ปรัชญา ของ เศรษฐกจิ พอเพยี ง Sufficiency Economy
ความหมายของปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพยี ง “ปรัชญา” แปลว่า หลกั แห่งความรู้ หลกั แห่งความจริง “เศรษฐกจิ พอเพยี ง” พระราชดารัส เราควรปฏิบัติให้พอมี พอกนิ “ปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพยี ง” หลกั แห่งความรู้ ทคี่ วรปฏิบตั ใิ ห้พอมี พอกนิ
ท่มี าของหลกั ปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพยี ง เศรษฐกจิ พอเพยี ง พระบาทสมเดจ็ พระเจ้าอยู่หัว ราชกาลที่ 9 มพี ระราชดารัสไว้ต้งั แต่ พ.ศ. 2517 ความว่า คนอ่ืนว่าอย่างไรช่างเขา จะว่าเมืองไทยล้าสมัย ว่าเมืองไทยเชย ว่าเมืองไทยไม่มีส่ิงสมัยใหม่ แต่เราพออยู่ พอกิน และขอให้ทุกคนมี ความปรารถนาท่ีจะให้เมืองไทยพออยู่ พอกิน มีความสงบ และ ทางานต้ังจิตอธิฐานปณิธาน จุดมุ่งหมายในแง่นี้ ในทางนี้ ที่จะให้ เมืองไทย พออยู่ พอกนิ ไม่ใช่รุ่งเรืองอย่างยอด แต่ว่าการพออยู่พอกนิ มีความสงบน้ัน ถ้าจะเปรียบกับประเทศอ่ืนๆ ถ้ารักษาความพออยู่ พอกนิ น้ันได้ เราจะยอดยงิ่ ยอด พระราชดารัส วนั พุธที่ ๔ ธนั วาคม ๒๕๑๗
ปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพยี ง “เศรษฐกิจพอเพียง” เป็ นปรัชญาชี้ถึงแนวการดารงอยู่และปฏิบัติตนของ ประชาชนในทุกระดับ ต้ังแต่ระดับครอบครัว ระดับชุมชน จนถึงระดับรัฐ ท้ังในการ พฒั นาและบริหารประเทศให้ดาเนินไปในทางสายกลาง โดยเฉพาะการพฒั นาเศรษฐกิจ เพื่อให้ก้าวทันต่อยุคโลกาภิวัฒน์ ความพอเพียง หมายถึงความพอประมาณ ความมี เหตุผล รวมถึงความจาเป็ นที่จะต้องมีระบบภูมิคุ้มกันในตัวที่ดีพอสมควร ต่อการมี ผลกระทบใด ๆ อันเกิดจากการเปลี่ยนแปลงท้ังภายนอกและภายใน ท้ังนี้จะต้องอาศัย ความรอบรู้ ความรอบคอบ และความระมัดระวังอย่างยิง่ ในการนาวชิ าการต่างๆ มาใช้ใน การวางแผนและการดาเนินการทุกข้ันตอน และขณะเดียวกนั จะต้องเสริมสร้างพื้นฐาน จิตใจของคนในชาติ โดยเฉพาะเจ้าหน้าท่ีของรัฐ นักทฤษฎีและนักธุรกจิ ในทุกระดับ ให้ มีสานึกในคุณธรรม ความซ่ือสัตย์สุจริต และให้มีความรอบรู้ที่เหมาะสม ดาเนินชีวิต ด้วยความอดทน ความเพยี ร มสี ติ ปัญญา และความรอบคอบ เพ่ือให้สมดุลและพร้อม ต่อการรองรับการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วและกว้างขวางท้ังด้านวัตถุ สังคม สิ่งแวดล้อม และวฒั นธรรมจากโลกภายนอกได้เป็ นอย่างดี
2 เง่อื นไข ความรู้ รอบรู้ รอบคอบ ระมดั ระวงั ในการนาความรู้ไปใช้อย่างถูกต้อง คุณธรรม ซ่ือสัตย์ ขยนั อดทน แบ่งปัน
ปพพรออ3ะห่วง ทุนเดมิ ทรัพยากรในท้องถน่ิ ปมราะ วตั ถุดบิ ณ มา.ณ ใช้อย่างพอเหมาะไม่มากเกนิ ไป
3 ห่วง รู้สาเหตุ รู้ปัจจัยทเี่ กย่ี วข้อง มี หลกั กฎหมาย ผลกระทบทจ่ี ะ เกดิ ขนึ้ ทุกๆด้าน เหตุ ศีลธรรม ผล วฒั นธรรมท้องถ่นิ
3 ห่วง ไม่ประมาทในการดาเนินชีวติ รู้เท่าทนั การเปลย่ี นแปลง มี ภูมิ เตรียมพร้อมการเปลย่ี นแปลงด้านต่างๆ คุ้ม กนั ในตัว ทดี่ ี
4 มติ ิ วตั ถุ ทเ่ี ป็ นปัจจัยเกยี่ วกบั เศรษฐกจิ สังคม การอยู่ร่วมกนั ของคนในสังคม สิ่งแวดล้อม ไม่ทาลายสิ่งแวดล้อม วฒั นธรรม วถิ ีการดาเนินชีวติ ความเชื่อ ศาสนา ภูมปิ ัญญา
3 ศาสตร์ 1. ศาสตร์ภูมิปัญญา 2. ภูมปิ ัญญาท้องถนิ่ ทเ่ี กยี่ วเนื่อง ศาสตร์สากล หลกั ทฤษฎตี ่างๆ 3. ศาสตร์พระราชา หลกั การทรงงาน 23 ข้อ
การนา หลกั ปรัชญา ของ เศรษฐกจิ พอเพยี ง สู่การ จดั การเรียนรู้
เนื่องจากวทิ ยาลยั ไดจ้ ดั การเรียนรู้แบบบูรณาการหลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงใน ทุกส่วนที่เกี่ยวขอ้ งจากหลงั สูตรการเรียนรู้ระดบั ปวช. รายวิชาโครงการ และเป็ นช่วงจดั งานสืบสานวฒั นธรรม และกิจกรรมการไหวค้ รู อาจารยจ์ ึงใหน้ กั เรียนระดบั ปวช.3 ใหจ้ บั กลุ่มโดยมีสมาชิกในกลุ่ม 8 คน ทาหัวขอ้ โครงงานพานไหวค้ รู ระยะเวลาในการดาเนิน โครงงาน 1 เดือน ซ่ึงผลงานและกระบวนการดาเนินงานตอ้ งแสดงให้เห็นว่า นักเรียน ประยกุ ตห์ ลกั ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาบูรณาการอยา่ งไร โดยเนน้ ความคุม้ ค่าของการใชว้ สั ดุและไม่ทาลายสิ่งแวดลอ้ ม พร้อมแสดงถึงการทางานเป็นทีมและการสืบสานวฒั นธรรมไทย พบวา่ กลุ่มท่ีไดร้ ับรางวลั ท่ี 1 มีผลการดาเนินกิจกรรมดงั น้ี
1.เมื่อรับหัวขอ้ โครงงานทุกคนในกลุ่มสรุปเบ้ืองตน้ วา่ ให้เวลาทุกคน 2 วนั ในการหา ขอ้ มูลความรู้ในการทาพานไหวค้ รู เช่น วสั ดุ วธิ ีทางาน ฯลฯ 2.นดั ประชุมร่วมกนั โดยนาขอ้ มูลที่แต่ละคนหาไดม้ าหารือร่วมกนั แลกเปลี่ยนความรู้ และรับฟังขอ้ เสนอของเพื่อนในกลุ่ม โดยในคร้ังน้ีไดแ้ บ่งหนา้ ที่รับผิดชอบของแต่ละคน ตามความถนดั ความสามารถของแต่ละคน พร้อมวางแผนทางานโดยคานึงถึง ระยะเวลาที่ อาจารยก์ าหนดกบั ตารางเรียนในแต่ละวนั วสั ดุและอุปกรณ์ที่ตอ้ งใช้ งบประมาณท่ีเหมาะสมโดยไม่ทาใหท้ ุกคนในกลุม่ เดือดร้อน ฯลฯ 3.ทุกคนในกลุม่ ทางานดว้ ยความมานะ อดทน และมีความ ซื่อสตั ยใ์ นการเบิกจ่ายเงิน 4.รูปแบบพานมาจากมติของทุกคน โดยคานึงถึงความสวย การใชภ้ ูมิปัญญาประดิษฐท์ ี่สามารถทาไดเ้ สร็จตามกาหนดเวลา เนน้ การใชว้ สั ดุในทอ้ งถิ่นที่หาง่ายไม่ทาลายสิ่งแวดลอ้ ม
5.มีการไปศึกษาขอ้ มูลเพ่มิ เติมจากผใู้ หญ่ในทอ้ งถ่ินท้งั เรื่องวสั ดุที่นามาใช้ วิธีการเลือกวสั ดุและวธิ ีเกบ็ รักษา รวมถึง วิธีการประดิษฐแ์ ละภูมิปัญญาดา้ นความหมายท่ีแฝงในแต่ละ องคป์ ระกอบของพาน 6.ท้งั น้ีจากการสังเกตและการประเมินผลของครู ทางกลุ่ม สามารถนาเสนอไดว้ ่าทาไมถึงเลือกทาพานรูปทรงแบบน้ี พานท่ีทาออกมาก็มีรูปทรง สวยงาม เด็กๆ ใชใ้ บตองและดอกไมท้ ี่หาไดใ้ นทอ้ งถ่ินเป็ นองคป์ ระกอบหลกั ที่สาคญั ตดั มาใชเ้ ท่าที่จาเป็ นเหลือเป็ นขยะนอ้ ยกวา่ กลุ่มอ่ืนๆ และแบ่งหนา้ ที่การทางานกนั อยา่ งเป็ น ระบบ ช่วยกนั ทาเสร็จทนั ในเวลาที่กาหนด
7.เม่ือเสร็จภารกิจทุกคนช่วยกนั ทาความสะอาดพ้ืนท่ี อุปกรณ์ และเกบ็ อุปกรณ์เพือ่ ใหส้ ามารถใชต้ ่อไดอ้ ยา่ ง มีประสิทธิภาพ 8.ผรู้ ับผดิ ชอบเงินกลุม่ แจกแจงงบประมาณในการ ดาเนินงานทุกข้นั ตอนอยา่ งเป็นระบบ เพอื่ นๆ ยอมรับและ นาเงินที่เหลือจากการดาเนินกิจกรรมไปทาบุญบริจาค กบั วทิ ยาลยั 9.ที่สาคญั เมื่อตนเองเสร็จก่อนยงั มีน้าใจถามกลุ่มอ่ืนๆ วา่ สามารถช่วยอะไรเพื่อนได้ บา้ ง ยินดีจะช่วย ขณะนาเสนอผลงานก็แบ่งหัวขอ้ ช่วยกนั นาเสนออยา่ งเป็ นข้นั เป็ นตอน จนกรรมการเห็นสมควรใหไ้ ดร้ ับรางวลั
การบูรณาการ 2-3-4 (หลกั ปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพยี ง) ความรู้ ความพอประมาณ วตั ถุ 1.ข้อกาหนดโครงงาน 1.แบ่งงานและความรับผดิ ชอบตามศักยภาพของ 1.เหน็ คุณค่าของเงนิ ของวสั ดุอปุ กรณ์ โดยใช้ได้อย่าง 2.รูปแบบพาน แต่ละคน ถูกต้องและคุ้มค่า 3.วสั ดุที่ใช้และวธิ ีการเกบ็ 2.เลือกรูปแบบพานท่สี ามารถช่วยกนั ทาได้เสร็จ 2.รู้จกั รักษาอุปกรณ์ส่วนรวมให้คงทนใช้ได้อย่าง รักษา ทันเวลา คุ้มค่า ส่งต่อผ้อู ่ืน 4.งบประมาณทมี่ ี 3.ใช้เวลาการทาโครงงานกลุ่มแบบพอเหมาะพอดี สิ่งแวดล้อม 5.ตารางเวลากจิ กรรมและ ไม่ส่งผลกระทบเวลาเรียนวชิ าอ่ืน 1.เห็นคุณค่าของส่ิงแวดลอ้ ม เลือกวสั ดุท่ีไม่ทาลาย สิ่งแวดลอ้ ม ตารางเวลาเรียนในแต่ละวนั 4.ใช้วสั ดุในปริมาณท่ีเหมาะสม คุณธรรม ความมเี หตุผล 2.รู้จกั ใชว้ สั ดุจากธรรมชาติอยา่ งประหยดั คุม้ คา่ 1.ความซ่ือสตั ยใ์ นเรื่อง เงิน 1.เพื่อใหง้ านออกมาสาเร็จตามเป้าหมายที่วางไว2้ . สังคม ทอง หนา้ ท่ีท่ีรับผดิ ชอบ เพ่ือใหไ้ ดเ้ รียนรู้ภูมิปัญญาทอ้ งถิ่นแลวฒั นธรรมที่ 2.ความอดทนในการทางาน ดีงามของไทย 1.เห็นคุณคา่ การทางานเป็นทีม ร่วมกบั ผอู้ ่ืนและหนา้ ท่ี 2.เกิดความสมั พนั ธ์ท่ีดีกบั ชุมชน กบั ผใู้ หญ่ในทอ้ งถิ่น ท่ีรับผดิ ชอบ เพ่ือให้งาน การมภี ูมคิ ุ้มกนั ในตัวทด่ี ี 3.เห็นคุณค่าของการช่วยเหลือ แบ่งปันต่อเพื่อ สงั คม แลว้ เสร็จ 3.ความมีน้าใจ เอ้ือเฟ้ื อ 1.วางแผนการทางานร่วมกนั ดว้ ยความรอบคอบ วฒั นธรรม 2.ระมดั ระวงั การใชอ้ ุปกรณ์ที่เสี่ยงตอ่ การบาดเจบ็ 3.จดั เกบ็ อุปกรณ์ใหเ้ ป็นระเบียบหลงั ใชง้ านเสร็จ 1.เห็นคุณคา่ เขา้ ใจความหมายของภูมิปัญญา 4.จดั การขยะท่ีเกิดข้ึนจากการทางานอยา่ งถกู วธิ ี 2.สืบสานภูมิปัญญาประดิษฐง์ านใบตอง 3.เห็นคุณค่าของวฒั นธรรมการนอบนอ้ มและมารยาท ไทย
วสั ดุอุปรณ์ แนวคดิ 1.ถงั น้าขนาดความจุ 60 ลิตร นาน้าที่ออกจากท่อแอร์ในอาคารมาใชใ้ หเ้ กิดประโยชน์ 2.มอเตอร์ป๊ัมน้า และเป็นการประหยดั การใชน้ ้าในสถานศึกษา 3.ชุดควบคุมการทางาน - สวติ ชล์ ูกลอย การตดิ ต้งั ใช้งาน/การทางาน - ไทเบอร์ - รีเลยแ์ มทเนติก 4.อุปกรณ์จ่ายน้า - ท่อ PVC - หวั จ่ายน้า
ความรู้ 1. คุณลกั ษณะของวตั ถุทนี่ ามาใช้ 2. มอเตอร์ป๊ัมนา้ 2 เงื่อนไข 3. ท่อส่งนา้ 4. ระบบกระแสและแรงดนั ไฟฟ้า 5. ระบบควบคุมการทางานแบบอตั โนมตั ิ 6. ศึกษาข้อมูลการทางานของอุปกรณ์ในแต่ละข้นั คุณธรรม 1. ความประหยัด 2. ความรับผดิ ชอบ 3. ความอดทน 4. ความสามคั คใี นทมี 5. มกี จิ นิสัยทด่ี ใี นการทางานเป็ นหมู่คณะ
3 ห่วง มีเหตผุ ล มีภมู คิ ้มุ กนั ในตวั ท่ีดี ความพอประมาณ • ประหยดั การใชน้ ้าใน • วางแผนข้นั ตอนในการ สถานศึกษา ออกแบบชิ้นงาน • เลือกใชว้ สั ดุ อุปกรณ์ท่ีมี คุณภาพ ราคาเหมาะสม • อานวยความสะดวกให้ • ศึกษาขอ้ มูลท่ีนามาใชง้ าน ผใู้ ชง้ าน • ตรวจสอบคุณภาพในการ • วสั ดุที่ใชพ้ อดีกบั ชิ้นงาน • ใชเ้ วลาพอเหมาะตามท่ี • สามารถผลิตในเชิง ใชง้ าน พาณิชยเ์ พ่ือการจาหน่าย • มีความปลอดภยั ต่อ กาหนด ได้ ผใู้ ชง้ าน
วตั ถุ 1. เห็นคา่ ของเงินและวสั ดุที่ใช้ 4 มิติ 2. ใชว้ สั ดุคงทนต่อการใชง้ าน 1. บุคลากรสะดวกในการดูแลตน้ ไม้ สังคม 2. เกิดความสามคั คีในหมู่คณะ 3. สามารถจาหน่ายใหป้ ระชาชนไปใชไ้ ด้ ส่ิงแวด 1. รู้จกั นาน้ามาใชอ้ ยา่ งคุม้ คา่ ล้อม 2. ดูแลตน้ ไมใ้ หเ้ จริญงอกงาม ใหเ้ กิดบรรยากาศที่ดีในวทิ ยาลยั ฯ วัฒน 1. เห็นคุณคา่ ในการใชน้ ้าอยา่ งประหยดั ธรรม 2. เห็นคุณคา่ ในการทางานร่วมกนั อยา่ งสามคั คี
ศาสตร์ - ศึกษาข้อมูลอย่างเป็ นระบบ พระราชา - ประหยดั เรียบง่ายได้ประโยชน์สูงสุด - ทาตามลาดบั ข้ัน ศาสตร์ - การมสี ่วนร่วม สากล - ทฤษฎรี ะบบไฟฟ้า ศาสตร์ - หลกั การทางานของอุปกรณ์ ภมู ิปัญญา ควบคุมและอปุ กรณ์การทางาน - ทฤษฎกี ารใช้นา้ ให้เกดิ ประโยชน์ - การนานา้ ทงิ้ มาใช้ให้เกดิ ประโยชน์ สูงสุดและคุ้มค่า
เม่ือมโี อกาสและมงี านทา ควรเต็มใจทา โดยไม่ จาเป็ นต้องมขี ้อแม้ หรือ เงื่อนไขอนั ได ไว้ให้เป็ นเคร่ืองกดี ขวาง คนทีท่ างานจริงๆ น้ัน ไม่ ว่าจะจับงานส่ิงใด ย่อมทาได้เสมอ
Search
Read the Text Version
- 1 - 48
Pages: