Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore 21.วารสารประชาสัมพันธ์ สวนผึ้ง กรกฎาคม ฉบับที่ 21

21.วารสารประชาสัมพันธ์ สวนผึ้ง กรกฎาคม ฉบับที่ 21

Published by wanpenphairot, 2021-07-22 09:45:55

Description: 21.วารสารประชาสัมพันธ์ สวนผึ้ง กรกฎาคม ฉบับที่ 21

Search

Read the Text Version

1

ห้องสมุดประชาชนอาเภอสวนผ้ึง กศน.อาเภอสวนผ้งึ สานักงาน กศน.จงั หวัดราชบรุ ี วัตถุประสงค์ 1. เพือ่ ประชาสมั พันธก์ ิจกรรมส่งเสริมการอา่ นของหอ้ งสมดุ ประชาชนอาเภอสวนผึง้ 2. เพ่อื เผยแพร่ขอ้ มลู สาระน่ารู้ตา่ งๆ ท่ีเปน็ ประโยชน์ สารบญั 1 7 ข่าวกิจกรรมห้องสมุดประชาชนอาเภอสวนผึ้ง 8 วันสาคัญเดอื นกรกฎาคม 9 กิจกรรมสง่ เสรมิ การอ่านออนไลน์ 13 ท่องราชบรุ ี...ตอน ศาลเจ้าหลักเมือง อ.เมือง จ.ราชบุรี 20 ความรรู้ อบตวั บฟุ เฟต่ ์อาหารสมอง หอ้ งสมดุ ประชาชนอาเภอสวนผงึ้ สถานทตี่ ง้ั กศน.อาเภอสวนผง้ึ ถนนเทศบาล 6 ม.1 ต.สวนผึ้ง อ.สวนผึง้ จ.ราชบุรี 032-395187 เวลาทาการ 08.30 - 16.30 น. เปิดบรกิ ารทุกวนั ไมเ่ ว้นวนั หยดุ นักข2ตั ฤกษ์ FACEBOOK : ห้องสมดุ ประชาชนอาเภอสวนผึง้

1 3

2 4

3 5

4 6

5 7

6 8

7 วันสำคญั เดือนกรกฎำคม วนั อำสำฬหบชู ำ คือวนั ที่พระพุทธเจ้าได้ทรงประกาศพระพทุ ธศาสนาเป็นครั้งแรก หลังจาก ตรสั รไู้ ด้ 2 เดอื น โดยแสดงปฐมเทศนาโปรดพระปญั จวคั คยี ท์ ้งั 5 ไดแ้ ก่ พระโกณฑัญญะ พระวัปปะ พระภัททยิ ะ พระมหานามะ และพระอสั สชิ ทป่ี ่าอิสิปตนมฤคทายวนั เมืองพาราณสี แคว้นมคธ จน พระอัญญาโกณฑัญญะได้บรรลุธรรมและขอบวชเป็นพระภิกษุรูปแรกในพระพุทธศาสนา จึงถือว่า วันนี้มีพระรัตนตรัยครบองค์สามบริบูรณ์ครั้งแรกในโลก คือ มีท้ังพระพุทธ พระธรรม และ พระสงฆ์ ซึ่งเหตกุ ารณ์นี้เกดิ ขึน้ ก่อนพุทธศักราช 45 ปี 9 ท่ีมา : www.kapook.com

8 กจิ กรรมส่งเสรมิ กำรอ่ำนออนไลน์ ประจำวันท่ี 22-24 กรกฎำคม 2564 “วันอำสำฬหบชู ำ” สแกนเลยจ่ะ 10 ทม่ี า : www.kapook.com

9 ทอ่ งราชบรุ .ี ....ตอน ศาลเจ้าพ่อหลักเมอื ง อ.เมอื ง จ.ราชบุรี 11

10 ศาลเจ้าพ่อหลกั เมือง อ.เมือง จ.ราชบุรี ศาลเจา้ พ่อหลักเมือง เมืองราชบรุ นี ้เี ปน็ ท่ีนบั ถอื วา่ ศกั ดส์ิ ทิ ธยิ์ ิง่ นัก มีประชาชนไปบูชากราบไหว้ อยู่เสมอมิเคยขาด เป็นส่ิงศักดิ์คู่บ้านคู่เมือง ซึ่งชาวจังหวัดราชบุรีเคารพบูชากราบไหวมาตั้งแต่สมัย บรรพบรุ ุษ หลักเมืองราชบรุ ีเรียกกนั วา่ ศาลเจา้ พอ่ หลักเมืองน้นั ตั้งข้นึ ครงั้ แรกในสมัยรชั กาลที่ ๒ 12 ท่ีมา : เทยี่ วราชบรุ .ี com

11 เมืองราชบุรีในสมัยโบราณ ได้มีการสร้างและโยกย้ายไปหลายแห่งในอาณาบริเวณไม่สู้ ห่างไกลจากกันมากนัก พื้นแผ่นดินซึ่งที่ต้ังจังหวัดราชบุรีในปัจจุบันนี้ จากหลักฐานทาง โบราณวัตถแุ ละโบราณสถานท่ไี ดค้ ้นพบ ทาให้เชื่อได้ว่า มีผู้คนต้ังถ่ินฐานอยู่มาตั้งแต่ยุคหินกลาง ซ่ึมอี ายุประมาณ ๑๐,๐๐๐ ปมี าแล้ว แตห่ ลักฐานเกยี่ วกับการสรา้ งบ้านแปลงเมืองนั้น ได้ปรากฏ หลกั ฐานแนช่ ัดในสมัยทวารวดี หลังจากท่ีได้ค้นพบโบราณสถานสมัยทวารดี ที่ตาบลคูบัว อาเภอ เมอื งราชบุรี แลว้ ซ่ึงทาให้เชอ่ื ไดว้ ่าตาบลคูบวั น้ีเคยเปน็ ท่ตี ้งั เมอื งราชบรุ ีเกา่ ครัน้ ถงึ สมยั ลพบุรี เมืองราชบุรีได้ย้ายมาต้งั อยูบ่ ริเวณวดั มหาธาตุ โดยมีศูนย์กลางอยู่ที่วัด มหาธาตุหรือมีวัดมหาธาตุเป็นแกนเมือง ตั้งอยู่ ณ ริมแม่น้าแม่กลองฝ่ังตะวันตก (ฝ่ังขวา) ส่วน นอกเมืองกจ็ ะมีวดั อรัญญิก ซึง่ บรเิ วณเมอื งราชบุรีในสมัยลพบุรีนี้อยู่ในเขตท้องท่ี ตาบลเจดีย์หัก และตาบลหลุมดิน สว่ นหน่ึงของเนนิ ดิน กาแพงเมอื งด้านตะวันออก ถกู ถมทาเป็นถนนสายที่ผ่าน ไปยังเขางู เมืองราชบุรี ซ่ึงมีศูนย์กลางอยู่ท่ีวัดมหาธาตุน้ัน เท่าที่ปรากฏหลักฐานได้ตั้งอยู่เป็น เวลาหลายร้อยปี นับว่าเป็นเมืองต้ังอยู่ที่เดิมได้นานท่ีสุดเมืองหนึ่งในประเทศไทย มีอายุยืนนาน มาจนถึงสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ในรัชกาลพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย พระองค์ทรง ดารวิ ่าทตี่ ั้งเมืองวซ่ึงอยูท่ างฝั่งตะวนั ตกหรอื ฝง่ั ขวาของแม่น้าแม่กลองเสียเปรยี บในเชิงยุทธศาสตร์ กับพม่าที่เข้ามารุกรานอยู่เสมอ จึงได้โปรดเกล้าให้ย้ายเมืองไปตั้งทางฝั่งตะวันออกหรือฝั่งซ้าย ของแมน่ า้ แมก่ ลอง เพอ่ื ให้ข้าศึกเข้าถึงตัวเมืองได้ยากขึ้น และมีทางถอยเมื่อเสียเปรียบ การย้าย เมอื งครงั้ นไ้ี ด้มีการกาหนดฤกษ์ทาพธิ ฝี งั หลักเมอื งดว้ ย 13 ทีม่ า : เที่ยวราชบรุ .ี com

12 พิธีกำรฝังหลกั เมอื ง จากหลกั ฐานทางประวตั ิศาสตร์และโบราณคดี ในยุคก่อนกรุงรัตนโกสินทร์มิได้มีการกล่าวหรือ อ้างอิงในเร่ืองของหลักเมืองเลย จนกระท่ังมาถึงรัชกาลพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย (รชั กาลท่ี ๒) ได้มีการยา้ ยเมืองราชบุรีตามที่ได้กล่าวมาแล้ว และปรากฏหลักฐานว่า ทรงจัดให้มีพิธีฝัง หลักเมือง มีการสมโภช ๓ วัน ๓ คืน ต้ังแต่วันอังคาร แรม ๑๓ ค่า เดือน ๖ ปีฉลู จุลศักราช ๑๑๗๙ พ.ศ.๒๓๖๐ จนถึงวันพฤหัสบดี แรม ๑๕ ค่า เวลา ๗ นาฬิกา ถึงกาหนดฤกษ์ฝังหลักเมือง ซึ่งก็สรุปได้ ว่า หลกั เมืองราชบุรีเรียกกันว่าศาลเจ้าพ่อหลักเมืองนั้น ตั้งข้ึนครั้งแรกในสมัยรัชกาลที่ ๒ น่ันเอง เมื่อ ฝังหลกั เมืองตามตามกาหนดฤกษ์แล้วจึงไดม้ ีการก่อสรา้ งกาแพงเมืองก่อดว้ ยอฐิ ถอื ปูน มีใบเสมา มีป้อม ๖ ป้อม มปี ระตู ๖ ประตู และยังกอ่ สร้างสง่ิ อ่ืนๆ อกี ดว้ ย ปจั จบุ ันศาลเจ้าพ่อหลักเมอื งกย็ งั คงอย่ใู นบรเิ วณกาแพงเมืองเก่า ถึงแม้นว่าในในปี พ.ศ.๒๔๔๐ ได้มีการย้ายศาลากลางจังหวัด ซึ่งเดิมต้ังอยู่ฝั่งซ้ายของแม่น้าแม่กลอง(ในกาแพงเมือง) มารวมกันกับ ศาลาว่าการมณฑลฝงั่ ขวาของแมน่ า้ แม่กลองก็ตาม แต่ศาลเจ้าพ่อหลักเมืองก็ยังคงต้ังอยู่ท่ีเดิมต่อมาใน ปี พ.ศ.๒๔๔๘ ในบริเวณกาแพงเมืองได้เป็นท่ีตั้งของกองพลทหารบกที่๔ ซึ่งปัจจุบันเป็นท่ีตั้งของค่าย ทหาร “ คา่ ยภาณุรังษี ” มีกรมการทหารช่าง และจังหวดั ทหารบกราชบุรี เมื่อกรมการทหารช่างตั้งอยู่ ในบริเวณกาแพงเมือง ซ่ึงมีศาลเจ้าพ่อหลักเมืองอยู่ด้วยก็มีความจาเป็นต้องดูแลและทานุบารุงรักษา บรเิ วณศาลเจ้าพอ่ หลักเมืองด้วย ซ่ึงภายหลังทางกรมศิลปากรได้ออกแบสร้างศาลขึ้นมาใหม่ และในปี พ.ศ.๒๕๒๗ กรมการทหารช่างได้ออกแบบและซอ่ มปรบั ปรงุ ใหม่อย่างสวยงามจนถึงปจั จุบัน ข้อมลู อา้ งอิง : กองยุทธการ และการขา่ ว กรมการทหารชา่ ง (ส่วนปฏิบัติการฯ ศทท.กช.) 14 ที่มา : เท่ียวราชบรุ .ี com

13 ความร้รู อบตวั 15

14 กระชำย กระชาย (กระชายขาว, กระชายเหลือง) ช่ือสามัญ Fingerroot, Chinese ginger, Chinese keys, Galingale กระชาย ช่ือวิทยาศาสตร์ Boesenbergia rotunda (L.) Mansf. จัดอยู่ในวงศ์ขิง (ZINGIBERACEAE) สมนุ ไพรกระชาย มชี ่อื ทอ้ งถนิ่ อนื่ ๆ วา่ วา่ นพระอาทิตย์ (กรุงเทพมหานคร), กระชายดา กะแอน ขิงทราย (มหาสารคาม), จี๊ปู ซีฟู เปาซอเร๊าะ เป๊าสี่ เป๊าะส่ี ระแอน เป๊าะซอเร้าะ (กะเหร่ียง- แม่ฮ่องสอน), ละแอน (ภาคเหนอื ), ขงิ จีน เปน็ ต้น 16 ทมี่ า : คลังความรู้สุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข

15 ลักษณะของกระชำยเหลอื ง ต้นกระชำย มีถ่ินกาเนิดในเขตร้อนบริเวณเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยจัดเป็นไม้ล้มลุก มีเหง้า สั้น แตกหน่อได้ มีรากอวบ เป็นรูปทรงกระบอกหรือรูปทรงไข่ค่อนข้างยาว ปลายเรียว มีความยาว ประมาณ 4-10 เซนตเิ มตร และกว้างประมาณ 1-2 เซนติเมตร ออกเป็นกระจุก ผิวมีสีน้าตาลอ่อน ส่วน เนอ้ื ในมสี ีเหลืองและมกี ล่นิ หอมเฉพาะตวั มกั พบขน้ึ ในปา่ ดบิ รอ้ นช้ืน ใบกระชำย คือลักษณะของส่วนท่ีอยู่เหนือดิน มีประมาณ 2-7 ใบ ลักษณะของใบเป็นใบเดี่ยว เรียงสลบั ลกั ษณะเปน็ รูปรี ใบยาวประมาณ 12-50 เซนติเมตรและกวา้ งประมาณ 5-12 เซนติเมตร โคน ใบมนหรือแหลม ส่วนปลายใบเรียวแหลม มีขอบเรียบ เส้นกลางใบ ด้านใบ และกาบใบด้านบนจะเป็น ร่อง ส่วนด้านล่างจะนูนเป็นสัน ด้านใบเรียบมีความยาวประมาณ 7-25 เซนติเมตร ส่วนกาบใบเป็นสี ชมพูยาวประมาณ 7-25 เซนติเมตร ระหว่างก้านใบและกาบใบจะมีลิ้นใบ 17 ท่มี า : คลังความรู้สุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข

16 ดอกกระชาย ออกดอกเป็นช่อแบบช่อเชิงลด โดยจะออกท่ียอดระหว่างกาบใบคู่ในสุด มีความ ยาวประมาณ 5 เซนตเิ มตร แต่ละดอกจะมีใบประดับ 2 ใบ มีสีขาวหรือสีขาวอมชมพูอ่อน ๆ เป็นรูปใบ หอกกว้างประมาณ 8 มลิ ลิเมตร และยาวประมาณ 3.5-4.5 เซนติเมตร ท่ีกลีบเล้ียงมีสีขาวหรือสีขาวอม ชมพอู อ่ น โคนติดกนั เปน็ หลอด ยาวประมาณ 1.7 เซนตเิ มตร ปลายจะแยกเปน็ 3 แฉก สว่ นกลีบดอกมีสี ขาวหรือสขี าวอมชมพูอ่อน โคนตดิ กนั เปน็ หลอด ยาวประมาณ 6 เซนติเมตร และปลายแยกเป็น 3 กลีบ เป็นรปู ใบหอก มขี นาดไม่เท่ากัน กลีบใหญ่มี 1 กลีบ กว้างประมาณ 7 มิลลิเมตรและยาวประมาณ 1.8 เซนติเมตร ส่วนอีก 2 กลีบจะมีขนาดเท่ากัน กว้างประมาณ 5 มิลลิเมตร และยาวประมาณ 1.5 เซนติเมตร มีเกสรตัวผู้อยู่ 6 อัน แต่มี 5 อันท่ีเปลี่ยนไปมีลักษณะเหมือนกลีบดอก โดย 2 กลีบบนมีสี ชมพู รูปไข่กลับขนาดเท่ากัน มีความกว้างประมาณ 1.2 เซนติเมตร และยาวประมาณ 1.7 เซนติเมตร ส่วนอีก 3 กลีบล่างมีสีชมพูติดกันเป็นกระพุ้ง มีความกว้างประมาณ 2 เซนติเมตร ยาวประมาณ 2.7 เซนติเมตร และท่ีปลายจะแผ่กว้างประมาณ 2.5 เซนติเมตร มีสีชมพูหรือสีม่วงแดงเป็นเส้นอยู่เกือบทั้ง กลบี โดยเฉพาะอยา่ งยิง่ ตรงกระเปาะและปลายกลีบ จะมเี กสรตัวผู้ที่สมบูรณ์อยู่ 1 อัน ก้านชูอับเรณูหุ้ม กา้ นเกสรตวั เมีย 18 ที่มา : คลงั ความรู้สขุ ภาพ กระทรวงสาธารณสุข

17 ผลกระชำย ผลแก่จะแตกเป็น 3 เส่ียง มีเมล็ดคอ่ นข้ำงใหญ่ กระชาย มีอยดู่ ้วยกัน 3 ชนิด คือ กระชายดา กระชายแดง และกระชายเหลือง (แตใ่ นบทความน้ี เราจะพูดกันถึงกระชายเหลืองครับ) โดยกระชายเป็นพืชสมุนไพรที่คนไทยต่างรู้จักกันเป็นอย่างดี สามารถนามาปรุงเป็นอาหารไดห้ ลากหลายเมนู โดยเฉพาะอยา่ งยิ่งในการนามาใช้เป็นส่วนผสมสาคัญใน แกงป่า หรือผัดต่าง ๆ โดยส่วนท่ีนิยมนามาใช้ประกอบอาหารกันมากที่สุดคือ รากสะสมอาหาร หรือที่ เรียกวา่ \"นมกระชาย\" ซึ่งรากกระชายน้ีจะมีกล่ินหอมเฉพาะตัว สามารถใช้เป็นผักจ้ิมได้โดยตรง แต่คน ส่วนใหญ่มักจะนิยมนามาใช้เป็นเคร่ืองแกงซะมากกว่า เพราะมีคุณสมบัติในการช่วยดับกล่ินคาวของ เนอ้ื สัตว์เนื้อปลาได้เปน็ อยา่ งดี กระชายที่นิยมใช้กันก็คือกระชายเหลืองและกระชายดา ซ่ึงกระชายดาปัจจุบันกาลังเป็นที่นิยม จนทาให้กระชายเหลืองถูกลดความสาคัญลงไป แต่ว่ากันว่าในด้านสรรพคุณทางยาสมุนไพร กระชาย เหลืองนั้นดีกว่ากระชายดา เพราะบางทีเราก็คิดไปเองว่าสมุนไพรถ้าเป็นสีเข้มกว่าก็น่าจะมีประโยชน์ มากกว่า แถมกระชายดายังได้รับการโปรโมตทางการตลาดอย่างต่อเนื่อง ทาให้คนทั่วไปหลงคิดว่า กระชายดานนั้ ดกี วา่ กระชายเหลอื งนั่นเอง สมุนไพรกระชาย มสี รรพคณุ ทางยานานบั ประการ จนได้ช่อื ในวงการแพทยแ์ ผนไทยว่าเป็น \"โสม ไทย\" เน่อื งจากกระชายกบั โสมมีความคลา้ ยคลึงกันหลายอย่าง เช่น สรรพคุณในการบารุงกาลังและเสริม สมรรถภาพทางเพศ ซึ่งเป็นลักษณะเด่นของสมุนไพรท้ังสองชนิด ท้ังกระชายและโสมต่างก็เป็นพืชที่มี สว่ นสะสมอาหารทใี่ ช้เปน็ ยาอยู่ใต้ดินเหมือนกัน แถมยังสามารถเรืองแสงในท่ีมืดได้เหมือนกันด้วย และ ในเรื่องของลักษณะที่คล้ายกับรูปร่างมนุษย์เหมือน ๆ กัน ซ่ึงบางคร้ังเราจะเรียกโสมว่า \"โสมคน\" และ เรยี กกระชายว่า \"นมกระชาย\" (เนอื่ งจากกระชายมีลักษณะท่ีคลา้ ยคลึงกับนมผู้หญิงนั่นเอง และบางครั้ง ก็ดคู ล้ายเพศชาย จึงเกิดความเช่ือทว่ี า่ มันน่าจะมีความเกีย่ วข้องในเรือ่ งสรรพคณุ ทางเพศ) 19 ทมี่ า : คลังความรู้สขุ ภาพ กระทรวงสาธารณสขุ

18 สรรพคณุ ของกระชำย - กระชายมสี รรพคณุ ช่วยบารุงร่างกาย เปน็ ยาอายวุ ฒั นะหัวกระชาย - ช่วยบารุงธาตุในร่างกาย (ใบ) - กระชายเหลืองมสี รรพคุณชว่ ยแก้ลมวงิ เวียน แนน่ หนา้ อก - ชว่ ยบารงุ กาลัง เสรมิ สมรรถภาพทางเพศ บาบดั โรคนกเขาไมข่ ันหรือโรคอดี ี (Erectile Dysfunctional หรือ ED) (เหง้าใต้ดิน) - ช่วยบารงุ หัวใจ ดว้ ยการใช้เหง้าและรากของกระชายนามาปอกเปลือก ลา้ งนา้ ให้สะอาด นามาหนั่ ตากแห้งแลว้ บดจน เป็นผง และใหใ้ ช้ผงแหง้ ท่เี ตรยี มไวป้ ระมาณ 1 ช้อนชา นามาชงกับน้ารอ้ นครึ่งถ้วยชา แล้วรับประทานเพยี งครง้ั เดยี ว (เหง้า, ราก) - ช่วยบารงุ กระดกู ช่วยทาให้กระดกู ไม่เปราะบาง - ช่วยปรบั สมดลุ ของฮอรโ์ มนต่าง ๆ ในร่างกาย - ช่วยบารงุ กาหนดั แก้อาการกามตายด้าน (เหง้าใต้ดิน) - ชว่ ยบารุงสมอง เพราะชว่ ยทาใหเ้ ลอื ดไปเล้ียงสมองสว่ นกลางไดด้ ีมากข้นึ - ชว่ ยปรับสมดุลของความดันโลหติ ในรา่ งกาย ชว่ ยลดความดนั โลหิตเม่ือความดนั โลหติ สูง แตเ่ มอื่ ความดันโลหิตต่าก็ จะชว่ ยทาให้ความดันเพิ่มขน้ึ จนเป็นปกติ สรรพคุณกระชำยชว่ ยแกโ้ ลหติ เป็นพษิ (ใบ) - กระชายมสี รรพคณุ ทางยาชว่ ยแกโ้ รคในปากและคอ เช่น ปากเปือ่ ย ปากแหง้ ปากเปน็ แผล (ใบ, เหงา้ ) - ช่วยแก้ฝา้ ขาวในปาก ด้วยการใชก้ ระชายที่ล้างสะอาดนามาบดแบบไมต่ อ้ งปอกเปลือก แล้วใสใ่ นโถปนั่ พอหยาบ แล้ว นามาใส่ขวดปิดฝาแชไ่ วใ้ นตเู้ ย็น แล้วนามากนิ กอ่ นอาหารครง้ั ละ 1 ชอ้ นชาเล็ก กนิ วันละ 3 มื้อกอ่ นอาหารประมาณ 15 นาที ประมาณ 1 อาทิตย์ (ราก) 20 ทม่ี า : คลังความรสู้ ุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข

19 ประโยชน์ของกระชำย ประโยชน์กระชาย สามารถนามาทาเป็นน้ากระชายปน่ั ดื่มเพื่อเพิม่ ความสดชื่น บารงุ รา่ งกาย ทาให้ รา่ งกายกระปร้กี ระเปร่าได้เปน็ อย่างดี น้ากระชายช่วยทาให้ร่างกายกระปรีก้ ระเปรา่ ยงิ่ ข้ึน ช่วยทาใหเ้ หน่อื ยลง ชว่ ยทาใหเ้ สน้ ผมแขง็ แรง เปล่ยี นผมขาวใหก้ ลบั เปน็ ดา ช่วยทาใหผ้ มบางกลบั มาหนาขนึ้ และช่วย แก้ปัญหาผมหงอก ผมรว่ งได้ รากนามาใช้เปน็ เครือ่ งแกงในการประกอบอาหาร ชว่ ยดับกลิน่ คาวของเนอื้ และปลาไดเ้ ป็นอยา่ งดี โดยเฉพาะอยา่ งยงิ่ ปลาดุก ปลาไหล ปลากลุ า เปน็ ต้น และยงั ทาให้อาหารมกี ลน่ิ และรสที่หอมแบบเปน็ เอกลกั ษณ์อกี ด้วย รากกระชายสามารถช่วยไล่แมลงได้ ด้วยการนาตะไคร้ ขา่ หอมแดง ใบสะเดาแก่ นามาตาผสมกนั แลว้ ใช้ ผสมกับน้าฉดี ในบริเวณทมี่ ีแมลงรบกวน 21 ท่มี า : คลงั ความรูส้ ุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข

20 บุฟเฟ่ต์ อาหารสมอง 22

21 23

22 24

23 25

24 26

25 27

26 28

27 ห้องสมดุ ประชาชนอาเภอสวนผงึ้ สถานทต่ี ง้ั กศน.อาเภอสวนผง้ึ ถนนเทศบาล 6 ม.1 ต.สวนผ้ึง อ.สวนผงึ้ จ.ราชบรุ ี 032-395187 เวลาทาการ 08.30 - 16.30 น. เปิดบริการทกุ วัน ไมเ่ วน้ วันหยดุ นักขัตฤกษ์ FACEBOOK : ห้องสมุดประชาชนอาเภอสวนผึ้ง 29


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook