442836_บรรยาย ความรับผิดทางละเมิด (ฉบับส่งให้กรม จริง)

การดาเนินการกรณีผูเ้ สียหาย (บุคคลภายนอก)ฟ้ องคดีตอ่ ศาล ➢ เรยี กเจา้ หนา้ ท่ี กรณีไม่ได้ กรณีปฏิบตั ิ ➢ อยั การแถลงศาล เขา้ มาเป็ นค่คู วาม ปฏิบตั หิ นา้ ที่ หนา้ ที่ ใหก้ นั เจา้ หนา้ ทอ่ี อกมา ถา้ ผลคดที างราชการแพ้ -ไลเ่ บ้ ียเจา้ หนา้ ท่ตี ามเกณฑห์ มวด 1 (จงใจ-ประมาทเลินเลอ่ อยา่ งรา้ ยแรง)

เกิดความเสยี หาย รายงานผ้บู งั คบั บญั ชา แตง่ ตงั้ กก.สอบข้อเทจ็ จริง แตง่ ตงั้ กก.สอบละเมิด เบอื ้ งต้น สง่ สานวนให้ ผ้แู ตง่ ตงั้ วนิ จิ ฉยั สง่ั การ กก.ละเมิดรายงานผลการ ผ้แู ตง่ ตงั้ ไมม่ สี ว่ นได้เสยี กระทรวงการคลงั สอบสวน กก. จานวนไมเ่ กิน 5 คน ไมแ่ ตง่ ตงั้ ผ้มู สี ว่ นได้เสยี เป็ นกรรมการ มีผ้ตู ้องรับผดิ หรือไม่ จานวนเท่าใด แตง่ ตงั้ กก.ร่วม ต้องลงนามร่วมกนั ลงลายมือชื่อ วนั เดอื น ปี ท้ายรายงาน กระทรวงการคลงั แจ้งผล ออกคาสง่ั ยดึ /อายดั ทรัพย์ภายใน 10 การพจิ ารณา ปี คณะกรรมการพจิ ารณาความรับผิดทางแพง่ ▪ ออกคาสง่ั หลงั สง่ สานวนให้ กค. (ข้อ 17) ตรวจสอบพยานหลกั ฐานทเ่ี กี่ยวข้อง ▪ ออกเม่อื กค.แจ้งผลแล้ว (ข้อ 18) ให้บคุ คลมาชีแ้ จงเพิม่ เตมิ ให้รับฟังพยานหลกั ฐานเพม่ิ เตมิ 52

ตารางแสดงข้นั ตอนดาเนินการตามพระราชบัญญัตคิ วามรับผดิ ทางละเมดิ ของเจ้าหน้าที่ พ.ศ. ๒๕๓๙ และระเบียบสานักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยหลกั เกณฑ์การปฏบิ ตั เิ กย่ี วกบั ความรับผดิ ทางละเมดิ ของเจ้าหน้าท่ี พ.ศ. ๒๕๓๙ ๑. เกดิ ความเสียหาย รายงาน หวั หน้าหน่วยงานของรัฐ(แต่งต้งั คณะ กรณีเห็นว่า ความเสียหายมไิ ด้เกดิ จากการกระทาของเจ้าหน้าท่ี ต้องรายงานผ้บู ังคบั บญั ชาเพอ่ื กรรมการสอบข้อเทจ็ จริงเบือ้ งต้น) พจิ ารณาว่าสมควรต้งั คณะกรรมการสอบข้อเทจ็ จริงความรับผดิ ทางละเมดิ หรือไม่ (ข้อ ๑๒) กรณีเห็นว่า ความเสียหายเกดิ จากการกระทาของเจ้าหน้าที่ กใ็ ห้ต้งั คณะกรรมการสอบข้อเทจ็ จริงความรับผดิ ทางละเมดิ คณะกรรมการสอบข้อเทจ็ จริงความรับผดิ ทางละเมดิ ไม่ได้ปฏิบตั หิ น้าที่ รับผดิ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ รับผดิ ตาม พ.ร.บ.ความรับผดิ ทางละเมดิ ฯ ปฏิบตั หิ น้าที่ จงใจหรือประมาทเลนิ เล่ออย่างร้ายแรง ไม่ต้องรับผดิ ๒. (รวบรวมพยานหลกั ฐาน+ให้โอกาสผู้เกยี่ วข้องชีแ้ จง) ประมาทเลนิ เล่อ ๓. ผ้แู ต่งต้งั วนิ ิจฉัยส่ังการ มผี ้รู ับผดิ หรือไม่ ส่งสานวนการสอบสวนให้กระทรวงการคลงั ภายใน ๗ วนั นบั แต่วนั วนิ จิ ฉัยส่ังการ จานวนเท่าใด ส่วนราชการต้องพจิ ารณาให้แล้วเสร็จก่อนอายคุ วาม ๒ ปี สิ้นสุดลงไม่น้อยกว่า ๖ เดอื น ส่วนท้องถิ่นและรัฐวสิ าหกจิ ต้องพจิ ารณาให้แล้วเสร็จก่อนอายุความ ๒ ปี สิ้นสุดลงไม่น้อยกว่า ๑ ปี ๔. กระทรวงการคลงั คณะกรรมการพจิ ารณาความรับผดิ ทางแพ่ง ๕. กระทรวงการคลงั คณะกรรมการพจิ ารณาความรับผดิ ทางแพ่ง หน่วยงานของรัฐมคี าสั่งตามความเหน็ ของกระทรวงการคลงั ๖. หน่วยงานของรัฐ ผู้ต้องรับผดิ กรณปี ฏบิ ตั หิ น้าที่ ออกคาสั่งทางปกครองพร้อมแจ้งสิทธิฟ้ องคด+ี อายุความฟ้ องคดี ผู้ต้องรับผดิ ไม่พอใจคาสั่ง ให้ฟ้ องศาลปกครอง กรณีไม่ใช่ปฏิบัตหิ น้าที่ ฟ้ องคดตี ่อศาล ภายในอายคุ วาม ๒ ปี 53

อำยุควำม ๑ ปี • นบั แตว่ นั ที่จา่ ยเงิน ๒ ปี (อายคุ วามการใชส้ ิทธิไล่เบ้ ีย) ๑ ปี ๑ ปี • นบั แตว่ นั ที่รูถ้ ึงการละเมิดและรูต้ วั ๑๐ ปี เจา้ หนา้ ที่ (รูเ้ หตแุ ละรูต้ วั ) • กรณีหน่วยงานเหน็ ว่าเจา้ หนา้ ท่ีไม่ตอ้ งรบั ผิด แต่ กระทรวงการคลงั เห็นว่าตอ้ งรบั ผิด นับแตว่ นั ไดร้ ับแจง้ ความเห็น กค. (อ.385/2558) • นบั แตร่ ูถ้ ึงการตายของเจา้ มรดก • นบั แตว่ นั เกิดเหตุ

ข้อพงึ ระวงั เร่ืองอำยุควำมสำหรับคณะกรรมกำร ๑ ปี • นับแต่วนั ที่จา่ ยเงิน ๒ ปี (อายคุ วามการใช้สิทธิไล่เบีย้ ) ๑๐ ปี • นับแต่วนั ท่ีร้ถู ึงการละเมิดและ ร้ตู วั เจ้าหน้าที่ (ร้เู หตแุ ละร้ตู วั ) • นับแต่วนั เกิดเหตุ

ประเภทสานวนการสอบสวน ทุจริต ทางการเงิน หรือ ทรพั ยส์ ิน อบุ ตั เิ หตุ ไม่ปฏิบตั ิ ตาม 5 ประเภท กฎหมาย หรือระเบียบ อาคาร โจรกรรม สถานทถ่ี ูก หรือ เพลิงไหม้ ทรพั ยส์ ิน สูญหาย

การเงินการคลงั 57

การกระทาผิดทีพ่ บบ่อย : ดา้ นการเงินการคลงั 123 ด้ำน ด้ำน ด้ำน รำยรับ รำยจ่ำย กำรเกบ็ รักษำเงนิ 58

วิธีการทจุ รติ ที่พบบ่อย : ดา้ นรายรบั • รับเงนิ แล้วไม่ออกใบเสร็จรับเงนิ • แสดงตนว่ำมีหน้ำท่รี ับเงนิ รำยได้แล้วยักยอกเงนิ ไปใช้ส่วนตน • ออกไปรับเงนิ นอกสถำนท่แี ล้วยักยอกเงนิ ไปใช้ • ใช้สำเนำใบเสร็จรับเงนิ ปลอมในกำรรับเงนิ โดยพมิ พ์ปลอมขึน้ เอง ทงั้ ฉบบั • ใช้ใบเสร็จจริงของปี งบประมำณเก่ำท่เี กบ็ ไว้ไม่ส่งคนื • ใช้ใบเสร็จท่จี ดั ซอื้ จริงแต่ยกั ยอกบำงส่วนไว้ไม่ลงทะเบียนคุม ทงั้ หมด • แก้ไขจำนวนเงนิ ในใบเสร็จรับเงนิ ให้มีจำนวนเงนิ ต่ำกว่ำจำนวนเงนิ ท่รี ับจริง 59

วิธีการทจุ รติ ท่ีพบบ่อย : ดา้ นรายจ่าย • จัดทำคำขอเบกิ เงนิ หลักฐำนกำรเบกิ จ่ำย และเชค็ โดยไม่มหี นี้ ท่ตี ้องจ่ำยจริง • ลงนำมส่ังจ่ำยเช็คเกนิ กว่ำจำนวนท่ตี ้องจ่ำยจริง • แก้ไขปลอมแปลงลำยมือช่ือผู้ส่ังจ่ำย • จดั ทำหลักฐำนกำรเบกิ จ่ำยเทจ็ เช่น - หลักฐำนกำรจ้ำงลูกจ้ำงช่ัวครำวโดยมไิ ด้มกี ำรจ้ำงจริง - หลักฐำนกำรจดั ฝึ กอบรมโดยไม่มกี ำรฝึ กอบรมจริง • เบกิ จ่ำยเงนิ แล้วไม่นำเงนิ ไปจ่ำยให้แก่เจ้ำหนี้ เช่น ค่ำไฟฟ้ ำ ค่ำนำ้ มัน 60

วิธีการทจุ รติ ที่พบบ่อย : ดา้ นรายจ่าย • ทุจริตในระบบ GFMIS เช่น 61 - ใช้รหสั ของผู้มีอำนำจอนุมัตแิ ก้ไขเปล่ียนแปลงจำนวนเงนิ ท่ี เบกิ จ่ำย - แก้ไขเปล่ียนแปลงเลขท่บี ญั ชีของเจ้ำหนีใ้ ห้เป็ นบัญชขี องตน - สร้ำงหลักฐำนประกอบกำรจดั ซอื้ จัดจ้ำง (PO) เป็ นเทจ็ - ทำรำยงำนถูกต้องครบถ้วน แต่ไม่โอนเงนิ เข้ำบญั ชีผู้มีสิทธิ กลับโอนเงนิ เข้ำบัญชีตนเอง แล้วนำเงนิ ท่เี บกิ รำยกำรใหม่ หมุนเวียนชดใช้รำยกำรเดมิ ท่ที จุ ริตไป

วิธีการทจุ รติ ที่พบบ่อย : ดา้ นการเก็บรกั ษาเงิน • ไมจ่ ดั ทารายงานเงินคงเหลอื ประจาวนั • คณะกรรมการเก็บรกั ษาเงินไม่ไดป้ ฏบิ ตั ิหนา้ ที่ เช่น - ไม่ลงนามในรายงานเงินคงเหลือประจาวนั - ไมไ่ ดต้ รวจสอบตวั เงินกบั หลกั ฐานแทนตวั เงินให้ ถกู ตอ้ งตรงกนั - ไมน่ าเงินเขา้ เกบ็ ในตนู้ ิรภยั 62

ควบคุมกำรรับเงนิ อย่ำงไรไม่ต้องรับผิด • กำกับดแู ลให้ผู้ใต้บงั คบั บญั ชำให้ควบคุมกำรใช้ และเกบ็ รักษำใบเสร็จรับเงนิ จดั ทำทะเบยี นคุม รับเงนิ โดยเคร่งครัด ในฐานะผู้บงั คบั บญั ชาผู้ผ่านงานและ • ให้ควำมสำคัญกบั กำรตรวจสอบใบเสร็จรับเงนิ ท่ี ผู้อนุมตั ิ มีกำรยกเลิกเพ่อื มใิ ห้นำกลับมำใช้ซำ้ หรือใช้ ใบเสร็จของปี งบประมำณท่ผี ่ำนมำ • ควรมีระเบียบและมำตรกำรเพ่อื ควบคุม ตรวจสอบกำรออกไปรับเงนิ นอกสถำนท่ี 63

ควบคุมกำรเบกิ จ่ำยเงนิ อย่ำงไรไม่ต้องรับผิด • ตรวจสอบมูลหนี้ หลักฐำนประกอบกำรเบกิ จ่ำย และผู้มีสิทธิรับเงนิ ให้ถกู ต้องก่อนลงนำมส่ังจ่ำย เช็คทกุ ครัง้ • ห้ำมลงลำยมือช่ือส่ังจ่ำยเช็คไว้ล่วงหน้ำโดยยงั มไิ ด้มกี ำรเขียนหรือพมิ พ์ช่ือผู้รับเงนิ วนั ท่อี อก เช็คและจำนวนเงนิ ท่สี ่ังจ่ำย ในฐานะผู้บงั คบั บญั ชาผู้ผ่านงานและ • ใช้ควำมระมดั ระวังในกำรลงนำมในเช็ค เช่น ต้อง ผู้อนุมตั ิ ระบุช่ือเจ้ำหนีพ้ ร้อมขีดเส้นหลังช่ือเจ้ำหน้ำท่ี ไม่ให้มชี ่องว่ำง ขีดฆ่ำ “หรือผู้ถอื ” ออก เขียน จำนวนเงนิ และตัวเลขให้ชดิ คำว่ำ “บำท” ขีดเส้น กนั้ หน้ำกนั้ หลังจำนวนเงนิ ทงั้ ตัวเลขและตวั อักษร มิให้มชี ่องว่ำงเตมิ จำนวนเงนิ ได้ 64

เกบ็ รักษารหัสอนุมัตเิ ปน็ ความลบั และปฏิบตั ิตามระเบียบอยา่ งเครง่ ครัด ตรวจสอบรายงานสรปุ การเบกิ จ่ายเงนิ ในระบบ GFMIS อย่างเคร่งครัด

คำถำม ทา่ นจะลงนามในเช็ค ฉบบั ใด A B 66

เฉลย ขีดฆ่ำ “หรือผู้ถอื ” ออก ระบชุ ่ือเจ้ำหนีพ้ ร้อมขีดเส้นหลัง ช่ือเจ้ำหนีไ้ ม่ให้มีช่องว่ำง B เขียนจำนวนเงนิ ให้ชดิ คำว่ำ “บำท” ขีดเส้นกนั้ หน้ำกนั้ หลังจำนวนเงนิ ทงั้ ตวั เลขและตวั อกั ษรมใิ ห้มีช่องว่ำงเตมิ จำนวนเงนิ ได้ 67

ความรบั ผดิ 68

ตัวอย่ำงกำรกระทำท่ศี ำลปกครองถอื เป็ นกำรกระทำ โดยประมำทเลินเล่ ออย่ ำงร้ ำยแรง ลงลำยมอื ช่ือในเชค็ ท่มี ีควำมบกพร่อง เช่น - มีช่องว่ำงด้ำนหน้ำตัวเลขและตวั อักษร - ไม่ขีดค่ันหน้ำหลัง - ไม่ขีดคำว่ำ หรือผู้ถอื ออก - ไม่ขีดคร่อมเชค็ ตรวจสอบเฉพำะยอดรวมของรำยได้ ไม่ตรวจสอบรำยละเอยี ด ของรำยได้แต่ละประเภท 69

เหตุผลท่ศี ำลปกครองเหน็ ว่ำผู้บงั คับบญั ชำต้องรับผดิ ❑ มไิ ด้ควบคุมตรวจสอบกำรปฏบิ ตั งิ ำน เช่น กำรเกบ็ รักษำสมุดเชค็ สมุดเงนิ ฝำกธนำคำร ใบสำคัญเก่ียวกับกำรเบกิ จ่ำย ❑ ไม่ตรวจสอบจำนวนเงนิ ท่เี บกิ จำกธนำคำรเทียบกับยอดเงนิ ท่เี บกิ ตำมฎีกำ ❑ ไม่ควบคุม กำกับ ดูแล ให้มีกำรจัดทำบัญชีให้เป็ นปัจจุบัน ❑ ไม่ควบคุม กำกับ ดูแล กำรปฏบิ ตั งิ ำนของคณะกรรมกำรรับ ส่ง เงนิ ให้ ปฏบิ ตั หิ น้ำท่ี ❑ ไม่ควบคุมให้เจ้ำหน้ำท่จี ัดทำเชค็ ให้ถกู ต้อง ❑ ผู้บงั คับบญั ชำมีหน้ำท่คี วบคุม ดแู ล กำรปฏบิ ตั งิ ำนของผู้ใต้บงั คับบัญชำให้ ปฏบิ ตั หิ น้ำท่ีรำชกำรด้วยควำมถูกต้อง เป็ นไปตำมระเบยี บและคำส่ังของทำง รำชกำร แต่มไิ ด้กระทำโดยเคร่งครัด 70

ขอ้ อา้ งที่ไมท่ าใหพ้ น้ ผิด ฎกี ำท่ี • ไม่ใช่ผู้ทุจริตหรือเก่ียวข้องกับกำร 362/2538 ทุจริต ฎกี ำท่ี • ทำตำมแบบอย่ำง (ไม่เป็ นไปตำม 271/2506 กฎหมำย) ท่เี คยทำต่อๆกันมำ 71

ขอ้ อา้ งท่ีไม่ทาใหพ้ น้ ผิด ฎีกำท่ี 65/2539 • ผู้ใต้บังคบั บัญชำไม่ให้ควำม ร่ วมมือในกำรตรวจสอบ ฎีกำท่ี 1436/2531 • ได้มอบหมำยหน้ำท่ใี ห้ ผู้ใต้บงั คบั บัญชำดแู ลแล้ว เร่ืองเสร็จท่ี • ปัจจุบันโอน ย้ำย เกษียณรำชกำร 420/2551 แม้กระท่งั ตำย 72

ตัวอย่างการกระทาทถ่ี ือเปน็ การกระทาโดยประมาทเลินเล่อ อย่างรา้ ยแรง (ศาลปกครองเห็นพ้องกบั กรมบัญชกี ลาง) 1. ลงลายมือชอื่ ในเชค็ ทม่ี คี วามบกพร่อง เช่น - มชี อ่ งว่างด้านหนา้ ตัวเลขและตัวอกั ษร - ไมข่ ีดค่นั หน้าหลัง - ไม่ขีดคาว่า หรอื ผถู้ ือ ออก - ไม่ขีดครอ่ มเช็ค

ตัวอย่างการกระทาท่ีถือเปน็ การกระทาโดยประมาทเลินเลอ่ อย่างร้ายแรง(ศาลปกครองเห็นพอ้ งกบั กรมบญั ชีกลาง) (ตอ่ ) 2. ตรวจสอบเฉพาะยอดรวมของรายได้ ไมต่ รวจสอบรายละเอยี ด ของรายได้แตล่ ะประเภท 3. ขออนญุ าตนารถยนตข์ องทางราชการไปจอดท่ีบา้ นพกั แลว้ รถเกิดการสูญหายหรือเสยี หาย 4. คณะกรรมการกาหนดราคากลางไมจ่ ัดทาราคากลาง ใหเ้ ป็นไปตามระเบียบและหนังสอื สัง่ การของ ทางราชการ

ตัวอย่างเหตผุ ลที่ต้องรับผิด กรณีผู้บังคับบัญชา ผู้บังคับบัญชามีหน้าที่ควบคุม ดูแล การปฏิบัติงานของ ผู้ใต้บังคับบัญชาให้ปฏิบัติหน้าท่ีราชการด้วยความถูกต้อง เป็นไปตามระเบียบและ คาสัง่ ของทางราชการ แต่มไิ ดก้ ระทาโดยเคร่งครัด เช่น - มิได้ควบคมุ ตรวจสอบการปฏิบัตงิ าน เชน่ การเกบ็ รักษาสมุดเชค็ สมุดเงิน ฝากธนาคาร ใบสาคญั เก่ยี วกับการเบกิ จา่ ย - ไมต่ รวจสอบจานวนเงนิ ท่เี บิกจากธนาคารเทยี บกบั ยอดเงินท่ีเบิกตามฎกี า - ไม่ควบคมุ กากับ ดูแล ใหม้ กี ารจัดทาบญั ชีใหเ้ ป็นปัจจบุ นั - ไม่ควบคุม กากับ ดแู ล การปฏบิ ัติงานของคณะกรรมการรบั ส่ง เงิน ให้ปฏบิ ัติหนา้ ท่ี - ไมค่ วบคมุ ใหเ้ จ้าหน้าที่จัดทาเช็คให้ถูกต้อง

ข้อกล่าวอ้างไม่ต้องรบั ผิดของผู้บงั คบั บญั ชา 1. เตือนแลว้ 2. ตรวจสอบพบการกระทาผิด 3. ติดตามเงนิ คืนมาได้ส่วนหนึง่ 4. ได้ดาเนินการทางวนิ ัย ดาเนินคดที ้งั ทางแพง่ และ ทางอาญา ศาลเหน็ ว่า เป็นการปฏิบัติตามหน้าทตี่ ามท่ีกฎหมายกาหนดใหต้ ้องปฏบิ ัติ ตามวิสัยของหวั หน้าหน่วยงานทมี่ ผี ูใ้ ต้บงั คบั บญั ชาทุจรติ และไมม่ ี บทบัญญัติในพระราชบัญญัติความรับผิดทางละเมิดของเจา้ หน้าทย่ี กเวน้ ความรับผิดในกรณีดังกลา่ ว



1. ขอ้ เท็จจรงิ ทวั ่ ไป และรายละเอียดของ ทรพั ยส์ นิ ทสี่ ูญหาย ก. วนั เวลาท่ีเกิดเหตุ ข. เป็ นทรพั ยช์ นิดใด ตง้ั หรอื เก็บรกั ษา ณ ท่ีใด บริเวณท่ีตง้ั ทรพั ย์ หรือสถานที่ เก็บรกั ษาทรพั ยน์ ้นั มีทรพั ยส์ ินอ่ืนท่ีไม่ไดถ้ ูกลกั ไปอยดู่ ว้ ยหรือไม่ ถา้ มี อะไรบา้ ง (อธิบายโดยละเอียดหรือแยกเป็ นรายการ) ค. รายการและมูลคา่ ของทรพั ยส์ ินท่ีหายท้งั ก่อน และหลงั คานวณค่าเสื่อมราคา

2. อาคารและสถานท่ีท่เี ก็บทรพั ย์ ก. ลกั ษณะของอาคาร ทางเขา้ ทางออก รอ่ งรอยที่คนรา้ ยเขา้ และออก มีร้วั รอบขอบชิดหรอื ไม่ อยา่ งไร แผนผงั บรเิ วณอาคาร หรอื สถานที่ เก็บรกั ษาทรพั ยท์ ส่ี ูญหาย ข. พฤตกิ ารณท์ ี่คนรา้ ยเขา้ ไปในอาคารและทาการลกั ทรพั ยอ์ ยา่ งไร (ถา้ ไม่มีหลกั ฐานแน่นอนก็ควรสนั นิษฐาน)

2. อาคารและสถานทท่ี เี่ ก็บทรพั ย์ (ตอ่ ) ค. สถานท่ีเก็บทรพั ย์ เป็ นอะไร เช่น - ตเู้ หล็ก ตไู้ ม้ ฯลฯ และมีลกั ษณะอยา่ งไร มีล้ นิ ชกั หรอื มีของอ่ืน เก็บรวมอยดู่ ว้ ยหรอื ไม่ ถา้ มี มีอะไรบา้ ง ความมนั ่ คงแข็งแรงของ ที่เก็บทรพั ยน์ ้นั เช่น เป็ นตเู้ หล็ก มีกุญแจ ฯลฯ และ - ตง้ั อยูใ่ นบรเิ วณสว่ นใดของอาคาร

2. อาคารและสถานท่ีทเ่ี ก็บทรพั ย์ (ตอ่ ) ง. มีของอื่นท่ีไม่หายเก็บรวมอยใู่ นท่ีเก็บทรพั ยน์ ้นั หรอื ไม่ จ. กุญแจอาคาร กุญแจสถานทีเ่ ก็บทรพั ย์ เก็บรกั ษาไวท้ ่ีใด ผใู้ ดเป็ นผรู้ บั ผิดชอบหรือเก็บรกั ษา และสูญหายหรือ เสียหายไปในขณะเกิดเหตหุ รอื ไม่

3. ระเบยี บ คาสงั ่ และมาตรการในการ ป้ องกนั รกั ษาทรพั ย์ ก. ระเบียบ ขอ้ บงั คบั และคาสงั ่ ทีเ่ ก่ียวกบั การป้ องกนั ดูแลรกั ษาทรพั ย์ กาหนดไวอ้ ยา่ งไร ข. มีการจดั เวรยามหรือไม่ ถา้ มี จดั ไวอ้ ยา่ งไร ค. ใครมีหนา้ ทีอ่ ยูเ่ วรยามและตรวจเวรในระหว่างทรพั ยส์ ินหาย หรอื สนั นิษฐานว่าเป็ นผมู้ ีหนา้ ทีเ่ วรยามในระหว่างทรพั ยส์ ินหาย ใหร้ ะบุ ช่ือ ตาแหน่ง และการปฏิบตั หิ นา้ ท่ขี องเวรยามเหลา่ น้นั

3. ระเบียบ คาสงั ่ และมาตรการในการ ป้ องกนั รกั ษาทรพั ย์ (ตอ่ ) ง. เจา้ หนา้ ทเี่ วรยาม และผตู้ รวจเวร ไดป้ ฏิบตั อิ ยา่ งไร หรอื ละเลยตอ่ หนา้ ที่อยา่ งไร จ. นอกจากเวรยามแลว้ ยงั มีมาตรการอ่ืนทีใ่ ชส้ าหรบั ป้ องกนั อนั ตราย ของทรพั ยส์ นิ ดว้ ยหรอื ไม่ ฉ. บนั ทกึ การตรวจเวรยามในชว่ งเวลาท่เี กิดเหตุ

4. บนั ทกึ การใหป้ ากคาของผเู้ กี่ยวขอ้ งและ โดยเฉพาะผทู้ ่ีจะตอ้ งรบั ผิด หรืออาจจะตอ้ งรบั ผิด - ตอ้ งใหบ้ ุคคลดงั กล่าวไดม้ ีโอกาสท่ีจะทราบขอ้ เท็จจริงอยา่ ง ท้งั น้ ี เพียงพอและเป็ นธรรม - และใหม้ ีโอกาสโตแ้ ยง้ และแสดงพยานหลกั ฐานของตนดว้ ย โดยตอ้ งมิไดก้ ระทาการใดอนั เป็ นการล่อลวง ขู่เข็ญ ใหส้ ญั ญา หรอื กระทาโดยมิชอบดว้ ยประการอ่ืน

5. กรณีช่วงระยะเวลาที่เกิดความเสียหาย - มีผรู้ บั ผิดชอบและเกี่ยวขอ้ งหลายคน ซ่ึงมีการเปลีย่ นแปลงตาแหน่งผรู้ บั ผิดชอบ หรือท่ีเก่ียวขอ้ ง และหรอื - มีการโยกยา้ ยใหร้ ะบุรายละเอียดช่วงเวลาที่แตล่ ะคนตอ้ งรบั ผิดชอบ และจานวน ความเสียหายซ่ึงเกิดในช่วงระยะเวลาดงั กลา่ ว พรอ้ มแผนภมู ิประกอบ 6. ขอ้ มูลรายละเอียดอื่น ๆ



1. ขอ้ เท็จจริงทวั ่ ไป ก. วนั เวลาท่เี กิดเพลิงไหม้ ข. ตวั อาคารที่เกิดเพลงิ ไหม้ และลกั ษณะของอาคาร เชน่ คอนกรีตเสรมิ เหลก็ ฯลฯ ค. มูลค่าและรายการทรพั ยส์ ินที่ถูกเพลงิ ไหม้ แยกจาก ตวั อาคารท่ีตอ้ งซ่อมแซม

2. การตรวจสอบสาเหตุ ก. วตั ถุพยานและรอ่ งรอยทเี่ หลือจากเพลงิ ไหมเ้ พือ่ นามาสนั นิษฐานว่า เกิดจากสาเหตใุ ด (ถา้ เป็ นเพลิงไหมจ้ ากทีอ่ น่ื ที่เห็นชดั แจง้ แลว้ ลกุ ลามมาอาจจะไม่ตอ้ งสอบปัญหาน้ ีก็ได)้ ข. ประจกั ษพ์ ยานที่เห็นเหตกุ ารณ์ เพลงิ ไหมก้ ่อนจะมีลกั ษณะรุนแรง (ถา้ มี) ทีจ่ ะช้ ีแจงว่าตน้ เพลิงอยตู่ าแหน่งใด

3. มาตรการในการป้ องกนั เพลงิ ก. มีการจดั เจา้ หนา้ ทีเ่ วรรกั ษาการและดแู ลสถานทห่ี รือไม่ อยา่ งไร ข. ระเบียบหรอื คาสงั ่ ที่เก่ียวกบั การจดั เจา้ หนา้ ทีร่ กั ษาการดงั กลา่ ว ใครเป็ นผวู้ างระเบียบหรอื ออกคาสงั ่ ค. ไดม้ ีการปฏิบตั หิ นา้ ท่ีเวรรกั ษาการอยา่ งไร หรือไม่ ในระหว่างเวลา เกิดเพลิงไหม้

4. บุคคลทเ่ี กี่ยวขอ้ ง ที่เขา้ ทางานหรอื ปฏิบตั หิ นา้ ท่ี เป็ นประจา หรอื อยอู่ าศยั ในอาคารหลงั น้นั - สอบพฤตกิ ารณ์ รายละเอยี ดในการทางานหรอื ปฏิบตั หิ นา้ ท่ี หรอื อยใู่ นอาคารหลงั น้นั คร้งั สุดทา้ ยก่อนเพลงิ ไหม้ 5. การรอ้ งทุกข์ และการสอบสวนของพนกั งานสอบสวน และ ความเห็นของเจา้ หนา้ ท่ีกองพิสูจนห์ ลกั ฐาน หรอื วิทยาการ ตลอดจนความเห็นของพนกั งานอยั การ

6. ขอ้ สนั นิษฐาน หรอื ขอ้ พิสูจนส์ าเหตุ ที่เกิดเพลิงไหม้ ก. ไฟฟ้ าช็อต มีผใู้ ดกระทาโดยประมาทหรอื ไม่ อยา่ งไร ข. เป็ นการลอบวางเพลิงหรอื ไม่ รูต้ วั และจบั ตวั ผตู้ อ้ งหาไดแ้ ลว้ หรอื ไม่

6. ขอ้ สนั นิษฐาน หรอื ขอ้ พสิ ูจนส์ าเหตุ ท่ีเกิดเพลงิ ไหม้ (ตอ่ ) ค. สาเหตเุ กิดจากความประมาทของบุคคลหรอื ไม่ เช่น ท้ ิง กน้ บุหรีใ่ นทตี่ ิดไฟง่าย ตดิ หลอดไฟฟ้ าไวใ้ นที่อบั และมี วตั ถทุ ต่ี ดิ ไฟไดง้ า่ ย ง. เหตนุ อกเหนือการควบคมุ เชน่ พายพุ ดั แรง เสาไฟฟ้ า โคน่ ลงมา ทาใหส้ ายไฟเกิดลดั วงจรและสายไฟอยใู่ กล้ อาคาร ฯลฯ

7.บนั ทึกการใหป้ ากคาของผเู้ กี่ยวขอ้ ง และ โดยเฉพาะผทู้ จ่ี ะตอ้ งรบั ผิด หรอื อาจจะตอ้ งรบั ผิด - ตอ้ งใหบ้ ุคคลดงั กลา่ วไดม้ ีโอกาสที่จะทราบขอ้ เท็จจรงิ อยา่ ง ท้งั น้ ี เพียงพอและเป็ นธรรม - ใหม้ ีโอกาสโตแ้ ยง้ และแสดงพยานหลกั ฐานของตนดว้ ย โดยตอ้ งมิไดก้ ระทาการใดอนั เป็ นการล่อลวง ขู่เข็ญ ใหส้ ญั ญา หรอื กระทาโดยมิชอบดว้ ยประการอ่ืน 8.ขอ้ มูลรายละเอยี ดอ่ืน ๆ

อบุ ตั เิ หตุ 94

การนารถไปจอดนอกสถานที่ราชการ การใช้ขออนุญาตนารถยนตไ์ ปเกบ็ รกั ษาทอี่ ืน่ เป็นการชวั่ คราว ตอ้ งมีเหตุดังน้ี - สว่ นราชการตอ้ งไมม่ สี ถานทเี่ ก็บรกั ษาปลอดภัยเพยี งพอ - ต้องมรี าชการจาเปน็ เรง่ ด่วนหรอื ปฏบิ ตั ริ าชการลบั ผ้มู ีอานาจอนุญาตจะพจิ ารณาไดเ้ ฉพาะเปน็ การชว่ั คราวและเป็นคร้ังคราว จะอนุญาตเป็นการถาวรหรอื ทกุ วนั ไม่ได้ และต้องอยภู่ ายใต้เงื่อนไขอย่างใด อย่างหนง่ึ

กรณีอุบตั ิเหตุ 1. ฝ่ าฝืนกฎหมายเก่ยี วกบั การจราจร 2. ฝ่ าฝืนกฎหมายเก่ยี วกบั การจราจรและมเี หตุปัจจยั ภายนอกประกอบด้วย 3. ฝ่ าฝืนกฎหมายเก่ยี วกบั การจราจรและคู่กรณมี ี ส่วนประมาทร่วมอยู่ด้วย

อบุ ตั เิ หตุ 1. ขอ้ เท็จจรงิ ทวั ่ ไป ก. วนั เวลาเกิดเหตุ ข. ชื่อ ยหี่ อ้ และเลขทะเบียนรถ ค. ช่ือผขู้ บั และฐานะตาแหน่ง ง. ช่ือเจา้ หนา้ ท่ีซ่ึงเป็ นผบู้ งั คบั บญั ชา หรือ ผคู้ วบคมุ ดแู ลรถ ตลอดจนอานาจหนา้ ที่

อบุ ตั เิ หตุ (ตอ่ ) 1. ขอ้ เท็จจรงิ ทวั ่ ไป (ตอ่ ) จ. รายการและมูลคา่ ของทรพั ยส์ ินที่เสียหาย (ก่อนและหลงั หกั ค่าเส่อื มราคา) ฉ. มีผบู้ าดเจบ็ หรือเสยี ชีวิตหรอื ไม่

อุบตั เิ หตุ (ตอ่ ) 2. การตรวจสอบสาเหตทุ ่ีเกิดข้ ึน ก. ตรวจวตั ถุพยาน เชน่ คนั ชกั คนั สง่ พวงมาลยั เครือ่ งยนต์ ฯลฯ ข. รอ่ งรอยลอ้ และเบรก ขอภาพถา่ ยสีประกอบดว้ ย (ถา้ มี) ค. รถค่กู รณีมีหรือไม่ --ถา้ มีจะตอ้ งสอบตาม ขอ้ 1 - 2 ขอ้ ก. - ข. ดว้ ย

อบุ ตั เิ หตุ (ตอ่ ) 2. การตรวจสอบสาเหตทุ ี่เกิดข้ ึน (ตอ่ ) ง. อตั ราวิ่งของรถขณะเกิดเหตแุ ละก่อนหนา้ น้นั ตลอดจนพฤตกิ ารณท์ ี่เกี่ยวขอ้ งอื่น จ. สภาพของทางหรือพ้ ืนถนน ฉ. สาเหตภุ ายนอกที่เขา้ มาเก่ียวขอ้ ง เช่น คนวิ่งตดั หนา้ สตั วว์ ่ิงตดั หนา้ ฯลฯ ช. ระยะห่างระหว่างรถคนั หนา้ และรถคนั หลงั (ในกรณีเกิดเหตรุ ถชนทา้ ยกนั ) ซ. พฤตกิ ารณอ์ ื่น ๆ