หน่วยที่ 2 การจัดการข้อความ

ชุดการเรียนรู้ เรือ่ ง การจดั การข้อความ วิชาคอมพวิ เตอร์ 3 รหสั ว20253 ระดบั ชั้นมัธยมศึกษาปที ่ี 2 ภาคเรยี นท่ี 1 ปีการศกึ ษา 2562 จัดทาโดย นางสาวนงลักษณ์ วาสะศิริ ตาแหน่ง ครู กลุ่มสาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี โรงเรียนโพธสิ ัมพันธพ์ ทิ ยาคาร อาเภอบางละมงุ จังหวัดชลบุรี สานักงานเขตพน้ื ที่การศกึ ษามัธยมศึกษา เขต 18 กระทรวงศกึ ษาธกิ าร

คำนำ ชุดการเรยี นรู้ หนว่ ยที่ 2 การจัดการข้อความ เนื้อหาภายในประกอบไปด้วย คาชแี้ จง สาหรับครู คาช้ีแจงสาหรับนกั เรียน ผลการเรียนรู้ จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ ระยะเวลาในการเรียนรู้ ใบความรู้ ใบงาน ซงึ่ นักเรยี นสามารถใช้เอกสารเล่มน้ีควบค่กู ับการเรยี นได้ เพื่อลดขัน้ ตอนในการจดสรปุ เนอื้ หาทเ่ี รยี นและสามารถนาไปทบทวนนอกห้องเรยี นได้ เมอื่ นกั เรียนศกึ ษา ค้นคว้า ทาความเข้าใจ ฝึกปฏิบัตติ ามชดุ การเรียนรู้แล้ว จะสามารถ ช่วยลดปญั หาความแตกต่างกันของนักเรียนทัง้ ด้านความรู้พ้ืนฐาน ความสามารถในการเรียนรู้และทกั ษะการ ใช้คอมพิวเตอร์ สร้างมาตรฐานการเรียนให้ผ้เู รยี นไดเ้ รียนรู้เน้ือหาเท่าเทียมกนั ชว่ ยลดภาระครผู ู้สอนในการ กากบั ดูแลชน้ั เรยี นทีม่ นี กั เรยี นจานวนมาก โดยครสู ามารถนาเวลาไปดแู ลนักเรียนท่ีเรียนรชู้ ้าเปน็ พเิ ศษได้ โดยไมร่ บกวนการเรียนรู้ของช้ันเรียน อกี ทัง้ เป็นการส่งเสริมการเรยี นรู้ตามอัธยาศยั นกั เรียนสามารถเรยี นรู้ ตามความสามารถของตน ทบทวนฝึกฝนเพิ่มเติมนอกเวลาเรียน ไม่จากดั สถานที่และเวลา สามารถแกป้ ัญหา ใหก้ บั นักเรียนที่ ไม่ผา่ นการประเมนิ จุดประสงค์การเรียนรู้ ขอขอบคุณผู้บริหารโรงเรียนโพธิสัมพนั ธพ์ ิทยาคาร ผู้เช่ยี วชาญ พ่ๆี นอ้ งๆ และเพ่ือนครู ทุกท่านท่ีให้ความอนุเคราะห์ตรวจสอบเอกสาร ใหค้ าแนะนา และกาลังใจท่ีดีตลอดมา ข้าพเจ้าหวงั เป็นอยา่ งย่ิงว่าชุดการเรียนรหู้ น่วยที่ 2 การจดั การข้อความ จะเป็นประโยชน์ ต่อการพฒั นาการศกึ ษา และจุดประกายความคดิ ของนักเรียน อีกทง้ั พฒั นานกั เรียนใหเ้ ปน็ ผมู้ ีคุณภาพมาก ยิง่ ข้นึ นงลกั ษณ์ วาสะศริ ิ

สำรบญั หน้า 1 คาชี้แจงสาหรับครู 4 คาชแี้ จงสาหรับนกั เรียน 7 ผลการเรยี นรู้ 7 จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ 8 ระยะเวลาในการเรยี นรู้ 9 ใบความรทู้ ี่ 1 เรื่อง การจัดการขอ้ ความ ตอนที่ 1 14 ใบงานท่ี 1 เรื่อง การจัดการข้อความ ตอนที่ 1 16 ใบความรทู้ ่ี 2 เรือ่ ง การจดั การข้อความ ตอนท่ี 2 20 ใบงานท่ี 2 เรือ่ ง การจดั การข้อความ ตอนท่ี 2 22 ใบความร้ทู ี่ 3 เรื่อง การการตกแตง่ ข้อความ ตอนที่ 1 27 ใบงานท่ี 3 เรอ่ื ง การการตกแตง่ ข้อความ ตอนท่ี 1 29 ใบความรทู้ ่ี 4 เรื่อง การการตกแตง่ ข้อความ ตอนท่ี 2 33 ใบงานที่ 4 เรื่อง การการตกแต่งขอ้ ความ ตอนที่ 2

หนา้ ท่ี 1 คำชี้แจงสำหรับครู 1. ศึกษาแผนการจัดการเรียนร้ใู ห้เข้าใจ ซึง่ ประกอบด้วยผลการเรยี นรู้ สาระสาคญั จดุ ประสงค์การเรียนรู้ สาระการเรียนรู้ กจิ กรรมการเรียนรู้ สื่อการเรยี นการสอน การวดั ผล ประเมินผลการเรียนรู้ 2. ศึกษาค่มู ือการใช้ชดุ การเรยี นรู้ 3. อธิบายและชแี้ จงให้นกั เรยี นอ่านคาชแี้ จงสาหรับนกั เรียนอย่างละเอยี ด และปฏิบัติตาม ขัน้ ตอนจนจบในแตล่ ะหนว่ ย 4. แบง่ กล่มุ นักเรียน โดยใหภ้ ายในกลมุ่ มีสมาชิกประมาณ 4-5 คน และชแี้ จงใหน้ ักเรยี น ทราบวา่ ขณะนกั เรยี นศกึ ษาชดุ การเรียนรู้ นกั เรยี นสามารถถามเพื่อนหรือช่วยเหลอื กันภายในกลุ่มได้ 5. ชี้แจงใหน้ ักเรยี นทราบว่า นกั เรยี นสามารถใช้เอกสารประกอบการเรยี นเลม่ น้ีบันทกึ สรปุ ความรู้ควบคไู่ ปกับการฝึกปฏิบัติได้ (เพื่อลดข้นั ตอนในการจดสรปุ เนอ้ื หาท่ีเรยี นและสามารถ นาไปทบทวนนอกห้องเรียนได)้ 6. การประเมนิ ผล จะพิจารณาจากคะแนนแบบฝึกหัดรวมกับคะแนนใบงาน โดยถา้ นักเรียนได้ - คะแนนรอ้ ยละ 80 ขนึ้ ไป ผ่านเกณฑ์อยใู่ นระดบั ดีมาก - คะแนนร้อยละ 70-79 ผ่านเกณฑ์อยูใ่ นระดบั ดี - คะแนนรอ้ ยละ 60-69 ผา่ นเกณฑ์อยู่ในระดบั พอใช้ - คะแนนนอ้ ยกว่าร้อยละ 60 ไมผ่ ่านเกณฑ์อยใู่ นระดบั ปรบั ปรุง 7. ให้นักเรียนทาตามขนั้ ตอนดังนี้ ชวั่ โมงที่ 1-2 7.1 ศึกษาเน้ือหาในชุดการเรียนรู้ตามหวั ข้อ ดงั น้ี (ใบความรูท้ ี่ 1 เร่อื ง การจัดการ ขอ้ ความตอนที่ 1) - การใชค้ าสง่ั <Hn>…</Hn> - การใชค้ าสง่ั <BR> - การใชค้ าสงั่ <P>…</P> - การใชค้ าสง่ั <CENTER>…</CENTER> - การใชค้ าสั่ง <PRE>…</PRE>

หน้าที่ 2 7.2 ให้นักเรยี นฝกึ ปฏบิ ัติตามใบความรู้ เม่ือพบปัญหาใหป้ รึกษาและขอคาแนะนาจาก เพ่ือนในกล่มุ ก่อน แต่ถา้ ไมเ่ ข้าใจสามารถปรึกษาและขอคาแนะนาจากครูได้ 7.3 ทาใบงานท่ี 1 ด้วยตนเอง 7.4 เมื่อทาเสรจ็ แล้วให้ประธานกลุ่มรวบรวมส่งครู ชวั่ โมงท่ี 3-4 7.5 ศกึ ษาเน้ือหาในชุดการเรยี นรู้ตามหัวขอ้ ดังนี้ (ใบความรทู้ ี่ 2 เรื่อง การจดั การ ขอ้ ความตอนท่ี 2) - การใชค้ าสั่ง <HR> - การใช้คาสง่ั <Blockquote>…</Blockquote> - การใช้คาสั่ง &nbsp; 7.6 ใหน้ ักเรียนฝึกปฏบิ ตั ิตามใบความรู้ เมื่อพบปญั หาให้ปรึกษาและขอคาแนะนาจาก เพื่อนในกลุ่มก่อน แต่ถ้าไม่เข้าใจสามารถปรึกษาและขอคาแนะนาจากครไู ด้ 7.7 ทาใบงานที่ 2 ดว้ ยตนเอง 7.8 เมื่อทาเสร็จแล้วให้ประธานกลมุ่ รวบรวมส่งครู ช่ัวโมงท่ี 5-6 7.9 ศึกษาเนื้อหาในชุดการเรียนรู้ตามหวั ขอ้ ดังน้ี (ใบความรทู้ ี่ 3 เรื่อง การตกแต่ง ขอ้ ความตอนที่ 1) - การใช้คาสง่ั <B>…</B> - การใช้คาสั่ง <I>…</I> - การใช้คาสั่ง <U>…</U> - การใช้คาสง่ั <SUB>…</SUB> - การใชค้ าส่ัง <SUP>…</SUP> 7.10 ใหน้ ักเรียนฝกึ ปฏบิ ัตติ ามใบความรู้ เมื่อพบปัญหาให้ปรึกษาและขอคาแนะนาจาก เพือ่ นในกลุ่มกอ่ น แต่ถ้าไม่เข้าใจสามารถปรึกษาและขอคาแนะนาจากครไู ด้ 7.11 ทาใบงานท่ี 3 ดว้ ยตนเอง 7.12 เมื่อทาเสรจ็ แล้วให้ประธานกลมุ่ รวบรวมส่งครู

หน้าท่ี 3 ชว่ั โมงท่ี 7-8 7.13 ศกึ ษาเน้ือหาในชดุ การเรยี นรู้ตามหัวขอ้ ดังนี้ (ใบความรู้ท่ี 4 เรื่อง การตกแต่ง ข้อความตอนที่ 2) - การใชค้ าสงั่ <FONT SIZE=””>…</FONT> - การใช้คาสง่ั <FONT COLOR=””>…</FONT> - การใช้คาสัง่ <FONT FACE=””>…</FONT> - การใชค้ าสั่ง <BODY TEXT> - การใช้คาสงั่ <Marquee>…</ Marquee> 7.14 ใหน้ ักเรียนฝกึ ปฏบิ ตั ติ ามใบความรู้ เม่ือพบปัญหาใหป้ รึกษาและขอคาแนะนาจาก เพ่อื นในกลุ่มกอ่ น แต่ถ้าไม่เข้าใจสามารถปรึกษาและขอคาแนะนาจากครูได้ 7.15 ทาใบงานที่ 4 ดว้ ยตนเอง 7.16 เม่อื ทาเสรจ็ แลว้ ให้ประธานกลมุ่ รวบรวมส่งครู

หน้าท่ี 4 คำชี้แจงสำหรับนักเรียน 1. ชุดการเรยี นรู้ไดร้ ับการวางแผนออกแบบอยา่ งเปน็ ระบบ นกั เรียนควรศึกษาคาแนะนา การใชบ้ ทเรียน สาระการเรียนรู้ สาระสาคัญ ผลการเรยี นรู้ จดุ ประสงค์การเรียนรู้ จากค่มู ือการใช้ บทเรยี น 2. ชุดการเรียนรู้ประกอบดว้ ย ผลการเรียนรู้ จุดประสงค์การเรยี นรู้ ระยะเวลาในการ เรยี นรู้ เนอ้ื หา ภาพประกอบ กิจกรรมระหว่างเรยี น 3. นักเรยี นสามารถใช้ชุดการเรยี นรู้เลม่ นบ้ี ันทึกสรุปความรู้ได้ 4. ขณะทนี่ กั เรียนศกึ ษาในชดุ การเรียนรู้ ควรศกึ ษาเนื้อเรียงตามลาดบั เนอ่ื งจากชุดการ เรียนร้ไู ดอ้ อกแบบให้ศึกษาเนื้อหาในหัวข้อง่ายไปหัวขอ้ ยาก 5. หลงั จากศึกษาเน้ือหาในแตล่ ะหัวข้อจบแลว้ ใหน้ กั เรียนฝกึ ปฏบิ ัตติ ามในแต่ละหวั ขอ้ หวั เมื่อพบปัญหาใหป้ รึกษาและขอคาแนะนาจากเพื่อนในกลมุ่ กอ่ น แต่ถ้าไมเ่ ขา้ ใจสามารถปรึกษาและขอ คาแนะนาจากครูได้ 6. ขณะศกึ ษาในชุดการเรยี นรู้ให้นกั เรียนปฏิบตั ิตามข้นั ตอนดังน้ี ชั่วโมงท่ี 1-2 6.1 ศึกษาเน้ือหาในชดุ การเรยี นรู้ตามหวั ขอ้ ดงั น้ี (ใบความรู้ที่ 1 เรื่อง การจดั การ ข้อความตอนท่ี 1) - การใช้คาสัง่ <Hn>…</Hn> - การใชค้ าส่งั <BR> - การใชค้ าสั่ง <P>…</P> - การใชค้ าส่งั <CENTER>…</CENTER> - การใชค้ าสัง่ <PRE>…</PRE> 6.2 นกั เรียนฝกึ ปฏบิ ัตติ ามใบความรู้ เม่อื พบปัญหาใหป้ รึกษาและขอคาแนะนาจาก เพือ่ นภายในกลุ่มก่อนปรึกษาครู 6.3 บนั ทกึ สรปุ ความรู้ที่ได้ลงในสมุดหรือในเอกสารประกอบการเรียนเลม่ น้ี 6.4 ทาใบงานที่ 1 ด้วยตนเอง 6.5 เมื่อทาเสร็จแล้วให้ประธานกลุ่มรวบรวมส่งครู

หน้าที่ 5 ชัว่ โมงท่ี 3-4 6.6 ศึกษาเนื้อหาในชุดการเรยี นรู้ตามหัวขอ้ ดงั น้ี (ใบความรทู้ ี่ 2 เรือ่ ง การจัดการ ขอ้ ความตอนที่ 2) - การใช้คาสง่ั <HR> - การใช้คาสัง่ <Blockquote>…</Blockquote> - การใชค้ าสงั่ &nbsp; 6.7 นักเรียนฝกึ ปฏบิ ัตติ ามใบความรู้ เมอื่ พบปัญหาให้ปรึกษาและขอคาแนะนาจาก เพื่อนภายในกล่มุ ก่อนปรึกษาครู 6.8 บนั ทึกสรปุ ความรู้ท่ไี ด้ลงในสมดุ หรือในเอกสารประกอบการเรียนเลม่ นี้ 6.9 ทาใบงานท่ี 2 ด้วยตนเอง 6.10 เม่ือทาเสร็จแลว้ ให้ประธานกลมุ่ รวบรวมส่งครู ช่ัวโมงที่ 5-6 6.11 ศกึ ษาเนื้อหาในชดุ การเรยี นรู้ตามหัวขอ้ ดังนี้ (ใบความรู้ที่ 3 เรือ่ ง การตกแตง่ ข้อความตอนที่ 1) - การใชค้ าส่ัง <B>…</B> - การใชค้ าสัง่ <I>…</I> - การใชค้ าส่ัง <U>…</U> - การใช้คาสั่ง <SUB>…</SUB> - การใช้คาสง่ั <SUP>…</SUP> 6.12 นกั เรียนฝกึ ปฏบิ ัตติ ามใบความรู้ เม่ือพบปญั หาให้ปรึกษาและขอคาแนะนาจาก เพ่ือนภายในกลมุ่ ก่อนปรึกษาครู 6.13 บันทึกสรปุ ความรู้ที่ไดล้ งในสมดุ หรอื ในเอกสารประกอบการเรยี นเล่มนี้ 6.14 ทาใบงานท่ี 3 ด้วยตนเอง 6.15 เมอื่ ทาเสร็จแลว้ ให้ประธานกล่มุ รวบรวมส่งครู

หนา้ ที่ 6 ชั่วโมงท่ี 7-8 6.16 ศึกษาเน้ือหาในชุดการเรยี นรู้ตามหัวขอ้ ดังน้ี (ใบความรู้ท่ี 1 เรอ่ื ง การตกแต่ง ข้อความตอนท่ี 2) - การใชค้ าสง่ั <FONT SIZE=””>…</FONT> - การใชค้ าสง่ั <FONT COLOR=””>…</FONT> - การใช้คาสง่ั <FONT FACE=””>…</FONT> - การใชค้ าสั่ง <BODY TEXT> - การใชค้ าส่ัง <Marquee>…</ Marquee 6.17 นกั เรียนฝึกปฏบิ ตั ติ ามใบความรู้ เม่อื พบปญั หาใหป้ รึกษาและขอคาแนะนาจาก เพื่อนภายในกลุ่มก่อนปรึกษาครูบันทกึ สรุปความรูท้ ไี่ ดล้ งในสมุดหรอื ในเอกสารประกอบการเรยี นเลม่ น้ี 6.18 ทาใบงานท่ี 4 ดว้ ยตนเอง 6.19 เมอื่ ทาเสร็จแลว้ ให้ประธานกล่มุ รวบรวมส่งครู

หนา้ ที่ 7 ผลกำรเรียนรู้ 1. อธบิ ายการใช้คาสงั่ ตา่ งๆ ในภาษา HTML ได้ 2. ใช้คาส่งั ต่างๆ ในภาษา HTML ได้ จุดประสงค์การเรยี นรู้ 1. อธบิ ายวธิ ีการใช้คาสั่ง <Hn>…</Hn> ได้ (K) 2. อธิบายวธิ ีการใชค้ าส่ัง<BR> ได้ (K) 3. อธิบายวิธีการใช้คาสง่ั <P>…</P> ได้ (K) 4. อธิบายวธิ ีการใชค้ าสง่ั <CENTER>…</CENTER> ได้ (K) 5. อธิบายวิธีการใช้คาสั่ง<PRE>…</PRE> ได้ (K) 6. อธิบายวิธีการใช้คาสง่ั <HR> ได้ (K) 7. อธบิ ายวธิ ีการใช้คาสง่ั <P> ได้ (K) 8. อธบิ ายวิธีการใช้คาสัง่ <Blockquote>…</Blockquote> ได้ (K) 9. อธบิ ายวิธีการใช้คาสั่ง &nbsp; ได้ (K) 10. อธิบายวิธีการใช้คาสั่ง <B>…</B> ได้ (K) 11. อธิบายวิธีการใช้คาสั่ง <I>…</I> ได้ (K) 12. อธบิ ายวิธีการใชค้ าสัง่ <U>…</U> ได้ (K) 13. อธิบายวิธีการใช้คาส่ัง <S>…</S> ได้ (K) 14. อธิบายวธิ ีการใชค้ าสง่ั <SUB>…</SUB> ได้ (K) 15. อธบิ ายวิธีการใช้คาส่งั <SUP>…</SUP> ได้ (K) 16. อธิบายวธิ ีการใชค้ าสั่ง <FONT SIZE=””>…</FONT> ได้ (K) 17. อธิบายวธิ ีการใช้คาสงั่ <FONT COLOR=””>…</FONT> ได้ (K) 18. อธบิ ายวิธีการใช้คาสง่ั <FONT FACE=””>…</FONT> ได้ (K)

หนา้ ที่ 8 19. อธบิ ายวธิ ีการใช้คาส่ัง <BODY TEXT> ได้ (K) 20. อธิบายวิธีการใชค้ าส่ัง <Marquee>…</ Marquee> ได้ (K) 21. ใชค้ าสงั่ <Hn>…</Hn> ได้ (P) 22. ใช้คาสง่ั <BR> ได้ (P) 23. ใชค้ าสง่ั <P>…</P> ได้ (P) 24. ใชค้ าสง่ั <CENTER>…</CENTER> ได้ (P) 25. ใช้คาส่งั <PRE>…</PRE> ได้ (P) 26. ใชค้ าสั่ง<HR> ได้ (P) 27. ใชค้ าสง่ั <P> ได้ (P) 28. ใชค้ าสั่ง<Blockquote>…</Blockquote> ได้ (P) 29. ใชค้ าสัง่ &nbsp; ได้ (P) 30. ใช้คาสัง่ เพ่ิมเตมิ ในการจัดการข้อความได้ (P) 31. ใช้คาสง่ั <B>…</B> ได้ (P) 32. ใช้คาสง่ั <I>…</I> ได้ (P) 33. ใชค้ าส่งั <U>…</U> ได้ (P) 34. ใช้คาสง่ั <SUB>…</SUB> ได้ (P) 35. ใชค้ าสง่ั <SUP>…</SUP> ได้ (P) 36. ใช้คาสง่ั <FONT SIZE=””>…</FONT> ได้ (P) 37. ใช้คาสง่ั <FONT COLOR=””>…</FONT> ได้ (P) 38. ใชค้ าสั่ง <FONT FACE=””>…</FONT> ได้ (P) 39. ใช้คาสง่ั <BODY TEXT> ได้ (P) 40. ใชค้ าสงั่ <Marquee>…</ Marquee> ได้ (P) 41. มีเจตคติท่ีดีตอ่ การเรยี นวิชาคอมพิวเตอร์ 3 (A) ระยะเวลาในการเรียนรู้ จานวน 8 ชัว่ โมง

หนา้ ที่ 9 ใบความร้ทู ี่ 1 เร่อื ง การจดั การข้อความตอนท่ี 1 หนว่ ยการเรียนท่ี 2 การจัดการข้อความ คาสัง่ กาหนดลกั ษณะหวั เรอ่ื ง รูปแบบ <Hn>ข้อความ</Hn> โดย n คอื ตวั เลขแสดงขนาดของตวั อักษรค่าของ n นน้ั จะมีคา่ อย่ทู ี่ 1-6 - n = 1 จะมีขนาดตวั อักษรใหญส่ ุด - n = 6 จะมีขนาดตัวอักษรเล็กสดุ - สามารถเพ่ิมขนาดโดยใชเ้ ครือ่ งหมาย + หรือลดขนาดโดยใชเ้ ครือ่ งหมาย – นาหนา้ ตัวเลขได้ เช่น -1 เปน็ ตน้ ตัวอยา่ งการใช้งาน <H1>ประวตั ิของฉัน</H1> นักเรียนดวู ีดีโอคาสั่งกาหนดลกั ษณะหวั เรอ่ื ง และนักเรยี นฝึกปฏบิ ตั ติ าม

หน้าที่ 10 คาส่งั การขน้ึ บรรทดั ใหม่ รปู แบบ <BR> เม่ือต้องการขน้ึ บรรทดั ใหม่ ต้องใช้คาสัง่ <BR> เทา่ นั้น เพราะในภาษา HTML จะไม่รบั รู้วา่ การกดปุ่ม Enter เป็นการขน้ึ บรรทดั ใหม่ ตวั อย่างการใชง้ าน <BR>ดิฉันชอ่ื : นางสาวนงลักษณ์ วาสะศริ ิ หมายเหตุ การกดปุม่ Enter ภาษา HTML จะไม่รบั รู้ว่าเป็นการข้นึ บรรทัดใหม่ ถา้ ไม่ใช้คาสั่ง <BR> หน้าเวบ็ เบราวเ์ ซอร์จะแสดงดงั น้ี นกั เรียนดวู ดี ีโอคาสง่ั การขน้ึ บรรทดั ใหม่

หนา้ ที่ 11 คาสัง่ การจัดตาแหน่งข้อความ รปู แบบ <P ALIGN=“LEFT/RIGHT/CENTER”>……</P> เป็นคาสัง่ ใชจ้ ดั ตาแหน่งขอ้ ความเพ่ือแสดงผลบนเว็บเบราว์เซอร์ ตรงตาแหน่งท่ีต้องการ ตัวอย่างการใช้งาน <P ALIGN=“LEFT”>เกิดวันท่ี : 25 พฤษภาคม 2520 </P> เมอ่ื ต้องการใหข้ ้อความ “เกดิ วนั ท่ี : 25 พฤษภาคม 2520” อยู่ชิดซา้ ยของหน้าจอ ซ่งึ ปกติ ถ้าไม่กาหนดตาแหน่ง เว็บเบราว์เซอรก์ ็จะแสดงข้อความชิดซา้ ยอยู่แล้ว ตัวอย่างการใช้งาน <P ALIGN=“RIGHT”>ตาแหนง่ : ครโู รงเรียนโพธสิ ัมพันธพ์ ทิ ยาคาร</P> เม่ือต้องการให้ข้อความ “ดิฉันชื่อ : นางสาวนงลกั ษณ์ วาสะศิริ” อยูช่ ิดขวาของหนา้ จอ ตัวอย่างการใช้งาน <P ALIGN=“CENTER”>สังกัด : สานักงานเขตพนื้ ทีก่ ารศกึ ษามัธยมศึกษา เขต 18</P> เม่อื ต้องการให้ข้อความ “สังกัด : สานักงานเขตพ้นื ที่การศกึ ษามัธยมศกึ ษา เขต 18” อยู่ กึ่งกลางของหน้าจอ ขอ้ สังเกต ไมว่ ่าจะใส่ <P ALIGN=\"LEFT\"> หรือไม่ ขอ้ ความกจ็ ะ อยู่ชดิ ซา้ ย

หนา้ ที่ 12 คาสัง่ จดั กึง่ กลาง รูปแบบ <CENTER>……</CENTER> เปน็ คาสง่ั ใช้กาหนดให้ข้อมลู แสดงทตี่ าแหน่งกึ่งกลางของหน้าเว็บบราวเซอร์ ตัวอย่างการใชง้ าน <CENTER>ปจั จบุ ันสอนวิชาคอมพวิ เตอร์</CENTER> เม่อื ต้องการให้ข้อความ “ปัจจุบันสอนวิชาคอมพิวเตอร์” อยู่กลางหนา้ จอ

หนา้ ที่ 13 คาสั่งจัดรปู แบบเอกสารตามท่กี าหนด รปู แบบ <PRE>……</PRE> เปน็ คาสง่ั ใชก้ าหนดตาแหนง่ หรอื คงรปู แบบเอกสารตามทตี่ ้องการไว้ เชน่ ถ้าตอ้ งการให้ บรรทัดแรก ยอ่ หน้าเขา้ ไป 10 ตัวอกั ษร และเวน้ ชอ่ งว่างระหวา่ งประโยค 2 ตวั อักษร ก็สามารถทาได้ ตวั อย่างการใชง้ าน <PRE> ดิฉันชื่อ : นางสาวนงลกั ษณ์ วาสะศิริ เกดิ วนั ท่ี : 25 พฤษภาคม 2520 ตาแหนง่ : ครูโรงเรียนโพธิสมั พันธ์พิทยาคาร </PRE> คาช้ีแจง นกั เรยี นฝึกปฏบิ ัติด้วยตนเอง ขณะฝึกปฏบิ ัติสามารถ ถามเพื่อนในกลมุ่ ได้ และเม่อื ฝกึ ปฏิบตั จิ นเข้าใจแลว้ ให้นักเรียนทาใบงานท่ี 1

หน้าที่ 14 ใบงานที่ 1 เรอ่ื ง การจัดการข้อความ ตอนที่ 1 หน่วยที่ 2 การจดั การข้อความ ช่อื ……………………………………………………………………………ชน้ั มัธยมศกึ ษาปีท่ี ………….. เลขที่………….. คาช้แี จง ให้นักเรยี นสรา้ งเวบ็ เพจให้เหมือนดา้ นลา่ งและบันทกึ แฟม้ ข้อมลู ไวใ้ น Flash Drive และตงั้ ชื่อวา่ school.html โดยบงั คบั ใชค้ าสงั่ ดังต่อไปนี้ 1. คาส่งั หวั เรอื่ งเอกสารเวบ็ 2. คาสงั่ กาหนดลักษณะหวั เรอื่ งทม่ี ีขนาดใหญ่ทสี่ ดุ 3. คาสง่ั การจดั ตาแหน่งขอ้ ความ 4. คาสง่ั การจดั ตาแหน่งข้อความ 5. คาส่งั จัดรปู แบบเอกสารตามทก่ี าหนด 6. คาสั่งการข้ึนบรรทดั ใหม่ เกณฑ์การให้คะแนน ทาถกู ต้อง ให้ 1 คะแนน ทาผิด ให้ 0 คะแนน เกณฑก์ ารประเมินผล นักเรียนได้คะแนน 8-10 คะแนน ผา่ นเกณฑ์ อยู่ในระดบั ดมี าก อยใู่ นระดบั ดี นักเรยี นได้คะแนน 7 คะแนน ผา่ นเกณฑ์ อยู่ในระดับพอใช้ อยู่ในระดบั ตอ้ งปรบั ปรงุ นกั เรยี นได้คะแนน 6 คะแนน ผ่านเกณฑ์ นักเรียนได้คะแนน 0-5 คะแนน ไมผ่ า่ นเกณฑ์

หนา้ ที่ 15 รายการประเมิน ผลการปฏบิ ตั ิ ทาถกู ต้อง ทาผดิ รายการประเมนิ (1 คะแนน) (0 คะแนน) 1. กาหนดคาวา่ “ประวัติโรงเรยี น” ใหเ้ ปน็ หัวเร่อื งเอกสารเวบ็ 2. กาหนดคาว่า “ข้อมูลโรงเรียนโพธสิ ัมพันธพ์ ทิ ยาคาร” ให้เปน็ หัวเรอ่ื งทีม่ ีขนาดใหญ่ทส่ี ดุ 3. กาหนดคาว่า “ข้อมลู โรงเรยี นโพธิสมั พนั ธ์พทิ ยาคาร” ให้อยกู่ ึ่งกลาง 4. กาหนดคาว่า “อักษรย่อ : พ.ส.พ.” ให้อยู่ชดิ ขวา 5. มีการใชค้ าส่งั จัดรปู แบบเอกสารตามท่ีกาหนด 6. มกี ารใช้คาสั่งการขนึ้ บรรทัดใหม่ 7. บนั ทึกช้นิ งานลงใน Flash Drive โดยตงั้ ช่ือชิ้นงานว่า “school.html” 8. กาหนดโครงสรา้ ง HTML ถกู ต้อง 9. มกี ารจัดระเบยี บ code ในหนา้ NotePad 10. ในภาพรวมการจัดหนา้ เว็บเพจทีส่ รา้ งขนึ้ เหมือนกับตัวอย่าง รวมคะแนน (คะแนนเตม็ 10 คะแนน)

หนา้ ที่ 16 ใบความรทู้ ี่ 2 เร่ือง การจดั การขอ้ ความตอนที่ 2 หนว่ ยการเรียนที่ 2 การจัดการขอ้ ความ คาส่งั เสน้ ค่ัน รูปแบบ <HR ALIGN=“align type” COLOR=color SIZE=n WIDTH=n NOSHADE> เปน็ คาสง่ั ใชแ้ บ่งข้อความบนจอภาพ ซง่ึ อาจใช้เป็นเส้นคั่นทางแนวนอนของจอภาพ หรือเปน็ เสน้ ค่นั เพ่ือความสวยงามได้ แทก็ นี้สามารถกาหนดตาแหนง่ สี ขนาดของความหนา ความยาว หรือ กาหนดแบบเส้นทึบได้ ตวั อยา่ งการใชง้ าน <HR ALIGN=center COLOR=red SIZE=2 WIDTH=70% > โดยถ้าใชค้ าส่ัง <HR> หมายถึง กาหนดให้มีเส้นค่นั ตามแนวนอนเตม็ จอภาพ <HR ALIGN=center> หมายถงึ กาหนดใหเ้ ส้นคั่นอยตู่ รงกลางหน้าจอ <HR COLOR=red> หมายถึง กาหนดให้เส้นคั่นมีสีแดง <HR SIZE=2> หมายถึง กาหนดใหเ้ สน้ คั่นมคี วามหนา 2 pixel <HR ALIGN WIDTH=70% > หมายถงึ กาหนดใหเ้ สน้ ค่ันมีความยาว 70% ของความ ยาวหน้าจอทัง้ หมด

หน้าท่ี 17 คาสงั่ จัดยอ่ หนา้ รปู แบบ <BLOCKQUOTE>…..</BLOCKQUOTE> เป็นคาสั่งใช้แสดงผลข้อความเยื้องเข้าไปทางขวาและจดั ข้อความให้ตวั อักษรตวั แรกของ บรรทัดเรม่ิ ทต่ี าแหน่งเดียวกัน ตวั อย่างการใชง้ าน <BLOCKQUOTE>โรงเรียนโพธิสัมพนั ธพ์ ทยาคารของเราเปน็ โรงเรยี นระดบั มธั ยมศึกษาสังกัดสานกั งานเขตพ้นื ที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 18 ชลบรุ ี-ระยอง ซ่งึ ตั้งอยู่ท่ี 419 ม.5 ต.นาเกลอื ตดิ ถนนพทั ยา-นาเกลอื อ.บางละมุง จ.ชลบุรี โดย พระครูปลดั บุญมี เร่ิมแรกโรงเรียนของเรามีครเู พียง 2 คน และนกั เรยี นเพียง 40 คน เทา่ นั้น แตภ่ ายหลังจานวนนักเรยี นและครูของโรงเรยี นไดเ้ พิม่ ขน้ึ เปน็ ลาดบั และ ได้รบั อาคารเรยี น อาคารโรงฝึกงาน อาคารเอนกประสงค์ รวมเน้อื ทีท่ ้ังหมด 29 ไร่ 9 ตารางวา </BLOCKQUOTE>

หนา้ ที่ 18 คาส่งั เว้นวรรค รูปแบบ &nbsp เป็นคาสัง่ ใชเ้ วน้ วรรคระหว่างข้อความ เพราะปกติเวบ็ บราวเซอรจ์ ะแสดงชอ่ งวา่ งจากการ เคาะ Space Bar เพยี งชอ่ งเดียว แม้ว่าเราจะเคาะไวห้ ลายครง้ั ก็ตาม ตัวอยา่ งการใช้งาน ปัจจบุ นั สอนวชิ า&nbsp&nbsp&nbsp&nbsp&nbsp&nbspคอมพิวเตอร์

หนา้ ท่ี 19 คาชีแ้ จง นักเรยี นฝกึ ปฏบิ ตั ดิ ้วยตนเอง ขณะฝกึ ปฏบิ ตั สิ ามารถ ถามเพอื่ นในกลมุ่ ได้ และเมื่อฝกึ ปฏบิ ตั จิ นเข้าใจแลว้ ใหน้ ักเรยี นทาใบงานท่ี 2

หน้าที่ 20 ใบงานที่ 2 เรอ่ื ง การจัดการข้อความ ตอนที่ 2 หน่วยที่ 2 การจดั การข้อความ ช่อื ……………………………………………………………………………ชน้ั มัธยมศกึ ษาปีท่ี ………….. เลขที่………….. คาช้แี จง ให้นักเรยี นสรา้ งเวบ็ เพจให้เหมือนดา้ นลา่ งและบันทกึ แฟม้ ข้อมลู ไวใ้ น Flash Drive และตงั้ ชื่อวา่ school.html โดยบงั คบั ใชค้ าสงั่ ดังต่อไปนี้ 1. คาส่งั หวั เรอื่ งเอกสารเวบ็ 2. คาสงั่ กาหนดลักษณะหวั เรอื่ งทม่ี ีขนาดใหญ่ทสี่ ดุ 3. คาสง่ั การจดั ตาแหน่งขอ้ ความ 4. คาสง่ั การจดั ตาแหน่งข้อความ 5. คาส่งั จัดรปู แบบเอกสารตามทก่ี าหนด 6. คาสั่งการข้ึนบรรทดั ใหม่ เกณฑ์การให้คะแนน ทาถกู ต้อง ให้ 1 คะแนน ทาผิด ให้ 0 คะแนน เกณฑก์ ารประเมินผล นักเรียนได้คะแนน 8-10 คะแนน ผา่ นเกณฑ์ อยู่ในระดบั ดมี าก อยใู่ นระดบั ดี นักเรยี นได้คะแนน 7 คะแนน ผา่ นเกณฑ์ อยู่ในระดับพอใช้ อยู่ในระดบั ตอ้ งปรบั ปรงุ นกั เรยี นได้คะแนน 6 คะแนน ผ่านเกณฑ์ นักเรียนได้คะแนน 0-5 คะแนน ไมผ่ า่ นเกณฑ์

หนา้ ที่ 21 รายการประเมิน ผลการปฏบิ ตั ิ ทาถกู ต้อง ทาผดิ รายการประเมนิ (1 คะแนน) (0 คะแนน) 1. กาหนดคาวา่ “ประวัติโรงเรยี น” ใหเ้ ปน็ หัวเร่อื งเอกสารเวบ็ 2. กาหนดคาว่า “ข้อมูลโรงเรียนโพธสิ ัมพันธพ์ ทิ ยาคาร” ให้เปน็ หัวเรอ่ื งทีม่ ีขนาดใหญ่ทส่ี ดุ 3. กาหนดคาว่า “ข้อมลู โรงเรยี นโพธิสมั พนั ธ์พทิ ยาคาร” ให้อยกู่ ึ่งกลาง 4. กาหนดคาว่า “อักษรย่อ : พ.ส.พ.” ให้อยู่ชดิ ขวา 5. มีการใชค้ าส่งั จัดรปู แบบเอกสารตามท่ีกาหนด 6. มกี ารใช้คาสั่งการขนึ้ บรรทัดใหม่ 7. บนั ทึกช้นิ งานลงใน Flash Drive โดยตงั้ ช่ือชิ้นงานว่า “school.html” 8. กาหนดโครงสรา้ ง HTML ถกู ต้อง 9. มกี ารจัดระเบยี บ code ในหนา้ NotePad 10. ในภาพรวมการจัดหนา้ เว็บเพจทีส่ รา้ งขนึ้ เหมือนกับตัวอย่าง รวมคะแนน (คะแนนเตม็ 10 คะแนน)

หนา้ ที่ 22 ใบความรู้ท่ี 3 เรอ่ื ง การตกแต่งข้อความตอนท่ี 1 หน่วยการเรยี นท่ี 2 การจัดการข้อความ คาสงั่ ทาตวั หนา รปู แบบ <B>…..</B> เปน็ คาส่ังใช้แสดงผลเป็นตวั อักษรตัวหนา เพ่ือใชเ้ นน้ ข้อความในประโยค ตัวอย่างการใชง้ าน <B>หัวหน้าระดับชนั้ มัธยมศึกษาปีท่ี 2<B> เมื่อต้องการใหค้ าวา่ “หัวหน้าระดับชน้ั มธั ยมศึกษาปีที่ 2” เป็นตวั หนา

หนา้ ท่ี 23 คาสง่ั ทาตัวเอยี ง รูปแบบ <I>…..</I> เปน็ คาสง่ั ใช้แสดงผลเป็นตวั เอียง เพ่อื ใช้เนน้ ขอ้ ความในประโยค ตวั อยา่ งการใช้งาน <I>หนา้ ทีท่ ่ไี ด้รับมอบหมาย</I> เมือ่ ต้องการให้คาว่า “หน้าทท่ี ีไ่ ด้รับมอบหมาย” เปน็ ตัวเอียง คาสั่งทาตวั ขดี เสน้ ใต้ รปู แบบ <U>…..</U>

หนา้ ที่ 24 เปน็ คาส่งั ใชแ้ สดงผลการขดี เส้นใตข้ ้อความ เพื่อใช้เนน้ ข้อความในประโยค ตัวอยา่ งการใชง้ าน <U>ปจั จบุ นั สอนวิชา</U> เมือ่ ต้องการใหค้ าว่า “ปัจจุบันสอนวชิ า” มีขดี เสน้ ใต้ คาสง่ั ทาตัวหอ้ ย รปู แบบ <SUB>…..</SUB> เป็นคาส่ังใช้แสดงผลใหเ้ ปน็ ตัวอักษรตวั หอ้ ย เมอ่ื ต้องการให้แสดงผลที่ระดับตา่ กวา่ ระดับ ปกติและมีขนาดเล็กกว่าตวั อักษรปกติ ตวั อย่างการใชง้ าน รปู แบบ<SUB>เปน็ ตัวห้อย</SUB> เมอื่ ต้องการใหค้ าวา่ “เป็นตัวหอ้ ย” เปน็ ตวั หอ้ ย

หนา้ ท่ี 25 คาสั่งทาตวั ยก รูปแบบ <SUP>…..</SUP> เป็นคาสั่งใช้แสดงผลให้เปน็ ตัวอักษรตัวยก เมื่อต้องการให้แสดงผลที่ระดับสูงกว่าระดบั ปกติ และมขี นาดเลก็ กวา่ ตัวอักษรปกติ ตัวอยา่ งการใชง้ าน รูปแบบ<SUP>เปน็ ตวั ยก</SUP> เมอ่ื ต้องการใหค้ าวา่ “เป็นตัวยก” เป็นตัวยก

หนา้ ท่ี 26 คาชีแ้ จง นักเรยี นฝกึ ปฏบิ ตั ดิ ้วยตนเอง ขณะฝกึ ปฏบิ ตั สิ ามารถ ถามเพอื่ นในกลมุ่ ได้ และเมื่อฝกึ ปฏบิ ตั จิ นเข้าใจแลว้ ใหน้ ักเรยี นทาใบงานท่ี 3

หน้าที่ 27 ใบงานที่ 3 เรื่อง การตกแตง่ ข้อความ ตอนที่ 1 หน่วยท่ี 2 การจัดการข้อความ ช่อื ……………………………………………………………………………ช้นั มัธยมศึกษาปที ่ี ………….. เลขที่………….. คาช้แี จง ให้นกั เรียนสรา้ งเวบ็ เพจให้เหมือนดา้ นลา่ งและบันทกึ แฟม้ ข้อมลู ไวใ้ น Flash Drive และตงั้ ชื่อวา่ school.html โดยบงั คบั ใชค้ าสง่ั ดงั ต่อไปนี้ 1. คาส่งั หวั เรอื่ งเอกสารเวบ็ 2. คาสงั่ กาหนดลกั ษณะหวั เรื่องท่ีมีขนาดใหญ่ทสี่ ดุ 3. คาสง่ั การจัดตาแหน่งข้อความ 4. คาสงั่ การจัดตาแหนง่ ขอ้ ความ 5. คาส่ังจัดรูปแบบเอกสารตามทกี่ าหนด 6. คาสั่งการข้ึนบรรทดั ใหม่ เกณฑ์การให้คะแนน ทาถกู ตอ้ ง ให้ 1 คะแนน ทาผิด ให้ 0 คะแนน เกณฑก์ ารประเมินผล นักเรียนได้คะแนน 8-10 คะแนน ผา่ นเกณฑ์ อยู่ในระดับดมี าก อยู่ในระดบั ดี นักเรยี นได้คะแนน 7 คะแนน ผ่านเกณฑ์ อย่ใู นระดบั พอใช้ อยใู่ นระดับตอ้ งปรับปรงุ นกั เรยี นได้คะแนน 6 คะแนน ผ่านเกณฑ์ นักเรียนได้คะแนน 0-5 คะแนน ไมผ่ า่ นเกณฑ์

หนา้ ที่ 28 รายการประเมิน ผลการปฏบิ ตั ิ ทาถกู ต้อง ทาผดิ รายการประเมนิ (1 คะแนน) (0 คะแนน) 1. กาหนดคาวา่ “ประวัติโรงเรยี น” ใหเ้ ปน็ หัวเร่อื งเอกสารเวบ็ 2. กาหนดคาว่า “ข้อมูลโรงเรียนโพธสิ ัมพันธพ์ ทิ ยาคาร” ให้เปน็ หัวเรอ่ื งทีม่ ีขนาดใหญ่ทส่ี ดุ 3. กาหนดคาว่า “ข้อมลู โรงเรยี นโพธิสมั พนั ธ์พทิ ยาคาร” ให้อยกู่ ึ่งกลาง 4. กาหนดคาว่า “อักษรย่อ : พ.ส.พ.” ให้อยู่ชดิ ขวา 5. มีการใชค้ าส่งั จัดรปู แบบเอกสารตามท่ีกาหนด 6. มกี ารใช้คาสั่งการขนึ้ บรรทัดใหม่ 7. บนั ทึกช้นิ งานลงใน Flash Drive โดยตงั้ ช่ือชิ้นงานว่า “school.html” 8. กาหนดโครงสรา้ ง HTML ถกู ต้อง 9. มกี ารจัดระเบยี บ code ในหนา้ NotePad 10. ในภาพรวมการจัดหนา้ เว็บเพจทีส่ รา้ งขนึ้ เหมือนกับตัวอย่าง รวมคะแนน (คะแนนเตม็ 10 คะแนน)

หน้าที่ 29 ใบความรู้ที่ 4 เร่ือง การตกแตง่ ข้อความตอนท่ี 2 หน่วยการเรยี นท่ี 2 การจัดการข้อความ คาส่ังกาหนดขนาดของตัวอักษร รปู แบบ <FONT SIZE=“ตัวเลข 1-7”>…</FONT> เป็นคาสงั่ ใชก้ าหนดขนาดตวั อักษร สามารถกาหนดขนาดตวั อักษรได้ตั้งแต่ 1-7 โดยตัวเลขยิง่ มีค่ามากขนาดตวั อักษรกจ็ ะมีขนาดใหญ่ ซงึ่ ขนาดมาตรฐานมีค่าอยู่ท่ี 3 ตัวอยา่ งการใชง้ าน <FONT SIZE=1>ขนาดตัวอกั ษรระดับ 1</FONT> เม่อื ต้องการให้คาว่า “ขนาดตวั อกั ษรระดบั 1” มีขนาดตัวอกั ษรเป็นระดับ 1 คาสง่ั กาหนดสีตัวอกั ษร รูปแบบ <FONT COLOR=“”>…</FONT>

หนา้ ท่ี 30 เป็นคาสง่ั ใช้กาหนดสีตวั อกั ษร สามารถกาหนดไดโ้ ดยกาหนดลักษณะพิเศษท่ีชือ่ color ลงไป จากน้ันตามดว้ ยช่อื สี เช่น RED YELLOW BLUE หรือรหัสของสี #006600 #993366 ตวั อยา่ งการใชง้ าน <FONT COLOR=“BLUE”>โรงเรยี น</FONT> <FONT COLOR=“#006600”>โพธสิ ัมพนั ธ์พิทยาคาร</FONT> เมื่อต้องการให้คาวา่ “โรงเรยี น” เป็นสนี ้าเงิน และคาว่า “โพธสิ มั พันธ์พิทยาคาร” เปน็ สเี ขยี ว คาส่งั กาหนดแบบอักษร รูปแบบ <FONT FACE=“”>…</FONT> เปน็ คาสงั่ ใชก้ าหนดแบบอักษร สามารถกาหนดไดโ้ ดยระบุลกั ษณะพเิ ศษ (Attribute) คือ FACE ลงไป เช่น กาหนดแบบอกั ษรเปน็ TH Niramit AS

หนา้ ที่ 31 ตวั อยา่ งการใช้งาน <FONT FACE=“TH Niramit AS”>แบบอกั ษร TH Niramit AS</FONT> เมื่อต้องการใหค้ าวา่ “แบบอักษร TH Niramit AS” เปน็ แบบอกั ษร TH Niramit AS คาส่งั กาหนดสีให้กบั ตวั อักษรทัง้ เอกสาร รปู แบบ <Body text=รหัสสหี รือกาหนดชอื่ สีท่ีตอ้ งการ> เป็นคาสง่ั การกาหนดสี ใหก้ บั ตวั อกั ษรทงั้ เอกสาร ตัวอยา่ งการใช้งาน <Body text=รหัสสหี รือกาหนดชอื่ สที ต่ี ้องการ>

หนา้ ท่ี 32 คาสงั่ กาหนดตวั อักษรเคลอ่ื นที่ รปู แบบ <Marquee Attribute>…</ Marquee> เป็นคาสัง่ การกาหนดแสดงผลของข้อความให้มีการเคลื่อนท่ี ตัวอยา่ งการใชง้ าน <Marquee alternate>โรงเรยี นโพธสิ ัมพันธ์พทิ ยาคาร</ Marquee> <Marquee scroll>โรงเรยี นโพธิสมั พันธพ์ ทิ ยาคาร</ Marquee> <Marquee slide>โรงเรียนโพธสิ มั พนั ธ์พิทยาคาร</ Marquee> การระบลุ ักษณะพิเศษ Attribute เชน่ Alternate เม่อื ต้องการให้ข้อความวง่ิ จากขอบซ้ายมาขอบขวา เมื่อถงึ ขอบขวาแลว้ กว็ งิ่ กลบั ไปทางซ้าย วงิ่ กลับไปกลับมา Scroll เมื่อต้องการใหข้ ้อความว่งิ จากขวามาซา้ ย เม่ือถึงขอบซา้ ยก็ใหข้ ้อความวงิ่ จากขวามาซ้ายใหม่ Slide เมื่อต้องการใหข้ ้อความวิง่ จากขวามาซา้ ย เม่ือถึงขอบซ้ายแล้วกจ็ ะหยดุ วิง่ คาช้แี จง นกั เรยี นฝกึ ปฏบิ ตั ดิ ้วยตนเอง ขณะฝกึ ปฏบิ ตั สิ ามารถ ถามเพือ่ นในกลมุ่ ได้ และเมอ่ื ฝกึ ปฏบิ ตั ิจนเข้าใจแล้ว ใหน้ กั เรยี นทาใบงานท่ี 4

หน้าที่ 33 ใบงานที่ 4 เรื่อง การตกแตง่ ข้อความ ตอนที่ 2 หน่วยท่ี 2 การจัดการข้อความ ช่อื ……………………………………………………………………………ช้นั มัธยมศึกษาปที ่ี ………….. เลขที่………….. คาช้แี จง ให้นกั เรียนสรา้ งเวบ็ เพจให้เหมือนดา้ นลา่ งและบันทกึ แฟม้ ข้อมลู ไวใ้ น Flash Drive และตงั้ ชื่อวา่ school.html โดยบงั คบั ใชค้ าสง่ั ดงั ต่อไปนี้ 1. คาส่งั หวั เรอื่ งเอกสารเวบ็ 2. คาสงั่ กาหนดลกั ษณะหวั เรื่องท่ีมีขนาดใหญ่ทสี่ ดุ 3. คาสง่ั การจัดตาแหน่งข้อความ 4. คาสงั่ การจัดตาแหนง่ ขอ้ ความ 5. คาส่ังจัดรูปแบบเอกสารตามทกี่ าหนด 6. คาสั่งการข้ึนบรรทดั ใหม่ เกณฑ์การให้คะแนน ทาถกู ตอ้ ง ให้ 1 คะแนน ทาผิด ให้ 0 คะแนน เกณฑก์ ารประเมินผล นักเรียนได้คะแนน 8-10 คะแนน ผา่ นเกณฑ์ อยู่ในระดับดมี าก อยู่ในระดบั ดี นักเรียนได้คะแนน 7 คะแนน ผ่านเกณฑ์ อย่ใู นระดบั พอใช้ อยใู่ นระดับตอ้ งปรับปรงุ นกั เรยี นได้คะแนน 6 คะแนน ผ่านเกณฑ์ นักเรียนได้คะแนน 0-5 คะแนน ไมผ่ า่ นเกณฑ์

หนา้ ที่ 34 รายการประเมิน ผลการปฏบิ ตั ิ ทาถกู ต้อง ทาผดิ รายการประเมนิ (1 คะแนน) (0 คะแนน) 1. กาหนดคาวา่ “ประวัติโรงเรยี น” ใหเ้ ปน็ หัวเร่อื งเอกสารเวบ็ 2. กาหนดคาว่า “ข้อมูลโรงเรียนโพธสิ ัมพันธพ์ ทิ ยาคาร” ให้เปน็ หัวเรอ่ื งทีม่ ีขนาดใหญ่ทส่ี ดุ 3. กาหนดคาว่า “ข้อมลู โรงเรยี นโพธิสมั พนั ธ์พทิ ยาคาร” ให้อยกู่ ึ่งกลาง 4. กาหนดคาว่า “อักษรย่อ : พ.ส.พ.” ให้อยู่ชดิ ขวา 5. มีการใชค้ าส่งั จัดรปู แบบเอกสารตามท่ีกาหนด 6. มกี ารใช้คาสั่งการขนึ้ บรรทัดใหม่ 7. บนั ทึกช้นิ งานลงใน Flash Drive โดยตงั้ ช่ือชิ้นงานว่า “school.html” 8. กาหนดโครงสรา้ ง HTML ถกู ต้อง 9. มกี ารจัดระเบยี บ code ในหนา้ NotePad 10. ในภาพรวมการจัดหนา้ เว็บเพจทีส่ รา้ งขนึ้ เหมือนกับตัวอย่าง รวมคะแนน (คะแนนเตม็ 10 คะแนน)

หนา้ ท่ี 35