กั ณ ฐ วี ร์ ทิ พ ย์ สุ น ท ร ศั ก ดิ ชั น 2 / 2 เ ล ข ที 3 ÊÑµÇ»Ò ààÅСÒÃ㪪ÇÕ µÔ
คํานาํ รายงานเลม่ นจี ดั ทาํ ขนึ เพือเปนส่วนหนึงของวชาคอมพวิ เตอร์ชัน 2/2เพอื ใหไ้ ดศ้ ึกษาหาความรู้ในเรองสัตวป์ าและไดศ้ กึ ษาอย่างเข้าใจ เพอื เปนประโยชนก์ ับการเรยน ผจู้ ัดทาํ หวงั วา่ รายงานเล่มนีจะเปนประโยชน์กบั ผ้อู า่ น หรอนักเรยน นกั ศกึ ษา ทีกาํ ลงั หาขอ้ มูลเรองนอี ยู่ หากมขี ้อแนะนําหรอขอ้ ผิดพลาด ประการใด ผจู้ ดั ทําขอน้อมรับไวแ้ ละขออภยั มา ณ ทีนีด้วย ผู้จัดทาํ กัณฐวร์ ทพิ ส์ นุ ทรศกั ดิ วนั ที 30 มิถนุ ายน พ.ศ. 2564
สารบญั 4 5 1.เสือโครง 6 เสือโครงอาศัยอยทู ่ไี หนบาง? 7 ลกั ษณะภายนอกของเสอื โครง ? 8 รูปภาพเสือโครง 9 2.ชา้ ง 10 11 ลกั ษณะทวั่ ไปของชาง? 12 13 นิสัยของชาง 14 รูปภาพชาง 15 3.ยรี าฟ ลักษณะพิเศษ สงิ่ ท่ีนาสนใจ อาหาร การสบื พันธุ รูปภาพยีราฟ อา งองิ
เสือโคลง เสือโคร่งอาศยั อยู่ทีไหนบา้ ง ? โดยปกติเสือโครงจะกระจายตัวอยูในเขตผืนปาทัว่ ทวีป เอเชียและทางตะวนั ออกของรัสเซยี ในชว งหน่ึงศตวรรษท่ี ผานมาพบวาเสอื โครง สว นใหญเดินทางไปมาในแถบทวีป เอเชยี ปัจจุบนั แหลงที่อยอู าศัยของเสอื มีขนาดลดลงเหลอื เพยี งรอ ย ละ 7 จากขนาดพ้นื ที่เดมิ เสือและลกั ษณะเฉพาะในแตล ะถิ่น เสือตอ งการท่อี ยูอาศยั ท่สี มบรู ณ อดุ มดวยเหย่ือท่ีเป็นแหลง อาหาร และมีแหลงน้ําเพยี งพอสําหรบั การดาํ รงชีวิต เสอื ตา งชนิดจะอาศยั อยใู นสิง่ แวดลอ มที่ไมเหมือนกนั เชน บางชนิดอาศัยอยใู นปาดิบช้ืน บางชนิดอยใู นปาดงดบิ หรอื ปา ชายเลน อยางเชน เสอื ในภูฏานอาศัยอยูใ นพ้นื ทีส่ ูงกวา ระดับน้ําทะเล ถงึ 4,000 เมตร และอยูในเขตพ้นื ทีเ่ ดียวกบั เสอื ดาวหมิ ะ แตในซนั เดอรแบน ประเทศอินเดยี เสือสามารถวายน้ําในปา ชายเลนกบั ฉลามหวั บาตรและจระเข 4
ลกั ษณะภายนอกของเสอื โคร่ง? สแี ละลวดลาย ส่วนบนของเสอื โคร่งมสี ีตงั แต่โทนแดงสม้ ไปยงั เหลอื ง ปนนําตาล ส่วนลา่ งเปนสีขาว ลาํ ตวั ยงั มีลายพาดผา่ น เปนสดี าํ และเทาเข้ม ลวดลายของเสอื แตล่ ะตัวจะต่างกัน และทังสองด้าน ของลําตัวก็จะมีลวดลายไมเ่ หมือนกันด้วย ในความ เปนจรง ลวดลายของเสอื โคร่งแต่ละตวั ไมม่ ีความแตก ต่างกนั มากนัก เสือตวั ผู้สังเกตได้จากขนทคี อ ซึงจะเห็นได้ชัดเจนใน เสือสุมาตรา เสือเบงกอลบางตัวมสี ีขาวหรอครมแทนทจี ะเปนสสี ม้ เนอื งจากปรากฎอยู่ในลกั ษณะดอ้ ยของยนี ทแี สดงสี บางครังถูกเรยกว่าเสอื “ขาว” นอกจากนี เสือ เบงกอลยงั มีจมกู สีชมพูและตาสฟี า ขนาด ขนึ อยู่กบั เสอื แตล่ ะสายพนั ธ์แุ ละเพศ ความยาวของลาํ ตวั รวมความยาวของหางแลว้ อยู่ทีประมาณ 140-300 เซนติเมตร ความยาวหางอยู่ทีราว 60-95 เซนติเมตร นาํ หนกั เสอื เพศผใู้ นสายพนั ธเ์ุ สอื ไซบีเรยซึงเปนสายพนั ธทุ์ ใี หญ่ ทสี ุด อาจจะมนี ําหนักถงึ 300 กิโลกรัม ในขณะทีเพศผู้ ของสายพันธทุ์ เี ลก็ ทีสดุ นันคอื เสือสุมาตรา มีนําหนักอยทู่ ี ประมาณ 100-140 กโิ ลกรัม ในแต่ละสายพันธ์ุ เสอื เพศผู้ มกั จะหนักกว่าเสอื เพศเมยี 5
6
ช้าง ลักษณะทัวไปของช้าง ธรรมชาตขิ องชาง ชางทุกชนิดไมวา จะเป็นชางพันธุเอเชยี หรอื พนั ธุแ อฟรกิ า มคี วามเป็นอยูเหมอื นกันอยูอยางหน่ึง คือ ชอบ อยูเ ป็นฝูง ชาง ฝูงหน่ึงมกั ประกอบดวยชา ง ๕ - ๑๐ เชือก แตล ะฝงู จะมีชางพลายตวั หน่ึงเป็นหัวหน า ซ่ึงมกั จะเป็นตวั ท่ี แข็งแรงทส่ี ุดของ ฝูง มหี น าทค่ี อยเป็นผปู กปักรกั ษา และ ป องกนั อนั ตรายใหแกชา งในฝงู ของตน และเป็นผูน ําฝงู ไปหา อาหารในแหลง ท่ี มี ความอุดมสมบรู ณ ชางปาทห่ี ากินอยตู ัว เดียว ถาไมใ ชช างแกซ่ึงเดนิ ตามเพ่ือนฝูงไมทัน มักจะเป็นชา ง เกเรทีถ่ กู ขับออกจากฝงู เรยี กวา \"ชางโทน\" ชา งโทนนี้มนี ิสัย ดรุ าย ซ่งึ อาจเป็นอนั ตรายแกผูพบเห็นได ชา งไทยหรือชา ง เอเชยี มนี ิสยั ชอบอากาศเย็น และไมชอบแสง แดดจัด ฉะนัน้ เม่อื เรานํามันมาฝึกใชงาน เชน งานชักลากไม เราจึงใชงานชา ง เฉพาะตอนเชา ตงั้ แต ๖.๐๐-๑๒.๐๐ น. สวนตอน บา ยตอ งใหมนั หยดุ พกั ผอน นอกจากนัน้ เม่อื เราใชง านมันตดิ ตอ กนั ไป ๓ วัน เราจะตอ งใหมนั หยดุ พกั งานอีก ๑ - ๒ วัน แลว จงึ ใหมนั ทํางาน ใหม ทัง้ นี้กเ็ พราะวา ชางเป็นสตั วท่ีมโี รคภัยเบียดเบียนไดงาย ถา เราใชงานมันหนักเกินไป มันอาจ จะเกิดเจ็บปวยข้ึนในฤดทู ่ี มอี ากาศรอ นจัด คือ ระหวางเดือนมนี าคม - พฤษภาคม 7
นสิ ัยของชา้ ง ชา งเอเชยี หรือชางไทยโดยทวั่ ๆไป เม่อื นํามาฝึกใหเ ช่ืองเพ่อื ใชงานไดแลว จะมีนิสัยฉลาด สุภาพ และรักเจา ของ เวนแต ใน บางขณะ เชน ในเวลาตกมันซ่งึ ก็เป็นเพียงในชวั่ ระยะ เวลาหน่ึงเทา นัน้ ในเวลาตกมนั ชางจะมนี ิสัยดรุ า ย จะทาํ ราย ชา ง ดวยกันเองหรอื ทํารายเจาของ ตลอดจนสง่ิ ของที่อยู ใกล ๆ เม่อื พน ระยะตกมันแลว นิสัยดุรายจะหายไปเอง ชา ง บางเชือกอ าจจะมีนิสัย เกเรมาตงั้ แตกาํ เนิด แตก็ไมมากนัก โดยปกตชิ างเป็นสตั วท ีต่ ่ืนกลัวสงิ่ ของหรอื สตั วท ี่มันไมค อย พบเหน็ โดยเฉพาะ ชางเป็นสตั วท ี่มีความรูสึกทางกลน่ิ ไดด ี มาก และมักจาํ กลนิ่ ท่มี ันเคยชนิ ไดด ี ในดานความฉลาดของ ชางเอเชยี หรอื ชางไทยนัน้ จะเห็น ไดจากการทม่ี นั แสดง ละครสัตวห รอื ในดา นการไม มนั ไดแ สดงความเฉลยี วฉลาด ของมนั ออกมา ในดานการรักลูก มันรูจักสง เสยี งดุลูกหรือ ใชงวงตีเม่อื ลูกของมันซน นอกจากนัน้ ยังมผี เู คยพบวา มัน ยืนเฝ าศพลูกของมันที่ฝังดนิ ไวเ ป็นเวลา ๒-๓ วนั ก็มี 8
9
ยรี าฟ ลักษณะพเิ ศษ ดว ยความท่ีเป็นสตั วตวั สูง ยรี าฟจําเป็นตอ งมีหัวใจขนาด ใหญเ พ่อื หมุนสบู ฉีดเลือดไปเลีย้ งสมอง ยีราฟสามารถสูบ ฉีดเลือดไปเลยี้ งสมองไดมากกวา มนุษยถ ึง 3 เทา เพ่อื ไป เลีย้ งสมองท่อี ยสู ูงข้นึ ไปประมาณ 8 ฟตุ เสมอื นกับปั๊มน้ํา ท่สี บู น้ําข้ึนไปยงั ตึกสงู หัวใจของยรี าฟหนักประมาณ 10 กิโลกรมั ระบบไหลเวียนโลหติ จงึ เป็นแบบพเิ ศษ เรยี กวา \"Rete mirabile\" ชวยป องกนั อนั ตรายทอ่ี าจเกดิ จากการท่ี เลอื ดไปเลยี้ งสมองมากเกนิ ไปเวลายรี าฟกมตัวด่มื น้ํา ระบบไหลเวียนเลือดพเิ ศษนี้จึงเปรยี บเสมอื นน้ํา ยรี าฟ เป็นสตั วท่กี ินพชื กินไดท ัง้ หญาที่ข้ึนอยูกับพ้นื และ พุม ไมสงู ๆ โดยเฉพาะพมุ ไมประเภทอาเคเชยี หรอื กระถนิ ณรงคท มี่ ีหนามแหลม มรี สฝาด และมีพษิ แตยีราฟก็ สามารถกนิ ไดอ ยางไมม ีปัญหา เพราะมลี ิน้ ท่ียาวถึง 45-47 เซนติเมตร และมคี วามหนาสาก ใชต วดั กินไดโ ดยไมไดร ับ อนั ตราย และทนทานตอสารพษิ ไดในระดับหน่ึง[4] แตเ ม่อื ยรี าฟจะด่ืมน้ําหรือกินอาหารที่อยพู ้นื ลา ง ตองถางขาทัง้ คู หน าออก และกมคอลง เพราะมกี ระดูกทข่ี อ ตอ ตนคอเพยี ง 7 ขอเทา นัน้ นับเป็นชว งทีย่ ีราฟจะไดร ับอนั ตรายจากสัตว กนิ เน้ือทีบ่ กุ จโู จมได เพราะเป็นชวงที่อยูใ นทา ท่ีไมคลอ ง ตวั [5] วนั ๆ หน่ึงยรี าฟจะกนิ อาหารเฉล่ียวันละ 20-30 กโิ ลกรัม ขณะท่นี อนหลับในทายนื เพียงวันละ 2 นาที-2 ชวั่ โมงเทานัน้ ยีราฟเม่ือว่งิ จะวิง่ ไดไ มนานนักเน่ืองจากหัว 10
สงิ ทนี ่าสนใจ : เปนสัตว์บกทีสงู ทีสดุ มคี อยาวมาก มีเขาทงั ในตวั ผูแ้ ละตวั เมีย ไม่ผลัดเขา เขามขี น ปกคลุมอยู่ หนงั มขี นสันสีนาํ ตาล มลี ายขาว แปลกตา ปากและลินยาว ใช้รมฝปาก และ ลินม้วนวนจับใบไมไ้ ด้ มีเตา้ นม 4 เตา้ ถนิ อาศัย : พบเฉพาะในทวปแอฟรกา แถบทงุ่ หญ้าสะ วันนา ทางตอนใตข้ องทะเลทรายซาฮาร่า ตงั แตไ่ นจเี รยไปจนจรดแม่นําออเรนจ์ สถานภาพปจจุบัน : สิงมีชวี ตทีมีความเสียงตําต่อการสูญพนั ธุ์ อายเุ ฉลยี : ในสวนสัตว์ยีราฟมอี ายุขยั ประมาณ 25 ป ส่วนในปาอย่ใู นชว่ ง 10 - 15 ป 11
อาหาร ยรี าฟจะเล็มใบไมจ้ ากกงิ ไมใ้ นระดบั สงู ของ ต้นไม้ โดยเฉพาะใบไมต้ ระกูลอาแคเซีย ซงึ ใบไม้จะมีแคลเซยี มและโปรตนี ทีเหมาะกับ การอตั ราการเจรญเติบโตของยรี าฟ โดยใน หนึงวันยีราฟกนิ ใบไมเ้ ฉลยี 34 กิโลกรัม ซงึ เปนปรมาณทนี อ้ ยเมือเทยี บกบั นําหนกั ตัว เนืองจากใบไมเ้ ปนพืชอาหารทีมีคณู ภาพ และระบบทางเดนิ อาหารของยรี าฟเปน ระบบทมี ีประสิทธิภาพ คือเปนสตั ว์กนิ พชื ที อยใู่ นกลุม่ ทมี กี ารขย้อนอาหารทีย่อยแล้ว บางสว่ นออกมาเคยี วซํา ( สัตวเ์ คียวเอือง )และกระเพาะอาหารแบง่ ออกเปน 4 สว่ น เพอื ช่วยในการย่อยพืชอาหาร 12
การสบื พนั ธุ์ การผสมพันธขุ องยรี าฟจะเป็นไปในลกั ษณะทเี่ รยี กวา Polygamous คือตัวผูท่แี ข็งแรงที่เอาชนะเพศผูตัวอ่ืนใน พ้ืนทแ่ี หง นัน้ ซ่งึ ยีราฟเพศผจู ะรวู าเพศเมียตัวใดอยูใ น สภาวะเป็นสัดหรือไม ดวยการทดสอบจากปัสสาวะของเพศ เมีย และการแสดงออกทางใบหน าที่มคี ําศพั ทว า Flehmen respond ( ดภู าพประกอบ ) เม่อื ยรี าฟเพศผพู บยีราฟเพศ เมยี ทอี่ ยูในชว งการเป็นสัด ยีราฟเพศผูจะพยายามเดินตาม เพ่อื ผสมพันธุ การเกีย้ วพาราสี ยีราฟเพศผจู ะเอาคอพักที่หัว หรอื คอของเพศเมยี ทเี่ ป็นสดั ในชวงการผสมพนั ธุยีราฟเพศ ผจู ะยืนเอาสวนหน าอกชดิ สวนทา ยของยรี าฟเพศเมีย และ ชวงการผสมขาหน าพกั ขาทีบ่ ริเวณดานบนของเชิงกราน ยีราฟเพศเมีย 13
14
อา้ งอิง https://www.wwf.or.th/what_we_do/conservation_o f_tigers_khlong_lan_and_mae_wong/about_the_tig er/ https://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%8A%E0%B 9%89%E0%B8%B2%E0%B8%87 https://www.bangkokbiznews.com/news/detail/944 440 https://home.maefahluang.org/17619518/giraffe https://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%A2%E0%B 8%B5%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%9F_(%E0 %B8%AA%E0%B8%81%E0%B8%B8%E0%B8%A5) 15
Search
Read the Text Version
- 1 - 16
Pages: