1
2
พิพิธภณั ฑก์ ารศึกษา และการจดั แสดงนทิ รรศการ ดร.สภุ านี เสง็ ศรี ภาควิชาเทคโลยแี ละสอื่ สารการศกึ ษา คณะศึกษาศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยนเรศวร 3
4
คานา เน้ือหาภายในบทนี้จะอธิบายรายละเอียดของการทานิทรรศการและการออกแบบว่างแผนงาน เรา คานึงอยู่เสมอว่าหนังสือหรือเอกสารที่ใช่สาหรับการเรียนการสอนหรือฝึกอบรมน้ัน เป็นส่ือพิมพ์ท่ี ควรมีคุณสมบัติและรูปลักษณ์ที่แตกต่างไปจากหนังสือประเภทอ่ืนๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของ สาระเรื่องราวท่ีพิมพ์ในเอกสารเหล้าเหล่านั้นจะต้องมีความถูกต้องท้ังในเชิงวิชาการและ ภาษาศาสตร์ ดังนั้น นอกจากเรื่องของการออกแบบเล่มของเอกสารอย่างเป็นทางการแล้วต้องคานึงถึง เร่ืองเนื้อหาสาระอย่างเคร่งครัดอีกด้วย หนังสือเล่มนี้จะคงคาศัพท์เฉพาะท่ีเป็นอังกฤษท้ังนี้เพิ่ม ประโยชน์ตอ่ นิสิต นักศึกษาและผูอ้ ่านทจี่ ะศึกษาคน้ ควา้ ในแนวลึกตอ่ ไป นายกรัณฑ์ ใจแสน ผู้จดั ทา 5
สารบัญ บที่ 1 ความรเู้ บื้องตน้ เก่ยี วกบั การจดั ตงั้ พิพธิ ภัณฑ.์ .................................................8 นิยามของค�ำ ว่า พพิ ิธภณั ฑ์..........................................................................8 พิพธิ ภัณฑส์ ถานคอื อะไร..............................................................................8 ลักษณะของการจัดแสดง พพิ ธิ ภณั ฑย์ ุคใหม.่ ...............................................8 ประเภทของพพิ ธิ ภณั ฑ.์ ...............................................................................9 วัตถุประสงค์ของการศึกษาในพพิ ิธภณั ฑ์สถาน............................................9 ปจั จยั ที่สง่ เสริมการด�ำ เนินการพิพธิ ภัณฑ์....................................................10 บทท่ี 2 ความรู้เบื้องตน้ การจดั ตง้ั นิทรรศการ........................................................12 การจัดนทิ รรศการ.....................................................................................14 ประเภทของนทิ รรศการ............................................................................15 วตั ถุประสงคข์ องการจดั นทิ รรศการ..........................................................18 วัตถปุ ระสงคข์ องการจดั นิทรรศการในห้องสมดุ ........................................19 ประโยชน์ของการจดั นิทรรศการ...............................................................20 ขัน้ ตอนการจัดนทิ รรศการ........................................................................21 ภาคผนวก............................................................................................................24 บรรณษนกุ รม......................................................................................................29 6
7
ความรเู้ บือ้ งต้นเกี่ยวกบั การจัดต้ังพิพธิ ภัณฑ์ นิยามของคาวา่ พิพธิ ภณั ฑ์ สถานบนั ใดกต็ ามทตี่ ้ังข้ึนโดยไม่หวังผลประโยชน์หรอื หากาไร จดั ตัง้ ขึน้ เพือ่ บริการรบั ใช้สงั คมและเพื่อการพฒั นาสงั คมและเปดิ ใหส้ าธารณะชนท่ัวไปเข้า ชมจัดแสดงเผยแพร่โดยมจี ดุ มงุ่ หมายเพื่อการศึกษาหาความรู้ เพื่อการศึกษาเลา่ เรยี นเพ่อื บันเทิงใจต่อหลกั ฐานทางวตั ถุ พพิ ธิ ภณั ฑส์ ถานคอื อะไร คือ สถาบนั ทีจ่ ัดตงั้ ขน้ึ เพ่ือรวบรวม สงวนรกั ษา ศกึ ษา ค้นคว้า วจิ ยั และ จดั แสดง วัตถทุ เี่ ปน็ หลกั ฐานเกีย่ วข้องกบั มนุษย์และสง่ิ แวดลอ้ ม ทางวฒั นธรรม และวทิ ยาศาสตร์ เพ่อื ประโยชนใ์ นการศกึ ษา และความเพลิดเพลนิ ให้รวมถึงหอ ศลิ ปะ อนุสรณส์ ถานทางประวัตศิ าสตร์ สวนสตั ว์ ลักษณะของการจัดแสดง พพิ ิธภัณฑ์ยุคใหม่ นาเสนอแก่นเรื่องราว (Thematic approach) แทนการเน้นแต่วัตถุ ( object - based ) ใช้แนวคิดแบบสร้างปฏิสัมพันธ์ระหว่างผู้ชมและสิ่งแสดง ( Interactive approach) พิจารณาเลอื กใช้สื่อหลายประเภท(multi-medium for the exhibition ) 8
ประเภทของพพิ ิธภัณฑ์ แบง่ ตามความเปน็ เจ้าของ 1 รฐั บาล(แห่งชาติ จงั หวดั ทอ้ งถิ่น) 2 เอกชน แบ่งตามลกั ษณะส่งิ ที่จัดแสดงแขนงตา่ ง 1 ศิลป์ (Art museums) 2 ศลิ ปส์ มัยใหม่ (Modern Art Museums) 3 โบราณคดีและประวัติศาสตร์ (Archaeology and History Museums) 4 ชาตพิ นั ธวุ ทิ ยาและพืน้ เมอื ง (Ethnology and Folk Museums) 5 ธรรมชาตวิ ทิ ยา (Natural Science Museums) 6 วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (Museums of Science and Technology) 7 ส่วนภูมิภาค (Regional Museums) 8 เฉพาะเร่ือง (Specialized Museums) วัตถปุ ระสงคข์ องการศึกษาในพพิ ิธภัณฑ์สถาน ประชาชน 1 เพ่อื ให้ เกดิ ความรู้ ทราบข้อเท็จจรงิ ต่างๆ 2 เพ่อื ให้ เกิดความคดิ เกิดจติ สานกึ ในคณุ ค่าตา่ งๆ 3 เพื่อให้ เกิดความสขุ ได้รบั ความเพลิดเพลิน 9
เยาวชน ส่งเสริม ใช้ความคิด ใช้เหตุผล ให้เห็นคุณค่า เกิดความสนใจในเรื่องท่ีจัด แสดง ฝึกทักษะการค้นคว้า ศึกษา สร้างนิสัยในการหาความรู้ตลอดเวลา เพ่ิม รสนยิ ม ปจั จัยท่ีสง่ เสรมิ การดาเนินการพิพธิ ภณั ฑ์ 1 สถานท่ี จัดเตรยี มความสดวกสบายแก่ผู้ชมในพนื้ ที่สาธารณะ 2 การจัดแสดง มีการท่ดี ี ทันสมยั ดึงดดู ความสนใจ เทคนิคการ นาเสนอสมั พนั ธ์กบั วัตถแุ ละเรื่องราว 3 เจ้าหน้าที่ มีการประสานงานเพ่ือดาเนินงาน และบริการ เผยแพร่จัด นิทรรศการ จดั บรรยายพิเศษ ทางวชิ าการ 4 ความร่วมมอื ภายนอก ได้รับความรว่ มมือจากภาครัฐหรือ เอกชน การออกแบบภายในพิพธิ ภัณฑ์ (Interior Design) พน้ื ท่ีท่ัวไป การออกแบบเชิงพนื้ ท่ี (Spatial) การออกแบบสภาพแวดลอ้ ม (Environment) พืน้ ท่ีส่วนจัดแสดง การออกแบบนทิ รรศการ (Exhibition) 10
พน้ื ท่ใี ช้สอยและความสมั พันธ์ (Function diagram) คลงั สว่ นจดั แสดง บริการ พิพิธภัณฑ์ นทิ รรศการถาวร สาธารณะ เก็บรักษา โทรศัพท์ ซ่อมบารงุ โถง ห้องนา้ พกั คอย รา้ นค้า สานกั งาน ร้านอาหาร ห้อง เขา้ ออก หอ้ งสมุด นิทรรศการ บรรยาย ช่วั คราว รับฝากของ จาหนา่ ย 11 บตั ร ติดตอ่ สอบถาม พ้ืนท่ีทวั่ ไป (Function) พ้ืนที่จดั แสดง (Exhibition)
12
13
ความรู้เบื้องต้นการจดั ตงั้ นทิ รรศการ การจัดนิทรรศการ นิทรรศการ หมายถึง การให้การศึกษาอย่างหนึ่งด้วยการ แสดงงานให้ชม เป็นการจัดแสดงและนาโสตทัศนวัสดุรวมถึงวัสดุต่าง ๆ ที่ให้ ข้อมูล ข่าวสาร ท่ีผู้ชมสามารถสัมผัส เรียนรู้ ทดลองใช้ หรือมีกิจกรรมเสริม ประกอบ นิทรรศการเป็นสื่อในการให้การศึกษา ความรู้ความเข้าใจ เพื่อกระตุ้น ความสนใจ ตอบสนองและเปลีย่ นแปลงพฤตกิ รรมของผชู้ มให้บรรลสุ ู่เปา้ หมายใน เรอื่ งนน้ั ๆ การจดั แสดงนิทรรศการ ทางานอยา่ งไร ? 1. ต้องชดั เจน ไม่เปล่ียน ไมโ่ ลเล 2. ความพรอ้ มของทมี ทเ่ี กย่ี วขอ้ ง ใครเกยี่ ว/ ใครไมเ่ กย่ี ว 3. มคี วามเขา้ ใจในกระบวนการทานิทรรศการ การเกาะตดิ สถานการณ์ มคี วามเปน็ ทมี 4. วางแผนการบริหารหรอื การใหบ้ ริการ ท่ีมา : https://www.google.com/url?sa=i&source=images&cd=&ved=2ahUKEwjlpLLMtL3iAhXy63MBHZn3AKUQjRx6BAgB EAU& 14
ประเภทของนทิ รรศการ การแบ่งประเภทของนิทรรศการ สามารถแบง่ ได้ดังนี้ 1.แบ่งตามการจาแนกประเภทของนทิ รรศการ 2.แบง่ ตามขนาดของนิทรรศการ 3. แบง่ ตามจดุ มุง่ หมาย ท่ี มา : https://www.google.com/url?sa=i&source=images&cd=&ved=2ahUKEwjXvOmxsr3iAhWGr48KHXLBB0kQj Rx6BAgBEAU&url=https%3A%2F%2Fwww.soimilk.com%2Fcity-living%2Fnews%2Frattanakosin- museum&psig=AOvVaw0DDwZwX0-X0a0_jXi1IDIb&ust=1559104332872191 1. จาแนกจากกาหนดระยะเวลา แบ่งเป็น 2 ประเภท คือ 1.1 นิทรรศการ ถาวร (Permanent Exhibition) คือ นิทรรศการที่จัดอยู่ในท่ีใดท่ีหนึ่งเป็นระยะ เวลานาน ๆ หรอื ตลอดไป เปน็ การรวบรวมและการจัดแสดงสิ่งต่าง ๆ โดยเฉพาะ วัตถุสิ่งของท่ีแสดงเร่ืองราวที่เกิดข้ึนแน่นอน เช่น สิ่งที่แสดงเร่ืองราวทาง ประวัติศาสตร์ สังคมศาสตร์ วิทยาศาสตร์ โบราณคดีและศิลปะ เป็นต้น ได้แก่ นิทรรศการในหอศลิ ป์แหง่ ชาติ พิพธิ ภณั ฑ์สถานแหง่ ชาติ พิพิธภัณฑ์หุ่นขี้ผ้ึง เมือง โบราณ เมอื งจาลอง ห้องแสดงประวตั สิ ถาบนั เป็นตน้ 1.2 นิทรรศการชัว่ คราว (Temporary Exhibition) คือ นิทรรศการที่จัดอยู่ในที่ ใดที่หน่ึงเป็นระยะเวลาสั้น ๆ สามารถแบ่งตามวัตถุประสงค์ของการจัดได้เป็น 2 ประเภท คอื 15
1.2.1 นทิ รรศการชั่วคราวท่จี ัดแสดงเปน็ เอกเทศ 1.2.2 นิทรรศการชวั่ คราวท่ีจัดแสดงเพอื่ เสริม นิทรรศการถาวร การจัดแสดงเร่ืองราวเรื่องใดเร่ืองหนึ่งในโอกาสต่าง ๆ หรือ โอกาสพิเศษ เช่น การจัดนิทรรศการในงานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติ การจัด นิทรรศการในงานสัปดาห์ห้องสมุด เช่น นิทรรศการสารนิเทศระบบเครือข่าย อินเตอร์เน็ต นิทรรศการในห้องสมุด เช่น วันปีใหม่ วันตรุษจีน วันเข้าพรรษา นาเสนอหนังสอื ใหม่ ฯลฯ 2. การจาแนกจากกาหนดสถานท่ี แบง่ เปน็ 3 ประเภท คอื 2.1 นทิ รรศการในรม่ (Indoor Exhibition) เปน็ นทิ รรศการที่จดั แสดงขึ้นภายใน อาคาร โดยอาจใช้สถานท่ีบริเวณส่วนต่าง ๆ เช่น ภายในห้อง เฉลียง ห้องโถง หอประชมุ เป็นตน้ 2.2 นทิ รรศการกลางแจง้ (Outdoor Exhibition) เป็นการจดั นิทรรศการขนาด ใหญ่ มีผู้ร่วมงานจากหน่วยงาน องค์กรธุรกิจหลายสาขา มีจุดมุ่งหมายให้ ประชาชนจานวนมากได้มีโอกาสเข้าชม โดยจัดในบริเวณที่มีพ้ืนที่กว้าง เช่น สนามหลวง วังสราญรมย์ สวนลุมพินี หรือที่สนามในสถาบันการศึกษา 2.3 นิทรรศการหมุนเวียน (Traveling Exhibition) เป็นนิทรรศการหมุนเวียน เปลยี่ นสถานทีจ่ ัดแสดง เช่น ผลงานศิลปะท่ีนักศึกษาในกรุงเทพฯ นาไปจัดแสดง ที่เชียงใหม่ สงขลา หรือภาคอีสานหมุนเวียนสลับกันไป เป็นการแลกเปลี่ยน ประสบการณ์ ทัศนะและเผยแพร่ใหผ้ ู้ชมในทอ้ งถ่ินไดร้ ู้เหน็ เพื่อความก้าวหน้าทาง วิชาการ หรือข่าวสารข้อมูลต่างๆ บางครั้งนิทรรศการช่ัวคราวบางอย่างก็ใช้เป็น นิทรรศการหมนุ เวยี นดว้ ย 2. แบ่งตามขนาดของนิทรรศการ ได้แสดงความเห็นเกี่ยวกับลักษณะหรือ ขบวนการของการส่ือความหมายของคาที่มีความหมายใกล้เคียงกับคาว่า นิทรรศการอีกคาหน่ึง คือคาว่า ดิสเพลย์ (Display) ซ่ึงบางคนเข้าใจว่ามี 16
ความหมายเดียวกันกับนิทรรศการ แต่แท้จริงแล้ว ดิสเพลย์ หมายถึง การจัด แสดงภาพและวตั ถุเร่ืองใดเรื่องหน่งึ ที่ ที่มา : https://www.google.com/url?sa=i&source=images&cd=&ved=2ahUKEwib0fTZsr3iAhWDr48KHYxlAZ0QjRx6BA gBEAU&url=https%3A%2F%2Fwww.sanook.com%2Ftravel%2F1395619%2F&psig=AOvVaw0DDwZwX0- X0a0_jXi1IDIb&ust=1559104332872191 จากทัศนะดังกล่าวสามารถสรุปได้ว่านิทรรศการ แบ่งออกเปน็ 3 ขนาด ได้แก่ 1. นิทรรศการขนาดเล็ก (Display) ได้แก่ การจัดนิทรรศการต่าง ๆ ท่ีมีเน้ือเร่ือง ไม่ยาวนักและใช้เนื้อที่ในการจัดไม่มากนัก อาจจะจัดเพียง 1-2 ป้าย หรือจัดวาง บนช้ัน บนโต๊ะเล็ก ๆ บนโต๊ะรับจ่ายหนังสือ เช่น การจัดนิทรรศการหนังสือใหม่ การจัดนิทรรศการวันสาคัญต่าง ๆ ฯลฯ ในห้องสมุดหรือในช้ันเรียน ตามร้านค้า เช่น นิทรรศการในตู้กระจก (Window display) อาจจัดทาเกี่ยวกับห้วข้อใด หัวขอ้ หนึง่ เพียงหวั ข้อเดียว หรอื จดุ มงุ่ หมายอนั ใดอันหนึ่งโดยเฉพาะ เช่นการจัดตู้ โชว์สินค้าหน้าร้าน การจัดแสดงสินค้าในบล็อก (Block) พื้นท่ีแต่ละส่วนใน หา้ งสรรพสินค้า การแสดงผลงานดีเด่นของใครคนใดคนหนงึ่ เป็นตน้ 2. นิทรรศการขนาดกลาง (Exhibition) คือ การจัดแสดงที่มจี ุดมงุ่ หมาย หลากหลายอย่ใู นพนื้ ท่กี ว้างขวาง โดยอาจมีการจัดแสดงขนาดยอ่ ยรวมอยใู่ น บรเิ วณเดียวกัน เช่น การจัดแสดงนทิ รรศการทางวิชาการ งานแสดงอญั มณีและ เครอ่ื งประดับ นิทรรศการทางศลิ ปะ ตลอดจนการแสดงสินคา้ ตกแตง่ บา้ น และ 17
การแสดงสงิ่ ตา่ ง ๆ ในรูปแบบพพิ ิธภณั ฑ์ การจดั ป้ายนิทรรศการหลาย ๆ ป้าย หรือหลายตู้ หลายชั้น เป็นปา้ ยนทิ รรศการขนาดใหญ่ อาจมีกจิ กรรมอน่ื ๆ ประกอบด้วย เช่น จัดนทิ รรศการงานสปั ดาหห์ อ้ งสมุดในโรงเรียน หรือห้องสมุดมี กิจกรรมตา่ ง ๆ เชน่ กิจกรรมการแสดงบนเวที ตอบปัญหา เลา่ เรอื่ งหนังสือ เชิญ นักเขียนมาบรรยาย นิทรรศการพระราชประวัติของพระเจา้ ตากสนิ มหาราช นทิ รรศการตราไปรษณียากร ฯลฯ 3. นทิ รรศการขนาดใหญ่ (Exposition) ได้แก่ การจดั นทิ รรศการระดบั ชาติ หรอื ระดับโลก ที่เรยี กว่า มหกรรม ซงึ่ รวมท้ัง งานแสดงสนิ คา้ ตา่ ง ๆ ดว้ ย เช่น งานแสดงสินค้าโลก งาน EXPO งานกล้วยไม้ โลก นิทรรศการงานแสดงเกษตรและอุตสาหกรรมโลก 3. แบ่งตามจุดมงุ่ หมาย แบ่งนทิ รรศการตามจดุ มุ่งหมาย ไดด้ ังนี้ 1. นิทรรศการเพื่อการประชาสัมพันธ์ คือขบวนการสื่อความหมายจากผู้จัด หรือสถาบนั ไปสูก่ ลุ่มประชาชนเป้าหมายผ่านสื่อประชาสัมพันธ์ประเภทต่าง ๆ ท่ี เหมาะสม สนับสนนุ ซ่ึงกนั และกันตัง้ เปา้ หมายแน่นอนว่าตอ้ งการให้ผู้ชมหรือกลุ่ม ประชาชนเป้าหมายได้รับอะไรจากการมาชมนิทรรศการบ้างซึ่งโดยมากจะแฝง ความรูไ้ วไ้ ม่มากกน็ อ้ ย 2. นิทรรศการเพื่อการศึกษา การจัดนิทรรศการเพ่ือการศึกษาให้ความรู้กับ นักเรียนสามารถจัดได้ในห้องเรียน ภายนอกอาคาร ในอาคารหรือใน มหาวทิ ยาลัยก็ได้ 3. นิทรรศการเพอ่ื สง่ เสรมิ การขาย การจดั นิทรรศการเพื่อการส่งเสริมการขาย ของบรษิ ทั หรือร้านคา้ มักนยิ มจดั ในโรงแรม เพราะสะดวก มสี ถานทก่ี วา้ งขวาง และเป็นทีร่ ้จู ักดขี องคนทัว่ ไป วตั ถปุ ระสงค์ของการจัดนิทรรศการ สามารถกาหนดวตั ถุประสงคเ์ ป็นเป้าหมาย ไว้กว้าง ๆ ดงั น้ี 1. เพื่อสร้างประสบการณ์การเรียนรู้ต่าง ๆ ให้แก่ผู้ชม โดยพยายามให้ใกล้เคียง กบั ประสบการณ์ตรงมากทส่ี ดุ 18
2. เพื่อให้ผู้ดูสามารถรับรู้รูปแบบและเร่ืองราวหลาย ๆ ส่ิงพร้อมกันในเวลา เดยี วกนั 3.เพื่อส่งเสริมการแสดงออกท่ีให้ความรู้ความเข้าใจแก่ผู้จัดและผู้ชม ซึ่งนับเป็น การถา่ ยทอดและการเรยี นรวู้ ธิ ีหนึ่ง 4.เพื่อให้ผู้ชมมองเห็นภาพและเกิดความเข้าใจในความคิดท่ีเป็นนามธรรมไปสู่ ความคดิ ที่เป็นรปู ธรรม 5. เพื่อพัฒนาเปล่ียนแปลงพฤติกรรมของผู้ชม ท้ังด้านพุทธิพิสัย เจตพิสัย และ ทกั ษะพสิ ยั ให้เปน็ ไปในทางทพ่ี งึ ประสงคข์ องผจู้ ดั วัตถปุ ระสงค์ของการจดั นทิ รรศการในห้องสมดุ การจดั นิทรรศการเปน็ กิจกรรมส่งเสริมการอา่ นประเภทหน่ึงทมี่ ีจดุ มุ่งหมาย ดงั นี้ 1. กระตุ้นและดึงดูดความสนใจให้อยากอ่านหนังสือและสื่อการอ่านอ่ืน ๆ ท่ี เก่ียวข้องในเรื่องทจี่ ดั นทิ รรศการ 2. เป็นการแนะนาให้รู้จักอ่านหนังสือในสาขาวิชาต่าง ๆ ทั้งในหลักสูตรและ ประกอบหลักสูตร เพ่ือเพิ่มพูนความรู้ทั้งในด้านการศึกษาเล่าเรียน และความรู้ เพ่ือพัฒนาอาชีพ ซงึ่ หนงั สอื และส่อื มีเป็นจานวนมาก แต่ผ้อู า่ นอาจจะไม่รจู้ กั 3. เพื่อแสดงให้ผู้อ่านได้ทราบว่ามีหนังสือใหม่ ๆ หรือส่ือการอ่านใหม่ ๆ ที่ ทนั สมยั ในหอ้ งสมุดท่ผี ้อู า่ นจะไดม้ ายืมอา่ นหรอื มาใชบ้ รกิ ารในห้องสมุดได้ 4. เพื่อแนะนาหนังสือและสื่อต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์สาคัญ วันสาคัญ ๆ ในรอบปี เทศกาลและประเพณีสาคัญ ๆ ต่าง ๆ บุคคลสาคัญท่ีมีชื่อเสียง ท้ังชาว ไทยและชาวต่างประเทศ ตลอดจนนักประพันธ์และผลงานท่ีดีเด่นที่ผู้อ่านควรจะ อ่าน เปน็ การเพ่มิ พูนความร้แู ละขยายโลกทัศน์ของผอู้ ่านใหก้ วา้ งขวางยงิ่ ขนึ้ ประโยชน์ของการจดั นทิ รรศการ 19
1เพื่อเพ่ิมพูนความรู้ความสนใจให้แก่ผู้ชมได้อย่างมีสมาธิ การจัดนิทรรศการจะ ช่วยให้ผชู้ มเกดิ สมาธิ นิทรรศการสามารถดึงความสนใจเฉพาะเรื่องได้เป็นอย่างดี และรวบรวมความคดิ ที่เปน็ นามธรรมนาไปสู่ความคดิ ทเ่ี ป็นรปู ธรรม 2. เพ่ิมพูนความรู้ในเร่ืองท่ีจัดนิทรรศการ ช่วยให้มองเห็นภาพและเกิดความ เขา้ ใจไดง้ า่ ยขน้ึ 3.ช่าวยกระตุ้นหรือเร้าความสนใจ และเกิดความคิดสร้างสรรค์ในเรื่องท่ีได้ดูจาก นิทรรศการ ส่วนในด้านการขาย การโฆษณา ประชาสัมพันธ์สินค้า การชักจูง ประชาชนให้สนใจและเข้าใจในเรื่องของการเมือง การปกครอง ตลอดจนการ สง่ เสริมคณุ ภาพชีวติ นิทรรศการมีส่วนช่วยไดม้ าก 4.ในการศกึ ษาเลา่ เรียน ถา้ ให้นักเรยี น นักศกึ ษา เป็นผู้จัดนิทรรศการด้วยตนเอง จะช่วยส่งเสรมิ การแสดงออก และก่อให้เกิดความคิดสร้างสรรค์ และทาให้เข้าใจ บทเรยี นมากย่ิงขนึ้ 5. สามารถนาความรู้ไปใช้ให้เกิดประโยชน์ การจัดแสดงนิทรรศการในการให้ การศึกษานี้ ผู้จัดยังคาดหวังให้ผู้รับรู้สามารถนาความรู้นั้น ๆ ไปใช้ให้เป็น ประโยชน์แก่สังคม โดยช่วยพัฒนาผู้อ่ืนและสังคมให้เจริญก้าวหน้าไปตาม ครรลองอนั ดีงามของสังคมแต่ละยุคสมยั ได้ 6.ให้เกิดการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม เพื่อสร้างประสบการณ์และพัฒนาการ เปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้รับรู้ให้เป็นไปในทิศทางท่ีพึงประสงค์ ซ่ึงมีการ เปล่ียนแปลงพฤติกรรมด้านความรู้คิดและแก้ปัญหา ช่วยให้เกิดทักษะและ ความสามารถทางสตปิ ัญญาอนั จะทาให้แนวความคิดเปล่ียนแปลงไปส่งผลให้เกิด การเปลยี่ นแปลงพฤตกิ รรม ดา้ นทกั ษะและความชานาญ คอื การเปล่ียนแปลงใน การเคล่ือนไหวและการใช้อวัยวะต่าง ๆของร่างกาย เพราะเม่ือมีความชานาญ มากข้ึน สามารถทาส่ิงต่าง ๆ ได้อย่างคล่องแคล่วและเหมาะสมกว่าผู้อ่ืน และ ด้านเจตคติ เป็นผลให้บุคคลน้ันมีค่านิยมสูงข้ึน มีจิตใจ มีทัศนคติต่อส่ิงต่าง ๆ ดี ข้ึน 20
7. เพ่ิมพูนความรู้ในเร่ืองที่จัดนิทรรศการ เช่น จัดนิทรรศการเรื่องการพับ ผา้ เชด็ หนา้ จดั นทิ รรศการเรือ่ ง ชีวประวัติของสุนทรภู่ นกั กวีผมู้ ีช่ือเสียง จะทาให้ มคี วามร้เู ร่ืองการพบั ผ้าเช็ดหน้าแบบต่าง ๆและชีวประวัติของสุนทรภู่เป็นอย่างดี นอกเหนือจากที่เคยพบเห็นหรือเคยอา่ นมาแลว้ หรอื ยังไม่เคยอ่านมาก่อน เพราะ การจัดนิทรรศการช่วยมองเห็นภาพและเกิดความเข้าใจได้ง่ายขึ้น และสามารถ ดึงดูความสนใจเฉพาะเร่ืองได้เป็นอยา่ งดี กล่าวได้ว่านิทรรศการมีบทบาทสาคัญในการศึกษา มิใช่เพียงหน้าท่ีของ โรงเรียนเท่านั้นที่จะตอบสนองเกี่ยวกับการให้ความรู้ ข้อมูล ข่าวสาร ความก้าวหน้าในวิทยาการต่าง ๆ ที่ต้องให้นักเรียนได้เรียนรู้และทาความเข้าใจ เพือ่ นาไปใช้ในการดาเนนิ ชีวติ ประจาวันได้ทันต่อสภาวการณ์ที่เปลี่ยนแปลง และ การเป็นผู้ใฝ่รู้ใฝ่เรียนของนักเรียนในการใช้ประโยชน์ข องนิทรรศการจะช่วย สง่ เสรมิ และจงู ใจใหส้ นใจ ท้ังในการอ่าน การศึกษาเล่าเรียน ก่อให้เกิดการเรียนรู้ อยา่ งมีประสิทธภิ าพ เกดิ การพฒั นาตนเองอยา่ งอย่างแท้จรงิ ขัน้ ตอนการจดั นทิ รรศการ 1. ข้นั วางแผน - ตั้งหวั เรื่อง - วัตถุประสงค์ 2. การเตรยี ม - รวบรวมแนวความคดิ - กาหนดสถานที่ - กาหนดกจิ กรรมสาหรบั ผูเ้ ขา้ ชม - ออกแบบ - ทาแผนผังท่ีตดิ ตง้ั 21
– ทาตวั อักษรช่ือนทิ รรศการและสญั ลกั ษณ์ท่ตี อ้ งการ 3. การจดั ทา - แสวงหาบุคลากร - จัดหาวสั ดอุ ุปกรณ์ - ก่อสร้างและปฏบิ ัตงิ าน 4. การประชาสมั พันธ์ - วทิ ยุ โทรทศั น์ หนังสือพิมพ์ - โปสเตอร์ สตกิ เกอร์ - เอกสารและแผน่ พับ 5. การนาเสนอ - พิธเี ปิด - สาธติ และกิจกรรมประกอบ 6. การประเมินผล - สังเกตพฤตกิ รรมผเู้ ข้าชม - แจกแบบสอบถาม 7. การตดิ ตาม - รายงานผลทางส่ือมวลชน 22
- ทาเอกสารรายงาน คุณคา่ ของนทิ รรศการ 1. เป็นแหล่งรวบรวมความรู้ ความคดิ และขอ้ มูลตา่ ง ๆ 2. เปน็ แหล่งถ่ายทอดสิ่งท่ีเป็นนามธรรมให้เป็นรูปธรรมได้โดยอาศัยสื่อต่าง ๆจึง ทาใหเ้ ข้าใจงา่ ยข้ึน 3. เป็นการถ่ายทอดประสบการณ์ที่มีประสิทธิภาพโดยเปิดโอกาสให้ผู้ชมมีส่วน รว่ มใน กจิ กรรมตา่ ง ๆ 4. เปน็ การสง่ เสริมการทางานเปน็ หม่คู ณะไดเ้ ป็นอยา่ งดี 5. การใช้สอ่ื หลายชนิดในการจดั แสดงนิทรรศการ คุณสมบัติของผจู้ ดั นิทรรศการ 1.มีความรูพ้ นื้ ฐานทางจติ วทิ ยาหรือการท า ความเข้าใจในธรรมชาตขิ องมนษุ ย์ 2.มปี ระสบการณแ์ ละความรู้ความสามารถใน วิทยาการแขนงตา่ ง ๆ 3.มีความคิดสร้างสรรค์ 4.มีแรงจงู ใจ มีความมมุ านะ มคี วามสขุ ทจี่ ะ 23
ภาคผนวก https://www.google.com/url?sa=i&source=images&cd=&ved=2ahUKEwjXvOm xsr3iAhWGr48KHXLBB0kQjRx6BAgBEAU&url=https%3A%2F%2Fwww.soimilk.c om%2Fcity-living%2Fnews%2Frattanakosin- museum&psig=AOvVaw0DDwZwX0-X0a0_jXi1IDIb&ust=1559104332872191 https://www.google.com/search?q=%E0%B8%A3%E0%B8%B9%E0%B8%9B% E0%B8%88%E0%B8%B1%E0%B8%94%E0%B8%9E%E0%B8%B4%E0%B8%9E %E0%B8%B4%E0%B8%98%E0%B8%9E%E0%B8%B1%E0%B8%93%E0%B8% 91%E0%B9%8C&rlz=1C1GIGM_enTH780TH780&source=lnms&tbm=isch&sa= X&ved=0ahUKEwjapPPKrr3iAhVJpo8KHRDFA9IQ_AUIDigB&biw=1920&bih=969 #imgrc=8oMGCVeHzdhv1M: 24
https://www.google.com/url?sa=i&source=images&cd=&ved=2ahUKEwib0fTZ sr3iAhWDr48KHYxlAZ0QjRx6BAgBEAU&url=https%3A%2F%2Fwww.sanook.co m%2Ftravel%2F1395619%2F&psig=AOvVaw0DDwZwX0- X0a0_jXi1IDIb&ust=1559104332872191 https://www.google.com/url?sa=i&source=images&cd=&ved=2ahUKEwiy44rns b3iAhUJ3o8KHUXdCCcQjRx6BAgBEAU&url=http%3A%2F%2Flibrary.yru.ac.th% 2Fview%2F605_%25E0%25B8%2599%25E0%25B8%25B4%25E0%25B8%2597 %25E0%25B8%25A3%25E0%25B8%25A3%25E0%25B8%25A8%25E0%25B8% 2581%25E0%25B8%25B2%25E0%25B8%25A3_&psig=AOvVaw3fmpaWNEq0tl o2c5KxxaNz&ust=1559104170734980 25
https://www.google.com/url?sa=i&source=images&cd=&ved=2ahUKEwje7ZP8 sb3iAhXEK48KHYABJMQjRx6BAgBEAU&url=http%3A%2F%2Fbrm1.go.th%2F% 3Fp%3D2328&psig=AOvVaw2dbUUaSBkEKan1jym4b2nI&ust=1559104220413 45 https://www.google.com/url?sa=i&source=images&cd=&ved=2ahUKEwj4_tTd sL3iAhUHk3AKHawPCHkQjRx6BAgBEAU&url=https%3A%2F%2Fpantip.com%2 Ftopic%2F38363720&psig=AOvVaw2Zwigcf1bFlrtY9IBYx3bf&ust=15591038808 21944 26
https://www.google.com/url?sa=i&source=images&cd=&cad=rja&uact=8&ved =2ahUKEwimyd_Er73iAhXMqI8KHfsiBQcQjRx6BAgBEAU&url=%2Furl%3Fsa%3D i%26source%3Dimages%26cd%3D%26ved%3D%26url%3Dhttps%253A%252F %252Fwww.khaosod.co.th%252Fview_newsonline.php%253Fnewsid%253D1 467356035%26psig%3DAOvVaw3uVItW9BMZNTDGohXeWH1S%26ust%3D155 9103316596464&psig=AOvVaw3uVItW9BMZNTDGohXeWH1S&ust=155910331 6596464 https://www.google.com/url?sa=i&source=images&cd=&cad=rja&uact=8&ved =2ahUKEwjqjOKusL3iAhVTi3AKHes8C7sQjRx6BAgBEAU&url=%2Furl%3Fsa%3Di %26source%3Dimages%26cd%3D%26ved%3D%26url%3Dhttps%253A%252F %252Fwww.khaosod.co.th%252Fview_newsonline.php%253Fnewsid%253D1 467356035%26psig%3DAOvVaw3uVItW9BMZNTDGohXeWH1S%26ust%3D155 27
9103316596464&psig=AOvVaw3uVItW9BMZNTDGohXeWH1S&ust=155910331 6596464 28
บรรณานุกรม http://suphanburicampus.dusit.ac.th/report/31-08-55.pdf http://www.teacher.ssru.ac.th/jong_bo/file.php/1/Books/Museum.ppt http://www.catholichaab.com/main/index.php/abouthaab/history4 https://www.kroobannok.com/6709 29
Search
Read the Text Version
- 1 - 30
Pages: