มีผู้ฟังดนตรีมากมายในลานคอนเสิร์ตและในร้าน Penny Arcades คนหลาย ๆ คนสามารถฟังเพลงในเวลาเดียวกันเพียงใช้เงิน เเค่ 5 เซ็นต์ อีกไม่นานผู้คนก็ต้องการให้มีแผ่นเสียงในบ้านเป็นของ ตัวเอง หลายปีผ่านไป Tom ใช้เวลา1วันในการเขียนบทความ เกย่ี วกับเสน้ ทางของเเผน่ เสียง เขาเห็นภาพอนาคตอันแสนไกล เขาได้ ทานายเกย่ี วกับเทปเสียง เขาเรยี กสิง่ เหลา่ นวี้ ่า \"หนังสอื พดู ได้\"
Tom มกั จะใช้หลายๆความคิดในเวลาเดียวกันในการทางาน จนบางทีเขาก็ไม่ได้ให้ความสนใจกับเเผ่นเสียงของเขาเท่าที่ควร บริษัท Edison Speaking Phonograph ในนครนิวยอร์ก ซ่ึงเป็น บ ริ ษั ท ข อ ง เ ข า ไ ด้ ใ ช้ กระบอกของเขาในการ จั ด ท า แ ล ะ จั ด จ า ห น่ า ย แผ่นเสียง แต่บริษัทอื่น ๆ ไ ด้ พั ฒ น า เ ค ร่ื อ ง จั ก ร ท่ี มี ความนิยมมากกว่าโดยใช้ แผ่นดิสก์ที่เรียกว่าเคร่ือง บนั ทกึ Tom ได้คิดค้น แผ่นเสียงเม่ืออายุเพียงแค่ 30 ปี ตอนที่เขายังหนุ่ม เขามีฉายาว่า \"พ่อมดแห่ง Menlo Park”
แผน่ เสียงอาจจะเปน็ \"ลูกรัก\" ของ Tom และเป็นส่ิงที่เขาช่ืนชอบ แต่ มนั เปน็ สิ่งประดษิ ฐช์ ้นิ ถดั ไปทท่ี าให้เขามาไกลกว่ามีชื่อเสียง Tom คือ คนที่จะเปลย่ี นเสน้ ทางชวี ติ ของผู้คนตลอดไป
บทที่ 5 เปดิ ไฟ ชว่ งฤดรู ้อนของปี พ.ศ. 2421 ( ค.ศ. 1878 ) ทอมไดท้ างาน อยา่ งหนักเปน็ เวลานาน เขากาลังคิดถงึ เรื่องวนั หยุดของตัวเอง จากนนั้ เพ่ือนคนหน่งึ ไดช้ วนเขาเขา้ รว่ มกลมุ่ ของนกั วทิ ยาศาสตร์ พวก เขาเดนิ ทางไปที่ Wyoming โดยใช้รถไฟในการเดนิ ทาง เพื่อทจ่ี ะไปดู การเกดิ สุรยิ ปุ ราคา ทอมตัดสนิ ใจว่าจะไป เขาได้พยายามคิดคน้ เครื่องมือชนดิ หน่งึ เรียกว่า เทซเิ มเตอร์ ( tasimeter ) ใชใ้ นการวดั อุณหภมู ิ และ เขาเห็นวา่ การเดินทางครั้งนเ้ี หมอื นเปน็ โอกาสทด่ี ใี นการลองใช้ เครือ่ งมือชนิดน้ี ทอมรสู้ กึ เพลดิ เพลนิ ในการสนทนากบั บรรดา นกั วิทยาศาสตร์คนอน่ื ๆ หลงั จากได้ดูการเกิดสุริยุปราคาแลว้ เขา และเพ่ือน ๆ ได้เดินทางด้วยกันโดยรถไฟอกี คร้ัง เหมือนกบั ว่านกั วศิ วกรรถไฟไดเ้ ชิญทอมไปนั่งในดา้ นหนา้ สดุ ของรถไฟ วธิ ีน้ีทาใหท้ อม ได้เหน็ ทศั นยี ภาพทดี่ ีและนา่ ดูทส่ี ุด จนกระท่ังรถไฟไดเ้ ข้าไปในอโุ มงค์ เขาเลยกลับไปนั่งในตัวรถไฟเชน่ เดมิ
ในขณะเดยี วกัน ทอมยังไม่แน่ใจวา่ เขาจะทางานอะไร หลงั จากน้ี การเดนิ ทางไปฝั่งตะวันตกคร้ังนี้ เขาไดย้ นื ดแู มน่ ้าPlette
กาลังไหลตามมา เขาเกดิ ความสงสัย จึงตะโกนไปหาเพื่อนวา่ ทาไม กาลงั การไหลของแมน่ า้ ไมส่ ามารถใช้อานวยไฟฟูาให้กับชาวบา้ นทห่ี า เหมืองแร่ในละแวกนนั้ ได้ พวกเขาขุดหาแร่ดว้ ยมือ เหน็ ไดช้ ัดว่ามันช้า แถมยังต้องทางานหนกั เพอื่ นของทอมเล่าใหท้ อมฟังเก่ยี วกับผชู้ ายคนหน่งึ ทเ่ี ขาเคย รจู้ กั ในรัฐคอนเนตทคิ ัทวา่ ผู้ชายคนนไ้ี ด้ค้นพบวิธีที่ นา่ สนใจในการใช้กาลังของ พลังงานไฟฟาู เขาสามารถ ส่งกาลังไฟฟาู มากพอในการ ทาใหห้ ลอดไฟเกดิ แสงสว่าง ไมใ่ ชแ่ คห่ ลอดไฟหลอดเดียว แต่เขาสามารถทาไดท้ ง้ั หมด 8 หลอด โคมไฟจะสวา่ งเมื่อ กระแสไฟฟาู กระโดดขา้ ม พ้นื ทวี่ า่ งระหว่างแทง่ คารบ์ อน 2 แท่ง ปัญหาคือ แสงไฟท่ีได้มานน้ั มนั สว่างจ้า มาก ๆ โคมไฟกเ็ ช่นกัน มันจะส่งประกายออกมาและสามารถทาให้ไฟ ไหมใ้ นบ้านได้ มนั จงึ เหมาะกับการใชน้ อกบา้ นมากกวา่
จนกระทงั่ ตอนนี้ แสงไฟในบ้านจะมาจากแสงเทียน ตะเกียง นา้ มนั หรือ ตะเกยี งกา๊ ซ แสงไฟพวกนไ้ี ม่สามารถใหแ้ สงสวา่ งมากพอ ได้ในตอนกลางคืน ตะเกียงถูกใช้มากตัง้ แต่ใกล้ ๆ ปีพ.ศ. 2343 ( ค.ศ. 1800 ) แตม่ ันมรี าคาที่สูง ตะเกยี งกา๊ ซก็ทาให้ผนงั บ้านกลายเป็นสีดา และสกปรก บางคร้ังกลิน่ มันเหม็นจนทาใหป้ วดหวั ได้ ก๊าซสามารถ เป็นอันตรายไดเ้ ชน่ กัน หากมันร่ัวไหลหรือระเบดิ ขึ้นมา แต่ตะเกียง ก๊าซก็ยังคงเปน็ ท่ีนยิ ม เพราะมันเปน็ แสงไฟ ท่ีดีทีส่ ดุ ที่สามารถใช้ ประโยชน์ได้
กา๊ ซไฟฟา้ ในปี พ.ศ. 2359 ( ค.ศ. ) หลอดไฟทเี่ กดิ จากการเผ่าไหม้ ของถ่านหนิ ส่องแสงบนถนน Baltimore เมือง Maryland เปน็ ถนนเส้นแรกของอเมริกันท่ีมีไฟฟา้ หลงั จากน้นั ไฟฟา้ ถูกนามาใช้ ในบา้ นหลายๆเรอื น ปพี .ศ. 2363 ( ค.ศ. 1820 ) ก๊าซธรรมชาติได้ถกู คน้ พบ จากใตพ้ ้นื ดิน ในเมอื ง Fredonia ในนิวยอรก์ ชาว Lafayette ด้ังเดมิ ฮีโร่ของวิวัฒนาการของชาวอเมรกิ ัน ได้มาเยย่ี มเยียน และ รบั ประทานมื้อคาท่ีได้ทาจากเตาแกส๊ ในห้องที่มีแตก่ ๊าซไฟฟา้ ถือ เปน็ เรอ่ื งมัศจรรย์มากในเวลานัน้
กา๊ ซไฟเหล่าน้สี ามารถเจอได้ในบ้านเรอื น สานักงาน โรงงาน และขา้ งนอกของเมืองหรือหมู่บา้ นใหญ่ ๆ ท่ัวประเทศได้ ทอมอยากกระตือรือรน้ อยากเหน็ ว่าผ้ชู ายในรัฐคอนเนตทคิ ัต คนนน้ั ใช้วิธไี หนในการใช้กระแสไฟฟูาในการทาใหห้ ลอดไฟท้ัง 8 หลอดเกดิ แสงสว่างได้ เขาร้สู ึกแปลกใจและสนใจว่าผชู้ ายคนน้ีคน้ พบ การใชไ้ ฟฟูาโดยไมใ่ ชแ้ บตเตอร์รี่ แต่ใชเ้ คร่ืองกาเนดิ ไฟเล็ก ๆ สร้าง แม่เหลก็ และการขดตวั ของลวด ทอมประทบั ใจมาก ๆ กบั หลอดไฟ 8 หลอดหลอดน้นั แต่ เขาได้ไปบ้านของผ้รู ู้คนนน้ั หากเขาประสบความสาเร็จกับหลอด ไฟฟูา เขาต้องพัฒนาหลอดไฟงา่ ย ๆ ได้ หลอดไฟทีท่ าใหเ้ กิดแสง สวา่ งได้ แสงอ่อน ๆ ที่เกิดจากเสน้ ใยความร้อน หรือวัสดขุ ้างใน หลอดไฟ ทาให้รู้ว่าสิ่งน้ที าใหเ้ กดิ แสงไฟสว่าง ทอมมไี ฟมากในการทาการทดลองเกยี่ วกับกระแสไฟฟูาคร้ัง นี้ และเขากร็ วู้ ่าคนอื่น ๆ ทวั่ โลกกาลังศึกษาเร่ืองน้ีอยเู่ ชน่ กัน ทอม ตอ้ งการเปน็ คนแรกท่ีประสบความสาเร็จในด้านนี้ แตเ่ ขารู้วา่ การ คดิ ค้นเกยี่ วกบั การทางานของหลอดไฟยังไม่เพียงพอ เขาต้อง ประดษิ ฐบ์ างอยา่ งท่ีสามารถขายออกในราคาทีค่ นทั่วไปสามารถซ้อื ได้
หลอดไฟ แสงไฟถกู สสรา้ งเม่ือหลอดไฟของกระแสไฟฟา้ เกดิ ปฏกิ ิรยิ าระหว่างแทง่ ควบคมุ 2 แท่ง มันจะทาให้เกิดแสงสวา่ ง ข้นึ มกี ลิ่น และมีราคาสูง สาหรับใช้ในบ้านและออฟฟิซ
ทอมรดู้ ว้ ยว่าเขาจะต้องคิดค้นวิธีทีจ่ ะจัดเตรียมกาลังของ กระแสไฟฟาู ที่ทาใหเ้ กิดแสงสวา่ งกับเพื่อนบา้ นทุกคน ทวั่ ทั้งเมอื ง และท่วั ประเทศนี้ในควาทเป็นจรงิ กระแสไฟฟูา มาจากโรงงานไฟฟูา ทอมไมเ่ คยอายท่จี ะพดู เกีย่ วกับการทดลองของตัวเอง เขาได้ เขียนในสมดุ จดของเขาวา่ “ กระแสไฟฟาู คือ แสงสว่างแห่งอนาคต และมนั จะเป็นแสงสวา่ งของฉัน นอกเสยี จากวา่ เพอื่ นคนอืน่ ๆ จะ สามารถสร้างที่ดีกว่า ” เวลาผ่านไปไม่นาน ทอมได้คุยโวโอ้อวดกับนกั เขียนขา่ วว่า เขาจะผลติ หลอดไฟภายในไม่กสี่ ปั ดาห์ ไมเ่ พยี งแคน่ ั้นเขายังจะสรา้ ง แหล่งกาเนิดไฟฟาู ท่ีถนน Pearl ในเมืองแมนแฮตตนั อีกด้วย มันจะนา แสงสว่างมาท่ัวเขตในนวิ ยอร์ก พ้นื ทท่ี ี่เขาได้เลือกน้ันเป็นศูนยก์ ลาง ทางการเงนิ ของเมืองน้ี ทาไมทอมจะต้องประกาศออกไปแบบน้นั ? เขายงั ไม่มีไอเดีย ที่จะทามันดว้ ยซา้ หรือบางทเี ขาอยากจะขม่ นักประดิษฐค์ นอ่ืน ๆ อยู่ หรอื ไม่ก็เขากาลังเรยี กร้องความสนใจจากนกั ประดิษฐ์พวกน้นั ทอม ต้องใชเ้ งินเป็นจานวนมากในการสร้างส่ิงเหล่านใี้ ห้เกิดขน้ึ ในทส่ี ุดเขาก็ได้เงินจากคนรวยคนหน่ึงในนิวยอร์ก ความสามารถน้ีอาจจะเก่ยี วกับการท่ีเขาต้องการจะกาจัดบรษิ ทั แก๊ส
ใหอ้ อกจากวงการธรุ กิจ กระแสไฟฟูาใหม่ ๆ อาจจะสรา้ งเงินได้ มหาศาล พวกเขาไม่อยากทาพลาด ก่อนทท่ี อมจะแสดงให้คนอ่นื เหน็ นักประดิษฐไ์ ดค้ น้ พบบริษทั กระแสไฟฟูาของเอดิสนั ทอมชอบทจ่ี ะใหค้ นมาดูงานท่ีหอ้ งปฏิบัตกิ ารของเขาใน Menlo Park เขาชอบแสดงสิ่งประดษิ ฐ์ท่เี ขาคิดค้น โดยเฉพาะอยา่ ง ยิ่ง แสดงให้กกบั พวกนักข่าว ตอนนท้ี ุกอยา่ งเปลี่ยนไป เขาไมต่ ้องใหใ้ ครคนไหนมาชม หอ้ งปฏิบตั ิการอกี แลว้ เขาตอ้ งการอวดกระแสไฟฟูาที่เกือบจะสาเร็จ ในไมช่ ้านี้ แตม่ ันยังไม่สาเรจ็ เขาจงึ ไปจดลิขสทิ ธเิ์ พื่อปกปูองไอเดยี ของตัวเองไว้ ทอมและคนงานของเขา อทุ ิศตัวใหก้ ับงานน้เี ปน็ เวลานาน และทางานกันอยา่ งหนกั หนว่ ง สงิ่ แรกที่สาคัญที่สุด พวกเขาต้องสร้างหลอดไฟทเ่ี ป็นแบบ สุญญากาศ หมายความวา่ มันต้องไม่มีออกซิเจน เปน็ หลอดไฟกลวง ใยข้างในจะต้องให้ความสวา่ งได้ยาวนานถา้ ความรอ้ นอย่ใู นพื้นที่ที่ สูญญากาศ
ทอมไดจ้ ้างช่างเปุาแกว้ ชนั้ ดี คนท่สี ามารถทาให้หลอดไฟมี ความสมบรู ณแ์ บบมากทส่ี ดุ น่ันก็คอื หลอดมีชอ่ งโหว่ และโชคดมี ากท่ี ในเวลาน่นั เคร่ืองสุญญากาศถูกคิดค้นมาแลว้ มันสามารถดูดอากาศท่ี อย่ใู นหลอดไฟออกเกอื บหมด ภาระอนั หนักอึง้ ทีส่ ดุ คอื การล้วงความคิดในการคิดคน้ ใยท่ี เหมาะสมที่สุด วสั ดุอปุ กรณ์ท่ีจะนากระแสไฟฟูา และทาให้เกดิ แสง สวา่ งในหลอดไฟได้ยาวนาน มปี ญั หาอยา่ งอ่ืนอกี เช่นกันคือ แสงไฟไม่สามารถเดินไฟเป็น ขน้ั ๆ ได้ ต้องใหห้ น่งึ ในน้ตี ามอกี อันหนง่ึ ในลวดเส้นเดียวกนั เพราะ อะไร? ทาไมพออันใดอนั หนึ่งไฟสามารถเดนิ ได้ แลว้ อันอ่นื ๆ ที่เหลือ ก็สามารถทาได้ด้วย 6 สปั ดาหผ์ ่านมาแลว้ ก็ผ่านไป เพือ่ นบา้ นในนิวยอรก์ เปน็ อยา่ งไรบ้าง ท่ีคร้ังหน่ึงทอมเคยบอกไวว้ า่ แสงสว่างกาลงั จะมา? หนังสือพิมพ์หลายสานัก เริ่มเขียนเรอื่ งราวเกยี่ วกับการโอ้อวดของ เขาแลว้
ทอมยงั คงทาการทดลองเพอื่ หาใยท่เี หมาะสมอยู่ เขาทดลอง กบั อุปกรณ์ทุกอย่างแล้ว เชน่ สายเบด็ ตกปลา ไม้ไผ่ ใยแมงมมุ แม้ กระท้ังเสน้ ผมบหวั ของคนงานคนหนงึ่ ขณะนน้ั เองเขาได้คิดวา่ ทองคาขาวสามารถทาใหเ้ กดิ กระแสไฟได้ แต่ถึงแมว้ า่ มนั จะสามารถ ทาได้ มันกย็ งั แพงสาหรับการนามาใช้ทาหลอดไฟ
บางครัง้ ทอมก็จะดีดนิว้ ตวั เองเคาะเปน็ จงั หวะเพลง เพราะ มนั จะทาใหเ้ ขาคดิ ออก คนงานยงั คงทดลองทกุ อยา่ งต่อไปเทา่ ที่เขา สามารถคดิ ได้ อปุ กรณ์ท่ีใชท้ งั้ หมดราว ๆ 3000 ชิ้น ทอมรวู้ ่าการหาส่ิงที่ทาให้ไม่เกิด กระแสไฟ สาคัญพอ ๆ กบั การค้นหา สิง่ ท่ีทาใหเ้ กิดกระแสไฟ 1 ปคี รึง่ ผ่านไปพรอ้ มกบั ความวา่ งเปล่า แตท่ อมไม่ ยอมแพ้ และ วนั หนึ่งเขาก็ ไดค้ าตอบ มนั คือการเย็บด้าย แบบงา่ ย ๆ ให้ครอบแท่งคาร์บอน และเผาในอณุ หภูมิทพ่ี อเหมาะ วันท่ี 22 ตลุ าคม พ.ศ. 2422 ( ค.ศ. 1879 ) หลอดไฟของ ทอมสว่างนานถงึ 13.30 ชวั่ โมง และหลอดต่อไฟสว่างถงึ 100 ช่วั โมง
ทอมและทีมงานของเขารูส้ กึ ปลาบปลื้มใจมาก พวกเขาทา สาเร็จแล้ว ตอนน้นั ทอมอายเุ พยี ง 32 ปเี ท่านน้ั ทอมไดจ้ ดั ตงั้ หลอดไฟใน Menlo Park ในเทศกาลวันหยุด เดอื นธนั วาคม พวกเขาเอากาลังไฟฟาู จากเคร่อื งกาเนดิ ไฟในรา้ น
เครอื่ งจักร มันสูงถงึ 7.62 เมตร ( 25 ฟุต ) และหนกั ถึง 226.8 กิโลกรัม ( 500 ปอนด์ ) ผูค้ นกวา่ 3000 คนพรง่ั พรูมาทเี่ มมือง Menlo Park เมื่อมา ดสู ิ่งทพี่ ่อมดคนนไ้ี ด้สร้างไว้ พวกเขาเดนิ ทางมาโดยรถไฟ และเดินไป รอบ ๆ ทะเลเมือ่ ไปท่หี ้องปฏิบัตกิ าร พวกเขาจอ้ งมองไปยังหลอดไฟ ดว้ ยความทง่ึ มีหลอดไฟกว่า 100 ดวงส่องแสงสว่างตลอดทาง ครั้ง หนง่ึ พวกเขารู้สึกมึนกบั ห้องที่สวา่ งโดยกระแสไฟฟูา
ปัจจบุ ันทอมเปิดแสงสวา่ งให้กับสว่ นหน่ึงของเมอื งนวิ ยอร์ก เขาตอ้ งการสรา้ งกาลังเพ่ิม เดินสายไฟใต้ดนิ สวติ ซไ์ ฟ มเิ ตอร์ ติดต้งั หลอดไฟ และหลายหลายสงิ่ หลายอย่างที่เขาเขาใหส้ ญั ญาไว้
ใช้เวลาในการสร้างทัง้ หมด 2 ปีครงึ่ วันที่ 4 กันยายน พ.ศ. 2425 ( ค.ศ. 1882 ) บา่ ย 3 นาฬิกา สวิตซไ์ ฟถูกตดิ ตั้งทีศ่ ูนย์กลาง สถานีทีถ่ นน Pearl ในถนน Wall หน่งึ ในสานักงานที่ของผ้คู ิดค้นคน สาคัญของเขา ทอมเปดิ ไปให้กับสานักงานใหม่ของเขากว่า 106 แหง่ ทอมรู้วา่ ที่พ่งึ จะเรมิ่ ตน้ วันใดวันหนงึ่ หลอดไฟฟาู ของเขาจะมีคนใชท้ ่ัว ทงั้ โลก
บทท่ี 6 การสร้างภาพยนตร์ ในปี พ.ศ.2427 (ค.ศ. 1884) ซ่ึงเปน็ ชว่ งท่ปี ระสบ ความสาเรจ็ สงู สดุ Tom ได้ สญู เสยี Mary ผซู้ ง่ึ เป็นภรรยา ของเขาเสยี ชวี ติ ด้วยโรคร้าย เธอมอี ายเุ พยี ง 29 ปี เทา่ นัน้ ลูกของ Tom อยู่ท่ี นครนวิ ยอร์ก และเขากม็ ธี ุรกิจ ไฟฟูาอยู่ทีน่ ่ันด้วย เขาต้องใช้ เวลากบั ส่ิงนัน้ มากทีส่ ุด ตอนนน้ั Marion อายุ 12 ปี Thomas อายุ 8 ปี และ William ซ่งึ มีอายเุ พียง 5 ปี ต่อมาในปี พ.ศ.2428 (ค.ศ.1885) Tom ได้พบกับหญิงสาวผู้ หนึง่ มนี ามว่า Mina Miller ครอบครัวของเธอมาจาก Ohio
พ่อของ Mina เป็นนกั ธุรกจิ และนักประดิษฐ์ เศรษฐี ผทู้ ี่ ประสบความสาเร็จในการพฒั นาเคร่อื งจักร เขาได้รับสทิ ธิบัตร ทงั้ หมด 92 ใบ Tom ตกหลุมรัก Mina ทันทีท่เี หน็ เธอดนู ่าสนใจและดมู ี การศึกษา นอกจากน้ีแลว้ Tom ยังสอนระบบการสง่ ข้อความดว้ ย สญั ญาณเสยี งและไฟ (Morse code) ให้กับเธออีกด้วย เพ่ือทีพ่ วกเขา จะได้ “พดู คุย” กนั อยา่ งลับ ๆ แม้แตใ่ นหมู่เพื่อน ว่ากนั ว่า Tom เคาะฝาุ มือของเธอและพดู ว่า “คุณจะแตง่ งานกบั ผมมั้ยครับ” และ Mina กเ็ คาะกลบั และตอบไปว่า “ตกลงค่ะ”
Mina และ Tom แต่งงานกันในปี พ.ศ. 2429 (ค.ศ.1886) และยา้ ยไปอย่บู า้ นหลงั ใหญ่หลังหนึง่ ท่ี Glenmont ใน West Orange รฐั นวิ เจอรซ์ ีย์ “มนั เปน็ ส่งิ ทีด่ ีเกนิ ไปสาหรบั ผม แต่มนั ไม่ถงึ คร่ึงหน่งึ ของภรรยาผม” Tom กล่าว Tom และ Mina อยดู่ ้วยกนั อย่างมคี วามสขุ และ Tom ยังมี งานท่ีต้องทามากที่สดุ เท่าทเ่ี คยมีมา เมื่อ Mary ยังมชี วี ติ อยู่ และ ต้งั แต่ท่ีพอ่ ของ Mina ยงั เป็นนกั ประดิษฐน์ ั้นอาจจะทาให้ Mina เข้าใจโลกของ Tom มากขึน้
อย่างไรก็ตามมันไมใ่ ชเ่ รื่องงา่ ยเลยที่ Mina ที่มีอายุเพียง 20 ปี ต้องกลายเปน็ แมข่ องลกู ทั้ง 3 คน แตเ่ ป็นเรื่องง่ายสาหรับ Marion ผ้ทู ี่มีอายุ 24 ปี และเป็นเพือ่ นกบั พ่อของเธอได้ ในปตี ่อมาเธอบอก Mina ว่า “ยงั เดก็ เกนิ ไปทจ่ี ะเป็นแม่ของฉนั แต่กแ็ กเ่ กินไปท่จี ะเปน็ เพอื่ นกัน” Mina และ Tom มลี ูกด้วยกัน 3 คน คอื Madeleine Charles และ Theodore
ทกุ วนั หยดุ เป็นช่วงเวลาท่ี Tom ชอบอยู่บา้ นกับครอบครัวใหญ่ ของเขา Mina ไดว้ างแผนจดั งานเลี้ยง สดุ หรสู าหรบั วันขอบคณุ พระเจ้า วนั ครสิ ตม์ าส และวนั อีสเตอร์ แต่วันท่ี 14 กรกฎาคม เป็นวนั ของ Tom ทงั้ หมด ทกุ คนจะออกไปข้าง นอกบ้านแต่เชา้ กระทั่งก่อนอาหาร เช้า เพ่ือดดู อกไม้ไฟท่ี Tom ทาดว้ ย ตัวเอง และหลงั จากทานอาหารเช้า และงบี แล้ว เดก็ ๆ ก็จะรีบออกไปทา กิจกรรมตา่ ง ๆ ข้างนอกบา้ น เช่น ปิกนิกดว้ ยแตงโมและไอศกรีม และใน ตอนเยน็ จบด้วยการแสดงดอกไม้ไฟ ขนาดใหญ่อกี คร้งั
ต่างจาก Mary Mina ชอบการเข้าสังคม เธอมกั จะจดั งาน เลย้ี งสดุ หรู ในขณะท่ี Tom มักจะพยายามหลกี เลีย่ งการจัดงานโดย แกลง้ ทาเป็นปวุ ย ในสมดุ รายชือ่ แขกเต็มไปดว้ ยชอื่ ของคนทมี่ ชี อ่ื เสยี ง เชน่ Orville Wright ผทู้ ี่คดิ ค้นเครื่องบิน Helen Keller นกั เขยี น และวทิ ยากรผูท้ ี่ตาบอดและหูหนวกตั้งแตอ่ ายุ 2 ปี และ Henry Ford ผ้ผู ลติ รถยนต์ เขาเขยี นในตอนท้ายวา่ “การพกั ผ่อนกับ ครอบครวั เป็น 2 วนั ท่ีดีที่สดุ ที่เคยอยู่มา” การยา้ ยไปที่ Glenmont ทาให้ Tom ตดั สนิ ใจออกจาก ห้องปฏิบตั กิ าร Menlo Park และเขาไดส้ รา้ งหอ้ งปฏบิ ัตกิ ารแหง่ ใหมข่ ึ้นที่ West Orange โดยห่างจากบ้านของเขา 1.61 กิโลเมตร (1ไมล์ ) Tom ต้องการให้มนั ดีทสี่ ุดในโลก “ฉนั จะมีสง่ิ อานวยความ สะดวกทดี่ ีทสี่ ดุ และใหญ่สุด เพือ่ การพฒั นาอย่างรวดเร็วและดว้ ย ราคาท่ถี ูก” Tom กลา่ วประกาศ Tom ไมเ่ คยลืมความปรารถนาของเขาท่ีจะใหส้ ง่ิ ที่คน ตอ้ งการเพราะ ความสาเร็จอันยง่ิ ใหญ่ของเขากบั การสรา้ งหลอดไฟ เขามีอานาจเงนิ อย่างมากและมีอิทธิพลท่ีจะทามนั
West Orange complex เปิดเดือนพฤศจิกายน ในปีพ.ศ. 2430 (ค.ศ.1887) มหี ้องปฏบิ ตั กิ ารฟิสิกส์ ห้องปฏบิ ัติการเคมี และ หอ้ งปฏิบัตกิ ารส่วนตวั สาหรบั Tom เพื่อทเ่ี ขาสามารถจะได้มีสมาธิ และคิดโดยไม่ติดขดั
แตส่ าหรบั Tom ศูนยก์ ลางของ West Orange เป็น หอ้ งสมดุ ขนาดใหญ่ ที่มหี ้องแสดงผลงานศลิ ปะสองแห่ง คือ มเี พดาน 6 เมตร (40 ฟุต) ผนงั ทีเ่ ต็มไปดว้ ยรูปถา่ ยและโล่ และชน้ั วางหนังสือ และนิตยสารกว่าหม่นื เล่มจากทวั่ ทกุ มุมโลก ทน่ี น่ั มีโตะ๊ ทางานและ โต๊ะประชุม ที่ ๆ Tom ได้พบปะกับเพอื่ นนักข่าวและนกั ลงทนุ นกั ขา่ วและบรรณาธิการ West Orange มีขนาดใหญก่ ว่า Menlo Park ถงึ 10 เทา่ และมีคนงาน ในคราวเดยี วมากถึง 1 หมนื่ คน ในช่วงน้ัน มี “บริษัท”30 แหง่ ทางานในโครงการต่าง โดยมี Tom กากับงาน นอกเหนือจากความคิดใหม่ ๆ แล้ว Tom ไม่เคยสนใจทีจ่ ะ พฒั นา “แผ่นเสียง” ของเขาใหด้ ีข้นึ เขาอาจจะหลงทางและทางาน กับสิง่ ประดิษฐอ์ ่ืน ๆ แต่เขากลบั มาสนใจแผน่ เสียงเสมอ ไม่ใชท่ ุกอย่างทจี่ ะประสบผลสาเร็จ หน่ึงในนัน้ คือ “เด็กชาย” ท่ีพูดถึง Tom ในการทาตุ๊กตาพูดได้ของบริษทั Boston ในต๊กุ ตาจะมีกระบอกเล็ก ๆ อยู่ สูง 0.6 เมตร(2 ฟตุ ) เพอื่ ใชใ้ นการ หมนุ กระบอกจากข้างหลังตกุ๊ ตา ตุ๊กตาใชไ้ ดด้ ตี อนทอ่ี ยู่ในโรงงาน โดย ทมี่ นั สามารถจาพวกกลอนและคาสัมผสั ของเด็กได้ แต่เมื่ออยู่ใน ร้านค้า ไมส่ ามารถทางานได้เหมอื นตอนที่อย่ใู นโรงเรียน เพราะ เสยี ง ท่ีกระแทกบนพ้ืนทาให้ ไปรบกวนระบบเคร่ืองของตุ๊กตา กเ็ ลยทาให้ ตกุ๊ ตาส่วนใหญท่ างานไม่ได้
ต๊กุ ตาใช้ได้ดีตอนท่อี ยู่ในโรงงาน โดยทม่ี นั สามารถจาพวกกลอน และคาสัมผัสของเด็กได้ แตเ่ ม่ือ อยใู่ นร้านค้า ไม่สามารถทางาน ได้เหมือนตอนที่อยู่ในโรงเรียน เพราะ เสียงที่กระแทกบนพนื้ ทาให้ ไปรบกวนระบบเคร่ือง ของตุ๊กตา กเ็ ลยทาใหต้ ุ๊กตาส่วน ใหญ่ทางานไม่ได้ ในเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2432 (ค.ศ.1889) Mina และ Tom ไปยังไงปารีสเพ่ือเขา้ ร่วมงาน Universal Exhibition เปน็ งานจัด แสดงสินค้าขนาดใหญซ่ ง่ึ โดยมีสนิ คา้ มาจากหลายๆประเทศ
มกี ารจัดการแสดงสินคา้ คร้งั ใหญข่ อง Edison โดยที่ แผ่นเสียง เปน็ สง่ิ ท่ีไดร้ ับความนยิ มมากทสี่ ดุ โดยเฉพาะ Eiffel Tower แห่งใหมซ่ ึ่งมีโครงสรา้ งท่ีสงู ที่สดุ ในโลก ณ เวลานั้น
Eiffel Tower
“LA TOUR EIFFEL” สูง 299.92เมตร(984 ฟุต) ซึง่ อยู่เหนอื เมือง ปารสี ในการสร้างใชแ้ รงงานคน 300 คน ในเวลา 2 ปี ชนิ้ สว่ นเหลก็ ท่ใี ชส้ รา้ งน้ัน 15,000 ช้ิน ในการประกอบน้นั ใช้หมุดจานวน 2.5 ล้านชนิ้ Eiffel Tower สามารถโยกไปมาไดป้ ระมาณ 8 นว้ิ เพ่อื ตา้ น ลม และจาเปน็ ต้องใชส้ ี 40 ตนั เพอื่ เคลือบหอคอย Eiffel Tower ยงั เปน็ โครงสร้างทส่ี งู ท่ีสดุ ในโลกจนถึงปี พ.ศ. 2473 (ค.ศ.1930) จากนัน้ กม็ ีการสร้างตึก Chrysler ตามดว้ ยตกึ Empire State ซง่ึ ถูก สร้างขน้ึ ในนิวยอร์ก Eiffel Tower สรา้ งเสรจ็ ในปี พ.ศ.2432 (ค.ศ.1889) เพอ่ื วันครบรอบร้อยปีของการปฏิวตั ขิ องประเทศฝร่งั เศส แบบของ Eiffel Tower ออกแบบโดย Gustave ผูท้ ชี่ นะ การแข่งขนั จาก 700 รายการที่ส่งประกวด เมื่อหลายปกี ่อน เขาได้ ออกแบบโครงสรา้ งเหล็กสาหรบั ด้านในของเทพีเสรีภาพและเขาได้ ดูแลเลยี้ งดูสตรีผู้ท่ีมีชือ่ เสยี งคนหนึง่ ไว้ท่ีทา่ เรือในนวิ ยอร์กเม่ือปี พ.ศ. 2429 (ค.ศ.1886)
ในระหว่างการเดินทางของ Tom นน้ั เขาได้ไปเย่ยี มชม ชาว ฝรงั่ เศสท่มี ี “ปนื อัดเสยี ง” ซง่ึ เอาไว้ยิงสตั ว์ที่เคลอื่ นไหวอย่างเช่น นก ทก่ี าลังบิน Tom สนใจภาพเคล่ือนไหวในเดอื นตลุ าคม ปี พ.ศ.2731 (ค.ศ.1888) เขาได้เขยี นว่า “ฉันกาลงั ทดลองกับเคร่ืองมือทท่ี าเพื่อ ดวงตาและเคร่ืองเล่นจานเสยี งซึ่งทาเพ่อื หู สง่ิ นี้ เรียกว่า “Kinetoscope”
Tom เปน็ ผ้บู ุกเบิกในการพัฒนาระบบการถ่ายทาและแสดง ภาพเคลือ่ นไหว kinetograph ของเขาคือ กล้องถา่ ยรูป ซ่ึงไว้ ถ่ายภาพ kinetoscope ของ Tom เปน็ วธิ มี องดูพวกเขา ในปี พ.ศ.2436 (ค.ศ.1893) หอ้ งทางานภาพเคล่ือนไหว แหง่ แรกอยู่ท่ี อเมริกา ถูกสรา้ งข้นึ ใน West Orange เขาตง้ั ช่อื มันวา่ Black Maria
ภาพถ่าย กระบวนการถา่ ยภาพท่ีประสบความสาเรจ็ เป็นครง้ั แรก คือ Daguerreotype ซึ่งไดต้ ้ังช่ือตามชาวฝร่ังเศส คือ Luis J.M. Daguerre ในปี พ.ศ.2380 (ค.ศ.1837) เปน็ ภาพขาวดาที่มี รายละเอียดและอธบิ ายวา่ เปน็ “กระจกเงาโดยการจา” การค้นพบครัง้ สาคัญครง้ั ถดั มาเกดิ ข้นึ ในปี พ.ศ. 2394 (ค.ศ. 1851) เมอ่ื Frederick Scott Archer ซ่ึงเปน็ ชา่ งภาพชาวองั กฤษ ได้คน้ พบวธิ ที จี่ ะให้งานพิมพม์ ีจานวนมากทส่ี ุดเท่าทเ่ี ขาตอ้ งการ
ต่อมาในปี พ.ศ.2431 (ค.ศ.1888) George Eastman ชาว อเมรกิ ันไดเ้ ปิดตวั กล้อง Koduk Box ซ่งึ เป็นกลอ้ งที่พกพาไดส้ ะดวก ทาใหพ้ วกช่างภาพไม่จาเปน็ ต้องอยู่ในหอ้ งทางานทีเ่ ปน็ หอ้ งมดื อีก ตอ่ ไป นอกจากนี้แลว้ ตัวกลอ้ งยังราคาถูกและสะดวกในการใชง้ านอกี ด้วย ม้วนของเซลลลู อยดห์ รือพลาสตกิ ฟิล์ม อาจจะใชแ้ ผ่นเสียงสีดา และสีขาวรอ้ ยแผ่นภาพยนตร์ ซึง่ Edison ใช้สิ่งน้ีในการถา่ ย ภาพยนตร์
Black Maria ซ่ึงเปน็ โครงสร้างทีม่ คี วามยาวประมาณ 16.76 เมตร (50 ฟตุ ) และเป็นโครงสรา้ งที่ดูแปลก คือ มหี ลังคาเอยี งที่ สามารถเปดิ ไดโ้ ดยการใชร้ อกเพือ่ ใหด้ วงอาทติ ยส์ อ่ งถงึ มนั วางบนฐานงาน (Platform) ที่เปน็ ทรงกลมซง่ึ มเี หล็ก เหมอื นรางรถไฟ และเคล่อื นทเี่ ปน็ วงกลมตามทศิ ของดวงอาทิตย์ การถ่ายทาใน Black Maria เริม่ ขน้ึ ในปี พ.ศ.243 (ค.ศ. 1893) ในตอนต้นภาพยนตร์สามารถแสดงให้เหน็ ภาพชายคนหน่งึ จาม “แสดง” อยา่ งมีความสุข ชา่ งทถี่ ่ายทาน้ันทางานอย่ทู ่ี West Orange
ครง้ั แรกทถี่ า่ ยทาการ แข่งขนั ชกมวย ซงึ่ ครงั้ น้นั คนที่ ชนะ คอื “Jim” Corbett นอกจากน้ีแล้ว Edison ยัง ถ่ายทากลุ่มนักเตน้ รา กายกรรม นักแสดงตลก นกั เลน่ มายากล กระทั่งผู้ชาย ทแ่ี ขง็ แกรง่ ทสี่ ุดในโลกอีกด้วย เม่ือการแสดง Wild West ของ Buffalo Bill มาถึงเมืองนัก แมน่ ปืน Annie Oakley ก็ถ่ายทาทีน่ น่ั เช่นกนั สว่ นใหญเ่ ป็น ระยะเวลาสั้น ๆ ซงึ่ กินเวลาประมาณ 20 หรอื 30 วนิ าที
หนึง่ ใน “เรอื่ งราว” แรกเรมิ่ ไดถ้ า่ ยทาท่ี West Orange ซึง่ เปน็ เร่ืองของ เจ้าหน้าทีด่ บั เพลิง นัก ดับเพลงิ เตือนภยั ด้วยการใช้ สัญญาณเตือนไฟไหม้ และ ผ้คู นกร็ บี หนอี อกจากที่ไฟ ไหม้ไป พวกเขาไดช้ ว่ ยเด็ก ทารกและชว่ ยดบั ไฟ โดยไม่ มีเสยี งใดๆ ถึงจะเปน็ เช่นน้นั ผูค้ นกต็ า่ งตืน่ เต้นที่จะได้เหน็ มัน
ความสนใจหลักของ Tom ในภาพยนตร์คอื การสรา้ ง อปุ กรณ์ที่ดกี วา่ เชน่ kinetoscope และ kinetograph ของเขา แต่ เมอ่ื เวลาผา่ นไปเขาก็ออกไปทางานในแนวความคิดอ่นื ๆ เขาไม่ไดม้ ี ส่วนร่วมอยา่ งใกล้ชิดเหมือนกับทเี่ ขาเคยเลน่ กับแผน่ เสียงและ หลอดไฟ เขาเสนอคาแนะนากับทมี ของเขา แต่เขาปล่อยให้พวกของ เขาทาตามความคิดและการปรับปรุงโดยไมม่ ีเขา ในที่สดุ เขาก็ ตัดสนิ ใจท่ีจะออกจากธุรกจิ ภาพยนตร์
บทที่ 7 ประดษิ ฐ์ตลอด Tom เป็นคนทไ่ี มเ่ คยมีความคดิ เลย แม้วา่ Tomจะได้ยนิ ยาก แตเ่ ขาไม่เคยสูญเสียการได้ยนิ อยา่ งสมบรู ณ์ เขาไมป่ ล่อยใหม้ นั กลายเป็นปัญหาแม้ว่าการได้ยินของเขาจะแย่ลงในขณะท่เี ขาโตข้ึน ในความเป็นจรงิ เขาบอกว่ามันเป็นสง่ิ ทดี่ เี พราะเขาอาจเพิกเฉยตอ่ เสยี งดงั ๆทหี่ มุนวนรอบตัวเขา เขาสามารถมีสมาธิกับสิ่งท่ีสาคัญ สาหรับเขา พอถงึ จดุ หนง่ึ Tomก็บอกวา่ การผ่าตดั อาจรกั ษาอาการหู หนวกของเขาได้ เขาไม่ต้องการมนั และเขาก็ไม่ไดส้ นใจในการพัฒนา เคร่อื งช่วยฟัง
Tom พบวธิ แี ก้ไขปัญหาของเขา เขาพยายามฟงั ผเู้ ล่นเปยี โน ทีท่ ดลองใช้สาหรบั การบนั ทึกแผ่นเสียงของเขาโดยการกัดโลหะแผ่นท่ี แนบกับเปยี โน สงิ่ น้ที าให้เขาได้ยินเพลงผา่ นการสั่นสะเทือนทีเ่ ดิน ทางผา่ นกระดกู ขากรรไกรของเขาเขากาลังฟังผ่านฟันของเขา มีคนรจู้ ักผลงานของทอมมากจากบนั ทึกทีเ่ ขาเก็บไว้กว่าเจด็ สิบปีที่เขาประดิษฐ์ เขาเติมและเขยี นสมดุ โนต้ สี่พนั และวาดโน้ต มากกว่าสามล้านตัวอักษรและภาพร่าง
ความคิดของTomไมใ่ ชท่ งั้ หมดที่ประสบความสาเร็จในปี พ.ศ.2434 (ค.ศ.1891) เขาซอ้ื เหมอื งในทิศตะวันตกเฉยี งเหนือของรัฐ นิวเจอร์ซยี ์ เขาต้องการหาวิธีผลิตเหล็กคณุ ภาพต่าแยกแรอ่ อกจากหนิ และทราย แต่หลงั จากสบิ ปเี ขาต้องยอมแพเ้ มื่อพบแร่เหล็กคณุ ภาพสงู ในมินนิโซตา (Minnesota) โดยคราวนีเ้ Tomสยี เงินหลายลา้ น ดอลลาร์ ถึงกระนัน้ ประสบการณข์ องกับTomการทาเหมืองแร่พาเขา ไปที่ธรุ กจิ ปูนซเิ มนตอ์ ืน่ เขาคิดวธิ ที ่จี ะเทบา้ นซีเมนต์ในเวลาเพยี งหก ช่วั โมง
โดยใช้แมพ่ มิ พ์และเครื่องจักรทีเ่ ขาพัฒนาในธรุ กิจการทาเหมอื งของ เขา ซีเมนต์ของเขาถูกใช้เพ่ือสร้างสนามกีฬาแยงกนี ิวอรก์ (New York’s Yankee Stadium) และคลองปานามา ตอนนเี้ ปน็ ชว่ งเปลีย่ นศตวรรษ รถยนต์กาลังจะระเบดิ ในที่ เกดิ เหตุ Tomเดิมเชื่อว่ารถยนตไ์ ฟฟาู จะเป็นรถยนต์ท่ีดที สี่ ุดสาหรับ อนาคต เขาออกเดินทางเพ่ือผลิตแบตเตอรี่เพอ่ื ขับเคล่ือนรถยนต์ดว้ ย ไฟฟูา เขาร้วู ่ามันจะสะอาดกวา่ กา๊ ซท่นี ักประดิษฐร์ ายอน่ื พยายาม แต่ เขาตอ้ งสรา้ งแบตเตอรีท่ ่จี ะเก็บกระแสไฟฟาู เพยี งพอสาหรับใช้รถเป็น เวลานานมาก มันยงั จะต้องมีราคาถกู พอทจี่ ะทา
HENRY FORD เฮนรี่ ฟอร์ด (Henry Ford)เปฮ็นคร่ี นฟแอรรก์ดท่ที(HาeรถnรrาyคาFถoกู rเdพ)ยี เปงพ็นอ สาหรับชาวอเมริกนั สว่ นใหญ่ทจ่ี ะซือ้ ใคนนปแีพร.กศท.2่ีท4า5ร1ถ(รคา.คศา.1ถ9ูก0เ8พ)ียรถงยพนอต์ ยอดนิยมของเขารุ่นThe Modal T ราสคาาหหรลับาชยารว้ออยเดมอริลกลนั าสรว่ ์แนลใะหเขญา่ทมี่จคี ะาสง่ั ซือ้ เพิม่ เติมมากกวา่ ท่เี ขาจะผลติ ภายใซนือ้สอใงนปปี ีFพo.rศd.C2a4m51e(ขคนึ ้.ศกบั.1ค9น0ง8า)น สายการประกอบของเขาประกอบหรือรรถวยมตนวัตก์ยนั อดรถนยิยนมตข์แอตงล่ เะขคานัรุ่เนดTนิ hทeาง ไปตามสายพานทก่ี าลงั เคลอื่ นท่ี คนงาMนoทdงั้ สaอl งข้างเTพิม่ราสคว่ นาตหอ่ ลไาปยจาร้ เอปย็น ในตอนท้ายของบรรทดั ท่ีสมบรู ณ์รุ่น Mดoอdลeลl Tา รถ์ แกู ขลบั ะอเอขกาพมร้ีอคมาสสาั่งหซรับื อ้ เพิ่มเติมมากกว่าท่ีเขาจะผลิต ภายในสองปี Ford Came ขนึ ้ กบั คนงานสายการประกอบของเขาประกอบหรือรวมตวั กนั รถยนต์แตล่ ะคนั เดนิ ทางไปตามสายพานท่ีกาลงั เคลอ่ื นที่ คนงานทงั้ สองข้างเพิ่มสว่ นตอ่ ไปจาเป็น ในตอนท้ายของบรรทดั ที่สมบรู ณ์รุ่น Model T ถกู ขบั ออกพร้อมสาหรับลกู ค้า Ford ทา Model T เป็น เวลา 19 ปี เขาขายได้มากกวา่ 15.5 ล้านในอเมริกา
ในท่ีสดุ Tomกค็ ดิ แบตเตอรี่ทด่ี แี ต่เขาสายเกินไป สาหรับรถยนต์ ในปี พ.ศ.2446 (ค.ศ.1903) เฮนรี่ ฟอรด์ (Henry Ford)ขายรถแบบขบั ค ล่ือนด้วยนา้ มัน Model A ให้กับ ลูกคา้ แบตเตอร่ีที่เก็บของมีTomประโยชน์มากแมว้ า่ มนั ไม่ได้เพิ่ม พลังเหมือนฟอรด์ (Ford) กองทพั เรือนามันมาใช้เพื่อสองแสงของเรือ และใช้กับตอรป์ ิโด ทางรถไฟส่องรถยนตแ์ ละสัญญาณไฟด้วย รถบรรทกุ ส่งบางคันขบั เคล่ือนโดยมัน ไฟบนหมวกของผู้ปฏิบัตงิ าน เหมืองถ่านหนิ กเ็ ชน่ กัน แบตเตอรท่ี ่เี กบ็ กลาเปนู ผ้ผู ลติ รายใหญท่ สี่ ุดของเขาโดย น่าอัศจรรย์ บางทีน่ันอาจทาให้ ประหลาดใจแม้แต่Tomทเี่ คยคาดหวัง วา่ แผ่นเสียงของเขา “จะเติบโตเป็น เพ่อื นที่ดแี ละสนบั สนุนฉนั ในวยั ชรา ”
ด้วยความสาเรจ็ ท้ังหมดของทอม เขาจึงพร้อมเสมอทีจ่ ะคิด ต่อไป เชน่ เดียวกับความลม้ เหลวของเขา เขาไม่ได้มองย้อนกลบั ไป และบน่ และเขาไม่เคยยอมแพ้จนกว่าเขาจะไดล้ องทุกความเป็นไปได้ Tom เคยพูดวา่ “คุณเจอส่ิงที่คุณไม่เขา้ ใจ คณุ อย่าหยดุ พกั จนกว่าจะ หมดแรง คนส่วนใหญล่ องทาอะไรสักอย่างแลว้ เลกิ ฉนั ไม่เคยหยดุ จนกว่าฉันจะพบสิ่งที่ฉันตามหา” Tom ทางานในชว่ งเวลาที่คนอืน่ ๆคิดแข่งและทาตาม ความคดิ ที่ดตี อ่ ไป โลกดูเหมือนมีชีวติ อยกู่ บั ความเป็นไปได้ Tom เข้าใจงาน เขาชอบมนั เขาเคยพูดวา่ “อฉั ริยะคือแรง บนั ดาลใจ1%และออกเหง่ือ99%” ของอัฉรยิ ะเขาพูดวา่ “ติดมัน เปน็ อฉั ริยะ” ในปี พ.ศ.2457 (ค.ศ.1914) มไี ฟลุกลามผ่านอาคาร West Orange ของเขา” แต่ถึงอยา่ งน้ันก็Tomไมย่ อ่ ท้อ เขาเรมิ่ สร้างใหม่ทนั ที แตแ่ มก้ ระท่ังTomกย็ งั ใจแคบ เขาไม่มีอะไรดีทจี่ ะพดู เกยี่ วกบั วิทยุ เขาแน่ใจว่ามนั คงอยไู่ ม่ได้
เมอ่ื Tomแก่ขนึ้ เขาก็ไม่หยดุ ทางาน มรี ูปถ่ายของTomในยคุ 70 ของเขายงั คงเป็น West Orange เม่อื เขาอายุ 65 เขาติดตั้ง นาฬกิ าบอกเวลา คนงานของเขากดการด์ เพ่ือบนั ทกึ เวลาท่ีพวกเขา มาถงึ และเวลาทพี่ วกเขาจากไป ทอมกเ็ ชน่ กัน
ในช่วงหลายปีท่ผี า่ นมาทอมไดร้ บั รางวัลมากมาย ในปี พ.ศ. (ค.ศ.1928)สภา คองเกรสสหรฐั ฯไดม้ อบเหรยี ญพิเศษให้ เขาตลอดความสาเรจ็ “ ฉนั ประสบ ความสาเรจ็ ฉันสญั ญา ” เขาพดู ในปี พ.ศ. (ค.ศ.1928)สภาคองเกรสสหรัฐฯไดม้ อบเหรยี ญพิเศษใหเ้ ขา ตลอดความสาเรจ็ “ ฉันประสบความสาเร็จฉันสญั ญา ” เขาพูด ในช่วง 15 ปสี ุดทา้ ยของชีวิตTom เขาไปเที่ยวกบั เพ่ือนเก่า ในหมู่ พวกเขา Henry Ford ผู้ผลิตยางรถยนต์ Harvy Firestone และ นักธรรมชาติวทิ ยา Jonh Burroughs
Search