วิถีชนคนอสี าน ๑. ความเปน็ มาของภาคอีสาน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือหรือท่ีนิยมเรียกกันจนติดปากว่า ภาคอีสาน เป็นภูมิภาคที่มีความโดดเด่น มีความหลากหลายท้ังทางด้านศิลปวัฒนธรรม ประเพณีและวิถีชีวิตที่เรียบง่าย ด้วยขนาดของภูมิภาคท่ีกิน พื้นที่กว่า ๑ ใน ๓ ของพ้ืนแผ่นดินไทย จึงทาให้ภูมิภาคแห่งนี้มี จานวนประชากรมากที่สุดในประเทศและมีความหลากหลายของ เช้ือชาตปิ ระชากรอย่างเห็นได้ชดั เจน ขอบเขตของภาคอีสาน ภาคอีสาน มีเน้ือท่ีมากท่ีสุดของประเทศไทย ประมาณ 168,854 ตารางกิโลเมตร หรือมีเนื้อท่ีร้อยละ 33.17 เทียบได้กับ 1:3 ของพนื้ ท่ที ้งั หมดของประเทศไทย จัดว่าเป็นพ้ืนท่ีท่ีใหญ่ที่สุดใน ประเทศไทย ๒. ขนบธรรมเนียมประเพณี ประเพณีและความเช่ือของชาว อีสานนั้น นับว่ามีส่วนช่วยทาให้การดารงชีวิตของสังคม มีความ สงบร่มเยน็ ความเชื่อในเรือ่ ง ภตู ผี เทพาอารักษ์ ถูกกาหนดข้ึนด้วย จุดประสงค์แฝงเร้นให้เกิด การอนุรักษ์ทรัพยากรพื้นถ่ิน สร้างแหล่งอาหาร พืชพันธุ์อันอุดมสมบูรณ์ และช่วย รกั ษาป่าไม้ให้กับชุมชนหลายๆ ประเพณีจึงมีขึ้นเพ่ือรวมใจของคนในชุมชน สร้างขวัญกาลังใจในการประกอบ สัมมาอาชีพ ล้วนแล้วแต่เป็นภูมิปัญญาของท้องถ่ินอันทรงคุณค่า เมื่อท่านไปเยือนถิ่นอีสาน นอกจากจะได้ชื่น ชมกับขนบธรรมเนยี มประเพณี การแสดงออกทางดา้ นศิลปวฒั นธรรมแล้ว ท่านยังคงได้ความประทับใจทุกคร้ัง ที่ได้มาเยือน ยกตัวอย่าง งานบุญและประเพณีของคนไทยอีสาน เช่น บุญบั้งไฟ(จ.ยโสธร) หรือ บุญผะเหวต (จ.รอ้ ยเอด็ ) ประเพณีบุญบง้ั ไฟ
บุญบ้ังไฟ เป็นความเชื่อของคนอีสานในการขอฝนสืบต่อมา จากเรื่องพญาคันคาก ผู้รบชนะพญาแถน และขอให้แถนบันดาลให้ฝนตกต้องตามฤดูกาล พญาแถนจึงบอกให้พญาคันคาก ว่าต้องการฝนเมื่อใด ให้ส่ง สัญญาณไปบอกด้วยการจุดบ้ังไฟข้ึนฟ้าไป พญาแถนก็จะสั่งฝนลงมาให้ เมื่อถึงฤดูทานาก็จะขอฝนมาทานา ก็ส่งสัญญาณบอกแถนด้วยการจุดบั้งไฟการจุดบ้ังไฟจะทากันในเดือนหก และจะทาหลังจากท่ีทาพิธีเลี้ยงบ้าน ไปแลว้ ประเพณบี ญุ ผะเหวต บุญผะเหวด เป็นประเพณีบุญตามฮีตสิบสอง ของชาวอีสาน แต่ถ้าถือเป็นเรื่องทาน ก็เป็นบุญ ประเพณกี ารบรจิ าคทานครง้ั ย่งิ ใหญ่ กพ็ อจะอนมุ านไดถ้ ึงวถิ ีทวั่ ไปของชาวอสี านวา่ เมื่อต้นจิกและต้นจาน ออก ดอกผลิบานราวตน้ เดอื น ๓ ในเวลานน้ั พทุ ธศาสนกิ ชนจะเกบ็ ดอกไมเ้ หล่านี้ มาร้อยเป็นมาลัยเพ่ือตกแต่งศาลา การเปรยี ญสาหรับบุญมหาชาติ และในงานนีก้ ็จะมกี ารเทศนม์ หาชาติ ซง่ึ ถือวา่ เป็นงานอันศักดิส์ ิทธิ หากผู้ใดฟัง เทศน์มหาชาติ จบภายในวันเดียว พร้อมทั้งบาเพ็ญคุณงามความดี จะได้อานิสงส์ไปเกิดในภพภูมิท่ีดีในวัน ข้างหนา้ โดยมีการประดบั ประดาด้วยตงุ ที่สวยงาม ๒.๑ ตุง ความศรทั ธาท่ีงดงามยามสายลม บนแผ่นดินอสี านจะมีงานบญุ ประเพณใี นแต่ละเดือนท่บี ง่ บอก ถงึ วิถกี ารดารงชวี ิตท่ีเชอ่ื มโยงระหวา่ งพิธกี รรมและการ ดารงชีวติ ของผูค้ นในแต่ละพื้นถิ่น กอ่ ให้เกิดความภาคภูมใิ จ และความสามัคคีในพน้ื ถนิ่ โดยใช้งานบุญประเพณปี ระจาเป็น ตัวเชือ่ มประสานในงานบุญประเพณีแตล่ ะเดอื นของชาวอีสาน
มกั จะประดษิ ฐ์ “ตุง” หลากหลายรปู แบบและหลากหลายสสี นั บนผืนผ้าหรือใช้วสั ดสุ ิ่งอื่นเพือ่ ส่ือความหมาย ระหว่างมนุษย์กับสง่ิ ศักดิ์สิทธิ์ตา่ ง ๆ ตามความเชื่อท่มี ีมาแต่โบราณ “ตุง” มีความเป็นมาจากเรื่องเล่าเม่ือคร้ังในอดีตว่า มีพวกเหล่ามารปีศาจข้ึนไปก่อกวนเทวดาบน สวรรค์ จนทาให้เหล่าเทวดาตกใจกลัวเป็นอย่างมาก ทาให้เจ้าแห่งสวรรค์สร้าง ตุง ข้ึนมา เพ่ือให้เหล่าเทวดา ได้มองเห็น ตุง แล้วเกิดความกล้าหาญไม่หวาดกลัวเหล่ามารปีศาจอีกต่อไป ตุง จึงเป็นเหมือนตัวแทนในการ ขับไล่มารร้ายไปจากสวรรค์น้ันเอง ทาให้ในกาลต่อมามนุษย์จึงได้ประดิษฐ์ ตุง เพื่อเป็นส่ือกลางในการติดต่อ ระหว่างมนษุ ย์กบั สงิ่ ศักด์สิ ิทธิ์ การตดิ ตอ่ สอ่ื สารระหว่างมนุษย์กับผทู้ ีล่ ว่ งลบั ไปแล้ว อีกท้ังเพ่ือเป็นพุทธบูชา อีก ทั้งเปน็ ปจั จยั การสง่ กุศลใหแ้ กต่ นเองในชาติหนา้ จะได้เกดิ บนสรวงสวรรค์ตอ่ ไป ตุงอสี าน 6 ประเภท ดังน้ี 1) ธงราว 2) ธงไชย 3) ธงสบิ สองราศี 4) ธงเจดีย์ทราย 5) ธงไส้หมู 6) ธงใยแมงมมุ ตุงใยแมงมุม เป็นตุงท่ีทาจากเส้นด้ายจากเส้นฝ้ายหรือเส้นไหม ผูกโยงกันคล้ายใยแมงมุม นิยมใช้ แขวนตกแตง่ ไวห้ น้าพระ ซง่ึ มเี อกลกั ษณ์อนั โดดเด่น สสี ันสดใสงดงามนิยมใช้แขวนตกแต่งไว้หน้าพระประธาน หรอื โดยรอบในงานพธิ ีกรรม ในการปกป้องคุ้มครองคล้ายกับตุงไชย ซ่ึงเป็นท่ีแพร่หลายในภาคอีสาน เช่น การ ประดับธงใยแมงมุมของวดั ไชยศรี งานบุญผะเหวดบา้ นสาวะถี และการประดับในงานร่วมสมยั
๒.๒. ตานานเล่าขานทุ่งกุลาร้องไห้/บ่อพันขัน เป็นท่ีราบขนาดใหญ่ มีพ้ืนท่ีประมาณ 2,000,000 ไร่ มีอาณาบริเวณครอบคลุมพ้ืนท่ี 5 จังหวัด คือ จังหวัดร้อยเอ็ด จังหวัดศรีสะเกษ จังหวัดสุรินทร์ จังหวัด บุรรี มั ย์ และจังหวดั มหาสารคาม พืน้ ทส่ี ่วนใหญป่ ระมาณ 700,000 ไร่ อยู่ในเขตจังหวัดร้อยเอ็ด บริเวณอาเภอ โพนทราย อาเภอเกษตรวสิ ยั และอาเภอปทมุ รัตน์ สาเหตุท่ที ุ่งน้ีมชี อื่ ว่า ทุ่งกุลารอ้ งไห้ เปน็ เรอ่ื งเล่าที่สืบทอด เรื่องเล่าชนเผ่ากุลา ซึ่งเป็นชนกลุ่มน้อยจากเมืองเมาะตะมะ ประเทศมอญ (ปัจจุบันประเทศมอญได้ถูก พมา่ ยดึ ไป) กุลากลุม่ นีม้ อี าชีพคา้ ขายระหว่างเมือง นาสินค้าประเภทสีย้อมผ้า เครื่องทองเหลืองต่าง ๆ กุลาได้ เดินทางค้าขายผ่านทุ่งแห่งนี้ ใช้เวลาเดินทางหลายวัน ไม่พบผู้คน ไม่พบหมู่บ้าน ไม่พบแหล่งน้า ไม่มีต้นไม้ให้ ร่มเงา มีแต่หญ้าขึ้นสูงเต็มไปหมด ส่วนดินก็เป็นดินทราย ยากลาบากแก่การเดินทาง เหมือนเดินทางอยู่ กลางทะเลทราย จะขอความช่วยเหลือจากใครก็ไม่ได้ เพราะไม่มีใครให้ขอความช่วยเหลือ มีแต่แดด ต้นหญ้า และดินปนทราย ถึงเวลาค่าคืน ท้งั หิว ท้งั เหน่ือยสายตวั แทบขาด ร่างกายขาดน้าทาทา่ จะตายเอา ทั้งหมดจึงได้ แต่นอนร้องไห้ จนมีชาวพ้ืนเมืองผ่านมาพบเข้า จึงช่วยเหลือหาบหามกันไปพยาบาลในหมู่บ้าน ผู้รอดตายจึง เล่าเหตุการณก์ ่อนที่จะได้รบั ความช่วยเหลือวา่ เอาแต่นอนไห้เพียงอย่างเดียว ชาวบ้านจึงต้ังช่ือทุ่งนี้ว่า ทุ่งกุลา ร้อง
Sinkhole เสน้ ทางพญานาคราช หลุมยุบ สาเหตุการเกิดหลุมยุบ ไม่จาเป็นต้องเกิดจากธรรมชาติเท่านั้น อาจจะ จากการกระทาของมนุษย์ได้ เช่น การใช้งานท่ีดินทางด้านชลประทานหรือการสูบน้า เพื่อการก่อสร้างและ พัฒนา หรือมีการก่อสร้างและส่งผลกระทบทาให้เกิดการเปลี่ยนทางน้า หรือระบบทางน้าธรรมชาติใหม่ หรือ มีการปล่อยน้าจากโรงงานอุตสาหกรรม ซึ่งจากที่กล่าวมาทาให้เกิดหลุมยุบได้ หรือการบรรทุกของท่ีหนัก เกินไป ถนนท่ีรถบรรทุกว่ิงผ่านมากๆ ย่อมทาให้เกิดหลุมยุบได้เร็วย่ิงข้ึน หลุมยุบเกิดขึ้นมาต้ังแต่อดีตจนถึง ปัจจบุ ัน ภาษาถ่ินอีสาน ภาษาไทยถ่ินอีสาน หรือ ภาษาลาวอีสาน เป็นภาษาท้องถิ่นท่ีใช้พูดในภาค ตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย เป็นภาษาลาวสาเนียงหน่ึงในสาเนียงภาษาถิ่นของภาษาลาวซ่ึงแบ่งเป็น 6 สาเนียงใหญ่ เป็นภาษาท่ีมีความสวยงาม เป็นเอกลักษณ์ และความน่าสนใจ ทั้งยังเป็นสิ่งที่แสดงให้เห็นถึง วิถีชีวิตและเล่าเรื่องราวในอดีตมาจนถึงปัจจุบัน ภาษาอีสานหลายคาค่อย ๆ หายไปตามยุคสมัยจนหาฟังได้ ยาก เหลือเพียงแค่คาศัพท์ท่ีใช้กันบ่อย ๆ อยู่แค่ไม่ก่ีคา เว้นแต่ว่าจะได้สนทนากับคนเฒ่าคนแก่จึงจะได้ยินคา เก่าๆ ภาษาอสี านกาลังได้รับความนยิ มเปน็ อย่างมาก และได้รับการยอมรบั มากข้นึ ออนซอน แปลวา่ : รู้สกึ ประทบั ใจ ชอบใจเป็นอย่างมาก ปลม้ื ปร่มิ งดั ถง่ั งัด แปลวา่ : งัดแล้วกแ็ ทง แทงเข้าไปแลว้ กง็ ัด ถ่ัง หมายถึง การกระทุ้ง กระแทก แหย่ จ๊วด เข้าไป แปลว่า : เสยี งของบ้งั ไฟ เวลาจดุ บงั้ ไฟ ตอนบั้งไฟข้นึ จะมเี สียงดัง \"จ๊วด\" จงึ มีการ เลยี นแบบเสียงจากธรรมมาใชใ้ นภาษาอสี าน ใชก้ ับเร่อื งทว่ั ๆไป อะไรที่กาลงั จะเรม่ิ สนกุ กาลงั พุง่ ข้ึน กาลงั จะมันส์ สามารถใช้คาว่า \"จ๊วด\" มาประกอบเพื่อเพมิ่ อรรถรส เด๋อเดยี่ งดา่ ง แปลวา่ : กระดานหก, กระดานกระดก เครือ่ งเล่นสาหรบั เด็กอย่างหน่ึง เปน็ แผน่ ไม้ กระดานระหวา่ งกงึ่ กลางความยาวของไม้มขี าซึ่งตรงึ ตดิ กบั แผน่ ไม้ ผูเ้ ลน่ นั่งท่ีปลาย ไม้ทงั้ ๒ ขา้ ง ผลัดกนั กระดกไม้กระดานใหข้ ึ้นลง
ส้มแบ้ แปลวา่ : แหนมท่ีทาจากเนื้อแบ้ หรอื เนื้อแพะ วิธกี ารทาคลา้ ยๆกับแหนมหมู แหนมเนอ้ื ซกิ งิก แปลวา่ : อาการงอนเชดิ หนา้ หนี ประมาณว่า \"ช\"๊ิ , \"เฉอะ\" หวั ซา แปลว่า : สนใจ,ใส่ใจ ซงั แปลวา่ : เกลยี ด ชงั การละเล่นพืน้ บ้านอสี าน การละเลน่ พน้ื บ้าน หมายถึง กิจกรรมการเล่น ของสังคม เป็นกิจกรรมนันทนาการหนึ่งซึ่ง ได้รับการยอมรับร่วมกันในสังคม โดยมี รากฐานมาจากความเป็นจริงแห่งวิถีชีวิตของ ชุมชนที่มีการประพฤติปฏิบัติสืบทอดกันมา จากอดีตสู่ปัจจุบัน การละเล่นแสดงออกด้วย การเคลื่อนไหวกริยาอาการเป็นหลัก อาจมี ดนตรี การขับร้องหรือการฟ้อนรา ประกอบการเล่น มีจุดมุ่งหมาย เพ่ือความ สนุกสนานเพลิดเพลนิ
Search
Read the Text Version
- 1 - 10
Pages: