Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore หลักสูตรฐานสมรรถนะ ปวช ป ตรี

หลักสูตรฐานสมรรถนะ ปวช ป ตรี

Published by lawanwijarn4, 2022-01-02 05:39:28

Description: หลักสูตรฐานสมรรถนะ ปวช ป ตรี

Search

Read the Text Version

กหาลรกั สสรูต้ารงฐานสมรรถนะอาชีวศึกษาเกษตร: กรณศี กึ ษา หลกั สูตรประกาศนียบตั รวิชาชพี สาขาวิชาการเพาะเลีย้ งสตั วน์ ้า พ.ศ. 2561 และ (ร่าง) หลกั สูตรเทคโนโลยีการประมงและการจัดการสิ่งแวดล้อม (ต่อเนอ่ื ง) เพญ็ ศรี เศรษฐชัย และ L.E. CORPS



ก การสร้างหลกั สูตรฐานสมรรถนะอาชีวศกึ ษาเกษตร กรณีศกึ ษาหลกั สูตรประกาศนยี บัตรวิชาชพี สาขาวิชาการเพาะเลี้ยงสตั ว์น้า พ.ศ.2561 และ(ร่าง)หลักสตู รเทคโนโลยีการประมงและการจดั การสิง่ แวดล้อม (ต่อเนอื่ ง) บรรณาธิการ ผศ.ดร.ลาวัณย์ วิจารณ์ ผเู้ รียบเรยี ง เพ็ญศรี เศรษฐชัย & L.E. CORPS จา้ นวนหน้า 38 หนา้ ปีท่ีพิมพ์ สิงหาคม 2562 จา้ นวนทพ่ี ิมพ์ 100 เล่ม พมิ พ์ที่ โรงพิมพ์มหาวิทยาลัยรังสิต ถนนพหลโยธิน เมอื งเอก ปทมุ ธานี 12000 โทร. 0-2997-2200-30 จดั พมิ พ์และเปน็ ลิขสิทธข์ิ อง ผศ.ดร.ลาวัณย์ วจิ ารณ์ ISBN 978-616-497-600-9 การสรา้ งหลักสตู รฐานสมรรถนะอาชีวศึกษาเกษตร กรณีศึกษาหลักสูตร ประกาศนียบตั รวชิ าชีพ สาขาวชิ าการเพาะเลีย้ งสตั ว์น้า พ.ศ.2561 และ(รา่ ง) หลักสตู รเทคโนโลยีการประมงและการจดั การสิง่ แวดล้อม(ตอ่ เนอ่ื ง).--ปทุมธานี : โรงพมิ พ์มหาวทิ ยาลัยรงั สิต, 2562. 38 หน้า. 1. อาชวี ศึกษา—หลกั สตู ร. I. ลาวณั ย์ วิจารณ์. II. ชื่อเรื่อง 375.63 ISBN 978-616-497-600-9

ข รายชื่อคณะผ้เู รียบเรยี ง นางเพญ็ ศรี เศรษฐชัย วิทยาลยั เกษตรและเทคโนโลยีกระบี่ นางลักษณ์ อนิ ทร์น่นุ วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีสุราษฎรธ์ านี นางนิตยา เกตแุ ก้ว วทิ ยาลัยเกษตรและเทคโนโลยสี รุ าษฎร์ธานี นางสาววันเพญ็ สิตะพงศ์ วิทยาลยั เกษตรและเทคโนโลยีสตูล นางสาวยวุ ดี อยุ้ ด้า วทิ ยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีนครศรีธรรมราช นางสาวอมรศรี ศรีอินทร์ วทิ ยาลยั เกษตรและเทคโนโลยีนครศรีธรรมราช นางสาวอภญิ ญา ปานโชติ วิทยาลัยประมงชมุ พรเขตรอุดมศกั ดิ์ นางสาววลั ภา ชวี าภิสณั ห์ วทิ ยาลัยประมงติณสูลานนท์ นางเยาวมาลย์ ดษิ โสภา วิทยาลัยประมงติณสูลานนท์

ค คา้ น้าบรรณาธกิ าร หนังสือการสร้างหลักสูตรฐานสมรรถนะอาชีวศึกษาเกษตร: กรณีศึกษา หลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) สาขาวิชาการเพาะเล้ียงสัตว์น้า พ.ศ.2561 และ(ร่าง) หลักสูตรเทคโนโลยีการประมงและการจัดการสิ่งแวดล้อม(ต่อเนื่อง) มาจาก คณะผ้เู รียบเรยี ง ซึ่งเป็นครอู าจารย์ของวิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยี และวิทยาลัยประมง สังกัดสถาบนั การอาชีวศึกษาเกษตรภาคใต้ หลังจากท่ีสถาบันฯได้จัดการประชุมเชิงปฏิบัติการ เรื่อง การสร้างประสบการณ์ เพื่อการเรียนรู้ส้าหรับอาชีวศึกษาเกษตร และการสร้างหลักสูตรฐานสมรรถนะอาชีวศึกษา เกษตร ให้กับครูอาจารย์มาเป็นระยะเวลาประมาณ 2 ปี จึงได้เห็นชอบให้คณะผู้เรียบเรียง ซึ่งเป็นผู้เข้าร่วมประชุมเชิงปฏิบัติการอย่างสม่้าเสมอมาโดยตลอด ให้เรียบเรียงเขียน หนงั สอื เลม่ นี้ขึน้ เน้อื หาในเล่มน้ี ไดน้ า้ เสนอปรชั ญาการอาชีวศึกษาเกษตร เพือ่ น้าไปส่หู ลักการและ วิธีการในการสร้างหลักสูตรฐานสมรรถนะอาชีวศึกษาเกษตร โดยได้น้าหลักสูตร ปวช. สาขาวิชาการเพาะเล้ียงสัตว์น้า พ.ศ.2561 และ (ร่าง) หลักสูตรเทคโนโลยีการประมงและ การจัดการสิ่งแวดล้อม (ต่อเน่ือง) มาเป็นกรณีศึกษา ซ่ึงจะท้าให้ผู้อ่านเข้าใจถึงชุดความคิด รวบยอด (Concepts) ที่เป็นแก่นแท้ของการสร้างหลักสูตรฐานสมรรถนะอาชีวศึกษา เกษตรได้อยา่ งแทจ้ รงิ หนังสือเล่มน้ีมีจดุ เด่น คือ ได้น้าเสนอถึงหัวใจของการสร้างหลักสูตรว่า หลักสูตร ตอ้ งผนวกผสมผสานการสอน ( Instruction ) ซงึ่ สะท้อนออกมาในลกั ษณะของรูปแบบการ สอน และรูปแบบแผนการเรียนเข้าไว้ในเอกสารหลักสูตรด้วย จึงจะท้าให้ครูอาจารย์ผู้ ปฏิบัติการสอนพานักเรียนและนักศึกษาอาชีวศึกษาเกษตรไปสู่จุดมุ่งหมายของหลักสูตรได้ จึงถือได้ว่าเป็นหนังสือท่ีทรงคุณค่ายิ่งและจะเป็นร่องรอยให้ชาวอาชีวศึกษาเกษตร ตระหนักถึงความจริงแท้ (Truth) ของกระบวนการสร้างหลักสูตรฐานสมรรถนะ อาชวี ศกึ ษาเกษตร บรรณาธกิ าร สงิ หาคม 2562

ง สารบัญ 1 1 บทน้า 2 ปรชั ญาอาชวี ศึกษาเกษตร 2 หลกั การสร้างหลกั สตู รฐานสมรรถนะอาชีวศึกษาเกษตร 3 วธิ ีการสร้างหลักสตู รฐานสมรรถนะอาชีวศึกษาเกษตร การวิเคราะหห์ ลกั สูตร ปวช. สาขาวชิ าเพาะเลี้ยงสัตวน์ ้า พ.ศ.2561 และ(ร่าง) 4 หลกั สตู รเทคโนโลยีการประมงและการจัดการสงิ่ แวดล้อม(ต่อเนื่อง 20 การสร้างหลักสูตรฐานสมรรถนะ กรณศี ึกษา: หลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพ สาขาวชิ าการเพาะเลย้ี งสัตวน์ ้า 38 พ.ศ.2561 กรณีศึกษา: (ร่าง)หลกั สูตรเทคโนโลยีการประมงและการจัดการส่งิ แวดล้อม (ตอ่ เนือ่ ง) แนะน้าหนังสอื ทีเ่ กี่ยวข้อง

1 บทนำ “หลักสูตร”เป็นคำศัพท์เด่ียว (Simple Term) แปลมำจำกคำภำษำอังกฤษว่ำ Curriculum มำจำกภำษำลำตินว่ำ Currier แปลว่ำ the Course to Run หมำยถึง เส้นทำงที่จะต้องว่ิงไป ซึ่งสำมำรถเปรียบได้กับ “ลู่” (Track) ที่ใช้สำหรับวิ่งแข่งขัน หลักสูตรเป็นแนวทำงในกำรจัดกำรศึกษำที่มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ผู้เรียนท่ีเม่ือจบกำรศึกษำ แล้วมีคณุ ลกั ษณะตรงตำมวัตถุประสงค์ท่หี ลกั สูตรคำดหวัง กำรสรำ้ งหลักสตู รฐำนสมรรถนะอำชีวศกึ ษำเกษตร จะยึด“ปรัชญำกำรอำชวี ศกึ ษำ เกษตร” (ลำวัณย์, 2562) และหลักกำรพัฒนำหลักสูตรฐำนสมรรถนะอำชีวศึกษำเกษตร (ลำวัณย์ และ L.E.CORPS, 2562 ) เป็นแนวทำงในกำรสร้ำงหลักสูตร ท้ังนี้จะใช้หลักสูตร ปรกำศนียบัตรวิชำชีพ (ปวช.) สำขำวิชำเพำะเล้ียงสัตว์น้ำ พ.ศ.2561 และ (ร่ำง) หลักสูตร เทคโนโลยีกำรประมงและกำรจัดกำรสิง่ แวดลอ้ ม (ตอ่ เนือ่ ง) เป็นกรณศี กึ ษำ ปรัชญำอำชวี ศึกษำเกษตร ลำวัณ ย์(2562) ได้เสนอกระบวนกำรสร้ำงปรัชญ ำด้วยตนเอง (Working Philosophy ) ไว้ 2 รปู แบบ1 1. กระบวนกำรสร้ำงปรชั ญำอำชวี ศกึ ษำเกษตรแบบ Induction 2. กระบวนกำรสรำ้ งปรัชญำอำชวี ศึกษำเกษตรแบบ Deduction กระบวนกำรสร้ำงปรัชญำด้วยตนเองน้ี สร้ำงขึ้นเพื่อให้ “กองกำลัง L.E. CORPS” (รำยช่ือปรำกฏในส่วนท้ำยของหนังสือ “กำรสร้ำงปรัชญำอำชีวศึกษำเกษตร”) ใช้เป็น แนวทำงในกำรสร้ำงปรัชญำกำรอำชวี ศกึ ษำเกษตรของตนเองขนึ้ มำได้ เนื้อหำปรัชญำอำชีวศึกษำเกษตรท่ีเรียกว่ำ “ปรัชญำอำชีวศึกษำเกษตร L.E.” มี ดังน้ี “อำชีวศึกษำเกษตรเป็นกำรจัดกำรศึกษำ…ที่มุ่งเน้นผู้เรียนเป็น ศูนย์กลำงของกำรเรียนรู้ มีกำรปฏิสัมพันธ์ (Interaction) ระหว่ำง ผู้เรียนกับกิจกรรมกำรเรียนรู้ในเน้ือหำควำมรู้ที่ผู้สอนสร้ำงขึ้น ทำให้ ผูเ้ รียนเกิดกำรเรียนรู้ จนบรรลุวัตถุประสงคเ์ ชิงพฤติกรรมที่กำหนดไว้ … พสิ จู น์โดย R&D. (ลำวณั ย,์ 2562) 1 รำยละเอียดศึกษำเพ่ิมเตมิ หนงั สือ“กำรสร้ำงปรชั ญำอำชีวศึกษำเกษตร” ของลำวณั ย์ วจิ ำรณ์ (2562)

2 หลักกำรสรำ้ งหลกั สตู รฐำนสมรรถนะอำชีวศึกษำเกษตร หลักกำรท่ี 1: อำชีวศึกษำเกษตรเป็นหลักสูตรเน้นให้ผู้เรียนมีทักษะด้ำนกำร ปฏิบัติจนสำมำรถประกอบอำชีพได้ (ศึกษำเพิ่มเติมในหนังสือ กำรพัฒนำหลักสูตร กำรศึกษำเกษตร: สมสดุ ำและโสภณ, 2534) หลักกำรที่ 2: เป็นหลักสูตรแบบ Interlocking Model ซ่ึงหลักสูตรและกำร เรียนกำรสอนต้องมีควำมสัมพันธ์คู่กัน มิได้เป็นส่ิงที่แยกออกจำกกัน เปรียบเสมือน เหรียญที่มีทั้งหัวและก้อยเป็นของคู่กัน (ศึกษำเพิ่มเติมในหนังสือ กำรพัฒนำหลักสูตร กำรศกึ ษำเกษตร: สมสุดำและโสภณ, 2534) หลักกำรท่ี 3: รูปแบบแผนกำรสอนใช้ Learning Experience: L.E. (กำรจัด ประสบกำรณ์เพื่อกำรเรียนรู้) ซ่ึงเป็นรูปแบบกำรเรียนกำรสอนรูปแบบหน่ึงท่ีมุ่งเน้นไปที่ ผู้เรียน โดยเน้นปฏิสัมพันธ์ของผู้เรียนกับกิจกรรมกำรเรียนรู้ในเนื้อหำควำมรู้ที่ผู้สอน สร้ำงข้ึน จนผู้เรียนเกิดกำรเปล่ียนแปลงพฤติกรรมตำมวัตถุประสงค์ที่ผู้สอนกำหนดไว้ (ศึกษำเพิ่มเติมในหนังสือ R&D: L.E. อำชีวศึกษำเกษตร...แนวทำงสู่กำรปฏิบัติ: ลำวัณย์, 2561 และหนังสือ กำรสร้ำงประสบกำรณ์เพ่ือกำรเรียนรู้สำหรับกำรอำชีวศึกษำเกษตร : L.E. CORPS สถำบันกำรอำชีวศกึ ษำเกษตรภำคใต้, 2562) หลักกำรท่ี 4: รูปแบบแผนกำรเรียนใช้ Block Release และ Semi-block Release (ศึกษำเพิ่มเติมในวิทยำนิพนธ์ เร่ือง ผลสัมฤทธ์ิภำคปฏิบัติของนักศึกษำในวิชำ เครื่องทุ่นแรงฟำร์ม 2 ที่จัดแบบ Semi-block Release ของศูนย์ฝึกอบรมวิศวกรรม เกษตร: ประชุม เนตรสืบสำย, 2531 ) หลักกำรท่ี 5: ภำคกำรเรียนที่ 1 ต้องจัดแผนกำรเรียนเป็นแบบ Block Release ในรำยวิชำ หมวดสมรรถนะวิชำชีพ เพื่อให้ผู้เรียนเกิด Affective ต่อวิชำชีพเกษตรเป็น พน้ื ฐำนเบอ้ื งตน้ หลกั กำรที่ 6: กำรสอนในหมวดสมรรถนะวิชำชีพ ตอ้ งเป็น Team Teaching วิธีกำรสร้ำงหลกั สตู รฐำนสมรรถนะอำชวี ศึกษำเกษตร จำกหลกั กำรนำมำกำหนดเป็นวธิ ีกำรสร้ำงหลักสูตรฐำนสมรรถนะอำชวี ศึกษำ เกษตร ดังน้ี 1.สำรวจและรวบรวมเนื้อหำควำมรูเ้ ก่ียวกบั อำชพี นัน้ ๆ 2.จดั รปู แบบแผนกำรสอน โดยใช้ Learning Experience: L.E.

3 3.จัดรปู แบบแผนกำรเรียน 3.1 คำนวณจำนวนวนั ที่ต้องจดั กำรเรียนกำรสอนแต่ละรำยวชิ ำ 3.2 เรยี งลำดบั รำยวชิ ำใหม้ ีควำมต่อเน่ืองจำกเนือ้ หำควำมรู้พ้ืนฐำนไปส่เู น้ือหำ ควำมรทู้ ม่ี ีควำมซบั ซ้อน 4.จัดแผนกำรเรียน โดยใช้รูปแบบ Block Release และ Semi-block Release กำรวเิ ครำะห์หลกั สูตร ปวช. สำขำวชิ ำเพำะเลย้ี งสัตว์นำ้ พ.ศ.2561 และ (ร่ำง) หลักสตู รเทคโนโลยีกำรประมงและกำรจัดกำรสงิ่ แวดลอ้ ม(ต่อเนอื่ ง) หลักสูตร ปวช. สำขำวิชำกำรเพำะเล้ียงสัตว์น้ำ พ.ศ.2561 และ(ร่ำง) หลักสูตร เทคโนโลยีกำรประมงและกำรจัดกำรส่ิงแวดล้อม(ต่อเน่ือง)ทั้งสองหลักสูตรนี้ ถึงแม้จะเป็น หลักสูตรระดับต่ำงกัน คือ ปวช. กับปริญญำตรี แต่เม่ือทำกำรวิเครำะห์ในรำยละเอียด พบว่ำ มีควำมคล้ำยคลึงเหมือนกัน ได้แก่ มีลักษณะเป็น Content - based Curriculum เน่ืองจำก 1) หลักสูตรเน้นกำรเรียนกำรสอนเป็นรำยวิชำจำกหมวดวิชำต่ำงๆ และ 2) แผนกำรเรียนหลักสตู รดงั กลำ่ ว มีกำรกำหนดเวลำเรียนของทุกรำยวิชำเป็นจำนวนชั่วโมง ตอ่ สปั ดำห์ จำกลักษณะของหลักสูตรดังกล่ำว จะเห็นได้ว่ำ เป็นกำรจัดกำรศึกษำท่ีเน้น ภำคทฤษฎี และกำรจัดตำรำงเรียนเป็นแบบหลักสูตรของกำรศึกษำข้ันพื้นฐำน โดยเฉพำะ กำรจัดตำรำงเรียนรำยวิชำหมวดวชิ ำสมรรถนะวิชำชีพ มีกำรจัดวำงรำยวิชำแยกเป็นส่วนๆ ถ้ำจะเรียนอีกคร้ังก็ต้องรอเรียนในสัปดำห์หน้ำและสัปดำห์ถดั ๆไป ทำให้กำรเรียนรู้และกำร พัฒนำทักษะของผู้เรียนไม่ต่อเน่ือง ทำให้กำรเรียนรำยวิชำหมวดวชิ ำสมรรถนะวิชำชพี ซึ่ง ตอ้ งกำรใหผ้ เู้ รียนได้ฝึกทกั ษะจนเกดิ ควำมชำนำญคล่องแคล่วเปน็ อำชีพจึงเกดิ ขึน้ ไดย้ ำก กำรจัดกำรเรียนกำรสอนลักษณะน้ีไม่เหมำะสมกับอำชีวศึกษำเกษตรซึ่งควรเป็น Competency - based Curriculum ที่มุ่งเน้นกำรจัดกำรเรียนกำรสอนให้ผู้เรียนมีทักษะ ดำ้ นกำรปฏบิ ตั ไิ ด้อย่ำงคลอ่ งแคล่วจนสำมำรถประกอบเป็นอำชีพได้ คณะผู้เรียบเรียงหนังสือเล่มน้ี จึงเสนอวิธีกำรสร้ำงหลักสูตรฐำนสมรรถนะ อำชวี ศกึ ษำเกษตรขึน้ โดยใช้หลักสตู ร ปวช.สำขำวชิ ำกำรเพำะเล้ียงสัตวน์ ำ้ พ.ศ.2561 และ (ร่ำง) หลักสตู รเทคโนโลยีกำรประมงและกำรจัดกำรส่ิงแวดลอ้ ม(ตอ่ เนื่อง)เป็นกรณีศึกษำ

4 กำรสร้ำงหลักสูตรฐำนสมรรถนะ: กรณศี ึกษำหลักสูตรประกำศนยี บตั รวชิ ำชีพ สำขำวิชำกำรเพำะเลย้ี งสัตว์น้ำ พ.ศ.2561

5 กำรสร้ำงหลักสูตรฐำนสมรรถนะ ปวช.สำขำวิชำกำรเพำะเลย้ี งสัตวน์ ้ำ พ.ศ.2561 วิธีกำรสร้ำงหลักสูตรฐำนสมรรถนะกำรเพำะเลี้ยงสัตว์น้ำ ดำเนินกำรตำมขั้นตอน 3 ข้ันตอน ได้แก่ 1) สำรวจและรวบรวมเน้ือหำควำมรู้เกี่ยวกับอำชีพน้ันๆ 2) จัดรูปแบบ แผนกำรสอนโดยใช้ Learning Experience: L.E. และ3) จัดรูปแบบแผนกำรเรียน Block Release และ Semi-block Release ขัน้ ตอนท่ี 1 สำรวจและรวบรวมเนือ้ หำควำมรเู้ กย่ี วกบั อำชีพนน้ั ๆ เน่ืองจำกอำชีวศึกษำเกษตรเป็นหลักสูตรท่ีมุ่งเน้นให้ผู้เรียนมีทักษะด้ำนกำร ปฏิบัติจนสำมำรถประกอบอำชีพได้ ดังนั้นต้องทำกำรสำรวจและรวบรวมเน้ือหำควำมรู้ เก่ียวกับอำชีพนั้นโดยตรงจำกผ้ปู ระกอบกำรในอำชพี สำหรับในท่ีน้ีใช้หลักสูตร ปวช. ประเภทวิชำประมง สำขำวิชำเพำะเลี้ยงสัตว์น้ำ พ.ศ. 2561 โดยนำคำอธิบำยรำยวิชำของรำยวิชำตำมโครงสร้ำงหลักสูตรดังกล่ำว มำจัดทำ เป็นหน่วยกำรเรียนรู้รำยวิชำ เพ่ือใช้เป็นตัวแทนเนื้อหำควำมรู้จำกผู้ประกอบกำรในอำชีพ นั้นๆ ตัวอย่ำงรำยวิชำ 2601-1004 กำรเพำะเลี้ยงสัตว์น้ำเบ้ืองต้น (Basic of Aquaculture) มีคำอธิบำยรำยวิชำและหน่วยกำรเรยี นรู้ ดังน้ี คำอธิบำยรำยวิชำ: ศึกษำและปฏิบัติเก่ียวกับควำมสำคัญและหลักกำรเพำะเลี้ยง สัตว์น้ำ สถำนกำรณ์กำรเพำะเล้ียงสัตว์น้ำในประเทศและประชำคมอำเซียน สัตว์น้ำที่มี ควำมสำคัญทำงเศรษฐกิจ กำรเพำะพันธ์ุสัตว์น้ำ กำรเล้ียงสัตว์น้ำ กำรจัดกำรผลผลิตเพื่อ จำหน่ำย โดยคำนึงถึงกำรอนุรักษ์ทรัพยำกรธรรมชำติและส่ิงแวดล้อม กำรบันทึกข้อมูล ปฏิบัติงำน กำรตลำดและจำหน่ำยผลผลิตสัตว์น้ำ กำรคำนวณต้นทุน กำรผลิต และกำร จัดทำบัญชรี ำยรับ-รำยจ่ำย

6 หนว่ ยกำรเรยี นรู้: รำยวชิ ำ2601-1004 ประกอบดว้ ย 8 หน่วยกำรเรียนรู้ย่อยดงั น้ี ลำดับ ชื่อหน่วยกำรเรยี นรู้ จำนวนชัว่ โมง ทฤษฎี ปฏิบตั ิ 1 ควำมสำคญั และสถำนกำรณเ์ พำะเลีย้ งสตั วน์ ำ้ 2 สตั วน์ ้ำท่ีมคี วำมสำคญั ทำงเศรษฐกจิ 20 3 กำรเพำะพันธสุ์ ตั วน์ ้ำ 30 4 กำรเลย้ี งสัตว์นำ้ 10 18 5 กำรจัดกำรผลผลิตจำกกำรเพำะเลย้ี งสตั วน์ ำ้ เพอื่ จำหนำ่ ย 10 18 6 กำรบนั ทึกขอ้ มูลกำรปฏบิ ัติงำนเพำะเลี้ยงสัตว์นำ้ 49 7 กำรตลำดและจำหนำ่ ยผลผลติ สตั ว์นำ้ 23 8 ต้นทุนกำรผลิตและบญั ชรี ำยรบั -รำยจ่ำย 33 23 รวม 36 54 ขน้ั ตอนท่ี 2 จัดรปู แบบแผนกำรสอน โดยใช้ Learning Experience: L.E. ในข้นั ตอนนี้ผู้สรำ้ งหลักสตู รฐำนสมรรถนะอำชีวศึกษำเกษตร จำเปน็ จะต้องมี ควำมรคู้ วำมสำมำรถในกำรสร้ำงตำรำง L.E.เป็นพ้ืนฐำนก่อน ในกำรใช้ L.E. เป็นรปู แบบแผนกำรสอนน้ัน ทำได้โดยนำรำยละเอยี ดของหน่วย กำรเรียนรขู้ องแตล่ ะรำยวชิ ำมำ กำหนดเป็นเน้อื หำควำมรูใ้ นกำรสรำ้ ง ตำรำง L.E.ดังตวั อยำ่ งตำรำง L.E. L.E. CORPS ของ 6 รำยวิชำดงั ต่อไปน้ี L.E. วิชำ กำรเพำะเลี้ยงสัตวน์ ้ำเบือ้ งต้น L.E. วิชำ งำนพน้ื ฐำนเพำะเลี้ยงสตั ว์น้ำ L.E. วชิ ำ ระบบนำ้ ในงำนเพำะเลีย้ งสตั ว์น้ำ L.E. วชิ ำ คณุ ภำพน้ำในงำนเพำะเลย้ี งสัตวน์ ำ้ L.E. วชิ ำ กำรเพำะเลีย้ งปลำ L.E. วิชำ โครงกำรเพำะเล้ยี งปลำ

7 L.E. วิชำกำรเพำะเลี้ยงสัตว์นำ้ เบ้ืองตน้ คำอธิบำยรำยวิชำ : ศึกษำและปฏิบัติเกี่ยวกับ ควำมสำคัญและหลักกำรเพำะเลี้ยงสัตว์น้ำ สถำนกำรณ์ กำรเพำะเลี้ยงสัตว์น้ำ ในประเทศและประชำคมอำเซียน สัตว์น้ำที่มี ควำมสำคญั ทำงเศรษฐกิจ กำรเพำะพันธ์ุสัตว์น้ำ กำรเล้ียงสัตว์น้ำ กำรจัดกำรผลผลิตเพื่อ จำหน่ำย โดยคำนึงถึงกำรอนุรักษ์ทรัพยำกรธรรมชำติและส่ิงแวดล้อม กำรบันทึกข้อมูล ปฏิบัติงำน กำรตลำดและจำหน่ำยผลผลิตสัตว์น้ำ กำรคำนวณต้นทุน กำรผลิต และกำร จัดทำบญั ชรี ำยรบั -รำยจ่ำย ประเภท สถำนกำรณ์กำรเรยี นรู้ จำนวน ชม. เน้อื หำknowing doing L.E. ชื่อหน่วยกำรเรียนรู้ ัวต ุถประสง ์คกำรสอน ัวต ุถประสง ์คเ ิชง พฤติกรรม กิจกรรมกำร เ ีรยน ู้รในเ ้ืนอหำ ควำม ูร้ ี่ทผู้สอน ส ้รำงข้ึน กิจกรรม ่ีทผู้เ ีรยน กระทำ ทฤษฎี ปฏิ ับ ิต ่สือ ่ชวยสอน กำรประเมินผล 1 ควำมสำคัญและสถำนกำรณ์ 20 เพำะเล้ยี งสตั ว์นำ้ 30 2 สัตวน์ ำ้ ท่ีมีควำมสำคัญทำง 10 18 เศรษฐกจิ 10 18 49 3 กำรเพำะพนั ธสุ์ ัตว์นำ้ 23 4 กำรเลย้ี งสตั ว์นำ้ 33 5 กำรจัดกำรผลผลติ จำกกำร เพำะเลย้ี งสตั วน์ ำ้ เพือ่ จำหนำ่ ย 23 36 54 6 กำรบนั ทึกขอ้ มลู กำร ปฏิบัติงำนเพำะเลย้ี งสัตวน์ ้ำ 7 กำรตลำดและจำหนำ่ ยผลผลติ สตั ว์นำ้ 8 ตน้ ทุนกำรผลติ และบญั ชี รำยรับ-รำยจ่ำย รวม

8 L.E.วชิ ำงำนพืน้ ฐำนเพำะเลยี้ งสัตวน์ ้ำ คำอธิบำยรำยวิชำ : ศึกษำและปฏบิ ัติเก่ียวกบั งำนพืน้ ฐำนในกำรเตรยี มบ่อเพำะเล้ียงสตั วน์ ้ำ งำน กำจดั วัชพืช งำนปรบั แต่งดนิ งำนระบบส่งนำ้ งำนจับสตั ว์น้ำ งำนทำควำมสะอำดและ ซอ่ มแซมบ่อเพำะเลย้ี งสตั วน์ ำ้ งำนเคร่อื งมือในงำนเพำะเล้ียงสตั วน์ ้ำ งำนจดั เก็บและบำรงุ รักษำเครื่องมือในงำนเพำะเล้ียงสัตว์น้ำ ประเภท สถำนกำรณก์ ำร จำนวน ชม. เนื้อหำ เรยี นรู้ L.E. ชือ่ หน่วยกำรเรียนรู้ knowing doing วัตถุประสง ์คกำรสอน วัตถุประสง ์คเ ิชงพฤติกรรม ิกจกรรมกำรเ ีรยน ู้รในเน้ือหำ ควำม ู้ร ่ีท ู้ผสอนส ้รำง ้ึขน ิกจกรรม ี่ท ู้ผเ ีรยนกระทำ ทฤษฎี ปฏิ ับติ สื่อ ่ชวยสอน กำรประเ ิมนผล 1 ควำมสำคญั ของงำนพน้ื ฐำนอำชีพ 40 เพำะเลย้ี งสตั วน์ ้ำ 4 20 2 งำนเตรียมสถำนที่เพำะ เล้ยี งสตั ว์น้ำ 2 20 28 3 งำนเตรยี มและปรับปรุงบอ่ เลย้ี ง 28 4 งำนระบบสง่ นำ้ 28 5 งำนจับและรวบรวมสตั ว์น้ำ 28 6 งำนเครอ่ื งมอื ในงำนเพำะเลย้ี งสตั วน์ ำ้ 18 72 7 งำนจัดเกบ็ และบำรงุ รกั ษำเครือ่ งมอื ใน งำนเพำะเลย้ี งสตั วน์ ้ำ รวม

9 L.E. วิชำระบบน้ำในงำนเพำะเลีย้ งสตั วน์ ำ้ คำอธิบำยรำยวชิ ำ : ศกึ ษำและปฏิบตั เิ กย่ี วกบั ควำมสำคัญและกำรจดั ระบบนำ้ ในงำนเพำะเล้ยี งสตั ว์ นำ้ ประเภทและชนดิ ของแหลง่ น้ำ กำรคำนวณปริมำตรน้ำในงำนเพำะเลยี้ งสตั ว์นำ้ กำรวำง ระบบนำ้ ใช้ในงำนเพำะเลีย้ ง สัตว์ น้ำ ระบบเก็บกกั น้ำ ระบบส่งนำ้ ระบบระบำยน้ำ ระบบกรองน้ำ กำรวำงระบบบำบัดนำ้ และระบบ นำ้ หมุนเวยี นในงำนเพำะเลีย้ งสตั ว์ นำ้ ประเภท สถำนกำรณ์ จำนวน เนื้อหำ กำรเรียนรู้ ชม. L.E ชอื่ หน่วยกำรเรยี นรู้ knowing 20 . doing 20 วัตถุประสงค์กำรสอน24 วัต ุถประสงค์เชิงพฤติกรรม6 32 กิจกรรมกำรเ ีรยน ูร้ในเ ื้นอหำ3 16 ควำม ู้ร ่ีท ูผ้สอนสร้ำงข้ึน3 20 กิจกรรม ี่ทผู้เ ีรยนกระทำ18 72 ทฤษฎี ปฏิบัติ ส่ือช่วยสอน กำรประเมินผล 1 ควำมสำคญั และกำรจดั ระบบนำ้ ในงำนเพำะเลี้ยงสตั ว์นำ้ 2 ประเภทและชนดิ ของแหล่งนำ้ สำหรบั กำรเพำะเลี้ยงสัตวน์ ำ้ 3 กำรคำนวณปริมำตรน้ำในงำน เพำะเลี้ยงสตั วน์ ำ้ 4 ระบบน้ำใช้ในงำนเพำะเลีย้ งสตั ว์ น้ำ 5 ระบบบำบดั นำ้ ในงำนเพำะเล้ยี ง สัตว์นำ้ 6 ระบบนำ้ หมุนเวยี นในงำน เพำะเล้ียงสัตวน์ ้ำ รวม

10 L.E.วชิ ำคณุ ภำพน้ำในงำนเพำะเลี้ยงสตั วน์ ำ้ คำอธิบำยรำยวชิ ำ : ศกึ ษำและปฏิบตั เิ กยี่ วกบั ควำมสำคัญของแหล่งน้ำและคณุ ภำพน้ำในงำนเพำะ เลย้ี งสัตวน์ ำ้ คุณสมบตั ิน้ำในงำนเพำะเลี้ยงสัตวน์ ้ำ ด้ำนกำยภำพ ด้ำนเคมี และด้ำนชีวภำพ เคร่ืองมือและกำรตรวจคณุ ภำพน้ำภำคสนำม กำรแปลผลและแกป้ ญั หำคณุ ภำพนำ้ เบ้ืองตน้ ในงำนเพำะเลี้ยงสัตวน์ ำ้ ประเภท สถำนกำรณ์กำรเรยี นรู้ จำนวน ชม. เนอื้ หำknowing doing L.E. ช่อื หน่วยกำรเรียนรู้ ัวต ุถประสง ์คกำรสอน ัวต ุถประสง ์คเชิงพฤ ิตกรรม กิจกรรมกำรเ ีรยน ู้ร ในเน้ือหำควำม ู้ร ี่ท ผู้สอนส ้รำง ้ึขน กิจกรรม ี่ทผู้เ ีรยน กระทำ ทฤษฎี ปฏิ ับติ ่ืสอ ่ชวยสอน กำรประเมินผล 1 ควำมสำคัญของแหลง่ นำ้ และ 20 คณุ ภำพน้ำในงำนเพำะเลยี้ งสัตว์ นำ้ 20 20 2 คุณสมบัติของน้ำทำงด้ำนกำยภำพ 20 ในงำนเพำะเล้ียงสัตวน์ ำ้ 24 6 20 3 คุณสมบัตขิ องนำ้ ทำงด้ำนเคมีใน 2 12 งำนเพำะเลย้ี งสัตว์นำ้ 18 36 4 คุณสมบตั ิของนำ้ ทำงด้ำนชวี ภำพ ในงำนเพำะเล้ยี งสัตวน์ ้ำ 5 เครื่องมอื และอปุ กรณ์ในกำรตรวจ คณุ ภำพนำ้ 6 กำรตรวจคณุ ภำพนำ้ ภำคสนำมใน งำนเพำะเล้ยี งสัตวน์ ้ำ 7 กำรแปลผลและแก้ไขคณุ ภำพนำ้ เบือ้ งต้นในงำนเพำะเลีย้ งสัตวน์ ้ำ รวม

11 L.E.วชิ ำกำรเพำะเลี้ยงปลำ คำอธบิ ำยรำยวชิ ำ : ศกึ ษำและปฏิบัตเิ ก่ยี วกับควำมสำคญั และหลักกำรเพำะเล้ียงปลำ กำรเตรียม สถำนที่ วสั ดอุ ุปกรณ์และนำ้ กำรเตรยี มพอ่ แมพ่ นั ธ์ุปลำ กำรเพำะพนั ธแ์ุ ละอนบุ ำลปลำ กำร คัดเลอื กและปล่อยพันธ์ุปลำ กำรให้อำหำร กำรตรวจคุณภำพนำ้ กำรป้องกนั และรักษำโรค กำรจัดกำรผลผลติ ปลำเพื่อจำหน่ำย โดย คำนึงถึง กำรอนุรักษท์ รัพยำกรธรรมชำติและ สิง่ แวดลอ้ ม กำรบันทึกข้อมูลกำรปฏิบัตงิ ำน กำรตลำด และจำหนำ่ ยผลผลิตปลำ กำร คำนวณตน้ ทุนกำรผลติ และกำรจัดทำบญั ชี รำยรบั -รำยจำ่ ย ประเภท สถำนกำรณ์กำรเรียนรู้ จำนวน ชม. เนอ้ื หำknowing doing L.E. ชือ่ หน่วยกำรเรียนรู้ ัวต ุถประสง ์คกำรสอน ัวต ุถประสง ์คเชิงพฤ ิตกรรม กิจกรรมกำรเ ีรยนรู้ ในเนื้อหำควำมรู้ ่ีท ผู้สอนสร้ำง ้ึขน ิกจกรรม ่ีทผู้เรียน กระทำ ทฤษฎี ปฏิ ับ ิต ่สือ ่ชวยสอน กำรประเมินผล 1 ควำมสำคญั และหลกั กำรเพำะเลี้ยง 10 ปลำ 16 2 สถำนทแ่ี ละองค์ประกอบในกำร 16 เพำะเล้ียงปลำ 2 12 3 36 3 คุณภำพน้ำและกำรตรวจคุณภำพน้ำ 3 36 4 อำหำรและกำรให้อำหำรปลำ 26 29 5 กำรเพำะและอนุบำลปลำ 13 6 กำรเลีย้ งปลำ 7 โรคปลำและกำรปอ้ งกันรกั ษำ 26 18 108 8 กำรจัดกำรผลผลติ จำกกำรเพำะเลย้ี ง ปลำเพื่อจำหนำ่ ย 9 กำรบันทึกข้อมูลกำรปฏิบัตงิ ำน เพำะเล้ยี งปลำ 10 กำรตลำดและจำหน่ำยผลผลติ จำก กำรเพำะเลีย้ งปลำ รวม

12 L.E.วิชำ โครงกำรเพำะเลี้ยงปลำ คำอธบิ ำยรำยวชิ ำ : ปฏบิ ตั ิเกีย่ วกับ กำรจัดทำแผนธุรกจิ เพำะเลี้ยงปลำขนำดย่อม วำงแผนปฏบิ ัตงิ ำน เพำะเล้ียงปลำตำมแผนธรุ กจิ ขนำดย่อม ดำเนินกำรเพำะเลี้ยงปลำ ปรับปรงุ แก้ไข ปัญหำในกำรเพำะเล้ียงปลำ กำรจดั กำร ผลผลติ ปลำเพือ่ จำหน่ำย โดยคำนงึ ถงึ กำร อนุรกั ษ์ทรพั ยำกรธรรมชำตแิ ละสิ่งแวดล้อม และสรปุ ผลกำรดำเนนิ งำนตำมแผนธรุ กิจ เพำะเล้ยี งปลำขนำดย่อม ประเภท สถำนกำรณ์กำรเรยี นรู้ จำนวน ชม. เน้อื หำknowing doing L.E. ชือ่ หน่วยกำรเรยี นรู้ ัวต ุถประสง ์คกำรสอน ัวต ุถประสง ์คเชิงพฤ ิตกรรม กิจกรรมกำรเ ีรยนรู้ ในเนื้อหำควำมรู้ ่ีท ผู้สอนสร้ำง ้ึขน ิกจกรรม ่ีทผู้เรียน กระทำ ทฤษฎี ปฏิ ับ ิต ่สือ ่ชวยสอน กำรประเมินผล 1 งำนจัดทำแผนธุรกิจเพำะเลีย้ งปลำ 08 ขนำดยอ่ ม 04 2 งำนวำงแผนปฏบิ ตั ิงำนเพำะเล้ยี งปลำ 0 32 ตำมแผนธุรกิจขนำดยอ่ ม 08 3 งำนเพำะเลย้ี งปลำ 04 4 งำนจัดกำรผลผลิตจำกกำรเพำะเลย้ี ง 04 ปลำเพอ่ื จำหน่ำย 0 12 5 งำนบนั ทึกขอ้ มูลกำรปฏิบตั ิงำน 0 72 เพำะเลีย้ งปลำ 6 งำนจำหน่ำยผลผลติ จำกกำร เพำะเลี้ยงปลำ 7 งำนสรุปผลกำรดำเนินงำนตำมแผน ธรุ กิจเพำะเลี้ยงปลำขนำดยอ่ ม รวม

13 ข้ันตอนท่ี 3 จดั รปู แบบแผนกำรเรยี น Block Release และ Semi-block Release ในกำรจดั ทำรปู แบบแผนกำรเรียนน้ีมีขัน้ ตอน ดังนี้ 3.1 คำนวณจำนวนวนั ท่ตี ้องจัดกำรเรยี นแตล่ ะรำยวิชำ ตัวอยำ่ งเช่น 1) วชิ ำ 3 หนว่ ยกิต มชี ่วั โมงเรียน เป็นทฤษฎี 2 ชัว่ โมง/สปั ดำห์ และปฏิบัติ 3 ชว่ั โมงตอ่ สัปดำห์ 2) คำนวณจำนวนชว่ั โมงเรียนต่อสัปดำห์ โดยรวมเป็นจำนวนชวั่ โมงทฤษฎี+ ปฏิบตั ิ ได้เท่ำกบั เรยี น 5 ช่ัวโมงเรยี น/สปั ดำห์ 3) คำนวณจำนวนช่วั โมงเรยี นต่อภำคกำรเรยี น (หนึง่ ภำคกำรเรยี น เท่ำกบั 17 สปั ดำห์) ดังนั้นจำนวนช่วั โมงเรยี น/ภำคกำรเรียนจงึ เทำ่ กับ 5x17= 85 ช่วั โมงต่อภำคกำรเรยี น 4) คำนวณจำนวนวนั ทตี่ ้องจดั กำรเรยี นต่อภำคกำรเรยี น (หน่ึงวนั เรียน เท่ำกับ 7 ช่วั โมง ) ดงั นัน้ จำนวน วันทีต่ อ้ งจัดกำรเรียนตอ่ ภำค จึง เทำ่ กับ 85 ช่วั โมงต่อภำคกำรเรยี น หำรด้วย 7 ช่ัวโมง.ต่อวนั = 12 วนั สรุปวำ่ รำยวิชำนีต้ อ้ งจัดกำรเรยี นจำนวน 12 วนั ต่อภำคกำรเรยี น จำกน้ี จะแสดงตัวอย่ำงกำรคำนวณจำนวนวันที่ต้องจัดกำรเรยี น 6 รำยวิชำ ได้แก่ วิชำกำรเพำะเลี้ยงสัตว์น้ำเบ้ืองต้น วิชำงำนพื้นฐำนเพำะเล้ียงสัตว์น้ำวิชำระบบน้ำในงำน เพำะเลย้ี งสัตว์น้ำ วิชำคุณภำพน้ำในงำนเพำะเล้ียงสัตว์น้ำ วิชำงำนทักษะเพำะเล้ียงสัตว์น้ำ และวิชำกำรเพำะเล้ียงปลำ ตำมตำรำงข้ำงลำ่ ง เรยี นภำคกำรเรยี นละ 17 สัปดำห์ เรยี นวนั ละ 7 คำบ (8.30-16.30) รำยวิชำ ห ่นวยกิต จำนวนชว่ั โมงทีเ่ รียนตอ่ จำนวนวนั ทฤษฎี ภำคกำรเรียน (ชม.) ทเ่ี รยี น(วัน) ปฏิบั ิต ทฤษฎี+ปฏิบั ิต กำรเพำะเลยี้ งสัตวน์ ำ้ เบ้อื งต้น 32 3 5 85 12 85 12 งำนพื้นฐำนเพำะเลี้ยงสัตวน์ ้ำ 31 4 5 68 10 51 7 ระบบน้ำในงำนเพำะเลีย้ งสัตว์นำ้ 21 3 4 85 12 119 17 คณุ ภำพน้ำในงำนเพำะเลย้ี งสัตวน์ ้ำ 2 1 2 3 68 10 งำนทักษะเพำะเล้ยี งสัตวน์ ำ้ 31 4 5 กำรเพำะเลีย้ งปลำ 31 6 7 โครงกำรเพำะเลย้ี งปลำ 20 4 4

14 3.2 เรียงลำดบั รำยวิชำใหม้ ีควำมตอ่ เนื่องจำกเนื้อหำควำมรพู้ ื้นฐำนไปสู่เนือ้ หำ ควำมรูท้ ่ีมีควำมซบั ซอ้ น ตวั อย่ำงกำรเรยี งลำดับรำยวชิ ำ เช่น 1. กำรเพำะเลย้ี งสตั ว์นำ้ เบื้องตน้ 2. งำนพน้ื ฐำนเพำะเลี้ยงสัตว์น้ำ 3. ระบบนำ้ ในงำนเพำะเล้ยี งสัตว์นำ้ 4. คุณภำพน้ำในงำนเพำะเลี้ยงสัตว์นำ้ 5. งำนทกั ษะเพำะเล้ียงสัตวน์ ำ้ 6. กำรเพำะเลย้ี งปลำ 7. โครงกำรเพำะเล้ียงปลำ 3.3 จดั แผนกำรเรยี น โดยใชร้ ูปแบบ Block Release และ Semi-block Release  Block Release Model เปน็ กำรจดั แผนกำรเรียนรำยวิชำ ซง่ึ เนน้ ภำคปฏิบตั ิทต่ี อ่ เน่ืองโดยให้ แต่ละวิชำจบเป็นชว่ งๆไป  Semi -block Release Model เป็นกำรจดั แผนกำรเรียนแบบปกติ (เรยี นเปน็ รำยสัปดำห์) สลบั กบั Block Release ซงึ่ ตอ้ งเรียนตอ่ เน่ืองใหจ้ บเป็นชว่ งๆไป ตัวอย่ำงเช่น แผนกำรเรียนรำยวิชำแบบปกติ จัดแผนกำรเรียนในวัน อังคำร พฤหัสบดี ส่วนกำรจัดแผนกำรเรียนวิชำหมวดสมรรถนะวิชำชีพ จัดในวันจันทร์ พุธ ศุกร์ ต่อเน่ืองกันจนครบจำนวนวันที่ ต้องจดั กำรเรยี นของแตล่ ะรำยวิชำ

15 ตัวอย่ำงกำรจัดแผนกำรเรยี นแบบ Block Release ในภำคกำรเรียนท่ี 1 กำรจดั แผนกำรเรยี นแบบ Block Release เรมิ่ จำก 1. กำหนดรำยวิชำท่ตี ้องเรยี นในภำคกำรเรยี น 2. เรียงตำมลำดบั กำรจัดแผนกำรเรียนตำมรำยวชิ ำที่ต่อเน่ืองกนั (จำกข้อ ท่ี 3.2) 3) จัดเวลำเรียน ตำมจำนวนวนั ท่ีต้องเรยี นต่อภำคกำรเรยี น(ท่ไี ดจ้ ำก คำนวณ ในตำรำงที่ 1a) เช่น  วิชำกำรเพำะเลีย้ งสัตวน์ ำ้ เบื้องตน้ มจี ำนวนวนั ทต่ี อ้ งเรียน 12 วันตอ่ ภำคกำรเรยี น  วชิ ำงำนพ้ืนฐำนเพำะเลยี้ งสตั วน์ ้ำ มจี ำนวนวันทต่ี ้องเรยี น 12 วนั ต่อภำคกำรเรยี น  วิชำระบบนำ้ ในงำนเพำะเลี้ยงสตั ว์น้ำ มจี ำนวนวันทตี่ อ้ ง เรียน 10 วันตอ่ ภำคกำรเรียน  วชิ ำคุณภำพนำ้ ในงำนเพำะเลี้ยงสตั วน์ ำ้ มีจำนวนวนั ท่ตี ้อง เรยี น 7 วนั ตอ่ ภำคกำรเรยี น  วชิ ำงำนทักษะเพำะเลี้ยงสัตว์นำ้ มจี ำนวนวันทีต่ อ้ งเรยี น 12 วนั ต่อภำคกำรเรียน  วชิ ำกำรเพำะเล้ยี งสัตว์นำ้ มจี ำนวนวนั ท่ตี อ้ งเรยี น 17 วันตอ่ ภำคกำรเรยี น  วิชำโครงกำรเพำะเลยี้ งสตั ว์นำ้ มจี ำนวนวันทีต่ ้องเรียน 10 วันตอ่ ภำคกำรเรียน ตำรำงที่ 1a จำนวนวันท่ีตอ้ งเรยี นต่อภำคกำรเรียน รายวิชา หนว่ ยกิต ท ป ท+ป. เวลาเรียนตอ่ ภาค จ้านวนวนั ทตี่ อ้ งเรยี น หมายเหตุ การเพาะเลยี้ งสตั ว์นา้ เบอ้ื งตน้ การเรยี น เทา่ กบั ตอ่ ภาคการเรยี น (วนั ) งานพนื้ ฐานเพาะเลี้ยงสตั ว์นา้ (ชม/สัปดาห)์ (ชม/สัปดาห)์ (ชม/สัปดาห)์ ระบบนา้ ในงานเพาะเลยี้ งสัตว์นา้ คณุ ภาพน้าในงานเพาะเล้ยี งสตั ว์นา้ 3 2 3 5 85 12 ท = ทฤษฎี งานทกั ษะเพาะเลีย้ งสัตว์น้า 3 1 4 5 85 12 ป = ปฏิบตั ิ การเพาะเล้ียงปลา 2 1 3 4 68 10 โครงการเพาะเลี้ยงปลา 2 1 2 3 51 7 3 1 4 5 85 12 3 1 6 7 119 17 2 0 4 4 68 10

16 จำกน้ันจึงทำกำรจัดแผนกำรเรียนของทุกวิชำให้ต่อเนื่องกัน โดยเริ่มจำกวิชำกำร เพำะเล้ียงสัตว์น้ำเบ้ืองต้น 12 วัน ต่อด้วยวิชำงำนพ้ืนฐำนเพำะเล้ียงสัตว์น้ำ 12 วัน วิชำ ระบบน้ำในงำนเพำะเล้ียงสัตว์น้ำ 10 วัน วิชำคุณภำพน้ำในงำนเพำะเล้ียงสัตว์น้ำ 7 วัน วิชำงำนทักษะเพำะเลี้ยงสัตว์น้ำ 12 วัน วิชำกำรเพำะเล้ียงสัตว์น้ำ 17 วัน และวิชำ โครงกำรเพำะเล้ียงสัตว์นำ้ 10 วนั ตอ่ เนอื่ งกนั ดังตำรำงท่ี 1b ตำรำงที่ 1b แผนกำรเรยี นแบบ Block Release

17 ตวั อยำ่ งกำรจัด Semi-block Release ภำคกำรเรียนที่ 2 กำรจัดแผนกำรเรยี นแบบ Semi-block Release เริ่มจำก 1. กำหนดรำยวชิ ำทตี่ ้องเรียนในภำคกำรเรียน โดยเรียงตำมลำดับกำรจดั แผนกำร เรยี นตำมรำยวชิ ำท่ีตอ่ เนื่องกัน (จำกข้อที่ 3.2) 2.จดั เวลำเรียน ตำมจำนวนวนั ท่ตี ้องเรยี นต่อภำคกำรเรียน (ทไ่ี ด้จำกคำนวณ ใน ตำรำงท่ี 2a) ประกอบด้วย 2.1 แผนกำรเรยี นวชิ ำหมวดสมรรถนะวิชำชพี จัดกำรเรยี นในวนั จันทร์ พุธ ศุกร์ จำนวน 4 วิชำ ไดแ้ ก่ o วชิ ำกำรเพำะเล้ียงกุ้ง มีจำนวนวันท่ีต้องเรยี น 17 วนั ต่อ ภำคกำรเรยี น o วชิ ำโครงกำรเพำะเล้ียงกุ้ง มีจำนวนวนั ที่ต้องเรียน 10 วัน ตอ่ ภำคกำรเรียน o วิชำอำชีวอนำมยั และควำมปลอดภยั มีจำนวนวนั ทตี่ ้อง เรยี น 5 วนั ต่อภำคกำรเรียน o วิชำกำรผลติ อำหำรสัตวน์ ้ำ มีจำนวนวนั ท่ตี ้องเรยี น 12 วนั ต่อภำคกำรเรยี น ตำรำงท่ี 2a จำนวนวันทตี่ ้องเรยี นตอ่ ภำคกำรเรยี น

18 จำกนั้นจึงทำกำรจดั แผนกำรเรยี นของทุกวิชำให้ตอ่ เนื่องกนั โดยเริ่มจำกวิชำกำร เพำะเล้ยี งกงุ้ 17 วัน วิชำโครงกำรเพำะเล้ยี งก้งุ 10 วัน วิชำอำชีวอนำมัยและควำม ปลอดภัย 5 วนั และวชิ ำกำรผลติ อำหำรสตั ว์ 12 วันต่อเนื่องกัน ดังตำรำงที่ 2b 2.2 แผนกำรเรียนรำยวิชำแบบปกติ จัดกำรเรียนในวันอังคำร และพฤหัสบดี จำนวน 5 วิชำ ได้แก่ วิชำวิทยำศำสตร์เพ่ือพัฒนำทักษะ ชีวิต วิชำภำษำไทยพื้นฐำน วิชำทักษะกำร ดำรงชีวิตเพ่ือ สุขภำวะ วิชำวิทยำศำสตร์เพ่ือพัฒนำอำชีพเกษตรกรรม และวชิ ำภำษำองั กฤษในชวี ติ จรงิ ดังตำรำงที่ 2b ตำรำงที่ 2b แผนกำรเรยี นแบบ Semi-block Release

19 จำกหลกั กำรและวธิ ีกำรสร้ำงหลกั สตู รฐำนสมรรถนะอำชีวศกึ ษำเกษตรทีไ่ ด้ นำเสนอน้ัน จะเห็นไดว้ ่ำ แท้จริงแล้ว “แก่น”ของหลักสตู ร คือ หลกั สตู ร=L.E.1 + L.E.2 +..... L.E. n ของรำยวชิ ำท้ังหมดที่ผ้เู รียนได้รับ ( L.E.) L.E. ทั้งหมดนี้ทส่ี ถำบนั กำรศึกษำจัดใหแ้ กผ่ ู้เรยี น จะทำให้ผู้เรียนเกิดมีสมรรถนะ (Competencies) ตำมวัตถุประสงค์ที่กำหนดไว้ ส่วนเอกสำรหลักสูตรท่ีจัดทำขึ้นตำม หัวข้อหรือแบบฟอร์มท่ีสถำบันกำรศึกษำกำหนดข้ึนมำน้ัน เป็นเพียง “กระพ้ี”เท่ำน้ันเอง ดังที่อำจำรย์ ดร.โสภณ ธนะมัย ได้กล่ำวไว้กับคณะทำงำนในกำรสร้ำงหลักสูตรฐำน สมรรถนะครัง้ น้ี…..

20 กำรสร้ำงหลักสตู รฐำนสมรรถนะ: กรณีศกึ ษำ(ร่ำง)หลกั สูตร เทคโนโลยีกำรประมงและกำรจดั กำรสิ่งแวดลอ้ ม (ต่อเน่อื ง)

21 กำรสรำ้ งหลักสูตรฐำนสมรรถนะ เทคโนโลยีกำรประมงและกำรจดั กำรส่งิ แวดล้อม (ตอ่ เนอ่ื ง) กำรนำเสนอ”วิธีกำรสร้ำงหลักสูตร”นี้ จะนำเสนอไปตำมโครงสร้ำงของ “แบบ” (Template) ที่สำนักงำน คณะกรรมกำรกำรอำชีวศึกษำได้กำหนด ซ่ึงกล่ำวได้ว่ำเป็น วิธีกำรด้ังเดิม (Tradition) ที่ใช้สืบต่อๆกันมำ (ร่ำง)หลักสูตรเทคโนโลยีกำรประมงและกำร จดั กำรส่ิงแวดล้อม(ต่อเนื่อง) มีลักษณะเป็นหลักสูตรพหุวิทยำกำร (Multidisciplinary) คือ วิธีกำรทน่ี ำเอำควำมรูห้ ลำยศำสตร์ หรอื หลำยอนศุ ำสตร์เข้ำมำใชใ้ นกำรเรียนกำรสอน (ร่ำง) หลักสูตรเทคโนโลยีกำรประมงและกำรจัดกำรส่ิงแวดล้อม (ต่อเน่ือง) นี้ เป็น หลักสูตร แบบพหุวิทยำกำร (Multidisciplinary) ตำมเกณฑ์มำตรฐำนคุณวุฒิอำชีวศึกษำ ระดับปริญญำตรีสำยเทคโนโลยีหรือสำยปฏิบัติกำร พ.ศ.2562 มีช่ือคุณวุฒิกำรศึกษำ ปริญญำเทคโนโลยีบัณฑิต ใช้อักษรย่อ ทล.บ.ซ่ึงกำหนดให้ผู้สำเร็จกำรศึกษำมีคุณภำพ ครอบคลุมอย่ำงน้อย 4 ดำ้ น คอื 1. ดำ้ นคณุ ธรรม จริยธรรม และคณุ ลกั ษณะท่ีพงึ ประสงค์ 2. ดำ้ นควำมรู้ 3. ด้ำนทักษะ 4. ดำ้ นกำรประยุกตใ์ ช้และควำมรบั ผดิ ชอบ โดยเน้นกำรเรียนสู่กำรปฏิบัติ เพื่อพัฒนำสมรรถนะกำลังคนระดับเทคโนโลยี รวมทั้งคุณธรรม จรยิ ธรรม จรรยำบรรณวิชำชีพ และกิจนิสัยท่เี หมำะสมในกำรทำงำนให้ สอดคล้องกับควำมต้องกำรกำลังคนของตลำดแรงงำน ชุมชน สังคม และสำมำรถประกอบ อำชพี อิสระได้ (ร่ำง) หลักสูตรเทคโนโลยีกำรประมงและกำรจัดกำรสิ่งแวดล้อมน้ี ระบุไว้ว่ำเป็น หลักสูตรต่อเนือ่ ง หลกั สตู รต่อเนือ่ ง หลักสูตรต่อเนื่อง คือ กำรเรียนต่อเนื่องจำกหลักสูตรประกำศนยี บตั รวิชำชพี ช้ันสูง หรือ ปวส. สู่ระดับปริญญำตรี โดยเม่ือจบกำรศึกษำจำกระดับ ปวส. สำมำรถศึกษำ หลกั สูตรต่อเนือ่ งในระดับปรญิ ญำตรี โดยใช้ระยะเวลำกำรศึกษำ 2 ปี รำยละเอยี ดหลักสูตร 1. จำนวนหนว่ ยกติ รวมตลอดหลกั สตู ร ไม่น้อยกว่ำ 72 หนว่ ยกติ 2. โครงสรำ้ งหลกั สตู ร

22 1) หมวดวชิ ำศกึ ษำทั่วไป ไมน่ อ้ ยกว่ำ 18 หนว่ ยกติ หนว่ ยกิต 1.1) กลุม่ ภำษำไทยและภำษำต่ำงประเทศ 6 หนว่ ยกติ หนว่ ยกติ 1.2) กลมุ่ วิทยำศำสตร์และคณิตศำสตร์ 6 หนว่ ยกติ หน่วยกติ 1.3) กล่มุ สงั คมศำสตรแ์ ละมนษุ ยศ์ ำสตร์ 6 หน่วยกิต 2) หมวดวิชำเฉพำะ ไม่น้อยกวำ่ 48 หนว่ ยกติ หน่วยกติ 2.1) วชิ ำเฉพำะพน้ื ฐำน 18 หน่วยกติ หน่วยกิต 2.1.1) กลุม่ วชิ ำพ้ืนฐำนทำงคณิตศำสตร์ ไม่นอ้ ยกวำ่ 6 หน่วยกิต และวทิ ยำศำสตร์ หน่วยกิต 2.1.2) กลมุ่ วิชำพ้ืนฐำนทำงเทคโนโลยี ไม่น้อยกวำ่ 12 2.2) วชิ ำเฉพำะดำ้ น 24 2.2.1 กลมุ่ วิชำเทคโนโลยเี ฉพำะสำขำ 18 2.2.2 กล่มุ วชิ ำโครงกำร 6 2.3) ฝึกประสบกำรณว์ ชิ ำชีพ/ 6 บรู ณำกำรเรียนร้รู ว่ มกำรทำงำน 3) หมวดวิชำเลือกเสรี ไมน่ อ้ ยกวำ่ 6 หลักสตู รทวิภำคี พระรำชบัญญัติกำรอำชีวศึกษำ พ.ศ. 2551 มำตรำ 8 บัญญัติไว้ว่ำกำรจัดกำร อำชีวศึกษำและกำรฝึกอบรมวิชำชีพ ในรูปแบบกำรศึกษำระบบทวิภำคี เป็นก ำรจัด กำรศึกษำวิชำชีพท่ีเกิดจำกข้อตกลงระหว่ำงสถำนศึกษำอำชีวศึกษำหรือสถำบัน กับสถำน ประกอบกำร รัฐวิสำหกิจ หรือหน่วยงำนของรัฐในเรื่องกำรจัดหลักสูตร กำรเรียนกำรสอน กำรวัดและกำรประเมินผล โดยผู้เรียนใช้เวลำส่วนหน่ึงในสถำนศึกษำอำชีวศึกษำหรือ สถำบันและเรียนภำคปฏิบัติในสถำนประกอบกำร รัฐวิสำหกิจ หรือหน่วยงำนของรัฐเพ่ือ ประโยชน์ในกำรผลิตและพัฒนำกำลังคน สถำนศึกษำอำชีวศึกษำหรือสถำบันสำมำรถจัด กำรศึกษำตำมวรรคหนึ่งในหลำยรูปแบบรวมกันก็ได้ท้ังน้ีสถำนศึกษำอำชีวศึกษำหรือ สถำบันนนั้ ตอ้ งมงุ่ เน้นกำรจัดกำรศึกษำระบบทวิภำคเี ปน็ สำคัญ จำกรำยงำนกำรติดตำมและประเมินผลกำรจัดกำรอำชีวศึกษำระบบทวิภำคี2 กำร ดำเนินกำรอำชีวศึกษำระบบทวิภำคีน้ัน มีดำเนินกำร 5 รูปแบบ ได้แก่ 2 สำนักงำนเลขำธกิ ำรสภำกำรศึกษำ.2560.รำยงำนกำรตดิ ตำมและประเมนิ ผลกำรจดั กำร อำชีวศึกษำระบบทวิภำค.ี

23 1. Model A กำรจัดอำชีวศึกษำระบบทวิภำคีเต็มรูปแบบ (ร้อยเปอร์เซ็นต์) ใน พ้ืนที่ คือมีสถำนประกอบกำรในพ้ืนที่ต้ังสถำนศึกษำผู้เรียนทุกคนทุกสำขำวิชำ ได้เข้ำฝึก อำชีพใน สถำนประกอบกำร 2. Model B กำรจัดอำชีวศึกษำระบบทวิภำคีเต็มรูปแบบ (ร้อยเปอร์เซ็นต์) นอก พ้ืนท่ี คือ ไม่มี สถำนประกอบกำรในพื้นที่ตั้งสถำนศึกษำ ผู้เรียนทุกคนทุกสำขำวิชำได้เข้ำ ฝึกอำชีพในสถำนประกอบกำรโดยจะต้องมีกำรจัดท่ีพักใกล้กับสถำนประกอบกำรท่ีไปฝึก อำชีพให้แก่ผเู้ รียนและมคี รูควบคมุ ดูแล 3. Model C กำรจดั อำชีวศกึ ษำระบบทวภิ ำคีบำงสำขำวิชำ 4. Model D กำรจัดอำชีวศึกษำระบบทวิภำคีให้แก่พนักงำนของสถำน ประกอบกำร 5. Model E กำรจดั อำชีวศึกษำระบบทวิภำคีกับสถำนประกอบกำรต่ำงประเทศ สำหรับ(ร่ำง)หลักสูตรเทคโนโลยีกำรประมงและกำรจัดกำรสิ่งแวดล้อม (ต่อเน่ือง) เป็นกำรจัดอำชีวศึกษำระบบทวิภำคีตำมรูปแบบ Model A คือ กำรจัดอำชีวศึกษำระบบ ทวิภำคีเต็มรูปแบบ (ร้อยเปอร์เซ็นต์) ในพ้ืนท่ี ซึ่งเน้นให้ผู้เรียนเข้ำเรียนเพื่อควำมรู้ และ ฝึกทักษะวิชำชีพ ตลอดจนประสบกำรณ์กำรทำงำนในสถำนประกอบกำรจริง โดยคำดหวัง ว่ำผู้ที่สำเร็จกำรศึกษำจำกระบบทวิภำคีนั้น จะมีควำมรู้ทักษะ ทัศนคติที่พร้อมต่อกำร ทำงำน ซ่ึงกำรฝึกอำชีพในกำรศึกษำระบบทวิภำคี ท่ีใช้เวลำไม่น้อยกว่ำ 54 ชั่วโมงต่อภำค เรยี น รวมระยะเวลำวดั ผล มีค่ำเท่ำกบั 1 หนว่ ยกิต ปรัชญำกำรศึกษำของหลกั สตู ร มุ่งผลิตบัณฑิตเทคโนโลยีที่มีควำมรอบรู้ มีสมรรถนะในกำรปฏิบัติและพัฒนำงำน ระดับเทคโนโลยีกำรประมงและกำรจัดกำรสิ่งแวดล้อมสำมำรถจัดกำรและควบคุมกำร ทำงำน มีคุณธรรม จริยธรรม จรรยำบรรณวิชำชีพและกิจนิสัยท่ีเหมำะสมในกำรทำงำน สอดคล้องกับควำมต้องกำรของสังคม ชุมชน และสถำนประกอบกำร พัฒนำตนเองให้มี ควำมกำ้ วหนำ้ ทำงวชิ ำกำรและวชิ ำชพี ควำมสำคญั ของหลักสตู ร ตำมแผนยุทธศำสตรข์ องชำติในกำรเพ่ิมควำมเข้มแข็งและเพิ่มขีดควำมสำมำรถใน กำรแข่งขันกับต่ำงประเทศ อุตสำหกรรมประมงเป็นหนึ่งในอุตสำหกรรมหลักท่ีรัฐบำลได้

24 กำหนดใหบ้ รรจอุ ย่ใู นแผนยุทธศำสตร์ของชำติโดยมีแนวทำงที่จะพฒั นำประเทศไทยใหเ้ ปน็ ฐำน กำรผลิตอำหำรของโลก ทำให้ควำมต้องกำรกำลังคน ท่ีมีสมรรถนะในระดับนักเทคโนโลยี ของประเทศเพ่ิมมำกขึ้นอย่ำงต่อเน่ือง รวมทั้งทรัพยำกรบุคคลทำงด้ำนเทคโนโลยีกำร ประมงและกำรจัดกำรสิ่งแวดล้อม จึงจำเป็นต้องพัฒนำกำลังคนในด้ำนนี้เพิ่มเติมอย่ำง เรง่ ดว่ นเพือ่ ทีจ่ ะทำใหย้ ทุ ธศำสตรน์ ี้บังเกดิ ผลในทำงปฏิบตั ิไดต้ ำมเป้ำหมำย วตั ถปุ ระสงคข์ องหลักสตู ร 1. เพื่อผลิตบัณฑิตที่มีควำมรู้ควำมชำนำญด้ำนเทคโนโลยีกำรประมงและกำร จดั กำรสิ่งแวดล้อมในระดับนักเทคโนโลยี สำมำรถจัดกำรและควบคุมกำรทำงำนบูรณำกำร ควำมรู้ ทักษะและประสบกำรณ์ นำไปประยุกต์ใช้ แก้ไขปัญหำและพัฒนำงำนด้ำน เทคโนโลยีกำรประมงและกำรจัดกำรสง่ิ แวดลอ้ มโดยคำนงึ ถงึ เทคโนโลยีทีเ่ กย่ี วข้อง 2. เพ่ือผลิตบัณฑิตท่ีมีเจตคติท่ีดีต่ออำชีพด้ำนเทคโนโลยีกำรประมงและกำร จัดกำรส่ิงแวดลอ้ ม มีคุณธรรม จริยธรรม ควำมซื่อสตั ย์ ขยัน อดทน มีระเบยี บวินัย มีควำม รบั ผดิ ชอบ สนใจใฝ่รู้ มีมนุษยส์ ัมพันธ์ท่ีดี มีควำมรบั ผิดชอบตอ่ สงิ่ แวดล้อม ตระหนักถึงกำร เรยี นรูต้ ลอดชวี ิตและน้อมนำหลักปรชั ญำของเศรษฐกจิ พอเพยี งมำใช้ในกำรดำเนนิ ชวี ติ 3. เพื่อประสำนควำมร่วมมือในกำรจัดกำรศึกษำด้ำนเทคโนโลยีกำรประมงและ กำรจัดกำรสิง่ แวดลอ้ มระหว่ำงองค์กรภำครฐั และเอกชนทง้ั ในและตำ่ งประเทศ 4. เพ่ือสรำ้ งควำมพร้อมให้กับบัณฑิตในกำรแสวงหำควำมรู้ กำรศึกษำค้นคว้ำวิจัย ท่ีเป็นประโยชน์ต่องำนอำชีพด้ำนเทคโนโลยีกำรประมงและกำรจัดกำรส่ิงแวดล้อมและมี ส่วนรว่ มในกำรแก้ไขปญั หำสงั คมเศรษฐกจิ อนุรกั ษศ์ ิลปวัฒนธรรมและสิง่ แวดล้อม ระบบกำรศึกษำ 1) กำรศึกษำแบบชน้ั เรยี น จัดระบบเทคโนโลยีสำรสนเทศและกำรสื่อสำร ซ่ึงในปัจจุบันกำรเข้ำถึงเทคโนโลยี สำรสนเทศและกำรสอ่ื สำรทำได้งำ่ ย เชน่ กำรใช้โทรศพั ทเ์ คลือ่ นที่แบบ Smartphone 2) แบบทำงไกลอินเตอร์เนต็ กำรใช้คอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล กำรส่ือสำรกำรส่งข้อมูล กำรส่งรูปภำพ กำรส่ง ควำมก้ำวหนำ้ ต่ำงๆ สำมำรถทำไดอ้ ยำ่ งรวดเร็วและทันที (Real Time) 3) อ่ืนๆ 3.1 ฝกึ ประสบกำรณ์วชิ ำชีพในสถำนประกอบกำร จัดให้ฝึกประสบกำรณ์วิชำชีพในสถำนประกอบกำรหรือแหล่งวิทยำกำร ฝกึ ปฏิบตั ใิ นหอ้ งปฏิบัติกำร ฟำร์มหรอื ภำคสนำม 3.2 กำรสอนแบบออนไลน์

25 ปัจจุบัน พบว่ำ มีกำรใช้เทคโนโลยีเหล่ำนี้ ส่งข้อมูลส่ือสำรกันอย่ำง แพรห่ ลำย เชน่ โปรแกรม LINE หรือ Face book แผนกำรสอน กำรจัดรูปแบบแผนกำรสอนของรำยวิชำในหลักสูตรฐำนสมรรถนะอำชีวศึกษำ เกษตร โดยใช้ Learning Experience: L.E. ซ่ึงครูผู้สอนจะต้องมีควำมรู้ควำมสำมำรถ ในกำรสรำ้ งตำรำง L.E. เป็นพ้นื ฐำนกอ่ น กำรสร้ำงประสบกำรณ์เพื่อกำรเรียนรู้ (Learning Experience: L.E.) เป็น รูปแบบกำรจัดกำรเรียนกำรสอนวิธีหน่ึงที่มุ่งเน้นกำรจัดกิจกรรมกำรเรียนรู้จำกเนื้อหำ ควำมรู้ภ ำคควำมรู้(Knowing Element) และภำคปฏิบัติ (Doing Element) ตำม วัตถุประสงค์กำรสอนที่ผู้สอนต้องกำรให้เกิดขึ้นกับผู้เรียน ซึ่งจะนำไปสู่กำรเปล่ียนแปลง พฤตกิ รรมของผู้เรียน คำว่ำ“ประสบกำรณ์เพื่อกำรเรียนรู้ (Learning Experience: LE.)” นั้นเกิดจำก กำรรวมกันของคำว่ำ“กำรเรียนรู้” (กำรเปล่ียนพฤติกรรมอันเนื่องมำจำกกำรมี ประสบกำรณ์) และ“ประสบกำรณ์” (กำรได้ประสบมำด้วยตนเองหรือเข้ำไปเกี่ยวข้องกับ เหตุกำรณ์แล้วเกิดควำมรู้) เมื่อนำคำสองคำมำรวมกัน ประสบกำรณ์เพื่อกำรเรียนรู้ จึง หมำยถึง กำรแสดงออกอย่ำงกระตือรือร้นของผู้เรียนต่อสถำนกำรณ์ที่ผู้สอนสร้ำงขึ้นจน บรรลวุ ตั ถุประสงคท์ ่กี ำหนดไว้ ซึ่งส่งผลให้ผู้เรียนเกดิ กำรเปล่ยี นพฤตกิ รรม ประสบกำรณ์เพ่ือกำรเรียนรู้ เปน็ ฟันเฟืองสำคัญท่ีสุดของกำรจัดกำรเรยี นกำรสอน ที่มุ่งเน้นไปท่ีตัวผู้เรียนและผู้สอน ซึ่งท้ังสองส่วนนี้จะต้องมีปฏิสัมพันธ์ (Interaction) ต่อ กันโดยที่ ผู้สอน......ทำหน้ำท่ีจัดสร้ำงสถำนกำรณ์กำรเรียนรู้ (Learning Situation) ให้กับ ผู้เรียน ผู้เรียน......ทำหน้ำท่ีตอบสนอง (Interaction: ปฏิสัมพันธ์) ต่อสถำนกำรณ์กำร เรียนรู้ที่ผู้สอนได้จัดสร้ำงข้ึนอย่ำงกระตือรือร้นจนผู้เรียนมีควำมรู้และ/หรือมีทักษะ และ/ หรือมเี จตคติ ในเนอ้ื หำควำมรตู้ ำมทีผ่ สู้ อนตอ้ งกำร ประสบกำรณ์เพ่ือกำรเรียนรู้ (L.E.) จึงเป็น “ รูปแบบกำรจัดกำรเรียนกำรสอน” รปู แบบหนึ่งทีม่ งุ่ เน้นไปทต่ี วั ผ้เู รียน โดยเน้นปฏิสัมพันธ์ของผู้เรียนกับกิจกรรมกำรเรียนรู้ใน เน้ือหำควำมรู้ท่ีผู้สอนสร้ำงข้ึนจนผู้เรียนเกิดกำรเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมตำมวัตถุประสงค์ที่

26 ผู้สอนกำหนดไว้ ซ่ึงรูปแบบกำรจัดกำรเรียนกำรสอนแบบ L.E. น้ีมีหลักกำรที่สำคัญ คือ จะตอ้ งไม่มผี ูเ้ รียนคนใดเลยทไี่ ม่ผำ่ นกำรเรียนรู้ตำมวตั ถุประสงค์กำรสอน ในกำรใช้ L.E. เป็นรูปแบบแผนกำรสอนนั้น ทำได้โดยนำรำยละเอียดของหน่วย กำรเรียนรู้ของแต่ละรำยวิชำมำกำหนดเป็นเนื้อหำควำมรู้ในกำรสร้ำงตำรำง L.E. ดัง ตัวอย่ำงตำรำง L.E. ของรำยวชิ ำกำรเพำะเล้ยี งสัตวน์ ำ้ เบอ้ื งต้น L.E. วชิ ำกำรเพำะเลยี้ งสัตว์น้ำเบ้ืองตน้ คำอธบิ ำยรำยวิชำ : ศกึ ษำและปฏิบัตเิ กี่ยวกบั ควำมสำคัญและหลักกำรเพำะเลย้ี งสตั วน์ ำ้ สถำนกำรณ์ กำรเพำะเล้ียงสัตว์น้ำในประเทศและประชำคมอำเซียน สัตว์น้ำที่มีควำมสำคัญทำง เศรษฐกิจ กำรเพำะพันธุ์สัตว์น้ำ กำรเล้ียงสัตว์น้ำ กำรจัดกำรผลผลิตเพื่อจำหน่ำย โดย คำนึงถึง กำรอนุรักษ์ทรัพยำกรธรรมชำติและสิ่งแวดล้อม กำรบันทึกข้อมูลปฏิบัติงำน กำรตลำดและจำหน่ำยผลผลิตสัตว์น้ำ กำรคำนวณต้นทุนกำรผลิต และกำรจัดทำบัญชี รำยรบั -รำยจ่ำย จำกคำอธิบำยรำยวิชำข้ำงต้น ครูผู้สอนจำแนกออกเป็น 8 กำรเรียนรู้ และสร้ำง L.E.แต่ละหนว่ ยกำรเรยี นรู้ ดงั ตำรำง

27 แผนกำรเรียน หลักสูตรฯนี้ เป็นหลักสูตรต่อเน่ือง กลุ่มเป้ำหมำยท่ีเป็นผู้เรียนในหลักสูตรน้ี ประกอบด้วย 3 กลุ่ม คือ กลุ่มที่ 1 ผู้เรียนที่จบกำรศึกษำ ปวส. ทำงำนในสถำน ประกอบกำรที่เป็นทวิภำคี กลุ่มที่ 2 ผู้เรียนที่จบกำรศึกษำ ปวส. ทำงำนในสถำน ประกอบกำรทไี่ ม่เป็นทวิภำคี และกลมุ่ ท่ี 3 ผเู้ รียนทจี่ บกำรศึกษำ ปวส.ที่ยังไม่ได้ทำงำน ในท่ีนี้จะเสนอตัวอย่ำงกำรจัดแผนกำรเรียนสำหรับกลุ่มท่ี 1 และกลุ่มที่ 2 เป็น หลัก ซ่งึ ผู้เรยี นท้ัง 2 กลุ่มน้ี มีข้อจำกัดเร่ืองเวลำกำรเข้ำเรียน กำรจัดแผนกำรเรยี นเพื่อให้ ผู้เรียนใน 2 กลุ่มหลักสำมำรถเข้ำเรียนได้ครบตำมโครงสร้ำงหลักสูตร ประกอบด้วย 3 ขั้นตอน ได้แก่ 1) จัดประเภทของรำยวิชำที่มีเนื้อหำควำมรู้ Knowing เพียงอย่ำงเดียว 2) รำยวิชำที่มีเน้ือหำควำมรู้ Knowing และ Doing และ 3) รำยวิชำที่เป็นเน้ือหำควำมรู้ เฉพำะ Doing ข้ันตอนท่ี 1 จดั ประเภทของรำยวิชำและแผนกำรเรียน กำรจัดแผนกำรเรียน เริ่มจำกแยกแยะรำยวิชำในหลักสูตรออกเป็นเนื้อหำควำมรู้ Knowing หรือDoing แล้วจดั แผนกำรเรยี นตำมประเภทเนอื้ ควำมรู้ ดังน้ี 1.1 รำยวชิ ำท่มี ีเนอื้ หำควำมรู้ Knowing เพยี งอยำ่ งเดียว ใชแ้ ผนกำรเรยี น แบบ Semi-block Release จัดกำรเรยี นกำรสอนโดยใช้ Online 1.2 รำยวชิ ำทีม่ ีเนอื้ หำควำมรู้ Knowing และ Doing ใชแ้ ผนกำรเรียนแบบ Block Release โดยเน้ือหำควำมรู้ Knowing จัดกำรเรียนกำรสอนโดย Online เนื้อหำ ควำมรู้ Doing จัดกำรเรยี นกำรสอนในสถำนศึกษำ 1.3 รำยวชิ ำที่เป็นเน้อื หำควำมรู้เฉพำะ Doing (ยอ่ มมีเน้ือหำ Knowing ที่จะนำให้ เกิดกำรปฏิบัติ จึงแบ่งสัดส่วนเนื้อหำ Knowing: Doing ออกเป็น 30:70) จัดแผนกำรเรียน แบบ Block Release โดยเน้ือหำ Knowing จัดกำรเรียนกำรสอนโดย Online เน้ือหำ ควำมรู้ Doing จดั กำรเรยี นกำรสอนในสถำนประกอบกำร ดงั แผนภำพ

28 แผนภำพ กำรจดั ประเภทของรำยวชิ ำและแผนกำรเรียน ข้ันตอนที่ 2 คำนวณจำนวนชั่วโมงเรียนที่ต้องจัดกำรเรียนกำรสอนแต่ละ รำยวชิ ำ 2.1 รำยวิชำที่เนน้ เน้ือหำควำมรู้ Knowing อยำ่ งเดยี ว กำรคำนวณเวลำเรียน โดยนำจำนวนหน่วยกิตของรำยวิชำน้ัน คูณกับจำนวนคำบ เรียนตลอดภำคเรยี น (18 คำบต่อภำคเรยี น) ตัวอย่ำงเช่น รำยวิชำกำรบริหำรจัดกำรยุคใหม่และภำวะผู้นำ 3 หน่วยกิต ต้องใช้ เวลำเรียนตลอดภำคเรยี นเทำ่ กบั 54 ชั่วโมง 2.2 รำยวิชำที่เนน้ เนอื้ หำควำมรู้ Knowing รว่ มกบั เนอื้ หำควำมรู้ Doing กำรคำนวณเวลำเรียน ต้องแบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ คำนวณจำนวนช่ัวโมงเรียน เนื้อหำควำมรู้ Knowing และคำนวณจำนวนชั่วโมงเรียนเนอื้ หำควำมรู้ Doing ตวั อย่ำงเชน่ รำยวิชำเทคโนโลยกี ำรปรบั ปรงุ พนั ธุ์สัตวน์ ำ้ 3 หนว่ ยกิต เป็นทฤษฎี 2 ชั่วโมงตอ่ สัปดำห์ ปฏบิ ตั ิ 3 ชวั่ โมงต่อสปั ดำห์ คำนวณเวลำเรยี นไดด้ งั นี้  จำนวนชว่ั โมงเรยี นเนอื้ หำควำมรู้ Knowing เท่ำกับ 2x18 เทำ่ กับ 36 ชว่ั โมง ตอ่ ภำคเรยี น  จำนวนชวั่ โมงเรยี นเน้ือหำควำมรู้ Doing เท่ำกบั 3x18 เท่ำกับ 54 ช่วั โมงต่อ ภำคเรยี น

29 2.3 รำยวิชำที่เนน้ เนื้อหำควำมรู้ Doing กำรคำนวณเวลำเรียน แบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ 70 % ของเวลำเรียน เป็นเน้ือหำ ควำมรู้ Doing และ 30% ของเวลำเรยี นเป็นเนอ้ื หำควำมรู้ Knowing ตวั อย่ำงเชน่ รำยวิชำกำรจดั กำรคุณภำพนำ้ ทำงกำรประมง (รำยวิชำทีจ่ ัดสอนแบบ ทวภิ ำคี) 3 หนว่ ยกติ ปฏิบตั ิ 9 ช่ัวโมงตอ่ สปั ดำห์ คำนวณเวลำเรียนไดด้ งั นี้  จำนวนชั่วโมงเรยี นเน้ือหำควำมรู้ Doing เทำ่ กับ 6 ชว่ั โมงตอ่ สปั ดำห์ (70 % ของเวลำเรยี น )  จำนวนชว่ั โมงเรียนเนอื้ หำควำมรู้ Knowing เทำ่ กับ 3 ชัว่ โมงต่อสปั ดำห์ (30% ของเวลำเรียน ) ข้ันตอนที่ 3 เรียงลำดับรำยวิชำให้มีควำมต่อเน่ือง จำกเน้ือหำควำมรู้พื้นฐำน ไปสเู่ น้ือหำควำมรู้ทม่ี ีควำมซับซอ้ นสำหรับวิชำชีพ ส่วนรำยวชิ ำในหมวดศึกษำทั่วไป (ทักษะ ชีวิต) จะเรียงลำดับจำกรำยวิชำที่มีเน้ือหำควำมรู้ท่ีเป็นประโยชน์ท่ีเสริมวิชำชีพ ดังตำรำง กำรเรยี งลำดับรำยวชิ ำ ตำมภำคเรยี นที่ 1-5 ดงั นี้

30 ตำรำง กำรเรยี งลำดับรำยวชิ ำ ตำมภำคเรียนที่ 1-5 ภาคเ ีรยน ่ีท รายวิชา ห ่นวย ิกต ทฤษ ีฎ online ป ิฏ ับ ิต สถาน ึศกษา/ท ิวภา ีค การบริหารจดั การยุคใหม่และภาวะผู้น้า 330 เทคโนโลยกี ารปรับปรุงพันธ์ุสัตว์น้า 323 1 นิเวศวิทยาแหล่งน้า 322 ระเบียบวิธีวิจยั ทางการประมงและการจดั การ 322 เทคโนโลยีสารสนเทศเพ่ือการจดั การส่ิงแวดล้อมประมง 3 2 2 การประเมินผลกระทบส่ิงแวดล้อม 323 โครงการพัฒนาทักษะวิชาชพี 1 3 วิทยาศาสตร์ 330 2 เทคโนโลยีการออกแบบผังฟาร์มสัตว์น้า 323 การจดั การตลาดสัตว์น้า 322 การฝึกประสบการณ์วิชาชีพ 1 ,2 3 (กลุ่ม 1 2 ยกเว้น กลุ่ม 3 ฝึกในวันธรรมดาใหค้ รบ ชม) 3 มาตรฐานฟาร์มและการส่งออกสัตว์น้าเชิงพาณิชย์ 3 3 0 3 การวางแผนการผลิตสัตว์น้า 309 สถิติ 3 3 0 มนุษยสัมพันธ์ในองค์การ 330 ภาษาอังกฤษเพื่อการส่ือสาร 330 4 กฎหมายส่ิงแวดล้อมประมง 330 เทคโนโลยีการเพาะเล้ียงสัตว์น้า 309 การจดั การคุณภาพน้าทางการประมง 309 ภาษาไทยเพ่ือการสื่อสาร 330 5 โครงการพัฒนาทักษะวิชาชีพ 2 3 เทคโนโลยีการจดั การสุขภาพสัตว์น้า 309 เทคโนโลยีการบ้าบัดน้าเพ่ือการเพาะเลี้ยงสัตว์น้า 309 หมำยเหตุ: กำรฝึกประสบกำรณ์วิชำชีพ 1และ2 ตำมประกำศคณะกรรมกำรกำรอำชีวศึกษำ เร่ือง เกณฑ์มำตรฐำนคุณวุฒิอำชีวศึกษำระดับปริญญำตรสี ำยเทคโนโลยีหรอื สำยปฏิบตั ิกำร ข้อ 9 โครงสรำ้ ง หลักสูตร ขอ้ (ค) ......ในกรณที จี่ ดั กำรศึกษำในระบทวภิ ำคี อำจยกเว้นกำรฝกึ ประสบกำรณว์ ชิ ำชีพได้

31 ตัวอย่ำงกำรจัดแผนกำรเรียน ตำมโครงสร้ำงหลักสูตรเทคโนโลยีกำรประมงและ กำรจดั กำรสิง่ แวดล้อม เรมิ่ จำก 1) จัดประเภทรำยวิชำ ทีต่ อ้ งจดั กำรเรียนกำรสอนของแต่ละภำคเรียน ดงั แสดง ในตำรำงรำยวชิ ำและจำนวนช่ัวโมงกำรเรยี นแต่ละภำคกำรเรียน ภำคเรียนท่ี 1 มีจำนวน 6 รำยวิชำ คือ 1) รำยวิชำที่เน้นเนื้อหำควำมรู้ Knowing อย่ำงเดียว จำนวน 1 รำยวิชำ 2) รำยวิชำท่ีเน้นเน้ือหำควำมรู้ Knowing ร่วมกบั เน้อื หำควำมรู้ Doing จำนวน 5 รำยวชิ ำ ภำคเรียนท่ี 2 มีจำนวน 4 รำยวิชำ คือ 1) รำยวิชำท่ีเน้นเนื้อหำควำมรู้ Knowing อย่ำงเดียว จำนวน 1 รำยวิชำ 2) รำยวิชำท่ีเน้นเนื้อหำควำมรู้ Knowing ร่วมกับเนื้อหำควำมรู้ Doing จำนวน 2 รำยวิชำ 3) รำยวิชำ ที่เน้ือหำควำมรู้ doing 1 รำยวชิ ำ สำหรับรำยวิชำฝึกประสบกำรณ์วชิ ำชีพ 1 และรำยวชิ ำฝึกประสบกำรณ์วิชำชีพ 1 จำนวน 6 หน่วยกิต ยกเว้นไม่มีในแผนกำรเรียนสำหรับกลุ่มผู้เรียนกลุ่มที่ 1 และกลุ่มที่ 2 ซ่ึงเป็นผู้เรียนที่ทำงำนแล้ว ท้ังในสถำนประกอบกำรท่ีเป็นและไม่เป็นทวิภำคี ยกตำม ระเบียบ ภำคเรียนที่ 3 (ภำคฤดูร้อน) มีจำนวน 3 รำยวิชำ คือ 1) รำยวิชำท่ีเน้น เนื้อหำควำมรู้ Knowing อย่ำงเดียว จำนวน 2 รำยวิชำ 2) รำยวิชำที่เน้นเน้ือหำควำมรู้ Doing จำนวน 1 รำยวชิ ำ ภำคเรียนท่ี 4 มีจำนวน 5 รำยวิชำ คือ 1) รำยวิชำท่ีเน้นเนื้อหำควำมรู้ Knowing อย่ำงเดียว จำนวน 3 รำยวชิ ำ 2) รำยวชิ ำที่เน้นเน้ือหำควำมรู้ Doing จำนวน 2 รำยวชิ ำ ภำคเรียนที่ 5 มีจำนวน 4 รำยวิชำ คือ 1) รำยวิชำที่เน้นเนื้อหำควำมรู้ Knowing อย่ำงเดียว จำนวน 1 รำยวชิ ำ 2) รำยวิชำทเ่ี น้นเน้ือหำควำมรู้ Doing จำนวน 3 รำยวิชำ 2) คำนวณจำนวนชั่วโมงกำรเรยี นแต่ละรำยวิชำ รำยละเอยี ด ดงั แสดงใน ตำรำงรำยวิชำ และจำนวนชว่ั โมงกำรเรยี นแต่ละภำคเรียน

32 ตำรำง รำยวชิ ำและจำนวนช่ัวโมงกำรเรียนแต่ละภำคเรียน ภาคเ ีรยน รายวิชา ห ่นวย ิกต ทฤษ ีฎ: online ป ิฏ ับ ิต:สถาน ึศก/ สถานประกอบการ ้จานวน ั่ชวโมง เ ีรยน ทฤษ ีฎ ้จานวน ่ัชวโมง การบริหารจดั การยคุ ใหมแ่ ละภาวะผู้น้า 3 3 0 54 0 เทคโนโลยกี ารปรับปรุงพันธุ์สัตว์น้า 3 2 3 36 54 1 นิเวศวิทยาแหล่งน้า 3 2 2 36 36 ระเบียบวิธีวิจยั ทางการประมงและการจดั การส่ิงแวดล้อม 3 2 2 36 36 เทคโนโลยสี ารสนเทศเพื่อการจดั การสิ่งแวดล้อมประมง 3 2 2 36 36 การประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม 3 2 3 36 54 3 162 โครงการพัฒนาทักษะวิชาชีพ 1 วิทยาศาสตร์ 3 3 0 54 0 2 เทคโนโลยกี ารออกแบบผังฟาร์มสัตว์น้า 32 3 36 54 การจดั การตลาดสัตว์น้า 32 2 36 36 การฝึกประสบการณ์วิชาชีพ 1,2 3 (กลุ่ม 1 2 ยกเว้น กลุ่ม 3 ฝึกในวันธรรมดาใหค้ รบ ชม) 3 สถิติ 3 3 0 54 0 3 มาตรฐานฟาร์มและการส่งออกสัตว์น้าเชงิ พาณิชย์ 3 3 0 54 0 การวางแผนการผลิตสัตว์น้า(ทวิภาค)ี 3 0 9 162 มนุษยสัมพันธ์ในองค์การ 3 3 0 54 0 ภาษาอังกฤษเพ่ือการสื่อสาร 3 3 0 54 0 4 กฎหมายส่ิงแวดล้อมประมง 3 3 0 54 0 เทคโนโลยกี ารเพาะเลี้ยงสัตว์ (ทวิภาค)ี 3 0 9 162 การจดั การคุณภาพน้าทางการประมง (ทวิภาค)ี 3 0 9 162 ภาษาไทยเพื่อการส่ือสาร 3 3 0 54 0 5 โครงการพัฒนาทักษะวิชาชพี 2 3 162 เทคโนโลยกี ารจดั การสุขภาพสัตว์น้า (ทวิภาคี) 30 9 162 เทคโนโลยกี ารบ้าบัดน้าเพื่อการเพาะเล้ียงสัตว์น้า (ทวิภาค)ี 3 0 9 162

33 3) จดั แผนกำรเรยี น รำยละเอียดแผนกำรเรียน ภำคเรยี นท่ี 1 – 5 แสดงดงั แผนภำพ แผนภำพ แผนกำรเรยี นภำคเรยี นที่ 1

34 แผนภำพ แผนกำรเรยี นภำคเรยี นท่ี 2 แผนภำพ แผนกำรเรยี นภำคเรยี นที่ 3 (ภำคฤดรู อ้ น)

35 แผนภำพ แผนกำรเรยี นภำคเรียนที่ 4 แผนภำพ แผนกำรเรยี นภำคเรียนท่ี 5

36 สถำนท่ีจัดกำรเรียนกำรสอน เพ่อื ให้ผเู้ รียนทุกคนสำมำรถเข้ำฝกึ อำชีพในสถำนประกอบกำรได้จริงตำมระบบทวิ ภำคี Model A ซึ่งเป็นกำรเรียนเต็มรูปแบบร้อยเปอร์เซ็นต์ มีสถำนประกอบกำรอยู่ในพื้น ที่ตั้งสถำนศึกษำผู้เรียนทุกคนทุกสำขำวิชำได้เข้ำฝึกอำชีพ (เกณฑ์มำตรฐำนคุณวุฒิ อำชีวศึกษำระดับปริญญำตรสี ำยเทคโนโลยีหรือสำยปฏิบัติกำร พ.ศ. 2562 ตำมขอ้ 6 และ รำยงำนกำรวิจัยสภำกำรศึกษำ model A) สถำบันกำรอำชีวศึกษำเกษตรภำคใต้จึงจัด สถำนทใ่ี นกำรจดั กำรเรียนกำรสอนออกเปน็ 4 หนว่ ยประสำนงำน ประกอบดว้ ย • หนว่ ยประสำนงำนที่ 1 วทิ ยำลัยประมงชมุ พรเขตรอุดมศกั ดิ์ ประกอบด้วย วิทยำลยั เกษตรและเทคโนโลยชี ุมพร และวทิ ยำลัยเกษตรและเทคโนโลยีระนอง • หนว่ ยประสำนงำนที่ 2 วทิ ยำลยั เกษตรและเทคโนโลยีสรุ ำษฎร์ธำนี ประกอบด้วย วิทยำลัยเกษตรและเทคโนโลยีพังงำ และวิทยำลัยเกษตรและเทคโนโลยี กระบ่ี • หน่วยประสำนงำนท่ี 3 วทิ ยำลยั เกษตรและเทคโนโลยีนครศรีธรรมรำช ประกอบดว้ ย วิทยำลยั เกษตรและเทคโนโลยตี รัง และวทิ ยำลัยเกษตรและเทคโนโลยีพัทลงุ • หน่วยประสำนงำนที่ 4 วทิ ยำลยั ประมงตณิ สลู ำนนท์ ประกอบดว้ ย วิทยำลัยเกษตรและเทคโนโลยีสงขลำ และวทิ ยำลยั เกษตรและเทคโนโลยีสตูล

37 ท้ำยท่ีสุดน้ี สำมำรถสรุปเป็นหลักกำรที่เป็นแก่นหรือหัวใจของกำรสร้ำงหลักสูตร ฐำนสมรรถนะอำชีวศึกษำเกษตร ท้ังที่เป็นหลักสูตรระดับอำชีวศึกษำ (ปวช.และ ปวส.) รวมทง้ั ระดบั ปริญญำตรไี ด้ดังภำพ หลักสตู รฐำนสมรรถนะ เกดิ จำกกำรยดึ โยง (Interlock) ระหวำ่ ง โครงสร้ำงหลักสูตร กบั แผนกำรสอน L.E. และแผนกำรเรียนแบบ Block Release และ Semi-block Release

38 แนะนำหนังสอื ท่ีเก่ียวขอ้ ง




Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook