สถานทท่ี อ งเทีย่ ว จงั หวัดชัยภมู ิ Chaiyaphum Tourist Map
เข่ือนจฬุ าภรณ เข่อื นจุฬาภรณ เข่ือนทส่ี ูงที่สุดของประเทศไทย มอี ากาศเย็นสบายตลอดทั้ง ป จนไดรบั ฉายาสวติ เซอรแลนดเมืองไทย ตัง้ อยูท ตี่ าํ บลทงุ พระ อําเภอคอนสาร ปด กั้นลาํ นา้ํ พรมบนเทือกเขาขุนพาย ซ่ึงเรยี กบริเวณนน้ั วา ภูหยวก ลักษณะเข่ือนเปน เขือ่ นหินทิ้ง แกนกลางเปนดนิ เหนียว ตัวสนั เข่ือนยาว 700 เมตร ความสงู จาก ฐานราก 70 เมตร เปน ลักษณะเข่ือนอเนกประสงคใชป ระโยชนใ นการผลิตพลังงาน ไฟฟาพลงั นาํ้ เฉลีย่ ปล ะ 140 ลา นกโิ ลวัตต/ชว่ั โมง ซง่ึ สามารถตอบสนองความ ตอ งการของประชาชนในภาคอสี านไดอ ยา งเพยี งพอ
เข่ ือนจุฬาภรณ นอกจากนี้ยงั ชวยในดา นเกษตรกรรม และในอา งเก็บน้ําของเขือ่ นยังเปนแหลง เพาะ พันธปุ ลาน้าํ จดื อกี ดวย บรเิ วณเข่อื นมีทวิ ทัศนที่งดงามมาก อากาศเย็นสบายตลอดป จงึ เปน สถานท่ีทอ งเทยี่ วที่นา สนใจแหง หน่ึงของจังหวดั ชยั ภูมิ ภายในบริเวณเขอ่ื นมบี า นพกั ไวร บั รองนักทอ งเที่ยว เรือสาํ หรบั ใหล องชมอา งเกบ็ นํ้า ซึง่ เปนเรือของการไฟฟา ฝา ยผลิต แหง ประเทศไทย มจี ุดชมววิ ทวิ ทศั นเ หนือเขือ่ น และศูนยทดลองพืชเมอื งหนาว ซงึ่ ประกอบดวยไมดอกไมผ ลท่หี าชมไดย ากในภาคอีสาน ไวตอ นรบั นักทองเท่ยี วท่ีสนใจ เขาชมอกี ดวย
เขตรกั ษาพันธุส ัตวป าภเู ขียว เป็ นป าเบญจพรรณสลบั เต็งรังท่ีหนาแนนดว ยป าไผ ป าดบิ แลง กระจายตามหุบเขา หากดนิ ตนื้ กจ็ ะเป็ นป าเต็งรังแทนท่ี ดา นท่ีติดอทุ ยานแหงชาตนิ ํ้าหนาว มี ป าสน ป ากอ ป าเหียง กระจายอยูตามสันเขาท่ัวไป พบซากฟอสซลิ โบราณจาํ นวนมาก แมแ ตฟ อสซลิ ตน ตระกลู หมีแพนดา หรือสัตวคลา ยจระเขแ ละเตา โบราณ และเป็ นแหง เดยี วท่ี พบวา ยังมสี ตั วหายากคอื กระซู เป็ นแหลง สมนุ ไพร ยคุ ไดโนเสาร มอสไลเคนสฝ อยลม เกาะอยู ตามก่ิงกานและลาํ ตนไมท ั้ เกาวัลยเ ลือ้ ยพันธไุ มใหญ กหุ ลาบแดง สลัดได จนั ผา เขตรกั ษาพนั ธส์ุ ัตวป์ าภเู ขยี ว-ทงุ่ กะมงั
แหลง อิงอาศยั ลวยไมก วาสามรอยชนิด และกระโถนฤาษีพันธไ มหายาก ขยายพันธเุ อง ไมไ ดกม็ ีอยใู นป าภเู ขียวแหง นีด้ วยเชน กนั พบรอ งรอยแหลง อาหารสตั ว วิถชี ีวติ ความเป็ นอยู ของสตั วป าอยา งใกลชิด เหมาะสาํ หรับเป็ นแหลงเรยี นรู คนควา วิจัยวถิ ีชีวิตสตั วป า ตอ งจาํ กัดจาํ นวนผทู ่ีจะไปศกึ ษาชวี ิตสตั วป า ตอ งปฏบิ ัตติ ามกฎหมายอยางเครง ครัด ซ่ึงเป็ นผืนป าแหงเดยี วของภาคอีสานท่ปี ระชาชนทุกคนตองหวงแหน ชวยกันรกั ษา อยา ใหถูกบกุ รุกหรือทําลาย หรือมงุ หวังธุรกิจทอ งเท่ียว นอกจากนัน้ บนผนื ป าแหง นี ้ ยงั มี ทงุ กระมัง มีพืน้ ท่ีมากกวา 1,000 ไร มีหนองนํ้ากลางป าดงดบิ เป็ นแหลงนิเวศนของ สตั วป าหลายชนิด นกป าแสนสวยนารกั ประมาณ 400 กวา ชนิด และสัตวป าตาง ๆ พากนั กระทาํ ภารกิจและหนาท่ีในพืน้ ป า ผีเสอื้ และแมลงแปลก ๆ บนิ รอนวอ นเวยี นดมตอมดอกไม หลากสแี ละชนิดพนั ธชุ วยผสมเกสรใหพ ันธไุ มอ ยางมหศั จรรย เป็ นธรรมชาติสรา งไดอยาง ลงตวั และสมบูรณท่ีสุด เขตรกั ษาพันธสุ์ ตั ว์ปาภเู ขียว-ท่งุ กะมงั
วดั พระธาตหุ นองสามหมืน
ประวตั ิความเปนมา พระธาตหุ นองสามหม่นื เป็ นพระธาตุท่มี ลี ักษณะสวยงามและสมบรู ณ ท่สี ดุ องคหน่ึง ไมป รากฏหลกั ฐานวาสรางขนึ้ เม่อื ใด แตจาก ลักษณะสถาปั ตยกรรมและศิลปกรรมท่ีผสม ผสานกันระหวา งลานนา ลา นชางและอยุธยา สันนิษฐานวาสราง ขนึ้ ในราวพทุ ธศตวรรษ ท่ี ๒๑ - ๒๒ ในสมยั พระไชยเชษฐาธริ าชแหง ราชอาณาจักรลาว นอกจากนี ้ บริเวณ ท่ีตงั้ พระธาตุหนองสามหม่นื แตเ ดิม เคยเป็ นเมืองโบราณสมยั ทวาราวดีท่มี ขี นาดใหญเมอื ง หน่ึง อายรุ าว พุทธศตวรรษท่ี ๑๒ - ๑๖ เน่ืองจากปรากฏรองรอยของคนู ํ้าคนั ดนิ และโคก เนินโบราณสถานหลายแหง รวมทงั้ โบราณวตั ถหุ ลายชนิ ้ เชน กลมุ ใบเสมาหินทราย สันนิษฐานวาเป็ นเมืองขนาดใหญ ปรากฏในตํานานอุรังคนิทาน วา มเี มอื งหน่ึง อยูด าน ทศิ ตะวันตกของเมอื งหนองหาร ช่ือวา อโยธยา หรือกุรุนทนคร โดยสว นใหญจ ะเขา ใจวา จะเป็ นแถบจังหวดั นครปฐม เพราะความหมายกาํ กวม ในท่ีนีอ้ าจจะเป็ นเป็ นเมอื งกรุนท นคร ขึน้ ตรงกับอาณาจกั รทวารวด(ี อโยธยา)ก็อาจเป็ นได
ลกั ษณะเดน่ พระธาตุหนองสามหม่ืนรายละเอียดเป็ นเจดียกอ ดว ยอิฐ และฉาบปนู ยอ มมุ ไมส บิ สองฐานเจดยี เป็ นฐานเขียงรปู ส่เี หล่ียมผืนผา กวา งประมาณ 13.30 เมตร ยาว 13.30 เมตร มบี ันไดทางขนึ้ 3 ดาน ขนาดกวางของบนั ไดประมาณ 4.90 เมตร ชนั้ ขึน้ บนั ไดมี 5 ชนั้ และมลี านทักษิณรอบเจดยี ล กั ษณะเดน พระธาตุหนองสามหม่ืน มีลกั ษณะเป็ นเจดยี ย อมุมไมสบิ สอง ตงั้ อยบู นฐานเขียงรูปส่เี หล่ยี มจัตรุ ัส มีความสงู ประมาณ 45 เมตร มบี นั ไดทางขึน้ ทัง้ ส่ีดา น เหนือฐานเขยี งเป็ นฐานบัวคว่าํ บวั หงาย รองรบั องคพระธาตุ ซ่ึงมซี มุ ทัง้ ส่ีทศิ ประดิษฐานพระพุทธรปู ปางราํ พงึ และปางลลี า ภายในองคพระธาตุบรรจพุ ระบรมสารรี กิ ธาตขุ องพระพทุ ธเจา รูปแบบดังกลาวอาจ เปรียบเทียบไดกับพระธาตุอ่นื ๆ ทัง้ ในนครเวยี งจันทนและในเขตไทย เชน พระธาตุ วดั เทพพล เมืองเวียงคุก จงั หวดั หนองคาย พระธาตศุ รีเมือง นครเวียงจันทน เป็ นตน
อุทยานแห่งชาติตาดโตน
ประวตั ิความเปนมา อทุ ยานแหง ชาติตาดโตน อยใู นทองท่อี าํ เภอเมืองชัยภูมทิ างทศิ เหนือของ จังหวดั ชัยภูมิ ลกั ษณะทางธรณีวิทยาประกอบดว ย หินปูนและหินดินดาน โดยเฉพาะบรเิ วณนํ้าตกตาดโตนประกอบดวยลานหนิ ท่ีกวางใหญ นํ้าตกตาด โตน เป็ นนํ้าตกท่สี วยงามใกลท ่ีทําการอทุ ยานฯ มนี ํ้าไหลตลอดปี โดยเฉพาะในฤดูฝนจะสวยงามเป็ นพิเศษ มีความสูงประมาณ 6 เมตร และ กวาง 50 เมตร ดา นบนเป็ นธารนํ้าไหลผานลานหนิ สองฝ่ั งธารรมร่นื ดว ยตนไม ใหญ เหมาะท่จี ะน่ังพักผอนชมธรรมชาตแิ ละเลนนํ้า บริเวณนํ้าตก
มอหินขาว
มอหนิ ขาว คอื กลมุ เสาหินทรายสีขาวขนาดใหญ ตัง้ อยอู ยางโดดเดนบนลาน หญากวา งบรเิ วณเนินเขา ภายในอทุ ยานแหงชาติภูแลนคา บานวังคําแคน หมู 9 ตําบลทา หินโงม อําเภอเมือง จังหวดั ชัยภูม ิ กลมุ หนิ ทรายสขี าวเหลานีเ้ กดิ จากการ สะสมของตะกอนทรายแป งและดนิ เหนียวจากทางนํ้า เม่อื มคี วามเปล่ยี นแปลงของ แผน เปลือกโลกเม่ือ 65 ลานปี กอ น ทาํ ใหมกี ารแตกหกั ผุพงั และการกัดเซาะ จน กลายเป็ นเสาหนิ สูงใหญ 5 เสา รปู ทรงประหลาดบนเนินเขาอยา งท่ปี รากฏใหเห็นใน ปั จจุบัน สันนิษฐานวามีอายุราว ๆ 175-197 ลา นปี
เสนหข องมอหินขาวไมไ ดม ีเพียงแคเ สาหนิ ทรายสีขาวรปู ทรงสวยงาม แปลกตาเทา นัน้ แตบริเวณโดยรอบยงั เต็มไปดวยป าเขาท่อี ดุ มสมบรู ณ จากบริเวณลานมอหนิ ขาวกส็ ามารถมองเห็นแนวเทือกเขาเบอื้ งหนา พรอ มทงั้ ผืนป าสเี ขียวขจีไดอ ยางชัดเจน อากาศโดยรอบบริสทุ ธ์ิสดช่นื และเย็นสบาย
การเดินทางไปมอหินขาว จากจังหวดั ชัยภูมิ ใหขับรถมาตามทางหลวงหมายเลข 2051 สายชัยภูมิ-ตาดโตน แลว เลีย้ วซายกอ นถงึ ดา นอุทยานแหงชาตติ าดโตน ขับไปเร่อื ย ๆ บนเสน ทางตาดโตน-ทาหนิ โงม ใหส งั เกตถนนแจง เจรญิ -โสก เชือก เพ่ือเลีย้ วซา ยไปตามถนนเสนดังกลา ว ขบั ไปจนถงึ บานวังคาํ แคน แลว เลีย้ วขวาเขาไปตามถนนลูกรงั กจ็ ะพบกบั กลุม เสาหนิ มอหนิ ขาว รายละเอยี ดเพ่มิ เติมสามารถสอบถามไดท ่ี อุทยานแหง ชาตภิ ูแลนคา โทรศพั ท 093 093 9193, 0 4410 9786
แผนที
ปรางค์กู่
ปรางคก ู เป็ นโบราณสถานท่สี าํ คัญ ตงั้ อยทู ่อี ําเภอเมือง จังหวดั ชัยภูมิ มสี ภาพสมบูรณท่ีสุดแหง หน่ึงในจงั หวดั ชยั ภมู ิ และยังเป็ นท่ีเคารพของ คนในจังหวัดชยั ภูมิอีกดว ย ปรางคก ไู มไดม ขี นาดใหญโตมากนัก แตมี ความงดงามดวยสถาปั ตยกรรมท่ไี ดรบั อิทธิพลจากขอม เช่ือกนั วาเป็ น อโรยาศาล(โรงพยาบาล) ในสมัยกอน คําวาปรางคก ูน ัน้ เป็ นช่ือเรียก ของกลุมอาคารท่มี แี ผนผงั และลกั ษณะแบบเดยี วกันกบั อาคารท่ี เช่ือ กนั วา เป็ นอโรคยาศาลท่สี รางขนึ้ ในพทุ ธศตวรรษท่ี 18 ในสมัยของ พระเจาชัยวรมนั ท่ี 7
ใบเสมาบ้านกดุ โง้ง
ใบเสมาบานกุดโงง เป็ นเสมาหนิ ทรายศลิ ปะทวารวดอี ายุราวพทุ ธ ศตวรรษท่ี 12-13 ท่พี บในภาคอสี าน เป็ นโบราณวตั ถทุ ่เี ป็ นหลกั ฐาน แสดงใหเ หน็ ถึงชุมชนในยุคสมยั ทวาราวดี ซ่งึ เป็ นยคุ ท่พี ทุ ธศาสนา ลัทธหิ ินยานไดม ีการเผยแผเขา มา ซ่ึงใบเสมานีไ้ ดถ กู ใชปั กเพ่อื เป็ นการกาํ หนดเขตในการทาํ พธิ กี รรมของพระสงฆใ นพระพุทธศานา โดยปกตหิ ากนึกถึงใบเสมา พบเห็นไดตามวัด มกั จะตงั้ อยรู อบโบสถ เพ่ือแสดงอาณาเขตในการทาํ สงั ฆกรรม แตเสมาหลายชิน้ แหงในภาค อสี านไมไดอยตู ามวัดตามโบสถ แตส ามารถพบเหน็ ไดต ามทงุ นา บา น เรอื น และจดุ ตา งๆในหมบู าน
พระใหญส่ มัยทวารวดี พระพทุ ธรูปใหญส มัยทวารวด ี เป็ นพระพุทธรปู หินแกะสลกั ปางประทบั ยืนองคใหญศ ิลปะทวารวดี สรางดว ยศิลาแลงเป็ นพระพุทธรูปคูบานคเู มอื ง นครกาหลงมาแตโ บราณ สูงประมาณ ๓ เมตร ๑ องค กับองคเล็กขนาด คร่ึงหน่ึงขององคใ หญอ ีก ๒ องค สนั นิษฐานวา คงจะสรางขนึ้ ในสมยั ขอม เรอื งอํานาจ ชาวบานเรียกวา “หลวงพอ ใหญ” ประดิษฐานในวหิ ารหลงั เล็ก ๆ ใหผูคนไดส กั การะ มใี บเสมาหนิ ทรายขนาดใหญจ าํ หลักภาพชาดกเก็บ รักษาอยูดวยหลายชิน้ รวมทัง้ จารกึ อกั ษรมอญ ศตวรรษท่ี ๑๔ ดา นนอกยงั มีเสมาทัง้ ท่มี ีและไมม ีลวดลายวางเรียงรายอยอู กี จํานวนมาก
นาตกเทพประทาน นํ้าตกเทพประทาน เป็ นนํ้าตกขนาดกลาง ลักษณะคอ นขา งแบน มหี นิ ขนาดใหญเ ป็ นลานกวางลดหล่นั กันลงไปเป็ นชนั้ เตีย้ ๆ
นาตกเทพพนา (อุทยานแห่งชาติปาหินงาม) นํ้าตกเทพพนา อยทู างดา นทิศตะวนั ออกของท่ที าํ การอทุ ยานฯ ระยะทาง ประมาณ 7 กิโลเมตร เป็ นนํ้าตกขนาดกลาง เกิดจากลาํ หวยกระโจนท่ี ไหลจากเทอื กเขาพงั เหย แบงเป็ นสามชัน้ ลดหล่ันกัน ชัน้ บนสดุ มคี วามสงู ประมาณ 2-3 เมตร ชนั้ 2 สูงประมาณ 2-3 เมตร และชัน้ สดุ ทายมี ความสูงประมาณ 6 เมตร จะมีนํ้าเฉพาะในชว งฤดฝู น
อุทยานแห่งชาติไทรทอง
อุทยานแหง ชาตไิ ทรทอง คลอบคลมุ พืน้ ท่ีป าบนเทือกเขาพังเหย ในอาํ เภอหนองบัวระเหว เทพสถติ ภักดีชมุ พล และหนองบัวแดง มเี นื้อท่ี ๓๑๙ ตารางกโิ ลเมตร เป็ นป าตน นํ้าลําธารของลาํ หวยหลาย สายซ่งึ เป็ นลาํ นํ้าสาขาของแมนํ้าชี สภาพป าเป็ นป าเต็งรัง ป าดบิ แลง ผสมกบั ป าเบญจพรรณ มตี นไผร วกขึน้ อยเู ป็ นจํานวนมาก นับเป็ น แหลงทองเท่ียวทางธรรมชาตทิ ่อี ุดมสมบรู ณสวยงาม
อุทยานแห่งชาติปาหินงาม อทุ ยานแหง ชาติป าหนิ งาม อยูใ นพนื้ ท่อี ําเภอเทพสถติ จังหวดั ชยั ภมู ิ มสี ภาพป าสมบรู ณ เป็ นแหลงตน นํ้าลําธารของลมุ นํ้าชี และแมนํ้าป าสักมี จุดเดนทางธรรมชาติ ท่ีสวยงามหลายแหง โดยเฉพาะทุงดอกกระเจียว มี เนื้อท่ีประมาณ 62,437.50 ไร หรือ 99.9 ตารางกโิ ลเมตร
Search
Read the Text Version
- 1 - 26
Pages: