6ผลงานชิ้นเอกของแวนโก๊ะ

The Starry Night The Starry Night 1889 ผลงานชิ้นนี้แสดงให้เห็นวิวนอกหน้าต่างจากห้องของ เขาเองภายในหมู่บ้าน Saint-Remy ในประเทศฝรั่งเศส งาน ชิ้นนี้แสดงถึงความสนใจในด้านดาราศาสตร์ และจากการ ศึกษาที่หอดูดาวกริฟฟิธ พาร์ค ได้แสดงให้เห็นว่า วินเซนต์ ได้วาดรูปที่แสดงถึงดวงจันทร์ ดาวศุกร์ และดวงดาวอีก หลายดวงในยามค่ำคืนภายใต้ท้องฟ้าที่หมุนวน ภาพวาดนี้ ถือเป็นงานที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในศิลปะตะวันตกและเป็นผลงานที่ มีชื่อเสียงที่สุดของ วินเซนต์ แวนโก๊ะ

Almond Blossoms Almond Blossoms 1890 ผลงานชิ้นนี้เป็นสัญลักษณ์แห่งความหวัง กิ่งก้าน ของต้นไม้ขดวนท่ามกลางพื้นหลังสีฟ้า ส่วนดอกไม้ก็ ชูช่อผลิบาน ภาพนี้มีการใช้สีฟ้าที่โดดเด่นออกมาจาก ภาพและทำให้เห็นถึงอิทธิพลของงานศิลปะญี่ปุ่นที่ ปรากฏอยู่ในงาน ส่วนเนื้อหายังคงเป็นเรื่องราวของการเกิดใหม่ซึ่ง เป็นสิ่งที่แวนโก๊ะชอบนำเสนอ คือต้นไม้และดอกไม้ ที่ผลิบานคือการเริ่มต้นของฤดูใบไม้ผลิและชีวิตใหม่ อันเป็นคำอวยพรที่เขาปรารถนาที่จะส่งไปถึงหลาน ชายตัวน้อย

Sunflowers Sunflowers 1888 สำหรับแวนโก๊ะ “ดอกทานตะวัน” คือตัวแทนความ ซาบซึ้งที่เขามีต่อความสัมพันธ์ และหมายรวมไปถึงสิ่ง ต่าง ๆ รอบตัว ในทางหนึ่ง มันคือสัญลักษณ์แสดง ความเป็นตัวตนอย่างที่ปรากฏอยู่ในจดหมายที่แวนโก๊ะ เขียนถึงเตโอผู้เป็นน้องชายว่า “Sunflower is mine\" และ “ดอกทานตะวันของเขา” ก็ได้เบ่งบานอยู่ใน ประวัติศาสตร์ศิลปะตราบจนทุกวันนี้

Self-Portrait with Bandaged Ear Self-Portrait with Bandaged Ear 1889 ผลงานชิ้นนี้มีเรื่องราวที่มีชื่อเสียงอย่างมาก เนื่องจาก แวนโก๊ะได้ตัดหูข้างซ้ายของเขาด้วยใบมีด จากนั้นเขาก็ไปที่ ซ่องโสเภณีและบอกกับหญิงโสเภณีที่ชื่อเรเชลว่า “จงปกป้องสิ่งนี้ด้วยชีวิตของคุณ” นี่เป็นหนึ่งในสองภาพ ที่เขาวาดขึ้นหลังจากเหตุการณ์นั้น จะสังเกตได้ว่าหูข้างซ้าย ของเขามีผ้าพันแผล และทำให้รู้ได้ว่าเขาวาดรูปตัวเองจาก เงาสะท้อนในกระจก

The Potato Eaters The Potato Eaters 1885 ผลงานชิ้นนี้เขาต้องการจะวาดภาพชาวนาให้ดูสมจริง ที่สุดเท่าที่จะเป็นได้และจงใจที่จะเลือกแบบจำลองที่มีลาย เส้นหยาบ แวนโก๊ะยังคงถือว่า The Potato Eater เป็น ผลงานที่ดีที่สุดของเขา และเขียนถึงน้องสาวของเขาว่า “สิ่งที่ฉันคิดเกี่ยวกับงานของฉันคือการวาดภาพชาวนา ที่กินมันฝรั่ง ซึ่งฉันวาดใน Nuenen คือสิ่งที่ดีที่สุดที่ฉัน เคยทำมา”

Café Terrace at Night Café Terrace at Night 1888 ผลงานชิ้นนี้ซึ่งถือว่าเป็นภาพแรกในบรรดา 3 ภาพภูมิทัศน์ในเมือง Arles ของฝรั่งเศส ท่ีปรากฏสไตล์สำคัญอย่างการเติมแต่ง ดวงดาวอันโดดเด่นท่ามกลางท้องฟ้าสีน้ำเงิน เข้มแทนการใช้สีดำสนิท เพื่อแสดงถึงฉากที่ ไม่ใช่แค่การสะท้อนภาพตามตาเห็น แต่สร้าง ชีวิตชีวาด้วยปลายพู่ กันอันสั่นไหวที่เกิดจาก ความรู้สึกท่วมท้นภายใน ตอบรับกับความ ประทับใจส่วนตัวที่ว่า “เวลาในยามค่ำคืน มี สีสันมากกว่าตอนกลางวัน”

จัดทำโดย 021 น.ส.มาริษา หนุนมาลา ปวส.2.1 ดิจิทัลกราฟิก 060 น.ส.นทีกานต์ อินทุภูติ ปวส.2.1 ดิจิทัลกราฟิก