เอกสารประกอบการสอน เรอื่ ง ฟงั กช์ นั ตรโี กณมติ ิ ชั้นมัธยมศกึ ษาปที ี่ 5 โดย ครูชนิดาภา จนั นอ กลมุ่ สาระการเรยี นรูค้ ณติ ศาสตร์ โรงเรียนสริ ินธร จงั หวดั สรุ นิ ทร์ สำนกั งานเขตพน้ื ทก่ี ารศึกษามัธยมศกึ ษา เขต 33 1
ใบความรทู้ ี 1 การวดั ความยาวสว่ นโคง้ และพกิ ดั จดุ ปลายสว่ นโคง้ การกำหนดค่าของตรีโกณมิตทิ ำได้โดยใช้วงกลม 1 หน่วย ซึง่ มจี ดุ ศูนยก์ ลางอยู่ที่จดุ กำเนดิ เป็นหลักในการกำหนดคา่ ของฟังก์ชันตรโี กณมติ ิ วงกลมน้เี ปน็ กราฟความสมพนั ธ์ (x,y)R R x2 + y2 =1 จะเรยี กวงกลมดังกล่าววา่ “วงกลมหนงึ่ หนว่ ย” วงกลม 1 หนว่ ย เปน็ วงกลมทีม่ รี ศั มี 1 หนว่ ย การวดั มมุ ในหนว่ ยเรเดียนจะเร่ิมวัดที่จดุ (1,0) โดยมเี งอ่ื นไขดงั นี้ 0 ( เปน็ บวก) จะวัดสว่ นโคง้ จากจุด (1,0) ในทิศทางทวนเขม็ นาฬกิ า 0 ( เปน็ ลบ) จะวดั สว่ นโค้งจากจุด (1,0) ในทิศทางตามเขม็ นาฬกิ า ทศิ ทวนเข็มนาฬกิ า = เรเดยี น ทิศตามเขม็ นาฬกิ า = − เรเดียน 2 2
โดยปกติ ถา้ วนทวนเข็มนาฬกิ าครบ 1 รอบ = 2 ถา้ วนเพยี งคร่ึงรอบ = ตวั อยา่ งท่ี 1 รูปตอ่ ไปนเี้ ป็นการแสดงตำแหน่งของจดุ ปลายส่วนโคง้ ของวงกลมหนง่ึ หน่วย เมอื่ กำหนดคา่ θ ใหม้ ี ค่าต่าง ๆ กนั รูปท่ี 1 θ= 2π รูปที่ 2 θ= 2 รูปท่ี 3 θ= π รูปท่ี 4 θ= 3 2 รูปที่ 5 θ= 5 รูปที่ 6 θ= 13 2 3 3
รูปที่ 7 θ= -2π รูปท่ี 8 θ= − 2 รูปที่ 9 θ= − 3 รูปที่ 10 θ= − 3 4 4 ในกรณที ่ี มมุ ใหญก่ วา่ 2 เชน่ 3,4,5,... แปลวา่ เราตอ้ งเดนิ ทางเพม่ิ มากขน้ึ หรอื ก็คือวนอีกรอบน่นั เอง ถ้า = 3 แปลว่าจะวน 1 รอบครงึ่ นน่ั เอง ซึ่งจากการสงั เกตจะเห็นว่า = 3 จะวนมาอยู่ท่ี ตำแหนง่ เดยี วกนั กบั = ถ้า = 4 แปลว่า หลังจากวนได้ 1 รอบได้ 2 แลว้ ตอ้ งเดินทางอกี 1 รอบ ให้ได้ 4 นั่นเอง ซง่ึ จากการสังเกตจะเหน็ ว่า = 4 จะวนมาอยู่ทต่ี ำแหน่งเดียวกันกับ = 2 จงึ มกี ารจำงา่ ย ๆ ดงั นว้ี า่ คพี่ าย คู่พาย 4
ลองทำดู θ= θ= 3 6 θ= 13 θ= 7 3 2 θ= − 37 3 6 θ= − คา่ มุมหลักๆ 5
ลำดบั ถดั ไป สง่ิ ที่สำคัญสำหรับเรอื่ งตรโี กณมติ ินีค้ ือ จะต้องจำ จดุ หยดุ ทัง้ 16 จดุ ของ มมุ พนื้ ฐาน ดังน้ี สงั เกต คา่ ของมมุ จะเป็นบวก หรอื ลบ จะข้นึ กับตำแหนง่ ของ วา่ ตกอยู่ในควอรนั ดใ์ ด จะเห็นว่าตัวเลขพกิ ัด (x, y) จะเป็นคา่ เดยี วกบั ค่า sin และ cos ของมุม 300 , 450 , 600 ท่เี คยเรยี น โดยเรานยิ ม ใชส้ ัญลักษณ์ P(θ) แทนพกิ ดั ของจดุ ปลายของมมุ เช่น P = (0,1) P() = (−1,0) 2 P = 2, 2 P − = 1 , − 3 4 2 2 3 2 2 ตวั อยา่ งที่ 2 จงหา P 3 2 วิธที ำ วธิ ที ่ี ① แทนค่า = 180 จะได้วา่ 3 = 3 180 = 270 2 2 วิธีท่ี ② มองวา่ 3 = 1 + 1 = + 2 2 2 ดงั นน้ั ไม่วา่ จะทำวิธีไหนกจ็ ะได้ P 3 = ( 0, −1) 2 6
ตวั อยา่ งท่ี 3 จงหา P 7 3 วธิ ที ำ วิธที ่ี ① แทนคา่ = 180 จะไดว้ า่ 7 = 7 180 = 420 โอเ้ ลขเยอะมากมาย 2 3 420 แปลว่าวนมากกว่า 1 รอบแนน่ อน นั่นคือ 420 = 360 + 60 = 60 จุด p ที่ 60 คือ วิธที ่ี ② มองวา่ 7 = 2 + 1 = 2 + = 3 3 3 3 ดงั นั้นไม่ว่าจะทำวิธีไหนกจ็ ะได้ P 7 = 1 , 3 3 2 2 ตวั อยา่ งท่ี 4 จงหา P − 2009 4 วธิ ที ำ วธิ ที ี่ ① แทนค่า เลขในข้อนีเ้ ยอะแทนคา่ ไม่สะดวก วิธที ่ี ② มองว่า − 2009 = − 502 + 1 = −502 − = − 4 4 4 4 ดังนั้น P − 2009 = 2 , − 2 4 2 2 − 4 ตวั อยา่ งที่ 5 P 17 = P 3 − = P − = − 1 ,− 3 6 6 6 2 2 ตวั อยา่ งท่ี 6 P 199 = P 66 + = P = 1 , 3 3 3 3 2 2 7
ลองทำดู จงหาพกิ ดั ตอ่ ไปน้ี 1. P 2. P() 2 3. P(3) 4. P 3 5. P 5 6. P − 4 3 3 7. P 103 8. P − 55 2 3 9. P 11 10. P − 13 3 2 8
ใบความรทู้ ่ี 2 คา่ ของฟงั กช์ นั ไซนแ์ ละโคไซน์ คา่ ของฟงั ก์ชนั ไซนแ์ ละโคไซน์ คา่ ของฟงั กช์ ันไซน์และโคไซน์ของจำนวนจริง θ หาไดโ้ ดยดูจากพกิ ดั จดุ ปลายสว่ นโคง้ ที่ยาว |θ| หนว่ ย กำหนด P() = (x, y) จะได้ sin = y และ cos = x ตวั อยา่ งท่ี 1 sin = 1 sin − = -1 2 2 cos = 1 cos(−) = -1 sin = ............... sin(-2) = ............ cos3 = .............. cos50 = .............. 9
พกิ ดั จดุ ปลายสว่ นโคง้ ของวงกลมหนงึ่ หนว่ ยทย่ี าว 4 cos 3 = 1 หรอื 2 sin 3 = 1 หรอื 2 4 2 2 4 2 2 cos 5 = - 1 หรอื − 2 sin 5 = - 1 หรอื − 2 4 2 2 4 2 2 พกิ ดั จดุ ปลายสว่ นโคง้ ของวงกลมหนงึ่ หนว่ ยทยี่ าว 3 sin 4 = - 3 cos 4 = - 1 3 2 3 2 sin − 7 = - 3 cos − 7 = 1 3 2 3 2 10
พกิ ดั จดุ ปลายสว่ นโคง้ ของวงกลมหนง่ึ หนว่ ยทยี่ าว 6 sin 5 = 1 cos 5 = - 3 6 2 6 2 sin − = - 1 cos − = 3 6 2 6 2 ลองทำดู จงหาคา่ ของ 1. sin 0 =……………………. 2. cos 0 =……………………. 3. sin(-2π) =……………………. 4. cos(-2π) =……………………. 5. sinπ =……………………. 6. cosπ =……………………. 7. sin 3 = ……………….. 8. cos = ……………….. 2 2 7. sin = ……………….. 8. cos = ……………….. 6 6 9. sin 11 = ……………….. 10. cos 7 = ……………….. 4 4 11
12
Search
Read the Text Version
- 1 - 12
Pages: