Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore 17การเลี้ยงโคนม นางคำผา ชุ่มกิ่ง

17การเลี้ยงโคนม นางคำผา ชุ่มกิ่ง

Published by artaaa142, 2019-05-09 08:22:42

Description: 17การเลี้ยงโคนม นางคำผา ชุ่มกิ่ง

Search

Read the Text Version

วิธกี ารหยดุ รีดนมแม่โค ในการหยดุ รีดนมแม่โคโดยเฉพาะแมโ่ คทเี่ คยให้นมมาก ๆ ควรจะตอ้ งระมัดระวังในการหยุดรดี เพราะ อาจจะทาใหเ้ กิดโรคเตา้ นมอกั เสบไดโ้ ดยง่าย วิธกี ารหยุดรดี ควรทาแบบค่อยเปน็ ค่อยไป กล่าวคือในข้ันต้น อยา่ รดี ให้นา้ นมหมดเต้าเลยทีเดียว ในช่วงแรก ๆ ควรคอ่ ย ๆ ลดอาหารข้นลงบ้างตามสว่ น แล้วต่อไปจึง เร่มิ ลด จานวนคร้ังท่รี ดี นมในวันหนึ่ง ๆ ลงมา ลงเป็นวนั ละคร้ัง ต่อมาจึงรดี เวน้ วนั และต่อมาก็เว้นชว่ งให้นาน ขึ้น จนกระทงั่ หยุดรีดนมในทีส่ ดุ ซง่ึ ปกตโิ ดยทัว่ ๆ ไป จะใชเ้ วลาประมาณ 15-30 วนั และในขณะท่ีหยดุ พัก รดี นม น้ีจะต้องหม่นั สงั เกตเต้านมอยู่เสมอ ถ้าปรากฏวา่ บวมแดงหรอื อักเสบต้องรีบตามสัตวแพทยม์ าช่วย รักษา และ ต้องหวนกลับมารีดนมตามเดิมไปก่อนถ้าไม่มีโรคแทรกแล้ว เต้านมของแมโ่ คทพ่ี ักการใหน้ ม ใหม่ ๆ โดยทัว่ ไปก็ จะคัดเตา้ อย่สู กั ระยะหนึ่งแลว้ จงึ ค่อย ๆ ลีบเล็กลงไปในท่สี ุด ปญั หาทพี่ บบอ่ ยในการรดี นม ถ้ารวู้ ่าโคตัวใดเป็นโรคเต้านมอกั เสบทาใหก้ ารรีดหลังโคตัวอ่นื ๆ เพื่อปอ้ งกันการกระจายของโรคและ ควรรดี เต้าทอี่ ักเสบทหี ลังสุด และให้ระวังการเชด็ ลา้ งเต้านม ถ้าโคตวั ใดเปน็ แผลหรอื เป็นฝีทหี่ ัวนม ขณะที่ทา การรดี นมแม่โคอาจแสดงอาการเจ็บปวด อาจทาร้าย คนรีดไดใ้ นกรณีเวลารีดควรแตะตอ้ งแผลให้น้อยท่ีสดุ และควรรีบจดั การรักษาใสย่ าหรือใชข้ ีผ้ ้งึ ทา หลงั รีดนม เสร็จแลว้ ควรล้างมือให้สะอาดด้วยถ้ามโี คตัวใดนมร่วั ซึง่ เกิดจากเต้านมคดั ซึ่งเป็นเพราะกล้ามเนื้อวงแหวนที่รัดรูหวั นมไม่แข็งแรงพอ หรือค่อนข้างเสอื่ มสมรรถภาพ กรณที ี่ไม่มีแนวทางแก้ไขอาจใชจ้ กุ ปดิ หรอื อดุ รูหวั นมหรือใช้วธิ ีรดี นมให้ถ่ีขน้ึ ก็ไดถ้ ้าพบวา่ แม่โคบางตวั ให้ น้านมทมี่ ีสีผิดปกตเิ กิดขนึ้ กล่าวคือนา้ นมอาจเปน็ สีแดงหรือมีสเี ลอื ดปนออกมา ซ่ึงอาจเป็นเพราะเส้นเลือดฝอย ในเตา้ นมแตก ซง่ึ ไมเ่ ป็นอันตรายใด ๆ จะค่อย ๆ หายไปเองในไม่ช้า นา้ นม ที่ไดค้ วรนาไปใหล้ กู โคกินไมค่ วร บริโภคถ้าพบวา่ แมโ่ คตัวใดเตะเก่ง ขณะทาการรีดจะต้องใช้เชือกมัดขา ซ่ึงควรค่อย ๆ ทา การฝึกหัดให้เคยชิน โดยไมต่ อ้ งใชเ้ ชอื กมดั เพราะวิธกี ารมัดขารดี นมไม่ใช่เป็นวิธีการที่ดจี ะทาให้ววั เคยตัว การเล้ียงลูกโคนม ในธุรกจิ โคนม ลกู โคตัวเมียที่เกิดในฟาร์มถือได้ว่าคอื อนาคตของฟาร์มโดยเฉพาะในเมื่อผเู้ ล้ียงท่ี เขา้ ใจการปรบั ปรุงพนั ธแ์ุ ละได้ใชน้ า้ เชอ้ื พ่อพันธ์ุที่มีคุณค่าทางพนั ธกุ รรมสูง ๆ ผสมกับแม่ในฝูง เมื่อได้ลูกออก มาแล้วหน้าท่ีของผเู้ ล้ียงก็อยู่ที่ว่าทาอย่างไรใหเ้ ลีย้ งรอดและมีอัตราการเจรญิ เติบโตเป็นไปตามเกณฑ์ไมแ่ คระ แกร็น ขอ้ ปฏิบตั ิที่กล่าวถึงต่อไปน้เี ปน็ เกณฑท์ ี่ใชป้ ฏบิ ตั ใิ นฟาร์มใหญ่และมเี ป้าหมายลดต้นทุนการผลิต โดยเฉพาะการหย่านมได้กาหนดไวท้ ่ี 4 สัปดาห์หรือ 1 เดือน ซ่งึ ถือได้ว่าเร็วกวา่ ท่ีเคยถือปฏิบัติกนั อยู่ทว่ั ไป ซ่ึงจะหย่านมประมาณ 2 เดือนข้ึนไป แรกเกดิ - 24 ชม. แยกลูกออกจากแมท่ นั ทีเช็ดตัวให้แห้งจมุ่ สายสะดือด้วยยาทงิ เจอร์ไอโอดนี (ขององค์การเภสชั ฯใชไ้ ด)้ รดี นมแม่โค นมแมโ่ คหลังคลอดจะมีสีค่อนข้างคลา้ ขน้ และคาวกวา่ นมปกติ เรยี กว่า นมเหลอื ง คณุ สมบตั ิ พเิ ศษของนมเหลอื งคือ มภี มู ิคมุ้ กนั โรคไม่อยมู่ าก โดยเฉพาะในนมเหลืองที่รดี ม้อื แรกหลังคลอดเพราะในมื้อ ตอ่ ๆ ไปภูมิคมุ้ กนั ทม่ี ีอยู่จะลดลงไปเรื่อย ๆ อันเนื่องจากนมที่ถูกสร้างออกมาใหม่ไปเจือจางภมู คิ มุ้ กันจึงขอ

เรียกนมต้ังแต่ม้ือท่สี องไปว่า นมหลงั คลอด เม่ือรีดนมเหลืองแล้วรบี นาไปเล้ยี งลูกโคทนั ทโี ดย มือ้ แรกพยายาม ให้ลกู โคกินนมเหลืองให้ได้ 2 ลิตร การเลี้ยงนมกระทาได้ 2 วิธีคอื 1. ใส่นมในถังแล้วหลอกใหล้ ูกโคดูดน้ิวกลางและน้วิ ชขี้ องผู้เลย้ี งทีจ่ มุ่ อยใู่ ต้น้านมหรือ 2. ขวดนมเลีย้ งลูกโคขนาด 2 ลติ ร ซึง่ มีขายตามร้านขายอุปกรณเ์ ลี้ยงสตั ว์ การทใี่ หแ้ ยกลกู ออกจากแมโ่ คทนั ทหี ลังคลอดเพ่ือจะได้แน่ใจในปรมิ าณนมเหลืองทีล่ ูกได้กนิ หลัง จากน้ันภายใน 24 ชม. หลังคลอดใหจ้ มุ่ สายสะดืออีกครัง้ หนง่ึ และให้นมเหลืองอีก 4 ลิตร เช่น อาจจะแบง่ ให้ ครง้ั ละ 2 ลิตรที่ 12 และ 24 ชม.หลงั คลอด นมเหลอื งถ้ามเี หลอื ใหแ้ ชแ่ ขง็ ไว้ในตู้เย็น ถ้ามากพอควรจะแบง่ แช่บรรจถุ ุง ๆ ละ 2 ลิตร สามารถเกบ็ ไว้ไดน้ าน 6 เดือน สาหรับใหล้ ูกโคตัวอน่ื กนิ ได้ การนานมเหลืองแช่ แขง็ มาละลายควรจะคอ่ ย ๆ ละลายหรอื จะละลายนา้ อุ่น (500C) โดยไม่ไปกระทบกระเทอื นก็ได้ แต่ห้ามตม้ การทก่ี าหนดให้ลูกกินนมเหลืองให้ไดม้ ากในวนั แรกนี้เพราะการดูดซมึ ภูมิคุ้มกันโดยลาไส้ของลูกดมี ากในวนั แรก หลังจากนั้นจะดูดซึมได้น้อยลง และลกู โคที่ไม่ได้กนิ นมเหลืองอตั ราการตายจะสงู มาก วันที่ 2 - 10 เริ่มเล้ียงดว้ ยนมหลังคลอดโดยพยายามให้กนิ ได้ อยา่ งน้อยทีส่ ดุ 10% ของน้าหนักตวั โดยกาหนดให้ กนิ 4-6 ลติ รแล้วแตข่ นาดของลกู โค โดยแบ่งใหเ้ ชา้ เยน็ ในชว่ งน้ีเม่ือหมดนมหลังคลอดแล้วก็สามารถทาให้กิน นมปกตแิ ทนไดเ้ ลย โดยภายในวันที่ 10 ให้กินใหไ้ ด้ในเกณฑ์ 6 ลิตร การใช้ นมเทยี ม เลี้ยงลกู โคสามารถ ใช้ไดใ้ นช่วงหมดนมหลงั คลอดแลว้ โดยให้ในปรมิ าณคร่ึงหนึ่งก่อนในวนั แรกก่อนเปลย่ี น ขอ้ สงั เกตเรอ่ื งการใช้ นมเทยี มเล้ยี งลูกวัวในยคุ นี้คอื ราคาน้านมดบิ พอ ๆ กบั ราคานมเทียมและในอดีตนมเทยี มมามีบทบาทในการใช้ เลี้ยงลกู โคเพราะถูกกว่านมดิบมากจงึ เปน็ การลดต้นทนุ แตม่ ิไดด้ ีกว่าน้านมดบิ เพราะฉะนน้ั ถา้ ราคาใกลเ้ คียง กันและเล้ยี งไม่ก่ตี ัว การใช้น้านมดิบเล้ียงลกู โคจึงเหมาะสมและสะดวกกวา่ ในช่วงวันที่ 3 - 4 หลงั คลอด เรมิ่ ใหล้ กู โคหดั กินอาหารข้นสูตรลูกโค (คาล์ฟสตาร์ตเตอร์) ซ่ึงควรจะมี โปรตีนประมาณ 20% วันละประมาณ 1 กามือแลว้ ค่อย ๆ เพิม่ วนั ที่ 10 - หย่านม รักษาปริมาณนมท่ีลกู กนิ ใหไ้ ด้ 6 ลติ ร/ตวั /วัน เพมิ่ อาหารข้นให้กนิ เต็มท่ีโดยคอ่ ย ๆ เพ่ิมการใหต้ ่อวนั วันละ 2-3 คร้ัง เพื่อกระตนุ้ การกินและมนี า้ สะอาดให้กนิ เต็มท่ี หยา่ นม จะหย่านมลกู โคเมื่ออายุอย่างน้อยทีส่ ุด 4 สปั ดาห์ และต้องแนใ่ จว่าลูกโคมสี ุขภาพแข็งแรง และกิน อาหารข้นได้ในเกณฑ์ 1-1.5 กก. แล้วเท่านั้น การหย่านมให้ค่อย ๆ ลดใน 2-3 วัน ในชว่ งน้ีหา้ มเคลอื่ นย้าย เปลี่ยนทอ่ี ยหู่ รือทาใหล้ กู โคเครียดในระยะ 3-4 วนั ก่อนและหลงั หย่านมจะตอ้ งดแู ลอยา่ งใกลช้ ดิ โดยเฉพาะ อย่างย่งิ การกินอาหารของลูกโค

หลงั หยา่ นม ตง้ั แตแ่ รกเกิดจนถึงหยา่ นมในการเลย้ี งฟาร์มใหญม่ ักจะใหล้ ูกโคอยูใ่ นกรงเด่ยี วยกพนื้ ซ่ึงดีในแง่การ ดแู ลและถูกสขุ ลกั ษณะ ส่วนในระดบั เลก็ เลี้ยงโคไม่กีต่ วั การใชเ้ ชือกผูกคอหลวม ๆ ล่ามตามใต้ถนุ บ้านย่อมไม่ ผิดกติกาอันใดในฟาร์มขนาดใหญห่ ลังหยา่ นมแลว้ จะเลยี้ งในคอกขงั รวม คอกละ 8-10 ตัว ให้มพี นื้ คอก ประมาณ 2 ตารางเมตรตอ่ ตัว และมีแปลงหญ้าหรือลานดินท่ลี ูกโคออกไปเดินเล่นได้โดยมพี ืน้ ที่อยา่ งน้อย 20 ตารางเมตรต่อตวั อาหารข้นพยายามให้กนิ ไดใ้ นเกณฑ์ตวั ละ 2 กก.ต่อวัน โดยความยาวของรางอาหารประมาณ 40 ซม.ต่อตัวในแง่ของอาหารหยาบเร่มิ ให้ลกู โคเรม่ิ กนิ หลงั หย่านมแลว้ วันละเลก็ นอ้ ยโดยใช้ หญ้าแห้งคณุ ภาพดี ควรจะเก่ยี วหญ้าออ่ นคณุ ภาพดี (มถี ่ัวอาหารสัตว์ปนยิง่ ดีตากผง่ึ แหง้ เกบ็ ใส่กระสอบไวส้ าหรับเลี้ยงลูกโค โดยเฉพาะ) เมอ่ื ลูกโคเรมิ่ กนิ ดีข้นึ แล้ว คอ่ ย ๆ เพิ่มเปลี่ยนเป็นหญ้าสดและควรเปน็ หญา้ สดคุณภาพดีความเอา ใจใส่ในเรือ่ งคณุ ภาพของหญา้ และเพิ่มอาหารขน้ เสรมิ เมื่อหญา้ คุณภาพไม่ดีจะทาใหล้ กู โคเหลา่ นเี้ จรญิ เติบโตดี และได้นา้ หนักและโครงร่างทีเ่ หมาะสมกบั เวลาท่ีจะเริ่มผสมพันธุ์ โดยเฉพาะพนั ธข์ุ าวดาควรจะอย่างน้อยทส่ี ดุ 300 กก. และมีอายุ 18-21 เดอื น สว่ นโคลูกผสมในบ้านเราควรจะให้ไดน้ ้าหนักอย่างน้อยทีส่ ุด 250 กก. การให้อาหารลูกโคกาลงั เจริญเตบิ โตกอ่ นวัยผสมพนั ธ์ุมีขอ้ ต้องระวงั 2 อยา่ งคือ หา้ มผอม ประการ หนงึ่ การทผ่ี อมลงแสดงว่าอาหารไมพ่ อจนโคต้องดงึ โภชนะในรา่ งกายมาใช้ ซ่งึ สวนทางกับความต้องการ (เจริญเตบิ โต) และ ห้ามอว้ น อกี ประการหนง่ึ สว่ นใหญก่ ารอว้ นของโคสาวเกิดจากการทใ่ี ห้อาหารข้นมาก เกนิ ไป โดยเฉพาะอยา่ งยง่ิ การเสรมิ มนั เส้นให้กินต่อวนั มากเกนิ ไปซ่ึงจะไปเร่งการสะสมไขมนั การสะสมไขมัน มาก ๆ หรือการทโ่ี คสาวอ้วนมากนี้ ไขมันจะไปสะสมอยใู่ นเตา้ นมมากซ่ึงจะขดั ขวางและแยง่ เนื้อที่การเจริญ และขยายตัวของระบบท่อนมในเต้านมซงึ่ จะสง่ ผลให้มีเน้ือเยื่อกล่นั สรา้ งนา้ นมน้อยลงไปในทีส่ ดุ กจิ กรรมอื่น ๆ เชน่ การตดั หัวนมเกินและการตดั เขาสาหรับเกษตรกรท่ไี ม่เคยผ่านการฝกึ อบรมหรือ ฝกึ หัดมาก่อนขอใหป้ รึกษาสัตวแพทยใ์ นเขตของทา่ น โรคของลูกโค ท้องพองลม เกดิ จากความผดิ ปกตใิ นการย่อยถ้าเปน็ มากใหล้ ดอาหารขน้ แล้วช่วยโดยการสอดสาย ยางขนาดเสน้ ผ่าศนู ย์กลาง 1 ซม. ทางปากผ่านลาคลองไปช่วยระบายกา๊ ซในกระเพาะออก การจูงลูกโคเดิน ไปมาจะช่วยในการเคล่ือนตวั ของกระเพาะและช่วยทาให้เรอก๊าซออกมาไดบ้ ้าง สะดืออกั เสบและขอ้ บวม การตดิ เชือ้ ทางสะดือเป็นสะดืออกั เสบแล้วเช้อื สามารถผา่ นเข้าไปในระบบ น้าเหลืองและเกดิ การตดิ เชื้อตามข้อได้ ปอดบวม (นวิ มอเนีย) นับวา่ เป็นโรคทที่ าให้ลกู โคตายเป็นปรมิ าณสูงสุดเกิดจากการติดเชอ้ื ซงึ่ การ ติดเชอ้ื จะมากในสภาพโรงเรือนท่ีมฝี ่นุ มาก อากาศหนาวเย็น เนอื่ งจากลมโกรกมากไปพ้ืนแฉะ อับชน้ื ลกู โค จะมีการตดิ เชื้อมากในช่วงหลังหย่านมไปจนถึง 5-6 เดือน ลูกโคท่ีติดเชอ้ื จะมีอาการไอพรอ้ มกบั มีน้ามูกสีขาว ปนเหลอื งไหลและตามนี ้าตาชุ่มมาก ส่วนมากจะมีไขส้ ูง (มากกวา่ 410C) ปกติลูกโคที่เปน็ ปอดบวมมักจะ ตายแมจ้ ะไดร้ ับการฉดี ยาแก้ไข

แต่วิธที ีด่ ที ีส่ ุดคือ การปอ้ งกันดว้ ยการรักษาสภาพภายในโรงเรอื นหรอื ทเี่ ล้ียงลกู โคให้มกี ารระบาย อากาศดี ไมเ่ ปน็ ฝุน่ ไม่อบั ชื้น การท่ีภายในโรงเรอื นมีกล่ินเหมน็ ฉุนของปัสสาวะแสดงถึงการระบายอากาศใน โรงเรอื นไมด่ ี ท้องร่วง เมื่อมีอาการท้องรว่ ง อุจจาระไหล ควรจะหยุดนม 1-2 มอ้ื แล้วใหน้ มเกลือแทนโดยผสมน้า (ตม้ เดือดทง้ิ ใหเ้ ยน็ ) กบั เกลือแรผ่ ง (สาหรับคนขององค์การเภสัชฯ) และให้ยาเคโอเพกติน (ขององคก์ ารเภสัช) 1-2 ช้อนชา เม่อื อุจจาระหายเหลวแล้วจึงค่อยเร่ิมนมทีละน้อยได้ควรจะจางนมด้วยน้าเกลอื คร่ึงต่อครึ่งแลว้ คอ่ ยปรับเพิ่มใหเ้ ปน็ ปกติ อตุ สาหกรรมนม น้านมดบิ สามารถนามาแปรรูปเป็นผลติ ภณั ฑน์ มไดห้ ลายอย่าง เช่น นมสดพาสเจอไรซ์ นมสด สเตอริไลซย์ เู อชที ครีม เนยเหลว เนยแขง็ ไอศกรมี นมเปร้ยี ว นมข้น นมขน้ หวาน หางนมขน้ หวาน นมผง หางนมผง น้านมคนื รูปเวย์ (whey) ฯลฯ ซง่ึ โรงงานนมในประเทศไทย สามารถผลิตไดเ้ ป็นสว่ นใหญ่ แตบ่ าง แห่งยงั ใชน้ มผง หรอื หางนมผงจากตา่ งประเทศมาเปน็ วตั ถุดบิ ผลติ ภัณฑบ์ างอยา่ งไมอ่ าจผลติ ได้ ภายในประเทศ เพราะตน้ ทุนการผลิตค่อนขา้ งสงู เมื่อเทยี บกบั ตา่ งประเทศ ข้นั ตอนการผลิตผลิตภณั ฑน์ มมักประกอบ ดว้ ยการทาให้น้านมเยน็ ลง การแยกไขมนั ออกมา การ กาหนดอัตราส่วนของไขมัน การลดขนาดอนภุ าคของไขมนั การฆา่ เชือ้ แบบปาสเตอร์ (pastuerisation) และ การนาอากาศออกไปจากนา้ นม ทั้งน้ี ทกุ โรงงานต่างตระหนักวา่ วัตถดุ ิบทน่ี าเข้ามาแปรรูป ตอ้ งมีคณุ ภาพสูง เพ่อื ให้ได้ผลติ ภัณฑน์ มที่มีคุณภาพ และต้องมีการแปรรปู ที่มปี ระสิทธิภาพเพอ่ื รักษาสารอาหารทีม่ ีอยู่ในน้านม เช่น โปรตนี ไขมัน แล็กโทส เกลอื แร่ และวิตามนิ เป็นตน้ สหกรณโ์ คนมวังนา้ เย็น จากัด กอ่ ตงั้ ขึ้นเพ่ือดาเนนิ กจิ กรรมส่งเสรมิ การเล้ียงโคนม โดยการนาของนายอานวย ทงก๊ก รวบรวมกลุม่ ของเกษตรกรทเี่ พาะปลูกพืชไร่ซึ่งประสบปญั หาราคาผลผลติ ตกต่ามากและยังถูกเอารัดเอาเปรยี บจากพ่อคา้ คนกลาง หันมาประกอบอาชีพการเลยี้ งโคนมทดแทนการปลกู พืชไร่ และไดร้ ับจดทะเบียนจัดต้ังเป็นสหกรณ์ ข้นึ เม่อื วันที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2530 โดยใชช้ ่ือว่า สหกรณโ์ คนมวงั นา้ เย็น จากดั มีสมาชิกแรกเร่ิม 200 ราย โคนม 1,000 ตวั ทนุ เรือนหุ้น 60,000 บาท หลงั จากจดทะเบียนจดั ต้ังสหกรณ์แลว้ นาย อานวย ทงกก๊ ในนามตัวแทนของสหกรณ์โคนมวังน้าเย็น จากัด ไดจ้ ดั ทาสัญญาซ้ือขายน้านมดบิ กับบริษทั โฟรโ์ มสต์ ฟรีสแลนด์ ( ประเทศไทย ) จากดั ซง่ึ มี ฯพณฯ เสนาะ เทยี นทอง รฐั มนตรีชว่ ยว่าการกระทรวง เกษตรและสหกรณ์ในสมัยน้นั ร่วมเป็นสักขพี ยานในการดาเนินงานครั้งน้ี นายอานวย ทงกก๊ ไดส้ ละทีด่ นิ ส่วนตวั จานวน 15 ไร่ 61 ตารางวา ใหก้ บั สหกรณ์โคนมวังนา้ เย็น จากัด เพื่อจัดตงั้ สานกั งานและศูนย์รบั น้านม ดบิ จากสมาชกิ โดยการจัดต้ังสหกรณ์ในครงั้ นี้ จะตอ้ งพิจารณาและมีวิสัยทัศน์กว้างไกล ด้วยวงเงินสงู ถึง 40 ลา้ นบาท ดังนนั้ จงึ มคี วามจาเปน็ ตอ้ งมีการประสานงานในเชงิ บูรณาการทั้งระบบ นับตั้งแต่ทนุ คน

หลักทรพั ย์ แหลง่ ความรู้ในด้านตา่ ง ๆ นายอานวย ทงก๊ก จึงไดข้ อความร่วมไปยงั หนว่ ยงานราชการและ เอกชน ดงั น้ี - ธนาคารเพ่ือการเกษตรกรและสหกรณ์การเกษตร พจิ ารณาคณุ สมบตั เิ กษตรกร สนับสนุนเงินกู้ ตดิ ตาม กากับแนะนา ตรวจสอบ การใช้เงนิ กู้และการมีระเบียบวินัยในการใช้เงนิ ของเกษตรกร รับโอนค่า น้านมดบิ จากบริษทั ใหส้ หกรณใ์ ห้ความรว่ มมือประชาสมั พันธแ์ ละประสานงานกับหน่วยงานทเ่ี กยี่ วข้อง -กรมส่งเสรมิ สหกรณ์ สนบั สนุนช่วยเหลือบุคคลากร ทด่ี นิ เงินทนุ ควบคมุ ดแู ลสมาชกิ ให้ปฏิบตั ิ ตามระเบียบของสหกรณ์ ให้ความรู้ แนะนา รบั ข้อเสนอแนะเพ่ือหาแนวทางแก้ไข ร่วมมือประชาสัมพันธ์ และประสานงานกับหน่วยงานทเ่ี กีย่ วข้อง - กรมปศสุ ตั ว์ วางแผนกาหนดพนื้ ท่ี พจิ ารณาให้ความเห็นชอบเกษตรกรผ้สู นใจการเล้ยี งโคนม ให้ ความรู้และบริการตา่ ง ๆ ทางดา้ นปศสุ ัตว์ จัดระบบมาตรฐานฟาร์มโคนม ดูแล ตรวจสอบคุณภาพนา้ นมดิบ และอาหารสัตวใ์ ห้ไดม้ าตรฐาน รว่ มมือประชาสัมพนั ธ์และประสานงานกับหน่วยงานทเี่ ก่ียวขอ้ ง - สานกั งานเศรษฐกิจการเกษตร สารวจข้อมูลพ้ืนฐานทางดา้ นเศรษฐกิจ - กรมตรวจบญั ชีสหกรณ์ ตรวจสอบบญั ชแี ละให้คาแนะนาในการดาเนินกิจการของสหกรณ์ - สานักงานปฏิรูปท่ีดินเพื่อเกษตรกรรม ออกเอกสารสิทธิ์การถือครอง จัดทาแหล่งน้าในรายท่ี ขาดแคลนและต้องการ - องคก์ ารสง่ เสริมกจิ การโคนมแหง่ ประเทศไทย ฝกึ อบรมใหค้ วามรู้ทางด้านการเล้ยี งโคนม - บรษิ ัทโฟรโ์ มสต์ ฟรสี แลนด์ ( ประเทศไทย ) จากัด รับซ้ือนา้ นมดิบ ใหค้ วามรู้และช่วยเหลอื ทางด้านวิชาการในเร่ืองการเก็บรักษาน้านมดิบให้มคี ุณภาพตลอดจนการดาเนนิ งานของศูนย์รับนมให้เปน็ ไป อย่างมปี ระสทิ ธิภาพ ร่วมถ่ายทอดความรู้ทางด้านวิชาการ ให้ความร่วมมอื ปละประสานงานกบั หนว่ ยงานที่ เกยี่ วขอ้ ง โครงการสง่ เสริมการเล้ยี งโคนมท่ีดาเนนิ การปี 2530 -โครงการในเขตนิคมสหกรณ์วงั นา้ เย็น ระยะที่ 1 (เริ่มก่อตัง้ ) ดาเนนิ การในพ้ืนท่จี ดั นิคมตาบล วงั น้าเย็นและตาบลวงั ใหม่ อาเภอวังนา้ เย็น เกษตรกร 200 ราย โคนม 1,000 ตวั ปี 2535 -โครงการตามแผนพัฒนาจงั หวดั งบสนับสนนุ ภูมภิ าคและท้องถิ่น ดาเนินการในกลุ่มเกษตรกรท่ีสนใจ แต่ขาดเงนิ ลงทนุ บา้ นส่ีแยกไพรจิตร หมู่ที่ 7 ตาบลวงั ใหมแ่ ละหมู่ที่ 7 ตาบลวงั นา้ เยน็ เกษตรกร 30 ราย โคนม 90 ตัว ปี 2536 -โครงการตามแผนพัฒนาจังหวัดงบสนบั สนนุ ภมู ิภาคและท้องถิ่น ดาเนินการในกลุ่ม เกษตรกรทส่ี นใจแต่ขาดเงนิ ลงทุน บ้านคลองหวาย หมู่ที่ 6 ตาบลวงั ใหม่ เกษตรกร 10 ราย โคนม 50 ตวั

ปี 2537 -โครงการตามแผนพฒั นาจงั หวดั งบสนับสนุนภมู ิภาคและท้องถน่ิ ดาเนนิ การในกลุ่ม เกษตรกรทส่ี นใจแต่ขาดเงนิ ลงทนุ บา้ นวังจาปี ตาบลวังนา้ เยน็ อาเภอวังนา้ เยน็ และบ้านซับตะเคียน ตาบล ซบั มะกรดู อาเภอคลองหาด เกษตรกร 10 ราย โคนม 50 ตัว -โครงการในเขตนิคมระยะที่ 2 ) ดาเนินการในพน้ื ทจ่ี ดั นิคมตาบลวงั น้าเย็น ตาบลวงั ใหมแ่ ละตาบล คลองหินปูน อาเภอวังน้าเย็น เกษตรกร 65 ราย โคนม 325 ตัว-โครงการตามแผนปรับโครงสร้างและ ระบบการผลติ การเกษตร (คปร.) ดาเนนิ การในพ้ืนทป่ี ลกู พืชไรท่ ่ีได้ผลผลติ คณุ ภาพและราคาตกต่า ในเขตพื้นท่ี อาเภอวงั นา้ เยน็ และก่ิงอาเภอวังสมบูรณ์ เกษตรกร 319 ราย โคนม 1,595 ตัว ปี 2538 -โครงการตามแผนปรบั โครงสร้างและระบบการผลิตการเกษตร (คปร.) ดาเนินการในพืน้ ท่ี ปลกู พืชไร่ท่ีได้ผลผลิตคุณภาพและราคาตกต่า ในเขตพ้ืนที่อาเภอวังน้าเย็นและก่ิงอาเภอวงั สมบูรณ์ เกษตรกร 150 ราย โคนม 750 ตวั ปี 2539 -โครงการตามแผนปรบั โครงสร้างและระบบการผลิตการเกษตร (คปร.) ดาเนินการในพน้ื ที่ ปลูกพชื ไรท่ ่ีได้ผลผลติ คณุ ภาพและราคาตกตา่ ในเขตพืน้ ท่ีอาเภอวงั นา้ เย็น ก่ิงอาเภอวังสมบูรณ์และอาเภอ เขาฉกรรจ์ เกษตรกร 100 ราย โคนม 500 ตวั ปี 2540 -โครงการตามแผนปรับโครงสรา้ งและระบบการผลิตการเกษตร (คปร.) ดาเนินการในพนื้ ที่ ปลกู พชื ไรท่ ่ีได้ผลผลติ คุณภาพและราคาตกตา่ ในเขตพืน้ ที่อาเภอวงั น้าเย็น กง่ิ อาเภอวังสมบูรณ์และอาเภอ เขาฉกรรจ์ เกษตรกร 145 ราย โคนม 725 ตัว ปี 2541 -โครงการพฒั นาพื้นที่ราบเชงิ เขาตาม พระกระแสรับสั่ง พระบาทสมเดจ็ พระเจ้าอยหู่ วั ดาเนินการ บ้านท่ากระบาก อาเภอเมืองสระแกว้ และบ้านคลองทราย อาเภอวัฒนานคร เกษตรกร 45 ราย โคนม 225 ตวั ปี 2542 -โครงหมบู่ ้านทับทิมสยาม 05 อาเภอ คลองหาด เกษตรกร 8 ราย โคนม 40 ตัว ปี 2543 -โครงหมูบ่ ้านทบั ทิมสยาม 05 อาเภอ คลองหาด เกษตรกร 10 ราย โคนม 50 ตัว ปี 2544 -โครงการพัฒนาพื้นท่รี าบเชิงเขาตาม พระกระแสรบั ส่งั พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยหู่ วั ดาเนนิ การ ทบ่ี า้ นคลองคนั โท อาเภอวัฒนานคร เกษตรกร 14 ราย โคนม 70 ตวั ปี 2547 -โครงการพัฒนาธุรกจิ โคนม เกษตรกร 240 ราย โคนม 1,200 ตวั

จาการสืบคน้ ข้อมูลเพิ่มเติมของผู้เรยี บเรียง ขอบคุณข้อมูลจากจากเว็ปไซตส์ หกรณ์โคนมวงั น้าเย็น จากดั (http://www.wangnamyendairy.com/index.php) ทาใหท้ ราบวา่ คณุ ยายคาผา ชุม่ กนิ เขา้ รว่ ม โครงการตามแผนปรบั โครงสร้างและระบบการผลิตการเกษตร (คปร.) ในปี 2539 และเปน็ 1 ใน 100 ราย ของเกษตรกรผู้เข้าร่วมโครงการเล้ียงโคนม นี้เป็นจุดเร่ิมตน้ ของอาชพี และภูมิปัญญาของคุณยายคาผา ชุ่มกง่ิ ภมู ิปญั ญาพ้ืนบ้านและเกษตรกร ผูเ้ ลี้ยงโคนม การนาภมู ปิ ญั ญาศึกษา เร่อื งการเลีย้ งโคนมไปใชใ้ นชีวติ ประจาวนั ภูมิปญั ญาไทยจึงเปน็ การถา่ ยทอดวฒั นธรรมท่มี ีความหมายผกู พันลึกซึ้งจากอดีตสู่ปจั จบุ ัน อันแสดงออกถึงการเข้าใจมลู เหตุการณ์สรา้ งสรรค์อย่างชาญฉลาด แสดงถึงความมภี ูมปิ ัญญาของคนไทยใน สมยั หน่งึ ทส่ี ามารถค้นคดิ สิ่งทีเ่ ป็นระเบียบแบบแผน มีรูปแบบทย่ี อมรับกันภายในสงั คม เพอื่ เออ้ื ประโยชน์ ต่อการดารงชวี ติ ในการใชช้ ีวติ รว่ มกนั ในสังคมนนั้ ๆ ทั้งยงั มีคุณคา่ งดงามในรูปแบบของงานศลิ ปะ ผลงานจาก ภมู ิปญั ญาไทยของคนโบราณจะปรากฏคุณค่าเดน่ ชัดและน่าหวงแหนเม่อื เราไดป้ ระจกั ษ์ชัดถงึ ความสมั พนั ธท์ ี สอดคล้องระหว่างศิลปวัฒนธรรม ประเพณกี ับสภาพความเป็นอยู่ วถิ ชี ีวิตของคนในสังคมแตล่ ะยุคสมัย ภมู ิปัญญาไทยมีความสัมพันธ์กบั การดาเนินชีวิตของคนไทย ในหลายๆลักษณะ เช่น ภูมิปญั ญาที่เกิด จากความสัมพันธ์ระหว่าคนกับคนอื่นในสังคม จะแสดงออกมาในลกั ษณะจารีต ขนบธรรมเนียมประเพณี ศิลปะ นันทนาการ วรรณกรรม การสอื่ สารต่างๆ ภูมิปัญญาท่ีเกดิ จากความสมั พนั ธ์ระหว่างคนกับสง่ิ เหนือ ธรรมชาติ จะแสดงออกในลักษณะของส่งิ ศกั ดส์ิ ทิ ธ์ิ ศาสนา และความเชื่อ และ ภมู ปิ ัญญาทเ่ี กิดจาก ความสัมพันธร์ ะหว่าคนกับธรรมชาติ ส่งิ แวดลอ้ ม จะแสดงออกมาในลักษณะภมู ิปัญญาในการดาเนนิ ชีวิต ภายใตพ้ ื้นฐานดา้ นปจั จยั ส่ี การบรหิ ารจัดการองค์กร และการประกอบอาชพี

การดาเนนิ ชีวติ แบบภูมปิ ญั ญาการเลย้ี งโคนมของคุณยายคาผา ชมุ่ ก่ิง ไดแ้ สดงใหเ้ ห็นถึงวถิ ีชีวิต ความเป็นชนบทและเกษตรกรไทย เนน้ ชีวิตทเี่ รียบง่าย พออยู่พอกนิ สามารถพึง่ พาตัวเองได้ อนั เป็นลกั ษณะ เศรษฐกิจแบบพอเพียง ซ่งึ เหมาะสมกับสภาพสังคมและเศรษฐกิจไทยในปจั จุบันท่สี ภาพเศรษฐกิจตกต่า ประชาชนมคี วามเดือดรอ้ น ไม่มงี านทา มรี ายได้ไม่พอเลยี้ งครอบครวั หากศึกษาและเรียนรู้พร้อมนา ภมู ปิ ัญญาไทยไปเป็นแนวทางในการดาเนินชีวติ จะช่วยแกป้ ัญหาไดบ้ า้ ง เมื่อเกิดปัญหาเศรษฐกิจและสงั คมขึ้น ซง่ึ ต้องใชร้ ะยะเวลาในการแก้ไข เราควรจะให้ความร่วมมือในการแก้ไข โดยการปรบั เปลย่ี นพฤตกิ รรมการ ดาเนินชวี ติ จากระบบเศรษฐกิจแบบทุนนิยมมาเปน็ เศรษฐกิจแบบพอเพยี งและปรบั วิถีการดาเนินชวี ติ ให้ สอดคล้องกับธรรมชาตแิ ละวัฒนธรรมไทยมากขึ้น ซ่งึ ในปัจจุบนั คนไทยตน่ื ตวั ในการนาภูมิปัญญาไทยมาใช้ เปน็ แนวทางในการดาเนินชีวิตและการพัฒนาประเทศ โดยการรือ้ ฟน้ื ภูมิปญั ญาด้ังเดิม ปรบั ปรงุ และ สร้างสรรค์ภูมิปัญญาขน้ึ ใหม่ เพอ่ื ใหส้ อดคล้องกบั สภาพการดาเนนิ ชวี ติ ในปัจจบุ ัน จงึ อาจกลา่ วไดว้ า่ ภูมิปัญญาไทยนีม้ ีสว่ นช่วยในการพัฒนาประเทศให้เจรญิ ก้าวหน้าได้ โดยการร้ือฟื้นภูมิปัญญาดง้ั เดิม ปรับปรุง และสร้างสรรค์ภมู ปิ ญั ญาข้ึนใหม่ เพ่ือใหส้ อดคล้องกบั สภาพการดาเนินชีวติ ในปัจจุบนั

ภาคผนวก - ประวตั ผิ ู้จัดทาภูมิปัญญาศึกษา - ภาพประกอบ

ประวตั ิผถู้ ่ายทอดภมู ิปัญญา ช่ือ: นางคาผา ชุ่มก่ิง เกดิ : 1 มกราคม 2492 อายุ 70 ปี ภูมลิ าเนา : บ้านหนองคมึ ตาบลหนองพวง อาเภอประทาย จังหวัดนครราชสมี า ท่ีอย่ปู จั จบุ นั : บา้ นเลขท่ี 108 หมู่ 5 ตาบลวังน้าเย็น อาเภอวังนา้ เย็น จังหวดั สระแก้ว สถานภาพ: สมรส กบั นายเจ้อื ช่มุ ก่งิ มีบตุ รดว้ ยกัน จานวน 4 คน ดงั นี้ 1. นายดาว ชุม่ กิ่ง 2. นายชยั ยันต์ ชยั นาม 3. นางพรพรรณ ชุ่มก่ิง 4. นายเจดจ็ ช่มุ กิง่ การศกึ ษา: ประถมศึกษาปที ่ี ๔ โรงเรยี นบา้ นหนองคึม ตาบลหนองพวง อาเภอประทาย จังหวัดนครราชสีมา ปัจจบุ ัน ประกอบอาชพี : เลีย้ งโคนม ประวตั ิผู้เรยี บเรยี งภูมปิ ัญญาศึกษา ชอื่ : นางพรรษา หาญเทยี ม เกดิ : 16 กนั ยายน 2525 อายุ 36 ปี ภมู ลิ าเนา : 58 หมู่ 7 ตาบลดงรัก อาเภอภูสงิ ห์ จงั หวดั ศรีษะเกษ ที่อยู่ปจั จุบัน : 412/3 หมู่ 2 ตาบลวังน้าเยน็ อาเภอวงั นา้ เย็น จังหวดั สระแกว้ สถานภาพ : สมรส การศึกษา : ปรญิ ญาตรี มหาวทิ ยาลัยรามคาแหง ปรญิ ญาโท มหาวทิ ยาลยั กรุงเทพธนบุรี ปัจจุบนั ประกอบอาชีพ : ข้าราชการครู โรงเรียนเทศบาลมิตรสมั พันธว์ ิทยา

ภาพประกอบการจัดทาภูมิปัญญาศึกษา เร่อื ง การเลี้ยงโคนม

ภาพประกอบการจัดทาภูมปิ ญั ญาศึกษา เรือ่ ง การเลีย้ งโคนม ประชมุ รับฟังแนวทางในการจัดทาภมู ิปญั ญาศึกษาจากผู้อานวยการโรงเรยี นผู้สงู อายุเทศบาลเมือง วงั น้าเยน็ และผูอ้ านวยการโรงเรียนเทศบาลมติ รสัมพนั ธ์วิทยา

ภาพประกอบการจัดทาภูมิปญั ญาศึกษา เรือ่ ง การเลยี้ งโคนม ประชมุ รับฟงั แนวทางในการจัดทารูปเล่มภมู ปิ ัญญาศกึ ษา รวมถงึ องค์ประกอบตา่ ง ๆและการจัดเก็บ ขอ้ มูลจากรองผู้อานวยการโรงเรียนเทศบาลมิตรสัมพนั ธ์วทิ ยา

ภาพประกอบการจดั ทาภูมิปญั ญาศึกษา เร่ือง การเล้ยี งโคนม ลงพน้ื ทเี่ พือ่ เก็บข้อมลู เบ้ืองต้น และสมั ภาษณ์ภมู ปิ ญั ญาศึกษา นางคาผา ช่มุ กิ่ง ณ บ้านวงั แดง บา้ นเลขที่ 108 หมู่ 5 ตาบลวงั น้าเย็น อาเภอวงั น้าเย็น จังหวดั สระแก้ว

ภาพประกอบการจดั ทาภูมปิ ัญญาศกึ ษา เรอื่ ง การเลี้ยงโคนม ลงพนื้ ที่เพอื่ เก็บข้อมูล สมั ภาษณ์ภูมิปัญญาศกึ ษา นางคาผา ชุ่มกิ่ง เกย่ี วกับวสั ดอุ ุปกรณใ์ นการรดี นมโค ณ บา้ นวังแดง บ้านเลขที่ 108 หมู่ 5 ตาบลวังนา้ เยน็ อาเภอวงั นา้ เยน็ จงั หวดั สระแกว้

ภาพประกอบการจัดทาภูมิปญั ญาศกึ ษา เรื่อง การเล้ยี งโคนม ลงพืน้ ท่เี พอ่ื เกบ็ ข้อมลู เกีย่ วกับพืน้ ท่ีในการปลูกหญา้ อาหารโคนม จากภมู ปิ ัญญาศึกษา นางคาผา ชมุ่ กิ่ง ณ บา้ นวงั แดง บ้านเลขที่ 108 หมู่ 5 ตาบลวังน้าเยน็ อาเภอวงั นา้ เย็น จังหวัด สระแกว้

บรรณานกุ รม กรมปศสุ ัตว์ (2542), “คู่มอื ระเบียบการปฏบิ ตั ิงานมาตรฐานฟารม์ โคนมและการผลิตน้านมดิบของ ประเทศไทย พ.ศ.2542”, สานกั งานพฒั นาระบบและรับรองมาตรฐานสินค้าปศุสตั ว์ กรมปศุสตั ว์ กรม สง่ เสรมิ สหกรณ์ (2550) ภาวะอตุ สาหกรรมการเลย้ี งโคนมในปัจจุบนั [ออนไลน]์ . เข้าถงึ ไดจ้ าก htt://webhost.cpd.go.th: [Accessed : 8 ธันวาคม 2561] รศ.ดร.บัญญตั ิ เศรษฐฐิต,ิ เครอื่ งรดี นม, http://eto.ku.ac.th/neweto/e-book/other/other19.pdf: [Accessed : 13 ธันวาคม 2561] สารานกุ รมไทยสาหรับเยาวชน เล่มที่ 12,“การเลี้ยงโคนมในประเทศไทย” {Online}.Available : http://kanchanapisek.or.th/kp6/sub/book/book.php?book=12&chap=5&page=t12-5- infodetail08.html : [Accessed : 13 ธันวาคม 2561] สารานกุ รมไทยสาหรับเยาวชน เล่มท่ี 14 ,“พืชอาหารสตั ว์”, http://kanchanapisek. or.th/kp6/sub/book/book.php?book=14&chap=5&page=t14-5-l2.htm#sect1 : [Accessed : 13 ธันวาคม 2561] http://www.as.mju.ac.th/E-book/การจัดการฟาร์ม/การเลี้ยงโคนม/คณะสตั วศาสตร์ และเทคโนโลยี มหาวทิ ยาลัยแมโ่ จ้ : [Accessed : 13 ธนั วาคม 2561] www.wangnamyendairy.com/index.php : [Accessed : 13 ธนั วาคม 2561]


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook