bean

โครงงาน “เมลด็ น้อยเริงร่า” โรงเรียนบ้านป่ าเหมอื ด ต.เวยี งพางคา อ.แม่สาย จ.เชียงราย สานกั งานเขตพนื้ ทก่ี ารศึกษาประถมศึกษาเชียงราย เขต 3 โครงการบ้านนกั วทิ ยาศาสตร์น้อยประเทศไทย

โครงการบ้านนกั วทิ ยาศาสตร์น้อยแห่งประเทศไทย โครงงานเรื่อง “เมลด็ น้อยเริงร่า” ชื่อสถานศึกษา โรงเรียนบา้ นป่ าเหมือด วนั ท่ี 4 มกราคม 2562 ระยะเวลาการทาโครงงาน 7 วนั ต้งั แตว่ นั ท่ี 4 – 10 มกราคม 2562 ส่วนท่ี 1 ข้อมูลโครงงาน 1. หัวข้อของโครงงาน เมล็ดนอ้ ยเบกิ บาน 2. เนือ้ หาและวัตถุประสงค์ 1. ฝึกวนิ ยั และความรบั ผดิ ชอบ ต่อยอดหน่วยการเรียนรู้ เร่ือง ตน้ ไมท้ รี่ กั 2. ฝึกการสงั เกต 3. ฝึกการเรียนรู้ร่วมกนั 4. ฝึกการสรุปผลการเรียนรู้ 3. เพราะเหตใุ ดจงึ ทาโครงการนี้ เหตผุ ลทีไ่ ดร้ ิเร่ิมจดั ทาํ โครงงานเพราะ มีระบุไวใ้ นแผนการสอน  เป็นเหตุการณ์หรือข่าวท่เี กิดข้นึ ในชีวติ ประจาํ วนั (โปรดระบุตวั อยา่ งเหตุการณ์) เป็นเหตกุ ารณ์ท่ีเดก็ เรียนรูห้ น่วย ตน้ ไมท้ รี่ ัก มีเดก็ บา้ งคนสนใจการเจริญเตบิ โตของพชื และ ตน้ ไม้ และมีเดก็ บา้ งคนยงั ไม่สามารถเรียงลาํ ดบั การเจริญเตบิ โตของพชื และตน้ ไมไ้ ด้ จงึ เกิดแนวคดิ ใน การทาํ โครงงาน  มีคาํ ถามหรือแนวคดิ จากเด็ก (โปรดระบุคาํ ถามหรือแนวคดิ จากเดก็ ) ถ้าพวกเรานําท้งั ดินและทรายมาแยกกันปลูกถ่ัวงอก การทดลองคงสนุกมาก และผลการ ทดลองน่าจะแตกต่างกนั มีแนวคิดจากครู อื่นๆ โปรดระบุ

4. เนือ้ หาหลักของโครงงานเกย่ี วข้องกบั หัวข้อทางวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี ใช่หรือไม่  ใช่ ไม่ใช่ ถา้ ไม่ใช่ เน้ือหาหลกั ของโครงงานอยใู่ นวชิ าอะไร ศลิ ปะ วฒั นธรรม ศาสนา จริยธรรม คณิตศาสตร์ สุขศึกษา ดนตรี พลศึกษา เทคโนโลยสี ารสนเทศ อื่นๆ 5. โครงงานทจี่ ัดทาประกอบด้วยกิจกรรมอะไรบ้าง (เช่น การทดลองวทิ ยาศาสตร์ ทศั นศึกษา การละเล่น ดนตรี การวาดรูป) การรู้จกั และใชว้ สั ดุอุปกรณ์ การทดลองทางวิทยาศาสตร์ การวาดภาพระบายสีวสั ดุอุปกรณ์ วาดภาพการทดลอง วาดภาพผลการทดลอง 6. เด็กมีความสนใจในส่วนใดของโครงงานเป็ นพเิ ศษ เด็กสนใจในการทีไ่ ดล้ งมือทาํ ดว้ ยตนเอง เช่น ไดห้ ยอดเมล็ดในแกว้ พลาสตกิ ของตนเอง และ ไดร้ ดน้าํ เมล็ดถว่ั เขียวของตนเองทุกวนั จนเมลด็ ถวั่ เขยี วกลายเป็นถวั่ งอก 7. เดก็ มวี ธิ ีการบนั ทกึ ข้อมูลหรือผลการทดลองต่าง ๆ อย่างไรบ้าง เด็กวาดภาพระบายสีอุปกรณ์การทดลอง วาดภาพระบายสีขณะทาํ การทดลอง และวาดภาพ ระบายสีผลการทดลอง อีกท้งั สามารถเปรียบเทยี บไดว้ า่ เมล็ดถว่ั เขียวที่ปลูกใน ดิน และ ทราย อนั ไหน ไดผ้ ลดีกวา่ กนั 8. ผู้ปกครองหรือนักวทิ ยาศาสตร์พ่ีเลยี้ งมสี ่วนร่วมมสี ่วนร่วมในการทาโครงงานหรือไม่  มี ไม่มี

ถา้ มี ไดเ้ ขา้ ไปมีส่วนร่วมในดา้ นใด ช่วยจดั หาอุปกรณ์ในการทาํ โครงงาน และช่วยบอกชื่อ อุปกรณ์ ขอ้ ควรระวงั ในการใชอ้ ุปกรณ์ 9. เดก็ ทร่ี ่วมทาโครงงานมอี ายใุ นช่วง ต้งั แต่ 4 ปี ถึง 5 ปี 10. โครงงานของท่านมีหน่วยงาน สถาบนั หรือองค์กรอ่ืนๆ เข้ามามสี ่วนร่วมหรือสนับสนุนหรือไม่  มี ไม่มี ถา้ มี ทา่ นไดม้ าโดยวธิ ีใด หน่วยงานหรือบคุ คลท่ีครูเป็นผตู้ ดิ ต่อ (โปรดระบ)ุ -หบนา้ ่วนยงผาปู้นกหครรืออบงคุขคอลงทนม่ีกั ีเครวียานมสมั พนั ธก์ บั เด็ก (โปรดระบุ) ส่วนท่ี 2 ทัศนด้านวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยที ใี่ ช้ในการทาโครงงาน 1. ท่านมีการใช้ความรู้ทางวิทยาศาสตร์เรื่องใดในโครงงาน ตามหัวข้อต่อไปนี้ - เพอื่ กระตุน้ ใหเ้ ด็กเกิดความอยากรู้อยากเห็นและประทบั ใจ ยกตวั อยา่ ง การต้งั สมมุติฐาน การต้งั คาํ ถามใหน้ กั เรียนตอบ - เพื่อให้เกิดความรู้สึกสนุกสนานและสนใจการทดลองมากข้ึน ยกตัวอย่าง ให้เด็กได้คิด สรา้ งสรรคส์ ิ่งใหม่ดว้ ยตนเอง - เพื่อให้เด็กเขา้ ใจความสัมพนั ธ์ต่างๆ ในวิทยาศาสตร์ชัดเจนยิ่งข้ึน ยกตวั อย่าง ให้เด็กได้ ปฏิบตั กิ ารทาํ โครงงานดว้ ยตนเอง ให้เด็กสงั เกตการณ์แลว้ นาํ มาเสนอใหเ้ พอื่ นฟัง - เพื่อให้เด็กเขา้ ใจเน้ือหาของโครงงานไดช้ ดั เจนยง่ิ ข้ึน ยกตวั อยา่ ง การทดลองอยา่ งเป็ นข้นั ตอน และการสรุปผลการทาํ โครงงาน 2. ทกั ษะและกระบวนการใดเป็ นส่ิงสาคญั ในการทาโครงงานทที่ ่านอยากฝึ กให้เด็กทกุ คร้ัง ทกั ษะการสงั เกต การลงมือปฏิบตั ิด้วยตนเอง การแสดงความคิดเห็น และการรับฟังความ คิดเห็น (การแลกเปล่ียนความคิดเห็น) 3. ในการทาโครงงานคร้ังต่อไป ท่านต้องการจะปรับปรุงหรือเปลี่ยนแปลงอะไรบ้าง -

4. ส่วนใดของโครงงานทที่ ่านต้องการได้รับการสนับสนุนเพมิ่ เตมิ และอย่างไรบ้าง - 5. ข้อดที ี่ได้รับจากการทาโครงงานวทิ ยาศาสตร์ - ตอ่ การทาํ งานโดยภาพรวมในสถานศกึ ษา ทุกฝ่ ายในโรงเรียนใหค้ วามร่วมมือ และสนบั สนุนการทาํ โครงงานวทิ ยาศาสตร์ และ เด็กสนใจการเรียนดา้ นวทิ ยาศาสตร์ - ต่อครูหรือผดู้ ูแลเดก็ ครูมีการพฒั นาตนเอง ใหม้ ีความรูด้ า้ นวทิ ยาศาสตร์ คอยช่วยเหลือเดก็ ในการทดลอง - ต่อผปู้ กครอง ผปู้ กครองหนั มาสนใจการเรียนการสอนแบบวทิ ยาศาสตร์ ใหค้ วามร่วมมือสนบั สนุน กบั ทางโรงเรียน - ต่อเจา้ ของสถานศกึ ษา เจา้ ของสถานศึกษามีความภูมิใจท่ีได้พฒั นาเด็ก คอยดูแลส่งเสริมให้มีความรู้ทาง วทิ ยาศาสตร์ตามวยั - ตอ่ ภาพลกั ษณ์ของสถานศกึ ษา สถานศกึ ษาจดั การศกึ ษาดา้ นวทิ ยาศาสตร์ ต้งั แต่อนุบาลเป็ นวยั ที่ควรปลูกฝัง เป็ นวยั แห่งการเรียนรู้ ซ่ึงเป็นคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงคข์ องการศึกษา เป็ นภาพลกั ษณ์ท่ีดีของสถานศกึ ษา ส่วนที่ 3 กระบวนการเรียนรู้ของเดก็ 1. การทาโครงงานวิทยาศาสตร์จะช่วยพัฒนาทักษะ ความสามารถ และพฤติกรรมของเด็กให้ดีขนึ้ ซึ่ง โครงงานของท่านได้พฒั นาเรี่องดังกล่าวในด้านใดบ้าง  ความอยากรู้อยากเห็น อยากทดลอง  ความเป็นตวั ของตวั เอง  ความสามารถดา้ นการเรียนรู้  ความสามารถดา้ นการทาํ งานเป็นกลุ่ม  สามารถเชื่อมโยงความรู้ตา่ งๆ ได้  การพฒั นาแนวความคดิ  ความเชื่อมนั่ ในตนเอง  ทกั ษะในการส่ือสารกบั ผอู้ ่ืน  การทาํ งานท่ีละเอียดอ่อนและรอบคอบ

 การนาํ ส่ิงทไ่ี ดเ้ รียนรู้ไปประยกุ ตใ์ ช้ 2. เด็กมคี วามเข้าใจในการทาโครงงานใช่หรือไม่  ใช่ ไม่ใช่ ถา้ ใช่ ท่านมีวธิ ีการใหเ้ ด็กแสดงความรูจ้ ากกระบวนการเรียนรู้อยา่ งไร (เช่น การแสดงภาพท่ี เด็กวาดจากการทดลอง การนาํ เสนอผลงานของเด็กต่อผปู้ กครอง หรือจากการตอบคาํ ถามดงั ต่อไปน้ี เช่น ไดเ้ รียนรูอ้ ะไรใหม่ๆ บา้ ง และเรียนรูจ้ ากอะไร และจะใชว้ ิธีใดถ่ายทอดความรู้น้ีให้แก่เพ่อื นคน อื่น) เด็กได้วาดภาพอุปกรณ์การทดลอง วาดภาพการทดลอง วาดภาพผลการทดลอง และร่วม สรุปผลการทดลอง จดั ผลงานโครงงานไวท้ มี่ ุมผลงานในหอ้ งเรียนเพอื่ ใหผ้ ปู้ กครองไดม้ าเยย่ี มชม แลว้ นาํ ไปจดั แสดงในงานนิทรรศการโรงเรียน ใหย้ กตวั อยา่ งคาํ ตอบของเด็กจากการถามคาํ ถามวา่ “ไดเ้ รียนรูอ้ ะไร และเรียนรูจ้ ากอะไร” จากการจดั กิจกรรมผ่านโครงงานเร่ือง เมล็ดน้อยเริงร่า ในคร้ังน้ี ทาํ ให้นกั เรียนมี ความรู้ความเขา้ ใจในเรื่องการเจริญเติบโตของพชื ตอ้ งอาศยั ปัจจยั ใดบา้ ง สามารถนาํ ความรู้ไปต่อยอด ใหเ้ กิดองคค์ วามรู้ท่ีคงทน มีเจตคติท่ีดีต่อการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ การเรียนรู้โดยกระบวนการกลุ่ม ให้ ความสนใจส่ิงตา่ งๆ รอบตวั ซ่ึงจะนาํ ไปสู่การพฒั นาทกั ษะกระบวนการเรียนรูอ้ ยา่ งเป็ นระบบ สามารถ สร้างองคค์ วามรู้ไดด้ ว้ ยตนเอง และสามารถทาํ งานร่วมกบั ผอู้ ่ืนไดอ้ ยา่ งมีความสุข

โครงงานเรื่อง “เมลด็ น้อยเริงร่า” ที่มาและความสาคญั ของการทาโครงงาน ถว่ั งอกสามารถนาํ มาประกอบอาหารทมี่ ีคุณคา่ และถูกหลกั ตามโภชนาการไดห้ ลากหลายอยา่ ง เช่น ผดั ผกั ก๋วยเตี๋ยว เป็ นตน้ ซ่ึงอาหารเหล่าน้ีจะทาํ ใหส้ ุขภาพร่างกายแข็งแรง มีประโยชน์ต่อสุขภาพ การปลูกถงั่ งอกมีหลากหลายวธิ ี เช่น การเพาะอยตู่ ะกร้า เพาะในถุงดาํ เพาะใส่กระถาง เพาะใส่สาํ ลี เปี ยก เพาะใส่น้าํ เป็ นตน้ การส่งเสริมพฒั นาการของเด็กปฐมวยั ดว้ ยการจดั การเรียนรู้เกี่ยวกบั เรื่องการเจริญเติบโตของ พืช ด้วยการทาํ โครงงานทางวิทยาศาสตร์น้ัน ถือเป็ นการพฒั นาด้านสติปัญญา สามารถสังเกต สามารถทดลองและเป็นการพฒั นาดา้ นสงั คมสามารถเรียนรูร้ ่วมกบั คนอื่นได้ จากการสงั เกตของครูผสู้ อน ขณะทเ่ี ด็กเรียนหน่วยการเรียนรู้เรื่อง ตน้ ไมท้ ี่รัก ซ่ึงเด็กให้ความ สนใจมาก มีเด็กบางส่วนพูดคุยกนั วา่ “ทาํ ไม เมล็ดถึงงอกออกมา อยากเห็นเมล็ดงอกเร็วๆจงั ” จาก คาํ พดู ของเด็กกลุ่มน้ี ผูส้ อนจึงไดพ้ ูดกบั เด็กวา่ “ถา้ อยา่ งน้นั เรามาทดลองการเจริญเติบโตของพืชโดย การใชด้ ิน และ ทรายเรามาดูความแตกต่างกนั อยา่ งไร ดว้ ยเหตุน้ีจึงทาํ ให้เด็กร่วมกนั จดั ทาํ โครงงาน เมล็ดน้อยเริงร่าข้ึน เพ่ือจะได้เกิดการเรียนรู้ คลายความสงสัย และเกิดทกั ษะกระบวนการทาง วทิ ยาศาสตร์ สามารถนาํ ไปใชใ้ นชีวติ ประจาํ วนั ไดอ้ ยา่ งมีความสุข ช่ือผู้ทาโครงงาน นกั เรียนช้นั อนุบาลปี ที่ 2 จาํ นวน 28 คน ดงั น้ี 1. ด.ช.จิรภทั ร ใส่นวล 2. ด.ช.ณรงค์ 3. ด.ช.ธนาโชติ เขมะวงค์ 4. ด.ช.ธนิศร อินตาคาํ 5. ด.ช.ธีรวฒั น์ วงเพช็ ร 6. ด.ช.รวิภาส สมจริง 7. ด.ช.วรินทร ยปี่ ระดบั 8. ด.ช.ศธุ ิพฒั น์ สุขแกว้ 9. ด.ช.ศุกสกร บุญทอง 10. ด.ช.สมศกั ด์ิ ป้ อแฉ

11. ด.ช.สุชาติ ไอศวรรยจ์ ินดา 12. ด.ช.เอกพล หงษค์ าํ 13. ด.ญ.แชร่ี 14. ด.ญ.ธญั ชนก ปัญญา 15. ด.ญ.ธญั ลกั ษณ์ เจอื จนั ทร์ 16. ด.ญ.นุสรา 17. ด.ญ.แนน เมืองใจ 18. ด.ญ.น้าํ หวาน หงศค์ าํ 19. ด.ญ.บษุ ราคมั ระหาร 20. ด.ญ.เบญญาภา ศรีวงค์ 21. ด.ญ.ประภสั สร อุ่นคาํ 22. ด.ญ.พชั รินทร์ คงสอง 23. ด.ญ.พกิ ุล 24. ด.ญ.พรกนก เบเช 25. ด.ญ.ฟ้ า นายสาม 26. ด.ญ.มะลิวรรณ สายเจริญ 27. ด.ญ.มลั ลิกา วงคข์ นุ สาย 28. ด.ญ.มะลิ วัตถปุ ระสงค์ 1. เพอื่ ต่อยอดหน่วยการเรียนรูเ้ ร่ือง ตน้ ไมท้ ี่รกั 2. เพอื่ พฒั นาทกั ษะการสงั เกต การทดลอง 3. เพอื่ พฒั นาความคดิ ริเริ่มสร้างสรรคท์ างวทิ ยาศาสตร์ 4. เพอื่ ใหเ้ ด็กเรียนรู้ผลของการทาํ โครงงาน 5. เพอ่ื ใหเ้ ดก็ มีทกั ษะการทาํ งานกลุ่ม 6. เพอื่ ส่งเสริมใหเ้ ด็กเรียนรูอ้ ยา่ งมีความสุข

ข้นั ตอนการทาโครงงาน ในการจดั ทาํ โครงงานเร่ืองเมลด็ นอ้ ยเริงร่า ผจู้ ดั ทาํ ไดแ้ บง่ ข้นั ตอนการทาํ งานออกเป็ น 3 ระยะ คอื ระยะเริ่มตน้ โครงงาน ระยะพฒั นาโครงงานและระยะสรุปโครงงาน โดยมีรายละเอียดดงั น้ี ระยะที่ 1 เริ่มต้นโครงงาน 1. ครูผูส้ อนและเด็กร่วมกนั สนทนา เก่ียวกบั ประโยชน์ของถว่ั งอก เด็กๆสนใจและร่วมตอบ คาํ ถาม รวมท้งั เดก็ คนทีไ่ ม่เคยกินถง่ั งอกดิบกข็ อชิม 2. ครูผสู้ อนแนะนาํ อุปกรณ์ท่จี ะใชใ้ นการทดลอง

3. ครูผสู้ อนแจง้ ใหผ้ ปู้ กครองทราบ เก่ียวกบั การจดั ทาํ โครงงานเร่ืองเมล็ดนอ้ ยเริงร่าของเดก็ โดยขอความร่วมมือจากผปู้ กครองในการร่วมกิจกรรมดงั น้ี 3.1 ผปู้ กครองและเดก็ ร่วมช่วยบตุ รหลานดูแลเมล็ดถว่ั เขียวของตวั เอง คอื ช่วยพรมน้าํ และ ช่วยบอกลูกหลาน ให้รับผดิ ชอบดูแลของตวั เองใหด้ ี ไม่ทาํ ลาย 4. ครูผสู้ อนใหเ้ ด็กดูวดิ ีโอ การเจริญเติบโตของถว่ั งอก จาก you tube เด็กๆสนใจและตื่นเตน้ อยากทดลองเร็วๆ 5. ครูแนะนาํ อุปกรณ์ในการทดลองเพ่มิ เติม เช่น กระบอกฉีดน้ําท่ีใช้พรมน้าํ ให้เมล็ดชุ่มน้าํ ทกุ วนั 6. เด็กวาดภาพอุปกรณ์ ระยะท่ี 2 พฒั นาโครงงาน 1. ครูและเดก็ ร่วมกนั เรียนรู้ โดยให้เดก็ ไดล้ งมือปฏบิ ตั จิ ริงดว้ ยตนเอง แลกเปล่ียนความคดิ เห็น ร่วมกนั โดยปฏบิ ตั ิกิจกรรมดงั น้ี 1.1 ครูจดั เตรียมอุปกรณ์ แลว้ ใหเ้ ดก็ ช่วยกนั แจกแกว้ พลาสติกคนละ 1 ใบ แลว้ นาํ แกว้ มาใส่ ดิน และ ทรายทคี่ รูและนกั เรียนเตรียมไว้ โดยแบ่งใหน้ กั เรียนชายใชด้ ินปลูก และนกั เรียนหญิงใชท้ ราย ปลูก

1.2 ครูและเดก็ ร่วมกนั หยอดเมล็ดถว่ั เขยี ว และพรมน้าํ ใหเ้ มล็ดชุ่มน้าํ แลว้ ทาํ ไปวางไวป้ ระจาํ เลขที่ของ ตนเอง เพอื่ รอดูผลวนั ถดั ไปวา่ จะเกิดการเปลี่ยนแปลงอยา่ งไร



หมายเหตุ ทกุ ข้นั ตอนในการทาํ กิจกรรม ครูผสู้ อนตอ้ งทาํ หนา้ ที่คอยกระตุน้ ใหเ้ ด็กสนใจดว้ ยคาํ ถาม เช่น ถามวา่ ขนาดของภาชนะเป็ นอยา่ งไร เทียนยงั ลุกไหมอ้ ยไู่ หม ใชเ้ วลานานเทา่ ไรเทียนจึงดบั เป็ นตน้ ระยะท่ี 3 สรุปโครงงาน 1. เด็กวาดภาพวนั แรกที่หยอดเมล็ดถว่ั เขียว 2. เด็กวาดภาพวนั ที่ 3 ท่ีมาดูผลการงอกของเมลด็ ถว่ั เขยี ว 3. เด็กและครูร่วมกนั สรุป การทดลองปลูกถว่ั งอกจากการใชด้ ิน และใชท้ รายปลูก สรุปไดว้ ่า พชื และตน้ ไมแ้ ต่ละชนิดมีการเจริญเตบิ โตโดยการใชเ้ วลาและวิธีการปลูกต่างกนั อยา่ งหลากหลาย โดย แตล่ ะวธิ ีกจ็ ะมีผลแตกต่างกนั เช่นกนั ผลทเ่ี กิดจากการทาโครงงาน จากการจดั กิจกรรมผา่ นโครงงาน เมล็ดนอ้ ยเริงร่า ในคร้ังน้ีทาํ ใหเ้ ด็กมีความรู้ความเขา้ ใจ เร่ือง การเจริญเติบโตของพชื และตน้ ไมม้ ากยงิ่ ข้นึ ซ่ึงจะเป็นองคค์ วามรู้ทคี่ งทนนาํ ไปใชใ้ นชีวติ ประจาํ วนั ได้ การทาํ โครงงานน้ีทาํ ใหเ้ ด็กมีเจตคติทดี่ ีตอ่ การเรียนดา้ นวทิ ยาศาสตร์ สนใจส่ิงรอบตวั อยากรู้อยากเห็น มีความร่วมมือกบั เพอื่ นๆ เพอ่ื เรียนรู้ และเรียนอยา่ งมีความสุข