วิจยั ในช้ันเรียนเรื่อง การแก้ปญั หานักเรยี นไมส่ ามารถปฏิบัตงิ านเชอ่ื มไฟฟา้ ตอ่ ชนบากรอ่ ง ตาแหนง่ ทา่ ราบ วิชางานเชอ่ื มโลหะเบ้อื งตน้ โดยใชว้ ธิ กี ารควบคุมทุกขน้ั ตอน โดย นายยศวริศ เพิม่ บุญ ผูว้ ิจัย ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2561 โรงเรียนราชประชานเุ คราะห์31 สานักบริหารงานการศึกษาพเิ ศษ กระทรวงศกึ ษาธิการ
(ก) กติ ติกรรมประกาศ การแก้ปัญหานักเรียนไม่สามารถปฏิบัติงานเช่ือมไฟฟ้าต่อชนบากร่อง ตาแหน่งท่าราบ วิชางานเชื่อมโลหะเบ้ืองต้น โดยใช้วิธีการควบคุมทุกข้ันตอน นับว่ามีความจาเป็นอย่างย่ิงท่ีต้องนาไปใช้ในการประกอบการเรยี นการสอน ผู้สอนหวังเป็นอย่างย่ิงว่า การวิจัยเรื่อง การแก้ปัญหานักเรียนไม่สามารถปฏิบัติงานเช่ือมไฟฟ้าต่อชนบากร่อง ตาแหน่งท่าราบ วิชางานเช่ือมโลหะเบ้ืองต้น จะแนวทางผู้เรียนไปสู่การปฏิบัติที่ถูกต้องตามลาดบั ขั้นตอนและสามารถนาไปปรบั ใช้ในชวี ติ ประจาวนั ไดเ้ ปน็ อย่างดี ผสู้ อนขอขอบประคุณท่านเจ้าของ หนังสือวิชางานเช่ือมโลหะเบ้ืองต้น เอกสารท่ีได้นามาประกอบในการแกป้ ัญหานกั เรียนไม่สามารถปฏิบตั งิ านเช่ือมไฟฟา้ ต่อชนบากร่องตาแหน่งท่าราบ หวังเป็นอย่างยิ่งว่าใบงาน การแก้ปญั หานักเรยี นไม่สามารถปฏิบัติงานเช่ือมไฟฟ้าต่อชนบากร่องตาแหน่งท่าราบ วิชางานเชื่อมโลหะเบื้องต้น เลม่ น้ี จะเป็นประโยชน์ต่อผู้ท่ีได้ศึกษา และสามารถนาไปประยุกต์ใช้ในการจัดการเรียนการสอนต่อไป ยศวรศิ เพ่ิมบุญ ……/........../........
(ข)ช่อื เรือ่ ง การแก้ปญั หานักเรียนไม่สามารถปฏิบตั ิงานเช่ือมไฟฟ้าต่อชนบากร่อง ตาแหนง่ ท่าราบ วิชางานเชื่อมโลหะเบ้ืองต้น โดยใชว้ ธิ กี ารควบคุมทกุ ข้ันตอนช่อื ผ้วู ิจยั โรงเรียนราชประชานุเคราะห์31ปกี ารศกึ ษา นายยศวรศิ เพิ่มบญุ 2561 บทคัดย่อ การวิจัยคร้ังนี้มีวัตถุประสงค์ คือ เพื่อแก้ปัญหานักเรียนไม่สามารถปฏิบัติงานเช่ือมไฟฟ้าต่อชนบารอ่ ง ตาแหนง่ ท่าราบ วิชางานเชือ่ มโลหะเบื้องตน้ โดยใช้วธิ ีการควบคมุ ทุกขน้ั ตอนกล่มุ ตัวอย่างทใี่ ชใ้ นงานวจิ ัยได้แกน่ ักเรียน ชั้นมธั ยมศกึ ษาปที ่ี 4/3 โรงเรียนราชประชานุเคราะห์31 จานวน 2คน ประจาภาคเรียนท่ี 1 ปีการศึกษา 2561เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ แบบประเมินทักษะ การสังเกตพฤติกรรมการปฏบิ ัตงิ านของนกั ศกึ ษา ผลการวิจยั สรุปได้ดงั น้ี จากการควบคุมทกุ ขน้ั ตอน ผู้วจิ ัยไดน้ าแบบบันทึกผลการปฏิบตั งิ านเชือ่ มไฟฟา้ ต่อชนบากร่องตาแหน่งท่าราบ กอ่ นใช้วิธกี ารควบคุมทกุ ข้ันตอน และแบบบนั ทกึ ผลการปฏิบัติงานเช่ือมไฟฟ้าต่อชนบากรอ่ งตาแหน่งทา่ ราบ หลังใช้วิธกี ารควบคุมทุกขัน้ ตอน ผลปรากฏว่านักเรียนจานวน 2 คน สามารถปฏิบตั ิงานเช่อื มไฟฟา้ ต่อชนบากร่องตาแหน่งทา่ ราบ ไดถ้ กู ตอ้ งตามทก่ี าหนด คิดเป็นร้อยละ 100 แสดงวา่ วธิ กี ารควบคมุ ทกุ ขั้นตอนเป็นอีกวิธีการหนง่ึ ในการแกป้ ัญหานักศกึ ษาท่ไี ม่สามารถปฏิบัตงิ านเชือ่ มไฟฟ้าต่อชนบากรอ่ งตาแหน่งทา่ ราบได้
(ค) หนา้ สารบาญ ก ขกติ ตกิ รรมประกาศ คบทคดั ย่อสารบาญ งสารบาญตาราง 1บทท่ี 1 บทนา 1 1 ที่มาและความสาคญั ของปญั หา 1 วัตถปุ ระสงคก์ ารวิจยั 1 สมมติฐานการวิจยั 2 ขอบเขตของการวิจยั 2 ประโยชน์ทค่ี าดวา่ จะได้รบั 3 นิยามศพั ทเ์ ฉพาะ 3บทที่ 2 เอกสารและงานวจิ ัยทเ่ี กย่ี วข้อง 9 หลกั สูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพ(ปรบั ปรงุ พ.ศ.2546) 9บทที่ 3 วิธดี าเนนิ การวจิ ัย 9 ประชากรและกลุ่มตวั อยา่ ง 11 เครื่องมอื ทใ่ี ชใ้ นการศึกษา 13บทท่ี 4 ผลการวเิ คราะหข์ อ้ มูล 13บทท่ี 5 สรปุ อภิปรายผลและข้อเสนอแนะ 13 สรุปผลการวิจยั ขอ้ เสนอแนะบรรณานุกรม
(ง) หนา้ สารบาญตาราง 11 12ตารางที่4.1 แบบบนั ทึกผลการปฏิบตั ิงานเชอ่ื มไฟฟ้าต่อชนบากร่องตาแหน่งทา่ ราบ ก่อนการใช้วิธกี ารควบคุมทกุ ขัน้ ตอน4.2 แบบบันทกึ ผลการปฏิบตั ิงานเชอ่ื มไฟฟา้ ต่อชนบากร่องตาแหน่งทา่ ราบ หลังจากการใช้วธิ ีการควบคมุ ทุกขนั้ ตอน
บทท่ี 1 บทนาทมี่ าและความสาคัญของปัญหา จากการท่ผี วู้ ิจยั ได้รับมอบหมายให้สอนนกั เรียน วชิ างานเชอ่ื มโลหะเบ้ืองต้น ภาคเรียนท่ี 1 ปีการศกึ ษา 2561 พบวา่ นักเรยี นบางคนไม่สามารถปฏิบัติงานเชอ่ื มไฟฟา้ ต่อชนบากร่องตาแหน่งทา่ ราบ วชิ างานเช่อื มโลหะเบือ้ งต้น ได้ การปฏบิ ตั ิงานเช่ือมไฟฟา้ ตอ่ ชนบากร่องตาแหน่งทา่ ราบเปน็ จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ที่นักเรียนต้องสามารถเช่ือมไฟฟ้าต่อชนบากร่องในตาแหน่งท่าราบได้และต้องผา่ นเกณฑ์ตามที่มาตรฐานกาหนด เพราะการปฏิบตั งิ านเชื่อมไฟฟา้ ต่อชนบากรอ่ งตาแหนง่ ท่าราบเป็นทักษะพน้ื ฐานในการเชอื่ มตอ่ ชนบากร่อง ถ้านักเรียนเชื่อมไฟฟา้ ต่อชนบากร่องตาแหนง่ ทา่ ราบไมผ่ ่านเกณฑ์ทีก่ าหนดกจ็ ะส่งผลไม่สามารถเช่อื มไฟฟา้ตอ่ ชนบากรอ่ งในตาแหนง่ ท่าอ่นื ได้ ดงั น้นั ผวู้ ิจยั จงึ มแี นวคิดในการนาวิธกี าร ควบคมุ ทุกข้ันตอนมาแก้ปัญหาดงั กล่าววตั ถุประสงค์การวิจัย 1. เพ่อื การแก้ปัญหานกั เรียนไม่สามารถปฏิบตั ิงานเช่อื มไฟฟ้าต่อชนบากร่องตาแหนง่ ทา่ ราบ วิชางาน เชือ่ มโลหะเบอื้ งต้น โดยใช้วิธีการควบคุมทกุ ขั้นตอนสมมตฐิ านการวิจยั นักเรียนสามารถปฏิบัติงานเชื่อมไฟฟ้าตอ่ ชนบากรอ่ งตาแหนง่ ท่าราบ วชิ างานเช่ือมโลหะเบ้ืองตน้ได้ถกู ตอ้ งตามมาตรฐานท่ีกาหนดทกุ คนขอบเขตของการวิจัย 1. ประชากรทีใ่ ช้ในการศกึ ษาคร้ังน้ี ไดแ้ ก่ นกั เรยี น ระดบั ช้ันมธั ยมศกึ ษาปีที่ 4/3 โรงเรยี นราชประชานุ เคราะห์31 ประจาภาคเรียนที่ 1 ปกี ารศกึ ษา 2561 2. กลุ่มตัวอย่างท่ใี ช้ในการศกึ ษาครั้งน้ี ไดแ้ ก่ นักเรียน ระดบั ช้นั มัธยมศึกษาปีที่ 4/3 โรงเรียนราช ประชานเุ คราะห3์ 1 ที่ไม่สามารถปฏบิ ัตงิ านเช่ือมไฟฟ้าตอ่ ชนบากร่องตาแหนง่ ทา่ ราบ ไดถ้ ูกตอ้ ง ตามท่ีกาหนด จานวน 2 คนประโยชน์ทีค่ าดว่าจะไดร้ ับ 1. ชว่ ยพัฒนากิจกรรมการเรียนการสอนให้มปี ระสิทธิภาพมากยง่ิ ขนึ้ 2. เป็นแนวทางการวจิ ัยโดยใช้ใบงาน ในรายวชิ าอืน่ ๆ ต่อไปนยิ ามศัพทเ์ ฉพาะ นักเรียน หมายถึง นักเรยี น ระดับชน้ั มัธยมศกึ ษาปที ี่ 4/3 โรงเรยี นราชประชานเุ คราะห3์ 1สานกั บรหิ ารงานการศกึ ษาพเิ ศษ
บทที่ 2 เอกสาร และงานวจิ ยั ทเี่ กี่ยวขอ้ ง การแก้ปัญหานักเรียนไม่สามารถปฏิบัตงิ านเช่ือมไฟฟา้ ต่อชนบากรอ่ งตาแหนง่ ทา่ ราบ วชิ า งานเช่ือมโลหะเบื้องต้น โดยใช้วิธีการควบคมุ ทุกข้ันตอน ผู้วจิ ัยไดศ้ ึกษาเอกสาร และงานวิจยั ทีเ่ ก่ยี วขอ้ งดงั นี้หลกั สตู รประกาศนยี บัตรวิชาชีพพุทธศักราช 2545 (ปรับปรงุ พ.ศ.2546) 1. หลกั การ 2. จดุ มุง่ หมาย 3. หลกั การใช้ 4. จดุ ประสงค์รายวิชา มาตรฐานรายวชิ า และคาอธิบายรายวิชาหลักสตู รประกาศนียบัตรพทุ ธศกั ราช 2545 (ปรบั ปรุง พ.ศ.2546) กระทรวงศึกษาธกิ าร (2546 : 1 – 6 ) ได้กาหนดหลักสตู รประกาศนยี บตั รวชิ าชีพพุทธศกั ราช 2545(ปรับปรงุ พ.ศ.2546) ดังนี้1. หลกั การ 1.1 เปน็ หลกั สตู รระดับประกาศนยี บัตรวิชาชพี หลงั มธั ยมศึกษาตอนต้นเพ่ือพัฒนากาลังคนระดับฝีมือใหม้ คี วามชานาญเฉพาะด้าน มีคณุ ธรรม บคุ ลิกภาพและเจตคตทิ เี่ หมาะสมสามารถประกอบอาชีพได้ตรงตามความต้องการของตลาดแรงงานและการประกอบอาชีพอสิ ระ สอดคลอ้ งกับภาวะเศรษฐกจิ และสังคมในระดับท้องถิ่นและระดบั ชาติ 1.2 เป็นหลกั สูตรท่ีเปดิ โอกาสใหเ้ ลอื กเรยี นได้อยา่ งกวา้ งขวาง เพือ่ เนน้ ความชานาญ เฉพาะดา้ นดว้ ยการปฏบิ ัติจรงิ สารมารถเลือกวิธีการเรยี นตามศกั ยภาพและโอกาสของผ้เู รยี น ถา่ ยโอน – ผลการเรียนสะสมผลการเรียน เทียบความรู้และประสบการณจ์ ากแหล่งวทิ ยาการสถานประกอบการและสถานประกอบอาชีพอสิ ระได้ 1.3 เปน็ หลกั สูตรที่สนบั สนุนการประสานความรว่ มมอื ในการจัดการศึกษาร่วมกนั ระหว่างหนว่ ยงานและองคก์ รทเ่ี กี่ยวขอ้ ง ทงั้ ภาครฐั และเอกชน 1.4 เป็นหลักสตู รที่เปดิ โอกาสใหส้ ถานศกึ ษา ชุมชนและทอ้ งถ่นิ มสี ว่ นร่วมในการพฒั นาหลักสูตรใหต้ รงตามความต้องการและสอดคลอ้ งกบั สภาพชมุ ชนและท้องถ่ิน
2. จุดมงุ่ หมาย 2.1 เพือ่ ใหม้ คี วามรู้ ทกั ษะและประสบการณใ์ นงานอาชพี ตรงตามมาตรฐานวิชาชีพ นาไปปฏบิ ตั ิงานอาชีพได้อย่างมีประสทิ ธิภาพ สามารถเลอื กวถิ ีการดารงชวี ติ และการประกอบอาชพี ได้อยา่ งเหมาะสมกับตน สร้างสรรค์ความเจรญิ ต่อชุมชน ทอ้ งถนิ่ และประเทศชาติ 2.2 เพื่อใหเ้ ป็นผู้มีปัญญา มีความคิดริเรมิ่ สรา้ งสรรค์ ใฝเ่ รียนรู้ เพ่ือพัฒนาคณุ ภาพชีวิตและการประกอบอาชพี สามารถสรา้ งอาชพี มที ักษะในการจดั การและพัฒนาอาชพี ใหก้ า้ วหนา้ อยูเ่ สมอ 2.3 เพื่อให้มีเจตคติทดี่ ีต่ออาชีพ มคี วามมั่นใจและภูมใิ จในวิชาชพี ท่ีเรียน รกั งานรักหน่วยงานสามารถทางานเป็นหมู่คณะได้ดี โดยมคี วามเคารพในสิทธแิ ละหนา้ ทข่ี องตนเองและผอู้ ื่น 2.4 เพอื่ ใหเ้ ป็นผมู้ ีพฤตกิ รรมทางสงั คมที่ดงี าม ทั้งในการทางาน การอยู่ร่วมกนั มคี วามรับผดิ ชอบต่อครอบครัว หนว่ ยงาน ทอ้ งถน่ิ และประเทศชาติ อุทศิ ตนเพ่ือสังคม เขา้ ใจและเหน็ คุณค่าของศิลปวฒั นธรรมภมู ปิ ัญญาท้องถ่ิน รู้จักใช้และอนรุ กั ษท์ รัพยากรธรรมชาติและสรา้ งสรรค์ ส่ิงแวดล้อมที่ดี 2.5 เพอ่ื ให้มีบุคลิกภาพทด่ี ี มมี นษุ ยสัมพนั ธ์ มคี ณุ ธรรม จริยธรรมและวนิ ยั ในตนเองมีสขุ ภาพอนามัยท่สี มบรู ณท์ ้งั รา่ งกายและจิตใจ เหมาะสมกบั อาชีพนน้ั ๆ 2.6 เพอื่ ใหต้ ระหนกั และมีสว่ นรว่ มในการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ สังคมการเมอื งของประเทศและโลกปัจจุบัน มีความรักชาติ สานกึ ในความเปน็ ไทย เสยี สละเพื่อส่วนรวม ดารงรกั ษาไวซ้ ง่ึ ความมั่นคงของชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และการปกครองระบอบประชาธปิ ไตยอนั มี พระมหากษัตรยิ เ์ ป็นประมขุ3. หลักเกณฑ์การใช้หลักสูตร 3.1 การเรยี นการสอน 1) การเรยี นการสอนตามหลักสตู รน้ี ผ้เู รียนสามารถลงทะเบียนเรียนได้ ทุกวธิ ีเรียนท่ี กาหนดและนาผลการเรียนแตล่ ะวธิ มี าประเมนิ ผลร่วมกันได้ สามารถโอนผลการเรยี น และขอเทียบ ความรแู้ ละประสบการณ์ได้ 2) การจัดการเรียนการสอนเนน้ การปฏบิ ตั ิจรงิ โดยสามารถนารายวชิ าไปจัดฝกึ ในสถาน ประกอบการไม่น้อยกวา่ 1 เดอื น 3.2 เวลาเรียน 1) ในปีการศกึ ษาหน่ึงๆ ใหแ้ บ่งภาคเรียนออกเป็น 2 ภาคเรยี นปกติ ภาคเรยี นละ 20 สัปดาห์ โดยมีเวลาเรียนและจานวนหนว่ ยกิตตามทีก่ าหนด และสถานศกึ ษาอาจเปิดสอนภาคเรยี นฤดูร้อนได้ อีกตามท่ีเห็นสมควร ประมาณ 5 สปั ดาห์
2) การเรียนในระบบช้นั เรยี น ใหส้ ถานศึกษาเปิดทาการสอนไม่นอ้ ยกว่าสปั ดาห์ละ 5 วัน คาบละ 60 นาที (1 ชัว่ โมง) 3.3 หนว่ ยกติ ใหม้ จี านวนหน่วยกิตตลอดหลักสตู รไมน่ อ้ ยกว่า 102 หนว่ ยกติ การคิดหน่วยกติ ถือเกณฑด์ งั นี้ 1) รายวิชาภาคทฤษฎี 1 ชวั่ โมงตอ่ สัปดาห์ ตลอดภาคเรยี นไมน่ อ้ ยกว่า 20 ช่วั โมงมีคา่ 1 หน่วยกิต 2) รายวชิ าทป่ี ระกอบดว้ ยภาคทฤษฎีและภาคปฏบิ ัติให้บูรณาการ การเรียนการสอน กาหนด 2–3 ช่วั โมงต่อสัปดาห์ ตลอดภาคเรยี นไม่นอ้ ยกว่า 40–60 ช่ัวโมง มคี ่า 1 หนว่ ยกติ 3) รายวิชาท่นี าไปฝึกงานในสถานประกอบการ กาหนดเวลาในการฝึกปฏบิ ัติงานไม่น้อย กวา่ 40 ช่วั โมง มีคา่ 1 หน่วยกิต 4) การฝกึ อาชีพในระบบทวิภาคี ใช้เวลาฝกึ ไม่นอ้ ยกวา่ 40 ช่วั โมง มคี ่า 1 หน่วยกิต 5) การทาโครงการให้เป็นไปตามทกี่ าหนดไว้ในหลกั สตู ร 3.4 โครงสรา้ ง โครงสรา้ งของหลกั สตู รประกาศนยี บตั รวชิ าชพี พทุ ธศักราช 2545 (ปรับปรุง พ.ศ. 2546)แบง่ เป็น 3หมวดวชิ า ฝึกงาน และกจิ กรรมเสริมหลกั สตู ร ดังน้ี 1) หมวดวิชาสามัญ 1.1) วิชาสามัญท่ัวไป เปน็ วชิ าที่เป็นพืน้ ฐานในการดารงชีวิต 1.2) วชิ าสามัญพื้นฐานวชิ าชีพ เปน็ วชิ าทเี่ ป็นพน้ื ฐานสมั พันธก์ บั วิชาชพี 2) หมวดวชิ าชพี 2.1) วชิ าพน้ื ฐาน เปน็ กลมุ่ วชิ าชพี สัมพนั ธ์ท่ีเปน็ พน้ื ฐานท่ีจาเปน็ ในประเภทวชิ า นั้นๆ 2.1) วชิ าชีพสาขาวิชา เปน็ กลุ่มวชิ าชพี หลักในสาขาวิชานน้ั ๆ 2.2) วิชาชีพสาขางาน เป็นกลุ่มวิชาชพี ท่ีมงุ่ ให้ผู้เรยี นมคี วามรแู้ ละทักษะเฉพาะ ดา้ นในงานอาชีพตามความถนดั และความสนใจ 2.3) โครงการ 3) หมวดวิชาเลือกเสรี 4) ฝึกงาน 5) กจิ กรรมเสรมิ หลักสตู ร จานวนหน่วยกติ ของแตล่ ะหมวดวิชาตลอดหลักสูตรให้เป็นไปตามกาหนดไวใ้ นโครงสรา้ งของแต่ละประเภทวชิ าและสาขาวชิ าส่วนรายวชิ าแตล่ ะหมวดวชิ าสถานศึกษาสามารถจัดตามที่กาหนดไวใ้ นหลกั สูตร หรือจัดตามความเหมาะสมของสภาพทอ้ งถนิ่ ทงั้ น้สี ถานศกึ ษาตอ้ งกาหนดรหัสวิชาจานวนคาบเรยี น และจานวนหน่วยกติ ตามระเบยี บทีก่ าหนดไว้ในหลักสตู ร 3.5 โครงการ
1) สถานศกึ ษาต้องจัดให้ผู้เรียนจัดทาโครงการในภาคเรยี นที่ 6 ไม่นอ้ ยกวา่ 160 ชั่วโมงกาหนดให้มีค่า 4 หนว่ ยกติ 2) การตัดสนิ ผลการเรียนและให้ระดบั ผลการเรียน ให้ปฏบิ ัตเิ ชน่ เดยี วกับรายวชิ าอื่นๆ3.6 ฝึกงาน 1) ให้สถานศึกษานารายวชิ าในหมวดวิชาชพี ไปจัดฝกึ ในสถานประกอบการ อยา่ งนอ้ ย 1ภาคเรยี น 2) การตัดสินผลการเรยี นและใหร้ ะดบั ผลการเรยี นใหป้ ฏิบตั เิ ชน่ เดยี วกับ รายวิชาอื่น3.7 การเขา้ เรยี น พ้ืนความรแู้ ละคณุ สมบตั ิของผเู้ รียน ให้เปน็ ไปตามระเบียบกระทรวงศึกษาธกิ าร ว่าดว้ ยการจดั การศกึ ษาตามหลกั สตู รประกาศนียบตั รวชิ าชพี พทุ ธศกั ราช 2545 พ.ศ. 25463.8 การประเมินผลการเรยี น ใหเ้ ปน็ ไปตามระเบยี บกระทรวงศกึ ษาธิการวา่ ดว้ ยการประเมินผลการเรยี นตามหลกั สูตรประกาศนยี บตั รวิชาชพี พทุ ธศักราช 2545 พ.ศ. 25463.9 กิจกรรมเสริมหลักสตู ร สถานศกึ ษาต้องจัดให้มีกจิ กรรมเพือ่ ปลูกฝังคณุ ธรรม จริยธรรม คา่ นยิ ม ระเบยี บวนิ ัยของตนเอง และส่งเสริมการทางาน ใช้กระบวนการกลุ่มในการทาประโยชนต์ ่อชุมชน ทะนุบารุงขนบธรรมเนยี มประเพณอี ันดงี าม โดยการวางแผน ลงมือปฏิบัติ ประเมินผล และปรบั ปรุงการทางาน3.10 การสาเร็จการศกึ ษาตามหลกั สตู ร 1) ประเมินผา่ นรายวิชาในหมวดวิชาสามัญ หมวดวิชาชีพ และหมวดวิชาเลือกเสรตี ามท่ีกาหนดไว้ในหลกั สตู รแตล่ ะประเภทวิชาและสาขาวชิ า 2) ไดจ้ านวนหน่วยกิตสะสมครบตามโครงสร้างของหลักสูตรแต่ละประเภทวชิ าและสาขาวิชา 3) ไดค้ ่าระดับคะแนนเฉลีย่ สะสมไม่ตา่ กวา่ 2.00 4) เข้าร่วมกิจกรรมและผา่ นการประเมินทกุ ภาคเรยี น 5) ประเมนิ ผา่ นมาตรฐานวิชาชีพสาขาวิชา3.11 การแก้ไขและเปล่ยี นแปลงหลักสตู ร 1) ให้อธบิ ดีกรมอาชีวศกึ ษาเป็นผู้มอี านาจในการเพิม่ เติม ปรบั ปรุง หรือ ยกเลิกประเภทวชิ าสาขาวชิ า สาขางาน รายวชิ า และโครงสรา้ งหลักสตู รประกาศนียบตั รวิชาชพี พุทธศกั ราช 2545 ในหลกั สตู รประกาศนียบตั รวิชาชพี พทุ ธศักราช 2545 2) ใหผ้ บู้ รหิ ารสถานศกึ ษาเป็นผ้มู อี านาจเพิ่มเติม แกไ้ ข เปลี่ยนแปลง รายวิชาต่างๆ ในหลักสตู รประกาศนยี บัตรวิชาชพี พทุ ธศกั ราช 2545 โดยต้องรายงานให้ต้นสังกัดทราบ
4. วชิ างานเช่ือมโลหะเบื้องต้น 4.1 จุดประสงค์รายวิชา 1. เพื่อให้มคี วามตระหนักเก่ียวกับความปลอดภัยในการเช่ือม 2. เพอ่ื ใหม้ ีความเข้าใจสมบัติและความสามารถในการเช่ือมของวสั ดุ ขอ้ บกพรอ่ งในงานเช่ือม หลักการอา่ น และเขียนสญั ลกั ษณใ์ นงานเชื่อม 3. เพ่อื ใหส้ ามารถใช้เทคนิคการเช่ือมแนวซึมลึก (Root Pass) แนวเตมิ (Hot Pass) และแนว ปกคลมุ (Cover Pass) 4. เพื่อใหส้ ามารถเชื่อมอารก์ ลวดห้มุ ฟลักซแ์ ผ่นเหล็กกลา้ ต่อชนบากร่องวีท่าเช่ือม 1G (PA) 2G (PB) 3G (PF/PD) 4G (PE) ผา่ นเกณฑท์ ดสอบตามมาตรฐาน 5. เพอ่ื ให้สามารถตรวจสอบงานเชือ่ มด้วยสายตาและการดัดงอตามมาตรฐานงานเชื่อม 6. เพอ่ื ใหม้ ีกจิ นิสยั ในการปฏิบตั กิ ารเชื่อมโดยใช้อปุ กรณ์ความปลอดภยั และตรงต่อเวลา 4.2 มาตรฐานรายวชิ า 1. เขา้ ใจหลกั ความปลอดภัยในการเช่ือมตามมาตรฐาน 2. เขา้ ใจเกย่ี วกับสมบตั แิ ละความสามารถในการเชื่อมของวสั ดุ ข้อบกพร่องในงานเชื่อม 3. ระบุสัญลักษณแ์ ละส่วนตา่ งๆ ของรอยเชือ่ มมุม (Fillet Weld) รอยเช่ือมร่อง (Groove Weld) ตามมาตรฐาน 4. เช่อื มอารก์ ลวดเช่อื มหุ้มฟลกั ซ์แผ่นเหล็กตอ่ ชนบากร่องวี 1G (PA) 2G (PB) 3G (PF/PD) 4G (PE) ตามมาตรฐาน 5. ตรวจสอบจุดบกพร่องแนวเชื่อมด้วยสายตาและการดดั งอแนวเชอ่ื มตามมาตรฐาน 4.3 คาอธบิ ายรายวชิ า ศกึ ษาและปฏิบัติเก่ียวกับความปลอดภัยในงานเชื่อม สมบัติและความสามารถในการเช่ือม ของชนิ้ งานและลวดเชื่อมชนิดตา่ งๆ สญั ลักษณใ์ นงานเช่ือม ส่วนตา่ งๆ ของรอยเช่ือมมุมและรอย เช่อื มรอ่ ง ชนิดของลวดเชื่อม การอ่าน WPS (Welding Procedure Specification) และ PQR (Procedure Qualification Record) จุดบกพร่องในงานเช่ือม เทคนิคในการเชอ่ื ม การตรวจสอบงาน เชื่อมดว้ ยสายตาและการดัดงอ งานเชอื่ มไฟฟา้ เหล็กแผน่ ต่อชนบากร่องวี ทกุ ท่าเชอ่ื มด้วยลวดเชอ่ื ม เซลลโู ลสและเบสกิ (Cellulose and Basic Electrode) โดยใชอ้ ุปกรณ์ความปลอดภัยส่วนบุคคล ถูกต้องตามหลกั ความปลอดภัยและอาชีวอนามัย
บทที่ 3 วิธีดาเนนิ การวจิ ัย การวิจยั ครัง้ น้ผี ู้วจิ ยั ใชแ้ บบประเมินทักษะ การสังเกตพฤติกรรมการปฏิบัติงานของนักศึกษา เพอ่ืการแกป้ ญั หานกั เรียนไมส่ ามารถปฏิบตั งิ านเชื่อมไฟฟา้ ตอ่ ชนบากรอ่ งตาแหนง่ ท่าราบ วชิ า งานเช่อื โลหะเบื้องต้น ผ้วู จิ ยั ได้ดาเนินการวจิ ยั ตามข้ันตอนตอ่ ไปนี้ 1. กลุ่มประชากรและกลุม่ ตวั อย่าง 2. เครื่องมอื ทใี่ ช้ในการวิจัย 3. สถิติทใ่ี ชใ้ นการวจิ ัย 3.1 กลุ่มประชากรและกล่มุ ตัวอยา่ ง 3.1.1 ประชากรท่ใี ชใ้ นการศึกษาครัง้ น้ี ได้แก่ นักเรยี น ชั้นมธั ยมศกึ ษาปที ี่ 4/3 โรงเรยี นราช ประชานุเคราะห์31 ประจาภาคเรยี นท่ี 1ปกี ารศึกษา 2561 3.1.2 กล่มุ ตวั อยา่ งท่ใี ช้ในการศกึ ษาครง้ั นี้ ไดแ้ ก่ นักเรยี น ชนั้ มธั ยมศึกษาปีท่ี 4/3 โรงเรียน ราชประชานุเคราะห์31 ทีไ่ ม่สามารถปฏิบตั ิงานเช่อื มไฟฟ้าตอ่ ชนบากร่องตาแหน่งท่าราบ ได้ ถูกต้องตามทก่ี าหนด จานวน 2 คน 3.2 เครื่องมอื ทใี่ ชใ้ นการวจิ ัย 3.2.1 ใบความรู้ เรื่อง การปฏิบัติงานเชื่อมไฟฟ้าต่อชนบากรอ่ งตาแหน่งท่าราบ วิชา งาน เชื่อมโลหะ 2 3.2.2 ใบปฏิบตั งิ าน เร่ือง ปฏิบตั งิ านเชื่อมไฟฟ้าต่อชนบากร่องตาแหนง่ ทา่ ราบ 3.2.3. กิจกรรมการควบคมุ ทุกขน้ั ตอน การเก็บรวบรวมข้อมลู 1. แบบประเมินทักษะ 2. กิจกรรมการเรียน การสอน 3. การสงั เกตพฤติกรรมการปฏิบตั งิ านของนกั ศกึ ษา วิธีการเกบ็ รวบรวมข้อมูล มขี ัน้ ตอนดงั น้ี 1. แจกใบความร้แู ก่นักเรยี นให้ศึกษาเน้อื หาเกีย่ วกบั การปฏิบัติงานเชอื่ มไฟฟ้าต่อ ชนบากรอ่ งตาแหนง่ ทา่ ราบ วิชา งานเช่อื มโลหะเบื้องตน้ 2. ผู้วิจยั สรุปเน้ือหาให้นกั เรียนฟงั อกี ครงั้ หนงึ่ 3. สาธติ การปฏิบตั งิ านเชื่อมไฟฟ้าตอ่ ชนบากร่องตาแหน่งทา่ ราบ และแจกใบงาน แก่นักเรยี น 4. ใหน้ ักเรยี นแตล่ ะคนปฏิบตั งิ านเช่ือมไฟฟา้ ต่อชนบากร่องตาแหน่งทา่ ราบ โดย ผู้วิจัยควบคมุ ทุกข้นั ตอน ต้ังแตก่ ารเปิดเคร่ืองเชอ่ื มไฟฟา้ การปรบั กระแสไฟ การทามมุ
ลวดเช่อื มกบั ช้ินงาน ความเร็วในการเดินลวดเช่ือม พรอ้ มบนั ทกึ ผลการปฏิบตั ิงานไวท้ ุก ขนั้ ตอนการวิเคราะห์ขอ้ มูลและแปลผลข้อมลู จากการควบคุมทุกขั้นตอน ผู้วิจยั ไดน้ าแบบบนั ทกึ ผลการปฏิบตั งิ านเชื่อมไฟฟา้ ต่อชนบากรอ่ งตาแหน่งทา่ ราบ ก่อนใชว้ ธิ กี ารควบคุมทกุ ขน้ั ตอน และแบบบันทกึ ผลการปฏบิ ตั ิงานเช่ือมไฟฟ้าต่อชนบากรอ่ งตาแหน่งท่าราบ หลงั ใช้วธิ กี ารควบคมุ ทุกข้ันตอน ผลปรากฏวา่ นักเรียนจานวน 2 คน สามารถปฏบิ ตั ิงานเชือ่ มไฟฟา้ ต่อชนบากร่องตาแหนง่ ทา่ ราบ ไดถ้ ูกต้องตามทกี่ าหนด คดิ เปน็ ร้อยละ 100 แสดงวา่ วธิ ีการควบคมุ ทกุ ขนั้ ตอนเป็นอกี วธิ ีการหนึ่งในการแกป้ ญั หานักศกึ ษาทไี่ มส่ ามารถปฏิบัตงิ านเชือ่ มไฟฟ้าต่อชนบากรอ่ งตาแหนง่ ท่าราบ
บทท่ี 4 ผลการวเิ คราะหข์ ้อมลู การแก้ปัญหานกั เรยี นไม่สามารถปฏิบัตงิ านเช่ือมไฟฟา้ ต่อชนบากรอ่ งตาแหนง่ ทา่ ราบ วิชา งานเชอื่ มโลหะเบอ้ื งตน้ โดยใชว้ ิธกี ารควบคมุ ทกุ ข้นั ตอน ในครงั้ น้ีผูว้ ิจยั ได้นาเสนอผลการวเิ คราะหข์ ้อมูลที่รวบรวมได้จากกลมุ่ ตัวอยา่ งดังน้ี ตอนที่ 1 การปฏิบัตงิ านเช่ือมไฟฟ้าต่อชนบากร่องตาแหน่งทา่ ราบ ก่อนใช้วธิ ีการควบคุมทกุ ขนั้ ตอน ตอนท่ี 2 การปฏิบัติงานเชื่อมไฟฟา้ ต่อชนบากร่องตาแหน่งทา่ ราบ หลงั จากการใชว้ ิธกี ารควบคมุ ทกุ ขัน้ ตอน ตอนท่ี 1 การวจิ ัยครั้งน้ีมวี ิธกี ารเกบ็ รวบรวมข้อมลู โดยใชแ้ บบบนั ทึกผลการปฏิบตั ิงานเชื่อมไฟฟ้าตอ่ ชนบากร่องตาแหนง่ ทา่ ราบ กอ่ นการใชว้ ิธกี ารควบคมุ ทกุ ข้นั ตอน ของกล่มุ ตัวอยา่ งจาก ดงั รายละเอียดท่ปี รากฏในตาราง 4.1ตาราง 4.1 แบบบันทึกผลการปฏบิ ัตงิ านเชื่อม บันทกึ การปฏิบัติงานแต่ละขน้ั ตอนไฟฟา้ ตอ่ ชนบากร่องตาแหน่งทา่ ราบ ก่อนการใช้วธิ กี ารควบคุมทกุ ขั้นตอน ข้ันตอนการปฏบิ ตั ิงาน นักเรียนคนที่ 1 นกั เรยี นคนที่ 21. การเตรียมชิ้นงาน ถูกตอ้ ง ถูกตอ้ ง2. ความปลอดภัยในการปฏิบัตงิ าน ไมถ่ ูกตอ้ ง ไม่ถูกต้อง3. การเปดิ เคร่ืองเชื่อมไฟฟ้า ไมถ่ กู ต้อง ไมถ่ กู ตอ้ ง4. การปรบั กระแสไฟ ถกู ตอ้ ง ถกู ต้อง5.การทามุมลวดเชื่อมกับชิน้ งาน ไมถ่ ูกต้อง ไมถ่ ูกตอ้ ง6. ความเรว็ ในการเดนิ ลวดเช่ือม ถกู ตอ้ ง ไมถ่ กู ตอ้ งจากตาราง 4.1 พบวา่ นกั เรียนปฏบิ ตั ิงานเช่อื มไฟฟา้ ต่อชนบากร่องตาแหนง่ ทา่ ราบ ปฏิบัติงานไมถ่ กู ตอ้ งตามขั้นตอนที่กาหนดไว้ตอนท่ี 2 การวจิ ัยครัง้ นม้ี ีวิธีการเกบ็ รวบรวมข้อมูลโดยใช้แบบบนั ทึกผลการปฏิบัติงานเชื่อมไฟฟ้าต่อชนบากรอ่ งตาแหน่งทา่ ราบ หลังจากการใชว้ ธิ กี ารควบคุมทกุ ขัน้ ตอน ของกลมุ่ ตัวอย่างจาก ดงั รายละเอียดท่ปี รากฏในตาราง 4.2
ตาราง 4.2 แบบบันทึกผลการปฏบิ ัตงิ านเชอ่ื มไฟฟ้า บันทึกการปฏิบัติงานแตล่ ะขั้นตอนต่อชนบากรอ่ งตาแหนง่ ทา่ ราบ หลงั จากการใช้วธิ กี ารควบคมุ ทุกขัน้ ตอน ขั้นตอนการปฏบิ ตั งิ าน1. การเตรียมช้ินงาน นักเรยี นคนที่ 1 นักเรียนคนที่ 22. ความปลอดภัยในการปฏิบัตงิ าน ถูกต้อง ถูกต้อง3. การเปิดเครื่องเชื่อมไฟฟา้ ไมถ่ กู ตอ้ ง ไมถ่ ูกต้อง4. การปรับกระแสไฟ ไมถ่ กู ตอ้ ง ไม่ถกู ต้อง5.การทามุมลวดเช่ือมกับชน้ิ งาน ถกู ต้อง ถูกตอ้ ง6. ความเร็วในการเดนิ ลวดเช่ือม ไมถ่ กู ต้อง ไม่ถูกต้อง ถูกต้อง ไม่ถกู ต้องจากตาราง 4.2 พบว่านักเรียนปฏิบตั ิงานเช่ือมไฟฟ้าต่อชนบากร่องตาแหน่งทา่ ราบ ปฏบิ ัตงิ านถกู ต้องตามขั้นตอนทีก่ าหนดไว้
บทที่ 5 สรุปผล อภปิ รายผลการวิจัย และข้อเสนอแนะสรุปผลการวจิ ัย จากการดาเนนิ งานวิจัยผลปรากกว่า นักเรยี นจานวน 2 คน นักเรยี นคนที่ 1ปฏิบตั งิ านไดถ้ กู ตอ้ งได้อยา่ งรวดเร็วเนื่องจากมคี วามตง้ั ใจฝกึ ฝนดมี าก นกั เรียนคนท่ี 2 ปฏิบัตงิ านได้ถกู ตอ้ งโดยตอ้ งใช้เวลานานกวา่คนท่ี 1 เนื่องจากเป็นคนที่ทางานแลว้ ในบางวันกข็ าดเรียน แต่ก็สามารถปฏิบัติงานไดถ้ ูกตอ้ งตามทีก่ าหนดเช่นเดียวกัน จึงสรปุ ได้ว่าจากการวจิ ัยในช้ันเรียนคร้ังน้ีนักเรียนท้ัง 2 คน สามารถปฏบิ ัติงานเชื่อมไฟฟ้าต่อชนบากร่องตาแหนง่ ท่าราบ ได้ถูกต้องตามที่กาหนด คดิ เปน็ ร้อยละ 100 แสดงว่าวิธกี ารควบคุมทกุ ขนั้ ตอนเปน็อกี วธิ กี ารหนึ่งในการแก้ปัญหานกั ศึกษาที่ไม่สามารถปฏบิ ัติงานเช่ือมไฟฟา้ ตอ่ ชนบากร่องตาแหน่งทา่ ราบได้ขอ้ เสนอแนะ นกั ศกึ ษาแตล่ ะคนมีเงื่อนไขและข้อจากดั แตกต่างกัน เช่น วัยวฒุ ิ คณุ วุฒิ เวลา ภาระหน้าที่ ผูว้ ิจยั ตอ้ งเปน็ ผทู้ ่ีมคี วามอดทน และ เสียสละ จงึ จะทาให้ผลการวิจัยสัมฤทธผิ ลได้ตามวตั ถปุ ระสงคแ์ ละเป้าหมายท่ีกาหนดไว้
บรรณานกุ รมคณะกรรมการอาชวี ศกึ ษา,สานกั งาน.เอกสารประกอบการฝกึ อบรมการวิจยั ในช้นั เรยี น. กรุงเทพมหานคร: โรงพมิ พ์ครุ สุ ภาลาดพร้าว,2532,71หนา้ .
Search
Read the Text Version
- 1 - 17
Pages: