Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ประวัติ 3 ผู้นำระดับโลก

ประวัติ 3 ผู้นำระดับโลก

Published by ชนาธิป มากมี, 2018-07-18 04:50:37

Description: ประวัติ 3 ผู้นำระดับโลก

Search

Read the Text Version

ประวตั ผิ ู้นำระดบั โลก

อบั รำฮัม ลนิ คอล์น อบั รำฮัม ลนิ คอล์น (องั กฤษ: Abraham Lincoln) เป็นประธานาธิบดีคนท่ี 16 ของสหรัฐอเมริกา ลินคอลน์ เขา้ ดารงตาแหน่งประธานาธิบดีแห่งสหรัฐอเมริกาต้งั แต่เดือนมีนาคม ค.ศ.1861จนกระทง่ั ถูกลอบสงั หารเม่ือเดือนเมษายน ค.ศ. 1865 ลินคอลน์ ประสบความสาเร็จในการนาพาประเทศผา่ นพน้ สงครามกลางเมืองอเมริกา ซ่ึงเป็นวิกฤตการณ์ทางรัฐธรรมนูญ ทางทหารและศีลธรรมคร้ังใหญ่ที่สุดของประเทศดว้ ยความสาเร็จดงั กล่าว ลินคอลน์ จึงสามารถรักษาความเป็นสหภาพของสหรัฐอเมริกาเอาไวไ้ ด้ นอกจากน้ีเขายงั นาทางไปสู่การเลิกทาส, สร้างความมง่ั คงแขง็ แกร่งใหก้ บั รัฐบาลกลาง ตลอดจนส่งเสริมการเศรษฐกิจและการเงินใหท้ นั สมยั

ลินคอลน์ เกิดในครอบครัวยากจน ณ เมืองฮอ็ ดเจนวลิ ล์ รัฐเคนทกั กี ซ่ึงสมยั น้นั เป็นพรมแดนทางตะวนั ตกของสหรัฐอเมริกา ส่วนใหญ่ลินคอลน์ ศึกษาดว้ ยตนเอง และไดร้ ับอนุญาตใหป้ ระกอบอาชีพทนายความในอิลินอยส์ใน ปี 1836 เขากลายเป็นผนู้ าพรรควกิ และไดร้ ับเลือกเป็นสมาชิกสภานิติบญั ญตั ิรัฐอิลลินอยส์ระหวา่ งค.ศ. 1834 - 1842 และต่อมาถูกเลือกเป็นสมาชิกสภาผแู้ ทนราษฎรสหรัฐอเมริกาในปี 1846 โดยดารงตาแหน่งอยหู่ น่ึงสมยั ลินคอลน์เนน้ การปฏิรูประบบเศรษฐกิจใหท้ นั สมยั และต่อตา้ นสงครามเมก็ ซิโก-อเมริกา หลงั หมดวาระลินคอลน์ กลบั ไปประกอบวชิ าชีพกฎหมายจนประสบความสาเร็จ เม่ือกลบั มาสู่เวทีการเมืองอีกคร้ังใน ปี ค.ศ. 1854 ลินคอลน์ กลายเป็นผนู้ าก่อต้งั พรรคใหม่ คือ พรรคริพบั ลิกนั ในระหวา่ งการโตว้ าทีกบั ตวั แทนพรรคเดโมแครต สตีเฟน เอ. ดกั ลสั ใน ค.ศ. 1858 ลินคอลน์ แสดงจุดยนื ทางการเมืองที่คดั คา้ นการขยายตวั ของสถาบนั ทาส แต่กแ็ พก้ ารเลือกต้งั สมาชิกวฒุ ิสภาแก่ดกั ลสัคู่แขง่ ผมู้ ีอดุ มการณ์ทางการเมืองชนิดไม่แทรกแทรงการมีอยขู่ องสถาบนั ทาส โดยเช่ือวา่ เป็นเร่ืองที่ประชาชนควรมีสิทธิกาหนดเอง ลินคอลน์ กลายเป็นตวั แทนผลู้ งสมคั รชิงตาแหน่งของพรรคริพบั ลิกนั ในการเลือกต้งัประธานาธิบดี ปึ ค.ศ. 1860 ในฐานะนกั การเมืองผมู้ ีทศั นะทางการเมืองเป็นกลาง (moderate)และมาจากรัฐท่ีคะแนนเสียงไม่แน่นอน (swing state) แต่แมจ้ ะแทบไม่ไดร้ ับเสียงสนบั สนุนเลยในทางใต้ ลินคอลน์ กก็ วาดคะแนนเสียงในทางเหนือและไดร้ ับเลือกต้งั เป็นประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาใน ค.ศ. 1860 ชยั ชนะการเลือกต้งั ของลินคอลน์ กระตุน้ ใหเ้ จด็ รัฐทาสทางใต้ตดั สินใจประกาศแยกตวั ออกจากสหภาพ และก่อต้งั สมาพนั ธรัฐทนั ทีโดยไม่รอใหม้ ีพิธีเขา้ รับ

ตาแหน่งเสียก่อน การถอนตวั ของนกั การเมืองฝ่ ายใต้ ทาใหพ้ รรคของลินคอลน์ กมุ ท่ีนง่ั ในรัฐสภาคองเกรสไดอ้ ยา่ งเดด็ ขาด แต่ความพยายามที่จะประนีประนอมต่างจบลงดว้ ยความลม้ เหลว และเหลือเพียงสงครามเป็นทางเลือกสุดทา้ ย สงครามกลางเมืองเปิ ดฉากข้ึนเมื่อวนั ที่ 12 เมษายน ค.ศ. 1861 เมื่อกองกาลงั ของนายพลโบริการ์ด แห่งฝ่ ายสมาพนั ธรัฐเปิ ดการยงิ โจมตีฟอร์ตซมั เทอร์ รัฐฝ่ ายเหนือใหก้ ารตอบรับการเรียกระดมพลอยา่ งแขง็ ขนั ลินคอลน์ ดาเนินกลยทุ ธการเมืองอยา่ งชาญฉลาด และเขายงั เป็นนกัปราศยั ที่มีทกั ษะการพดู ที่ทรงพลงั สมารถโนม้ นา้ วจิตใจผคู้ นได[้ 3] สุนทรพจนท์ ่ีเกตตีสเบิร์กของเขาใน ค.ศ. 1863 เป็นสุนทรพจนท์ ่ีมีการยกคาพดู ไปอา้ งอิงมากท่ีสุดในประวตั ิศาสตร์อเมริกา และเป็นคานิยมอนั อโุ ฆษ ต่ออุดมคติแห่งหลกั การชาตินิยม สาธารณรัฐนิยม สิทธิเท่าเทียม เสรีภาพ และประชาธิปไตย ลินคอลน์ ใหค้ วามสนใจต่อมิติทางการทหาร และกิจการในยามสงครามอยา่ งใกลช้ ิดเป้ าหมายของเขาคือการรวมประเทศใหเ้ ป็นหน่ึงเดียว สมยั ประธานาธิบดีของลินคอลน์ มีจุดเด่นที่การใชอ้ านาจฝ่ ายบริหารของประธานาธิบดี (presidential power) อยา่ งกวา้ งขวางและเฉียบขาดเมื่อรัฐทางใตป้ ระกาศตนเป็นกบฏต่อสหภาพ ลินคอลน์ จึงใชอ้ านาจของตนยบั ย้งั การใช้ เฮบีอัสคอร์ปัส (habeas corpus) หรือ หมายสงั่ เรียกไต่สวนเหตุผลในการคุมขงั ในสถานการณ์น้นั ซ่ึงนาไปสู่การจบั กมุ และกกั ขงั ผตู้ อ้ งสงสยั วา่ สนบั สนุนการแบ่งแยกดินแดนหลายพนั คนโดยไม่มีการไต่สวน; ในดา้ นการทตู ลินคอลน์ สามารถหลีกเลี่ยงความขดั แยง้ ทางการทหารกบั องั กฤษโดยสามารถจดั การกบั กรณีเรือ เทรนต์ (Trent affair) ในช่วงปลาย ค.ศ. 1861 ไดอ้ ยา่ งเฉียบขาดลินคอลน์ บริหารการสงครามดว้ ยความรอบคอบ โดยเฉพาะอยา่ งยง่ิ การคดั เลือกนายพลระดบั สูงดงั เช่นการเลือก ยลู ิสซิส เอส. แกรนท์ เขา้ มาเป็นผบู้ ญั ชาการสง่ั การกองทพั แทนที่ นายพลจอร์จม้ีด ซ่ึงนาไปสู่การปฏิรูปกองทพั ทาใหฝ้ ่ ายสหภาพสามารถทาสงครามไดห้ ลายภมู ิภาคการรบหรือเขตสงคราม (theater) พร้อมๆกนั [5] ลินคอลน์ ใหก้ ารสนบั สนุน นายพลแกรนต์ ทาสงครามที่ท้งั ยดื เย้อื นองเลือดและเบด็ เสร็จ ฝ่ ายสมาพนั ธรัฐแมจ้ ะไดเ้ ปรียบจากการเป็นฝ่ ายต้งั รับ กอ็ ่อนแรงลงไปเรื่อยๆ โดยการโจมตีของฝ่ ายสหภาพไม่ไดจ้ ากดั อยเู่ พยี งบนสนามรบ แต่ยงั รวมถึงการปิ ดก้นั และทาลายทางคมนาคนขนส่ง ท้งั ทางแม่น้าและทางรถไฟ รวมไปถึงฐานทางเศรษฐกิจของฝ่ ายสมาพนั ธรัฐ จนในที่สุดแกรนตส์ ามารถเขา้ เดินทพั เขา้ ยดึ ริชมอนด์ เมืองหลวงของสมาพนั ธรัฐได้ ในเดือนเมษายน ปี 1865

ในส่วนภาระกิจดา้ นการเลิกทาส ลินคอลน์ ไม่เพยี งแต่ใชส้ งครามเพ่อื นาไปสู่เป้ าหมาย แต่ยงั ดาเนินกิจกรรมทางนโยบายอ่ืนๆ เช่น การออกการประกาศเลิกทาสใน ค.ศ. 1863 (หลงั ไดร้ ับชยั ชนะในยทุ ธการที่แอนตีแทม), การเกล้ียกล่อมใหร้ ัฐชายแดนประกาศใหส้ ถาบนั ทาสเป็นสิ่งผดิ กฎหมาย, การออกกฎหมาย Confiscation Act เพอ่ื ยดึ และปลดปล่อยทาสจากผทู้ ่ีถูกศาลพิพากษาวา่ ใหก้ ารสนบั สนุนฝ่ ายสมาพนั ธรัฐ และช่วยผลกั ดนั การแกไ้ ขรัฐธรรมนูญสหรัฐอเมริกาคร้ังท่ีสิบสามจนผา่ นสภาคองเกรส ในเดือนธนั วาคม ค.ศ. 1865 ซ่ึงหา้ มการมีและซ้ือขายทาสตลอดไป ในทุกๆพ้ืนที่ท่ีอยใู่ ตก้ ารปกครองของสหรัฐอเมริกา ลินคอลน์ เป็นนกั การเมืองท่ีฉลาดหลกั แหลม มีความเขา้ ใจอยา่ งลึกซ้ึงในสถานการณ์อานาจในแต่ละมลรัฐ เขาพยายามเกล้ียกล่อมระหวา่ งสมาชิกพรรคเดโมแครตสายสงครามซ่ึงตอ้ งการใหม้ ีการประนีประนอมในประเดน็ เรื่องสถาบนั ทาส และสมาชิกริพบั ลิกนั หวั กา้ วร้าวซ่ึงตอ้ งการกาจดั กบฏฝ่ ายใตแ้ ละสถาบนั ทาสใหส้ ิ้นซากโดยเร็วที่สุด ยง่ิ ไปกวา่ น้นั เขายงั บริหารแคมเปญจก์ ารลงเลือกต้งั ใหม่ ในการเลือกต้งั ประธานาธิบดี ค.ศ. 1864 ดว้ ยตนเอง ช่วงปลายสงคราม ลินคอลน์ ถือมุมมองการฟ้ื นฟบู รู ณะ (Reconstruction) แบบผอ่ นผนั โดยแสวงการรวมและบรู ณะประเทศอยา่ งรวดเร็ว ผา่ นนโยบายการปรองดองที่ไม่มีเงื่อนไขยงุ่ ยาก ในสภาวะที่ความแตกแยกอยา่ งขมข่ืนยงั ไม่ลดลงไป อยา่ งไรกด็ ี เพียงหา้ วนั หลงั การยอมจานนของโรเบิร์ตอี. ลี ผบู้ ญั ชาการกองทพั ของฝ่ ายสมาพนั ธรัฐ ลินคอลน์ ถูกลอบยงิ ในโรงละคร โดยนกั แสดงผู้ฝักใฝ่ สมาพนั ธรัฐ จอห์น วลิ คส์ บูธ (John Wilkes Booth) และเสียชีวติ ในวนั ต่อมา การลอบสงั หารลินคอลน์ เป็นการลอบสงั หารประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาเป็นคร้ังแรก และเป็นเหตุการณ์ทาใหท้ ้งั ประเทศตกอยใู่ นความโศกเศร้า นกั วชิ าการและสาธารณชนชาวอเมริกนั จดัใหล้ ินคอลน์ เป็นหน่ึงในประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาท่ียงิ่ ใหญ่ท่ีสุดมาจวบจนปัจจุบนั

จอร์จ วอชิงตนั จอร์จ วอชิงตัน (องั กฤษ: George Washington, 22 กมุ ภาพนั ธ์ ค.ศ. 1732 [วนั ท่ีแบบเก่า:11 กมุ ภาพนั ธ์ ค.ศ. 1731] – 14 ธนั วาคม ค.ศ. 1799) เป็นผนู้ าทางทหารและการเมืองที่โดดเด่นของสหรัฐอเมริกาท่ีเพิง่ ก่อต้งั ข้ึน ระหวา่ ง ค.ศ. 1775 ถึง 1799 เขานาสหรัฐจนไดร้ ับชยั ชนะเหนือบริเตนใหญ่ในสงครามปฏิวตั ิอเมริกนั ในฐานะผบู้ ญั ชาการทหารสูงสุดของกองทพัภาคพ้ืนทวปี ใน ค.ศ.1775-1783 และรับผดิ ชอบการร่างรัฐธรรมนูญใน ค.ศ. 1787 เขาดารงตาแหน่งประธานาธิบดีคนแรกของสหรัฐอเมริกา ดารงตาแหน่ง ค.ศ. 1789-1797 วอชิงตนั เป็นผนู้ าการสร้างรัฐบาลแห่งชาติท่ีเขม้ แขง็ และมีการคลงั ที่ดี ซ่ึงวางตนเป็นกลางในสงครามที่ปะทุข้ึนในยโุ รป ปราบปรามกบฏและไดร้ ับการยอมรับจากชนอเมริกนั ทุกประเภท รูปแบบความเป็นผนู้ าของเขาไดก้ ลายมาเป็นระเบียบพิธีของรัฐบาลซ่ึงปฏิบตั ิสืบต่อกนั มานบั แต่น้นั อาทิ การใชร้ ะบบคณะรัฐมนตรีและการปราศรัยในโอกาสเขา้ รับตาแหน่งประธานาธิบดีอยา่ งเป็นทางการ วอชิงตนั ไดร้ ับการยกยอ่ งทวั่ ไปวา่ เป็น \"บิดาแห่งประเทศของเขา\" ดว้ ย ใน ค.ศ. 1775 รัฐสภาอาณานิคมไดแ้ ต่งต้งั วอชิงตนั เป็นผบู้ ญั ชาการทหารสูงสุดของกองทพั ปฏิวตั ิอเมริกนั ปี ถดั มา เขานาทพั ขบั ไล่กองทพั องั กฤษออกจากบอสตนั เสียนครนิวยอร์ก ขา้ มแม่น้าเดลาแวร์ในนิวเจอร์ซีย์ และสามารถรบชนะขา้ ศึกซ่ึงยงั ไม่ทนั ต้งั ตวั ในปลายปี เดียวกนั ผลของยทุ ธศาสตร์ที่เขาใช้ ทาใหก้ องกาลงั ปฏิวตั ิอเมริกนั สามารถยดึ กาลงั รบสาคญั ขององั กฤษ 2 แห่งท่ีซาราโตกาและยอร์กทาวน์ ดว้ ยการเจรจากบั สภาอาณานิคมท้งั สิบสาม รัฐอาณานิคม และพนั ธมิตรฝร่ังเศส วอชิงตนั ไดร้ วบรวมกองทพั อนั ไร้ผนู้ าและชาติอนั

อ่อนแอใหเ้ ป็นปึ กแผน่ ท่ามกลางภยนั ตรายจากความแตกแยกและความลม้ เหลว หลงั สงครามยตุ ิในปี ค.ศ. 1783 สมเดจ็ พระเจา้ จอร์จท่ี 3 ตรัสถามวอชิงตนั วา่ จะทาอะไรต่อไป และทรงไดร้ ับข่าวลือมาวา่ วอชิงตนั จะกลบั ไปยงั บา้ นไร่ของตนเอง ทาใหม้ ีพระราชกระแสในทนั ทีวา่ \"ถา้ เขาทาเช่นน้นั เขาจะเป็นผยู้ งิ่ ใหญ่ท่ีสุดในโลก\" ซ่ึงวอชิงตนั กไ็ ดก้ ลบั ไปใชช้ ีวติ สมถะอยา่ งชาวไร่จริง ๆ ที่เมานตเ์ วอร์นอน อนั เนื่องมาจาก \"บทบญั ญตั ิวา่ ดว้ ยสมาพนั ธรัฐ\" (Articles of Confederation) ที่ร่างข้ึนน้นัไม่เป็นที่พอใจโดยทว่ั กนั ใน ค.ศ. 1787 วอชิงตนั จึงเป็นประธานการประชุมฟิ ลาเดเฟี ยเพ่ือร่างรัฐธรรมนูญแห่งสหรัฐอเมริกา และใน ค.ศ. 1789 กไ็ ดร้ ับเป็นประธานาธิบดีแห่งสหรัฐอเมริกาโดยเขาไดส้ ถาปนาจารีตและวถิ ีทางการบริหารหลายประการเกี่ยวแก่องคก์ รของรัฐบาลใหม่ ในการน้ี เขาแสวงหาล่ทู างสร้างชาติที่จะสามารถธารงอยใู่ นโลกอนั ถูกฉีกเป็นชิ้นเพราะสงครามระหวา่ งองั กฤษฝรั่งเศส วอชิงตนั ไดม้ ี \"ประกาศความเป็นกลาง\" (Proclamation of Neutrality of1793) ใน ค.ศ. 1793 ซ่ึงวางรากฐานการงดเวน้ ไม่เขา้ ไปมีส่วนในความขดั แยง้ กบั ต่างชาติ เขายงัไดส้ นบั สนุนแผนจดั ต้งั รัฐบาลกลางท่ีเขม้ แขง็ โดยวางกองทุนเพื่อหน้ีสินของชาติ ส่งผลใหเ้ กิดระบบภาษีท่ีมีประสิทธิภาพ และนาไปสู่ธนาคารแห่งชาติในที่สุด เน่ืองจากวอชิงตนั เล่ียงท่ีจะไม่ก่อสงครามกบั องั กฤษ ทศวรรษแห่งสนั ติสุขจึงมีข้ึนดว้ ยสนธิสญั ญาเจย์ ค.ศ. 1795 (Jay Treatyof 1795) อนั ไดร้ ับสตั ยาบนั ไปดว้ ยดีเพราะเกียรติภูมิส่วนตวั ของวอชิงตนั แมว้ า่ สนธิสัญญาน้ีจะถูกต่อตา้ นอยา่ งหนกั จากโธมสั เจฟเฟอร์สนั กต็ าม ในทางการเมืองน้นั ถึงแมว้ า่ วอชิงตนั มิไดเ้ ขา้ร่วมพรรคสหพนั ธรัฐนิยม (Federalist Party) อยา่ งเป็นทางการ แต่เขากส็ นบั สนุนโครงการต่างๆ ของพรรค ท้งั ยงั เป็นผนู้ าทางจิตวญิ ญาณสาหรับพรรคดว้ ย เมื่อเขาพน้ จากตาแหน่ง ไดม้ ีสุนทรพจนแ์ สดงคุณคา่ ของระบอบสาธารณรัฐ และเตือนใหร้ ะวงั ความแบ่งฝักแบ่งฝ่ าย ความนิยมถ่ิน และมิใหร้ ่วมสงครามกบั ต่างชาติ ดว้ ยผลงานอนั อุทิศใหแ้ ก่ชาติบา้ นเมือง วอชิงตนั จึงไดร้ ับ \"เครื่องรัฐอิสริยาภรณ์เหรียญทองแห่งรัฐสภาคองเกรส\" (Congressional Gold Medal) เป็นบุคคลแรก เขาถึงแก่กรรมใน ค.ศ.1799 โดย เฮนรี ลี สดุดีวอชิงตนั ในพิธีศพวา่ \"ในยามรบ ยามสงบ และในหวั ใจของเพื่อนร่วมชาติ เขาคือท่ีหน่ึงสาหรับอเมริกนั ชนท้งั ปวง\"

อดอล์ฟ ฮิตเลอร์ อดอล์ฟ ฮิตเลอร์ (เยอรมนั : Adolf Hitler) เป็นนกั การเมืองเยอรมนั เช้ือชาติออสเตรีย หวั หนา้ พรรคกรรมกรชาติสงั คมนิยมเยอรมนั หรือท่ีรู้จกั กนั ทว่ั ไปในชื่อ พรรคนาซีฮิตเลอร์ดารงตาแหน่งนายกรัฐมนตรีเยอรมนี ระหวา่ ง ค.ศ. 1933 ถึง 1945 และเป็นฟอเรอร์ของเยอรมนี ต้งั แต่ ค.ศ. 1934 ถึง 1945 ฮิตเลอร์เป็นผนู้ าสูงสุดของไรชเ์ ยอรมนั ผจู้ ุดชนวนสงครามโลกคร้ังท่ีสองในทวปี ยโุ รป และเป็นผเู้ ห็นชอบการฮอโลคอสต์ ฮิตเลอร์เป็นทหารผา่ นศึกสงครามโลกคร้ังท่ีหน่ึงผไู้ ดร้ ับเหรียญกางเขนเหลก็ ต่อมา ฮิตเลอร์ไดเ้ ขา้ ร่วมพรรคกรรมกรเยอรมนั ใน ค.ศ. 1919 ซ่ึงเป็นพรรคการเมืองก่อนหนา้ พรรคนาซีก่อนจะไดเ้ ป็นหวั หนา้ พรรคนาซีใน ค.ศ. 1921 เขาพยายามก่อรัฐประหาร ซ่ึงเป็นที่รู้จกั กนัวา่ กบฏโรงเบียร์ ในเมืองมิวนิก เมื่อวนั ที่ 8-9 พฤศจิกายน ค.ศ. 1923 แต่ลม้ เหลว ฮิตเลอร์ถูกจาคุกเป็นเวลาหน่ึงปี ซ่ึงในระหวา่ งน้นั เองท่ีเขาเขียนบนั ทึกความทรงจา ไมน์คัมพฟ์ (การต่อสู้ของขา้ พเจา้ ) หลงั ไดร้ ับการปล่อยตวั เม่ือวนั ที่ 20 ธนั วาคม ค.ศ. 1924 เขาไดร้ ับการสนบั สนุนจากประชาชนโดยการโจมตีสนธิสญั ญาแวร์ซาย และการเสนออดุ มการณ์รวมกลุ่มเยอรมนั การต่อตา้ นยวิ และการต่อตา้ นคอมมิวนิสต์ ดว้ ยวาทศิลป์ อนั มีเสน่ห์ดึงดูดและการโฆษณาชวนเช่ือนาซี หลงั ไดร้ ับแต่งต้งั เป็นนายกรัฐมนตรีเมื่อวนั ที่ 30 มกราคม ค.ศ. 1933 เขาเปลี่ยนสาธารณรัฐไวมาร์เป็นไรชท์ ่ีสาม รัฐเผดจ็ การพรรคการเมืองเดียว ภายใตอ้ ดุ มการณ์นาซีอนั มีลกั ษณะเป็นเผดจ็ การเบด็ เสร็จและอตั ตาธิปไตย เป้ าหมายของเขาคือ ระเบียบโลกใหม่ ท่ีใหน้ าซีเยอรมนีครอบงายโุ รปภาคพ้นื ทวปี อยา่ งสมบูรณ์

นโยบายต่างประเทศและในประเทศของฮิตเลอร์มีความมุ่งหมายเพ่ือยดึ เลเบนสเราม์ (\"พ้ืนที่อยอู่ าศยั \") เป็นของชาวเยอรมนั เขานาการสร้างเสริมกาลงั อาวธุ ข้ึนใหม่และการบุกครองโปแลนด์ ในเดือนกนั ยายน ค.ศ. 1939 อนั นาไปสู่การปะทุของสงครามโลกคร้ังที่สองในทวปียโุ รปภายในสามปี ใตก้ ารนาของฮิตเลอร์ กองทพั เยอรมนั และพนั ธมิตรในยโุ รปยดึ ครองดินแดนยโุ รปและแอฟริกาเหนือส่วนใหญ่ อยา่ งไรกด็ ี สถานการณ์ค่อยพลิกผนั หลงั ค.ศ. 1941 กระทงั่กองทพั สมั พนั ธมิตรเอาชนะกองทพั เยอรมนั ใน ค.ศ. 1945 นโยบายความสูงสุดและที่กระตุน้ดว้ ยการถือชาติพนั ธุ์ของฮิตเลอร์ลงเอยดว้ ยการฆาตกรรมผคู้ นนบั 17 ลา้ นคนอยา่ งเป็นระบบในจานวนน้ีเป็นชาวยวิ เกือบหกลา้ นคน ปลายสงคราม ระหวา่ งยทุ ธการเบอร์ลินใน ค.ศ. 1945 ฮิตเลอร์แต่งงานกบั เอฟา เบราน์ ท้งัสองทาอตั วินิบาตกรรมเม่ือวนั ที่ 30 เมษายน ค.ศ. 1945 เพ่ือหลีกเลี่ยงไม่ใหถ้ กู กองทพั แดงของโซเวยี ตจบั ตวั และสง่ั ใหเ้ ผาร่างของตน


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook