Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore KMหล่มเก่า

KMหล่มเก่า

Published by phenphon2000, 2020-04-26 01:44:23

Description: KMหล่มเก่า

Search

Read the Text Version

แบบบนั ทกึ องค์ความรู้ แบบบนั ทึกชดุ ความรูร้ ะดับหน่วยงาน และ แบบบนั ทกึ องคค์ วามรู้รายบคุ คล สานกั งานพฒั นาชุมชนอาเภอหล่มเกา่ จังหวัดเพชรบรู ณ์

แบบบันทึกชุดความรู้ระดับหน่วยงาน 1. ชื่อชดุ ความรู้ พัฒนาสนิ ค้าส่มู าตรฐานตลาด Online 2. ส่วนราชการ สานกั งานพัฒนาชมุ ชนอาเภอหลม่ เก่า 3. องคค์ วามรู้ทบี่ ง่ ช้ี (เลือกได้จานวน 1 หมวด)  หมวดที่ 1 สรา้ งสรรค์ชุมชนพึ่งตนเองได้  หมวดที่ 2 ส่งเสรมิ เศรษฐกจิ ฐานรากให้ขยายตัวอย่างสมดุล  หมวดที่ 3 เสริมสร้างทนุ ชมุ ชนใหม้ ธี รรมาภบิ าล  หมวดที่ 4 เสรมิ สร้างองค์กรใหม้ ขี ีดสมรรถนะสงู 4. ท่มี าและความสาคัญในการจดั ทาองค์ความรู้ จากการที่โลกมีการเปล่ียนแปลงอย่างรวดเร็ว ปัจจุบันมีการนาเทคโนโลยีสมัยใหม่เข้ามามีบทบาท สาคัญในการผลิตและการตลาดเพ่ิมมากข้ึน ดงั น้ัน การตลาด Online จึงเป็นที่นิยมของลูกค้าอย่างแพร่หลาย และภาครัฐก็ได้เล็งเห็นถึงความสาคัญในการ “นาคุณภาพของ Offline มาช่วยยกระดบั Online” ซึง่ เป็นหัวใจ สาคัญในการส่งเสริมช่องทางการตลาดสมัยใหม่ เพ่ือให้ผู้ผลิต ผู้ประกอบการ OTOP สามารถนาเสนอสินค้า และบริการให้กับลกู ค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ เป็นช่องทางเพิ่มยอดจาหนา่ ยได้ ถือเปน็ การสร้างความเข้มแข็ง เศรษฐกิจฐานราก นาไปสู่การลดความเหลื่อมล้าได้อย่างเป็นรูปธรรม ซ่ึงกรมการพัฒนาชุมชน เองก็มีนโยบาย ขับเคล่ือน OTOP โดยการเพ่ิมคุณภาพ พัฒนามาตรฐาน เพ่ือการก้าวย่างสู่ความเป็นสากล ซ่ึงการจะก้าวสู่ ความสากลดงั กล่าวได้ ผู้ผลิต ผปู้ ระกอบการ OTOP จะต้องรู้และเขา้ ใจพฤติกรรม การบริโภคสินค้าและบริการ ในปัจจุบนั อีกทัง้ ตอ้ งเขา้ ใจระบบการตลาดสมัยใหม่ดว้ ย อาเภอหล่มเก่า ซ่ึงเป็นอาเภอท่ีมียอดการจาหน่ายสินค้าหน่ึงตาบล หน่ึงผลิตภัณฑ์ One Tambon One Product (OTOP) เป็นอันดับหนึ่งของจังหวัดเพชรบูรณ์ และถือว่าเป็นอาเภอที่เป็นตลาดมะขาม และ ตลาดผ้าซิ่นหัวแดงตีนก่าน ซ่ึงเป็นผ้าที่เป็นที่นิยมในเขตพ้ืนท่ีอาเภอหล่มเก่าและอาเภอใกล้เคียง แต่หาก ผลิตแล้วก็ขายกบั บ้านหรือตลาดในพื้นท่ีอย่างเดียวบางทีกข็ ายอยาก ขายไม่ได้ ประกอบกบั ช่วงนี้มีโรคระบาด COVID 19 การออกบูธ ขายสินค้ายิ่งทาได้อยาก อีกท้ังการส่งออก หรือขายให้กับพ่อค้าคนกลางก็ลดน้อยลง จนแทบจะไม่มี ซ่ึงแสดงให้ให้วา่ ตลาด Online เป็นช่องทางทม่ี คี วามสาคญั และเป็นช่องทางการตลาดทจ่ี าเป็น ในชว่ งนี้อย่างยงิ่ 5. รูปแบบ กระบวนการ หรือลาดบั ขั้นตอน 5.1 พัฒนากรแต่ละตาบลส่งเสรมิ อาชพี ตามหลกั การสรา้ งสมั มาชพี ชุมชน 5.2 สง่ เสรมิ สนับสนุนให้กลมุ่ หรอื ผปู้ ระกอบการที่มีศกั ยภาพในพ้ืนที่ เข้ามารบั การลงทะเบียนเป็น ผู้ผลิต ผู้ประกอบการสนิ คา้ หน่งึ ตาบล หน่ึงผลติ ภณั ฑ์ One Tambon One Product (OTOP) อาเภอหล่มเกา่ และรับคาแนะนาในการตดิ ต่อขอมาตรฐานตา่ งๆ จากหนว่ ยงานตา่ งๆ อาทิ อย. มผช. ฮาลาน ฯลฯ 5.3 สนับสนนุ การพฒั นาผลิตภณั ฑ์ และบรรจภุ ณั ฑ์ ให้กลุ่ม หรือ ผู้ผลติ ผปู้ ระกอบการอย่างตอ่ เน่ือง ท้งั สง่ เสรมิ ใหผ้ ูผ้ ลิตผปู้ ระกอบการเขา้ รว่ มการฝกึ อบรม การประชุม การสัมมนา ของพัฒนากรผู้ประสานงาน ตาบลนน้ั ๆ 5.4 ติดตาม เย่ียมกลมุ่ ผผู้ ลิต หรือผู้ผลิต ผู้ประกอบการ โดยพัฒนาการอาเภอ เพือ่ สรา้ งขวัญกาลังใจ ให้กับกลุ่มผู้ผลติ และผู้ผลิต ผู้ประกอบการ

2 5.5 พัฒนาการอาเภอหล่มเก่า ร่วมกับคณะกรรมการเครือข่ายหนึ่งตาบล หน่ึงผลิตภัณฑ์อาเภอ หล่มเก่า และเจ้าหน้าท่ีพัฒนาชุมชนอาเภอหล่มเก่า ร่วมกันกาหนดกลุ่ม หรือ ผู้ผลิตผู้ประกอบการหน่ึงตาบล หนึ่งผลิตภัณฑอ์ าเภอหล่มเก่า ที่จะที่ตอ้ งพัฒนาในระดบั ต่างของปีงบประมาณ เชน่ กลมุ่ ผู้ผลติ ผู้ประกอบการ OTOP ที่ควรเข้าร่วมการพัฒนาในกลุ่มปรับตัวสู่การพัฒนา (Quadrant D) ซึ่งพัฒนาทั้งองค์ความรู้ของผู้ผลิต ผู้ประกอบการและบรรจุภัณฑ์ของผลิตภัณฑ์ หรือ กลุ่มที่ควรพัฒนาและส่งเสริมช่องทางการตลาด เช่น การ จาหนา่ ยสนิ ค้า OTOP ผา่ นระบบ Online เปน็ ตน้ 5.6 ประสานกล่มุ หรือผผู้ ลติ ผูป้ ระกอบการ OTOP ไปรว่ มประชุมเชิงปฏบิ ัติการผผู้ ลติ ผปู้ ระกอบการ OTOP ด้านการจาหนา่ ยสินค้า Online ผ่านเว็บไซต์ www.weloveshopping.com ม่งุ เนน้ การใหค้ วามรู้ และทักษะดา้ นการจาหนา่ ยสินค้า Online, การจัดทา Content ผลติ ภัณฑ์เพื่อใชใ้ นการจาหน่ายในตลาด Online, การถ่ายภาพผลติ ภัณฑใ์ หเ้ หมาะสมกับการจาหน่ายในตลาดออนไลน์, การเปน็ ผขู้ ายในเว็บไซต์ Facebook, line เพ่ือนามาประยุกตใ์ ช้ในการจาหนา่ ยสินค้า ผลติ ภัณฑ์ ของกลุ่มหรือผู้ผลติ ผู้ประกอบการ OTOP เอง 5.7 ติดตาม สนับสนุนและรับทราบปญั หาการใชง้ านระบบการจาหน่ายสินค้า Online ของกล่มุ หรือ ผ้ผู ลิต ผปู้ ระกอบการ OTOP ในพนื้ ที่ กรณีใช้งานไม่ได้ หรอื มีปญั หากป็ ระสานเจ้าหน้าทีผู้รูใ้ หข้ อ้ มูลและรว่ ม แกไ้ ขปญั หา 5.8 สร้างเครอื ขา่ ยความชว่ ยเหลือ และช่วยในการนาสินค้าออกจาหนา่ ยในลักษณะการฝากขาย เชน่ มีผรู้ บั ผดิ ชอบจาหน่ายสินค้า Online ระดับอาเภอ โดยให้ผู้ทไ่ี ดร้ บั คัดเลือกให้ไปรว่ มการอบรมสมั มนา มาเปน็ ตัวแทนในการจาหน่ายโดย กลุ่มหรือผผู้ ลิต ผู้ประกอบการ สนใจจะจาหน่ายสามารถนาไปฝากขายได้หรอื หาก ทา่ นใดสนใจจะเรยี นรู้ก็มีการสอนให้ เป็นตน้ 6. เทคนคิ ในการปฏบิ ัติงาน จาการดาเนินการส่งเสริมสนับสนุนให้สินค้าหน่ึงตาบล หน่ึงผลิตภัณฑ์ One Tambon One Product (OTOP) เป็นอาเภอท่ีมียอดการจาหน่าย เป็นอันดับหน่ึงของจังหวัดเพชรบูรณ์ ได้สานักงานพัฒนา ชุมชนอาเภอหลม่ เก่าใชเ้ ทคนิคการ 3 ส. ดงั นี้ 6.1 สร้างทีมเครือข่ายของผู้ผลิตผู้ประกอบการในนามเครือข่ายหน่ึงตาบล หน่ึงผลิตภัณฑ์อาเภอ หลม่ เกา่ เพอื่ การทางานโดยการสร้างหอ้ งกลุ่มไลน์เพ่อื การประสานงาน ในนาม “OTOP อ.หล่มเก่า”

3 6.2 ส่งเสริมกลุ่มอยา่ งต่อเน่ือง สร้างขวัญกาลังใจ เพื่อเก็บข้อมูลเพื่อการส่งเสริมการพัฒนากลุ่ม หรือ ผลิตภณั ฑ์ 6.3 สนับสนุนองค์ความรู้ต่างๆ ให้ผู้ผลิต ผู้ประกอบการในส่วนที่จะช่วยเพ่ิมยอดขาย การจาหน่าย ตลอดจนพัฒนาศักยภาพในการพฒั นาตนเองของผู้ผลติ ผปู้ ระกอบการให้ทันต่อยคุ สมยั 7. ปัญหาทพี่ บและแนวทางการแกไ้ ขปัญหา ปัญหาท่ีพบ คือ ผู้ผลิตผู้ประกอบการ บางท่านหรือบางกลุ่มไม่มีความสะดวกในการเข้าร่วม การประชุม อบรม สมั มนา เพอื่ พัฒนาองคค์ วามรู้ และผลติ ภณั ฑ์ เนอ่ื งจากการประกอบอาชีพ แนวทางแก้ไขปัญหา โดยการชี้ให้เห็นถึงความสาคัญของการเข้าร่วมการพัฒนาโดยการประชุม อบรม สัมมนา และคดั เลอื กกลุ่มหรอื ผูผ้ ลิตผูป้ ระกอบการท่ีมคี วามพร้อมสาหรบั การประชมุ อบรม สัมมนา 8. ประโยชน์ขององคค์ วามรู้ - เพ่ิมชอ่ งทางในการจาหน่ายสินคา้ โดยเฉพาะช่วงทม่ี ีโรคระบาด COVID 19 - เกิดเครอื ข่ายเกิดเปน็ ความร่วมมอื ระหว่างผู้ผลิตผู้ประกอบการหนึง่ ตาบลหนึ่งผลติ ภณั ฑใ์ นพ้นื ที่ - สามารถนาวิธีการขายในตลาด Online ไปประยุกต์กับการขายสินค้าอื่นๆ อาทิ สินค้าของกลุ่มสตรี ผลไม้สด ผกั สดในพ้นื ที่ เป็นตน้

1 แบบบันทึกองค์ความรรู้ ายบคุ คล 1. ชื่อองคค์ วามรู้ การบรหิ ารทีมดว้ ยกลยทุ ธ คิด ทา พลงั บวก 2. ช่ือเจา้ ของความรู้ จ่าสบิ เอก สรุ ชยั ไข่สิงห์ทอง พัฒนาการอาเภอหลม่ เก่า จังหวดั เพชรบรู ณ์ 3. องคค์ วามรู้ท่ีบ่งช้ี (เลือกไดจ้ านวน 1 หมวด)  หมวดที่ 1 สรา้ งสรรคช์ มุ ชนพง่ึ ตนเองได้  หมวดท่ี 2 ส่งเสรมิ เศรษฐกิจฐานรากใหข้ ยายตวั อย่างสมดุล  หมวดที่ 3 เสริมสร้างทุนชมุ ชนใหม้ ธี รรมาภิบาล  หมวดท่ี 4 เสริมสรา้ งองคก์ รใหม้ ีขีดสมรรถนะสงู 4. ท่ีมาและความสาคัญในการจดั ทาองค์ความรู้ มนุษย์ เป็นสัตว์ประเสริฐที่มีความรู้ความสามารถ ในด้านการพัฒนาตนเอง เพื่อดารงอยู่และสร้างเผา พันธุ์ ด้วยการคิด ทดลอง และปรับปรุงสามารถนาเทคโนโลยีมาเป็นเครื่องมือ สามารถจัดการและทางานด้วย ระบบเครื่องจกั ร โดยทมี่ นษุ ย์เป็นผคู้ วบคมุ และสร้างระบบขึน้ มา ในองค์กรแต่ละองค์กร จะมีระบบการบริการจัดการ และสร้างระบบการทางานที่ต้องการมุ่งเน้นให้ ประสบผลสาเร็จตามวตั ถุประสงคแ์ ละเป้าหมายที่กาหนด ด้วยการสรา้ งมาตรการ ขนั้ ตอน วิธีการ ซง่ึ ในองคก์ ร กรมการพัฒนาชุมชน สังกัดกระทรวงมหาดไทย มีภารกิจหน้าที่ในการขับเคล่ือนงานในการสร้างชุมชนให้ ประชาชนได้พัฒนาตนเอง และมีส่วนร่วมเรียนรู้ไปพร้อมกับความเปลี่ยนแปลงของสถานการณ์โลก และความ ต้องการของมนษุ ย์ สานักงานพัฒนาชุมชนอาเภอหล่มเก่า จังหวัดเพชรบูรณ์ เป็นหน่วยงานภูมิภาคท่ีข้ึนตรงกับสานักงาน พัฒนาชมุ ชนจังหวัดเพชรบูรณ์ ฝากการบังคับบัญชากับนายอาเภอหล่มเก่า มีบุคลากรในสังกัด จานวน 4 ราย ทาหน้าท่ีเป็นผู้ประสานงานตาบลตามการแบ่งมอบหน้าท่ีท่ีรับผิดชอบมากกว่า ๑ ตาบล ด้วยข้อจากัดจากการ ลดจานวนข้าราชการลงและปริมาณงานเท่าเดิมหรือเพ่ิมขึ้น ต้องทาหน้าท่ีในการประสานงานและรับผิดชอบ งานในแต่ละเรื่อง เช่น การพัฒนาอาชีพรายได้กลุ่มผู้ผลิตผู้ประกอบการ OTOP การบริหารจัดการทุนชุมชน การพัฒนาหมู่บ้านและสร้างหมู่บ้านเข้มแข็งด้วยหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง การพัฒนาองค์กรสตรีและ กองทุนพฒั นาบทบาทสตรี การบริหารจดั เกบ็ ข้อมูลพื้นฐานในการพฒั นาคณุ ภาพชวี ิต การสร้างทีมงานให้มีประสิทธิภาพ สามารถปฏิบัติหน้าที่ให้ทันกับสถานการณ์ และรอบของการ รวบรวมผลงาน จะต้องเตรียมความพร้อมของบุคลากรให้มีองค์ความรู้และมีจิตใจที่พร้อมจะทางานให้ประสบ ผลสาเร็จ การนากลยทุ ธ์ คิด ทา พลังบวก จึงเปน็ เครือ่ งมือท่ีสาคญั

2 5. รูปแบบ กระบวนการ หรอื ลาดับขัน้ ตอน 5.1 จัดการกับระบบงานใหส้ ามารถบูรณาการดว้ ยกนั 5.2 จัดทาฐานข้อมูลให้เปน็ ปจั จบุ นั 5.4 จัดทาแผนปฏบิ ัตกิ าร 5.5 ดาเนินการเองและบูรณาการงานกบั หนว่ ยงานภาคี 5.6 รวบรวมสรุปผลงานร่วมกนั 5.7 นาผลงานออกเผยแพร่ ประชาสมั พนั ธ์ ถ่ายทอด ขยายผล 6. เทคนิคในการปฏบิ ตั งิ าน 6.1 ศึกษา วเิ คราะห์ อุปนิสัย ใจคอ ความรคู้ วามสามารถ และความชอบของบุคลากร 6.2 ค้นหาตวั ตนที่แทจ้ ริงเพ่ือเขา้ ถึงและสร้างการยอมรับ 6.3 รว่ มคดิ และคน้ หาวิธีการทางานร่วมกัน ให้ความรสู้ ึกทดี่ ี และนาหน้าทาใหด้ ูกอ่ น 6.4 ยอมรบั และชืน่ ชมความสาเร็จ และให้กาลังใจแก้ไขในขอ้ บกพร่อง 6.6 ผู้มีสว่ นไดส้ ว่ นเสยี ประชาชน ผู้นา ได้รบั ผลประโยชนร์ ่วมอยา่ งแท้จรงิ 7. ปัญหาทพ่ี บและแนวทางการแกไ้ ขปญั หา ทกุ ขั้นตอนที่กาหนด เมื่อดาเนินการแล้วย่อมมีความเส่ียง เม่ือประเมินผลในแต่ละข้ันตอนว่าไม่สาเร็จ ด้วยปัญหาอุปสรรคอย่างไร ก็ควรต้องรีบแก้ไขหรือหากสามารถดาเนินการต่อได้ก็ต้องดาเนินการได้ทันที แต่การบริหารงานบุคคล จะต้องพึงระมัดระวังเรอื่ งของผลประโยชน์ หากมผี ลประโยชน์ร่วมกนั อยา่ ง WIN WIN จะไมม่ ปี ัญหา ที่พบปัญหาคอื ความไมเ่ ข้าใจและไมล่ งตวั ทผ่ี ลประโยชนต์ อบแทนของการประเมนิ ผลงาน 8. ประโยชน์ขององค์ความรู้ หากวิธีการดาเนินงานแบบบริหารทีมด้วยกลยุทธ์ คิด ทา พลังบวก ที่จะนาไปปรับใช้กับองค์กร และ สร้างมาตรการการทางานภายในองค์กรให้มีประสิทธิภาพมากย่ิงข้ึน ก็จะเป็นประโยชน์กับองค์กรน้ัน ๆ แต่หากองค์กรใดไม่มีแผนปฏิบัติการท่ีชัดเจน และผู้ปฏิบัติงานไม่มีความรู้ความสามารถ ก็อาจจะทาให้องค์กร นน้ั ไม่ประสบผลสาเรจ็

แบบบันทึกองคค์ วามรู้ ชื่อ - นามสกลุ นางสจุ ติ ร ทิพย์โสต ตาแหน่ง นกั วชิ าการพัฒนาชมุ ชน ชานาญการ สงั กัด สานกั งานพัฒนาชุมนอาเภอหลม่ เกา่ จงั หวดั เพชรบรู ณ์ เบอร์โทรศัพท์ท่ตี ดิ ต่อไดส้ ะดวก สานกั งานฯ 0-5674-7709 มือถือ 08-9641-1588 ชือ่ เรื่อง ขบั เคล่ือนการพัฒนาหม่บู า้ นเศรษฐกิจพอเพยี ง องคค์ วามรู้ที่บ่งช้ี หมวดที่ 1 สรา้ งสรรคช์ มุ ชนพึ่งตนเองได้ ที่มาและความสาคัญในการจัดทาองคค์ วามรู้ การขับเคล่ือนการพัฒนาหมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียง เป็นหลักการพัฒนาตามแนว พระราชดาริ คอื เข้าใจ เข้าถงึ พัฒนา เปน็ บันได ๓ ขนั้ สคู่ วามสาเร็จ 1. การเข้าใจ คอื การสร้างให้เกิดความเข้าใจในขอ้ มลู พน้ื ฐาน ด้วยการศึกษาข้อมลู ทุกมิติ ของชมุ ชน ค้นหารากของปัญหา และรวบรวมองคค์ วามร้ขู องโครงการพระราชดารทิ ว่ั ประเทศ 2. การเข้าถึง เป็นเรือ่ งการส่ือสารและสรา้ งการมสี ่วนรว่ ม โดยมุ่งสอ่ื สารสร้างความเข้าใจ และความม่ันใจกับชุมชน ร่วมกันวิเคราะห์ ปัญหาและความต้องการของชุมชน และให้ชุมชนมีส่วนร่วม ในกระบวน การพฒั นามากทส่ี ดุ 3. การพัฒนา เป็นเร่ืองของการเรียนรู้เพ่ือพัฒนาศักยภาพชุมชน สร้างทีมพ่ีเลี้ยง การ ออกแบบหลักสูตรและเมนูการพัฒนา การศึกษาดูงาน แลกเปล่ียนเรียนรู้ และฝึกปฏิบัติของชุมชน รวมทง้ั การใหท้ ีมพ่เี ลี้ยงให้คาแนะนาในชมุ ชน และตดิ ตามสนบั สนุนประเมินผล จะเห็นได้ว่า บันไดทั้ง 3 ขั้น ท่ีมุ่งไปสู่การพัฒนาให้ชุมชนมีความเป็นเจ้าของและนาไปสู่ ความยั่งยืนในที่สุด ไม่เพียงแต่ปัจจัยภายในหมู่บ้านเท่านั้น ท่ีจะทาให้การพฒั นาหม่บู ้านไปสู่ความสาเร็จ ปัจจยั ภายนอกมสี ว่ นสาคัญไม่แพ้กันกบั ภายในหมบู่ ้าน/ชมุ ชน รูปแบบ กระบวนการ ลาดับข้นั ตอน ได้น้อมนาเอาแนวคิด “เศรษฐกจิ พอเพยี ง” มาใช้ดาเนินงานเป็นวิถีชีวติ ดงั น้ี การเรยี นรู้ เริ่มจากการเรียนรูต้ นเอง การใช้เวทีพูดคุยเรือ่ งความทกุ ข์ และค้นหาแนวทางการ พ้นจากความทุกข์ โดยให้มีการคน้ หาปญั หา หาสาเหตุ หาแนวทางแก้ไข ถ้าแก้ไขไม่ได้ ก็ไปปรกึ ษาผู้รู้ ทางานและสรปุ ผลการเรยี นรู้ร่วมกัน ทาให้ทุกคนท่ีเข้ามาในศูนย์ได้เรียนรู้ตนเอง เช่นเรยี นรู้ว่าตนเองมี ปัญหาเกี่ยวกับรายได้ และทบทวนรายจ่ายของครอบครัว และร่วมกันแสวงหาแนวทางแก้ไขร่วมกัน และเรยี นรูเ้ ร่อื งอืน่ ๆอีกมากมาย การประหยัด เรียนรู้วธิ ีการท่ีจะดารงชีวิตอยู่ได้ด้วยการรู้จักประหยัด อดออม และดาเนินชีวิต ตามแนวทางเศรษฐกิจพอเพยี ง โดยการปลกู ทกุ อย่างท่ีกนิ กินทุกอย่างที่ปลูก ความรอบคอบ ระมัดระวัง การเรียนรู้เรื่องแหล่งทุน หมู่ 4 ตาบลวังบาล ได้ส่งเสริมการ เรยี นรู้ เก่ยี วกับการฝากเงนิ สัจจะเงินสจั จะกบั กลุ่มออมทรัพยเ์ พื่อการผลติ เงนิ ทุน กข.คจ. การเรียนรู้ร่วมกัน เรียนรู้กระบวนการพัฒนาไปสู่ความเข้มแข็งของชุมชน ด้วยการปลูก จิตสานึกในการปลูกผักสวนครัวร้ัวกินได้เป็นการพ่ึงตนเอง +ตามแนวคิดของปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง เปน็ หลัก

2 เทคนคิ ในการปฏิบัติงาน การพัฒนาคน คือ กระบวนงานพัฒนาชุมชนที่ต้องเข้าใจ เข้าถึง และพัฒนา เป็นการพัฒนา ศักยภาพทรัพยากรมนุษย์ โดยการเปิดโอกาสให้ประชาชนที่ประสบปัญหา นาปัญหามาปรึกษาหารือ หาแนวทางแก้ไขปัญหาร่วมกัน ส่งผลต่อการพัฒนาศักยภาพของผู้มาเรียนรู้ให้เป็นแบบอย่างท่ีดีของ ชมุ ชนใกลเ้ คียง การพัฒนาพื้นท่ี ได้ส่งเสริม สนับสนุน และสร้างความตระหนักให้ประชาชนรักและหวงแหน ชุมชนของตนเพอื่ พฒั นาไปส่กู ารเป็นชมุ ชนทป่ี ระชาชน กินดี อยูด่ ี สขุ ภาวะดี การพัฒนาแหล่งรายไดข้ องชุมชน การปลกู ผกั สวนครัวร้วั กินได้เปน็ การลดรายจ่ายในครัวเรือน และสามารถปลกู เป็นอาชพี เสรมิ รายไดอ้ กี ทางหนึ่ง ก่อให้เกิดรายไดข้ องชมุ ชนได้อยา่ งยั่งยนื ปัญหาท่ีพบ 1. ราษฎรและครัวเรือนเศรษฐกิจพอเพียงขาดความเช่ือมั่นว่าการดาเนินชีวิตตามปรัชญาของ เศรษฐกิจพอเพยี งจะสามารถแก้ไขทุกข์ที่มอี ยู่ในครัวเรอื นและชุมชนได้ 2. ผู้นาชุมชน แกนนา ตลอดจนเจ้าหน้าที่และผู้มีส่วนส่งเสริมและสนับสนุนการพัฒนาหมู่บ้าน ขาดความเขา้ ใจ จงึ ไม่สามารถเข้าถงึ ทจี่ ะนาไปสกู่ ารพัฒนาหม่บู ้านได้ แนวทางแกไ้ ข 1. สร้างขวัญและกาลังใจให้ครัวเรือนท่ีดาเนินชีวิตตามปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงจริงๆ ด้วยการชมเชย ประกาศเกียรติคุณ เป็นต้น ถึงแม้จะยังไม่สาเร็จก็ตามแต่ให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลง ที่ดีขึ้น (แต่ท่ีผ่านมามักหยิบเอาครัวเรือนท่ีประสบความสาเร็จด้วยปัจจัยอ่ืนขึ้นมายกย่อง จึงไม่สามารถ เป็นตน้ แบบของครัวเรอื นในชุมชนได)้ 2. สร้างผู้นาชุมชนแกนนาตลอดจนเจ้าหน้าที่และผู้มีส่วนส่งเสริมและสนับสนุนการพัฒนา หมู่บ้าน ให้สามารเป็นต้นแบบ หรือเป็นแบบอย่างในการดารงชีวิตด้วยปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง และสามารถเป็นที่เรยี นรู้ได้ (ทาใหเ้ ขาดู ดกี วา่ พูดกรอกหใู หเ้ ขาฟัง) จงึ จาสามารถ “เขา้ ถึง” 3. เมื่อสามารถเข้าถึงแล้วจึงทาการพัฒนาไปด้วยกันได้ ท้ังท่ีบริบทของฐานะและอาชีพท่ี แตกต่างกัน ประโยชนข์ ององคค์ วามรู้ 1. เปน็ การสรา้ งความเขา้ ใจแกค่ รวั เรือน/หมบู่ ้านเศรษฐกิจพอเพียง 2. สามารถปรับทัศนคติของ ผู้นาชุมชน แกนนา ตลอดจนเจ้าหน้าที่และผู้มีส่วนส่งเสริมและ สนบั สนนุ การพฒั นาหม่บู า้ น ให้ ช่อื ผู้บนั ทึกความรู้ นางสจุ ิตร ทิพยโ์ สต 

แบบบันทกึ องคค์ วามร้รู ายบคุ คล 1. ช่ือองค์ความรู้ การส่งเสรมิ กลุ่มออมทรัพยเ์ พื่อการผลิตตามหลกั ธรรมมาภบิ าล 2. ช่อื เจา้ ของความรู้ นางกมลวรรณ ปาลา ตาแหน่ง นกั วิชาการพัฒนาชุมชน ชานาญการ สังกัด สานกั งานพัฒนาชุมชนอาเภอหลม่ เก่า จงั หวดั เพชรบรู ณ์ 3. องคค์ วามรู้ที่บ่งช้ี เสริมสร้างทนุ ชมุ ชนใหม้ ีธรรมาภบิ าล 4. ทม่ี าและความสาคญั ในการจดั ทาองคค์ วามรู้ กรมการพัฒนาชุมชน ดาเนินการส่งเสริม สนับสนุนการจัดต้ังกลุ่มออมทรัพย์เพื่อการผลิตมา ต้ังแต่ พ.ศ. 2517 โดยศาสตราจารย์ ดร.ยุวัฒน์ วุฒิเมธี อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน ได้เริ่มทดลองดาเนินการ ครั้งแรก 2 แห่ง คือ ตาบลขัวมุง อาเภอสารภี จังหวัดเชียงใหม่ และตาบลละงู อาเภอละงู จังหวัดสตูล กลุ่ม ออมทรัพย์เพ่ือการผลิต เป็นการผสมผสานระหว่างแนวคิดสหกรณ์การเกษตรเครดิตยูเนี่ยน และสินเชื่อเพื่อ การเกษตรโดยใช้ “เงินเป็นเครื่องมือในการพัฒนาคน” ทาให้คนมีคุณธรรม มีการช่วยเหลือ เกื้อกูล เอ้ืออาทร แบ่งปันซ่ึงกันและกัน เกิดกระบวนการเรียนรู้ในการทางานร่วมกันตามวิถีประชาธิปไตย มีการยอมรับฟังของ เสียงส่วนใหญ่ เคารพในกฏกติกาท่ีมาจากข้อตกลงร่วมกัน เกิดการเรียนรู้ การบริหารจัดการเงินทุนของตนเอง เพอื่ จัดสรรผลประโยชน์ และจดั เป็นสวัสดิการให้กับสมาชกิ ทาให้ชุมชนมีแหล่งทนุ ในการประกอบอาชีพเป็นของ ตนเอง ลดการพึ่งพิงแหล่งทุนจากภายนอกชุมชน และที่สาคัญท่ีสุดคือเป็นการฝึกคนให้มีความอดทน มีสัจจะ มีระเบียบวินัย ในการใช้เงิน รู้จักใช้เงินอย่างมีเหตุผล มีความเหมาะสม พอประมาณกับตนเองและครอบครัว เป็นการสร้างภูมิคุ้มกันให้กับครอบครัวและชุมชนตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง กรมการพัฒนาชุมชน ได้มุ่งขับเคล่ือนภ ารกิจแล ะยุท ธศาส ตร์กรมการพั ฒ นาชุมช นไปสู่ การปฏิบัติให้เกิดประโยชน์ต่อป ระชาช น อย่างแท้จริง จากยุทธศาสตร์เสริมสรา้ งทุนชุมชนให้มีประสิทธิภาพ และมีธรรมาภิบาล พัฒนาระบบการจัดการ และการเข้าถึงแหล่งทุนชุมชน ซึ่งมีกิจกรรมนาไปสู่การพัฒนา ในหลายมิติ ท้ังด้านเศรษฐกิจ สังคม ทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม ตลอดจนวัฒนธรรมและวิถชี ีวิตของคนในชมุ ชน 5. รปู แบบ กระบวนการ หรือลาดับขนั้ ตอน ความสาเร็จของกลุ่มออมทรัพย์เพื่อการผลิตหมายถึง การท่ีกลุ่มออมทรัพย์ฯดาเนินงานบรรลุตาม วัตถุประสงค์ของกลุ่มออมทรัพย์ฯ ประกอบด้วย 3 ด้าน คือด้านพัฒนาคน ด้านพัฒนาพัฒนาเศรษฐกิจชุมชน และด้านพัฒนาสงั คม ความสาเรจ็ ของการดาเนนิ การกลมุ่ ออมทรัพยเ์ พื่อการผลติ ขน้ึ อยกู่ บั องคป์ ระกอบ ดังน้ี 1. คณะกรรมการ หมายถึง ผู้บริหารที่มีภาวะผู้นา สนับสนุนการทางานของกลุ่มให้ดาเนินไปสู่ ความสาเร็จหรอื สู่เปา้ หมายทต่ี ้องการได้ 2. การบริหารจัดการกลุ่ม หมายถึง การกระทาร่วมกันด้วยความตั้งใจของบุคคลต้ังแต่ 2 คนขึ้นไป ในการใช้คน เงินในการบริหารแหล่งเงินทุน การบริหารการใช้เงินทุน การวางระบบทางการเงิน การจัดโครงสรา้ งการเงินให้มัน่ คง การควบคุมคา่ ใชจ้ ่ายตา่ งๆ การบรหิ ารกิจการให้มสี ภาพคล่องสูง 3. การมีส่วนร่วม หมายถึง การเปิดโอกาสให้สมาชิก เข้าไปมีส่วนร่วมในการวางแผน การระดมทรัพยากรและเทคโนโลยีท้องถิ่น การบริหารจัดการ การตดั สนิ ใจการติดตามประเมินผล รวมถงึ การรับ ผลประโยชนท์ ีเ่ กิดขน้ึ 4. การสนับสนุนจากภายนอก หมายถึง หน่วยงานภาครัฐ เช่น ธนาคารออมสิน ธนาคารเพ่ือ การเกษตรและสหกรณ์การเกษตร กรมการพัฒนาชุมชน เป็นต้น และกลุ่มออมทรัพย์ต่างๆ ท่ีให้การสนับสนุน ดา้ นการให้ความรอู้ ุปกรณ์ การแลกเปลย่ี นและเรยี นร้ปู ระสบการณ์ร่วมกัน

2 6. เทคนิคในการปฏบิ ัตงิ าน พัฒนากรได้ใช้เป็นแนวทางในการติดตามตรวจสอบ ส่งเสริม กลุ่มออมทรัพย์เพื่อการผลิต ให้มีธรรมาภิบาล 1. พัฒนากรต้องศึกษาระเบียบ แนวทางการดาเนินงานกลุ่มออมทรัพย์เพื่อการผลิต หลักการ กล่มุ ออมทรพั ย์เพื่อการผลติ การจดั ทางบการเงนิ และบญั ชี 2. ศึกษาปัญหาต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นกับกลุ่มออมทรัพย์เพื่อการผลิต เพ่ือนามาพัฒนาปรับปรุงและ แก้ไข 3. ส่งเสริม สนับสนุน คณ ะกรรมการและสมาชิกกลุ่มฯ ต้องปฏิบัติตามระเบียบฯ อยา่ งเคร่งครดั 4. เจ้าหน้าทพี่ ฒั นาชุมชนร่วมประชุมกับทีมตรวจสุขภาพกลมุ่ ออมทรพั ย์เพ่ือการผลิต เพ่ือสร้าง ความรู้ ความเข้าใจ ให้เป็นไปในแนวทางเดียวกัน 5. ทีมตรวจสุขภาพร่วมประชุมกับคณะกรรมการกลุ่มออมทรัพย์เพื่อการผลิต เพ่ือหาแนวทาง ในการการแกไ้ ขปญั หาของกลุม่ ฯ 6. เจ้าหน้าท่ีพัฒนาชุมชน สร้างความรู้ ความเข้าใจ ช้ีแนะ ให้คณะกรรมการและสมาชิก ตอ้ งยดึ หลักธรรมาภิบาลในการบริหารจัดการกลุ่มออมทรพั ยฯ์ ให้มคี วามยั่งยืนของกลุ่ม 7. พัฒนาการอาเภอ เจ้าหน้าท่ีพัฒนาชุมชน ต้องติดตาม สนับสนุน ประเมินผลการดาเนินงาน ของกลมุ่ ออมทรพั ย์ฯ อยา่ งสมา่ เสมอ 7. ปญั หาท่ีพบและแนวทางการแกไ้ ขปญั หา สภาพปัญหา จากผลการดาเนินการขับเคล่ือนกลุ่มออมทรัพย์เพ่ือการผลิตที่ผ่านมาซึ่งมีการติดตามและการ ตรวจสุขภาพทางการเงินตามแบบตรวจสุขภาพกลุ่มออมทรัพย์ฯ เพ่ือประเมินศักยภาพกลุ่มออมทรัพย์ฯ ตามหลกั ธรรมาภบิ าล 1. คณะกรรมการ - ขาดความรู้ ความเขา้ ใจบทบาทหนา้ ทข่ี องตนเอง ไมเ่ ข้าใจระเบียบข้อบงั คับสว่ นใหญ่ ถอื ปฏบิ ัตติ อ่ ๆ กันมา - เม่ือหมดวาระจะไม่มีการเลือกใหม่จะใช้คนเดิม สมาชิกส่วนใหญ่ยึดติดกับคณะกรรมการชุดเดิม ไมม่ ีการคดั เลือกเปน็ ทางการ ไมม่ ีการบนั ทึกการประชุม - การพจิ ารณาโครงการก้ยู ืมไมเ่ ปน็ ไปตามวตั ถปุ ระสงค์ - ไมม่ กี ารติดตามหลังสมาชิกกเู้ งินไปแลว้ ทาตามวัตถปุ ระสงค์หรือไม่ - อนุมัติเงินกู้ยืมมากเกินกว่าระเบียบข้อบังคับของกลุ่มฯ กาหนด โดยไม่ประชุมช้ีแจง ให้สมาชกิ ทราบ - คณะกรรมการบางกลุ่ม กระทาการในลักษณะแสวงหาประโยชนจ์ ากเงนิ ของกลุ่ม 2.เอกสารทะเบียนการเงนิ บัญชีต่าง ๆ - การจัดทาเอกสารทะเบียนคุมการเงินต่าง ๆ เช่น ทะเบียนสมาชิก ทะเบียนคุมเงิน สัจจะ ทะเบียน ส ร จ สมุดเงินฝากธนาคาร งบรายงานสถานะทางการเงิน งบดุล บางกลุ่มมีแต่ไม่ครบ ไม่เป็นปัจจุบัน สว่ นใหญก่ ารทาบญั ชีไม่ครบถ้วน - บันทึกการประชุม ไม่ค่อยมีการจดบันทึกการประชุม เช่น ประชุมอนุมัติเงินกู้ ประชุมคณะกรรมการ ประชุมสมาชกิ

3 3.การตรวจเย่ียม ตดิ ตามประเมินผลของเจา้ หน้าท่ีพฒั นาชุมชน -เจ้าหน้าที่พฒั นาชมุ ชนลงติดตามตรวจเย่ียมไมต่ ่อเน่ือง -เจ้าหน้าที่พัฒนาชุมชนไม่มีความรู้ ความเข้าใจ ด้านการเงิน การบัญชี ทาให้ไม่ สามารถตรวจสอบสถานะทางการเงนิ ของกลมุ่ ฯได้ แนวทางแก้ไขปัญหา : เพื่อป้องกันการเกิดปัญหาดังกล่าว จาเป็นต้องมีการส่งเสริมการบริหารจัดการกลุ่ม ออมทรพั ย์เพ่อื การผลิตตามาหลกั ธรรมาภิบาล ดงั น้ี - ประชุมช้ีแจงให้ความรู้แก่กรรมการและสมาชิกกลุ่มออมทรัพย์เพ่ือการผลิตด้านการเงินและ บัญชี ดาเนินการตรวจสุขภาพกลุ่มออมทรัพย์เพ่ือการผลิตตามคู่มือ/แนวทางของกรมการพัฒนาชุมชน จัดทา แผนพัฒนากลุ่มฯสาหรบั การประเมินแต่ละด้านที่ไม่ผ่าน เพื่อรับการติดตามและตรวจสุขภาพคร้ังต่อไป รายงาน ข้อมูลให้อาเภอ เพ่ือช่วยตรวจสอบการทางานของกลุ่มอีกทางหนึ่ง เจ้าหน้าท่ีพัฒนาชุมชน/ Move for fund team ตรวจติดตาม และร่วมประชมุ กลุม่ ฯ อย่างสม่าเสมอ เพ่ือจะไดท้ ราบการดาเนินเงินและสถานะทางการเงิน ของกลุ่มฯ และช่วยแก้ไขขอ้ ผิดพลาดบกพร่องของกลุ่มฯ ได้ เปน็ การป้องกนั การเกดิ ปญั หาต่าง ๆ ได้ในเบอื้ งต้น - เจ้าหน้าท่ีพัฒนาชุมชนจะต้องมีความรู้ด้านการเงินและบัญชีอิเลคทรอนิกส์ และสามารถ ถา่ ยทอดใหค้ ณะกรรมการกลุม่ ออมทรัพย์ฯ ได้ 8. ประโยชน์ขององค์ความรู้ 1. กลุ่มออมทรัพย์เพ่ือการผลิตเป็นกิจกรรมท่ีสร้างการเรียนรู้ โดยใช้เงินทุนของสมาชิกเป็นเคร่ืองมือ สรา้ งกระบวนการเรยี นรู้ 2. พฒั นากรได้ใช้เป็นแนวทางในการตดิ ตามตรวจสอบ ส่งเสริม กลุม่ ออม

แบบบนั ทึกองค์ความรู้รายบุคคล 1. ชื่อองค์ความรู้ การขบั เคล่ือนการพัฒนาหมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียง อยเู่ ย็น เป็นสุข 2. ชอ่ื เจ้าของความรู้ นางสาวเพ็ญพร ชานาญพันธ์ นักวิชาการพฒั นาชุมชนชานาการ 3. องคค์ วามรู้ทบ่ี ง่ ชี้ (เลือกได้จานวน 1 หมวด)  หมวดที่ 1 สร้างสรรค์ชมุ ชนพงึ่ ตนเองได้  หมวดท่ี 2 ส่งเสรมิ เศรษฐกิจฐานรากให้ขยายตวั อยา่ งสมดุล  หมวดที่ 3 เสริมสรา้ งทนุ ชมุ ชนใหม้ ธี รรมาภบิ าล  หมวดท่ี 4 เสรมิ สรา้ งองค์กรให้ มีขีดสมรรถนะสูง 4. ทมี่ าและความสาคัญในการจัดทาองค์ความรู้ สถานการณ์โลกเปลี่ยนแปลงทุกวันอยา่ งรวดเรว็ เราจึงควรต้องสรา้ งชุมชนให้เข้มแข็ง โดยใชพ้ ลังของ ชุมชนเอง ให้คนในชุมชนพึ่งตนเองได้ พ่ึงพาอาศัยกันในชุมชนได้ เมื่อเราพึ่งพาภายนอกน้อยลง หากเกิดสถานการณ์วิกฤตใดๆ ขึ้นอันเป็นผลกระทบจากภายนอก ชุมชนก็จะไม่ได้รับผลกระทบมากนัก และยังอยู่ดีมีสุขได้ด้วยการพ่ึงพาตนเอง จึงจาเป็นต้องสร้างความรู้ความเข้าใจให้กับประชาชนในการนา หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงไปใช้ในการดาเนินชีวิต ท้ังในระดับครัวเรือนและชุมชน และขับเคล่ือน ไปพรอ้ มกันแบบองคร์ วม เศรษฐกจิ พอเพยี ง หมายถึง ปรัชญาที่ช้ีถงึ แนวทางการดารงอยูแ่ ละปฏิบตั ิตนของประชาชนทุกระดับ ตั้งแต่ระดับครอบครัว ชุมชน จนถึงระดับรัฐ ท้ังในการพัฒนาและบริหารประเทศให้พัฒนาไปในทางสายกลาง ความพอเพียง หมายถึง ความพอประมาณ ความมีเหตุผล มีภูมิคุ้มกันในตัวที่ดี พร้อมรับผลกระทบใดๆ ที่เกิด จากการเปลย่ี นแปลงทัง้ ภายในและภายนอก ทง้ั นี้ต้องอาศยั ความรอบรู้ ความรอบคอบ และความระมัดระวงั หมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียง หมายถึง กระบวนการจัดการพัฒนาประชาชน พัฒนาหมู่บ้านหรือชุมชน ให้มีวิถีชีวิตเศรษฐกิจพอเพียงและเป็นสังคม “อยู่เย็น เป็นสุข” ด้วยการน้อมนาปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลท่ี 9 มาเป็นแนวทางในการดาเนินงาน โดยเน้นประชาชน เป็นศนู ยก์ ลาง ผ ล จ า ก ก า ร ขั บ เค ล่ื อ น ก า ร พั ฒ น า อ ย่ า ง ต่ อ เนื่ อ ง ส่ ง ผ ล ให้ ค น ใน ชุ ม ช น เข้ า ใจ ห ลั ก ป รั ช ญ า เศรษฐกิจพอเพียง มีการน้อมนามาใช้ในการดาเนินชีวิตจนเป็นนิสัย สามารถพ่ึงตนเองได้ มีความเอื้อเฟ้ือ ช่วยเหลือเกื้อกูลกันในชุมชน มีภูมิคุ้มกันพร้อมรับต่อการเปลี่ยนแปลง เกิดศูนย์กลางในการเรียนรู้เกี่ยวกับ วิถีการดาเนินชีวิตตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงและต้นแบบในการบริหารจัดการกองทุนในหมู่บ้าน เพ่ือเสริมสร้างความเข้มแข็งในการพัฒนาและแก้ปัญหาชุมชนด้วยตนเอง และได้รับรางวัลหมู่บ้าน เศรษฐกิจพอเพียงอยู่เย็นเป็นสุข ระดับจังหวัด ปี 2562 รับโล่รางวัลและเกียรติบัตรจากท่านผู้ว่าราชการ จังหวัดเพชรบูรณ์ ได้รับโล่พระราชทานสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ จากท่านอธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน และส่งผลให้ผู้ใหญ่บ้านเนินนาทอนได้รับรางวัลผู้ใหญ่บ้านยอมเย่ียม ในปี 2563

2 5. รปู แบบ กระบวนการ หรือลาดบั ข้ันตอน ข้าพเจ้าได้ดาเนินการขับเคล่ือนการพัฒนาหมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียง บ้านเนินนาทอน หมู่ท่ี 1 ตาบลบ้านเนนิ อาเภอหล่มเก่า ดงั นี้ 1. ศึกษาข้อมูลและบริบทของชุมชน ผ่านเอกสารและการลงพื้นท่ี การพูดคุยกับผู้ใหญ่บ้าน คนในชุมชน และภาคีเครือข่าย เพ่ือนาข้อมูลท่ีได้มาวางแผนดาเนินการพัฒนา ให้เหมาะสมกับภูมิสังคม ของบ้านเนนิ นาทอน 2. เข้าร่วมการประชุมประจาเดือนของหมู่บ้าน เพื่อชี้แจงข่าวสารของทางราชการและเป็นการ สร้างความคุ้นเคยกับคนในชุมชน พร้อมฝากให้ทุกคนช่วยกันดูแลความสะอาดบ้านและหน้าบ้านตัวเองให้ดู “น่าอยู่น่ามอง” และน้อมนาหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ในการดาเนินชีวิต อาทิ การลดรายจ่าย ในครัวเรือน การลดต้นทุนการผลติ การจัดการสิ่งแวดลอ้ ม การทาบัญชีครัวเรอื น การออม เปน็ ต้น 3. ออกแบบการพัฒนา โดยใช้ทรัพยากรท่ีมีในชุมชน สร้างช่องทางการส่ือสารแบ่งปันความรู้ และเป็นเครือ่ งมอื ในการกระตนุ้ การพฒั นา โดยการสร้างกลุม่ ไลนห์ มูบ่ า้ นขนึ้ 4. จัดประชุมคณะกรรมการหมู่บ้าน คณะกรรมการคุ้มบ้าน 4 คุ้มบ้าน เพื่อร่วมกันออกแบบ การพัฒนา โดยให้แต่ละคุ้มช่วยกันเรียบเรียงออกมาว่าแต่ละคุ้มมีใครเป็นกรรมการบ้าง มีสมาชิกก่ีหลังคา เพื่อเป็นการทบทวนและจัดทาข้อมูล แต่ละคุ้มมีของดีอะไร มีปราชญ์ชุมชนในเรื่องอะไรบ้าง มีจุดใดในคุ้ม สามารถเป็นจุดเรียนรู้ให้กับผู้สนใจได้บ้าง โดยค้นพบจุดเรียนรู้ถึง 16 จุดด้วยกัน และมอบหมายภารกิจงาน ให้แต่ละคุ้มไปดาเนินการให้เป็น “คุ้มมีชีวิต” โดยให้รายงานผลการดาเนินงานผ่านทางกลุ่มไลน์หมู่บ้าน เป็นระยะ การมีกลุ่มไลน์หมู่บ้านทาให้ทุกคนเกิดความสนุกสนานไปด้วยกัน และเป็นการส่งพลังบวกถึงกัน ร่วมสร้างสรรค์สิ่งดๆี ไปพรอ้ มๆ กัน 5. เขา้ ร่วมการประชุมประจาเดือนของหมู่บ้าน กาหนดกจิ กรรมและข้อตกลงในการดาเนินการ ร่วมกัน อาทิ กิจกรรมพัฒนาหม่บู ้านทุกศุกร์ท่ี 2 ของเดือน การพัฒนาคุม้ บ้าน กิจกรรมจิตอาสาพัฒนาวดั และ ตาบล โดยพัฒนากรไปรว่ มกจิ กรรมดว้ ยทกุ คร้ัง 6. ลงพ้นื ที่ตดิ ตามผลการดาเนนิ งาน เย่ยี มเยือน พดู คุย กบั พีน่ ้องในชุมชนเป็นระยะ 7. กาหนดกิจกรรมประกวดคุ้มบ้าน เพื่อเป็นการกระตุ้นและสร้างขวัญกาลังใจในการ ดาเนินงาน จานวน 2 รอบ รอบท่ี 1 โดยคณะกรรมการจากทีมงานสานักงานพัฒนาชุมชนอาเภอหล่มเก่า นาโดยท่านพัฒนาการอาเภอ 8. วิเคราะห์ พิจารณา สอบถามความต้องการ ในส่ิงที่ชุมชนยังขาดหรือควรได้รับการเติมเต็ม เพื่อประสานภาคเี ครือขา่ ยการพฒั นาเข้ามาให้ความรู้ แลกเปลยี่ นประสบการณ์ สง่ เสริมการพัฒนา 9. เข้าร่วมการประชุมประจาเดือนหมู่บ้าน พร้อมแจ้งผลการประกวดรอบท่ี 1 เพื่อให้แต่ละ คุ้มบ้านได้นาข้อแนะนาของคณะกรรมการไปปรับปรุง และเชิญเครือข่ายงานเข้าร่วมประชุมด้วยเพื่อเป็นการ ช่วยกระตุ้นและสร้างความตระหนัก อาทิ ทีมงานสาธารณสุขอาเภอและ ทีม รพ.สต.บ้านเนิน ช่วยให้ความรู้ ในการคัดแยกขยะและการทาขยะเปียก เป็นต้น ซ่ึงการทางานบูรณาการร่วมกันทาให้งานพัฒนาก้าวไปได้ไว โดยทาง รพ.สต.บา้ นเนิน ได้มอบหมายทาง อสม. ในการดูแลเร่อื งการทาหลุมขยะเปียกอีกทาง ทาให้ครวั เรือน ในหมบู่ ้านทาหลมุ ขยะเปียกครบทกุ ครัวเรือน 10. จัดทีมลงพ้ืนที่ติดตามเย่ียมให้กาลังใจตามบ้าน ประกอบด้วย ผู้ใหญ่บ้าน เจ้าหน้าที่ รพ.สต.บา้ นเนิน และพัฒนากร 11. กาหนดการประกวดหมู่บ้านรอบที่ 2 พบว่าทุกคุ้มมีชีวิต ทุกจุดเรียนรู้มีวิทยากรพร้อมรับ ผศู้ กึ ษาดงู าน สามารถอธบิ ายได้

3 12. เข้าร่วมการประชุมหมู่บ้าน พร้อมแจ้งผลการประกวดรอบท่ี 2 โดยผลการประกวด คะแนนเท่ากัน พร้อมอธบิ ายเหตผุ ลใหท้ กุ คนไดเ้ ข้าใจ ซ่งึ ทกุ คนเขา้ ใจและยอมรบั 13. ติดตามการดาเนินงานอย่างสม่าเสมอแบบไม่เป็นทางการ โดยลงพ้ืนท่ีไปเย่ียมในช่วงเช้า บ้าง ช่วงเย็นบ้าง เข้าร่วมการประชุมหมู่บ้านบ้าง และพูดคุยหัวร่อต่อกระซิกทางไลน์กันบ้าง เพ่ือชมเชย ใหก้ าลงั ใจ หรอื คาแนะนาต่างๆ 6. เทคนิคในการปฏบิ ตั งิ าน 1. ต้องเข้าใจ โดยมีข้อมลู ของหมบู่ ้านในทุกมิติ รู้คน รูง้ าน รูพ้ น้ื ท่ี รวู้ ฒั นธรรม 2. ต้องเข้าถึง ผู้นาชุมชน แกนนาชุมชน ประชาชน ภูมิสังคม โดยการสร้างความคุ้นเคยและความ เป็นกันเอง ใช้หลักอยู่ท่ีไหนก็เป็นคนที่นั่น ร่วมกิจกรรมต่างๆ ของชุมชน จะทาให้ได้รับความร่วมมือในการทา กิจกรรมตา่ งๆ 3. ใชก้ ระบวนการมสี ่วนร่วม (ทกุ คนร่วมกนั คิด ร่วมกันทา รว่ มกันรบั ผลประโยชน์) 4. ให้ความจริงใจ เอาใจเขามาใส่ใจเรา (ร่วมดาเนินงานด้วยทุกกระบวนงาน เป็นที่ปรึกษา ส่งเสริม สนับสนนุ อยเู่ คยี งขา้ ง) 5. ทาตัวเป็นแบบอย่างในการนาหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ เช่น การลดรายจ่าย โดยการ กวนน้ายาลา้ งจนใช้เอง การทาบัญชีครวั เรอื น ไมย่ งุ่ เกีย่ วกับอบายมขุ เปน็ ต้น 6. คานึงอยูเ่ สมอวา่ เราเปน็ นกั พัฒนา มหี นา้ ที่ชว่ ยเขาเพ่อื ใหเ้ ขาชว่ ยตนเองได้ มใิ ชไ่ ปทาให้ 7. ปัญหาทพ่ี บและแนวทางการแกไ้ ขปัญหา ปัญหาที่พบ จะเป็นเร่ืองของเวลาว่างของประชาชน ส่วนใหญ่มีอาชีพทาการเกษตร และการปลูกพืช บางอย่างที่จะต้องเอาใจใส่ดูแลตลอดเป็นบางช่วง ทาให้ประชาชนไม่ค่อยมีเวลาว่าง หากจะต้องนัดประชุม เป็นกิจจะลกั ษณะ วิธีแก้ปัญหาคือ ทาให้ประชาชนรู้สึกว่า การพัฒนาหมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียงตามแนวทางของ กรมการพัฒนาชุมชน ไม่ได้เบียดบังเวลา หรือทาให้วิถีชีวิตที่เป็นอยู่เปลี่ยนไป โดยในการประชุม เพื่อสร้าง ความรู้ความเข้าใจเรื่องต่างๆ ใช้เวทีการประชุมประจาเดือนของหมู่บ้าน และใช้กลุ่ม Line ของหมู่บ้าน หรือ หากจาเป็นต้องนัดประชุมนอกรอบ (ซึ่งพยายามให้มีน้อยที่สุด) จะใช้ช่วงเวลาตอนพลบค่า หลังจากพ่ีน้อง ในชมุ ชนกลับจากไร่นา โดยพัฒนากรไปตรงเวลาทกุ คร้งั ให้คนในชุมชนเป็นคนกาหนดเวลาตามแผนการดาเนินกิจกรรมทุกอย่าง อาทิ กิจกรรมการพัฒนา หมู่บ้านร่วมกันจะทาวันใด ช่วงใด ที่ประชุมกาหนด ทุกวันศุกร์ท่ีสองของเดือน เวลา 07.00 น. เป็นต้น พัฒนากรมหี นา้ ทเ่ี ข้าไปรว่ มทากจิ กรรมดว้ ย ส่วนในการดูแลพ้ืนที่ของแต่ละบ้าน แนะนาให้ประชาชน ใช้เวลาก่อนไปทางานหรือกลับจากทางาน หรือวันท่ีพักจากการทางาน ทาวันละเล็กวันละน้อย เหมือนการทาความสะอาดบ้านที่เราต้องทาเป็นประจา อยู่แล้ว เพียงแค่พัฒนากรแนะนาแนวทางการจดั ระเบียบภายในบริเวณบ้านให้ ส่วนการออกแบบเป็นเร่ืองของ เจ้าของบ้าน สามารถออกแบบได้ตามความถนัด ความชอบ และทรัพยากรทมี่ ี ทาทกุ อย่างตามวถิ ี เพียงแค่มแี นวทาง เพิ่มความมีรูปแบบ

4 8. ประโยชน์ขององคค์ วามรู้ เป็นแนวทางในการขบั เคล่อื นการพฒั นาหมู่บ้านเศรษฐกจิ พอเพยี งในพ้นื ท่อี ื่นๆ ให้ประสบความสาเรจ็ อยเู่ ยน็ เป็นสขุ มีความเข้มแข็งในการพฒั นาและแก้ไขปญั หาชมุ ชนดว้ ยตนเอง “ไม่ยดึ ติดตารา” “เข้าใจ เข้าถึง พฒั นา” “ชว่ ยเขา เพ่ือให้เขาช่วยตนเองได้”

แบบบันทึกองคค์ วามร้รู ายบคุ คล 1. ช่ือองค์ความรู้ การสร้างศูนยเ์ รียนรชู้ มุ ชนโดยคณะกรรมการบรหิ ารงานตาบลแบบบูรณาการ (ก.บ.ต.) 2. ช่อื เจา้ ของความรู้ นางเสงย่ี ม อนิ ทมงคล นกั วชิ าการพัฒนาชมุ ชนชานาญการ 3. องค์ความรู้ทีบ่ ง่ ช้ี (เลอื กไดจ้ านวน 1 หมวด)  หมวดท่ี 1 สรา้ งสรรค์ชุมชนพ่ึงตนเองได้  หมวดที่ 2 สง่ เสรมิ เศรษฐกจิ ฐานรากให้ขยายตัวอย่างสมดลุ  หมวดท่ี 3 เสริมสร้างทนุ ชุมชนให้มีธรรมาภบิ าล  หมวดท่ี 4 เสริมสรา้ งองคก์ รใหม้ ีขดี สมรรถนะสงู 4. ทีม่ าและความสาคัญในการจดั ทาองค์ความรู้ ตามที่กระทรวงมหาดไทย ได้ประกาศใช้ระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยการจัดทาและประสาน แผนพัฒนาพืน้ ที่ในระดับอาเภอและตาบล พ.ศ. 2562 เพ่ือเป็นแนวทางปฏบิ ัตใิ นการบูรณาการการจดั ทาแผน และประสานแผนพัฒนาในระดับพ้ืนที่ให้เกิดความเช่ือมโยงสอดคล้องกับทิศทางการพัฒนาในระดับจังห วัด กล่มุ จงั หวัด ภาคและประเทศ ไปในทิศทางเดยี วกันไดอ้ ย่างมปี ระสิทธิภาพ นาไปสคู่ วามมั่นคง มัง่ คง่ั ยั่งยืน น้ัน บ้านปลาฝา หมู่ที่ 5 ตาบลหินฮาว อาเภอหล่มเก่า เป็นหมู่บ้านเป้าหมายที่คณะกรรมการบริหารงาน ตาบลแบบบูรณาการ (ก.บ.ต.) ตาบลหินฮาว ที่เราเรยี กตัวเองว่า “ทมี ตาบลหินฮาว” ซึ่งในทีมจะมีประธานคือ ปลัดอาเภอประจาตาบล นักวิชาการเกษตรตาบล นักวิชาการสาธารณสุขตาบล รองปลัดองค์การบริหารส่วน ตาบลหินฮาว และนักวิชาการพัฒนาชุมชน ตลอดจนทีมเสริมอ่ืนๆ ตามภารกิจ ในกรณีหมู่ที่ 5 บ้านปลาฝา ตาบลหนิ ฮาว มีการเปล่ียนผู้ใหญ่บ้านใหม่ได้ไม่นานและไมม่ ีทีป่ ระชมุ หรอื ศาลากลางหมู่บา้ นสาหรับการประชุม หรือทากิจกรรมร่วมกันของคนในหมู่บ้าน และเม่ือส่วนราชการเข้าไปประชุมต้องเตรียมสถานที่ กางเต็นท์ โต๊ะ เกา้ อ้ีฯลฯ ท่ีสาคญั ไม่มีสถานทีส่ าหรบั การประชาสัมพันธ์ ขอ้ มูลข่าวสารต่างๆ ของหมูบ่ ้าน ทีมตาบลหินฮาว โดยการสนับสนุนของสานักงานพัฒนาชุมชนอาเภอหล่มเก่า จึงเสนอให้มี การจัดสร้างศูนย์เรียนรู้ชุมชน ขึ้นโดยศูนย์เรียนรู้แห่งนี้จัดสร้างข้ึนโดยไม่ใช้งบประมาณจากส่วนราชการใด ทง้ั ส้ิน เกดิ จากความรว่ มมือจากทกุ ภาคส่วนท้งั ทีมตาบล ชาวบา้ น และภาคเอกชน อ่นื ๆ 5. รปู แบบ กระบวนการ หรือลาดับขั้นตอน 5.1 กาหนดกิจกรรมท่ีจะดาเนินการ “สร้างศนู ยเ์ รยี นรู้ชุมชน” 5.2 กาหนดพนื้ ทีเ่ ปา้ หมาย “บ้านปลาฝา หมทู่ ี่ 5 ตาบลหนิ ฮาว” 5.3 พิจารณาวัตถุประสงค์ทีเ่ ปน็ ประโยชน์ต่อสว่ นรวมมากท่สี ุด 5.4 พูดคุยกับผ้ใู หญบ่ ้านและผนู้ าในหมูบ่ า้ นเพ่ือเสนอแนวทางและหาแนวทางปฏบิ ตั ริ ว่ มกันตลอดจน ร่วมกจิ กรรมของหมูบ่ า้ นเพื่อสรา้ งความสนิทสนมและความไวว้ างใจ

2 5.5 ระดมคน เงิน ทรัพยากร ภายในหม่บู า้ น จากชาวบา้ น ภาคีพัฒนา ภาคราชการ ภาคเอกชน ตาม ความสมัครใจ 5.6 เริม่ การก่อสร้างศนู ย์เรียนรชู้ มุ ชน แบบค่อยเป็นค่อยไป และใชว้ นั ว่างของชาวบา้ นเปน็ หลัก อาทิ ในวนั พระ วันหยดุ เป็นตน้ 5.7 ประชมุ สรุปงานในแต่ละวันทมี่ กี ารสรา้ งศนู ย์เรียนรู้ชุมชน และทาแผนเพ่ือสรา้ งและพฒั นาศนู ย์ เรยี นรู้ในระยะสั้นทจี่ ะทาต่อไปอนั ใกล้ และ แผนระยะยาวว่าศนู ยเ์ รยี นรู้จะเปน็ อย่างไร มีอะไรในอนาคต 6. เทคนคิ ในการปฏิบัตงิ าน การสร้างศูนย์เรียนรู้ชุมชน โดยไม่ใช้งบประมาณของทางราชการ เป็นการดาเนินการท่ีต้องอาศัยทีม ตาบล หรือ คณะกรรมการบริหารงานตาบลแบบบูรณาการ (ก.บ.ต.) ทีเราต้องถือว่าบางทีหน้าท่ีเราไม่ใช้แต่ การบูรณาการแผนหรือความร่วมมือเฉพาะกิจกรรม หรือโครงการที่มีงบประมาณ เท่านั้นการบูรณาการความ

3 ร่วมมือท่ีเปน็ การสง่ เสรมิ การมีส่วนร่วมของชมุ ชนก็สาคัญ แตก่ ารจะสร้างส่ิงน้ีใหเ้ กิด พัฒนากรตาบลต้องสาคัญ และมเี ทคนิคในการปฏบิ ตั ิงาน 3 อ. ดงั น้ี อ. แรก เอาใจ พัฒนากรตาบลต้องมีการเอาใจทีมงาน ในที่น้ีคือการให้ความสาคัญกับทุกคนในทีม สร้างความเป็นกันเองซึ่งจะนามาซึ่งความกล้าที่จะคุย จะพูด จะแนะนาของทีมงานเราในเร่ืองงาน กิจกรรม หรือเรื่องอ่นื ๆ เป็นตน้ อ.ท่ีสอง เอาให้ พัฒนากรตาบลต้องรู้จักการเอาให้ น้ันคือการแบ่งปันเวลาให้กับทีม อาทิ ร่วม รับประทานอาหาร ร่วมรบั ฟังการปรับทุกข์ ร่วมออกกาลังกาย และร่วมกิจกรรมกบั หน่วยงาน หรอื ทีมตาบลจัด ขน้ึ แมบ้ างครัง้ จดั ขน้ึ อย่างเปน็ ทางการและไมเ่ ปน็ ทางการ หรอื วันสาคญั ของครอบครวั ทีมตาบล เปน็ ต้น อ.ท่ีสาม เอาไป พัฒนากรตาบลต้องรู้จักการเอาไป การเอาไปคือการเอาสิ่งดีๆไปฝากทีมงาน อาจเป็น เรื่องของสุขภาพ สิ่งของเล็กน้อย แม้แต่กรณีที่ทีมงานตาบลไม่ว่างเอาเรื่องไปฝากประชาสัมพันธ์หรือประชุมก็ สามารถทาได้ แมไ้ มล่ ะเอยี ดก็สามารถให้ชาวบา้ นตดิ ตามจากหน่วยงาน หรอื ผูร้ ับผดิ ชอบได้ เป็นต้น

4 7. ปัญหาทพี่ บและแนวทางการแกไ้ ขปัญหา - ปัญหาท่ีพบสาหรับการดาเนินการการสร้างศูนย์เรียนรู้ชุมชนโดยคณะกรรมการบริหารงานตาบล แบบบูรณาการ (ก.บ.ต.) นกี้ ค็ ือ กรณีทพี่ ฒั นากรไมส่ ามารถด่มื เคร่ืองดื่มมึนเมา อาทิ สุรา เบียร์ เหล้า ไวน์ ฯลฯ เป็นตน้ ซ่งึ อาจเป็นเพราะ ค่านยิ ม สุขภาพส่วนตัว ซงึ่ บางทีทาใหท้ ีมเกดิ ความเปน็ กนั เองได้อยาก - แนวทางการแก้ไขปัญหา เราสามารถดาเนินการได้โดยการพาคนสนิทที่สามารถดื่มได้ไปร่วม วงสนทนาด้วย และต้องดูแลทุกคนเมื่อมีอาการเมา เช่นประสานคนที่บ้านมารับ พาไปส่งท่ีบ้าน เป็นต้น และ สิ่งท่ีขาดไม่ได้การเป็นกัลยามิตรที่ดีต้องช้ีให้ทีมงานเห็นว่าการดูแลสุขภาพ ออกกาลังกายเป็นส่ิงที่ดีพยายาม เปล่ยี นกจิ กรรมการดมื่ เป็นกิจกรรมออกกาลังกายแฝงไปดว้ ย 8. ประโยชนข์ ององคค์ วามรู้ ประโยชน์ต่อชาวบ้าน ชาวบ้านมีศูนย์เรียนรู้ชุมชนสาหรับการรวมส่ิงดีๆ ในหมู่บ้าน อาทิ รวม ความร่วมมือ รวมกิจกรรมดีๆในหมู่บ้าน เป็นต้น นอกจากน้ีก็กระจ่ายสิ่งดีๆ ในหมู่บ้าน อาทิ กระจายข้อมูล ข่าวสาร ดีๆ การประชาสัมพันธ์ที่ดี เพื่อการรับรู้ของชาวบ้าน และการดาเนินการพัฒนาหมู่บ้านให้ไปใน แนวทางเดยี วกัน อนั จะนาไปสูค่ วามมัน่ คง มงั่ ค่งั ยงั่ ยืน ประโยชนต่อทีมตาบลหินฮาว ทุกคนมีความสนิทสนมเกิดการบูรณาการกิจกรรมที่มีการรับรู้ไป ด้วยกันระหวา่ งหน่วยงานเกิดความคุม้ คา่ ในการปฏบิ ัติงานในพ้นื ทีต่ าบล ประโยชนต่อพัฒนากรผู้ประสานงานตาบล ทาให้พัฒนากรไม่มีรู้สึกทางานคนเดียวในพื้นท่ี โดย เฉพาะงานที่ต้องอาศัยความรว่ มมือ และเม่อื เกิดทีมแล้วการดูแลกันจะทาให้เกดิ ความเป็นพน่ี ้อง ดแู ลกนั ต่อไปได้ นอกจากนี้ประโยชน์ต่อส่วนรวมสามารถนาวิธี การสร้างศูนย์เรียนรู้ชุมชนโดยคณะกรรมการ บริหารงานตาบลแบบบูรณาการ (ก.บ.ต.) ไปประยุกต์ใช้กับพ้ืนทอี่ ื่นได้ และเม่ือเกิดความร่วมมือการบรู ณาการ กจิ กรรมอน่ื เราก็จะสามารถทาได้อย่างมีประสทิ ธภิ าพ ต่อไป *****************************


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook