57 เกณฑก์ ารใหค้ ะแนนการพดู ระดบั คะแนน เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน น้าหนัก/ คะแนน ประเดน็ 4 3 2 1 ความสาคญั รวม การประเมนิ ความถกู ตอ้ ง ออกเสียง ออกเสยี ง ออกเสียง ออกเสยี ง ตัวอักษร ตัวอกั ษร ความคลอ่ งแคลว่ คาศพั ท์และ คาศพั ทแ์ ละ ตัวอกั ษรคาศพั ท์ ตวั อักษร/ คา/ ประโยคได้ ประโยคได้ การแสดงทา่ ทางและ ถกู ตอ้ งตามหลกั ถกู ตอ้ งตามหลกั และประโยคได้ ประโยคผิด นา้ เสียงประกอบ การออกเสียง การออกเสยี ง การพูด ออกเสยี งเน้น ออกเสยี งเน้น ถกู ตอ้ งเป็น หลกั การออก หนัก-เบาในคา หนกั -เบาในคา และเสียงสูง-ตา่ และเสียงสูง-ต่า ส่วนใหญ่ ขาด เสียง ในประโยคอย่าง ในประโยคเปน็ สมบรู ณ์ ส่วนใหญ่ การออกเสียง ทาใหส้ ่ือสาร 2 8 เนน้ หนกั -เบาใน ไมไ่ ด้ 2 8 1 4 คาและเสยี งสูง- 5 20 ตา่ ในประโยค พดู ต่อเนอื่ ง พดู ตะกุก พูดเป็นคาๆ พูดได้บางคา ไมต่ ิดขัด ตะกักบา้ ง แต่ หยุดเปน็ ช่วงๆ ทาให้สอื่ พดู ชดั เจน ยังพอสื่อสารได้ ทาให้สื่อสาร ความหมาย ทาใหส้ ่อื สารได้ ไดไ้ ม่ชัดเจน ไมไ่ ด้ แสดงท่าทาง แสดงทา่ ทางและ แสดงท่าทางไม่ ไมแ่ สดงทา่ ทาง ประกอบการพูด และพูดด้วย พูดด้วยน้าเสียง เปน็ ธรรมชาติ พูดได้น้อยมาก น้าเสยี ง เหมาะสมกับ พูดเหมือนอ่าน เหมาะสมกบั บท บทพูดเปน็ ส่วน พดู อย่างสมบรู ณ์ ใหญ่ รวม การกาหนดระดบั คณุ ภาพโดยรวมทัง้ หน่วย 17-20 13-16 - ระดับดีมาก คะแนนระหวา่ ง 9-12 - ระดบั ดี คะแนนระหวา่ ง 0-8 - ระดับพอใช้ คะแนนระหวา่ ง - ระดับปรับปรงุ คะแนนระหวา่ ง
58
59 เกณฑ์การใหค้ ะแนนการอา่ น ระดบั เกณฑก์ ารให้คะแนน นา้ หนกั / คะแนน คะแนน 1 ความสาคัญ รวม 8 ประเด็น 4 32 8 การประเมนิ ตอบคำถำม ตอบคำถำม ตอบคำถำม ตอบคำถำม 4 ควำมเขำ้ ใจ หลงั จำกท่ี หลังจำกที่ หลงั จำกที่ หลงั จำกท่ี 20 อ่ำนได้ อำ่ นได้เกอื บ อ่ำนได้ อำ่ นได้น้อย ทง้ั หมด ท้ังหมด เลก็ น้อย มำก 2 2 กำรจับใจควำมสำคญั จับใจควำม จับใจควำม จับใจควำม จบั ใจควำม สำคญั ของ สำคัญของ สำคัญของ สำคัญของ เน้ือหำได้ เนื้ อ ห ำ ไ ด้ เนือ้ หำได้ เนอ้ื หำได้ ท้ังหมด เกอื บ เลก็ นอ้ ย น้อยมำก ท้งั หมด กำรรคู้ วำมหมำย เมอื่ อำ่ นพบ เม่ืออ่ำนพบ เมอ่ื อ่ำนพบ เมื่ออ่ำนพบ คำศพั ท์ คำศัพท์ใหม่ คำศัพท์ใหม่ คำศัพท์ใหม่ คำศพั ท์ใหม่ สำมำรถเดำ สำมำรถเดำ สำมำรถเดำ สำมำรถเดำ ควำมหมำย ควำมหมำย ควำมหมำย ควำมหมำย 1 คำศพั ท์จำก คำศัพท์จำก คำศัพท์จำก คำศพั ท์จำก บรบิ ทได้ บรบิ ทได้ บรบิ ทได้ บริบทได้นอ้ ย ทัง้ หมด เกือบ เล็กน้อย มำก ทงั้ หมด รวม 5
60
61 เกณฑก์ ารตดั สนิ คณุ ภาพ ดี พอใช้ ปรบั ปรุง ระดบั คณุ ภาพ คะแนนรวม 7-9 คะแนน 4-6 คะแนน ตา่ กว่า 4 คะแนน เกณฑ์การใหค้ ะแนนดา้ นคณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ : มวี ินยั คะแนน : ระดับคุณภาพ คุณลักษณะที่ปรากฏใหเ้ หน็ 3 : ดี ผลงานสะอาดเรยี บรอ้ ย ปฏบิ ตั ิตนอยใู่ นข้อตกลงท่กี าหนดใหร้ ่วมกนั ทกุ ครัง้ 2 : พอใช้ ผลงานสว่ นใหญส่ ะอาดเรยี บร้อย ปฏิบัติตนอยใู่ นขอ้ ตกลงท่ีกาหนดให้ร่วมกนั เปน็ ส่วนใหญ่ 1 : ปรับปรุง ผลงานไมค่ ่อยเรียบร้อย ปฏิบัติตนอย่ใู นขอ้ ตกลงท่ีกาหนดใหร้ ว่ มกนั บางครง้ั ตอ้ งอาศยั การแนะนา คณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ : ใฝเ่ รยี นรู้ คณุ ลักษณะทป่ี รากฏให้เหน็ คะแนน : ระดับคณุ ภาพ มีความสนใจ /ความตง้ั ใจตลอดระยะเวลาการเรียนรู้ 3 : ดี มีความสนใจ /ความตั้งใจเป็นบางครง้ั 2 : พอใช้ มคี วามสนใจ /ความตัง้ ใจในระยะเวลาสัน้ ๆ ชอบเลน่ ในเวลาเรยี น 1 : ปรบั ปรงุ คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ : มุ่งมั่นในการทางาน คะแนน : ระดับคุณภาพ คุณลกั ษณะทป่ี รากฏใหเ้ หน็ 3 : ดี สง่ งานก่อนหรอื ตรงกาหนดเวลานัดหมาย รับผดิ ชอบในงานทีไ่ ด้รบั มอบหายและปฏบิ ัตติ นจนเป็นนิสยั เป็นตัวอยา่ งแก่ผูอ้ ่นื และแนะนาชกั ชวน 2 : พอใช้ สง่ งานชา้ กว่ากาหนด รับผิดชอบในงานท่ไี ด้รบั มอบหายและปฏบิ ตั ิตนจนเป็นนิสัย 1 : ปรับปรงุ สง่ งานช้ากว่ากาหนด รบั ผดิ ชอบในงานท่ไี ดร้ ับมอบหายและปฏบิ ัตติ นจนเป็นนิสัย ปฏิบตั งิ านโดยอาศยั การช้ีแนะ แนะนา ตักเตือน
แผนการจดั การเรียนรูท้ ่ี 5 62 กลมุ่ สาระการเรียนรู้ ภาษาตา่ งประเทศ ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี 6 หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 1 เรือ่ ง About Myself เวลา 8 ช่วั โมง เรอ่ื ง Letter เวลา 1 ชวั่ โมง วันท.ี่ .........เดอื น.....................พ.ศ. .................. ภาคเรยี นท่ี 1 ปีการศึกษา 2565 1. สาระสาคญั / ความคิดรวบยอด การเขียนจดหมายถงึ เพอื่ นทางไปรษณีย์ด้วยภาษาอังกฤษ นอกจากชว่ ยใหน้ กั เรยี นนาความรูไ้ ป ประยุกต์ใช้ในสถานการณ์จริงไดแ้ ลว้ ยังสามารถเรียนรู้วัฒนธรรมกับเจ้าของภาษาหรือชาวตา่ งชาติที่ใช้ ภาษาองั กฤษในการส่อื สารไดอ้ กี ดว้ ย 2. มาตรฐาน/ตัวช้ีวัด/จุดประสงค์การเรียนรู้ 2.1 มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตีความเร่อื งท่ีฟังและอ่านจากสอ่ื ประเภทตา่ งๆ และแสดงความคิดเหน็ อย่างมี เหตุผล ต 1.3 นาเสนอขอ้ มูลข่าวสาร ความคิดรวบยอด และความคดิ เห็นในเรื่องตา่ งๆ โดยการพูดและการ เขียน ต 4.1 ใชภ้ าษาต่างประเทศในสถานการณต์ ่างๆ ทั้งในสถานศึกษา ชุมชน และสงั คม เป็นเคร่ืองมอื พน้ื ฐานในการศึกษาตอ่ การประกอบอาชีพ และการแลกเปลีย่ นเรยี นรูก้ ับสังคมโลก 2.2 ตัวช้ีวัด ต 1.1 ป.6/2 อา่ นออกเสยี งข้อความ นทิ าน และบทกลอนสัน้ ๆ ถูกต้องตามหลักการอา่ น ต 1.1 ป.6/4 บอกใจความสาคญั และตอบคาถามจากการฟังและอา่ นบทสนทนา นทิ านง่ายๆ และ เรอ่ื งเล่า ต 1.3 ป.6/1 พูด/เขยี นเพอื่ ให้ข้อมูลเกย่ี วกบั ตนเอง เพื่อน และส่ิงแวดลอ้ มใกล้ตวั ต 4.1 ป.6/1 ใช้ภาษาส่ือสารในสถานการณ์ตา่ งๆ ทีเ่ กิดขึ้นในหอ้ งเรยี นและสถานศกึ ษา 2.3 จุดประสงค์การเรยี นรู้ ความรู้ (K) การพดู ถาม-ตอบจากการอา่ น ทักษะ/กระบวนการ (P) การอ่านออกเสยี งข้อความจดหมาย เจตคติ (A) มวี นิ ัย ใฝเ่ รยี นรแู้ ละมุ่งมนั่ ในการทางาน
63 3. สาระการเรยี นรู้ Function : Asking for and giving information about oneself Structure : How long have you studied (English)? I’ve studied it for (six years). Vocabulary : คำศพั ทใ์ หม่ pen pal, hope 4. สมรรถนะสาคญั ของผเู้ รียน ความสามารถในการส่อื สาร ความสามารถในการคดิ ความสามารถในการแก้ปัญหา ความสามารถในการใชท้ ักษะชวี ติ ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี 5. คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ รักชาติ ศาสน์ กษัตรยิ ์ อยู่อย่างพอเพียง ซื่อสัตยส์ ุจริต มงุ่ มน่ั ในการทางาน มีวินัย รักความเปน็ ไทย ใฝ่เรียนรู้ มีจิตสาธารณะ 6. จดุ เน้นสู่การพัฒนาผู้เรยี น ความสามารถและทักษะของผเู้ รยี นศตวรรษที่ 21 (3Rs x 8Cs x 2Ls) R1– Reading (อา่ นออก) R2– (W)Riting (เขียนได)้ R3 – (A)Rithmetics (คดิ เลขเป็น) C1 - Critical Thinking and Problem Solving ( ทักษะด้านการคิดอย่างมวี จิ ารณญาณ และทักษะในการแกป้ ัญหา) C2 - Creativity and Innovation (ทกั ษะด้านการสรา้ งสรรค์และนวตั กรรม) C3 - Cross-cultural Understanding (ทักษะดา้ นความเขา้ ใจต่างวัฒนธรรม ตา่ งกระบวนทัศน)์ C4 - Collaboration, Teamwork and Leadership (ทักษะดา้ นความรว่ มมอื การทางานเป็น ทีม และภาวะผูน้ า) C5 – Communications, Information and Media Literacy (ทักษะดา้ นการส่อื สาร สารสนเทศ และรู้เทา่ ทันสอื่ ) C6 - Computing and ICT Literacy (ทกั ษะด้านคอมพิวเตอร์ และเทคโนโลยีสารสนเทศ และการสือ่ สาร) C7 - Career and Learning Skills (ทกั ษะอาชีพและทักษะการเรียนร้)ู C8 – Compassion (ความมเี มตตากรณุ า วินัย คุณธรรม จรยิ ธรรม) L1 – Learning (ทักษะการเรยี นร)ู้ L2 – Leadership (ทักษะความเปน็ ผูน้ า)
64 7. กิจกรรมการเรยี นรู้ 1. Warm up ครูสนทนากบั นกั เรียนเรื่องการเขยี นจดหมายถึงเพ่ือนคนหน่ึงทเ่ี ราไม่เคยพบมากอ่ น นกั เรียนจะ แนะนาตนเองและเล่าเรอ่ื งราวต่างๆ เกี่ยวกบั ตนเองอย่างไรบา้ ง รวมถงึ ใหน้ กั เรียนทบทวนแบบฟอรม์ จดหมาย ท่นี กั เรยี นเคยเรียนในกลมุ่ สาระภาษาไทย 2. Presentation นักเรยี นทากจิ กรรม Read the letter and say the answers. ในหนงั สอื หน้า 6 ดงั น้ี 2.1 สนทนาเก่ยี วกบั รปู แบบจดหมายในหน้านี้ ให้นักเรียนสังเกตเก่ียวกับทอ่ี ยขู่ องผูเ้ ขียน วันที่ คา ขึน้ ตน้ คาลงท้าย 2.2 สอนคาศพั ท์ใหม่ คือ pen pal (เพื่อนทางจดหมายแตไ่ ม่เคยพบกนั ) ใหน้ ักเรยี นออกเสียง คาศพั ท์ตามครแู ล้วแข่งกนั หาความหมายใน Dictionary 2.3 ครแู บง่ กลมุ่ ใหน้ ักเรยี นอ่านขอ้ ความในจดหมายในใจ แลว้ สนทนาเกี่ยวกับใจความของ จดหมายตามความเข้าใจ ครูสมุ่ ใหต้ ัวแทนของกลมุ่ ออกมาเล่าใหเ้ พ่อื นฟงั หลงั จากนน้ั ชว่ ยกนั สรุปข้อความใน จดหมายตามประเดน็ คาถาม เช่น Who wrote this letter? Is she a student? How old is she? How long has she studied English? Where is she from? What is her favorite sport? etc. 2.4 ครูเขยี นประโยค I have studied (English) for six years. และ I have played (ping- pong) on my school team for two years. ใหน้ ักเรยี นสังเกตคาท่ขี ีดเส้นใตแ้ ละบอกความหมายของ ประโยค ชแี้ จงให้นักเรยี นเข้าใจวา่ ประโยคลกั ษณะนี้ใชเ้ มอื่ กลา่ วถงึ เหตุการณ์ทเ่ี กดิ ขึน้ ในอดตี และดาเนนิ มา จนกระทัง่ ถงึ ขณะทพ่ี ดู อยู่ ใหน้ กั เรยี นพูดประโยคเกีย่ วกบั กจิ กรรมทีท่ ามาแลว้ และปัจจุบนั ยังทากิจกรรมน้นั อยู่ ครูคอยให้คาแนะนา และแกไ้ ขเมื่อพูดผิด แล้วเขียนประโยคนัน้ บนกระดานดา ให้นักเรียนช่วยกนั สรปุ ว่า คากรยิ าในประโยคใช้ have/has + คากรยิ าชอ่ งที่ 3 ซึง่ นักเรียนจะได้เรยี นอย่างละเอียดในช่วั โมงถดั ไป 2.5 ใหน้ กั เรียนอ่านออกเสยี งข้อความในจดหมายตามครู 3. Practice 3.1 ให้นกั เรยี นจบั คกู่ บั เพ่ือนฝกึ อ่านขอ้ ความในจดหมาย 3.2 นกั เรยี นผลัดกันถามและตอบคาถามทา้ ยจดหมาย 3.3 ใหน้ กั เรียนใชข้ ้อมลู ในจดหมายตอบคาถาม ซึง่ ครูถามคาถามจากคาถามทา้ ยจดหมาย โดยไม่ เรียงตามลาดับคาถามแนวคาตอบ
65 1. Jane lives in Thailand. 2. Her favorite sport is ping-pong. 3. She has played on her school team for two years. 4. She can speak English a little bit. 5. Because she has studied English for 6 years, but she can only speak, read and write a little bit. 3.4 ใหน้ กั เรียนจบั คู่กับเพอื่ นทาแบบฝกึ หัดใน Workbook หน้า 4 โดยใหใ้ ช้คาศพั ทใ์ น Keywords เติมลงในชอ่ งวา่ ง เม่อื ทาเสร็จแลว้ ครูสมุ่ นักเรยี นให้ออกมานาเสนอหน้าช้ันเรยี น 4. Production นกั เรยี นทาแบบฝกึ หดั ใน Workbook หนา้ 5 ให้นักเรยี นเขียนจดหมายเล่าเร่อื งราวเก่ยี วกบั ตนเองถงึ เพื่อน (เพ่ือนทางจดหมายที่ไมเ่ คยพบกนั มาก่อน) 5. Wrap up 5.1 ครูและนกั เรยี นชว่ ยกนั สรปุ รปู แบบการเขยี นจดหมาย ครูเขียนแบบฟอรม์ ลงบนกระดานดา ตามการสรุปของนกั เรียน แล้วให้นกั เรยี นบันทกึ ลงในสมดุ แบบฝกึ หัด 5.2 ครสู มุ่ นกั เรียนหรือขออาสาสมัครออกมาอา่ นจดหมายของตนเองใหเ้ พือ่ นๆ ฟงั 8. การวดั และประเมนิ ผล สง่ิ ท่วี ดั วิธวี ัดผล เคร่อื งมอื วดั ผล เกณฑก์ ารประเมินผล ดา้ นความรู้ (K) การพดู ถาม-ตอบจากการ ประเมนิ การพดู แบบประเมนิ การพูด 60% ขน้ึ ไป ผา่ น อ่าน ด้านทักษะกระบวนการ (P) การอ่านออกเสยี งข้อความ ประเมนิ การอ่าน แบบประเมินการอา่ น 60% ขึ้นไป ผา่ น จดหมาย ด้านคุณลักษณะ อนั พึงประสงค์ (A) มีวินัย ใฝ่เรียนรู้และมุ่งม่ัน การสังเกตการร่วม แบบประเมินคณุ ลกั ษณะอัน 60% ข้นึ ไป ผา่ น ในการทางาน กจิ กรรมในช้ันเรียน พงึ ประสงค์ 9. ส่อื /แหล่งเรยี นรู้ 9.1 สอ่ื การเรยี นรู้ 9.1.1 Student’s Book 6 9.1.2 Workbook 6 9.1.3 Dictionary 9.1.4 สมุดแบบฝึกหดั 9.2 แหลง่ เรยี นรู้ -
66
67
68
69 เกณฑก์ ารใหค้ ะแนนการพดู ระดบั คะแนน เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน น้าหนัก/ คะแนน ประเดน็ 4 3 2 1 ความสาคญั รวม การประเมนิ ความถกู ตอ้ ง ออกเสียง ออกเสยี ง ออกเสียง ออกเสยี ง ตัวอักษร ตัวอักษร ความคลอ่ งแคลว่ คาศพั ท์และ คาศพั ทแ์ ละ ตัวอกั ษรคาศัพท์ ตวั อักษร/ คา/ ประโยคได้ ประโยคได้ การแสดงทา่ ทางและ ถกู ตอ้ งตามหลกั ถกู ตอ้ งตามหลกั และประโยคได้ ประโยคผิด นา้ เสียงประกอบ การออกเสียง การออกเสยี ง การพูด ออกเสยี งเน้น ออกเสยี งเน้น ถูกตอ้ งเป็น หลกั การออก หนัก-เบาในคา หนกั -เบาในคา และเสียงสูง-ตา่ และเสียงสูง-ต่า สว่ นใหญ่ ขาด เสียง ในประโยคอย่าง ในประโยคเปน็ สมบรู ณ์ ส่วนใหญ่ การออกเสียง ทาใหส้ ่ือสาร 2 8 เนน้ หนกั -เบาใน ไมไ่ ด้ 2 8 1 4 คาและเสยี งสูง- 5 20 ตา่ ในประโยค พดู ต่อเนอื่ ง พดู ตะกุก พูดเป็นคาๆ พูดได้บางคา ไมต่ ิดขัด ตะกกั บา้ ง แต่ หยุดเปน็ ช่วงๆ ทาให้สอื่ พดู ชดั เจน ยังพอสื่อสารได้ ทาให้สื่อสาร ความหมาย ทาใหส้ ่อื สารได้ ไดไ้ ม่ชัดเจน ไมไ่ ด้ แสดงท่าทาง แสดงทา่ ทางและ แสดงท่าทางไม่ ไมแ่ สดงทา่ ทาง ประกอบการพูด และพูดด้วย พูดดว้ ยน้าเสียง เปน็ ธรรมชาติ พูดได้น้อยมาก น้าเสยี ง เหมาะสมกับ พูดเหมือนอ่าน เหมาะสมกบั บท บทพดู เปน็ ส่วน พดู อย่างสมบรู ณ์ ใหญ่ รวม การกาหนดระดบั คณุ ภาพโดยรวมทัง้ หน่วย 17-20 13-16 - ระดับดีมาก คะแนนระหวา่ ง 9-12 - ระดบั ดี คะแนนระหวา่ ง 0-8 - ระดับพอใช้ คะแนนระหวา่ ง - ระดับปรับปรงุ คะแนนระหวา่ ง
70
71 เกณฑ์การใหค้ ะแนนการอา่ น ระดบั เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน นา้ หนกั / คะแนน คะแนน 1 ความสาคัญ รวม 8 ประเด็น 4 32 8 การประเมนิ ตอบคำถำม ตอบคำถำม ตอบคำถำม ตอบคำถำม 4 ควำมเขำ้ ใจ หลงั จำกท่ี หลังจำกที่ หลงั จำกที่ หลงั จำกท่ี 20 อ่ำนได้ อำ่ นได้เกอื บ อ่ำนได้ อำ่ นได้น้อย ทง้ั หมด ท้ังหมด เลก็ น้อย มำก 2 2 กำรจับใจควำมสำคญั จับใจควำม จับใจควำม จับใจควำม จบั ใจควำม สำคญั ของ สำคัญของ สำคัญของ สำคัญของ เน้ือหำได้ เนื้ อ ห ำ ไ ด้ เนือ้ หำได้ เนอ้ื หำได้ ท้ังหมด เกอื บ เลก็ นอ้ ย น้อยมำก ท้งั หมด กำรรคู้ วำมหมำย เมอื่ อำ่ นพบ เม่ืออ่ำนพบ เมอ่ื อ่ำนพบ เมื่ออ่ำนพบ คำศพั ท์ คำศัพท์ใหม่ คำศัพท์ใหม่ คำศัพท์ใหม่ คำศพั ท์ใหม่ สำมำรถเดำ สำมำรถเดำ สำมำรถเดำ สำมำรถเดำ ควำมหมำย ควำมหมำย ควำมหมำย ควำมหมำย 1 คำศพั ท์จำก คำศัพท์จำก คำศัพท์จำก คำศพั ท์จำก บรบิ ทได้ บรบิ ทได้ บรบิ ทได้ บริบทได้นอ้ ย ทัง้ หมด เกือบ เล็กน้อย มำก ทงั้ หมด รวม 5
72
73 เกณฑก์ ารตดั สนิ คณุ ภาพ ดี พอใช้ ปรบั ปรุง ระดับคณุ ภาพ คะแนนรวม 7-9 คะแนน 4-6 คะแนน ตา่ กวา่ 4 คะแนน เกณฑ์การให้คะแนนด้านคุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ คุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ : มีวินยั คะแนน : ระดับคณุ ภาพ คุณลักษณะท่ีปรากฏให้เหน็ 3 : ดี ผลงานสะอาดเรียบร้อย ปฏิบตั ติ นอย่ใู นข้อตกลงทีก่ าหนดใหร้ ่วมกนั ทุกครัง้ 2 : พอใช้ ผลงานสว่ นใหญส่ ะอาดเรียบร้อย ปฏิบตั ิตนอยใู่ นขอ้ ตกลงทก่ี าหนดใหร้ ่วมกันเปน็ ส่วนใหญ่ 1 : ปรับปรุง ผลงานไม่คอ่ ยเรยี บรอ้ ย ปฏบิ ตั ติ นอย่ใู นขอ้ ตกลงที่กาหนดให้ร่วมกนั บางครงั้ ตอ้ งอาศัยการแนะนา คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ : ใฝเ่ รียนรู้ คณุ ลกั ษณะทป่ี รากฏใหเ้ หน็ คะแนน : ระดับคณุ ภาพ มีความสนใจ /ความตง้ั ใจตลอดระยะเวลาการเรยี นรู้ 3 : ดี มคี วามสนใจ /ความตง้ั ใจเปน็ บางครง้ั 2 : พอใช้ มีความสนใจ /ความตั้งใจในระยะเวลาสั้นๆ ชอบเลน่ ในเวลาเรียน 1 : ปรับปรุง คุณลักษณะอนั พึงประสงค์ : มุ่งม่นั ในการทางาน คะแนน : ระดับคุณภาพ คณุ ลกั ษณะท่ีปรากฏใหเ้ หน็ 3 : ดี สง่ งานกอ่ นหรอื ตรงกาหนดเวลานดั หมาย รับผดิ ชอบในงานท่ไี ด้รับมอบหายและปฏบิ ตั ิตนจนเป็นนิสัย เปน็ ตวั อยา่ งแก่ผู้อน่ื และแนะนาชกั ชวน 2 : พอใช้ สง่ งานช้ากว่ากาหนด รบั ผดิ ชอบในงานท่ีไดร้ ับมอบหายและปฏบิ ัตติ นจนเปน็ นิสัย 1 : ปรบั ปรงุ สง่ งานช้ากว่ากาหนด รับผดิ ชอบในงานทีไ่ ด้รบั มอบหายและปฏบิ ตั ติ นจนเปน็ นิสัย ปฏิบตั ิงานโดยอาศัยการช้แี นะ แนะนา ตกั เตอื น
แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 6 74 กลุม่ สาระการเรยี นรู้ ภาษาต่างประเทศ ช้นั ประถมศึกษาปที ่ี 6 หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 1 เรื่อง About Myself เวลา 8 ชว่ั โมง เร่อื ง Have you ever been to (Bangkok)? เวลา 1 ชว่ั โมง วนั ท่.ี .........เดอื น.....................พ.ศ. .................. ภาคเรียนที่ 1 ปีการศกึ ษา 2565 1. สาระสาคญั / ความคดิ รวบยอด การเขยี นจดหมายถงึ เพือ่ นทางไปรษณยี ์ดว้ ยภาษาองั กฤษ นอกจากช่วยให้นักเรียนนาความรู้ไป ประยกุ ตใ์ ช้ในสถานการณ์จรงิ ได้แลว้ ยังสามารถเรียนรวู้ ฒั นธรรมกบั เจ้าของภาษาหรือชาวต่างชาติที่ใช้ ภาษาอังกฤษในการสือ่ สารไดอ้ กี ด้วย 2. มาตรฐาน/ตวั ชี้วัด/จุดประสงค์การเรียนรู้ 2.1 มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตีความเร่ืองทฟ่ี งั และอา่ นจากสือ่ ประเภทต่างๆ และแสดงความคิดเหน็ อย่างมี เหตุผล ต 1.3 นาเสนอข้อมลู ข่าวสาร ความคิดรวบยอด และความคดิ เห็นในเร่อื งตา่ งๆ โดยการพูดและการ เขียน ต 2.1 เข้าใจความสัมพนั ธ์ระหว่างภาษากบั วัฒนธรรมของเจา้ ของภาษา และนาไปใช้ได้อยา่ ง เหมาะสมกับกาลเทศะ ต 4.1 ใช้ภาษาตา่ งประเทศในสถานการณต์ า่ งๆ ท้ังในสถานศึกษา ชุมชน และสงั คม 2.2 ตัวช้ีวดั ต 1.1 ป.6/2 อ่านออกเสียงข้อความ นทิ านและบทกลอนส้นั ๆ ถูกต้องตามหลกั การอ่าน ต 1.3 ป.6/1 พูด/เขียนเพอ่ื ใหข้ ้อมูลเก่ียวกับตนเอง เพอ่ื น และส่งิ แวดล้อมใกล้ตวั ต 2.1 ป.6/3 เข้าร่วมกิจกรรมทางภาษาและวัฒนธรรมตามความสนใจ ต 4.1 ป.6/1 ใชภ้ าษาสือ่ สารในสถานการณ์ต่างๆ ที่เกิดขน้ึ ในหอ้ งเรยี นและสถานศกึ ษา 2.3 จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ ความรู้ (K) การเขยี นประโยคบอกสง่ิ ท่ไี มเ่ คยทา ทกั ษะ/กระบวนการ (P) การอา่ นคากรยิ าในรปู กาลต่างๆ เจตคติ (A) มีวินยั ใฝเ่ รยี นรู้และมุ่งม่ันในการทางาน
75 3. สาระการเรียนรู้ Function : Asking for and giving information about things you have (never) done Structure : Have you ever been to (Bangkok)? Yes, I have./No, I haven’t. (I) (have) (finished my homework). (He) (has) never (cleaned the room). Vocabulary : คำศพั ทใ์ หม่ ever คำศพั ทท์ บทวน never 4. สมรรถนะสาคญั ของผ้เู รียน ความสามารถในการสอ่ื สาร ความสามารถในการคิด ความสามารถในการแก้ปญั หา ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี 5. คุณลักษณะอันพึงประสงค์ รักชาติ ศาสน์ กษตั ริย์ อยู่อย่างพอเพียง ซ่ือสตั ย์สุจริต มุ่งม่ันในการทางาน มวี ินัย รักความเป็นไทย ใฝ่เรยี นรู้ มีจติ สาธารณะ 6. จดุ เน้นส่กู ารพัฒนาผเู้ รียน ความสามารถและทักษะของผเู้ รยี นศตวรรษที่ 21 (3Rs x 8Cs x 2Ls) R1– Reading (อ่านออก) R2– (W)Riting (เขยี นได)้ R3 – (A)Rithmetics (คดิ เลขเป็น) C1 - Critical Thinking and Problem Solving ( ทักษะดา้ นการคดิ อย่างมีวิจารณญาณ และทักษะในการแก้ปัญหา) C2 - Creativity and Innovation (ทกั ษะด้านการสร้างสรรค์และนวัตกรรม) C3 - Cross-cultural Understanding (ทักษะด้านความเข้าใจต่างวฒั นธรรม ตา่ งกระบวนทศั น)์ C4 - Collaboration, Teamwork and Leadership (ทักษะด้านความรว่ มมือ การทางานเป็น ทมี และภาวะผู้นา) C5 – Communications, Information and Media Literacy (ทกั ษะดา้ นการส่ือสาร สารสนเทศ และรู้เท่าทันส่อื ) C6 - Computing and ICT Literacy (ทักษะดา้ นคอมพิวเตอร์ และเทคโนโลยีสารสนเทศ
76 และการสอ่ื สาร) C7 - Career and Learning Skills (ทักษะอาชีพและทกั ษะการเรียนร้)ู C8 – Compassion (ความมเี มตตากรุณา วินยั คุณธรรม จรยิ ธรรม) L1 – Learning (ทักษะการเรยี นรู)้ L2 – Leadership (ทักษะความเปน็ ผู้นา) 7. กจิ กรรมการเรยี นรู้ 1. Warm up 1.1 นกั เรียนทาแบบฝกึ หัด Find the words. ใน Workbook หนา้ 6 นกั เรยี นค้นหาคาศัพท์ใน ตารางแล้ววงกลมลอ้ มรอบคาศัพท์นน้ั 1.2 นกั เรยี นรอ้ งเพลง Have You Ever Been to Bangkok? ในหนงั สือหนา้ 7 โดยครูร้องเพลง ใหฟ้ ังก่อน 2 ครงั้ แล้วให้นกั เรยี นร้องตาม 1.3 สนทนาเกีย่ วกบั เพลง เช่น What is the song about?/What city is in the song? 2. Presentation 2.1 ครูสอนคาศัพท์ ever โดยให้นักเรียนออกเสยี ง เดาความหมายจากเนอื้ หา และชว่ ยสรปุ ความหมายของคาศพั ท์ ever (เคย) 2.2 นักเรียนอ่านประโยคคาถามจากเพลง ครูให้นกั เรยี นสังเกตวธิ ตี อบรบั และปฏเิ สธ Have you ever been to Bangkok? คาตอบคือ Yes, I have. และ No, I haven’t. 2.3 ครูเขยี นคาตอบ Yes, I have. และ No, I haven’t. บนกระดานดา ให้นักเรียนอา่ นออกเสยี ง ตามครู 2.4 แบ่งนกั เรยี นเปน็ 3 กลุ่ม กล่มุ ท่ี 1 พูดคาถามตามครู กลุม่ ท่ี 2 ตอบ Yes, I have. และพยกั หนา้ ประกอบการตอบ กลุ่มท่ี 3 ตอบ No, I haven’t. และส่ายหนา้ ประกอบการตอบ ดงั น้ี T: Have you ever been to Bangkok? Ss1: Have you ever been to Bangkok? Ss2: Yes, I have. เมื่อครชู ้ีทีค่ าตอบ Yes, I have. บนกระดานดา Ss3: No, I haven’t. เม่อื ครูช้ีท่คี าตอบ No, I haven’t. บนกระดานดา ครูสอนคาศพั ท์ never โดยเขียนประโยค I have never been to Bangkok ตอ่ จากคาตอบ ของนกั เรยี นกลมุ่ ท่ี 3 ให้นกั เรียนเดาความหมาย 2.5 ใหน้ ักเรยี นบอกประโยคโดยใชโ้ ครงสรา้ งประโยค I have been to … . และ I have never been to ... . 3. Practice นกั เรียนทาแบบฝกึ หัด Read the words in the table and write 2-3 sentences about what you have never done. ใน Workbook หนา้ 7 เขียนถงึ ส่ิงท่ีนักเรยี นไม่เคยทา 2-3 เหตกุ ารณ์ ตาม โครงสร้างประโยคท่ีเรยี น
77 ตวั อย่างคาตอบ I have never played golf. I have never seen a dolphin. I have never eaten durians. 4. Production 4.1 ให้นกั เรียนเขียนบอกสิ่งที่เคยทา I have …………. และไม่เคยทา I have never …………. อยา่ งละ 3 ประโยค 4.2 สมุ่ นกั เรยี นออกมานาเสนอผลงานหน้าชั้นเรยี น 5. Wrap up ครูและนักเรยี นร่วมกันสรปุ การใช้ ever, never และบนั ทึกข้อสรุปลงในสมุดแบบฝึกหัด 8. การวดั และประเมนิ ผล วิธวี ดั ผล เครื่องมือวัดผล เกณฑก์ ารประเมินผล สงิ่ ทว่ี ดั ประเมินการเขยี น แบบประเมนิ การเขยี น 60% ขึน้ ไป ผา่ น ดา้ นความรู้ (K) ประเมินการอ่าน แบบประเมินการอา่ น 60% ขนึ้ ไป ผ่าน การเขียนประโยคบอกสง่ิ ท่ี ไมเ่ คยทา การสงั เกตการรว่ ม แบบประเมนิ คุณลักษณะอนั 60% ข้นึ ไป ผ่าน ดา้ นทกั ษะกระบวนการ (P) กิจกรรมในชั้นเรยี น พึงประสงค์ การอา่ นคากรยิ าในรปู กาล ตา่ งๆ ดา้ นคุณลักษณะ อนั พึงประสงค์ (A) มีวินัย ใฝ่เรียนรู้และมุ่งมั่น ในการทางาน 9. สื่อ/แหลง่ เรยี นรู้ 9.1 สือ่ การเรียนรู้ 9.1.1 Student’s Book 6 9.1.2 Workbook 6 9.2 แหล่งเรยี นรู้ ห้องสมุด
78
79
80
81 เกณฑ์การให้คะแนนการเขียน ระดบั 4 เกณฑ์การใหค้ ะแนน น้าหนกั / คะแนน คะแนน 32 1 ความสา้ คญั รวม ประเด็น การประเมิน การใช้ภาษา การสะกด การสะกด สะกดคาผิด สะกดคาผิด คาศัพท์ คาศัพท์ผิด มาก แตพ่ อ มาก ถูกต้อง เลก็ น้อย พอ เดา เขียนรปู การเลอื กใช้ เดาวาม ความหมาย ประโยคไม่ คา หมายได้ ได้รปู ถูกต้อง ไมม่ ี ตรงกับ เขียนรูป ประโยค เคร่อื งหมาย เนือ้ หา ประโยคผิด ผิดพลาด วรรคตอน 3 12 ประโยค หลกั มาก ถูกต้อง ไวยากรณ์ เคร่ืองหมาย มี เล็กน้อย วรรคตอนไม่ เครอ่ื งหมาย เครอ่ื งหมาย ครบหรือไม่ วรรคตอนที่ วรรคตอน ถูกต้อง ถกู ต้อง ผิดเล็กน้อย เนอื้ หา มี รายละเอียด มี มี รายละเอียด ของเนื้อ ห า รายละเอียด รายละเอียด เนือ้ หาตรง มากแต่ยังไม่ ของเนอื้ หา ของเนือ้ หา กับลักษณะ ครอบคลมุ น้อย น้อยมาก 2 8 20 ที่ ท้ังหมด กาหนดมาก ทีส่ ุด รวม 5
82
83 เกณฑ์การใหค้ ะแนนการอา่ น ระดบั เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน นา้ หนกั / คะแนน คะแนน 1 ความสาคัญ รวม 8 ประเด็น 4 32 8 การประเมนิ ตอบคำถำม ตอบคำถำม ตอบคำถำม ตอบคำถำม 4 ควำมเขำ้ ใจ หลงั จำกท่ี หลังจำกที่ หลงั จำกที่ หลงั จำกท่ี 20 อ่ำนได้ อำ่ นได้เกอื บ อ่ำนได้ อำ่ นได้น้อย ทง้ั หมด ท้ังหมด เลก็ น้อย มำก 2 2 กำรจับใจควำมสำคญั จับใจควำม จับใจควำม จับใจควำม จบั ใจควำม สำคญั ของ สำคัญของ สำคัญของ สำคัญของ เน้ือหำได้ เนื้ อ ห ำ ไ ด้ เนือ้ หำได้ เนอ้ื หำได้ ท้ังหมด เกอื บ เลก็ นอ้ ย น้อยมำก ท้งั หมด กำรรคู้ วำมหมำย เมอื่ อำ่ นพบ เม่ืออ่ำนพบ เมอ่ื อ่ำนพบ เมื่ออ่ำนพบ คำศพั ท์ คำศัพท์ใหม่ คำศัพท์ใหม่ คำศัพท์ใหม่ คำศพั ท์ใหม่ สำมำรถเดำ สำมำรถเดำ สำมำรถเดำ สำมำรถเดำ ควำมหมำย ควำมหมำย ควำมหมำย ควำมหมำย 1 คำศพั ท์จำก คำศัพท์จำก คำศัพท์จำก คำศพั ท์จำก บรบิ ทได้ บรบิ ทได้ บรบิ ทได้ บริบทได้นอ้ ย ทัง้ หมด เกือบ เล็กน้อย มำก ทงั้ หมด รวม 5
84
85 เกณฑก์ ารตดั สนิ คณุ ภาพ ดี พอใช้ ปรบั ปรุง ระดบั คณุ ภาพ คะแนนรวม 7-9 คะแนน 4-6 คะแนน ตา่ กวา่ 4 คะแนน เกณฑก์ ารให้คะแนนด้านคณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ : มวี ินัย คะแนน : ระดับคุณภาพ คุณลกั ษณะทปี่ รากฏใหเ้ หน็ 3 : ดี ผลงานสะอาดเรยี บรอ้ ย ปฏบิ ัตติ นอยูใ่ นข้อตกลงทก่ี าหนดให้ร่วมกนั ทุกครัง้ 2 : พอใช้ ผลงานสว่ นใหญ่สะอาดเรียบรอ้ ย ปฏบิ ตั ติ นอยใู่ นข้อตกลงทีก่ าหนดให้ร่วมกันเปน็ ส่วนใหญ่ 1 : ปรับปรุง ผลงานไม่คอ่ ยเรยี บร้อย ปฏบิ ตั ิตนอยู่ในขอ้ ตกลงทก่ี าหนดให้ร่วมกนั บางครงั้ ตอ้ งอาศัยการแนะนา คณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ : ใฝ่เรยี นรู้ คณุ ลกั ษณะท่ีปรากฏใหเ้ หน็ คะแนน : ระดับคณุ ภาพ มคี วามสนใจ /ความตง้ั ใจตลอดระยะเวลาการเรยี นรู้ 3 : ดี มีความสนใจ /ความตั้งใจเปน็ บางครง้ั 2 : พอใช้ มคี วามสนใจ /ความตั้งใจในระยะเวลาสั้นๆ ชอบเลน่ ในเวลาเรียน 1 : ปรบั ปรงุ คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ : มุ่งมน่ั ในการทางาน คะแนน : ระดับคุณภาพ คุณลักษณะท่ปี รากฏใหเ้ ห็น 3 : ดี ส่งงานก่อนหรอื ตรงกาหนดเวลานัดหมาย รบั ผิดชอบในงานท่ีไดร้ บั มอบหายและปฏบิ ตั ิตนจนเป็นนิสัย เป็นตวั อยา่ งแก่ผู้อ่ืน และแนะนาชักชวน 2 : พอใช้ ส่งงานชา้ กวา่ กาหนด รับผดิ ชอบในงานทไ่ี ด้รับมอบหายและปฏบิ ัตติ นจนเปน็ นิสัย 1 : ปรับปรงุ ส่งงานช้ากวา่ กาหนด รับผดิ ชอบในงานท่ีไดร้ ับมอบหายและปฏบิ ตั ติ นจนเปน็ นิสัย ปฏิบตั ิงานโดยอาศัยการชี้แนะ แนะนา ตกั เตอื น
แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ 7 86 กลุ่มสาระการเรียนรู้ ภาษาตา่ งประเทศ ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ี่ 6 หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 เรือ่ ง About Myself เวลา 8 ชัว่ โมง เร่อื ง Have you ever (seen) (a dolphin)? เวลา 1 ชว่ั โมง วนั ท.ี่ .........เดือน.....................พ.ศ. .................. ภาคเรยี นท่ี 1 ปีการศกึ ษา 2565 1. สาระสาคัญ / ความคดิ รวบยอด การเขยี นจดหมายถึงเพ่ือนทางไปรษณีย์ดว้ ยภาษาอังกฤษ นอกจากชว่ ยใหน้ ักเรียนนาความร้ไู ป ประยกุ ตใ์ ชใ้ นสถานการณ์จริงไดแ้ ลว้ ยังสามารถเรียนรู้วฒั นธรรมกับเจ้าของภาษาหรอื ชาวต่างชาติที่ใช้ ภาษาองั กฤษในการสื่อสารได้อีกด้วย 2. มาตรฐาน/ตวั ชี้วัด/จุดประสงค์การเรียนรู้ 2.1 มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตคี วามเรื่องท่ีฟังและอ่านจากสอ่ื ประเภทต่างๆ และแสดงความคิดเห็นอย่างมี เหตผุ ล ต 1.2 มที กั ษะการสอ่ื สารทางภาษาในการแลกเปลย่ี นข้อมูลขา่ วสาร แสดงความรสู้ ึกและความ คดิ เห็นอยา่ งมปี ระสิทธภิ าพ ต 1.3 นาเสนอขอ้ มูลขา่ วสาร ความคิดรวบยอด และความคิดเห็นในเรือ่ งต่างๆ โดยการพูดและการ เขียน ต 4.1 ใช้ภาษาต่างประเทศในสถานการณต์ ่างๆ ทงั้ ในสถานศกึ ษา ชุมชน และสังคม 2.2 ตวั ช้ีวัด ต 1.1 ป.6/3 เลือก/ระบุประโยค หรอื ขอ้ ความสั้นๆ ตรงตามภาพ สัญลกั ษณ์ หรือเครอ่ื งหมายที่ อา่ น ต 1.2 ป.6/4 พดู และเขยี นเพื่อขอและใหข้ ้อมูลเกีย่ วกับตนเอง เพื่อน ครอบครวั และเร่อื งใกลต้ ัว ต 1.3 ป.6/1 พดู /เขียนเพ่ือใหข้ อ้ มูลเกีย่ วกับตนเอง เพ่ือน และสิง่ แวดลอ้ มใกล้ตัว ต 4.1 ป.6/1 ใชภ้ าษาสอ่ื สารในสถานการณ์ต่างๆ ทเี่ กดิ ขึ้นในห้องเรียนและสถานศกึ ษา 2.3 จดุ ประสงค์การเรียนรู้ ความรู้ (K) การอ่านข้อมลู ในตารางและเขียนคาตอบ ทักษะ/กระบวนการ (P) การพูดถาม-ตอบเกยี่ วกบั สิง่ ท่เี คยทา เจตคติ (A) มีวินยั ใฝ่เรยี นร้แู ละมงุ่ ม่ันในการทางาน
87 3. สาระการเรียนรู้ Function : Asking for and giving information about things you have (never) done Structure : Have you ever (seen) (a dolphin)? Yes, I have./No, I haven’t. 4. สมรรถนะสาคัญของผู้เรยี น ความสามารถในการสอ่ื สาร ความสามารถในการคดิ ความสามารถในการแก้ปญั หา ความสามารถในการใช้ทักษะชวี ิต ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี 5. คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ รักชาติ ศาสน์ กษตั รยิ ์ อยู่อย่างพอเพียง ซอื่ สตั ยส์ ุจรติ มุง่ มัน่ ในการทางาน มีวินัย รักความเป็นไทย ใฝ่เรียนรู้ มีจิตสาธารณะ 6. จุดเน้นสู่การพัฒนาผู้เรียน ความสามารถและทกั ษะของผู้เรียนศตวรรษท่ี 21 (3Rs x 8Cs x 2Ls) R1– Reading (อ่านออก) R2– (W)Riting (เขียนได)้ R3 – (A)Rithmetics (คดิ เลขเป็น) C1 - Critical Thinking and Problem Solving ( ทกั ษะดา้ นการคิดอย่างมวี ิจารณญาณ และทกั ษะในการแก้ปัญหา) C2 - Creativity and Innovation (ทักษะด้านการสร้างสรรคแ์ ละนวัตกรรม) C3 - Cross-cultural Understanding (ทักษะด้านความเข้าใจต่างวัฒนธรรม ต่างกระบวนทศั น)์ C4 - Collaboration, Teamwork and Leadership (ทักษะด้านความร่วมมือ การทางานเป็น ทมี และภาวะผูน้ า) C5 – Communications, Information and Media Literacy (ทกั ษะดา้ นการส่อื สาร สารสนเทศ และรูเ้ ทา่ ทันสื่อ) C6 - Computing and ICT Literacy (ทักษะดา้ นคอมพิวเตอร์ และเทคโนโลยีสารสนเทศ และการสอ่ื สาร) C7 - Career and Learning Skills (ทกั ษะอาชพี และทกั ษะการเรียนร)ู้ C8 – Compassion (ความมีเมตตากรณุ า วนิ ัย คณุ ธรรม จรยิ ธรรม) L1 – Learning (ทักษะการเรียนร)ู้ L2 – Leadership (ทกั ษะความเป็นผู้นา)
88 7. กจิ กรรมการเรยี นรู้ 1. Warm up ทบทวนอ่านคากรยิ าในรปู กาลตา่ งๆ ในหนงั สือหน้า 8 แบง่ นักเรียนเปน็ 3 กลมุ่ กลุ่มที่ 1 อ่าน Base Form กลุม่ ที่ 2 อ่าน Past Simple กลุ่มที่ 3 อ่าน Past Participle หลงั จากนน้ั ใหส้ ลับกัน 2. Presentation 2.1 ครูตดิ บตั รคา Yes. และ No. บนกระดานดา แล้วถามคาถาม เช่น Have you ever seen a whale? แลว้ ช้ี No. และพูด No, I haven’t. หรือ Have you ever seen a zebra? แลว้ ชี้ Yes. และพดู Yes, I have. 2.2 พูดคาถามและช้ที ี่ Yes. หรือ No. บนกระดานดาให้นกั เรยี นตอบตามความเข้าใจ หลังจาก นักเรียนตอบแลว้ ครูพูดอธิบายความเพิ่ม เชน่ No, I have never seen a whale. และ Yes, I have seen a zebra. 2.3 ครูเขยี นประโยค I have …. . ใต้คาศพั ท์ Yes. สอนออกเสยี งคาวา่ ever และเขยี นประโยค I have never …. . ใตค้ าศพั ท์ No. แลว้ ถามโดยใชบ้ ัตรภาพอื่นๆ ใหน้ กั เรียนพดู ตอบแบบขยายความ 3. Practice 3.1 นักเรียนจับคูก่ ับเพื่อนอ่านคาถามแต่ละข้อแล้วผลัดกันถาม-ตอบตามโครงสร้างประโยคที่ เรียนในกิจกรรมในหนงั สือ หน้า 9 3.2 นักเรียนทาแบบฝึกหดั Fill in the blanks. ใน WB หน้า 8 เติมคาลงในช่องวา่ งใหถ้ กู ต้อง ให้ นกั เรียนหาความหมายของคาศพั ทแ์ ละกรยิ าชอ่ งที่ 2 และ 3 ใน Dictionary 3.3 ให้อาสาสมัครออกมาเขยี นคาที่เตมิ ในแต่ละช่อง แลว้ ให้นกั เรียนตรวจสอบคาตอบของตนเอง แลว้ อา่ นออกเสยี งตามครูทีละคา 3.4 ครอู า่ นคา Base Form of Verb ให้นักเรยี นอ่านคาใน Past Simple Tense และ Past Participle 3.5 นกั เรียนทาแบบฝกึ หดั Read the information in the table and write about it. ใน WB หนา้ 9 นกั เรียนดกู ิจกรรมของเดก็ แตล่ ะคนในตารางทกี่ าหนดให้ แล้วเลือก 1 คนมาเขียนเป็นประโยคให้ สมบรู ณ์ ครคู อยให้ความช่วยเหลอื ในกรณที ่ีนักเรียนไม่เขา้ ใจ หลงั จากน้ันใหเ้ ขยี นจากประสบการณ์จริงของ นกั เรียนตามหัวขอ้ ในตาราง ว่านักเรยี นเคยทาหรือไมเ่ คยทากิจกรรมใด โดยใช้ประโยค I have …………… และ I have never …………… 4. Production ให้นกั เรยี นกาหนดหวั ข้อกิจกรรมเพ่ือสัมภาษณเ์ พ่ือน Have you ever ………? แล้วเขยี นรายงานสรุป …………… has …………… . He/She has never …………… .
89 5. Wrap up ครแู ละนักเรยี นร่วมกันสรุปการใช้ Present Perfect Tense โดยใหน้ กั เรยี นอาสาสมคั รอออกมาพูด ประโยคหน้าชัน้ เรยี น 8. การวัดและประเมนิ ผล สิง่ ที่วัด วธิ วี ัดผล เครือ่ งมือวัดผล เกณฑก์ ารประเมนิ ผล ดา้ นความรู้ (K) การอา่ นขอ้ มูลในตารางและ ตรวจแบบฝกึ หัด แบบฝกึ หัด 60% ข้นึ ไป ผา่ น เขียนคาตอบ ด้านทักษะกระบวนการ (P) การพดู ถาม-ตอบเก่ียวกบั ส่ิง ประเมนิ การพดู แบบประเมนิ การพูด 60% ขน้ึ ไป ผา่ น ท่ีเคยทา ดา้ นคณุ ลกั ษณะ อนั พึงประสงค์ (A) มีวินัย ใฝ่เรียนรู้และมุ่งม่ัน การสงั เกตการรว่ ม แบบประเมนิ คุณลักษณะอัน 60% ขึน้ ไป ผา่ น ในการทางาน กิจกรรมในชั้นเรยี น พึงประสงค์ 9. สอื่ /แหล่งเรยี นรู้ 9.1 สื่อการเรียนรู้ 9.1.1 Student’s Book 6 9.1.2 Workbook 6 9.1.3 บัตรภาพ 9.1.4 Dictionary 9.2 แหล่งเรยี นรู้ -
90
91
92
93 เกณฑก์ ารใหค้ ะแนนการพดู ระดบั คะแนน เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน น้าหนัก/ คะแนน ประเดน็ 4 3 2 1 ความสาคญั รวม การประเมนิ ความถกู ตอ้ ง ออกเสียง ออกเสยี ง ออกเสียง ออกเสยี ง ตัวอักษร ตัวอกั ษร ความคลอ่ งแคลว่ คาศพั ท์และ คาศพั ทแ์ ละ ตัวอกั ษรคาศพั ท์ ตวั อักษร/ คา/ ประโยคได้ ประโยคได้ การแสดงทา่ ทางและ ถกู ตอ้ งตามหลกั ถกู ตอ้ งตามหลกั และประโยคได้ ประโยคผิด นา้ เสียงประกอบ การออกเสียง การออกเสยี ง การพูด ออกเสยี งเน้น ออกเสยี งเน้น ถูกตอ้ งเป็น หลกั การออก หนัก-เบาในคา หนกั -เบาในคา และเสียงสูง-ตา่ และเสียงสูง-ต่า สว่ นใหญ่ ขาด เสียง ในประโยคอย่าง ในประโยคเปน็ สมบรู ณ์ ส่วนใหญ่ การออกเสียง ทาใหส้ ่ือสาร 2 8 เนน้ หนกั -เบาใน ไมไ่ ด้ 2 8 1 4 คาและเสยี งสูง- 5 20 ตา่ ในประโยค พดู ต่อเนอื่ ง พดู ตะกุก พูดเป็นคาๆ พูดได้บางคา ไมต่ ิดขัด ตะกักบา้ ง แต่ หยุดเปน็ ช่วงๆ ทาให้สอื่ พดู ชดั เจน ยังพอสื่อสารได้ ทาให้สื่อสาร ความหมาย ทาใหส้ ่อื สารได้ ไดไ้ ม่ชัดเจน ไมไ่ ด้ แสดงท่าทาง แสดงทา่ ทางและ แสดงท่าทางไม่ ไมแ่ สดงทา่ ทาง ประกอบการพูด และพูดด้วย พูดด้วยน้าเสียง เปน็ ธรรมชาติ พูดได้น้อยมาก น้าเสยี ง เหมาะสมกับ พูดเหมือนอ่าน เหมาะสมกบั บท บทพูดเปน็ ส่วน พดู อย่างสมบรู ณ์ ใหญ่ รวม การกาหนดระดบั คณุ ภาพโดยรวมทัง้ หน่วย 17-20 13-16 - ระดับดีมาก คะแนนระหวา่ ง 9-12 - ระดบั ดี คะแนนระหวา่ ง 0-8 - ระดับพอใช้ คะแนนระหวา่ ง - ระดับปรับปรงุ คะแนนระหวา่ ง
94
95 เกณฑก์ ารตดั สนิ คณุ ภาพ ดี พอใช้ ปรบั ปรุง ระดบั คณุ ภาพ คะแนนรวม 7-9 คะแนน 4-6 คะแนน ตา่ กว่า 4 คะแนน เกณฑก์ ารให้คะแนนดา้ นคณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ : มวี ินัย คะแนน : ระดับคุณภาพ คณุ ลักษณะท่ปี รากฏใหเ้ หน็ 3 : ดี ผลงานสะอาดเรียบร้อย ปฏบิ ตั ติ นอยู่ในขอ้ ตกลงทก่ี าหนดใหร้ ว่ มกนั ทกุ ครัง้ 2 : พอใช้ ผลงานสว่ นใหญ่สะอาดเรียบร้อย ปฏบิ ตั ติ นอยูใ่ นขอ้ ตกลงทก่ี าหนดให้ร่วมกันเปน็ ส่วนใหญ่ 1 : ปรับปรุง ผลงานไม่คอ่ ยเรียบร้อย ปฏบิ ตั ติ นอยใู่ นขอ้ ตกลงท่กี าหนดให้รว่ มกัน บางครง้ั ตอ้ งอาศยั การแนะนา คณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ : ใฝ่เรยี นรู้ คุณลกั ษณะที่ปรากฏใหเ้ หน็ คะแนน : ระดับคณุ ภาพ มคี วามสนใจ /ความตง้ั ใจตลอดระยะเวลาการเรียนรู้ 3 : ดี มคี วามสนใจ /ความต้งั ใจเป็นบางครงั้ 2 : พอใช้ มีความสนใจ /ความตง้ั ใจในระยะเวลาสนั้ ๆ ชอบเลน่ ในเวลาเรยี น 1 : ปรบั ปรงุ คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ : มุ่งมน่ั ในการทางาน คะแนน : ระดับคุณภาพ คุณลกั ษณะท่ปี รากฏใหเ้ ห็น 3 : ดี ส่งงานก่อนหรือตรงกาหนดเวลานัดหมาย รบั ผิดชอบในงานที่ไดร้ บั มอบหายและปฏบิ ัติตนจนเป็นนิสยั เป็นตวั อยา่ งแก่ผู้อนื่ และแนะนาชักชวน 2 : พอใช้ ส่งงานชา้ กวา่ กาหนด รับผดิ ชอบในงานท่ีได้รับมอบหายและปฏบิ ตั ิตนจนเป็นนิสัย 1 : ปรับปรงุ ส่งงานช้ากวา่ กาหนด รับผดิ ชอบในงานท่ีได้รับมอบหายและปฏบิ ัตติ นจนเป็นนิสัย ปฏิบตั ิงานโดยอาศัยการชีแ้ นะ แนะนา ตักเตือน
แผนการจัดการเรียนรทู้ ี่ 8 96 กลุ่มสาระการเรยี นรู้ ภาษาต่างประเทศ ชัน้ ประถมศึกษาปที ี่ 6 หน่วยการเรียนรทู้ ่ี 1 เรื่อง About Myself เวลา 8 ชวั่ โมง เร่อื ง Test yourself. เวลา 1 ชวั่ โมง วันท.ี่ .........เดือน.....................พ.ศ. .................. ภาคเรยี นที่ 1 ปีการศึกษา 2565 1. สาระสาคัญ / ความคิดรวบยอด การเขียนจดหมายถงึ เพือ่ นทางไปรษณยี ์ด้วยภาษาอังกฤษ นอกจากชว่ ยใหน้ ักเรยี นนาความร้ไู ป ประยกุ ตใ์ ช้ในสถานการณ์จริงได้แลว้ ยงั สามารถเรียนรู้วัฒนธรรมกบั เจ้าของภาษาหรือชาวตา่ งชาติที่ใช้ ภาษาองั กฤษในการส่ือสารไดอ้ กี ด้วย 2. มาตรฐาน/ตัวชี้วดั /จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ 2.1 มาตรฐาน ต 1.1 เขา้ ใจและตคี วามเรื่องที่ฟงั และอา่ นจากสอ่ื ประเภทตา่ งๆ และแสดงความคิดเห็นอยา่ งมี เหตผุ ล 2.2 ตวั ช้ีวดั ต 1.1 ป.6/2 อ่านออกเสยี งข้อความ นิยาย และบทกลอนส้นั ๆ ถกู ต้องตามหลกั การอา่ น 2.3 จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ ความรู้ (K) การทาแบบประเมินตนเอง (Things I can do.) ตามความเปน็ จรงิ ทกั ษะ/กระบวนการ (P) การออกเสียง /aɪ/ และ /eɪ/ เจตคติ (A) มีวินยั ใฝเ่ รียนรแู้ ละม่งุ มัน่ ในการทางาน 3. สาระการเรียนรู้ Reviewing sounds and evaluating language progress: vocabulary and structures from this unit Structure: - What grade (are) (you) in? - What’s the name of (your) school? - What do you like to do? I like (swimming). - What is your name/address/telephone number? My (name) is (Jane). - What is your favorite (fruit)? My favorite (fruit) is (coconut).
97 - How long have you studied (English)? I’ve studied it for (six years). - Have you ever been to (Japan)? Yes, I have./No, I haven’t. Vocabulary : name, address, telephone number, like, favorite, fruit Pronunciation: /aɪ/, /eɪ/ 4. สมรรถนะสาคญั ของผเู้ รียน ความสามารถในการส่ือสาร ความสามารถในการคดิ ความสามารถในการแก้ปญั หา ความสามารถในการใชท้ กั ษะชวี ติ ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี 5. คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ รกั ชาติ ศาสน์ กษตั ริย์ อยู่อย่างพอเพียง ซือ่ สตั ย์สุจริต ม่งุ ม่นั ในการทางาน มวี ินยั รกั ความเปน็ ไทย ใฝ่เรียนรู้ มีจติ สาธารณะ 6. จดุ เนน้ สูก่ ารพัฒนาผู้เรยี น ความสามารถและทักษะของผ้เู รยี นศตวรรษท่ี 21 (3Rs x 8Cs x 2Ls) R1– Reading (อ่านออก) R2– (W)Riting (เขยี นได)้ R3 – (A)Rithmetics (คิดเลขเป็น) C1 - Critical Thinking and Problem Solving ( ทักษะด้านการคดิ อย่างมีวิจารณญาณ และทักษะในการแกป้ ญั หา) C2 - Creativity and Innovation (ทกั ษะด้านการสร้างสรรคแ์ ละนวัตกรรม) C3 - Cross-cultural Understanding (ทักษะดา้ นความเขา้ ใจตา่ งวัฒนธรรม ตา่ งกระบวนทัศน)์ C4 - Collaboration, Teamwork and Leadership (ทักษะด้านความรว่ มมอื การทางานเป็น ทมี และภาวะผนู้ า) C5 – Communications, Information and Media Literacy (ทกั ษะด้านการสื่อสาร สารสนเทศ และรู้เท่าทนั ส่ือ) C6 - Computing and ICT Literacy (ทักษะดา้ นคอมพิวเตอร์ และเทคโนโลยีสารสนเทศ และการสอื่ สาร) C7 - Career and Learning Skills (ทกั ษะอาชีพและทกั ษะการเรยี นร้)ู C8 – Compassion (ความมเี มตตากรณุ า วนิ ัย คุณธรรม จริยธรรม) L1 – Learning (ทักษะการเรียนรู้) L2 – Leadership (ทกั ษะความเปน็ ผู้นา)
98 7. กิจกรรมการเรยี นรู้ 1. Review 1.1 ครแู ละนกั เรยี นทบทวนคาศพั ทแ์ ละโครงสร้างประโยคจากท่ีเรยี น ดงั น้ี คาศัพท์ : telephone number, name, address, like, favorite, fruit โครงสรา้ งประโยค : - What grade (are) (you) in? - What’s the name of (your) school? - What do you like to do? I like (swimming). - What is your name/address/telephone number? My (name) is (Jane). - What is your favorite (fruit)? My favorite (fruit) is (coconut). - How long have you studied (English)? I’ve studied it for (six years). - Have you ever been to (Japan)? Yes, I have./No, I haven’t. 1.2 นักเรียนฟงั และอา่ นออกเสียงคาศัพทต์ ามครู 2-3 ครงั้ ในหนงั สือหน้า 10 2. Evaluation 2.1 นกั เรยี นทาแบบประเมนิ ตนเอง Things I can do. ในหนังสอื หน้า 10 2.2 นักเรียนเขียนเครอ่ื งหมาย √ ลงในช่อง ถา้ นกั เรียนทากจิ กรรมนัน้ ๆ ได้ และเขยี น เคร่ืองหมาย × ลงในชอ่ ง ถ้านกั เรยี นทากจิ กรรมนนั้ ๆ ไมไ่ ด้ 2.3 นักเรยี นทาแบบประเมนิ Test yourself. ใน Workbook หนา้ 10 ตอบคาถามโดยใช้ข้อมลู ของ นกั เรียนเอง 2.3 ครูตรวจและเฉลย Test yourself. สรปุ ผลการประเมินและแจง้ ให้นกั เรยี นทราบ อธิบาย ข้อบกพรอ่ งเพ่ือการพัฒนาตนเองของนักเรียน
99 8. การวัดและประเมนิ ผล วิธวี ดั ผล เครื่องมือวัดผล เกณฑก์ ารประเมนิ ผล สิ่งท่วี ัด ประเมนิ ตนเอง แบบประเมินตนเอง 60% ขึ้นไป ผ่าน ด้านความรู้ (K) ประเมินการพูด การทาแบบประเมนิ ตนเอง แบบประเมนิ การพดู 60% ขนึ้ ไป ผ่าน (Things I can do.) ตาม การสงั เกตการรว่ ม ความเป็นจรงิ กิจกรรมในชั้นเรยี น แบบประเมนิ คณุ ลกั ษณะอัน 60% ขน้ึ ไป ผ่าน ด้านทักษะกระบวนการ (P) พึงประสงค์ การออกเสียง /aɪ/ และ /eɪ/ ดา้ นคุณลกั ษณะ อนั พงึ ประสงค์ (A) มีวินัย ใฝ่เรียนรู้และมุ่งม่ัน ในการทางาน 9. ส่ือ/แหล่งเรยี นรู้ 9.1 ส่ือการเรียนรู้ 9.1.1 Student’s Book 6 9.1.2 Workbook 6 9.2 แหลง่ เรียนรู้ ห้องสมดุ
100
101
102
103 เกณฑก์ ารใหค้ ะแนนการพดู ระดับคะแนน เกณฑ์การให้คะแนน น้าหนัก/ คะแนน ประเดน็ 4 3 2 1 ความสาคัญ รวม การประเมิน ความถูกต้อง ออกเสยี ง ออกเสยี ง ออกเสียง ออกเสยี ง ตัวอกั ษร ตวั อักษร ความคลอ่ งแคลว่ คาศัพท์และ คาศพั ท์และ ตัวอกั ษรคาศัพท์ ตวั อกั ษร/ คา/ ประโยคได้ ประโยคได้ การแสดงทา่ ทางและ ถกู ตอ้ งตามหลัก ถกู ตอ้ งตามหลัก และประโยคได้ ประโยคผิด นา้ เสยี งประกอบ การออกเสียง การออกเสียง การพูด ออกเสียงเนน้ ออกเสยี งเน้น ถกู ตอ้ งเปน็ หลกั การออก หนัก-เบาในคา หนกั -เบาในคา และเสยี งสงู -ตา่ และเสยี งสงู -ตา่ สว่ นใหญ่ ขาด เสยี ง ในประโยคอย่าง ในประโยคเปน็ สมบูรณ์ สว่ นใหญ่ การออกเสียง ทาให้สื่อสาร 2 8 เนน้ หนัก-เบาใน ไม่ได้ 2 8 1 4 คาและเสยี งสูง- 5 20 ตา่ ในประโยค พดู ต่อเน่อื ง พดู ตะกกุ พูดเปน็ คาๆ พูดได้บางคา ไม่ติดขดั ตะกักบ้าง แต่ หยดุ เปน็ ชว่ งๆ ทาให้ส่ือ พูดชดั เจน ยังพอสื่อสารได้ ทาให้สอ่ื สาร ความหมาย ทาให้สอื่ สารได้ ไดไ้ ม่ชัดเจน ไมไ่ ด้ แสดงท่าทาง แสดงท่าทางและ แสดงท่าทางไม่ ไมแ่ สดงทา่ ทาง ประกอบการพดู และพูดด้วย พูดด้วยนา้ เสยี ง เปน็ ธรรมชาติ พูดได้น้อยมาก นา้ เสยี ง เหมาะสมกับ พดู เหมือนอ่าน เหมาะสมกับบท บทพดู เป็นส่วน พูดอย่างสมบรู ณ์ ใหญ่ รวม การกาหนดระดับคุณภาพโดยรวมทง้ั หนว่ ย 17-20 13-16 - ระดบั ดมี าก คะแนนระหว่าง 9-12 - ระดบั ดี คะแนนระหวา่ ง 0-8 - ระดับพอใช้ คะแนนระหวา่ ง - ระดบั ปรบั ปรงุ คะแนนระหวา่ ง
104
105 เกณฑก์ ารตดั สนิ คณุ ภาพ ดี พอใช้ ปรับปรุง ระดับคุณภาพ คะแนนรวม 7-9 คะแนน 4-6 คะแนน ตา่ กว่า 4 คะแนน เกณฑ์การให้คะแนนดา้ นคณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ : มวี นิ ยั คะแนน : ระดบั คุณภาพ คณุ ลกั ษณะที่ปรากฏใหเ้ หน็ 3 : ดี ผลงานสะอาดเรยี บรอ้ ย ปฏิบตั ติ นอยใู่ นข้อตกลงท่ีกาหนดใหร้ ว่ มกันทุกครง้ั 2 : พอใช้ ผลงานสว่ นใหญ่สะอาดเรียบร้อย ปฏบิ ตั ติ นอยู่ในขอ้ ตกลงท่กี าหนดใหร้ ว่ มกันเปน็ สว่ นใหญ่ 1 : ปรบั ปรงุ ผลงานไม่ค่อยเรียบร้อย ปฏบิ ตั ิตนอยูใ่ นขอ้ ตกลงทก่ี าหนดใหร้ ่วมกนั บางคร้ัง ต้องอาศยั การแนะนา คุณลักษณะอนั พึงประสงค์ : ใฝ่เรยี นรู้ คุณลกั ษณะทีป่ รากฏให้เห็น คะแนน : ระดับคณุ ภาพ มคี วามสนใจ /ความต้งั ใจตลอดระยะเวลาการเรยี นรู้ 3 : ดี มคี วามสนใจ /ความต้ังใจเปน็ บางครง้ั 2 : พอใช้ มคี วามสนใจ /ความตงั้ ใจในระยะเวลาสัน้ ๆ ชอบเลน่ ในเวลาเรียน 1 : ปรับปรงุ คุณลักษณะอนั พึงประสงค์ : มุ่งมั่นในการทางาน คะแนน : ระดบั คุณภาพ คุณลกั ษณะทปี่ รากฏใหเ้ หน็ 3 : ดี สง่ งานก่อนหรือตรงกาหนดเวลานัดหมาย รบั ผิดชอบในงานท่ไี ด้รับมอบหายและปฏบิ ตั ิตนจนเปน็ นิสัย เป็นตัวอยา่ งแก่ผอู้ น่ื และแนะนาชกั ชวน 2 : พอใช้ สง่ งานชา้ กว่ากาหนด รับผิดชอบในงานท่ไี ดร้ บั มอบหายและปฏบิ ตั ติ นจนเป็นนิสยั 1 : ปรบั ปรงุ สง่ งานช้ากวา่ กาหนด รบั ผดิ ชอบในงานทีไ่ ดร้ ับมอบหายและปฏบิ ตั ิตนจนเป็นนิสยั ปฏิบตั งิ านโดยอาศัยการช้แี นะ แนะนา ตักเตือน
Search
