กว่าจะได้ข้าวสารมาเปนอาหารหลกั ปญหาสิงแวดลอ้ มจากวงจร ของเรา ชีวติ ของขา้ วสาร 1.ดิน ปญหาดนิ เสือม การเตรียมดนิ ทําการไถดะและไถแปร 2.นํา ปลูกพืชชนิดเดียวเปนเวลานานเกินไป ใช้สารเคมใี นการกําจัดศัตรพู ืชและวัชพืชเปนเวลานาน การควบคมุ ระดับนําในนาจะช่วยลดปริมาณวชั พืชได้ ใช้ปยุ เคมเี ปนเวลานาน ดินขาดการบํารุง เชน่ การใส่ปยุ คอก หรือปยุ ใหม่ 3.สารเคมี / การตกกล้า ปญหานาํ เสีย ปยุ เคมี / สารเคมีปองกันกาํ จดั ศัตรูพืชในนาขา้ ว การทนี าํ ”เน่าเสีย” หรือด้อยคณุ ภาพลง เนืองมาจากเกดิ การยอ่ ยสลาย 4.เครอื งจักร ของสารอินทรยี ์ เชน่ เศษซากพืช (บริเวณพืนทีเกษตร เชน่ นาข้าว สวน)ที จมอยูใ่ ตน้ ําโดยจุลินทรยี ท์ อี ย่ใู นธรรมชาติ ซงึ ขณะทีเกิดการยอ่ ยสลายนัน รถไถ / เครืองสีขา้ ว / หอ้ งสําหรบั การเก็บรักษาขา้ ว จะเกิดการใชอ้ อกซเิ จนในนาํ ทําใหป้ ริมาณออกซเิ จนในนาํ ลดลง (อาจจะ 5.แรงงานมนุษย์ เรยี กว่านาํ เรมิ เสีย) หลงั จากนนั สารอนิ ทรยี ์จะถกู ยอ่ ยสลายตอ่ โดย จุลินทรีย์ทไี มใ่ ช้อากาศตอ่ ไป เพือควบคมุ เคอื งในการทาํ นา และมคี วามรใู้ นด้าน การปลกู ขา้ ว ปญหามลพิษทางอากาศ 6.พลงั งงาน การเผาฟางเปนส่วนหนึงทีก่อให้เกดิ มลพิษทางอากาศ เขม่าควนั เถา้ ฝนุ ละออง ทีเกดิ จากการเผาไหม้สามารถแพร่กระจายออกไปในวงกว้าง ส่ง การไถนา / การขนย้ายขา้ ว / สีข้าว / การปลอ่ ยก๊าส ผลกระทบต่อสุขภาพอนามยั กอ่ ใหเ้ กิดความเดอื นร้อนราํ คาญ และบดบงั เรอื นกระจก ทัศนะวสิ ัยจนอาจเปนสาเหตุของอบุ ัตเิ หตุบนท้องถนนหรือเปนต้นเหตุของ 7.อากาศ การเกดิ ไฟปาได้ สภาพอากาศขึนอยกู่ ับปจจยั ต่างๆ เชน่ สภาพอากาศ สภาพดนิ พันธข์ า้ ว เปนตน้ / การควบคมุ ความชนื 6404486 นายพีรวิชญ ศรวี ไิ ล ปี 1
กวา่ จะได้ขา้ วสารมาเป็น ปัญหาสงิ่ แวดลอ้ มจากวงจรชวี ติ ของ อาหารหลกั ของเรา ขา้ ว ใช้ทรัพยากรธรรมชาติและสงิ่ แวดล้อมอะไรบ้าง? ดนิ เสือ่ มโทรม ดิน&น้า พลงั งาน เผาตอซังและฟาง ไมพ่ ักดนิ สารเคมีตกค้าง - มกี ารเตรียมดินหลายข้นั ตอน - แยกแกลบดว้ ยเครื่อง มกี ารใชน้ ้าปริมาณมาก เกิดภาวะน้าเน่าเสีย เช่น การไถดะ กะเทาะเปลอื ก น้า Blue water footprint • น้าเน่าเสียจากน้าที่ขังใน - บางขนั้ ตอนต้องมนี ้าหล่อ - ตกกล้าดว้ ยเคร่อื งปักดา Green จากแหล่งธรรมชาติ แปลงนา เลี้ยงเสมอ เชน่ การตกกล้า ขา้ ว Gray water footprint • น้ามีการปนเป้ ือนดว้ ยปุย๋ เคมี สาร - ขนยา้ ยจากนา >โรงสี > จากความชนื้ ในดิน • มีการปนเป้ ือนดว้ ยสารเคมี เคมี แหล่งจาหน่ายดว้ ย - เพ่ิมน้านม,น้าหนกั ,สี เคร่ืองจักรกล water footprint ปอ้ งกันกาจดั ศัตรูพืช - ปรับปรงุ ดนิ ปริมาณน้าเสียทเี่ กดิ ขนึ้ - กาจัดวัชพืช - ทาความสะอาดข้าวเปลอื ก - แกป้ ัญหาโรคข้าว ดว้ ยเคร่อื งจกั รลมเปา่ /ตะแกรง เกดิ จาก ผลกระทบ - เรง่ การแตกกอและความ รอ่ น แขง็ แรง • การเผาไหมต้ ่างๆ เช่น • น้าทะเลเพิม่ ระดับ - ใช้ตะแกรงตดั ขนาดข้าว การเผาตอซงั และฟาง • การรกุ ล้าและกัดเซาะชายฝ่ ัง อากาศ - กาจัดวชั พืชและทาใหด้ นิ • เกดิ ฝนุ่ ละออง • ภัยธรรมชาติ แตกตวั ดว้ ยเคร่อื งไถพวนจอบ • เกดิ ก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์ • ฝนตกชกุ - ควบคมุ อณุ หภมู แิ ละ - ขัดขาวและขัดมนั ไนโตรเจนไดออกไซด์ และกา๊ ซ • อากาศแปรปรวนน้าแปรสภาพ ความชน้ื สัมพัทธ์เพอ่ื เกบ็ รกั ษา เรือนกระจก ภาวะ เป็นกรด โลกรอ้ น • กระทบสขุ ภาพ การทอี่ ณุ หภูมิเฉลยี่ ของผวิ โลกและผืนมหาสมุทรเพิ่มสงู ขึน้ ซงึ่ เกิดจากแกส๊ เรอื นกระจกสะสมอยู่ใน ชนั้ บรรยากาศมมี ากเกินสมดุล
กวา่ จะไดข้ า้ วสารมาเปน ปญหาสงิ แวดล้อมจาก อาหารหลักของเรา วงจรชีวิตของข้าวสาร การทํานาปลกู ขา้ ว ภาวะโลกรอ้ นและการเปลียนแปลงสภาพภมู อิ ากาศ ภาวะโลกรอ้ น7 (Global Warming) คือ การที การทํานาดาํ เปนการปลกู ขา้ วในสภาพพนื ทีล่มุ นาขงั โดยใชต้ ้นกล้าขา้ ว ทําการปกดาํ ลงไปในดนิ แปลงนา ซงึ จะมขี ัน้ ตอนของการปลกู ขา้ วแบง่ ออกเปน 2 ระยะ คือ ระยะต้นกล้า และระยะปกดาํ อุณหภมู เิ ฉลียของผวิ โลก และผนื มหาสมุทรเพมิ สงู ขนึ การทําดาํ นา ซงึ เกิดจากก๊าซเรอื นกระจก เชน่ ก๊าซ คารบ์ อนไดออกไซด์ ก๊าซมเี ทน ฯลฯ ทีสะสมอยูใ่ นชัน้ การเตรยี มดนิ การเตรยี มดิน การตกกล้า การปกดํา และ การดแู ลรกั ษา(การใสป่ ุย/การกําจดั วชั พชื / 1.การไถดะ และไถแปร การกําจดั โรค แมลง และสตั วศ์ ัตรขู า้ ว) บรรยากาศมมี ากจนเกิน สมดลุ การไถดะคือ การไถพลิกหนา้ ดนิ ครงั แรกเพอื กําจดั วชั พชื และตากดนิ ให้ แหง้ การตกกล้า ก๊าซเรอื นกระจกทีทัวโลกใหค้ วามสาํ คัญ - การเตรยี มดนิ 1. ก๊าซคารบ์ อนไดออกไซด์ (Carbon Dioxide: CO2) การไถแปร คือการไถครงั ทีสองโดยไถขวางแนวไถดะ 2. ก๊าซมเี ทน (Methane: CH4) - การเพาะเมล็ดพนั ธุ์ 3. ก๊าซไนตรสั ออกไซด์ (Nitrous oxide: N2O) 2 การคราดหรอื ใชล้ กู ทบุ ปญหาสงิ แวดล้อมจากการทํานาปลกู ขา้ ว 4. ก๊าซไฮโดรฟลอู อโรคารบ์ อน - การหวา่ นเมล็ดพนั ธุ์ (Hydrofluorocarbons: HFCs) คือการกําจดั วชั พชื ตลอดจนการ ทําใหด้ นิ แตกตัว 1.ปญหาเกียวกับนา - การใหน้ า ถ้าตกกล้าไมม่ ากนกั 5. ก๊าซเปอรฟ์ ลอู อโรคารบ์ อน (Perfluorocarbons: คารบ์ อนฟุตพรนิ ท์ 1.1 ปรมิ าณการใชน้ าในกระบวนการปลกู ขา้ ว เพอื ผลิตขา้ วเปลือก PFCs) arbon Footprint (CF) เปนค่าทางวทิ ยาศาสตรท์ ีคํานวณปรมิ าณการ ปลดปล่อย - การใสป่ ุยเคมี และ แปรรปู ขา้ วเปลือกเปนขา้ วสาร 6. ก๊าซซลั เฟอรเ์ ฮกซะฟลอู อไรด์ (Sulfur - การดแู ลรกั ษา ใชส้ ารปองกันกําจดั โรคแมลงศัตรขู า้ ว จากปรมิ าณนาทีใชไ้ ปและ / หรอื ปรมิ าณนาเสยี ที ปล่อยออกมา hexafluoride: SF6) าซเรอื นกระจกจากผลิตภัณฑ์ 7. ก๊าซไนโตรเจนไตรฟลอู อไรด์ (Nitrogen นตอนทีมสี ดั สว่ นการปล่อยก๊าซเรอื นกระจกสงู สดุ มากกวา่ 95 เปอรเ์ ซน็ ต์ ของค่า กรมวธิ กี ารสขี า้ ว วอเตอรฟ์ ุตพรนิ ท์ทั ้งหมดสามารถแยกออกเปน 3 สว่ น คือ trifluoride: NF3) 6404871 นางสาวปยะวดี นชุ ติ ารบ์ อนฟุตพรนิ ท์รวม สว่ นการผลิตถงุ CPP/LLDPE และการขนสง่ ไปยงั ต่าง 1. ทําความสะอาดขา้ วเปลือก • วอเตอรฟ์ ุตพรนิ ท์สนี าเงิน (Blue Water Footprint) คือ ปริ 2. การกะเทาะเปลือก ระเทศ มสี ดั สว่ นการปล่อยก๊าซเรอื นกระจกนอ้ ยมาก ขณะทีค่าคารบ์ อน ฟุตพรนิ ท์ของ 3. การขดั ขาวและขดั มนั มาณนา จากแหล่งนาธรรมชาติทังแหล่งนาผวิ ดนิ ลิตภัณฑ์ผลิตภัณฑ์ขา้ วสารหอมมะลิ พนั ธุข์ าวดอกมะลิ 105 100% ชัน้ 1 (AA) 4. การคัดขนาดขา้ วสาร • วอเตอรฟ์ ุตพรนิ ท์สเี ขยี ว(GreenWaterFootprint)หมายถึง รรจุในถงุ CPP/LLDPE ขนาดบรรจุ 5 กิโลกรมั คิดเปน 38.7 กิโลกรมั ปรมิ าณ นาทีอยูใ่ นรปู ของความชนื ในดนิ ทีถกู ใชไ้ ปในการผลิต ารบ์ อนไดออกไซดเ์ ทียบเท่า สนิ ค้าและบรกิ าร โดยเฉพาะอยา่ งยงิ การผลิตพชื ผลทางการ การเก็บรกั ษาขา้ ว เกษตร การทําไม้ และ ท่งุ หญา้ เลียง สตั ว์ • วอเตอรฟ์ ุตพรนิ ท์สเี ทา(GrayWaterFootprint)หมายถึง วตั ถปุ ระสงค์หลักของการเก็บรกั ษาขา้ ว เพอื ใหเ้ กิดการสญู เสยี ของขา้ ว ปรมิ าณ นาเสยี ทีเกิดขึน้ จากกระบวนการผลิตสนิ ค้าและบรกิ าร ซงึ ขณะเก็บรกั ษานอ้ ยทีสดุ ทังดา้ นปรมิ าณและคณุ ภาพ ในดา้ นปรมิ าณ คํานวณจากปรมิ าณนา ทีใชใ้ นการบาํ บดั นาเสยี ใหเ้ ปนนาดตี ามค่า วธิ กี ารเก็บรกั ษาขา้ ว มาตรฐาน 1. การเก็บในสภาพปกติ 1.2 ปญหานาเสยี จากการทํานา 2. การเก็บในสภาพทีมกี ารควบคมุ อุณหภมู เิ พยี ง อยา่ งเดยี ว 3. การ เก็บในสภาพทีมกี ารควบคมุ ความชนื สมั พทั ธ์ ของอากาศ การทํานาปลกู ขา้ วไมเ่ พยี งแต่มกี ารใชน้ าปรมิ าณมาก แต่กระบวน 4. การเก็บในสภาพทีมกี ารควบคมุ อุณหภมู แิ ละความชนื สมั พทั ธข์ อง ทํานา ปลกู ขา้ ว ยงั มสี ว่ นทําใหเ้ กิดปญหานาเสยี ทังในสภาวะปกติ อากาศ ทัวไปและในสภาวะ ไมด 1) การทํานาขา้ วในสภาวะปกติทั่วไป การขนยา้ ยผลผลิตขา้ ว ท211ส..)งิีร34อแกปปงวาดรรญญทบัลหหําน้อนาาามคอาเพใาณุ นกอื สภาปศภาอพาเงสวดกยีะไนิ ันมเนสป่ าอืกทมต่วโิ มท(นเรขามตท่วเมมอื นงา(แหกรอื้มมลกีิง)ารใชพ้ นื ทีนา2431ผ))))เลปภนกกกนาาัยารรรทธรเะะรพทเกุ รลมิบลมกสาจชัดขงูาาเอกขตซงนึภาิทนะขาีรตาวอนุ ทละงแโิะงรลเรและกงดลตแรบัะาลอ้ชนมะนาาเแยกแทนหิดะลวาเขะลชดกนึ าทายอัวรฝยโเลา่ปงงกลตเียป่อนนเนแบอื ปรงเิลวงณสกภวาา้ พงภมู อิ าการโลก 5) ฝนตกมากขนึ การขนยา้ ยผลผลิต เรมิ จากชาวนาเก็บเกียวขา้ วเปลือก เคลือนยา้ ย ขา้ วเปลือกไป 6) สภาพภมู อิ ากาศแปรปรวน ยงั โรงสี และนาํ ไปแปรสภาพเปนขา้ วสาร นาํ สง่ ไปจนถึงแหล่ง จาํ หนา่ ย (สง่ ออก ต่างประเทศหรอื ค้าขายภายในประเทศ) ล้วนแล้วต้องมกี ารใช้ เครอื งจกรกล ซงึ หมายถึง การใชพ้ ลังงานในการเคลื่อนยา้ ยทั ้งสนิ ดงั นั น้ ผลจาก การใชพ้ ลังงาน จงึ สง่ ผลโดยตรงต่อการปล่อยออกของก๊าซคารบ์ อนไดออกไซดส์ ู่ บรรยากาศ ซงึ เปนก๊าซเรอื นกระจกตัวสาํ คัญทีทําใหเ้ กิดภาวะโลกรอ้ น 7) นาแปรสภาพเปนกรด 8) ผลกระทบดา้ นสขุ ภาพ
ใช้ทรัพยากรและ กว่าจะได้ข้าวสารมาเป็น ปัญหาสิ่งแวดล้อม สิ่งแวดล้อมอะไรบ้าง อาหารหลักของเรา จากวงจรชีวิตของข้าวสาร แสงแดดและภูมิอากาศ พลังงาน ปัญหาทางอากาศ ปัญหาทางดิน ต้องอาศัยอุณหภูมิของ กําจัดวัชพืชและทําให้ดินแตกตัว เกิดจาก : การเผาไหม้ต่างๆ เชน่ การ เกิดจาก : การเผาตอซังและฟางข้าว อากาศทีเ่ หมาะสมใน ด้วยเครือ่ งไถพรวนจอบ เผาไหม้ตอนตอซังฟางข้าว (ทําลายแร่ธาตุในดินทําให้ความอุดม การเติบโตของข้าวและ ตกกล้าด้วยเครื่องปักดําข้าว ทําให้เกิด : ก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์ สมบูรณ์ของดินลดลง) การทํานา การเก็บรักษา ขนย้ายจากนาไปโรงสีและแหลง่ ไนโตรเจนไดออกไซด์ ก๊าซเรือน อย่างตอ่ เนื่องไม่มีการพักดิน ใช้แสงแดดในการ จําหน่ายด้วยเครือ่ งจักรกล กระจก ภาวะโลกร้อน (เป็นการดูดซับธาตุอาหารในดินไป สังเคราะห์แสงของข้าว ทําความสะอาดข้าวเปลือกด้วย ผลกระทบ : ระดับนํ้าทะเลเพิม่ สูงขึ้น ใช้มากเกินกว่าการทดแทนธรรมชาติ ใช้แสงแดดเพื่อตาก เครือ่ งจักรลมเป่า การรุกลํ้าของนํ้าทะเลตามแนวชายฝัง่ สมดุลของดินลดลง) การใช้สารเคมี ข้าวให้แห้งกอ่ นนําไปสี คัดขนาดผา่ นตะแกรง นํ้าทะเลกัดเซาะตลิง่ และชายหาดทั่ว ป้องกันกําจัดศัตรูพืช (เกิดการ แยกแกรบด้วยเครื่องกะเทาะเปลือก โลก ภัยธรรมชาติทีร่ ุนแรงและเกิดขึ้น ตกค้างและแพร่กระจายในดิน ทํา ขัดขาวและขัดมัน ตอ่ เนื่อง ฝนตกมากขึ้น สภาพภูมิอากาศ ลายสิ่งมมีชีวิตทีเ่ ป็นประโยชน์หรือ แปรปรวน นํ้าแปรสภาพเป็นกรด และ จุลินทรีย์ในดิน) สง่ ผลกระทบด้านสุขภาพ สารเคมี ดินและนํ้า ปัญหาทางเสียง ปัญหาทางนํ้า มีการใช้ปุ๋ยในดินที่มีความอุดมสมบูรณ์ นํ้าใช้เป็นปัจจัยในการ เครื่องจักรกลทํางาน โดยเฉลีย่ ข้าวสาร 1 กิโลกรัมนั้น ตํ่า เชน่ ปุ๋ยเคมีแอมโมเนียมฟอสเฟต เติบโตของข้าว เสียงดังรบกวน พบวา่ มีการใช้นํ้าถึง 2497 ลิตร (16-20-0) เพื่อปรับปรุงดิน ใช้ดินเพือ่ เป็นพื้นที่ในการ (เครื่องกะเทาะ เครื่อง เกิดจาก : มีการระบายนํ้าออกจาก ใช้สารป้องกันกําจัดโรคแมลงศัตรูข้าว ปลูก-ตากข้าว แยก เครื่องขัดข้าว) พื้นที่นํ้าพร้อมๆกัน นํ้ามีการปน เพิ่มนํ้านม นํ้าหนัก สี ต้องมีการเตรียมดินหลายขั้น เปื้อนของธาตุอาหารส่วนเกิน แก้ปัญหาโรคข้าว (ข้าวแดง เมล็ดฟีบ) ตอน (การไถดะ, การไถแปร) และปนเปื้อนสารเคมีหลายชนิด เร่งการแตกกอและความแข็งแรง บางขั้นตอนต้องมีนํ้าในการ จากปฏิทินการใช้ปุ๋ย แสดงให้เห็นวา่ หลอ่ เลี้ยงเสมอ(การตกกล้า) มรการใช้สารเคมีเกือบททุก ใช้นํ้าเพื่อแชเ่ มล็ดพันธ์ุ กระบวนการของการผลิตข้าว
6404962 นางสาวฐิติยา มีศิลป การใส่ ปุย ปญหาสิ งแวดล้อม ก า ร ต ก ก ล้ า ก า ร ใ ส่ ปุ ย เ ค มี ถ้ า ดิ น มี ค ว า ม อุ ด ส ม บู ร ณ์ 1 . ทาํ ค ว า ม ส ะ อ า ด เ ป ลื อ ก ข้ า ว 1 . ว อ เ ต อ ร์ ฟุ ต พ ร น ท์ สี นํา เ งิ น : นํา จ า ก เ เ ห ล่ ง ข้ า ว ใ น น า ดี ก็ ไ ม่ จํ า เ ป น ต้ อ ง ใ ส่ ปุ ย แ ต่ ถ้ า 2 . ก า ร ก ร ะ เ ท า ะ เ ป ลื อ ก ธ ร ร ม ช า ติ 1 . ก า ร เ ต ร ย ม ดิ น ดิ น มี ค ว า ม อุ ด ม ส ม บู ร ณ์ ต า ใ ห้ ใ ส่ ปุ เ ค มี 3 . ขั ด ข า ว แ ล ะ ขั ด มั น 2 . ก า ร เ พ า ะ เ ม ล็ ด พั น ธ์ุ เ พื อ ช่ ว ย ใ ห้ ง อ ก ง า ม ดี ขึ น 4 . ก า ร คั ด ข น า ด ข้ า ว ส า ร 2 . ว อ เ ต อ ร์ ฟุ ต พ ร น ท์ สี เ ขี ย ว : ป ร ม า ณ นาํ ใ น รู ป 3 . ก า ร ห ว่ า น เ ม ล็ ด พั น ธ์ุ ค ว า ม ชื น ใ น ดิ น 4 . ก า ร ใ ห้ นํา 3 . ว อ เ ต อ ร์ ฟุ ต พ ร น ท์ สี เ ท า : ป ร ม า ณ นาํ เ สี ย ที ป ริ ม า ณ ก า ร ใ ช้ นาํ เ กิ ด จ า ก ก า ร ผ ลิ ต สิ น ค้ า แ ล ะ บ ร ก า ร การทาํ นาปลูกขาว ก า ร ดู แ ล รั ก ษ า กรรมวิธีการสีขาว น้าํ ก า ร เ ต รี ย ม ดิ น ใ ช้ ส า ร ป อ ง กั น เ พื อ กํ า จั ด โ ร ค จ า ก แ ม ล ง ศั ต รู พื ช ข อ ง ข้ า ว 1 . ก า ร ไ ถ ด ะ : พ ลิ ก ห น้ า ดิ น กาํ จั ด วั ช พื ช ต า ม ค ว า ม จํ า เ ป น 2 . ก า ร ไ ถ แ ป ร : ไ ถ ต า ม แ น ว ข ว า ง เ พื อ ย่ อ ย ปริมาณนาํ เสี ย 1 . ก า ร ทํา น า ข้ า ว ใ น ส ภ า ว ะ ป ก ติ ทั ว ไ ป : จ ะ ก่ อ ใ ห้ เ กิ ด ดิ น ค ลุ ก เ ค ล้ า ฟ า ง แ ล ะ วั ช พื ช จ า ก ก า ร ทํา น า ป ญ ห า ม ล พิ ษ ใ น ร ะ ดั บ ต า ต่ อ แ ห ล่ ง น า เ นื อ ง จ า ก 3 . ก า ร ค ร า ด ห ร อ ใ ช้ ลู ก ทุ บ : กํา จั ด วั ช พื ช มี ค่ า ค ว า ม เ ข้ ม ข้ น เ ฉ ลี ย ข อ ง ส า ร ม ล พิ ษ ต า ม า ก แ ล ะ ทาํ ใ ห้ ดิ น แ ต ก เ ป น เ ทื อ ก พ ร้ อ ม ป ก ดาํ 2 . ก า ร ทํา น า ใ น ส ภ า ว ะ ไ ม่ ป ก ติ ( นาํ ท่ ว ม น า ) : จ ะ ก่ อ ใ ห้ เ กิ ด ป ญ ห า ม ล พิ ษ สู ง เ นื อ ง จ า ก มี ก า ร เ น่ า เ สี ย ข อ ง กว่าจะมาเปนข้าวสาร ต้ น ข้ า ว ร ว ง ข้ า ว ห ร อ วั ช พื ช ต่ า ง ๆ การเก็บรักษาขาว 1 . ก า ร เ ผ า ต อ ซั ง แ ล ะ ฟ า ง ข้ า ว : ธ า ตุ อ า ห า ร จ ะ ถู ก ทํ า ล า ย ทํ า ใ ห้ ดิ น ไ ม่ อุ ด ม ส ม บู ร ณ์ การขนยายผลผลิตขาว ดิน 2 . ก า ร ทาํ น า ต่ อ เ นื อ ง แ บ บ ไ ม่ พั ก ดิ น : ดู ด ซั บ ธ า ตุ อ า ห า ร ข อ ง ดิ น ไ ป ใ ช้ ม า ก ก ว่ า ก า ร ท ด แ ท น ต า ม ธ ร ร ม ช า ติ 3 . ก า ร ใ ช้ ส า ร เ ค มี กาํ จั ด ศั ต รู พื ช : จ ะ ทํ า ล า ย สิ ง มี ชี ว ต ที เ ป น ป ร ะ โ ย ช น์ ห ร อ จุ ลิ น ท ร ย์ ใ น ดิ น 1 . ช า ว บ้ า น เ ก็ บ เ กี ย ว ผ ล ผ ลิ ต 1 . เ ก็ บ ใ น ส ภ า พ ป ก ติ : ไ ม่ มี ก า ร ค ว บ คุ ม อุ ณ ห ภู มิ อากาศ 1 . เ กิ ด ฝุ น ล ะ อ อ ง ม า ก ม า ย โ ด ย เ ฉ พ า ะ จ า ก ก า ร เ ผ า 2 . ย้ า ย ข้ า ว เ ป ลื อ ก ไ ป โ ร ง สี แ ล ะ ค ว า ม ชื น สั ม พั ท ธ์ ภ า ย ใ น โ ร ง เ ก็ บ ข้ า ว ต อ ซั ง จ ะ ก่ อ ใ ห้ เ กิ ด ค ว า ม เ ดื อ ด ร้ อ น แ ล ะ เ ป น 3 . เ เ ป ร ส ภ า พ ข้ า ว เ ป ลื อ ก ส า เ ห ตุ ทาํ ใ ห้ เ กิ ด อุ บั ติ เ ห ตุ ไ ด้ 2 . เ ก็ บ ใ น ส ภ า พ ที มี ก า ร ค ว บ คุ ม อุ ณ ห ภู มิ เ พี ย ง พ อ ใ ห้ เ ป น ข้ า ว ส า ร เ ช่ น เ ก็ บ ใ น ตู้ เ เ ช่ 2 . ก๊ า ซ ต่ า ง ๆ เ ช่ น ค า ร์ บ อ น ไ ด้ อ อ ก ไ ซ ด์ , 4 . นาํ ส่ ง อ อ ก จาํ ห น่ า ย แ ก่ ร้ า น ค้ า ค า ร์ บ อ น ม อ น อ ก ไ ซ ด์ , ไ น โ ต ร เ จ น ไ ด อ อ ก ไ ซ ด์ 3 . เ ก็ บ ใ น ส ภ า พ ที มี ก า ร ค ว บ คุ ม ค ว า ม ชื อ สั ม พั ท ธ์ ก๊ า ซ เ ห ล่ า นี จ ะ ทํา ใ ห้ สุ ข อ น า มั น เ สื อ ม โ ท ร ม แ ล ะ ข อ ง อ า ก า ศ เ ช่ น เ ก็ บ ใ น ภ า ช น ะ ที มิ ด ชิ ด เ กิ ด ป ญ ห า โ ล ก ร้ อ น 4 . เ ก็ บ ใ น ส ภ า พ ที มี ก า ร ค ว บ คุ ม อุ ณ ห ภู มิ แ ล ะ ค ว า ม ชื อ สั ม พั ท ธ์ ข อ ง อ า ก า ศ ( ว ธี นี จ ะ มี ป ร ะ สิ ท ธิ ภ า พ ที สุ ด )
1.การเตรยี มดิน ปญหาสงิ แวดล้อมจากวงจร •การไถดะคือการไถพลิกหน้าดินเพอื กําจดั วชั พชื ของขา้ วสาร •การไถแปรคือการไถขวางแนวไถดะเพอื ยอ่ ยดินและ คลกุ เคล้าวชั พชื ด้วยรถแทรกเตอร์ แรงววั ควาย การปลกู ขา้ ว กรรมวธิ กี ารสขี าว 1.ทําความสะอาดขา้ วเปลือก เพอื แยกสงิ แปลกปลอม •การคราดหรอื ใชล้ กู ทบุ คือการกําจดั วชั พชื และทําให้ 2.การกระเทาะเปลือก เพอื ทีจะแยกเอาเปลือกหมุ้ เมล็ด ดินแตกตัว 3.การขดั ขาวและขดั มนั เปนการขดั ชนั ราํ ซงึ เปนเยอื หมุ้ เมล็ดออกจากขา้ วกล้อง ปญหาดนิ เสอื มโทรม 2.การตกกล้า 4.การคัดขนาดขา้ วสารเพอื แยกขา้ วสารเต็มเมล็ดออกจากขา้ วหกั •การเตรยี มดิน •การเพาะเมล็ดพนั ธุ์ ปญหาเกียวกับนาํ •การหวา่ นเมล็ดพนั ธุ์ •การใหน้ ํา •การใสป่ ุยเคมี •การดแู ลรกั ษา ใชส้ ารปองกันแมลงศัตรูขา้ ว กวา่ จะมาเปน ไมเ่ พยี งแต่มกี ารใชน้ ําปรมิ าณมากแต่กระบวนการทํานา สาเหตหุ ลักเกิดจาก ขา้ วสาร ปลกู ขา้ ว ยงั มสี ว่ นทําใหเ้ กิดปญหานําเสยี ก่อใหเ้ กิดปญหา 1.การเผาตอซงั และฟางขา้ ว มลพษิ ในระดับตําต่อแหล่งนํา มกี ารเน่าเสยี ของต้นขา้ ว 2.การทํานาอยา่ งต่อเนอื งไมม่ กี ารพกั ดนิ เปนการดดู ซบั ธาตอุ าหารในดนิ ไป ใชม้ าก รวงขา้ วหรอื วชั พชื ต่างๆหากมกี ารระบายนําออกจากพนื ที เกินกวา่ การทดแทนตามธรรมชาติ รวมทังทีมกี ารใสป่ ุยเคมหี รอื ปุยอินทรยี ล์ งไปใน นาพรอ้ มๆกัน จะเปนสาเหตทุ ําใหเ้ กิดปญหานําในแหล่งนํา ดนิ ไมส่ มดลุ กัน เน่าเสยี ได้ หรอื เกิดนําไหลล้นออกจากทีนาได้ชะปุยทีตกค้าง 3.การใชส้ ารเคมปี องกันกําจดั ศัตรพู ชื ทําใหเ้ กิดการตกค้างและแพรก่ ระจาย ในทีนาลงสแู่ หล่งนํา หากมกี ารปนเปอนของธาตอุ าหาร สว่ นเกินในปรมิ าณจะเรง่ การเจรญิ เติบโตของสาหรา่ ยและ พชื นําทําใหแ้ หล่งนํามอี ากาศไมเ่ พยี งพอต่อการดํารงชวี ติ ของสตั วน์ ํา อาจทําใหส้ งิ มชี วี ติ ตายและเกิดนําเสยี 1.การเก็บในสภาพปกติ การเก็บไวใ้ นโรงเก็บทีปกติทีไมม่ ี การเก็บรกั ษาขา้ ว การขนยา้ ยผลผลิตขา้ ว เรมิ จากชาวนาเก็บเกียวขา้ วเปลือกเคลือน ปญหาทางอากาศ การควบคมุ อุณหภมู แิ ละความชนื สมั พทั ธภ์ ายในโรงเก็บ ยา้ ยขา้ วเปลือกไปยงั โรงสแี ละนไปแปร 2.การเก็บในสภาพทีมกี ารควบคมุ อุณหภมู เิ พยี งอยา่ ง สภาพเปนขา้ วสาร นาํ สง่ ไปจนถึงแหล่ง เดยี ว จาํ หนา่ ย 3.การเก็บในสภาพทีมกี ารควบคมุ ความชนื สมั พทั ธข์ อง อากาศ 4.การเก็บในสภาพทีมกี ารควบคมุ อุณหภมู แิ ละ ความชนื สมั พทั ธข์ องอากาศ สามารถปองกันและลดความ เสยี หายของขา้ วไดด้ ี เก็บรกั ษาขา้ วใหค้ งคณุ ภาพดไี ดเ้ ปน เวลานาน ทําใหเ้ กิดฝุนละอองไดอ้ ยา่ งมากมาย โดยเฉพาะในขนั ตอนการเผาตอซงั ฟางขา้ ว ก่อให้ เกิดฝุนละออง ควนั ก๊าซต่างๆจากการเผาไหม้ เชน่ คารบ์ อนไดออกไซด์ คารบ์ อนมอนอกไซด์ ไนโตรเจนไซด์ ทําใหก้ ๊าซเรอื นกระจกและเกิดภาวะโลกรอ้ น นายสวุ ฒั น์ เพชรกําเนดิ 6405786
การตกกลา้ ต้องเตรียมดิน แชเ่ มลด็ พันธ์ข้าว สภาพแวดลอ้ มทเี หมาะสม ดนิ เสือมโทรมเนืองจาก เกิดนําเสียเนอื งจาก การทํานาดาํ ตอ้ งพลิกหน้าดิน ไขนาํ เขา้ ท่วมแปลงหลงั จาก กบั การปลกู ขา้ ว ยอ่ ยดิน คลุกฟาง+วัชรพืช หว่านเมลด็ พันธ์เุ สรจ็ ใช้ในการควบคมุ การเผาตอซังและฟางข้าว มีนาํ ขัง และไถตะ ไถแปร และจัดเก็บเมล็ดพันธ์ขุ า้ ว การทาํ นาอย่างต่อเนือง มีการใช้ปยุ เคมี การสีขา้ ว ทาํ ให้เกิด เศษฟาง นา้ํ โดยไม่พักหน้าดิน ใช้สารเคมกี าํ จดั ศัตรูพืช หญา้ และวชั รพืช อากาศ การใช้สารเคมี ทําใหม้ สี ารตกค้าง ในดนิ นาข้าว และมผี ลกระทบต่อส่งมรชีวติ ต่างๆ ปญหา ดนิ เกยี วกับนาํ ปญหา ใชน้ ํามากถึง 2,497 ลติ ร เกียวกบั ดนิ ต่อการผลิตขา้ ว 1 กโิ ลกรมั กว่าจะได้ข้าวสารมาเปนอาหารหลักของเรา กวา่ จะไดข้ ้าวสารมาเปนอาหารหลกั ของเรา \"ต้องใช้ทรัพยากรธรรมชาตแิ ละสิงแวดลอ้ มอะไรบา้ ง\" \"สรา้ งปญหาสิงแวดลอ้ มอะไรบ้าง\" ปยุ เคมี ปญหา การกําจัดวชั รพืช เกยี วกOบัFT HTอEH EาA RCกTU Tาศ คน พลงั งาน สารเคมี โลกร้อน สัตว์ แรงงาน เครอื งจกั ร อากาศเสีย จะทําใหเ้ กดิ เนอื งจาก การกําจดั ศัตรพู ืช เผาตอซงั ข้าว ภยั ธรรมชาติ การกาํ จดั โรค ฝนตกหนัก จนทําให้นําท่วม ปรับปรุงดิน ระดบั นาํ ทะเลเพิมสูงขึน การลุกลาํ ของนําทะเลตามชายฝง การไถนา ทาํ ใหเ้ กิดฝนุ ละออง สภาพอากาศแปรปรวน 6406037 การหว่านเลด็ ดว้ ยเครือง เกิดก๊าซทที าํ ให้โลกร้อน อณุ หภูมิเพิมสูงขนึ นางสาวนันทิชา สุพร การสีข้าว ทําอากาศเปนมลพิษ นาํ แปรสภาพเปนกรด การขนย้ายผลผลิตข้าว กระทบต่อสุขภาพ การตกกล้าดว้ ยเครืองปกดํากลา้
การตกกลา้ การสขี า้ ว -ผงรําข้าว+น�ํา=น�ําเสยี การสีขา้ ว เตรยี มดนิ ดนิ เส่ือมโทรม -น�ําระบายท�งิ จากหมอไอน�าํ เกิดส่ิงปฏกิ ลู -เศษฟาง กําจัดวัชรพืช คุณภาพดนิ ลดลง น�ําเสยี จาการแช่ ข้าว,น่ึงข้าว -หญ้า การทาํ นาดํา -ใช�ป๋ ุยเคมีมากไป ความตอ้ งการน�าํ มากในการ -วัชรพชื เตรยี มดนิ -พลกิ ดนิ : ไถดะ - สารเคมสี ะสม ปลกู ขา้ วแต่ละครงั� ป๋ ุยเคมี -ยอ่ ยดนิ คลกุ ฟาง วัชรพืช ปั ญหา การทาํ นาในสภาวะปกตซิ ่ึ ง การกําจัดวัชพชื : ไถแปร ทางดิน กอ่ ให้เกดิ มลพษิ ในน�ํา การจํากัด สารเคมี ดิน ปั ญหา ศัตรูพชื ทางน�าํ การกําจัดโรค การตกกลา้ ทรัพยากร + ส่ิงแวดวอ้ ม กวา่ จะมาเป�น ปั ญญาส่ิงแวดลอ้ มท่เี กดิ ขึ�น ปั ญหา -ใหน้ �ํา น�ํา ขา้ วสาร ทางเสียง การสขี า้ ว อากาศ อาหารหลักของเรา -ผงราํ ขา้ ว +น�ํา = น�ําเนา่ เสยี -น�ําระบายทงิ� จากหมอไอน�าํ ปั ญหา เคร่ืองจกั ร ทาอากาศ -เคร่ืองกะเทาะ การไถนา พลงั งาน -เคร่ืองแยก การใช�คราด / ลกู ทบุ ฝ่ ุนละอองจากการตากข้าวเปลือก, -เคร่ืองขดั ข้าว การหวา่ นเมลด็ พันธ์ สภาพภมู อิ ากาศท่ีเหมาะสมกบั การ ข�ีเถา้ แกลบ,กองแกลบ การสขี ้าว ปลูกช� าว ควนั จาการเผาไหม้ไม่สมบูรณ์ของ แรงงาน การใช�แกลบ+น�ํามันเช�ื อเพลงิ เคร่ืองจักรกล การปลอ่ ยแก๊สเรือนกระจอก -การขนสง่ -การผลิตถุงบรรจุ 6406542 นธิ วิ ิชญ์ พนั ธุว์ งศ์ราช
Search