การแบ่งฟันเป็ น 6 ส่วน
เกณฑ์การตดั สินคะแนน- เหงือกปกติ ลกั ษณะเหงือกมียอดแหลมสีชมพู หรือสีคล้า (ถา้ ผวิ ดา) ไม่มีเลือดออกถึงแมจ้ ะมีฟันผกุ ต็ าม ลงบนั ทึกโดยใชเ้ คร่ืองหมาย “0”- เหงือกอกั เสบ ลกั ษณะขอบเหงือกบวมแดง เห็นชดั เจน หรือมีเลือดออก ลงบนั ทึกโดยใชเ้ ครื่องหมาย “1”- สภาพในช่องปากทตี่ ้องการรักษาเร่งด่วน ลงบนั ทึกโดยใชเ้ คร่ืองหมาย“7”
-สภาพในช่องปากท่ีต้องการรักษาเร่งด่วนก. มีหินปูนปกคลุมดา้ นใดดา้ นหน่ึงของฟันเตม็ ดา้ นและเหงือกอกั เสบ ดว้ ยข. รากฟันยนื่ แหลมข้ึนมาจนแทงเหงือกเป็นแผลค. ฟันถาวรข้ึนมาเตม็ ท่ี และซอ้ นกบั ฟันน้านมซ่ึงยงั คงอยทู่ าใหฟ้ ันถาวร เกง. มีอาการปวดฟันและเกิดการอกั เสบอยา่ งรุนแรงขณะตรวจจ. บริเวณปลายรากฟันมีหนองและเป็นแผลทะลุมาท่ีเหงือกฉ. มีกอ้ นเน้ืออยใู่ นรูฟันท่ีผุ
เกณฑ์การตัดสินโรคฟันผุ - ไม่มฟี ันถาวรผเุ ลย บนั ทึกผลเป็น “0” - มฟี ันถาวรเป็ นรูเห็นชัดเจน ต้งั แต่ 1 ซี่ขนึ้ ไป บนั ทึกผลเป็น“1”
การจดั ระดบั ปัญหาและวธิ ีแกไ้ ขปัญหาช่องสรุป ระดับปัญหา วธิ ีการแก้ไขปัญหา0 ก แปรงฟันอยา่ งถูกวธิ ี1-2 ข แปรงฟันหลงั อาหารเป็นกลุ่ม ๆ ละประมาณ 10 คน ภายใตก้ ารดูแลของ ผนู้ านกั เรียนส่งเสริมสุขภาพ3-4 ค แปรงฟันหลงั อาหารเป็นกลุ่ม ๆ ละประมาณ 5 คน ภายใตก้ ารดูแลของ ผนู้ านกั เรียนส่งเสริมสุขภาพ5-6 ง แปรงฟันหลงั อาหารเป็นกลุ่ม ๆ ละประมาณ 5 คน ภายใตก้ ารดูแลอยา่ ง ใกลช้ ิดของครูประจาช้นั7 จ แปรงฟันหลงั อาหาร ภายใตก้ ารดูแลอยา่ งใกลช้ ิดของครูประจาช้นั แจง้ ผปู้ กครอง และส่งต่อเพือ่ รับการรักษา
2. การให้สุขศึกษา (School health education)จุดมุ่งหมายของการใหส้ ุขศึกษา เพ่ือช่วยใหน้ กั เรียนมีความรู้และมีเจตคติท่ีถูกตอ้ ง เร่ืองสุขภาพอนามยั และนาไปปฏิบตั ิตนเองใหม้ ีสุขนิสัยที่ดีติดตวัไปในอนาคต
วธิ ีการสอนสุขศึกษา 1.) การจดั สอนโดยตรง ตามหลกั สูตรหรือวิชาสุขศึกษา ตามเวลาเรียน 2.) การจดั สอนแบบสหสมั พนั ธ์ เป็นการสอนสมั พนั ธ์กบั วิชาอ่ืนๆเช่น พลศึกษา วิทยาศาสตร์ 3.) การสอนตามเหตุการณ์ท่ีเกิดข้ึน
อนั ดบั การเน้นพฤตกิ รรมสุขภาพระดบั ช้ัน 1 2 3ช้นั อนุบาล- การปฏิบตั ิ (P) ทศั นคติ (A) ความรู้ (K)ประถมศึกษาปี ที่ 4 ความรู้ (K)ประถมศึกษาปี ที่ 5-6 ทศั นคติ (A) การปฏิบตั ิ (P)มธั ยมศึกษาปี ท่ี 1-3 ทศั นคติ (A) ความรู้ (K) การปฏิบตั ิ (P)มธั ยมศึกษาปี ที่ 4-6 ความรู้ (K) ทศั นคติ (A) การปฏิบตั ิ (P)
การจัดส่ิงแวดล้อมในโรงเรียนทถี่ ูกสุขลกั ษณะ (School health environment)• ช่วยส่งผลต่อการส่งเสริมสุขภาพกายและจิต• จดั การควบคุมและปรับปรุงสิ่งแวดลอ้ มให้อยู่ในสภาพท่ีดีและ ถกู สุขลกั ษณะ• ปลอดภยั จากโรคและอุบตั ิเหตุ
หลกั การจดั สิ่งแวดลล้อมในโรงเรียน1. พ้นื ท่ีสร้างโรงเรียนหรือสถานท่ีต้งั2. อาคารเรียนและท่ีปฎิบตั ิงาน3. หอ้ งเรียนหรืออุปกรณ์เครื่องใช้4. การระบายอากาศ แสงสวา่ ง และเสียง5. น้าด่ืม น้าใช้6. ส้วม ที่ปัสสาวะ7. การกาจดั ขยะมูลฝอย8. โรงอาหาร
พืน้ ที่สร้างโรงเรียนหรือสถานที่ต้งั และอาคารเรียน
อาคารเรียนและทป่ี ฎบิ ัตงิ าน
ห้องเรียนหรืออุปกรณ์เครื่องใช้
การระบายอากาศ แสงสว่าง และเสียง
นา้ ด่ืม นา้ ใช้
ส้วม ที่ปัสสาวะ
การกาจดั ขยะมูลฝอย
โรงอาหาร
ห้องพยาบาลลกั ษณะทดี่ ีของห้องพยาบาล 1.) อยชู่ ้นั ล่างของอาคารเรียน เพ่ือสะดวกในการเคลื่อนยา้ ยผปู้ ่ วย 2.) ขนาดของหอ้ งพจิ ารณาตามจานวนนกั เรียน ควรมีความยาวของหอ้ งไม่นอ้ ยกวา่ 6 เมตร เพ่อื ประโยชน์ของการวดั สายตา 3.) ต้งั อยหู่ ่างจากการรบกวนและเหตุราคาญ 4.) ตอ้ งสะอาด และมีแสงสวา่ งเพยี งพอ อากาศถ่ายเทสะดวก 5.) มีอ่างลา้ งมือในหอ้ งพยาบาล และมีสว้ มอยใู่ กลเ้ พ่ือสะดวก
ห้องพยาบาลลกั ษณะทดี่ ขี องห้องพยาบาล 6.) มีพยาบาลหรือครูเวรประจา 7.) โรงเรียนที่มีนกั เรียนเกินกวา่ 1,000 คน หรือเกิน 40 หอ้ ง ควรมีเรือนพยาบาลแยกต่างหาก 8.) จานวนเตียงท่ีเหมาะสมกบั จานวนนกั เรียน ดงั น้ี นกั เรียน 1,500 คน ควรมีเตียง 4 เตียง นกั เรียน 500-1,000 คน ควรมีเตียง 2 เตียง นกั เรียน < 500 คน ควรมีเตียง 1 เตียง
หลกั การจดั ตู้ยา ยารับประทาน เครื่องมือ เคร่ืองใช้ ยาใช้ภายนอก
การสร้างความสัมพนั ธ์ระหว่างโรงเรียน บ้าน และชุมชน (School, family and community relationship)จุดมุ่งหมาย “บ้านกบั โรงเรียน”1. ป้องกนั การเขา้ ใจผดิ ระหวา่ งครูกบั ผปู้ กครอง2. ส่งเสริมความสามคั คีระหวา่ งครูกบั ผปู้ กครอง3. ครูและผปู้ กครอง พบปะแลกเปลี่ยนความคิดเห็น4. ครูและผปู้ กครองทราบพฤติกรรมต่างๆ ของบุตรหลานท้งั ที่บา้ นและโรงเรียน5. สร้างความเขา้ ใจกบั ผปู้ กครองในการใหค้ วามร่วมมือเกี่ยวกบั กิจกรรมของโรงเรียน
จุดมุ่งหมาย “โรงเรียนกบั ชุมชน” 1. ร่วมรับผดิ ชอบ การใหค้ วามรู้กบั นกั เรียน 2. สร้างทักษะทางสังคม เช่น ทัศนคติ นิสัย ความมีน้ าใจและพฤติกรรมต่างๆ ที่เด็กได้เรียนท่ีโรงเรียน เช่น รู้จกั ช่วยเหลือและเคารพผใู้ หญ่ การพดู จาที่สุภาพ 3. ช่วยปรับปรุงและบารุงรักษาโรงเรียน
หลกั การในการสร้างความสัมพนั ธ์ของโรงเรียน กบั ครอบครัวและชุมชน• ควรดาเนินงานแบบสองทาง หรือกระบวนการคู่ (two – way process)• โรงเรียนควรเป็นฝ่ ายเริ่มสร้างความสมั พนั ธ์กบั ชุมชนก่อน• ควรดาเนินงานอนามยั โรงเรียนใหส้ อดคลอ้ งกบั งานสุขภาพของ ชุมชนในทอ้ งถิ่นท่ีโรงเรียนต้งั อยู่• ใหค้ วามสาคญั ของครอบครัวและชุมชน ตลอดจนรับฟังความ คิดเห็นของชุมชนและใหช้ ุมชนมีโอกาสเขา้ ร่วมกิจกรรมของ โรงเรียน
หลกั การในการสร้างความสัมพนั ธ์ของโรงเรียน กบั ครอบครัวและชุมชน• มีการติดต่อประชาสมั พนั ธก์ บั ครอบครัวและชุมชนอยเู่ สมอ• มีการติดต่อและประสานงานกบั หน่วยงานหรือองคก์ รในชุมชน• ศึกษาถึงสภาพการณ์ของครอบครัวและชุมชนในดา้ นต่างๆ อยเู่ สมอ• ครูควรมีเทคนิคสร้างสมั พนั ธภาพระหวา่ งบุคคล เช่น ผปู้ กครอง ประชาชน และผนู้ าชุมชน
โรงเรียนส่ งเสริมสุ ขภาพ• ความหมายของโรงเรียนส่งเสริมสุขภาพ• องคก์ ารอนามยั โลก (WHO : 1998) หมายถึง โรงเรียนท่ีมีขีดความสามารถ แขง็ แกร่ง มนั่ คงที่จะเป็นสถานท่ีใหส้ ุขภาพท่ีดีเพอื่ การอาศยั การศึกษา และการทางาน• สานกั ส่งเสริมสุขภาพ กรมอนามยั กระทรวงสาธารณสุข (2545) คือ โรงเรียนที่มีความร่วมมือร่วมใจกนั พฒั นาพฤติกรรมและส่ิงแวดลอ้ มใหเ้ อ้ือต่อสุขภาพ อยา่ งสม่าเสมอ เพ่อื การมีสุขภาพดีของทุกคนในโรงเรียน
แนวคดิ โรงเรียนส่งเสริมสุขภาพ• เป็ นการพัฒนาที่มีความครอบคลุมทุกมิติด้านสุขภาพและ สิ่งแวดลอ้ ม• โดยสร้างกระบวนการเรียนรู้ร่วมกนั ของทุกคนท้งั ในโรงเรียน และชุมชน• ดว้ ยการดูแลใส่ใจสุขภาพของตนเองและผอู้ ื่น• รวมท้ังสามารถตัดสิ นใจในการควบคุมสภาวการณ์ที่มี ผลกระทบต่อสุขภาพ โดยเฉพาะนักเรียนจะไดร้ ับการปลูกฝัง ทศั นคติ ฝึกทกั ษะและพฤติกรรมสุขภาพท่ีเหมาะสม
แนวคดิ โรงเรียนส่งเสริมสุขภาพ• สมาชิกในชุมชนมีสุ ขภาพกายและสุ ขภาพจิตท่ีดี อยู่ใน ส่ิงแวดลอ้ มที่สะอาดและปลอดภยั• ทาให้บรรลุเป้าหมายของการพฒั นาคนใหม้ ีคุณภาพชีวิตที่ดีและ อยใู่ นสงั คมอยา่ งมีความสุข
องค์ประกอบของโรงเรียนส่ งเสริมสุ ขภาพ 1. นโยบายของโรงเรียน (School policies) 2. การบริหารจดั การ (School management practices) 3. มีโครงการร่วมกนั ระหวา่ งโรงเรียนและชุมชน (School /communityprojects) 4. การจดั สิ่งแวดลอ้ มในโรงเรียนที่เอ้ือต่อสุขภาพ (Health schoolenvironment) 5. การบริการอนามยั โรงเรียน (School health services)
องค์ประกอบของโรงเรียนส่ งเสริมสุ ขภาพ 6. สุขศึกษาในโรงเรียน (School health education) 7. โภชนาการและอาหารท่ีปลอดภยั (Nutrition/food safety) 8. การออกกาลงั กาย กีฬาและสนั ทนาการ (Physical exercise, sport,recreation) 9. การใหค้ าปรึกษาและการสนบั สนุนทางสงั คม (Counseling/socialsupport) 10. การส่งเสริมสุขภาพบุคลากรในโรงเรียน(Health promotion for staff )
การให้บริการบุคคลทม่ี คี วามต้องการพเิ ศษในโรงเรียน
นโยบายสาหรับบุคคลทมี่ คี วามต้องการพเิ ศษ• กระทรวงศึกษาธิการไดเ้ สนอนโยบายให้ “ปี 2559 เป็ นปี แห่ง ความร่ วมมือด้านการจัดการศึกษาสาหรับบุคคลที่มีความ ตอ้ งการจาเป็ นพิเศษ” เพื่อส่งเสริมให้บุคคลที่มีความตอ้ งการ จาเป็ นพิเศษสามารถเขา้ ถึงสิทธิและโอกาสทางการศึกษาอย่าง ทว่ั ถึง มีคุณภาพและเสมอภาค
เป้าหมายหลกั1. ใหบ้ ุคคลท่ีมีความตอ้ งการจาเป็นพิเศษทุกคนไดร้ ับบริการช่วยเหลือระยะแรกเร่ิม (Early Intervention) โดยการคดั กรอง การประเมินความสามารถพ้ืนฐานและส่งเสริมพฒั นาบุคคลท่ีมีความตอ้ งการจาเป็นพเิ ศษทุกคนใหม้ ีความพร้อมเขา้สู่การศึกษาพ้ืนฐาน2. ใหบ้ ุคคลที่มีความตอ้ งการจาเป็นพเิ ศษทุกคนท่ีอยใู่ นวยั เรียนไดร้ ับการศึกษาพ้นื ฐานอยา่ งมีคุณภาพและเสมอภาค โดยการจดั การศึกษาแบบเรียนรวม(Inclusive Education)3. ใหบ้ ุคคลท่ีมีความตอ้ งการจาเป็นพิเศษ มีความพร้อมในการดาเนินชีวติ ได้อยา่ งมีความสุขและการประกอบอาชีพหลงั จบการศึกษา โดยจดั การศึกษาเพ่ือการมีงานทา (Transition from School to work)
เด็กที่มีความตอ้ งการพเิ ศษ (Special Needs)• หมายถึง เด็กท่ีมีความตอ้ งการทางการศึกษาที่แตกต่างไปจากปกติทวั่ ไป ท้งั ในดา้ นเน้ือหา วิธีการเรียนการสอน การประเมินผล และเคร่ืองมือ อุปกรณ์การสอน ท้งั น้ีมีสาเหตุมาจากสภาพความบกพร่องทางร่างกาย สติปัญญา อารมณ์ และสงั คม จาเป็นตอ้ งไดร้ ับการกระตุน้ ช่วยเหลือ การ บาบดั ฟ้ื นฟูและให้การเรียนการสอนท่ีเหมาะสมกบั ลกั ษณะและความ ตอ้ งการของเดก็
ประเภท1. เดก็ ท่ีมีความบกพร่องทางการได้ยนิ (เดก็ หูตึง , เด็กหูหนวก )2. เดก็ ที่มีความบกพร่องทางการเห็น (เด็กตาบอดบางส่วน , เดก็ ตาบอด)3. เดก็ ที่มีความบกพร่องทางสติปัญญา4. เดก็ ที่มีความบกพร่องทางร่างกายหรือสุขภาพ5. เด็กที่มีปัญหาทางการเรียนรู้6. เดก็ ที่มีปัญหาทางพฤตกิ รรม7. เดก็ ท่ีมีความบกพร่องทางการพดู และภาษา8. เดก็ ออทสิ ตกิ9. เดก็ ที่มีความบกพร่องซ้าซ้อนหรือพกิ ารซ้อน
การประเมนิ คดั กรองภาวะเสี่ยงและปัญหานักเรียนที่มีความ ต้องการพเิ ศษ• การคดั กรองเดก็ ท่ีมีความตอ้ งการพเิ ศษ1. แบบสงั เกตพฤติกรรมของสถาบนั ราชานุกลู2. แบบประเมินพฤติกรรมเดก็ ( SDQ )3. แบบประเมินความฉลาดทางอารมณ์ (EQ)
การดูแลนักเรียนทมี่ คี วามต้องการพเิ ศษ1. เม่ือมีการคัดกรองเด็กได้รับการวินิจฉัยแล้ว การจดั ให้เด็กไดโ้ อกาสทางการศึกษา สามารถแบ่งได้ 3 กลุ่ม ดงั น้ี กลุ่มท่ี 1 โรงเรียนเรียนร่วม สาหรับเด็กพิการที่มีความพร้อมพอจะเรียนร่วมกบั เดก็ ปกติ กล่มุ ท่ี 2 โรงเรียนเฉพาะความพกิ าร สาหรับเดก็ บกพร่องทางสติปัญญา,ทางการไดย้ ิน และการเห็น(แบ่งเป็ น2ประเภท คือเด็กตาบอด และเด็กเห็นเลือนราง) ซ่ึงเด็กที่มีความบกพร่องทางการเห็น จะสมองดีเพราะสามารถอ่านอกั ษรเบรลล์ หรือใชว้ ิธีการฟังเทปหรือแผน่ เสียงได้ และสามารถเรียนไดท้ ้งั สายสามญั และสายอาชีพ
การดูแลนักเรียนทมี่ คี วามต้องการพเิ ศษกลุ่มท่ี 3 กลุ่มโรงเรียนศึกษาสงเคราะห์ และโรงเรียนราชประชานุเคราะห์1. เดก็ ถูกบงั คบั คดีใหข้ ายแรงงาน 2. เดก็ เร่ร่อน3. เดก็ ที่อยใู่ นธุรกิจทางเพศ 4. เดก็ ที่ถูกทอดทิ้ง/กาพร้า5. เดก็ ถูกทาร้ายทารุณ 6. เดก็ ยากจนมากเป็นพเิ ศษ7. เดก็ ในชนกลุ่มนอ้ ย 8. เดก็ ท่ีมีปัญหาเก่ียวกบั ยาเสพติด9. เดก็ ที่ไดร้ ับผลกระทบจากโรคเอดส์ หรือโรคติดต่อร้ายแรงที่สงั คมรังเกียจ10. เดก็ ในสถานพนิ ิจและคุม้ เดก็ และเยาวชนเดก็ กลุ่มน้ีจะไดร้ ับการศึกษาตามหลกั สูตรข้นั พ้ืนฐานเหมือนโรงเรียนทวั่ ไป และเนน้ ทกั ษะชีวิต เรียนอาชีพสู่การมีงานทา
การดูแลนักเรียนทม่ี คี วามต้องการพเิ ศษ2. การจัดการเรียนรู้ โดยการจดั การเรียนรู้ตามแผนการจัดการศึกษาเฉพาะรายบุคคล3. การจดั การเรียนรู้ท่ีส่งเสริมทกั ษะชีวติ และทักษะอาชีพ4. การให้บริการด้านสุขภาพตามความต้องการเฉพาะราย เช่น นกั เรียนท่ีมีความบกพร่องทางร่างกาย ควรไดร้ ับการฟ้ื นฟูและเพ่ิมสมรรถภาพร่างกายนักเรียนกลุ่มออทิสติกควรไดร้ ับการพฒั นาดา้ นการใชภ้ าษา เช่น การฝึ กพฒั นาการดา้ นภาษาพูด หรือ นกั เรียนที่มีปัญหาทางพฤติกรรม ควรไดร้ ับการบาบดั ดา้ นพฤติกรรม เป็นตน้
“อนาคตของเดก็ อนาคตของชาติ”
Search