโครงการของกรมฯ เพ่ือสร้างความ เขา้ ใจในขน้ั ตอนการดำเนนิ โครงการ ๕.๕ ประชุมสร้างความเข้าใจทีมงาน ทั้งในส่วนของเจ้าหน้าที่พัฒนาชุมชนจังหวัด อำเภอ และผู้นำชุมชน เพื่อสร้างทีมวิทยากร และจัดทำแผนการดำเนินโครงการ มอบหมายงานตามข้ันตอนการ ดำเนินงาน ๕.๖ ดำเนนิ การแผนการดำเนินงาน 6.เทคนคิ ในการปฏบิ ัตงิ าน `เนือ่ งจากกอ่ นการดำเนนิ โครงการประชมุ เชิงปฏิบัตกิ ารคน้ หาผู้ประกอบการชมุ ชน (Champ) มรี ายละเอยี ดขั้นตอนการดำเนินงานจำนวนมาก ประกอบกบั ทางการจดั นทิ รรศการแบบกระจายท่ี ผู้บริโภคได้ลงมือปฏิบัติด้วยตนเอง (Decentralized Hands – On Program Exhibition : D – HOPE เป็น เทคนิคการจัดนิทรรศการรูปแบบใหม่ เจา้ หนา้ ท่ีจงึ ขาดองค์ความรู้ ความชำนาญ ดังนั้นนอกจากการศกึ ษาจาก เอกสารคู่มือแนวทางการดำเนินงานของกรมฯ แล้ว จำเป็นต้องศึกษาหาข้อมูลอื่น ๆ เพ่ือให้เกิดทักษะและ เทคนิคใหม่ ๆ ในการจัดทำข้อมูลรายละเอียดของ Champ เพ่ือจัดทำเอกสารแผ่นพับประชาสัมพันธ์ให้มี รายละเอยี ดท่ีน่าสนใจ เทคนิคที่เกดิ จากการเรียนรู้ในการจัดทำโครงการ มดี งั น้ี ๖.๑ กิจกรรมการค้นหา Champ ควรดำเนินการก่อนท่ีจะดำเนินการจัดประชุม โดย การศึกษาจากขอ้ มูลผลิตภัณฑ์ในชมุ ชนท่องเที่ยว OTOP นวัตวถิ ี ข้อมูลปราชญ์ชุมชน ท้ังในการการผลติ สินค้า และบรกิ ารต่าง ๆ ในชมุ ชน และชุมชนท่องเท่ยี ว OTOP นวตั วิถี ในเสน้ ทางการท่องเที่ยว เพ่ือให้ครอบคลุมกับ ตวั ผลิตภณั ฑ์ สนิ คา้ และบรกิ ารท่มี ีอยใู่ นเส้นทางการทอ่ งเท่ียว ๖.๒ การกำหนดกลมุ่ เปา้ หมายตามโครงการ จำนวน ๒๐ คน ซ่งึ ประกอบด้วยผู้นำชุมชน ผู้ประกอบการสินค้าชุมชน กรรมการชุมชนท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถี เครือข่ายหมู่บ้านท่องเที่ยว ปราชญ์ ชุมชน เจ้าหน้าที่พัฒนาชุมชนและส่วนราชการท่ีเก่ียวขอ้ ง ควรกำหนดกลมุ่ เป้าหมายให้ครอบคลุมทุกภาคส่วน เพื่อระดมความคิดในการค้นหา Champ ไม่ยึดกับการค้นหา Champ ท่ีเป็นผู้ผลิตสินค้าชุมชน หรือสินค้า OTOP (Product) เพราะองค์ประกอบของชุมชนท่องเท่ียวนอกจากจะมีตัว (Product) แล้ว ยังมีสินค้าท่ีเป็น บริการ เช่นการนวดแผนไทย การบริการท่องเที่ยวทางเรือ หรือสถานท่ีที่เป็นศูนย์เรียนรู้ (Place) ซ่ึงต้องใช้ ทักษะความรู้ ความชำนาญเฉพาะตัว ดังนั้นการกำหนดกลุ่มเป้าหมายเพ่ือเข้าร่วมโครงการฯ จึงมีความสำคัญ เป็นอยา่ งมาก เพราะในการประชุมจะมีการระดมความคิดค้นหา Champ จำนวน ๑๐ Champ ซึ่งเป็นปราชญ์ หรือผเู้ ช่ยี วชาญเฉพาะทางดา้ นน้นั ๆ เช่น มีความชำนาญในการดา้ นแปรรปู สมนุ ไพร ด้านการทำอาหารพน้ื ถน่ิ หรือความรู้ทางด้านแพทย์แผนไทย การนวดแผนโบราณ ซ่ึงทักษะความชำนาญดังกล่าวสามารถจัดเป็น กจิ กรรมในการทดสอบโปรแกรมให้นกั ท่องเทีย่ วได้มสี ่วนรว่ มในการแปรรปู สมุนไพร การประกอบอาหาร

-๓- พื้นถิ่น และให้ปราชญ์ผู้รู้ในเร่ืองของสถานท่ีนั้น ๆ เป็นผู้เล่าเรื่องราวของชุมชน ดังนั้นหากกลุ่มเป้าหมาย ผู้เข้าร่วมประชุมครอบคลุมทุกกิจกรรมการท่องเท่ียวในชุมชนแล้ว จะทำให้การกำหนดกิจกรรมการทดสอบ โปรแกรมจะมีความสนุกสนาน ผู้เข้าร่วมประชุมได้เรียนรู้ ลงมือปฏิบัติได้ครบทุกโปรแกรม และเป็น ประสบการณเ์ พือ่ ใช้ในการต้อนรบั นกั ท่องเทีย่ ว โครงการประชุมเชิงปฏิบัติการค้นหาผู้ประกอบการชุมชน (Champ) กำหนดดำเนินการรวม ๖ วัน ซงึ่ ใน ๓ วนั แรก จะเปน็ กจิ กรรมทบทวนศักยภาพหมู่บ้าน OTOP นวัตวถิ ี วเิ คราะห์ศักยภาพชุมชน และ การให้ความรู้ในเร่ืองจัดนิทรรศการแบบกระจายที่ผู้บริโภคได้ลงมือปฏิบัติด้วยตนเอง และการระดมความคิด ค้นหา Champ จำนวน ๑๐ (Champ) เพ่ือจัดการทดสอบโปรแกรม หากในการจัดเวทีระดมความคิด ที่ ประชมุ เสนอ Champ ที่มีความรคู้ วามชำนาญหรอื เป็นปราชญด์ ้านในดา้ นหน่ึง ซึ่งไมไ่ ดเ้ ข้าร่วมประชมุ หรอื อยู่ ในชุมชนท่ีอยู่ในเส้นทางการท่องเที่ยว ก็สามารถเชิญเข้าร่วมในการจัดกิจกรรมการทดสอบโปรแกรม ซ่ึงอยู่ใน การประชุมคร้ังท่ี ๒ โดยพิจารณาให้เข้าร่วมประชุมแทนบุคคลใดก็ได้ท่ีไม่ได้คัดเลือกให้เป็น Champ หรือ พิจารณาคัดเลือกบุคคลที่มีความเหมาะสมเป็นกลุ่มเป้าหมาย ไม่ซ้ำกับการประชุม ๓ วันแรกก็ได้ ให้ครบ จำนวน ๒๐ คน 7. ประโยชนข์ ององคค์ วามรู้ เป็นแนวทางการดำเนินโครงการประชุมเชิงปฏิบัติการค้นหาผู้ประกอบการชุมชน (Champ) ซ่ึงกิจกรรมการค้นหา Champ เป็นปัจจัยสำเร็จของโครงการ (Key success factors) เน่ืองจากผลลัพธ์ สุดท้ายของโครงการ จะมีการนำข้อมูลโปรแกรมของแต่ละ Champ มาผลิตเป็นเอกสารประชาสัมพันธ์เพื่อ แจกจ่ายแก่นักท่องเที่ยว และสื่อมวลชน ดังน้ันหากเอกสารที่จัดทำมีข้อมูลท่ีครอบคลุมทุกกิจกรรมการ ท่องเท่ียวของชุมชน ท้ังด้านสินค้าและบริการ จะเป็นเอกสารที่ดึงดูดใจ และเป็นการเชิญชวนให้นักท่องเท่ียว มาเยีย่ มชมและร่วมกิจกรรมตามโปรแกรม และได้จำหน่ายผลติ ภณั ฑส์ ินค้าและบริการ เป็นการสร้างการมีส่วน ร่วมใหค้ นในชมุ ชนและไดป้ ระโยชนจ์ ากการท่องเที่ยวอยา่ งทั่วถงึ ----------------------------------------------------------------

แบบบนั ทกึ องคค์ วามรูร้ ายบุคคล 1. ชื่อองค์ความรู้ การขับเคลอ่ื นการดำเนินงานโครงการแกไ้ ขปัญหาความยากจน (กข.คจ.) 2. ชอ่ื เจา้ ของความรู้ นางสาวพิชญาภา มากสุวรรณ สงั กดั นกั วิชาการพฒั นาชุมชนปฏิบัติการ สำนักงานพัฒนาชมุ ชนอำเภอบางใหญ่ 3. องค์ความรู้ทบี่ ง่ ชี้ (เลือกได้จำนวน 1 หมวด)  หมวดท่ี 1 สรา้ งสรรค์ชุมชนพ่ึงตนเองได้  หมวดท่ี 2 ส่งเสรมิ เศรษฐกิจฐานรากให้ขยายตัวอยา่ งสมดลุ  หมวดท่ี 3 เสรมิ สรา้ งทนุ ชมุ ชนให้มีธรรมาภิบาล  หมวดที่ 4 เสริมสร้างองค์กรใหม้ ขี ดี สมรรถนะสูง 4. ทีม่ าและความสำคญั ในการจดั ทำองคค์ วามรู้ กรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทยได้รับมอบหมายให้รับผิดชอบดำเนินงานโครงการ แก้ไขปัญหาความยากจนให้แก่พี่น้องประชาชนผู้มีฐานะยากจนตามเกณฑ์ที่กำหนดตั้งแต่ปี พ.ศ. 2536 โครงการแก้ไขปัญหาความยากจน (กข.คจ.) เป็นการสนับสนุนเงินทุนให้ในระดับหมู่บ้าน โดยมอบอำนาจและ หน้าท่ีความรับผิดชอบให้องค์กรประชาชนในหมู่บ้านเป็นผู้บริหารจัดการเงินทุนให้หมุนเวียนอยู่ในหมู่บ้าน ตลอดไป การบริหารจัดการโครงการ กข.คจ. อาจไม่มีรูปแบบตายตัวในทุกประการ ขึน้ อยู่กบั ศักยภาพของแต่ ละหมู่บ้าน โดยได้รับสนับสนุนเงินทุนเพ่ือประกอบอาชีพแก่ครัวเรือนเป้าหมายหมู่บ้านละ 280,000 บาท โดยไม่มีดอกเบ้ีย โดยมอบอำนาจให้คณะกรรมการกองทุน กข.คจ. ประจำหมู่บ้าน บริหารจัดการเงินทุน หมู่บ้านเป้าหมาย ตามระเบียบกระทรวงมหาดไทย ว่าด้วยการบริหารและการใช้จ่ายเงินโครงการแก้ไขปัญหา ความยากจน พ.ศ. 2553 จากการติดตามผลการดำเนินงานจากสมาชิกหมู่บ้าน กข.คจ. พบว่าสมาชิกผู้กู้เงินบางราย ไม่ ปฏิบัติตามสัญญา อาจเน่ืองมาจากปัญหาด้านสุขภาพ และมีอายุมาก ปัญหาภัยแล้ง ผลผลิตการเกษตรได้รับ ผลกระทบทำให้ขาดทุน และต้นทุนในการผลิตมีราคาสูง ไม่มีเงินส่งคืนคณะกรรมการฯ จึงจำเป็นต้องมีการ บริหารจัดการหมู่บ้าน กข.คจ. เพ่ือให้ได้เงินทุนคืนกับมา และสามารถปล่อยกู้ยืมให้ครัวเรือนเป้าหมายที่ ประสงค์ขอกู้อีกต่อไป 5. กระบวนการลำดบั ข้นั ตอน 1. ตรวจสอบสภานะการดำเนินงานหมู่บ้าน กข.คจ. ตำบลท่ีรับผิดชอบ โดยตรวจสอบภาวะ หน้ีสิน/การบริหารงานของคณะกรรมการกองทุนฯ/เอกสาร ต่างๆ เพ่ือตรวจสอบและพัฒนาฐานข้อมูลให้ ถกู ต้องเป็นปัจจุบนั

-2- 2. ประชมุ ประธาน หมู่บ้าน กข.คจ. ให้มีความรู้ ความเข้าใจ ระเบียบกระทรวงมหาดไทย ว่า ดว้ ยการบริหารและการใช้จา่ ยเงินโครงการแก้ไขปัญหาความยากจน พ.ศ. 2553 และรับทราบขอ้ มลู ฐานะการเงนิ และปัญหา/อปุ สรรค ในการบรหิ ารงาน พร้อมแนวทางแก้ไขปญั หา 3. จัดทำฐานขอ้ มูลลูกหนี้ เพ่ือให้รูร้ ายละเอียดต่างๆ ของลกู หนี้ และแยกเป็นรายคน 4. ติดตามการชำระหนี้ เช่น ประสานทางโทรศัพท์ ,จัดทำหนังสือขอเชิญประชุมเพ่ือแก้ไข ปัญหาพร้อมทั้งออกเยี่ยมเยียนบ้านสมาชิกผู้กู้ เพ่ือให้กำลังใจ,รับทราบปัญหาและให้คำแนะนำพร้อม หาแนวทางการแกไ้ ขปัญหารว่ มกัน 5. ดำเนนิ การปรับโครงสรา้ งหนี้ โดยจัดทำหนงั สือแจง้ ใหม้ าช้ีแจงขอผอ่ นผนั ชำระหนกี้ บั คณะกรรมการฯ 6. ติดตามผลการดำเนนิ งานการชำระหน้ีของสมาชิกลูกหน้ี 6. เทคนิคในการปฏิบัตงิ าน 1. พัฒนากรประจำตำบลต้องศึกษาการดำเนินการตามระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วย การบริหารและการใช้จ่ายเงินโครงการแก้ไขปัญหาความยากจน คู่มือแนวทางจากกรมการพัฒนาชุมชน ข้อ กฎหมายทเ่ี ก่ยี วข้อง 2. ศึกษา วิเคราะห์ความเป็นมาของปัญหาของกลุ่ม จัดเตรียมข้อมูลเพื่อหาแนวทางแก้ไข ปญั หา 3. ติดตามสมาชิกท่ีมีปัญหาเพื่อรับทราบปัญหาและให้การส่งเสริมสนับสนุนช่วยเหลือ และ ประเมินผลอยา่ งตอ่ เนื่อง 4. ปอ้ งการความเส่ียง -ชี้แจงทำความเข้าใจแก่สมาชิก การปรับโครงหน้ีใหม่สำหรับสมาชิกท่ีมีปัญหาทาง การเงนิ และแจ้งแนวทางการดำเนินการทางภายใตร้ ะเบียบกระทรวงมหาดไทย -รวบรวมข้อมลู การลูกหนี้ท่ีเคยยน่ื ขอกเู้ งนิ เพ่ือจดั ทำเปน็ ฐานข้อมูลสำหรับตรวจสอบ 7. ปัญหาทีพ่ บและแนวทางการแก้ไขปญั หา 1. ลูกหน้ีติดต่อไม่ได้ มีการย้ายท่ีอยู่โดยไม่แจ้งให้คณะกรรมการทราบ แนวทางการแก้ไข ปัญหาประสานไปยังครอบครัวของสมาชิก หรือผู้นำชุมชนในพื้นที่เพ่ือแจ้งข้อมูล หรือร่วมออกติดตามพร้อม คณะกรรมการ กข.คจ. 2. ลูกหนี้ไม่มาร่วมประชุมตามหนังสือเชิญ และไม่ให้ให้ความร่วมมือในการชำระหน้ีคงค้าง แนวทางแก้ไขปัญหา ลงพืน้ ทตี่ ิดตาม

-3- 3. ลูกหนี้บางรายขาดรายได้เนื่องจากมีปัญหาด้านสุขภาพ และการประกอบอาชีพไม่เป็นไป ตามที่คาดหมาย แนวทางแก้ไขปญั หา ทำหนังสือเชิญมาพบเพื่อสอบถามสภาพปัญหาและปรับโครงสร้างหน้ี 8. ประโยชนข์ ององคค์ วามรู้ 1. ใช้เป็นแนวทางการบริหารจัดการกองทุนสำหรับ พัฒนากร และคณะกรรมการ กข.คจ. รว่ มถงึ ผู้ที่เก่ยี วข้อง 2. เป็นองค์ความรู้ให้แก่ กองทุนชุมชน เช่น กองทุนพัฒนาบทบาทสตรี กลุ่มออมทรัพย์เพ่ือ การผลิตโดยสามารถนำแนวทางและรูปแบบมาปรับใช้ 3. ชว่ ยให้เกดิ การบูรณาการการทำงานร่วมกนั ภายในพน้ื ทด่ี ้วยการเช่ือมโยงฐานขอ้ มูลลูกหนี้ กองทนุ ชมุ ชนเพ่ือป้องกนั ความเสยี่ งการเปน็ หนห้ี ลายช่องทาง

แบบบันทึกองค์ความรูร้ ายบุคคล 1. ช่อื องค์ความรู้ เทคนคิ การดำเนินงาน อช. และ ผนู้ ำ อช. ให้เป็นท่ีรจู้ ักของคนในชมุ ชน 2. ชอ่ื เจา้ ของความรู้ นายภาวัต คงกลอ่ มเจรญิ สงั กัด นักวิชาการพฒั นาชมุ ชนปฏบิ ตั กิ าร สำนกั งานพฒั นาชุมชนอำเภอบางกรวย 3. องค์ความรู้ที่บ่งช้ี (เลือกได้จำนวน 1 หมวด)  หมวดท่ี 1 สรา้ งสรรค์ชุมชนพ่งึ ตนเองได้  หมวดที่ 2 สง่ เสรมิ เศรษฐกิจฐานรากให้ขยายตวั อย่างสมดลุ หมวดท่ี 3 เสริมสรา้ งทนุ ชุมชนใหม้ ีธรรมาภิบาล  หมวดที่ 4 เสรมิ สรา้ งองค์กรให้มขี ดี สมรรถนะสงู 4. ทีม่ าและความสำคญั ในการจัดทำองคค์ วามรู้ กรมการพัฒนาชมุ ชน ได้ดำเนินงานตามโครงการพัฒนาอาสาพัฒนาชุมชน ตามมตคิ ณะรัฐมนตรี เม่ือ วันที่ 28 มกราคม 2512 โดยมีระเบียบกระทรวงมหาดไทย วา่ ด้วยการอาสาพฒั นาชุมชน พ.ศ.๒๕๔๗ แก้ไข เพ่ิมเตมิ ฉบบั ที่ 2 พ.ศ.2552 และฉบบั ท่ี 3 พ.ศ.2555 การเปน็ อาสาพัฒนาชมุ ชนในระดบั หมูบ่ ้าน นน้ั ไดก้ ำหนดหน้าท่สี ำคัญ ๆ ไว้ดังนี้ กระตุ้นใหอ้ งค์กรภาคประชาชนรสู้ ถานะปญั หาของหมู่บ้าน และสามารถวางแผนเพ่ือแก้ไขปัญหาไดเ้ อง รวมถึง การกระตุ้นให้ประชาชนรู้จักช่วยตนเองและเข้ามามีส่วนร่วมในการพัฒนา หมู่บ้านของตนไ ด้อย่างมี ประสิทธิภาพ ริเริ่มและสนับสนุนการดำเนินงานพัฒนา โดยเป็นที่ปรึกษากลุ่มเยาวชน กลุ่มสตรี กลุ่ม อาสาสมัคร ตลอดจนองค์กรประชาชน และกิจกรรมการพัฒนาต่าง ๆ ช่วยเหลือ สนบั สนุนการดำเนินงานตาม แผนงาน โครงการ หรือกิจกรรมการพัฒนาหมู่บ้าน เป็นผู้ประสานงานระหว่างองค์กรประชาชนกับหน่วยงาน ของรัฐ องค์กรเอกชน หรือเอกชนอื่น ๆ และปฏิบัติหน้าที่อื่น ๆ ตามที่เวทีประชาคม คณะกรรมการหมู่บ้าน องค์การบริหารส่วนตำบล หรือทางราชการมอบหมาย 5. กระบวนการลำดบั ขัน้ ตอน แนวทางการปฏบิ ตั ิงานของอาสาพฒั นาชุมชน และผู้นำอาสาพฒั นาชมุ ชนไว้ 10 ประการ คอื ๑. การจัดเกบ็ ขอ้ มลู เพอ่ื การพัฒนาชนบท เช่น ข้อมลู จปฐ. ขอ้ มลู กชช.๒ค ฯลฯ ๒. การขบั เคลอื่ นแผนชมุ ชน 3. การขับเคลือ่ นศูนยเ์ รียนรู้ชมุ ชน 4. การส่งเสริมวิถปี ระชาธปิ ไตย 5. การขับเคลอื่ นปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียง 6. การป้องกนั และแก้ไขปญั หายาเสพตดิ

7. การอนุรักษท์ รัพยากรธรรมชาตแิ ละสงิ่ แวดล้อม 8. การแกไ้ ขปัญหาความยากจน 9. การส่งเสริมอาชีพ 10. การส่งเสรมิ ทุนชุมชน 6. เทคนิคในการปฏิบตั งิ าน แนวทางในการขบั เคลือ่ นการดำเนนิ งานของ อช. และผ้นู ำ อช. ให้เป็นทีร่ จู้ ักของคนในชมุ ชนได้ ดงั น้ี ๑. เจ้าหนา้ ท่ีพัฒนาชมุ ชนควรชแี้ จง และนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับบทบาทหนา้ ท่ี แนวทางการดำเนินงาน ของ อช. และ ผู้นำ อช. เป็นประจำทุกปี เพื่อสร้างความเข้าใจในการดำเนนิ งาน ให้สามารถขับเคลื่อนภารกจิ ให้ประสบความสำเร็จได้ และควรพูดสอดแทรกในการประชุมหมู่บา้ น หรือประชุมอื่น ๆ ที่สามารถทำได้ เพ่ือ เปน็ การประชาสมั พันธ์และสรา้ งความคนุ้ เคยใหค้ นในชมุ ชนรจู้ กั อช. และผ้นู ำ อช. ซงึ่ การที่ อช. และผนู้ ำ อช. เข้าใจบทบาทหน้าที่ของตนเอง คนในชุมชนรูจ้ ักและเข้าใจว่า อช. และผู้นำ อช. คือใคร ทำหน้าที่อะไร จะทำ ให้การขับเคลอื่ นกิจกรรมต่าง ๆ เป็นไปอยา่ งราบรื่น ๒. สร้างเครือข่ายการทำงานร่วมกันกับกลุ่ม องค์การต่าง ๆ ในชุมชน เช่น องค์กรสตรี กลุ่ม OTOP องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และภาคีต่าง ๆ ในชุมชน เพื่อให้เกิดการยอมรับและสร้างพลังในการทำงาน รวมถึงเพิ่มขีดความสามารถในการขับเคลื่อนกิจกรรมของ อช. และผู้นำ อช. และยังเป็นการบูรณาการในการ ทำงานรว่ มกันอกี ด้วย 3. สำนักงานพัฒนาชุมชนอำเภอควรจัดกิจกรรมพัฒนาศักยภาพ ความรู้ความสามารถของ อช. และ ผ้นู ำ อช. ร่วมกับหน่วยงานภาคเอกชนและภาคราชการ เป็นประจำทุกปี 4. แสวงหางบประมาณจากองค์กรปกครองสว่ นท้องถ่ิน เพือ่ จัดกิจกรรม พฒั นาองคก์ ร และเครือข่าย ในด้านตา่ ง ๆ 5. ส่งเสรมิ อช และผูน้ ำ อช. ทีม่ คี วามรู้ความสามารถ เขา้ ประกวดเพือ่ รบั รางวลั ตา่ ง ๆ จากหนว่ ยงาน ภาครัฐและเอกชน 6. จัดทำแผนและปฏิทินการปฏิบัติงานประจำเดือน โดยสำนักงานพัฒนาชุมชนอำเภอ เป็นผู้เรียก ประชมุ ทกุ สิ้นไตรมาส 7. สนับสนุน ส่งเสริม ให้อช. และผู้นำ อช. ริเริ่มการจัดกิจกรรม/โครงการพัฒนาชุมชน ที่เป็น ประโยชน์ต่อชุมชน โดยใช้ชมรมอาสาพัฒนาชุมชนเป็นตัวขับเคลื่อน เพื่อให้มีการจัดกิจกรรมอย่างต่อเนื่อง และเปน็ การประชาสมั พนั ธ์ให้ อช. และ ผนู้ ำ อช. เปน็ ทร่ี ู้จัก

7. ประโยชนข์ ององคค์ วามรู้ 1. ใช้เปน็ แนวทางการบรหิ ารจัดการ อช ผูน้ ำ อช ในอำเภอของตนเองได้ 2. ช่วยให้เกิดการบูรณาการการทำงานรว่ มกันกับพัฒนาชุมชนอำเภอและพืน้ ท่ีการทำงานร่วมกันกบั กลุ่ม องค์การต่าง ๆ ในชุมชน เช่น องค์กรสตรี กลุ่ม OTOP องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และภาคีต่าง ๆ ใน ชุมชน ******************************************************************************

แบบบนั ทึกองค์ความรู้รายบคุ คล 1.ชอื่ ความรู้ การพฒั นาหมู่บา้ นเศรษฐกจิ พอเพยี งโดยใช้หลกั การมีสว่ นรว่ ม บา้ นคลองขวาง หมทู่ ี่ 3 ตาบลมหาสวัสดิ์ อาเภอบางกรวย จงั หวัดนนทบรุ ี 2.เจา้ ของความรู้ นายสมานชยั นดั ดา ตาแหน่ง/สงั กดั เจ้าพนักงานพฒั นาชุมชนชานาญงาน สงั กัด สานกั งานพัฒนาชุมชนอาเภอบางกรวย จงั หวดั นนทบรุ ี โทร 084-699-8913 3. องค์ความร้ทู ีบ่ ง่ ชี้ หมวดที่ 1 สรา้ งสรรคช์ มุ ชนพ่งึ ตนเองได้ หมวดที่ 2 สง่ เสรมิ เศรษฐกจิ ฐานรากให้ขยายตวั อย่างสมดุล หมวดที่ 3 เสริมสรา้ งทนุ ชุมชนใหม้ ธี รรมาภบิ าล หมวดท่ี 4 เสรมิ สรา้ งองค์กรใหม้ ขี ดี สมรรถนะสงู แกไ้ ขปญั หาทเี่ กยี่ วกบั การพฒั นาหมู่บา้ น เศรษฐกจิ พอเพยี งแบบมีสว่ นร่วม 4. ท่ีมาและความสาคัญในการจดั ทาองค์ความรู้ เหตุการณ์น้ีเกิดข้ึนเม่ือ ปี พ.ศ. 2562 ปจั จุบนั วิถีชวี ิตของคนในชุมชนเปล่ยี นแปลงไปตามกระแสบริโภคนิยม เนน้ การพง่ึ พาภายนอก มากกวา่ ท่ี จะพึ่งพาตนเอง และจากประสบการณ์การทางานในชมุ ชนที่ผา่ นมา พบวา่ คนในหมบู่ า้ นอยู่อย่างตัวใครตัวมนั ไมเ่ อ้อื อาทร ต่อกนั เคยชินกับการใชช้ ีวติ อยา่ งฟงุ้ เฟ้อ ฟุ่มเฟอื ย ไมร่ ู้จกั ประมาณตน การทีจ่ ะเปล่ียนแนวคิดของคนในชมุ ชน จะต้องใชเ้ วลาและความอดทนเปน็ อยา่ งมาก ต้องสร้างแนวความคดิ สรา้ งจิตสานึกแล้วขบั เคล่ือนใหเ้ ขาตระหนักถงึ ความพอเพียง ตามหลักปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพียง นอกจากนผี้ ู้นาชุมชนจะต้องประพฤติตนเป็นแบบอยา่ งท่ีดี สร้างศรทั ธาใหเ้ กิดกับคนในชมุ ชน และใช้หลกั การมสี ่วนร่วมในการพัฒนา 5. กระบวนการลาดบั ขั้นตอนท่ีสง่ ผลให้งานนนั้ ๆประสบผลสาเร็จ การพัฒนาหมบู่ ้านคลองขวาง ใหเ้ ปน็ หมบู่ ้านเศรษฐกจิ พอเพยี งตน้ แบบโดยการใช้งบประมาณจากโครงการตาม ยุทธศาสตร์กรมการพัฒนาชุมชน และใช้หลกั การมีส่วนร่วม ดังนี้ ๑. ใหข้ าวบา้ นคลองขวางร่วมคดิ วิเคราะห์ –สงั เคราะหป์ ญั หาของชมุ ชน โดยใชข้ อ้ มลู จปฐ. ,กชช.2 ค.ข้อมลู อืน่ ๆ ที่เก่ยี วข้อง และสภาพปจั จุบนั หาปัญหา สาเหตุ แนวทางแกไ้ ขปัญหา ๒. ใหข้ าวบา้ นคลองขวาง ร่วมวางแผนทเ่ี หมาะสมและสอดคล้องกบั วถิ ชี ีวิต โดยยึดแผนชุมชนเป็นแนวทาง ร่วมตัดสนิ ใจ ดาเนนิ กิจกรรมตามแผนทวี่ างไว้ โดยการรวมกลมุ่ และทากจิ กรรมรว่ มกัน เช่นการปรับภมู ทิ ศั นแ์ ละสภาพ แวดล้อมภายในครัวเรือนและชุมชน ,ส่งเสรมิ สนับสนนุ ปลกู ผักสวนครัวปลอดสารพษิ สง่ เสริมสนับสนุนการตัดเยบ็ กระเป๋า จากแผน่ ไวนลิ ,ส่งเสรมิ สนบั สนนุ กลมุ่ ทาขนมไทย ,สง่ เสริมสนบั สนุนการออมเงนิ กับกลุ่มออมทรัพย์ฯ ,สง่ เสรมิ กล่มุ ฌาปนกจิ หมู่บา้ น

3. ขาวบา้ นคลองขวางรว่ มรบั ผลประโยชนร์ ่วมกัน ทุกคนในชุมชนมีความสขุ อย่อู ย่างพอเพยี ง ไม่เป็นหนี้นอก ระบบ 4. ร่วมตดิ ตามประเมินผลกจิ กรรม สรุปผลการดาเนนิ งาน และขยายผลไปสู่หมู่บา้ นอื่นร่วมกับเจ้าหน้าท่ขี องรฐั 6.เทคนิคในการปฏบิ ตั ิงาน กลเม็ดเคล็ดลับการทาให้บ้านคลองขวางกลับมาเหน็ ถึงความสาคัญและสามารถเกดิ แรงจูงใจในการพฒั นาหมู่บา้ น ตนเองให้เกิดความสาเร็จได้ดาเนินการ”สร้างเสริมประสบการณ์และการแลกเปล่ยี นเรียนรู้จากการศึกษาดงู านและ ความสาเรจ็ ของคนต้นแบบ “ 1. .ให้คณะกรรมการหมบู่ า้ น/ครอบครัวพัฒนาได้ศึกษาดูงานนอกสถานท่ี และนามาเปรยี บเทยี บกบั หมบู่ ้าน ของตนเอง 2. ใหค้ รอบครวั ท่ีประสพผลสาเร็จเขา้ มาบรรยายถงึ เคลด็ ลบั แห่งความสาเร็จ 7.ประโยชน์ขององค์ความรู้ 1. การพฒั นาจะเกิดจากความต้องการของชุมชนอย่างแท้จริง 2. ผนู้ าไดน้ าแบบอย่างที่ดมี าปฏบิ ตั ิเพื่อสรา้ งศรัทธาใหเ้ ปน็ ทย่ี อมรบั ของประชาชน 3. ประชาชนเกิดการเปลี่ยนแปลงทศั นคตเิ ดมิ ๆมาเปน็ แนวทางการพฒั นาแนวใหม่ 4. .ประชาชนยดึ หลกั ประชาธปิ ไตย 5. เกดิ กระบวนการมสี ว่ นรว่ มจากทกุ ฝา่ ยอยา่ งเต็มใจ 8.ขอ้ พึงระวัง 1. การบริหารจดั การในหมู่บ้านชุมชนตอ้ งยดึ หลักความยุตธิ รรม และความโปรง่ ใส 2. ความไมเ่ ข้าใจแบ่งพรรคแบ่งพวกกอ่ ให้เกดิ ความแตกแยกทาให้ไม่ประสพผลสาเร็จ


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook