Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore บทท่องอาขยาน

บทท่องอาขยาน

Published by นุชจรีย์ เรือนงาม, 2023-01-10 07:23:40

Description: บทท่องอาขยาน

Search

Read the Text Version

บทท่องอาขยาน ระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น บทหลัก ม.ต้น

คำนำ หนังสือเล่มนี้จัดขึ้นเพื่อเป็นประโยชน์แก่การศึกษาหาความรู้ เกี่ยวกับการ อ่านบทอาขยานของ ม.ต้น ทั้งบทเลือกและบทหลัก ผู้จัดทำหวังว่าจะเป็น ประโยชน์แก่ผู็ที่สนในหนังสือเล่มนี้ ผู้จัดทำ เด็กหญิงนุชจรีย์ เรือนงาม

สารบัญ 1 นิราศภูเขาทอง 2 โคลงโลกนิติ 3 บทเสภาสามัคคีเสวก ตอน วิศวกรรมา 4 ภาษิตอิศรญาณ - บทพากย์เอราวัณ 5 รามเกียรติ์ ตอน ศึกอินทรชิต 6 พระสุริโยทัยขาดคอช้าง 7 พระอภัยมณี ตอน พระอภัยมณีหนีนางผีเสื้อ

บทท่องอาขยานระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น บทหลัก ม.ต้น ๑. นิราศภูเขาทอง มาถึงบางธรณีทวีโศก ยามวิโยคยากใจให้สะอื้น โอ้สุธาหนาแน่นเป็นแผ่นพื้น ถึงสี่หมื่นสองแสนทั้งแดนไตร เมื่อเคราะห์ร้ายกายเราก็เท่านี้ ไม่มีที่พสุธาจะอาศัย ล้วนหนามเหน็บเจ็บแสบคับแคบใจ เหมือนนกไร้รังเร่อยู่เอกา ถึงเกร็ดย่านบ้านมอญแต่ก่อนเก่า ผู้หญิงเกล้ามวยงามตามภาษา เดี๋ยวนี้มอญถอนไรจุกเหมือนตุ๊กตา ทั้งผัดหน้าจับเขม่าเหมือนชาวไทย โอ้สามัญผันแปรไม่แท้เที่ยง เหมือนอย่างเยี่ยงชายหญิงทิ้งวิสัย นี่หรือจิตคิดหมายมีหลายใจ ที่จิตใครจะเป็นหนึ่งอย่าพึงคิด ถึงบางพูดพูดดีเป็นศรีศักดิ์ มีคนรักรสถ้อยอร่อยจิต แม้พูดชั่วตัวตายทำลายมิตร จะชอบผิดในมนุษย์เพราะพูดจา พระสุนทรโวหาร (ภู่) 1

๒. โคลงโลกนิติ คณนา พระสมุทรสุดลึกล้น หยั่งได้ กำหนด สายดิ่งทิ้งทอดวา ยากแท้หยั่งถึง เขาสูงอาจวัดวา ชลธาร จิตมนุษย์นี้ไซร้ ชาติเชื้อ ควรทราบ ก้านบัวบอกลึกตื้น บอกร้ายแสลงดิน มารยาทส่อสันดาน เขาหนัง โฉดฉลาดเพราะคำขาน อยู่ไซร้ หย่อมหญ้าเหี่ยวแห้งเรื้อ ขารร่าง แต่ร้ายกับดี โคควายวายชีพได้ แหนงหนี เป็นสิ่งเป็นอันยัง มากได้ คนเด็ดดับสูญสัง- วาอาตม์ เป็นชื่อเป็นเสียงได้ ยากแท้จักหา เพื่อนกิน สินทรัพย์แล้ว หาง่าย หลายหมื่น เพื่อนตาย ถ่ายแทนชี หายาก ฝากผีไข้ สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาเดชาดิศร 2

๓. บทเสภาสามัคคีเสวก ตอน วิศวกรรมา อันชาติใดไร้ศานติสุขสงบ ต้องมัวรบราญรอนหาผ่อนไม่ ณ ชาตินั้นนรชนไม่สนใจ ในกิจศิลปะวิไลละวาดงาม แต่ชาติใดรุ่งเรืองเมืองสงบ ว่างการรบอริพลอันล้นหลาม ย่อมจำนงศิลปาสง่างาม เพื่ออร่ามเรืองระยับประดับประดา เหมือนนารินไร้โฉมบรรโลมสง่า อันชาติใดไร้ช่างชำนาญศิลป์ เขาจะพากันเย้ยให้อับอาย ใครใครเห็นไม่เป็นที่จำเริญตา ช่วยบรรเทาทุกข์ในโลกให้เหือด ศิลปกรรมนำใจให้สร่างโศก หาย อีกร่างกายก็จะพลอยสุขสราญ จำเริญตาพาใจให้สบาย เมื่อถึงยามเศร้าอุราน่าสงสาร โอสถใดจะสมานซึ่งดวงใจ แม้ผู้ใดไม่นิยมชมสิ่งงาม ทุกประเทศนานาทั้งน้อยใหญ่ เพราะขาดเครื่องระงับดับรำคาญ ศรีวิไลวิลาศดีเป็นศรีเมือง เพราะการช่างนี้สำคัญอันวิเศษ จึงยกย่องศิลปกรรม์นั้นทั่วไป พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว 3

๔. ภาษิตอิศรญาณ น้ำพึ่งเรือเสือพึ่งป่าอัชฌาสัย รักกันไว้ดีกว่าชังระวังการ ชายข้าวเปลือกหญิงข้าวสารโบราณว่า ผู้ใดผิดผ่อนพักอย่าหักหาญ เราก็จิตคิดดูเล่าเขาก็ใจ ผู้ใดดีดีต่ออย่าก่อกิจ เป็นชายชาญอย่าเพ่อคาดประมาทชาย รักยาวนั้นอย่าให้เยิ่นเกินกฎหมาย สิบดีก็ไม่ถึงกับกึ่งพาล รักสั้นนั้นให้รู้อยู่เพียงสั้น แหงนดูฟ้าอย่าให้อายแก่เทวดา น้ำตาลย้อยมากเมื่อไรได้หนักหนา มิใช่ตายแต่เขาเราก็ตาย ส่องดูหน้าเสียทีหนึ่งแล้วจึงนอน อย่าดูถูกบุญกรรมว่าทำน้อย อย่านอนเปล่าเอากระจกยกออกมา ๕. บทพากย์เอราวัณ หม่อมเจ้าอิศรญาณ อินทรชิตบิดเบือนกายิน เหมือนองค์อมรินทร์ ทรงคชเอราวัณ เผือกผ่องผิวพรรณ เศียรหนึ่งเจ็ดงา ช้างนิมิตฤทธิแรงแข็งขัน สระหนึ่งย่อมมี สีสังข์สะอาดโอฬาร์ ดอกหนึ่งแบ่งบาน เจ็ดองค์โสภา สามสิบสามเศียรโสภา อีกเจ็ดเยาวมาลย์ ดั่งเพชรรัตน์รูจี ชำเลืองหางตา ทุกเกศกุญชร งาหนึ่งเจ็ดโบกขรณี เจ็ดกออุบลบันดาล พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย กอหนึ่งเจ็ดดอกดวงมาลย์ มีกลีบได้เจ็ดกลีบผกา กลีบหนึ่งมีเทพธิดา แน่งน้อยลำเพานงพาล นางหนึ่งย่อมมีบริวาร ล้วนรูปนิรมิตมารยา จับระบำรำร่ายส่ายหา ทำทีดังเทพอัปสร มีวิมานแก้วงามบวร ดังเวไชยันต์อมรินทร์ 4

บทเลือก ม.ต้น ๑. รามเกียรติ์ ตอน ศึกอินทรชิต สีแววแสงวับฉายฉาน บุษเอยบุษบกแก้ว แก้วประพาฬกาบเพชรสลับกัน ห้ายอดเห็นเยี่ยมเทียมวิมาน บัลลังก์ครุฑลายเครือกระหนกคั่น ชั้นเหมช่อห้อยล้วนพลอยบุษย์ คนธรรพ์คั่นเทพกินนร อำไพโอภาสประภัสสร ภาพรายพื้นรูปเทวัญ อัมพรเอี่ยมพื้นโพยมพราย เลื่อนเมฆลอยมาในอากาศ แลเฉิดลอยช่วงจำรัสฉาย เร็วคล้ายรีบเคลื่อนลอยมา ไขแสงแข่งสีศศิธร ดั่งพระจันทร์เดินจรส่องดวง ดาวกลาดดาษเกลื่อนเรียงราย พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช 5

๒. พระสุริโยทัยขาดคอช้าง พิสมัย ท่านนา บังอรอัคเรศผู้ ออกอ้าง เช่นอุป- ราชแฮ นามพระสุริโยทัย ควบเข้าขบวนไคล ทรงเครื่องยุทธพิไชย โรมรัน กันเฮย เถลิงคชาธารคว้าง คชไท้ หลังแล่น เตลิดแฮ พลไกรกองน่าเร้า หวิดท้ายคชาธาร ช้างพระเจ้าแปรประจัญ กระษัตรีย์ สารทรงซวดเซผัน ยิ่งล้ำ เตลงขับคชไล่ใกล้ มลายพระ ชนม์เฮย นงคราญองค์เอกแก้ว สะอึกสู้ดัสกร มานมนัสกัตเวที ฉาดฉะ เกรงพระราชสามี หรุบดิ้น ขับคเชนทรเช่นค้ำ ศพสู่ นครแฮ พจน์ผู้สรรเสริญ ขุนมอญร่อนง้าวฟาด ขาดแล่งตราบอุระ โอรสรีบกันพระ สูญชีพไป่สูญสิ้น พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว 6

๓. พระอภัยมณี ตอน พระอภัยมณีหนีนางผีเสื้อ พระโฉมยงองค์อภัยมณีนาถ เพลินประพาสพิศดูหมู่มัจฉา เหล่าฉลามล้วนฉลามตามกันมา ค่อยเคลื่อนคลาคล้ายคล้ายในสาย ชล ฉนากอยู่คู่ฉนากไม่จากคู่ ขึ้นฟ่องฟูพ่นฟองละอองฝน ฝูงพิมพาพาฝูงเข้าแฝงวน บ้างผุดพ่นฟองน้ำบ้างดำจร กระโห้เรียงเคียงกระโห้ขึ้นโบกหาง ลอยสล้างกลางกระแสแลสลอน มังกรเกี่ยวเลี้ยวลอดกอดมังกร ประชุมซ่อนแฝงชลขึ้นวนเวียน ฝูงม้าน้ำทำท่าเหมือนม้าเผ่น ขึ้นลอยเล่นเลี้ยวลัดฉวัดเฉวียน ตะเพียนทองท่องน้ำนำตะเพียน ดาษเดียรดูเพลินจนเกินมา เห็นละเมาะเกาะเขาเขียวชอุ่ม โขดตะคุ่มเคียงเคียงเรียงรุกขา จะเหลียวซ้ายสายสมุทรสุดสายตา จะแลขวาควันคลุ้มกลุ้มโพยม จะเหลียวดูสุริย์แสงเข้าแฝงเมฆ ให้วิเวกหวาดองค์พระทรงโฉม ฟังสำเนียงเสียงคลื่นดังครื้นโครม ยิ่งทุกข์โทมนัสในฤทัยทวี พระสุนทรโวหาร (ภู่) 7


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook