คำนำ คู่มือการบรหิ ารจัดการหลักสูตรอสิ ลามศึกษาเพ่ือเสริมสร้างสมรรถนะพลเมืองวิถีอิสลาม (Islamic Studies Curriculum Management Model for Enhancement of Islamic Citizenship Capacity) ฉบับนี้จัดทำข้ึนเพื่อใหโ้ รงเรียนในสังกัด สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ได้ นำไปใช้เป็นแนวทางในการบริหารจัดการหลักสูตรอิสลามศึกษาแบบเข้ม ตามหลักสูตรแกนกลาง การศึกษาขั้นพื้นฐาน พ.ศ 2551 ตามบริบทของแต่ละโรงเรียน ให้ดำเนินการได้อย่างเป็นระบบ ตอบสนองความต้องการของผู้เรียนและชุมชน ผู้เรียนเกิดสมรรถนะที่สามารถนำไปใช้ใน ชวี ิตประจำวันได้อยา่ งแทจ้ ริง คมู่ อื รปู แบบการบรหิ ารจัดการหลกั สูตรอิสลามศึกษาเพื่อเสรมิ สรา้ งสมรรถนะพลเมืองวิถี อ ิ ส ล า ม ( Islamic Studies Curriculum Management Model for Enhancement of Islamic Citizenship Capacity) ประกอบดว้ ย สว่ นท่ี 1 ทีม่ าของรูปแบบ สว่ นที่ 2 รปู แบบการบริหารจัดการ หลักสูตรอิสลามศึกษาเพื่อเสริมสร้างสมรรถนะพลเมืองวิถีอิสลาม และ ส่วนที่ 3 เครื่องมือการ ดำเนินการ หวังเปน็ อย่างยิ่งวา่ ค่มู อื ฉบับนี้จะมีประโยชน์สำหรับผบู้ รหิ ารโรงเรยี นสามารถนำไปใช้พัฒนา คุณภาพการจัดการเรียนการสอนอิสลามศึกษาแบบเข้ม สร้างความเข้าใจที่ตรงกันของผู้มีส่วน เกี่ยวข้องในการบรหิ ารจัดการหลกั สตู รอิสลามศึกษาแบบเข้ม และเพ่มิ ความสะดวกในการนำหลักสูตร ไปใช้ไดอ้ ย่างมปี ระสิทธิภาพต่อไป นางนายบี ะห์ ดาหายี
สารบญั หนา้ เร่อื ง 15 คำนำ 16 สารบญั 16 สว่ นที่ 1 ท่ีมาของรูปแบบ 18 19 ชือ่ รูปแบบภาษาไทย 24 ช่ือรปู แบบภาษาองั กฤษ 25 แนวคิดหลักการ 26 วตั ถุประสงค์ของคู่มือ 27 ประโยชนข์ องคู่มอื 31 ขอบเขตของคู่มือ 32 34 ขอบเขตดา้ นเนื้อหา ขอบเขตด้านระยะเวลา ส่วนท่ี 2 รูปแบบการบริหารจดั การหลกั สตู รอสิ ลามศึกษาเพือ่ เสริมสร้าง สมรรถนะพลเมืองวิถีอิสลาม กำหนดเป้าหมายรว่ มกับชมุ ชน วางแผนวิเคราะหห์ ลักสูตรอสิ ลามศกึ ษา จัดกจิ กรรมออกแบบหน่วยการเรียนร้อู ิสลามศึกษาแบบบูรณาการ จดั กจิ กรรมเสริมสร้างคุณลกั ษณะตามวถิ ีอิสลาม แลกเปลย่ี นเรยี นร้แู ละร่วมถอดบทเรยี นโดยชมุ ชนมีสว่ นร่วม สว่ นที่ 3 เครื่องมือการดำเนนิ การ แบบบนั ทกึ การระดมความคดิ เห็น แบบบันทึกการวิเคราะหห์ ลกั สตู รอสิ ลามศกึ ษา 2551 การวิเคราะห์มาตรฐานการเรียนร้สู ู่หน่วยการเรียนรู้ แบบประเมนิ คุณภาพหน่วยการเรียนรู้ แผนการจัดการเรยี นรบู้ ูรณาการ แบบประเมนิ คุณภาพแผนการจดั การเรยี นรู้ แบบนเิ ทศการเรียนการสอนของครู แบบประเมนิ คณุ ลักษณะตามวิถอี ิสลาม แบบสรปุ ผลการประเมนิ คุณลักษณะตามวิ ถอี สิ ลาม
สารบัญ หนา้ 35 เรอ่ื ง ง แบบบนั ทกึ การถอดบทเรยี น บรรณาณุกรรม
บทท่ี 1 บทนำ 1. ท่ีมาและความสำคัญ การจัดการเรียนการสอนอิสลามศึกษา หลักสูตรอิสลามศึกษา ตามหลักสูตรแกนกลาง การศึกษาขั้นพื้นฐาน พ.ศ 2551 ในโรงเรียนของรัฐ พบว่า มีปัญหาในเรื่องของการนำหลักสูตร ไปใช้ ซึ่งเป็นขั้นตอนสำคัญของการจัดการเรียนการสอนในสถานการณ์จริง เป็นการแปลงหลักสูตรสู่การ ปฏิบัติจริงในห้องเรียน ซึ่งผู้เกี่ยวข้องหลัก คือ ผู้บริหารและครูผู้สอน ขาดความเข้าใจที่ชัดเจนใน บทบาทหน้าที่ของตนเอง ส่งผลต่อคุณภาพของการจัด การเรียนการสอนและการเรียนรู้ของผู้เรียน ผเู้ รียนมีความรู้ มเี จตคติ แต่ขาดทกั ษะในการนำไปใชจ้ ริงในชีวติ ประจำวัน หรอื ขาดสมรรถนะทส่ี ำคัญ ตามวิถีอิสลาม ท่ีเป็นวิถีการดำรงชีวิตของชาวมุสลิม ที่ผูกพันกับหลักคำสอนของศาสนาอิสลาม เป็น คำสอนที่ครอบคลุมทุกมิติของการใช้ชีวิต ทั้งทางโลกและทางธรรม เป็นการอบรม ขัดเกลาจิตใจ บ่ม เพาะสติปัญญา ร่างกายและจิตวิญญาณ เพื่อให้เป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์ มีระเบียบวินัย มีคุณธรรม จริยธรรม สามารถอยู่ร่วมกันในสังคมได้อย่างสันติสุข ซึ่งถูกกำหนดขึ้นจากเนื้อหาของบทบัญญัติ ในคมั มภรี อ์ ัลกุรอาน และคำสอนของศาสดามูฮมั มดั ในหลกั คำสอนท้งั สองนั้นไดร้ วมความหลากหลาย ของศาสตร์ต่าง ๆ โดยเฉพาะในส่วนการสร้างสังคมสันติสุข บนการยอมรับความแตกต่างและความ หลากหลาย ถือเป็นเรื่องสำคัญที่อธิบายได้ถึงการสร้างสังคมบนฐานของการทำความดี และหักห้าม การทำความเลวร้ายทั้งแก่ตนเองและสังคม การอยู่ร่วมกันด้วยความรู้สึกที่ดีต่อกัน ความสัมพันธ์ ดังกล่าวไม่มีขีดจำกัดเฉพาะเพียงการสร้างความสัมพันธ์ระหว่างมุสลิมต่อมุสลิมเท่านั้น แต่ในเนื้อหา ของหลักคำสอนมีเป้าประสงค์ที่จะทำให้เกิดความสัมพันธ์โดยไม่มีขีดจำกัดทางศาสนา วัฒนธรรม ภาษาและพรมแดน ผู้ศึกษาได้ศึกษาอัลกุรอาน ฮาดิษ เอกสารวิชาการที่เกี่ยวข้อง บริบทและความ ต้องการของชุมชน ซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด จึงได้กำหนดสมรรถนะพลเมืองวิถีอิสลาม ตามความ ต้องการของชุมชนที่ต้องการให้เริ่มปลูกฝังผู้เรียนในช่วงวัยชั้นประถมศึกษาปีที่ 1-6 ประกอบด้วย 1) ความสามารถของการเป็นมุสลิมที่เข้มแข็ง 2) ความสามารถในการคิดภายใต้หลักการของอิสลาม 3) ความสามารถในการอา่ นอัลกุรอาน 4) ความสามารถในการอย่ใู นสงั คมพหวุ ัฒนธรรม ซึ่งหลักสูตรอิสลามศึกษาตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 มุ่งหวังให้ผู้เรียน ได้เรียนรู้เกี่ยวกับศาสนาอิสลามที่เน้นการเชื่อมโยงความรู้กับกระบวนการ ทักษะ การปฏิบัติ การค้นคว้าและสร้างองค์ความรู้ โดยใช้กระบวนการในการสืบเสาะหาความรู้ และการแก้ปัญหาที่หลากหลาย ให้ผู้เรียนมีสว่ นร่วมในการเรียนรู้ทุกขั้นตอน มีการทำกิจกรรมด้วย การลงมือปฏิบัติจริงอย่างหลากหลาย เหมาะสมกับระดับชั้น โดยได้กำหนดสาระสำคัญ ดังนี้ 1) สาระอัล-กุรอาน ศึกษาประวัติ ความสำคัญ ทักษะการอ่าน ท่องจำและหลักการอรรถาธิบายอัล- กุ
รอาน ยึดมั่นและนำไปปฏิบัติตามบทบัญญัติของอัล-กุรฺอานในชีวิตประจำวัน 2) สาระอัล-หะดีษ ศึกษาความรู้ ความเข้าใจ หลักคำสอน ท่องจำอัล-หะดีษ ยึดมั่นและปฏิบัติตามบทบัญญัติจากอัล- หะดีษในชีวิตประจำวัน 3) สาระอัล-อะกีดะฮ (หลักศรัทธา) ศึกษาความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับหลัก ศรัทธาและหลักฐานอ้างอิง ยึดมั่นและนำไปปฏิบัติอย่างถูกต้อง 4) สาระอัล-ฟิกฮ (บัญญัติศาสนา) ศึกษา ความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับหลักการและบทบัญญัติของศาสนาอิสลามเกี่ยวกับอิบาดาต มุอา มาลาต มนุ ากาฮาต และญินาญาต เพ่อื เป็นแนวทางในการปฏบิ ัติศาสนกิจและการดำเนินชีวติ ในสังคม อย่างมีความสุข 5) สาระอัตตารีค (ศาสนประวัติ) ศึกษาความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับประวัติ ความ เปน็ มา ความสำคัญของแตล่ ะยุคสมยั ทางประวตั ิศาสตร์อิสลาม สามารถใช้วธิ ีการทางประวัติศาสตร์ มาวิเคราะห์ เหตุการณ์ต่างๆอย่างเป็นระบบ และเกิดความตระหนักในการนำมาประยุกตใ์ ช้เพ่ือการ อยู่ร่วมกันอย่างสันติสุข 6) สาระอัล-อัคลาก (จริยธรรม) ศึกษาความรู้ ความเข้าใจ การยึดมั่นและ ปฏิบัติตนตามคุณธรรมและจริยธรรมอิสลาม ในการพัฒนาตน บำเพ็ญประโยชน์ต่อครอบครัว สังคม และสิ่งแวดล้อมเพื่อการอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุข 7) สาระภาษาอาหรับ ศึกษาความรู้ ทักษะ เจตคติ และเหน็ คณุ คา่ ในการใชภ้ าษาอาหรับ เพื่อการสื่อสารและคน้ คว้าบทบัญญัติของศาสนาอิสลามและ 8) สาระภาษามาลายู ศึกษาความรู้ ทักษะ เจตคติและเห็นคุณค่าในการใช้ภาษามลายูเพื่อการสื่อสาร และค้นคว้าบทบัญญัติของศาสนาอิสลามอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อให้เป็นเป้าหมายในการพัฒนา ผู้เรียนและตรวจสอบคุณภาพการศึกษาในแต่ละระดับการศึกษาทั้งด้านองค์ความรู้ ทักษะหรือ กระบวนการเรียนรู้และตรวจสอบคุณภาพการศึกษาในแต่ละระดับการศึกษา ทั้งด้านองค์ความรู้ ทักษะหรือกระบวนการเรียนรู้ และคุณลกั ษณะหรือคา่ นิยมที่พึงประสงค์ คุณธรรม และจริยธรรมของ ผเู้ รยี น (กระทรวงศึกษาธกิ าร, 2553) สำหรับการบริหารจัดการหลักสูตรอิสลามนั้นเป็นการบริหารหลักสูตรแบบบูรณาการท่ี นำศาสตร์สาระอิสลามแบบบูรณาการเป็นการสอนโดยนำสิ่งหรือเรื่องที่เกี่ยวข้องมาผสมผสานกัน เพื่อให้กระบวนการถ่ายทอดความรู้มีความชัดเจน สนองตามความต้องการของชุมชนให้ผู้เรียนเกิด สมรรถนะพลเมืองวถิ ีอสิ ลามทัง้ 4 ประการ ทส่ี อดคล้องกับการนำไปใชใ้ นชวี ติ จริง คู่มือเล่มนี้ ใช้เพื่อเป็นแนวทางการบริหารจัดการหลักสูตรอิสลามศึกษาเพื่อเสริมสร้าง สมรรถนะพลเมืองวถิ อี สิ ลาม ใหผ้ ู้เรยี นตามทช่ี มุ ชนและสังคมคาดหวงั ตอ่ ไป 2. วัตถุประสงค์ของคู่มอื 4.1 เพ่อื เป็นแนวทางปฏิบัติทางการบรหิ ารจดั การหลักสูตรอิสลามศึกษาเพอื่ เสริมสรา้ ง สมรรถนะพลเมอื งวิถอี ิสลาม 3. ประโยชน์ของคู่มือ
5.1 คู่มือรูปแบบการบริหารจัดการหลักสูตรอิสลามศึกษาเพื่อเสริมสร้างสมรรถนะ พลเมืองวิถีอิสลามฉบับนี้มีประโยชน์สำหรบั ผู้บริหารโรงเรียนสามารถนำไปใช้ในการบริหารหลกั สูตร อสิ ลามศกึ ษา เพอ่ื พัฒนาคณุ ภาพการจดั การเรียนการสอนอสิ ลามศึกษาแบบเข้ม 5.2 คู่มือรูปแบบการบริหารจัดการหลักสูตรอิสลามศึกษาเพื่อเสริมสร้างสมรรถนะ พลเมืองวิถีอิสลาม ฉบับนี้มีประโยชน์ในการสร้างความเข้าใจที่ตรงกันของผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในการ บริหารจดั การหลกั สตู รอสิ ลามศึกษาแบบเข้ม 5.3 คู่มือรูปแบบการบริหารจัดการหลักสูตรอิสลามศึกษาเพื่อเสริมสร้างสมรรถนะ พลเมืองวิถีอิสลามฉบับนี้มีประโยชน์สำหรับการขยายผล เพื่อกำหนดเป็นนโยบายของเขตพื้นที่และ เป็นแนวปฏิบัตใิ ห้โรงเรยี นได้นำไปใช้ประโยชนใ์ นการบริหารจดั การหลกั สตู รอิสลามศึกษาแบบเข้ม 5.4 คู่มือรูปแบบการบริหารจัดการหลักสูตรอิสลามศึกษาเพื่อเสริมสร้างสมรรถนะ พลเมอื งวถิ อี ิสลามฉบับนชี้ ว่ ยเพิ่มความสะดวกในการนำหลกั สตู รไปใช้ได้อยา่ งมีประสทิ ธิภาพ 6. ขอบเขตของค่มู ือ 6.1 ขอบเขตดา้ นเน้อื หา การนำรูปแบบการบริหารจัดการหลักสูตรอิสลามศึกษาเพื่อเสริมสร้างสมรรถนะ พลเมืองวิถีอิสลาม จะต้องศึกษาหลักสูตรอิสลามศึกษา ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พทุ ธศกั ราช 2551 6.2 ขอบเขตด้านระยะเวลา การนำรปู แบบการบริหารจดั การหลกั สูตรอิสลามศกึ ษาเพ่ือเสริมสร้างสมรรถนะ พลเมืองวิถีอิสลาม ไปใช้ในการบรหิ ารจะใช้ระยะเวลา 1 ปี
บทที่ 2 แนวคิด ทฤษฎที ่ีเกี่ยวขอ้ ง การพัฒนารูปแบบการบริหารจดั การหลักสตู รอิสลามศึกษาแบบบรู ณาการ เพื่อเสริมสรา้ งคุณลกั ษณะตามวิถีอิสลาม วถิ ีอิสลาม เป็นวิถีที่ผู้นับถือศาสนาอิสลามหรือมุสลิมยึดถือและปฏิบัติ ที่ถูกวางแนวปฏิบัติใน ชีวิตประจำวันทุกอย่าง ตั้งแต่ตื่นนอนจนกระทั่งเข้านอน เช่น ศาสนกิจ การกิน การอยู่ การคบเพื่อน การครองเรือน การปฏิบัติต่อบิดามารดา ครอบครัว เพื่อนบ้าน การประกอบอาชีพ การเยี่ยมเยือน ผู้ป่วย การเจ็บป่วย การจัดการศพ การดูแลทรัพยากร หลักปฏิบัติเหล่านี้บอกวิธีปฏิบัติต่อตนเอง ต่อเพื่อนมนุษย์ต่อธรรมชาติและต่ออัลลอฮพร้อมกัน โดยมีหลักศรัทธา 6 ประการ และหลักปฏิบัติ 5 ประการ เป็นองค์ประกอบพื้นฐาน เป็นแนวทางการดำรงชวี ติ ต้ังแต่แรกจนถงึ วาระสุดท้ายของชวี ติ บนพืน้ ฐานคุณค่าและความเชือ่ เกี่ยวกบั การมชี ีวิตในโลกปจั จบุ ันและการมชี วี ิตในโลกหน้า หลักศรัทธาในอิสลามมี 6 ประการ เป็นข้อกำหนดสำคัญอันดับแรกที่มุสลิมต้องศรัทธา และเชอื่ มั่นอยา่ งบรสิ ุทธิใ์ จ ความสมบรู ณ์ ของมสุ ลมิ เบ้อื งต้นอยู่ท่กี ารยดึ มั่นในหลักศรัทธาในหลักการ ทั้ง 6 หากมีความสั่นคลอนก็จะมีผลต่อหลักการปฏิบัติด้วย ผู้ที่เป็นมุสลิมจะต้องศรัทธาในหลัก 6 ประการ เรียกว่า รูกนอหี ม่าน ไดแ้ ก่ 1. ศรัทธาต่ออัลลอฮ หรือพระเป็นเจ้ามุสลิมต้องศรัทธาในพระเป็นเจ้าพระองค์เดียว การศรทั ธาในพระเป็นเจ้าเป็นหวั ใจของการเป็นมสุ ลิม พระเป็นเจ้าในอสิ ลามเรียกว่า อัลลอฮพระนาม ของอัลลอฮ ปรากฎในคัมภรี อ์ ลั กรุ อานกวา่ 1,250 คร้งั 2. ศรัทธาในบรรดาเทวทูตหรือมลาอิกะฮ์ มลาอิกะฮเป็นสิ่งที่อัลลอฮ ซุบฮานะฮูวะตะ อาลา ทรงสร้างชนิดหนึ่งมีคุณลักษณะเฉพาะ เช่น ไม่กิน ไม่ดื่ม ไม่มีเพศ ไม่ขัดขืนคำสั่งของอัลลอฮ มนุษย์เราไม่อาจเห็นรูปร่างหรือตัวตนที่แท้จริงของมลาอิกะฮ ทำหน้าที่โดยเฉพาะ เช่น ญิบรีล ทำหนา้ ท่ี การนำโองการจากอัลลอฮ มาถ่ายทอดใหแ้ กศ่ าสดาไดท้ ราบเพื่อประกาศเทศนาตอ่ ไป 3. ศรทั ธาในบรรดาคมั ภรี ์ คัมภรี อ์ ัลกรุ อาน ไม่ใช่คัมภีรเ์ ลม่ เดยี วในศาสนาอสิ ลาม แต่ทว่า มคี มั ภีร์เล่มอนื่ ๆ อีกที่ศาสดาท่านก่อน ๆ ได้รับจากพระเจ้า เชน่ 1) ศาสดาดาวูด (เดวดิ ) ได้รับการประทานคัมภีร์ ซะบูร 2) ศาสดามูซาไดร้ บั การประทานคัมภรี ์ เตารอต 3) ศาสดาอีซาได้รับการประทานคมั ภีร์ อินญลี 4) ศาสดามูฮัมมดั ได้รบั การประทานคัมภีร์อัลกรุ อาน
คมั ภีร์อัลกรุ อาน เป็นคัมภีร์ฉบบั สดุ ทา้ ยทพี่ ระองค์อลั ลอฮ ซบุ ฮานะฮวู ะตะอาลาประทาน มายงั มนษุ ยชาตผิ ่านทางท่านศาสดามูฮมั มดั ศอ็ ลลัลลอฮุอะลยั ฮวิ ะซัลลมั เม่ือประมาณ 1,400 ปี เป็น ภาษาอาหรับ ซึ่งมุสลิมทั่วโลกยึดถือเป็นธรรมนูญแห่งชีวิตมาตราบจนทุกวันนี้ คัมภีร์อัลกุรอานไม่มี การสังคายนา ไม่มกี ารเปล่ียนแปลง ไม่มกี ารแก้ไข ไม่มกี ารเพิ่มเตมิ ส่ิงใดทัง้ สิน้ จนกระทั่งถงึ ปจั จบุ ัน 4. ศรัทธาตอ่ บรรดาศาสนทูต มสุ ลมิ ศรทั ธาตอ่ บรรดาศาสนทูตของพระผูเ้ ปน็ เจ้าโดยเริ่ม ตั้งแต่อาดัม รวมถึง นุฮ (โนอาห์) อิบรอฮีม (ฮับราฮัม) อิสมาเอล (อิสมาอีล) อิสหัก (ไอแซค) ยะกูบ (จาคอบ) มูซา (โมเสส) อีซา (เยซู) และศาสนทูตคนสุดทา้ ย คอื มูฮมั มัด ศอ็ ลลลั ลอฮุอะลยั ฮิวะซัลลมั มุสลิมศรัทธาว่า ศาสดามูฮัมมัด ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม คือศาสดาคนสุดท้าย จะไม่มศี าสดาใดเกิดขึ้นอีกจนกระทั่งวันสิน้ โลก ศาสดาเปน็ ผูเ้ ทศนาตามที่ได้รบั มอบหมายจากอัลลอฮ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา ศาสดาแต่ละท่านเปน็ เพียงมนุษย์ธรรมดา ไม่มีท่านใดทีม่ ีคุณลักษณะเทียบเท่า พระผเู้ ป็นเจ้า 5. ศรัทธาในวันพิพากษา จักรวาลจะถึงวาระสุดท้ายหรือวันสิ้นโลกตามที่อัลลอฮ ซุบฮา นะฮูวะตะอาลา ได้ทรงกำหนดไว้อย่างแน่นอน แต่ไม่มีผู้ใดทราบว่าจะเกิดขึ้นเมื่อใด ในวันนั้นทุกคน ต้องได้รับการพพิ ากษา จากพระเป็นเจา้ และได้รับผลตอบแทนของแต่ละคน เป็นสวรรค์หรอื นรกตาม ความประพฤติดีช่ัวท่มี นุษยม์ ใี นโลกน้ี 6. ศรัทธาในกฎการกำหนดสถานการณ์ กฎสภาวการณ์ คือ ระเบียบอนั รัดกุมท่ีพระเป็น เจา้ ได้ทรงกำหนดไวแ้ กจ่ กั รวาลและมนุษยชาติ แบ่งออกเป็น 2 ลกั ษณะ คอื 1) กฎที่ตายตัว เมื่อประสบกับผู้ใดแล้วหลีกเลี่ยงไม่ได้ ทุกอย่างดำเนินไปตามพระ ประสงค์ เชน่ การถือกำเนดิ ชาตพิ ันธ์ุ รูปร่างหน้าตา เป็นต้น 2) กฎที่ไม่ตายตัว โดยดำเนินไปตามความสัมพันธ์ระหว่างเหตุและผล กิจกรรมต่างๆ อยู่ในดลุ ยพนิ ิจของมนุษย์ท่ีจะใช้สติปญั ญาที่พระเจา้ ประทานมา เลอื กปฏิบตั ติ ามขอ้ หา้ มขอ้ ใชต้ า่ ง ๆ หลกั ปฏิบัติ 5 ประการ หรือทช่ี าวมุสลมิ เรยี กวา่ รูกนอิสลาม 5 ประการ 1. การปฏญิ าณตน (ซาฮาดะห์) หลกั ปฏิบัติประการแรก ถอื ได้วา่ เปน็ หวั ใจของการเปน็ มสุ ลิม คำปฏญิ าณตนมวี ่า “ลา อิลา ฮะ อิล ลัลลอฮ มูฮำมาดัร รอซูลุลลอฮ” มีความหมายว่า “ไม่มีพระเจ้าอื่นใดนอกจาก อัลลอฮ และมูฮัมมัดคือศาสนทูตของอัลลอฮ” เป็นหลักปฏิบัติที่สรุปมาจากหลักความศรัทธาที่แบ่ง ออกเป็นประการทีส่ ำคญั 2 ประการ คือ 1) การศรัทธาในพระองคอ์ ลั ลอฮ และพระดำรัสของพระองค์ คือ คมั ภีร์อลั กรุ อาน 2) การศรัทธาในท่านศาสดามูฮัมมัด แบบฉบับของท่าน คือ ซุนนะห์ คำปฏิญาณตน มเี จตจำนง เพอ่ื ให้มุสลิมยอมยึดมนั่ ในอัลลอฮ เทา่ น้นั เปน็ พระเป็นเจ้า ห้ามกราบไวบ้ ชู าสงิ่ อื่นใด
2. การละหมาด การละหมาด คือ ศาสนกิจแสดงความเคารพต่อองค์อัลลอฮ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา ทัง้ ทางรา่ งกายและจิตใจ เป็นข้อทีม่ ุสลมิ ทุกคนต้องปฏิบัติไม่ว่าจะเป็นผหู้ ญิงหรือผชู้ ายและจะต้องปฏิบัติ ตั้งแต่บรรลุศาสนภาวะ คือ หญิงตั้งแต่เริ่มมีรอบประจำเดือนและชายเมื่อเข้าสู่ความเป็นหนุ่ม จนถึง วันสดุ ท้ายของชวี ิต การละหมาดฟัรฎู (ภาคบังคับ) ที่เป็นพื้นฐานในชีวิตประจำวันของมุสลิม ได้แก่ ละหมาด 5 เวลา คือ - เวลารงุ่ อรณุ เรียกวา่ ละหมาด ซุบฮี - เวลาบา่ ย เรียกว่า ละหมาด ซฮุ รี - เวลาเย็น เรียกว่า ละหมาด อัศรี - เวลาพลบคำ่ เรยี กวา่ ละหมาด มัฆรบิ - เวลากลางคืน เรยี กวา่ ละหมาดอซิ า 3. การถือศลี อด การถอื ศลี อดเปน็ การงดกิน ดืม่ เพศสัมพันธ์ และสำรวมตนในคุณงามความดีเป็นพิเศษ ในแต่ละวัน ตั้งแต่ปรากฏแสงตะวันจนตะวันลับขอบฟ้า เป็นข้อกำหนดหรือบทบังคับสำหรับมุสลิม ทกุ คนท่บี รรลุศาสนภาวะและสภาพรา่ งกายสามารถถือศลี อดได้ในรอบปหี น่ึง ๆ ทั้งชายหญงิ ทกุ ฐานะ ต่อเนื่องไปเป็นเวลา 1 เดือน คือ เดือนที่ 9 ของฮิจเราะห์ศักราช เรียกว่า เดือนรอมฎอน ตามปฏิทิน อิสลาม ซึง่ นบั ตามจนั ทรคติ การถือศีลอดเป็นกิจกรรมอันสำคัญในการเชื่อฟังต่ออัลลอฮ ผู้ถือศีลอดต้องตั้งเจตนา ถือศีลอดตลอดเดือน โดยการงดเว้นจากการบริโภคอาหาร เครื่องดื่ม การร่วมสังวาส การรักษาอวัยวะ ทกุ ส่วนให้พ้นจากการทำชวั่ ทั้งทางด้านกาย วาจาและใจพร้อมมงุ่ ทำความดเี ปน็ พเิ ศษ 4. การจา่ ยซากาต การจา่ ยซากาต คอื การออกทรัพย์สนิ ท่ีมปี ริมาณถงึ พิกดั ในอตั รากำหนดให้แก่ผู้มีสิทธิ 8 ประเภท ซ่ึงได้แก่ คนยากจน คนขดั สน คนท่รี ับอสิ ลามใหม่ คนทม่ี หี น้ีสนิ ลน้ พน้ ตัว เปน็ ตน้ 5. การประกอบพธิ ฮี ัจญ์ เป็นการประกอบศาสนพิธี ณ สถานศักดิ์สิทธิ์แห่งนครมักกะฮ ฮัจญ์เป็นหน้าที่ของ มุสลิมทุกคนที่มีความสามารถ ทั้งด้วยวัย มีสติสัมปชัญญะบริบูรณ์ ร่างกายแข็งแรง และมีค่าใช้จ่าย เพียงพอ ไปประกอบพิธีอย่างน้อยครั้งหนึ่งในชีวิต โดยมิต้องมีหนี้สินและสร้างความลำบากแก่คนใน ครอบครัว
การบริหารจัดการหลกั สูตรอิสลามศกึ ษา ความหมายของการบริหารหลักสูตร การบรหิ ารจัดการหลกั สูตรมีความสำคัญต่อการวางแผนงานวิชาการ การจดั ระบบข้อมูล เพื่อพัฒนาการเรียนการสอน ควบคุม กำกับ ดูแลเพื่อส่งเสริมการใช้หลักสูตรการเรียนการสอน พูนสุข อุดม (2556) ได้ให้ความหมายของการบริหารจัดการหลักสูตรสถานศึกษา หมายถึง แนวทาง การดำเนินการและนำองค์ประกอบในหลักสูตรสถานศึกษาไปสู่การปฏิบัติให้ประสบความสำเร็จ สถานศกึ ษามภี ารกิจหลักในการจัดการศึกษาใหผ้ ู้เรียนได้พัฒนาอยา่ งเต็มที่ตามศักยภาพ สถานศึกษา จึงมีบทบาทสำคัญในการจัดทำหลักสูตรสถานศึกษา และดำเนินการนำหลักสูตรสู่การปฏิบัติในการ จัดการเรียนการสอนในชั้นเรียนอย่างมีประสิทธิภาพ และนิตยา เปลื้องนุช (2554) กล่าวว่า บริหาร หลักสูตร หมายถึง การนำกระบวนการทางการบริหารมาประยุกต์ใช้ในการดำเนินงานการบริหาร จัดการหลักสูตร ปฏิบัตเิ กย่ี วกับหลักสตู ร เพ่ือให้บรรลตุ ามจุดมุ่งหมายทกี่ ำหนดไว้ การบริหารหลักสูตร มีลกั ษณะงานคลา้ ยการบริหารงานลักษณะอ่นื ๆ แตอ่ าจจะแตกต่างกันในด้านวัตถุประสงค์วิธีการและ การประเมินผล จึงกลา่ วโดยสรปุ ได้ว่า การบริหารจัดการหลักสูตร หมายถงึ กระบวนการนำหลักสูตร ไปปฏิบัติตามแผนที่วางไว้ตามกระบวนการบริหาร นั่นก็คือ การเตรียมการหลักสูตร การดำเนินการ หลกั สตู ร การประเมินผลหลักสตู ร และการปรับปรงุ แกไ้ ขหลกั สตู ร เพือ่ พฒั นาหลักสูตรให้ดีข้ึน เพ่อื ให้ การใช้หลักสูตรเป็นไปอย่างมีมีประสิทธิภาพ บรรลุตามจุดมุ่งหมายของหลักสูตร โดยสอดคล้องกับ การพัฒนาผเู้ รยี นตามลกั ษณะธรรมชาติการเรียนรู้ การบริหารจัดการหลกั สตู รอิสลามศกึ ษา การศึกษาการบริหารจัดการหลักสูตรของจรุณี เก้าเอี้ยน (2555) และบุญเลี้ยง ทุมทอง (2556) สรุปขั้นตอนการบริหารหลักสูตรที่สำคัญอยู่ 3 ขั้นตอน คือ 1) การวางแผนหลักสูตร 2) การสนบั สนนุ การนำหลกั สูตรส่กู ารปฏิบัติ และ 3) การตรวจสอบคณุ ภาพการใช้หลักสูตร 1. การวางแผนหลักสูตร เป็นขั้นเตรียมการหรือขั้นตอนการบริหารหลักสูตร จะต้อง มีการเตรียมการเป็นอย่างดี นับตั้งแต่การตรวจสอบทบทวนหลักสูตรตามทฤษฎี การทำโครงการและ วางแผน การศึกษานำร่องเพื่อค้นหาประสิทธิภาพของหลักสูตรหรือการทดลองใช้หลักสูตร การประเมินโครงศึกษาทดลอง วางแผนการใช้หลักสูตรอย่างเป็นระบบ โดยต้องเตรียมการล่วงหน้า ก่อนเปิดหลักสูตร และนำนวัตกรรมทางการศึกษามาช่วย ซึ่งมีขั้นตอน คือ การตรวจสอบหลักสูตร แม่บทก่อนนำไปใช้ การประชาสัมพันธ์หลักสูตร การเตรียมความพร้อม การจัดทำโครงการสอน การตรวจสอบความพร้อมของผู้เรียน การตรวจสอบการยอมรับจากสังคม การประชาสัมพันธ์ หลักสตู รและการเตรยี มบคุ ลากรท่ีเก่ียวข้องการในการบริหารหลักสตู ร 2. ขั้นการสนับสนุนการนำหลักสูตรสู่การปฏิบัติ เป็นการบริหารหรือการใช้หลักสูตร เปน็ การแปลงหลกั สตู รไปสกู่ ารสอน การบรหิ ารหลกั สูตรจะมงี านหลัก 3 ลกั ษณะ คือ การบริหารและ
การบรกิ ารหลักสูตร การดำเนินการเรียนการสอนตามหลักสูตร การสนับสนนุ และสง่ เสริมการบริหาร หลักสูตร เช่น การประชุมครูและบุคลากรที่เกี่ยวข้องกับหลักสูตร การปฐมนิเทศนักเรียน การจัดทำ ค่มู อื ครู การจัดตารางสอน การจดั ครูเขา้ สอน การจัดสิ่งอำนวยความสะดวก เป็นต้น 3. ข้ันการตรวจสอบคุณภาพการใช้หลักสูตร เป็นการตดิ ตามและประเมินผลการบริหาร หลักสูตร วัตถุประสงค์ของหลกั สตู ร หรือเพื่อจะพิจารณาวา่ ตรงกบั วตั ถปุ ระสงค์ของหลักสูตรหรือเพ่ือ จะได้ใชใ้ นการตัดสนิ ใจเปลยี่ นแปลงเกยี่ วกับหลกั สตู ร หลักสตู รอิสลามศึกษา ตามหลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาขั้นพ้นื ฐาน พทุ ธศักราช 2551 วิสัยทศั น์ หลักสูตรอิสลามศึกษา ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขัน้ พืน้ ฐาน พุทธศักราช 2551 ได้ยึดวิสัยทัศน์ของหลักสูตรแกนกลางของการศึกษาขั้นพื้นฐานพุทธศักราช 2551 ที่มุ่งพัฒนาผู้เรียน ทกุ คน ซ่งึ เป็นกำลังของชาติให้เปน็ มนุษย์ทมี่ ีความสมดุลทางด้านร่างกาย ความรู้ คุณธรรม มจี ติ สำนึก ในความเป็นพลเมืองไทยและเป็นพลโลกยึดมั่นในการปกครองตามระบอบประชาธิปไตยอันมี พระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข มีความรู้และทักษะพื้นฐาน รวมทั้งเจตคติท่ีจำเป็นต่อการศึกษาต่อ การประกอบอาชีพและการศึกษาตลอดชีวิตโดยมุ่งเน้นผู้เรียนเป็นสำคัญบนพื้นฐานความเชื่อที่ว่า ทกุ คนสามารถเรยี นรูแ้ ละพฒั นาตนเองได้เต็มตามศักยภาพ นอกจากนี้หลักสูตรอิสลามศึกษาตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 มุ่งพัฒนาผู้เรียนให้เป็นคนที่มีศรัทธามั่นมีความจงรักภักดีต่ออัลลอฮ สุบหานะฮุวะตะอาลา มีบุคลิกภาพตามแบบอย่างนบีมูฮัมมัด ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม มีความสมดุลทางด้านความรู้ คุณธรรม มีจิตสำนึกในความเป็นพลเมืองไทยและพลโลกที่ดี เพื่อพัฒนาตนเอง ครอบครัวและสังคม กอ่ ให้เกิดสนั ตสิ ขุ ทัง้ ในโลกนแ้ี ละโลกหนา้ หลกั การ หลักสูตรอิสลามตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 ได้ยึด หลกั การของหลักสตู รแกนกลางการศกึ ษาขนั้ พน้ื ฐาน พทุ ธศักราช 2551 ดงั น้ี 1. เป็นหลักสตู รการศึกษาเพื่อเป็นเอกภาพของชาติ มีจุดหมายและมาตรฐานการเรียนรู้ เป็นเป้าหมายสำหรับพัฒนาเด็กและเยาวชนให้มีความรู้ ทักษะ เจตคติ และคุณธรรมบนพื้นฐานของ ความเปน็ ไทยควบค่กู ับความเป็นสากล 2. เป็นหลักสูตรการศึกษาเพื่อปวงชน ที่ประชาชนทุกคนมีโอกาสได้รับการศึกษาอย่าง เสมอภาคและมีคุณภาพ 3. เป็นหลักสูตรการศึกษาที่สนองการกระจายอำนาจให้สังคมมีส่วนร่วมในการจัดการศึกษา ให้สอดคล้องกับสภาพและความตอ้ งการของทอ้ งถนิ่
4. เป็นหลักสูตรการศึกษาที่มีโครงการสร้างยืดหยุ่นทั้งด้านสาระการเรียนรู้เวลาและ จดั การเรยี นรู้ 5. เปน็ หลักสูตรการศกึ ษาท่ีเนน้ ผู้เรียนเป็นสำคญั 6. เป็นหลักสูตรการศึกษาสำหรับการศึกษาในระบบและตามอัธยาศัย ครอบคลุมทุก กลุม่ เป้าหมาย สามารถเทียบโอนผลการเรียนรู้และประสบการณ์ หลักสตู รอิสลามศึกษา กำหนดหลกั เกณฑเ์ พ่ิมเตมิ คอื 1. มุ่งเน้นพัฒนาความรู้ ความเข้าใจ ยึดมั่น และปฏิบัติตามหลักการของศาสนาอิสลาม เพื่อเป็นแนวทางในการดำรงชีวิต 2. เป็นการศึกษาที่มุสลิมทุกคนจะได้รับการศึกษาอย่างเสมอภาคและเท่าเทียมกัน โดย ใหส้ งั คมมีสว่ นร่วมในการจดั การศกึ ษาทีส่ อดคล้องกบั สภาพและความต้องการแตล่ ะทอ้ งถ่นิ 3. ส่งเสริมให้ผู้เรียนได้พัฒนาและเรียนรู้ด้วยตนเองอย่างต่อเนื่องตลอดชีวิต สามารถ พฒั นาตามธรรมชาติ และเต็มตามศักยภาพ จดุ หมาย จุดหมายของหลักสูตรอิสลามศึกษา ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 ได้ยึดจุดหมายของหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน ที่มุ่งพัฒนาผู้เรียนให้ เปน็ คนดี มีปัญญา มคี วามสขุ มีศักยภาพในการศึกษาต่อ และประกอบอาชีพ จึงกำหนดเป็นจุดหมาย เพ่ือใหเ้ กดิ กับผเู้ รยี น เมื่อจบการศกึ ษาข้ันพ้ืนฐาน ดงั น้ี 1. มีคุณธรรม จริยธรรม และค่านิยมที่พึงประสงค์ เห็นคุณค่าของตนเอง มีวินัยและ ปฏิบัติตนตามหลักธรรมของพระพุทธศาสนา หรือศาสนาที่ตนนับถือ ยึดหลักปรัชญาของเศรษฐกิจ พอเพยี ง 2. มีความรู้ ความสามารถในการสื่อสาร การคิด การแก้ปัญหา การใช้เทคโนโลยี และมี ทกั ษะชวี ิต 3. มสี ขุ ภาพกายและสขุ ภาพจติ ทีด่ ี มสี ขุ นิสัย และรกั การออกกำลงั กาย 4. มีความรักชาติ มีจิตสำนึกในความเป็นพลเมืองไทยและพลโลก ยึดมั่นในวิถีชีวิตและ การปกครองตามระบอบประชาธิปไตยอนั มีพระมหากษตั ริย์ทรงเปน็ ประมขุ 5. มีจิตสำนึกในการอนุรักษ์วัฒนธรรมและภูมิปัญญาไทย การอนุรักษ์และพัฒนา สิ่งแวดล้อม มีจิตสาธารณะที่มุ่งทำประโยชน์และสรา้ งสิ่งท่ีดีงามในสังคมและอยู่ร่วมกันในสงั คมอย่าง มีความสขุ
หลกั สตู รอิสลามศึกษา กำหนดจดุ หมายเพิ่มเติม คอื 1. มีความศรัทธาต่ออลั ลอฮ สุบหานะฮวุ ะตะอาลาและปฏบิ ตั ิตนตามแบบอยา่ งของนบี มฮู ัมมดั ศอ็ ลลัลลอฮอุ ะลยั ฮวิ ะสลั ลัม 2. มีความรู้ ความเข้าใจ มีทักษะในการอ่านอัลกุรอานและสามารถนำหลักคำสอนไปใช้ ในการดำรงชีวิตประจำวันได้ 3. มีความสามารถในการคิด วิเคราะห์ มีเหตุผลในการวินิจฉัย พิจารณาปัญหาต่าง ๆ โดยยดึ หลกั อสิ ลาม 4. มีความภาคภูมิใจในความเป็นมุสลิมที่ดี มีระเบียบวินัย มีความซื่อสัตย์ สุจริต อดทน เสียสละเพื่อส่วนรวม เห็นคุณค่าของตนเอง สามารถสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างเพื่อนมนุษย์ให้อยู่ รว่ มกันในสงั คมด้วยความสนั ตสิ ขุ สมรรถนะสำคัญของผเู้ รยี นและคณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ หลกั สูตรมงุ่ เนน้ พฒั นาผู้เรยี นใหม้ ีคณุ ภาพตามมาตรฐานที่กำหนดซง่ึ จะชว่ ยให้ผู้เรียนเกิด สมรรถนะสำคัญและคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ดังนี้ 1. ความสามารถในการสื่อสาร เป็นความสามารถในการรับและส่งสาร มีวัฒนธรรมใน การใช้ภาษาถ่ายถอดความคิด ความรู้ ความเข้าใจความรู้สึกและทัศนะของตนเองเพื่อแลกเปลี่ยน ข้อมูลข่าวสารและประสบการณ์อันจะเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาตนเองและสังคมรวมทั้งการเจรจา ต่อรองเพื่อขจัดและลดปญั หาความขัดแยง้ ตา่ ง ๆ การเลือกรบั หรือไม่รับข้อมูลข่าวสารดว้ ยหลักเหตุผล และความถูกต้องตลอดจนการเลือกใช้วิธีสื่อสาร ที่มีประสิทธิภาพโดยการคำนึงถึงผลกระทบที่มีต่อ ตนเองและสังคม 2. ความสามารถในความคิด เป็นความสามารถในการคิดวิเคราะห์ การคิดสังเคราะห์ การคดิ อยา่ งสรา้ งสรรค์ การคิดอยา่ งมีวิจารณญาณ และคิดเปน็ ระบบเพ่ือนำไปสู่การสร้างองค์ความรู้ สารสนเทศเพอ่ื การตดั สินใจเกีย่ วกบั ตนเองและสงั คมได้อยา่ งเหมาะสม 3. ความสามารถในการแก้ปญั หา เป็นความสามารถในการแก้ปญั หาและอุปสรรคต่าง ๆ ที่เผชิญได้อย่างถูกต้องเหมาะสมบนพื้นฐานของหลักเหตุผล คุณธรรมและข้อมูลสารสนเทศเข้าใจ ความสัมพันธแ์ ละการเปล่ียนแปลงของเหตกุ ารณ์ตา่ ง ๆ ในสังคม แสวงหาความร้ปู ระยุกต์ความร้มู าใช้ ในการป้องกันและแกไ้ ขปัญหาและมีการตัดสนิ ใจที่มีประสทิ ธิภาพโดยคำนึงถึงผลกระทบที่เกิดข้ึนต่อ ตนเอง สังคมและสงิ่ แวดลอ้ ม 4. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต เป็นความสามารถในการทำขบวนการต่าง ๆ ไปใช้ ในการดำเนินชีวิตประจำวัน การเรียนรู้ด้วยตนเอง การเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง การทำงานและการอยู่ ร่วมกันในสงั คมดว้ ยการสรา้ งเสรมิ ความสัมพนั ธ์อันดีระหวา่ งบุคคล
5. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี เป็นความสามารถในการเลือกและใช้เทคโนโลยี ดา้ นต่าง ๆ และมที ักษะกระบวนการทางเทคโนโลยเี พื่อการพฒั นาตนเองและสังคม ในดา้ นการเรียนรู้ การสอื่ สาร การทำงาน การแกไ้ ขปญั หาอย่างสร้างสรรค์ถกู ต้องเหมาะสมและมีคณุ ธรรม นอกจากน้ีหลักสูตรอสิ ลามศึกษา กำหนดสมรรถนะเพิม่ เตมิ คือ ความสามารถในการอ่านอัลกุรอาน เป็นความสามารถของผู้เรียนในการอ่านอัลกุรอาน ตามหลักการ อันเป็นพื้นฐานสำคัญในการเรียนรู้ศาสนาอิสลาม เพื่อการพัฒนาตนเองดา้ นการยดึ มัน่ ศรัทธาการปฏิบัติศาสนกิจ การมีคุณธรรมอิสลามและการอยู่ร่วมกับผู้อื่นในสังคมได้อย่างเหมาะสม และสนั ติสขุ คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ หลักสตู รแกนกลางการศึกษาข้ันพื้นฐาน พุทธศกั ราช 2551 มงุ่ พัฒนาผเู้ รยี นให้มคี ุณลักษณะ อันพึงประสงค์เพื่อให้สามารถอยู่ร่วมกับผู้อื่นในสังคมได้อย่างมีความสุข ในฐานะเป็นพลเมืองไทยและ พลโลก ดงั นี้ 1.รักชาติ ศาสน์ กษตั ริย์ 2. ซอื่ สัตยส์ ุจรติ 3. มวี ินยั 4. ใฝเ่ รยี น 5. อย่อู ยา่ งพอเพยี ง 6. มุ่งม่ันในการทำงาน 7. รักความเปน็ ไทย 8. มีจติ สาธารณะ หลักสูตรอิสลามศึกษา มุ่งพฒั นาคณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์เพิม่ เติม คอื 1. รกั การอ่านอัลกรุ อาน 2. รกั การละหมาด 3. รักความสะอาด 4. มีมารยาทแบบอิสลาม 5. มคี วามรับผดิ ชอบ นอกจากน้ี สถานศึกษาสามารถกำหนดคุณลักษณะอนั พงึ ประสงคเ์ พม่ิ เติมให้สอดคล้อง ตามบริบทและจุดเน้นของสถานศกึ ษาแต่ละแห่งได้
มาตรฐานการเรียนรู้ หลกั สูตรไดก้ ำหนดมาตรฐานการเรียนรู้ท่ีเปน็ ข้อกำหนดคณุ ภาพผู้เรียนด้านความรู้ ทักษะ กระบวนการ คุณธรรม จริยธรรม เพื่อพัฒนาผู้เรียนให้เกิดความสมดุล โดยคำนึงถึงหลักการพัฒนา ทางด้านสมองและพหุปัญญา ใหผ้ ูเ้ รียนบรรลตุ ามมาตรฐานท่กี ำหนดตามสาระการเรยี นรู้ ดังน้ี หลักสตู รอิสลามศกึ ษา กำหนดใหผ้ ู้เรยี นได้เรียนร้จู ากสาระ ดงั นี้ 1. อลั – กุรอฺ า่ น 2. อัล – หะดษี 3. อลั – อะกีดะฮฺ (หลกั ศรัทธา) 4. อลั – ฟกิ ฮฺ (ศาสนบญั ญัติ) 5. อัตตารคี (ศาสนประวัต)ิ 6. อลั – อคั ลาก (จรยิ ธรรม) 7. ภาษาอาหรับ 8. ภาษามลายู/ภาษาอาหรับเสรมิ ในแต่ละสาระกำหนดมาตรฐานการเรียนรู้เป็นเป้าหมายสำคัญของการพัฒนาคุณภาพ ผู้เรียน มาตรฐานการเรียนรู้ระบุสิ่งที่ผู้เรียนต้องเรียนรู้ ปฏิบัติได้ มีคุณธรรมจริยธรรม และค่านิยมท่ี พึงประสงค์เมื่อจบการศึกษาขั้นพื้นฐาน นอกจากนั้นมาตรฐานการเรียนรู้ยังเป็นกลไกสำคัญใน การขับเคลื่อนพัฒนาการศึกษาทั้งระบบ เพราะมาตรฐานการเรียนรู้จะสะท้อนให้ทราบว่าต้องการอะไร จะสอนอย่างไร และประเมินอย่างไร รวมทั้งเป็นเครื่องมือในการตรวจสอบเพื่อการประกันคุณภาพ การศึกษาโดยใช้ระบบการประเมินคุณภาพภายในและการประเมินคุณภาพภายนอก ซึง่ รวมถึงการทดสอบ ระดับเขตพื้นที่การศึกษาและการทดสอบระดับชาติ ระบบการตรวจสอบเพื่อประกันคุณภาพดังกล่าว เป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยสะท้อนภาพการจัดการศึกษาว่าสามารถพัฒนาผู้เรียนให้มีคุณภาพตามท่ีมาตรฐาน การเรยี นรกู้ ำหนดเพยี งใด ตวั ชว้ี ัด ตัวชี้วัดระบุสิ่งที่นักเรียนพึงรู้และปฏิบัติได้ รวมทั้งคุณลักษณะของผู้เรียนในแต่ละ ระดับชัน้ ซงึ่ สะทอ้ นถึงมาตรฐานการเรียนรู้ มคี วามเฉพาะเจาะจงและมีความเป็นรูปธรรม นำไปใช้ใน การกำหนดเนื้อหา จัดทำหน่วยการเรียนรู้ จัดการเรียนการสอน และเป็นเกณฑ์สำคัญสำหรับการวัด ประเมนิ ผลเพอ่ื ตรวจสอบคุณภาพผเู้ รยี น โดยหลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาข้ันพน้ื ฐานได้กำหนดเป็น 2 ลักษณะ คือ 1. ตัวชี้วัดชั้นปี เป็นเป้าหมายในการพัฒนาผู้เรียนแต่ละชั้นปีในระดับการศึกษาภาคบังคบั (ประถมศึกษาปที ่ี 1 - มัธยมศึกษาปที ี่ 3)
2. ตัวชี้วัดช่วงชั้น เป็นเป้าหมายในการพัฒนาผู้เรียนในระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย (มัธยมศกึ ษาปที ่ี 4-6) สำหรับหลักสูตรอิสลามศึกษาได้กำหนดตัวชี้วัดชั้นปี เป็นเป้าหมายในการพัฒนาผู้เรียน ทั้งในระดับอิสลามศึกษาตอนต้น (อิบติดาอียะฮ) มัธยมศึกษาตอนต้น (มุตตะวัซซีเฏาะฮ) และระดับ มัธยมศึกษาตอนปลาย (ซานาวียะฮ) เพื่อใช้เป็นเป้าหมายในการพัฒนาผู้เรียนและตรวจสอบคุณภาพ การศึกษาของผูเ้ รยี นด้านต่าง ๆ ไวใ้ นแตล่ ะสาระ
บทที่ 3 การพัฒนารปู แบบการบริหารจดั การหลกั สตู รอสิ ลามศึกษาเพื่อเสริมสร้างสมรรถนะ รูปแบบการบริหารจัดการหลักสูตรอิสลามศึกษาเพื่อเสริมสร้างสมรรถนะพลเมืองวิถีอิสลาม ที่ได้พัฒนาเพื่อนำมาใช้ในการบริหารงานวชิ าการ ในดา้ นการบริหารหลกั สตู ร มีทั้งหมด 5 ขัน้ ตอน ดงั น้ี ข้ันตอนที่ 1 กำหนดเป้าหมายร่วมกับชุมชน ขั้นตอนที่ 2 วางแผนวเิ คราะหห์ ลักสตู รอิสลามศึกษา ขน้ั ตอนท่ี 3 จดั กจิ กรรมออกแบบหนว่ ยการเรยี นรู้อิสลามศึกษา ข้ันตอนที่ 4 จัดกจิ กรรมเสริมสรา้ งสมรรถนะพลเมอื งวถิ ีอิสลาม ขัน้ ตอนท่ี 5 แลกเปล่ยี นเรียนรูแ้ ละรว่ มถอดบทเรียนโดยชุมชนมีส่วนรว่ ม
1. กำหนดเป้าหมายรว่ มกับชมุ ชน 1.1 ผู้บริหารและคณะครูอิสลามศึกษากำหนดสมรรถนะพลเมืองวิถีอิสลาม 4 ประการ คือ 1) ความสามารถของการเปน็ มสุ ลิมที่เข้มแขง็ 2) ความสามารถในการคดิ ภายใต้หลกั การของอิสลาม 3) ความสามารถในการอ่านอัลกรุ อาน 4) ความสามารถในการอยใู่ นสงั คมพหวุ ัฒนธรรม 1.2 ผ้บู ริหารจดั ประชุมระดมสมองกับโต๊ะครู โตะ๊ อีหม่าม คณะกรรมการสถานศึกษา คณะ ครูอิสลามศึกษา หัวหน้าวิชาการและตัวแทนผู้ปกครองนักเรียนในแตล่ ะชั้นเรียน ตั้งแต่ชั้นประถมศึกษา ปีที่ 1 ถึง 6 ชั้นเรียนละ 1 คน เพื่อหาแนวทางการบูรณาการและสร้างกิจกรรมในความเกี่ยวขอ้ งและ ความเปน็ ไปไดท้ จี่ ะทำใหน้ กั เรยี นเกดิ สมรรถนะพลเมืองวถิ ีอิสลาม 1.3 ผู้บรหิ ารหวั หนา้ วิชาการและคณะครูอิสลามศึกษาสรปุ ผลการระดมสมอง 2. วางแผนวเิ คราะห์หลกั สูตรอิสลามศกึ ษา ผู้บริหาร หัวหน้าวิชาการและคณะครูอิสลามศึกษานำผลจากการระดมสมอง มาใช้ วางแผนการวิเคราะห์หลกั สูตร ตามขัน้ ตอน ดงั น้ี 2.1 วิเคราะห์หลักสูตรอิสลามศึกษาแบบเข้มตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 ตามแผนการวิเคราะห์หลักสูตร โดยแบ่งกลุ่มครูผู้สอนเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มที่ 1 ครูผู้สอนอิสลามศึกษาระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1-3 กลุ่มที่ 2 ครูผู้สอนอิสลามศึกษาระดับชั้น ประถมศึกษาปที ่ี 4-6 มกี ารดำเนินการดังนี้ 1) กำหนดวิสัยทศั น์ ภารกิจ เป้าหมาย จุดม่งุ หมายของการเรียน 2) จดั โครงสรา้ งหลกั สูตร 3) จัดทำคำอธบิ ายรายวิชา 4) การวดั และประเมนิ ผล 2.1 สรุปผลการวเิ คราะหห์ ลักสตู ร โดยกระบวนการกลุม่ 3. จัดกจิ กรรมออกแบบหนว่ ยการเรียนรู้อสิ ลามศึกษาแบบบูรณาการ ครนู ำผลการวิเคราะหห์ ลักสูตรมาใชใ้ นการออกแบบหน่วยการเรียนร้อู ิสลามศึกษาแบบ บรู ณาการ ตามขน้ั ตอนดงั น้ี 3.1 จัดอบรมเชิงปฏิบัติการออกแบบหน่วยการเรียนรู้อิสลามศึกษาแบบบูรณาการ โดย คณะวิทยากรภายนอกท่ีมคี วามรู้ความสามารถในดา้ นนี้ และแบง่ กล่มุ ครผู สู้ อนเปน็ 2 กลุ่ม คอื กลุ่มท่ี 1 ครูผู้สอนอิสลามศึกษาระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1-3 กลุ่มที่ 2 ครูผู้สอนอิสลามศึกษาระดับช้ัน
ประถมศกึ ษาปที ี่ 4-6 โดยออกแบบโครงสรา้ งหนว่ ยการเรียนรบู้ ูรณาการ ผงั มโนทศั นห์ นว่ ยการเรียนรู้ บูรณาการ และหน่วยการเรียนรู้บูรณาการในแต่ละระดับชั้นที่สอดคล้องกับการเสริมสร้างสมรรถนะ พลเมอื งวิถอี ิสลามทั้ง 4 ประการ คือ 1) ความสามารถของการเป็นมุสลมิ ทเ่ี ข้มแขง็ 2) ความสามารถในการคดิ ภายใตห้ ลักการของอิสลาม 3) ความสามารถในการอ่านอลั กุรอาน 4) ความสามารถในการอยใู่ นสังคมพหวุ ฒั นธรรม 3.3 ครูแต่ละระดบั ชัน้ ร่วมจดั ทำแผนการเรียนรู้ฐานสมรรถนะรว่ มกัน ตามหน่วยการ เรียนร้บู รู ณาการท่ีได้ออกแบบไว้ 4. จัดกจิ กรรมเสริมสร้างพลเมืองวถิ ีอสิ ลาม สำหรับขั้นตอนนี้ เปน็ ขน้ั ตอนของการนำผลจากการวางแผนทัง้ หมด มาใช้กบั ผู้เรียน นับวา่ เป็นขัน้ ตอนทมี่ ีความสำคัญ โดยครจู ะต้องดำเนินการอย่างใส่ใจ ตามลำดับดงั นี้ 4.1 ครูจัดกิจกรรมตามแผนการจัดการเรียนรู้ฐานสมรรถนะ ซึ่งเป็นแผนการจัดการ เรียนรู้ที่กำหนดให้ผู้เรียน มีความรู้ มีทักษะ และมีเจตคติ ที่ส่งเสริมสร้างให้ผู้เรียน เกิดสมรรถนะพลเมอื งวิถอี สิ ลาม 4.2 ครูประเมินสมรรถนะพลเมืองวิถีอิสลามของนักเรียนจากสภาพจริงตามเกณฑ์การ ประเมินที่กำหนดตามแผนการจัดการเรียนรู้ โดยเปิดเผยผลการประเมินให้นักเรียนได้ทราบทันที เพ่อื ใหน้ กั เรียนสามารถนำผลการประเมนิ ไปปรบั ปรงุ ต่อไป 4.3 ผ้บู รหิ ารหรอื ผูท้ ี่ไดร้ ับมอบหมาย นเิ ทศการจดั การเรียนการสอนแบบการสังเกตการสอนในช้นั เรียน ในแผนการจดั กาเรียนรทู้ ่ี 1 นำผลการการนเิ ทศมา ปรับปรุง พฒั นา แผนการจัดการเรียนรูค้ รงั้ ตอ่ ไป และดำเนนิ การนิเทศแผนการจัดกาเรยี นรอู้ นื่ ๆ ตามท่ีผรู้ ับการนเิ ทศและผนู้ เิ ทศได้ตกลง วัน เวลา รว่ มกนั 4.4 ครูสรุปสมรรถนะพลเมืองวิถีอิสลามของนักเรียนที่ได้ประเมินจากสภาพจริงตาม แผนการจัดการเรยี นรู้ ภาคเรยี นละ 1 ครั้ง 5. แลกเปล่ยี นเรียนรแู้ ละร่วมถอดบทเรียนโดยชุมชนมสี ่วนรว่ ม ขนั้ ตอนนี้ เป็นขั้นตอนสุดทา้ ยของการดำเนนิ การ เป็นการจัดกิจกรรมการถอดบทเรยี น หลังการดำเนินงาน 1 ปีการศึกษา (Retrospect) โดยจัดขั้นตอนการถอดบทเรียน เปน็ 5 ขัน้ ตอน ดังน้ี
1. ขน้ั เตรยี มการถอดบทเรยี น 1.1 ผ้บู รหิ ารแต่งต้ังคณะกรรมการการดำเนนิ การถอดบทเรียน ประกอบดว้ ย ฝา่ ยอำนวยการ ฝ่ายจัดเตรียมวัสดุ อุปกรณ์ ฝ่ายจัดเตรียมกรอบเนื้อหาประเด็นคำถามของการถอดบทเรียน ฝ่ายงบประมาณ ฝ่ายดำเนินการถอดบทเรยี น ฝา่ ยเขียนรายงานการถอดบทเรยี น ฝ่ายประชาสัมพันธ์ 1.2 ผู้บริหารกำหนดผู้เกี่ยวข้องในการถอดบทเรียน ประกอบด้วย คณะทำงานการจัดทำ หลกั สตู รอสิ ลามศึกษา ผอู้ ำนวยการสถานศึกษา ครผู ้สู อนอิสลามศกึ ษา หวั หน้าวิชาการ โตะ๊ ครู โตะ๊ อหี ม่าม คณะกรรมการสถานศึกษาและตวั แทนผู้ปกครองนักเรียนในแต่ละชัน้ เรยี น 1.3 กำหนดวนั เวลา และสถานท่ี ในการถอดบทเรยี น 2. ข้นั ดำเนินการถอดบทเรียน 2.1 ผู้ดำเนินการถอดบทเรียน สร้างบรรยากาศการถอดบทเรียน ให้ผู้ร่วมถอดบทเรียน เกิดความผ่อนคลายและมีความเป็นกันเอง อธิบายให้ผู้เข้าร่วมถอดบทเรียนทราบว่า ทุกคนที่เข้าร่วม ถอดบทเรียนมีความเสมอภาคกัน ทุกคนมีสิทธิเท่าเทียมกันทั้งหมด การกำหนดกติกาในการถอดบทเรียน ได้แก่ หัวข้อในการถอดบทเรียน เป้าหมายการถอดบทเรียน วิธีการถอดบทเรียน หนาที่ของผู้ร่วม ถอดบทเรียน และขอพงึ ระวังในการถอดบทเรียน 2.2 ดำเนินการถอดบทเรียน โดยการระดมสมองจากผู้เข้าร่วมถอดบทเรียน เล่าจาก ประสบการณท์ ่ีไดป้ ฏบิ ตั ิ ตามประเดน็ คำถาม ดังน้ี 1) การเข้ามามีสว่ นรว่ มในการดำเนินงานโครงการน้ี 2) สภาพความสำเร็จของโครงการตามที่คาดหวัง 3) โครงสรา้ งการทำงานของโครงการ บทบาทหน้าท่ีของแตล่ ะคน 4) ผลของการดำเนินกจิ กรรมตา่ ง ๆ ของโครงการ 5) ความสำเรจ็ ที่ไดต้ ามความคาดหวงั และสภาพความสำเร็จ 6) ความสำเร็จที่ได้มากกว่าความคาดหวังและสภาพความสำเร็จ 7) ความสำเรจ็ ที่ได้นอ้ ยกว่าความคาดหวงั และสภาพความสำเร็จ 8) ปจั จัยทีท่ ำให้ทำงานไดผ้ ลตามความคาดหวงั 9) ปัจจยั ทีท่ ำให้ทำงานได้ผลมากกว่าความคาดหวัง 10) ปัจจยั ทีท่ ำใหท้ ำงานไดผ้ ลน้อยกวา่ ความคาดหวงั 11) ปัจจัยท่ีคิดวา่ ดี ทำแล้วได้ผล 12) ปจั จัยที่คดิ วา่ ยงั สามารถทำได้ แตต่ ้อง “ปรบั ปรุง” 13) ปัจจยั ทคี่ ิดว่าทำแล้ว “ไมด่ ี” ไมค่ วรทำต่อ 14) ปญั หา อปุ สรรค ข้อจำกัด 15) ข้อเสนอแนะต่อการดำเนินงานโครงการ
3. ขัน้ ประมวลสรุปข้อมูล ผู้เกี่ยวข้องในการถอดบทเรียนต้องนั่งล้อมวง เพื่อทบทวน วิเคราะห์ เชื่อมโยงและให้ ข้อคิดเห็นเพิ่มเติมในประเด็นต่าง ๆ ของการถอดบทเรียน ทบทวนข้อมูลที่ไดว้ ่าครบหรือขาด รวมทั้ง ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมลู เสนอแนะในสว่ นทผี่ ้รู ่วมกระบวนการเกี่ยวข้อง และสรปุ ข้อมลู รว่ มกนั 4. ขนั้ เขยี นรายงานการถอดบทเรยี น ฝา่ ยเขียนรายงานการถอดบทเรียน จัดทำรายงาน การถอดบทเรียน ประกอบดว้ ย 4.1 ความเป็นมาและความสําคญั ของโครงการ 4.2 วิธกี ารถอดบทเรยี น 4.3 ผลการถอดบทเรียน 1) การเข้ามามีส่วนร่วมในการดำเนนิ งานโครงการน้ี 2) สภาพความสำเรจ็ ของโครงการตามที่คาดหวงั 3) โครงสร้างการทำงานของโครงการ บทบาทหนา้ ท่ีของแต่ละคน 4) ผลของการดำเนินกจิ กรรมต่าง ๆ ของโครงการ 5) ความสำเรจ็ ที่ได้ตามความคาดหวงั และสภาพความสำเร็จ 6) ความสำเร็จที่ได้มากกวา่ ความคาดหวงั และสภาพความสำเร็จ 7) ความสำเร็จท่ีได้น้อยกวา่ ความคาดหวงั และสภาพความสำเรจ็ 8) ปัจจยั ที่ทำให้ทำงานได้ผลตามความคาดหวงั 9) ปัจจยั ท่ีทำให้ทำงานไดผ้ ลมากกว่าความคาดหวงั 16) ปจั จัยที่ทำใหท้ ำงานไดผ้ ลน้อยกว่าความคาดหวัง 17) ปจั จัยทีค่ ดิ ว่าดี ทำแลว้ ได้ผล 18) ปจั จยั ทค่ี ิดวา่ ยังสามารถทำได้ แต่ต้อง “ปรบั ปรุง” 19) ปจั จยั ท่คี ิดว่าทำแล้ว “ไมด่ ”ี ไมค่ วรทำต่อ 20) ปญั หา อุปสรรค ข้อจำกดั 21) ข้อเสนอแนะต่อการดำเนินงานโครงการ 5. ขน้ั ขยายผลบทเรียน เป็นข้ันขยายผลสูส่ าธารณะ ฝ่ายประชาสัมพันธ์จะอาศัยการสื่อสาร ในหลากหลายรูปแบบ โดยคำนึงถึงวัตถุประสงค์ และกลุ่มเป้าหมาย เช่น จัดนิทรรศการที่โรงเรียน หรือจัดทำสื่อนำเสนอทางเว็บไซด์โรงเรียน หรือส่อื โซเซียลอืน่ ๆ เปน็ ต้น
บทท่ี 4 แผนการดำเนินงาน การบริหารจดั การหลักสูตรอิสลามศึกษาเพื่อเสริมสร้างสมรรถนะพลเมืองวิถีอิสลาม มี 5 ขั้นตอน คือ 1) กำหนดเป้าหมายร่วมกับชุมชน 2) วางแผนวิเคราะห์หลักสูตรอิสลามศึกษา 3) จัด กิจกรรมออกแบบหน่วยการเรียนรู้อิสลามศึกษาแบบบรู ณาการ 4) จัดกิจกรรมเสริมสร้างคุณลักษณะ พลเมืองวิถีอิสลาม และ 5) แลกเปลี่ยนเรียนรู้และร่วมถอดบทเรียนโดยชุมชนมีส่วนร่วม โดยมีแผนการ ดำเนินงาน ดงั น้ี สปั ดาหท์ ี่ กจิ กรรม เครื่องมือที่ใช้ 1. กำหนดเป้าหมายร่วมกบั ชมุ ชน 1.แบบบันทกึ การระดมความ 1.1 ผู้บริหารจัดประชุมระดมสมองตามสมรรถนะ คดิ เหน็ พลเมืองวิถีอิสลามทกี่ ำหนด 1.3 ผู้บริหารหัวหน้าวิชาการและคณะครูอิสลาม ศึกษาสรปุ ผลการระดมสมอง 2. วางแผนวิเคราะห์หลกั สูตรอิสลามศึกษา 2. แบบบันทกึ การวเิ คราะห์ 2.1 วิเคราะห์หลักสูตรอิสลามศึกษาตามหลักสูตร หลักสูตรอิสลามศึกษา 2551 แกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 3.การวเิ คราะห์มาตรฐานการ 2.2 สรุปผลการวิเคราะหห์ ลกั สูตร เรียนรสู้ หู่ น่วยการเรียนรู้ 3. จดั กจิ กรรมออกแบบหนว่ ยการเรยี นรูอ้ ิสลาม 4. แบบประเมนิ คณุ ภาพหนว่ ย ศกึ ษาแบบบรู ณาการ การเรียนรู้ 3.1 จดั อบรมเชงิ ปฏิบัตกิ ารออกแบบหนว่ ยการ 5. แผนการจัดการเรยี นรู้ฐาน เรียนรู้อสิ ลามศึกษาแบบบูรณาการ สมรรถนะ 3.2 ครูจดั ทำแผนการเรยี นรฐู้ านสมรรถนะ 6. แบบประเมนิ คณุ ภาพ แผนการจดั การเรียนรู้ 4. จดั กิจกรรมเสริมสร้างพลเมืองวถิ ีอสิ ลาม 7. แบบประเมนิ คุณลกั ษณะ 4.1 ครูจัดกิจกรรมตามแผนการจัดการเรียนรู้ฐาน พลเมอื งวถิ อี ิสลาม สมรรถนะ 8. แบบสรุปผลการประเมนิ คณุ ลักษณะพลเมืองวถิ ีอสิ ลาม
4.2 ครูประเมินสมรรถนะพลเมืองวิถีอิสลามของ 9.แบบสงั เกตการสอน นกั เรยี น 4.3 ผบู้ รหิ ารนเิ ทศการจดั การเรียนการสอน 4.4 ครูสรุปสมรรถนะพลเมืองวิถีอิสลามของ นักเรยี น 5. แลกเปล่ียนเรียนรู้และรว่ มถอดบทเรียนโดย 10. แบบบนั ทึกการถอด ชุมชนมสี ว่ นร่วม บทเรยี น 5.1 ขัน้ เตรยี มการถอดบทเรียน 5.2 ขนั้ ดำเนินการถอดบทเรยี น 5.3 ขน้ั ประมวลสรุปข้อมูล 5.4 ข้ันเขยี นรายงานการถอดบทเรียน 5.5 ขน้ั ขยายผลบทเรียน
บรรณานกุ รม กระทรวงศกึ ษาธิการ. (2553). หลักสตู รอสิ ลามศึกษาตามหลักสตู รแกนกลางการศกึ ษาขนั้ พื้นฐาน 2551. กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์ชมุ นมุ สหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย จำกดั . จตุพร วศิ ิษฏโ์ ชตอิ งั กรู . (2553). ถอดบทเรียน (นอกกรอบ) เรอ่ื งเลา่ วิธีวิทยาถอดบทเรยี นผ่าน ประสบการณ์การทำงาน. กรุงเทพฯ: โครงการระบบออนไลน์เพื่อการจดั การความรู้ สขุ ภาวะ. จรณุ ี เก้าเอยี้ น. (2556). เทคนิคการบริหารงานวชิ าการในสถานศกึ ษา:กลยทุ ธ์และแนวทางปฏบิ ัติ สำหรบั ผู้บรหิ ารมืออาชพี . ยะลา: มหาวทิ ยาลัยราชภฏั ยะลา. บญุ เล้ยี ง ทุมทอง. (2556). ทฤษฎแี ละการพฒั นารูปแบบการจดั การเรยี นรู้. กรุงเทพฯ: เอส.พรน้ิ ติ้ง ไทย แฟคตอร่ี. ประภาพรรณ อุ่นอบ. (2552). วิทยากรกระบวนการเง่อื นไขสำคญั ของการถอดบทเรยี นแบบ วิเคราะหห์ ลังการปฏิบัติ. กรุงเทพฯ: กรมสุขภาพจิต. พัณณ์ชิตา โยคะนิตย.์ (2553). “ถอดบทเรียนการเรยี นรสู้ ุขภาพชมุ ชนตำบลหนองสาหร่าย อำเภอ พนมทวน จังหวัดกาญจนบรุ ี”, (วิทยานิพนธศ์ กึ ษาสาสตรมหาบณั ฑติ ). (สำเนา) พิชยา ทอดท้ิง.(2559). “สภาพปัญหาและแนวทางการบริหารหลกั สตู รอิสลามศึกษาแบบเข้มใน โรงเรียนของรัฐ จังหวดั สงขลา”, วทิ ยานิพนธ์ ศษ.ม. (สาขาวิชาการบรหิ ารการศึกษา). บัณฑติ วทิ ยาลยั ปัตตานี: มหาวทิ ยาลยั สงขลานครนิ ทรว์ ิทยาเขตปัตตาน.ี (สำเนา) วรางคณา จนั ทรค์ ง. (2557). การถอดบทเรียน. เข้าถึงที่ http://www.stou.ac.th/schools/shs/ booklet/book571/rsearch571.pdf เขา้ ถึงเมื่อ 27 พฤศจิกายน 2564. วชิ ัย ปีตเิ จริญธรรม. (2552). คุณก็เป็นผนู้ ำทดี่ ีไดใ้ น 21วนั . กรงุ เทพฯ: ปญั ญาชน. วนิ ยั วงษใ์ หญ่ และมารตุ พัฒผล. (2556). จากหลกั สูตรแกนกลางสู่หลักสูตรสถานศกึ ษา กระบวน ทศั นใ์ หมก่ ารพัฒนา. (กรงุ เทพมหานคร: บริษัท อาร์ แอนด์ เอ็น ปริน้ ท์ จำกัด, 2556)
ศภุ วลั ย์ พลายนอ้ ย. (2562). นานาวิธีวิทยาการถอดบทเรยี น และการสังเคราะห์ ความรู้. กรุงเทพฯ: พ.ี เอ.ลฟี วิ่ง. อบั ดชุ ชะกรู ์ ดนิ อะ. (2558). วิถมี ุสลมิ : อสิ ลามกบั วฒั นธรรมมลายู. เข้าถึงที่ https://prachatai.com/journal/2015/03/58625 เข้าถงึ เม่ือ 20 ธนั วาคม 2564. อับดุลซอมดั เล็งฮะ. (2557). “การบริหารหลกั สตู รอิสลามศึกษาของผ้บู รหิ ารโรงเรยี น สังกดั สำนักงานเขตพืน้ ทก่ี ารศึกษาประถมศึกษาในจังหวัดนราธิวาส”, วิทยานพิ นธ์ ศษ.ม. (สาขาวิชาการบริหารการศกึ ษา). นนทบุรี: บัณฑิตวิทยาลัย มหาวทิ ยาลยั สุโขทยั ธรรมาธริ าช. (สำเนา)
Search
Read the Text Version
- 1 - 27
Pages: