Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore การอ่าน

การอ่าน

Published by csorya7, 2020-08-28 03:57:06

Description: การอ่าน

Search

Read the Text Version

การอา่ นและการสง่ เสรมิ การอา่ น ครงั้ ที่ 1 เรอื่ ง ความหมาย ความสาคญั จดุ ประสงคข์ องการอา่ น และการเลอื กหนังสอื ทด่ี สี าหรับอา่ น โดย ผศ.ดร.จริ าภรณ์ หนูสวสั ดิ์

ความหมาย มนี ักวชิ าการหลายทา่ นใหค้ วามหมาย “การอา่ น” ไวด้ งั น้ี 1) ฉววี รรณ คหู าภนิ นั ทน์ (2542, น. 10) กลา่ ววา่ “การอา่ น” คอื ความเขา้ ใจใน สญั ลกั ษณ์ เครอ่ื งหมาย รปู ภาพ ตวั อกั ษร คาและขอ้ ความทพี่ มิ พห์ รอื เขยี นขนึ้ มา 2) ศรรี ตั น์ เจงิ กลนิ่ จนั ทร์ (2542, น. 4) สรุปความหมายของ “การอา่ น” วา่ การ อ่านมใิ ช่แต่เพียงการออกเสยี งตามตัวอักษรอย่างเดยี ว การอ่านเป็ นกระบวนการ ถ่ายทอดความหมายจากตัวอักษรออกมาเป็ นความคดิ และจากความคดิ ทไี่ ดจ้ ากการ อ่านผสมผสานกับประสบการณ์เดิมที่มีอยู่เป็ นเคร่ืองช่วยพิจารณาตัดสินใจนา แนวความคดิ ทไี่ ดจ้ ากการอา่ นไปใชป้ ระโยชนต์ อ่ ไป 3) กาญจนา เชอื่ มศรจี นั ทร์ (ม.ป.ป., ออนไลน์) กล่าวว่า “การอา่ น” หมายถงึ การ แปลความหมายของตัวอักษรทอ่ี ่านออกมาเป็ นความรูค้ วามคดิ และเกดิ ความเขา้ ใจ เรอ่ื งราวทอี่ า่ นตรงกบั เรอ่ื ราวทผ่ี เู ้ ขยี นเขยี น ผูอ้ า่ นสามารถนาความรู ้ ความคดิ หรอื สาระ จากเรอ่ื งราวทอ่ี า่ นไปใชใ้ หเ้ กดิ ประโยชนไ์ ด ้ 4) มณีรตั น์ สกุ โชตริ ตั น์ (2547, น. 18) กลา่ ววา่ “การอา่ น” คอื กระบวนการทผี่ อู ้ า่ น รับรูส้ ารซงึ่ เป็ นความรู ้ ความคดิ ความรูส้ กึ และ ความคดิ เห็นทผี่ ูเ้ ขยี นถา่ ยทอดออกมา เป็ นลายลักษณ์อักษร การที่ผูอ้ ่านจะเขา้ ใจสารไดม้ ากนอ้ ยเพียงไร ข้ึนอยู่กับ ประสบการณแ์ ละความสามารถในการใชค้ วามคดิ

ความหมาย (ตอ่ ) 5) สพุ รรณี วราทร (2545, หนา้ 3-4) กลา่ ววา่ “การอา่ น” คอื  พฤตกิ รรมทเ่ี กย่ี วขอ้ งกบั การรับรสู ้ ญั ลกั ษณท์ ตี่ พี มิ พห์ รอื บนั ทกึ  ซงึ่ เป็ นตวั กระตนุ ้ ใหผ้ อู ้ า่ นระลกึ ถงึ ความหมายจากประสบการณท์ ส่ี ะสมไว ้  และยังเกย่ี วขอ้ งกบั การสรา้ งความหมายใหมโ่ ดยการประสานสง่ิ ทอ่ี า่ นกบั ความคดิ ตา่ งๆ ทผี่ อู ้ า่ นมอี ยู่  ความหมายที่เกดิ ขนึ้ ใหม่จะถูกจัดไวใ้ นกระบวนการทางความคดิ ตามความมุ่ง หมายของผอู ้ า่ น  การอ่านจงึ ไม่ใช่เป็ นเพียงการถ่ายทอดขอ้ มูลข่าวสารจากขอ้ ความที่เป็ นลาย ลกั ษณ์อกั ษรไปสจู่ ติ ใจและความคดิ ของผอู ้ า่ นเทา่ นัน้  แต่ยังเป็ นการทผ่ี ูอ้ า่ นมสี ว่ นร่วม โดยการนาความรูแ้ ละประสบการณ์มาทาความ เขา้ ใจสง่ิ ทอ่ี ่านหรอื เพมิ่ เตมิ สว่ นทข่ี าดหายไปดว้ ยการตคี วามหมาย คาดการณ์หรอื ประเมนิ คา่ สง่ิ ทป่ี รากฏในเนอ้ื หาทอ่ี า่ น  การอ่านเป็ นความสามารถทมี่ ไิ ดเ้ กดิ ขนึ้ เองตามธรรมชาติ แต่เกดิ จากการเรยี นรู ้ และฝึ กฝน ผูท้ ไ่ี ดร้ ับการฝึ กฝนมากและถูกวธิ ยี ่อมมคี วามสามารถในการอ่านสงู ใช ้ กลวธิ ใี นการอ่านไดเ้ หมาะสมกับสอ่ื ทอี่ ่านและความมุ่งหมาย ซง่ึ ถอื ว่า “อา่ นเป็ น” ทาใหไ้ ดร้ ับประโยชนจ์ ากการอา่ นอยา่ งเต็มท่ี ซง่ึ เป็ นการอา่ นทม่ี ปี ระสทิ ธภิ าพ

ความหมาย (ตอ่ ) จากความหมายดงั กลา่ วขา้ งตน้ สรปุ ไดว้ า่ ... “การอา่ น” คอื ...  ความเขา้ ใจหรือรับรูส้ ัญลักษณ์ (ตัวหนังสือหรือตัวอักษร) ที่ ตพี มิ พห์ รอื เขยี นขนึ้ มา  มิใ ช่เ พีย ง ก า ร อ อ ก เ สีย ง ต า ม ตัว อัก ษ ร อ ย่า ง เ ดีย ว แ ต่เ ป็ น กระบวนการถา่ ยทอดความหมายจากตวั อกั ษรออกมาเป็ นความคดิ  ซึ่ง ค ว า ม คิด นั้น ไ ด ม้ า จ า ก ผู อ้ ่า น ร ะ ลึก ถึง ค ว า ม ห ม า ย จ า ก ประสบการณ์เดมิ ทสี่ ะสมไว ้  การอา่ นเป็ นความสามารถทมี่ ไิ ดเ้ กดิ ขนึ้ เองตามธรรมชาติ แตเ่ กดิ จากการเรยี นรแู ้ ละฝึกฝน Actor นักแสดงชาย Actress นักแสดงหญงิ

แฮรร์ ปี่ ลอ่ ยมังกรของ นาจาตอ่ สกู ้ บั จา้ วมงั กร แฮรก์ รดิ ใหเ้ ป็ นอสิ ระ กลางทะเล

ความสาคญั ไพพรรณ อนิ ทนลิ (2546, น. 7-9) กลา่ วถงึ “ความสาคญั ของการอา่ น” ไวด้ งั น้ี 1) การอา่ นเป็ นทกั ษะพนื้ ฐานทจ่ี าเป็ นในการดารงชวี ติ ในปจั จบุ นั  องคก์ ารสหประชาชาตไิ ดเ้ สนอให ้ ป.ท.สมาชกิ ชว่ ยกันรณรงคใ์ หท้ ุกคนในโลกน้ี อา่ นหนังสอื ใหอ้ อกทัง้ หมดในปี พ.ศ.2543 เพราะตระหนักในความสาคญั ของการอา่ น ผูท้ ี่อ่านหนังสอื ไม่ออกมักจะเสยี เปรียบ กลายเป็ นคนลา้ หลัง ไม่ทันโลก ไม่ทัน เหตกุ ารณ์ อาจจะถกู หลอก เสยี รไู ้ ดง้ า่ ย และไมเ่ ชอ่ื ม่ันตนเอง ไมม่ คี วามสขุ ในการ เขา้ สงั คม  ในชีวิตประจาวันเราตอ้ งอาศัยการอ่านเพ่ือการดารงชีวิตแทบทุกเร่ือง เช่น เครอ่ื งมอื เครอ่ื งใช ้ สนิ คา้ เครอื่ งอปุ โภคบรโิ ภค ตลอดจนยารักษาโรค ทกุ คนควร จะตอ้ งรูจ้ ักอา่ นวธิ ใี ช ้ วันหมดอายุ จงึ จะสามารถใชส้ นิ คา้ นัน้ ไดอ้ ยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพ หรือการไปตดิ ต่อกับหน่วยงานต่างๆ เช่น สานักงานทด่ี นิ สานักงานขนส่งทางบก ธนาคาร สถานศกึ ษา เทศบาล ฯลฯ จาเป็ นทจี่ ะตอ้ งอา่ นหนังสอื ออก จงึ จะสามารถ ไปตดิ ตอ่ หน่วยงานทต่ี อ้ งการไดอ้ ยา่ งรวดเร็ว  การอ่านหนังสอื ไม่ออกทาใหบ้ ุคคลนัน้ รูส้ กึ ตนเองว่าไรศ้ ักดศิ์ รี ไม่สามารถร่วม พดู คยุ เรอ่ื งตา่ งๆ กบั ผูอ้ นื่ ไดอ้ ยา่ งเท่าเทยี มกัน ดังเชน่ ท่ี ฟรานซสิ เบคอน (Francis Bacon) ไดก้ ลา่ ววา่ การอา่ นทาใหเ้ ป็ นคนโดยสมบรู ณ์ (Reading make a Full man)

ความสาคญั (ตอ่ ) 2) การอา่ นเป็ นเครอ่ื งมอื สาคญั ในการเรยี นรู้  การอา่ นเป็ นรากฐานสาคัญของการศกึ ษา เพราะทาใหน้ ักเรยี นนักศกึ ษาไดเ้ รยี นรู ้ สง่ิ ตา่ งๆ ไดอ้ ยา่ งรวดเร็ว กวา้ งขวางยงิ่ ขน้ึ เพราะการเรยี นวชิ าตา่ งๆ ไมว่ า่ จะเป็ นใน หอ้ งหรือนอกหอ้ งเรียน ลว้ นแต่ใชก้ ารอ่านเป็ นสอ่ื ในการเรียนรูท้ ัง้ สน้ิ กจิ กรรมใน สถานศกึ ษา 80-90% จะตอ้ งอาศยั การอา่ น  ผูเ้ รยี นจะตอ้ งมคี วามสามารถในการอ่าน จงึ จะสามารถร่วมกจิ กรรมการเรยี นการ สอนไดอ้ ยา่ งดี ทาใหผ้ เู ้ รยี นมคี วามคดิ กวา้ งขวางขน้ึ หนังสอื เพยี งอยา่ งเดยี วสามารถ ชว่ ยใหผ้ เู ้ รยี นคดิ ไปตามลาดบั ขนั้ ได ้

ความสาคญั (ตอ่ ) 3) การอา่ นเป็ นสอ่ื สาคญั ในการพฒั นาและแกป้ ญั หาสงั คม  การพัฒนาสังคมท่ีดีนั้น อุปกรณ์ท่ีสาคัญคือ “การอ่าน” ดังคากล่าว ของ คุณหญงิ แมน้ มาส ชวลติ (2539, คานา) ทว่ี ่า สงิ่ หนงึ่ ทใี่ ชว้ ัดระดับของบุคคลและ สงั คมได ้ ก็คอื การรูห้ นังสอื และการรูจ้ ักใชป้ ระโยชน์จากหนังสอื อย่างเต็มที่ การ อ่านหนังสอื จะทาใหเ้ กดิ การพัฒนาความคดิ สตปิ ัญญา จรยิ ธรรม ศลี ธรรมและเชาว์ ปัญญาไดเ้ ป็ นอย่างดี และรูจ้ ักนาความรูท้ ไี่ ดจ้ ากการอ่านมาพัฒนาตนเองทัง้ ดา้ น สตปิ ัญญาและจติ ใจ ผลทต่ี ามมาก็คอื ทาใหส้ ามารถกระทาตนใหเ้ ป็ นประโยชน์แก่ สังคม แก่ส่วนรวม สามารถวนิ ิจฉัยความถูกตอ้ ง เรื่องราวต่างๆ ไดอ้ ย่างฉับไว ประสบการณ์จากการอา่ นทาใหเ้ ป็ นผทู ้ เี่ ขา้ ใจสถานการณ์ทเ่ี ผชญิ ไดอ้ ยา่ งรวดเร็ว และ สามารถแกไ้ ขเหตกุ ารณ์ไดอ้ ยา่ งทนั ที  การอ่านทาใหเ้ กดิ การพัฒนาคุณภาพชวี ติ ผูท้ ่ีอ่านมากก็ย่อมจะมีมุมมองและ วสิ ัยทัศน์ทกี่ วา้ งไกล และเป็ นคนยดื หยุ่น สามารถปรับตัวใหเ้ ขา้ กับสังคมและพัฒนา สงั คมได ้  ดังนัน้ เมอ่ื ทุกคนมคี ุณภาพชวี ติ ทด่ี ี สังคมนัน้ ก็ย่อมจะดไี ปดว้ ย เมอ่ื เกดิ ปัญหา ต่างๆ ก็ย่อมจะรูจ้ ักใชส้ ตปิ ัญญาร่วมกันแกป้ ัญหา ก็จะทาใหส้ ังคมนัน้ อยู่กันอย่างมี ความสขุ

ความสาคญั (ตอ่ ) ฉววี รรณ คหู าภนิ นั ทน์ (2542, หนา้ 11) กลา่ ววา่ “การอา่ น” มคี วามสาคญั  ตอ่ ชวี ติ มนุษย์ ตงั้ แตเ่ กดิ จนโต และจนกระทง่ั ถงึ วยั ชรา  การอ่านทาใหร้ ูข้ ่าวสารขอ้ มูลต่างๆ ทั่วโลก ซง่ึ ปั จจุบันเป็ นโลกของขอ้ มูล ขา่ วสาร  ทาใหผ้ ูอ้ ่านมีความสุข มีความหวังและมีความอยากรูอ้ ยากเห็น อันเป็ นความ ตอ้ งการของมนุษยท์ กุ คน  การอ่านมปี ระโยชน์ในการพัฒนาตนเอง คอื การพัฒนาการศกึ ษา พัฒนาอาชพี พัฒนาคณุ ภาพชวี ติ ทาใหเ้ ป็ นคนทันสมัย ทันต่อเหตกุ ารณ์ และสนองความอยากรู ้ อยากเห็น  นอกจากนัน้ การจะพัฒนาประเทศใหเ้ จรญิ รุง่ เรอื งกา้ วหนา้ ได ้ ตอ้ งอาศัยประชาชน ทม่ี คี วามรคู ้ วามสามารถ ซงึ่ ความรตู ้ า่ งๆ กไ็ ดม้ าจากการอา่ นน่ันเอง

ความสาคญั (ตอ่ ) กาญจนา เชอื่ มศรจี นั ทร์ (ม.ป.ป., ออนไลน)์ การอา่ นจงึ มคี วามสาคญั ดงั น้ี 1) การอา่ นเป็ นเครอื่ งมอื ในการแสวงหาความรู ้ โดยเฉพาะผทู ้ อี่ ยใู่ นวยั ศกึ ษาเลา่ เรยี น จาเป็ นตอ้ งอา่ นหนังสอื เพอื่ การศกึ ษาหาความรดู ้ า้ นตา่ ง ๆ 2) การอา่ นเป็ นเครอ่ื งมอื ชว่ ยใหป้ ระสบความสาเร็จในการประกอบอาชพี เพราะ สามารถนาความรทู ้ ไี่ ดจ้ ากการอา่ นไปพฒั นางานของตนได ้ 3) การอา่ นเป็ นเครอื่ งมอื สบื ทอดทางวฒั นธรรมของคนรนุ่ ตอ่ ๆ ไป 4) การอา่ นเป็ นวธิ กี ารสง่ เสรมิ ใหค้ นมคี วามคดิ อา่ นและฉลาดรอบรู ้ เพราะ ประสบการณ์ทไ่ี ดจ้ ากการอา่ นเมอ่ื เก็บสะสมเพมิ่ พนู นานวนั เขา้ กจ็ ะทาใหเ้ กดิ ความคดิ เกดิ สตปิ ัญญา เป็ นคนฉลาดรอบรูไ้ ด ้ 5) การอา่ นเป็ นกจิ กรรมทกี่ อ่ ใหเ้ กดิ ความเพลดิ เพลนิ บนั เทงิ ใจ เป็ นวธิ หี นง่ึ ในการ แสวงหาความสขุ ใหก้ บั ตนเองทง่ี า่ ยทส่ี ดุ และไดป้ ระโยชนค์ มุ ้ คา่ ทสี่ ดุ 6) การอา่ นเป็ นการพัฒนาคณุ ภาพชวี ติ ทาใหเ้ ป็ นคนทสี่ มบรู ณท์ ัง้ ดา้ นจติ ใจและ บคุ ลกิ ภาพ เพราะเมอื่ อา่ นมากยอ่ มรมู ้ าก สามารถนาความรไู ้ ปใชใ่ นการ ดารงชวี ติ ไดอ้ ยา่ งมคี วามสขุ 7) การอา่ นเป็ นเครอื่ งมอื ในการพฒั นาระบบการเมอื ง การปกครอง ศาสนา ประวตั ศิ าสตร์ และสงั คม 8) การอา่ นเป็ นวธิ กี ารหนงึ่ ในการพัฒนาระบบการสอื่ สารและการใชเ้ ครอ่ื งมอื ทาง อเิ ล็กทรอนกิ สต์ า่ ง ๆ

จดุ ประสงค์ ภรภิ ทั ร ทศิ ร (2543, น.11) กลา่ วถงึ “จดุ ประสงคข์ จองการอา่ น” ดงั นี้ 1) อา่ นเพอื่ แสวงหาความบนั เทงิ 2) อา่ นเพอื่ แสวงหาความรู ้ 3) อา่ นเพอื่ แสวงหาความคดิ 4) อา่ นเพอ่ื ปรับปรงุ บคุ ลกิ ภาพ ฉววี รรณ คหู าภนิ นั ทน์ (2542, น.23-26) กลา่ วถงึ “จดุ ประสงคข์ องการอา่ น” ดงั น้ี 1) อา่ นเพอื่ อยากรอู ้ ยากเห็นและรับรขู ้ า่ วสารขอ้ มลู ตา่ งๆ 2) อา่ นเพอ่ื แกป้ ัญหา 3) อา่ นเพอื่ ความรแู ้ ละเพอื่ การศกึ ษา 4) อา่ นเพอ่ื คน้ ควา้ และวจิ ัย 5) อา่ นเพอ่ื ปรับปรงุ บคุ ลกิ ภาพ 6) อา่ นเพอ่ื รักษาสขุ ภาพ 7) อา่ นเพอ่ื ปรับปรงุ งานอาชพี 8) อา่ นเพอ่ื ใหเ้ กดิ ความเพลดิ เพลนิ 9) อา่ นเพอื่ แกเ้ หงาหรอื อา่ นเพอื่ ฆา่ เวลา 10) อา่ นเพอ่ื นาไปใชใ้ นชวี ติ ประจาวนั

จดุ ประสงค์ (ตอ่ ) กาญจนา เชอ่ื มศรจี นั ทร์ (ม.ป.ป., ออนไลน)์ การอา่ นจากหนังสอื และสอื่ แตล่ ะ ครัง้ ของแตล่ ะคนจะมจี ดุ มงุ่ หมายแตกตา่ งกนั ออกไป จาแนกไดก้ วา้ งๆ ดงั นี้ 1) การอา่ นเพอื่ หาความรู ้  ไดแ้ ก่ การอา่ นหนังสอื ประเภทตาราทางวชิ าการ สารคดที างวชิ าการ การวจิ ัย ประเภทตา่ งๆ หรอื การอา่ นผา่ นสอื่ อเิ ล็กทรอนกิ ส์  การอา่ นจากหนังสอื ทม่ี สี าระเดยี วกนั ควรอา่ นจากผเู ้ ขยี นหลายๆ คน เพอ่ื เป็ นการ ตรวจสอบความถกู ตอ้ งแมน่ ยาของเนอื้ หา ผอู ้ า่ นจะไดม้ มี มุ มองทก่ี วา้ งขน้ึ มคี วาม รอบรไู ้ ดแ้ นวคดิ ทหี่ ลากหลาย  และไมค่ วรอา่ นเฉพาะในเนอื้ หาวชิ าทตี่ นชอบเทา่ นัน้ ควรอา่ นอยา่ งหลากหลาย เพราะความรใู ้ นวชิ าหนง่ึ อาจนาไปชว่ ยเสรมิ ในอกี วชิ าหนง่ึ ได ้

จดุ ประสงค์ (ตอ่ ) 2) การอา่ นเพอ่ื ความบนั เทงิ  ไดแ้ ก่ การอา่ นหนังสอื ประเภทสารคดที อ่ งเทยี่ ว นยิ าย เรอ่ื งสนั้ เรอื่ งแปล การต์ นู บทประพันธ์ บทเพลง แมจ้ ะเป็ นการอา่ นเพอื่ ความบนั เทงิ แตผ่ อู ้ า่ นจะไดค้ วามรทู ้ ี่ สอดแทรกอยใู่ นเรอ่ื งดว้ ย  การอ่านประเภทน้ีมขี อ้ ควรระวังว่า ปัจจุบันหนังสอื บางชนิดมเี นื้อหาสาระและ รปู ภาพทขี่ ดั ตอ่ วฒั นธรรมและจารตี ประเพณไี ทย ผอู ้ า่ นจงึ ควรพจิ ารณาเลอื กใหด้ ี

จดุ ประสงค์ (ตอ่ ) 3) การอา่ นเพอื่ ทราบขา่ วสาร ความคดิ  ไดแ้ ก่ การอา่ นหนังสอื ประเภทบทความ บทวจิ ารณ์ ขา่ ว รายงานการประชมุ  ขอ้ ควรระวงั ในกาอา่ นประเภทนค้ี อื ผอู ้ า่ นมักเลอื กอา่ นสอ่ื ทส่ี อดคลอ้ งกบั ความคดิ และความชอบของตน จงึ ทาใหป้ ิดกนั้ การรับรแู ้ ละแนวคดิ ดา้ นอน่ื ๆ  ดงั นัน้ ถา้ จะเกดิ ประโยชนอ์ ยา่ งแทจ้ รงิ ตอ้ งเลอื กอา่ นอยา่ งหลากหลาย ไมเ่ จาะจง อา่ นเฉพาะสอ่ื ทน่ี าเสนอตรงกบั ความคดิ ของตน เพราะจะทาใหม้ มี มุ มองทก่ี วา้ งขนึ้ อนั จะชว่ ยใหเ้ รามเี หตผุ ลอนื่ ๆ มาประกอบการวจิ ารณ์ วเิ คราะหไ์ ดล้ มุ่ ลกึ มากขน้ึ

จดุ ประสงค์ (ตอ่ ) 4) การอา่ นเพอ่ื จดุ ประสงคเ์ ฉพาะแตล่ ะครัง้  ไดแ้ ก่ การอา่ นทไ่ี มไ่ ดเ้ จาะจง แตเ่ ป็ นการอา่ นเป็ นครัง้ คราวในเรอ่ื งทต่ี นสนใจ หรอื อยากรู ้ เชน่ การอา่ นประกาศตา่ งๆ การอา่ นโฆษณา แผน่ พับประชาสมั พันธ์ สลากยา การอา่ นสมดุ โทรศพั ทห์ นา้ เหลอื ง การอา่ นขา่ วสงั คม ขา่ วบนั เทงิ ขา่ วกฬี า  การอา่ นประเภทนมี้ ักใชเ้ วลาไมน่ านและไมก่ ระทาทกุ วนั สว่ นใหญเ่ ป็ นการอา่ น เพอื่ ใหค้ วามรแู ้ นะนาไปใช ้ หรอื นาไปเป็ นหวั ขอ้ สนทนา บางครัง้ กเ็ พอ่ื ฆา่ เวลา

การเลอื กหนังสอื ทด่ี สี าหรับอา่ น ปัจจุบันน้ีมหี นังสอื มากมายหลายประเภทใหเ้ ลอื กอ่าน การอ่านหนังสอื เพอื่ ใหเ้ กดิ ประโยชน์แก่ชวี ติ ในทางสรา้ งสรรคแ์ ละดงี าม ผูอ้ ่านตอ้ งรูจ้ ักพจิ ารณาเลือกอ่าน หนังสอื ทดี่ ี และตอ้ งรจู ้ ักหลกั ในการพจิ ารณาเลอื กอา่ นหนังสอื เพอ่ื ใหเ้ กดิ ประโยชน์ และคมุ ้ คา่ แกก่ ารอา่ นมากทสี่ ดุ สมุ นา อนิ ทรค์ านอ้ ย, อรทยั เลยี งจนิ ดาถาวร และมาลี ไชยเสนา (2539, น.18) กลา่ วถงึ “หลกั ในการเลอื กอา่ นหนังสอื ” ดงั นี้ 1) ความคดิ รเิ รมิ่ ของผเู ้ ขยี นในการแตง่ หนังสอื เชน่ มคี วามถกู ตอ้ ง ดงี าม มคี วาม เป็ นธรรม ไมม่ เี จตนามอมเมาใหห้ ลงผดิ 2) มคี วามคดิ รเิ รมิ่ สรา้ งสรรค์ เกดิ ประโยชน์ ยกระดบั จติ ใจผอู ้ า่ น 3) มกี ลวธิ ใี นการแตง่ ทดี่ ี เชน่ การใชภ้ าษา เป็ นตน้ 4) การเลอื กองคป์ ระกอบ เชน่ ภาพ ตาราง แผนที่ เป็ นตน้ 5) พจิ ารณาประโยชน์ เชน่ ความรู ้ ความบนั เทงิ คตธิ รรม ปรัชญา สะทอ้ นสงั คม เป็ นตน้

การเลอื กหนังสอื ทด่ี สี าหรับอา่ น (ตอ่ ) กาญจนา เชอื่ มศรจี นั ทร์ (ม.ป.ป., ออนไลน)์ หนังสอื ดคี วรคา่ แกก่ ารอา่ น ควรมี ลกั ษณะโดยท่วั ไป ดงั นี้ 1) มคี วามคดิ ดี  มคี วามคดิ รเิ รม่ิ และความคดิ สรา้ งสรรค์ ทผ่ี เู ้ ขยี นสอดแทรกไวใ้ นหนังสอื  มงุ่ ใหผ้ อู ้ า่ นรู ้ และเห็นคณุ คา่ ของคณุ ธรรม ความดงี าม ความถกู ตอ้ งและอนื่ ๆ  ผอู ้ า่ นสามารถนาไปปฏบิ ตั ใิ นชวี ติ ประจาวนั ใหเ้ กดิ ประโยชนแ์ ละความสขุ ไดต้ าม ความเหมาะสม 2) มเี นอื้ หาสาระดี  เนอ้ื หาสาระทถี่ กู ตอ้ ง ครบถว้ น สมบรู ณ์ ไมบ่ ดิ เบอื น ยว่ั ยหุ รอื เพอ้ ฝันเกนิ ความจรงิ  มขี อ้ คดิ เห็น ขอ้ เสนอแนะและคตสิ อนใจทเ่ี ป็ นประโยชนแ์ กผ่ อู ้ า่ น 3) มกี ลวธิ ใี นการเขยี นดี  คอื มวี ธิ เี ขยี นเหมาะกบั ประเภทหนังสอื และเนอ้ื หา  การนาเสนอเรอื่ งราว เป็ นลาดบั ขนั้ ตอนดี ชวนใหห้ นา้ สนใจและหนา้ ตดิ ตาม  ใชภ้ าษาในการเขยี นดี กลา่ วคอื ใชภ้ าษาอยา่ งประณตี สละสลวย ไพเราะน่าอา่ น ถกู ตอ้ งตามหลกั ไวยากรณ์ ใชส้ านวนโวหารและถอ้ ยคา เหมาะสมกบั ประเภทของ หนังสอื รวมทงั้ เหมาะสมกบั ผอู ้ า่ นทมี่ วี ยั และความรรู ้ ะดบั ตา่ ง ๆ กนั ดว้ ย

การเลอื กหนังสอื ทด่ี สี าหรับอา่ น (ตอ่ ) 4) มปี ระโยชน์  ใหป้ ระโยชนแ์ กผ่ อู ้ า่ นคมุ ้ คา่ อาจเป็ นประโยชนเ์ พยี งดา้ นหนงึ่ หรอื หลายๆ ดา้ นดงั น้ี 4.1) ความรู ้ คอื ใหร้ ูใ้ นเรื่องที่ผูอ้ ่านไม่เคยรู ้ หรือไดร้ ูม้ ากขนึ้ จากที่เคยรู ้ ความรทู ้ ไ่ี ดจ้ ากการอา่ นนัน้ อาจเป็ นความรทู ้ วั่ ไป หรอื ความรเู ้ ฉพาะดา้ นก็ได ้ 4.2) ความเขา้ ใจ คอื เขา้ ใจในสงิ่ ทสี่ งสัย ซง่ึ เกดิ จากการนาความรูเ้ ดมิ มา ประยกุ ตเ์ ขา้ กบั ความรใู ้ หมท่ ไ่ี ดร้ ับ แลว้ นามาทบทวนโดยใชว้ จิ ารณญาณ ใหเ้ กดิ ความ เขา้ ใจชดั และลมุ่ ลกึ สามารถนาไปเป็ นแนวทางในการดารงวถิ ชี วี ติ ได ้ 4.3) ความเพลิดเพลนิ คือไดร้ ับความพึงพอใจ ความเพลิดเพลนิ และ ความสขุ ใจจากการอา่ น

การเลอื กหนังสอื ทดี่ สี าหรับอา่ น (ตอ่ ) ผูอ้ ่านแต่ละคนจะเลือกอ่านหนังสือต่างกันไป ทัง้ น้ีขนึ้ อยู่กับความสนใจ และ จดุ มงุ่ หมายในการอา่ นของผอู ้ า่ น อยา่ งไรกต็ าม ผอู ้ า่ นควรมแี นวทางในการพจิ ารณา เลอื กหนังสอื อา่ นเพอ่ื ใหเ้ กดิ ประโยชนต์ อ่ ตนเองมากทสี่ ดุ โดยพจิ ารณาดงั นี้ 1) ตาราวชิ าการและหนงั สอื อา้ งองิ ทางการศกึ ษา  เป็ นหนังสอื ทผี่ แู ้ ตง่ มจี ดุ มงุ่ หมายใหค้ วามรดู ้ า้ นวชิ าการโดยตรง ทงั้ นอ้ี าจจะเสนอ ทฤษฎเี นอ้ื หาสาระอยา่ งกวา้ ง ๆ หรอื เฉพาะดา้ นใดดา้ นหนง่ึ มดี งั น้ี 1.1) พจิ ารณาชอื่ เรอื่ ง หนังสอื มเี น้ือหาอย่างเดยี วกันอาจจะมผี ูเ้ ขยี นไวห้ ลายเล่ม บางเล่มอาจจะตัง้ ชอื่ ไวก้ ลาง ๆ ทาใหเ้ ขา้ ใจง่ายแต่อาจจะซ้ากันได ้ ผูอ้ ่านตอ้ ง ตรวจดูสารบัญเพื่อหาเล่มที่มีขอ้ มูลตามที่ตอ้ งการ แต่ถา้ หนังสือระบุชื่อเร่ือง เฉพาะเจาะจงลงไปก็จะชว่ ยใหผ้ ูอ้ ่านตัดสนิ ใจเลอื กหนังสอื ทตี่ รงกับความรู ้ ความ ตอ้ งการไดเ้ ร็วขนึ้ 1.2) พจิ ารณาชอื่ ผูแ้ ต่ง ผูแ้ ต่งทม่ี ชี อ่ื เสยี งเกยี รตคิ ุณไดร้ ับการยกย่องจากวงการ หนังสอื สว่ นมากจะพยายามสรา้ งสรรคผ์ ลงานทมี่ คี ณุ คา่ เพอ่ื รักษาชอื่ เสยี งของตน การเลือกอ่านหนังสือ ของผูแ้ ต่งที่มีช่ือเสียง ไดร้ ับการยกย่องในวงการหรือ สาขาวชิ านัน้ ๆ จงึ มักเชอื่ ถอื ได ้

การเลอื กหนังสอื ทดี่ สี าหรับอา่ น (ตอ่ ) 1.3) พจิ ารณาองคป์ ระกอบของหนังสอื ไดแ้ ก่ สว่ นเนอ้ื หาและสว่ นชว่ ยคน้ ควา้ โดย สว่ นเนอ้ื หาสามารถพจิ ารณาจากสารบญั เพอ่ื ดกู ารลาดบั เนอ้ื หาวา่ เป็ นระบบหรอื ไร ้ ระบบ ความคดิ และการเรยี บเรยี งไมช่ ดั เจน ก็ไมค่ วรเลอื กอา่ น และสว่ นชว่ ยคน้ ควา้ พจิ ารณาจากเชงิ อรรถ บรรณานุกรม ดชั นี ภาคผนวก ประวตั ผิ แู ้ ตง่ และประวตั กิ าร พมิ พ์ หากหนังสอื เลม่ ใดมสี ว่ นชว่ ยคน้ ควา้ มากยอ่ มทาใหข้ อ้ มลู น่าเชอ่ื ถอื ผอู ้ า่ นจะได ้ รายละเอยี ดของขอ้ มลู มากพอตามความประสงคแ์ ละชว่ ยใหผ้ อู ้ า่ นเขา้ ใจ เนอ้ื หาไดง้ า่ ย ขน้ึ ชดั เจนขน้ึ 1.4) พจิ ารณาการใชภ้ าษา ผอู ้ า่ นควรอา่ นตวั อยา่ งสกั ๒ - ๓ หนา้ เพอ่ื สงั เกตวธิ กี าร เขยี น และการใชภ้ าษาวา่ เหมาะสมกบั แขนงวชิ านัน้ ๆ หรอื ไม่ นอกจากนค้ี วรพจิ ารณา ความถกู ตอ้ งของการสะกดคา การเวน้ วรรคตอน และการใชภ้ าพประกอบดว้ ย เพราะ สง่ิ เหลา่ นจี้ ะชว่ ยใหอ้ า่ นเขา้ ใจเรอื่ งไดด้ ขี นึ้ 1.5) พจิ ารณารปู เลม่ ผอู ้ า่ นควรเลอื กเลม่ ทส่ี มบรู ณ์ โดยการสารวจลกั ษณะของรปู เลม่ ตงั้ แตห่ นา้ ปก ใบรองปก คานา และสารบญั แลว้ พลกิ ดเู นอื้ หาขา้ งในอยา่ รวดเร็ว หาก พบขอ้ บกพรอ่ งก็ไมค่ วรเลอื กซอ้ื หรอื เลอื กอา่ น เพราะอาจไมไ่ ดข้ อ้ มลู ครบถว้ นตามที่ ตอ้ งการ

การเลอื กหนังสอื ทดี่ สี าหรับอา่ น (ตอ่ ) 2) สารคดี  สารคดี เป็ นหนังสอื ทม่ี เี นอ้ื หาสาระใหค้ วามรู ้ ความคดิ และเป็ นขอ้ เท็จจรงิ ไดแ้ ก่ หนังสอื ตาราวชิ าการต่างๆ ชวี ประวัติ สถานที่สาคัญ สถานทท่ี ่องเท่ียว การเมอื ง การศกึ ษา เป็ นตน้ หลกั ทค่ี วรใชพ้ จิ ารณาในการเลอื กอา่ นสารคดี มดี งั นี้ 2.1) พจิ ารณาชอื่ เรอื่ ง ควรมขี อบเขตพอเหมาะ เป็ นการประมวลความรเู ้ ฉพาะเรอ่ื งไม่ กวา้ งจนเกนิ ไป 2.2) พจิ ารณาเนอื้ หา จะตอ้ งถกู ตอ้ ง สมบรู ณ์ และเสนอความคดิ เหน็ ทเ่ี ป็ นประโยชน์ ตอ่ ผอู ้ า่ นและสงั คม 2.3) พจิ ารณาวธิ เี ขยี น วา่ มวี ธิ กี ารดาเนนิ เรอ่ื งตามลาดบั ขนั้ ตอน ใหข้ อ้ มลู ชดั เจน ใช ้ สานวนภาษาไพเราะ งดงาม สภุ าพ กะทดั รัด เขา้ ใจงา่ ย 2.4) พจิ ารณาภาพประกอบ ภาพประกอบเป็ นสงิ่ จาเป็ นสาหรับหนังสอื สารคดอี ยา่ ง มาก เพราะการดรู ปู ภาพจะน่าสนใจมากกวา่ การอา่ นเรอื่ งราวเพยี งอยา่ งเดยี ว รปู ภาพ ตอ้ งตรงหรอื สอดคลอ้ งกบั เนอ้ื เรอ่ื ง แตก่ ไ็ มค่ วรมรี ปู ภาพมากเกนิ ไป 2.5) พจิ ารณารปู เลม่ สารคดมี ที ัง้ ทเ่ี ป็ นรปู เลม่ และตพี มิ พอ์ ยใู่ นนติ ยสาร วารสาร และเอกสารทว่ั ไป หากเป็ นเลม่ ควรเลอื กรปู เลม่ ทม่ี ขี นาดกะทัดรัด ไมห่ นาเกนิ ไป การ เขา้ เลม่ มน่ั คงทนตอ่ การใช ้ และการเกบ็ รักษา

การเลอื กหนังสอื ทด่ี สี าหรับอา่ น (ตอ่ ) 3) บนั เทงิ คดี  เป็ นหนังสอื ทมี่ งุ่ ใหผ้ อู ้ า่ นเกดิ ความสนุกสนานเพลดิ เพลนิ เป็ นสาคญั ไดแ้ ก่ นทิ าน เรอ่ื งสนั้ นวนยิ าย บทละคร การต์ นู เรอ่ื งขาขนั เป็ นตน้ ควรเลอื กอา่ นดงั น้ี 3.1) พจิ ารณาโครงเรอื่ งและเนอ้ื เรอ่ื ง ควรเป็ นเรอ่ื งทเี่ กดิ ขนึ้ ไดจ้ รงิ เหตกุ ารณ์ทเ่ี กดิ ขน้ ในเนอ้ื เรอ่ื งควรเป็ นไปอยา่ งสมจรงิ และสมเหตสุ มผล 3.2) พจิ ารณาการดาเนนิ เรอื่ ง ควรดาเนนิ เรอ่ื งอยา่ งเรยี บงา่ ย เป็ นไปอยา่ งรวดเร็ว ขนาดของเรอ่ื งไมย่ าวเกนิ ไป 3.3) พจิ ารณาตวั ละครในเรอื่ ง ควรใชต้ วละครนอ้ ย และมคี วามสาคญั จรงิ ๆ ลกั ษณะ นสิ ยั ของตวั ละครควรมคี วามสมจรงิ 3.4) พจิ ารณาฉากของเรอ่ื ง ควรแสดงใหเ้ ห็นชดั เจน สมจรงิ หรอื คลา้ ยคลงึ กบั สภาพ ความเป็ นจรงิ 3.5) พจิ ารณาแนวคดิ ของเรอื่ ง ควรเสนอแนวคดิ ของตวั ละครตวั เดยี ว เป็ นแนวคดิ ที่ ชดั เจนแจม่ แจง้ 3.6) พจิ ารณาการใชภ้ าษา สานวนภาษาทใ่ี ชค้ วรสละสลวย เขา้ ใจงา่ ย สามารถสรา่้ ง อารมณ์และความรสู ้ กึ ไดด้ ี หากเป็ นบทสนทนาภาษาทใ่ ชค้ วรสมจรงิ และเหมาะสมกบั ตวั ละคร ทม่ี า: กาญจนา เชอ่ื มศรจี นั ทร.์ “การเลอื กอา่ นหนังสอื ” จากhttp://www.thaigoodview.com/library/ teachershow/utaradit/kanjana-c/thailand01/sec04p01.html

การเลอื กหนังสอื ทด่ี สี าหรับอา่ น (ตอ่ ) ศวิ กานท์ ปทมุ สตู ิ (2540, น.19-20) พจิ ารณาวธิ เี ลอื กอา่ นหนังสอื ดงั น้ี 1) เลอื กหนังสอื ทมี่ สี าระเรอื่ งราวตรงกบั ความตอ้ งการหรอื ความจาเป็ นทต่ี อ้ งอา่ น 2) เลอื กหนังสอื ทด่ี มี คี ณุ ลกั ษณะ ดงั นี้ 2.1 หนังสอื ทเี่ ป็ นทย่ี อมรับกนั โดยทั่วไปแลว้ วา่ ดี 2.2 หนังสอื ทม่ี กี ระแสวพิ ากษ์วจิ ารณ์อยา่ งกวา้ งขวางวา่ ดี 2.3 หนังสอื ทไี่ ดร้ ับรางวลั สาคญั ๆ ในการประกวดขององคก์ รทม่ี คี ณุ ภาพ 2.4 หนังสอื ซงึ่ เขยี นโดยนักเขยี นทม่ี คี ณุ ภาพเป็ นทยี่ อมรับของแวดวงนักอา่ น 2.5 หนังสอื ทม่ี คี ณุ คา่ ดพี รอ้ มทกุ ดา้ น ไดแ้ ก่ ดา้ นเนอ้ื หา ดา้ นความคดิ ดา้ น กลวธิ ี ดา้ นทางภาษา ดา้ นรปู แบบและการนาเสนอ 2.6 หนังสอื ทไี่ ดร้ ับการยอมรับศกึ ษาสบื ทอดกนั มาทกุ ยคุ ทกุ สมัย 2.7 เลอื กหนังสอื ทจี่ ะไมโ่ นม้ นาไปในทางเสอื่ มทงั้ ปวง


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook