Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore อารยธรรมโรมัน

อารยธรรมโรมัน

Published by jidayadum, 2019-11-11 22:20:07

Description: อารยธรรมโรมัน

Search

Read the Text Version

ผลงานดา้ นสถาปัตยกรรมของโรมนั ท่ีเด่นๆ ไดแ้ ก่ บาซิลิกา หรือ สิ่งก่อสร้างสาธารณะฐ อาคารแพนธีออน, แอมพิเธียเตอร์/โคลอส เซียม, ประตูชยั รูปโคง้ รวมท้งั สะพานและท่อลาเลียงน้า นอกจากน้ีวศิ วกรโรมนั ยงั เป็นพวกแรกที่รู้จกั การใชซ้ ีเมนต์ ในการก่อสร้างดว้ ย

ความเสื่อมของอาณาจกั รโรมนั สาเหตุท่ีทาใหจ้ กั รวรรดิโรมนั เส่ือมลงมีดงั น้ี 1. กองทหารลีจนั ไดเ้ ปลี่ยนจากกองทพั ราษฎรมาเป็นทหาร รับจา้ ง 2. มีการทาสงครามท่ีกินระยะเวลา ยาวนาน 3. ถกู พวกอนารยชนบกุ เขา้ โจมตี และปลน้ ชิงบ่อยคร้ัง 4. มีการแยง่ ชิงอานาจการปกครอง ของพวกนายทหารช้นั ผใู้ หญ่

จกั รวรรดิโรมนั ไดถ้ ูกแบ่งออกเป็น 2 ภาค หลงั จากท่ี จกั รพรรดิคอนสแตนตินสิ้นพระชนม์ ดงั น้ี - ภาคตะวนั ออก เรียกวา่ “จกั รวรรดิไบแซนไทน”์ โดยมี คอนสแตนติโนเปิ ลเป็นเมืองหลวง พดู ภาษากรีก และเลียนแบบ อารยธรรมกรีก - ภาคตะวนั ตก เรียกวา่ “จกั รวรรดิโรมนั ” มีโรมเป็นเมืองหลวง และพดู ภาษาละติน ในปี ค.ศ. 476

ในปี ค.ศ. 476 หลงั จากที่โอดอเซอร์ หวั หนา้ อนารยชนเยอรมนั หรือ ฮนั นิกทาการถอดถอนโรมิวลุส ออกสุ ตุลสุ จกั รพรรดิองค์ สุดทา้ ยของจกั รวรรดิโรมนั ออกจากตาแหน่ง ไดส้ ่งผลทาให้ จกั รวรรดิโรมนั ตะวนั ตกตอ้ งล่มสลาย ซ่ึงถือเป็นการสิ้นสุดความ เจริญของยโุ รปยคุ โบราณ และ เป็นการเริ่มตน้ ยโุ รปยคุ กลาง นบั ต้งั แต่น้นั มา

ส่วนจกั รวรรดิโรมนั ตะวนั ออก หรือ จกั รวรรดิไบแซนไทน์ ยงั คง มีจกั รพรรดิปกครองต่อไปจนถึง ค.ศ. 1453 ก่อนถูกพวกเติร์กเขา้ ยดึ ครองและถูกรวมเป็นส่วนหน่ึงของจกั รวรรดิออตโตมนั จกั รวรรดิออตโตมนั ก่อต้งั เม่ือ ค.ศ. 1299 และยดึ ครอง จกั รวรรดิไบแซนไทนไ์ ด้ ใน ค.ศ. 1453 ในสมยั ของสุลต่านเมห์ เมดที่ 2 และเจริญรุ่งเรืองถึงขีดสุดในสมยั สุลต่านสุไลมานท่ี 1 จกั รวรรดิออตโตมนั สิ้นสุดใน ค.ศ. 1922 มีสุลต่านเมห์เมดที่ 6 เป็นสุลต่านองคส์ ุดทา้ ย และสถาปนาสาธารณรัฐตุรกีข้ึนมาแทนท่ี โดยมีมุสตาฟา เคมาล ปาชา เป็ นประธานาธิบดีคนแรก

สุลต่ามเมห์เมต็ ท่ี 2 เคลื่อนทพั ไปยงั คอนสแตนติโนเปิ ล พร้อมมหาปื นใหญ่

สุลต่ามเมห์เมต็ ท่ี 2 ทรงบญั ชาการเคล่ือนทพั ลงเรือ

จกั รพรรด์ิคอนสแตนตินท่ี 11 จกั รพรรดิพระองคส์ ุดทา้ ย ทรง เสดจ็ สวรรคตอยา่ งมีปริศนา เง่ือนงา หลงั จากท่ีสุลต่านเมห์ เมต็ ที่ 2 ไดก้ รีฑาทพั เขา้ สู่พระ นคร

มรดกทางวฒั นธรรม ความเจริญทางดา้ นศิลปวฒั นธรรมของโรมนั ส่วนใหญ่ ไดร้ ับอิทธิพลจากอารยธรรมกรีก โดยนามาดดั แปลงให้ เหมาะสมและสอดคลอ้ งกบั สงั คมและระบอบการปกครอง ของตน สรุปอารยธรรมโรมนั ไดด้ งั น้ี

1. สถาปัตยกรรม  อาคารส่ิงก่อสร้างของชาวโรมนั เนน้ ความใหญ่โต แขง็ แรง แต่ไม่นิยม สร้างศาสนสถานหรือวิหารบูชาเทพเจา้ อยา่ งชาวกรีก  สิ่งก่อสร้างส่วนใหญ่มุ่งใหเ้ กิดประโยชน์ ดงั น้ี (1) สนองความตอ้ งการของประชาชน โดยใหบ้ ริการต่อสาธารณชนจานวน มาก เช่น  โคลอสเซียม (Colosseum) - เป็นสนามกีฬาท่ีบรรจุผชู้ มไดม้ ากกวา่ 67,000 คน - เพ่อื ใชเ้ ป็นสนามกีฬาการสูก้ นั ระหวา่ งนกั สูก้ ลาดิเอเตอร์ หรือ กลาดิเอเตอร์สูก้ บั สตั วร์ ้าย เช่น สิงโต

โคลอสเซียม (Colosseum)



 เซอคสั แมกซิมัส (Circus Maximus) - เป็นสนามแข่งรถมา้ ขนาดใหญ่ - สามารถรองรับคนได้ 150,000 คน - มีการแข่งขนั วนั ละ 24 รอบ - ผชู้ นะจะไดร้ ับการยกยอ่ งใหเ้ ป็น วีรบุรุษของการกีฬาเช่นเดียวกบั ปัจจุบนั

เซอร์คสั แมกซิมสั

 สถานทอ่ี าบนา้ สาธารณะ (public baths) - เพอ่ื ใหผ้ ใู้ ชบ้ ริการสามารถพบปะสงั สรรค์ ออกกาลงั กาย อ่าน หนงั สือ และเล่นเกมต่างๆ

 สะพานส่งนา้ (aqueduct) - เป็นสะพานส่งน้าและมีท่อน้าขนาดสูงใหญ่ จานวนมาก - เพอื่ ใชป้ ระโยชนใ์ นการส่งน้าวนั ละ 300 ลา้ น แกลลอนหรือประมาณ 8,505 ลา้ นลิตร ให้ ชาวเมืองใชอ้ ยา่ งเพียงพอ - เป็นผลงานท่ีแสดงใหถ้ ึง ความสามารถเชิงวิศวกรรม

สะพานส่งน้า (aqueduct)

(2) สนองความตอ้ งการของรัฐทางดา้ นการเมืองการปกครอง เช่น  วหิ ารแพนธีออน (Pantheon) - เป็นงานสถาปัตยกรรมท่ีโดดเด่นและ เป็นลกั ษณะเฉพาะของโรมนั - ตวั อาคารใชป้ ระตูโคง้ - มีหลงั คาทรงโดม ขนาดใหญ่มีเสน้ ผา่ น ศูนยก์ ลางถึง 43 เมตร

วหิ ารแพนธีออน (Pantheon)

2. วศิ วกรรม  โรมนั เป็นตน้ แบบของการสร้างถนนคอนกรีตขนาดใหญ่ที่ แขง็ แรง ทนทาน สองขา้ งถนนมีท่อระบายน้าและมีหลกั บอก ระยะทาง  ถนนท่ียงั ใชม้ าถึงปัจจุบนั ไดแ้ ก่ ถนนแอปเพยี น ในประเทศอิตาลี  นอกจากน้ียงั สร้างท่อส่งน้าหลายแห่ง เพอื่ นาน้าจาก ภูเขาไปสู่เมืองใกลเ้ คียง  ท่อส่งน้าท่ีปัจจุบนั ยงั ใชอ้ ยู่ เช่น ท่อส่งน้าที่เมืองนีมส์ ทางตอนใตข้ องประเทศฝร่ังเศส

ถนนแอปเพยี น

ท่อส่งน้าที่เมืองนีมส์

3. ประติมากรรม  ระยะแรกๆ โรมมีรูปแบบของงานศิลปะที่เป็นตวั ของตวั เอง  แต่ศิลปะกรีกกเ็ ป็นสินคา้ นาเขา้ ท่ีชาวโรมนั ชื่นชม  หลงั จากที่โรมยดึ ครองดินแดนส่วนใหญ่ของกรีกไดใ้ น ศตวรรษที่ 1 ก่อนคริสตศ์ กั ราช งานสร้างสรรคท์ างศิลปะของ กรีกจานวนมากไดถ้ ูกชาวโรมนั ลาเลียงกลบั โรม รวมท้งั เสาหิน อ่อนที่สวยงาม  งานประติมากรรมของกรีกจึงกลายเป็นของสะสมของผมู้ ง่ั คง่ั และถูกนาไปตกแต่งคฤหาสน์

 ศิลปะการแกะสลกั หินอ่อน - โรมนั นิยมแกะสลกั รูปเหมือนของบุคคลสาคญั เช่น จกั รพรรดิ นกั การเมือง ฯ เป็นแบบคร่ึงท่อน โดยสะทอ้ น บุคลิกภาพของบุคคลไดส้ มจริงตามธรรมชาติ และมีสดั ส่วน งดงามเหมือนศิลปะกรีก

 ศิลปะการแกะสลกั ภาพนูนตา่ - ช่างศิลป์ ชาวโรมนั นิยมสร้างงานแกะสลกั ประเภทน้ี เพื่อ บนั ทึกเหตุการณ์สาคญั ทางประวตั ิศาสตร์ และสดุดีวีรกรรม ของนกั รบ

 ศิลปะงานหล่อเหรียญกษาปณ์ - เป็นงานที่ชาวโรมนั ไดม้ ีพฒั นาการจากงานประติมากรรมชาว โรมนั ท่ีใหร้ ายละเอียดอยา่ งชดั เจนไม่วา่ จะเป็นพระเกศา หรือ แม่กระทง่ั พระหนุ (คาง) ที่อวบอมู

4. วรรณกรรม (1) ลกั ษณะงานประพนั ธ์ของโรมนั สรุปไดด้ งั น้ี  แต่เดิมมีเพยี งบนั ทึกพงศาวดาร ตานาน กฎหมาย และตารา การทหาร ต่อมาเม่ือประมาณ 100 ปี ก่อนคริสตศ์ กั ราช มีการ พฒั นาภาษาละตินใหง้ ดงามสละสลวย ทาใหช้ าวโรมนั สนใจ แต่งคาประพนั ธ์ท้งั ประเภทร้อยกรอง (บทกว)ี และร้อยแกว้ (ความเรียง) มากข้ึน  มีวตั ถุประสงคเ์ พ่ือรับใชจ้ กั รวรรดิ มุ่งสรรเสริญความ ยงิ่ ใหญ่ของโรมนั สร้างความภาคภูมิใจใหพ้ ลเมืองโรมนั ซ่ึง แตกต่างจากงานประพนั ธ์ของกรีกที่เนน้ จินตนาการท่ี กวา้ งไกลหรือปรัชญาท่ีลึกซ้ึง

 งานประพนั ธ์ของโรมนั นิยมเลียนแบบวรรณกรรมกรีก โดยสะทอ้ นถึงจินตนาการของนกั เขียนเช่นเดียวกนั ซ่ึง โรมนั ดอ้ ยกวา่ ทางดา้ นวรรณศิลป์ แต่กลบั มีอิทธิพลต่องาน ประพนั ธ์สมยั กลางจนถึงสมยั ปัจจุบนั (2) งานวรรณกรรมที่สาคญั ของโรมนั คือ  มหากาพยเ์ ร่ือง อีเนียด ประพนั ธ์โดย เวอร์จิล  เป็นงานท่ีกล่าวถึงประวตั ิความเป็นมาของกรุงโรม โดย สอดแทรกคติสอนใจใหช้ าวโรมนั สานึกในหนา้ ที่ของพลเมืองท่ีมี ต่อจกั รวรรดิ และมีความจงรักภกั ดีต่อจกั รวรรดิ

 งานประพนั ธ์ร้อยกรองของชิเชโร  เป็นการรวบรวมงานเขียนความเรียง ขอ้ เขียนทาง การเมืองในรูปแบบของสุนทรพจน์และจดหมายของชิเช โร ซ่ึงใชภ้ าษาละตินไดง้ ดงาม สละสลวย มีระเบียบแบบ แผน และเป็นตน้ แบบของการใชภ้ าษาละตินท่ีถูกตอ้ ง  นอกจากน้ี ชิเชโรยงั ใชส้ านวนโวหารเสียดสี และประชด ประชนั ชนช้นั ปกครองในดา้ นศีลธรรม จรรยา และการใช้ อานาจรัฐท่ีไม่เป็นธรรม จนไดร้ ับยกยอ่ งใหเ้ ป็นผใู้ หก้ าเนิด คาประพนั ธ์ประเภทร้อยแกว้ ของโรมนั



 ส่วนงานประวตั ิศาสตร์อ่ืนๆ ท่ีเนน้ ความยงิ่ ใหญ่ของโรม เช่นกนั ไดแ้ ก่ - บนั ทึกสงครามโกล ของ จูเลียส ซีซาร์ - ประวตั ิศาสตร์กรุงโรม ของ ลิวี - งานเขียนเกี่ยวกบั อนารยชน เรื่อง เยอรมาเนีย ของ ทาซีทุส

5. ปฏทิ ิน  จูเลียส ซีซาร์ เป็นแม่ทพั โรมนั ที่ยงิ่ ใหญ่ ไดป้ ระกาศใหใ้ ช้ ปฏิทินแบบสุริยภคติ เรียกวา่ “ปฏิทินจูเลียน”  โดยปี หน่ึงมี 12 เดือน แต่ละปี มี 365 วนั และทุก 4 ปี ให้ เพมิ่ วนั ในเดือนกมุ ภาพนั ธ์อีก 1 วนั ทาใหเ้ ป็นปี ท่ีมี 366 วนั

6. กฎหมาย  กฎหมายสิบสองโตะ๊ เป็นกฎหมายลายลกั ษณ์อกั ษรของ โรมนั ตราข้ึนเพือ่ ใหค้ วามยตุ ิธรรมแก่ชาวโรมนั โดยเท่า เทียมกนั ต่อมาใชบ้ งั คบั ประชาชนทุกเช้ือชาติในจกั รวรรดิ โรมนั และเป็นรากฐานของประมวลกฎหมาย ที่ใชใ้ นประเทศต่างๆ ในยโุ รป


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook