รายงานการประเมนิ คุณภาพภายนอกรอบส่ี (พ.ศ. ๒๕๕๙ – ๒๕๖๓) การศึกษาปฐมวัยและระดับการศกึ ษาขน้ั พนื้ ฐาน โรงเรยี นเคหะชุมชนลาดกระบงั สานกั งานรบั รองมาตรฐานและประเมนิ คณุ ภาพการศึกษา (องคก์ ารมหาชน)
บทสรปุ สาหรบั ผบู้ ริหาร โรงเรียนเคหะชุมชนลาดกระบัง ต้ังอยู่ท่ี 143 ถนนเคหะร่มเกล้า 42 แขวง คลองสองต้นนุ่น เขต ลาดกระบงั กรุงเทพมหานคร สงั กัดกรุงเทพมหานคร เปิดสอนตั้งแต่ชั้นปฐมวัย ถึงชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 คณะผู้ประเมินได้ตรวจเย่ียมสถานศึกษาเมื่อวันท่ี 12 – 14 มิถุนายน 2562 โดยมีผลการประเมินคุณภาพ ภายนอกรอบสี่ ดังนี้ สรปุ ผลการประเมินคณุ ภาพภายนอกรอบสี่ (พ.ศ. ๒๕๕๙ - ๒๕๖๓) ๑. การศกึ ษาปฐมวัย ด้าน ระดับคุณภาพ ๑. คุณภาพของเดก็ หรอื ดา้ นอ่ืนตามชอื่ ท่สี ถานศกึ ษากาหนด ดมี าก ดีมาก ๒. กระบวนการบริหารและการจัดการ หรือด้านอื่นตามชื่อท่ีสถานศึกษา ดมี าก กาหนด ๓. การจัดประสบการณ์ท่ีเน้นเด็กเป็นสาคัญ หรือด้านอื่นตามชื่อที่ สถานศึกษากาหนด จดุ เดน่ ด้านคณุ ภาพของเด็ก ๑. เด็กมีสขุ ภาพกายและสขุ ภาพจิตทด่ี ี มรี ่างกายท่สี มบูรณ์ แข็งแรง ตามเกณฑ์มาตรฐาน มีความร่าเริง แจ่มใสสมวัย มีมนุษยสัมพันธ์ที่ดีต่อเพ่ือน ครูและบุคคลทั่วไป โดยเด็กได้รับการพัฒนาทางด้านร่างกายจาก โครงการอิ่มทอ้ ง สมองดี และโครงการส่งเสริมสุขนิสัย สุขภาพกาย และสุขภาพจิตที่ดี ทาให้เด็กมีพัฒนาการ สมวัย เป็นไปตามอัตลักษณข์ องโรงเรยี นทีว่ า่ “สุขภาพดี” ๒. เด็กมีวินัย มีความรับผิดชอบ สามารถปฏิบัติตนตามข้อตกลงของห้องเรียนและของสถานศึกษาได้ โดยสถานศึกษาจัดทาโครงการ มาร์ชชิ่งความดี ที่เน้นในเรื่องความดีสากล ๕ ประการ คือ สะอาด ระเบียบ สุภาพ ตรงเวลา และสมาธิ ซึ่งครูได้นาหลัก ๕ ประการน้ีสอดแทรกไปกับการจัดประสบการณ์ตามหลักการ จัดการปฐมวัยท้ัง ๖ กิจกรรม พร้อมด้วยโครงการคุณธรรม จริยธรรมเด็กปฐมวัย จัดกิจกรรมวิถีพุทธตามท่ี สถานศึกษากาหนด ซ่ึงสถานศกึ ษากาหนด “โรงเรยี นวถิ พี ุทธ” เปน็ เอกลกั ษณ์ของสถานศกึ ษา ๓. เด็กมีพัฒนาการด้านสติปัญญาสมวัย โดยเด็กได้รับการพัฒนาอย่างหลากหลาย นอกเหนือจาก กิจกรรมหลักท้ัง ๖ กิจกรรม โดยการบูรณาการผ่านโครงการกิจกรรมพัฒนาทักษะการคิดปฐมวัย โครงการ ตายายสอนหลาน โครงการบ้านนักวิทยาศาสตร์น้อย จัดกิจกรรมให้เด็กได้เรียนรู้ตามโครงการบ้าน นกั วิทยาศาสตร์น้อยแห่งประเทศไทย นอกจากน้ียังส่งเสริมเด็กท่ีมีความสนใจในการเล่นหมากล้อมให้ได้เล่น ก่อนนอน ทาให้เด็กได้พัฒนาทักษะการคิดอย่างหลากหลาย จนสามารถไปแข่งขันได้รับถ้วยรางวัลชนะเลิศ ประเภททีมผสมและถว้ ยรางวัลรองชนะเลิศอันดบั ๒ ประเภททีมชายในการแข่งขนั หมากล้อมอนุบาลโรงเรียน ไทยนิยมสงเคราะห์ และถ้วยรางวัลชนะเลิศประเภทชายเดียว ในการแข่งขัน BMA ณ โรงเรียนเคหะชุมชน ลาดกระบงั ๑
ด้านกระบวนการบรหิ ารและการจัดการ ๑. ความเปน็ ระบบ ก่อนดาเนินงานคณะทางาน ได้ทาการวิเคราะห์ SWOT Analysis แล้วใช้ระบบ วงจรคณุ ภาพ (Deming Cycle) PDCA ในการพัฒนางานและโครงการต่างๆ เพ่ือให้การบริหารจัดการเป็นไป ตามระบบ ๒. การบริหารงานของผู้นาใชห้ ลากหลายแนวคิดในการบริหารจัดการ แต่จดุ เด่นของผูบ้ ริหาร คือ การบริหารงานโดยใช้ทฤษฎีภาวะผู้นาตามสถานการณ์ (Situation Leadership Theory) ของ Hersey & Blanchard ๓. ประสิทธิผลของกระบวนการบรหิ ารและจัดการศึกษา โดยโรงเรยี นจัดทาหลักสูตรครอบคลุม พัฒนาการท้ัง ๔ ด้าน คือ ด้านร่างกาย ด้านอารมณ์จิตใจ ด้านสังคม และสติปัญญา ครูมีความเช่ียวชาญใน ดา้ นการจดั ประสบการณ์ มโี ครงการสนองตอบต่อการจดั การเรียนการสอนทห่ี ลากหลาย ชุมชนให้การยอมรับ ด้านการจดั ประสบการณ์ที่เน้นเดก็ เป็นสาคัญ ๑. ครูมีวุฒิ มีความรู้ ความสามารถในการจัดประสบการณ์การเรียนรู้เพ่ือพัฒนาเด็กให้มีพัฒนาการ ครบถ้วนทั้ง ๔ ด้านได้เป็นอย่างดี และมีการจัดทาวิจัยในช้ันเรียนเพ่ือพัฒนาเด็กท่ียังมีพัฒนาการบางด้านไม่ เหมาะสมตามวัยให้มีพฒั นาการเตม็ ตามศกั ยภาพของเด็กแต่ละคน ๒. ครูมีการจัดบรรยากาศช้ันเรียนให้เอ้ือต่อการเรียนรู้ของเด็ก โดยจัดมุมประสบการณ์ต่างๆใน หอ้ งเรยี นใหเ้ ดก็ ได้เรียนรู้อย่างหลากหลาย ซึง่ แต่ละมุมมีสื่อการเรียนรู้และของเล่นเพื่อส่งเสริมพัฒนาการเด็ก ได้เป็นอย่างดแี ละมจี านวนเพยี งพอแก่เด็ก ทงั้ สอื่ สาเร็จรูปและส่อื ที่ครูจดั ทาข้ึนเองเพ่ือเสริมพัฒนาการเด็ก ๓. ครูมีการพัฒนาตนเองอยู่เสมอ ซ่ึงครูทุกคนได้รับการพัฒนาตนเองในแต่ละปีการศึกษามากกว่า ๒๐ ช่ัวโมง ผลการพฒั นาตนเองอยู่เสมอทาใหค้ รูได้รับเชญิ เปน็ วทิ ยากรให้ความร้แู ก่สถานศึกษาอื่นๆ เช่น เป็น วทิ ยากรอบรม เรื่อง การจดั ประสบการณก์ ารเรียนรเู้ พอื่ พัฒนาทักษะเชิงบริหาร EF ( Executive Functions) บ้านนักวิทยาศาสตร์น้อย แก่โรงเรียนในสังกัดกรุงเทพมหานคร และเป็นวิทยากรของสถาบันแม็คเอ็ดดูกา จากดั ในการอบรมหลกั สตู ร การพัฒนาและการใช้สื่อกจิ กรรมส่งเสริมกระบวนการคิดของเดก็ ปฐมวยั ๔. ครูมีความมุ่งม่ันอุทิศตนในการจัดประสบการณ์การเรียนรู้แก่เด็ก และพัฒนาสื่อและการจัด ประสบการณ์การเรียรู้เพ่ือพัฒนาเด็กอยู่เสมอ ส่งผลให้ครู ๔ คน ได้รับรางวัลหนึ่งแสนครูดี จากคุรุสภา ครู ดเี ดน่ จากสานกั งานเขตลาดกระบงั ๑ คน ครดู ีเดน่ จากโรงเรียนเครือข่ายท่ี ๓๘ สานักงานเขตลาดกระบัง ๑ คน และครูแกนนาหลกั สูตรปฐมวยั จากสานกั การศึกษา กรุงเทพมหานคร จุดทคี่ วรพฒั นา ไม่มี ขอ้ เสนอแนะตามนโยบายจากหนว่ ยงานต้นสังกัด หรอื ภาครัฐ ไมม่ ี ข้อเสนอแนะ ไมม่ ี ๒
ข้อเสนอแนะเพอื่ การพัฒนาสู่นวตั กรรม หรอื แบบอยา่ งท่ีดี ด้านคุณภาพของเดก็ โรงเรียนเคหะชุมชนลาดกระบังมีครูท่ีมีความรู้ ความสามารถในการจัดประสบการณ์การเรียนรู้เพ่ือ พัฒนาเดก็ ได้อย่างหลากหลาย รวมถึงการจัดทาส่ือเพ่ือการพัฒนาการจัดประสบการณ์การเรียนรู้เพื่อพัฒนา เด็กได้เป็นอย่างดี ส่งผลให้เด็กมีพัฒนาการครบถ้วนท้ังด้านร่างกาย อารมณ์-จิตใจ สังคม และสติปัญญาใน ระดับดีมาก และมีการจัดทาโครงการกิจกรรมพัฒนาทักษะการคิดปฐมวัย ส่งเสริมให้เด็กสร้างผลงานศิลปะ สรา้ งสรรค์และศิลปะประดิษฐ์ และโครงการตายายสอนหลาน ให้เด็กนานิทานกลับบ้านไปให้ผู้ปกครองหรือ คุณตา คุณยายเล่าให้ฟังที่บ้าน จึงควรส่งเสริมและพัฒนาเด็กให้สู่ความเป็นเลิศ โดยการเสริมกิจกรรมให้ หลากหลายยง่ิ ข้ึน เช่น เกมคณิตศาสตร์ เกมพยัญชนะ และการสร้างนิทานท่ีส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์และ จนิ ตนาการของเดก็ โดยครแู ละเดก็ รว่ มกนั แต่งนิทานจากความคิดเด็ก ครูร่วมกับเด็กระบายสีภาพ จัดทาเป็น รปู เลม่ ส่งเสรมิ ให้เด็กกล้าแสดงออกในการออกมาเล่านิทานประกอบสื่อท่ีเด็กแต่งข้ึนเอง แล้วเผยแพร่ผลงาน ของเด็กผ่านแผ่นพับประชาสัมพันธ์ หรือเว็ปไซด์ของโรงเรียน เพ่ือการยอมรับและเป็นท่ีศึกษาดูงานของ สถานศึกษาอ่นื ดา้ นกระบวนการบริหารและการจัดการ ๑. สถานศึกษาควรนาเทคโนโลยีมาใชใ้ นระบบบรหิ ารจัดการ ท่ีใชง้ านได้จริง เช่น เว็บไซต์ (Website) เฟสบุ๊ค (Facebook) มคี ณะทางานดา้ นบรหิ าร (Administrator) ควบคุมการดาเนินงานให้เปน็ ปกตปิ ระจา ๒. สถานศึกษาควรจัดระบบเครอื ข่ายอนิ เตอรเ์ น็ต (Internet) ความเร็วสงู ที่ใช้งานได้จริง เพื่อบริหาร จดั การทั้ง ๔ งานของโรงเรียน คอื ๑) งานวชิ าการ ๒) งานธุรรการและการเงิน ๓) งานบุคลากร และ ๔) งาน บริหารทัว่ ไป ๓. สถานศึกษาควรจัดหาโปรแกรม หรือสร้างโปรแกรมมาใช้งานท้ัง ๔ งาน คือ ๑) งานวิชาการ ๒) งานธุรรการและการเงิน ๓) งานบุคลากร และ ๔) งานบริหารท่ัวไป เพ่ือการบริหารงานท่ีรวดเร็ว เช่น โปรแกรมควบคุมการบรหิ ารสอ่ื ฯ ด้านการจดั ประสบการณท์ ี่เนน้ เดก็ เป็นสาคัญ ครูมคี วามรู้ ความสามารถในการจดั ประสบการณ์เพือ่ พัฒนาทักษะการคิดใหแ้ กเ่ ด็กได้เป็นอย่างดี ผ่าน โครงการกิจกรรมพัฒนาทักษะการคดิ ปฐมวัย ส่งเสริมให้เด็กสร้างผลงานศิลปะสร้างสรรค์และศิลปะประดิษฐ์ และ โครงการตายายสอนหลาน โดยพัฒนาเด็กด้วยการให้เด็กนานิทานกลับบ้านไปให้ผู้ปกครองหรือคุณตา คุณยายเล่าให้ฟงั ทีบ่ ้าน จงึ ควรส่งเสริมและพฒั นาให้เปน็ แบบอย่างทดี่ ี ดว้ ยการจดั กิจกรรมเสริมให้หลากหลาย ย่งิ ขน้ึ เช่น เกมคณิตศาสตร์ เกมพยัญชนะ และการสร้างนิทานท่ีส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์และจินตนาการ ของเด็ก โดยครูและเด็กร่วมกันแต่งนิทานจากความคิดเด็ก และสถานศึกษามีครูศิลปะท่ีมีความรู้ ความสามารถเป็นอย่างมาก จึงควรขอความร่วมมือในการวาดภาพจากนิทานท่ีเด็กแต่ง แล้วครูร่วมกับเด็ก ระบายสีภาพ จดั ทาเป็นรูปเล่ม นาไปเสรมิ ต่อในโครงการตายายสอนหลาน รวมถึงสถานศึกษาควรจัดทาเวทีให้ เด็กได้แสดงความสามารถในการเล่านิทาน พร้อมท้ังสนับสนุนส่ือ อุปกรณ์ต่างๆ ในการแสดง เผยแพร่สู่ สถานศกึ ษาอน่ื ๆผ่านเวป็ ไซดข์ องสถานศึกษา หรือ แผ่นพับประชาสัมพันธ์ เพ่ือให้สถานศึกษาอ่ืนๆมาศึกษาดู งาน ๓
สรปุ ประเด็นจากหน่วยงานตน้ สังกัด ไม่มี สรุปผลการประเมนิ ความโดดเดน่ ไม่มี ๒. ระดบั การศึกษาข้นั พ้นื ฐาน ด้าน ระดบั คุณภาพ ดีมาก ๑. คุณภาพของผู้เรียน หรือดา้ นอืน่ ตามชือ่ ทส่ี ถานศกึ ษากาหนด ดมี าก ๒. กระบวนการบริหารและการจัดการ หรือด้านอื่นตามชื่อท่ีสถานศึกษา ดมี าก กาหนด ๓. กระบวนการจัดการเรียนการสอนท่ีเน้นผู้เรียนเป็นสาคัญ หรือด้านอื่น ตามช่อื ทส่ี ถานศกึ ษากาหนด จุดเดน่ ด้านคณุ ภาพของผเู้ รยี น 1. ผู้เรียนมีระเบียบวินยั มสี มั มาคารวะ มคี วามรบั ผดิ ชอบ ตรงตอ่ เวลา และมมี นุษยส์ มั พนั ธด์ ี โดย สถานศกึ ษาจัดโครงการมาร์ชช่ิงความดีสากล ๕ ประการ ให้ผู้เรียนทุกคนปฏิบัติผ่านกิจกรรมเสียงเพลงสร้าง ความดี เสน้ สีสร้างวินยั โครงการโรงเรียนวิถีพุทธ ใช้หลักไตรสิกขาในการพัฒนาตนตามหลักพุทธธรรม ส่งผล ให้ผเู้ รยี นสะอาด มีระเบยี บ สภุ าพ ตรงเวลา และมีสมาธิ 2. ผูเ้ รียนมีสุขภาพดี สะอาด ร่าเรงิ แจม่ ใส และมรี า่ งกายแขง็ แรงสมบูรณ์ โดยสถานศกึ ษาจดั โครงการโรงเรยี นสง่ เสริมสขุ ภาพ โครงการเดก็ ยิม้ อิม่ ทอ้ ง โครงการอนามัยโรงเรียน โครงการสุขาภิบาลอาหาร ในโรงเรียน บรกิ ารอาหารม้ือเชา้ และอาหารม้อื กลางวนั จัดกิจกรรมแข่งขันกีฬา ทดสอบสมรรถภาพทางกาย สง่ ผลใหผ้ เู้ รียนมีสขุ ภาพดี และมนี ้าหนกั สว่ นสูงตามเกณฑ์ ๔. ผเู้ รียนมผี ลสัมฤทธิท์ างการเรยี นและผลการทดสอบทางการศึกษาระดบั ชาต(ิ O-NET) สูงกว่า คา่ เฉลยี่ ระดับต้นสงั กัดและคา่ เฉลยี่ ระดับประเทศ ๓ ปตี อ่ เนื่อง ๕. ผเู้ รยี นมคี วามสามารถทางด้านศิลปะ ไดร้ ับรางวลั ตา่ งๆท้ังในระดับเขตพ้ืนทก่ี ารศึกษา และ ระดับประเทศ โดยพบเห็นผลงานดา้ นศิลปะอยทู่ ัว่ ไป เชน่ หอ้ งศิลปะ ใบงาน โครงงาน ดา้ นกระบวนการบริหารและการจัดการ (ถ้าม)ี ๑. ความเป็นระบบ กอ่ นดาเนนิ งานคณะทางาน ไดท้ าการวเิ คราะห์ SWOT Analysis แล้วใช้ระบบวงจรคุณภาพ (Deming Cycle) PDCA ในการพัฒนางานและโครงการต่างๆ เพื่อให้การบริหาร จดั การเปน็ ไปตามระบบ ๒. การบรหิ ารงานของผู้นาใชห้ ลากหลายแนวคดิ ในการบริหาร แตจ่ ดุ เด่นคือการบรหิ ารงาน โดยใช้ทฤษฎภี าวะผ้นู าตามสถานการณ์ (Situation Leadership Theory) ของ Hersey & Blanchard ๓. ประสิทธผิ ลของการบริหารและจัดการศกึ ษาขน้ั พ้นื ฐาน สถานศกึ ษาดาเนินการ ๔
ตามวิสัยทศั น์ เอกลักษณ์ ท่ีสอดคล้องกบั นโยบายการปฎิรูปการศึกษาและแผนพัฒนากรุงเทพมหานคร มีการ พัฒนาหลักสูตร พัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษาอย่างเป็นระบบ ส่งผลให้นักเรียนมีคุณภาพผลการ ทดสอบ O-NET ผา่ นทุกกลุม่ สาระ 3 ปตี อ่ เน่อื ง ทม่ี ีคะแนนสูงกวา่ ระดบั ชาตแิ ละกรงุ เทพมหานคร ดา้ นกระบวนการจัดการเรียนการสอนที่เน้นผเู้ รยี นเปน็ สาคญั (ถ้ามี) ๑. ครมู กี ารพฒั นาตนเองอย่างต่อเนอ่ื ง ๒. ครูมีการวเิ คราะหห์ ลกั สูตรสถานศกึ ษา บูรณาการนโยบายและโครงการตา่ งๆไวใ้ นหลกั สูตร สถานศึกษาอย่างชัดเจน ๓. ครมู ีการบริหารจดั การชน้ั เรยี นเชงิ บวก เสริมแรง และใหก้ าลงั ใจแก่ผ้เู รียน ชว่ ยเหลือผ้เู รยี นทีเ่ รยี น ช้า และให้เพอ่ื นช่วยเพอ่ื นเพ่อื ให้ผูเ้ รยี น เรยี นรู้ได้อย่างอย่างตอ่ เนื่อง จุดที่ควรพฒั นา ไม่มี ขอ้ เสนอแนะตามนโยบายจากหน่วยงานต้นสังกดั หรอื ภาครฐั ไม่มี ข้อเสนอแนะ ไม่มี ขอ้ เสนอแนะเพอื่ การพฒั นาสนู่ วตั กรรม หรอื แบบอย่างทดี่ ี ด้านคณุ ภาพของผูเ้ รียน สถานศกึ ษาควรเกบ็ รวบรวมผลงานของผเู้ รียนดา้ นศลิ ปะที่ไดร้ บั รางวัลประเภทต่างๆ ไว้เป็นหมวดหมู่ จัดท้าเป็นทะเบียน ระบุช่ือเจ้าของผลงาน วัน เดือน ปี ท่ีรังสรรค์ผลงาน แล้วน้าไปตกแต่งตามมุมต่างๆของ สถานศึกษา เพื่อเป็นสิ่งเชิดชูความสามารถ เป็นเกียรติยศต่อเจ้าของผลงาน และเป็นความภาคภูมิใจของ สถานศึกษา พรอ้ มทง้ั บนั ทึกภาพเก็บไวใ้ นแกลเลอร่ี แสดงไว้ในเฟสบุ๊คของสถานศึกษา อันจะเกิดเป็นแรงจูงใจ ตอ่ ผู้พบเห็นใหม้ ีความซาบซงิ้ ในความสวยงามดา้ นศลิ ปะ หรอื ตอ่ ยอดเปน็ พภิ ิธภณั ฑ์ศลิ ปะของสถานศกึ ษา ด้านกระบวนการบริหารและการจัดการ (ถ้าม)ี ๑. สถานศึกษาควรนาเทคโนโลยีมาใช้ในระบบบรหิ ารจัดการ ทใี่ ชง้ านไดจ้ รงิ เช่น เว็บไซต์ (Website) เฟสบุ๊ค (Facebook) มีคณะทางานด้านบริหาร (Administrator) ควบคุมการดาเนินงานให้เป็น ปกติประจา ๒. สถานศกึ ษาควรจัดระบบเครอื ขา่ ยอนิ เตอร์เนต็ (Internet) ความเรว็ สงู ทใ่ี ชง้ านไดจ้ รงิ เพอ่ื บริหารจัดการทง้ั ๔ งานของโรงเรียน คือ ๑) งานวิชาการ ๒) งานธุรรการและการเงิน ๓) งานบุคลากร และ ๔) งานบรหิ ารทัว่ ไป ๓. สถานศึกษาควรจัดหาโปรแกรม หรอื สรา้ งโปรแกรมมาใชง้ านท้งั ๔ งาน คือ ๑) งานวชิ าการ ๒) งานธุรรการและการเงิน ๓) งานบุคลากร และ ๔) งานบริหารท่ัวไป เพื่อการบริหารงานที่รวดเร็ว เช่น โปรแกรมการรับเด็กเข้าเรียน การย้ายเดก็ นักเรยี น การควบคมุ สอ่ื ฯ ๕
ดา้ นกระบวนการจดั การเรยี นการสอนทีเ่ นน้ ผ้เู รยี นเปน็ สาคัญ ครูมคี วามรูค้ วามสามารถ มุ่งมน่ั ทุ่มเท อุทิศตนในการปฏิบัติงาน โดยโรงเรียนเคหะชุมชนลาดกระบัง ดาเนินโครงการรักการอ่าน อ่านสร้างสุข กาหนดกิจกรรมทุกวันจันทร์- ศุกร์ เวลา ๗.๑๕ น. – ๗.๔๕ น. โดยใช้เพลงตรงต่อเวลาเป็นสัญญาณของการเร่ิมต้นและการสิ้นสุดกิจกรรมแต่ละวัน ครูและผู้เรียนจะขึ้น ห้องเรยี น ปฏิบตั กิ ิจกรรมด้านการอ่าน ซึ่งสอดคล้องกับความดีมาตรฐานสากล ๕ ประการ โดยเฉพาะในเร่ือง ความตรงตอ่ เวลา การฝกึ สมาธิ ความมรี ะเบยี บ โรงเรยี นไดด้ าเนินการอย่างต่อเนื่อง บรรลุผลสัมฤทธิ์ส่งผลต่อ คณุ ภาพผู้เรียนในระดับดมี าก และกระบวนการจัดการเรียนรูท้ เ่ี นน้ ผูเ้ รียนเป็นสาคญั อยู่และการปฏิบัติกิจกรรม น้ีในระดบั ดีมาก สามารถเป็นแบบอย่างให้กับสถานศึกษาอ่ืน สถานศึกษาควรเผยแพร่กิจกรรมนี้ทางเว็บไซต์ เฟซบคุ และประชาสัมพนั ธ์ไปยงั ผปู้ กครอง ใหผ้ ู้ปกครองเขา้ มามีสว่ นรว่ มในการอา่ นสร้างสุข และควรเพ่ิมการ จดั ทาคูม่ ือท่ีมกี ระบวนการท่ชี ัดเจน หรือจัดทาเป็นคลิปวิดีโอเผยแพร่กิจกรรมดังกล่าว เพื่อให้สถานศึกษาอ่ืน นาไปใชเ้ ปน็ แบบอย่างได้ สรุปประเด็นจากหน่วยงานตน้ สังกัด โรงเรียนเคหะชุมชนลาดกระบัง จัดท้าโครงการประมวลผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนทุกกลุ่มสาระ ตาม นโยบายเร่งด่วนของกรุงเทพมหานคร ให้ทุกฝ่ายมีส่วนร่วมรับผิดชอบ จัดประชุมวางแผนเตรียมความพร้อม ประชาสัมพันธ์ให้ผู้เรียน ผู้ปกครอง และชุมชนทราบ ก้าหนดระยะเวลาด้าเนินการ ด้าเนินการตามแผน ประเมินผลโครงการและกิจกรรม จัดกิจกรรมต่างๆครอบคลุมทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ เช่น กิจกรรมรักการ อ่าน ผู้เรียนได้บันทึกหลังการอ่านทุกวัน กิจกรรมหน้าเสาธงน้าเสนอ คณิตคิดเร็ว ภาษาอาเซ่ียน ภาษาไทย- ภาษาอังกฤษวันละค้า กิจกรรมประกวดโครงงานทุกกลุ่มสาระ กิจกรรมแข่งขันทักษะภาษาไทย ทักษะ ภาษาจนี กจิ กรรมเลา่ ขา่ ว กิจกรรมวนั สนุ ทรภู่ กิจกรรมลูกบุญธรรม ครูคัดกรองผู้เรียนที่อ่านไม่ออก เขียนไม่ คล่อง ส่งต่อให้ครูพิเศษและครูประจ้าช้ันฝึกฝนทุกวัน มีการทดสอบการอ่านประจ้าเดือนต่อเน่ือง กิจกรรม มาร์ชช่ิงความดี สรา้ งนวัตกรรมเสียงเพลงสร้างความดี เส้นสีสร้างวินัย ส่งผลให้ผู้เรียนมีระเบียบวินัย มีสมาธิ สถานศึกษาวางแผนติวทกุ กลุ่มสาระ โดยมอบให้คณุ ครูประจ้าชัน้ วิเคราะหต์ วั ชี้วดั ทุกตัว จัดเวลาติวท่ีห้องเรียน ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 07.30 น.- 08.30 น. และวันเสาร์เต็มวัน โดยมีครูสายช้ันประถมศึกษาปีท่ี 6 มาคอย เตรียมพรอ้ มและอา้ นวยความสะดวก ผลการพัฒนาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปีการศึกษา 2559 - 2561 ส่งผลให้ สถานศึกษามผี ลสมั ฤทธ์ิทางการเรียนเฉลี่ยสงู ข้ึนท้ัง 3 ดา้ น ได้แก่ ความสามารถด้านภาษา ความสามารถด้าน ค้านวน และความสามารถดา้ นเหตผุ ล สว่ นผลการทดสอบระดับชาติ(O-NET) ย้อนหลัง 3 ปี ตั้งแต่ปีการศึกษา 2559 – 2561 ในภาพรวมปีการศกึ ษา 2561 มพี ฒั นาการสูงขึ้นกว่าสองปีก่อน โดยมีกลุ่มสาระภาษาไทย ได้ 60.59 % กลุ่มสาระวิทยาศาสตร์ ได้ 42.97 % กลุ่มสาระคณิตศาสตร์ ได้ 42.51 % และกลุ่มสาระ ภาษาองั กฤษ ได้ 45.59 % ผลประเมนิ โครงการประมวลผลสมั ฤทธิท์ างการเรียนทกุ กลุ่มสาระ ด้านปริมาณ พบว่า ผู้เกี่ยวข้องทุก ฝา่ ยมคี วามพึงพอใจ รอ้ ยละ 89.48 ดา้ นคุณภาพ พบวา่ ครูผู้สอนมคี วามกระตอื รือรน้ มากขน้ึ ผู้เรียนมีความรู้ เพม่ิ ขึ้น มรี ะเบยี บวินยั มีสมาธมิ ากขึน้ และสถานศกึ ษาเปน็ องค์กรแหง่ ความสุข ๖
สรปุ ผลการประเมินความโดดเดน่ โรงเรียนเคหะชุมชนลาดกระบัง ได้เสนอแนวทางการพิจารณาการประเมินความโดดเด่นเฉพาะทาง (Challenging Standards) ตามโครงการโรงเรียนดีมาตรฐานสากล (ความสะอาด ความเป็นระเบียบ ความ สุภาพ ความตรงต่อเวลา การมีสมาธิ) โดยนักเรียนท้ังหมดของโรงเรียนได้เข้าร่วมโครงการดังกล่าว จากการ ประเมิน พบว่าสถานศึกษาสามารถดาเนินการให้บรรลุผลลัพธ์ท่ีต้องการและเป็นต้นแบบ มีความโดดเด่น ไดร้ ับการยอมรบั ระดับชาติ (National Recognition) ระดับคณุ ภาพ C๒ โรงเรียนเคหะชุมชนลาดกระบัง เป็นโรงเรียนตั้งอยู่ในชุมชนร่มกล้า ประชาชนท่ีอาศัยอยู่ในโครงการ เคหะรม่ กล้าส่วนใหญเ่ ป็นประชาชนทยี่ ้ายมาจากชุมชนแออัด ในกรงุ เทพมหานครและย้ายถิ่นฐานมาจากพ้ืนที่ ตา่ งๆ สภาพสงั คมมีการเติบโตอย่างรวดเรว็ ชุมชนมีความหลากหลายทางวัฒนธรรมและรูปแบบการด้ารงชีวิต ส่งผลให้เกิดปัญหามากมายในชุมชน เช่น ปัญหาเร่ืองการไร้เบียบวินัย ปัญหาการทะเลาะวิวาท ปัญหาเรื่อง คุณภาพชีวิต และความเป็นอยู่ ท่ีส้าคัญคือปัญหาเกี่ยวกับยาเสพติด ซึ่งปัญหาดังกล่าวล้วนมีผลกระทบต่อ นักเรียนของโรงเรียนเคหะชุมชนลาดกระบัง เน่ืองจากนักเรียนเป็นผู้ท่ีอาศัยอยู่ในครอบครัวชุมชน และ สภาพแวดล้อมที่อาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับปัญหาดังกล่าว ซ่ึงอาจจะส่งผลให้นักเรียนมีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม และกระทบถึงการเรียน ในที่สุดโรงเรียนเคหะชุมชนลาดกระบัง จึงได้เข้าร่วมโครงการโรงเรียนความดี มาตรฐานสากล (Goodness International Standard School : GIS - School) ของมูลนิธิครูดีของแผ่นดิน โดยคาดหวังว่าจะสามารถเปลีย่ นแปลงพฤติกรรมของนกั เรยี นไปในทางที่ดขี ึน้ วตั ถปุ ระสงค์ ของวิธีการหรือแนวทางปฏิบัติท่ีเป็นเลิศ ดังนี้ ๑) เพ่ือใช้เป็นข้อถือปฏิบัติของบุคลากร และนักเรียนโรงเรียนเคหะชุมชนลาดกระบัง ๒) เพ่ือพัฒนาบุคลากรและนักเรียนโรเรียนเคหะชุมชน ลาดกระบัง เป็นผู้ที่มีคุณลักษณะตามความดีสากล ๕ ประการ และ ๓) บุคลากรและนักเรียนปฏิบัติจนเป็น ปกตินสิ ยั และเปน็ วฒั นธรรมองค์กร กาด้าเนนิ กิจกรรมพฒั นา ๑) ระบบพฒั นาความสะอาด ระบบพฒั นาความมีระเบียบ ในด้านสถานท่ีมี โครงการพฒั นาส่ิงแวดล้อมในการท้างานซึ่งเป็นนโยบายของผบู้ ริหารกรุงเทพมานคร และนโยบายพัฒนาด้าน การศกึ ษาของผู้บริหารโรงเรียน ที่จะท้าให้โรงเรียนมีบรรยากาศอบอุ่นเหมือนบ้านสมบูรณ์ ด้วยแหล่งเรียนรู้ สสี ันโรงเรียนสดใส โดยกา้ หนดมาตรการและแนวทางปฏิบตั ทิ ่ีชัดเจน ๒) ระบบพัฒนาความมีระเบียบ ก้าหนด กิจกรรมพัฒนาความดีสากล ลงสู่ตัวผู้เรียนท้ังสถานศึกษาประกอบด้วยการปฏิบัติกิจกรรมหน้าเสาธงการน้า หลกั ความดีสากล สอดแทรกในแผนการจัดการเรียนรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ การมีมาตรการให้นักเรียนฝึก ปฏิบัติในการเดินแถวตามข้อตกลงของโรงเรียน เพ่ือให้เกิดความเคยชินจนกลายเป็นกิจวัตรประจ้าวัน ๓) ระบบพัฒนาความสภุ าพ นุ่มนวล โรงเรียนไดก้ า้ หนดปรัชญาไวว้ า่ \"คุณธรรมทา้ ใหค้ นมีความอ่อนน้อมถ่อมตน\" มรี ะบบฝึกความสภุ าพ โดยแต่ละห้องเรียนมขี อ้ ตกลงของนักเรยี นรว่ มกนั มกี ารปลกู ฝังพฤติกรรมท่ีดีท่ีสร้างข้ึน จากบุคคลในองค์กร ๔) ระบบพัฒนาการตรงต่อเวลา โดยได้ก้าหนดเวลาปฏิบัติหน้าที่ของบุคลากร การมา เรียนของนักเรยี นทช่ี ดั เจนโดยค้านึงถงึ ประโยชน์สูงสุดท่ีสอดคล้องกับวิถีชีวิตของชุมชน และ ๕) ระบบพัฒนา จติ ใจใหผ้ อ่ งใส โครงการโรงเรียนวิถีพุทธวิถธี รรม โดยฝกึ ปฏิบัติสมาธิทุกวันในตอนเช้า กลางวันและก่อนเรียน ในแต่ละวชิ าเพอ่ื ให้มสี ติสมาธิ มีความมงุ่ มนั่ ในการเรยี นรู้ รางวัลที่ได้รับ ได้รับรางวัลชนะเลิศเหรียญทองถ้วยพระราชทานสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาสยาม บรมราชกุมารี การประกวดมาร์ชช่ิงความดีปีที่ ๓ ระดับชาติ ประเภทประถมศึกษาเม่ือวันที่ ๒๐ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๙ ณ ไอส์แลนฮอลล์ ศูนย์การค้าแฟช่ันไอส์แลนด์ กรุงเทพมหานคร และรางวัลระดับชาติโรงเรียนดี มาตรฐานสากล ประเภทประถมศึกษา – ขยายโอกาส รางวัลชนะเลิศ คะแนน GIS-SA โดยมูลนิธิครูดีของ ๗
แผ่นดินมอบโดย พลอากาศเอกประจนิ จ่ันตอง รองนายกรัฐมนตรี เม่ือวนั ที ๒๔ กนั ยายน พ.ศ.๒๕๖๑ ณ ห้อง ประชมุ บุณยเกตอุ าคารหอประชมุ ครุ ุสภา กรุงเทพมหานคร ตอนที่ ๑ ข้อมลู ทั่วไปของสถานศกึ ษา ๑. โรงเรียน เคหะชมุ ชนลาดกระบัง ตั้งอยูเ่ ลขที่ 143 หมทู่ ี่ - ถนนเคหะร่มเกล้า 42 แขวง คลองสองต้นนนุ่ เขต ลาดกระบงั กรงุ เทพมหานคร รหสั ไปรษณยี ์ 10520 หมายเลขโทรศัพท์ 02 5439568 หมายเลขโทรสาร - E-mail [email protected] Website http://www.kbls.ac.th ๒. สงั กดั สา้ นกั การศึกษา กรุงเทพมหานคร ๓. สรุปข้อมลู สาคญั ของสถานศึกษา ๓.๑ จัดช้ันเรียนตงั้ แต่ชัน้ ปฐมวัย ถงึ ชนั้ ประถมศึกษาปีท่ี ๖ ๓.๒ จานวนผเู้ รยี น จาแนกตามระดับช้ัน ดงั น้ี ระดับชน้ั ทเ่ี ปดิ สอน จานวน จานวน จานวน รวม ห้องเรียน ผู้เรยี นปกติ (คน) ผู้เรยี น อนบุ าล ๑ รวม ที่มีความต้องการ 140 อนุบาล ๒ 4 ชาย หญงิ พเิ ศษ (คน) 110 รวม 4 ชาย หญิง 250 ประถมศึกษาปีท่ี ๑ รวมท้ังส้นิ 8 81 59 -- 330 ประถมศกึ ษาปีที่ ๒ 9 50 60 -- 337 ประถมศกึ ษาปีที่ ๓ 9 131 119 351 ประถมศกึ ษาปที ่ี ๔ 9 176 161 -- 338 ประถมศึกษาปที ี่ ๕ 9 182 147 314 ประถมศกึ ษาปีท่ี ๖ 9 180 164 21 294 9 165 167 1974 54 149 158 71 2224 62 159 129 1011 926 52 1142 1045 51 61 51 30 7 30 7 ๓.๓ ขอ้ มลู บุคลากร (ไมน่ ับซา้ ) : ผูบ้ รหิ ารสถานศึกษา จานวน 5 คน : ครู/ผ้ดู แู ลเด็ก การศึกษาปฐมวยั จานวน ๑๖ คน : ครูประถมศกึ ษา จานวน ๑๑๓ คน : บุคลากรสายสนับสนุน จานวน ๑๑ คน สรุปอตั ราส่วน การศึกษาปฐมวัย : อัตราส่วนของจานวนเดก็ : ครู เท่ากับ 17 : 1 ๘
: อัตราส่วนของจานวนเด็ก : ห้อง เท่ากับ 31 : 1 : มีจานวนคร/ู ผูด้ ูแลเด็ก ครบชน้ั ครบชนั้ ไมค่ รบชั้น ในระดบั ชนั้ ......................... : ภาระงานสอนของคร/ู ผูด้ แู ลเด็ก โดยเฉล่ยี ชวั่ โมง : สัปดาห์ เทา่ กับ ๒๐ : สัปดาห์ ระดับการศกึ ษาข้ันพนื้ ฐาน ระดับประถมศกึ ษา : อตั ราส่วนของจานวนผ้เู รียน : ครู เทา่ กบั 24 : 1 : อตั ราสว่ นของจานวนผเู้ รยี น : ห้อง เท่ากับ 37 : 1 : มจี านวนครู ครบชัน้ ครบช้นั ไม่ครบชน้ั ในระดบั ชัน้ ......................... : ภาระงานสอนของครู โดยเฉลย่ี ชว่ั โมง : สัปดาห์ เท่ากบั ๒๐ : สัปดาห์ *หมายเหตุ การนับจานวนจานวนครหู รือผดู้ แู ลเดก็ ให้นับเฉพาะผู้ทีท่ าสญั ญาต้งั แต่ ๙ เดือนข้ึนไปเท่าน้ัน ตอนที่ ๒ ผลการประเมินคณุ ภาพภายนอก ๒.๑ การศกึ ษาปฐมวัย ด้านที่ ๑ คณุ ภาพของเด็ก หรอื ด้านอ่นื ตามช่ือทีส่ ถานศกึ ษากาหนด ผลการดาเนนิ งาน สถานศึกษาด้าเนินการพัฒนาเด็กอย่างเป็นระบบ และเหมาะสมกับวัยของเด็ก โดยมีการจัดท้า โครงการเพื่อพัฒนาเด็กทัง้ สิ้น ๑๓ โครงการในแผนปฏิบัติการประจ้าปี สอดแทรกไปกับการจัดประสบการณ์ ประจ้าวนั ท้ัง ๖ กิจกรรม ตามหลกั การจัดการศึกษาปฐมวัย และในเวลาว่างในแต่ละวัน รวมถึงประสานความ รว่ มมือกับผู้ปกครองและหนว่ ยงานต่างๆ เช่น โครงการพัฒนาทักษะการคิดปฐมวัย กิจกรรมเกมคณิตศาสตร์ กิจกรรม Home Room( เล่าข่าว อ่านนิทาน ซ่อมเสริม ผลัดกันไปในแต่ละวัน) กิจกรรมศิลปะสร้างสรรค์ ศิลปะประดิษฐ์ โครงการพัฒนาทักษะการพูดและการเขียนปฐมวัย ฝึกการพูดหน้าเสาธงหลังเคารพธงชาติ พดู หนา้ ช้ัน โครงการหนนู อ้ ยยอดนักอ่าน ให้เด็กอ่านหนังสอื ทโ่ี รงเรยี นในเวลาว่าง (ตอนเช้าก่อนเข้าเรียน และ ในกจิ กรรมเสรี ) โครงการหมากล้อม ให้เด็กที่สนใจได้เล่นก่อนนอนตอนกลางวัน โครงการตายายสอนหลาน ให้เดก็ นานิทานกลับไปบา้ นเพ่ือใหผ้ ูป้ กครอง หรือ ตา ยาย อ่านให้ฟังที่บ้าน โครงการคุณธรรม จริยธรรมเด็ก ปฐมวัย จัดกิจกรรมวิถีพุทธตามที่โรงเรียนกาหนด (ความดี ๕ ประการ ได้แก่ สะอาด วินัย สุภาพ ตรงเวลา และสมาธิ) ร่วมกิจกรรมในวันสาคัญทางพระพุทธศาสนา เช่น แห่เทียนเข้าพรรษา วันวิสาขบูชา โครงการ ส่งเสรมิ สุขนิสัย สุขภาพกาย และสุขภาพจิตที่ดี มีการชั่งน้าหนัก วัดส่วนสูงให้เด็กภาคเรียนละ ๓ คร้ัง ตรวจ สขุ ภาพเด็กทุกเช้า สง่ เสรมิ การมีสขุ นิสัยทีด่ ี เช่น ลา้ งมือหลงั ทากิจกรรมสร้างสรรค์ ล้างมือหลังเข้าห้องน้า ล้าง มือหลังทากิจกรรมกลางแจ้ง และก่อนรับประทานอาหาร แปรงฟันหลังรับประทานอาหาร ล้างหน้าเม่ือต่ืน นอน และมีเจ้าหน้าที่สาธารณสุข ๔๕ มาตรวจสุขภาพร่างกาย อนามัยช่องปากและฟัน หยอดวัคซีน อย่าง น้อยภาคเรียนละ ๑ คร้ัง และการจัดประสบการณ์การเรียนรู้แก่เด็กนั้น ครูมีการจัดประสบการณ์ให้แก่เด็ก อยา่ งหลากหลาย เช่น การจดั ประสบการณ์การเรียนร้ตู ามแนวทางของโครงการบ้านนักวิทยาศาสตร์น้อยแห่ง ประเทศไทย การจัดประสบการณ์ตามแนวทางไฮสโคป การพัฒนาทักษะการคิดเชิงบริหาร EF (Executive Function) และครมู กี ารประเมนิ ผลการพัฒนาเด็กอย่างต่อเนื่องและสม้่าเสมอทั้ง ๔ ด้าน ได้แก่ ด้านร่างกาย ด้านอารณ์-จติ ใจ ด้านสงั คม และด้านสติปัญญา โดยมกี ารประเมนิ พัฒนาการเด็กและสรุปลงในบันทึกหลังการ จัดประสบการณต์ ามหนว่ ยการเรียนร้ทู กุ สัปดาหแ์ ละน้าผลการประเมินไปลงในสมุดบันทึกพัฒนาการเด็กภาค เรียนละ ๓ คร้ัง และน้าผลการประเมินโครงการในแผนปฏิบัติการประจ้าปี มาร่วมในการพัฒนาเด็กด้วย ๙
รวมถงึ ครูมกี ารจัดทา้ วิจัยในชัน้ เรียนเพ่ือพัฒนาเด็กให้มีพัฒนาการอย่างเหมาะสมตามศักยภาพของเด็กแต่ละ คน จากการดา้ เนินการอย่างเหมาะสมอย่างเป็นระบบ และต่อเนื่องส่งผลให้เกิดประสิทธิผลในการพัฒนาเด็ก ทา้ ให้เดก็ มคี ณุ ภาพในระดับดีมาก สรปุ การประเมินดา้ นท่ี ๑ คณุ ภาพของเด็ก มีระดับคณุ ภาพดมี าก จุดเดน่ ๑. เด็กมสี ขุ ภาพกายและสุขภาพจิตท่ีดี มรี ่างกายที่สมบรู ณ์ แขง็ แรง ตามเกณฑ์มาตรฐาน มีความร่าเริง แจ่มใสสมวัย มีมนุษยสัมพันธ์ท่ีดีต่อเพื่อน ครูและบุคคลทั่วไป โดยเด็กได้รับการพัฒนาทางด้านร่างกายจาก โครงการอิ่มท้อง สมองดี ท่ีเด็กจะได้รับประทานอาหารเช้า อาหารกลางวัน อาหารเสริม(นม) และขนมหรือ ผลไม้ทสี่ ถานศึกษาจดั บรกิ ารให้ และโครงการส่งเสรมิ สขุ นสิ ยั สุขภาพกาย และสุขภาพจิตท่ีดี โดยเด็กจะได้รับ การชั่งน้าหนัก วัดส่วนสูง เพื่อติดตามพัฒนาการภาคเรียนละ ๓ คร้ัง และได้รับการตรวจสุขภาพร่างกาย อนามยั ชอ่ งปากและฟัน หยอดวัคซนี จากเจ้าหนา้ ทส่ี าธารณสุข ๔๕ อย่างน้อยภาคเรียนละ ๑ คร้ัง ทาให้เด็กมี พฒั นาการสมวัย เปน็ ไปตามอัตลักษณ์ของโรงเรียนท่ีว่า “สขุ ภาพดี” ๒. เด็กมีวินัย มีความรับผิดชอบ สามารถปฏิบัติตนตามข้อตกลงของห้องเรียนและของสถานศึกษาได้ โดยสถานศึกษาจัดทาโครงการ มาร์ชชิ่งความดี ท่ีเน้นในเร่ืองความดีสากล ๕ ประการ คือ สะอาด ระเบียบ สุภาพ ตรงเวลา และสมาธิ ซึ่งครูได้นาหลัก ๕ ประการน้ีสอดแทรกไปกับการจัดประสบการณ์ตามหลักการ จัดการปฐมวัยท้ัง ๖ กิจกรรม พร้อมด้วยโครงการคุณธรรม จริยธรรมเด็กปฐมวัย จัดกิจกรรมวิถีพุทธตามท่ี สถานศกึ ษากาหนด เช่น สวดมนต์ไหว้พระหลังเคารพธงชาติ นงั่ สมาธิ กจิ กรรมในวนั สาคัญทางพุทธศาสนา ซ่ึง สถานศึกษากาหนด “โรงเรยี นวถิ พี ุทธ” เป็นเอกลักษณ์ของสถานศึกษา ๓ .เด็กมีพัฒนาการด้านสติปัญญาสมวัย โดยเด็กได้รับการพัฒนาอย่างหลากหลาย นอกเหนือจาก กจิ กรรมหลักท้งั ๖ กจิ กรรม โดยการบูรณาการผ่านโครงการกิจกรรมพัฒนาทักษะการคิดปฐมวัย ส่งเสริมให้ เด็กสรา้ งผลงานศิลปะสร้างสรรค์และศิลปะประดษิ ฐ์ โครงการตายายสอนหลาน โดยพัฒนาเด็กด้วยการให้เด็ก นานิทานกลับบ้านไปให้ผู้ปกครองหรือคุณตา คุณยายเล่าให้ฟังที่บ้าน โครงการบ้านนักวิทยาศาสตร์น้อย จัด กิจกรรมให้เด็กได้เรียนรู้ตามโครงการบ้านนักวิทยาศาสตร์น้อยแห่งประเทศไทย ๒๐ กิจกรรม นอกจากน้ียัง ส่งเสริมเด็กที่มีความสนใจในการเล่นหมากล้อมให้ได้เล่นก่อนนอน ทาให้เด็กได้พัฒนาทักษะการคิดอย่าง หลากหลาย จนสามารถไปแข่งขนั ไดร้ ับถ้วยรางวลั ชนะเลิศ ประเภททีมผสมและถ้วยรางวัลรองชนะเลิศอันดับ ๒ ประเภททีมชายในการแข่งขันหมากล้อมอนุบาลโรงเรียนไทยนิยมสงเคราะห์ และถ้วยรางวัลชนะเลิศ ประเภทชายเดยี ว ในการแขง่ ขัน BMA ณ โรงเรยี นเคหะชมุ ชนลาดกระบัง จุดที่ควรพัฒนาและขอ้ เสนอแนะ ไม่มี ขอ้ เสนอแนะเพื่อการพัฒนาสนู่ วัตกรรม (Innovation) หรอื แบบอย่างทีด่ ี โรงเรียนเคหะชุมชนลาดกระบังมีครูที่มีความรู้ ความสามารถในการจัดประสบการณ์การเรียนรู้เพื่อ พัฒนาเดก็ ได้อย่างหลากหลาย รวมถึงการจัดทาส่ือเพื่อการพัฒนาการจัดประสบการณ์การเรียนรู้เพ่ือพัฒนา เด็กได้เป็นอย่างดี ส่งผลให้เด็กมีพัฒนาการครบถ้วนท้ังด้านร่างกาย อารมณ์-จิตใจ สังคม และสติปัญญาใน ระดับดีมาก และมีการจัดทาโครงการกิจกรรมพัฒนาทักษะการคิดปฐมวัย ส่งเสริมให้เด็กสร้างผลงานศิลปะ สรา้ งสรรค์และศิลปะประดิษฐ์ และโครงการตายายสอนหลาน ให้เด็กนานิทานกลับบ้านไปให้ผู้ปกครองหรือ ๑๐
คุณตา คุณยายเล่าให้ฟังที่บ้าน จึงควรส่งเสริมและพัฒนาเด็กให้สู่ความเป็นเลิศ โดยการเสริมกิจกรรมให้ หลากหลายยง่ิ ขึ้น เช่น เกมคณิตศาสตร์ เกมพยัญชนะ และการสร้างนิทานท่ีส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์และ จนิ ตนาการของเด็ก โดยครแู ละเด็กรว่ มกันแตง่ นิทานจากความคิดเด็ก ครูร่วมกับเด็กระบายสีภาพ จัดทาเป็น รปู เล่ม ส่งเสรมิ ให้เดก็ กล้าแสดงออกในการออกมาเล่านิทานประกอบส่ือที่เด็กแต่งขึ้นเอง แล้วเผยแพร่ผลงาน ของเด็กผ่านแผ่นพับประชาสัมพันธ์ หรือเว็ปไซด์ของโรงเรียน เพ่ือการยอมรับและเป็นที่ศึกษาดูงานของ สถานศึกษาอน่ื ดา้ นท่ี ๒ กระบวนการบรหิ ารและการจัดการ หรอื ดา้ นอ่นื ตามชอ่ื ท่สี ถานศกึ ษากาหนด ผลการดาเนินงาน มีหลักสูตรคลอบคลุมพัฒนาการท้ัง ๔ ด้าน โรงเรียนมีหลักสูตรที่สอดคล้องกับหลักสูตรการศึกษา ปฐมวยั พุทธศกั ราช ๒๕๖๐ โดยออกแบบการจัดประสบการณ์ที่เตรียมความพร้อมและไม่เร่งรัดวิชาการ เน้น การเรียนรู้ผ่านการเล่นและลงมือปฏิบัติ ตามแนวการสอนไฮสโคป (High scope) โดยใช้หลักปฏิบัติ ๓ ประการ คือ การวางแผน การปฏิบัติและการทบทวน ผสมผสานการเรียนรู้แบบบูรณาการ สอดแทรกการ ทดลอง การทาโครงงานวัฏจกั รการสืบเสาะตามแนวบ้านวิทยาศาสตร์น้อย หลักความดีสากล และการปฏิบัติ ตนตามแนววถิ พี ทุ ธลงในแผนการจัดการเรียนรู้ ตอบสนองความต้องการและความแตกต่างของเด็กปกติและ กลุ่มเปา้ หมายเฉพาะและสอดคล้องกับวิถีชีวิต ครอบครัว ชุมชน จัดครูให้เพียงพอกับชั้นเรียน โรงเรียนเคหะ ชุมชนลาดกระบังมีสายช้ันอนบุ าล ๘ ห้องเรียน ครูประจาช้ันจบปริญญาตรีการศึกษาปฐมวัย และปริญญาโท บริหารการศึกษาจานวน ๓ คน จบปริญญาตรีการศึกษาปฐมวัยและกาลังศึกษาปริญญาโทบริหารการศึกษา จานวน ๑ คน จบปริญญาตรีการศึกษาปฐมวัยจานวน ๔ คน รวม ๘ คน และในจานวนนี้เป็นครูชานาญการ พิเศษทาผลงานเกย่ี วกบั เดก็ ปฐมวัยจานวน ๓ คน มีพ่ีเลี้ยงเด็กจานวน ๘ คน จบปริญญาตรีการศึกษาปฐมวัย จานวน ๒ คน รวมบุคลากรระดับการศกึ ษาปฐมวัยทง้ั สนิ้ จานวน ๑๖ คน ส่งเสรมิ ใหค้ รูมีความชานาญด้านการ จดั ประสบการณ์ โรงเรยี นสง่ เสรมิ ใหค้ รูเขา้ รบั การอบรม เป็นแกนนาการจัดทาหลกั สูตรปฐมวัย จัดทาหลักสูตร สถานศึกษาโดยวิเคราะหห์ ลกั สตู รจากหลกั สูตรปฐมวัยพทุ ธศักราช ๒๕๖๐ สง่ เสริมให้ครูจัดการอบรมขยายผล การจดั ทาหลกั สูตรสถานศกึ ษา การจัดทาแผนการเรยี นรู้และการประเมินผลให้กับครูอนุบาลโรงเรียนในสังกัด สานกั งานเขตลาดกระบัง กรุงเทพมหานคร และเชิญศึกษานิเทศก์สังกัดสานักการศึกษา กรุงเทพมหานคร มา ให้ความรู้ นอกจากนยี้ งั ส่งเสริมให้ครูเข้ารับการอบรมโครงการบ้านวิทยาศาสตร์น้อย การพัฒนาทักษะสมอง สว่ นหนา้ (EF) การเรียนรู้แบบ STEM เพ่ือให้ครูได้นาการเรียนรู้มาขยายผลให้กับเพื่อนครูอนุบาลในโรงเรียน และนาไปจดั ประสบการณเ์ พื่อใหเ้ ด็กมีพัฒนาการทางด้านร่างกาย อารมณ์ จิตใจ สังคม และสติปัญญาได้ดีข้ึน จัดสภาพแวดล้อมและสอ่ื เพื่อการเรียนรู้ อย่างปลอดภัย และพอเพียง โรงเรียนจัดสภาพแวดล้อมภายในและ ภายนอกห้องเรียนท่ีคานึงถึงความปลอดภัย ส่งเสริมการเรียนรู้เด็กเป็นรายบุคคลและรายกลุ่ม มีมุมการจัด ประสบการณ์และสื่อท่ีหลากหลาย มีสนามเด็กเล่น ห้องสมุดของเล่น (ส่ือมอนเตสเซอร่ี , สื่อเทคโนโลยี) ห้องเรยี นคอมพิวเตอร์ ฯลฯ เพ่อื ส่งเสรมิ พัฒนาการทัง้ ๔ ดา้ นของเด็ก ให้บริการส่ือเทคโนโลยีสารสนเทศและ ส่อื การเรียนรู้เพ่ือสนับสนุนการจัดประสบการณ์ โรงเรียนได้อานวยความสะดวก โดยมีห้องสื่อ วัสดุ อุปกรณ์ ห้องคอมพิวเตอร์เพอ่ื สนับสนุนการจัดประสบการณ์ของครู มีระบบบริหารคุณภาพที่เปิดโอกาสให้ผู้เกี่ยวข้อง ทุกฝ่ายมีส่วนร่วม โรงเรียนได้กาหนดมาตรฐานสถานศึกษาสอดคล้องกับมาตรฐานการศึกษาปฐมวัยและอัต ลักษณ์ท่ีสถานศึกษากาหนด จัดทาแผนพัฒนาสถานศึกษาและจัดทา SAR เพื่อประเมินผลและตรวจสอบ คุณภาพภายในสถานศกึ ษาและนาผลการประเมนิ มาปรับปรงุ พัฒนาคณุ ภาพสถานศึกษา โดยมีคณะกรรมการ พน้ื ฐานการศกึ ษา คณะกรรมการเครือข่ายผปู้ กครองมีสว่ นร่วมและรายงานผลให้กบั สานักการศึกษา ๑๑
สรุปการประเมินดา้ นท่ี ๒ กระบวนการบรหิ ารและการจัดการ มรี ะดบั คณุ ภาพดีมาก จุดเดน่ ๑. ความเป็นระบบของการบริหารจัดการ ผู้บริหารได้น้ากระบวนการด้าเนินงานมาใช้ในการพัฒนา โรงเรียนอย่างเป็นระบบ ส่งผลต่อประสิทธิภาพอย่างย่ังยืน โดยผู้บริหารจัดวางโครงสร้างระบบงานสายงาน บังคบั บัญชา (Chin of Command) จัดให้มีการสรา้ งงาน (Team Building) การทา้ งานเป็นทีม (Teamwork) การบริหารงานแบบมีส่วนร่วม (Participative Management) การบริหารงานโดยใช้โรงเรียนเป็นฐาน (School Base Management = SBM) การบริหารโดยคณะกรรมการ ก่อนด้าเนินงานท้าการวิเคราะห์ SWOT Analysis เพ่ือหาจุดแข็ง (S) จุดอ่อน (W) โอกาส (O) และอุปสรรค์ (T) ในการน้าไปสู่การแก้ปัญหา เพ่ือจัดการทา้ โครงการปรับปรุงและ พัฒนา โดยใช้ระบบวงจรคุณภาพ (Deming Cycle) มาใช้เป็นเคร่ืองมือ ปรับปรุงกระบวนการท้างาน คือ ๑) การวางแผนงาน (Plan = P) ๒) ท้าตามแผนงาน (Do = D) ๓) การ ตรวจสอบการท้างาน (Check = C) ๔) การแก้ไขปรับปรุง (Act = A) ส่งผลให้การปฎิบัติงานตามนโยบาย และแผนงานทั้ง ๔ คอื ๑) งานวิชาการ ๒) งานธุรรการและการเงนิ ๓) งานบุคลากร และ ๔) งานบริหารทั่วไป เปน็ ระบบสามารถตรวจสอบได้ทกุ ขั้นตอน มีการกา้ หนดเป้าหมาย การด้าเนินงานที่ชัดเจน การก้ากับ ติดตาม ตรวจสอบและปรับปรุงแก้ไขอยา่ งตอ่ เนอ่ื ง ตามแผนพัฒนาคุณภาพการศกึ ษาของโรงเรียน ๒. ภาวะผนู้ ้าในการบริหารโรงเรยี น จากการสงั เกต สัมภาษณ์ ศกึ ษาขอ้ มูลเอกสารและตรวจสอบจาก สถานที่จริง พบว่าการบริหารของผู้บริหาร ได้ใช้แนวคิดทฤษฎีในการบริหารงานหลายรูปแบบด้วยกัน แต่ รูปแบบการบริหารงานที่ชัดเจนคือ การบริหารงานตามทฤษฎีภาวะผู้น้าตามสถานการ ณ์ (Situation leadership theory) ของ Hersey & Blanchard โดยศึกษาถงึ พฤตกิ รรมสองดา้ น คอื พฤติกรรมมุ่งงาน (task behavior) และพฤตกิ รรมมงุ่ สัมพนั ธ์ (relationship behavior) พฤติกรรมใดจะมีความพรอ้ มระดับใด จึงแบ่ง ภาวะผูน้ ้าออกเปน็ ๔ รูปแบบด้วยกันคือ ๑) แบบการบอก (telling) ๒) แบบขายความคิด (selling) ๓) แบบ การมีส่วนร่วม (participation) และ ๔) แบบมอบอ้านาจ (delegating) ผู้บริหารจึงเข้าใจข้าราชการครูและ บุคลากรทางการศึกษา ตลอดจนผู้มีส่วนเก่ียวข้องได้ถูกต้อง การส่ือสารและการสั่งการต่างๆจึงเป็นไปด้วย ความเรยี บรอ้ ย ผ้รู ว่ มงานให้ความศรัทธา เชื่อถอื ต่อการบรหิ ารงาน ของผู้บรหิ ารสง่ ผลตอ่ การสร้างบรรยากาศ ขององค์กร (Organizational Climate) ในเชิงบวก ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาของโรงเรียนให้ การสนบั สนนุ และปฎบิ ตั ิงานให้กบั โรงเรยี นเตม็ ความรูค้ วามสามารถ เต็มเวลา เต็มหลักสูตร และเต็มใจ ส่งผล ใหโ้ รงเรยี นเกดิ การเปลีย่ นแปลงไปในทางทดี่ ีอย่างต่อเนือ่ งตลอดมา ๓. ประสิทธิผลของกระบวนการบริหารและจัดการปฐมวัย โรงเรียนได้จัดท้าหลักสูตรครอบคลุม พฒั นาการท้งั ๔ ดา้ น คอื ด้านรา่ งการ ด้านอารมณ์จิตใจ ด้านสังคม และ ด้านสติปัญญา สอดคล้องกับบริบท ของทอ้ งถิ่น มกี ารจดั ครูให้เพียงพอกบั ช้นั เรยี น มสี ายชั้นอนบุ าล ๘ ห้องเรียน ครูจบการศึกษาระดับปริญญาตรี ขนึ้ ไป ๘ คน มพี เ่ี ล้ยี งเดก็ จา้ นวน ๘ คน สง่ เสริมใหค้ รูมีความเช่ยี วชาญในด้านการจัดประสบการณ์ เข้ารับการ อบรมด้านหลักสูตรสถานศึกษา จัดท้าแผนการเรียนรู้ และการประเมินผลส่งเสริมครูเข้าร่วมโครงการบ้าน วิทยาศาสตร์น้อย การพัฒนาทักษะสมองส่วนหน้า (EF) การเรียนรู้แบบ STEM โรงเรียนจัดโครงการส่งเสริม ศกั ยภาพการปฏิบัตงิ านของครู โครงการนเิ ทศการจัดการปฐมวยั กิจกรรม PLC จัดสภาพแวดล้อมและสื่อเพ่ือ การเรียนรู้ มีโครงการส่งเสริมบรรยากาศการเรียนรู้ที่มีความสุข โครงการพัฒนาสภาพแวดล้อมและแหล่ง เรียนรใู้ นโรงเรยี น จัดสภาพแวดล้อมและส่ือเพื่อการเรียนรู้อย่างปลอดภัยและเพียงพอ จัดสภาพแวดล้อมทั้ง ภายในและภายนอกหอ้ งเรียนโดยคา้ นงึ ถงึ ความปลอดภยั ส่งเสริมการเรียนรู้เด็กเป็นรายบุคคล รายกลุ่ม มีสื่อ หลากหลาย บริการสื่อเทคโนโลยีสารสนเทศ และส่ือการเรียนรู้เพ่ือสนับสนุนการจัดประสบการณ์ มีระบบ ๑๒
บรหิ ารคุณภาพท่เี ปิดโอกาสให้ผู้ที่เก่ียวข้องทุกฝากมีส่วนร่วม เช่น โครงการประชุมสัมมาเครือข่ายผู้ปกครอง และโครงการสารสมั พันธ์สถานศึกษาสูช่ มุ ชน จุดท่ีควรพฒั นา ไมม่ ี ขอ้ เสนอแนะ ไมม่ ี ข้อเสนอแนะเพื่อการพฒั นาสนู่ วัตกรรม หรอื แบบอย่างท่ดี ี (ถา้ ม)ี การบริหารงานของโรงเรียนเคหะชุมชนลาดกระบัง ส่งผลให้บุคลากรมีการพัฒนาความรู้ ความสามารถ กลา้ คิด กล้าท้า และกลา้ แสดงออก ส่งเสริมบคุ ลากรปฏบิ ัตงิ านด้วยความเต็มใจ ผลงานจึงได้รับ การยอมรบั จากหนว่ ยงานอ่นื จนได้รับรางวัลท้ังในระดับท้องถ่ินและระดับชาติมากมาย ส้าหรับข้อเสนอแนะ เพื่อนา้ ไปสู่ นวตั กรรมในการบริหารงานมีดงั น้ี ๑. สถานศึกษาควรน้าเทคโนโลยีมาใช้ให้เป็นระบบ และใช้งานได้จริง เพื่อการบริหารงานท่ีคล่องตัว เช่น การจัดท้าเว็บไซต์(Website) เฟสบุ๊ค (Facebook) ของโรงเรียนให้ใช้งานได้อย่างมีคุณภาพและมีข้อมูล เป็นปัจจุบัน มีคณะท้างานด้านบริหาร (Administrator) เพื่อควบคุมและลงข้อมูลข่าวสารของโรงเรียน เพื่อ ประชาสมั พนั ธ์ ใหส้ งั คมรับรเู้ ป็นปัจจบุ นั ทกุ ภาระงานของโรงเรียน ๒. สถานศึกษาควรจดั ระบบเคร่ือข่ายอินเทอร์เน็ต (Internet) ความเร็วสูง ใช้งานได้จริง เพ่ือบริหาร จดั การทง้ั ๔ งาน ของโรงเรียน คอื ๑) งานวชิ าการ ๒) งานธุรรการและการเงนิ ๓) งานบุคลากร และ ๔) งาน บริหารทั่วไป เพราะโรงเรียนอยู่ในเขตชุมชนเมืองหลวง การใช้งานอินเทอร์เน็ตจะช่วยให้การบริหารจัดการ สะดวกรวดเรว็ และไม่ตอ้ งเสียเวลาในการเดินทาง เพราะระบบการจราจรที่ติดขัดของสังคมเมืองหลวง การใช้ งานอินเทอร์เน็ต บริหารไดท้ ง้ั ภายในโรงเรยี นและภายนอกโรงเรียน ครอบคลมุ ระบบการสือ่ สารในระบบสังคม (Social) ๓. สถานศึกษาควรจัดหาโปรแกรม หรอื สร้างโปรแกรมมาใช้งานในดา้ นการบริหารท้ัง ๔ งาน คือ ๑) งานวชิ าการ ๒) งานธรุ รการและการเงนิ ๓) งานบคุ ลากร และ ๔) งานบริหารทั่วไป เพ่ือความสะดวกรวดเร็ว ในการค้นคว้าและใช้งาน เช่น โปรแกรมข้อมูลนักเรียนเพ่ือลงทะเบียนนักเรียน ย้ายสถานศึกษา โปรแกรมควบคุมการบริหารจัดการสื่อ วัสดุและอุปกรณ์ โปรแกรมบริหารงานธุรการ โปรแกรมบริหารงาน การเงนิ ฯ เพราะทางโรงเรียนมีครูจบทางดา้ นคอมพวิ เตอร์ สามารถพฒั นาเพ่ือสรา้ งโปรแกรมได้ ดา้ นที่ ๓ การจัดประสบการณท์ ีเ่ นน้ เดก็ เป็นสาคัญ หรอื ดา้ นอน่ื ตามชื่อทสี่ ถานศึกษากาหนด ผลการดาเนินงาน สถานศึกษาดาเนินการพัฒนาครูให้มีความรู้ ความสามารถในการจัดประสบการณ์การเรียนรู้แก่เด็ก ตามหลักสูตรการศึกษาปฐมวัย พุทธศักราช ๒๕๖๐ โดยมีโครงการประชุม อบรมสัมมนา ข้าราชการครูและ บคุ ลากรทางการศกึ ษา ซง่ึ ครูทุกคนไดร้ ับการอบรม สมั มนา เพ่อื พฒั นาตนเองเกิน ๕๐ ชั่วโมงทุกคน เช่น การ อบรมเชิงปฏิบัติการหลักสูตร EF เร่ิมท่ีบ้านสานต่อท่ีโรงเรียน การอบรมหลักสูตรเปลี่ยนเรื่องเล่นให้เกิด จินตนาการที่ผสานองค์ความรู้แบบบูรณาการ อบรมโครงการบูรณาการสะเต็มศึกษา โรงเรียนสังกัด ๑๓
กรุงเทพมหานคร อบรมโครงการยกระดบั คุณภาพทางการศึกษาเพ่ือความเข้มแข็งทางวิชาการและวิชาชีพครู และบคุ ลากรทางการศกึ ษาท่สี อดคล้องกบั ทกั ษะในศตวรรษท่ี ๒๑ และยุคไทยแลนด์ ๔.๐ ฯลฯ และโครงการ นิเทศการจัดประสบการณ์ปฐมวัย ครูทุกคนจะได้รับการนิเทศการจัดประสบการณ์จาก รองผู้อานวยการ หัวหน้าสายช้ันอนุบาล และครนู เิ ทศกันเอง ภาคเรียนละ ๑ คร้งั ซึ่งทาใหค้ รูได้พัฒนาความรู้และพัฒนาการจัด ประสบการณ์การเรียนรู้เพื่อพัฒนาเด็กอยู่เสมอในกิจกรรมหลักทั้ง ๖ กิจกรรม ได้แก่ กิจกรรมกลางแจ้ง กจิ กรรมเคล่อื นไหวและจงั หวะ กจิ กรรมเสรมิ ประสบการณ์ กิจกรรมสรา้ งสรรค์ กจิ กรรมเสรี และกิจกรรมเกม การศกึ ษา และครูมกี ารจดั ทาวิจัยในชั้นเรียนเพ่ือพัฒนาเด็กท่ียังมีพัฒนาการบางด้านไม่เหมาะสมตามวัยให้มี พัฒนาการเตม็ ตามศักยภาพของเด็กแต่ละคน เช่น การแก้ปัญหาเด็กจาตัวเลขไมไ่ ด้และไมร่ ู้ค่าจานวนตัวเลข ๑ – ๑๐ ของนกั เรียนชนั้ อนบุ าล ๒ การพัฒนาทักษะการวาดภาพระบายสี ของนกั เรยี นชนั้ อนบุ าล ๑ รวมถึงการ จัดบรรยากาศในห้องเรียนให้เอื้อต่อการเรียนรู้แก่เด็ก และจัดทาส่ือต่างๆเพื่อพัฒนาการเรียนรู้ของเด็ก ตลอดจนมกี ารใชว้ ิธกี ารประเมนิ ผลพัฒนาการเด็กด้วยวิธกี ารที่หลากหลาย เหมาะสมกับจุดประสงค์การเรียนรู้ ของหลักสูตรและพัฒนาการของเด็ก ผลจากความมุ่งมั่นอุทิศตนในการพัฒนาตนเองเพื่อนาความรู้มาพัฒนา เดก็ อย่างตอ่ เนื่อง สง่ ผลใหค้ รูได้รบั รางวลั ต่างๆ เช่น รางวัลหนึ่งแสนครูดี จากคุรุสภา ครูดีเด่น จากสานักงาน เขตลาดกระบงั และได้รับเชิญเป็นวิทยากรนาความรู้ไปขยายต่อสู่สถานศึกษาอื่นๆด้วย ประสิทธิผลของครูจึง อยู่ในคณุ ภาพระดบั ดีมาก สรปุ การประเมินดา้ นท่ี ๓ การจัดประสบการณ์ท่ีเนน้ เดก็ เปน็ สาคญั มรี ะดบั คณุ ภาพดมี าก จดุ เด่น ๑. ครูมีวุฒิ มีความรู้ ความสามารถในการจัดประสบการณ์การเรียนรู้เพ่ือพัฒนาเด็กให้มีพัฒนาการ ครบถ้วนทง้ั ๔ ด้านได้เป็นอย่างดี และมีการจัดทาวิจัยในช้ันเรียนเพื่อพัฒนาเด็กที่ยังมีพัฒนาการบางด้านไม่ เหมาะสมตามวัยให้มีพัฒนาการเต็มตามศักยภาพของเด็กแต่ละคน เช่น การแก้ปัญหาเด็กจาตัวเลขไม่ได้และ ไมร่ คู้ ่าจานวนตัวเลข ๑ – ๑๐ ของนักเรียนชัน้ อนบุ าล ๒ การพัฒนาทักษะการวาดภาพระบายสี ของนักเรียน ชน้ั อนบุ าล ๑ ๒. ครูมีการจัดบรรยากาศช้ันเรียนให้เอื้อต่อการเรียนรู้ของเด็ก โดยจัดมุมประสบการณ์ต่างๆใน หอ้ งเรียนให้เด็กได้เรียนรู้อย่างหลากหลาย เช่น มุมหนงั สือ มุมบล็อก มุมเกมการศึกษา มุมบทบาทสมมุติ มุม วิทยาศาสตร์ ซึ่งแต่ละมุมมีส่ือการเรียนรู้และของเล่นเพ่ือส่งเสริมพัฒนาการเด็กได้เป็นอย่างดีและมีจานวน เพยี งพอแก่เดก็ ท้ังสอ่ื สาเรจ็ รูปและสอื่ ท่คี รูจดั ทาขนึ้ เองเพือ่ เสริมพฒั นาการเด็ก เช่น เกมการศึกษาท่ีเหมาะสม กับหน่วยการเรียนร้ทู ห่ี ลากหลาย เชน่ เกมจับคคู่ วามสัมพนั ธ์ เกมจับค่ภู าพเหมอื น เกมเรยี งลาดบั ๓. ครูมีการพัฒนาตนเองอยู่เสมอโดยได้รับการส่งเสริมผ่านโครงการประชุม อบรม สัมมนา ข้าราชการครแู ละบคุ ลากรทางการศึกษา ซงึ่ ครทู ุกคนไดร้ ับการพัฒนาตนเองในแต่ละปีการศึกษามากกว่า ๒๐ ชั่วโมง ผลการพัฒนาตนเองอยู่เสมอทาให้ครูได้รับเชิญเป็นวิทยากรให้ความรู้แก่สถานศึกษาอื่นๆ เช่น เป็น วิทยากรอบรม เรอ่ื ง การจดั ประสบการณก์ ารเรยี นรู้เพอ่ื พฒั นาทักษะเชิงบริหาร EF ( Executive Functions) บ้านนักวิทยาศาสตร์น้อย แก่โรงเรียนในสังกัดกรุงเทพมหานคร และเป็นวิทยากรของสถาบันแม๊คเอ็ดดูกา จากัด ในการอบรมหลกั สูตร การพัฒนาและการใชส้ ื่อกจิ กรรมสง่ เสริมกระบวนการคดิ ของเดก็ ปฐมวัย ๔. ครูมีความมุ่งมั่นอุทิศตนในการจัดประสบการณ์การเรียนรู้แก่เด็ก และพัฒนาส่ือและการจัด ประสบการณก์ ารเรยี รเู้ พือ่ พฒั นาเด็กอยเู่ สมอเพ่อื ให้เด็กมพี ฒั นาการตามวัยเต็มตามศักยภาพแห่งตน ส่งผลให้ ครู ๔ คน ได้รับรางวลั หนึ่งแสนครูดี จากคุรุสภา ครูดีเด่น จากสานักงานเขตลาดกระบัง ๑ คน ครูดีเด่น จาก ๑๔
โรงเรียนเครอื ข่ายท่ี ๓๘ สานกั งานเขตลาดกระบงั ๑ คน และครูแกนนาหลักสูตรปฐมวัย จากสานักการศึกษา กรุงเทพมหานคร จุดที่ควรพฒั นาและข้อเสนอแนะ ไมม่ ี ข้อเสนอแนะเพือ่ การพัฒนาสนู่ วัตกรรม (Innovation) หรอื แบบอย่างทีด่ ี ครมู คี วามรู้ ความสามารถในการจัดประสบการณเ์ พอื่ พัฒนาทกั ษะการคิดให้แกเ่ ด็กได้เปน็ อย่างดี ผ่าน โครงการกิจกรรมพฒั นาทกั ษะการคดิ ปฐมวัย ส่งเสริมให้เด็กสร้างผลงานศิลปะสร้างสรรค์และศิลปะประดิษฐ์ และ โครงการตายายสอนหลาน โดยพัฒนาเด็กด้วยการให้เด็กนานิทานกลับบ้านไปให้ผู้ปกครองหรือคุณตา คณุ ยายเลา่ ใหฟ้ ังทบ่ี ้าน จึงควรสง่ เสรมิ และพฒั นาใหเ้ ป็นแบบอยา่ งทีด่ ี ดว้ ยการจัดกิจกรรมเสริมให้หลากหลาย ยิง่ ขึน้ เชน่ เกมคณิตศาสตร์ เกมพยัญชนะ และการสร้างนิทานท่ีส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์และจินตนาการ ของเด็ก โดยครูและเด็กร่วมกันแต่งนิทานจากความคิดเด็ก และสถานศึกษามีครูศิลปะที่มีความรู้ ความสามารถเป็นอย่างมาก จึงควรขอความร่วมมือในการวาดภาพจากนิทานท่ีเด็กแต่ง แล้วครูร่วมกับเด็ก ระบายสภี าพ จัดทาเป็นรูปเล่ม นาไปเสริมตอ่ ในโครงการตายายสอนหลาน รวมถึงสถานศึกษาควรจัดทาเวทีให้ เด็กได้แสดงความสามารถในการเล่านิทาน พร้อมท้ังสนับสนุนสื่อ อุปกรณ์ต่างๆ ในการแสดง เผยแพร่สู่ สถานศึกษาอ่ืนๆผ่านเว็ปไซด์ของสถานศึกษา หรือ แผ่นพับประชาสัมพันธ์ เพ่ือให้สถานศึกษาอื่นๆมาศึกษา ดงู าน ๒.๒ ระดบั การศึกษาขนั้ พ้นื ฐาน ดา้ นที่ ๑ คณุ ภาพของผู้เรยี น หรอื ด้านอ่ืนตามชื่อท่สี ถานศึกษากาหนด ผลการดาเนินงาน สถานศึกษาร่วมกันกับทุกฝ่ายวางแผนพัฒนาผู้เรียนอย่างเป็นระบบ โดยจัดท้าแผนพัฒนาคุณภาพ การจัดการศึกษา ปี ๒๕๖๐ - ๒๕๖๒ แผนปฏิบัติราชการประจ้าปี ๒๕๖๐ - ๒๕๖๒ หลักสูตรสถานศึกษา รายงานผลการประเมินตนเอง รายงานผลการประเมินโครงการ ด้าเนินโครงการประมวลผลสัมฤทธ์ิทางการ เรียนทกุ กลุม่ สาระ เป็นโครงการเรง่ ด่วนตามนโยบายของต้นสงั กดั จัดกิจกรรมรักการอ่าน ผ้เู รียนได้บันทึกหลัง การอ่านทกุ วัน กจิ กรรมเล่าขา่ ว คณติ คิดเร็ว ภาษาอาเซ่ยี น ภาษาไทย-ภาษาอังกฤษวันละคา้ กจิ กรรมประกวด โครงงานทุกกลุ่มสาระ โครงการสอนซ่อมเสริม วางแผนติวทุกกลุ่มสาระ จัดกิจกรรมแข่งขันทักษะภาษาไทย ทักษะภาษาจีน กิจกรรมเล่าข่าว กิจกรรมวันสุนทรภู่ กิจกรรมลูกบุญธรรม ครูคัดกรองผู้เรียนท่ีอ่านไม่ออก เขยี นไมค่ ลอ่ ง สง่ ตอ่ ใหค้ รพู ิเศษและครูประจ้าชนั้ ฝึกฝนทุกวัน มีการทดสอบการอ่านประจ้าเดือนต่อเน่ือง โดย มอบให้คุณครูประจ้าชั้นวิเคราะห์ตัวช้ีวัดทุกตัว จัดเวลาติวที่ห้องเรียนทุกวัน ต้ังแต่เวลา 07.30 น.- 08.30 น. วนั เสารเ์ ตม็ วนั มีครสู ายชั้นประถมศกึ ษาปที ่ี 6 มาคอยเตรยี มพร้อมและอ้านวยความสะดวก ผลการพัฒนา อย่างต่อเนื่องต้ังแต่ปีการศึกษา 2559 - 2561 ส่งผลให้โรงเรียนมีผลสัมฤทธิ์เฉล่ียสูงข้ึนทั้ง 3 ด้าน ได้แก่ ความสามารถด้านภาษา ความสามารถด้านค้านวน และความสามารถด้านเหตุผล ส่วนผลการทดสอบ ระดับชาติ(O-net) ย้อนหลัง 3 ปี ต้ังแต่ การศึกษา 2559 – 2561 ในภาพรวมปีการศึกษา 2561 สถานศกึ ษามพี ฒั นาการสงู ขนึ้ สามปีต่อเน่อื ง โดยมีกลุ่มสาระภาษาไทย ได้ 60.59 % กลุ่มสาระวิทยาศาสตร์ ได้ 42.97 % กลุ่มสาระคณิตศาสตร์ ได้ 42.51 % และกลุ่มสาระภาษาอังกฤษ ได้ 45.59 % สูงกว่า ๑๕
ค่าเฉลี่ยระดับพื้นที่การศึกษาและระดับประเทศ โครงการมาร์ชชิ่งความดีสากล ๕ ประการ ใช้กิจกรรม เสียงเพลงสร้างความดี เส้นสีสร้างวินัย พัฒนาผู้เรียนให้ตรงเวลา มีระเบียบวินัย และมีสมาธิ นอกจากน้ี สถานศึกษายังจัดโครงการพัฒนาผู้เรียนด้านคุณลักษณะที่พึงประสงค์อย่างต่อเน่ือง เช่น โครงการโรงเรียน ส่งเสริมสุขภาพ โครงการเด็กย้ิมอิ่มท้อง โครงการเด็กไทยไร้พุง โครงการสุขาภิบาลอาหารในโรงเรียน โครงการอนามัยโรงเรียน จัดกิจกรรมบริการอาหารม้ือเช้า อาหารมื้อกลางวัน กิจกรรมแข่งขันกีฬานักเรียน ผู้เรยี นได้เล่นกฬี าประเภทต่างๆอยา่ งเตม็ ศักยภาพ ได้รับความร่วมมือจากศูนย์บริการสาธารณสุข ๔๕ มาช่วย ดแู ลตรวจสุขภาพ ทดสอบสมรรถภาพทางกาย ส่งผลให้ผเู้ รียนมีนา้ หนักส่วนสงู ตามเกณฑ์ โครงการโรงเรียนวิถี พุทธ จัดกิจกรรมสวดมนต์ไหว้พระ นั่งสมาธิ ใช้หลักไตรสิกขา พัฒนาตนตามหลักพุทธธรรม สถานศึกษา ด้าเนินโครงการและกิจกรรมต่างๆต่อเน่ือง โดยทุกภาคส่วนมีส่วนร่วม มีการประเมินผลโครงการ น้าผล ประเมินท่ไี ด้ไปวิเคราะห์จุดอ่อนจุดแข็ง และน้าไปพัฒนาอย่างเป็นระบบ จากการด้าเนินการอย่างเป็นระบบ เหมาะสม และต่อเนื่อง ส่งผลให้ผู้เรียนมีคุณภาพในระดับดีมาก สรุปการประเมนิ ดา้ นท่ี ๑ คุณภาพของผู้เรียน มีระดับคุณภาพ ดีมาก จุดเดน่ 1. ผู้เรียนมีระเบียบวินัย มีสัมมาคารวะ มีความรับผิดชอบ ตรงต่อเวลา และมีมนุษย์สัมพันธ์ดี โดย สถานศกึ ษาจัดโครงการมาร์ชช่ิงความดีสากล ๕ ประการ ให้ผู้เรียนทุกคนปฏิบัติผ่านกิจกรรมเสียงเพลงสร้าง ความดี เส้นสสี ร้างวนิ ัย โครงการโรงเรียนวถิ ีพุทธ ใช้หลักไตรสิกขาในการพัฒนาตนตามหลักพุทธธรรม ส่งผล ให้ผู้เรียนสะอาด มีระเบยี บ สภุ าพ ตรงเวลา และมีสมาธิ 2. ผู้เรียนมีสุขภาพดี สะอาด ร่าเริงแจ่มใส และมีร่างกายสมบูรณ์ โดยสถานศึกษาจัดโครงการ โรงเรียนส่งเสริมสุขภาพ โครงการเด็กย้ิมอิ่มท้อง โครงการอนามัยโรงเรียน โครงการสุขาภิบาลอาหาร ใน โรงเรียน บริการอาหารมื้อเช้า และอาหารม้ือกลางวัน จัดกิจกรรมแข่งขันกีฬา ทดสอบสมรรถภาพทางกาย สง่ ผลใหผ้ ูเ้ รยี นมีสขุ ภาพดี และมีนา้ หนกั สว่ นสงู ตามเกณฑ์ ๓. ผเู้ รยี นมผี ลสัมฤทธ์ิทางการเรียนและผลการทดสอบทางการศกึ ษาระดบั ชาติ(O-NET) สูงกว่า คา่ เฉลีย่ ระดบั ต้นสงั กดั และค่าเฉล่ียระดบั ประเทศ ๓ ปตี ่อเนื่อง ๔. ผเู้ รียนมคี วามสามารถทางด้านศิลปะ ไดร้ ับรางวลั ตา่ งๆทง้ั ในระดับเขตพนื้ ทกี่ ารศกึ ษา และ ระดับประเทศ โดยพบเหน็ ผลงานด้านศลิ ปะอยทู่ วั่ ไป เช่น หอ้ งศิลปะ ใบงาน โครงงาน จดุ ท่ีควรพัฒนา ไม่มี ข้อเสนอแนะ ไมม่ ี ขอ้ เสนอแนะเพือ่ การพัฒนาสู่นวัตกรรม หรอื แบบอย่างทด่ี ี สถานศกึ ษาควรเก็บรวบรวมผลงานของผเู้ รยี นดา้ นศลิ ปะท่ไี ด้รบั รางวลั ประเภทต่างๆ ไว้เป็นหมวดหมู่ จัดทาเป็นทะเบียน ระบุชื่อเจ้าของผลงาน วัน เดือน ปี ที่รังสรรค์ผลงาน แล้วนาไปตกแต่งตามมุมต่างๆของ สถานศึกษา เพ่ือเป็นส่ิงเชิดชูความสามารถ เป็นเกียรติยศต่อเจ้าของผลงาน และเป็นความภาคภูมิใจของ สถานศึกษา พรอ้ มท้ังบันทึกภาพเก็บไว้ในแกลเลอร่ี แสดงไวใ้ นเฟสบุค๊ ของสถานศึกษา อันจะเกิดเป็นแรงจูงใจ ตอ่ ผูพ้ บเหน็ ให้มคี วามซาบซง้ิ ในความสวยงามดา้ นศลิ ปะ หรอื ต่อยอดเป็นพภิ ิธภัณฑศ์ ิลปะของสถานศึกษา ๑๖
ด้านที่ ๒ กระบวนการบริหารและการจัดการ หรือด้านอ่ืนตามช่อื ทส่ี ถานศึกษากาหนด ผลการดาเนนิ งาน สถานศึกษาได้ร่วมมือกับผู้ท่ีมีส่วนเกี่ยวข้องดาเนินการวิเคราะห์สภาพปัญหา ผลการจัดการศึกษาที่ ผ่านมาโดยการศึกษาข้อมูลสารสนเทศ จากผลการนิเทศติดตาม ประเมินการจัดการศึกษาตามนโยบายการ ปฏิรูปการศึกษา และจัดประชุม ระดมความคิดเห็นเพ่ือวางแผนร่วมกันกาหนดเป้าหมาย ปรับวิสัยทัศน์ กาหนดพันธกิจ กลยุทธ์ในการจัดการศึกษาของสถานศึกษาเพื่อพัฒนาคุณภาพผู้เรียน มีการพัฒนาและ ปรับปรุงแผนพัฒนาคุณภาพการศึกษา แผนปฏิบัติราชการประจาปี ให้ทันโลกวิชาการสามารถปฏิบัติเป็น รูปธรรม ทชี่ ัดเจนและเชอื่ มั่นวา่ ทาได้จริง และสอดคล้องกบั สภาพปัญหาความต้องการพัฒนาและนโยบายการ ปฏิรูปการศกึ ษา พรอ้ มทั้งจัดหาทรพั ยากร จดั สรรงบประมาณ มอบหมายงานใหผ้ ู้รับผิดชอบดาเนินการพัฒนา ตามแผนงาน เพือ่ ให้บรรลเุ ป้าหมายท่ีกาหนดไว้ มีการดาเนินการนิเทศ กากับ ติดตาม ประเมินผลการดาเนิน งานและสรปุ ผลการดาเนนิ งาน ตลอดจนการจัดกิจกรรมต่างๆ ของสถานศึกษา มีการระดมความคิด การวาง กรอบยทุ ธศาสตรใ์ นการพฒั นาคณุ ภาพระบบบริหารจดั การและกระบวนการดาเนินงานการด้านการศึกษาให้มี คณุ ภาพ สามารถเป็นโรงเรียนคุณธรรมและความดีสากล ยกระดับสถานศึกษาจนเป็นแบบอย่างได้ ผู้บริหาร เป็นผมู้ ีวิสยั ทศั น์ มภี าวะผู้นา ทุ่มเท เสียสละ บริหารงานท้ัง ๔ ด้าน อย่างครบถ้วน เน้นการกระจายอานาจใน การบริหารแก่รองผู้อานวยการสถานศึกษา บริหารจัดการตามงานในหน้าที่ สามารถให้คาแนะนาและนิเทศ ผู้สอนได้เป็นอย่างดี มีการกากับติดตามดูแลอย่างสม่าเสมอ มีการประชุมแต่ละกลุ่มงาน และกลุ่มสาระการ เรียนรู้ ติดตาม ตรวจสอบคุณภาพการศึกษา ตามแผนงาน/โครงการต่างๆ ได้อยา่ งเปน็ รปู ธรรม ไดแ้ ก่ แผนงาน โครงสร้าง การบริหารจัดการด้านการศึกษา ๔ ด้าน แผนงานพัฒนาคุณภาพการศึกษา ปี ๒๕๖๐ –๒๕๖๒ แผนงานการบริหารวิชาการ แผนงานการบริหารงานงบประมาณ แผนงานการบริหารงานบุคลากร แผนงาน การบรหิ ารงานทั่วไป โครงการพฒั นาหลกั สตู รสถานศึกษา โครงการทะเบียนและรับรองผลการเรียน ส่งเสริม พัฒนาคุณภาพการศึกษาให้บรรลุตามวิสัยทัศน์ พันธกิจท่ีกาหนด ดาเนินการพัฒนาวิชาการท่ีเน้นคุณภาพ ผู้เรียนรอบด้านตามหลักสูตรสถานศึกษาและทุกกลุ่มเป้าหมาย โดยการจัดโครงการ/กิจกรรมส่งเสริมและ พัฒนาผู้เรียนให้มีความรู้และ ทักษะท่ีจาเป็นตามหลักสูตร เช่น โครงการวัดและประเมินผลกลุ่มสาระการ เรียนรู้ภาษาไทยด้านการอ่าน เขียนและการสื่อสาร โครงการวัดและประเมินผลกลุ่มสาระการเรียนรู้ คณิตศาสตร์ด้านการคิดคานวณ โครงการวัดและประเมินผลกลุ่มสาระการเรียนรวู้ ทิ ยาศาสตร์ด้านการคิดอย่าง มีเหตุผล โครงการวัดและประเมินผลกลุ่มสาระ การเรียนรู้ภาษาต่างประเทศด้านการสื่อสาร โครงการสอน เสริมเพือ่ การวัดผลระดบั ชาติ โครงการโรงเรียนเรยี นร่วม ส่งเสริมการแข่งขันทักษะความสามารถทางวิชาการ ๘ กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ ประชุมและนิเทศผสู้ อน ดา้ นการจัดการเรียนการสอนดว้ ยวิธกี ารท่ีหลากหลายโดยเน้น ผู้เรียนเป็นสาคัญ ให้เป็นไปตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พ.ศ. ๒๕๕๑ จัดกิจกรรมทบทวน หลกั สูตร พฒั นาหลกั สตู รสถานศกึ ษาและการพัฒนาแผนการจัดการเรยี นรทู้ กุ กลุ่มสาระการเรยี นรู้ จัดกจิ กรรม ซอ่ มเสริม กิจกรรมสอนเสรมิ เพ่อื เตรยี มความพร้อมแบบเข้มการทดสอบระดับชาติ (O -NET) กิจกรรมรักการ อา่ น มีการนิเทศติดตามใหผ้ สู้ อนวัดและประเมินผลการเรียนรู้ของผู้เรียนตามสภาพจริง จัดให้มีการสอนซ่อม เสรมิ แกผ่ เู้ รยี นทไ่ี มผ่ า่ นเกณฑก์ ารประเมินผล การพัฒนาบุคลากรให้มคี วามเช่ียวชาญทางวิชาชีพอย่างต่อเนื่อง โดยจัดทาแผนพัฒนาบคุ ลากร มีกระบวนการส่งเสริมและพัฒนาศักยภาพของบุคลากรท่ีเหมาะสม สอดคล้อง กับการเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่อง ส่งเสริมบุคลากรเข้ารับ การอบรมอย่างสม่าเสมอไม่น้อยกว่า ๒๐ ชม./ปี พัฒนาความสามารถของผู้สอนให้มีประสิทธิภาพในการปฏิบัติตามเกณฑ์มาตรฐานวิชาชีพ สนับสนุนให้ บุคลากรมีความก้าวหนา้ ทางวิชาชพี ทัง้ ดา้ นการศึกษาต่อในระดบั ท่ีสูงขึ้นหรือเปลี่ยนสายงานและการยกระดับ วิทยฐานะที่สูงข้ึน ตดิ ตามประเมินผลหลังการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง มีการสรุปผลการพัฒนาอย่างเป็นรูปธรรม ๑๗
และนาผลไปใช้ปรบั ปรุงพฒั นางาน จดั สภาพแวดล้อมทางกายภาพและสงั คม ท่เี อือ้ ตอ่ การจดั การเรียนรู้อย่างมี คณุ ภาพ โดยดาเนินการจดั สภาพแวดล้อมปรับภูมิทัศน์บริเวณสถานศึกษา ให้สะอาด ร่มร่ืน สร้างบรรยากาศ ในการเรยี นใหอ้ บอนุ่ เหมือนบา้ น เปดิ โอกาสใหผ้ ูเ้ รียนได้ใช้ประโยชน์จากแหล่งเรียนรทู้ ่อี ยู่ใกล้เคียงสถานศึกษา ส่งเสริมใหผ้ ู้เรียนได้ซมึ ซบั ภมู ปิ ัญญาท้องถ่ิน วัฒนธรรมและประเพณอี นั ดงี าม ทั้งให้ผู้เรียนแสวงหาความรู้ด้วย ตนเองตามศักยภาพ ตามโครงการห้องเรียนในโลกกว้าง จัดระบบเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อสนับสนุนการ บริหารจัดการอย่างมีคุณภาพ จัดเก็บข้อมูลอย่างเป็นระบบสามารถสืบค้นได้ ผู้บริหารมีการวางแผนและ กาหนดนโยบายในการสง่ เสริมการใช้ระบบสารสนเทศในสถานศึกษา บุคลากรมีความรู้ ทักษะ สามารถใช้งาน ระบบสารสนเทศได้ โดยได้รับการสนับสนุนอุปกรณ์ เครื่องมือท่ีเหมาะสมและพอเพียงต่อการใช้งานจาก หนว่ ยงานต้นสงั กดั สรปุ การประเมินด้านท่ี ๒ กระบวนการบรหิ ารและการจัดการ มีระดบั คุณภาพดีมาก จดุ เดน่ ๑. ความเป็นระบบของการบริหารจัดการ ผู้บริหารได้น้ากระบวนการด้าเนินงานมาใช้ในการพัฒนา โรงเรียนอย่างเป็นระบบ ส่งผลต่อประสิทธิภาพอย่างย่ังยืน โดยผู้บริหารจัดวางโครงสร้างระบบงานสายงาน บังคับบัญชา (Chin of Command) จัดให้มกี ารสรา้ งงาน (Team Building) การท้างานเป็นทีม (Teamwork) การบริหารงานแบบมีส่วนร่วม (Participative Management) การบริหารงานโดยใช้โรงเรียนเป็นฐาน (School Base Management = SBM) การบริหารโดยคณะกรรมการ ก่อนด้าเนินงานท้าการวิเคราะห์ SWOT Analysis เพื่อหาจุดแข็ง (S) จุดอ่อน (W) โอกาส (O) และอุปสรรค (T) ในการน้าไปสู่การแก้ปัญหา เพอ่ื จดั การท้าโครงการปรับปรุงและ พัฒนา โดยใช้ระบบวงจรคุณภาพ (Deming Cycle) มาใช้เป็นเครื่องมือ ปรับปรุงกระบวนการท้างาน คือ ๑) การวางแผนงาน (Plan = P) ๒) ท้าตามแผนงาน (Do = D) ๓) การ ตรวจสอบการท้างาน (Check = C) ๔) การแก้ไขปรับปรุง (Act = A) ส่งผลให้การปฎิบัติงานตามนโยบาย และแผนงานท้ัง ๔ คือ ๑) งานวิชาการ ๒) งานธรุ รการและการเงิน ๓) งานบคุ ลากร และ ๔) งานบริหารท่ัวไป เปน็ ระบบสามารถตรวจสอบไดท้ กุ ขนั้ ตอน มกี ารกา้ หนดเป้าหมาย การด้าเนินงานที่ชัดเจน การก้ากับ ติดตาม ตรวจสอบและปรับปรงุ แกไ้ ขอยา่ งตอ่ เนอื่ ง ตามแผนพัฒนาคณุ ภาพการศึกษาของโรงเรียน ๒. ภาวะผูน้ ้าในการบรหิ ารโรงเรียน จากการสังเกต สัมภาษณ์ ศกึ ษาขอ้ มลู เอกสารและตรวจสอบจาก สถานท่ีจริง พบว่าการบริหารของผู้บริหาร ได้ใช้แนวคิดทฤษฎีในการบริหารงานหลายรูปแบบด้วยกัน แต่ รูปแบบการบริหารงานที่ชัดเจนคือ การบริหารงานตามทฤษฎีภาวะผู้น้าตามสถานการณ์ (Situation leadership theory) ของ Hersey & Blanchard โดยศกึ ษาถึงพฤติกรรมสองด้าน คอื พฤติกรรมมุ่งงาน (task behavior) และพฤตกิ รรมมุ่งสัมพันธ์ (relationship behavior) พฤติกรรมใดจะมีความพรอ้ มระดับใด จึงแบ่ง ภาวะผ้นู ้าออกเปน็ ๔ รูปแบบด้วยกันคือ ๑) แบบการบอก (telling) ๒) แบบขายความคิด (selling) ๓) แบบ การมีส่วนร่วม (participation) และ ๔) แบบมอบอ้านาจ (delegating) ผู้บริหารจึงเข้าใจข้าราชการครูและ บุคลากรทางการศึกษา ตลอดจนผู้มีส่วนเก่ียวข้องได้ถูกต้อง การสื่อสารและการส่ังการต่างๆจึงเป็นไปด้วย ความเรยี บร้อย ผ้รู ่วมงานให้ความศรทั ธา เชอ่ื ถือ ตอ่ การบริหารงาน ของผ้บู ริหารส่งผลต่อการสร้างบรรยากาศ ขององคก์ ร (Organizational Climate) ในเชิงบวก ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาของโรงเรียนให้ การสนับสนุนและปฎบิ ัติงานใหก้ ับโรงเรียนเตม็ ความร้คู วามสามารถ เต็มเวลา เต็มหลักสูตร และเต็มใจ ส่งผล ให้โรงเรียนเกดิ การเปลยี่ นแปลงไปในทางทีด่ อี ย่างต่อเนื่องตลอดมา ๓. ประสทิ ธิผลของกระบวนการบริหารและจัดการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน สถานศึกษาได้ก้าหนดวิสัยทัศน์ คือ “โรงเรียนมีคุณธรรมน้าวิชาการ บริหารจัดการโดยใช้โรงเรียนเป็นฐาน บุคลากรมีคุณภาพ นักเรียนมี ๑๘
คุณลกั ษณะพงึ ประสงค์ บนพนื้ ฐานความเปน็ ไทยและหลักเศรษฐกิจพอเพียง” เอกลักษณ์ “โรงเรียนวิถีพุทธ” ซงึ่ สอดคลอ้ งกบั นโยบายการปฏริ ูปการศกึ ษาและแผนพัฒนากรงุ เทพมหานครอยา่ งชัดเจน มีการบริหารจัดการ คุณภาพการศึกษา มีการพัฒนาหลักสูตร มีการพัฒนาครูและบุคลากรให้มีความเช่ียวชาญทางวิชาชีพ สภาพแวดล้อมทางกายภาพและสังคมท่ีเอ้ือต่อการจัดการเรียนรู้อย่างมีคุณภาพ ระบบสารสน เทศเพื่อ สนับสนนุ การบรหิ ารจดั การและการจัดการเรยี นรู้ ส่งผลให้ครแู ละบุคลากรมีความเชี่ยวชาญทางวิชาชีพ ท้าให้ นักเรียนมีคุณภาพผลการทดสอบ O-NET ผ่านทุกกลุ่มสาระ ๓ ปีต่อเนื่อง ส่งเสริมบุคลากรเข้าประกวดวาด ภาพจนได้รับรางวัลชนะเลิศในระดับส้านักการศึกษา ๓ ปีต่อเนื่อง และส่งเสริมนักเรียนเข้าแข่งขันทางด้าน กฬี า และได้รบั รางวลั กีฬาองคก์ รปกครองสว่ นทอ้ งถ่นิ ในประเภทกีฬา ฟุตซอล และกรีทา ๓ ปีต่อเนือ่ ง รางวัล รองชนะเลิศว่งิ เปยี้ ว ระดับประเทศของสมาคมกีฬาไทย และรางวัลอื่นๆอีกมากมาย สถานศึกษามีการบริหาร การจดั การอย่างเปน็ ระบบ ทกุ คนมีสว่ นรว่ ม มคี วามรักองค์กร มกี ารประชมุ และตกลงร่วมกันทุกฝ่าย จนได้รับ รางวลั ชนะเลศิ โรงเรยี นความดมี าตรฐานสากล ระดบั ประเทศ จดุ ท่คี วรพฒั นา ไม่มี ข้อเสนอแนะ ไม่มี ขอ้ เสนอแนะเพอื่ การพฒั นาสนู่ วตั กรรม หรอื แบบอย่างทดี่ ี ๑. สถานศกึ ษาควรน้าเทคโนโลยีมาใช้ให้เป็นระบบ และใช้งานได้จริง เพื่อการบริหารงานที่คล่องตัว เช่น การจัดท้าเว็บไซต์(Website) เฟสบุ๊ค (Facebook) ของโรงเรียนให้ใช้งานได้อย่างมีคุณภาพและมีข้อมูล เป็นปัจจุบัน มีคณะท้างานด้านบริหาร (Administrator) เพื่อควบคุมและลงข้อมูลข่าวสารของโรงเรียน เพื่อ ประชาสมั พันธ์ ให้สงั คมรับรู้เปน็ ปัจจบุ นั ทุกภาระงานของโรงเรยี น ๒. สถานศึกษาควรจัดระบบเครื่อข่ายอินเทอร์เน็ต (Internet) ความเร็วสูง ช้งานได้จริง เพ่ือบริหาร จัดการทงั้ ๔ งาน ของโรงเรียน คอื ๑) งานวชิ าการ ๒) งานธรุ รการและการเงนิ ๓) งานบุคลากร และ ๔) งาน บริหารท่ัวไป เพราะโรงเรียนอยู่ในเขตชุมชนเมืองหลวง การใช้งานอินเทอร์เน็ตจะช่วยให้การบริหารจัดการ สะดวกรวดเร็วและไมต่ อ้ งเสยี เวลาในการเดนิ ทาง เพราะระบบการจราจรท่ีติดขัดของสังคมเมืองหลวง การใช้ งานอนิ เทอร์เน็ต บริหารได้ทัง้ ภายในโรงเรยี นและภายนอกโรงเรยี น ครอบคลมุ ระบบการสือสารในระบบสังคม (Social) ๓. สถานศึกษาควรจดั หาโปรแกรม หรือ สรา้ งโปรแกรมมาใช้งานในด้านการบริหารท้ัง ๔ งาน คือ ๑) งานวชิ าการ ๒) งานธุรรการและการเงนิ ๓) งานบคุ ลากร และ ๔) งานบริหารท่ัวไป เพ่ือความสะดวกรวดเร็ว ในการค้นคว้าและใช้งาน เช่น โปรแกรมข้อมูลนักเรียนเพื่อจบการศึกษา หรือเพื่อย้ายสถานศึกษา โปรแกรมควบคุมการบริหารจัดการสื่อ วัสดุและอุปกรณ์ โปรแกรมการลงทะเบียนนักเรียน โปรแกรม บริหารงานธุรการ โปรแกรมบริหารงานการเงินฯ เพราะทางโรงเรียนมีครูจบทางด้านคอมพิวเตอร์ สามารถ พฒั นาเพอ่ื สร้างโปรแกรมได้ ๑๙
ด้านที่ ๓ กระบวนการจัดการเรียนการสอนท่ีเน้นผู้เรียนเป็นสาคัญ หรือด้านอ่ืนตามชื่อท่ี สถานศกึ ษากาหนด ผลการดาเนนิ งาน โรงเรียนเคหะชุมชนลาดกระบัง มีครูพียงพอ ครบชั้น และมีการจัดการเรียนรู้ท่ีเป็นระบบโดย พิจารณา มกี ารประชุมปรบั ปรุงหลกั สตู รสถานศึกษา ครูทุกคนวเิ คราะห์หลักสูตรสถานศึกษา จัดทาหน่วยการ เรยี นร้โู ดยบูรณาการความดีมาตรฐานสากล มีการจัดทาแผนการเรียนรู้ โดยผู้เรียนมีส่วนร่วม จัดกิจกรรมให้ ผูเ้ รยี นได้ปฏบิ ตั จิ ริง ครูบันทึกผลหลงั สอน นาผลการวเิ คราะหผ์ เู้ รียนมาพัฒนาผู้เรียน ครู ใช้กระบวนการสร้าง ชมุ ชนแห่งการเรยี นรู้ทางวชิ าชีพ (PLC) ครูได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้ในลักษณะจับคู่(Buddy Teacher) โดยบูรณา การกับกระบวนการนิเทศภายใน ส่งผลให้ครูมีการพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่อง นักเรียนมีผลสัมฤทธ์ิทางการ เรียนท่ีมีการพัฒนาอย่างต่อเน่ือง และคุณลักษณะตามความดีมาตรฐานสากล ๕ ประการได้แก่ สะอาด ระเบยี บ สุภาพ ตรงเวลา และสมาธิ สรุปการประเมินดา้ นท่ี ๓ การจัดประสบการณ์ทีเ่ น้นเดก็ เปน็ สาคัญ มีระดบั คุณภาพ ดมี าก จุดเด่น ๑. ครูผ้สู อนมีความรคู้ วามสามารถในการจัดการเรียนรทู้ เี่ น้นผู้เรยี นเป็นสาคญั มีการวเิ คราะห์ หลกั สตู รและมกี ารบรู ณาการนโยบายและโครงการต่างๆไว้ในหลักสูตรสถานศึกษาอย่างชัดเจน ได้แก่ ความดี สากล ๕ ประการ เศรษฐกิจพอเพียง ค่านิยม ๑๒ ประการ โตไปไม่โกง สวนพฤกษศาสตร์ ลงสู่หน่วยการ เรยี นรแู้ ละแผนการจัดการเรียนรูอ้ ยา่ งชดั เจน การจัดการเรียนรู้ด้วยกิจกรรมที่หลากหลายเพื่อให้ผู้เรียนเกิด กระบวนการคดิ และสร้างองค์ความรู้ไดด้ ้วยตนเอง ๒. ครมู ีการบรหิ ารจดั การชัน้ เรยี นเชงิ บวก เสริมแรงและใหก้ าลังใจแกผ่ เู้ รียน ชว่ ยเหลอื ผเู้ รียนทเ่ี รียน ชา้ และให้เพอื่ นชว่ ยเพอ่ื นเพือ่ ให้ผู้เรียน เรียนรู้ได้อย่างอย่างต่อเนื่อง ครูใช้กระบวนการสร้างชุมชนแห่งการ เรยี นรู้ทางวิชาชีพ (PLC) เพือ่ วางแผนการแก้ปัญหาหรือ พฒั นาการเรยี นรู้ เขยี นแผนการจดั การเรยี นรู้ร่วมกัน นาแผนการจัดการเรียนรู้ไปใช้ โดยคู่ Buddy ร่วมสังเกตการณ์สอน ในขณะเดียวกันวิชาการสายช้ันและรอง ผู้อานวยการสถานศึกษาฝ่ายวิชาการ ร่วมนิเทศการสอน และประเมินผลการจัดการเรียนรู้ของครูไปในเวลา เดยี วกนั การนเิ ทศการสอนรว่ มกบั กระบวนการPLC เปน็ การประเมินตามสภาพจรงิ แลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่าง ครู ครผู ลัดกนั สอน ผลัดกนั นิเทศ เพอ่ื นาสกู่ ารแก้ปัญหาและพฒั นาผเู้ รยี นอย่างแทจ้ รงิ ๓. ครูมกี ารพฒั นาตนเอง อทุ ิศตนและม่งุ ม่นั ในการพัฒนาผู้เรียนอยา่ งตอ่ เนื่อง สง่ ผลให้ผ้เู รียนได้รบั การพัฒนา และผลสัมฤทธ์ิทางวิชาการ ผลการทดสอบระดับชาติ(NT) ชั้นประถมศึกษาปีที่๓ และ ผลการ ทดสอบระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O-NET) ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๖ มีคะแนนเฉล่ียผ่านสูงกว่าระดับประเทศ ๓ ปี ตอ่ เนื่อง จุดท่คี วรพัฒนา ไม่มี ข้อเสนอแนะ ไม่มี ๒๐
ข้อเสนอแนะเพอ่ื การพัฒนาสนู่ วตั กรรม หรือแบบอย่างที่ดี ครูมคี วามร้คู วามสามารถ มุ่งมนั่ ทุม่ เท อุทิศตนในการปฏิบัติงาน โดยโรงเรียนเคหะชุมชนลาดกระบัง ดาเนนิ โครงการรักการอ่าน อา่ นสร้างสุข กาหนดกิจกรรมทุกวนั จันทร์- ศกุ ร์ เวลา ๗.๑๕ น. – ๗.๔๕ น. โดยใช้ เพลงตรงต่อเวลาเป็นสัญญาณของการเร่ิมต้นและการส้ินสุดกิจกรรมแต่ละวัน ครูและผู้เรียนจะขึ้นห้องเรียน ปฏิบัตกิ ิจกรรมดา้ นการอ่าน ซึ่งสอดคล้องกับความดีมาตรฐานสากล ๕ ประการ โดยเฉพาะในเร่ืองความตรง ตอ่ เวลา การฝกึ สมาธิ ความมีระเบียบ โรงเรียนได้ดาเนินการอย่างต่อเน่ือง บรรลุผลสัมฤทธิ์ส่งผลต่อคุณภาพ ผ้เู รยี นในระดบั ดีมาก และกจิ กรรมท่ีปฏิบตั นิ ้อี ยู่ได้ในระดับดีมาก สามารถเป็นแบบอย่างให้กบั สถานศึกษาอื่น โรงเรียนสามารถเผยแพร่กิจกรรมนี้ทางเว็บไซต์ เฟซบุค และประชาสัมพันธ์ไปยังผู้ปกครอง ให้ ผูป้ กครองเขา้ มามีส่วนร่วมในการอ่านสรา้ งสุข และควรเพิ่มการจดั ทาคู่มอื ท่มี กี ระบวนการทชี่ ัดเจน หรือจัดทา เป็นคลิปวิดีโอเผยแพรก่ ิจกรรมดงั กล่าว เพ่อื ใหส้ ถานศึกษาอื่นนาไปใช้เปน็ แบบอย่าง การประเมินความโดดเด่น ผลการประเมนิ ความโดดเดน่ ความโดดเด่น ระดบั คุณภาพ โครงการโรงเรยี นดีมาตรฐานสากล เปน็ ต้นแบบ มีความโดดเด่น ไดร้ บั การยอมรับระดบั นานาชาติ (C3) (ความสะอาด ความเปน็ ระเบียบ ความ เปน็ ตน้ แบบ มีความโดดเด่น ได้รบั การยอมรับระดับชาติ (C2) สุภาพ ความตรงต่อเวลา การมีสมาธิ) เป็นตน้ แบบหรอื มีความโดดเด่นระดับทอ้ งถนิ่ /ภมู ิภาค (C1) (ระบุความโดดเดน่ ของสถานศึกษาที่ ยงั ไม่เปน็ ไปตามเกณฑ์การพจิ ารณาการประเมินความโดดเด่น ค้นพบ ระบุได้มากกว่า ๑ ด้าน) บรบิ ทของสถานศกึ ษา โรงเรียนเคหะชมุ ชนลาดกระบงั เป็นโรงเรียนต้ังอยู่ในชุมชนร่มกล้า ประชาชนที่อาศัยอยู่ในโครงการ เคหะร่มกลา้ สว่ นใหญเ่ ปน็ ประชาชนทย่ี า้ ยมาจากชมุ ชนแออัด ในกรุงเทพมหานครและย้ายถิน่ ฐานมาจากพ้ืนที่ ตา่ งๆ สภาพสังคมมกี ารเตบิ โตอย่างรวดเร็วชุมชนมีความหลากหลายทางวัฒนธรรมและรูปแบบการด้ารงชีวิต ส่งผลให้เกิดปัญหามากมาในชุมชน เช่น ปัญหาเร่ืองการไร้เบียบวินัย ปัญหาการทะเลาะวิวาท ปัญหาเร่ือง คุณภาพชีวิต และความเป็นอยู่ ที่ส้าคัญคือปัญหาเก่ียวกับยาเสพติด ซ่ึงปัญหาดังกล่าวล้วนมีผลกระทบต่อ นักเรียนของโรงเรียนเคหะชุมชนลาดกระบัง เนื่องจากนักเรียนเป็นผู้ท่ีอาศัยอยู่ในครอบครัวชุมชน และ สภาพแวดลอ้ ม ท่อี าจมสี ่วนเก่ยี วข้องกับปัญหาดังกล่าว ซึ่งอาจจะส่งผลให้นักเรียนมีพฤติกรรมท่ีไม่เหมาะสม และกระทบถึงการเรียน ในที่สุดโรงเรียนเคหะชุมชนลาดกระบัง จึงได้เข้าร่วมโครงการโรงเรียนความดี มาตรฐานสากล (Goodness International Standard School : GIS - School) ของมูลนิธิครูดีของแผ่นดิน โดยคาดหวังวา่ จะสามารถเปลยี่ นแปลงพฤตกิ รรมของนกั เรยี นไปในทางที่ดขี นึ้ โรงเรียนเคหะชุมชนลาดกระบัง ไดเ้ สนอแนวทางการพจิ ารณา การประเมนิ ความโดดเด่นเฉพาะทาง (Challenging Standards) ตามโครงการ โรงเรยี นดมี าตรฐานสากล (ความสะอาด ความเป็นระเบียบ ความสุภาพ ความตรงต่อเวลา การมีสมาธิ) โดย นักเรียนท้ังหมดของโรงเรียนได้เข้าร่วมโครงการดังกล่าว จากการประเมิน พบว่าสถานศึกษาสามารถ ๒๑
ดา้ เนินการให้บรรลุผลลัพธท์ ต่ี อ้ งการและเป็นต้นแบบ มีความโดดเด่น ได้รับการยอมรับระดับชาติ (National Recognition) ระดับคณุ ภาพ C2 ลักษณะส้าคัญของวิธีหรอื แนวทางปฏิบตั ทิ ีเ่ ปน็ เลศิ โรงเรียนดา้ เนินการโดยน้าความดีสากล ซง่ึ หมายถึงคุณลักษณะพ้ืนฐานมนุษย์ทุกคนต้องมี เพ่ือพัฒนา ตนเองใหม้ ีคณุ ภาพ และพัฒนาสังคมให้มีความเจริญงอกงาม และอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข โดยคุณลักษณะ เหล่าน้ีจะต้องฝึกฝนเป็นประจ้าทุกวัน จนเป็นนิสัย ซึ่งหลักความดีสากล ๕ ประการ ที่ครูและนักเรียนของ โรงเรยี นเคหะชมุ ชนลาดกระบงั ยดึ ถือปฏิบัติ ไดแ้ ก่ ความสะอาด ความเป็นระเบียบ ความสุภาพ ความตรงต่อ เวลา การมีสมาธิ โดยมีความหมาย ดังนี้ ๑. ความสะอาด หมายถงึ ปราศจากสง่ิ แปลกปลอม อนั จะทา้ ใหเ้ สียคุณภาพ ๒. ความเป็นระเบียบ หมายถึง เป็นไปในทิศทางเดียวกัน ถูกล้าดับเป็นแถว เป็นแนว ไม่ขัดขวาง ไม่ สับสน ๓. ความสุภาพ หมายถึง ความสามารถในการควบคุมกิริยาทางกายวาจาให้เป็นปกติ ไม่ท้าผู้อ่ืนเกิด ความรสู้ กึ ในทางไมด่ ี ๔. ความตรงต่อเวลา หมายถึง ความสามารถในการควบคุมตนเอง ในการเริ่ม เลิกงานให้เป็นไปตาม ก้าหนด ๕ การมสี มาธิ หมายถงึ ความสามารถในการควบคมุ จิตใจ อารมณ์ให้ต้ังมั่นเป็นหน่ึง เพ่ือให้เกิดความ บริสทุ ธ์ิผ่องใสข้นึ จากภายใน วัตถปุ ระสงค์ ของวิธกี ารหรือแนวทางปฏิบตั ิทเ่ี ป็นเลิศ ๑. เพือ่ ใชเ้ ปน็ ข้อถอื ปฏบิ ตั ิของบุคลากรและนกั เรียนโรงเรยี นเคหะชุมชนลาดกระบงั ๒. เพอ่ื พฒั นาบุคลากรและนักเรยี นโรงเรียนเคหะชุมชนลาดกระบัง เป็นผู้ท่ีมีคุณลักษณะตามความดี สากล ๕ ประการ ๓. บคุ ลากรและนักเรยี นปฏบิ ตั จิ นเป็นปกตนิ สิ ัย และเปน็ วฒั นธรรมองค์กร เป้าหมาย ตัวชี้วัดเชิงปริมาณ ผบู้ ริหารครู-บคุ ลากรและนกั เรียนของโรงเรียนเคหะชมุ ชนลาดระบัง ทุก คนปฏิบัติตนตามหลักความดีสากล ๕ ประการ ตัวช้ีวัดเชิงคุณภาพ ผู้บริหารครู-บุคลากรและนักเรียนของ โรงเรยี นเคหะชมุ ชนลาดกระบงั ทุกคนเปน็ ผู้ทีม่ ีคณุ ลกั ษณะตามหลักความดีสากล ๕ ประการ การดา้ เนินกจิ กรรมพัฒนา ๑. ระบบพัฒนาความสะอาด ระบบพัฒนาความมีระเบียบ ในด้านสถานท่ีมีโครงการพัฒนา ส่งิ แวดลอ้ มในการท้างาน ซ่งึ เป็นนโยบายของผู้บริหารกรุงเทพมานคร และนโยบายพัฒนาด้านการศึกษาของ ผู้บรหิ ารโรงเรียน ท่ีจะท้าให้โรงเรียนมีบรรยากาศอบอุ่นเหมือนบ้าน สมบูรณ์ด้วยแหล่งเรียนรู้ สีสันโรงเรียน สดใส โดยก้าหนดมาตรการและแนวทางปฏิบตั ทิ ช่ี ดั เจน ๒. ระบบพัฒนาความมีระเบียบ ก้าหนดกิจกรรมพัฒนาความดีสากล ลงสู่ตัวผู้เรียนท้ังสถานศึกษา ประกอบด้วยการปฏิบัติกิจกรรมหน้าเสาธงการน้าหลักความดีสากล สอดแทรกในแผนการจัดการเรียนรู้ทุก กลุม่ สาระการเรยี นรู้การมีมาตรการให้นกั เรียนฝึกปฏิบัติในการเดินแถว ตามข้อตกลงของโรงเรียน เพื่อให้เกิด ความเคยชนิ จนกลายเปน็ กจิ วัตรประจา้ วัน ๓. ระบบพฒั นาความสุภาพ น่มุ นวล โรงเรียนได้ก้าหนดปรัชญาไว้ว่า \"คุณธรรมท้าให้คนมีความอ่อน น้อมถ่อมตน\" มีระบบฝึกความสุภาพ โดยแต่ละห้องเรียนมีข้อตกลงของนักเรียนร่วมกัน มีการปลูกฝัง พฤตกิ รรมทีด่ ี ทสี่ ร้างขึ้นจากบุคคลในองคก์ ร ๒๒
๔. ระบบพัฒนาการตรงต่อเวลา โดยได้ก้าหนดเวลาปฏิบัติหน้าที่ของบุคลากร การมาเรียนของ นักเรียนที่ชัดเจน โดยค้านงึ ถงึ ประโยชน์สูงสดุ ที่สอดคลอ้ งกับวิถชี วี ติ ของชุมชน ๕. ระบบพฒั นาจติ ใจให้ผอ่ งใส โครงการโรงเรียนวิถีพุทธ วิถีธรรม โดยฝึกปฏิบัติสมาธิทุกวัน ในตอน เช้า กลางวันและก่อนเรยี นในแตล่ ะวชิ าเพอื่ ให้มสี ตสิ มาธิ มีความมุ่งมนั่ ในการเรียนรู้ ผลการด้าเนนิ การ จากการด้าเนินงานดังกล่าว ส่งผลให้โรงเรียนมีการพัฒนาเพิ่มข้ึนในทุก ๆ ด้านการบริหารจัดการ เป็นไปตามโคงสร้างการบริหาร ครูปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างมีศักยภาพ นักเรียนมีผลการเรียนตามเกณฑ์ มี คณุ ธรรม จริยธรรม และคุณลักษณะท่ีพึงประสงค์ พฤติกรรมต่างๆ มีการเปลี่ยนแปลงไปทางที่ดีข้ึนโรงเรียน ไดร้ ับรางวลั ระดับชาติ โรงเรียนดีมาตฐานสากลประเภทประถมศกึ ษา - ขยายโอกาสรนุ่ แรกของโลก จากมูลนิธิ ครูดขี องแผน่ ดิน สง่ ผลโรงเรยี นได้รบั ความชอื่ ม่นั ในเร่อื งการบริหารจัดการระบบ การพฒั นานกั เรียน และการ จัดการศึกษา ที่มีประสิทธิภาพเป็นแหล่งศึกษาดูงานส้าหรับผู้ท่ีมีความสนใจ ประชาชนในพ้ืนที่เช่ือม่ันใน คณุ ภาพของโรงเรยี นและครู จึงได้สง่ บุตรหลานเขา้ มาสมัครเรยี นในโรงเรยี นเพ่ิมขน้ึ รางวัลท่ีได้รับ รางวัลชนะเลิศเหรียญทองถ้วยพระราชทานสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาสยามบรมราชกุมารี การ ประกวดมารช์ ช่งิ ความดปี ีที่ ๓ ระดับชาติ ประเภทประถมศึกษาเม่ือวันท่ี ๒๐ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๙ ณ ไอส์แลน ฮอลล์ ศนู ยก์ ารคา้ แฟชน่ั ไอสแ์ ลนด์ กรงุ เทพมหานคร และรางวัลระดบั ชาติโรงเรียนดีมาตรฐานสากล ประเภท ประถมศกึ ษา – ขยายโอกาส รางวัลชนะเลิศ คะแนน GIS-SA โดยมูลนิธิครูดีของแผ่นดินมอบโดย พลอากาศ เอกประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรี เมื่อวันที ๒๔ กันยายน พ.ศ.๒๕๖๑ ณ ห้องประชุมบุณยเกตุ อาคาร หอประชุมคุรสุ ภา กรงุ เทพมหานคร โอกาส โรงเรียนเคหะชมุ ชนลาดกระบังเป็นโรงเรียนขนาดใหญพ่ ิเศษ มีจ้านวนนักเรียนครูและบคุ ลากรจ้านวน มากในการดา้ เนนิ งานทั้งในดา้ นการบริหารและการจัดการศึกษา ของโรงเรียนนัน้ ถอื ว่าเปน็ ท่ยี อมรบั ของชุมชน และหน่วยงานต่างๆผู้บริหารมีการวางแผนงาน ในการน้าวิสัยทัศน์การปฏิติบัติตามโครงสร้าง การบริหารโดย ผ่านรองผู้อ้านวยการ หัวหน้าสายชั้น ครูผู้สน และบุคลากรอื่นๆ จัดบุคลากรที่มีความรู้ ความสามารถ ความ ถนัดให้ตรงกับระบบงาน ส่งสริมและสนับสนุนให้มีการพัฒนาตนเองตามเกณฑ์มาตรฐานวิชาชีพ และความ ตอ้ งการส่งเสริมองค์กรมีความเข้มแข็ง บุคลากรมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน มีความรักและความสามัคคี ในการ ท้างาน และขับเคล่ือนองค์กรให้มีความก้าวหน้า มีกระบวนการพัฒนาผู้เรียนด้วยวิธีการท่ีหลากหลาย ครูผสู้ อนจดั การเรียนร้ใู หเ้ ป็นไปตามศักยภาพผ้เู รยี น มกี ารออกแบบการจัดการเรยี นรทู้ ่ีเหมาะสมกับผู้เรียนโดย คา้ นึงถงึ ศักยภาพและความแตกตา่ งระหว่างบคุ คล มงุ่ พัฒนาผู้เรียนทุกคนให้อ่านออกเขียนได้ คิดค้านวณเป็น ความสามารถสื่อสารได้ดี มีทักษะในการอยู่ร่วมกันในสังคม ปลูกฝังค้านคุณธรรมจริยธรรมในด้านผลการ ประเมนิ ผลสัมฤทธิ์ทางวิชาการ ผเู้ รยี นสามารถอ่านได้ การเขียนคล่อง และมีทักษะการสื่อสาร รวมท้ังการคิด ค้านวณตามมาตรฐานในแต่ละระดับช้ันอยู่ในเกณฑ์ดี มีความสามารถในการคิดวิเคราะห์ กล้าคิด กล้า แสดงออก และแกป้ ัญหาได้อย่างเหมาะสมกบั วยั มีทักษะในการแสวงหาความรู้ด้วยตนเอง สามารถใช้ความรู้ท่ี ได้รับจากการศึกษา มาสร้างสรรค์ผลงานใหม่ๆ สืบค้นข้อมูลหรือแสวงหาความรู้ จากส่ือเทคโนโลยีได้ด้วย ตนเอง ร้เู ทา่ ทนั ส่ือและสังคมท่ีเปลีย่ นแปลงอยา่ งรวดเรว็ รักการเรยี นและพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่อง สามารถ ปรับตัวเข้ากับสังคมได้ เป็นผู้มีคุณธรรม จริยธรรม และค่านิยมที่พึงประสงค์ สอดคล้องตามหลักสูตร สถานศึกษา สามารถด้าเนินชีวิตร่วมกันได้อย่างมีความสุข ท่ามกลางความแตกต่างท้ังเชื้อชาติ ศาสนา ๒๓
วัฒนธรรมประเพณี มีความม่ันคงทางอารมณ์ แสดงออกถึงมารยาททางสังคมได้อย่างเหมาะสมในการ ด้าเนินงานของโรงเรียนได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดี จากคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพ้ืนฐาน คณะกรรมการเครอื ข่ายผ้ปู กครอง ชุมชน และกลมุ่ ภาคีเครอื ขา่ ยตา่ ง ๆ ภาวะคกุ คาม โรงเรยี นตั้งอยใู่ นชมุ ชนร่มเกล้า ประชาชนท่ีอาศยั อยู่ในโครงการเคหะร่มกล้าส่วนใหญ่ เป็นประชาชน ท่ียา้ ยมาจากชุมชนแออัดในกรงุ เทพมหานครและย้ายถ่ินฐานมาจากพื้นที่ต่างๆ สภาพสังคมมีการเติบโตอย่าง รวดเร็ว ชุมชนมีความหลากหลายทางวัฒนธรรมและรูปแบบการด้ารงชีวิต ส่งผลให้เกิดปัญหามากมายใน ชุมชน เชน่ ปญั หาเรือ่ งการไร้ระเบยี บวินัย ปัญหาการทะเลาะวิวาท ปญั หาเรอ่ื งคุณภาพชีวิต และความเป็นอยู่ ท่ีส้าคัญคือปัญหาเก่ียวกับยาเสพติด ซ่ึงปัญหาดังกล่าวล้วนมีผลกระทบต่อนักเรียนของโรงเรียนเคหะชุมชน ลาดกระบัง เน่ืองจากนักเรียนเป็นผทู้ ีอ่ าศยั อยใู่ นครอบครวั ของชมุ ชน และสภาพแวดล้อมทอ่ี าจมีส่วนเกี่ยวข้อง กับปญั หาดงั กลา่ วซึง่ อาจจะส่งผลใหน้ ักเรียนมีพฤติกรรมที่ไม่เหม่าะสมและกระทบถงึ การเรียน ขอ้ เสนอแนะเพ่ือการพฒั นา (อธบิ ายการดาเนนิ งานของสถานศึกษาว่าอยู่ในระดับใดและสามารถพัฒนาไปสู่ การเป็นต้นแบบ ได้รับการยอมรบั ในระดบั ทส่ี งู ขึ้นไดอ้ ย่างไร) โครงการโรงเรียนดีมาตรฐานสากล (ความสะอาด ความเป็นระเบียบ ความสุภาพ ความตรงต่อเวลา การมี สมาธ)ิ โรงเรยี นมผี ลการด้าเนินงาน ท่ีสะท้อนให้เห็นถึงความส้าเร็จขององค์กร ได้อย่างชัดเจน ผู้บริหารมีการ ก้าหนดวิสัยทัศน์ เพื่อเห็นภาพความส้าเร็จที่ต้องการในอนาคตและเกิดการพัฒนาอย่างเหมาะสม จัดท้า โครงการใหส้ อดคลอ้ งกับแผนยุทธศาสตรข์ องโรงเรยี น โดยคณะครูและบุคลากรของโรงเรียนมีส่วนร่วม มีการ รับฟังเสียงของนักเรียนและผู้ปกครอง เพ่ือให้ได้มาซ่ึงข้อมูลท่ีจ้าเป็นต่อการพัฒนาและปรับปรุง มีการจัด กระบวนการเรยี นการสอนท่ีสอดคลอ้ งกบั หลกั สตู ร บูรณาการหลักความดสี ากล ลงในหลักสตู รสง่ เสริมการเป็น โรงเรยี นวถิ ีพุทธ วิถีธรรม เพ่ือมุ่งสู่ความดีสากล บุคลากรในโรงเรียนท้างานเป็นทีม มีความมุ่งม่ันตั้งใจในการ ท้างาน มกี ารนิเทศติดตามอย่างเป็นระบบและสม้่าเสมอ ผู้บริหารร่วมคิด ร่วมท้า ร่วมแก้ปัญหา ให้ขวัญและ ก้าลังใจแกบ่ คุ ลากรและนักเรยี นในการร่วมมอื กนั ในการพัฒนาองค์กร ประสานภาคีเครือข่ายและผู้เก่ียวข้อง ในการพัฒนาจนส้าเร็จ การน้าโรงเรียนท่ีมีความโดดเด่นเฉพาะทางที่เป็นต้นแบบโดดเด่น ได้รับการยอมรับระดับชาติ (C2) เพื่อสร้างความโดดเด่นเฉพาะทาง ที่จะให้ได้รับระดับคุณภาพเป็นต้นแบบโดดเด่นได้รับการยอมรับระดับ นานาชาติ (C3) ขน้ั สงู สดุ น้นั ทางโรงเรียนต้องศึกษาข้อมูลโดยรอบด้าน โดยศึกษาจากงานวิจัยที่เก่ียวกับการ พฒั นาความโดดเด่นเฉพาะทาง ท่ีได้รับการยอมรับระดับนานาชาติ หรือศึกษาดูงานจากโรงเรียนในประเทศ ไทย ท่ีมีความโดดเด่นเฉพาะทาง และได้รับการยอมรับในระดับนานาชาติ ตลอดจนค้นคว้าจากข้อมูลทาง อนิ เทอร์เนต็ (Internet) ในระบบสังคม (Social) ท่มี ีนวตั กรรมความโดดเด่น ในลักษณะการด้าเนินงาน คล้าย กับโครงการโรงเรยี นความดีมาตรฐานสากล เพือ่ น้ามาปรับแก้จุดอ่อนและเสริมจุดแข็งให้มีความโดดเด่นยิ่งขึ้น เพ่ิมเติมในส่วนท่ีทางโรงเรียนยังไม่ได้ด้าเนินการท้า ให้ครอบคลุมรอบด้านเพ่ิมขึ้น เพื่อให้การด้าเนินการ ครอบคลุมในส่วนท่ียังขาดหายอยู่ จากนั้นน้าเสนอการด้าเนินการต่อสาธารณชน เพื่อให้ได้ข้อเสนอแนะ เพิม่ เตมิ ส้าหรบั โครงการดังกลา่ ว เปน็ ทยี่ อมรับตอ่ สาธารณะชนและนานาชาตใิ นโอกาสต่อไป ๒๔
คารบั รองของคณะผปู้ ระเมิน รายงานน้ไี ด้ตรวจสอบพจิ ารณาความถกู ต้องของรายงานในประเด็นตอ่ ไปนี้เรยี บรอ้ ยแล้ว ตรวจสอบคาผิด การใชภ้ าษา ตรวจสอบรูปแบบให้เปน็ ไปตามท่ี สมศ. กาหนด ตรวจสอบความถูกต้องของผลการประเมิน ตลอดจนความสอดคล้องตั้งแต่เนื้อหา จุดเด่น จุดท่ีควรพฒั นา ข้อเสนอแนะ ข้อเสนอแนะเพ่ือการพัฒนาสู่นวัตกรรม และการประเมินความโดดเด่นเฉพาะ ทาง รายช่อื ตาแหนง่ ลงช่ือ ๑. นายธรรมศักดิ์ กา้ มะณี ประธานคณะผปู้ ระเมนิ ๒. นางผกาวรรณ นันทวิชิต กรรมการคณะผู้ประเมนิ ๓. นางสาวณฐั ชนัญ พาภินโย กรรมการคณะผู้ประเมนิ 4. นายเศรษฐวรรษ พฒั น์สุวรรณ กรรมการและเลขานกุ าร วันที่ ๙ เดอื น กรกฎาคม พ.ศ.๒๕๖๒ ๒๕
Search
Read the Text Version
- 1 - 26
Pages: