Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

ice

Published by LANNA RAKNGAM, 2019-08-27 23:07:11

Description: ice

Search

Read the Text Version

โครงงาน “ไอติมหวานเยน็ ชื่นใจ” ผ้จู ัดทาโครงงาน นกั เรียนชน้ั อนุบาล 3/1 โรงเรยี นบ้านปา่ เหมือด ครูที่ปรกึ ษา นางจันทร์ดี คาสจั สานักงานเขตพนื้ ท่ีการศกึ ษาประถมศกึ ษาเชยี งราย เขต 3 สานกั งานคณะกรรมการการศกึ ษาข้ันพ้ืนฐาน

โครงงานวทิ ยาศาสตร์ เรื่อง... “ไอติมหวานเยน็ ชื่นใจ” ผูจ้ ัดทา นักเรยี นชัน้ อ. 3/1 โรงเรยี นบ้านป่าเหมือด จานวน 19 คน ครูทปี่ รึกษา นางจนั ทรด์ ี คาสจั ระยะเวลา วนั ที่ 7 - 24 ส.ค. 2561 วัตถปุ ระสงค์ 1. เดก็ ไดค้ าตอบจากสิง่ ท่ีสงสัยว่านา้ จะกลายเปน็ น้าแข็งใชเ้ วลานานเท่าไร 2. เดก็ ได้ทดลองและสรุปผลการทดลองได้ 3. เด็กได้เรียนรทู้ ักษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ 4. เด็กไดพ้ ฒั นาด้านร่างกายอารมณจ์ ติ ใจ สงั คมและสติปัญญา 5. เด็กได้ลงมอื ปฏบิ ัตดิ ว้ ยตนเองทาใหเ้ กิดความรู้ที่คงทน 6. เด็กมเี จตคติท่ดี ตี อ่ การเรียนวทิ ยาศาสตร์ ทมี่ าของโครงงานสบื เน่ืองมาจากเดก็ ๆ เล่นกจิ กรรมกลางแจง้ แลว้ คยุ กันวา่ ร้อนมาก อยากด่ืมน้า เย็น ๆ ได้นา้ แขง็ ย่ิงดจี ะไดห้ ายรอ้ น บางคนบอกวา่ นา้ แขง็ จดื ไมม่ ีรสชาติ อยากกินน้าทีห่ วาน ๆ มากกว่า แพรว่า : ครูขาเราทานา้ แขง็ ได้ไหมคะ หนูอยากกนิ นา้ แขง็ ใสคะ จันทมิ า : หนูอยากทาบิงซูคะ นอ้ งเจนิ : ผมวา่ เราทาหวานเย็นกินดีกว่า งา่ ยดี ประหยดั ด้วย น้องหนมุ่ : ผมว่าทาไอติมดีกวา่ ครับ ทาอย่างไรครับครู ขัน้ ท่ี 1 ต้งั คาถามทีอ่ ยากรู้ จากความสนใจของเด็ก ๆ จงึ เป็นที่มาของโครงงานบา้ นนกั วทิ ยาศาสตรน์ อ้ ย เรอ่ื ง “ไอติมหวานเย็น ชน่ื ใจ” โดยได้มาจากการลงคะแนนเสียง วา่ เสียงส่วนใหญ่ อยากทาอะไรมากทสี่ ดุ จากประสบการณ์เดมิ เดก็ ๆ ไดเ้ คยเรยี นรวู้ า่ การทานา้ ให้เปน็ นา้ แขง็ โดยการเอานา้ ไปแช่ในชอ่ งฟรซี ก็จะได้ น้าแข็งมากิน นอ้งลีโอ : ผมเคยเห็นพอ่ ทาครบั นอ้ งษา : หนูเคยเห็นคณุ แม่เอานมใส่ในชอ่ งฟรซี ก็จะได้นมแขง็ กนิ แล้วค่ะ น้องแพท : หนูเคยเอาไมโลกล่องเลก็ ใสช่ อ่ งฟรซี ก็จะไดห้ วานเยน็ ไมโลคะ่

นอ้ งสรุ ยิ า : ใช้เวลานานไหมครบั ครู น้าจงึ กลายเปน็ น้าแข็ง ข้นั ท่ี 2 รวบรวมความคิดและคาดคะเนคาตอบ ประสบการณ์เดมิ ของเดก็ ๆ ได้เรยี นร้เู ก่ยี วกับการทดลอง การทานา้ ใหเ้ ปน็ น้าแข็ง โดยการนนานา้ ไป แช่ในชอ่ งฟรีชก็สามารถทาหวานเยน็ ได้ น้องหนุ่ม : ผมอยากร้วู า่ ในช่องฟรีชมคี วามเยน็ เท่าไหร่ครับ นอ้ งแพรวา : หนูเคยเห็นคุณแม่ทานา้ แข็งค่ะ หนึง่ วนั หน่งึ คืนก็เปน็ น้าแขง็ ได้ นอ้ งจนั ทิมา : หนูวา่ เอาแชใ่ นชอ่ งฟรชี 2 ชว่ั โมง คะ่ นอ้ งลีโอ : ผมวา่ แช่ในชอ่ งฟรีช 3 ชัง่ โมงครบั นอ้ งมนี า : หนูว่าใช้เวลา 4 ถงึ 5 ช่ัวโมงค่ะ เม่อื เด็ก ๆ เกดิ ขอ้ สงสัยและอยากรู้ว่าเราใช้เวลาก่ีชั่วโมงในการทาหวานเย็นทาให้น้ากลายเปน็ นา้ แข็งได้ จ่งึ เกิดคาถามทเี่ ดก็ ๆ อยากร้วู า่ นา้ จะกลายเปน็ นา้ แขง็ ใช้เวลากี่ชัว่ โมง จงึ ได้เกิดโครงงานนข้ี ้ึนมา ขน้ั ที่ 3 ดาเนินการสารวจตรวจสอบ เด็ก ๆ และคุณครรู ว่ มกนั คน้ หาข้อมลู วา่ เราจะมวี ิธที าหวานเย็นไดอ้ ย่างไรบ้าง ใช้วิธีการ สอบถามจากผู้ปกครอง การสืบค้นข้อมูลจากอินเตอรเ์ น็ต การสบื คน้ ข้อมูลจากผ้มู ปี ระสบการณ์(แมค่ า้ น้าหวาน) คณุ แมน่ ้องลโี อ : เขยี นสูตรผสมและวิธีการทาหวานเยน็ มาให้ น้องต้นหอม : คุณแม่บอกวา่ ใสใ่ บเตยดว้ ยคะ่ จะไดห้ อม ๆ นอ้ งพร : เอาน้าแดงผสมนม กอ็ รอ่ ยดคี ะ จากการศึกษาข้อมูลในห้องคอมพิวเตอร์ ขอ้ มูลจากการสอบถามแม่คา้ ทโ่ี รงอาหาร ขอ้ มลู จาก ผ้ปู กครอง ทาใหเ้ ราได้ข้อสรปุ รว่ มกนั วา่

วัสดุ - อุปกรณ์ทีใ่ ชไ้ ด้แก่ 1. นา้ หวานสแี ดง สีแดงสีเขยี ว 2. นม 3. นา้ ต้มสุก 4. ถงุ พลาสตกิ /ยางรดั 5. นาฬกิ า 6. ตูเ้ ย็น ขั้นท่ี 4 สงั เกตและบรรยาย เดก็ ๆ นาอุปกรณ์มาจากบ้าน โดยได้รับการสนับสนนุ จากผ้ปู กครอง แบ่งกลุ่มเด็ก ๆ ออกเปน็ 4 กลมุ่ มกี ารแตง่ ตั้งผู้นากลุ่มในการรับอุปกรณ์ ซ่งึ แตล่ ะกลุ่มกไ็ ด้มาจากการคาดคะเนคาตอบของเด็ก ๆ ทีย่ กมือ คือ คาดคะเนคาตอบ เราใช้เวลานานเท่าไร น้าจงึ กลายเปน็ นา้ แข็ง กลมุ่ ที่ 1 ใชเ้ วลา 1 ช่วั โมง มี 3 คน กลมุ่ ท่ี 2 ใช้เวลา 2 ช่วั โมง มี 4 คน กล่มุ ที่ 3 ใช้เวลา 3 ชั่วโมง มี 5 คน กลุม่ ที่ 4 ใชเ้ วลา 4 ชั่วโมง มี 7 คน

เมือ่ แตล่ ะกล่มุ ได้รับอปุ กรณ์แล้ว ก็ลงมอื ปฏบิ ัติทาการทดลอง โดยมคี รูคอยดแู ล ให้คาแนะนาอยา่ งใกล้ชดิ เด็ก ๆ นาหวานเย็นท่ีทาเสร็จแลว้ ไปแชใ่ นชอ่ งฟรีช พรอ้ มกนั จับเวลา ทกุ ๆ 1 ชว่ั โมง นาออกมา สังเกต บันทึกผลการทดลอง ข้ันท่ี 5 บันทกึ ผล ข้นั ที่ 6 สรุปและอภิปรายผล 1. นา้ หวานกลายเปน็ น้าแขง็ ใชเ้ วลา 4 ช่วั โมง 2. น้าหวานทใ่ี สใ่ นถงุ มีปริมาณเท่ากนั

3. ภาชนะที่ใช้บรรจุเป็นชนดิ เดยี วกนั เด็ก ๆ นาเสนอผลงานให้เพอื่ น ๆ ฟัง และออกบธู แสดงในงาน “สัปดาหว์ นั วทิ ยาศาสตร์” ของโรงเรียน สรุปผลที่เกดิ จาการเรยี นรู้ การทดลองของเด็ก ๆ 1. เดก็ ได้ลงมือปฏบิ ตั ิการทดลองด้วยตนเองและได้สังเกตความเปล่ียนแปลงของนา้ กับเวลา กบั อณุ หภมู ิ เดยี วกัน 2. เด็กพดู อธบิ าย คาดคะเนคาตอบ และสรุปผลการทดลอง 3. เด็กได้ใช้ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตรด์ ้านการสารวจ สบื คน้ ขอ้ มูล การสงั เกต การจาแนก การเปรยี บเทียบ การลงความเหน็ จากข้อมลู และการคาดคะเน 4. ส่งเสริมพัฒนาการเดก็ ท้ัง 4 ดา้ น 5. เด็กได้ทางานร่วมกัน ทางานเป็นกลุ่มรูจ้ กั การเป็นผู้นา ผู้ตาม การปฏิบตั ิตามข้อตกลงร่วมกนั ผลจากการทาโครงงานคาถามท่ี 1 เดก็ เกดิ การพฒั นาดา้ นตา่ ง ๆ ดงั น้ี 1. การสง่ เสรมิ พัฒนาการความสามารถพืน้ ฐาน 4 ด้าน 1. 1 ด้านการเรียนรู้ -นกั เรยี นรจู้ ักการตั้งคาถามในส่งิ ทต่ี นสงสยั -นักเรยี นได้ลงมอื ทาด้วยตนเอง -นกั เรียนสามารถอธบิ ายถึงวิธีการเรียนรขู้ องตนเอง วา่ เรยี นร้อู ยา่ งไร และไดพ้ บคาตอบที่อยากรู้ -นกั เรยี นไดเ้ รียนรเู้ ร่ืองวธิ กี ารทาหวานเยน็ -นักเรียนสามารถสรุปและนาเสนอผลสรปุ แก่คนอน่ื ๆ ได้

1.2. ดา้ นภาษา - นักเรยี นพูดอธบิ ายถงึ สงิ่ ท่ีพวกเขาสังเกตเหน็ - นักเรยี นได้พดู นาเสนอข้อมูลทไ่ี ด้คน้ พบด้วยตนเอง 1.3. ดา้ นสงั คม -นกั เรยี นสามารถทางานร่วมกับผู้อื่นได้ -นกั เรยี นสามารถแสดงความคิดเห็นของตนเอง และยอมรบั ฟังความคดิ เห็นของคนอน่ื -นกั เรยี นเคารพกฎ กติกาของหอ้ งเรียน 1.4. ด้านการเคลอ่ื นไหวและทกั ษะการรับร้ขู องประสาทสัมผัส -นกั เรียนสามารถเคลื่อนไหว หยิบ จับ และใชเ้ ครื่องมอื ตา่ งๆได้คลอ่ งแคลว่ 2. การสง่ เสริมทกั ษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ 2.1 ทกั ษะการสงั เกต -นกั เรยี นสามารถสงั เกตการเปล่ียนแปลงของน้าทกี่ ลายเป็นนา้ แข็ง 1.2 ทกั ษะการวัด -นักเรยี นสามารถระบไุ ด้วา่ ปรมิ าณของนา้ เทา่ ไรทาใหเ้ กิดการแขง็ ตวั 2.3 ทกั ษะการคานวณ -การตวงปรมิ าณ 2.4 ทักษะการจาแนกประเภท -จาแนกเปรยี บเทยี บปรมิ ารกบั เวลา 2.5 ทักษะการพยากรณห์ รอื การคาดคะเนคาตอบ -เดก็ สามารถคาดคะเนคาตอบท่ีตนเองคดิ ว่า “ใช้เวลากชี่ ว่ั โมงน้าจงึ จะกลายเปน็ นา้ แขง็ ” 2.6 ทกั ษะการหาความสมั พันธ์ระหวา่ งสเปสกับสเปส และสเปสกับเวลา - นกั เรียนสามารถบอกได้ว่าเวลาเท่าใดทีท่ าใหน้ ้าเป็นน้าแข็ง 2.7 ทกั ษะการกาหนดและควบคมุ ตวั แปร -นกั เรียนกาหนดและเลอื กได้ว่า ใช้วธิ ีการใดในการหาคาตอบ 2.8 ทกั ษะการทดลอง - นักเรยี นสามารถปฏบิ ัตกิ ารกจิ กรรมตามขน้ั ตอนทกี่ าหนดได้ - นักเรียนสามารถบนั ทกึ ผลกจิ กรรมได้ 2.9 ทักษะการจดั กระทา และสือ่ ความหมายข้อมูล -นกั เรยี นสามารถสรุปผลสิง่ ที่สงั เกตได้โดยการวาดภาพ ระบายสี และนาเสนอข้อมูลหน้าช้ัน เรียนให้ผ้อู ่ืนเขา้ ใจได้ 2.10 ทักษะการลงความคิดเหน็ จากขอ้ มูล -นกั เรยี นสามารถแสดงความคิดเหน็ ไดว้ า่ ใช้เวลา 4 ชัว่ โมงในการทาน้าให้เป็นนา้ แขง็

คาถามที่ 2 เราจะทาหวานเยน็ ได้อยา่ งไร ถ้าไม่มตี เู้ ย็น และระหว่างนา้ หวานผสมกบั นมกบั นา้ หวานผสมกบั นา้ อันไหนละลายเรว็ กว่ากนั ขั้นที่ 1 ตั้งคาถามทอ่ี ยากรู้ ที่มาของคาถามนเี้ กดิ มาจากเกิดเหตุไฟฟ้าดับ ทาใหห้ วานเย็นของเด็ก ๆ ละลาย เด็ก ๆ จงึ เกดิ ความ สงสัย จึงได้เกิดการทดลองนขี้ ึ้นมา นอ้ งหนุม่ : ครคู รบั ไฟดบั หวานเย็นละลายจะหมดแล้วครับ น้องแพรวา : ครขู า หนเู คยเห็นไอตมิ โบราณค่ะ ไมใ่ ช้ไฟ นอ้ งลีโอ : อยากทาไอติมครบั ครู ขั้นที่ 2 รวบรวมความคิดและคาดคะเนคาตอบ เด็ก ๆ ในห้องเรยี นต่างอยากทดลองทาไอติมโบราณหรอื ทเ่ี รียกอีกอยา่ งหน่งึ วา่ “ไอตมิ หลอด” เม่ือ เด็ก ๆ มคี วามสนใจ และอยากรู้ ครูจึงถามเดก็ ๆ วา่ จะทาอยา่ งไร เด็ก ๆ บอกว่า เราต้องไปสืบคน้ ข้อมลู จาก หลาย ๆ ท่ี น้องษา : หนรู จู้ ักแมค่ ้าค่ะ จะใหค้ ณุ แม่พาไปถามค่ะ นอ้ งเจนิ : ค้นจากอนิ เตอรเ์ นต็ ก็ได้ น้องมีนา : ถามผูป้ กครองคะ่ เด็ก ๆ และครูสนทนารว่ มกัน โดยครใู ช้คาถามกระตุ้นใหเ้ ด็กเลา่ ประสบการณ์เดิมเกี่ยวกบั การทาไอ ตมิ โบราณ น้องลีโอ : ผมเห็นเขาเอาใสใ่ นถังครบั จะมนี ้าแข็งอยูข่ ้างล่าง เค็ม ๆ ครบั น้องเจนิ : ผมวา่ เขาเอานา้ ทะเลมาผสมกับน้าแขง็ นอ้ งสรุ ยิ า : ผมวา่ เขาใส่สารเคมีทาความเยน็ ครบั ครใู หเ้ ด็กคาดคะคาตอบ โดยแบง่ กลุม่ เด็ก ๆ อกเปน็ 2 กลมุ่ ใหญ่ กลุม่ ที่ 1 คาดคะเนวา่ นา้ แข็ง ผสมสารเคมีทาความเย็น กลมุ่ ท่ี 2 คาดคะเนวา่ นา้ แข็งผสมกับเกลอื

ขัน้ ที่ 3 ดาเนินการสารวจตรวจสอบ ครูเชิญวิทยากร มาสาธติ การทา “ไอตมิ หลอด” ใหเ้ ดก็ ๆ ดู และทดลองทาด้วยตนเอง นอกจากนี้ ครูยงั เชิญครวู ทิ ยาศาสตรข์ องโรงเรียนมาให้ความรู้ทางวทิ ยาศาสตรก์ ับเดก็ ๆ เพือ่ ตอบคาถามในสิง่ ทเ่ี ดก็ สงสัย ขนั้ ท่ี 4 สงั เกตและบรรยาย และขั้นที่ 5 บันทึกผล ขนั้ ท่ี 6 สรปุ และอภปิ รายผล เด็ก ๆ และครูร่วมสนทนาถึงคาถามท่เี ดก็ อยากรู้ “เราจะทาหวานเย็นได้อย่างไร ถ้าไม่มีต้เู ยน็ และ ระหว่างน้าหวานผสมกบั นมกับนา้ หวานผสมกับนา้ อนั ไหนละลายเร็วกวา่ กัน” ครูใหเ้ ดก็ ทบทวนโดยการให้เด็ก อาสาออกมาเล่าวิธกี ารหาคาตอบวา่ ไดม้ าอย่างไร และผลการศกึ ษาเปน็ อย่างไร โดยครเู ขยี นลงบนแผน่ ชาร์ท ประกอบการนาเสนอ และครรู ว่ มกับเดก็ สรุปต่อไปโดยใช้คาถามว่า ครู : อะไรทีท่ าให้เกิดความเย็นจนทาให้น้ากลายเปน็ ไอตมิ หลอดได้(น้ากลายเป็นนา้ แขง็ ) ครู : ระหว่างนา้ หวานผสมนมกบั นา้ หวานผสมกบั น้าแบบใดละลายเรว็ กวา่ กัน เพราะเหตุใด เด็กสรุปรว่ มกนั โดยครูเขียนบันทกึ ที่แผน่ ชาร์ท ดังน้ี ผลจากการทาโครงงานคาถามท่ี 2 เด็กเกิดการพัฒนาด้านตา่ ง ๆ ดงั น้ี 1. การส่งเสรมิ พัฒนาการความสามารถพน้ื ฐาน 4 ด้าน 1. 1 ดา้ นการเรียนรู้ -นักเรยี นร้จู กั การตง้ั คาถามในสง่ิ ทีต่ นสงสัย -นกั เรียนได้ลงมอื ทาด้วยตนเอง

-นักเรียนสามารถอธิบายถงึ วิธีการเรยี นรูข้ องตนเอง วา่ เรยี นรูอ้ ยา่ งไร และได้พบคาตอบทีอ่ ยากรู้ -นกั เรียนได้เรยี นรเู้ รอ่ื งการทาไอติมหลอด -นักเรียนสามารถสรุปและนาเสนอผลสรุปแกค่ นอ่นื ๆ ได้ 1.2. ดา้ นภาษา - นกั เรยี นพดู อธิบายถึงสิ่งที่พวกเขาสงั เกตเหน็ - นกั เรียนไดพ้ ดู นาเสนอข้อมลู ที่ได้ค้นพบดว้ ยตนเอง 1.3. ดา้ นสงั คม -นกั เรยี นสามารถทางานร่วมกบั ผอู้ น่ื ได้ -นักเรยี นสามารถแสดงความคดิ เหน็ ของตนเอง และยอมรบั ฟงั ความคิดเหน็ ของคนอื่น -นักเรียนเคารพกฎ กตกิ าของหอ้ งเรียน 1.4. ดา้ นการเคลือ่ นไหวและทกั ษะการรบั รูข้ องประสาทสมั ผัส -นกั เรยี นสามารถเคลอ่ื นไหว หยบิ จบั และใช้เครอ่ื งมอื ตา่ งๆไดค้ ลอ่ งแคลว่ 2. การส่งเสริมทกั ษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ 2.1 ทกั ษะการสังเกต -นกั เรียนสามารถสังเกตส่ิงเกิดขึน้ เมื่อไดล้ งมอื ปฏบิ ตั ิด้วยตนเอง 1.3 ทกั ษะการวัด -นักเรียนสามารถระบไุ ด้ว่า อณุ หภมู เิ ท่าใดที่ทาให้นา้ กลายเปน็ น้าแขง็ 2.3 ทักษะการคานวณ -คานวณเวลากับการแข็งตวั ของน้า 2.5 ทกั ษะการจาแนกประเภทเปรียบเทียบ -เปรยี บเทยี บไดว้ ่า ระหว่างนา้ หวานผสมนมกบั น้าหวานผสมนา้ แบบใด ละลายเร็วกวา่ กัน 2.5 ทกั ษะการพยากรณห์ รอื การคาดคะเนคาตอบ -เด็กสามารถคาดคะเนคาตอบที่ตนเองคิดว่า น้าแข็งผสมเกลือทาให้เกิดความเย็นต่ากว่า 0 องศาเซลเซียส 2.6 ทักษะการหาความสัมพนั ธ์ระหวา่ งสเปสกบั สเปส และสเปสกับเวลา - นักเรยี นสามารถบอกได้ว่าเวลาทาให้เกิดการละลายต่างกนั 2.8 ทักษะการกาหนดและควบคมุ ตัวแปร -นกั เรยี นกาหนดและเลอื กไดว้ ่า ใช้วิธีการใดในการหาคาตอบ 2.8 ทกั ษะการทดลอง - นักเรยี นสามารถปฏิบัติการกจิ กรรมตามขน้ั ตอนทก่ี าหนดได้ - นักเรียนสามารถบนั ทึกผลกจิ กรรมได้ 2.9 ทกั ษะการจดั กระทา และสือ่ ความหมายขอ้ มลู -นักเรียนสามารถสรุปผลส่งิ ที่สงั เกตไดโ้ ดยการวาดภาพ ระบายสี และนาเสนอข้อมูลหน้าช้ัน เรียนให้ผู้อ่ืนเขา้ ใจได้ 2.10 ทกั ษะการลงความคิดเห็นจากข้อมลู -นักเรยี นสามารถแสดงความคิดเหน็ ไดว้ ่า นา้ แข็งผสมเกลอื ทาให้เกิดความเย็นต่ากว่า 0 องศา เซลเซยี ส และนา้ หวานผสมนมละลายไดช้ า้ กว่านา้ หวานผสมน้า เนื่องจากน้าทาให้เกิดการเจือ จางของสารละลาย


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook