โคลงโลกนติ ิ สมเด็จพระเจา้ บรมวงศ์เธอ กรมพระยาเดชาดศิ ร รายวิชาภาษาไทย ช้นั มธั ยมศึกษาปีที่ 1
รายวชิ าภาษาไทย ชั้นมธั ยมศกึ ษาปที ่ี 1
คานา หนังสอื เรียน รายวิชาพ้นื ฐาน ภาษาไทย วรรณคดีและวรรณกรรม ระดับช้นั มธั ยมศึกษาปีที่ ๑ จดั ทาขึ้นสาหรบั นักเรยี นใชใ้ นการเรยี นรู้และครูใช้ในการจดั การเรียนการ สอนรายวิชาพน้ื ฐานกลมุ่ สาระการเรียนรู้ภาษาไทย ตามหลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาขนั้ พน้ื ฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑ หนงั สอื เรยี น รายวิชาพ้ืนฐาน ภาษาไทย วรรณคดแี ละวรรณกรรม ชั้นมธั ยมศกึ ษาปที ี่ ๑ มเี น้ือหาม่งุ สง่ เสรมิ ใหน้ ักเรียนไดศ้ ึกษาวรรณคดีเรื่อง โคลงโลกนิติ มีเน้ือหา ความเปน็ มาโคลงโลกนติ ิ ประวัติผู้แตง่ เนือ้ เร่อื ง บทประพนั ธท์ ไี่ พเราะอย่างมี คณุ คา่ ร้จู ักใช้กระบวนการการคิดนาไปส่คู วามเข้าใจในการอา่ นและเกิดความซาบซ้งึ ใน วรรณคดีและวรรณกรรม วัฒนธรรมทางภาษาความเปน็ ไทยของสงั คมไทย รวมทง้ั รู้จกั นา ความรู้ ความคิด ความซาบซึ้งจากการศกึ ษาวรรณคดีไปช่วยกลอ่ มเกลาพัฒนาจติ ใจของ นกั เรียนในการดาเนินชวี ิตตอ่ ไป การนาเสนอเน้อื หาได้เรยี บเรยี งขนึ้ ใหมใ่ หน้ ่าสนใจ โดยเชื่อมโยงกับวรรณคดีและวรรณกรรมที่ให้เรยี น เพอ่ื ให้นักเรยี นอา่ นอย่างมีความสขุ และ เพลิดเพลิน ข้าพเจ้าหวังว่า หนังสอื เลม่ นจี้ ะเป็นประโยชน์ตอ่ ผู้ทอี่ า่ น หากมีข้อผิดพลาด ประการใด ขออภยั ไว้ ณ ที่น้ี จัดทาโดย จิราพร เมอื งกระจา่ ง
สารบัญ หนา้ ทมี่ าโคลงโลกนิติ ๑ ความเปน็ มา ๒ ประวัติผแู้ ตง่ ๓ ลกั ษณะคาประพนั ธ์ ๕ เน้อื เร่ืองยอ่ ๘
สารบัญ หนา้ เนอ้ื เรอ่ื ง ๙ บทวเิ คราะห์ ๒๑ สรปุ ผล ๓๖ ความร้เู พิม่ เติม ๓๗ คาถามท้ายบท ๓๘
สารบญั หนา้ เฉลยคาถามทา้ ยบท ๔๘ ๔๙ คาศพั ท์ ๕๖ บรรณานกุ รม
โคลงโลกนติ ิ ๑ โลกนิติ (อ่านว่า โลก-กะ-นิด แปลวา่ ระเบยี บแบบแผนแห่งโลก) เป็นวรรณคดีที่มีเนื้อหาเป็นคาสอนในด้านต่าง ๆ ทั้งทางโลกและทางธรรม ถือเป็นคาสอนที่เก่าแก่และ แพร่หลายมาตั้งแต่สมัยโบราณ เนื้อหาส่วนมากมีที่มาจาก คาถาภาษาบาลีที่ปรากฏอยู่ในคัมภีร์ต่าง ๆ เช่น คัมภีร์โลก นิติ คัมภีร์ธรรมนิติ คัมภีร์ราชนีติ หิโตปเทศ ธรรมบท และพระไตรปฎิ ก เปน็ ตน้ นกั ปราชญ์ในอดีตได้เลอื กสรร คาถามาแปลเป็นร้อยแก้วแล้วเรียบเรียงแต่งคาประพันธ์ โคลงสส่ี ุภาพ
ความเป็นมา โคลงโลกนติ ิ ๒ เนื่องด้วยโคลงโลกนิติ มีเนื้อหาที่ทาให้ผู้อ่านมี ความเข้าใจเกี่ยวกับความเป็นไปของโลกเพื่อจะได้ดาเนิน ชีวิตไปในทางที่ถูกต้องดีงาม ประกอบกับมีถ้อยคาและ เนื้อความที่ไพเราะ มีความเหมาะสมทั้งด้านรูปแบบและ เนื้อหา มีคุณค่าทางวรรณกรรม จึงได้รับการยกย่องและ ไดร้ ับการจัดให้เป็นหนึ่งในหนังสือดี ๑๐๐ เล่มที่คนไทย ควรอา่ น
๓ ประวตั ผิ ู้แตง่ โคลงโลกนติ ิ สมเดจ็ พระเจา้ บรมวงศเ์ ธอ กรมพระยาเดชาดศิ ร สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาเด ชาดิศร มีพระนามว่า พระองค์เจ้าชายมั่ง เป็นพระราชโอรสในพระบาทสมเด็จพระพุทธ เลิศหล้านภาลัยกับเจ้าจอมมารดานิ่ม ธิดา เจ้าพระยาพระคลัง (หน) ประสูติเมื่อวันเสาร์ท่ี ๑๑ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๓๓๖
๔ ประวตั ิผแู้ ตง่ โคลงโลกนิติ สมเดจ็ พระเจา้ บรมวงศ์เธอ กรมพระยาเดชาดศิ ร ในสมัยรชั กาลที่ ๒ ทรงรับสถาปนาเปน็ กรมหมื่นเดชอดศิ ร กากับกรมพระอาลกั ษณ์ในรัชกาลที่ ๓ ไดท้ รงเล่ือนเป็นกรมขุนเดช อดศิ ร และในรัชกาลท่ี ๔ ทรงเล่ือนเป็นกรมสมเด็จพระเดชาดิศร สน้ิ พระชนม์เม่ือ พ.ศ. ๒๔๐๒ พระชนั ษาได้ ๖๗ ปี ทรงเปน็ ต้นราชสกุล เดชาติวงศ์ งานพระนพิ นธ์ทป่ี รากฏ ได้แก่ โคลงโลกนิติ โคลงนริ าศเสด็จ ไปทพั เวียงจนั ทน์ ฉันทส์ ังเวย พระมหาเศวตฉัตร และฉนั ท์ ดุษฎีสงั เวยตา่ ง ๆ
๕ ลักษณะคาประพันธ์ โคลงโลกนติ ิ โคลงโลกนติ ิ แตง่ ด้วยคาประพนั ธป์ ระเภทโคลงสสี่ ุภาพและมีบางบทเป็นโคลงกระทู้ แผนผังโคลงส่สี ภุ าพ ตัวอยา่ งโคลงส่สี ภุ าพ น้าเค้ยี วยูงว่าเงยี้ ว ยงู ตาม ทรายเหลือบหางยูงงาม วา่ หญา้ ตาทรายย่งิ นิลวาม พรายเพริศ ลงิ วา่ หว้าหวงั หวา้ หว่าด้ินโดยตาม
๖ ลักษณะคาประพันธ์ โคลงโลกนิติ โคลงโลกนติ ิ แต่งด้วยคาประพันธป์ ระเภทโคลงส่ีสภุ าพและมีบางบทเปน็ โคลงกระทู้ โคลงกระทู้ คือ โคลงสี่สุภาพที่มีการตั้งข้อความหรือหัวข้อ (กระทู้) วางไว้ข้างหน้าโคลงทั้ง ๔ บาท แล้วแต่งถ้อยคาต่อไปให้มีเนื้อความอธิบายหรือ ขยายความของกระทู้ให้ชัดเจนยิ่งขึ้น บางครั้งตัวกระทู้เองอาจจะไม่มีความหมายก็ ตอ้ งแต่งเติมถอ้ ยคาในโคลงใหม้ คี วามเหมาะสม โคลงกระทู้มี ๔ ชนิด คือ ▪ โคลงกระทู้ ๑ คา (กระทเู้ ด่ยี ว) ▪ โคลงกระทู้ ๒ คา ▪ โคลงกระทู้ ๓ คา ▪ โคลงกระทู้ ๔ คา
๗ ลกั ษณะคาประพันธ์ โคลงโลกนิติ โคลงโลกนติ ิ แต่งด้วยคาประพนั ธป์ ระเภทโคลงสส่ี ุภาพและมบี างบทเป็นโคลงกระทู้ แผนผงั โคลงกระทู้ ๓ คา ตัวอย่างโคลงโคลงกระทู้ ๓ คา ป่าพ่งึ เรอื หมู่ไม้ มากมูล เรอื พงึ่ พาย ยูร ยาตรเต้า นายพึง่ บา่ ว บพาริบรู ณ์ ตามตดิ มากแฮ เจา้ พ่ึงขา้ คา่ เช้า ช่วยสนิ้ เสรจ็ งานฯ
เนื้อเร่อื งยอ่ โคลงโลกนติ ิ ๘ เนื้อหาในโคลงโลกนิติเกี่ยวกับเรื่องธรรมชาติของโลกและชีวิตไม่ต่างจาก หลกั ธรรมในพระพุทธศาสนาเรื่องอนิจจัง กล่าวคือ ทุกสิ่งในโลกล้วนไม่เที่ยงแท้ แน่นอน ต้องแปรเปลี่ยนไปตามกาลเวลา โดยเฉพาะชีวิตมนุษย์นั้นย่อมมีการเกิด แก่ เจ็บ ตาย เป็นของธรรมดา ทุกคนไม่อาจหลีกพ้น กวีจึงสอนให้มนุษย์ ตระหนักถึงความจริงดังกล่าว และให้หมั่นทาความดีอย่างสม่าเสมอ โคลงโลกนิติ เป็นวรรณคดีคาสอนที่มีคุณค่าเป็นอย่างยิ่งทั้งในแง่การประพันธ์และเนื้อหา ซึ่งมี สาระอันเป็นประโยชน์ให้หลักอันควรและไม่ควรประพฤติปฏิบัติในการดาเนินชีวิต สามารถนามาเป็นคติในการใช้ชีวิตได้ทุกยุคทุกสมัย และหากปฏิบัติตนได้ตามนั้น ยอ่ มนาความสุขความเจรญิ มาสู่ตนและสังคม
โคลงโลกนติ ิ ๙ ผลเด่ือเมือ่ สุกไซร้ มีพรรณ ผลมะเดื่อเมื่อสุกแล้วจะมี สี ภายนอกแดงดฉู ัน ชาดบา้ ย แดง ภายนอกดูสวยงาม แต่เนื้อในมี ภายในยอ่ มแมลงวนั หนอนบ่อน หนอนและแมลงวนั ไชอยู่ เหมือนกับคน ดุจดัง่ คนใจรา้ ย นอกนัน้ ดงู าม บางคนที่หน้าตาดูดี แต่ภายในเป็นคน ใจร้าย ตามสานวนไทยที่ว่า “ข้างนอก สกุ ใสข้างในเปน็ โพรง” นาคีมีพษิ เพี้ยง สุรโิ ย งู เ ป ็ น สั ต ว ์ ที ่ มี พิ ษ แ ร ง ก ล ้ า เล้อื ยบท่ าเดโช แช่มชา้ ดั่งพระอาทิตย์ แต่มันกลับชอบเลื้อยช้า ๆ พิษน้อยหยงิ่ โยโส แมลงป่อง ไม่แสดงอานาจอะไร ต่างจากแมงป่องที่มี ชูแต่หางเองอ้า อวดอา้ งฤทธี พิษน้อยแต่ชอบอวดอ้างชูหางตัวเองเพื่อ แสดงอานาจ
โคลงโลกนิติ ๑๐ ความรูผ้ ้ปู ราชญ์นั้น นกั เรยี น คนดีหรือคนที่มีความรู้อย่าง ฝนท่งั เทา่ เขม็ เพียร ผ่ายหน้า นั ก ป ร า ช ญ ์ มั ก มี ค ว า ม ข ยั น ห มั ่ น เ พี ย ร คนเกียจเกลียดหน่ายเวียน วนจติ สามารถที่จะฝนทั่งสาหรับตีเหล็กชิ้น กลอทุ กในตะกรา้ เปี่ยมล้นฤามี ใหญ่ให้เลก็ ไดเ้ ทา่ เข็มเย็บผา้ แต่คนที่มี นิสัยเกียจคร้าน ไม่ว่าจะทาสิ่งใดก็ไม่ สาเร็จ เหมือนกับการตักน้าใส่ตะกร้าที่ ไม่มีวนั เตม็ ได้ หา้ มเพลงิ ไว้อยา่ ให้ มคี วนั เมื่อใดที่เราสามารถทาให้ไฟ ห้ามสุรยิ แสงจันทร์ ส่องไซร้ ไร้ควัน ห้ามพระอาทิตย์และพระจันทร์ ห้ามอายุให้หนั คืนเล่า ส่องแสง รวมถึงทาให้อายุของเรา ห้ามดง่ั น้ไี วไ้ ด้ จง่ึ หา้ มนินทา ย้อนกลับคืนมาได้แลว้ เมื่อนั้นเราจึงห้าม การนินทาได้ (เท่ากับแปลว่า การนินทา เป็นเร่อื งธรรมดาของโลกน้นี นั่ เอง)
โคลงโลกนิติ ๑๑ รูน้ ้อยว่าร้มู าก เริงใจ คนที่ตาหนิคนอื่นว่ามีความรู้ กลกบเกิดอย่ใู น สระจอ้ ย น้อย แต่หลงระเริงว่าตนมีความรู้มาก ไปเ่ หน็ ชเลไกล กลางสมทุ ร เหมือนกบที่อยู่ในบ่อน้าไม่เคยออกไปดู ชมว่าน้าบอ่ น้อย มากล้าลึกเหลือ มหาสมุทร กห็ ลงระเรงิ วา่ น้าในบ่อนม้ี าก จระเข้คับน่านน้า ไฉนหา ภกั ษเ์ ฮย จระเข้ตัวใหญ่โตคับแม่น้า รถใหญก่ ว่ารัถยา ยากแท้ ย่อมหาอาหารไม่สะดวก รถที่ใหญ่กว่า เสอื ใหญ่กวา่ วนา ไฉนอยู่ ไดแ้ ฮ ถนนเสือตัวโตกว่าป่า เรือลาใหญ่คับ เรอื เข่อื งคบั ชเลแล้ แล่นโล้ไปไฉน ทะเลเหลา่ น้ียอ่ มยากตอ่ การดารงอยู่
โคลงโลกนิติ ๑๒ เสียสินสงวนศักดไ์ิ ว้ วงศห์ งส์ ห า ก ต ้ อ ง เ ลื อ ก ร ะ ห ว ่ า ง เสยี ศกั ดสิ์ ้ปู ระสงค์ สิ่งรู้ ทรัพย์สินกับศักดิ์ศรี เราควรเลือกรักษา เสียรูเ้ ร่งดารง ความสัตย์ไว้นา ศักดิ์ศรีไว้แต่เมื่อต้องเลือกศักดิ์ศรีและ เสียสัตย์อย่าเสียสู้ ชีพมว้ ยมรณา ความรู้ จงเลือกลดศักดิ์ศรีและรับความรู้ มา หากเสียรู้เล่ห์เลี่ยมกลโกง ก็จงยึด น้าเค้ยี วยงู วา่ เงย้ี ว ยงู ตาม มั่นความซื่อสัตย์เอาไว้ และสุดท้ายหาก ทรายเหลือบหางยูงงาม วา่ หญ้า ต้องเสียความซื่อ สัตย์ สู้ยอมตายเสีย ตาทรายย่งิ นิลวาม พรายเพริศ ดีกว่า ตรงกับสุภาษิตที่ว่า “เสียชีพอย่า ลิงว่าหวา้ หวังหว้า หว่าดิ้นโดยตาม เสียสัตย”์ การหลงเชื่อในสิ่งที่ผิด หรือ การหลงผิด โดยขาดการไตร่ตรอง อาจ นามาซึ่งอันตรายถึงชีวิต เช่นนกยูงมอง จากที่สูงเห็นสายน้าที่คดเคี้ยวไกล ๆ ว่า เป็นงู กระโดดลงไปตาย เนื้อทรายมอง แพหางนกยูงเป็นหญ้าก็กระโดดจะกิน ก็ตาย ขณะเดียวกันลิงเห็นตาทรายท่ี โผล่พ้นน้าเป็นลูกหว้า กระโดดหมายจะ กินอกี และตายตามไป
โคลงโลกนติ ิ ๑๓ พระสมุทรสดุ ลกึ ล้น คณนา มหาสมุ ทร ต ่อให้ลึกสั ก สายด่ิงทง้ิ ทอดมา หยง่ั ได้ เพียงใดก็ยังใช้สายดิ่งวัดความลึกได้ เขาสูงอาจวดั วา กาหนด ภูเขาต่อให้สูงสักเพียงใด ก็ยังอาจ จิตมนษุ ยน์ ี้ไซร้ ยากแทห้ ย่ังถึง กาหนดความสูงได้ แต่จิตใจของคนเรา นี้ ช่างลึกลับ ซับซ้อนเกินกว่าจะใช้ เครอ่ื งมือใด ๆ มาวดั ใหห้ ยงั่ รไู้ ด้ รกั กนั อย่ขู อบฟ้า เขาเขยี ว คนทรี่ ักกนั แม้อยู่ไกลกัน ก็ เสมออยู่หอแห่งเดยี ว รว่ มหอ้ ง เหมือนอยู่ใกลก้ ัน แตค่ นที่เกลียดชังกัน ชังกนั บ่แลเหลียว ตาตอ่ กันนา ต่อให้อยู่ใกล้กัน ก็เหมือนอยู่ห่างไกล เหมือนขอบฟา้ มาป้อง ปา่ ไม้มาบัง กัน
โคลงโลกนติ ิ ๑๔ เจด็ วันเว้นดีดซ้อม ดนตรี เรียนดนตรีไม่ซ้อม ๗ วันก็ อักขระห้าวนั หนี เนน่ิ ช้า ลมื เรียนหนังสอื ไม่ทบทวน ๕ วนั กล็ ืม สามวนั จากนารี เปน็ อืน่ วันหนึง่ เว้นล้างหน้า อับเศร้าศรีหมอง สามวันจากหญิงคนรักก็อาจลืมกัน ไม่ ล้างหน้า ๑ วัน กม็ หี นา้ ตาท่เี ศรา้ หมอง ใครจักผูกโลกแม้ รดั รึง ไม่มีเสนห่ าหรอื มนตร์ใดที่จะ เหลก็ เท่าลาตาลตรึง ไป่หม้นั ผู ก มั ด ค น ใ ห ้ ค ง มั ่ น ต ่ อ กั น เ ท ่ า ไ ม ต รี มนตรย์ าผกู นานหงึ หายเสอ่ื ม ความเอ้อื อาทรทด่ี ตี ่อกัน ผูกเพ่ือไมตรีน้นั แน่นเท้าวนั ตาย
โคลงโลกนติ ิ ๑๕ ความรดู้ ูยิง่ ลา้ สนิ ทรพั ย์ ค ว า ม รู ้ นั ้ น มี ค ่ า ยิ ่ ง ก ว ่ า คดิ คา่ ควรเมืองนับ ยิง่ ไซร้ ทรัพย์สินเงินทอง เงินทองยังสามารถ เพราะเหตจุ ักอยูก่ ับ กายอาต-มานา นับได้ แต่ความรู้ไม่สามารถนับได้ โจรจกั เบยี นบ่ได้ เรง่ รู้เรียนเอา สาเหตุที่ความรู้นั้นล้าค่าเพราะเป็นสิ่งท่ี อยู่ติดกับตัวเรา โจรไม่สามารถขโมยได้ สนิมเหล็กเกดิ แต่เน้อื ในตน เหมือนขโมยเงินทอง ดังนั้นทุกคนจึง กนิ กดั เนอ้ื เหล็กจน กรอ่ นขรา้ ควรเรง่ เพม่ิ พูนความรู้นนั่ เอง บาปเกดิ แต่ตนคน เป็นบาป บาปย่อมทาโทษซา้ ใสผ่ ูบ้ าปเอง สนิมของเหล็กนั้นที่แท้แล้ว ก็เกิดขึ้นมาจากเนื้อเหล็กนั่นเองและ สนิมนั้นก็จะกัดกินเนื้อเหล็กจนผุกร่อน ไปจนสิ้น เปรียบได้กับบาปนั้นก็เกิดขึ้น จากตัวบุคคลเอง แล้วผลแห่งบาปนั้นก็ จะให้ทุกข์ให้โทษแก่ผู้ที่กระทาบาป นัน่ เอง
โคลงโลกนติ ิ ๑๖ นกน้อยขนนอ้ ยแต่ พอตัว นกตัวน้อย ๆ มีขนน้อยสม รงั แต่งจุเมยี ผัว อยู่ได้ กับตัว มันก็ย่อมทารังแต่เพียงน้อยพอ มกั ใหญย่ ่อมคนหวัว ไพเพิด อยู่กันได้ตามประสาผัวเมีย คนเราก็ ทาแตพ่ อตัวไซร้ อย่าให้คนหยัน เช่นกันอย่าได้พยายามคิดการใหญ่เกิน ตัวให้คนเขาเย้ยเยาะเอาได้ ควรทาให้ พอเหมาะพอตัวเป็นดที ีส่ ุด เหน็ ท่านมีอย่าเคล้มิ ใจตาม เมื่อเห็นคนอื่นเขามั่งมีศรีสุข เรายากหากใจงาม อย่าครา้ น ก็อย่าลืมตัวลืมตนไปตามเขาแม้เราจะ อตุ ส่าห์พยายาม การกิจ ยากจน แต่ถ้ามีน้าจิตน้าใจดี ไม่เกียจ เอาเย่ียงอยา่ งเพ่ือนบ้าน อยา่ ทอ้ ทากนิ คร้าน ขยันขันแข็งมานะทางานไป เราก็ จะไดด้ เี อง ควรดูตัวอยา่ งดี ๆ จากเพื่อน บ้านแลว้ กอ็ ย่าทอ้ เรอื่ งการทามาหากิน
โคลงโลกนติ ิ ๑๗ คนใดละพ่อทั้ง มารดา บุคคลใดก็ตามที่ละเลย ละ อันทพุ พลชรา- ภาพแล้ว ทิ้งการดูแลบิดามารดา ที่ชราภาพ หรือ ขบั ไลไ่ มม่ ปี รา- ณีเนตร ทุพพลภาพ ย่อมนามาซึ่งภัยอันตรายสู่ คนดั่งนฤี้ าแคล้ว คลาดพน้ ไภยัน ตัวเอง ตรงกับสานวน ลกู อกตัญญู คณุ แมห่ นาหนกั เพ้ียง พสธุ า พ ร ะ คุ ณ ข อ ง ผู ้ เ ป ็ น แ ม ่ นั ้ น ยิ่งใหญ่กว่าผืนแผ่นดิน พระคุณของพ่อ คุณบดิ รดจุ อา- กาศกวา้ ง เปรียบดั่งท้องฟ้า พระคุณของพี่เปรียบ เ ห มื อ น ขุ น เ ข า ใ ห ญ ่ พ ร ะ คุ ณ ข อ ง คณุ พี่พ่างศขิ รา เมรมุ าศ ค รู บ า อ า จ า ร ย ์ นั ้ น เ ป รี ย บ เ ห มื อ น ห ้ ว ง มหาสมุทร คุณพระอาจารย์อ้าง อาจสสู้ าคร
โคลงโลกนติ ิ ๑๘ ก้านบัวบอกลึกต้ืน ชลธาร ความยาวของก้านบัวสามารถ มารยาทส่อสันดาน ชาตเิ ช้ือ บอกความลึกตื้นของแหล่งน้าที่มันอยู่ได้ โฉดฉลาดเพราะคาขาน ควรทราบ มารยาทบอกให้ทราบถึงความเป็นไปของ หยอ่ มหญ้าเห่ยี วแห้งเรื้อ บอกร้ายแสลงดนิ ชาติตระกูลคาพูดของคนสามารถแสดง ให้เห็นว่าบุคคลนั้น ฉลาด เขลา ชั่ว หรือเลว เหมือนกับที่หญ้าเหี่ยวแห้ง บอกถงึ ความไมส่ มบูรณ์ของดิน ตามตรง กับสานวนสาเนียงสอ่ ภาษา กริยาสอ่ สกุล ถึงจนทนสูก้ ดั กนิ เกลือ ถึงจะยากจนก็จงสู้กัดฟัน อย่าเท่ยี วแลเ่ น้อื เถือ พวกพอ้ ง ท น กิ น ก ้ อ น เ ก ลื อ อ ย ่ า เ ที ่ ย ว ไ ถ เ ถื อ อดอยากเย่ยี งอยา่ งเสือ สงวนศักด์ิ เบียดเบียนพวกพ้องและวงศ์ญาติถึง โซก็เสาะใสท่ ้อง จับเน้อื กินเอง จะอดก็องอาจไว้ศักดิ์เหมือนอย่างเสือ ยามหิวก็ไล่จับเนื้อกินเองไม่อวดเบ่ง แย่งใครกนิ
โคลงโลกนิติ ๑๙ โคควายวายชพี ได้ เขาหนัง เมื่อวัวควายตายไปเราจะ เปน็ สง่ิ อันยัง อยู่ไซร้ ไดเ้ ขาและหนงั ถ้าคนตายแล้วจะไม่มีสิ่ง คนเดด็ ดับสญู สัง- ขารร่าง ใดเหลอื อยู่นอกจากความดแี ละความชว่ั ท่ี เป็นช่ือเสียงได้ แตร่ ้ายกบั ดี เคยทาเอาไว้ สูงสารสีเ่ ท้ายา่ ง เหยียบยนั ช้างสารสูงใหญ่ใช้สี่เท้า บางคาบเช่ียวไปพลัน พลวกพล้งั ก้าวเหยียบยัน บางครั้งเดินด่วนพลัน นักรูร้ ่าเรยี นธรรม์ ถงึ มาก ก็ดี อาจจะพลั้งพลาดเหมือนนักปราชญ์รู้ กล่าวดัง่ น้าผล้ังผลัง้ พลาดถอ้ ยทางความ อรรถรู้ธรรมเป็นอันมากพูดดั่งน้าไหล คล่องปากก็อาจพลาดพลั้งออกไปนอก ทาง
โคลงโลกนติ ิ ๒๐ เพอ่ื นกนิ สน้ิ ทรพั ย์แล้ว แหนงหนี เพื่อนกินพอทรัพย์สินของ หาง่ายหลายหมน่ื มี มากได้ เพอ่ื นหมดสิน้ ก็เมินหน้าหนา่ ยหนี เพื่อน เพ่อื นตายถา่ ยแทนชี- วาอาตม์ เช่นนี้หาง่ายมีมากมายหลายหมื่น เพื่อน หายากฝากผไี ข้ ยากแท้จกั หา ตายคือเพอ่ื นแทท้ ย่ี ดั ยืนยอมตายแทนกัน ได้และฝากผีฝากไข้กันได้ เพื่อนเช่นนี้ หายากนักหนา อ่อนหวานมานมิตรล้น เหลอื หลาย คนเรียบร้อยอ่อนหวานย่อม หยาบบ่มเี กลอกราย เกลื่อนใกล้ มบี ริวารมติ รสหายมาก หยาบคายสาราก ดุจดวงศศิฉาย ดาวดาษ ประดับนา ไ ม ่ มี ใ ค ร อ ย า ก เ ป ็ น เ พื ่ อ น ใ ก ล ้ ชิ ด สุริยสอ่ งดาราไร้ เม่ือร้อนแรงแสง เหมือนจันทร์เพ็ญเย็นสนิทมีหมู่ดาว ล้อมประดับแต่ตะวันร้อนแรงแสง ระยบั ไรด้ ารามาแวดลอ้ มรายเรยี ง
๒๑ บทวิเคราะห์ โคลงโลกนิติ สมเดจ็ พระเจา้ บรมวงศ์เธอ กรมพระยาเดชาดิศร
บทวเิ คราะห์ ๒๒ โคลงโลกนิติ โคลงโลกนิติเป็นโคลงสุภาษิตที่มี จดุ มุ่งหมายเพ่ือสอนใหท้ ุกคนในสังคมเป็นคนดีได้ อย่างถูกต้องเหมาะสมในทุกโอกาสและสามารถ ดารงชวี ติ ไดอ้ ย่างมีความสุข นอก จา ก นี ้ โ ค ลงโลก ติ ยั งมีศิลปะ ก าร ประพันธ์ที่ดีเด่นด้านความเปรียบที่คมคายและมี เนื้อหาที่เป็นคติสอนใจ จากบทที่คัดมาให้ศึกษา สามารถวเิ คราะห์คุณค่าได้ ดงั ต่อไปนี้
บทวเิ คราะห์ คณุ ค่าด้านเน้อื หา ๒๓ ๑. คุณค่าด้านเนื้อหา โคลงโลกนิติ มีเนื้อหาที่สะท้อนให้เห็น ความเชื่อ ค่านิยม จริยธรรม ที่ผู้คนในสังคมยึดถือเป็นอุดมคติและเป็น หลักในการปฏิบัติตนสืบต่อมาช้านาน หากผู้อ่านพิจารณาให้ลึกซึ้ง จะทาให้เข้าใจถึงสัจธรรมของชีวิตมากยิ่งขึ้นและสามารถนาข้อคิดไปปรับ โคลงโลกนติ ิ ใชใ้ นชวี ิตประจาวันได้ ดงั เชน่ สอนให้ยดึ มน่ั ในความดี สอนให้สนใจการศกึ ษา สอนให้มไี มตรีจิต สอนใหพ้ ึง่ พาตนเอง สอนให้คดิ กตญั ญู สอนใหร้ ู้จกั ประมาณตน สอนให้ร้รู ักษาความสัตย์ สอนให้เป็นคนต้ังใจจรงิ สอนให้หดั เลือกคบคน สอนให้ละทง้ิ ความโอ้อวด
บทวิเคราะห์ ๒๔ โคลงโลกนติ ิ ๑) สอนให้ยึดมั่นในความดี โคลงโลกนิติมีคาสอนเรื่องการ ยดึ ม่นั ในศลี ธรรมหรือความดี และเช่อื ในเรอ่ื งกฎแหง่ กรรม คือ การทา ดีย่อมได้รับผลเป็นความดี การทาชั่วย่อมได้รับผลเป็นความชั่ว และ ความชั่วนั้นย่อมกัดกร่อนจิตใจและให้ผลร้ายแก่คนที่กระทาความชั่ว เช่นเดียวกับสนิมที่กัดเนื้อเหล็กให้กร่อน ใช้การไม่ได้ และผุพังไป ในท่ีสุด ดังบททวี่ ่า สนิมเหลก็ เกดิ แต่เนอ้ื ในตน กนิ กดั เนือ้ เหล็กจน กรอ่ นขรา้ บาปเกิดแตต่ นคน เป็นบาป บาปยอ่ มทาโทษซ้า ใสผ่ บู้ าปเอง
บทวิเคราะห์ ๒๕ นอกจากน้ี โคลงโลกนติ ิ ยังกลา่ วถึงความชัว่ และความดี โดย เปรียบเทียบว่าวัวควายเมื่อตายไปก็ยังเหลือเขาและหนังซึ่งยังเป็น ประโยชน์ แต่คนเราเมื่อตายแล้ว ย่อมสูญสลายทุกอย่างคงเหลือแต่ คากล่าวขานถึงความดีงามและความชั่ว ที่ได้กระทาไว้เมื่อยังมีชีวิต ดังบทความท่วี ่า โคลงโลกนติ ิ โคควายวายชีพได้ เขาหนัง เป็นส่ิงเปน็ อันยัง อยู่ไซร้ คนเด็ดดับสูญสัง- ขารร่าง เป็นช่อื เปน็ เสยี งได้ แตร่ ้ายกับดี
บทวเิ คราะห์ ๒๖ ๒) สอนให้มีไมตรีจิต ดังโคลงที่กล่าวว่า ในโลกนี้จะมีสิ่ง ใดที่สามารถผกู ใจหมชู่ นทั้งหลายได้ แม้จะใช้เหล็กที่มีขนาดใหญ่เท่า ลาตาลมดั ตรงึ ไว้ก็ไม่แนน่ หนา หรือจะใช้เวทมนตรค์ าถานานเข้าก็เสื่อม หาย แตห่ ากผูกใจผคู้ นท้ังหลายด้วยไมตรยี ่อมย่ังยืนอย่างไม่เสอื่ มคลาย ดงั บทความท่วี ่า โคลงโลกนิติ ใครอกั ผกู โลกแม้ รดั รึง เหลก็ เทา่ ลาตาลตรึง ไปห่ มั้น มนตร์ยาผูกนานหึง หายเสอ่ื ม ผกู เพ่ือไมตรีนั้น แนน่ เท้าวันตาย
บทวิเคราะห์ ๒๗ โคลงโลกนิติ ๓) สอนให้คิดกตัญญู โคลงโลกนิติมีคาสอนเรื่องความ กตัญญแู ละการรูส้ านึกในพระคุณของบิดา มารดา และครูอาจารย์ โดย กล่าวเปรยี บเทยี บว่าพระคณุ ของมารดานน้ั ยงิ่ ใหญ่เปรียบได้กับแผ่นดิน พระคุณของบิดาก็กว้างขวางราวกับท้องฟ้าหรืออากาศ พระคุณของพ่ี นั้นก็สูงราวกับยอดเขาพระสุเมรุ และพระคุณของครูก็ล้าลึกและ กว้างขวางราวกบั แมน่ า้ หรอื มากมายราวกับน้าในแมน่ า้ ดังบทความที่ว่า คณุ แมห่ นกั หนาเพย้ี ง พสุธา คณุ บิดรดุลอา- กาศกว้าง คุณพพ่ี า่ งศิขรา เมรมุ าศ คณุ พระอาจารย์อ้าง อาจสสู้ าคร
บทวเิ คราะห์ ๒๘ โคลงโลกนติ ิ นอกจากนี้ยังมีโคลงอีกบทหนึ่งซึ่งกล่าวถึงความกตัญญู ต่อผู้มีพระคุณโดยเฉพาะบิดามารดา บุคคลใดละทิ้งหรือไม่ดูแล ยามที่ท่านแก่ชรา อันเป็นการกระทาที่ปราศจากความชีวิตของผู้นั้น ยอ่ มพานพบแต่ส่งิ ไมด่ ี ดังบทความที่วา่ คนใดละพอ่ ทง้ั มารดา อนั ทุพพลชรา- ภาพแลว้ ขับไล่ไปมีปรา- ณเี นตร คนดัง่ นฤ้ี ๅแคล้ว คลาดพน้ ไภยนั
บทวิเคราะห์ ๒๙ ๔) สอนให้รู้รักษาความสัตย์ โคลงโลกนิติบทหนึ่งกล่าวถึง การรักษาความสัตยไ์ วว้ ่าเปน็ สิง่ สาคญั มากที่สุด นอกเหนือจากการรักษา ศักดิ์ศรีและการแสวงหาความรู้ แม้จะต้องสละชีวิตก็อย่ายอมเสีย ความสัตยเ์ ป็นอันขาด ดงั บทความทวี่ า่ โคลงโลกนิติ เสียสินสงวนศักด์ไิ ว้ วงศ์หงส์ เสียศกั ดิ์สู้ประสงค์ สงิ่ รู้ เสยี รูเ้ รง่ ดารง ความสตั ย์ ไว้นา เสยี สัตยอ์ ย่าเสยี สู้ ชพี ม้วยมรณา
บทวิเคราะห์ ๓๐ โคลงโลกนิติ ๕) สอนให้เลือกคบคน โคลงโลกนิติสอนให้รู้จักการ พิจารณาและไม่ประมาทในการเลือกคบคน โดยเปรียบเทียบว่า มหาสมุทร แม้จะลึกเพียงใด ยังอาจใช้สายดิ่งวัดได้ หรือภูเขาจะสูง เพียงใด ก็ยังวัดระยะความสูงได้ แต่จิตใจของคนนั้นยากที่จะหยั่งถึง หรือเข้าใจได้ ดงั นนั้ จงึ ไม่ควรไว้วางใจหรือเชื่อใจใครง่าย ๆ ดังโคลง บททวี่ ่า พระสมทุ รสดุ ลกึ ล้น คณนา สายดิง่ ทงิ้ ทอดมา หยั่งได้ เขาสงู อาจวดั วา กาหนด จิตมนุษย์นีไ้ ซร้ ยากแท้หยัง่ ถึง
บทวิเคราะห์ ๓๑ คุณคา่ ด้านวรรณศิลป์ โคลงโลกนติ ิ ๒. คุณค่าด้านวรรณศิลป์ โคลงโลกนิติ เป็นวรรณดี ที่มีความดีเด่นในด้านถ้อยคาและสานวนโวหารที่เข้าใจง่าย แต่มี ความหมายลึกซึ้งและมีความไพเราะสละสลวย เนื่องด้วยกวีมี กลวธิ ีในการประพนั ธ์ ดงั ต่อไปนี้
บทวิเคราะห์ ๓๒ โคลงโลกนิติ ๑) การใช้ภาพพจน์ ด้วยการใช้ความเปรียบว่าสิ่งหนึ่ง เหมือนกับสิ่งหนึ่ง หรอื อุปมา เป็นการเปรียบเทียบกับสิ่งใกล้ตัว เพื่อให้เห็นจริง กลวิธีนี้เป็นการนาสิ่งใกล้ตัวที่ผู้อ่านพบเห็นหรือ รู้จักมาใช้เป็นคติเตือนใจ ทาให้ผู้อ่านเกิดความเข้าใจมากขึ้น ดังบทที่กล่าวถึงผลมะเดื่อ เมื่อสุกจะมีสีแดงสวยงาม แต่ภายใน กลบั มีหนอนแมลงวันมากมายเปรยี บเทยี บกบั คนทภ่ี ายนอกดดู ี แต่ กลับมจี ติ ใจชัว่ ร้าย ดงั บทความท่ีวา่ ผลเดอ่ื เม่ือสุกไซร้ มพี รรณ ภายนอกแดงดฉู ัน ชาดบ้าย ภายในยอ่ มแมลงวนั หนอนบ่อน ดุจดัง่ คนใจร้าย นอกนน้ั ดูงาม
บทวิเคราะห์ ๓๓ ๒) การใช้ภาษาสร้างจินตภาพ เป็นศิลปะการประพันธ์ที่ พบมากในโคลงโลกนิติทาให้เนื้อความลึกซึ้งและสร้างจินตนาการได้ อย่างแจม่ ชัด เชน่ โคลงทกี่ ลา่ วถึงการไมท่ าอะไรเกินความพอดที วี่ า่ โคลงโลกนิติ จระเขค้ บั น่านน้า ไฉนหา ภักษ์เฮย รถใหญก่ วา่ รัถยา ยากแท้ เสอื ใหญก่ ว่าวนา ไฉนอยู่ ไดแ้ ฮ เรอื เขอ่ื งคับชเลแล้ แล่นโล้ไปไฉน โคลงบทนี้เน้นใช้คาว่า “คับ” ซึ่งแปลว่า มีลักษณะหรื อปริมาณเกินพอดี และ “กว่า” ซึ่งแปลว่า เกิน อันเป็นคาที่ทาให้ รู้สึกหรือนึกถึงเรื่องของ ขนาด เพื่อแสดงให้เห็นว่าการขาดความ พอดีหรือความเหมาะสมจะส่งผลเสียอย่างไร โดยอาศัยการ เปรียบเทียบคาที่สื่อความหมายเข้าคู่กันได้ตามการรับรู้ของคนทั่วไป ไดแ้ ก่
บทวเิ คราะห์ จระเขค้ บั นา่ นนา้ ๓๔ รถใหญ่กวา่ รถั ยา โคลงโลกนติ ิ เสอื ใหญ่กวา่ วนา ไฉนหา ภักษเ์ ฮย เรอื เขือ่ งคบั ชเลแล้ ยากแท้ ไฉนอยู่ ได้แฮ แล่นโล้ไปไฉน จระเข้ กับ แม่น้า - จระเข้ หากมีขนาดใหญ่กว่าแม่น้า ย่อมหาเหยื่อ ไดย้ าก รถ กบั ถนน - รถ หากมขี นาดใหญ่กว่าถนน ยอ่ มสญั จรติดขัด เสือ กับ ปา่ - เสอื หากมีขนาดใหญก่ วา่ ปา่ ยอ่ มมีชีวิตอยู่อย่างลาบาก เรือ กับ ทะเล - เรือ หากมีขนาดใหญ่กว่าทะเล คงแล่นไปไหน ไมไ่ ด้ จดุ มงุ่ หมายของโคลงบทนี้ คือ สอนให้ทุกคนดารงตนหรือดาเนินชีวิต ใหพ้ อเหมาะกับสภาพแวดล้อมและฐานะความเปน็ อยู่
บทวเิ คราะห์ ๓๕ ๓) การเล่นเสียง เป็นการใช้สัมผัสสระหรือสัมผัสอักษรใน วรรคเดียวกันช่วยทาให้เกิดความไพเราะ มีลีลาจังหวะ และเสียงของ คากลมกลนื กนั ดังในโคลงบทท่กี ล่าววา่ โคลงโลกนิติ สงู สารสีเ่ ท้ายา่ ง เหยยี บยัน บางคาบเช่ยี วไปพลัน พลวกพล้งั นักรรู้ ่าเรียนธรรม์ ถงึ มาก ก็ดี กลา่ วด่ังนา้ ผลง้ั ผลง้ั พลาดถ้อยทางความ โคลงบทนี้ใช้การเล่นเสียงสัมผัสอักษร เพื่อเน้นเนื้อความซึ่งเป็น การเปรียบเทียบกันระหว่างสัตว์สี่เท้า คือ ช้าง และสัตว์สองเท้า คือ คน ซึ่งใน ทนี่ ี้ได้แก่ นักปราชญ์ วา่ ชา้ ง แม้สงู ใหญ่และใช้เท้าถึงสี่ข้างในการเดิน บางครั้ง หากรีบร้อนก็อาจทาให้เดินหรือก้าวพลาดได้ เช่นเดียวกับนักปราชญ์ แม้จะมี ความรู้ แต่หากรีบร้อน โดยเฉพาะในเรื่องของการพูด คือ ขาดความระมัดระวังใน การพูด ก็อาจพูดผิดหรือพูดในสิ่งที่ก่อให้เกิดความเสียหายและไม่เป็นประโยชน์ ได้
๓๖ โคลงโลกนติ ิ โคลงโลกนิติ นอกจากจะได้รับการยอมรบั ว่า เปน็ หนงั สอื ทแ่ี ต่งดมี ีศิลปะ การประพนั ธ์ที่โดดเดน่ ทั้งในดา้ นถอ้ ยคาและสานวนภาษาทม่ี ีความไพเราะ และอ่านเข้าใจง่าย ยังเปน็ วรรณคดีที่ทรวคณุ คา่ ควรแกก่ ารศึกษาและสามารถนาคาสอนในเร่อื งต่าง ๆ ไปปรับใช้ใน การดาเนินชีวิตประจาวันในปจั จุบันได้ เป็นอยา่ งดี
๓๗ ความรเู้ พิ่มเติม โคลงโลกนิติ https://www.youtube.co ครดู ิว m/watch?v=Fyv94XXkVI A บท https://www.youtube.com อาขยาน /watch?v=1-zQQM4ppkY
๓๘ คาถามท้ายบท ๑. โคลงโลกนิตมิ เี นอื้ หาแบบใด ก. เป็นคาสอนในด้านต่าง ๆ ท้ังทางโลกและทาง ธรรม ข. เป็นคาภาษาองั กฤษท่ีนามาสอนในไทย ค. เป็นคาท่แี ปลมาจากคาภาษาตา่ งประเทศมาใช้ สอนในไทย ง. เปน็ สานวนสุภาษิต และคาสอน
๓๙ คาถามท้ายบท ๒. ใครเป็นผแู้ ต่งโคลงโลกนติ ิ ก. สุนทรภู่ ข. สมเด็จพระเจ้าบรมวงศเ์ ธอ กรมพระยาเดชาดิศร ค. สมเด็จพระเจ้าบรมวงศเธอ กรมหลวงพระยาเดชาดิศร ง. สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดารงเดชานุ ภาพ
๔๐ คาถามท้ายบท ๓. ข้อใดต่อไปนี้ไม่ใช่งานประพันธ์ของสมเด็จพระ เจา้ บรมวงศเ์ ธอ กรมพระยาเดชาดิศร ก. โคลงโลกนิติ ข. โคลงนริ าศเสดจ็ ไปทัพเวยี งจนั ทน์ ฉนั ทส์ ังเวย ค. พระมหาเศวตฉตั ร ง. พระมหาเวสสันดร และนริ าศ
๔๑ คาถามทา้ ยบท ๔. สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาเดชาดิศร สนิ้ พระชนมอ์ ายุกพี่ ระชนั ษา ก. พระชันษาได้ ๔๗ ปี ข. พระชนั ษาได้ ๕๗ ปี ค. พระชนั ษาได้ ๖๗ ปี ง. พระชันษาได้ ๗๗ ปี
๔๒ คาถามทา้ ยบท ๕. ปัจจุบันโคลงโลกนิติที่ได้รับการชาระรัชกาลที่ ๓ โปรดเกล้าฯ ให้จารกึ ไว้ท่ีใด ก. วดั เบญจมบพิตร ข. วดั พระศรีรตั นศาสดาราม ค. วดั พระแกว้ ง. วัดพระเชตุพนวมิ ลมังคลาราม
๔๓ คาถามทา้ ยบท ๖. ลักษณะคาประพันธ์ของโคลงโลกนติ ิ เป็นแบบใด ก. โคลงสองสุภาพ ข. โคลงสามสภุ าพ ค. โคลงสีส่ ุภาพ ง. โคลงโลกนิติ
๔๔ คาถามทา้ ยบท ๗. โคลงโลกนติ บิ างบทเปน็ โคลงกระทู้ โคลงกระท้ใู นท่นี ้ีมกี ชี่ นดิ ก. ๑ ชนดิ ข. ๒ ชนิด ค. ๓ ชนิด ง. ๔ ชนิด
Search