Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore จิตวิทยาการเรียนรู้

จิตวิทยาการเรียนรู้

Description: จิตวิทยาการเรียนรู้

Keywords: จิตวิทยาการเรียนรู้

Search

Read the Text Version

จติ วิทยาการเรียนรู้ จิตวทิ ยาการเรยี นรู้ (Psychology of learning) หมายถงึ จิตวิทยาท่ีใช้ในการถา่ ยทอดความรู้ โดยการ เรียนรู้จะเกิดขนึ้ ได้นน้ั ต้องเกิดจากพฤตกิ รรมท่เี ปลย่ี นแปลงไปอย่างถาวรหรือเกดิ จากการฝกึ ฝน ซ่ึงกระบวนการ เรยี นรจู้ ะเกิดไดจ้ ากขัน้ ตอนหลกั 4 ขนั้ ตอนคือต้ังใจจะรู้ กำหนดวธิ ปี ฏิบตั ิเพอ่ื ให้รู้ ลงมือปฏบิ ตั แิ ละไดร้ ับผล ประจกั ษ์ สำหรับทฤษฎีการเรยี นรู้นั้นจะพยายามศึกษาว่ากระบวนการเรยี นรนู้ ั้นมลี ักษณะอย่างไร ในงานวิจัยส่วน ใหญ่นนั้ จะทำการศึกษาแบบพฤติกรรมนยิ มแบบพุทธนิ ยิ มและแบบ self-regulated learning โดยมีจิตวิทยาทาง สือ่ เปน็ แนวการศึกษาใหม่ทเ่ี พิ่มเข้ามา เน่ืองจากเทคโนโลยมี ีบทบาทในการสร้างประสบการณ์การเรยี นรู้ ทฤษฎกี ารเรียนรู้ทางด้านจิตวิทยามี 3 กลุ่ม คอื 1. กลุ่มทฤษฎีการเรียนรูพ้ ฤตกิ รรมนยิ ม นักจติ วิทยาท่อี ยูใ่ นกลุ่มนี้ คือ 1.1 อวี าน พาฟลอฟ (Ivan Pavlov, 1849-1936) นักสรรี วทิ ยาชาวรัสเซยี ทฤษฎีการเรยี นรูก้ ารวางเงื่อนไข แบบคลาสสิก (Classical Conditioning Theory) หรือ แบบสิ่งเร้า 1.2 จอห์น บี วัตสัน (John B Watson คศ.1878 -1958) ทฤษฎกี ารเรียนรู้การวางเงื่อนไขแบบคลาสสิคที่ เกิดข้นึ กบั มนษุ ย์ 1.3 เบอร์รัส สกินเนอร์ (Burrhus Skinner) ทฤษฎกี ารเรียนร้กู ารวางเงอ่ื นไขแบบการกระทำ (Operant Conditioning theory) 1.4 เพยี เจท์ (Jean Piaget) การจดั การเรียนรู้ที่ครเู ปน็ ผู้ให้ขอ้ มูลและนกั เรียนเปน็ ผรู้ ับข้อมูล ครยู ง่ิ ให้ ข้อมลู มากเท่าไร นกั เรียนก็ยิง่ รบั ขอ้ มลู ไดม้ ากเทา่ นน้ั 1.5 กาเย่ (Gagne) ทฤษฎกี ารเรยี นรู้ 8 ขัน้ - การจูงใจ ( Motivation Phase) การคาดหวังของผูเ้ รียนเป็นแรงจูงใจในการเรยี นรู้ - การรับรตู้ ามเปา้ หมายทตี่ ้งั ไว้ (Apprehending Phase) ผเู้ รยี นจะรบั ร้สู ่งิ ทีส่ อดคล้องกบั ความตั้งใจ - การปรงุ แต่งสิ่งท่ีรับรู้ไวเ้ ปน็ ความจำ (Acquisition Phase) เพ่ือใหเ้ กิดความจำระยะสัน้ และระยะ ยาว - ความสามารถในการจำ (Retention Phase) - ความสามารถในการระลกึ ถึงสงิ่ ที่ได้เรยี นรู้ไปแลว้ (Recall Phase)

- การนำไปประยุกตใ์ ชก้ ับสง่ิ ที่เรียนรไู้ ปแล้ว (Generalization Phase) - การแสดงออกพฤติกรรมที่เรยี นรู้ (Performance Phase) - การแสดงผลการเรยี นรู้กลับไปยังผู้เรยี น (Feedback Phase) ผู้เรยี นได้รับทราบผลเรว็ จะทำให้มี ผลดแี ละประสทิ ธิภาพสูง 1.6 ธอรน์ ไดค ทฤษฎีการเชื่อมโยง 2. ทฤษฎีการเรียนรู้กลุ่มปัญญานิยม นกั จิตวทิ ยาท่ีอยู่ในกลุ่มน้ี คอื 2.1 เดวคิ พี ออซเุ บล ทฤษฎีการเรยี นรูอ้ ย่างมีความหมาย 2.2 Gestalt Psychologist ทฤษฎกี ารใช้ความเข้าใจ (CognitiveTheory) 2.3 โคท์เลอร์ (Kohler, 1925) การเรียนร้โู ดยการหยัง่ รู้ (Insight Learning) 2.4 Jero Brooner ทฤษฏีการเรยี นรแู้ บบคน้ พบ 2.5 Piaget ทฤษฎีพฒั นาการทางสตปิ ัญญา 3. ทฤษฎกี ารเรยี นรู้กลุ่มมนษุ ยนิยม นกั จิตวทิ ยาท่ีอย่ใู นกลมุ่ นี้คอื 3.1 ศาสตราจารย์บนั ดูรา แห่งมหาวทิ ยาลัยสแตนฟอร์ด (Stanford) ประเทศสหรัฐอเมรกิ า การเรยี นรู้ โดยการสงั เกตหรอื การเลยี นแบบ (Observational Learning หรือ Modeling) 3.2 Anthony Grasha กบั Sheryl Riechmann ทฤษฎีการสงั เกตจากปฏสิ ัมพนั ธร์ ะหวา่ งนักเรียนกับ ครูผสู้ อน และสังเกตจากปฏิสัมพันธ์ระหว่างนักเรยี นกับเพือ่ นร่วมห้อง 3.3 เลวิน (Lawin) ทฤษฎีสนาม 3.4 Robert Slavin และคณะทฤษฎกี ารเรียนรู้แบบร่วมกันเรยี นรู้ 3.5 David Johnson และคณะทฤษฎกี ารเรยี นรู้แบบร่วมมือกนั เรียนรู้ 3.6 Shlomo และ Yael Sharan ทฤษฎีการเรยี นร้แู บบร่วมมอื กันเรยี นรู้ในงานเฉพาะอยา่ ง


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook