บทนา สงครามระหวา่ งอินเดีย - ปากีสถาน ประเทศส่วนใหญ่ในเอเชียใตต้ ่างเคยเป็ น ดินแดนใน อาณานิคมของจกั รวรรดิองั กฤษ ในช่วงปลาศตวรรษท่ี 18 ซ่ึงปกครอง ดินแดนอนุภูมิภาคอินเดียเป็ นเวลายาวนานเกือบ 200 ปี ประมาณร้อยละ 95 ของ ประชากรท่ีอาศยั อยใู่ นดินแดนแถบน้ีนบั ถือศาสนาฮินดูหรืออิสลาม ฝ่ ายสันนิบาตรมส ลิม (Muslim League) นาโดย Jinnah เสนอ Two Nation Theory ช่วงตน้ ศตวรรษที่ 20 วา่ ดินแดนทางตะวนั ตกเฉียงเหนือของอนุ-ทวีปเป็นดินแดนท่ีมีวฒั นธรรมและพ้ืนเพ ความเป็ นมาแทบจะ ไม่เหมือนกนั เลย และจกั รวรรดิองั กฤษของอินเดียควรแบ่ง ออกเป็ น 2 ประเทศ ไดแ้ ก่ ประเทศที่ประชาชนส่วนใหญ่นับถือศาสนาอิสลามและ ประเทศท่ีประชาชนส่วนใหญ่นบั ถือศาสนาฮินดู ในที่สุด จกั รวรรดิอินเดียขององั กฤษ ไดถ้ ูกแบ่งออกเป็น 2 ประเทศอินเดียและปากีสถาน สงครามระหว่างอินเดีย - ปากีสถาน ที่มีรากฐานมาจากความแตกต่างทาง ศาสนา เหตุการณ์ท่ีเกิดข้ึนในอดีต และขอ้ พิพาทที่เกิดข้ึนของท้งั สองประเทศเหนือ ดินแดนแควน้ ชมั มูและแคชเมียร์ หรือท่ีเรียกว่า แควน้ แคชเมียร์ ไดเ้ ร่ิมตน้ ข้ึนเมื่อปี ค.ศ. 1947 เม่ือขอ้ ตกลงการแบ่งแยกดินแดนดงั กล่าวไม่ไดแ้ บ่งแยกเอาแควน้ ชมั มูและ แคชเมียร์ ซ่ึงมีฐานะเป็น รัฐหรือแควน้ ในอินเดีย ท่ีปกครองโดยผปู้ กครองชาวอินเดีย ภายใตร้ ะบบจกั รวรรดิอินเดียขององั กฤษ ถือเป็ นการปกครองทางออ้ มโดยองั กฤษ และมีเสรีภาพที่จะเลือกวา่ จะมีสถานะแบบใด ระหวา่ งอินเดีย-ปากีสถาน ผูศ้ ึกษาสนใจในเร่ืองน้ีเนื่องจาก ประเทศอินเดียและปากีสถานต่างฝ่ ายต่าง ตอ้ งการที่จะแยง่ ชิงแควน้ ชมั มูและแคชเมียร์กนั อยู่แลว้ ภายใตแ้ ผนการแบ่งประเทศ ตามกฎหมายเอกราชอินเดียแคชเมียร์มีอิสระในการเลือกว่าจะอยู่กบั อินเดียหรือ ปากีสถาน มหาราชา ฮารี ซิงห์ ผูป้ กครองแคชเมียร์ เลือกอินเดีย และสงครามที่ ยาวนาน 2 ปี กป็ ะทุข้ึนในปี 1947
สารบญั หน้า 1 เร่ือง 3 พฒั นาการทางประวตั ิศาสตร์สงครามระหวา่ งอินเดีย-ปากีสถาน 5 สาเหตุสงครามระหวา่ งอินเดีย-ปากีสถาน 8 ปฐมเหตุของสงครามระหวา่ งอินเดีย-ปากีสถาน 13 ปัญหาก่อการร้ายและสงครามระหวา่ งอินเดีย-ปากีสถาน 15 บทสรุป ขอ้ มูลนกั ศกึ ษา
1 พฒั นาการทางประวตั ศิ าสตร์สงครามระหว่างอนิ เดยี -ปากสี ถาน ในประวตั ิศาสตร์ สงครามระหว่างอินเดีย-ปากีสถาน ค.ศ. 1947 (องั กฤษ: Indo- Pakistani War of 1947) หรือ สงครามกศั มีร์คร้ังที่หน่ึง เป็นสงครามระหวา่ งประเทศ อินเดียและประเทศปากีสถานเพื่อแย่งชิงรัฐชมั มูและกศั มีร์ ถือเป็ นสงครามอินเดีย- ปากีสถานคร้ังแรกจากสี่คร้ัง สงครามเร่ิมข้ึนไม่ก่ีสัปดาห์ภายหลงั รัฐสภาองั กฤษแบ่งบ ริติชราชออกเป็นสองรัฐเอกราช คือประเทศอินเดียและประเทศปากีสถาน ซ่ึงท้งั สอง ประเทศต่างมีสถานะเป็นประเทศในเครือจกั รภพ รัฐชัมมูและกศั มีร์เป็ นรัฐมหาราชาซ่ึงต้งั อยู่ทางตอนเหนือ คน่ั ระหว่างอินเดีย- ปากีสถาน แต่ยงั ไม่ไดต้ ดั สินใจเขา้ ร่วมกบั ประเทศใดขา้ งตน้ มหาราชาฮารี ซิงห์ ผนู้ บั ถือฮินดู ไดเ้ ผชิญหนา้ กบั การลุกฮือของชาวมุสลิมในรัฐของพระองค์ ทาให้ทางการ ตอ้ งสงั หารหมู่ชาวมุสลิมในรัฐชมั มูจานวนมาก พระองคเ์ ร่ิมสูญเสียการควบคุมในภาค ตะวนั ตกของรัฐ จนกระทง่ั ในวนั ท่ี 22 ตุลาคม ค.ศ. 1947 กองกาลงั ชนเผา่ มุสลิม กข็ า้ ม พรมแดนเขา้ มาจากฝ่ังปากีสถาน โดยอา้ งวา่ เขา้ มาเพอื่ หยดุ ย้งั การ
2 กบฏในภาคตะวนั ตกเฉียงใต้ กองกาลงั น้ีไดห้ มายจะไปยงั ศรีนคร แต่ก็ถูกขดั ขวาง ต้งั แต่เมื่อถึงเมืองอุรี ซ่ึงเป็ นเมืองชายแดนติดกบั ปากีสถาน ทาให้ มหาราชาฮารี ซิงห์ ไดร้ ้องขอกาลงั เสริมไปยงั รัฐบาลอินเดีย อินเดียไดส้ ่งกาลงั ทหารมาช่วยเหลือ แลกกบั การที่รัฐชัมมูและกศั มีร์จะเขา้ เป็นหน่ึงในรัฐของอินเดียซ่ึงเป็นประเทศที่นบั ถือฮินดู เหมือนกนั หลงั สงครามดาเนินมากว่าหน่ึงปี สงครามคร้ังน้ีสิ้นสุดลงจากขอ้ ตกลงหยดุ ยิง ปากีสถานสามารถยดึ เอาดินแดนราว 1 ในสามของรัฐชมั มูและกศั มีร์ รัฐชมั มูและกศั มีร์เคยเป็นดินแดนท่ีเป็นศูนยก์ ลางของพระพุทธศาสนา ต่อมาได้ เปล่ียนไปนับถือศาสนาอิสลาม เคยอยู่ภายใตก้ ารปกครองของจกั รวรรดิดุรรานีใน อฟั กานิสถาน จกั รวรรดิโมกุล ในอินเดีย และเคยอยภู่ ายใตก้ ารปกครองของชาวซิกข์ ภายหลงั ขบั ไล่ชาวซิกข์ออกไปได้ ในยุคที่องั กฤษเขา้ มา กษตั ริย์ของชัมมูและกศั มีร์ ช่วยองั กฤษรบกบั ชาวซิกขแ์ ละไดเ้ ป็นรัฐในอารักขาขององั กฤษ เมื่อองั กฤษใหเ้ อกราช แก่อินเดียและมีการแบ่งเป็ นอินเดียและปากีสถาน รัฐชัมมูและกศั มีร์กลายเป็นกรณี พิพาทของท้งั สองประเทศจวบจนปัจจุบนั
3 สาเหตุสงครามระหว่างอนิ เดยี -ปากสี ถาน ในเดือนตุลาคม ค.ศ. 1947 ชนเผ่า Pashtun จากชายแดนทางดา้ นตะวนั ตกเฉียง เหนือของปากีสถานเขา้ รุกรานแควน้ แคชเมียร์ นอกจากน้นั ยงั เกิดเหตุการณ์ความไม่ สงบในแควน้ เพ่ือต่อตา้ นกลุ่มท่ีนบั ถือศาสนาอิสลามท่ีไดร้ ับการสนบั สนุนจากรัฐบาล ปากีสถานในความพยายามจะรวมเขา้ กับปากีสถาน จากเหตุการณ์ความไม่สงบที่ เกิดข้ึน ทาให้มหาราชา Hari Singh ตดั สินใจนาแควน้ ชมั มูและแคชเมียร์เขา้ ร่วมกบั อินเดีย โดยแลกกบั ความช่วยเหลือดา้ นกาลงั พลและอาวธุ จากอินเดีย ภายหลงั จากที่มหาราชา Hari Singh ลงนามในการส่งมอบสัตยาบนั หรือ ภาคยานุวตั ิสาร (Instrument of Accession) กบั V P Menon ผแู้ ทนนายกรัฐมนตรี Jawaharlal Nehru เมื่อวนั ท่ี 26 ตุลาคม ในเชา้ วนั ต่อมา (27 ตุลาคม) กองกาลงั อินเดีย เคล่ือนพลทางอากาศเขา้ สู่กรุง Srinagar หรือ ศรีนคร เมืองใหญ่ท่ีสุดในแคชเมียร์ นับต้งั แต่น้ันมาความขดั แยง้ ระหว่างอินเดีย-ปากีสถาน ได้ทวีความรุนแรงข้ึนและ ต่อเนื่องยาวนานจนถึงปัจจุบนั เป็นเวลากวา่ 50 ปี
4 ความสัมพนั ธ์ระหว่างสองเพ่ือนบ้าน \"อินเดีย-ปากีสถาน\" ตึงเครียดข้ึนอีก หลงั จากอินเดียโจมตีทางอากาศในดินแดนปากีสถาน และปากีสถานตอบโตด้ ว้ ยการ ยงิ เครื่องบินรบอินเดียตก 2 ลาในแคชเมียร์ พร้อมท้งั ส่ังปิ ดน่านฟ้าท้งั ประเทศ ขณะท่ี อินเดียส่ังปิ ดสนามบินทางเหนือจนสหรัฐตอ้ งเตือนสองชาติท่ีต่างกม็ ีนิวเคลียร์ดว้ ยกนั ท้งั คู่ขอใหอ้ ดทนอดกล้นั ความตึงเครียดรอบใหม่ระหวา่ งอินเดียกบั ปากีสถานปะทุข้ึน จากสถานการณ์ความขดั แยง้ ดงั กล่าวยงั ส่งผลกระทบไปยงั อีกหลายประเทศ ภายหลงั จากท่ีปากีสถานไดท้ าการส่ังผดิ น่านฟ้าท้งั ประเทศ ทาใหส้ ่งผลกระทบไปทว่ั โลกเพราะเครื่องบินพาณิชยต์ ่างๆ ไม่สามารถบินผา่ นน่านฟ้าของปากีสถานได้ รวมถึง ประเทศไทยในเที่ยวบินไปยโุ รปที่ตอ้ งผา่ นน่าฟ้าของปากีสถานจาเป็นจะตอ้ งถูกระงบั เที่ยวบินไปก่อน ทาให้สนามบินสุวรรณภูมิมีผูโ้ ดยสารตกค้างเป็ นจานวนมาก ขณะเดียวกนั อินเดียส่ังปิ ดสนามบินทางเหนือ จนสหรัฐตอ้ งออโรงเตือนท้งั สองชาติ ขอใหอ้ ดทนอดกล้นั และดูเหมือนวา่ สถานการณ์จะบางเบาลงระดบั หน่ึงเมื่อนานาชาติ รวมท้งั สหประชาชาติ (ยเู อน็ ) เรียกร้องใหค้ านึงถึงผลเสียหายร้ายแรงยง่ิ หากสงคราม เกิดข้ึนจริงระหวา่ งอินเดียและปากีสถาน
5 ปฐมเหตุของสงครามระหว่างอนิ เดยี -ปากสี ถาน ปมเหตุอนั สาคญั ท่ีทาให้เกิดเรื่องราวดงั กล่าว เมื่อก่อนพ้ืนที่แถบน้นั ไม่ไดเ้ ป็ น ประเทศ แต่ถูกเรียกวา่ ‚อนุทวีปอินเดีย‛ (Indian subcontinent) จนภายหลงั องั ฤษได้ เขา้ มาล่าอาณานิคม และทาใหด้ ินแดนแห่งน้ีเกิดความเป็ นชาติที่ชดั เจนข้ึน ทาใหเ้ ห็น ความสาคญั ของชาติ โดยการแบ่งแยกและปกครอง ทาใหค้ นในพ้ืนท่ีมีทาการแบ่งฝ่ าย ตามศาสนาท่ีตนนบั ถืออยไู่ ม่วา่ จะป็นฮินดู ไม่วา่ จะเป็นซิกส์ หรือมุสลิม ต่อมาเม่ือปี 1947 อังกฤษได้มอบเอกราชให้แก่ท้ังสองชาติ ซ่ึงนามาสู่การ แบ่งแยกประเทศออกเป็ นสองประเทศ คือ ประทศอินเดีย และ ประเทศปากีสถาน ตะวนั ตก – ปากีสถานตะวนั ออก โดยใชเ้ กณฑ์ของศาสนาเป็ นตวั ต้งั คือประชาชนท่ี เป็นชาวฮินดูจะอยทู่ ี่ประเทศอินเดีย ส่วนประชาชนชาวมุสลิมจะอยปู่ ระเทศปากีสถาน ตะวนั ตก หรือ ตะวนั ออกก็ได้ การแยกประเทศท่ีเคยอยภู่ ายใตอ้ าณานิคมเดียวกนั ใน คร้ังน้ัน ส่งผลให้เกิดการโยกยา้ ยถ่ินฐานของผูค้ นเป็ นเรือนลา้ นสับสนวุ่นวาย และ ก่อให้เกิดการสู้รบของกลุ่มติดอาวุธอิงศาสนาข้ึนตามมา ซ่ึงเหตุการณ์ในคร้ังน้ัน นายทหารองั กฤษหลายคนที่ไปในรบสงครามโลกคร้ังที่สองมา และเห็นการฆ่าลา้ ง เผา่ พนั ธุ์ยวิ ได้
6 และระหว่างที่มีการแบ่งประเทศก็เกิดปัญหาเพิ่มเติมตามมาคือความไม่ชดั เจน ของพ้ืนที่ ซ่ึงแควน้ ที่มีปัญหาแควน้ หน่ึงคือแควน้ แคชเมียร์ ที่อยภู่ ายใตก้ ารปกครอง ของ ‚มหาราชา‛ นาม ‚ฮารี ซิงห์‛ และถือเป็นดินแดนเพียงส่วนเดียวท่ีองั กฤษไม่ได้ กาหนดชดั เจนว่าเป็ นของอินเดีย หรือ ปากีสถาน หลงั เป็ นเอกราชแลว้ ปัญหาท่ีเกิด ข้ึนกบั แคชเมียร์คือ ประชากรส่วนใหญ่นบั ถือศาสนาอิสลาม 77% ศาสนาฮินดู 20% และมาหาราชาเป็ นชาวฮินดู ตวั มหาราชาจึงตดั สินใจท่ีจะไม่ข้ึนอยู่กบั ใดฝ่ ายหน่ึง จนกระทงั่ เกิดสถานะการณ์ท่ีตอ้ งเลือกจึงตดั สินใจเลือกที่จะเขา้ ร่วมเป็นหน่ึงเดียวกบั อินเดีย ทาให้ภายในแควน้ เกิดการปลุกป่ันและนาไปสู่การสู้รบเพ่ือช่วงชิงแควน้ แคช เมียร์ ของท้งั สองชาติมานบั ต้งั แต่บดั น้นั โดยปากีสถานอา้ งวา่ ตามหลกั การแบ่งดินแดนของแผนการเมา้ ตแ์ บตเทน แควน้ ท่ีมีประชากรส่วนใหญ่เป็นชาวมุสลิมตอ้ งรวมกบั ปากีสถาน ดงั น้นั แคชเมียร์จึงตอ้ งอยู่ กบั ปากีสถาน หรือไม่กจ็ ดั ใหม้ ีการลงประชามติเพื่อใหช้ าวแคชเมียร์เลือกวา่ จะอยกู่ บั ฝ่ ายใด ส่วนอินเดียก็ถือว่าผูป้ กครองรัฐน้ีไดต้ ดั สินใจรวมกบั อินเดีย และสภาทอ้ งถิ่น ของแคชเมียร์ไดล้ งมติรวมกบั อินเดียเม่ือปี 1954 การรวมแคชเมียร์เขา้ กบั อินเดียจึงมี ความชอบธรรมตามกฎหมาย ไม่จาเป็นตอ้ งลงประชามติอีก
7 ถึงแมว้ า่ ‚มหาราชา ฮารี ซิงห‛์ จะลงนามในความตกลงเพ่ือรวมตวั เขา้ กบั อินเดีย แล้วก็ตาม แต่ต่างฝ่ ายต่างส่งกาลังทหารเข้าไปยงั พ้ืนที่ของแควน้ แคชเมียร์อย่าง ต่อเน่ือง จึงทาให้เกิดสงครามอินเดีย-ปากีสถานคร้ังแรกข้ึนในปี 1947 ทาให้ 1 ใน 3 ของแควน้ แคชเมียร์ ตกอยใู่ นความควบคุมของกองทพั ปากีสถาน และอีก 2 ใน 3 อยู่ ภายใต้การควบคุมของกองทัพอินเดีย เป็ นการตกลงเขตยึดครองกนั โดยพฤตินัย หลงั จากเกิดสงครามยดื เยอ้ื กนั มานานถึง 2 ปี
8 ปัญหาก่อการร้ายและสงครามระหว่างอนิ เดยี -ปากสี ถาน ปัญหาระหว่างอินเดียกับปากีสถานดาเนินมาอย่างยาวนานนับต้ังแต่ท่ีสอง ประเทศไดร้ ับเอกราชจากองั กฤษ และก่อต้งั ประเทศข้ึนมาในปี 1947 ถือเป็ นมหา กาพยค์ วามขดั แยง้ อนั เป็นผลมาจากแผนการแบ่งแยกประเทศ (Partition Plan) ดว้ ย ทฤษฎี 2 ชาติ (Two Nation Theory) ท่ียงั ไม่ถูกทาใหเ้ สร็จสิ้นสมบูรณ์ โดยเป็นการ แบ่งแยกประเทศบนพ้ืนฐานความแตกต่างทางดา้ นศาสนา ปากีสถานถูกออกแบบให้ เป็ นประเทศของมุสลิมในเอเชียใต้ ท้ังน้ีแม้พรรคคองเกรสแห่งชาติ (National Congress) กบั สันนิบาตมุสลิม (Muslim League) จะมีปัญหาความขดั แยง้ กนั จนนามาสู่ การแยกประเทศดว้ ยเหตุผลทางการเมือง แต่ประเดน็ น้ีกไ็ ม่ไดเ้ ป็นสาเหตุหลกั หรือเป็น ตวั การท่ีทาใหค้ วามสัมพนั ธข์ องท้งั 2 ประเทศบาดหมางกนั เร่ือยมาจนถึงปัจจุบนั
9 แต่ในกรณีของชมั มูและแคชเมียร์ ซ่ึงประชากรส่วนใหญ่เป็นมุสลิม แต่ผปู้ กครอง เป็นมหาราชาชาวฮินดู ดงั น้นั คนส่วนใหญ่จึงตอ้ งการเขา้ ร่วมกบั ปากีสถานมากกวา่ อยู่ ภายใตก้ ารปกครองของมหาราชาหรือรัฐบาลอินเดีย แต่ในวนั ที่ 12 สิงหาคม 1947 (ก่อนวนั ประกาศเอกราชของอินเดียและปากีสถาน) มหาราชา ฮาริ สิงห์ (Hari Singh) ไดท้ าขอ้ ตกลงกบั ปากีสถานเพื่อขอดารงสถานภาพอิสระต่อไปอีก 2 เดือน เรียกว่า ‘Standstill Agreement’ และพยายามทาขอ้ ตกลงเดียวกนั น้ีกบั อินเดีย แต่อินเดียไม่ร่วม ลงนามดว้ ย จนกระทงั่ ถึงเดือนตุลาคม มหาราชา ฮาริ สิงห์ กย็ งั ไม่ตดั สินใจ ทาใหช้ าว แคชเมียร์รู้สึกผิดหวงั ยง่ิ ไปกว่าน้นั มหาราชา ฮาริ สิงห์ ยงั ไดย้ ดึ อาวุธยทุ โธปกรณ์จาก ทหารมุสลิมขององั กฤษ ทาใหช้ นเผา่ ปัชตุน (Pushtun) จานวนหน่ึงลุกฮือข้ึนจบั อาวุธ ต่อตา้ น ดว้ ยเหตุน้ี ฮาริ สิงห์ จึงไดข้ อความช่วยเหลือไปยงั อินเดียและลอร์ด เมานตแ์ บ ตเทน เพอ่ื ใหส้ ่งทหารเขา้ มาช่วย โดยตกลงจะลงนามยนิ ยอมผนวกแควน้ ชมั มูและแคช เมียร์เขา้ รวมกบั อินเดีย อินเดียจึงส่งกองทพั เขา้ ไป จนกระทง่ั วนั ท่ี 26 ตุลาคม ฮาริ สิงห์ ไดอ้ พยพไปยงั ชัมมู และได้ลงนามขอ้ ตกลงผนวกชมั มูและแคชเมียร์เขา้ กบั อินเดีย ปากีสถานไม่ยอมรับขอ้ ตกลงดงั กล่าว และมองวา่ ขาดความชอบธรรม เพราะขอ้ ตกลง Standstill ท่ีทากบั ปากีสถานยงั มีผลบงั คบั ใช้ การผนวกแคชเมียร์เขา้ กบั อินเดียทาให้ ปากีสถานและชาวแคชเมียร์ไม่พอใจอย่างมาก จนนาไปสู่การทาสงครามกนั ต้งั แต่ เดือนพฤศจิกายน 1947 และยตุ ิลงอยา่ งเป็นทางการในเดือนธนั วาคม 1948 หลงั จากท้งั สองฝ่ ายยอมรับในมติหยุดยิงของคณะมนตรีความมนั่ คงแห่งสหประชาชาติ (United Nations Security Council: UNSC) การต่อสู้คร้ังน้ีจึงถือเป็นสงครามคร้ังแรกระหวา่ ง อินเดียกบั ปากีสถาน การยอมรับในมติดงั กล่าวทาใหม้ ีการกาหนดแนวเส้นหยดุ ยงิ ซ่ึง ต่อมาเป็ นท่ียอมรับและเรียกกนั ว่า แนวเส้นควบคุม ภายใต้การดูแลของกลุ่ม สงั เกตการณ์ทางทหารแห่งสหประชาชาติสาหรับอินเดียและปากีสถาน
10 หลายคร้ังท่ีเกิดเหตุก่อการร้ายในอินเดีย มกั จะส่งผลต่อความสัมพนั ธ์ระหว่าง อินเดียกบั ปากีสถานตามมา เพราะอินเดียเชื่อวา่ ปากีสถานแอบใหก้ ารสนบั สนุนกลุ่ม ก่อการร้ายเหล่าน้นั อินเดียมองว่าปากีสถานเลือกปฏิบตั ิต่อกลุ่มก่อการร้ายแบบสอง มาตรฐาน คือกลุ่มก่อการร้ายท่ีปากีสถานมองว่าไม่ดี (Bad Terrorist) หรือกลุ่มท่ีเป็น ภยั คุกคามความมน่ั คงของปากีสถาน สหรัฐอเมริกา และพนั ธมิตร รวมท้ังกลุ่มที่ สหรัฐฯ ข้ึนบญั ชีเป็นกลุ่มก่อการร้ายสากลอยา่ งเช่น กลุ่มอลั กออิดะห์และตาลีบนั กบั กลุ่มก่อการร้ายท่ีปากีสถานมองว่าดี โดยยึดผลประโยชน์ของชาติและการเมือง ระหว่างประเทศเป็นสาคญั กล่าวคือกลุ่มที่เป็ นภยั คุกคามต่ออินเดีย โดยเฉพาะกลุ่มที่ ปฏิบตั ิการปลดปล่อยแคชเมียร์จากการปกครองของอินเดีย ผูน้ าอินเดียมกั กล่าวหาว่า ปากีสถานใชก้ ลุ่มก่อการร้ายเหล่าน้ีเป็นเครื่องมือทางนโยบายของรัฐ ปากีสถานปฏิเสธมาโดยตลอดว่าไม่เคยให้การสนับสนุนกลุ่มติดอาวุธใดๆ ท่ี โจมตีอินเดีย จุดยนื ของปากีสถานคือสนบั สนุนทางการเมืองหรือทางใจต่อประชาชน ชาวแคชเมียร์ที่เรียกร้องเอกราชของตวั เอง
11 ความตึงเครียดล่าสุดระหวา่ งอินเดียกบั ปากีสถานมีชนวนมาจากเหตุคาร์บอมบฆ์ ่า ตวั ตายของกลุ่มติดอาวธุ Jaish-e-Muhammad: JeM ซ่ึงโจมตีรถบสั กองกาลงั ตารวจก่ึง ทหารในเขตปูร์วามา ในแควน้ แคชเมียร์ฝั่งของอินเดียเมื่อวนั ที่ 14 กมุ ภาพนั ธ์ที่ผา่ นมา ส่งผลให้เจา้ หน้าท่ีเสียชีวิตอย่างน้อย 46 นาย อินเดียเช่ือว่าปากีสถานมีส่วนในการ สนบั สนุนกลุ่ม JeM ซ่ึงมีฐานอยใู่ นแคชเมียร์ฝั่งปากีสถาน แมป้ ากีสถานจะปฏิเสธว่า ไม่ไดม้ ีส่วนเก่ียวขอ้ งกบั เหตุการณ์น้ี แต่อินเดียก็ยงั คงเดินหนา้ ใช้มาตรการตอบโต้ ปากีสถานในทางเศรษฐกิจดว้ ยการข้ึนภาษีนาเขา้ สินคา้ จากปากีสถานถึง 200% ต่อมา อินเดียอ้างว่าปากีสถานไม่มีการดาเนินการใดๆ กบั กลุ่ม JeM จากน้ันวนั ที่ 26 กมุ ภาพนั ธ์ อินเดียจึงไดส้ ่งเคร่ืองบินรบแบบ Mirage เขา้ โจมตีทางอากาศใส่เป้าหมาย ท่ีเช่ือว่าเป็นค่ายฝึ กของกลุ่ม JeM ในเขตแคชเมียร์ฝั่งปากีสถาน เป็นการปฏิบตั ิการใน ลกั ษณะชิงโจมตีก่อน (Pre-emptive Strike) ซ่ึงถือเป็ นการรุกล้าอธิปไตยของ ปากีสถานอยา่ งร้ายแรง ต่อมาสถานการณ์ยงิ่ ตึงเครียดมากข้ึนเม่ือวนั ที่ 27 กุมภาพนั ธ์ เคร่ืองบินเจท็ ของ อินเดียถูกปากีสถานยงิ ตก ในส่วนของทางกระทรวงต่างประเทศปากีสถาน กล่าวถึง กรณีการโจมตีทางอากาศของอินเดีย แมจ้ ะไม่มีเป้าหมายเป็นทางการทหาร แต่เป็นการ รุกล้าเส้นแบ่งเขตแดนและน่านฟ้าของปากีสถาน รวมท้งั กล่าวหาวา่ เป็นการก่อการร้าย ในพ้ืนท่ีปากีสถาน เพื่อเป็ นการป้องกนั ความสูญเสียที่อาจจะเกิดข้ึน ปากีสถานจึง ตดั สินใจยงิ ฝงู บินของอินเดียแต่ทาไปเพื่อเป็นการปกป้องประเทศ ท้งั ๆ ที่ประกาศแจง้ เตือนฝงู บินของอินเดียไปแลว้ แต่ยงั รุกล้าเขา้ มา ซ่ึงปากีสถานไดย้ งิ ตกไป 2 ลา และจบั ตวั นกั บินมาเป็ นเชลย ทางอินเดียยงั คงพิจารณาความเคล่ือนไหวของตนเองอยู่ โดย ในช่วงเยน็ ของวนั ที่ 27 กุมภาพนั ธ์ อินเดียปิ ดสนามบินฝ่ังชายแดนตะวนั ตกท้งั หมด เช่นเดียวกบั ฝั่งปากีสถานไดท้ าการปิ ดน่านฟ้าของตนเอง
12 ส่งผลทาให้ทุกไฟล์ท่ีจะตอ้ งบินผ่านเส้นทางเอเชีย-ยุโรปตอ้ งยกเลิกท้งั หมด และยงั คงมีความคลุมเครือในท่าทีของท้งั สองฝ่ัง โดยนานาประเทศต่างแสดงความเป็น ห่วงเป็นใยกบั ท้งั สองฝ่ัง หวน่ั เกรงว่าไม่อยากใหค้ วามตึงเครียดจะกลายมาเป็นชนวน ก่อสงครามระหวา่ งประเทศ ซ่ึงจะตอ้ งทาการติดตามความคืบหนา้ กนั ต่อไป เมื่อวนั ที่ 28 กมุ ภาพนั ธ์ 2562 รัฐบาลอินเดียออกแถลงการณ์เรียกร้องใหร้ ัฐบาล ปากีสถานทาตามสนธิสัญญาเจนีวาเก่ียวกบั การไม่ทาร้ายเชลยศกึ และออกมาประณาม การกระทาดงั กล่าวท่ีทาเกินกว่าเหตุ ท้งั ที่อินเดียเพียงเขา้ ไปโจมตีกลุ่มก่อการร้าย ใน เวลาต่อมานายกรัฐมนตรีของปากีสถานออกแถลงการณ์เรียกร้องใหอ้ ินเดียหนั หนา้ เขา้ มาคุยกนั อยา่ ขยายขอบเขตความขดั แยง้ ออกไปมากกว่าน้ี พร้อมเนน้ ย้าว่าจะใหค้ วาม ร่วมมืออยา่ งเตม็ ท่ีในการปราบปรามกลุ่มก่อการร้าย แต่การกระทาของอินเดียถือไดว้ ่า ละเมิดอานาจอธิปไตยของปากีสถานก่อน นายกรัฐมนตรีปากีสถานพดู ในรัฐสภาว่าเขาพยายามอยา่ งมากในการติดต่อกบั นายกรัฐมนตรีโมดีของอินเดีย เพื่อพูดคุยถึงปัญหาที่เกิดข้ึนโดยตรง และหาแนว ทางการแกไ้ ขปัญหาร่วมกนั เขาระบุชดั วา่ ปากีสถานไม่ตอ้ งการทาสงครามกบั อินเดีย เพราะสงครามไม่มีผูช้ นะที่แทจ้ ริง ยิง่ ท้งั สองประเทศเป็ นเพื่อนบา้ นกนั ดว้ ย ในท่ีสุด แลว้ เพอ่ื ลดความตึงเครียดที่เกิดข้ึน นายกรัฐมนตรีอิมราน ข่าน ของปากีสถาน ออกมา ประกาศวา่ ในวนั ที่ 1 มีนาคม 2562 เขาจะปล่อยตวั นกั บินอินเดียท่ีถูกจบั เป็นเชลย เพ่ือ ตอบสนองขอ้ เรียกร้องของอินเดียท่ีตอ้ งการใหป้ ล่อยนกั บินรบผนู้ ้ีอยา่ งปลอดภยั
13 สรุป แควน้ ชมั มูและแคชเมียร์ เป็นตน้ ตอขอขอ้ พิพาทในภูมิภาคเอเชียใตต้ ลอดมา นบั ต้งั แต่องั กฤษคืนเอกราชใหด้ ินแดนจกั รวรรดิอินเดียขององั กฤษ และเป็นชนวนเหตุ สงครามระหวา่ งอินเดีย - ปากีสถาน ดงั น้ี ระหว่างปี ค.ศ. 1947 หรือที่เรียกว่า \"The First Kashmir War\" เมื่อวนั ท่ี 22 ตุลาคม ค.ศ. 1947 ปากีสถานใหก้ ารสนบั สนุนวาร์ซิรี (Warxiri) และมาอูซุด (Mausud) นาทหารชาวเขาจากชายแดนภาคตะวนั ตกเฉียงเหนือ โดยอา้ งว่ามาทาการปลดปล่อย ชาวแคชเมียร์จากมหาราชา Hari Singh และสามารถยดึ ครองดินแดนไดถ้ ึง 1 ใน 3 ของ แควน้ ทาใหม้ หาราชาตดั สินใจขอความช่วยเหลือจากรัฐบาลอินเดีย เยาหะราล เนห์รู นายยกรัฐมนตรีขณะน้ันตดั สินใจส่งทหารบกลาเลียงทางอากาศลงท่ีศรีนคร (เมือง หลวงแคชเมียร์) เม่ือวนั ท่ี 27 ตุลาคม ค.ศ. 1947 เวลา 09.00 ไดท้ นั ก่อนท่ีปากีสถานจะ เขา้ ยดึ สนามบิน เกิดการปะทะกนั หลายคร้ัง หลงั จากน้นั รัฐบาลอินเดียยนื่ ประทว้ งต่อ คณะรัฐมนตรีความมน่ั คงแห่งสหประชาชาติ ซ่ึงองคก์ ารสหประชาชาติมีมติใหท้ ้งั 2 ฝ่ ายหยดุ ยงิ เม่ือวนั ที่ 1 มกราคม ค.ศ. 1949 โดยกาหนดแนวหยดุ ยงิ (Line of Control) แบ่งแคชเมียร์ตะวนั ออก ชมั มู และลาดคั ห์ เป็นเขตยดึ ครองของอินเดีย ส่วนแคชเมียร์ ตะวนั ตก (ปากีสถาน เรียกว่า \"อาซัค\" หมายถึงแคชเมียร์) เป็ นเขตยึดครองของ ปากีสถาน
14 ในคืนวนั ท่ี 27 กมุ ภาพนั ธห์ ลงั ยงิ เคร่ืองบินตก ปากีสถานไดป้ ระกาศปิ ดน่านฟ้า ประเทศ เพือ่ ป้องกนั การยงิ เคร่ืองบินพลเรือนที่ไม่ไดเ้ ก่ียวขอ้ ง ทาใหก้ ระทบต่อสาย การบินต่างๆ ทวั่ โลกในการเปลี่ยนเส้นทาง ท้งั บริติชแอร์เวยส์ , แอร์อินเดีย, เจต็ แอร์ เวยส์ , กาตาร์แอร์เวยส์ และสิงคโปร์แอร์ไลนส์ เกือบทุกสายการบินตอ้ งยกเลิก เท่ียวบินไปยงั ปากีสถาน รวมถึงสายการบินการบินไทยเอง ท่ียกเลิกเที่ยวบินเส้นทาง ไป-กลบั ยโุ รป ซ่ึงตอนน้ีการบินไทยเปล่ียนแปลงเส้นทาง และบินไปยโุ รปไดป้ กติแลว้ นายกรัฐมนตรีอิมราน ข่าน ของปากีสถาน ออกมาประกาศวา่ ในวนั ที่ 1 มีนาคม 2562 เขาจะปล่อยตวั นกั บินอินเดียที่ถูกจบั เป็นเชลย เพ่ือตอบสนองขอ้ เรียกร้องของอินเดียที่ ตอ้ งการใหป้ ล่อยนกั บินรบผนู้ ้ีอยา่ งปลอดภยั
15
Search
Read the Text Version
- 1 - 18
Pages: