Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore แบบทดสอบ อาชีวอนามัย 62

แบบทดสอบ อาชีวอนามัย 62

Published by Wittaya, 2019-09-18 11:29:08

Description: แบบทดสอบ อาชีวอนามัย 62

Search

Read the Text Version

[ปี ] ขอ้ สอบวิชา ความรู้เกี่ยวกบั งานอาชีพ 2001-1001 Original ORI SP3 By 2011 [เลอื กวนั ที่]

แบบทดสอบวชิ าอาชีวอนามยั และความปลอดภยั ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..……………………………………….. คาสั่ง ใหน้ กั เรียนทาเครื่องหมาย  ทบั ลงในกระดาษคาตอบ ก. รังสีเอกซ์ ข. ไมโครเวฟ ในขอ้ ท่ีถูกตอ้ งท่ีสุดเพยี งขอ้ เดียว ค. รังสีใตแ้ ดง ง. รังสีเหนือมว่ ง 1.ขอ้ ใดคือความหมายเดียวกบั คาวา่ อุบตั ิเหตุ 11. อนั ตรายของสารเคมีข้ึนอยกู่ บั ปัจจยั ก่ีประการ ก. Hazard ข. Danger ก. 7 ประการ ข. 5 ประการ ค.Incident ง.Accident ค. 4 ประการ ง. 2 ประการ 2.สภาวะท่ีเป็นอนั ตรายคือสภาวะใด 12. รังสีชนิดใดที่ก่อให้เกิดการแตกตวั อนั เกิดจาก ก. ทางานในท่ีโล่ง ข. การทางานบนท่ีสูงๆ คล่ืนแมเ่ หล็กไฟฟ้ า ค. การทางานในห้องปฏิบตั ิการ ง. ทางานอยา่ งระมดั ระวงั ก. รังสีใตแ้ ดง ข. รังสีเอกซ์ 3.คาวา่ Safety หมายถึงอะไร ค. รังสีเหนือมว่ ง ง. รังสีใตแ้ ดง ก. อนั ตราย ข. ภยั 13. งานอุตสาหกรรมโดยทว่ั ไปคนงานตอ้ งทางานอยา่ งนอ้ ย ค. อุบตั ิการณ์ ง.ความปลอดภยั วนั ละกี่ชว่ั โมง 4.คาวา่ อาชีวะ เรียกอีกอยา่ งหน่ึงวา่ อะไร ก. 12 ชว่ั โมงค. ข. 10 ชวั่ โมง ก. อาชีพ ข. การไม่มีโรค ค. 8 ชวั่ โมง ง. 7 ชวั่ โมง ค. การเล้ียงชีวติ ง. สุขภาพ 14. หมวกแขง็ นิรภยั มีกี่แบบ 5.การลดความกดดนั บรรยากาศลงอยา่ งรวดเร็วอาจทาให้เกิด ก. 4 แบบ ข. 3 แบบ ฟองก๊าซชนิดใดเขา้ ในกระแสโลหิต ค. 2 แบบ ง. 1 แบบ ก.ไนโตรเจน ข. ออกซิเจน 15. หมวกแขง็ นิรภยั ประเภทที่ 1 ตา้ นทานไฟฟ้ าได้ ค. คาบอนไดออกไซต์ ง. ผดิ ทุกขอ้ ไมเ่ กินก่ีโวลต์ 6.รังสีมีก่ีชนิด ก. 600 โวลต์ ข. 220 โวลต์ ก. 4 ชนิด ข. 3 ชนิด ค. 110 โวลต์ ง. 12 โวลต์ ค. 2 ชนิด ง. 1 ชนิด 16.อุปกรณ์ป้ องกนั หูท่ีใชม้ ีกี่ชนิด 7.การวดั ความดงั ของเสียงใชห้ น่วยในขอ้ ใด ก. 6 ชนิด ข. 5 ชนิด ก. เดซิเบิล ข.ออกซิเบิล ค. 3 ชนิด ง. 2 ชนิด ค. เบซิเบล ง. เดซิเบล 17. เครื่องอุดหูสามารถลดสียงไดก้ ่ีเดซิเบล 8.การสูญเสียเหงื่อมากกวา่ ปกติจะทาใหเ้ กิดสิ่งใด ก. 25-30 เดซิเบล ข. 20-25 เดซิเบล ก. ตวั ร้อน ข.ลมชกั ค. 15-20 เดซิเบล ง. 5-10 เดซิเบล ค. หายใจสะดวก ง. สบายตวั 18. เครื่องอุดหูเหมาะสาหรับบริเวณที่มีเสียงดงั ก่ีเดซิเบล 9.ปัจจยั สภาพแวดลอ้ มการทางานแบ่งเป็นก่ีประเภท ก. 150-180 เดซิเบล ข. 115-125 เดซิเบล ก. 2 ประเภท ข. 3ประเภท ค. 110-115 เดซิเบล ง. 105-110 เดซิเบล ค. 4 ประเภท ง. 5 ประเภท 19.เครื่องปิ ดหู( Ear Muff )เหมาะสาหรับบริเวณที่มีเสียงอยู่ ในระดบั กี่เดซิเบล 10. ผวิ หนงั แหง้ และเหี่ยวยน่ เย่ือบุตาอกั เสบได้ เกิดจาก ก. 150-160 เดซิเบล ข. 140-150 เดซิเบล รังสีชนิดใด ค. 130-135 เดซิเบล ง. 120-125 เดซิเบล

20.ถุงมือยางสาหรับงานไฟฟ้ าแรงสูง ตอ้ งมีความยาวไมน่ อ้ ย ก. เคร่ืองไส ข. เคร่ืองกลึง กวา่ กี่นิ้ว ค. เครื่องกดั ง. ถูกทุกขอ้ ก. 15 นิ้ว ข. นิ้ว14 31. การ์ดเป็นอุปกรณ์ใชป้ ้ องกนั แบ่งออกเป็นก่ีชนิด ค. 12 นิ้ว ง. 10 นิ้ว ก. 5 ชนิด ข. 4 ชนิด 21.ป่ ุมสาหรับเดินเคร่ืองใชท้ าสีใด ค. 3 ชนิด ง. 2 ชนิด ก.สีดา ข.สีน้าเงิน 32.การป้ องกนั อนั ตรายจากเครื่องเป็นการป้ องกนั จากจุด ค. สีเขียว ง. สีแดง อนั ตรายท้งั หมดกี่กลุ่ม 22.ป่ ุมสาหรับปิ ดเคร่ืองใชท้ าสีใด ก. 17 กลุ่ม ข. 13 กลุ่ม ก.สีดา ข.สีน้าเงิน ค. 7 กลุ่ม ง. 5 กลุ่ม ค. สีเขียว ง. สีแดง 33.ขอ้ ใดเป็นการใชเ้ คร่ืองมือที่ถูกตอ้ ง 23.สญั ลกั ษณ์สีแดงมีความหมายวา่ อยา่ งไร ก. ใชค้ ีมล็อคจบั งานใหแ้ น่น ข. ใชป้ ระแจแทนคอ้ น ก. หยดุ ข.บงั คบั ใหป้ ฏิบตั ิ ค. ใชต้ ะไบงดั ของ ง.ใชค้ อ้ นตีกนั เอง ค. แสดงสภาวะปลอดภยั ง. ระวงั มีอนั ตราย 34. การยกและเคล่ือนยา้ ยวสั ดุโดยทว่ั ไป จะก่อใหเ้ กิด 24.สัญลกั ษณ์สีเหลืองมีความหมายวา่ อยา่ งไร การบาดเจบ็ ไดถ้ ึงร้อยละเทา่ ไร ก. หยดุ ข.บงั คบั ใหป้ ฏิบตั ิ ก. ร้อยละ 40 - 45 ข. ร้อยละ 30 - 35 ค. แสดงสภาวะปลอดภยั ง. ระวงั มีอนั ตราย ค. ร้อยละ 20 - 25 ง. ร้อยละ 10 - 15 25.สีท่ีใช้เพื่อความปลอดภยั และตดั พ้ืนที่ของสีเหลืองตอ้ งมี 35. ขอ้ ใดคือการยกไม่ถูกวธิ ี อยา่ งนอ้ ยร้อยละเท่าไรของพ้ืนท่ีของเครื่องหมาย ก. หลงั ค่อม ข. แขนชิดลาตวั ก. ร้อยละ 30 ข. ร้อยละ 40 ค.หลงั ตรง ง. การวางเทา้ ใหถ้ ูกตาแหน่ง ค. ร้อยละ 50 ง. ร้อยละ 80 36.รถเขน็ มีแบบใดบา้ ง 26. สามญั สานึกของมนุษยจ์ ะบง่ บอกวา่ สีใดเป็นสีท่ี ก. สามลอ้ ข.สี่ลอ้ มีความร้อน ค. ลอ้ เดียว ง. ถูกทุกขอ้ ก. สีส้ม ข.สีแดง 37. การขบั รถยกสามารถแซงไดบ้ ริเวณใด ค. สีแสด ง. ถูกทุกขอ้ ก. ท่ีคบั ขนั ข. ท่ีโล่ง 27. อุบตั ิเหตุจากงานอุตสาหกรรมท้งั หมดประมาณร้อยละ ค.ทางแยก ง. ทางโคง้ เท่าไร 38. การใชร้ ถยกความเร็วไมเ่ กินก่ี km / hr ก. ร้อยละ 80 ข. ร้อยละ 50 ก. 20-25 km / hr ข. 15-20 km / hr ค. ร้อยละ 8 ง. ร้อยละ 5 ค. 10-15 km / hr ง. 5-10 km / hr 28. สาเหตุของอุบตั ิเหตุจากการใชเ้ ครื่องมือยกเวน้ ขอ้ ใด 39. “พนกั งานควรสวม PPD ใหเ้ หมาะสม” ก.เก็บรักษาจากเคร่ืองจกั รทาการผลิต คาวา่ PPD คือส่ิงใด ข.ใชเ้ คร่ืองมือไมถ่ ูกตอ้ ง ก. ชุดปฏิบตั ิการ ข. ถุงมือ ค. ใชเ้ ครื่องมือไม่เหมาะสมกบั งาน ง. ถูกทุกขอ้ ค. ถุงเทา้ ง. แวน่ ตา 29. อนั ตรายจากเคร่ืองตน้ กาลงั เกิดจากสิ่งใด 40. คาวา่ แผลไหมต้ รงกบั คาขอ้ ใด ก.สายพาน ข.โซ่ ก. Burns ข. Shock ค. เคร่ืองยนต์ ง. เพลา ค. Explosion ง. Eye Injuries 30. อนั ตรายจากเครื่องจกั รท่ีทาการผลิตเกิดข้ึนจากส่ิงใด 41. สิ่งที่ทาใหเ้ กิดอนั ตรายของงานก่อสร้าง ยกเวน้ ขอ้ ใด

ก. ไฟฟ้ า ข. ลิฟตข์ นส่งวสั ดุชว่ั คราว ก. ผบู้ ริหาร ข. บุคคลากรทางดา้ นการแพทย์ ค. นงั่ ร้านและค้ายนั ง. อนั ตรายจากสารเคมี ค. พนกั งาน ง. ไมม่ ีขอ้ ถูก 42. ขอ้ ใดมีความหมายวา่ ค้ายนั 53.เคร่ืองมือ เครื่องจกั ร วตั ถุดิบ ผลิตภณั ฑ์ จดั อยใู่ นเร่ืองใด ก. เคร่ืองใชไ้ ฟฟ้ าชนิดหน่ึง ข. รอกส่งของ ก. ส่ิงแวดลอ้ มทางเคมี ข. ดา้ นความปลอดภยั ค. ส่ิงท่ีสร้างข้ึนเพอื่ รองรับ ง. ส่ิงที่จดั ไวใ้ นที่สูง ค. ส่ิงแวดลอ้ มทางกายภา ง. ส่ิงแวดลอ้ มทางสงั คม 43. โรคหลอดลมอกั เสบเกิดจากการทางานในท่ีแบบใด 54.การสร้างเสริมสุขภาพในสถานประกอบการมีก่ีอนั ดบั ก. อบอา้ ว ข. รกรุงรัง ก. 4 อนั ดบั ข. 3 อนั ดบั ค. หนาวเยน็ ง. ร้อน ค. 2 อนั ดบั ง. 1 อนั ดบั 44. อุณหภูมิต่าสุดที่ของเหลวระเหยเป็ นไอในปริมาตรมาก 55.โรคท่ีเกิดจากการทางานตามประกาศ กระทรวงแรงงาน พอที่จะรวมตวั กบั สิ่งใด มีจานวนก่ีโรค ก. ความร้อน ข. ปฏิกิริยาต่อเน่ือง ก. 42 โรค ข. 22 โรค ค. เช้ือเพลิง ง. ออกซิเจน ค. 32 โรค ง. 40 โรค 45. ของเหลวไวไฟจะมีอุณหภมู ิวาบไฟเท่าไร 56.ขอ้ ใดไม่ใช่สาเหตุท่ีทาใหเ้ กิดโรคจากการทางาน ก. ต่ำกวำ่ 100 ฟำเรนไฮ ข. 110 ฟำเรนไฮ ก. ผบู้ ริหาร ข.สภาพการทางาน-สภาพแวดลอ้ ม ค. มำกกวำ่ 100 ฟำเรนไฮ ง. 120 ฟำเรนไฮ ค. ฝ่ นุ ละอองสารอนินทรีย์ ง.ฝ่ นุ ละอองสารอินทรีย์ 46.ของเหลวติดไฟจะมีจุดวาบไฟเทา่ ไร 57. ขอ้ ใดไม่ใช่สาเหตุท่ีทาใหเ้ กิดโรคผวิ หนงั จากการทางาน ก. ต่ำกวำ่ 100 ฟำเรนไฮ ข. 110 ฟำเรนไฮ ก. สาเหตุทางชีวภาพ ข.สาเหตุการกิน ค. มำกกวำ่ 100 ฟำเรนไฮ ง. 120 ฟำเรนไฮ ค. สาเหตุจากการสมั ผสั ง.สาเหตุสารเคมี 47.การแยกองคป์ ระกอบการติดไฟสามารถทาไดย้ กเวน้ ขอ้ ใด 58. ขอ้ ใดไม่ใช่สาเหตุของส่ิงแวดล้อมทางกายภาพท่ีทาให้ ก. ความร้อน ข. ปฏิกิริยาต่อเน่ือง เกิดโรคจากผวิ หนงั จากการทางาน ค. เช้ือเพลิง ง. ออกซิเจน ก. ไดร้ ับความเยน็ ท่ีมาก ข.ไดร้ ับความร้อนมากไป 48. ประกายไฟท่ีเกิดจากเคร่ืองจกั รกลมีอะไรบา้ ง ค. ไดร้ ับรังสีเอกซเรยม์ ากไป ง.ไดร้ ับสารเคมีมากไป ก. การกลึง ข.การเจาะ 59.ขอ้ ใดไม่ใช่สาเหตุที่ทาใหเ้ กิดโรคปอดจากการทางาน ค. การเจียรไน ง.การไส ก. โรคผวิ หนงั ข. โรคมะเร็ง 49.ป ร ะ โ ย ช น์ ข อ งก า ร ส ร้ าง เ ส ริ มสุ ข ภ า พใ น ส ถ า น ค. โรคเอดส์ ง. โรคปอด ประกอบการตรงกบั ขอ้ ใด 60. ขอ้ ใดไมใ่ ช่สาเหตุท่ีทาใหเ้ กิดโรคปอด จากการทางาน ก. การเพิ่มผลผลิต ข. คุณภาพตามมาตรฐาน ก. ละอองฝน ข. กา๊ ซและควนั พษิ บางชนิด ค. ภาพลกั ษณ์ที่ดีขององคก์ ร ง. ถูกทุกขอ้ ค. ฝ่ นุ ละอองสารอนินทรีย์ ง. ฝ่ นุ ละอองสารอินทรีย์ 50. ขอ้ ใดไมใ่ ช่การพฒั นา “การส่งเสริมสุขภาพ” ก. เศรษฐกิจ ข.ส่ิงแวดลอ้ มทางเคมี ค. สังคมจิตรวทิ ยา ง.สิ่งแวดลอ้ มทางกายภาพ 51.ในวยั แรงงานเปลี่ยนรูปแบบไปจากสภาพปัญหาในอดีต 61. โรคมะเร็งใดที่ไม่ไดม้ ีสาเหตุจากการทางาน ซ่ึงพบวา่ ปัญหาส่วนใหญ่คือขอ้ ใด ก. มะเร็งกระเพาะปัสสาวะ ข. มะเร็งเม็ดเลือดขาว ก. โรคปอด ข. โรคมะเร็ง ค. มะเร็งปอด ง. มะเร็งตบั ค. โรคติดเช้ือ ง. โรคหวดั 62. การตรวจสุขภาพของคนงานกระทาเพอ่ื จุดประสงคใ์ ด 52.ผใู้ ดมีวสิ ยั ทศั น์ในเร่ืองสุขภาพ-คุณภาพชีวติ ของพนกั งาน ก. ป้ องกนั โรคจากการทางาน ข. ลดค่าใช่จา่ ยของโรงงาน

ค. เพิ่มผลผลิตของโรงงาน ง. ถูกทุกขอ้ ค.การสังเกตอุบตั ิเหตุ ง.การสอบสวนอุบตั ิเหตุ 63. หลกั เบ้ืองตน้ ของการปฐมพยาบาล มกั มีส่ิงที่เกี่ยวขอ้ ง 74.อุบตั ิเหตุที่ตอ้ งสอบสวนมีก่ีลกั ษณะ ยกเวน้ ขอ้ ใด ก. 5 ลกั ษณะ ข. 4 ลกั ษณะ ก.ผพู้ บเห็น ข. ผใู้ หก้ ารช่วยเหลือ ค. 3 ลกั ษณะ ง. 2 ลกั ษณะ ค.สิ่งแวดลอ้ ม ง. ผทู้ ่ีไดร้ ับการบาดเจบ็ 75.โดยปกติตอ้ งทาการตรวจสอบความปลอดภยั เม่ือใด 64. การประเมินสภาพผบู้ าดเจบ็ สามารถทาได้ ยกเวน้ ขอ้ ใด ก.เดือนละ 1-2 คร้ัง ข.ทุกวนั ก. การคาดเดา ข. สิ่งแสดงชีพ ค.ปี ละ 1-2 คร้ัง ง.สัปดาห์ละ1-2 คร้ัง ค. ลกั ษณะสถานการณ์ ง. การตรวจร่างกาย 76. ขอ้ ใดไมใ่ ช่วธิ ีการตรวจความปลอดภยั 65.ผปู้ ฐมพยาบาลจะตอ้ งตรวจร่างกายผบู้ าดเจบ็ อยา่ งไร ก. การวเิ คราะห์วจิ ยั ข. การตรวจเยย่ี ม ก.รวดเร็ว ข. ชา้ ๆ ค. การรายงานผล ง. การสุ่มตวั อยา่ ง ค.ตามข้นั ตอน ง. ไม่มีขอ้ ถูก 77. เวลาทางานปกติในทุกประเภทงานไมเ่ กินกี่ชว่ั โมงต่อวนั 66. การตรวจการหายใจและตรวจชีพจร เป็นการตรวจข้นั ที่ ก. 12 ชว่ั โมงต่อวนั ข.10 ชว่ั โมงต่อวนั ก.ข้นั สุดทา้ ย ข. ข้นั ท่ีสาม ค. 8 ชว่ั โมงต่อวนั ง. 6 ชวั่ โมงต่อวนั ค.ข้นั ท่ีสอง ง. ข้นั แรก 78.เวลาทางานปกติในทุกประเภทงานไม่เกิน 67. การหายใจตรวจโดยวธิ ีใด กี่ชวั่ โมงต่อสปั ดาห์ ก. การขยายของปอด ข. นบั อตั ราการหายใจ ก. 48 ชวั่ โมงต่อวนั ข. 42 ชวั่ โมงต่อวนั ค. การคลา ง. การฟังเสียง ค. 36 ชวั่ โมงต่อวนั ง. 24 ชว่ั โมงต่อวนั 68. Ergonomics มาจากคาภาษาใด 79.เวลาทางานในงานที่อาจเป็นอนั ตรายไม่เกิน ก. กรีก ข. เยอรมนั กี่ชวั่ โมง/สปั ดาห์ ค. องั กฤษ ง. ฝรั่งเศส ก. 48 ชวั่ โมงต่อวนั ข. 42 ชวั่ โมงต่อวนั 69.การนง่ั ทางานพ้ืนทางาน(โตะ๊ ) สาหรับผหู้ ญิงที่สวม ค. 36 ชวั่ โมงต่อวนั ง. 24 ชวั่ โมงต่อวนั รองเทา้ ส้นสูง จะตอ้ งเผอื่ อีกกี่เซนติเมตร 80.เมื่อลูกจา้ งประสบอนั ตรายหรือเจบ็ ป่ วยถึงแก่ความตาย ก. 8-10 เซนติเมตร ข. 6-8 เซนติเมตร บุคคลใดไม่สามารถมารับค่าตอบแทนจากนายจา้ งได้ ค. 4-6 เซนติเมตร ง. 2-4 เซนติเมตร ก. ญาติ ข.บุตร 70. ความสูงของที่นง่ั ควรปรับไดโ้ ดย ค. บิดาหรือมารดา ง. สามีหรือภรรยา ก. 50-60 เซนติเมตร ข. 40-53 เซนติเมตร ค. 35-40 เซนติเมตร ง. 20-35 เซนติเมตร 71.พนกั พงิ หลงั ควรจะปรับไดอ้ ยา่ งไรจากระดบั ท่ีนงั่ ก.เอียงไปดา้ นหนา้ ข. เอียงไปดา้ นหลงั 45 องศา ค.แนวด่ิง ง. เอียงไปดา้ นหลงั 72. การยศาสตร์เรียกอีกอยา่ งหน่ึงวา่ ก.สมรรถยศาสตร์ ข. พลยศาสตร์ ค.เออร์โกโนมิกส์ ง. กายวภิ าคศาสตร์ 73.การคน้ หาสาเหตุของการเกิดอุบตั ิเหตุ หมายถึงขอ้ ใด ก.การวเิ คราะห์อุบตั ิเหตุ ข. การคิดความเสียหาย


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook