เรือ่ ง ควำมรู้เบอ้ื งตน้ ทำงสถิติ จดั ทำโดย นำงสำวโนซลี ำ สำลีม แผนกวชิ ำคอมพวิ เตอร์ธรุ กจิ3204-2104 โปรแกรมสำเร็จรปู ทำงสถติ ิเพือ่ กำรวจิ ยั วทิ ยำลยั กำรอำชีพปัตตำนี
ควำมรเู้ บื้องต้นทำงสถติ ิ 5. ประชากรและ กลมุ่ ตวั อย่าง 4. มาตราการวดั 3. ข้อมูล 2. ประเภทของสถติ ิ 1. ความหมายของสถิติ
ควำมรเู้ บ้ืองตน้ ทำงสถิติ (ตอ่ ) 10. .ความแปรปรวนและ ส่วนเบ่ยี งเบนมาตรฐาน 9. พิสัย 8. มชั ฌิมเลขคณติ มธั ยฐาน และฐานนยิ ม 7. ประเภทของตวั แปร 6. ตวั แปร
ความหมายของสถิติ คำวำ่ สถิติ (Statistics) มำจำกภำษำเยอรมนั วำ่ Statisticsมีรำกศัพท์มำจำก Stat หมำยถึง ข้อมูลหรือสำรสนเทศ ซึ่งจะอำนวยประโยชน์ต่อกำรบริหำรประเทศในด้ำนต่ำง ๆ เช่น กำรทำสำมะโนครวั เพ่ือจะทรำบจำนวนพลเมืองในประเทศท้งั หมด ในสมัยต่อมำ คำว่ำ สถิติ ได้หมำยถึง ตัวเลขหรือข้อมูลที่ได้จำกกำรเก็บรวบรวม เชน่ จำนวนผ้ปู ระสบอบุ ัติเหตบุ นท้องถนน อัตรำกำรเกิดของเด็กทำรก ปริมำณน้ำฝนในแต่ละปี เป็นต้น สถิติในควำมหมำยที่กล่ำวมำน้ีเรียกอีกอย่ำงหนึ่งว่ำ ข้อมูลทำงสถิติ(Statistical data) อีกควำมหมำยหนง่ึ สถติ ิ หมำยถึง วิธีกำรวำ่ ด้วยกำรเก็บรวบรวมขอ้ มูล กำรนำเสนอข้อมูล กำรวิเครำะหข์ ้อมลู และกำรตคี วำมหมำยข้อมูล
ประเภทของสถติ ิ สถติ ิแบง่ เปน็ 2 ประเภท คือ 1. สถติ ิพรรณนำ (Descriptive Statistics) เป็นสถิติที่ใช้อธิบำยคุณลักษณะของส่ิงที่ต้องกำรศึกษำกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง ไม่สำมำรถอ้ำงอิงไปยังกลุ่มอน่ื ๆ ได้ สถิตทิ อ่ี ยใู่ นประเภทนี้ เช่น ค่ำเฉลย่ี คำ่ มธั ยฐำนค่ำฐำนนยิ ม สว่ นเบี่ยงเบนมำตรฐำน ค่ำพสิ ัย ฯลฯ
ประเภทของสถติ ิ (ต่อ)
ประเภทของสถติ ิ (ต่อ) 2. สถติ ิอำ้ งอิง (Inferential Statistics) เป็นสถิติที่ใช้อธิบำยคุณลักษณะของส่ิงที่ต้องกำรศึกษำกลุ่มใดกลุ่มหน่ึงหรือหลำยกลุ่ม แล้วสำมำรถอ้ำงอิงไปยังกลุ่มประชำกรได้ โดยกลุ่มท่ีนำมำศึกษำจะต้องเป็นตัวแทนที่ดีของประชำกร ตัวแทนท่ีดีของประชำกรได้มำโดยวิธีกำรสุ่มตัวอย่ำง และตัวแทนท่ีดีของประชำกรเรียกว่ำกลุ่มตัวอยำ่ ง ซึง่ แบ่งได้เปน็ 2 ประเภท คือ 2.1 สถติ พิ ำรำมิเตอร์ (Parametric Statistics) 2.2 สถติ ไิ รพ้ ำรำมเิ ตอร์ (NonparametricStatistics)
ข้อมูล ข้อมูล คือ ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับตัวแปรที่สนใจจะศึกษำซึ่งรวบรวมได้จำกแต่ละหน่วยของกลุ่มท่ีต้องกำรศึกษำซง่ึ จำแนกออกได้เป็น 2 ประเภท คือ 3.1 ข้อมูลเชิงปริมำณ (Quantitative Data)เป็นข้อมูลที่แสดงออกมำเป็นจำนวนหรือตัวเลขที่สำมำรถพิจำรณำได้ว่ำค่ำที่แสดงออกมำน้ันมีปริมำณมำกหรือน้อยเพียงไร ข้อมลู ประเภทนี้จำแนกออกเปน็ 2 แบบ คอื ก) ขอ้ มลู แบบไม่ตอ่ เน่ือง (Discrete Data)เชน่ 0, 1, 2, …, …, 100 ฯลฯ หรือ 0.1, 0.2, 0.3, …, …ซง่ึ ในชอ่ งวำ่ งของแต่ละคำ่ ของขอ้ มูลจะไมม่ ีค่ำอนื่ ใดมำแทรก
ข้อมูล (ต่อ) ข) ขอ้ มลู แบบต่อเนือ่ ง (ContinuousData) เช่นจำนวน 0 – 1 ซงึ่ มคี ่ำมำกมำยนับไม่ถว้ น และเปน็ เส้นจำนวนแบบไม่ขำดตอน 3.2 ขอ้ มลู เชิงคณุ ภำพ (QualitativeData) เปน็ ขอ้ มลู ท่แี สดงออกในเชงิ คณุ ลักษณะ ซึ่งไม่สำมำรถบอกค่ำหรือปรมิ ำณวำ่ มำกหรือน้อย เชน่ เพศศำสนำ ฯลฯ
ขอ้ มูล (ต่อ)
มาตรการวัด (Measurement Scales) ปัจจบุ ันทำงสถิติไดแ้ บง่ มำตรำกำรวัดออกเปน็ 4 ประเภทคอื 4.1 มำตรำนำมบญั ญตั ิ (Nominal Scales)หมำยถึง ข้อมูลท่ีแบ่งเปน็ กลมุ่ เป็นพวก เช่น เพศ อำชพี ศำสนำผวิ สี ฯลฯ ไม่สำมำรถนำมำจดั ลำดบั หรือนำมำคำนวณได้ 4.2 มำตรำเรียงอันดับ (Ordinal Scale) หมำยถึงข้อมูลท่ีสำมำรถแบ่งเป็นกลุ่มได้ แล้วยังสำมำรถบอกอันดับท่ีของควำมแตกต่ำงได้ แต่ไม่สำมำรถบอกระยะห่ำงของอันดับที่แน่นอนได้ หรือไม่สำมำรถเปรียบเทียบได้ว่ำอันดับท่ีจัดน้ันมีควำมแตกต่ำงกันของระยะห่ำงเท่ำใด เช่น อันดับท่ีของกำรสอบของนักศึกษำอันดบั ท่ีของผู้เขำ้ ประกวดนำงสำวไทย ฯลฯ
มาตรการวัด (Measurement Scales) (ต่อ) 4.3 มำตรำอันตรภำค (Interval Scale) หมำยถึงข้อมูลท่ีมีช่วงห่ำง หรือระยะห่ำงเท่ำ ๆ กัน สำมำรถวัดค่ำได้แต่เป็นข้อมูลท่ีไม่มีศูนย์แท้ เช่น อุณหภูมิ คะแนนสอบ GPA คะแนน I.Q. ฯลฯ 4.4 มำตรำอัตรำส่วน (Ratio Scale)หมำยถึง ข้อมูลที่มีมำตรำวัดหรือระดับกำรวัดท่ีสูงที่สุดคือ นอกจำกสำมำรถแบ่งกลุ่มได้ จัดอันดับได้ มีช่วงห่ำงของข้อมูลเท่ำ ๆ กันแล้ว ยังเป็นข้อมูลท่ีมีศูนย์แท้ เช่นนำ้ หนัก ส่วนสูง ระยะทำง รำยได้ ฯลฯ
ขอ้ มลู ต่อไปนอี้ ย่ใู นมาตรวัดอะไร1. เพศ ชำย หญงิ2. เกรด ( A, B, C, D, F )3. GPA 3.254. เกรด (น้อยกวำ่ 2.00, 2.01 – 3.00, มำกกวำ่ 3.00)5. เวลำ 21 นำที 23 วินำที
ขอ้ มูลต่อไปน้อี ยใู่ นมาตรวดั อะไร (ตอ่ )6. รำยได้ 10,000 บำท7. รำยได้ (ตำ่ กวำ่ 10,000, 10,001 – 30,000)8. ชนั้ ปี (1, 2, 3, 4)9. หมำยเลขโทรศัพท์ 082 - 7251568
ประชากรและกล่มุ ตัวอย่าง ประชำกร (Population) หมำยถึง กลุ่มของส่งิ ตำ่ ง ๆ ทั้งหมดทีส่ นใจ ซึง่ อำจเป็นกลุ่มของสิ่งของคน หรอื เหตกุ ำรณต์ ่ำง ๆ กลุ่มตัวอย่ำง (Sample) หมำยถึง ส่วนหนึ่งของประชำกรท่ีสนใจ กลุ่มตัวอย่ำงท่ีดี หมำยถึงกลุ่มตัวอย่ำงลักษณะต่ำง ๆ ที่สำคัญครบถ้วนเหมือนกับประชำกร เป็นตวั อยำ่ งท่ีของประชำกรได้
ตัวแปร ตัวแปร (Variables) หมำยถึง คุณสมบัติ หรือคุณลักษณะท่ีแตกต่ำงกันของปรำกฏกำรณ์ซ่ึงอำจเป็นสิ่งของทม่ี ีชวี ติ หรือไม่มีชีวิต หรือเหตุกำรณ์ต่ำง ๆ เช่น เพศ สำมำรถแปรได้เปน็ หญงิ หรอื ชำย อำยุ สำมำรถแปรได้เปน็ จำนวนปีของอำยุ ควำมคดิ เห็นตอ่ นโยบำยของรัฐบำล สำมำรถแปรได้เป็น เห็นด้วย ไม่เห็นด้วย หรอื เฉยๆ
ประเภทของตัวแปร ตวั แปร จำแนกได้ 2 ประเภท คือ 7.1 ตัวแปรเชิงคุณภำพ ได้แก่ ตัวแปรที่มีค่ำเป็นไปได้ใช้บอกลักษณะของกำรแบ่งเป็นกลุ่มหรือประเภทได้ ซ่ึงไม่อำจวัดเป็นตัวเลขได้ เช่น เพศ สีของผมฯลฯ 7.2 ตวั แปรเชิงปริมำณ ได้แก่ ตัวแปรท่ีมีคำ่ ท่ีเปน็ ไปได้เป็นคำ่ ตวั เลข เชน่ ควำมสงู น้ำหนัก ฯลฯ
แบบฝกึ หดั หลงั เรยี น 1. ใหน้ ักศึกษำยกตัวอยำ่ งข้อมูลเชงิ ปริมำณ และข้อมูลเชงิ คุณภำพให้ได้มำกที่สดุ 2. ให้นกั ศึกษำยกตัวอยำ่ งข้อมลู ทอี่ ยูใ่ นมำตรกำร-วัดตำ่ ง ๆ ทั้ง 4 มำตรำกำรวัดให้ได้มำกทสี่ ุด
Search
Read the Text Version
- 1 - 18
Pages: