คำนำ สรุปผลการดาเนินงานเลม่ นี้จัดทาข้ึนเพือ่ สรุปผลการดาเนินโครงการส่งเสริมการอา่ นตามรอยพระจริยวัตรสมเดจ็ พระทพรตั นราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารี สง่ เสรมิ การอ่านเพอ่ื สง่ เสริมปลูกฝังให้เด็ก เยาวชน นกั เรยี น นกั ศกึ ษา กศน.และประชาชนทั่วไป มนี สิ ัยรักการอ่าน อันจะนาไปส่กู ารเรยี นรู้ที่หลากหลายในการพฒั นา คุณภาพชีวติ ตามนโยบายของสานกั งาน กศน. ประจาปี 2564 ของศนู ย์การศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตาม อัธยาศัยอาเภอบางทา่ ปลา วันที่ 31 มีนาคม 2564 ณ ห้องสมุดประชาชนอาเภออาเภอทา่ ปลา ซึ่งไดร้ วบรวม ขอ้ มูลการดาเนนิ กิจกรรมตามโครงการจนแลว้ เสร็จสมบรู ณ์ตามเอกสารท่ีรายงานมาแนบท้ายน้ี เพอ่ื ให้การจัดกิจกรรมตามโครงการเสรจ็ สมบูรณจ์ งึ ได้จดั ทาสรปุ เอกสารนขึ้น เพอ่ื ให้สถานศึกษา กศน. หรอื หน่วยงานทีเ่ กี่ยวข้องไดน้ าไปเป็นคู่มือในการปฏิบตั งิ านในพื้นที่ให้มปี ระสิทธภิ าพต่อไปและขอขอบคุณ คณะทางานทุกท่านที่ได้รว่ มจัดโครงการจนแลว้ เสร็จสมบูรณ์ ห้องสมุดประชำชนอำเภอท่ำปลำ
สำรบญั คำนำ ก สำรบัญ ข บทท่ี 1 บทนำ 1 บทที่ 2 เอกสำรทเ่ี กยี่ วข้อง 3 บทที่ 3กำรดำเนนิ งำนโครงกำร 5 บทท่ี 4 ผลกำรดำเนนิ งำน 6 บทที่ 5 สรุปผลและข้อเสนอแนะ 7 รปู ภำพกจิ กรรม 8
บทที่ 1 บทนำ 1. ควำมเป็นมำของโครงกำร ห้องสมุดเป็นแหล่งการเรียนร้ตู ามอัธยาศยั เพ่ือส่งเสริมการอ่านและมุ่งเน้นให้เป็นศูนย์กลางการเรียนรู้ ตลอดชีวิตของชุมชน เป็นแหลง่ ค้นควา้ แลกเปล่ียน การเรียนรู้การพัฒนาอาชีพเพ่ือการมีงานทาและสร้างรายได้ อย่างยั่งยืน และยังส่งเสริมการเรียนรู้ในรูปแบบที่หลากหลายทั้งภายในภายนอก ปลูกนิสัยรักการอ่านของ นกั ศึกษา เพราะการอา่ นจะช่วยในการส่งเสริมและสนับสนุน การเรยี นรู้ดา้ นวิชาการ และด้านประสบการณ์ชวี ิต อีกด้วย เพื่อให้เห็นประโยชน์และความสาคัญของการอ่าน ตามท่ีกระทรวงศึกษาธิการกาหนดให้ เป็นทศวรรษ แห่งการอ่านและให้การส่งเสริมการอ่านเป็นวาระแห่งชาติ โดยกาหนดให้ วันที่ 2 เมษายน ของทุกปีซ่ึงเป็นวัน คล้ายวันพระราชสมภพของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารี เป็น “วันรักการอ่าน” อย่าง ต่อเนื่อง ซึ่งห้องสมุดประชาชนอาเภอท่าปลา ได้จัดโครงการส่งเสริมการอ่านตามรอยพระจริยวัตรสมเด็จ พระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารี ให้กับประชาชน นักศึกษา เยาวชน ทุกเพศ ทุกวัย ขึ้น เพื่อนา ความรู้ที่ได้รับไปใช้ประโยชน์ในชวี ิตประจาวันต่อไป 2.วตั ถปุ ระสงค์ 1. เพ่อื ส่งเสรมิ ปลกู ฝงั ใหเ้ ด็ก เยาวชน นกั เรยี น นกั ศกึ ษา กศน.และประชาชนทั่วไป มีนสิ ัยรกั การอ่าน อันจะนาไปส่กู ารเรยี นรู้ท่ีหลากหลายในการพัฒนาคุณภาพชีวติ ตามนโยบายของสานักงาน กศน. 3. ขอบเขตโครงกำร ในการจัดกิจกรรมคร้ังนี้ นกั ศึกษา กศน.อาเภอทองท่าปลา จานวน 50 คน สถำนทีด่ ำเนนิ งำน ณ หอ้ งสมุดประชาชน กศน.อาเภอทองทา่ ปลา จังหวัดอุตรดติ ถ์ วันทเ่ี วลำดำเนนิ กำรจดั กจิ กรรม ระหว่าง 31 เมษายน 2564 งบประมำณ - บำท วิธดี ำเนนิ กำร วางแผน/สารวจกลุ่มเป้าหมาย เสนอโครงการ แต่งตั้งคณะทางาน จัดเตรียมอุปกรณ์/ วัสดุ กิจกรรม จัดกิจกรรม/ผู้เข้าร่วมลงทะเบียน และดาเนินการกิจกรรม ประชาสัมพันธ์กิจกรรมและแนะนาหนังสือ พระราชนพิ นธ์ สมเด็จพระเทพรัตนราชสดุ าฯ สยามบรมราช ส่งเสริมการอ่านสร้างอาชีพ ประกวดร้องเพลง คัด ลายมือ เขยี นเรยี งความ อา่ นทานองเสนาะ นิเทศติดตามกจิ กรรม/สรุปกิจกรรม แบบประเมินความพึงพอใจ เครือ่ งมอื ทใ่ี ช้เกบ็ รวบรวมข้อมลู 1. แบบประเมนิ ความพึงพอใจ
4. นยิ ำมศัพทเ์ ฉพำะ การจัดการศึกษาตามอัธยาศัย หมายถึง การศึกษาท่ีเกิดข้ึนตามวิถีชีวิตที่ผู้เรียน เรียนรู้ด้วยตนเอง ตามความสนใจ ศักยภาพ ความพร้อม และโอกาส โดยศึกษาจากประสบการณ์ การทางาน บุคคล ครอบครัว ชุมชน แหล่งความรู้ต่างๆ และการพัฒนาคุณภาพชีวิต มีลักษณะสาคัญ คือ ไม่มีหลักสูตร ไม่มีเวลาเรียน ท่ีไม่แน่นอน ไม่จากัดอายุ ไม่มีการลงทะเบียน ไม่มีการสอบ ไม่มีประกาศนียบัตร ไม่มีสถานศึกษาท่ีแน่นอน เรยี นทีไ่ หนก็ได้ เรยี นได้ตลอดเวลา และเกดิ ขึ้นในทุกชว่ งวยั ตลอดชีวติ การจัดกิจกรรมส่งเสริมการอ่าน หมายถึง การกระทาต่างๆเพื่อให้กลุ่มเป้าหมายเกิดความสนใจ ในการอ่าน เห็นความสาคัญและความจาเป็นของการอ่าน เกิดความเพลิดเพลินในการอ่าน พยายามพัฒนาการ อ่านของตนเอง ให้ตระหนังถึงระดับการอ่านจนเป็นนิสัย กิจกรรมส่งเสริมการอ่านมีลักษณะดังนี้ ได้แก่ เร้าใจ จูงใจ กระตุ้น อยากร้อู ยากเหน็ และสร้างบรรยากาศในการอ่าน ผลสัมฤทธ์ิทำงกำรอ่ำน หมายถึง ผลสัมฤทธิ์จากการอ่านหนังสือส่งเสริมการอ่าน จากกระเป๋า ห้องสมดุ เคล่ือนท่ี ทไี่ ดจ้ ากการตอบแบบทดสอบก่อนเรียนและแบบทดสอบหลงั เรยี น ทผ่ี ศู้ กึ ษาสร้างข้ึน อำ่ นเพื่อควำมรู้ ไดแ้ ก่ การอ่านจากหนังสือตาราทางวิชาการ สารคดีทางวชิ าการ การวจิ ัยประเภท ต่าง ๆ หรือการอา่ นผา่ นสอ่ื อเี ล็กทรอนิกส์ ควรอา่ นอย่างหลากหลาย เพราะความร้ใู นวิชาหน่งึ อาจนาไปชว่ ย เสรมิ ในอกี วิชาหน่ึงได้ อ่ำนเพ่อื ควำมบนั เทิง ได้แก่ การอา่ นจากหนังสือประเภทสารคดีท่องเทีย่ ว นวนยิ าย เร่ืองส้นั เรอ่ื งแปล การ์ตนู บทประพนั ธ์ บทเพลง แมจ้ ะเป็นการอา่ นเพ่ือความบันเทิง แต่ผู้อา่ นจะได้ความรู้ท่สี อดแทรกอยู่ในเร่อื ง ดว้ ย อ่ำนเพ่ือทรำบข่ำวสำรควำมคดิ ได้แก่ การอา่ นจากหนังสอื ประเภทบทความ บทวจิ ารณ์ ข่าว รายงาน การประชมุ ถา้ จะใหเ้ กิดประโยชนอ์ ย่างแท้จรงิ ต้องเลือกอ่านใหห้ ลากหลาย ไมเ่ จาะจงอา่ นเฉพาะสอ่ื ทน่ี าเสนอ ตรงกบั ความคดิ ของตน เพราะจะทาให้ได้มมุ มอง ที่กวา้ งข้ึน ชว่ ยให้มเี หตุผลอื่น ๆ มาประกอบการวจิ ารณ์ วิเคราะห์ไดห้ ลายมุมมองมากข้นึ อ่ำนสร้ำงอำชพี ได้แก่ การอ่านเพ่ือสร้างทักษะท่จี าเป็นต่อการดารงชวี ิต และรู้เท่าทันการเปลี่ยนแปลง สามารถนาความรู้จากการอ่านการสร้างอาชีพ และเทคโนโลยี มาประยุกต์ใช้ในการทางานอย่างมีความคิด สรา้ งสรรค์ เปน็ แนวทางการประกอบอาชีพ สามารถดารงชวี ิตอยใู่ นสังคมไดอ้ ย่างพอเพียง ประโยชนท์ ่ีคำดวำ่ จะได้รบั 1. นกั ศึกษาได้ร้จู ักหนงั สอื พระราชนพิ นธ์ ของสมเดจ็ พระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี 2. นกั ศกึ ษามีความรู้ความเข้าใจ ตระหนกั เห็นคุณค่าของการอ่าน มนี สิ ัยรกั การอ่าน 3. นักศกึ ษามที ักษะการเรยี นร้เู พ่ือพฒั นาอาชีพ สามารถนามาประยุกต์ใชใ้ หเ้ ปน็ ประโยชน์ใน ชีวิตประจาวนั ได้
บทที่ 2 เอกสำรที่เก่ียวข้อง ในการจัดทารายงานครัง้ นี้ ไดท้ าการศึกษาค้นควา้ เนื้อหาจากเอกสารการศึกษาและรายงาน ท่ีเก่ยี วข้อง ดังน้ี 1. ความหมายของการอ่าน 2. ความสาคัญของการอ่าน 3. คุณค่าของการอา่ น 4. การสง่ เสรมิ การอา่ น สร้างอาชีพ ควำมหมำยของกำรอำ่ น การอ่านเป็นพฤติกรรมการรบั สารท่ีสาคัญไม่ย่งิ หย่อนไปกวา่ การฟัง ปจั จบุ นั มผี ู้รู้นักวชิ าการและ นักเขยี นนาเสนอความรู้ ข้อมูล ข่าวสารและงานสรา้ งสรรค์ ตีพิมพ์ ในหนงั สอื และสงิ่ พิมพ์อนื่ ๆ มาก นอกจากนแี้ ล้วข่าวสารสาคัญ ๆ หลงั จากนาเสนอดว้ ยการพูด หรอื อ่านให้ฟงั ผ่านส่อื ต่าง ๆ สว่ นใหญจ่ ะตพี มิ พ์ รกั ษาไวเ้ ป็นหลกั ฐานแกผ่ ู้อา่ นในชั้นหลงั ๆความสามารถในการอา่ นจึงสาคญั และจาเปน็ ย่ิงต่อการเป็นพลเมือง ท่มี ีคณุ ภาพในสังคมปัจจบุ ัน ควำมสำคัญของกำรอ่ำน ในสมัยโบราณทยี่ ังไม่มีตัวหนังสอื ใช้ มนษุ ยไ์ ดใ้ ชว้ ธิ ีเขยี นบนั ทกึ ความทรงจาและเร่อื งราวตา่ ง ๆ เปน็ รปู ภาพ ไวต้ ามฝาผนงั ในถ้า เพ่ือเป็นทางออกของอารมณ์ เพื่อเตือนความจาหรือเพ่ือบอกเลา่ ให้ผู้อน่ื ได้รับรู้ดว้ ย แสดงถึง ความพยายามและความปรารถนาอนั แรงกลา้ ของมนษุ ย์ ที่จะถ่ายทอดประสบการณข์ องตนเป็นสญั ลักษณ์ท่ี คงทนต่อกาลเวลาจากภาพเขียนตามผนังถ้า ได้ววิ ัฒนาการมาเป็นภาษาเขยี นและหนังสือ ปัจจบุ นั นห้ี นังสือ กลายเป็นส่งิ ท่ีสาคัญยิ่งต่อมนุษย์จนอาจกลา่ วไดว้ า่ เป็นปจั จัยอันหนึ่งในการดารงชีวติ คนท่ไี มร่ ู้หนังสือแม้จะ ดารงชวี ิตอย่ไู ด้ก็เปน็ ชวี ิตท่ีไม่สมบรู ณ์ ไม่มคี วามเจริญ ไม่สามารถประสบความสาเร็จใด ๆ ในสังคมได้หนังสอื และการอ่านหนงั สือจึงมีความสาคัญอย่างยงิ่ คณุ คำ่ ของกำรอ่ำน 1.คุณคา่ ทางอารมณห์ นังสอื ทีใ่ ห้คณุ คา่ ทางอารมณ์ ได้แก่ วรรณคดที ี่มคี วามงามทงั้ ถ้อยคา นา้ เสียง ลลี าใน การประพันธ์ ตลอดจนความงามในเนอ้ื หา อาจเรยี กได้วา่ มี “รส” วรรณคดี ซง่ึ ตาราสนั สกฤต กลา่ ววา่ มรี ส 9 รส คอื 2. คุณคา่ ทางสติปัญญาหนงั สือดียอ่ มให้คุณค่าทางดา้ นสติปญั ญา 3. คุณคา่ ทางสังคม การอา่ นเป็นมรดกทางวฒั นธรรมทส่ี ืบต่อกนั มาแต่เป็นโบราณกาล หากมนษุ ย์ ไม่มีนสิ ัย ในการอ่าน วฒั นธรรมคงสูญสิ้นไป ไมส่ บื ทอดมาจนบดั น้ี วัฒนธรรมทางภาษา การเมอื ง การประกอบอาชพี การศึกษา กฎหมาย ฯลฯ กำรส่งเสริมกำรอ่ำนสร้ำงอำชีพ การอ่านหนังสือเป็นการพัฒนาตนเอง และใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ ซึ่งเป็นส่ิงจาเป็นมากในการ พัฒนาคนและพัฒนาสังคม การอ่านหนังสือของคนไทยเป็นกิจกรรมท่ีไม่แพร่หลายแม้ในหมู่ผู้รู้หนังสือ แล้ว โดยเฉพาะการอ่านหนังสือที่ดีและมีสาระย่ิงมีน้อยขึ้นไปอีก สาเหตุมีอยู่หลายประการนับตั้งแต่การขาด แคลนหนงั สือที่ดแี ละตรงกับความต้องการของผอู้ า่ น การขาดแคลนแหล่งหนังสอื ทจ่ี ะยมื อา่ นได้ รวมท้ังขาดการ
ชักจูง การกระตุ้น และมีนิสัยรักการอ่านท้ังในและนอกโรงเรียน การอ่านหนังสือเกิดเป็นนิสัยจาเป็นต้องมีการ ปลูกฝังและชักชวนให้เกิดความสนใจการอ่านอย่างต่อเน่ืองและสม่าเสมอ โดยการจัดกิจกรรมส่งเสริมนิสัยรัก อ่านในเร่ืองของการสร้างอาชีพ โดยสามารถศึกษาค้นคว้าเรื่องท่ีสนใจ และนาความรู้จากการอ่าน มาประยุกต์ใช้ในการทางานอย่างมีความคิดสร้างสรรค์ เป็นแนวทางการประกอบอาชีพ สามารถดารงชีวิตอยู่ใน สงั คมได้อย่างพอเพียง เอกสำรท่เี กย่ี วขอ้ ง - คณุ สมบัติของนักอา่ นทด่ี ี (ศิวกานท์ ปทุมสตู ิ, 2540, หน้า 17-18) - วิธีการอา่ นหนงั สือทด่ี ี (ฉวีลกั ษณ์ บณุ ยะกาญจน, 2547, หนา้ 112-113) - www.google.go.th สถำบันสง่ เสริมและพัฒนำนวัตกรรมกำรเรยี นรู้ - คณุ สาธิจติ ต์ นกจนั ทร์ (บรรณารักษ์)
บทท่ี 3 กำรดำเนินงำนโครงกำร 1. กำรดำเนนิ งำนตำมโครงกำร ห้องสมุดเป็นแหล่งการเรียนรู้ตามอัธยาศัย เพ่ือส่งเสริมการอ่านและมุ่งเน้นให้เป็นศูนย์กลางการ เรียนรู้ตลอดชวี ิตของชุมชน เปน็ แหลง่ ค้นควา้ แลกเปลย่ี น การเรียนรกู้ ารพัฒนาอาชีพเพอื่ การมีงานทาและ สร้างรายได้อย่างยั่งยืน ส่งเสริมการเรียนรู้ในรูปแบบที่หลากหลายท้ังภายในภายนอก เพ่ือปลูกฝังนิสัยรัก การอ่าน เห็นประโยชน์และความสาคัญของการอ่าน ตามที่กระทรวงศึกษาธิการกาหนดให้เป็นทศวรรษ แห่งการอ่านและให้การสง่ เสรมิ การอ่านเป็นวาระแห่งชาติ โดยกาหนดให้ วันที่ 2 เมษายน ของทุกปีซึ่ง เป็ น วัน คล้าย วัน พ ระราช สม ภ พ ขอ งสม เด็ จพ ระเท พ รัต น ราช สุด าฯส ยาม บ รม ราช กุ ม ารี เป็น “วันรักการอ่าน” อย่างต่อเน่ือง ซ่ึงห้องสมุดประชาชนอาเภอท่าปลา ได้จัดโครงการส่งเสริมการอ่าน ตามรอยพระจริยวัตรสมเด็จพระทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารี ด้วยตนเอง ให้กับประชาชน นกั ศึกษา เยาวชน ทุกเพศ ทกุ วยั ข้นึ เพ่อื นาความรทู้ ่ีไดร้ บั ไปใช้ประโยชน์ในชีวติ ประจาวนั ต่อไป 2. วัตถปุ ระสงค์ 1. เพอ่ื ส่งเสรมิ ปลูกฝังให้เด็ก เยาวชน นักเรียน นักศกึ ษา กศน.และประชาชนทั่วไป มีนิสัยรกั การอา่ น อันจะนาไปสูก่ ารเรียนรู้ทห่ี ลากหลายในการพัฒนาคุณภาพชวี ติ ตามนโยบายของสานักงาน กศน. 3. ขน้ั ตอนกำรดำเนนิ งำน 1. ประชมุ บุคลากร กศน.อาเภอทองทา่ ปลา จานวน 16 คน 2. สารวจกลุ่มเปา้ หมาย 3. แต่งตั้งคณะทางาน 4. เสนอโครงการ 5. จดั เตรยี มสถานท่ี ดาเนนิ จดั กจิ กรรมโดย ประชาสมั พันธก์ ิจกรรมและแนะนาหนงั สือพระราชนิพนธ์ สมเด็จพระเทพ รัตนราชสดุ าฯ สยามบรมราชกมุ ารี จดั กิจกรรมสง่ เสริมการอา่ นสร้างอาชพี และการประกวดต่างๆ 6. ดาเนนิ การจัดกจิ กรรมสง่ เสริมการอา่ นเพือ่ พฒั นาผู้เรยี นส่งเสรมิ การอา่ นตามรอยพระจรยิ วัตร สมเด็จพระทพรัตนราชสดุ าฯสยามบรมราชกมุ ารี วันที่ 31 มีนาคม 2564 7. ในระหว่าง ปงี บประมาณ 2564 (เดือน เมษายน 2564) 8. นิเทศตดิ ตามผล 9. สรุปผลการดาเนนิ งานและรายงานผลการดาเนนิ งาน 4. กำรเตรยี มเคร่ืองมือเกบ็ รวบรวมข้อมูล - การประเมนิ ความพงึ พอใจของผเู้ ข้ารับบรกิ าร 5. กำรนิเทศ ติดตำมประเมนิ ผล การนเิ ทศ ตดิ ตามและประเมินผลการดาเนินงานเพอ่ื ทราบความกา้ วหนา้ โดยการเก็บข้อมูลจากการ ตอบแบบความพึงพอใจ
บทที่ 4 ผลกำรดำเนินงำน โครงกำรสง่ เสริมกำรอ่ำนตำมรอยพระจรยิ วัตรสมเดจ็ พระทพรตั นรำชสดุ ำฯสยำมบรมรำชกมุ ำรี วัตถุประสงค์ 1. เพ่ือส่งเสรมิ ปลกู ฝังใหเ้ ดก็ เยาวชน นักเรยี น นักศกึ ษา กศน.และประชาชนทัว่ ไป มีนสิ ัยรักการอา่ น อันจะนาไปสู่การเรยี นรู้ที่หลากหลายในการพฒั นาคุณภาพชีวติ ตามนโยบายของสานักงาน กศน. จากการแจกแบบประเมนิ ความพงึ พอใจแกผ่ ู้เขา้ ร่วมโครงการ จานวน 56 คน ทม่ี รี ะดบั ความเชือ่ ม่นั ค่าเฉลย่ี สรุปผลดังนี้ ตอนที่ 1 สถานภาพท่วั ไป ตอนที่ 2 ระดบั ความพึงใจตอ่ การเขา้ ร่วมการฝึกอบรมโครงการ ตอนท่ี 3 ขอ้ เสนอแนะอืน่ ๆ จำกกำรแจกแบบประเมนิ ควำมพึงพอใจแกผ่ ้เู ขำ้ ร่วมโครงกำร ตอนท่ี 1 สถำนภำพท่ัวไป จำนวน 56 คน ตำรำงที่ 1 แสดงข้อมูลท่ัวไปของผู้เข้ำรว่ มโครงกำรแยกตำมเพศ/ชว่ งอำยุ อำยุ จำนวนคน รวม ร้อยละ ชำย หญงิ ตา่ กว่า 20 13 18 31 55.35 20-30 ปี 11 8 18 32.14 40-50 ปี 03 3 5.35 51 ปีข้นึ ไป 21 4 7.14 รวม 26 30 56 100 จำกตำรำงที่ 1 ผู้เข้าร่วมกิจกรรม จานวน 56 คน แยกเป็น เพศหญงิ จานวน 30 คน คดิ เปน็ ร้อยละ 53.57 รองลงมาเป็น เพศชาย จานวน 26 คน คิดเปน็ รอ้ ยละ 46.42 และกล่มุ อายุ ต่ากวา่ 20 ปี จานวน 31 คน คิดเป็นร้อยละ 55.35 รองลงมา อายุ 20-30 ปี จานวน 18 คน คดิ เป็นร้อยละ 32.14 อายุ 40-50 ปี จานวน 3 คน คดิ เป็นรอ้ ยละ 5.35 อายุ51 ปีข้นึ ไป จานวน 4 คน คดิ เปน็ ร้อยละ 7.14
ตำรำงท่ี 2 แสดงขอ้ มูลทว่ั ไปของผูเ้ ขำ้ รว่ มโครงกำรแยกตำมระดับกำรศกึ ษำ ที่ รำยกำร จำนวน รอ้ ยละ หมำยเหตุ 3 ระดบั กำรศกึ ษำ - ประถมศึกษา 9 16.07 - มัธยมศกึ ษาตอนตน้ 19 33.92 - มธั ยมศึกษาตอนปลาย 28 50.00 รวม 56 100 จำกตำรำงที่ 2 ผเู้ ขา้ รว่ มกจิ กรรม จานวน 56 คน แยกเปน็ ระดบั ประถม จานวน 9 คน คิดเปน็ รอ้ ยละ 16.07 ระดับมธั ยมศึกษาตอนตน้ จานวน 19 คน คิดเป็นร้อยละ 33.92 และมธั ยมศึกษาตอนปลาย จานวน 28 คน คดิ เป็นร้อยละ 50.00 จำกกำรแจกแบบประเมินควำมพึงพอใจแก่ผู้เข้ำรว่ มโครงกำร ตอนท่ี 2 ระดับควำมพึงใจตอ่ กำรเข้ำร่วม กำรฝึกอบรมโครงกำรจำนวน 56 คน ที่ รำยกำร ค่ำเฉลี่ย คดิ เปน็ ระดับควำมพึง หมำยเหตุ รอ้ ยละ พอใจ 1. การจัดกจิ กรรมในคร้งั น้มี ีประโยชนต์ ่อท่าน 2. ทา่ นไดม้ สี ว่ นรว่ มในการจัดกจิ กรรม 4.45 88.93 ดี 3. ทา่ นได้รับความร/ู้ ประโยชนจ์ ากการเข้าร่วมกจิ กรรมเพอ่ื 4.50 90.00 ดมี ำก ไปปรับใช้ได้ 4. รปู แบบ/หัวขอ้ ในการจดั กิจกรรมมีความเหมาะสม 4.54 90.71 ดมี ำก 5. ระยะเวลาในการจดั กิจกรรมมคี วามเหมาะสม 6. การประชาสมั พนั ธก์ ารจดั กจิ กรรม 3.71 74.29 ดี 7. สถานทีจ่ ดั กิจกรรมมคี วามเหมาะสม 4.48 89.64 ดี 8. เจ้าหนา้ ทม่ี คี วามสภุ าพ เปน็ มติ ร และเป็นกันเอง 4.48 89.64 ดี 9. ภาพรวมความพึงพอใจในการจดั กจิ กรรมครง้ั นี้ 3.73 74.64 พอใช้ 4.52 90.36 ดมี ำก รวม 4.50 90.00 ดมี ำก 4.32 86.87 ดี สรุปรำยงำนกำรประเมินจำกแบบควำมพึงใจของผู้เข้ำรว่ มโครงกำร จำนวน 56 คน เรียงตำมลำดับ ดังน้ี 1. การจัดกิจกรรมในคร้ังนมี้ ีประโยชนต์ ่อท่าน ระดับดี จานวนผตู้ อบ จานวน 56 คน คิดค่าเฉลีย่ 4.45 ระดับดีมาก 2. ทา่ นไดม้ สี ว่ นรว่ มในการจดั กจิ กรรม จานวนผู้ตอบ จานวน 56 คน คดิ ค่าเฉลย่ี 4.50
3. ท่านได้รับความรู้/ประโยชนจ์ ากการเข้ารว่ มกิจกรรมเพ่ือไปปรับใชไ้ ด้ จานวนผ้ตู อบ จานวน 56 คน คดิ คา่ เฉลีย่ 4.54 ระดบั ดมี าก 4. รูปแบบ/หวั ขอ้ ในการจัดกิจกรรมมคี วามเหมาะสม จานวนผู้ตอบ จานวน 56 คน คิดค่าเฉลยี่ 3.71 ระดบั ดี 5. ระยะเวลาในการจดั กจิ กรรมมคี วามเหมาะสม จานวนผู้ตอบ จานวน 56 คน คิดคา่ เฉล่ยี 4.48 ระดบั ดี 6. การประชาสมั พนั ธ์การจัดกิจกรรม จานวนผูต้ อบ จานวน 56 คน คดิ ค่าเฉลีย่ 4.48 ระดบั ดี 7. สถานทจ่ี ดั กจิ กรรมมคี วามเหมาะสม จานวนผู้ตอบ จานวน 56 คน คดิ คา่ เฉลยี่ 3.73 ระดบั พอใช้ 8. เจ้าหน้าท่ีมคี วามสุภาพ เป็นมิตร และเปน็ กันเอง จานวนผตู้ อบ จานวน 56 คน คดิ คา่ เฉลย่ี 4.52 ระดับดมี าก 9. ภาพรวมความพงึ พอใจในการจดั กจิ กรรมคร้งั นี้ จานวนผู้ตอบ จานวน 56 คน คดิ ค่าเฉล่ีย 4.50 ระดบั ดีมาก ภำพรวมของควำมพึงพอใจของผู้เขำ้ ร่วมกิจกรรมคดิ เป็นรอ้ ยละ 4.32 ระดบั ดี หมายเหตุ ได้กาหนดเกณฑ์การหาคา่ เฉลยี่ ของข้อมูลท่ไี ด้จากแบบสอบถาม ความคดิ เห็นของผู้ร่วมกจิ กรรม มี ดงั นี้ คา่ เฉลยี่ 4.50-5.00 หมายถึง ดีมาก ค่าเฉลย่ี 3.75-4.49 หมายถึง ดี ค่าเฉลยี่ 3.00-3.74 หมายถึง พอใช้ คา่ เฉล่ีย 2.50-2.99 หมายถึง ตอ้ งปรบั ปรุง ค่าเฉลย่ี 0.00-2.49 หมายถึง ตอ้ งปรบั ปรุงเร่งดว่ น จำกกำรแจกแบบประเมนิ ควำมพึงพอใจแก่ผูเ้ ขำ้ ร่วมโครงกำร ตอนที่ 3 ข้อเสนอแนะอืน่ ๆ จำนวน 56 คน 1. สถานทจี่ ดั กจิ กรรมไมส่ ะดวกสบาย อากาศร้อน
บทที่ 5 สรปุ ผลและขอ้ เสนอแนะ 1. ควำมเป็นมำของโครงกำร ห้องสมุดเป็นแหล่งการเรียนรู้ตามอัธยาศยั เพื่อส่งเสริมการอ่านและมุ่งเน้นให้เป็นศนู ย์กลางการเรียนรู้ ตลอดชีวติ ของชุมชน เป็นแหลง่ ค้นควา้ แลกเปล่ียน การเรยี นรู้การพัฒนาอาชีพเพื่อการมีงานทาและสร้างรายได้ อย่างย่ังยืน และยังส่งเสริมการเรียนรู้ในรูปแบบท่ีหลากหลายท้ังภายในภายนอก ปลูกนิสัยรักการอ่านของ นกั ศึกษา เพราะการอ่านจะช่วยในการส่งเสริมและสนบั สนุน การเรียนรู้ดา้ นวิชาการ และด้านประสบการณ์ชวี ิต อีกด้วย เพ่ือให้เห็นประโยชน์และความสาคัญของการอ่าน ตามที่กระทรวงศึกษาธิการกาหนดให้เป็นทศวรรษ แห่งการอ่านและให้การส่งเสริมการอ่านเป็นวาระแห่งชาติ โดยกาหนดให้ วันที่ 2 เมษายน ของทุกปีซึ่งเป็นวัน คล้ายวันพระราชสมภพของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารี เป็น “วันรักการอ่าน” อย่าง ตอ่ เนื่อง ซ่ึงห้องสมุดประชาชนอาเภอท่าปลา ได้จัดโครงการส่งเสริมการอ่านตามรอยพระจริยวัตรสมเด็จพระท พรตั นราชสุดาฯสยามบรมราชกมุ ารี ให้กบั ประชาชน นักศกึ ษา เยาวชน ทกุ เพศ ทกุ วยั ขึ้น เพ่ือนาความรูท้ ไี่ ด้รับ ไปใชป้ ระโยชน์ในชวี ิตประจาวนั ต่อไป 2. วตั ถปุ ระสงค์ 1. เพอ่ื ส่งเสริมปลกู ฝงั ใหเ้ ดก็ เยาวชน นักเรียน นักศกึ ษา กศน.และประชาชนทั่วไป มีนิสัยรักการอ่าน อันจะนาไปสู่การเรียนรู้ที่หลากหลายในการพัฒนาคุณภาพชีวติ ตามนโยบายของสานักงาน กศน. 3. มผี เู้ ข้ำร่วมโครงกำรท้ังหมด 56 คน ชาย 35 คน หญงิ 45 คน 4. โครงกำรสง่ เสริมกำรอำ่ นตำมรอยพระจริยวตั รสมเด็จพระทพรัตนรำชสุดำฯสยำมบรมรำช กุมำรี อยา่ งต่อเน่ือง สรปุ ความพึงพอใจจากการตอบแบบสอบถามจานวน 56 คน ของผเู้ ขา้ รว่ ม โครงการทงั้ หมด คิดค่าเฉล่ีย 4.32 อยู่ในระดบั ดี ที่ รำยกำร คำ่ เฉลี่ย คดิ เป็น ระดบั ควำมพึง หมำยเหตุ ร้อยละ พอใจ 1. การจัดกจิ กรรมในครง้ั น้ีมปี ระโยชน์ต่อท่าน 4.45 88.93 ดี 2. ทา่ นได้มสี ว่ นรว่ มในการจัดกจิ กรรม 4.50 90.00 ดมี ำก 3. ท่านไดร้ บั ความร/ู้ ประโยชน์จากการเข้ารว่ มกจิ กรรมเพ่ือ 4.54 90.71 ดมี ำก ไปปรบั ใช้ได้ 4. รปู แบบ/หวั ข้อ ในการจดั กิจกรรมมีความเหมาะสม 3.71 74.29 ดี 5. ระยะเวลาในการจัดกจิ กรรมมคี วามเหมาะสม 4.48 89.64 ดี 6. การประชาสัมพันธ์การจดั กจิ กรรม 4.48 89.64 ดี 7. สถานทีจ่ ัดกิจกรรมมคี วามเหมาะสม 3.73 74.64 พอใช้ 8. เจ้าหน้าท่ีมีความสภุ าพ เปน็ มิตร และเป็นกนั เอง 4.52 90.36 ดมี ำก 9. ภาพรวมความพึงพอใจในการจัดกจิ กรรมคร้งั น้ี 4.50 90.00 ดมี ำก รวม 4.32 86.87 ดี
4. ข้อเสนอแนะของผูร้ บั ผดิ ชอบโครงกำรท่ีได้จำกขอ้ มลู หรือกำรดำเนนิ งำนโครงกำรเพ่อื ใหโ้ ครงกำร ทจ่ี ะทำต่อไปประสบควำมสำเร็จและสำมำรถนำผลกำรดำเนนิ งำนไปขยำยผลตอ่ ไป - ข้อเสนอแนะจาการตอบแบบความพงึ พอใจ จานวน 56 คน จานวน 10 ข้อ และมขี อ้ ทค่ี วร ปรับปรงุ ในคร้ังต่อไปคือ 1. สถานทีจ่ ดั กิจกรรมไมส่ ะดวกสบาย อากาศร้อน บรรณำนุกรม - คณุ สมบัติของนักอา่ นท่ีดี (ศิวกานท์ ปทมุ สตู ิ, 2540, หน้า 17-18) - วิธกี ารอ่านหนังสอื ที่ดี (ฉวลี ักษณ์ บุณยะกาญจน, 2547, หน้า 112-113) - www.google.go.th สถำบันสง่ เสริมและพัฒนำนวัตกรรมกำรเรยี นรู้
รปู ภำพกจิ กรรม โครงกำรส่งเสริมกำรอำ่ นตำมรอยพระจรยิ วัตรสมเดจ็ พระทพรตั นรำชสดุ ำฯสยำมบรมรำชกมุ ำรี
ภำพประกอบกจิ กรรม โครงกำรสง่ เสรมิ กำรอำ่ นตำมรอยพระจรยิ วัตรสมเดจ็ พระทพรตั นรำชสุดำฯสยำมบรมรำชกมุ ำรี วันท่ี 31 มีนำคม 2564 ณ กศน.อำเภอทำ่ ปลำ ตำบลทำ่ ปลำ อำเภอทำ่ ปลำ จังหวัดอุตรดติ ถ์ *************************************
ภำพประกอบกิจกรรม โครงกำรส่งเสรมิ กำรอ่ำนตำมรอยพระจริยวตั รสมเด็จพระทพรตั นรำชสดุ ำฯสยำมบรมรำชกมุ ำรี วันท่ี 31 มนี ำคม 2564 ณ กศน.อำเภอทำ่ ปลำ ตำบลท่ำปลำ อำเภอท่ำปลำ จังหวดั อตุ รดติ ถ์ ************************************* กจิ กรรมเล่นเกมบิงโกภำษำไทย กจิ กรรมประกวด คัดลำยมือ/เรียงควำม/แต่งคำขวัญ กิจกรรมประกวดรอ้ งเพลง
ภำคผนวก
Search
Read the Text Version
- 1 - 18
Pages: