Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore เชิงศาสนา (วัด)

เชิงศาสนา (วัด)

Published by bangphaelibrary01, 2019-01-03 08:43:42

Description: เชิงศาสนา (วัด)

Search

Read the Text Version

ทาเนยี บแหลง่ เรียนรู้สถานท่ที ่องเทยี่ ว เชิงศาสนา ศนู ย์การศกึ ษานอกระบบ และการศกึ ษาตามอธั ยาศัยอาเภอบางแพ สานกั งาน กศน.จังหวัดราชบุรี สานักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย สานกั งานปลดั กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงศึกษาธกิ าร



คานาแหล่งเรียนรู้ หมายถงึ “แหล่ง” หรือ “ทร่ี วม” สถานทหี่ รือศูนยร์ วมทปี่ ระกอบดว้ ย ขอ้ มลู ขา่ วสารความรู้ และกจิ กรรมที่มีกระบวนการเรยี นรูห้ รือกระบวนการเรยี นการสอนทมี่ รี ปู แบบแตกตา่ งจากกระบวนการเรยี นการสอนทีม่ คี รเู ปน็ ผสู้ อน หรือ ศูนย์กลางการเรยี นร้แู ละแหลง่ การเรียนรู้ ตามมาตรา 25 ในพระราชบัญญตั กิ ารศึกษาแหง่ ชาติ พ.ศ. 2542 (ฉบับแกไ้ ข) พ.ศ.2545 ประกอบดว้ ยห้องสมดุ ประชาชนพพิ ธิ ภณั ฑ์ หอศลิ ป์ สวนสตั ว์ สวนสาธารณะ สวนพฤกษศาสตร์ อุทยานวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ศนู ย์การกฬี าและนนั ทนาการ แหลง่ ข้อมูลและแหลง่ การเรยี นรอู้ ืน่ จากความสาคญั ดงั กล่าว ศนู ยบ์ ริการการศกึ ษานอกโรงเรียนอาเภอบางแพ จงึ ได้จัดทาเอกสารทาเนยี บแหล่งเรียนรู้ เพื่อใช้ประโยชน์ของแหลง่ เรียนรู้ให้การศึกษาแกผ่ ้เู รยี นและผ้รู ับบริการทงั้ ในระบบ และนอกระบบ และตามอธั ยาศยั โดยมเี ปูาหมาย (1) แหล่งเรยี นรู้สามารถตอบสนอง การเรียนรู้ทเ่ี ป็นกระบวนการ ( Process of Learning) การเรียนรโู้ ดยการปฏิบตั ิจริง ทั้งการเรียนรู้ของคนในชุมชนทัง้ ในระบบ นอกระบบ และตามอัธยาศัย (2) เปน็ แหลง่ ทากิจกรรมแหล่งทศั นศึกษา แหลง่ ฝึกงานและแหล่งประกอบอาชีพของผู้เรียน (3) เปน็ แหลง่ สรา้ งกระบวนการเรียนรู้ให้เกิดข้นึโดยตรง (4) เป็นหอ้ งเรยี นธรรมชาติ เป็นแหลง่ ศกึ ษาคน้ ควา้ วิจยั และฝกึ อบรม (5) เปน็ การเปิดโอกาสสาหรับผ้สู นใจเขา้ ถึงขอ้ มูลได้อย่างเต็มทแี่ ละท่วั ถึง (6) สามารถเผยแพร่ขอ้ มูลแกผ่ เู้ รยี น ผู้รับบริการในเชิงรกุเขา้ สู่ทกุ กลุ่มเปูาหมายอย่างทว่ั ถงึ ประหยัดสะดวก (7) มีการเช่อื มโยงและแลกเปล่ียนข้อมลู ระหว่างกันและ(8) มสี ่อื ประเภทต่างๆ ประกอบด้วยสื่อสง่ิ พมิ พ์ และสอ่ื อเิ ล็กทรอนกิ ส์ เพอื่ เสรมิ กจิ กรรมการเรยี นการสอนและการพฒั นาอาชีพเปน็ ตน้ เอกสารทาเนยี บแหล่งเรียนรู้เลม่ นี้ จะประกอบดว้ ยเน้ือหาสาระ ดงั ต่อไปนี้แหลง่ เรียนร้ปู ระเภทท่องเทย่ี วเชงิ ศาสนา ไดแ้ กว่ ัดตา่ งๆ ในอาเภอบางแพศูนย์การศกึ ษา นอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศัย อาเภอบางแพ หวังเป็นอยา่ งยงิ่ ว่า จะเป็นแหลง่เรยี นรแู้ ละข้อมูลสารสนเทศของสถานศกึ ษา ใหม้ ีคุณภาพและมาตรฐานการศกึ ษา เพอื่ นาไปสูก่ ารประเมินเพ่อื รองรบั มาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษาและผรู้ บั บริการเกดิ ความมนั่ ใจและพอใจในการรบั บริการที่มีมาตรฐานการศึกษาทีก่ าหนด ตอ้ งขอขอบคุณคณะทางานทีม่ ีสว่ นเก่ยี วขอ้ งทกุ ทา่ นทท่ี าให้เอกสารสาเร็จด้วยดี หากทา่ นพบขอ้ บกพรอ่ งและขอ้ เสนอแนะใดๆ ในการพฒั นาทาเนยี บแหลง่ เรียนรู้ให้มีความสมบูรณ์โปรดแจง้ ศนู ยก์ ารศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศัยอาเภอบางแพ เพื่อไดพ้ ัฒนาปรับปรงุ ตอ่ ไป (นายสจั จา จันทรวเิ ชยี ร)ผ้อู านวยการศูนยก์ ารศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศัยอาเภอบางแพ



สารบัญ หนา้ 1คานาสารบญั 9ข้อมูลพนื้ ฐานจังหวดั ราชบรุ ี 10ขอ้ มูลพ้ืนฐานอาเภอบางแพ 5 11 แหล่งเรียนรเู้ ชงิ ศาสนา 13 วัดเหนอื บางแพ 14 วัดบา้ นกุ่ม 15 วัดบางแพใต้ 16 วัดท่าราบ 12 17 วดั ดอนเซง่ 18 วดั ใหมอ่ ีจาง 19 วดั หลวง 20 วดั กลางวังเยน็ 21 วดั หนองมว่ ง 22 วัดเตาอิฐ 23 วดั หัวโพ 24 วดั แหลมทอง 25 วัดดอนมะขามเทศ 26 วัดหนองเอย่ี น 27 วัดทานบ 28 วดั แกว้ 29 วดั บ้านหลวง 30 วดั บา้ นใหมบ่ ปุ ผาราม 31 วัดบา้ นใหม่เหนือ 32 วัดดอนสาลี 33 วดั ตาลเตย้ี 34 วดั ดอนใหญ่ 35 วัดลาน้า วดั ดอนพรหม วัดดอนคา วดั ตากแดด สานักแมช่ ไี ทยทัพโพธ์ทิ อง (พระมหาเจดีย์ศรีสวุ รรณภมู ิ)

สารบญั (ตอ่ )คานา หนา้สารบญั 37 38 วัดทพั โพธิ์ทอง 40 วัดใหญโ่ พหัก วดั สามคั คธี รรม

1ขอ้ มลู พื้นฐานจังหวดั ราชบรุ ี

2คาขวญั ประจาจงั หวดั ราชบุรี คนสวยโพธาราม คนงามบา้ นโปงุ เมืองโอง่ มงั กร วดั ขนอนหนงั ใหญ่ ตื่นใจถ้างาม ตลาดนา้ดาเนิน เพลินค้างคาวรอ้ ยล้าน ย่านย่สี กปลาดี ตราประจาจงั หวัดราชบรุ ี รูปเคร่ืองราชกกธุ ภัณฑข์ องพระมหากษตั รยิ ์ 2 สิ่ง คอื 1.พระแสงขรรค์ชัยศรี ประดิษฐานอยูบ่ นบันไดแก้ว 2.ฉลองพระบาทคู่ประดิษฐานอยบู่ นพานทอง หมายถึง เครือ่ งแสดงถึง ความเป็นพระเจ้าแผน่ ดิน ธงประจาจงั หวัดราชบุรีต้นไมป้ ระจาจงั หวดั ราชบรุ ี ดอกไม้ประจาจงั หวัดช่ือพรรณไม้ โมกมัน ราชบุรีชื่อวทิ ยาศาสตร์ Wrightia ชอ่ื ดอกไม้ ดอกกลั ปพฤกษ์tomentosa

3 ประวัติจังหวดั ราชบรุ ีจังหวดั ราชบุรมี ชี ่ืออนั เป็นมงคลยง่ิ หมายถงึ \" เมืองพระราชา\" ราชบุรเี ป็นเมอื งเก่าแก่ เมอื งหนง่ึ ของประเทศไทยจากการศึกษา และขุดค้นของนกั ประวัตศิ าสตร์ นกั โบราณคดี พบว่าดินแดนแถบล่มุ แมน่ ้าแม่กลองแห่งนี้เปน็ ถ่ินฐานท่อี ยู่อาศัยของคนหลายยคุ หลายสมยั และมคี วามรุ่งเรอื งมาต้ังแต่อดีต จากหลกั ฐานทางโบราณสถานและโบราณวัตถุมาก ทาใหเ้ ชื่อไดว้ ่ามผี ูค้ นต้ังถนิ่ ฐานอย่ใู นบริเวณนตี้ งั้ แตย่ ุคหินกลาง ตลอดจนได้ค้นพบเมืองโบราณสมัยทราวดีที่ตาบลคบู ัว อาเภอเมืองราชบรุ ี พระบาทสมเดจ็ พระพุทธยอดฟูาจฬุ าโลกมหาราชปฐมกษตั ริยแ์ หง่ ราชวงศจ์ กั รี ได้เคยดารงตาแหนง่ หลวงยกกระบตั รเมอื งราชบุรีในสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย ซึ่งในชว่ งปลายสมัยกรุงศรีอยุธยาและตอนต้นกรุงรตั นโกสินทร์ปรากฏหลักฐานทางประวัตศิ าสตร์พบวา่ เมอื งราชบุรีเป็นเมือง หนา้ ด่านทส่ี าคัญ และ เป็นสมรภูมิการรบหลายสมัย โดยเฉพาะในสมยั สมเด็จพระพทุ ธยอดฟาู จุฬาโลกไดย้ กทัพมาต้ังรบั ศึกพม่าในเขตราชบุรหี ลายครั้ง คร้งั สาคญั ท่สี ดุ คอื สงครามเกา้ ทพัต่อมา พ.ศ. 2360 ในสมยั พระบาทสมเดจ็ พระพุทธเลิศหลา้ นภาลยั ได้โปรดเกล้าฯให้สรา้ งกาแพงเมืองใหม่ทางฝ๎่งซ้ายของแมน่ า้ แมก่ ลองตลอดมาจนถึงปจ๎ จบุ ัน คร้นั ถึงสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกลา้ เจา้ อยหู่ วั ใน พ.ศ.2437 ไดท้ รงเปลีย่ น การปกครองสว่ นภูมิภาคโดยรวมหวั เมืองตา่ งๆ ทอ่ี ยู่ใกลช้ ิดกัน ตั้งข้นึ เป็นมณฑล และได้รวมเมืองราชบรุ ี เมอื งกาญจนบรุ ี เมืองสมทุ รสงคราม เมอื งเพชรบุรี เมืองปราณบุรี เมอื งประจวบคีรขี ันธ์ รวม 6เมอื ง ต้ังขึ้นเปน็ มณฑลราชบุรี ตงั้ ทบ่ี ญั ชาการมณฑล ณ ท่ีเมอื งราชบรุ ี ทางฝง๎่ ขวาของแม่น้าแม่กลอง (ปจ๎ จุบนัคอื ศาลากลางจงั หวดั ราชบุรหี ลงั เกา่ ) ตอ่ มาใน พ.ศ. 2440 ไดย้ า้ ยที่บัญชาการเมืองราชบรุ ี จากฝ่๎งซา้ ย กลบั มาต้งั รวมอยแู่ หง่ เดียวกับศาลาว่าการมณฑลราชบุ รี ทางฝง๎่ ขวาของแมน่ า้ แมก่ ลอง จนถึง พ.ศ. 2476 เมื่อไดม้ กี ารยกเลิกการปกครองแบบมณฑลท้งั หมด มณฑลราชบุรีจงึ ถกู ยกเลกิ และคงฐานะเปน็ จงั หวดั ราชบุ รจี นถงึ ป๎จจุบนัอาณาเขตทศิ เหนอื ติดต่อจงั หวดั กาญจนบรุ ีทิศใต้ ติดต่อจงั หวัดเพชรบุรีทศิ ตะวนั ออก ติดต่อจงั หวดั สมทุ รสาคร สมุทรสงคราม และนครปฐมทิศตะวันตก ตดิ ตอ่ ประเทศพมา่สภาพภมู ปิ ระเทศ1. พื้นทีร่ าบสงู ไดแ้ ก่ บรเิ วณชายแดนทต่ี ดิ ต่อกับประเทศพม่า มเี ทือกเขาตะนาวศรีและภเู ขานอ้ ยใหญ่สลับซบั ซอ้ นในเขตพนื้ ที่อาเภอสวนผ้ึง จอมบึง ปากท่อ และกงิ่ อ.บา้ นคา2. พืน้ ท่ีราบล่มุ ไดแ้ กบ่ ริเวณพ้นื ทร่ี าบล่มุ แมน่ า้ แมก่ ลอง มีความอุดมสมบูรณ์เหมาะสมกับการเพาะปลูกหรอืประกอบอาชีพเกษตรกรรม ในเขตพ้นื ที่อาเภอเมืองราชบรุ ี โพธาราม และบ้านโปงุ3. พ้ืนทร่ี าบต่า ได้แกบ่ รเิ วณตอนปลายของแมน่ า้ แม่กลอง คลองดาเนนิ สะดวก และแม่นา้ ออ้ ม ดา้ นจงั หวัดสมุทรสงคราม ในเขตพ้นื ทอี่ าเภอบางแพ วดั เพลง และดาเนินสะดวก ซง่ึ มีคคู ลองเชื่อมโยงถึงกนั กว่า 200สาย สภาพพน้ื ทแ่ี บง่ ได้ 3 ลกั ษณะคือ

4เขตการปกครองจงั หวดั ราชบุรแี บ่งการปกครองออกเปน็ การปกครองส่วนภมู ภิ าค และการปกครองส่วนท้องถิ่นดังนี้การปกครองสว่ นภมู ภิ าค แบ่งการปกครองออกเป็น 9 อาเภอ 1 กงิ่ อาเภอ ได้แก่ อาเภอเมอื งราชบรุ ีอาเภอโพธาราม อาเภอบา้ นโปงุ อาเภอดาเนินสะดวก อาเภอบางแพ อาเภอวดั เพลง อาเภอปากทอ่ อาเภอจอมบงึ อาเภอสวนผึ้ง และกิ่งอาเภอบ้านคา 104 ตาบล 963 หมู่บ้านการปกครองส่วนทอ้ งถิ่น แบง่ การปกครองออกเปน็ 1 องค์การบริหารส่วนจงั หวัด 3 เทศบาลเมอื ง 20เทศบาลตาบล และ 93 องค์การบรหิ ารสว่ นตาบล จานวนประชากรท้ังสิ้น 830,275 คน เปน็ ชาย 408,255 คนและเปน็ หญงิ 422,020 คน

5ขอ้ มลู พ้นื ฐานอาเภอบางแพ

6 อาเภอบางแพ คาขวญั อาเภอบางแพ : เปด็ พะโลร้ ะบอื นาม กงุ้ ก้ามกรามชื่อนยิ ม อีกโคนมพันธดุ์ ี ประเพณีไทยทรงดาแหลง่ เพาะชาไมด้ อก สนิ ค้าออกเห็ดนานาพันธุ์ ทอี่ ยทู่ ่ีวา่ การอาเภอ ที่วา่ การอาเภอบางแพ หมทู่ ี่ ๕ ต.บางแพ อ.บางแพ จ.ราชบรุ ี พกิ ดั ๑๓°๔๑′๓๐″N ๙๙°๕๕′๔๘″E/ ๑๓.๖๙๑๖๗°N ๙๙.๙๓๐๐๐°E/ ๑๓.๖๙๑๖๗; ๙๙.๙๓๐๐๐ ข้อมูลทั่วไป๑.ประวัตคิ วามเปน็ มา อาเภอบางแพเปน็ ชมุ ชนหน่งึ เมืองราชบุรี ในอดีตเปน็ ทรี่ าบลุ่มจดชายทะเลในฤดูฝนจะมผี ู้คนจานวนมากพากนั ตดั ไมเ้ ป็นแพล่องตามลานา้ ไปชายทางชายทะเล และชมุ ชนที่มีความเจรญิ และมปี ระชากรอยู่หนาแนน่ คอื ชมุ ชนโพหัก (ตาบลโพหกั ) เปน็ แหล่งอารยะธรรมโบราณแหง่ หน่ึงที่ราบลุ่มแม่นา้ แมก่ ลอง ซ่งึ มีอายุประมาณ ๒,๐๐๐-๓,๐๐๐ ปี เพราะกรมศลิ ปกรได้ขุนพบโครงกระดกู มนษุ ยโ์ บราณ จานวน ๔๘ โครง ในบริเวณโคกพับ หมทู่ ่ี ๒ ตาบลโพหัก ในปี พ.ศ.๒๕๒๐-๒๕๒๑ นอกจากนนั้ ยงั ไดข้ ุดพบต้มุ หทู ีท่ าจากหนิ เซอร์เพนไทม์ สีเขียวคล้ายหยก หวีทท่ี าดว้ ยกระดกู สัตว์ มีลกั ษณะคลา้ ยกับทใี่ นประเทศจีน ซงึ่ พบกนั มากก่อนสมยั ราชวงศ์ฮัน่ซึง่ มีอายุประมาณ ๒,๐๐๐ ปี นอกจากนนั้ “ ถนนท้าวอูท่ อง “ ซ่งึ เปน็ ถนนโบราณทเ่ี ชื่อมระหวา่ งเมอื งราชบุรีกบั เมืองเพชรบรุ ี ในสมยั ทราวดีราวพุทธศักราชศตวรรษที่ ๑๓ จนถึงสมยั อู่ทองหรอื ลพบรุ ี ซึง่ แนวถนนอู่ทองเดิมเปน็ สันทรายท่ีเปน็ ทะเลโบราณ เป็นแนวธรรมชาติทเี่ ร่มิ ต้นจากอาเภอบางแพ ผ่านอาเภอเมืองราชบรุ ี และตาบลคบู ัว ไปยังเขตอาเภอปากท่อ อาเภอเขาย้อย และอาเภอเมืองเพชรบุรี จากหลักฐานดังกล่าวข้างต้น จะเห็นวา่ อาเภอบางแพในอดีตเปน็ ชมุ ชนท่ีมีความเจรญิ เปน็ เมอื งทา่ ในการค้าขาย และมคี วามสาคญั ย่ิงชุมชนหนง่ึของเมอื งราชบรุ ี และเป็นหลกั ฐานประการหนึ่ง คอื ประชาชนในอาเภอบางแพ ประกอบด้วยชนหลายเชอ้ื สายเชน่ ไทย (ชมุ ชนโพหัก) บ้านดอนสาลี และบา้ นดอนใหญ่ เขมร (บา้ นหัวโพ บา้ นดอนเช่ง บ้านลาพญา บา้ นดอนกระทุม่ และบา้ นดอนมะขามเทศ และจีน เป็นตน้ ซ่ึงแสดงใหเ้ ห็นวา่ ชมุ ชนท่ีมีความเจรญิ แหง่ หน่ึงในอดีต บางแพเป็นส่วนหน่งึ ของเมอื งราชบุรี ตลอดมาจนไดม้ ีการจัดระเบียบการปกครองทอ้ งถนิ่ ให้เป็นมณฑล เป็นจังหวัดและเปน็ อาเภอ จนในปี พ.ศ.๒๔๕๗ ทางราชการได้แบง่ ตาบลต่างๆ ของอาเภอบ้านโปงุ อาเภอโพธาราม และอาเภอดาเนนิ สะดวก รวม ๑๗ ตาบล ยกฐานะเป็นอาเภอซึ่งได้ตัง้ ทว่ี า่ การอาเภออยทู่ ี่ บ้านลาพญา ตาบลลา

7พญา ตง้ั ช่ืออาเภอว่าอาเภอลาพญา ตอ่ มาเม่อื ปี พ.ศ.๒๔๖๑ เปล่ียนเปน็ อาเภอบางแพ พ.ศ.๒๔๙๕-๒๔๙๗ ทว่ี า่การอาเภอชารดุ ทรดุ โทรมทางราชการไดอ้ นุมตั ิงบประมาณให้สรา้ งทว่ี ่าการอาเภอหลังใหม่จึงไดย้ า้ ยท่ีวา่ การอาเภอไปสรา้ งใหมใ่ นบริเวณทศิ ตะวนั ตกของลาคลองตาคต (บริเวณทต่ี ้งั ท่วี า่ การอาเภอในป๎จจุบนั )ท่ีตั้งและอาณาเขต อาเภอบางแพตง้ั อยทู่ างทิศตะวนั ออกของจงั หวัด มีอาณาเขตติดต่อกบั เขตการปกครองข้างเคยี วดังต่อไปนี้ทศิ เหนอื ตดิ ต่อกบั อาเภอเมอื งนครปฐม (จงั หวัดนครปฐม)ทศิ ตะวนั ออก ติดต่อกบั อาเภอสามพราน (จังหวัดนครปฐม) และอาเภอบา้ นแพว้ (จงั หวดั สมทุ รสาคร)ทิศใต้ ติดตอ่ กบั อาเภอดาเนนิ สะดวก (จังหวัดราชบรุ ี)ทิศตะวนั ตก ติดตอ่ กบั อาเภอโพธาราม (จงั หวัดราชบรุ ี)๒ .เน้อื ท/่ี พ้ืนท่ี ๑๗๒,๕๙๖ ตร.กม.๓. สภาพภมู อิ ากาศโดยท่ัวไป แบบมรสมุ มี ๓ ฤดู ฤดรู อ้ น ฤดูฝน และ ฤดูหนาว

8แหล่งเรยี นรู้เชิงศาสนา

9 แหลง่ เรียนรู้เชิงศาสนาวัดเหนอื บางแพ วดั เหนอื บางแพ เปน็ วดั ที่สรา้ งข้นึ มาในสมยั ใดนัน้ ไมป่ รากฏเป็นหลกั ฐานใดท่แี นน่ อน เพยี งแต่มีประวตั วิ า่ ขุนเทพนารายณ์ ขุนไกรนารายณ์ ขุนวิชิต และขนุ อินทร์ ได้เริ่มข้ึนโดยสร้างกฏุ ขิ น้ึ มาหลงั หนึง่ แลว้ ได้นิมนตพ์ ระธดุ งคม์ าจาพรรษาอยู่ และต่อมาก็มพี ระมาบวชมาจาพรรษาอยู่มไิ ด้ขาด จนมาถงึ ปีพุทธศกั ราช 2444พระอาจารยโ์ ลง่ ได้อาราธนาพระพุทธวริ ิยากรวัดสัตนารถปริวัตร เปน็ พระอปุ ๎ชฌาย์ ญัตติขึ้นมาใหมใ่ ห้เปน็ วัดในสงั กดั ธรรมยตุ และก็ไดว้ ิสุงคามาสมี าในปีเดียวกัน จนกระทงั่ ถึงทุกวนั นไ้ี ด้มีลูกหลานของขนุ ทง้ั สี่และชาวบา้ นไดท้ านบุ ารงุ ให้เจริญสืบตอ่ มาจนถึงทุกวันนี้

10วัดบา้ นกุ่ม วัดบ้านกุ่ม ตั้งอย่บู า้ นก่มุ ถนนสายบางแพ-ลานา้ หมู่ 2 ตาบลบางแพ อาเภอบางแพ จังหวดั ราชบุรีสงั กัดคณะสงฆม์ หานิกาย ต้งั เมอื่ วันท่ี 6 พฤษภาคม พ.ศ. 2537 ทีด่ ินต้งั วดั มเี นอื้ ที่ 8 ไร่ 1 งาน 72 ตารางวาอาณาเขต ทิศเหนอื จดถนนสายบางแพ-ลานา้ ทศิ ใตจ้ ดทด่ี นิ เอกชน ทศิ ตะวนั ออกจดโรงเรียนบา้ นกมุ่ ทศิตะวันตกจดท่ีดนิ เอกชน ผรู้ เิ ริม่ กอ่ ต้ังวดั บา้ นกุ่มคอื พระสมหุ เ์ ต๋า กติ ติปํโฺ ญ เจ้าอาวาสวดั ป๎จจุบนั ได้รบัพระราชทานวิสุงคามสมี าเมอ่ื วนั ที่ 20 ธันวาคม พ.ศ.2542 เขตวิสงุ คามสีมากวา้ ง 20 เมตร ยาว 40 เมตรอาคารเสนาสนะ ประกอบด้วยอุโบสถ เป็นอาคาคอนกรีตเสริมเหลก็ ศาลาการเปรียญ เปน็ อาคารหลังคาโครงเหล็กยกสูง หอสวดมนต์ เป็นอาคารครึง่ ตกึ คร่งึ ไม้ กฏุ สิ งฆ์ เป็นอาคารตกึ วหิ าร เป็นอาคารตกึ ศาลาอเนกประสงค์ เป็นอาคารไม้เปิดโลง่ ไมม่ ฝี าก้นั ศาลาบาเพญ็ กุศล สร้างดว้ ยไม้ การบริหารและการปกครองมีพระสมหุ ์เตา๋ กติ ตปิ ํโฺ ญ พ.ศ. 2537 – ป๎จจบุ นั การศึกษามีโรงเรียนพระปริยตั ิธรรมแผนกธรรมเปิดสอนเมือ่ พ.ศ. 2541 ศนู ย์การศึกษาพระพทุ ธศาสนาวนั อาทิตยเ์ ปิดสอนเมื่อพ.ศ. 2542 ปจ๎ จบุ ันมีพระครวู สิ ุทธิสรคณุ เป็นเจ้าอาวาส

11วดั บางแพใต้ วัดบางแพใต้ ตัง้ อยู่เลขท่ี 142 หมู่ 3 ต.บางแพ อ.บางแพ จ.ราชบุรี เปน็ วดั ท่สี รา้ งขึน้ มานานถงึ 185 ปีเร่ิมตัง้ แตป่ พี .ศ. 2350 หลังจากสรา้ งวัดก็มเี จ้าอาวาสผลัดเปลีย่ นกนั มาปกครองเรอื่ ยมา ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาเม่อื พ.ศ.2440 สมัยหลวงพ่อสมหุ ์เสง็ ปกครองท่านไดส้ รา้ งอุโบสถหลังน้เี มื่อ พ.ศ. 2440 คอื หลังปจ๎ จบุ นั นี้ ครั้งแรกทส่ี ร้างวดั นี้ได้ใช้ชอ่ื วา่ วดั ช่องลมยางสงู วราราม ตอ่ มาเม่ือปี พ.ศ.2491 ได้ทาการบรู ณะและทาการผูกพทั ธสีมา เมอื่ สมยั พระอธิการสมศกั ดิ์ ปาสาธโิ ก เปน็ เจา้ อาวาสไดร้ ับการร่วมมือจากญาติโยมพรอ้ มใจกนั บูรณะอุโบสถหลงั นขี้ ึ้นใหม่ในปี พ.ศ.2535 วัดบางแพใต้มีโบราณสถานและโบราณวัตถุท่ีประชาชนเคารพบูชา ไดแ้ ก่มพี ระพทุ ธรปู ยนื ชอื่ หลวงพอ่ศกั ดสิ์ ทิ ธ์ิ สมยั ต้นกรงุ รัตนโกสนิ ทร์ หลอ่ ดว้ ยทองเหลอื ง ปางยนื อุ้มบาตร มขี นาดสูง 80 เซนติเมตร เป็นพระท่ีเคารพนบั ถอื ของญาติโยมชาวบางแพและชาวบ้านใกล้เคียง มขี นั นา้ มนต์หล่อด้วยสัมฤทธิ์ ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 55 เซนติเมตร มีอักษรจารึกวา่ “ขันน้หี ลอ่ เมอ่ืพ.ศ.ลว่ งได้ 23 สาหรบั วัดช่องลมนิยางสงู ศาลาแดง แขวงเมอื งราชบุรี หนบางแพ ภกิ ษุสามเณรลักเอาขันลกู นี้ไปจากอาราม ใหผ้ ู้นน้ั อย่าได้ผดุ ได้เกิด ใหต้ กนรกอเวจรี ้อยกัลป์ อนนั ตชาติ ดงั ลกู สาบานนไี้ ว้เถดิ ” มเี รือย่าโขน ขนาดลาเรอื ยาว 14.50 เมตร ขนาดกว้างสุดตรงกลางลาเรอื 1.60 เมตร สว่ นหัวเป็นไม้แกะสลักครึ่งสงิ หค์ รึ่งนกคาบดวงแกว้ (ไมต้ ะเคยี น )

12วดั ท่าราบ วัดทา่ ราบตัง้ เม่อื พ.ศ. 2361 ตัง้ อยู่ระหวา่ งหมู่บ้านท่าราบและหม่บู า้ นไผ่แบ้ บ้านตาลเรียงและบา้ นดอนเซง่ ประชาชนมศี รัทธาบริจาคที่ดินสรา้ งวัดในรัชกาลท่ี 4 โดยใชช้ ือ่ วา่ วัดทา่ ขา้ ม แตต่ อ่ มาเป็นตาบลท่าราบ จึงไดเ้ ปลีย่ นมาเป็นวัดท่าราบตามช่ือตาบล ได้รบั พระราชทานวิสุงคสีมา เมื่อวันที่ 10 เมษายนพ.ศ.2491 วัดท่าราบ มมี ามากกวา่ 85 ปี มีวัดทา่ ราบเกิดข้นึ ก่อนต่อมาจึงเกิดโรงเรียนวดั ทา่ ราบขึ้นเพิ่งมงี านปดิ ทองฝ๎งลกู นิมิตไปเมอ่ื ปี พ .ศ. 2543 มีเจ้าอาวาสดูแลมาแล้วหลายรูปด้วยกัน เชน่ หลวงพอ่ ทองหลวงพ่ออินทร์ หลวงพ่อกอ๋ ย หลวงพอ่ สละ และหลวงพอ่ เจริญ สมยั หลวงพอ่ สละวดั ทา่ ราบมกี ารพัฒนาทางด้านสมนุ ไพรเปน็ อย่างมาก มีการเรยี นการสอนด้านสมุนไพรใหแ้ กบ่ ุคคลทีส่ นใจ ปกติแล้วหลวงพ่อสละจะเป็นเจา้ อาวาสทม่ี ีชาวบ้านยาเกรงมาก ๆ เนือ่ งจากหลวงพ่อเป็นคนจรงิ ถา้ เห็นว่าใครกระทาผิดก็จะวา่ กลา่ วอย่างไม่ไวห้ นา้ หลวงพ่อสละเพมิ่ มรณภาพไปหลังปดิ ทองฝง๎ ลูกนิมิตเสร็จ หลังจากหลวงพอ่ เจรญิ มาเปน็ เจา้อาวาสต่อ กจิ การด้านสมุนไพรก็เร่มิ ถอยลง จนปจ๎ จบุ นั ไมค่ อ่ ยมคี นสนใจ

วดั ดอนเซ่ง 13 วดั ดอนเซ่ง ตง้ั อยูห่ มูท่ ี่ 11 ตาบลบางแพ อาเภอบางแพ จังหวดั ราชบุรี สงั กัดคณะสงฆ์มหานกิ ายทด่ี ินตั้งวดั มเี นอ้ื ท่ี 28 ไร่ 2 งาน ตัง้ เมอ่ื พ.ศ.2450 ได้รบั พระราชทานวิสุงคสมี าเมือ่ พ.ศ. 2464 มชี าวบา้ นทม่ี ีอายุเล่าให้ฟ๎งวา่ วัดดอนเซง่ นี้ ก่อตง้ั เมอ่ื สมัยท่ีมีการต้อนเชลยผ่านมา และมีพระธุดงค์ผ่านมา จึงป๎กกลดอยู่ ตอ่ มาจงึ ได้กอ่ ตง้ั สานกั สงฆ์ขึน้ และพัฒนาเรื่อยมาจนกลายเป็นวัดดอนเซ่งมาจนถึงป๎จจุบันนี้

14วดั ใหมอ่ ีจางวดั ใหม่อีจาง ตง้ั อย่เู ลขท่ี 18 หมู่ 2 ตาบลวังเยน็ อาเภอบางแพ จังหวดั ราชบรุ ี สังกัดคณะสงฆ์มหานกิ าย ที่ดนิ ต้ังวัดมีเนอ้ื ที่ 11 ไร่ 1 งาน 59 ตารางวา อาณาเขต ทศิ เหนือ ตดิ ทางสาธารณะ ทศิ ใต้ ตดิ ที่ดินเอกชน ทศิ ตะวนั ออก ตดิ คลองชลประทาน ทิศตะวันตก ติดทางหลวงเทศบาล มี่ธรณีสงฆจ์ านวน 2 แปลง เน้อืที่ 1 ไร่ 18 ตารางวาวดั ใหม่อจี าง ไดร้ บั ประกาศตั้งเป็นวดั ท่มี ีพระภกิ ษจุ าพรรษา เมือ่ พ.ศ. 2533 เดิมเป็นวดั ร้าง มีสภาพเปน็ ปาุ รก จวบจนพระอาจารย์อุดม ธมฺมาวุฒโฑ (ดวงนอ้ ย) ได้มาบรู ณปฏิสงั ขรณ์ปชู นยี วตั ถุทส่ี าคัญของวดั ได้แก่ พระบรมศาสดา เป็นพระพุทธรปู ปนู ป๎้นปางสมาธิราบ ขนาดหน้าตกั 69 นว้ิ ประดษิ ฐานอย่กู ลางแจ้ง มีตน้ พระศรีมหาโพธ์ิ และศาลเจา้ ที่ (ศาลแม่ยา่ )วัดใหมอ่ จี าง พ.ศ. 2538 -2540 พระปลัดบญุ ช่วย กตปุญโญ เปน็ เจ้าอาวาส และพ.ศ. 2546-ปจ๎ จุบัน พระอธิการสมชาย สมชาโต เปน็ เจ้าอาวาส

15วัดหลวง วดั หลวง ตง้ั อย่เู ลขท่ี 1 บา้ นวดั หลวง ถนนบางแพ-ดาเนินสะดวก หมู่ 3 ตาบลวังเยน็อาเภอบางแพ จงั หวดั ราชบุรี สงั กดั คณะสงฆม์ หานกิ าย ทด่ี ินตง้ั วดั มเี นือ้ ท่ี 23 ไร่ 2 งาน 52 ตารางวา อาคารเสนาสนะ ประกอบดว้ ย อุโบสถ ศาลาการเปรียญ กฏุ สิ งฆ์ ศาลาเอนกประสงค์ เปน็ ท่ีประดิษฐานรอยพระพทุ ธบาทจาลอง ปชู นียวัตถุ มีพระประธานประจาอุโบสถ แบบศลิ ปะอู่ทอง ปางมารวิชยั พระพทุ ธรูปปางประทับยืนอุม้ บาตร 2 องค์ เปน็ พระพทุ ธรปู เน้อื สารดิ พทุ ธลักษณะคล้ายหลวงพ่อบ้านแหลม องคใ์ หญ่สูง 1.26 เมตร องค์เลก็ สูงเลก็ 0.90 เมตร นอกจากน้ยี งั มีปูชนียวัตถุ คอื โบสถ์มหาอตุ 1 หลงั วดั หลวงต้งั เมื่อปี พ.ศ. 2224 เป็นวัดโบราณสรา้ งในสมัยกรุงศรอี ยุธยา ไม่มหี ลักฐานลายลักษณอ์ ักษร นอกจากอักขระขอมทจ่ี ารึกไวบ้ นแผ่นเสมาดา้ นหน้าอุโบสถ ตามตานานกล่าววา่ มีเจา้ นายองค์หนึ่งพร้อมภรรยาหลวงไดเ้ ดนิ ทางโดยเรอื มาพกั แรมทบี่ ริเวณที่ตัง้ วดั หลวง ดว้ ยความศรัทธาในพระพทุ ธศาสนา ภรรยาหลวงได้สร้างอโุ บสถขึน้ หลงั หน่งึ ภรรยาน้อยได้มารว่ มฉลองและร่วมกุศลด้วย ได้ดาเนินการขดุ สระเพอ่ื เก็บกักน้าไวใ้ ชแ้ ละปลกู บัวหลวง เพอ่ื จะไดน้ ามาบชู าพระป๎จจบุ นั วดั หลวงเปน็ สถานทที่ ร่ี ม่ ร่นื ด้วยตน้ ไม้ใหญ่ โดยเฉพาะตน้ จนั ทนใ์ หญ่สดุ จานวน 2 ตน้ เส้นรอบวงของตน้ใหญต่ ้องใช้คนถึง 12 คนโอบจึงจะรอบ ส่วนตน้ ทสี่ องใชค้ นโอบ ถึง 9 คน วัดหลวงได้รับการพัฒนาและบรู ณะมาโดยตลอดจนถงึ ปจ๎ จบุ ัน ได้รับพระราชทานวสิ งุ คามสีมา เมื่อ พ.ศ. 2234

16วัดกลางวงั เย็น วดั กลางวงั เย็นสรา้ งเม่ือ ร.ศ. 1217 หรอื ประมาณ ปี พ.ศ.2392 มเี น้ือทป่ี ระมาณ 34 ไร่ เดิมช่ือวัดเพียง วดั กลาง หลวงปเุู สาร์ ทา่ นเป็นหัวหนา้ สงฆ์ในสมยั น้ันถึงสมยั หลวงปสุู ีซงึ่ ไม่มใี ครทราบประวตั ขิ องท่านเลย แลว้ ก็สมยั หลวงปุูสอน ท่านได้มาเป็นหวั หนา้ สงฆห์ ลงั จากหลวงปุสู มี รณภาพแลว้ และช่อื วัดกต็ อ่ เตมิ เป็นชอ่ื เตม็ ดังสมัยปจ๎ จุบันวา่ วดั กลางวังเยน็ ได้รับพระราชทานวิสุงคามสมี า เมื่อวนั ท่ี 9 ตุลาคม พ.ศ. 2445 ต่อมามยั พระครอู าจารโศภณ ( หลวงพ่อฮ้วั )ทา่ นเป็นคนหัวนาคราม ต.วังเยน็ ท่านได้บวชตั้งแตส่ มยั หลวงปูุสอน แต่ท่านไปจาพรรษาอยทู่ างกรงุ เทพ ฯ และแปดริว้ หลวงพอ่ ฮั้วมารับตาแหนง่ เจา้ อาวาสแทนหลวงปุเู งนิ ตอนท่านชรามากแลว้ ทางานไมไ่ หว หลวงพ่อฮัว้ เปน็ ผู้ทรงวทิ ยาคม และสติป๎ญญาดสี ามารถท่องจาเจ็ดตานานได้ใน 7 วันอกี ทงั้ ทา่ นยงั เปน็ หมอยาที่เลื่องชือ่ ไปไกล ท่านเป็นทพี่ งึ่ เปน็ ทนี่ บั ถือของชาววังเย็น และชาวพุทธท่ัวไป เหรียญรูปเหมือนของท่านศักดส์ิ ทิ ธ์มาก นักเลงพระเครือ่ งมาเสาะแสวงหา และผู้ทม่ี ไี ว้ในครอบครองหวงแหนย่งิ นักชาววงั เยน็ สรรเสริญหลวงพ่อฮ้วั มากถึงกับกลา่ วว่า “หลวงพ่อฮ้ัวเป็นผู้สรา้ งวัดกลางวังเย็น ”สมเด็จพระสมณเจา้ กรมพระยาวชิรญาณวโรรส สมเดจ็ พระสังฆราชองค์ท่ี 10 ของไทย ในคราวเสด็จตรวจการณ์ คณะสงฆ์มณฑลราชบุรี ได้มีโอกาสมาเยย่ี มและพักประทับแรมที่วัดกลางวงั เยน็ เมอ่ื วนั ที่ 27 มถิ ุนายน พ.ศ. 2461 ก็ทรงพอพระทยั ในความสงบร่มเย็นของสถานท่ี และจรยิ าวตั รอันงดงามของหลวงพ่อฮ้ัว จงึ ทรงแต่งตงั้ หลวงพ่อฮ้ัวเป็นเจา้ คณะอาเภอองค์แรก พระราชทานสมณศกั ด์ิ เปน็ พระครูสัญญาบตั รนามวา่ พระครอู าจารโศภณ ( ผู้งามดว้ ยมารยาท ) และใหเ้ ปน็ พระอปุ ช๎ ฌายอ์ งคแ์ รก ของวดั กลางวังเย็น มงคลนามนีไ้ ดต้ กทอดมาถึงเจา้ อาวาสวัดกลางวังเย็นองคต์ อ่ ๆมา และเปน็ เรือ่ งนา่ แปลก วา่ เจ้าอาวาสทกุ องคล์ ว้ นมี จรยิ าวตั รงดงามสมมงคลนามน้ีทกุ ๆองค์ สมัยป๎จจุบันผดู้ ารงตาแหนง่ เจา้ อาวาสคือ ทา่ นพระครูโสภณอาจารคณุ

17วัดหนองมว่ ง วดั หนองมว่ ง ต้ังอย่เู ลขที่ 91 บา้ นหนองม่วง หมู่ท่ี 9 ตาบลวงั เยน็ อาเภอบางแพ จงั หวัดราชบรุ ีสังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย ทด่ี นิ ต้ังวัดมเี น้อื ที่ 19 ไร่ 2 งาน 84 ตารางวา อาณาเขต ทศิ เหนือและทิศใตจ้ ดที่ดินเอกชน ทิศตะวนั ออกจดทส่ี าธารณะ ทิศตะวนั ตกจดท่ดี ินเอกชน อาคารเสนาสนะ ประกอบด้วย อุโบสถ ศาลาการเปรยี ญ กุฏิสงฆ์ จานวน 7 หลงั วิหาร เปน็ อาคารไม้ ศาลาอเนกประสงค์ เปน็ อาคารคอนกรีตแสริมเหลก็หอระฆงั 1 หลัง ปูชนียวตั ถุ มพี ระประธานประจาอุโบสถ 1 องค์ พร้อมพระอคั รสาวก วดั หนองมว่ ง ต้งั เมื่อพ.ศ. 2377 ไดร้ บั พระราชทารวิสงุ คามสีมา เมือ่ พ.ศ. 2384 เจา้ อาวาสรปู ป๎จจบุ นั คอื พระสนธยา ปภาสโร

18วัดเตาอฐิวดั เตาอิฐ ตงั้ อยบู่ า้ นเตาอิฐ หมู่ 10 ตาบลวังเยน็ อาเภอบางแพ จงั หวดั ราชบุรี สงั กดั คณะสงฆ์มหานิกาย ทดี่ ินตงั้ วัดมีเนือ้ ท่ี 11 ไร่ 1 งาน 40 ตารางวา น.ส. เลขที่ 490 อาณาเขต ทศิ เหนือจดท่ีดนิ เอกชนทศิ ใตจ้ ดถนนสาธารณประโยชน์ ทิศตะวนั ออกและทศิ ตะวันตกจดที่ดินเอกชน อาคารเสนาสนะ ประกอบดว้ ยอโุ บสถ ศาลาการเปรยี ญ หอสวดมนต์ กฏุ ิสงฆ์ จานวน 2 หลงั วหิ าร เปน็ อาคารทรงไทยประยุกต์ และยงั มีอาคารทป่ี ระดษิ ฐานพระพทุ ธรูปประจาวนั ปูชนียวตั ถมุ ีพระประธานประจาอโุ บสถ และพระเจดยี ์เกา่ แก่ 1 องค์วดั เตาอฐิ ตง้ั เม่ือ พ.ศ. 2416 นางต่วน จันทร์คา นางปน้๎ พมุ เกษม และนางเสงย่ี ม มารอด เปน็ ผถู้ วายทีด่ ินสร้างใหว้ ัด ที่สร้างวัดเปน็ ท่ีเผาอฐิ ของชาวบา้ น เมือ่ สร้างวดั ขึ้นแล้วจึงใชช้ ่อื วา่ วัดเตาอฐิ ดา้ นการศึกษา มีดรงเรยี นพระปริยตั ธิ รรม เปดิ สอนเม่ือ พ.ศ. 2537 การบริหารการปกครอง มีเจา้ อาวาสรปู ป๎จจบุ ัน คือ พระอธิการประยุทธ กตสาโร

19วดั หวั โพ วดั หวั โพ ตัง้ อยเู่ ลขท่ี 31 หมู่ 2 ตาบลหวั โพ อาเภอบางแพ จงั หวดั ราชบรุ ี สังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย อาคารเสนาสนะ ประกอบดว้ ย อโุ บสถ ศาลาการเปรยี ญ หอสวดมนต์ ศาลาเอนกประสงค์ หอฉนัวัดหวั โพ ตั้งเม่ือ พ.ศ. 2310 ไดร้ บั พระราชทานวสิ งุ คามสมี าเมือ่ พ.ศ. 2467 การบรหิ ารและการปกครอง มีเจา้อาวาส คอื รูปท่ี 1 พระครูสังวรธิมุต รูปท่ี 2 พระครูสงั ฆการโกวิท เป็นเจ้าอาวาสรปู

วดั แหลมทอง 20 วดั แหลมทอง ตง้ั อยทู่ ี่ หมู่ท่ี 3 ตาบลหวั โพ อาเภอบางแพ จงั หวดั ราชบุรี สังกดั คณะสงฆม์ หานิกายทีด่ นิ ต้งั วัดมเี น้อื ที่ 26 ไร่ 1 งาน 36 ตารางวา อาคารเสนาสนะ ประกอบด้วย อุโบสถ ศาลาการเปรียญ กฏุ ิสงฆ์วหิ าร ศาลาเอนกประสงค์ หอระฆงั ปชู นยี วัตถุ วัดแหลมทอง ตงั้ เม่ือ พ.ศ. 2450 ไดร้ บั พระราชทานวิสงุ คามสมี า เมื่อ พ.ศ. 2506 มีเจ้าอาวาสรูปปจ๎ จุบนั คือ พระครพู ศิ าลรัตนากร วัดแหลมทองเป็นวดั ที่มีอายุประมาณ 100 ปี มพี ระอุโบสถเก่าแก่ บรู ณะเมอื่ ปี พ.ศ. 2437 มพี ระประธานเก่าแกป่ ระจาอุโบสถชอื่ หลวงพอ่แปดแสน มีพระคูพ่ ระบารมีชื่อ หลวงพอ่ แดงและหลวงพ่อน้อย ซง่ึ ประชาชนให้ความเลื่อมใสเคารพบูชาเพ่ือเปน็ สริ มิ งคลแก่ชวี ติ

21วัดดอนมะขามเทศ วดั ดอนมะขามเทศ ตงั้ อยหู่ มู่ท่ี 6 ตาบลหวั โพ อาเภอบางแพ จงั หวดั ราชบุรี สงั กัดคณะสงฆ์มหานิกาย ที่ดนิ ตงั้ วดั มเี นื้อที่ 12 ไร่ อาคารเสนาสนะประกอบดว้ ย อโุ บสถ ศาลาการเปรียญ หอสวดมนต์ กฏิสงฆ์ วดั ตง้ั เม่อื พ.ศ. 2475 ได้รบั พระราชทานวิสุงคามสมี า เม่อื พ.ศ. 2491 การบรหิ ารและการปกครอง มเี จา้อาวาส เท่าทีท่ ราบนามคือรูปท่ี 1 พระพินรปู ท่ี 2 พระถิ สภุ าจาโรรูปท่ี 3 พระอธิการริม ปทโม ป๎จจบุ นั มีพระอธกิ ารณรงค์ ชวี สทุ โธ เปน็ เจา้ อาวาส

22วัดหนองเอยี่ นวดั หนองเอยี่ น ตั้งอยู่ที่ 74 หมู่ 3 ตาบลวดั แก้ว อาเภอบางแพ จงั หวัดราชบุรี สงั กดั คณะสงฆ์มหานกิ าย ที่ดนิ ตงั้ วดั มเี นอ้ื ที่ 23 ไร่ 1 งาน อาคารเสนาสนะประกอบด้วยอโุ บสถ ศาลาการเปรียญ กฏุ ิสงฆ์ศาลาบาเพญ็ กศุ ล มพี ระประธานประจาอโุ บสถ 1 องค์ พรอ้ มพระโมคคัลลาน์ พระสารบี ตุ ร และรปู หล่อทา่ นทา้ วมหาพรหม 1 องค์ วดั หนองเอยี่ นตัง้ เม่อื พ.ศ. 2444 ได้รับพระราชทาวิสงุ คามสีมา เมือ่ วนั ท่ี 1 กรกฎาคมพ.ศ.2517 ด้านการศกึ ษา มีโรงเรยี นพระปริยัติธรรมแผนกธรรม เปิดสอนเมือ่ พ.ศ.2500 ศูนย์อบรมเดก็ กอ่ นเกณฑ์ในวัด เปดิ สอนเม่ือ พ.ศ.2535 เจ้าอาวาสรูปปจ๎ จบุ ัน คอื พระครวู ิสิฐนมิ านโกศล

23วัดทานบ วดั ทานบ ตั้งอยูเ่ ลขท่ี ๖๓ บ้านทานบ หมู่ ๑ ตาบลวดั แก้ว อาเภอบางแพ จงั หวัดราชบรุ ี สงั กดั คณะสงฆ์มหานกิ าย ทดี่ ินตัง้ วัดมีเนื้อท่ี ๒๗ ไร่ ๙๕ ตารางวา อาคารเสนาสนะ ประกอบด้วย อุโบสถ ศาลาการเปรียญ หอสวดมนต์ กุฏสิ งฆ์ ศาลาเอนกประสงค์ ศาลาบาเพ็ญกุศล วดั ทานบต้งั เมอ่ื พ.ศ. ๒๔๐๐ ไดร้ ับพระราชทานวิสุงคามสมี า เมื่อ พ.ศ. ๒๕๐๘ เจ้าอาวาสรปูป๎จจบุ นั คือพระครูปญ๎ ญาธิการ

24วัดแกว้ วัดแก้ว ตง้ั อยเู่ ลขที่ 62 บา้ นวัดแก้ว ถนนสายบา้ นสิงห์ –หัวโพ หมู่ที่ 5 ตาบลวดั แกว้ อาเภอบางแพจงั หวัดราชบรุ ี สงั กัดคณะสงฆ์มหานิกาย ทีด่ นิ ตงั้ วดั มีเนอื้ ที่ 14 ไร่ 3 งาน 94 ตารางวา โฉนดทด่ี นิ เลขที่18522 อาณาเขต ทศิ เหนือจดทางสาธารณะ ทศิ ใตจ้ ดถนนบา้ นสงิ ห์-หัวโพ ทศิ ตะวันออกจดถนนวัดแกว้ -ปากดง ทิศตะวนั ตกจดคลองสาธารณะ อาคารเสนาสนะประกอบด้วย อโุ บสถ เป็นอาคารคอนกรีตเสรมิ เหลก็ ศาลาการเปรยี ญ เปน็ อาคารไม้สกั ทรงไทย หอสวดมนต์ เปน็ อาคารไม้สกั กุฏิสงฆ์ จานวน 3 หลงั เปน็ อาคารครึ่งตึกครงึ่ ไม้ วิหาร เป็นอาคารครึ่งตกึ ครง่ึ ไม้ ศาลาอเนกประสงค์ เป็นอาคารคอนกรตี เสริมเหลก็ นอกจากนยี้ งั มีศาลาฌาปนสถาน เปน็ อาคารคอนกรตี เสรมิ เหลก็ ปชู นยี วัตถุ มพี ระประธานประจาอุโบสถ และพระประธานประจาวิหารนามว่า “หลวงพอ่ แดง” ขนาดหน้าตกั วา้ ง 2.24 เมตร เมตร สูง 2.95 เมตร ปางสมาธิ สรา้ งด้วยหนิสิลาแลง สมยั อู่ทอง เปน็ พระพทุ ธรูปศกั ดส์ิ ิทธิป์ ระจาหม่บู า้ นวดั แก้ว ตง้ั เม่อื พ.ศ. 2421 เป็นวดั ท่ีสรา้ งมานานแลว้ มีแต่สิง่ กอ่ สรา้ ง คืออโุ บสถเกา่ กาแพง ซมุ้ประตู และเจดยี ์ อโุ บสถหลังเกา่ พังไปเมือ่ พ.ศ. 2514 จงึ สร้างหลงั ใหม่ วางศิลาฤกษ์เมื่อ พ.ศ.2515 และฝง๎ลูกนิมิต เมื่อ พ.ศ. 2519 ไดร้ บั พระราชทานวิสงุ คมาสมี าเม่อื วนั ท่ี 30 ธนั วาคม พ.ศ. 2518 มโี รงเรยี นพระปรยิ ตั ิธรรมแผนกธรรม เปดิ สอนเมื่อ พ.ศ. 2540 ปจ๎ จุบันมีพระชยั ชาญ จนทสโร เป็นเจ้าอาวาส

25วดั บ้านหลวง วดั บา้ นหลวง ตั้งอยู่บ้านบา้ นหลวง หมู่ท่ี 4 ตาบลวัดแก้ว อาเภอบางแพ จงั หวัดราชบรุ ี สงั กัดคณะสงฆ์ธรรมยตุ อาคารอาสนะ ประกอบดว้ ย กุฏสิ งฆ์ จานวน 3 หลัง เปน็ อาคารคร่งึ ตึกครึ่งไม้วัดบ้านหลวง ตงั้ เมอ่ื วันท่ี 25 มนี าคม 2531 การบริหารและการปกครอง มพี ระมหาธรรมรตั น์ชาครธมโม เป็นเจ้าอาวาสรูปปจ๎ จบุ ัน

26วดั บ้านใหม่บปุ ผารามวัดบ้านใหมบ่ ปุ ผาราม ต้ังอยู่เลขท่ี 29/8 หมู่ 8 ตาบลวดั แก้ว อาเภอบางแพ จงั หวัดราชบรุ ี สังกดัคณะสงฆ์มหานกิ าย ทดี่ นิ ตงั้ วัดมเี น้อื ที่ 21 ไร่ 2 งาน อาณาเขต ทศิ เหนือและทิศใต้จดทด่ี นิ เอกชน ทศิตะวันออกจดถนนหลวงบ้านไรช่ าวเหนอื ทิศตะวันตกจดคลองสาธารณประโยชน์ มีที่ธรณีสงฆ์ จานวน 4 แปลงอาคารเสนาสนะ ประกอบด้วยอุโบสถ เปน็ อาคารคอนกรีตเสรมิ เหลก็ ศาลาการเปรยี ญ สรา้ งเม่อื พ.ศ. 2515เป็นอาคารไม้ หอสวดมนต์ เป็นอาคารไม้ ครึ่งตึกครึง่ ไม้ วิหาร เป็นอาคารคอนกรตี เสริมเหล็ก ศาลาอเนกประสงค์ เป็นอาคารคอนกรตี เสรมิ เหลก็ ศาลาบาเพ็ญกศุ ล จานวน 1 หลัง สรา้ งดว้ ยคอนกรตี เมรุ หอประชาสัมพนั ธ์ ปชู นียวัตถุ มีพระประธานสรา้ งดว้ ยศิลาแลง ปางสมาธิ วดั บ้านใหมบ่ ุปผาราม ตั้งเม่อื พ.ศ.2401 โดยมีหลวงปูโุ สม เปน็ ผู้ชกั ชวนชาวบา้ นรว่ มกนั สรา้ งวัด และตุทใี่ ชช้ ื่อวา่ วัดบา้ นใหมบ่ ปุ ผาราม เพราะทตี่ ั้งวดั มีตน้ ไม้หลากพันธม์ ากมาย ไดร้ บั พระราชทานวสิ ุงคามสีมา เม่อื พ.ศ. 2405 เขตวสิ ุงคามสมี า กวา้ ง 21 เมตรยาว 22 เมตร มโี รงเรียนพระปรยิ ตั ธิ รรมแผนกธรรมเปดิ สอนเมื่อ พ.ศ.2525 ศูนยอ์ บรมเดก็ ก่อนเกณฑ์ในวดัเปดิ สอนเมือ่ พ.ศ.2537ปจ๎ จุบัน มีพระครูธรรมาภยิ ุต เป็นเจา้ อาวาส

27วดั บ้านใหมเ่ หนอืวดั บา้ นใหมเ่ หนอื ตง้ั อยู่ หมู่ 10 ตาบลวัดแกว้ อาเภอบางแพ จังหวัดราชบุรี สงั กดั คณะสงฆ์มหานิกาย ทด่ี นิ ตัง้ วัดมเี นือ้ ที่ 10 ไร่ 1 งาน 37 ตารางวา อาคารเสนานะ ประกอบด้วย อุโบสถ เป็นอาคารคอนกรีต หอสวดมนต์ เปน็ อาคารคอนกรตี กุฏิสงฆ์ จานวน 4 หลงั เป็นอาคารครงึ่ ตึกครึ่งไม้ วิหารเป็นอาคารไม้ ศาลาบาเพ็ญกุศล สร้างด้วยคอนกรตี เสรมิ เหลก็ ปูชนียวตั ถุ มีพระประธานประจาอโุ บสถ และพระโมคคลัลานี พระสารบี ุตร วดั บา้ นใหม่เหนอื ต้ังเมอ่ื พ.ศ. 2462 ได้รบั พระราชทานวสิ งุ คามสีมาเม่ือ พ.ศ. 2499ปจ๎ จบุ นั มีพระอธกิ ารสุพจน์ อาสสโร เป็นเจา้ อาวาส

28วดั ดอนสาลี วดั ดอนสาลี ตั้งอยูห่ มู่ 1 ตาบลดอนใหญ่ อาเภอบางแพ จังหวัดราชบุรี สงั กดั คณะสงฆ์มหานกิ าย ที่ดินตัง้ วดั มเี นอ้ื ที่ 36 ไร่ 37 ตารางวา อาคารเสนาสนะ ประกอบด้วย อุโบสถ ศาลาการเปรยี ญ กุฏิสงฆ์ ศาลาบาเพ็ญกุศล มีพระประธานประจาอุโบสถ วดั ดอนสาลี ต้งั เมอื่ พ.ศ. 2439 ผูท้ ่ีรเิ ร่ิมก่อสร้างวัดคือนายด้อย นายโจน้ เชาว์สนิ ธ์ โดยได้รับการบรจิ าคทด่ี นิ จากนายเหลย ขอ้ แขก และนางคง นางม่ัน มีต้มุ และชาวบ้านในหมบู่ า้ นร่วมใจกนั เพอ่ื ใหเ้ ป็นวัดประจาหมู่บ้าน ได้รบั พระราชทานวสิ งุ คามสีมา เม่ือพ.ศ.2493ป๎จจบุ นั มพี ระครสู นุ ทรปิยาจาร เปน็ เจ้าอาวาส และมศี ูนยอ์ บรมเดก็ ก่อนเกณฑใ์ นวัด เปิดสอนเม่ือ พ.ศ. 2540

29วัดตาลเตี้ย วดั ตาลเตย้ี ต้งั อยูห่ มูท่ ่ี 3 ตาบลดอนใหญ่ อาเภอบางแพ จังหวดั ราชบรุ ี สงั กัดคณะสงฆม์ หานิกายตัง้ เมอ่ื พ.ศ.2478 ท่ีดนิ ต้ังวัดมเี น้อื ท่ี 4 ไร่ 2 งาน 17 ตารางวา อาคารเสนาสนะ ประกอบดว้ ยอโุ บสถ ศาลาการเปรยี ญ หอสวดมนต์ กุฏสิ งฆ์ ศาลาเอนกประสงค์ ศาลาบาเพญ็ กศุ ล ปจ๎ จุบนั มี พระอธิการชว่ ง สุขมุ าโล เป็นเจ้าอาวาส

30วดั ดอนใหญ่ วดั ดอนใหญ่ เป็นวัดสังกดั คณาสงฆ์มหานิกาย มเี น้ือที่ 16 ไร่ 2 งาน 28 ตารางวา อาณาเขตทศิเหนือจรดทดี่ ินเอกชน ทิศใต้จรดคลองสาธารณประโยชน์ ทิศตะวันออกจรดท่ีดนิ เอกชน ทิศตะวนั ตกจรดทางสาธารณประโยชน์ อาคารเสนาสนะ ประกอบดว้ ย อโุ บสถ ศาลาการเปรียญ หอสวดมนต์ กฏุ สิ งฆ์ อาคารเรียนปรยิ ัตธิ รรม ปูชณยี วตั ถุ มพี ระประจาอุโบสถปางหา้ มสมุทร และพระพทุ ธรูปปางตา่ งๆ อกี 3 องค์ ป๎จจบุ นั มีพระครูประจกั ษธ์ รรโมภาสเปน็ เจ้าอาวาส มกี ารเปิดสอนโรงเรยี นพระปรยิ ตั ธิ รรมแผนกสามญั เมอื่ ปี 2541

31วดั ลานา้ วดั ลาน้า ต้ังอยู่ หมู่ 9 ตาบลดอนใหญ่ อาเภอบางแพ จังหวัดราชบุรี สงั กัดคณะสงฆ์มหานิกาย ทดี ินตัง้ วัดมีเน้อื ท่ี 16 ไร่ 2 งาน 30 ตารางวา อาณาเขต ทิศเหนือจดคลองอนามัน ทิศใต้จดทีด่ นิ เอกชน ทศิตะวนั ออกจดคลองสาธารณะ ทิศตะวันตกจดทด่ี ินเอกชน มที ธ่ี รณสี งฆ์ จานวน 3 แปลง เนอื้ ท่ี 51 ไร่ 1 งานอาคารเสนาสนะ ประกอบด้วย อโุ บสถ เป็นอาคารคอนกรีตเสริมเหลก็ ศาลาการเปรยี ญ เป็นอาคารคอนกรีตเสริมเหลก็ กุฏสิ งฆ์ จานวน 9 หลงั เปน็ อาคารไม้ ศาลาอเนกประสงค์ เป็นอาคารคอนกรีตเสรมิ เหลก็ ทรงไทย ปูชนยี วตั ถุ มีพระประธานประจาอุโบสถแบบพระพทุ ธชนิ ราช 1 องค์ พรอ้ มพระอคั รสาวก พระพุทธรูปนาม“หลวงพอ่ เดมิ ” 1 องค์ พระมหากัจจายะ 1 องค์ เจดยี ์โบราณ 1 องค์ วัดลานา้ ตั้งเมือ่ พ.ศ.2444 ได้รับพระราชทานวสิ ุงคามสมี า เมอ่ื วันที่ 18 มกราคม พ.ศ. 2531 เขตวิสุงคามสมี า กว้าง 9 เมตร ยาว 21 เมตรปจ๎ จบุ ันมพี ระมหาละ ฉนทโก

32วดั ดอนพรหม วดั ดอนพรหม ตั้งอยเู่ ลขท่ี 35 หมู่ 2 ตาบลดอนคา อาเภอบางแพ จังหวดั ราชบรุ ี สงั กัดคณะสงฆ์มหานกิ าย ตั้งเม่อื พ.ศ. 2437 ไดรบั พระราชทานวิสุงคามสีมา เม่ือวันที่ 21 กมุ ภาพันธ์ 2523 วัดดอนพรหมเป็นวดั เก่าแก่วดั หนึ่ง ซึง่ ต้งั มากอ่ นเป็นวดั แรกในตาบลดอนคา เมอ่ื ปี พ.ศ. 2437 อยใู่ นบ้านดอนพรหม หมู่ 2ตาบลดอนคา อาเภอบางแพ จงั หวดั ราชบุรี หา่ งจากอาเภอบางแพประมาณ 13 กิโลเมตร ห่างจากจังหวดัราชบุรี ประมาณ 42 กโิ ลเมตร สมัยกอ่ นบ้านดอนพรม มีหนามพรมขน้ึ มากมาย จงึ ได้ชอื่ ว่า วดั ดอนพรม ตอ่ มาทางเจา้ อาวาส ได้ขออนุญาตต่อทางราชการเปลีย่ นชือ่ วัดดอนพรม มาเปน็ วัดดอนพรหม มีเน้ือที่ 11 ไร่ 2 งาน73 ตารางวา ชาวบ้านดอนพรมให้การอปุ ถัมภ์วดั นี้เปน็ ประจา มีจานวน 103 ครอบครัว เดิมทวี ดั ดอนพรหม มีเนอ้ื ที่ 7 ไร่ นายบาล นางปูอม พง่ึ เดช เปน็ ผู้ถวาย ชาวบา้ นดอนพรมรว่ มกนั ซอื้ ถวายอกี 4 ไร่ 2 งาน 73 ตารางวา เม่ือ พ.ศ. 2549 ซอ้ื ทด่ี ินเพิม่ อีก 7 ไร่ 1 งาน 40 ตารางวา ปจ๎ จบุ ันวัดดอนพรหม มที ดี่ นิ ทง้ั หมด 19 ไร่ 13ตารางวา การก่อสร้างเสนาสนะ ได้มกี ารเปลีย่ นแปลงจากทรงป้น๎ หยาใช้ไม้เบญจพรรณ มาเป็นทรงไทยเครือ่ งบนไม้สัก ฝาไม้สัก พื้นไมแ้ ดง โดยมอี ดีตเจ้าอาวาส พระครูพรหมสนุ ทร และพระครถู าวรวิหารการ เจา้ อาวาสองคป์ จ๎ จบุ นั ไดพ้ ฒั นาวดั มาโดยลาดบั

33วัดดอนคาวัดดอนคา ตงั้ อยู่หมู่ 4 ตาบลดอนคา อาเภอบางแพ จงั หวัดราชบุรี ตง้ั เมือ่ พ.ศ. 2457 ได้รับพระราชทานวสิ งุ คามสีมาเมอ่ื พ.ศ. 2491 สงั กดั คณะสงฆม์ หานกิ าย ทดี่ ินต้ังวัดมเี น้ือที่ 30 ไร่ อาคารเสนาสนะประกอบด้วย อุโบสถ ศาลาการเปรียญ หอสวดมนต์ ศาลาเอนกประสงค์ ศาลาบาเพญ็ กศุ ล ซึง่ อาคารเสนาสนะดังกล่าวสรา้ งด้วยไม้ ปชู นยี วตั ถุ มีพระประธานประจาอโุ บสถ เจา้ อาวาสรูปป๎จจบุ นั คอื พระปลดั สุเทพ สุเทโว วัดดอนคา มแี หลง่ เรียนรดู้ ้านวฒั นธรรม คือศนู ยว์ ฒั นธรรมไทยทรงดา แสดงถงึ เครอ่ื งมือเครอ่ื งใช้การแตง่ กาย ชีวติ ประจาวัน ในอดตี เชน่ เคร่อื งจักสาน เกวยี น การแต่งกายของชาวไทยทรงดา และแสดงถงึ วิถีชวี ติ และประเพณขี องชาวไทยทรงดา เชน่ ประเพณีการเสนเรอื นฯ

34วัดตากแดดวัดตากแดด มีเน้อื ที่ 21 ไร่ ตงั้ เม่ือ พ.ศ.2476 ได้รบั พระราชทานวิสงุ คามสีมา เม่อื พ.ศ. 2530 ต้งั อยู่ที่ ตาบลดอนคา อาเภอบางแพ จังหวัดราชบุรี เจ้าอาวาสวัดช่อื พระอธกิ ารสดุ ใจ โกวิโท อายุ 57 พรรษา 33วิทยฐานะศาลาฌาปนสถาน ลักษณะอาคารทรงไทย คอนกรตี เสรมิ เหลก็ เปน็ อาคารชัน้ เดียว กว้าง 18 เมตรยาว 45 เมตร สงู 12 เมตรโรงครวั ลักษณะอาคารทรงไทย คอนกรตี เสรมิ เหลก็ เปน็ อาคารชัน้ เดียว กวา้ ง 6 เมตร ยาว 12เมตร สูง 4 เมตรวหิ ารหลวงพอ่ นฤมติ ประทานพร พลวงพ่อแพ หลวงพอ่ สาวติ ์ิ ซึง่ เปน็ วิหารพระประจาวดั และประดษิ ฐานรูปหลอ่ อดตี เจา้ อาวาสท้งั สองรูป

35สานกั แม่ชีไทยทัพโพธทิ์ อง (พระมหาเจดยี ์ศรีสุวรรณภูมิ) สานกั แม่ชไี ทยทพั โพธ์ิทอง (พระมหาเจดยี ์ศรีสวุ รรณภูมิ) ตงั้ อย่ทู ี่ หมู่ 2 ตาบลโพหัก อาเภอบางแพจงั หวดั ราชบุรี กอ่ ตงั้ ขนึ้ เพราะไดร้ บั การบริจาคทีด่ นิ จากคณุ แม่ชีก้าน อ่วมทบั และแม่ชีเตือนใจ อ่วมทบั โดยมีแม่ชีระเบียบ มาลี เป็นหัวหนา้ สานกั และหวั หน้าการกอ่ สร้าง ตามเจตนารมณ์ของพระสมหุ ์สบุ ิน สปุ โิ น (มาลี)อดตี เจ้าอาวาสวัดใหญ่โพธิ์หัก แตท่ า่ นถึงแกม่ รณภาพก่อน แม่ชีระเบียบ มาลี จึงสานงานตามเจตนารมณ์ ของพระสมหุ ์ สบุ นิ สปุ โิ น (มาลี) ซง่ึ เป็นพระพีช่ าย โดยมแี มช่ กี า้ น อว่ มทบั และแมช่ ีเตอื นใจ อ่วมทับ ซงึ่ เป็นน้าสาวของแม่ชีระบบ มาลี ไดถ้ วายทด่ี นิ ใหส้ รา้ งมหาเจดยี ์ศรสี วุ รรณภมู ิ โดยเร่มิ ก่อสร้างในปี 2540 งบประมาณในการก่อสรา้ ง 29 ล้านบาทในวันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ.2554 เวลา 14.00 น. พระเจา้ วรวงศเ์ ธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินดั ดามาตุ เสดจ็ มาทรงเปน็ ประธานในพิธงี านสมโภชพระมหาเจดีย์ศรีสุวรรณภมู ิ ขนาดของพระมหาเจดยี ์ศรีสวุ รรณภูมสิ ูง 39 เมตร 90 เซนติเมตร องค์พระมหาเจดีย์สร้างเป็น 3 ชนั้ชั้น 1 เป็นหอ้ งเอนกประสงคใ์ ช้ในการอบรม สมั มนา ประชมชน้ั ที่ 2 เป็นช้ันสวดมนต์ ทาสมาธิ เจรญิ จิตภาวนาชน้ั ที่ 3 ประดษิ ฐานพระบรมสารรี ิกธาตุ พระป๎จเจกพทุ ธเจา้ พระอรหนั ตธาตุ และประดษิ ฐานพระพุทธรูป ยอดพระมหาเจดยี ์ บรรจพุ ระบรมสามรีรกิ ธาตุ โดย 1. เจา้ ประคุณสมเด็จพระพุฒาจารย์ (เก่ยี ว อปุ สันโน) วัดสระเกศ 2. เจ้าประคณุ สมเด็จพระมหาธรี าจารย์ (เกย่ี ว อุปสนั โน) วดั ชนะสงคาม 3. เจา้ ประคณุ สมเด็จพระญาณวโรดม วดั เทพศริ นิ ทราวาส

364. เจา้ ประคณุ สมเดจ็ พระมหารัชมงั คลาจารย์ วัดปากน้าภาษเี จรญิ5. เจ้าประคุณสมเดจ็ พระมหาวรี วงศ์ วดั สมั พนั ธวงศ์6. พระเทพญาณมงคล วดั หลวงพ่อสด ธรรมกายาราม7. หลวงปุูมัน่ นาคเสโน วดั ยางงาม

37วัดทพั โพธิ์ทอง วดั ทพั โพธท์ิ อง ตาบลโพหัก อาเภอบางแพ จังหวดั ราชบรุ ี ตง้ั อยู่ทอ้ งทีต่ าบลโพหัก ไดร้ ับการกอ่ ตงั้เปน็ วัดเมื่อปี 2532 ปจ๎ จุบันกาลงั ก่อสรา้ งอโุ บสถรูปทรงเป็นแบบโบสถม์ หาอุดทีห่ าได้ยากยง่ิ ในยคุ นี้ 2 ช้นั ชน้ั บนใชป้ ระโยชนใ์ นการทาสมั ผัส กรรมของพระสงฆช์ ัน้ ลา่ งใชเ้ ปน็ สถานทีป่ ฏิบัติธรรมแกผ่ สู้ นใจทว่ั ไปต้ังอยู่บนเกาะกลางน้าท่ามกลางธรรมชาตอิ ันรม่ รื่นด้วยพนั ธไ์ุ มน้ านาชนดิ นอกจากเปน็ ส่ิงก่อสร้างอนั เป็นหลกั ฐานมั่นคงแลว้ ยงังดงามด้วยศลิ ปะ งานปนู ป๎้นแบบโบราณทคี่ วรอนรุ ักษไ์ ว้งานแกะสลกั ประตหู น้าต่างไม้สกั ท่ลี ะเอยี ดประณีตลวดลายลกึ 3 ช้นั ตลอดจนจติ กรรม ภาพฝาผนัง เร่อื งราวพทุ ธประวตั อิ นั ทรงค่าที่ควรจารึกไว้ใหเ้ ปน็ ถาวรวัตถุอนั มน่ั คงอยู่ในพุทธศาสนาสืบไปสานักชวี ดั ทัพโพธ์ิทองสานักชวี ดั ทพั โพธิ์ทอง ต้ังอยู่ หมทู่ ี่ 4 ตาบลโพหกั อาเภอบางแพ จงั หวัดราชบรุ ี สังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย ท่ีดินตั้งวัดมีเนอ้ื ที่ 60 ไร่ อาคารเสนาสนะ ประกอบดว้ ย ศาลาการเปรียญ กว้าง 10 เมตร ยาว 15เมตร สรา้ งเมอ่ื พ.ศ. 2529 เป็นอาคารคอนกรตี กุฏิสงฆ์ จานวน 5 หลัง เปน็ อาคารไม้ วิหาร กวา้ ง 3 เมตรยาว 6 เมตร เปน็ อาคารคอนกรตี สร้างเมอื่ พ.ศ.2529สานักชวี ัดทัพโพธิท์ อง ตง้ั เม่ือวนั ท่ี 30 ธนั วาคม พ.ศ. 2531 การบรหิ ารและการปกครอง มพี ระครังฆรกั ษ์สุเทพ จนทฺ วโส เปน็ เจา้ อาวาสรูปปจ๎ จบุ นั

38วดั ใหญโ่ พหกั วัดใหญ่โพหกั เป็นวดั สังกัดคณะสงฆม์ หานิกาย ท่ดี นิ ตง้ั วัดมีเนอื้ ท่ี 40 ไร่ มีทธ่ี รณสี งฆ์ จานวน 2แปลง เนือ้ ที่ 25 ไร่ อาคารเสนาสนะ ประกอบดว้ ย อุโบสถ ศาลาการเปรยี ญ หอสวดมนต์ กุฏิสงฆ์ ศาลาเอนกประสงค์ ศาลาบาเพ็ญกศุ ล มพี ระประธานประจาอโุ บสถ 1 องค์ พร้อมพระโมคคัลลาน์ พระสารีบุตรพระพุทธรูปปางห้ามสมทุ ร เนอื้ สาริด ศีล วัดใหญ่โพหกั เป็นวัดเกา่ แกข่ องชุมชนโพหกั ซงึ่ เปน็ ถ่ินที่อยู่ของคนไทยภาคกลางพน้ื ถิ่นความเปน็ มาของวดั ใหญโ่ พหัก จากตานานทีเ่ ล่าสืบตอ่ กนั มา มีหลายกระแส อาทิ เร่ืองท่เี กย่ี วข้องกับ พญากงพญาพาน กลา่ วว่า พญาพานได้ยกทัพเพ่อื จะไปรบกับพญากงผเู้ ปน็ บดิ า ผา่ นมาบรเิ วณบา้ นโพหักน้ี เห็นว่ามีทาเลที่เหมาะสม จงึ ได้หยุดพกั ไพร่พล เหลา่ ไพร่พลที่มาในกองทัพ ได้เอาศาสตราวธุ ทนี่ ามาดว้ ยไปพงิ ไวก้ ับต้นโพธ์ิ ทาให้ต้นโพธิห์ กั ลงอนั เป็นอาเพศ บอกเหตุว่าพญาพานจะกระทาบติ ุฆาต ฆา่ บิดาของตน ตาบลแห่งน้ี จึงได้ชื่อว่า \"ตาบลโพหัก\" อกี เร่อื งกลา่ ววา่ ในสมัยกรงุ ศรีอยุธยาตอนปลาย พม่าได้ยกกองทัพมาตีกรุงศรอี ยุธยาได้มาหยุดพกั พล ณ ตาบลนี้ทหารพม่าไดเ้ อาปืนใหญท่ ่นี ามาดว้ ย ไปวางพงิ ไวก้ บั ต้นโพธ์ิ ทาให้ต้นโพธิ์หักลง จึงได้เรียกกันเป็นท่หี มายของการพบปะกันบรเิ วณแหง่ น้ีวา่ ตาบลโพหักสว่ นเรอื่ งสุดท้าย มีลกั ษณะใกล้เคยี งกัน กลา่ ววา่ เมอื่ กรุงศรีอยุธยาแตกราษฎรจากกรุงศรอี ยุธยาได้พากนั อพยพหนภี ัยสงครามโดยมีการใชเ้ กวียนบรรทุกทรพั ย์สมบตั ติ ่างๆ หนีการปลน้ สะดมของทหารพมา่ มาถงึณ ตาบลหนง่ึ วันทใี่ ช้เทยี มเกวียนเกดิ เม่อื ยล้า ไมส่ ามารถเดินทางต่อไปได้ ชาวบา้ นจงึ ไดห้ ยุดแลว้ เอาทรพั ย์สมบัตทิ ีข่ นมากองและแขวนไวก้ ับต้นโพธิ์ ทาให้ ต้นโพธ์ิหักลง จึงได้เรียกสถานทีด่ ังกล่าวว่า บ้านโพหกั และมีการสร้างวัดข้นึ ภายในวดั จะปราก ฏให้เหน็ ถงึ วหิ ารอดุ หลังเก่า ท่ีแสดงให้เห็นถึงความเกา่ แกข่ องวดั ใหญโ่ พหักภายในวหิ ารเปน็ ทีป่ ระดษิ ฐานพระพุทธรปู หินทรายแดง ลงรัก ปดิ ทอง เป็นศิลปะสมัยกรงุ ศรอี ยุธยาตอนปลายจานวน 2 องค์ อุโบสถหลงั เกา่ วัดใหญโ่ พหัก ประวัติกลา่ ววา่ สรา้ งขึ้นในสมัย \"เจ้าประคุณในโกฐ หรือ หลวงพอ่

39ทองด\"ี อดตี เจ้าอาวาส เม่ือประมาณกว่า 170 ปี มาแลว้ ภายในอุโบสถเปน็ ทปี่ ระดษิ ฐานพระพุทธรูปป๎้นลงรักปิดทอง ขนาดใหญป่ ระทับนั่ง แสดงปางมารวิชยั อย่บู นฐานบวั ทม่ี ลี วดลายปูนป๎น้ ที่ชายผา้ ทพิ ย์อนั งดงาม และมณฑปประดษิ ฐานรอยพระพุทธบาท เป็นอาคารกอ่ อฐิ ถือปนู ป๎จจบุ นั เหลอื อยเู่ ฉพาะส่วนฐาน และกาแพงบางส่วน ฐานมณฑปเปน็ รูป สเี่ หลีย่ มจตรุ สั ส่วนเรอื นธาตุและส่วนยอดหกั หาย มณฑปหลังน้มี ีรอ่ งรอยการตกแตง่ ด้วยกระเบ้ืองเคลือบปรุแบบจีนปะสมัยลพบรุ ี 1 องค์ พระพทุ ธรปู ปางมารวิชยั ศลิ ปะสมัยอทู่ องพระพุทธรปู สร้างดว้ ยศิลาแลง 3 องค์ ศลิ ปะสมยั อู่ทอง โดยวดั ตงั้ เมอื่ พ.ศ. 2277 ได้รับพระราชทานวสิ ุงคามสมี าเม่อื พ.ศ. 2493

40วัดสามัคคธี รรมวดั สามัคคีธรรม ตัง้ อยู่ หมทู่ ่ี 11 ตาบลโพหกั อาเภอบางแพ จังหวดั ราชบุรี สังกดั คณะสงฆ์มหานิกาย มที ี่ดนิ ตงั้ วัด จานวน 52 ไร่ 2 งาน 74 ตารางวา ตงั้ วดั เมื่อ พ.ศ. 2474 ไดร้ ับพระราชทานวสิ งุ คามสีมาเมอื่ พ.ศ. 2500 พระอธิการชบุ เขมวงั โส เปน็ เจ้าอาวาส


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook