76 ผลของนาำ้ สกดั ชวี ภาพจากมลู ววั ตอ่ การเจรญิ เตบิ โตและผลผลติ ของผกั กาดเขยี วกวางตงุ้ ทป่ี ลกู ในระบบไฮโดรโพนกิ ส์ Effect of Bio-extract from Cow Dung on the Growth and Yield of Chinese Cabbage (Brassica chinensis Just) under Hydroponics Culture บญั ชา รัตนที ู วท.ม. (Bancha Ratneetoo, M.Sc.)1 บทคดั ยอ่ การศกึ ษาการใชน้ าำ้ สกดั ชวี ภาพจากมลู ววั มผี ลตอ่ การเจรญิ เตบิ โตและการใหผ้ ลผลติ ของผกั กาดเขยี วกวางตงุ้ ทป่ี ลกู ใน ระบบไฮโดรโพนกิ ส์ โดยวางแผนการทดลองแบบสมุ่ สมบรู ณ์ แบง่ วธิ กี ารใสป่ ยุ๋ ออกเปน็ 3 สง่ิ ทดลอง ๆ ละ 3 ซาำ้ ๆ ละ 1 แปลง คอื ใช้ปยุ๋ เคมเี พียงอยา่ งเดยี ว, ใช้น้าำ สกดั ชวี ภาพและใชน้ ้ำาสกัดชวี ภาพรว่ มกบั ปุย๋ เคมี ทดลองในแปลงปลูกพชื ไร้ดนิ (ระบบไฮโดร โพนกิ ส์) ของภาควชิ าพชื ศาสตร์ วทิ ยาลยั เกษตรและเทคโนโลยนี ราธวิ าส มหาวทิ ยาลยั นราธวิ าสราชนครนิ ทร์ เกบ็ เกย่ี วผลผลติ เมอ่ื ผกั มอี ายคุ รบ 28 วนั พบวา่ ความสงู เฉลย่ี ตอ่ ตน้ มคี วามแตกตา่ งกนั ทางสถติ ิ (p<0.05) โดยการใชป้ ยุ๋ เคมเี พยี งอยา่ งเดยี ว มคี วามสงู เฉลย่ี สงู สดุ (42.27+2.49 เซนตเิ มตรตอ่ ตน้ ) และไมแ่ ตกตา่ งกบั การใชน้ าำ้ สกดั ชวี ภาพรว่ มกบั ปยุ๋ เคมี (36.99+4.99 เซนตเิ มตรต่อต้น) และการใชน้ าำ้ สกัดชีวภาพเพยี งอยา่ งเดยี ว มคี วามสูงน้อยทีส่ ดุ (26.60+6.10 เซนติเมตร/ต้น) นาำ้ หนัก สดของผลผลิตเฉลี่ย พบวา่ ไมม่ คี วามแตกตา่ งกนั ทางสถติ ิ (p>0.05) โดยการใชป้ ยุ๋ เคมี มแี นวโนม้ ใหผ้ ลผลติ เฉลย่ี สงู สดุ คอื 84.43+23.65 กโิ ลกรมั /แปลง รองลงมา คอื การใชน้ าำ้ สกดั ชวี ภาพรว่ มกบั ปยุ๋ เคมี ใหน้ าำ้ หนกั สดเฉลย่ี 68.89+30.97 กโิ ลกรมั /แปลง และการใชน้ าำ้ สกดั ชวี ภาพมนี าำ้ หนกั สดเฉลย่ี 32.97+21.25 กโิ ลกรมั /แปลง จากการวจิ ยั พบวา่ การปลกู ผกั ในระบบไฮโดรโพนกิ ส์ ทใ่ี ชน้ าำ้ สกดั ชวี ภาพจากมลู ววั สามารถลดตน้ ทนุ การผลติ ได้ คาำ สาำ คญั : นำา้ สกัดชีวภาพจากมลู ววั การเจริญเติบโต การให้ผลผลิต ผักกาดเขียวกวางตุ้ง ระบบไฮโดรโพนิกส์ Abstract This study is related to the use of bio-extract from cow dung on the growth and yield of Chinese cabbage (Brassica chinensis Just) under hydroponics culture. The experiment was set as completely randomized design. The applications of fertilizer were using 3 treatments with 3 replications of each and 1 plot of ground in each replication. Each treatment was randomly assigned using a chemical fertilizer, bio-extract from cow dung and bio-extract from cow dung shared with chemical fertilizer. The experi- ment was conducted in hydroponics plot at plant science department, Narathiwat Agriculture College and Technology, Princess of Naradhiwas University. The products was harvested when it was 28 days. The results showed that the average of its height was statistically significant different (p < 0.05), chemi- cal fertilizer were given the most height (42.27+2.49 centimeter/tree) and was no different to the use of bio-extract from cow dung shared with chemical fertilizer (36.99+4.99 centimeter/tree) and bio-extract 1 ผู้ช่วยศาสตราจารย์ วทิ ยาลัยเกษตรและเทคโนโลยนี ราธวิ าส มหาวทิ ยาลยั นราธวิ าสราชนครนิ ทร์
77 from cow dung was the least height (26.60+6.10 centimeter/tree).The wet matter of Chinese cabbage was not significant different (p > 0.05). The use of chemical fertilizer was the most average yield- ed (84.43+23.65 kilogram/plot) and followed by bio-extract from cow shared with chemical fertilizer (68.89+30.97 kilogram/plot) and bio-extract (32.97+21.25 kilogram/plot). Planting of Chinese cabbage in hydroponics system that uses bio-extract from cow dung can decrease production capital. Keywords: bio-extract form cow dung, growth, yield, Chinese cabbage, hydroponics culture บทนำา การปลูกพชื ใน “สารละลายธาตุอาหาร” เปน็ นวตั กรรมทางการเกษตรซง่ึ ไดป้ ฏิบัตกิ นั มานาน เพ่อื เปน็ การศกึ ษาว่า ธาตุใดบ้างจาำ เป็นตอ่ การดำารงชีวิตของพชื ซึ่งวิธีการดังกล่าว ในปัจจบุ ันไดม้ ีการนำามาใชใ้ นการวิจยั อยา่ งกว้างขวาง ความสำาเร็จ ในการปลกู พืชในสารละลายธาตุอาหารพชื เป็นข้อพสิ จู น์วา่ หากพืชไดร้ ับแสง น้าำ คาร์บอนไดออกไซด์ ออกซิเจน และธาตุอาหาร อนินทรียส์ ารครบถว้ น พชื สามารถเจรญิ เติบโตไดต้ ามวฎั จักร เนือ่ งจากพืชเป็นสิง่ มีชวี ติ ทสี่ ามารถสร้างอาหารไดเ้ อง และที่ สาำ คญั พชื สามารถเจรญิ เตบิ โตไดโ้ ดยไมใ่ ชด้ นิ หรอื กลา่ วอกี นยั หนง่ึ วา่ มนษุ ยส์ ามารถจดั การสง่ิ แวดลอ้ มใหพ้ ชื เพอ่ื ทดแทนทกุ ดา้ น ไดอ้ ยา่ งสมบรู ณ์ จนพฒั นามาเปน็ ระบบการปลกู พชื ไรด้ นิ (ยงยทุ ธ์ โอสถสภา, 2543) การปลกู พชื โดยไมใ่ ชด้ นิ เปน็ การปลกู พชื โดยใหพ้ ชื ไดร้ บั สารละลายธาตอุ าหารไหลผา่ นราก ดงั นน้ั สารละลายอาหารจงึ เปน็ หวั ใจสาำ คญั ทเ่ี กย่ี วขอ้ งกบั การเจรญิ เตบิ โตของพชื ซง่ึ สตู รสารละลายธาตอุ าหารพชื ทกุ สตู รไดม้ าจากสารอนนิ ทรยี แ์ ละปยุ๋ เคมี ชนดิ ตา่ งๆ (สมยั สงั ขท์ องราย, 2553) ในปัจจุบันการปลกู พชื ไม่ใช้ดิน มคี วามนิยมเพ่มิ ข้นึ โดยเฉพาะการปลกู พชื ในสารละลายดิน หรอื การปลกู พืชใน ระบบไฮโดรโพนกิ ส์ (Hydroponics) ซง่ึ เป็นวิธีการปลกู พชื ท่สี ามารถพัฒนาคุณภาพของผลผลติ ได้ โดยเฉพาะพชื ผกั ปัญหาที่ พบในการปลูกพืชไร้ดิน คือ ต้นทุนการผลิตคอ่ นข้างสูง โดยเฉพาะการใช้ปุ๋ยเคมแี ละอาจมีการสะสมไนโตรเจน ในส่วนของพชื ทป่ี ลกู ในระบบน้ี เนอื่ งจากการใช้ปุ๋ยเคมีที่มคี วามเขม้ สงู (ดนัย วรรณวนชิ , 2551) และการใช้ปุย๋ มากเกินไปจะทาำ ให้เกิดมลพิษ ต่อส่ิงแวดล้อมและเป็นหนง่ึ ในปญั หาท่ีสาำ คญั ท่จี ะทำาลายความสมดุลของระบบนิเวศ (Mishra & Nayak, 2004) นาำ้ สกดั ชวี ภาพ (Bio-extract) เปน็ สารละลายทเ่ี กดิ จากการยอ่ ยสลายเศษวสั ดเุ หลอื ใชจ้ ากสว่ นตา่ งๆ ของพชื และสตั ว์ โดยผา่ นกระบวนการหมกั ในสภาพทไ่ี มม่ อี อกซเิ จน (anaerobic condition) มจี ลุ นิ ทรยี ท์ าำ หนา้ ทย่ี อ่ ยสลายซากพชื และซากสตั ว์ เหลา่ นน้ั ใหก้ ลายเปน็ สารละลายรวมถงึ เอนไซมท์ เ่ี กดิ ขน้ึ ตามธรรมชาติ เพอ่ื เรง่ การยอ่ ยสลายอยา่ งรวดเรว็ นาำ้ สกดั ชวี ภาพนม้ี ธี าตุ อาหารทจ่ี าำ เปน็ ตอ่ การดาำ รงชวี ติ ของพชื สามารถทดแทนสารละลายธาตุ อาหารสงั เคราะหไ์ ด้ (สรุ ยิ า สาสน์ รกั กจิ , 2544) ปุ๋ยคอกเป็นปุ๋ยอินทรียท์ ่ีประกอบด้วยอุจจาระ ปสั สาวะของสตั ว์ต่างๆ ในป๋ยุ คอกมีจุลนิ ทรยี ์และสารอนิ ทรยี ์ต่างๆ มากมายมที งั้ สว่ นทเี่ ปน็ ฮวิ มัส สว่ นของอาหารท่ยี งั สลายไม่หมด และยงั มสี ว่ นทเ่ี ป็นเซลลูโลส ลกิ นิน และสารอินทรยี อ์ ่ืนๆ เชน่ วิตามินและฮอร์โมนพืช เป็นตน้ ในแตล่ ะปี พบว่า โค กระบือ แตล่ ะตัวขับถ่ายออกมาคิดเป็นปรมิ าณไนโตรเจน ฟอสฟอรสั และโพแทสเซยี ม (45, 9 และ 9 กโิ ลกรัม ตามลาำ ดบั ) ปรมิ าณน้ถี ือได้ว่ามากและเพยี งพอต่อการกสกิ รรม (ธงชยั มาลา, 2546) และปุ๋ยอนิ ทรียส์ ามารถหาได้ตามท้องถ่ินตามฟาร์มทว่ั ไป บางกรณอี าจไม่ต้องซื้อหรอื ซ้ือในราคาถูก โดยเฉพาะมูลโค ซึง่ มธี าตุ อ25าห55าร) ทใจ่ีนำาปเปัจ็นจุบสันาำ หไดรับ้มพีกชืารคนอื าำ มNูลส(ตั1.ว9์ม1าทเปาำ นอ้ำารสเ์ ซกน็ ดั ตช์)วี ,ภPาพ2O5ซง่ึ (พ0.บ56ว่าเปมอปี รรเ์ มิซาน็ ณตธ)์ าแตลุอะาหKาร2Oหลกั(1.4ธ0าตเุอปาอหราเ์รซรน็ อตงแ์) ล(ะบจญั ลุ ชธาาตรอุ ตั านหีทาร,ู ท่เี ปน็ ประโยชนต์ ่อพืช สามารถใชเ้ ปน็ ปุย๋ สดทางดินและฉดี พน่ ทางใบ เพือ่ เร่งการเจริญเติบโต การเพม่ิ ผลผลติ ของพชื อีกท้ังยงั สามารถใช้เปน็ ปุ๋ย เพื่อแก้ไขอาการขาดธาตอุ าหารของพชื ได้ (กรมสง่ เสรมิ การเกษตร, 2551)
78 ดงั นั้น เพ่ือเปน็ การแกป้ ัญหาในการผลิตผักไฮโดรโพนกิ ส์ โดยคาำ นึงถงึ ความปลอดภยั ของผู้บริโภคและสามารถลด ตน้ ทนุ การผลติ ลงได้ การใช้น้ำาสกัดชวี ภาพจากมลู วัวเป็นปุ๋ยทดแทนปยุ๋ เคมี จึงเปน็ วธิ กี ารหนึ่งทสี่ ามารถแก้ปัญหา จงึ ได้ทำาการ ศกึ ษาวจิ ัยการใชน้ ำา้ สกัดชีวภาพจากมลู ววั ในการผลติ ผัก ในระบบไฮโดรโพนกิ ส์ เพอ่ื ใช้ผลการวิจัยมาใช้ประโยชนต์ ่อไป ระเบียบวิธีวิจัย วางแผนการทดลองแบบสุ่มสมบูรณ์ (Completely Randomized Design; CRD) โดยแบง่ วิธีการทดลองเป็น 3 สง่ิ ทดลอง ๆ ละ 3 ซ้าำ ๆ ละ 1 แปลง ทำาการวิจยั ในแปลงปลกู พชื ไรด้ ินของวทิ ยาลยั เกษตรและเทคโนโลยนี ราธิวาส มหาวิทยาลยั นราธวิ าสราชนครนิ ทร์ ระหวา่ งวนั ท่ี 20 มกราคม 2555 ถึงวันท่ี 21 มีนาคม 2555 กำาหนดใหม้ ี 3 ส่งิ ทดลอง คือ การใช้ปยุ๋ เคม,ี การใช้นำา้ สกัดชวี ภาพ จากมูลวัวและการใช้น้ำาสกดั ชีวภาพจาก มูลววั รว่ มกบั การใชป้ ุย๋ เคมี ในการทดลองไดป้ ฏบิ ตั ติ ามขน้ั ตอน เรม่ิ จากการเตรยี มนาำ้ สกดั ชวี ภาพจากมลู ววั ใชว้ ธิ กี ารตามมคาำ แนะนาำ ของ จริ ยทุ ธ ทองหลวง (2550) การเพาะตน้ กลา้ และการเตรยี มแปลงปลูก โดยทดลองในแปลงปลกู ขนาดกวา้ ง 1.5 เมตร ยาว 6 เมตร จำานวน 9 แปลง ในสง่ิ ทดลองทใ่ี ชป้ ยุ๋ เคมเี พยี งอยา่ งเดยี วจะใสป่ ยุ๋ ในอตั ราปยุ๋ 1 สว่ น ตอ่ นาำ้ 1,000 สว่ น โดยแบง่ ใส่ 2 ครง้ั (ครง้ั แรกหลงั จากยา้ ยปลกู 1 วนั ครง้ั ท่ี 2 ใสห่ ลงั จากยา้ ยปลกู 2 สปั ดาห)์ สว่ นการใชน้ าำ้ สกดั ชวี ภาพ ใส่ ในอตั ราเดยี วกบั ปยุ๋ เคมี แตใ่ สท่ กุ สปั ดาห์ จาำ นวน 4 สปั ดาห์ และในสง่ิ ทดลองทใ่ี ชน้ าำ้ สกดั ชวี ภาพจากมลู ววั รว่ มกบั การใชป้ ยุ๋ เคมี วธิ กี ารใสป่ ยุ๋ เหมอื นกบั การใสป่ ยุ๋ เคมแี ละการ ใสน่ าำ้ สกดั ชวี ภาพแตล่ ดปรมิ าณลงใหเ้ หลอื อยา่ งละครง่ึ หนง่ึ เมอ่ื ยา้ ยปลกู ครบ 28 วนั จงึ ทาำ การเกบ็ ขอ้ มลู ดงั น้ี 1. วัดความสูงเฉลี่ยของผักกาดเขียวกวางตุ้งทั้งหมดที่อายุ 7, 14, 21 และ 28 วัน หลังย้ายปลูก หน่วยวัดเป็น เซนติเมตร วัดความสูงจากโคนตน้ จนถงึ ปลายสูงสดุ ของยอด 2. ชง่ั นำ้าหนกั สดเฉลย่ี ของผกั กาดเขียวกวางตงุ้ ทง้ั หมดที่อายกุ ารเก็บเกย่ี วผลผลิต 28 วนั หลังการย้ายปลกู หนว่ ยวัด เปน็ กิโลกรมั 3. การวิเคราะห์ทางสถิติ นำาข้อมูลมาวิเคราะห์หาค่าความแปรปรวน (Analysis of Varience) และเปรียบเทียบ ความแตกต่างของค่าเฉล่ียในแต่ละสิ่งทดลอง โดยวิธี Duncan’s new multiple range test (DMRT) ตามวธิ กี ารของ Steel & Torrie (1980) ผลการวิจัย คณุ สมบัติทางเคมีของนำา้ สกดั ชวี ภาพ การวิเคราะหค์ ณุ สมบัตทิ างเคมบี างประการของน้ำาสกดั ชวี ภาพจากมลู ววั ดังแสดงในตารางที่ 1 ตารางที่ 1 คณุ สมบตั ิทางเคมบี างประการของนาำ้ สกัดชีวภาพจากมลู วัว คุณสมบตั ิของน้ำาสกดั ชวี ภาพ pH 7.2 EC (ds/m) 14.86 Total N (%) 0.02 PK22OO5 (%) 0.01 (%) 0.11
79 การเจริญเติบโตของผักกาดเขยี วกวางตงุ้ ความสูงของผักกาดเขยี วกวางตุ้ง พบวา่ การใช้ปุย๋ เคมี มคี วามสูงเฉลี่ยมากทสี่ ดุ ในวันท่ี 7 หลงั การใส่ปุ๋ย (7.30+0.91 เซนติเมตร) และไมแ่ ตกตา่ งกบั การใช้นาำ้ สกัดชวี ภาพรว่ มกับปุ๋ยเคมี (6.46+0.11 เซนติเมตร) แตส่ ูงกว่าการใชน้ ำ้า สกดั ชีวภาพเพยี งอย่างเดียว (4.84+0.53 เซนตเิ มตร) อย่างมีนัยสำาคัญยิ่งทางสถติ ิ (p<0.01) ความสงู ในวนั ที่ 14 หลังการใส่ ป๋ยุ พบว่า การใช้ปุ๋ยเคมมี ีความสงู เฉลยี่ มากท่ีสดุ (20.00+2.12 เซนตเิ มตร) รองลงมาคือ การใช้นาำ้ สกดั ชวี ภาพรว่ มกบั ปุย๋ เคมี และการใชน้ ำา้ สกดั ชีวภาพ (16.16+1.40 และ 10.06+0.81 เซนติเมตร ตามลาำ ดบั ) อย่างมนี ยั สาำ คัญทางสถติ ิ (p<0.01) ในวนั ท่ี 21 หลังการใส่ปยุ๋ พบวา่ ผกั กาดเขียวกวางตงุ้ ทีใ่ ชป้ ๋ยุ เคมีมคี วามสูงมากที่สุด (34.01+3.87 เซนตเิ มตร) และไมแ่ ตกต่างกับ การใชน้ า้ำ สกดั ชีวภาพรว่ มกบั ปุ๋ยเคมี (29.20+2.72 เซนตเิ มตร) แตส่ งู กวา่ การใชน้ ำ้าสกดั ชีวภาพเพียงอยา่ งเดียว (18.52+4.68 เซนตเิ มตร) อย่างมนี ัยสำาคญั ยิง่ ทางสถิติ (p<0.01) และในวนั ท่ี 28 หลังการใสป่ ยุ๋ พบวา่ ผักกาดเขยี วกวางตุง้ ทใ่ี ชป้ ๋ยุ เคมีมี ความสูงมากทส่ี ุด (42.27+2.49 เซนติเมตร) และไมแ่ ตกตา่ งกับการใช้นำ้าสกัดชีวภาพร่วมกับปยุ๋ เคมี (36.99+4.99 เซนตเิ มตร) แตส่ งู กว่าการใชน้ ้ำาสกัด ชีวภาพเพียงอย่างเดยี ว (26.60+6.10 เซนตเิ มตร) อยา่ งมนี ัยสาำ คัญทางสถติ ิ (p<0.05) ดงั แสดงใน ตารางท่ี 2 ตารางท่ี 2 ความสูงเฉลย่ี ของผักกาดเขยี วกวางตุ้ง เมื่อใช้ชนดิ ปุ๋ยต่างกนั โดยปลูกในระบบโฮโดรโพนิกส์ ชนิดปยุ๋ วันที่ 7 ความสูงเฉลี่ย + S.D. (เซนตเิ มตร/ตน้ ) วนั ที่ 28 7.30+0.91a วันท่ี 14 วนั ท่ี 21 42.27+2.49a ปยุ๋ เคมี 4.84+0.53b 26.60+6.10b นาำ้ สกดั ชีวภาพ 6.46+0.11a 20.00+2.12a 34.01+3.87a 36.99+4.99a นำ้าสกัดชีวภาพรว่ มกบั ปยุ๋ เคมี 10.06+0.81c 18.52+4.68b ** 16.16+1.40b 29.20+2.72a * F-test 9.88 13.37 C.V. (%) ** ** 9.98 14.11 หมายเหตุ ns ไมม่ ีความแตกต่างกันอย่างมนี ัยสำาคัญทางสถิติ * มีความแตกต่างกันอยา่ งมีนยั สาำ คญั ทางสถติ ิ (p<0.05) ** มคี วามแตกตา่ งกันอย่างมนี ัยสำาคัญยงิ่ ทางสถติ ิ (p<0.01) ตัวอกั ษรเหมอื นกนั ในสดมภเ์ ดยี วกนั ไม่มคี วามแตกต่างกันทางสถิติโดยวธิ ี DMRT (Duncan’s New Multiple Rang Test) ผลผลติ ของผักกาดเขยี วกวางต้งุ ผลผลติ นาำ้ หนกั สดของผกั กาดเขยี วกวางตงุ้ เมอ่ื เกบ็ เกย่ี วทอ่ี ายุ 28 วนั พบวา่ ผลผลติ นาำ้ หนกั สดเฉลย่ี ไมม่ คี วาม แตกตา่ งกนั ทางสถติ ิ (p>0.05) โดยทผ่ี ลผลติ นาำ้ หนกั สดเฉลย่ี ของผกั กาดเขยี วกวางตงุ้ ทใ่ี ชป้ ยุ๋ เคมี มแี นวโนม้ ใหผ้ ลผลติ นาำ้ หนกั สดเฉลย่ี มากทส่ี ดุ รองลงมาคอื ใชน้ าำ้ สกดั ชวี ภาพรว่ มกบั ปยุ๋ เคมี และการใชน้ าำ้ สกดั ชวี ภาพ โดยใหผ้ ลผลติ นาำ้ หนกั สดเฉลย่ี 84.43+23.65, 68.89+30.97 และ 32.97+21.25กโิ ลกรมั /แปลง ตามลาำ ดบั ดงั แสดงในตารางท่ี 3
80 ตารางท่ี 3 ผลผลิตของผักกาดเขยี วกวางตุ้งท่ใี ช้ชนิดปุ๋ยตา่ งกนั โดยปลูกในระบบโฮโดรโพนิกส์ ชนดิ ปุ๋ย นา้ำ หนกั สดเฉลี่ย + S.D. (กิโลกรัม/แปลง) ปยุ๋ เคมี 84.43+23.65 นำ้าสกดั ชวี ภาพ 32.97+21.25 นา้ำ สกัดชวี ภาพร่วมกับป๋ยุ เคมี 68.89+30.97 F-test ns C.V. (%) 20.12 หมายเหตุ ns ไม่มีความแตกตา่ งกนั ทางสถิติ (p>0.05) ต้นทนุ คา่ ปยุ๋ ในการผลิตผักกาดเขียวกวางตุ้ง ตน้ ทุนคา่ ปยุ๋ ตอ่ แปลง พบวา่ การใช้ปยุ๋ เคมมี ตี ้นทนุ คา่ ปยุ๋ ต่อแปลงสูงสดุ (106.93 บาท/แปลง) รองลงมาคือ การใช้ นา้ำ สกดั ชีวภาพจากมูลวัวรว่ มกบั ป๋ยุ เคมี (55.64 บาท/แปลง) และการใชน้ าำ้ สกดั ชวี ภาพ จากมลู วัวเพียงอยา่ งเดยี วมตี น้ ทุนคา่ ป๋ยุ น้อยทส่ี ดุ (4.34 บาท/แปลง) ดังแสดงในตารางที่ 4 ตารางที่ 4 ตน้ ทุนค่าปยุ๋ ต่อแปลงท่ใี ช้ป๋ยุ ต่างชนิดกนั ปยุ๋ เคมี น้าำ สกดั ชีวภาพจากมูลวัว น้าำ สกัดชวี ภาพรว่ มกับปุ๋ยเคมี ค่าปยุ๋ - ค่าปุ๋ยเคมี - มูลววั 1 กระสอบ ราคา 30 บาท/กระสอบ ปยุ๋ เคมี 3.5 ลิตร 2,299 บาท/100 ลิตร - นาำ้ สกัดชีวภาพ 1 ลติ ร ราคา ปุ๋ยน้าำ สกัดชีวภาพจากมลู ววั 1.3 บาท/ลิตร 7 ลิตร ต้นทุนต่อลิตรของปยุ๋ ทใี่ ช้ 22.99 บาท/ลติ ร ผสมกบั น้าำ 100 ลติ ร จำานวนป๋ยุ ทใ่ี ชต้ ่อแปลง 7 ลติ ร 55.64 บาท/แปลง 0.31 บาท/ลติ ร 14 ลติ ร ตน้ ทุนค่าปยุ๋ ตอ่ แปลง* 106.93 บาท/แปลง 4.34 บาท/แปลง หมายเหตุ * ต้นทนุ ค่าปุย๋ ตอ่ แปลง = ต้อทนุ ตอ่ ลิตรของป๋ยุ ท่ใี ช้ x จำานวนปยุ๋ ท่ีใชต้ ่อแปลง
81 อภิปรายผล จากการศึกษาผลการวจิ ัย พบว่า การใช้ป๋ยุ เคมีทาำ ให้ผักกาดเขียวกวางตุ้งมกี ารเจรญิ เติบโตมากกวา่ การใชน้ า้ำ สกัด ชีวภาพจากมลู วัวและมแี นวโน้มใหผ้ ลผลติ สูงกวา่ การใช้นา้ำ สกดั ชีวภาพ และการใช้น้ำาสกัดชวี ภาพร่วมกบั ปยุ๋ เคมี ทงั้ นี้อาจเนือ่ ง มาจากในนาำ้ สกดั ชีวภาพมปี รมิ าณธาตุอาหารน้อย เมือ่ เปรยี บเทยี บกบั ปยุ๋ เคมี (ตารางท่ี 1) ทำาให้พืชไดร้ บั ธาตุอาหารไมเ่ พยี งพอ จึงทำาใหม้ ีการเจรญิ เตบิ โตและใหผ้ ลผลิตนอ้ ยกวา่ การใช้ปุ๋ยเคมี จากผลการวจิ ยั ขา้ งตน้ พบวา่ มคี วามสอดคลอ้ งกบั สมเกยี รติ สวุ รรณครี ี (2545) ทไ่ี ดศ้ กึ ษาผลตอ่ การเจรญิ เตบิ โต ผลผลติ และการลดตน้ ทนุ ของคะนา้ ทป่ี ลกู โดยไมใ่ ชด้ นิ งานวจิ ยั นศ้ี กึ ษาความเขม้ ขน้ ของนาำ้ สกดั ชวี ภาพ (1:200, 1:400, 1:600, 1:800 และ 1:1000) ทผ่ี สมกบั สารละลายธาตอุ าหารในอตั ราสว่ น 1 : 1 เปรยี บเทยี บกบั การเจรญิ เตบิ โตของคะนา้ ทป่ี ลกู ผลการ วจิ ยั พบวา่ การเจรญิ เตบิ โตของคะนา้ ทป่ี ลกู โดยใชส้ ารละลายธาตอุ าหารผสมกบั นาำ้ สกดั ชวี ภาพทม่ี คี วามเขม้ ขน้ ตา่ งกนั ไมม่ คี วาม แตกตา่ งกนั ทางสถติ ิ แตท่ ค่ี วามเขม้ ขน้ 1 : 200 มแี นวโนม้ ของการเตบิ โตของผกั คะนา้ ใกลเ้ คยี งกบั การใชส้ ารละลายธาตอุ าหารอยา่ ง เดยี ว ในขณะทม่ี ตี น้ ทนุ ตอ่ กระถางถกู กวา่ และสอดคลอ้ งกบั จนั ทรเ์ พญ็ ชยั มงคล, ดนยั วรรณวนชิ และวชั รบลู ย์ ศตี ะโกฌศศ (2552) ไดศ้ กึ ษาการใชป้ ยุ๋ เคมรี ว่ มกบั นาำ้ สกดั ชวี ภาพปลกู พชื ในระบบไฮโดรโพนกิ ส์ พบวา่ การใชส้ ารละลายมาตรฐานอนนิ ทรยี ์ ทาำ ใหก้ ารเจรญิ เตบิ โตและผลผลติ ของผกั มคี า่ สงู สดุ อยา่ งไรกต็ าม กย็ งั พบวา่ การใชป้ ยุ๋ เคมเี พยี งอยา่ งเดยี ว มแี นวโนม้ ทาำ ให้ ผลผลติ ทดั เทยี มกบั สารละลายมาตรฐานอนนิ ทรยี ไ์ ด้ โดยเฉพาะอยา่ งยง่ิ ในผกั ฮอ่ งเตแ้ ละผกั สลดั เรดคลอรลั รองลงมาคอื การ ใชป้ ยุ๋ เคมรี ว่ มกบั นาำ้ สกดั ชวี ภาพในอตั ราสว่ น 3:1 และ 1:1 นอกจากนน้ั ยงั พบวา่ การใชป้ ยุ๋ เคมเี พยี งอยา่ งเดยี วและการใชป้ ยุ๋ เคมี รว่ มกบั นาำ้ สกดั ชวี ภาพทาำ ให้ Total N ทส่ี ะสมในตน้ พชื มคี า่ ตาำ่ รวมทง้ั ตน้ ทนุ คา่ สารละลายธาตอุ าหารจากการใชป้ ยุ๋ เคมรี ว่ มกบั นาำ้ สกดั ชวี ภาพตาำ่ กวา่ สารละลายมาตรฐานอนนิ ทรยี ์ สอดคลอ้ งกบั ผลการวจิ ยั ขา้ งตน้ ทพ่ี บวา่ ตน้ ทนุ การผลติ ผกั กาดเขยี วกวางตงุ้ ทใ่ี ช้ นาำ้ สกดั ชวี ภาพเพยี งอยา่ งเดยี ว มตี น้ ทนุ คา่ ปยุ๋ ตาำ่ กวา่ กลมุ่ อน่ื ๆ และพบวา่ การเจรญิ เตบิ โต ของผกั กาดเขยี วกวางตงุ้ ในกลมุ่ ทใ่ี ชน้ าำ้ สกดั ชวี ภาพและกลมุ่ ทใ่ี ชน้ าำ้ สกดั ชวี ภาพรว่ มกบั ปยุ๋ เคมี ยงั มกี ารเจรญิ เตบิ โตไมเ่ ตม็ ท่ี แสดงวา่ การเจรญิ เตบิ โตของผกั กาด เขยี วกวางตงุ้ สามารถเจรญิ เตบิ โตไดม้ ากกวา่ น้ี ถา้ เพม่ิ ความเขม้ ขน้ ของนาำ้ สกดั ชวี ภาพ จากมลู ววั ขน้ึ อกี เหมอื นกบั การทดลองของ สมเกยี รติ สวุ รรณครี ี (2545) ซง่ึ พบวา่ การใชค้ วามเขม้ ขน้ ในอตั รา 1: 200 มแี นวโนม้ ของการเตบิ โตของผกั คะนา้ ใกลเ้ คยี งกบั การ ใชป้ ยุ๋ เคมเี พยี งอยา่ งเดยี ว และการรายงานของ Juan, Leopoldo, Marco & Juan (2011) พบวา่ การใชน้ าำ้ สกดั ชวี ภาพจากมลู โค เปน็ แหลง่ ธาตอุ าหารในการผลติ พชื ชว่ ยลดมลพษิ ของสง่ิ แวดลอ้ มและนาำ ไปสกู่ ารลดตน้ ทนุ ของเกษตรกร เมอ่ื ทดลองเปรยี บเทยี บ การใชน้ าำ้ สกดั จากมลู ววั กบั ปยุ๋ เคมใี นการผลติ มะเขอื เทศในระบบไฮโดรโพนกิ ส์ สรุปผลการวิจัย จากการศึกษาการใช้นำ้าสกัดชีวภาพจากมูลวัวต่อการเจริญเติบโตและผลผลิตของผักกาดเขียวกวางตุ้งท่ีปลูกใน ระบบไฮโดรโพนิกส์ สามารถสรุปไดว้ ่า การปลูกผกั ในระบบไฮโดรโพนกิ สส์ ามารถใชน้ ำ้าสกัด ชวี ภาพแทนปุ๋ยเคมีไดแ้ ละยัง สามารถลดต้นทุนการผลิต ขอ้ เสนอแนะ 1. ควรมีการศึกษาการใช้น้ำาสกัดชีวภาพในการปลูกพืชระบบไฮโดรโพนิกส์ที่ผลิตจากมูลสัตว์อื่นๆ เช่น มูล ไก่ มลู กระบอื หรือมูลแพะ ซึง่ เปน็ มลู สัตวท์ ีห่ าไดง้ า่ ยในทอ้ งถนิ่ 2. ควรมกี ารศกึ ษาอตั ราสว่ นทเ่ี หมาะสมระหวา่ งปยุ๋ เคมกี บั นาำ้ สกดั ชวี ภาพหรอื การผสมกนั ระหวา่ งมลู สตั ว์ แตล่ ะชนดิ ซ่ึงมีองคป์ ระกอบของแรธ่ าตุท่แี ตกตา่ งกนั เพ่อื ใหม้ ีความเหมาะสมกับการเจรญิ เติบโตของพชื
82 3. ควรมีการศึกษาการสะสมไนเตรตในพืชที่ปลูกด้วยระบบไฮโดรโพนิกส์ที่ใช้ปุ๋ยเคมีและใช้น้ำาสกัด ชีวภาพ จาก มูลสัตว์ รายการอา้ งองิ กรมสง่ เสรมิ การเกษตร. (2551). การผลติ ผกั ไฮโดรโพนกิ สใ์ นประเทศไทย. กรงุ เทพฯ: กระทรวงเกษตรและสหกรณ.์ จนั ทรเ์ พญ็ ชยั มงคล ดนยั วรรณวนชิ และวชั รบลู ย์ ศตี ะโกฌศศ. (2552). การใชป้ ยุ๋ เคมรี ว่ มกบั นาำ้ สกดั ชวี ภาพปลกู พชื ในระบบ ไฮโดรโพนกิ ส.์ คณะเทคโนโลยกี ารเกษตร มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลธญั บรุ .ี ปทมุ ธาน.ี จรี ยทุ ธ ทองหลวง. (2550). นาำ้ สกดั ชวี ภาพสาำ หรบั ทาำ ปยุ๋ ชวี ภาพ. กรงุ เทพฯ. ดนัย วรรณวนชิ . (2551). สูตรปยุ๋ สำาหรบั การปลกู พืชไฮโดรโพนิกส.์ คณะเกษตรและเทคโนโลยีการเกษตร มหาวทิ ยาลยั ราชมงคลธญั บรุ .ี ธงชัย มาลา. (2546). ปุ๋ยอนิ ทรีย์และปยุ๋ ชีวภาพ. กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์. บัญชา รตั นที ู. (2555). ปยุ๋ อินทรียก์ ับการปรับปรงุ ดนิ เสือ่ มสภาพ. วารสารมหาวทิ ยาลยั นราธวิ าสราชนครินทร,์ 4(2), 115-127. ยงยุทธ โอสถสภา (2543). ธาตอุ าหารพืช. ภาควิชาปฐพีวิทยา คณะเกษตร มหาวิทยาลยั เกษตรศาสตร.์ สมเกียรติ สุวรรณครี ี. (2545). รายงานการวจิ ัยเรือ่ งผลของการใช้น้าำ สกดั ชีวภาพตอ่ ผลผลติ ผกั กาดกวางตุง้ . คณะเกษตร มหาวิทยาลยั เชยี งใหม.่ สมัย สงั ขท์ องราย. (2553). การใช้ปยุ๋ อนิ ทรีย์เพ่อื ปลูกผักไฮโดรโพนกิ ส.์ วิทยานิพนธป์ รญิ ญามหาบณั ฑติ คณะเกษตรและ เทคโนโลยี มหาวทิ ยาลัยเทคโนโลยรี าชมงคลธญั บรุ ี. สุริยา สาสน์ รักกจิ . (2544). ปุ๋ยน้ำาชีวภาพ เทคโนโลยกี ารผลติ ปุ๋ยปลาหมกึ . ในการสัมมนาวชิ าการ เรื่อง การพฒั นาการใช้นา้ำ สกดั ชีวภาพเพื่อการเกษตร กรมวิชาการเกษตร. กรงุ เทพฯ. 5 -13. Juan, C. G., Leopoldo, M. C., Marco, S. E. & Juan, C. C. V. (2011). Effect of liquid cattle manure and inorganic fertilizers on tomato yield and water use in a hydroponics system. Revista Chapingo Serie Horticultural. retrieved February 20, 2013, http://www.agrifoodgateway.com /articles/effect- liquid -cattle-manure-and-inorganic-fertilizers-tomato-yield-and-water-use-hydroponics. Mishra, B. B. & Nayak, K. C. (2004). Organic farming for sustainable agriculture. Orissa Review, 42-45. Steel, R. G. D. & Torrie, J. H. (1980). Principles and Procedures of Statistics (A Biometric Approach). 2nd ed. New York : Mc Graw-Hil.
Search
Read the Text Version
- 1 - 7
Pages: