Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore E-Book สถาปัตยกรรม

E-Book สถาปัตยกรรม

Published by tarnmor, 2023-06-20 05:55:36

Description: กระบวนการออกแบบสถาปัตยกรรม

Keywords: ออกแบบ

Search

Read the Text Version

กระบวนการ ออกแบบทาง สถาปัตยกรรม

INTRODUCTION. E-Book เร่ือง กระบวนการออกแบบทาง ARCHITECส ถ า ปั ต ย ก ร ร ม จั ด ท า ข้ึ น เ พื่ อ เ ป็ น เ อ ก ส า ร TUREประกอบการเรียนการสอนในรายวิชาออกแบบ สถาปัตยกรรม 2 รหัสวิชา 20108 –2002 นักศึกษาระดับช้ันประกาศนียบัตรวิชาชีพ 2 วทิ ยาลยั เทคนคิ อดุ รธานี เพ่ือให้นกั เรยี นได้เขา้ ใจใน องค์ประกอบเบื้องต้น หลักความต้องการพื้นฐาน เพือ่ ดาเนินการวเิ คราะหถ์ งึ พฤติกรรมของผอู้ าศัยท่ี สง่ ผลให้เกดิ กจิ กรรมและการกาหนดองค์ประกอบ ของพื้นที่ใชส้ อยในงานสถาปัตยกรรม Process design architectural ผู้จดั ทาหวังเป็นอย่างยิ่งว่า E-book ฉบับนี้จะ เป็นประโยชน์ต่อนักเรียนทุกคนที่กาลังศึกษาใน รายวิชา ออกแบบสถาปัตยกรรม และช่วยให้ นักเรียนสามารถนาความรู้และจินตนาการการ เรียนรู้ของผู้เรียนไปสร้างสรรค์ผลงาน ซึ่งนาไปสู่ การออกแบบสถาปตั ยกรรมทด่ี แี ละมคี ุณภาพสรา้ ง สงั คมสบื ตอ่ ไป นางสาวหทยั รตั น์ ผอบแกว้

ARCHITECTURE หน้า CONTENTS 3 5 เร่ือง 7 9 ผู้ใชง้ านอาคาร 10 (User Analysis) 15 การกาหนดเขตพื้ นที่ใชส้ อย (Define Analysis) การวิเคราะหอ์ งคป์ ระกอบ (Elements Analysis) การกาหนดพ้ื นทีใ่ ชส้ อย (Area Requirement) การวเิ คราะห์ความสัมพั นธข์ ององคป์ ระกอบ (Functional Relationship Analysis) การวิเคราะห์การสญั จร (Circulation Analysis)

สาระสาคัญ ในการเริ่มกระบวนการออกแบบบ้านพั กอาศัย ผู้ออกแบบต้องมีความ เข้าใจในองค์ประกอบเบ้ืองต้น หลักความต้องการพ้ื นฐานเพื่ อดาเนินการ วิเคราะห์ถึงพฤติกรรมของผู้อยู่อาศัยส่งผลให้เกิดกิจกรรมและการกาหนด องค์ประกอบของพ้ื นท่ีใช้สอย ความสัมพั นธ์ขององค์ประกอบท่ีผู้อาศัยได้ใช้ เป็นที่ประกอบกิจกรรมท้ังหลายเพ่ื อรองรับการดาเนินชีวิตภายในบ้าน ผู้ออกแบบจาเป็นท่ีจะต้องนาความรู้ผ่านการรวบรวมข้อมูลท่ีวิเคราะห์มาแล้ว นามาสงั เคราะหเ์ พ่ื อเป็นกระบวนการในการออกแบบบา้ นพั กอาศยั

USER ANALYSIS ผู้ออกแบบต้องทาการศึกษาความต้องการพื้ นฐานของผู้ใช้อาคาร ลักษณะนิสัย อาชีพ งานอดิเรก และความเคยชินของผู้ท่ีอาศัยในอาคาร เพื่ อออกแบบให้ ตอบสนองความต้องการทางร่างกายและจิตใจ ซ่ึงพฤติกรรมของผู้ใช้อาคารยังเป็นส่ิงกาหนดท่ีว่างหรือสภาพแวดล้อมลักษณะต่างๆ ท่ีผู้ออกแบบต้องศึกษาและ รับร้อู ย่างลกึ ซงึ้ เพื่ อนามาเปน็ แนวทางในการกาหนดท่ีวา่ งทีเ่ หมาะสมกบั พื้ นทีใ่ ช้สอยในงานสถาปตั ยกรรม ประเภทผ้ใู ช้งาน ผู้ใช้งานประจา หมายถึง ผู้อยู่อาศัยหรือเจ้าของบ้าน พ่ อ แม่ พี่ น้อง เพราะเปน็ ผูท้ ีซ่ ึง่ ใช้อาคารเปน็ ประจาทง้ั กลางวันและกลางคืน เพ่ื อน เพ่ื อน เพ่ื อน คน ไปรษ ญาติ ผู้ใช้งานช่ัวคราว หมายถึง บุคคลที่เป็นแขกมาเย่ียม พ่ อ แม่ ลกู สวน -ณยี ์ เยือนเจ้าของบ้าน ญาตพิ ี่ นอ้ ง หรอื ผ้มู าติดต่อ

พฤติกรรมผใู้ ช้งานอาคาร พฤติกรรมของผูใ้ ชอ้ าคารเป็นการเก็บข้อมูลกิจกรรมและการกระทาท่ี เป็นพฤติกรรมประจาวันของผู้อยู่อาศัยภายในบ้าน ซึ่งได้มาโดยการ สัมภาษณแ์ ละสังเกตแยกตามประเภทดังกล่าวดาเนินการโดยทาตารางใน 1 วันแยกตามรายชั่วโมง ข้อมูลที่กรอกจะใส่เฉพาะคากิริยาเช่น นอน ทาอาหาร และแต่งตัว เป็นต้น สามารถแสดงออกมาเป็นตารางกิจกรรม ของสมาชิกในบ้าน จากตาราง แสดงกิจกรรมที่เป็นกิจวัตรประจาวันของผู้อยู่อาศัยใน บ้านมาตรฐาน สามารถนามากาหนดจานวนห้องพั กภายในบ้าน เช่น เมื่อ กิริยากาหนดให้นอน ดังน้ันพื้ นที่ใช้สอยภายในบ้านจึงจาเป็นจะต้องมี ห้องนอนเป็นองค์ประกอบหลัก และการเพิ่ มห้องพิ เศษต่างๆ เช่น หากมี กจิ กรรมการดแู ลเดก็ อาจจาเปน็ ตอ้ งมหี ้องเดก็ เพิ่ มข้ึนมาอกี 1 หอ้ ง

การกาหนดเขตพ้ื นที่ใชส้ อยภายในอาคาร เขตพ้ื นท่สี ว่ นตวั เขตพ้ื นทีก่ ่งึ สว่ นตวั (Private Area) (Semi-private Area) เขตพื้ นที่ส่วนตัวเป็นพ้ื นที่เฉพาะ เขตพื้ นที่กึ่งส่วนตัวเป็นพื้ นท่ีที่มี บุคคล อยู่บริเวณพื้ นท่ีช้ันในสุด ก า ร ใ ช้ ส อ ย ก่ึ ง ส่ ว น ตั ว ท่ี ใ ห้ ข อ ง บ้ า น แ ล ะ เ ป็ น บ ริ เ ว ณ ที่ ไ ม่ บุคคลภายนอกเข้ามาได้ตามความ อ นุ ญ า ต ใ ห้ บุ ค ค ล ภ า ย น อ ก เ ข้ า ไ ด้ จาเปน็ สาหรบั บ้านขนาดเล็กจะไม่มี ยกเว้นคนในครอบครัวเท่านั้น และ พื้ น ท่ี กึ่ ง ส่ วน ตั ว มั กใ ช้ ร ว ม กั บ มักอยู่ในบริเวณที่มีเสียงรบกวน พ้ื นท่ีสาธารณะอย่างยืดหยุ่นเพื่ อ จากภายนอกน้อยที่สุด เพื่ อความ ความประหยดั พื้ นทใ่ี นบา้ นเป็นพื้ นที่ สงบสขุ ส่วนตวั อยา่ งแท้จริง ได้แก่ ของบุคคลในครอบครัว ปู่ย่า ตา ห้องนอน ยาย พ่ อแม่ และลูกที่จะใช้พื้ นท่ี สั ง ส ร ร ค์ ร่ ว ม กั น เ ช่ น ห้ อ ง รับปร ะทา นอาห าร ห้องนั่ งเล่ น หอ้ งทางาน หรอื ห้องพระ

เขตพื้ นที่สาธารณะ เขตพื้ นทก่ี ึง่ สาธารณะ เขตพ้ื นทส่ี ่วนบริการ (Public Area) (Semi-public Area) (Service Area) บริเวณพ้ื นที่หน้าบ้านควรจัดให้มีทิวทัศน์สวยงาม เขตพ้ื นที่ก่ึงสาธารณะ เป็นพื้ นที่ที่คนในบ้านใช้ เขตพื้ นที่ในส่วนบริการน้ีประกอบด้วย ห้องครัว เมื่อมองจากถนน เปน็ ทางสัญจรหลกั จากประตูรั้ว ประจาและสาหรับแขกท่ีมาเยี่ยมเยือนสามารถใช้ และห้องเก็บของ มักจะอยู่ใกล้เพื่ อให้จอดรถใกล้ สู่ตัวบ้านควรมองเห็นทิวทัศน์ท่ีสวยงาม ได้แก่ งานได้ตามความจาเป็นเมื่อได้รับเชิญจากเจ้าของ ทางเข้า-ออก และบริเวณถนนสาธารณะหรือ พื้ นทีส่ นาม เฉลยี งหน้าบา้ น และทจี่ อดรถ บ้าน และไม่ใช่พื้ นที่ท่ีแขกทุกคนจะผ่านเข้าไปได้ทุก บริเวณหลังบ้าน และสะดวกในการนาขยะจาก กรณีบริเวณน้ี ได้แก่ ห้องรับประทานอาหาร และ ภายในบ้านออกไปทิ้งภายนอกบ้าน เพื่ อให้รถขยะ บรเิ วณสัญจรท่ีนาไปสูห่ ้องห้องน้าในส่วนบริการ มาเก็บไดส้ ะดวก

ARCHITECTURE การวิเคราะห์องคป์ ระกอบของบา้ นพั กอาศัยชั้น เดียว(Elements Analysis) จากการศึกษาหลักการออกแบบห้องต่างๆ ภายในบ้านพั กอาศัยและการกาหนดเขตพ้ื นท่ีใช้สอย ภายในอาคาร ผู้ออกแบบสามารถนาหลักการข้างตัน มาวิเคราะห์โดยการจัดเรียงลาดับเป็นตารางแสดง การวิเคราะห์องค์ประกอบของโครงการ โดยแบ่ง ออกเปน็ 3 สว่ น 1. องค์ประกอบหลัก การกาหนดเขตพื้ นท่ีใช้สอยของโครงการ ได้แก่ เขตพื้ นที่ส่วนตัว เขตพื้ นท่ีก่ึงส่วนตัว เขตพ้ื นที่ สาธารณะ เขตพื้ นที่กึ่งสาธารณะ และเขตพ้ื นที่ส่วน บริการ 2. องค์ประกอบรอง การกาหนดช่ือห้องและจาแนกตามลักษณะการใช้ สอยของพื้ นทภ่ี ายในอาคาร 3. องคป์ ระกอบยอ่ ย การกาหนดเครือ่ งเรอื นท่ใี ชภ้ ายในห้องต่างๆ

การกาหนดพ้ื นท่ีใช้สอย การกาหนดขนาดพ้ื นที่ใช้สอยในเกณฑ์ต่าสุด ARCHITECTURE พิ จารณาจากความต้องการพ้ื นที่น้อยท่ีสุด เมื่อผู้ออกแบบได้วิเคราะห์องค์ประกอบของบ้านพั กอาศัยชั้นเดียวแล้ว ของบ้านพั กอาศัยราคาถูกสาหรบั ประเทศไทย ขั้นตอนต่อไปเป็นการกาหนดพื้ นท่ีใช้สอยขององค์ประกอบเพ่ื อเป็นการ กาหนดพื้ นท่ขี องบา้ นพั กอาศยั มีแนวทางในการกาหนดพื้ นท่ใี ชส้ อยได้ดงั นี้ เขตส่วนตวั รวมประมาณ 12.15 ตารางเมตร 1. ห้องนอน ประมาณ 10 ตารางเมตร 2. หอ้ งน้า-สว้ ม ประมาณ 2.15 ตารางเมตร เขตกึ่งต้อนรบั รวมประมาณ 14 ตารางเมตร 1 . บ ริ เ ว ณ รั บ แ ข ก พั ก ผ่ อ น แ ล ะ ท า ง า น ร ว ม ท้ั ง บ ริ เ ว ณ รั บ ป ร ะ ท า น อ า ห า ร ( ส า ห รั บ 4 ค น ) ประมาณ 10 ตารางเมตร 2. บริเวณทางเข้าด้านหนา้ 2 ตารางเมตร เขตปฏบิ ตั กิ ารทว่ั ไป รวมประมาณ 22.5 ตารางเมตร 1. บรเิ วณปรงุ อาหาร (ครัว) 6 ตารางเมตร 2. บริเวณเก็บของ 4 ตารางเมตร 3. บริเวณซกั ล้าง, รดี ผา้ 4 ตารางเมตร

การจัดวางเครื่องเรือน ระบบการสัญจร รปู รา่ งของหอ้ ง ลกั ษณะของเครอ่ื งเรือน ขนาด ใ น ก า ร อ อ ก แ บ บ จ ะ ต้ อ ง เ ผ่ื อ ซึ่งจะแปรผันตามลักษณะการใช้ จ า น ว น แ ล ะ ก า ร จั ด ว า ง ทางเดินระหว่างเคร่ืองเรอื น สอยและเครื่องเรือน โดยท่ัวไป ตาแหน่งของเครื่องเรือน ซึ่ง ควรเป็นรูปร่างสี่เหล่ียม เพราะ ผู้ อ อ ก แ บ บ ต้ อ ง ค า นึ ง ถึ ง แ ล ะ ใ ห้ ผู้ ใ ช้ ส า ม า ร ถ เ ค ล่ื อ น ไ ห ว ไ ด้ ส า ม า ร ถ จั ด ไ ด้ ส ะ ด ว ก แ ล ะ จั ด กาหนดพื้ นทท่ี ่ีเหมาะสมทส่ี ดุ สะดวก ซึ่งสัดส่วนมาตรฐาน วางเครื่องเรือนได้ลงตัว เช่น ของค นน้ันจ ะอยู่ ที่ 0. 50 X ห้ อ ง น อ น 2 ป ร ะ ก อ บ ด้ ว ย 0.90 เมตร เครื่องเรือน ได้แก่ เตียง ตู้ เส้ือผ้า โต๊ะข้างเตียง และชั้น วางทีวีสามารถกาหนดพื้ นที่ ขนาด 4.00 x 4.00 เมตร การจดั เคร่ืองเรอื นเพ่ื อกาหนดพ้ื นท่ีใชส้ อย กิจกรรมการใช้สอยภายในบ้านพั กอาศัย เป็น ตัวกาหนดพื้ นท่ีการใช้สอยทั้งขนาดและรูปร่างซ่ึง เป็นการกาหนดหน้าท่ีการใช้สอยของบา้ นพั กอาศยั โดยรวม ดังนั้นการจัดพ้ื นท่ีภายในของส่วนใช้ สอยต่างๆ มอี งคป์ ระกอบ ดังตอ่ ไปน้ี

การวเิ คราะห์ความสมั พั นธ์ขององคป์ ระกอบ (Functional Relationship Analysis) จากการกาหนดพ้ื นที่ใช้สอยทาให้ทราบถึงองค์ประกอบ ต่างๆ ท่ีมีอยู่ในบ้านพั กอาศัยขั้นต่อมาเป็นการวิเคราะห์ ความสมั พั นธ์ขององค์ประกอบ มีวิธีการดังตอ่ ไปนี้ จดั ทาตารางความสมั พั นธ์ จดั ทาแผนภาพความสมั พั นธ์ ARCHITECTURE

ARCHITECTURE จัดทาตารางความสัมพั นธ์ ตารางความสัมพั นธ์ที่นิยมใช้คือ ตารางความ ใกลช้ ิด (Adjacency Matrix) วเิ คราะหโ์ ดยการ นาห้องทั้งหมดมาใส่ในตารางไขว้ เรียงกัน ตามลาดับแกนตั้ง แล้วลากเส้นทแยงมุม 45\" ตัดกันทั้ง 2 ฝ่ ัง ทาให้ทราบว่าพื้ นท่ีใดควรอยู่ ใกล้กับพื้ นท่ีใดเพ่ื อสามารถกาหนดค่าความ ใกล้ชิดได้ระหว่างพ้ื นท่ีทีละคู่จนครบหมด แล้ว ก ร อ ก ค ะ แ น น ที่ ไ ด้ จ า ก ก า ร เ ก็ บ ข้ อ มู ล ความสัมพั นธ์ เจ้าของบ้านหรือผู้ออกแบบ โดย ระดับคะแนนท่ีใช้ 3 ระดับคือ สัมพั นธ์กันน้อย 1 คะแนน สัมพั นธ์ กันปานกลาง 2 คะแนน และ สัมพั นธ์กันมาก 3 คะแนน ตัวอย่างการให้ คะแนนมีดังน้ี ห้องนอนใหญ่กับห้องครัวซึ่งไม่ ควรอยู่ใกล้กันเนื่องจากกล่ินควันของห้องครัว จะ ไปรบกวน จึงควร ใส่ค่าคะ แนน 1 คือ มี ค ว า ม สั ม พั น ธ์ กั น น้ อ ย ส่ ว น ห้ อ ง ค รั ว กั บ ห้องอาหารอาจจาเป็นจะต้องอยู่ใกล้กันเพราะ การจัดส่งอาหาร ค่าคะแนนในช่องน้ีจึงเป็น 3 เพราะมีความสมั พั นธ์กันมาก เปน็ ต้น

ARCHITECTURE จัดทาแผนภาความสัมพั นธ์ โดยโยงความสัมพั นธ์ระหว่างพื้ นท่ีใช้สอยโดย วิเคราะห์จากการกรอกค่าความสัมพั นธ์แล้ว เรียบเรยี งข้นึ ใหเ้ ป็นลาดบั แลว้ โยงความสัมพั นธ์ กันโดยจัดกลุ่ม (Zone) แล้วนาองค์ประกอบ ของแต่ละกล่มุ มาจดั ความสมั พั นธ์

การวิเคราะห์การสัญจร (Circulation Analysis) การปรบั ตารางความใกลช้ ดิ (Adjacency Matrix) และแผนภาพความสัมพั นธ์ให้มา อยู่ในรูปแบบของวงกลมห้อง จัดลาดับการเข้าถึง การใช้สอย ปริมาณการสัญจร และทศิ ทางการสัญจร (Circulation) ไดง้ ่ายข้นึ การสญั จร (Circulation) แนวเส้นทางสัญจรท่ีเชื่อมพื้ นท่ีห้องต่งๆ จะต้องไม่สับสน ควรจะส้ันที่สุด ลักษณะการสัญจรด้วยความเข้มของเส้นลูกศรในการทาแผนภูมิแสดงการสัญจรท่ี แตกต่างกนั ซึ่งแสดงถึงทางหลักหรือเส้นทางรอง ไดด้ ังนี้

ทางสัญจรหลัก หากเส้นแนวทางสัญจรมีความ เข้มสูง แสดงว่าเป็นเส้นทาง สัญจรหลักซึ่งมีความสาคัญ มี ผู้ใช้งานจานวนมากและบ่อยครั้ง ทางสัญจรรอง หากเส้นแนวทางสัญจรมีความ เข้มน้อยและบางจะเป็นเส้นทาง รอง มีความสาคัญน้อย มีการ ใชง้ านนอ้ ย

ARCHITECTURE เขยี นแผนภูมแิ สดงความสัมพั นธร์ ะหวา่ งพื้ นที่ (Bubble Diagram) และการสัญจร แผนภูมิน้ีจะใช้พ้ื นท่ีวงกลมที่มีมาตราส่วนถูกต้องแทนการ กาหนดขนาดหอ้ งพื้ นท่ีท่ีประมาณได้จากการวิเคราะห์และกาหนด พื้ นที่ใช้สอยวงกลมแต่ละวงจะแทนพื้ นที่ห้องแต่ละห้องท่ีมีขนาด ใหญ่และเล็กต่างกัน จากนั้นให้ลากเส้นเช่ือมโยงวงกลมแท เส้นทางการสัญจร โดยมีทางเข้าหลักอยู่ด้านล่างแผนผัง ท้ังหมด และมีลูกศรแสดงทิศทางการเข้าถึงจากทางเข้าหลัก เส้นทางจะมุ่งเข้าสู่กลุ่มพ้ื นที่กึ่งส่วนตัวและพื้ นท่ีส่วนตัวเป็น ลาดบั

แบบฝึกหดั : : กระบวนการออกกแบบทางสถาปตั ยกรรม

กระบวนการออกแบบทางสถสปัตยกรรม ตอนท่ี 1 : คาส่ัง จงทาเครื่องหมาย / หน้าข้อความทถี่ ูกและทาเคร่อื งหมาย X หน้าขอ้ ความทผี่ ิด ....................1. แผนภมู อิ งค์กร เปน็ การแสดงลาดบั ความอาวุโสหรอื ความสาคัญของบุคคลภายในบ้าน โดยเขยี นแสดงความสัมพั นธ์ แบบลาดับชัน้ ....................2. ประเภทของผ้ใู ช้อาคาร แบง่ ออกเป็น 2 ประเภท ....................3. ผ้ใู ชอ้ าคารชั่วคราว หมายถึง เจา้ ของบ้าน ....................4. พฤติกรรมประจาวนั ของผู้อยู่อาศยั ภายในบา้ น ข้อมลู มาจากการสัมภาษณ์และสงั เกต ....................5. เขตพื้ นท่ีก่งึ ส่วนตัวเปน็ พ้ื นท่ที ีม่ กี ารใช้สอยก่ึงสาธารณะท่ใี ห้บุคคลภายนอกครอบครวั เขา้ มาไดต้ ามความจาเปน็ ....................6. ตารางเวลาเป็นสว่ นหน่งึ ของการแสดงการวิเคราะหอ์ งคป์ ระกอบของโครงการ ....................7. องคป์ ระกอบหลกั คือ การกาหนดเขตพื้ นที่ใชส้ อย ....................8. องคป์ ระกอบย่อยคอื การกาหนดชอ่ื ห้อง ....................9. ตารางความสมั พั นธ์แสดงความใกล้ชดิ โดยใช้ตวั เลขเป็นเครอ่ื งแสดงน้าหนัก ....................10. แผนภูมแิ สดงความสัมพั นธ์ระหว่างพื้ นท่ี โดยวงกลมแตล่ ะวงจะแทนพื้ นท่หี ้องแต่ละห้องทีม่ ีขนาดใหญ่และเลก็ ตา่ งกัน

ARCHITECTURE REFERENCE สชุ ริ ัตน์ แกว้ รตั น์ (2565) , การออกแบบสถาปตั ยกรรม1 , กรุงเทพ : บรษิ ัท ว.ี พร้ินท์ (1991) จากดั

ARCHITECTURE ประวัติผเู้ ขียน นางสาวหทยั รตั น์ ผอบแกว้ การศกึ ษา - สถาปัตยกรรมศาสตร์ (สถ.บ.) เทคโนโลยีสถาปตั ยกรรม มหาวทิ ยาลัยเทคโนโลยรี าชมงคลธัญบรุ ี ปทุมธานี - สถาปตั ยกรรม แผนกเทคนิคสถาปัตยกรรม วิทยาลยั เทคนคิ อุดรธานี การทางาน - พ.ศ. 2564 พนกั งานควบคมุ และประกอบช้ินส่วนโมเดลชว่ั คราว บริษทั ทางไทย สตดู โิ อ ปทมุ ธานี - พ.ศ. 2565 พนักงานประกอบช้ินสว่ นโมเดลช่ัวคราว MOTIVE studio สามเสน กรงุ เทพมหานคร - ปจั จบุ ัน ครูพิ เศษสอน ประจาแผนกเทคนิคสถาปัตยกรรม วิทยาลยั เทคนิคอดุ รธานี

ARCHITECTURE THANK YOU


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook