Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore เล่มใหม่

เล่มใหม่

Published by Nattapong Oryuken, 2019-08-20 20:50:34

Description: เล่มใหม่

Search

Read the Text Version

เรื่อง บัญชี 5 หมวด

คานา หนังสอื เรื่องบัญชี 5 หมวด เล่มนไ้ี ด้เรยี บเรียงเนื้อหาที่ ประกอบดว้ ย 1. ความรเู้ บื้องต้น 2. บญั ชี 5 หมวด ความหมายของแต่ละ หมวด 3. หลกั การบนั ทึกบญั ชี 4. การบนั ทกึ บญั ชตี ามระบบบัญชีคูข่ องแตล่ ะหมวดบญั ชี เพือ่ จัดทาตาม วตั ถปุ ระสงคข์ องโครงการการพฒั นาการเรียนรูเ้ รอ่ื งบัญชี 5 หมวดของนอ้ ง ปี 1 หอ้ ง 1 แผนกการบญั ชี ผ่านหนังสืออเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ ผ้เู รียบเรียงหวังว่า หนงั สือเร่อื งบญั ชี 5 หมวด เล่มน้ีจะเปน็ ประโยชนต์ อ่ ผทู้ ก่ี าลงั ศึกษา เร่ืองบญั ชี 5 หมวด และอาจารย์ผูส้ อนได้ใช้ เป็นแนวทางในการจดั การเรียนการสอนในรายวชิ าบัญชีเบ้ืองต้น หากมี ข้อผิดพลาดประการใดขออภัยไว้ ณ ทีน่ ้ีด้วย คณะผจู้ ัดทา

สารบัญ หน้า บทท่ี 2 1. ความรู้เบอื้ งต้น 2 4 ความหมายของการบญั ชี 5 แนวความคดิ วัตถปุ ระสงคข์ องการจดั ทาบญั ชี 7 สมการบัญชี 7 2. บัญชี 5 หมวด 11 ความหมายของหมวดบญั ชี 13 สนิ ทรัพย์ 16 หนี้สิน 17 ส่วนของเจ้าของ รายได้ ค่าใชจ้ า่ ย

สารบัญต่อ หนา้ 19 บทท่ี 21 3. หลกั การบนั ทึกบัญชี ระบบบญั ชีเดยี่ ว และระบบบัญชคี ู่ 4. การบันทึกบัญชตี ามระบบบัญชีคูข่ องแตล่ ะหมวดบญั ชี หลกั การบันทึกบญั ชตี ามระบบบัญชีคู่ 5. บรรณานุกรม

บทที่ 1 ค ว า ม รู้ เ บื้ อ ง ต้ น

ความหมายของบญั ชี สมาคมนกั บญั ชี และผูต้ รวจสอบบญั ชรี ับอนญุ าตของประเทศสหรัฐอเมรกิ า(The American Instilute of Centified Public Accountants หรือ AICPA) ไดใ้ หค้ าจากดั ความของคาวา่ การ บญั ชี ไว้ดงั นี้ “Accounting is the art of recording ,classifying, and summarizing in a significant manner and in terms of money , transactions and events which are, in part at least, of a financial character and interpreting the results thereof “ จากคานยิ ามดงั กลา่ ว การบัญชี หมายถงึ “ศิลปะของการจดบันทึก การจาแนกให้ เปน็ หมวดหมู่และการสรุปผลสิง่ สาคัญในรูปตวั เงิน รายการ และเหตุการณต์ ่างๆ ซ่ึงเกย่ี วข้องกับ ทางด้านการเงนิ รวมทัง้ การแปลความหมายของผลการปฏิบตั ิดังกล่าวด้วย” สภาวชิ าชพี บัญชี (The Federation of Accounting ProFessions หรอื FAP) ของประเทศไทย ไดใ้ ห้คาจากัดความของคาวา่ การบญั ชี ไว้ดังน้ี การบญั ชี(Accounting) หมายถงึ ศิลปะของการเก็บรวบรวม บันทกึ จาแนก และ ทาสรุปข้อมูลเกย่ี วกับเหตุการณ์ทางเศรษฐกจิ ในรูปตัวเงิน ผลขัน้ สุดท้ายของการบัญชี คือ การให้ ข้อมลู ทางการเงิน ซ่ึงเปน็ ประโยชนแ์ ก่บุคคลหลายฝ่าย และผู้สนใจในกิจกรรมของกิจการ” 2

แนวความคิดของสถาบนั ท้ัง 2 แห่ง สรปุ ได้วา่ การบัญชมี คี วามหมายทีส่ าคญั 2 ประการคอื 1.การทาบญั ชี (Bookkeeping) เปน็ หนา้ ทข่ี องผู้ทาบญั ชี (Bookkeeper) ซ่งึ มี ขนั้ ตอนการปฏบิ ตั ิดงั น้ี 1.1 การรวบรวม (Collecting) หมายถงึ การเก็บขอ้ มูลหรอื รายการ คา้ ท่ีเกดิ ข้ึนในกจิ การ จากเอกสารหลกั ฐานต่างๆ เชน่ ใบเสร็จรับเงิน ใบกากบั สินคา้ เปน็ ตน้ 1.2 การบนั ทึก (Recording) หมายถึง การจดบันทกึ รายการคา้ ที่เกิด ในสมดุ บญั ชใี หถ้ ูกตอ้ งตามหลกั การบญั ชีที่ ยอมรับทว่ั ไป 1.3 การจาแนก (Classifying) หมายถงึ การนาขอ้ มลู ทจ่ี ดบนั ทึกไว้ แลว้ โดยการแยกประเภท และจดั หมวดหมู่ เชน่ สินทรพั ย์ หน้ีสิน ส่วนของ เจา้ ของ รายได้ และคา่ ใช้จา่ ย 1.4 การสรปุ ข้อมูล (Summarizing) หมายถึง การนาขอ้ มูลทไี่ ด้ จาแนกเปน็ หมวดหมู่มาจัดทารายการทางการเงิน ซึ่งเรยี กว่า “งบการเงิน’’ 3

2. การใชข้ อ้ มูลทางการเงิน เพื่อเป็นประโยชน์ตอ่ บคุ คลทีเ่ กี่ยวขอ้ ง เชน่ เจา้ ของ กิจการ ผบู้ รหิ าร เจ้าหนี้ ผูล้ งทุน ลกู ค้า เป็นตน้ นอกจากนี้ขอ้ มลู ทางการเงิน สามารถนาไปใชป้ ระโยชนใ์ นการวเิ คราะห์ทางดา้ นการเงิน การจัดทางบประมาณ เปน็ ตน้ วัตถปุ ระสงค์ของการจดั ทาบญั ชี 1.เพ่ือเปน็ การจดบนั ทึกรายการคา้ ต่างๆ ของกจิ การทีเ่ กดิ ข้ึน โดย เรยี งลาดบั ก่อนหลังของการเกิดรายการค้าน้ัน 2. เพ่อื แสดงใหเ้ หน็ ฐานะทางการเงินของกจิ การ ณ วันใด วนั หนึง่ ว่า มีสินทรัพย์ หน้สี นิ และส่วนของเจ้าของ อยู่เปน็ จานวนเทา่ ใด 3. เพ่ือใชเ้ ปน็ แหลง่ ขอ้ มลู ทางการเงิน ทผ่ี ูบ้ รหิ ารหรอื บคุ คลอนื่ สามารถ นาไปใช้เพือ่ การตดั สนิ ใจในดา้ นตา่ งๆได้ เช่น เพ่ือการวางแผน การควบคมุ การวดั ผลการดาเนินงาน เปน็ ต้น 4. เพ่ือเป็นการปอ้ งกันการทจุ รติ ของพนักงาน และการสญู หายของสนิ ทรพั ย์ 5.เพอื่ ให้เป็นข้อบังคับของกฎหมาย 6.เพ่อื นามาเป็นเครอื่ งมอื ในการคานวณภาษี ทตี่ อ้ งจา่ ยใหแ้ ก่รัฐไดอ้ ยา่ ง ถูกตอ้ ง 4

สมการบัญชี(Accounting Equation) หมายถึง ความสมั พนั ธร์ ะหวา่ ง สินทรพั ย์ หน้สี ิน และสว่ นของเจา้ ของ ซงึ่ จะมีลักษณะสมดุลกนั ตามหลักการ จดั หาเงนิ ทนุ และการใช้เงนิ ทุน กลา่ วคอื ยอดรวมของสินทรพั ย์ จะต้องเทา่ กบั ยอดรวมของหนส้ี นิ และสว่ นของเจา้ ของ หมายความวา่ สินทรัพยจ์ ะได้มาจาก 2 ทาง คือ เจา้ หนี้และสว่ นของเจา้ ของ ซ่งึ สามารถเขียนในรปู สมการได้ดงั นี้ สินทรัพย์ = หนีส้ นิ + สว่ นของเจา้ ของ 5

บทที่ 2 บัญชี 5 หมวด

หมวดบญั ชี คือการรวบรวมส่งิ ท่ีเหมือนกันเขา้ ไว้ในหมวดเดยี วกนั และมคี วามหมายเหมือนกัน เช่น รถยนต์ เงนิ สด เป็นส่งิ ทีก่ จิ การครอบครอง กจ็ ะถอื เปน็ สินทรพั ยข์ องกจิ การ แตถ่ า้ เป็นเจ้าหนี้ เงินกู้ ก็ จะถอื ว่าเป็นหนสี้ ินของกิจการเพราะมภี าระผกู พนั ในอนาคต เปน็ ตน้ หมวดบัญชีจะมี 5 หมวดไดแ้ ก่ 1. หมวดบัญชีสนิ ทรัพย์ 2. หมวดบญั ชีหนี้สนิ 3. หมวดบญั ชที ุนหรอื ส่วนของเจา้ ของ 4. หมวดบญั ชรี ายได้ 5. หมวดบญั ชคี ่าใชจ้ ่าย ความหมายของแต่ละหมวด สนิ ทรัพย์ (Assets) หมายถึงสง่ิ ทม่ี ตี วั ตน หรอื ไม่มีตัวตนอนั มีมูลคา่ ซง่ึ บุคคลหรอื กิจการ เปน็ เจ้าของหรือสามารถถือเอาประโยชน์ได้จาก กรรมสิทธิ์ในอสงั หาริมทรัพย์ สงั หาริมทรพั ย์ สิทธิ เรียกรอ้ งมลู คา่ ทไี่ ด้มา รายจ่ายที่เกิดสิทธิ และรายจ่ายของงวดบัญชีถัดไป 1. สินทรพั ย์ท่เี ป็นตัวเงนิ หรอื เทยี บเทา่ เงิน เชน่ เงินสด และต๋วั เงนิ รับต่าง ๆ 2. สนิ ทรัพย์ทเ่ี ป็นสทิ ธเิ รียกร้อง เชน่ ลูกหน้ี 3. สินทรพั ยท์ มี่ ีตวั ตน เชน่ ท่ีดนิ อาคาร รถยนต์ 4. สนิ ทรพั ยท์ ่ไี ม่มีตวั ตน เช่น สิทธบิ ตั ร ลิขสิทธ์ิ สัมปทาน 5. รายจา่ ยทจี่ ่ายไปแลว้ จะใหป้ ระโยชน์ตอ่ งวดบญั ชถี ัดไป ไดแ้ ก่ คา่ ใช้จา่ ยลว่ งหน้า ประเภทตา่ ง ๆ เช่น ค่าโฆษณาจ่ายล่วงหนา้ 7

สินทรัพย์สามารถแบง่ ออกเปน็ 2 ประเภท ได้แก่ 1.สนิ ทรพั ย์หมุนเวียน (Current Assets) หมายถงึ สนิ ทรพั ยท์ ่ีมีสภาพคล่อง สามารถจะเปลยี่ นเปน็ เงินสด เช่น เงนิ สด เงนิ ฝากธนาคาร เป็นต้น หรือสนิ ทรพั ย์อืน่ ที่เปล่ยี นเปน็ เงนิ สดไดเ้ รว็ โดยปกติจะไม่เกิน 1 ปี ดังนี้ 1.1 เงนิ สดอาจเปน็ เงนิ สดในมือหรอื เงนิ ฝากธนาคาร 1.2 เงนิ ลงทุนชว่ั คราวประกอบด้วยหลักทรัพยใ์ นความต้องการของตลาดเป็นหลักทรพั ยท์ ่ีซอ้ื มา เพอื่ หาดอกผลจากเงินลงทนุ น้นั และฝา่ ยจัดการจะขาย เม่อื ต้องการใชเ้ งนิ สด 1.3 ลูกหน้กี ารค้าจานวนเงินทีล่ กู คา้ คา้ งชาระค่าสินค้าหรอื ค่าบรกิ ารที่กจิ การได้ขายไปหรอื ใหบ้ รกิ ารตามปกติธรุ ะของกจิ การ 1.4 ตวั๋ เงนิ รับสญั ญาเปน็ ลายลักษณอ์ กั ษรโดยปราศจากเงื่อนไขท่ีบคุ คลอนื่ รับชาระ เงนิ จานวนหนง่ึ ใหแ้ ก่กจิ การภายในเวลาท่ีกาหนด 1.5 เงินใหก้ ยู้ ืมระยะสั้นเงนิ ท่ีกิจการใหแ้ ก่ผู้อ่ืนกยู้ มื โดยมขี อ้ ตกลงทจ่ี ะเรียกชาระคืนภายใน 12 เดอื นนับจากวันท่ใี นงบดุล 1.6 สินคา้ คงเหลือสินค้าสาเร็จรปู สนิ ค้าระหวา่ งผลิตวัตถุดบิ และวัสดุชน้ิ สว่ นท่ีใชใ้ นการผลติ เพือ่ ขายตามปกตขิ องกิจการ 1.7 วสั ดสุ นิ้ เปลอื งวัสดุที่ใช้ในสานกั งานหรือในรา้ นคา้ ซ่ึงจะใช้หมดไปในระยะเวลาสั้นและเมอื่ ใช้ หมด จะถอื เป็นคา่ ใช้จ่ายในงบกาไรขาดทนุ เชน่ เครื่องเขยี น แบบพิมพ์ตา่ งๆ 1.8รายไดค้ ้างรับรายได้อน่ื ๆของกิจการทเี่ กิดขึ้นแลว้ แตก่ จิ การยังไม่ได้รบั ชาระเงินในวันสน้ิ งวด จัดการตอ้ งมีรายได้คา้ งรบั ท่ีเกดิ ข้นึ เช่นดอกเบี้ยคา้ งรับ 1.9คา่ ใช้จา่ ยจ่ายล่วงหน้าคา่ ใชจ้ ่ายท่กี จิ การจ่ายไปก่อนสาหรับสินทรพั ยห์ รือบรกิ ารที่ กิจการจะ ไดร้ บั ประโยชน์ในอนาคตอันสั้น ในการดาเนินงานตามปกตขิ องกิจการเชน่ คา่ เช่าจา่ ยลว่ งหน้าค่าเบีย้ ประกนั จา่ ย ล่วงหนา้ 8

2. สนิ ทรพั ย์ไม่หมนุ เวยี น (Non – Current Assets) หมายถงึ สนิ ทรัพย์ทีไ่ ม่สามารถเปล่ยี นเปน็ เงินสดไดโ้ ดยเรว็ ซงึ่ มรี ะยะเวลา มากกว่า 1 ปี เชน่ เงนิ ลงทุนระยะยาว เงนิ ใหก้ ยู้ มื ระยะยาวและการลงทนุ ในห้นุ สามญั ของบรษิ ทั ต่าง ๆ เปน็ ต้น สนิ ทรัพย์ถาวร (Fixed Assets) หรือเป็นสนิ ทรพั ยท์ ม่ี ีตวั ตน มีลักษณะการใชง้ านท่คี งทน และมอี ายกุ ารใชง้ านนานเกินกว่า 1 ปี เชน่ ท่ดี ิน อาคาร อุปกรณ์ รถยนต์ เป็นตน้ สินทรพั ยไ์ มม่ ตี วั ตน (Intangible Assets) หมายถึง สนิ ทรัพยท์ ไี่ มม่ ีรูปรา่ งไมส่ ามารถจบั ต้องได้ทาง กายภาพ แต่สามารถตรี าคาใหม้ มี ูลค่าเปน็ เงินตรา และถอื กรรมสทิ ธิ์ได้ เช่น เครื่องหมายการค้า สิทธิบตั ร ลขิ สิทธิ์ คา่ ความนยิ ม เปน็ ต้น 2.1 เงนิ ลงทุนระยะยาว กล็ งทนุ ซ้ือหุ้นทุนหรือหลกั ทรพั ย์ประกนั ประเภทหนี้ หรือพันธบัตรของกจิ การอ่ืนเพอ่ื กิจการต้องการลงทุน ในเวลาทีน่ านเกิน 1 ปโี ดยมไิ ด้มีวตั ถปุ ระสงค์ในการจาหนา่ ยไปในระยะเวลาอันใกล้ ตวั อย่างเงนิ ลงทุนระยะยาวได้แก่ เงนิ ลงทนุ ใน บรษิ ัทยอ่ ยการลงทนุ โดยการซื้อหนุ้ สามญั ของบริษทั อื่นโดยมวี ัตถุประสงค์ ทจี่ ะควบคมุ บริษทั น้ันในระยะยาว 2.2 ท่ีดินอาคารและอุปกรณ์ สนิ ทรพั ย์ประเภทน้ีเป็นสินทรัพยถ์ าวรที่มตี วั ตน ซง่ึ กิจการมไี ว้เพื่อใช้ ประโยชน์ในการดาเนินงาน การผลิตสนิ ค้า การจาหน่ายสนิ คา้ การใหบ้ รกิ าร การบรหิ ารงานรวมถงึ สนิ คา้ ทีม่ ีไว้เพ่อื ใชใ้ นการบารุงรักษาหรือซอ่ มแซมทรพั ย์สนิ ดงั กล่าวดว้ ย สินทรพั ย์ ประเภทนเ้ี ปน็ ส่งิ ท่กี จิ การไดม้ าหรือสร้างข้นึ เองโดยต้งั ใจวา่ จะใชป้ ระโยชน์ จากสนิ ทรพั ย์นน้ั ตอ่ เนอ่ื งตลอดไป ทาไมต้องไปจะขายในการดาเนนิ งานตามปกตใิ นงบดลุ จัดแสดงสินคา้ ประเภทน้ีตามราคาทุนหักดว้ ยค่าเส่อื มราคาสะสมแตบ่ างกรณี กจิ การอาจเลือกที่จะแสดงสินค้าประเภทนต้ี ามราคาทีต่ ใี หมห่ กั ดว้ ยค่าเส่ือมราคาสะสมแต่ท้ังนี้ยกเวน้ ทีด่ ินและแสดงตามราคาทนุ หรอื ราคาที่ตใี หม่โดยไม่คิดค่าเส่ือมราคาตัวอยา่ งของสินทรัพยป์ ระเภทนี้ไดแ้ ก่ ทด่ี นิ ทดี่ ินท่ใี ช้ประโยชนใ์ นการดาเนนิ งานเปน็ ทต่ี ง้ั สานักงานโรงงานคลังเกบ็ สินคา้ และสิ่งปลกู สรา้ งอนื่ ๆ อาคาร อาคารสิ่งก่อสร้างอาคารสานักงานโรงงานทีใ่ ชใ้ นการดาเนินงาน อุปกรณ์ อปุ กรณเ์ ครอ่ื งมอื เครือ่ งใช้สินทรพั ย์ถาวรทใี่ ช้ประดับร้านหรอื ตกแต่งสานักงานอุปกรณ์ อาจอยากเปน็ อุปกรณส์ านกั งานอปุ กรณ์ รา้ นคา้ อุปกรณใ์ นการขนส่งเครือ่ งจกั รเครอื่ งตกแตง่ 9

2.3 สนิ ทรัพยไ์ ม่มีตวั ตนเปน็ สนิ ทรัพย์ที่ไม่มรี ปู ร่างอยตู่ วั ตนแตก่ จิ การมีอยแู่ ละวัดมลู คา่ เปน็ เงินได้โดยมหี ลักฐาน ชดั เจน ตัดสินทรัพยน์ ี้จะใหป้ ระโยชนใ์ นเชิงเศรษฐกจิ แก่กิจการในอนาคต ตวั อยา่ งของสนิ ทรพั ย์ประเภทนีไ้ ดแ้ ก่ ลิขสทิ ธิ์ สิทธิตามกฎหมายทีร่ ฐั มอบใหแ้ กผ่ ู้ทาวรรณกรรมหรอื ศิลปกรรมรวมทัง้ สิทธิในการเผยแพร่ตอ่ สาธารณชนดว้ ย สทิ ธิบตั ร สทิ ธติ ามกฎหมายทีร่ ฐั ให้แก่บคุ คลที่ประดิษฐ์คิดคน้ สงิ่ หนง่ึ สิ่งใดขึน้ ใหม่ อันดับได้วา่ มีประโยชน์ สมั ปทาน สิทธทิ รี่ ัฐหรอื บรษิ ทั ใดให้แก่บุคคลหรือกจิ การเพื่อประกอบกจิ การเฉพาะอย่างหรอื เป็นตวั แทนขาย ผลติ ภณั ฑห์ รือบรกิ าร ในพืน้ ท่ใี ดพ้ืนที่หน่งึ เครื่องหมายการคา้ เคร่อื งหมายหรอื ตาชื่อที่กิจการใช้กับสินคา้ ของตนเพ่ือผูบ้ ริโภคสามารถตดั สนิ ใจเลอื กซอ้ื สนิ คา้ ได้ง่ายตามความประสงค์ 10

หน้สี นิ (Liability) หมายถงึ ภาระผูกพนั ในปัจจุบันของกจิ การทตี่ อ้ งจา่ ยชาระคนื แกบ่ ุคคลภายนอกในอนาคต ภาระผกู พัน ดังกล่าวเปน็ ผลของเหตกุ ารณใ์ นอดีตซ่ึงการชาระภาระผูกพนั นน้ั คาดวา่ จะสง่ ผลใหก้ ิจการสูญเสยี ทรพั ยากรที่มปี ระโยชนเ์ ชิง เศรษฐกิจ เชน่ เจ้าหนี้การคา้ เงินกู้ เงินเบกิ เกินบญั ชี เจ้าหนจ้ี านอง เป็นตน้ หน้สี ินแบง่ ออกเป็น 2 ประเภท ไดแ้ ก่ 1.หน้ีสนิ หมนุ เวยี น หน้ีสินหมนุ เวยี นหมายถงึ หนี้สนิ ท่ีมีระยะเวลาการชาระคนื ภายใน 1 ปหี รือภายในรอบระยะเวลาการ ดาเนินงานตามปกตขิ องกจิ การหนี้สินหมนุ เวยี นจะชาระดว้ ยสินทรัพยห์ มนุ เวียน การให้บริการหรือการกอ่ หนส้ี นิ หมนุ เวียนอื่นขน้ึ ใหมน่ อกจากนีย้ งั รวมถึงส่วนของภาระผูกพนั ระยะยาว ท่ีคาดว่าจะตอ้ งชาระภายใน 1 ปีนับจากวันทใ่ี นงบดุลรายการทจี่ ดั เปน็ หนี้สนิ หมนุ เวียนได้แก่ 1.1 เงินเบกิ เกนิ บญั ชีและเงนิ กยู้ มื จากธนาคาร เงนิ เบกิ เกนิ บัญชีธนาคาร และเงินกู้ยืมจากธนาคารไม่วา่ โดยวิธใี ดเงนิ กยู้ ืมท่ีมีกาหนดชาระหน้ที แี่ น่นอนให้จดั ประเภท เป็น หมุนเวยี น และระยะยาวตามทก่ี าหนดชาระหนแี้ ม้ว่าเจา้ หนี้จะมสี ทิ ธิทวงถามให้ชาระหน้ี กอ่ นกาหนดการก็ตาม 1.2 เจ้าหนีก้ ารคา้ จานวนเงินทีค่ ้างชาระคา่ สนิ คา้ หรอื บริการทก่ี จิ การมตี ่อบุคคลอน่ื ตามปกตธิ รุ ะของกิจการ 1.3 ต๋วั เงนิ จ่ายสญั ญาที่เปน็ ลายลกั ษณอ์ กั ษรโดยปราศจากเง่ือนไข ทก่ี จิ การไดร้ ับรองใหไ้ ว้ตอ่ บคุ คลอน่ื ว่า กจิ การจะชาระเงนิ จานวนหน่งึ ใหแ้ ก่บุคคลภายในระยะเวลาที่กาหนด ซง่ึ อาจเปน็ ตัว๋ แลกเงนิ หรอื ต๋ัวสญั ญาใชเ้ งนิ 1.4 รายไดร้ ับลว่ งหนา้ หน้ีสินทเี่ กิดจากกิจการรบั เงินไว้ลว่ งหน้าสาหรบั ค่าสินค้าหรือบริการที่ยังมิได้ใหล้ กู คา้ จึงเกิดเปน็ พันธะทก่ี ิจการตอ้ งสง่ มอบสินค้าหรือบริการใหแ้ ก่ลูกค้าตอ่ ไป 1.5 คา่ ใชจ้ า่ ยคา้ งจา่ ย คา่ ใช้จา่ ยทใี่ หป้ ระโยชน์แกก่ จิ การแลว้ แต่กจิ การยังไมไ่ ด้ชาระเงินในวันทางบดุลเช่นคา่ สาธารณูปโภคค้างจ่าย ค่าแรงค้างจา่ ย จานวนใดจะต้องชาระภายในหนึ่งปใี ห้แสดงเปน็ หน้สี นิ หมนุ เวียนเฉพาะจานวนนน้ั 1.6 เงินกยู้ มื ระยะสนั้ ที่กจิ การผูห้ ญิงจับผู้อ่ืนและกาหนดชาระภายในหน่งึ ปี 11

2.หน้ีสนิ ไมห่ มุนเวยี น หน้ีสนิ ไมห่ มนุ เวียนหมายถงึ หน้ีสนิ ทีม่ รี ะยะเวลาการชาระเงินนานกวา่ 1 ปีหรือเกินกวา่ รอบ ระยะเวลาการดาเนนิ งานตามปกติของกจิ การมีสินไมห่ มนุ เวยี นอาจเกดิ จากกูย้ ืมเงนิ มาใช้ในกจิ การ เพื่อซื้อสนิ ทรพั ยท์ ่มี ีราคาสูงการแสดงหนีส้ ิน ไม่หมุนเวียนในงบดลุ จะเปดิ เผยขอ้ มลู เกี่ยวกับภาระ ผกู พนั และข้อตกลงตา่ งๆเชน่ อัตราดอกเบยี้ วนั ครบกาหนดชาระ ลักษณะของภาระผกู พันตวั อยา่ ง หนี้สินไม่หมนุ เวียนไดแ้ ก่ 2.1 เงินกู้ยืมระยะยาว การกเู้ งนิ จากธนาคารหรอื สถาบันการเงินโดยมสี ัญญาการ ชาระเงินนานกวา่ 1 ปกี ารกยู้ ืมระยะยาวน้อี าจมีหลักทรพั ย์คา้ ประกันหรือไม่มกี ไ็ ดใ้ นกรณีทีม่ กี ารนา สนิ ทรพั ยบ์ างอย่างของกจิ การไปจานองเพ่อื เป็นหลกั ประกนั แกผ่ ู้ให้ก้ผู ้ากจิ การไมจ่ า่ ยเงินตามกาหนด ผูใ้ ห้ก้มู สี ทิ ธิบ์ งั คับ เอาสนิ ทรพั ย์ท่จี านองไปขายเอาเงนิ มาชาระหนี้หรอื ยดึ สนิ ทรพั ย์ท่จี านองได้ 2.2 หนุ้ ก้กู ารจดั หาเงินทุนอย่างหน่ึงของกิจการโดยการแบง่ จานวนเงนิ ทตี่ อ้ งการกู้ ออกเปน็ หนุ้ ราคาแตล่ ะหนุ้ เท่ากัน ราคาหุ้นแต่ละหุน้ กิจการเปน็ ผู้กาหนดขึน้ เอง การออกหุ้นกจู้ ะตอ้ ง กาหนดอัตราดอกเบยี้ กาหนดระยะเวลาการจ่ายดอกเบ้ียกาหนดเวลาแนน่ อนในการไถถ่ อนหุ้นคนื กวา่ 1 ปีหุ้นกจู้ ะจาหนา่ ยใหแ้ ก่บุคคลทีส่ นใจจะลงทนุ โดยอาจจาหน่ายในราคาสูงกว่าหรอื ต่ากว่า ราคาที่กาหนดไว้ในใบหุน้ ก็ได้ในระหวา่ งทหี่ นุ้ กย็ งั ไมค่ รบกาหนดไถถ่ อน ผูถ้ ือหุน้ กู้มีฐานะเป็นเจา้ หนี้ ของกจิ การ และกจิ การจะตอ้ งจ่ายดอกเบีย้ ให้ตามท่ีกาหนดไว้ 12

สว่ นของเจ้าของ (Owner’s equity) หมายถงึ ส่วนไดเ้ สียคงเหลือในสินทรัพยข์ องกจิ การ หลงั จากหักหนสี้ นิ ท้ังสินออกแลว้ กรรมสิทธ์ิทเ่ี จ้าของกจิ การมใี นสนิ ทรพั ย์ เรยี กวา่ สินทรพั ยส์ ุทธิ (สินทรัพย์ – หนีส้ นิ ) สว่ นของเจ้าของกิจการแบง่ ได้ 3 ประเภท 1.กจิ การเจา้ ของคนเดยี ว เปน็ กจิ การคา้ ของเจา้ ของคนเดยี วส่วนของเจ้าของกิจการประกอบด้วยผลรวมของเงนิ ทเ่ี จ้าของ นามาลงทุน กบั ผลกาไรทเ่ี กดิ ขึ้นและหกั ดว้ ยสว่ นที่เจา้ ของ ถอนทนุ และผลขาดทุนทีเ่ กิดข้นึ การแสดงผลของ เจ้าของแสดงเปน็ ยอดเดียวดังน้ี สว่ นของเจ้าของ ทนุ ก. XXX 2.หา้ งห้นุ ส่วน เปน็ กจิ การของหา้ งหนุ้ สว่ นสว่ นของเจ้าของเรียกว่าสว่ นของผเู้ ป็นหุ้นสว่ นซึ่งแสดงส่วนทุนของผู้ เป็นหนุ้ สว่ นของแตล่ ะคนและกาไรขาดทุนสว่ นทีย่ งั ไมแ่ บง่ สรร สาหรับส่วนทุนของผเู้ ปน็ หุ้นส่วนแต่ละคนนน้ั ประกอบดว้ ยเงินทุนของผเู้ ป็นหุ้นสว่ นแต่ละคนที่จดทะเบียนและนามาลงทนุ ไว้ ถ้ามกี ารเพ่ิมทุนกน็ ามารวม ดว้ ยเชน่ กนั ในการดาเนินงานของหา้ งซ่ึงอาจจะไดร้ บั ค่าตอบแทนเชน่ เงินเดอื นค่าเบย้ี ประชมุ เปน็ ต้นซึง่ หากผู้ เปน็ หุ้นส่วนยงั ไม่มาเบกิ เงินไปห้างหุ้นส่วนจะนารายการเหลา่ นบ้ี นั ทกึ ไวใ้ นเงินเดินสะพัดของผู้เปน็ หุ้นส่วนแต่ ละคนการแสดงสว่ นของผู้เปน็ หนุ้ ส่วนแสดงดงั นี้ สว่ นของผูถ้ อื หุน้ ทุน ก. XXX ทนุ ข. XXX ทุน ค. XXX XXX กาไรขาดทนุ สะสมทยี่ ังไม่ได้แบง่ XXX รวมสว่ นของผูเ้ ปน็ หนุ้ ส่วน XXX 13

3.บรษิ ัทจากัด เปน็ กจิ การบรษิ ัทจากัด สว่ นของเจา้ ของเรยี กวา่ ส่วนของผถู้ อื หุ้นซ่ึงประกอบดว้ ย ทุนเรือนห้นุ ส่วนเกินมลู คา่ หุ้นและ กาไรสะสมการแสดงสว่ นของผ้ถู ือหนุ้ ในงบดุลแสดงดังนี้ ส่วนของผ้ถู อื หุ้น ทุนเรือนหนุ้ ทนุ จดทะเบยี น XXX ทนุ ท่ีออกและชาระแลว้ XXX สว่ นเกนิ มลู คา่ หุ้น XXX กาไรขาดทุนสะสม จดั สรรแลว้ สารองตามกฎหมาย XX สารองอื่น XX XX ยงั ไมไ่ ดจ้ ดั สรร XX XXX รวมส่วนของผ้ถู อื หนุ้ XXX เน่ืองจากกิจการส่วนใหญจ่ ดั ตัง้ ขึ้นในรูปบริษทั จึงขอกล่าวถึงสว่ นของผถู้ อื หนุ้ เพมิ่ เติมดังนี้ ทุนเรือนห้นุ ทุนจดทะเบียนซงึ่ หมายถงึ พื้นท่จี ดทะเบียนตามกฎหมายเปน็ การแสดงรายละเอยี ดชนิดของหนุ้ ห้นุ สามัญหุน้ บุริมสทิ ธจิ านวนหุน้ มลู ค่าห้นุ ที่จดทะเบยี นแตล่ ะชนดิ รายการ นจ้ี งึ เป็นการใหร้ ายละเอยี ดเท่าน้นั แตไ่ ม่ได้แสดง ถึงฐานะท่ีมีอยู่จรงิ ของบริษัทเพราะบริษทั อาจจะออกขายหุ้นและเรยี กชาระไมค่ รบตามทีจ่ ดทะเบยี นไว้กไ็ ด้ ทนุ ทอ่ี อกและชาระแลว้ หนุ้ และมลู ห้นุ ที่นาออกจาหนา่ ยและเรียกใหช้ าระมูลคา่ หุ้นแล้ว ในงบดุลจะแสดงหุน้ แตล่ ะชนดิ และสทิ ธพิ เิ ศษใดท่มี ี ของหุ้นบรุ ิมสิทธดิ ว้ ย 14

สว่ นเกินมลู คา่ หนุ้ เงินคา่ หุ้นที่ขายหนุ้ ได้สงู กว่ามลู คา่ ท่ตี ราไวท้ ้ังของหุ้นสามญั และหนุ้ บุริมสิทธิ กาไรสะสมกาไรท่ยี ังไม่แบ่งปันและยังสะสมไวใ้ นกจิ การบางครง้ั ถ้ากิจการมีขาดทนุ สะสม สว่ นของผ้ถู ือหุ้นสว่ นนี้จะเป็นค่าตดิ ลบการแสดงกาไรสะสมในงบดุลแบง่ เป็น 2 สว่ นคอื จัดสรรแลว้ คอื สารองตามกฎหมายเงนิ สารองทีจ่ ดั สรรไว้จากกาไรสุทธกิ อ่ นจา่ ยเงนิ ปันผล ตามประมวลกฎหมายแพง่ และพาณิชย์ สารองอน่ื เงนิ สารองท่ีกนั ไวจ้ ากกาไรสุทธิเพอื่ การใดๆตามมติ ทปี่ ระชุมผู้ถือหุ้นการเสนอ ข้อมลู ใหแ้ ยกแสดงเป็นแตล่ ะประเภทเชน่ สารองเพือ่ รกั ษาระดับเงนิ ปันผลสารองเพือ่ การขยายงานกจิ การ สารองเพื่อส่งใชห้ ุ้นกู้ ยังไมไ่ ดจ้ ดั สรรคอื กาไรสะสมและก็มาสุทธขิ องระยะเวลาบัญชปี ัจจุบันซ่ึงคงเหลือหลังการ จัดสรรกาไรสะสมชว่ งนอี้ าจมียอดคงเหลอื เป็นขาดทุนสะสมดังไดก้ ลา่ วแลว้ 15

รายไดห้ มายถงึ จานวนเงินสดลูกหน้หี รือผลตอบแทนทก่ี จิ การไดร้ บั มาจาก ประกอบการโดยปกตขิ อง กิจการกอ่ นหกั ค่าใช้จา่ ยใดๆจากการขายสินคา้ หรอื บรกิ ารให้แก่ลูกค้าซึง่ คานวณไดเ้ ปน็ จานวนเงนิ ทแ่ี น่นอน กบั ลูกคา้ คนอื่นแทนทเี่ กิด จากการ ใหใ้ ช้สนิ ทรพั ย์และรวมถงึ กาไรทไ่ี ด้รบั จากการขายหรอื แลกเปลีย่ น สนิ ทรัพย์ดอกเบยี้ ที่ไดร้ บั จากการใหก้ ู้ยืมเงินปนั ผล รับทไี่ ด้จากการลงทุนซ้อื หนุ้ ในกิจการอน่ื รายไดแ้ บ่งออกเปน็ 2 ชนิดคือ 1.รายได้ตรง รายไดต้ รงหมายถงึ รายได้ทเ่ี กดิ ขึ้นตามวิธที างการคา้ โดยปกตขิ องกจิ การถา้ เปน็ กจิ การซอ้ื ขายสนิ ค้ารายไดโ้ ดยตรงคือรายได้จากการขายซง่ึ เป็นรายได้ท่เี กิดจากการส่งมอบสินค้าสทิ ธิ หรอื บริการ เพื่อแลกเปลย่ี นกบั เงินสด สิทธิเรียกร้องใหช้ าระเงนิ หรือสิง่ อื่นทมี่ ีมลู คา่ คิดเปน็ เงินไดถ้ ้าเป็นกจิ การธนาคาร รายไดโ้ ดยตรงคือรายไดด้ อกเบยี้ ต่าถา้ เปน็ กิจการใหบ้ ริการรายไดโ้ ดยตรงคอื รายได้จากการให้บริการ 2.รายได้อนื่ รายไดอ้ ืน่ หมายถงึ รายไดท้ ี่ไม่ได้เกิดขึ้นตามวถิ ีทางการค้าและประเภทของกิจการเช่น ถ้า เป็นกิจการซอื้ ขายสนิ คา้ รายไดอ้ ื่นอาจหมายถึงกาไรจากการขายสินทรพั ยถ์ าวรดอกเบย้ี รับจากเงินใหก้ ูห้ รือ เงนิ ฝากธนาคารเงินปนั ผลรับจากการลงทนุ ในห้นุ ของกจิ การอืน่ 16

คา่ ใช้จ่าย หมายถงึ ต้นทนุ ของสนิ ค้าหรอื บรกิ ารท่กี ิจการตอ้ งจ่ายไปเพื่อก่อใหเ้ กิดรายได้ ค่าใช้จ่ายเปน็ ประเภทใหญๆ่ ได้ดังน้ี 1. ต้นทนุ ขาย ตน้ ทุนขายหมายถงึ ต้นทนุ ของสินคา้ หรอื บริการที่ขายรวมราคาซอื้ ตน้ ทนุ การผลิตสนิ คา้ และค่าใช้จ่ายอนื่ ๆท่ี จาเปน็ ต้องใช้ เพ่อื ใหส้ นิ คา้ อยู่ในสภาพพร้อมทจี่ ะขายถา้ เปน็ กจิ การให้บริการเรยี กวา่ ต้นทนุ การให้บรกิ าร 2. คา่ ใชจ้ ่ายในการขายและบรหิ าร คา่ ใช้จา่ ยในการขายและการบรหิ าร ในบางครั้งอาจเรยี กรวมกนั ว่าคา่ ใชจ้ ่ายในการดาเนนิ งาน คา่ ใชจ้ า่ ยในการขายหมายถงึ ค่าใชจ้ า่ ยทเ่ี กิดข้นึ อันเน่อื งมาจากการขายสินคา้ ของกิจการ เช่น ค่าโฆษณา เงินเดอื นพนกั งานขาย ค่านายหนา้ ค่าขนส่งเมอ่ื ขาย คา่ ใช้จา่ ยในการบรหิ ารงานหมายถึงค่าใช้จ่ายทวั่ ไปท่เี กิดขึ้นในการบรหิ ารกิจการเปน็ สว่ นรวม เช่น เงินเดอื น พนักงานชัน้ บริหารคา่ เชา่ อาคารทที่ าการ ค่าเส่ือมราคาอุปกรณ์สานกั งานคา่ นา้ คา่ ไฟ 3. ดอกเบ้ียจา่ ย ดอกเบีย้ จา่ ย เป็นคา่ ใช้จ่ายอื่น หมายถงึ บอกแลว้ หรือคะตอบแทนท่คี ิดให้เนอ่ื งจากการใช้ประโยชน์จากเงินหรอื เงนิ ทนุ 4. ภาษเี งนิ ได้ ภาษเี งินได้เปน็ ค่าบรกิ ารรายปีที่เรยี กเก็บจากรายได้ คา่ จา้ ง เงนิ เดือน คา่ คอมมิชชั่น และรายไดร้ ับลว่ งหน้า (เงนิ ปัน ผล ดอกเบ้ยี คา่ เชา่ กาไรจากการซือ้ ขาย) มีภาษีเงนิ ไดพ้ นื้ ฐานสองประเภท ประเภทแรกคอื ภาษีเงนิ ไดบ้ ุคคลธรรมดาที่เรียกเกบ็ จาก รายได้ของบุคคล ครัวเรอื น ห้างหนุ้ สว่ น และเจา้ ของแตเ่ พยี งผเู้ ดียว ประเภททสี่ องคือภาษีเงินได้นิติบคุ คลซง่ึ เรยี กเกบ็ จากกาไรสุทธิ ของบรษิ ัทท่ีจดทะเบยี น 5. ค่าใชจ้ า่ ยอน่ื ๆ คา่ ใชจ้ า่ ยอื่นหมายถึง ค่าใชจ้ ่ายที่มไิ ดเ้ กดิ ขึ้นตามวถิ ีทางการคา้ โดยปกตขิ องกิจการแตเ่ กิดขึ้นจากกจิ กรรมประกอบ ของกจิ การ คา่ ใช้จา่ ยอืน่ น้อี าจจะไมไ่ ด้เกิดขึ้นทกุ งวดบญั ชคี า่ ใชจ้ า่ ยบางชนิดมไิ ด้เกิดขึน้ บ่อยครงั้ ตวั อย่างของค่าใชจ้ า่ ยอื่นเช่น ขาดทนุ จากการขายสินทรัพย์ถาวรขาดทุนจากราคาตลาดของหลักทรพั ยล์ ดลง 17

บทที่ 3 ห ลั ก ก า ร บั น ทึ ก บั ญ ชี

หลักการบนั ทึกรายการทางบญั ชี (Recording transaction) แบ่งเปน็ 2 ระบบ ดังน้ี ระบบบญั ชีเด่ียว (Single - entry bookkeeping or single - entry system) เป็นวธิ ีการบันทกึ บัญชีเพียงดา้ นเดียวเทา่ นนั้ คอื ด้านเดบิตหรือด้านเครดติ ระบบบญั ชเี ดย่ี วน้ีจะบันทึกเฉพาะรายการในบัญชเี งินสด หรือ บัญชีทสี่ าคญั บางบัญชี เช่น บัญชีลูกหนห้ี รอื บัญชีเจา้ หน้เี ท่าน้นั โดยไมไ่ ดใ้ ชก้ ารบนั ทกึ รายการตามระบบ บญั ชคี ่ทู ่ีต้องบันทกึ รายการบัญชีท้ัง ด้านเดบติ และเครดิต การบนั ทึกบญั ชีตามระบบบญั ชเี ด่ียวนี้นยิ มใชใ้ นกิจการ ขนาดเล็กที่เจา้ ของเป็น ผู้ควบคุมและจดบันทึกเอง สาหรับธุรกิจขนาดยอ่ มขึ้นไปไม่ควรนาระบบบญั ชีเด่ยี วมาใช้ เน่ืองจากจะมีปัญหาในการเกบ็ รวบรวมข้อมลู การตรวจสอบความถกู ตอ้ งของขอ้ มูลทางการบญั ชี และการจดั ทา งบการเงิน ระบบบญั ชคี ู่ (Double - entry bookkeeping or double - entry system) เปน็ วิธกี ารทใี่ ช้ ปฏิบตั ใิ นการบันทกึ รายการบัญชีตา่ ง ๆ ประกอบดว้ ยรายการในสมุดรายวนั ทั่วไป รายการในสมุดบัญชีแยก ประเภท ตลอดจนเอกสารหลักฐาน การบนั ทกึ เหลา่ นมี้ รี ะบบการและประเพณปี ฏิบัติต่าง ๆ ซ่งึ อาจใชไ้ ดก้ บั ทัง้ กจิ การขนาดเล็กและขนาดใหญ่ ทัง้ นเ้ี พ่อื วัตถปุ ระสงค์ทจ่ี ะทาให้สามารถเสนอรายงานทางการเงนิ ไดถ้ ูกตอ้ ง ตามท่ี ควรและทนั ตอ่ เหตกุ ารณก์ ารบนั ทึกบญั ชีตามระบบบญั ชีคแู่ ตล่ ะรายการจะ เก่ยี วข้องกบั บญั ชีสองด้าน คือบนั ทึก ด้านเดบิตบญั ชหี นึ่งและบันทึกดา้ นเครดติ ในอกี บญั ชหี น่ึงดว้ ยจานวนเงินที่เทา่ กนั และจะมีผลทาให้เกดิ ดลุ ขนึ้ ใน ตวั เอง และในขณะเดียวกันก็จะทาให้ผลรวมของยอดบัญชีทเ่ี กดิ จากทุกรายการรวมกันแล้ว ไดค้ ่าเปน็ ศูนย์ นัน่ ก็ คอื ผลรวมของยอดดุลเดบิตเท่ากับผลรวมยอดดลุ เครดิต การจดั ทารายละเอยี ดของยอดบัญชีต่าง ๆ ประกอบกัน เป็นยอดรวมทัง้ สน้ิ เรียกว่า \"งบทดลอง “ 19

บทท่ี 4 ก า ร บั น ทึ ก บั ญ ชี ต า ม ร ะ บ บ บั ญ ชี คู่ ข อ ง แ ต่ ล ะ ห ม ว ด บั ญ ชี

การบนั ทึกบัญชีจะใช้หลักระบบบัญชคี ู่ ดังนัน้ รายการคา้ ทกุ รายการต้องบนั ทกึ โดยเดบติ บญั ชีหนึ่ง และเครดิตอกี บญั ชหี นงึ่ ด้วยจานวนเงนิ ท่ีเทา่ กันเสมอ เรียกวา่ บัญชนี น้ั ไดด้ ุลกัน แตใ่ นบางครัง้ รายการคา้ ทเ่ี กิดข้นึ ในเวลาเดยี วกนั มหี ลายบัญชี อาจบัญชี อาจบนั ทกึ บญั ชีโดยเดบติ หรือเครดิตบัญชหี ลายบัญชีรวมกนั ได้ เรยี กวา่ การ รวมรายการ (Compound entry) แต่จานวนเงนิ รวม ของเดบิตและเครดิตจะตอ้ งเทา่ กันเสมอ นอกจากนั้นเม่อื บันทึกรายการคา้ เรียบร้อยแลว้ ยอดคงเหลือของแต่ละบัญชีท่ีมี ยอดดุล เดบติ เมือ่ นามารวมกันจะเท่ากับยอดคงเหลือของแตล่ ะบญั ชที ม่ี ยี อดดุลเครดิต ซงึ่ เป็นไปตามหลกั สมการบัญชที ว่ี า่ สนิ ทรพั ย์ เท่ากบั หนี้สิน และทุนรวมกนั หลักการบนั ทกึ บญั ชตี ามระบบบญั ชีคู่ การบันทกึ บัญชตี ามระบบบัญชคี ูข่ องแต่ละหมวดบัญชี มีหลกั ดังน้ี 1. หมวดบญั ชีสินทรพั ย์ รายการคา้ ใดท่วี เิ คราะหแ์ ล้วมผี ลทาให้สนิ ทรพั ย์เพ่ิมข้นึ จะบนั ทกึ ไว้ทางดา้ นเดบติ ส่วน รายการค้าใดท่วี ิเคราะห์แลว้ มผี ลทาให้สินทรัพย์ลดลงจะบนั ทึกไว้ทางดา้ น เครดติ 2. หมวดบญั ชีหน้สี นิ รายการคา้ ใดทว่ี ิเคราะหแ์ ล้วมผี ลทาให้หนส้ี นิ เพ่ิมข้นึ จะบนั ทึกไว้ทางด้านเครดติ ส่วน รายการค้าใดทว่ี เิ คราะห์แล้วมผี ลทาให้หนสี้ ินลดลงจะบนั ทกึ ไว้ทางดา้ นเดบิต 3. หมวดบัญชที นุ หรือส่วนของเจ้าของ รายการค้าใดท่ีวเิ คราะหแ์ ล้วมผี ลทาใหท้ นุ เพ่มิ ขึ้นจะบนั ทึกบญั ชีไว้ ทางด้านเครดิต สว่ นรายการค้าใดท่วี ิเคราะหแ์ ล้วมผี ลทาใหท้ นุ ลดลงจะบนั ทกึ ไว้ทางด้าน เดบติ 4. หมวดบญั ชรี ายได้ จากการวเิ คราะหส์ มการบญั ชี ถา้ บัญชรี ายได้เพิ่มข้นึ มีผลทาใหบ้ ัญชีทุนเพม่ิ ดังนั้น การ วิเคราะห์ยึดตามหลกั หมวดบัญชีทุน กลา่ วคอื ถา้ รายไดเ้ พ่ิมข้นึ จะบันทึกบัญชีดา้ นเครดิต ถา้ รายได้ลดลงจะบันทึกบัญชที างด้าน เดบติ 5. หมวดบัญชีค่าใชจ้ า่ ย จากการวเิ คราะห์สมการบญั ชี ถา้ บญั ชีคา่ ใช้จ่ายเพิ่มขนึ้ มีผลทาให้บัญชที นุ ลดลงดังน้ัน หลกั การวเิ คราะห์ ยึดตามหลักหมวดบัญชที นุ เช่นกนั กล่าวคือ ถ้าค่าใชจ้ ่ายเพิม่ ขนึ้ จะบนั ทกึ ทางด้านเดบิตถา้ คา่ ใช้จา่ ยลดลงจะ บันทึกทาง ด้านเครดิต 21

บรรณานกุ รม “ความหมายของการบญั ชี,” https://wanwisalailon.blogspot.com/2007/03/blog-post.html (สบื ค้นข้อมูลวนั ท่ี 7 มถิ นุ ายน 2562) นิตย์รดี สขุ ปานประดษิ ฐ์. “ความร้ทู ่ัวไปเกี่ยวกบั การบญั ชี,” การบญั ชีเบอ้ื งตน้ 1. กรุงเทพฯ: ศูนย์ส่งเสริมวชิ าการ, 2556. หนา้ 2 – 6 นิพันธ์ เหน็ โชคชยั ชนะ และศิลปะพร ศรจี ันเพชร. “ทฤษฏีการบัญชี,” http://www.elfms.ssru.ac.th/http://www.elfms.ssru.ac.th/apinya_wi/file.php/ 1/acc/accounting_theory222.pdf (สบื ค้นขอ้ มลู วันท่ี 12 มิถุนายน 2562) วฒั นา ศวิ ะเก้ือ. “ความหมายและรปู แบบของข้อมูลทางการบญั ชี,” การบัญชขี ้ันตน้ . กรงุ เทพฯ: จฬุ าลงกรณืมหาวทิ ยาลยั , ม.ป.ป. หน้า 19 – 27

ค ณ ะ ผู้ จั ด ทำ 1 . น ำ ง ส ำ ว สุ กั ญ ญ ำ นุ่ ม ฤ ท ธ์ ก บ . 2 . 2 เ ล ข ท่ี 2 4 ก บ . 2 . 2 เ ล ข ท่ี 2 7 2 . น ำ ง ส ำ ว เ ส ำ ว ลั ก ษ ณ์ เ ขี ย ว ส ลั บ


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook