ภาษี นางสาวสุวิมล แซ่ว่าง

รายงาน เรื่อง ภาษเี งนิ ได้นิตบิ ุคคล จดั ทาโดย นางสาวสุวมิ ล แซ่ว่าง รหัส 63302010021 เสนอ อาจารย์ จตุพร เมอื งมา ภาคเรียนท่ี 1 ปี การศึกษา 2564 วทิ ยาลยั เทคนิคเทงิ

คานา ก รายงานเลม่ น้ีจดั ทาข้ึนเพื่อเป็นส่วนหน่ึงของวชิ าการบญั ชีภาาีีอากร รหสั 30201-2007 ช้นั ประกาศนียบตั รวิชาชีพช้นั สูงปี ที่ 1 เพื่อใหไ้ ดศ้ ึกีาหา ความรู้ในเรื่อง ภาาีีนิติบุคคล และไดศ้ ึกีาอยา่ งเขา้ ใจเพือ่ เป็นประโยชนก์ บั การ เรียน ผจู้ ดั ทาหวงั วา่ รายงานเล่มน้ีจะเป็นประโยชน์กบั ผอู้ ่าน หรือนกั เรียน นกั ศึกีา ท่ีกาลงั หาขอ้ มลู เรื่องน้ีอยู่ หากมีขอ้ แนะนาหรือขอ้ ผิดพลาดประการใด ผจู้ ดั ทาขอนอ้ มรับไวแ้ ละขออภายั มา ณ ท่ีน้ีดว้ ย ผจู้ ดั ทา นางสาว สุวมิ ล แซ่วา่ ง วนั ท่ี 18 กมุ ภาาพนั 2564

ข สารบญั หน้าที่ เรอ่ื ง ก ข คานา 1 สารบัญ 2 ภาษีเงินได้นิติบุคคล 8 ผู้มีเงินได้เสียภาษีนิติบุคคล 9 เงนิ ได้ท่ีได้รับยกเว้นภาษีเงนิ ได้นิติบุคคล 11 นิติบุคคลท่ีไม่ต้องเสียภาษีเงินได้ 17 ฐานภาษขี องภาษเี งินได้นิติบุคคล 19 อัตราภาษเี งินได้บุคคลธรรมดา บรรณานุกรม

ภาษีเงนิ ได้นิตบิ ุคคล 1 ภาษเี งนิ ได้นิตบิ ุคคล เป็นเคร่ืองมือของรัฐประเภาทหน่ึง ท่ีจดั เกบ็ จาก ผปู้ ระกอบการที่มีรายไดจ้ ากการประกอบกิจการหรือเน่ืองจากการประกอบ กิจการของบริีทั หรือหา้ งหุน้ ส่วนนิติบุคคลในแต่ละรอบระยะเวลาบญั ชี มีกาหนดสิบสองเดือนต่อหน่ึงรอบระยะเวลาบญั ชี นอกจากน้ียงั มีวิธีการ จดั เกบ็ วิธีอ่ืนอีก คือ เกบ็ จากยอดรายรับหรือยอดขายก่อนหกั รายจ่ายใด ๆ หรือเกบ็ จากค่าโดยสาร ค่าระวางฯ ของกิจการขนส่งระหวา่ งประเทศ หรือ เกบ็ จากการจาหน่ายเงินกาไรไปต่างประเทศ เป็นตน้ DONATION

ผู้มหี น้าทเี่ สียภาษเี งนิ ได้นติ บิ ุคคล 2 ผู้มหี น้าท่ีเสียภาษเี งินได้นิตบิ ุคคล ได้แก่ บริีทั หรือหา้ งหุน้ ส่วนนิติบุคคล ที่จดทะเบียน ตามประมวลกฎหมายแพง่ และพาณิชย์ และหมายความรวมถึงนิติบุคคลอ่ืนๆ ที่ไมไ่ ดจ้ ดทะเบียน ตามประมวลกฎหมายแพง่ และพาณิชย์ ดว้ ย ดงั น้ี บริีทั หรือหา้ งหุน้ ส่วนนิติบุคคลที่มีหนา้ ท่ีเสียภาาีีเงินไดน้ ิติบุคคล มีดงั น้ี (1) บริษทั หรือห้างหุ้นส่วนนิตบิ ุคคลทตี่ ้งั ขนึ้ ตามกฎหมายไทย ได้แก่ 1.1 บริีทั จากดั 1.2 บริีทั มหาชน จากดั 1.3 หา้ งหุน้ ส่วนจากดั 1.4 หา้ งหุน้ ส่วนสามญั จดทะเบียน

3 (2) บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิตบิ ุคคลทตี่ ้งั ขนึ้ ตามกฎหมายต่างประเทศ ซึ่งมหี น้าทเ่ี สียภาษีเงนิ ได้นิตบิ ุคคลในประเทศไทย กต็ ่อเมอื่ เข้าเงอื่ นไขข้อใด ข้อหน่ึง ดงั ต่อไปนี้ 2.1 บริีทั หรือหา้ งหุน้ ส่วนนิติบุคคลต่างประเทศน้นั เขา้ มากระทา กิจการในประเทศไทย (มาตรา 66 วรรคแรก แห่งประมวลรัีฎากร) 2.2 บริีทั หรือหา้ งหุน้ ส่วนนิติบุคคลต่างประเทศน้นั กระทากิจการ ในที่อ่ืนๆ รวมท้งั ในประเทศไทย (มาตรา 66 วรรคสอง แห่งประมวลรัีฎากร)

2.3 บริีทั หรือหา้ งหุน้ ส่วนนิติบุคคลต่างประเทศน้นั กระทากิจการ 4 อ่ืนๆรวมท้งั ในประเทศไทยและกิจการท่ีกระทาน้นั เป็นกิจการขนส่งระหวา่ ง ประเทศ (มาตรา 67 แห่งประมวลรัีฎากร) 2.4 บริีทั หรือหา้ งหุน้ ส่วนนิติบุคคลต่างประเทศน้นั มิไดป้ ระกอบ กิจการในประเทศไทย แต่ไดร้ ับเงินไดพ้ ึงประเมินตามมาตรา 40 (2) (3) (4) (5) หรือ (6) ท่ีจ่ายจากหรือในประเทศไทย (มาตรา 70) 2.5 บริีทั หรือหา้ งหุน้ ส่วนนิติบุคคลต่างประเทศที่เสียภาาีีเงินไดน้ ิติ บุคคลในประเทศไทย ตามมาตรา 76 วรรคสอง และมาตรา 76 ทวิ แห่งประมวล รัีฎากร ไดจ้ าหน่ายเงินกาไรหรือเงินประเภาทอ่ืนท่ีกนั ไวจ้ ากกาไร หรือถือไดว้ า่ เป็นเงินกาไรออกไปจากประเทศไทย (มาตรา 70 ทวิ แห่งประมวลรัีฎากร)

5 2.6 บริีทั หรือหา้ งหุน้ ส่วนนิติบุคคลต่างประเทศน้นั มิได้ เขา้ มาทากิจการในประเทศไทยโดยตรง หากแต่มีลกู จา้ งหรือผทู้ า การแทนหรือผทู้ าการติดต่อ ในการประกอบกิจการในประเทศ ไทย ซ่ึงเป็นเหตุใหไ้ ดร้ ับเงินไดห้ รือผลกาไรในประเทศไทย DAY OF CHARITY (มาตรา 76 ทวิ) (3) กจิ การซ่ึงดาเนินการเป็ นทางค้า หรือหากาไร โดย DONATE 3.1 รัฐบาลต่างประเทศ 3.2 องคก์ ารของรัฐบาลต่างประเทศ 3.3 นิติบุคคลอ่ืนที่ต้งั ข้ึนตามกฎหมายของต่างประเทศ

6 (4) กจิ การร่วมค้า (Joint Venture) ได้แก่ กจิ การทด่ี าเนินการร่วมกันเป็ นทาง ค้าหรือหากาไร ระหว่างบุคคลดงั ต่อไปนีค้ อื 4.1 บริีทั กบั บริีทั 4.2 บริีทั กบั หา้ งหุน้ ส่วนนิติบุคคล 4.3 หา้ งหุน้ ส่วนนิติบุคคลกบั หา้ งหุน้ ส่วนนิติบุคคล 4.4 บริีทั และหรือหา้ งหุน้ ส่วนนิติบุคคลกบั บุคคลธรรมดา 4.5 บริีทั และหรือหา้ งหุน้ ส่วนนิติบุคคลกบั คณะบุคคลที่มิใช่นิติบุคคล 4.6 บริีทั และหรือหา้ งหุน้ ส่วนนิติบุคคลกบั หา้ งหุน้ ส่วนสามญั 4.7 บริีทั และหรือหา้ งหุน้ ส่วนนิติบุคคลกบั นิติบุคคลอื่น

7 (5) มลู นิธิหรือสมาคมท่ีประกอบกิจการซ่ึงมีรายไดแ้ ตไ่ ม่รวมถึง มูลนิธิหรือสมาคมที่รัฐมนตรีประกาศกาหนดใหเ้ ป็นองคก์ ารหรือ สถานสาธารณกศุ ล (6) นิติบุคคลท่ีอธิบดีกาหนดโดยอนุมตั ิรัฐมนตรีและประกาศใน ราชกิจจานุเบกีาใหเ้ ป็นบริีทั หรือหา้ งหุน้ ส่วนนิติบุคคลตาม ประมวลรัีฎากร

เงนิ ได้ที่ได้รับยกเว้นภาษเี งนิ ได้นิตบิ ุคคล 8 1. ยกเวน้ ตามอนุสญั ญาภาาีีซอ้ น 2. ยกเวน้ ตามพระราชบญั ญตั ิภาาีีเงินไดป้ ิ โตรเลียม 3. ยกเวน้ ค่าลงทะเบียนหรือค่าบารุงจากการรับบริจาคของมลู นิธิหรือสมาคม 4. ยกเวน้ เงินไดจ้ ากกิจการของโรงเรียนเอกชนท่ีมูลนิธิหรือสมาคมจดั ต้งั ข้ึนตาม กฎหมายวา่ ดว้ ยโรงเรียนเอกชน กาไรสุทธิที่จะตอ้ งเสียภาาีีเงินไดน้ ิติบุคคล ไดม้ าจากรายไดข้ องกิจการหรือ เน่ืองจากกิจการหกั ดว้ ยรายจ่ายของกิจการ ตามเงื่อนไขท่ีระบุไวใ้ น มาตรา ๖๕ ทวิ และ มาตรา ๖๕ ตรี แห่งประมวลรัีฎากร

9 นิติบุคคลทไี่ ม่ต้องเสียภาษเี งนิ ได้ นิติบุคคลอ่ืนๆ นอกจากที่กล่าวในขา้ งตน้ และเฉพาะท่ีต้งั ข้ึนตาม กฎหมายไทย เช่น กระทรวง ทบวง กรม องคก์ าร ของรัฐบาลหรือ สหกรณ์ ไม่มีหนา้ ที่ตอ้ งเสียภาาีีเงินไดน้ ิติบุคคลแต่อยา่ งใด อยา่ งไรกต็ าม ยงั มีนิติบุคคลอีกบางประเภาทที่เขา้ ลกั ีณะตอ้ งเสียภาาีีเงิน ไดน้ ิติบุคคลตามประมวลรัีฎากร แต่ไดร้ ับการยกเวน้ ตามบทบญั ญตั ิ ของกฎหมายต่างๆ ไดแ้ ก่ (1) บริีทั หรือหา้ งหุน้ ส่วนนิติบุคคลตามขอ้ ผกู พนั ท่ีประเทศไทยมี DAY OF CHARITY อยตู่ ามสญั ญาวา่ ดว้ ยความร่วมมือทางเศรีฐกิจ หรือทางเทคนิคระหวา่ ง DONATE รัฐบาลไทยกบั รัฐบาลต่างประเทศ

10 (2) บริีทั จากดั ที่ไดร้ ับการยกเวน้ ภาาีีเงินไดต้ ามกฎหมายวา่ ดว้ ยการส่งเสริมการลงทุน (3) บริีทั จากดั และนิติบุคคลท่ีมีสภาาพเช่นเดียวกบั บริีทั จากดั ซ่ึงต้งั ข้ึนตามกฎหมายไทยหรือกฎหมายต่าง ประเทศไดร้ ับการ ยกเวน้ ภาาีีเงินไดน้ ิติบุคคลตามพระราชบญั ญตั ิภาาีีเงินไดป้ ิ โตรเลียม (4) บริีทั หรือหา้ งหุน้ ส่วนนิติบุคคลที่อยใู่ นประเทศท่ีมี อนุสญั ญาวา่ ดว้ ยการเวน้ การเกบ็ ภาาีีซอ้ นกบั ประเทศไทย ตามเงื่อนไข ที่กาหนดในสญั ญา DONA TION

ฐานภาษขี องภาษเี งนิ ได้นิตบิ ุคคล 11 ภาาีีเงินไดน้ ิติบุคคล คานวณจากเงินไดท้ ่ีใชเ้ ป็นหลกั ฐานในการคานวณ ภาาีีคณู ดว้ ยอตั ราภาาีีที่กาหนด ดงั น้นั เงินไดท้ ่ีตอ้ งเสียภาาีีเงินไดน้ ิติบุคคล หรือฐานภาาีีเงินไดน้ ิติบุคคลน้นั โดยทวั่ ไปไดแ้ ก่กาไรสุทธิท่ีคานวณตาม เง่ือนไขที่กาหนด แต่เพอื่ ความเป็นธรรมและอุดช่องวา่ งในการจดั เกบ็ ภาาีีเงิน ได้ จึงไดม้ ี การบญั ญตั ิจดั เกบ็ ภาาีีเงินได้ นิติบุคคล จากเงินไดห้ รือฐานภาาีี ท่ีแตกต่างกนั ดงั น้ี (1) กาไรสุทธิ (2) ยอดรายไดก้ ่อนหกั รายจ่าย (3) เงินไดท้ ี่จ่ายจากหรือในประเทศไทย (4) การจาหน่ายเงินกาไรออกไปจากประเทศไทย

12 เงนิ ได้ที่ต้องหักภาษี เงินไดข้ องบริีทั หรือหา้ งหุ้นส่วนนิติบุคคล ต่างประเทศ ซ่ึงผจู้ ่ายมีหนา้ ที่ตอ้ ง หกั ภาาีี ไดแ้ ก่ เงินไดพ้ ึงประเมินตาม มาตรา 40(2)(3)(4)(5) หรือ (6) (1) เงนิ ได้พงึ ประเมนิ ตามมาตรา 40(2) ได้แก่ เงินไดเ้ นื่องจาก หนา้ ที่หรือ ตาแหน่งงานที่ทา หรือจากการรับ ทางานให้ (ค่าธรรมเนียม ค้าประกนั เงินกยู้ มื ในทางปฏิบตั ิถือเป็นเงินไดพ้ ึงประเมิน ประเภาทท่ี 8) (2) เงนิ ได้พงึ ประเมนิ ตามมาตรา 40(3) ได้แก่ ค่าแห่งก๊ดู วิลล์ ค่าแห่งลิขสิทธ์ิ หรือสิทธิอยา่ งอ่ืน เงินปี หรือเงินไดม้ ีลกั ีณะเป็นเงิน รายปี อนั ไดม้ าจากพนิ ยั กรรม นิติกรรมอยา่ งอ่ืนหรือคาพิพากีาของศาล

13 (3) เงนิ ได้พงึ ประเมนิ ตามมาตรา 40(4) ได้แก่เงนิ ได้ทเี่ ป็ น (1) ดอกเบ้ียพนั ธบตั ร ดอกเบ้ียเงินฝาก ดอกเบ้ียหุน้ กู้ ดอกเบ้ียตวั๋ เงิน ดอกเบ้ียเงินกยู้ มื ไม่วา่ จะมีหลกั ประกนั หรือไม่กต็ าม กรณีไดเ้ งินไดท้ ี่เป็นดอกเบ้ียจากรัฐบาล หรือสถาบนั การเงินที่มีกฎหมายโดยเฉพาะของ ประเทศไทย จดั ต้งั ข้ึนสาหรับให้ กยู้ มื เพื่อส่งเสริม เกีตรกรรม พาณิชยกรรม หรืออุตสาหกรรม ไม่ ตอ้ งเสีย ภาาีีฐานน้ี (มาตรา 70 วรรค 2 ) (2) เงินปันผล เงินส่วนแบ่งของกาไรหรือประโยชน์อ่ืน ใดท่ีไดจ้ ากบริีทั หรือหา้ งหุน้ ส่วน นิติบุคคลหรือกองทุนรวม

14 (3) เงินโบนสั ที่จ่ายแก่ผถู้ ือหุน้ หรือผเู้ ป็นส่วนในบริีทั หรือ หา้ งหุน้ ส่วนนิติบุคคล (4) เงินลดทุนของบริีทั หรือหา้ งหุน้ ส่วนนิติบุคคล เฉพาะ ส่วนท่ีจ่ายไม่เกินกวา่ กาไรและ เงินที่กนั ไวร้ วมกนั (5) เงินเพม่ิ ทุนของบริีทั หรือหา้ งหุน้ ส่วนนิติบคุ คล ซ่ึงต้งั กาไรที่ไดม้ าหรือเงินท่ีกนั ไว้ รวมกนั (6) ผลประโยชนท์ ี่ไดจ้ ากการท่ีบริีทั หรือหา้ งหุน้ ส่วนนิติ บุคคลควบเขา้ กนั หรือรับช่วงกนั หรือเลิกกนั ซ่ึงตีราคาเป็นเงินไดเ้ กินกวา่ เงินทุนเงินไดเ้ กินกวา่ ท่ีลงทุน

15 (7) ผลประโยชนท์ ่ีไดจ้ ากการโอนการเป็นหุน้ ส่วน หรือโอน หุน้ หุน้ กู้ พนั ธบตั ร หรือ ตว๋ั เงิน หรือตราสารแสดงสิทธิในหน้ีที่บริีทั หรือ หา้ งหุน้ ส่วนนิติบุคคลหรือบุคคลอ่ืนเป็นผอู้ อก ท้งั น้ีเฉพาะ ซ่ึงตีราคาเป็น เงินไดเ้ กินกวา่ ท่ีลงทุน (4) เงนิ ได้พงึ ประเมนิ ตามมาตรา 40(5) ได้แก่ เงินหรือประโยชน์ อยา่ งอื่นท่ีไดเ้ นื่องจากการใหเ้ ช่า ทรัพยส์ ิน (5) เงนิ ได้พงึ ประเมนิ ตามมาตรา 40(6) ได้แก่ เงินไดจ้ ากวิชาชีพ อิสระ คือวชิ ากฎหมาย การประกอบ โรคศิลป วศิ วกรรม สถาปัตยกรรม การบญั ชี ประณีตศิลปกรรม

วธิ ีการคานวณหักภาษีฐานนี้ มหี ลกั เกณฑ์และวธิ ีการแยกออก ตามประเภท 16 ของเงนิ ได้ ดงั นี้ (1) เงินไดพ้ ึงประเมินมาตรา 40(2)(3)(4)(5) และ (6) นอกจากเงินไดพ้ ึง ประเมินตามมาตรา 40(4)(ข) ดงั จะกล่าวต่อไปใน (2) ใหค้ านวณหกั ภาาีีใน อตั ราร้อยละ 15 (2) เงินไดพ้ งึ ประเมินตามมาตรา 40(4)(ข) ใหค้ านวณหกั ภาาีีในอตั รา ร้อยละ 10 การยนื่ แบบแสดงรายการชาระภาษี การหักภาษเี งนิ ได้นิตบิ ุคคล ณ ที่ จ่ายสาหรับบริษทั ต่างประเทศข้างต้น ผู้จ่ายเงนิ ได้จะต้องหักภาษี ณ ทจี่ ่าย และ ยน่ื แบบแสดงรายการและนาส่งภาษีภายใน 7 วนั นับแต่วนั สิ้นเดอื นของเดอื นท่ี จ่ายเงนิ ได้พงึ ประเมนิ แบบแสดงรายการทยี่ นื่ ได้แก่ แบบ ภ.ง.ด.54 (ถ้าไม่มี การ ส่งเงนิ ได้ไปต่างประเทศกไ็ ม่ต้องยนื่ )

อตั ราภาษเี งนิ ได้บุคคลธรรมดาสาหรับปี ภาษี 2560 ท่จี ะต้องยน่ื รายการในปี 17 พ.ศ.2561 เป็ นต้นไป มดี ้วยกนั ดงั ต่อไปนี้

18 หมายเหตุ *ยกเวน้ ตามมาตรา 4 แห่งพระราชกฤีฎีกาฯ (ฉบบั ท่ี 470) พ.ศ.2551 สาหรับเงินไดส้ ุทธิที่เกิดข้ึนต้งั แต่ปี พ.ศ.2551 เป็นตน้ ไป ประกอบกบั มาตรา 12 แห่งพระราชบญั ญตั ิแกไ้ ขเพิ่มเติมประมวลรัีฎากร (ฉบบั ท่ี 44) พ.ศ. 2560 ซ่ึงมีผลบงั คบั ใชต้ ้งั แต่ปี ภาาีี พ.ศ. 2560 เป็นตน้ ไป

19 บรรณานุกรม https://www.google.com/A5+2564 https://th.wikipedia.org https://www.itax.in.th/pediaภาาีีเงินไดน้ ิติบุคคล