นวตั กรรมการบรหิ ารการศึกษายุคดจิ ติ อล นิสิตสาขาการบรหิ ารการศกึ ษา วิทยาลยั การศกึ ษา มหาวทิ ยาลยั พะเยา
เสนอ ดร.วลิ าวลั ย์ สมยาโรน
คานา ก E-Book เล่มน้ีเป็นส่วนหน่ึงของรายวิชานวัตกรรมและเทคโนโลยีสารสนเทศทางการศึกษา ภาคเรียน ที่ 2 ปีการศึกษา 2562 นาเสนอนวัตกรรมท่ีสามารถนามาใช้ในระบบการศึกษาได้และผู้อ่านยัง สามารถนาเนื้อหาความรู้ไปประยุกตใ์ ช้กบั สถานศกึ ษาได้ ผูจ้ ดั ทาหวังเป็นอย่างยิ่งว่า E-Book นี้คงเป็นประโยชน์ ต่อผ้สู นใจไม่มากกน็ ้อย และหากมีข้อผดิ พลาดประการใด ผู้จดั ทาตอ้ งขออภัยไว้ ณ ทนี่ ดี้ ว้ ย คณะจัดทา
ข สารบญั หนา้ ก เรอ่ื ง ข คานา 1-2 สารบัญ 3-5 ความหมายของนวตั กรรม 6-8 นวตั กรรมทางการศกึ ษาและการบรหิ ารการศึกษา 9-10 องค์แระกอบของนวตั กรรม 11-12 ความสาคญั ของนวตั กรรมกบั การจดั การศกึ ษา 15-16 สรุปความหมายของนวตั กรรมการศึกษา 17-18 คุณลักษณะผู้บรหิ ารสถานศกึ ษายคุ ดิจติ อล 19-21 บทบาทของผบู้ รหิ ารสถานศกึ ษา 22-24 ความเป็นมาและแนวคิดของนวัตกรรม Human Resources Data MODEL 25-26 Human Resources Data FLOW CHART 27 ผลทีค่ าดว่าจะไดร้ ับ 28 29 ภาคผนวก แหลง่ อ้างอิง คณะผจู้ ัดทา
1 ความหมายของนวัตกรรม
2 โรเจอร์ (Roger, 1983:11) ได้ให้ความหมายของนวัตกรรมว่า คือ ความคิด การ กระทา หรือวัตถุใหม่ๆซ่ึงถูกรับรู้ว่าเป็นสิ่งใหม่ๆ ด้วยตัวบุคคล แต่ละคนหรือหน่วย อ่นื ๆของการยอมรบั ในสงั คม สกุ ีรติ ยศย่งิ ยง (2552 :7) ได้เสนอไว้ดังตอ่ ไปน้ี 1. สิ่งใหม่ทีไ่ ม่เคยมีผู้ใดเคยทามาก่อนเลย 2. สงิ่ ใหม่ที่เคยทามาแลว้ ในอดตี แต่ได้รับ การรอื้ ฟ้ืนขึ้นมาใหม่ 3. สิ่งใหม่ท่ีมีการพัฒนามาจากของเกา่ ที่มอี ย่เู ดิม สนนึก เอ้ือจริ ะพงษ์พันธ์ (2553 : 22) ได้สรปุ มติ ิสาคญั ของการเปน็ นวัตกรรมมีอยู่ 3 มติ ิ ดังนี้ 1. ความใหม่ (Newness) เปน็ สิง่ ใหม่ ทถ่ี ูกพัฒนาขึ้น ซ่ึงอาจจะมีลักษณะเป็นตัว ผลิตภัณฑ์ หรือกระบวนการ โดยจะเป็นการปรับปรุงจากของเดิมส่ิงใหม่ท่ีมีการ พฒั นามาจากของเกา่ ท่ีมีอยเู่ ดิม 2.ประโยชน์ในเชิงเศรษฐกิจ (Economic Benefits) ในมิติประการท่ีสองท่ีถูก กล่าวถึงเสมอใน ลักษณะของการเป็นนวัตกรรม ก็คือ การให้ประโยชน์ในเชิง เศรษฐกจิ หรือการสรา้ งความสาเร็จในเชิงพาณิชย์ 3. การใชค้ วามรู้และความสรา้ งสรรค์ (Knowledge and Creativity) สรปุ ความหมายว่า นวัตกรรมของบคุ คล กลมุ่ หนงึ่ อาจไม่ใชน่ วัตกรรมของบุคคลกลุ่ม อ่ืน ๆ ก็ ไดข้ นึ้ อย่กู ับการรบั รูข้ องบคุ คลน้นั ว่าเป็นสิ่งใหม่สาหรับพวกเขาหรือไม่ และ ข้อควรพจิ ารณาอกี อย่างหนง่ึ ของความใหม่ คือ ระยะเวลา เช่น เคยทากันมาแล้ว แต่ ไดห้ ยดุ ไประยะ เวลาหน่ึง ต่อมาไดม้ ีการรอ้ื ฟน้ื ข้ึนมาทาใหม่ เนื่องจากเห็นว่าสามารถ ชว่ ยแก้ปัญหาในสภาพการณใ์ หม่ได้
3 นวัตกรรมทางการศกึ ษา และการบรหิ ารการศกึ ษา
4 เทคโนโลยีการศกึ ษาในฐานะองคค์ วามรู้ ในประเทศไทย เทคโนโลยีทางการศึกษาใน ฐานะ ท่ีเป็นอง ค์คว ามรู้ พบได้จ าก ก าร ที่ มหาวิทยาลัยต่างเปิดสอนวิชาเทคโนโลยีทาง การศึกษา ท้ังในระดับปริญญาตรี ปริญญาโท และปริญญาเอก โดยระดับปริญญาตรีมุ่งเน้น การผลิตบัณฑิตที่มีความรู้ด้านเทคโนโลยี การศึกษา เพื่อไปปฏิบัติงานในลักษณะนัก ปฏบิ ตั ใิ นสถาบันการศกึ ษาและองค์กรท้ังภาครัฐ และเอกชน สาหรับระดับปริญญาโทและ ปริญญาเอก มุ่งเน้นผลิตบัณฑิตทางด้าน เทคโนโลยีทางการศึกษาที่เป็นท้ังนักออกแบบ นักจัดการระบบ ผู้ควบคุมการผลิตและการใช้ ส่อื ต่างๆเนือ้ หาที่สอนจะครอบคลมุ ถงึ แนวคดิ พ้ืนฐานทางดา้ นเทคโนโลยีการศกึ ษา สือ่ ทางการศกึ ษาท่จี ะครอบคลุมงานทางด้านกราฟิก เครื่อง ฉายต่าง ๆ เคร่ืองเสียง ภาพยนตร์ วิทยุกระจายเสียง โทรทัศน์ การใช้ส่ือโทรคมนาคมเพื่อ การศึกษา เช่น การใช้โทรศัพท์เพ่ือการศึกษา การใช้วีดิโอเทกซ์ การใช้ดาวเทียม การใช้ อินเตอร์เนต็ เพอ่ื การศึกษา การใช้คอมพิวเตอรเ์ พือ่ การศกึ ษา เทคโนโลยีการศึกษาในฐานะเคร่ืองมือในการบริหาร ในฐานะเครอื่ งมอื ทางการบริหารเทคโนโลยีมีบทบาทสาคัญซง่ึ จาแนกได้ ดังน้ี 1. เป็นเครื่องมือในด้านการบริหารองค์กร เพ่ือให้ดาเนินงานตามวิธีระบบและบรรลุ วตั ถุประสงค์ ซงึ่ โดยทั่วไปแล้วจะจดั การเก่ยี วกบั (1) การกาหนดจุดมุ่งหมายและนโยบายเกี่ยวกับ บทบาท วัตถุประสงค์ การเรียนการสอนตัว ผู้เรยี นและการจดั ทรัพยากรการเรียนใหม้ ีความเหมาะสมและสอดคลอ้ งกัน (2) การให้การสนับสนุน จะต้องมีการวางแผนการจัดหาทรัพยากร ตลอดจนสิ่งอานวยความ สะดวกรวมท้งั การวางแผนปฏิบัติงานและการประเมนิ ผลงาน (3) การจัดบรกิ ารทีม่ ปี ระสทิ ธภิ าพ (4) การสร้างความประสานสัมพันธ์ให้มีการร่วมมือในการปฏิบัติงานของทุกหน่วยงานย่อยใน องค์กร ตลอดจนวิธีการเผยแพร่ข่าวสารและการติดต่อส่ือสาร เพ่ือให้การปฏิบัติงานดาเนินไป ด้วยความเรียบร้อยและสาเรจ็ ตามวตั ถปุ ระสงค์
5 2. การเป็นเคร่ืองมือด้านธุรการ ได้แก่ การผลิตเอกสาร การนัดหมาย การทาทะเบียน นักศึกษา ทะเบียนครภุ ัณฑ์ การทาบัญชีการเงินและการควบคมุ งบประมาณ 3. ด้านการบรหิ ารงานบุคลากร เป็นการนาเทคโนโลยีมาใช้ดา้ นการบรหิ ารงานบุคลากรเพ่ือการ แตง่ ต้ังบุคลากรเขา้ รับตาแหน่งใหเ้ หมาะสมกบั หน้าท่ี โดยสอดคล้องกับความสามารถของแต่ละ บคุ คล ท้ังน้ีเพ่ือให้การดาเนินงานขององค์กรเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากการแต่งต้ัง แล้ว เทคโนโลยียังสามารถใช้ในการสรรหา การคัดเลือกบุคลากร การพัฒนาบุคลากร การ นิเทศงานการบารงุ ขวัญการทางาน สวสั ดกิ าร และการประเมนิ ผลการปฏบิ ัตงิ านของบุคลากร 4. การบริหารวชิ าการ จะใช้เทคโนโลยีในการเก็บระเบียนผลการเรียนรวมถึงการวัดและการ ประเมนิ ผลพร้อมท้งั การรายงานผลการเรยี น ด้านการเผยแพร่และประชาสมั พนั ธ์ โดยการผลติ สอ่ื ต่าง ๆ เพอ่ื ใช้ในการประชาสมั พนั ธ์ กจิ การของสถาบนั การศกึ ษา และการสร้างความเข้าใจอนั ดรี ะหวา่ งสถาบันการศึกษากับชมุ ชน เทคโนโลยีการศึกษาในฐานะเครื่องมือบริการ ทางวิชาก าร หน้าท่ีที่สาคัญอย่างหน่ึงของ ส ถ า บั น ก า ร ศึ ก ษ า ก็ คื อ ก า ร บ ริ ก า ร ท า ง วิชาการ ให้แก่บุคลากรภายในและให้บริการแก่ ชุมชน ในฐานะเคร่ืองมือสาหรับการบริการทาง วิชาการเทคโนโลยีการศกึ ษาจะชว่ ยเผยแพร่ ความรใู้ หแ้ ก่ประชาชนได้ ไม่ว่าจะอยู่ในระบบการศึกษาหรืออยู่นอกระบบ โดยจัดในรูปของ ส่ือสิ่งพิมพ์ สื่อฝึกอบรม รายการทางวิทยุกระจายเสียง รายการโทรทัศน์ และวัสดุบันทึก และสื่ออิเล็กทรอนิกส์ในรูปแบบต่าง ๆ ซึ่งวัสดุเหล่านี้จะเก็บไว้เพ่ือให้บริการใน ห้องสมดุ สานักวิทยบริการ ศูนยว์ ิชาการ ศูนยก์ ารเรยี นรู้ ฯลฯ โดยผู้ใช้บริการสามารถค้นหา หรือยืมไปศึกษาที่เคหะสถานของตนเองได้
6 องคป์ ระกอบของนวัตกรรมการศกึ ษา
7 องคป์ ระกอบของนวตั กรรม 1. เป็นส่ิงใหม่ 2. เน้นใช้ความรู้ความคิดสร้างสรรค์ 3. เป็นประโยชน์ตอ้ งตอบไดว้ า่ ส่งิ ที่เราสรา้ งเปน็ อย่างไร 4. เปน็ ที่ยอมรับ 5. มีโอกาสในการพฒั นา นวัตกรรมมี 4 ประเภท 1. product innovation : การเปลยี่ นแปลงในผลิตภณั ฑห์ รือบรกิ ารของ 2. Process innovation : การเปลยี่ นแปลงกระบวนการผลิตหรือกระบวน การนาเสนอ ผลติ ภณั ฑ์ 3. Position innovation : การเปลี่ยนแปลงรปู แบบของสนิ คา้ หรอื บริการเป็นการเปล่ียนตาแหน่ง ของผลติ ภัณฑ์ โดยการสร้างการรบั รูแ้ ละความเข้าใจในผลติ ภณั ฑ์ต่อลูกคา้ 4. Paradigm innovation : การม่งุ ใหเ้ กิดนวตั กรรมทเ่ี ปลย่ี นแปลงกรอบความคดิ ประเภทของนวตั กรรมการศกึ ษา นวัตกรรมท่ีนามาใช้ทั้งท่ีผ่านมาแล้ว และที่จะมีในอนาคตมีหลายประเภทขึ้นอยู่กับการประยุกต์ใช้ น วั ต ก ร ร ม ใ น ด้ า น ต่ า ง ๆ ซึ่ ง จ ะ ข อ แ น ะ น า น วั ต ก ร ร ม ก า ร ศึ ก ษ า 5 ป ร ะ เ ภ ท ดั ง นี้ 1. นวัตกรรมทางด้านหลักสูตร เป็นการใช้วิธีการใหม่ๆในการพัฒนาหลักสูตรให้สอดคล้องกับ สภาพแวดล้อมในท้อง ถิ่น และตอบสนองความต้องการสอนบุคคลให้มากขึ้น เน่ืองจากหลักสูตร จะตอ้ งมีการเปล่ียนแปลงอยู่เสมอ เพื่อให้สอดคล้องกับความก้าวหน้าทางด้านเทคโนโลยี เศรษฐกิจ และสงั คมของประเทศและของโลก นวัตกรรมทางด้านหลักสูตรได้แก่ การพัฒนาหลักสูตรบูรณาการ ห ลั ก สู ต ร ร า ย บุ ค ค ล ห ลั ก สู ต ร กิ จ ก ร ร ม แ ล ะ ป ร ะ ส บ ก า ร ณ์ แ ล ะ ห ลั ก สู ต ร ท้ อ ง ถ่ิ น 2. นวัตกรรมการเรียนการสอน เป็นการใช้วิธีระบบในการปรับปรุงและคิดค้นพัฒนาวิธีสอนแบบ ใหม่ๆที่สามารถตอบสนองการเรียนรายบุคคล การสอนแบบผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง การเรียนแบบมี ส่ ว น ร่ ว ม ก า ร เ รี ย น รู้ แ บ บ แ ก้ ปั ญ ห า ก า ร พั ฒ น า วิ ธี ส อ น จ า เ ป็ น ต้ อ ง อ า ศั ย วิ ธี ก า ร แ ล ะ เ ท ค โ น โ ล ยี ใ ห ม่ ๆ เ ข้ า ม า จั ด ก า ร แ ล ะ ส นั บ ส นุ น ก า ร เ รี ย น ก า ร ส อ น
8 3. นวัตกรรมสื่อการสอน เน่ืองจากมีความก้าวหน้าของเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ คอมพิวเตอร์ เครอื ข่ายและเทคโนโลยีโทรคมนาคม ทาให้นักการศึกษาพยายามนาศักยภาพของเทคโนโลยีเหล่าน้ี มาใชใ้ นการผลติ สื่อการ เรยี นการสอนใหม่ๆ จานวนมากมาย ท้งั การเรียนด้วยตนเอง การเรียนเป็น กลุ่มและการเรียนแบบมวลชน ตลอดจนส่ือท่ีใช้เพื่อสนับสนนุ การฝึกอบรมผา่ นเครือข่ายคอมพิวเตอร์ 4. นวัตกรรมทางด้านการประเมินผล เป็นนวตั กรรมท่ีใช้เป็นเคร่ืองมือเพ่ือการวัดผลและประเมินผล ไดอ้ ยา่ งมี ประสิทธภิ าพ และทาได้อยา่ งรวดเรว็ รวมไปถงึ การวจิ ัยทางการศึกษา การวิจัยสถาบัน ด้วย การประยกุ ตใ์ ชโ้ ปรแกรมคอมพวิ เตอรม์ าสนบั สนุนการวัดผล ประเมินผลของสถานศึกษา ครู อาจารย์ 5. นวัตกรรมการบริหารจัดการ เป็นการใช้นวัตกรรมท่ีเก่ียวข้องกับการใช้สารสนเทศมาช่วยในการ บริหาร จัดการ เพื่อการตัดสินใจของผู้บริหารการศึกษา ให้มีความรวดเร็วทันเหตุการณ์ ทันต่อการ เปลี่ยนแปลงของโลก นวัตกรรมการศึกษาที่นามาใช้ทางด้านการบริหารจะเกี่ยวข้องกับระบบการ จัดการ ฐานข้อมูลในหนว่ ยงานสถานศึกษา การจาแนกนวตั กรรมตามประเภทของผใู้ ช้ 1. นวตั กรรมทเ่ี ป็นส่อื สาหรับผ้สู อน 2. นวตั กรรมทีเ่ ป็นสอื่ สาหรบั ผูเ้ รยี น จาแนกตามลกั ษณะของนวตั กรรม 1. เทคนคิ วิธกี าร 2. สอื่ การเรียนรู้ จาแนกตามจดุ เนน้ ของนวตั กรรม 1. นวตั กรรมการเรียนรู้ท่ีเนน้ ผลผลติ 2. นวตั กรรมการจัดการเรียนรู้ทเี่ น้นเทคนิค วิธีการ และกระบวนการ 3. นวัตกรรมทเี่ นน้ ทง้ั ผลผลติ
9 ความสาคัญของนวัตกรรม กบั การจัดการศกึ ษา
ศตวรรษที่ 21 เป็นยุคของเศรษฐกิจฐานความรู้ 10 (Knowleadge-Based-Economy) ท่ีปัจจัยใน การผลติ และแขง่ ขันกาลงั เปล่ยี นไปเป็นปัจจัยที่ไม่ สภาวการณ์ดังกล่าวไม่ไดจ้ าเพาะ อาจจับต้องได้มากขึ้น เช่น ความรู้เทคโนโลยี อยู่แต่ในด้านเศรษฐกิจเท่าน้ัน สารสนเทศ และการค้าข้ามประเทศท่ีอาศัย ก า ร บ ริ ห า ร กิ จ ก า ร ที่ เ ก่ี ย ว กั บ วัฒนธรรมเป็นสื่อ ดงั นัน้ การพฒั นานวัตกรรม จึง สาธารณะในยุคโลกาวิวัฒน์น้ี เป็นหนทางหน่ึงที่ช่วยให้ทุกองค์การสร้างจุดยืนท่ี จาเป็นต้องอาศัยผู้บริหารมือ เข้มแข็ง เป็นองค์การแห่งนวัตกรรม โดยมี อาชีพ ใ นการทาให้กิจการ เป้าหมายอยทู่ ีค่ วามอยู่รอด การเจริญเติบโต และ ดาเนินการไปด้วยดี และบรรลุ การสร้างสมรรถนะในการแข่งขันอย่างยั่งยืน จุ ด มุ่ ง ห ม า ย ท่ี ก า ห น ด ไ ว้ พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 และท่ีแก้ไขเพ่ิมเติม (ฉบับท่ี2) พ.ศ. 2545 หมวด 9 เทคโนโลยีทางการศึกษา มาตราท่ี 64 ท่ีกาหนดวา่ รฐั จะต้องส่งเสรมิ และสนับสนุนให้ มกี ารผลติ และพัฒนาแบบเรยี น ตารา หนงั สอื ทางวชิ าการ สื่อ ส่งิ พิมพ์อนื่ วัสดุอุปกรณ์ และ เทคโนโลยีเพ่ือการศึกษาอ่ืน โดยเร่งรัดพัฒนาขีดความสามารถในการผลิต จัดให้มีเงิน สนับสนุนการผลิตและมีการให้แรงจูงใจแก่ผู้ผลิต และพัฒนาเทคโนโลยีเพ่ือการศึกษาและ มาตรา 65 ใหม้ กี ารพัฒนาบคุ ลากรท้ังด้านผู้ผลิต และผู้ใช้เทคโนโลยีทางการศึกษา เพื่อให้มี ความรู้ ความสามารถ และทักษะในการผลิตรวมทั้งการใช้เทคโนโลยีที่เหมาะสม มีคุณภาพ และประสิทธิภาพ หากมีการดาเนินการตามแนวคิดดังกล่าวจะทาให้เกิดเป็นนวัตกรรมที่ สามารถนามาใชก้ บั การบรหิ ารและจดั การศกึ ษาได้เปน็ อยา่ งดี
11 สรปุ ความหมายของนวัตกรรมการศกึ ษา
12 นวัตกรรมหมายถึง ความคิด การปฏิบัติและการกระทาใหม่ๆที่ไม่เคยมีมาก่อนหรือการ พัฒนาดัดแปลงมาจากของเดิมท่ีมีอยู่แล้วให้ทันสมัยและใช้ได้ผลดียิ่งข้ึน เม่ือนานวัตกรรมมาใช้ จ ะ ช่ ว ย ใ ห้ ก า ร ท า ง า น น้ั น ไ ด้ ผ ล ดี มี ป ร ะ สิ ท ธิ ภ า พ แ ล ะ ป ร ะ สิ ท ธิ ผ ล สู ง ก ว่ า เ ดิ ม นวัตกรรม (Innovation) มีรากศัพท์มาจาก innovare ในภาษาลาติน แปลว่า ทาสิ่ง ใหม่ขึ้นมา ความหมายของนวัตกรรมในเชิงเศรษฐศาสตร์คือ การนาแนวความคิดใหม่หรือการใช้ ประโยชน์จากส่ิงท่ีมีอยู่แล้วมาใช้ในรูปแบบใหม่ เพื่อทาให้เกิดประโยชน์ทางเศรษฐกิจ หรือก็คือ การทาในสิ่งที่แตกต่างจากคนอ่ืน โดยอาศัยการเปลี่ยนแปลงต่าง (Changs) ที่เกิดข้ึนรอบตัว เราให้กลายมาเป็นโอกาส ( Opportunity)และถ่ายทอดไปสู่แนวความคิดใหม่ท่ีทาให้เกิด ประโยชนต์ ่อตนเองและสงั คม นวตั กรรม เป็นตัวแปรที่นาไปสู่การเปลี่ยนแปลงองค์กรด้านต่างๆในเชิงธุรกิจได้แก่ ความ อยู่รอด การเจริญเติบโต การสร้างความได้เปรียบทางการแข่งขัน การสร้างโอกาสทางธุรกิจใหม่ และสมรรถนะหลัก ซึ่งนวัตกรรมไม่ใช่แค่การพัฒนาสินค้าใหม่ เท่าน้ัน แต่เกี่ยวข้องกับการลด ต้นทนุ การแสวงหาแนวทางการตอบสนองความต้องการของตลาด การยกระดับคุณภาพชีวิตและ การสร้างคุณภาพเพ่ิมนวัตกรรมในยุคแรกๆเกิดจากการคิดค้นใหม่ทั้งหมด แต่นวัตกรรมในยุค ใ ห ม่ เ กิ ด จ า ก ก า ร พั ฒ น า ใ ห้ เ ป็ น ชิ้ น ใ ห ม่ ที่ มี มู ล ค่ า แ ล ะ ส า ม า ร ถ น า ไ ป ใ ช้ ใ น เ ชิ ง พ า ณิ ช ย์ ไ ด้ นวัตกรรมทางการศึกษา คือ นวัตกรรมทางการศึกษา” (Educational Innovation) หมายถงึ การนาเอาสง่ิ ใหมซ่ ึง่ อาจจะอยใู่ นรูปของความคิดหรือการกระทา รวมทั้งสิ่งประดิษฐ์ก็ตาม เข้ามาใช้ในระบบการศึกษา เพื่อมุ่งหวังท่ีจะเปล่ียนแปลงส่ิงท่ีมีอยู่เดิมให้ระบบการจัดการศึกษามี ประสิทธิภาพย่ิงขึ้น ทาให้ผู้เรียนสามารถเกิดการเรียนรู้ได้อย่างรวดเร็วเกิดแรงจูงใจในการเรียน และชว่ ยใหป้ ระหยัดเวลาในการเรยี น เช่น การสอนโดยใชค้ อมพิวเตอร์ช่วยสอน การใช้วีดิทัศน์เชิง โต้ตอบ(Interactive Video) ส่ือหลายมิติ(Hypermedia)และอินเตอร์เน็ต เหล่านี้เป็นต้น
13 การบรหิ ารสถานศึกษายคุ ดจิ ทิ ลั
14 การบรหิ ารสถานศกึ ษายุคดจิ ิทลั ดิจิทลั เทคโนโลยกี บั การบริหารสถานศึกษา การบริหารงานของผู้บริหารสถานศึกษา จึงมีความจาเป็นอย่างยิ่งที่ต้องใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ และการส่ือสาร ICT (Information and Communication Technology) มาใช้การเพื่อสร้างระบบ ฐานขอ้ มลู เพอ่ื การบริหารและการจัดการความรู้ในงานดา้ นตา่ ง ๆ ทผ่ี ู้บริหารสถานศกึ ษาจะตอ้ งรจู้ ักนามาใช้ให้เกิด ประโยชน์ต่อการบริหารจดั การสถานศกึ ษาได้แก่ 1. Cloud Computing เปน็ เสมือนมบี รกิ าร Server บน Internet ซึ่งสถานศึกษาไม่จาเป็นต้องวาง ระบบ Server ของตนเองในสถานศึกษา ซึ่งเป็นการประหยัดงบประมาณของสถานศึกษาในการใช้เทคโนโลยี คอมพิวเตอร์ที่เก่ียวข้องกับการจัดเก็บข้อมูล (Storage) การใช้ Softwareและการลงทุนด้าน Hardware รวมท้งั การลงทนุ ด้านบคุ ลากรผ้ดู แู ลระบบ เน่อื งจากผู้ให้บริการ Cloud จะเป็นผรู้ บั ผดิ ชอบเอง เอกชนทีใ่ ห้บริการ Cloud เช่น Amazon Web Services (AWS),Microsoft Azure, IBM/SoftLayer and Google Compute Engine. ค่าใช้จ่ายในการใช้บริการ Cloud ข้ึนกับ Applications หรือ Software ท่ีจะใช้ขนาด ความจทุ ตี่ ้องการในการเกบ็ ข้อมลู (Storage) และการเชือ่ มต่อ (Connectivity) 2. Mobility Devices ได้แก่อุปกรณ์พกพาท่ีสามารถใช้งานได้ทุกสถานท่ีท้ังหลาย โทรศัพท์มือถือ Smart Phones, Tablet PC และอุปกรณค์ อมพวิ เตอร์อน่ื ๆมีความสามารถเขา้ ถงึ อยา่ งอิสระเพ่ือการใช้งานแบบ เคลือ่ นทีไ่ ด้ เพราะอุปกรณเ์ หล่านี้มี Applications ทีช่ ว่ ยให้ผู้ใชไ้ มว่ า่ จะเปน็ ครู อาจารย์บุคลากรสถานศึกษา หรือ แม้แต่นักเรียนก็สามารถเข้าถึงแหล่งข้อมูลความรู้ต่างๆทั้งภายในและภายนอกสถานศึกษา จากสถิติผู้ใช้ โทรศัพท์เคลื่อนท่ีในปี คศ. 1990 มีเพียง 0.2 %ของประชากร แต่ในปี คศ. 2015 เพ่ิมข้ึนถึง 50% ของ ประชากรในขณะท่ีอดีตใช้ได้พียงการโทรศัพท์เพียงอย่างเดียว (Singlepurpose) แต่ปัจจุบันน้ีเป็นแบบ Multipurpose 3. Social Network ในยคุ ท่สี ่ือสังคมออนไลนม์ ีอทิ ธิพลต่อทัศนคติ พฤติกรรมและความเชอื่ ของคนใน สังคมเป็นอย่างมากไม่ว่าจะเป็น LINE, Facebook, Twitter, WeChat หรือ Instagram ซึ่งผู้บริหาร สถานศึกษาตอ้ งสามารถทจี่ ะเลือกใช้ส่อื สงั คมออนไลนเ์ หลา่ น้นั อย่างถูกต้องเหมาะสมกับลักษณะงานการบริหารของ สถานศึกษา เช่น ไช้กลุม่ LINE เพอื่ การส่ือสารท่รี วดเร็วทั่วถึงเฉพาะกลุ่มในการสื่อสารข้อมูล ความรู้ความเข้าใจ ในการทางานทไี่ มเ่ ป็นทางการ แตไ่ มค่ วรใชใ้ นการสั่งงานหรอื การบริหารที่เป็นทางการ เป็นตน้ ปจั จบุ ันนี้สื่อสังคม ออนไลนส์ ามารถใช้เป็นเครื่องมอื ทชี่ ว่ ยสนับสนนุ การบรหิ ารงานหรอื ทาลายบรรยากาศการบริหารงานของสถานศึกษา ไดเ้ ช่นกัน 4. Internet of Things (IoT) ปัจจุบันและในอนาคตอันใกล้ภายในปึ คศ. 2020 นีก้ ารใช้อุปกรณ์ ตา่ ง ๆ ในชีวิตประจาวันจะใช้การเช่อื มต่อผ่านInternetเป็นหลักไม่ว่าจะเป็นอุปกรณ์ข้าวของเคร่ืองใช้สานักงาน ในบา้ น Smart Phones, Tablet PC หรอื แมก้ ระทั่งนาฬิกาของใช้ส่วนบุคคล IoT นี้จะสามารถนามาใช้ใน การสร้างนวัตกรรมการจดั การเรียนการสอนการจดั โครงสรา้ งและระบบการบริหารให้เป็นSmart Office ได้ หรือ แม้แตก่ ารนาแนวคิด Work at Home มาใช้ในอนาคต
15 คณุ ลักษณะผบู้ รหิ ารสถานศกึ ษายุคดจิ ทิ ลั
16 ผู้บริหารสถานศึกษาในยุคดิจิทัล จาเป็นท่ีจะต้องเรียนรู้เก่ียวกับ เ ท ค โ น โ ล ยี ก า ร ส่ื อ ส า ร แ ล ะ เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ (ICT) และผลกระทบท่ีเกิดขึ้นต่อการ บริหารจัดการสถานศึกษาเพื่อการ ใช้ ICT ให้เหมาะสม เกิด ประโยชนส์ งู สุด อย่างคุ้มค่าแท้จริง ดังนั้นคุณลักษณะของผู้บริหาร สถานศึกษายุคดิจิทัลจึงควรเป็น ดังตอ่ ไปน้ี 1. กาหนดวิสยั ทัศน์ด้าน ICT ของสถานศึกษาใหช้ ัดเจนว่าต้องการไปในทิศทางใดและจะนามาใชก้ บั การบริหาร สถานศึกษาในเร่อื งใดบา้ ง 2. การบริหารจดั การโครงสรา้ งพ้ืนฐานให้สามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ได้แก่ Hardware,Software, Network และเครอื ข่ายไรส้ ายต่างๆของสถานศึกษาให้ครู อาจารย์ บุคลากรและนักเรียนทุกคนสามารถใช้และ เข้าถึงไดอ้ ย่างรวดเรว็ สะดวกต่อการใชง้ าน พรอ้ มทั้งจดั สรรทรพั ยากรตา่ งๆเพือ่ สนับสนนุ อยา่ งเพียงพอ 3. การสรา้ งวัฒนธรรมการทางานและบรรยากาศสถานศึกษาให้มีการใช้ ICT อย่างแพร่หลายไม่ว่าจะเป็นการ จัดการเรียนการสอนของครู การบริหารงานสถานศึกษาในด้านต่างๆ ตลอดจนการให้นักเรียนสามารถใช้และ เข้าถึงแหลง่ ขอ้ มลู ความรู้ต่างๆผ่าน Internet ได้ตลอดเวลา 4. การฝึกอบรมพัฒนาบุคลากรทุกคนของสถานศึกษาให้มีความรู้ความสามารถด้าน ICT อย่างต่อเน่ืองและ สมา่ เสมอ 5. ผูบ้ ริหารสถานศึกษาตอ้ งทาตนใหเ้ ปน็ ตวั อยา่ งทีด่ สี ามารถใช้ ICT ในการปฏิบัตงิ านอยา่ งได้เหมาะสม 6. สง่ เสริมสนับสนนุ สรา้ งแรงจูงใจครูอาจารย์บุคลากรทุคนของสถานศึกษาให้นาความรู้ความสามารถด้านICT และเทคโนโลยีตา่ งๆทสี่ ถานศึกษาจดั ใหม้ าสรา้ งนวัตกรรมใหมๆ่ ในการจัดการเรียนการสอนหรอื การปฏิบัตงิ าน 7. จัดให้มีระบบการกากับติดตามและการให้คาปรึกษาเกี่ยวกับการใช้ ICT ของสถานศึกษาท้ังครูอาจารย์ บุคลากรทุกคนและนักเรียนว่าสามารถใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เป็นไปตามนโยบายอย่างถูกต้องเหมาะสม หรือไม่ คณุ ลกั ษณะของผู้บรหิ ารสถานศึกษายุคดิจิทัลข้างต้นน้ีมีผลต่อการใช้ภาวะผู้นา ICT (ICT Leadership) ของผู้บริหารสถานศึกษาเป็นอย่างมากเพราะภาวะผู้นา ICT หมายถึง ความสามารถของผู้บริหารในการเรียนรู้ เขา้ ใจ ยอมรบั การเปลยี่ นแปลงด้าน ICT สามารถนามาประยุกต์ใช้ได้อย่าง เหมาะสมและเกิดประโยชน์สูงสุด ตอ่ สถานศึกษา
17 บทบาทผบู้ รหิ ารสถานศกึ ษา
18 ผู้บรหิ ารยุคใหมๆ่ (4.0) ต้องเปน็ “ผู้นาการเปล่ียนแปลงในองค์กร” พร้อมที่จะรับมือ การเปลี่ยนแปลงท่ีเกิดขึ้น สามารถที่จะบริหารจัดการทีมงานในองค์กรให้พร้อมรับการ เปลี่ ยนแปล ง แล ะ จูง ใจ ทีมงานใ ห้สร้ าง ผลลั พธ์บนคว ามเปล่ี ย นแปล ง ท่ีเกิ ด ขึ้น การสร้างผลการปฏิบัติงานให้ทีมงานด้วยการโค้ช (เพ่ือทาให้ทีมงานบรรลุเป้าหมาย (KPI) ของตัวเอง สร้างแรงจูงใจให้ทีมงานให้ความสาคัญกับเป้าหมาย มีความมุ่งมั่นกับการ ปฏิบัติงานท่ีได้รับผิดชอบอย่างสุดกกาลังจนสามารถ บรรลุเป้าหมายได้ด้วยตัวเอง ผบู้ ริหารสถานศึกษามหี ลายบทบาทข้ึนอยกู่ ับ ภารกิจและกจิ กรรมการบรหิ ารซ่ึงการบริหาร ให้ประสบความสาเร็จต้องอาศยั หลายปัจจัยเข้ามาเก่ยี วขอ้ งการบริหารงานการศึกษาในยุคปัจจุบัน จะต้องสอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงของสังคมโลกโดยเฉพาะสังคมแห่งการเรียนรู้ในยุคของ เทคโนโลยีในการเช่ือมโยงข้อมูลต่างงๆ ของทุกภูมิภาคของโลกเข้าด้วยกัน ผู้บริหารจะต้อง แสดงบทบาทอย่างเต็มที่และใช้กลยุทธ และเทคนิคการ บริหารระดับสูงจึงจะสามารถนาพา อ ง ค์กร สู่ คว ามส าเร็ จ ก าร พัฒนาส ถานศึ ก ษ าแล ะ ส ภาพแว ด ล้ อ มทาง ก าร ศึ ก ษ า อยา่ งงไรก็ตามโจทย์ปัญหาเบ้ืองต้นสาหรับผู้บริหารสถานศึกษายุคไทยแลนด์ 4.0 ได้แก่ 1. จะบริหารจัดการสถานศึกษาอย่างไรให้นักเรียน/นักศึกษาทุกคน มีศักยภาพสูงสุด 2. จะทาอย่างไรให้นักเรียน/นักศึกษาถือว่าการเรียนรู้เป็นกิจกรรมที่ต้องทาตลอดชีวิต 3. จะทาอย่างไรใหส้ ถานศึกษาตอบสนองความหลากหลายทางวัฒนธรรมและความเท่าเทียมกัน ของมนุษย์การประชุมวิชาการเสนอผลงานวิจัยระดับชาติ“GRADUATE SCHOOL CONFERENCE 2018” 578 การบริหารในสภาวะท่แี ตกต่างกันและมีการเปล่ียนแปลง เป็น การบริหารหรือการจัดการที่ตอบสนอง ต่อสภาวการณ์ ที่เผชิญอยู่ องค์กรน้ันมีความแตกต่าง เผชิญกับสภาการณ์ที่แตกต่างกัน ดังนั้นจึงต้องการวิธีการในการบริหารหรือการจัดการท่ี แตกต่างกนั ผบู้ รหิ ารจะต้องตระหนักและตอบสนองตัวแปรตาม สถานการณ์ ท่ีส่งผลกระทบ มายังองค์กร รวมทงั้ จาเป็นต้องศึกษาและพยายามแปรสถานการณท์ เ่ี ผชิญอยู่ก่อนท่ีจะตัดสินใจ หาทางเลือกที่ดีที่สุดเพื่อประสานงานในกิจกรรมท่ีต้อง กระทาทั้งหมดขององค์กร
19 ความเปน็ มาและแนวคดิ ของนวัตกรรม Human Resources Data MODEL
ความเปน็ มาและแนวคิด 20 จากพระราชกระแสฯ ของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เมื่อวันท่ี 5 กรกฎาคม พ.ศ.2555 “ปัญหาปัจจุบัน คือ ครูมุ่งเขียนงานวิทยานิพนธ์ เขียนตาราส่งผู้บริหาร เพือ่ ใหไ้ ด้ตาแหนง่ และเงินเดอื นสูงขนึ้ แล้วบางทีก็ย้ายไปที่ใหม่ ส่วนครูที่มุ่งการสอนหนังสือกลับ ไม่ไดอ้ ะไรตอบแทน ระบบไม่ยุติธรรม เราต้องเปลี่ยนระเบียบตรงจุดน้ี การสอนหนังสือต้องถือ ว่าเป็น ความดีความชอบ หากคนใดสอนดี ซึ่งส่วนมากคือมีคุณภาพและปริมาณ ต้องมี Reward” “ครูบางส่วนเวลาสอนนกั เรยี นจะสอนไม่หมดแต่เกบ็ ไว้บางส่วน หากนักเรียนต้องการรู้ ทั้งหมดวิชา ก็ต้องเสียเงินไปสมัครเรียนพิเศษกับครูท่านนั้น จะเป็นการสอนในโรเรียนหรือ ส่วนตัวก็ตาม” กระทรวงศึกษาธิการได้ตระหนักถึงความสาคัญและมุ่งม่ันท่ีจะสืบสานพระราช ปณิธาน เพอื่ พัฒนาคุณภาพครแู ละคณุ ภาพการศกึ ษาอยา่ งต่อเนอื่ ง โดยเฉพาะในส่วนท่ีเก่ียวข้อง กบั ครู ซง่ึ ถอื เปน็ บุคคลสาคญั ในการพัฒนาเยาวชนของชาติใหเ้ ป็นผู้ท่ีมีคุณภาพสมบูรณ์พร้อมใน ทกุ ดา้ น เพ่ือเปน็ กาลังสาคัญในการพัฒนาประเทศต่อไป ตามกฎกระทรวงศกึ ษาธิการกาหนด พรอ้ มกาหนดเปา้ หมาย ขอบข่ายและระบุภารกิจในการ บรหิ ารจัดการไว้อย่างชดั เจนสามารถยดื หยุ่นพรอ้ มรับ การเปลี่ยนแปลงและการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ เพื่อพัฒนาคุณภาพของนักเรียนให้เป็นคนเก่ง ดี มีสุข ส่งเสริม ให้นักเรียนมีความรู้คู่คุณธรรม ยึดโรงเรยี นเป็นฐาน กาหนดแผนพัฒนาคุณภาพการศกึ ษาทีส่ อดคลอ้ งกับ นโยบายของหน่วยงาน ที่เก่ียวข้องสอดคล้องกับความต้องการของชุมชนและท้องถิ่น โดยใช้เทคนิค SWOT จากผู้ท่ีมี ส่วนเก่ียวข้องทุกฝ่าย เพ่ือการวิเคราะห์สภาพแวดล้อมภายในและภายนอกของโรงเรียน ใช้ กระบวนการวงจรคุณภาพ P-D-C-Aและใช้ทฤษฎีการเสริมแรง (Reinforcement Theory) ตามเทคนคิ 5 ใจ (ให้ใจ ได้ใจ ประสานใจ ให้กาลังใจ และดูแลรักษาใจ) ในการดาเนินงาน นาไปสกู่ ารปฏิบัติด้วยการ กาหนดโครงการ/กิจกรรม ตามแผนปฏิบัติการประจาปีมีการรายงาน ผลการดาเนินโครงการ/กิจกรรมทุก คร้ังเม่ือเสร็จส้ินภารกิจหรือสิ้นปีการศึกษา มีการนาผลการ ประเมิน ข้อเสนอแนะไปใช้ปรับปรุงการ ปฏิบัติงานตามแผน ไปพัฒนาแผนพัฒนาคุณภาพ การศึกษาระยะ 4 ปี และแผนปฏิบัติการประจาปีอย่างต่อเน่ือง เกิดผลการพัฒนาอย่างรอบด้าน ท้งั ดา้ นผ้เู รยี น ครแู ละบุคลากรทางการศึกษา สถานศกึ ษา และชุมชนทาใหม้ ผี ลงานเชิงประจกั ษ์ โรงเรยี น ได้มอบหมายใหก้ ลมุ่ งานบรหิ ารงานบุคคล ดาเนนิ การศกึ ษา วิเคราะห์ เพ่ือพัฒนา ระบบการประเมินผลการปฏิบัติงานและการพัฒนาครูแนวใหม่ โดยน้อมนาพระราชกระแสฯ มา เปน็ แนวทางในการพฒั นาการปรับระบบการประเมินผลการปฏิบัติงานและการพัฒนาครูแนวใหม่ นี้ จงึ เปน็ กระบวนทัศน์ใหม่ ของการพัฒนาครทู ั้งโรงเรียน ซึ่งจะเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับครู เพื่อใหค้ รมู ศี ักยภาพ ในอันท่ีจะพัฒนาผู้เรียนให้มีสมรรถนะที่สาคัญ และเป็นครูผู้มีศรัทธาอย่าง แรงกล้า เพื่อทาให้ศิษย์ เป็นคนดี มีคุณธรรม จริยธรรม คุณลักษณะอันพึงประสงค์ และ ค่านิยมท่ีดีงามสมดังเจตนารมณ์ ของการปฏิรูปการศึกษา และเพ่ือให้การปรับระบบการ ประเมินผลการปฏิบัติงานและการพัฒนาครูแนวใหม่นี้ ให้สอดคล้องกับการศึกษาไทย 4.0 การ จดั การศึกษาในศตวรรษท่ี 21 และลดการใช้เอกสารในการ ประเมนิ ผลการปฏบิ ัติงาน
21 สาหรับในระยะเร่ิมตน้ เพื่อใหข้ า้ ราชการครูได้มีเวลาศึกษาทาความเข้าใจกับระบบประเมินประเมินผล การปฏบิ ัตงิ าน โรงเรียนจึงไดพ้ ัฒนาระบบการบันทึกประวัติการ โดยใช้ชื่อว่า Human Resources Data เพ่ือใช้ในการจัดเก็บข้อมูลประวัติการปฏิบัติงาน โดยได้จัดทาระบบการจัดเก็บข้อมูลด้วย โปรแกรมอย่างง่ายคือ ใช้จัดเก็บในแฟ้มข้อมูล (File) Microsoft Excel ซ่ึงข้าราชการครูใน โรงเรยี นมีความคุ้นเคยและไมก่ ระทบกบั ข้าราชการครทู ีอ่ ย่ใู นสถานศึกษา
22 Human Resources Data FLOW CHART
Human Resources Data 23 แต่งต้ังคณะกรรมกาหนด รายละเอยี ดของโปรแกรม จัดอบรมบคุ ลากร การใช้โปรแกรม คร/ู บคุ ลากรทีเ่ ก่ยี วข้อง นาเขา้ ข้อมูลและ และแขวนขอ้ มูล ประเมินผลการปฎบิ ัตงิ าน ผ้อู านวยการและคณะกรรมการ ตรวจสอบข้อมูล
Human Resources Data 24 ขอ้ มูลท่ตี ้องบนั ทกึ
25 ผลที่คาดว่าจะได้รบั
26 ใชใ้ นการจดั เก็บขอ้ มลู ประวัตกิ าร ปฏิบัตงิ าน จัดทาระบบการจัดเก็บข้อมลู ด้วย โปรแกรม บคุ ลากรได้ทราบผลการประเมิน และรบั ทราบงานที่ปฎิบตั ิของทกุ คน ในองคก์ ร บคุ ลากรทราบปริมาณงานของ ตนเอง ผู้บังคับชามเี อกสารเชงิ ประจักษ์ใน การพจิ ารณา
27 ภาคผนวก
28 แหล่งอา้ งอิง กระทรวงศกึ ษาธกิ าร,วารสารวชิ าการ สานกั งานคณะกรรมการการศึกษาข้ันพ้ืฐาน ปีท่ี 12 ฉบบั ที่3 กรกฎาคม – กันยายน 2552,โรงพิมพ์ สกสค.ลาดพร้าว กีรติ ยศย่งิ ยง,องคก์ รแหง่ นวตั กรรม แนวคดิ และกระบวนการ,สานักพมิ พแ์ ห่ง จฬุ าลงกรณ์มหาวิทยาลยั ,2552. ณัฐยา สนิ ตระการผล,การบรหิ ารจดั การนวตั กรรม,ธรรกมลการพมิ พ์,กรงุ เทพมหา นคร,2550. ภารดร จนิ ดาวงศ์, การจดั การความร,ู้ ซดี ับบลวิ ซพี ริ้นตง้ิ ,กรงุ เทพมหานคร,2549 วรี ะยุทธ ชาตะกาญจน์ , เทคนคิ การบรหิ าร สาหรับ นกั บริหารการศกึ ษามอื อาชีพ,สานักพิมพ์แหง่ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย,2552 วรภทั ร์ ภเู่ จริญ ,การบรหิ ารนวตั กรรมอยา่ งยง่ั ยนื และพอเพยี ง ,หจก.สามลดา, กรงุ เทพมหานคร,2550. สานักงานคณะกรรมการการศกึ ษาขัน้ พน้ื ฐาน,มาตรฐานการบรหิ ารและการจดั การ ศกึ ษาโดยใชส้ ถานศกึ ษาเปน็ ฐาน,โรงพิมพส์ านักงานพระพุทธศาสนาแหง่ ชาติ, กรุงเทพมหานคร.
29 คณะผจู้ ดั ทา นางสาวเขมนจิ คาคะมลู รหัส 61500653 ว่าที่ ร.ต.หญงิ ลานนา รกั งาม รหัส 61500732 นายณัฐพงษ์ จรัญ รหัส 61500317 นางสาวนรรนธวรรณ หมอเกง่ รหัส 61500686
วทิ ยาลยั การศกึ ษา มหาวทิ ยาลยั พะเยา
Search
Read the Text Version
- 1 - 34
Pages: