วช-ร 03 การจัดทาโครงสรา้ งรายวิชา รายวชิ า ผลติ ภัณฑง์ านโลหะแผ่น รหัสวชิ า ………………. ระดับชั้น มัธยมศกึ ษาปีที่ 4/3 กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ การงานอาชพี และเทคโนโลยี จัดทาโดย นายยศวรศิ เพิ่มบุญ ตาแหนง่ พนักงานราชการ โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 31 ตาบลช่างเค่งิ อาเภอแม่แจ่ม จงั หวดั เชยี งใหม่ สานกั บริหารงานการศึกษาพเิ ศษ สานักงานการศึกษาขน้ั พ้ืนฐาน กระทรวงศึกษาธกิ าร
คาอธบิ ายรายวิชา ผลติ ภัณฑง์ านโลหะแผน่ รหัสวิชา ........... จดุ ประสงค์รายวชิ า 1. เพ่ือใหป้ ฏิบัตงิ านโลหะแผ่นด้วยความปลอดภัยตามหลักอาชวี อนามยั 2. เพ่ือใหส้ ามารถใชเ้ ครื่องมือและอุปกรณ์ในงานโลหะแผ่น 3. เพอื่ ให้มกี ิจนิสัยในการทางานด้วยความเปน็ ระเบียบเรียบร้อย ประณตี รอบคอบและตระหนักถึงความปลอดภยั สมรรถนะรายวิชา 1. แสดงความรเู้ กี่ยวกับงานโลหะแผน่ 2. เพ่อื ให้สามารถปฏิบัติงานโลหะแผน่ คาอธิบายรายวชิ า ศึกษาเก่ียวกบั ความปลอดภยั ในงานโลหะแผ่น เครื่องจักรและเคร่ืองมือในงานโลหะแผ่น การเขียนแบบแผ่นคลี่อย่างง่าย ด้วยวิธีขนานและแบบรัศมี หลักการ บัดกรี การเขียนแบบลงแผ่นงาน การทาตะเข็บ การบัดกรี การขึ้นรูปด้วยการพับ ดัด เคาะ ขึ้นขอบและประกอบช้ินงาน โดยใช้อุปกรณ์ความปลอดภัยส่วนบุ คคล ถกู ต้องตามหลกั อาชีวอนามยั และความปลอดภยั รายวิชา ผลิตภัณฑ์งานโลหะแผ่น ชัน้ มธั ยมศึกษาปีท่ี4/3 จานวน 40 ชั่วโมง ภาคเรียนที่ 2 ปกี ารศึกษา 2562
โครงสรา้ งรายวชิ า รายวิชา ผลติ ภณั ฑ์งานโลหะแผน่ ชัน้ มัธยมศึกษาตอนต้น จานวน 40 ชั่วโมง ภาคเรยี นที่ 2 ปกี ารศึกษา 2562 ที่ ชอื่ หน่วย รหสั มฐ.ตวั ชีว้ ัด/ สาระสาคัญ เวลา คะแนน ผลการเรยี นรู้ (ชม.) K P A 1 ความรูเ้ บื้องต้นในงาน 1. อธบิ ายถงึ หลกั ความปลอดภัยในงาน งานโลหะแผ่นจึงไม่มีโอกาสหมดไปจากชีวิตประจาวัน 2 3 1 1 โลหะแผ่นได้ โลหะแผ่น ของมนุษย์ได้ เน่ืองจากช้ินงานท่ีทาจากโลหะแผ่นน้ันมีความ 2. จาแนกประเภทและชนิดของโลหะแผ่น ได้ แข็งแรง สามารถข้ึนรูป และตกแต่งให้เกิดความสวยงาม ได้ และที่สาคัญมีอายุการใช้งานได้นาน ถึงแม้ว่าปัจจุบันได้มี การนาเทคโนโลยีท่ีทันสมัยมาช่วยในการออกแบบและผลิตโลหะ แผ่นก็ตาม แต่งานโลหะแผ่นบางประเภทไม่สามารถผลิตด้วย เครื่องจักรได้ ดังน้ันงานโลหะแผ่นที่ต้องใช้ฝีมือในการขึ้นรูป ยัง มีให้เห็นอยู่ตลอดเวลา จึงมีความสาคัญอย่างมากท่ีช่าง อุตสาหกรรมต่างๆ ต้องศึกษาและปฏิบัติให้รู้ เพ่ือนาไป ประยุกต์ใช้และเสริมสร้างประสบการณ์ในการทางานของตนเอง ต่อไป
2 การใชเ้ ครื่องมือโลหะ 1. แนะนาการใช้ ค้อน กรรไกร แทน่ ขึ้นรปู งานโลหะแผน่ 2 53 2 แผ่นและการรักษาความ และคมี โลหะแผน่ ได้ อปุ กรณ์ที่ใชใ้ นการตกแตง่ ผวิ 7.1.1. เครอื่ งและอุปกรณ์ ปลอดภัย 2.แนะนาการรักษาความปลอดภัยโลหะ งานตกแต่งผิว 1. การตกแตง่ ผิวงานโลหะท้ังหมดสามารถ แผน่ ได้ แบง่ ออกเป็นกลุม่ ใหญ่ ๆ 3 กลุ่ม คือ 1. การเพ่ิมวสั ดุบน 3.เพือ่ ให้มกี จิ นิสยั ท่ีดีในการทางานด้วย ผิวหน้าชน้ิ งาน เช่นการชบุ ไฟฟ้า เป็นตน้ 2. การขดั วัสดุ ความเป็นระเบียบเรยี บร้อยประณีต ออกจากผิวหนา้ ชิ้นงาน เชน่ การเจยี ระไน เป็นตน้ 3. การ รอบคอบ ซือ่ สตั ย์ และปลอดภัย ทาให้ผวิ หนา้ ชน้ิ งานมคี วามแข็งแกร่งขึ้น การอบชุบ การยงิ ผิวด้วยเม็ดทราย เป็นต้น เคร่ืองมือและอปุ กรณใ์ นการ ตกแต่งผิวชนิ้ งาน 1. อปุ กรณ์ในงานชบุ เคลือบผวิ ด้วยไฟฟ้า ทง้ั หมด 2. เครือ่ งขดั ชนดิ ตา่ งๆ 3. เครื่องยิงผวิ ด้วยเมด็ ทราย 4. เตาอบใช้สาหรับอบช้ินงาน 5. อปุ กรณ์ที่เก่ยี วกับ งานสี 6. ตะใบ 7.1.2 วิธีการบารงุ รกั ษาเครอื่ งมอื 1. อปุ กรณ์ในงานชบุ เคลือบผวิ ดว้ ยไฟฟ้าท้งั หมด เม่ือใช้ อุปกรณ์ตา่ งแล้วควรจัดเกบ็ ให้เป็นระเบยี บเรียบร้อยและ ตอ้ งมีการทาความสะอาด บริเวณทปี่ ฏบิ ตั งิ านควรคานึงถงึ อันตรายของการเก็บเพราะอุปกรณเ์ ลา่ เก่ยี วกับ กระแสไฟฟา้ 2. เคร่ืองขัดชนิดตา่ งๆ เครื่องขดั เมอ่ื ใช้งาน เสรจ็ แล้วควรปดิ สวิตย์เพื่อไม่ให้เกดิ อันตรายและควร จัดเกบ็ ใหเ้ ปน็ ระเบียบ 3. เคร่อื งยงิ ผิวดว้ ยเม็ดทราย ควร รู้จกั วธิ ีการรักษาเครอ่ื งเมือ่ ทางานเสร็จแล้วควรทาความ สะอาด 4. เตาอบใช้สาหรับอบช้นิ งาน ควรรูจ้ ักวิธกี ารปรับ อณุ หภูมิใหเ้ หมาะสมตามช้นิ งานและปฏิบัติตามข้อกาหนด ของเครอ่ื งที่ กาหนดให้ใช้ในการปฏิบัติงาน 5. อปุ กรณ์ท่ี เกี่ยวกับงานสี อุปกรณ์เก่ียวกับสีน้ตี อ้ งจัดเก็บใหอ้ ยู่หา่ ง อุณหภมู ทิ ี่มคี วามร้อนเพ่ือป้ องกันการเกิดไฟไหม้ ได้และสี เมื่อเปดิ ฝาแล้วควรปดิ ให้ดีป้ องกนั การแหง้ ของสี 6. ตะใบ เมือ่ ใช้งานเสร็จแลว้ ควรทาความสะอาดดว้ ยแปรงลวดขัด เอาเศษโลหะทีเ่ กาะติด
3 การเขียนแบบแผน่ คี่ 1. บอกวิธีการเขียนแบบแผ่นคล่ีด้วยวิธี การเขยี นแบบแผ่นคล่ีโลหะแผ่น นับว่าเป็นหัวใจสาคัญ 6 54 1 4 10 3 2 4 พิกดั โลหะแผน่ และการ ตา่ งๆได้ ของการทางานเกี่ยวกับงานโลหะแผ่น หลักในการเขียนแบบแผ่น เขยี นแบบลงแผน่ งาน 2. เขียนแบบแผ่นคลี่ด้วยวิธีเส้นรัศมี , คลี่งานโลหะแผน่ สามารถแบ่งออกได้ 4 ชนิด ขนาน และสามเหล่ียมได้ 1) การเขียนแบบแผ่นคลี่อย่างง่าย (Simple layout 3. เลือกการเขียนแบบเหมาะสมกบั งานได้ method) 2) การเขียนแบบแผ่นคลี่ด้วยวิธีเส้นขนาน (Parallel Line Development) 3) การเขยี นแบบแผ่นคลี่ด้วยวิธีเส้นรัศมี (Radial Line Development) 4) การเขียนแบบแผ่นคลี่ด้วยวิธีสามเหลียมมุมฉาก (Triangulation Development) 1. อธบิ ายสาระประจาหนว่ ยได้ ความรเู้ บื้องตน้ ทคี่ วรศกึ ษาในพกิ ดั เหล็ก 2. อธิบายมาตรฐานความหนาและ มาตรฐานความโตโลหะแผ่นได้ อตุ สาหกรรมเหล็กและเหลก็ กล้า ประกอบดว้ ยผลิตภณั ฑช์ นดิ ต่าง ๆ มากมาย ซึง่ สามารถ 3. แนะนาการเขยี นแบบลงผานงานได้ แบง่ เปน็ ประเภทใหญ่ ๆ ตามขั้นตอนหรอื กระบวนการผลติ ได้ดงั น้ี เหล็กขน้ั ตน้ (Raw Steel Product) ไดจ้ ากการนาสินแร่เหล็กมาถลุง เหลก็ ที่ ไดจ้ ากการถลงุ เรยี กวา่ เหล็กถลงุ (Pig Iron) และเหลก็ พรนุ (Sponge Iron) ซง่ึ ใชเ้ ป็นวัตถดุ บิ พื้นฐานในการผลติ เหล็ก (Steel Making) เหลก็ ข้ันกลาง (Semi-Finished Steel Products) เป็นการนาเหลก็ พรุน เหล็กถลงุ และเศษเหล็ก (Scrap) มาหลอม ผลติ ภณั ฑ์เหลก็ ขั้นกลางทีไ่ ด้ คอื เหล็กแทง่ กลม (Billet) เหล็กแทง่ แบน (Slab) เหลก็ แทง่ เหลก็ ขน้ั ปลาย (Finish Steel Products) เปน็ การนาผลติ ภัณฑ์ข้นั กลางมาผา่ น กระบวนการแปรรปู ทาได้ 2 ข้นั ตอน คอื การแปรรปู รดี ร้อนและการแปรรปู รดี เยน็ เหล็กแท่งยาว (Billet) เปน็ ผลติ ภัณฑท์ รงยาว เชน่ เหลก็ เสน้ , ลวดเหลก็ เป็นต้น เหลก็ แท่งแบน (Slab) เปน็ ผลติ ภัณฑ์ทรงแบบ เชน่ เหล็กแผน่ รีดร้อนและรีดเยน็ เหลก็ แทง่ ใหญ่ (Bloom, Beam) เป็นเหล็กโครงสร้างรูปพรรณ เศษเหลก็ (Scrap) ส่วนใหญ่จะเปน็ ผลิตภัณฑเ์ หล็กหลอ่ ข้ึนรปู
5 การพบั ขอบงานและต่อ 1. อธิบายสาระประจาหนว่ ยได้ 18 5 9 1 ตะเข็บโลหะงาน 2. แนะนาการพับขอบงานโลหะแผ่นได้ ตะเข็บเกย (Lap Seam) เป็นการตอ่ ช้นิ งานโดยนาขอบงาน 3. แนะนาการต่อตะเข็บเกยและตะเข็บเก่ียว ท้งั สองมาวางซอ้ นกนั ซึ่งรอยต่อน้ีจะต้องมีกระบวนการอื่น ๆ เพ่ือ งานโลหะแผน่ ได้ ยึดชิ้นงานเข้าด้วยกันอีก เช่น การย้าหมุด การบัดกรี หรือเชื่อมจุด 4. แนะนาการเข้าตะเข็บก้นกระป๋องสวม ตะเข็บเกยน้ีอาจทาได้หลายแบบเพ่ือความสวยงามหรือเพ่ือ นอกและสวมในได้ ประโยชน์การใช้งาน ได้แก่ ต่อเกยปกติ ต่อเกยผิวเรียบ ต่อเกยมุม สว่ นการเผ่ือขนาดเพื่อทาตะเข็บเกย A=W A = ระยะเผอ่ื ของการพับ ขอบตะเข็บแต่ละดา้ น W = ความกว้างของตะเขบ็
6 การบดั กรอี อ่ น 1. อธบิ ายสาระประจาหนว่ ยได้ การบัดกรเี ป็นกระบวนการทร่ี ายการสองหรอื มากกวา่ 6 221 2. แนะนาการใชห้ วั แร้งเผาและหวั แรง้ โลหะมรี ว่ มกันโดยการหลอมและการไหลของโลหะฟิลเลอร์ ไฟฟ้าได้ (ประสาน) ลงร่วมโลหะฟลิ เลอร์ท่ีมจี ดุ หลอมละลายทีต่ า่ กว่าชน้ิ งาน 3. แนะนาการใช้ตะกวั่ บดั กรีและน้ายา ที่ แตกต่างจากการบดั กรเี ช่ือมในการบัดกรีที่ไมเ่ กยี่ วข้องกับการ ประสานบัดกรไี ด้ หลอมชนิ้ งานที่ มีสามรูปแบบของการบัดกรีแตล่ ะต้องอุณหภมู ิท่ี 4. ปฏบิ ตั กิ ารเตรยี มช้นิ งานและเทคนดิ การ สงู ขึน้ และแต่ละความแรงของการผลิตท่ีแขง็ แกร่งรว่ มกนั มากขึน้ มี บดั กรอี ่อน ดังนี้ : 1 การบัดกรีออ่ นซ่ึง แต่เดิมทใ่ี ช้โลหะผสมดบี กุ ตะก่ัวเปน็ โลหะบรรจุ, 2 เงินบัดกรที ่ีใชโ้ ลหะผสมทมี่ ีสเี งนิ , 3 ประสานท่ีใชโ้ ลหะผสมทองเหลืองสาหรบั การบรรจุ โลหะผสมของโลหะฟิลเลอร์สาหรบั ชนิดของการบัดกรีแต่ละจะ สามารถปรับได้ในการปรับเปล่ยี นอุณหภูมิหลอมเหลวของสารตัว เตมิ การบดั กรจี ะปรากฏเปน็ กระบวนการกาวรอ้ น แต่มนั แตกต่าง จากการตดิ กาวอย่างมีนยั สาคัญในการที่บรรจุโลหะผสมโลหะทมี่ ี ช้ินงานทแ่ี ยกในรูปแบบก๊าซและของเหลวพันธบตั รแนน่ การบัดกรี ออ่ นเปน็ ลักษณะโดยมีจุดหลอมละลายของโลหะฟิลเลอรด์ ้านล่าง ประมาณ 400 ° C (752 ° F) ในขณะท่ีเงนิ บดั กรีและประสานการ ใช้อุณหภูมทิ สี่ ูงขนึ้ ซง่ึ โดยปกติจะตอ้ งมีเปลวไฟหรอื ไฟฉายอาร์ คาร์บอนเพือ่ ให้บรรลุการละลายของสารตัวเติมที่ สารตัวเติมโลหะ บดั กรอี ่อนมักจะมีโลหะผสม (มกั จะมีตะก่วั ) ทมี่ ีอณุ หภูมิต่ากว่า 350 liquidus องศาเซลเซียส
7 การใชแ้ ละการบารงุ รกั ษา 1. อธิบายสาระประจาหน่วยได้ การตัดโลหะแผ่น 2 221 เคร่ืองจกั รงานโลหะแผน่ 2. แนะนาการใช้เครื่องตัดตรงละเคร่ืองพับ การตัดโลหะแผ่นด้วยการใช้ Punch และ Die แผ่น โลหะแผ่นได้ 3. แนะนาการใช้เครื่องม้วนขึ้นรูปและทาสัน ช้ินงานจะถูกตัดด้วยคมตัดสองอย่างคือ จะถูกตัดด้วยคมตัดของ โลหะแผน่ ได้ Punch ซ่ึงเป็นขอบของคมตัดในและคมตัดของ Die ซึ่งเป็นขอบ 4. ปฏิบัติการบารงุ รักษาเครอ่ื งจกั รโลหะแผ่น ของคมตัดนอก ระหว่างขอบของคมตัดด้านในและคมตัดด้านนอก ได้ จะมีช่องว่างเลก็ ๆเกดิ ขึ้นช่องว่างนี้เรียกว่า “Clearance” ในการตัด โลหะแผ่นแรงที่ให้แก่ Punch และ Die เพื่อใช้ในการตัดโลหะ เรียกว่าแรงเฉือน (Shear force) แรงน้ีจะมีขนาดเท่ากันและอยู่ตรง ข้ามกันโดยมีช่องว่างเล็กๆ อยู่คั่นกลางแรงทั้งสองนี้ เม่ือมีแรงมา กระทาต่อโลหะจะทาให้เกิดความเค้นเฉือน (Shear Stress) ขึ้นบน ชิ้นงาน แต่ในโลหะแผ่นจะมีแรงท่ีต่อต้านแรงเฉือน ( Shear Strength) ถ้าแรงเฉอื นมีขนาดมากพอท่ีจะทาให้เกิดความเค้นเฉือน มากกวา่ ความแข็งแรงของโลหะนน้ั กจ็ ะทาให้โลหะขาดออกจากกนั -สอบกลางภาค 20 สอบปลายภาค 20 40 72 24 9 รวมทงั้ สนิ้
Search
Read the Text Version
- 1 - 8
Pages: