การสร้างสตู รอาหารสัตวน์ าํ้ และสูตรอาหารสตั ว์นาํ้ เศรษฐกจิ ธนาภรณ์ จติ ตปาลพงศ์ Tanaporn Chittapalapong ราชการบรหิ ารสว่ นกลาง Central Administrative Office กรมประมง Department of Fisheries กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ Ministry of Agriculture and Cooperatives
การสรา้ งสตู รอาหารสตั วน์ าํ้ และสูตรอาหารสัตวน์ ํ้าเศรษฐกจิ ธนาภรณ์ จติ ตปาลพงศ์ Tanaporn Chittapalapong ราชการบริหารสว่ นกลาง Central Administrative Office กรมประมง Department of Fisheries 2557 2014
i หนา้ 1 สารบาญ 1 1 บทนาํ 1 วตั ถปุ ระสงค์ 2 วธิ กี ารศึกษา 11 13 พลงั งาน 14 สารอาหารที่สาํ คญั 21 การย่อยอาหาร (Digestion) 24 อาหารธรรมชาติ 54 การสรา้ งสูตรอาหาร (Feed formulation) การทําอาหารทดสอบ (Preparation on test diet) สูตรอาหารท่ใี ชเ้ ล้ยี งสัตว์น้าํ เอกสารอ้างองิ
ii สารบาญตาราง ตารางท่ี หน้า 1 แหลง่ คาร์โบไฮเดรตในธรรมชาติ 3 2 ความสามารถในการยอ่ ยแป้งของปลา 3 3 ระดับโปรตนี ในอาหารก้งุ ทะเลที่ขนาดต่างๆ 4 4 ค่าเฉลีย่ ความตอ้ งการกรดอะมิโนที่จาํ เป็นของสตั วน์ าํ้ ทัว่ ไป 4 5 ความตอ้ งการโปรตีนในอาหารของสัตวน์ ํ้าเศรษฐกิจ 4 6 ระดบั กรดไขมันท่ีเหมาะสมในอาหารกงุ้ ทะเล 6 7 ความต้องการลิปิดในรูปแบบตา่ งๆ (% อาหาร) 6 8 ปรมิ าณแร่ธาตุทสี่ ตั ว์น้ําต้องการ 11 9 เปอรเ์ ซน็ ต์การยอ่ ยโปรตีน ไขมนั และคาร์โบไฮเดรตของปลาไน และปลาดุกจาก 12 วตั ถดุ บิ ชนดิ ต่างๆ 14 10 องค์ประกอบวัสดุอาหารท้องถน่ิ 15 11 องค์ประกอบของวัตถดุ บิ และวตั ถุดบิ แปรรปู 16 12 ปรมิ าณธาตแุ คลเซียมและฟอสฟอรสั ในสารทใ่ี ช้เติมอาหารผสม 17 13 โปรตนี ในอาหารผสมของสตู รอาหารที่สรา้ ง 18 14 ปริมาณโปรตนี ของวัสดอุ าหาร 19 15 ปริมาณโปรตีนของอาหารผสมของสูตรอาหารทส่ี ร้าง 20 16 ปรมิ าณโปรตีน และพลงั งานในอาหารผสม 20 17 บายดเ์ ดอรท์ ี่ใช้ในการผสมอาหาร 20 18 เปอรเ์ ซน็ ต์ค่าเฉลย่ี และคา่ สงู สุด (คา่ ในวงเลบ็ ) ของวสั ดุอาหารที่ใช้ทําอาหารสตั ว์น้ํา 22 19 ชนิดและปริมาณวติ ามนิ ท่ีใช้ในอาหารสมทบ และอาหารสมบูรณแ์ บบ 22 20 ชนดิ และปริมาณวัสดทุ ่ใี ชท้ ําอาหารทดสอบวิตามนิ กับปลาดุกอยุ 23 21 ชนิดและปรมิ าณของวัสดทุ ี่ใช้ทําอาหารทดสอบกรดอะมโิ น 23 22 ชนดิ และปริมาณแรธ่ าตุทใ่ี ชใ้ นอาหารสบทบและอาหารสมบรู ณ์แบบ 25 23 สูตรอาหารปลานลิ 1 25 24 สตู รอาหารปลานิล 2 25 25 สตู รอาหารปลาตะเพยี น 25 26 สูตรอาหารปลาดกุ ใหญ่ 26 27 สตู รอาหารปลาดกุ เล็กถงึ ขนาดกลาง 26 28 สูตรอาหารลกู ปลาไน ลูกปลาตะเพียน และลูกปลานลิ
iii สารบาญตาราง (ต่อ) หน้า 26 ตารางที่ 27 29 สูตรอาหารลกู ปลาดกุ ดา้ น ลูกปลาดุกอุย และลูกปลาชอ่ น 27 30 สูตรอาหารปลาดกุ ปลาช่อน และปลาบู่ 27 31 สูตรอาหารปลาสวาย 27 32 สตู รอาหารแมป่ ลาสวาย แมป่ ลาปลาไน และแมป่ ลายีส่ กเทศ 28 33 สตู รอาหารปลากะพง และกะรงั 28 34 สตู รอาหารกุ้งกา้ มกรามเลก็ 28 35 สตู รอาหารกุ้งกา้ มกราม 29 36 สตู รอาหารกงุ้ ทะเล 29 37 สตู รอาหารสําหรับพ่อแม่ปลากินเน้ือ (สตู ร1) 30 38 สตู รอาหารสําหรับพ่อแม่ปลากินเนอื้ (สูตร2) 31 39 สตู รอาหารสาํ หรับพ่อแมป่ ลากินทง้ั พชื และสตั ว์ 31 40 สตู รอาหารสาํ หรบั พ่อแม่ปลากินทัง้ พชื และสัตว์ (กินพชื มากกวา่ สัตว)์ 32 41 สตู รอาหารสําหรบั พอ่ แมก่ งุ้ ก้ามกราม 33 42 สูตรอาหารสําหรบั พ่อแมป่ ลากินเนือ้ (สตู ร1) 33 43 สูตรอาหารสําหรับพ่อ-แมป่ ลาสวยงามกล่มุ กินท้ังสตั วแ์ ละพืช (สูตร1) 34 44 สตู รอาหารสําหรบั พอ่ -แม่ปลาสวยงามกลุม่ กินท้งั สตั วแ์ ละพชื (สตู ร2) 35 45 สูตรอาหารปลาลดตน้ ทุนเขตภาคตะวนั ออกเฉียงหนือ สอจ.- อน.1 (โปรตนี 40%) 35 46 สูตรอาหารปลาลดต้นทนุ เขตภาคตะวนั ออกเฉยี งหนอื สอจ.- อน.1 (โปรตนี 28%) 36 47 สตู รอาหารปลาลดต้นทนุ เขตภาคตะวนั ออกเฉียงหนือ สอจ.- อน.1 (โปรตนี 20%) 36 48 สตู รอาหารปลาลดต้นทุนเขตภาคตะวันออกเฉียงหนอื สอจ.- อน.2 (โปรตนี 40%) 37 49 สตู รอาหารปลาลดตน้ ทุนเขตภาคตะวนั ออกเฉียงหนือ สอจ.- อน.2 (โปรตนี 28%) 37 50 สตู รอาหารปลาลดต้นทุนเขตภาคตะวนั ออกเฉียงหนือ สอจ.- อน.2 (โปรตนี 20%) 38 51 สูตรอาหารปลาลดตน้ ทุนเขตภาคตะวนั ออกเฉียงหนือ สอจ.- อน.3 (โปรตนี 40%) 38 52 สตู รอาหารปลาลดต้นทนุ เขตภาคตะวนั ออกเฉยี งหนอื สอจ.- อน.3 (โปรตนี 28%) 39 53 สตู รอาหารปลาลดตน้ ทนุ เขตภาคตะวันออกเฉียงหนือ สอจ.- อน.3 (โปรตนี 20%) 39 54 สูตรอาหารปลาลดตน้ ทนุ เขตภาคตะวันออกเฉียงหนือ สอจ.- อน.4 (โปรตนี 40%) 40 55 สูตรอาหารปลาลดต้นทนุ เขตภาคตะวันออกเฉียงหนอื สอจ.- อน.4 (โปรตนี 28%) 40 56 สูตรอาหารปลาลดตน้ ทนุ เขตภาคตะวนั ออกเฉยี งหนอื สอจ.- อน.4 (โปรตีน 20%) 41 57 สูตรอาหารปลาลดตน้ ทุนเขตภาคตะวันออกเฉียงหนือ สอจ.- อน.5 (โปรตนี 40%) 41 58 สูตรอาหารปลาลดตน้ ทนุ เขตภาคตะวันออกเฉียงหนอื สอจ.- อน.5 (โปรตนี 28%) 59 สูตรอาหารปลาลดตน้ ทุนเขตภาคตะวนั ออกเฉยี งหนือ สอจ.- อน.5 (โปรตีน 20%)
iv หน้า 42 สารบาญตาราง (ต่อ) 42 43 ตารางท่ี 43 60 สตู รอาหารปลาลดตน้ ทนุ เขตภาคใต้ สอจ.- ขต.1 (โปรตนี 40%) 44 61 สูตรอาหารปลาลดตน้ ทนุ เขตภาคใต้ สอจ.- ขต.1 (โปรตนี 28%) 44 62 สูตรอาหารปลาลดต้นทุนเขตภาคใต้ สอจ.- ขต.1 (โปรตนี 20%) 45 63 สตู รอาหารปลาลดต้นทุนเขตภาคใต้ สอจ.- ขต.2 (โปรตีน 40%) 45 64 สูตรอาหารปลาลดตน้ ทุนเขตภาคใต้ สอจ.- ขต.2 (โปรตนี 28%) 46 65 สตู รอาหารปลาลดต้นทุนเขตภาคใต้ สอจ.- ขต.2 (โปรตีน 20%) 46 66 สูตรอาหารปลาลดต้นทนุ เขตภาคใต้ สอจ.- ขต.3 (โปรตนี 40%) 47 67 สตู รอาหารปลาลดตน้ ทนุ เขตภาคใต้ สอจ.- ขต.3 (โปรตีน 28%) 47 68 สตู รอาหารปลาลดตน้ ทุนเขตภาคใต้ สอจ.- ขต.3 (โปรตีน 20%) 48 69 สูตรอาหารปลาลดต้นทนุ เขตภาคเหนือ สอจ.- น.1 (โปรตีน 40%) 48 70 สูตรอาหารปลาลดต้นทุนเขตภาคเหนือ สอจ.- น.1 (โปรตนี 28%) 49 71 สูตรอาหารปลาลดต้นทนุ เขตภาคเหนอื สอจ.- น.1 (โปรตีน 20%) 49 72 สตู รอาหารปลาลดต้นทนุ เขตภาคเหนอื สอจ.- น.2 (โปรตีน 40%) 50 73 สูตรอาหารปลาลดตน้ ทุนเขตภาคเหนอื สอจ.- น.2 (โปรตนี 28%) 50 74 สตู รอาหารปลาลดตน้ ทนุ เขตภาคเหนือ สอจ.- น.2 (โปรตนี 20%) 51 75 สูตรอาหารปลาลดต้นทนุ เขตภาคกลาง สอจ.- ก.1 (โปรตีน 40%) 51 76 สตู รอาหารปลาลดต้นทนุ เขตภาคกลาง สอจ.- ก.1 (โปรตนี 28%) 52 77 สูตรอาหารปลาลดต้นทุนเขตภาคกลาง สอจ.- ก.1 (โปรตนี 20%) 52 78 สูตรอาหารปลาลดต้นทุนเขตภาคกลาง สอจ.- ก.2 (โปรตนี 40%) 53 79 สูตรอาหารปลาลดตน้ ทนุ เขตภาคกลาง สอจ.- ก.2 (โปรตนี 28%) 53 80 สตู รอาหารปลาลดต้นทนุ เขตภาคกลาง สอจ.- ก.2 (โปรตนี 20%) 81 สูตรอาหารปลาลดต้นทนุ เขตภาคกลาง สอจ.- ก.3 (โปรตนี 40%) 82 สูตรอาหารปลาลดตน้ ทุนเขตภาคกลาง สอจ.- ก.3 (โปรตนี 28%) 83 สตู รอาหารปลาลดตน้ ทุนเขตภาคกลาง สอจ.- ก.3 (โปรตนี 20%)
คาํ นาํ อาหารเป็นหน่ึงในปจั จัยส่เี พอ่ื การดํารงชีพ เปน็ แหลง่ พลงั งาน การเจรญิ เติบโต และ การสืบเผ่าพนั ธข์ุ องส่งิ มชี วี ติ ในโลกนี้ สตั วน์ า้ํ กเ็ ช่นเดียวกบั ส่ิงมีชีวติ อื่นๆ ต้องการอาหารเพื่อการ เจรญิ เตบิ โต แพรข่ ยายพนั ธ์ุ เพอ่ื ใหช้ วี ติ คงอยู่ อาหารสัตวน์ า้ํ จงึ เป็นปัจจยั ท่ีสาํ คัญยิง่ ตอ่ การเล้ยี งสัตว์ นา้ํ โดยเป็นปัจจยั พน้ื ฐานของการผลิต และการควบคมุ ตน้ ทุนการผลติ ถา้ อาหารสัตว์นา้ํ มีคุณภาพดี ราคาต่ํา เกษตรกรจะไดร้ ับผลผลติ สตั ว์นาํ้ ดี มกี ําไร การสร้างสตู รอาหารได้เองชว่ ยให้เกษตรกร ประหยัดคา่ ใช้จ่าย ใช้วสั ดใุ นท้องถ่ิน ไดอ้ าหารราคาถกู มีโภชนาการดี สารอาหารครบถว้ น ทาํ ให้สัตว์ นา้ํ เจริญเตบิ โตดี มีสขุ ภาพสมบรู ณ์ และได้ผลผลติ สูง วัตถปุ ระสงค์ เพือ่ ใหท้ ราบ วิธีการสร้างสูตรอาหารสตั ว์น้ํา ปัจจยั ทสี่ ําคัญ และสตู รอาหารสัตว์นํ้า เศรษฐกจิ ตา่ งๆ วิธีดําเนนิ การ การสร้างสูตรอาหารสัตวน์ ้าํ ต้องคํานึงถงึ ปัจจัยตา่ งเพื่อใหไ้ ดอ้ าหารสตั วน์ ้ําที่ เหมาะสมกบั สตั ว์นํ้าน้นั ๆดงั น้ี พลงั งาน ปลาหรอื สตั วน์ ํ้าตอ้ งการพลังงานเพอื่ การเจริญเติบโต สบื พันธ์ุ และกจิ กรรมต่างๆ พลงั งานได้มาจากการสันดาปอาหาร โดยเรยี กขบวนการทางชวี เคมขี องการใช้พลงั งานวา่ Metabolism อัตราการใช้พลงั งาน (Metabolic rate) ของปลา หรือสัตวน์ าํ้ ข้ึนอยกู่ บั ปัจจยั ตา่ งๆดงั น้ี 1. ขนาดของสัตว์นาํ้ หรอื ปลา ปลาขนาดเลก็ ตอ้ งการพลงั งานเพอ่ื การเจริญเตบิ โต มากกวา่ ปลาโตเต็มวยั โดยสตั ว์น้าํ วัยอ่อนต้องการพลงั งานสูงกว่าสตั ว์น้ําทโี่ ตเต็มวัยเพราะพื้นท่ีสมั ผสั นา้ํ ของสตั วน์ ํา้ วัยออ่ นมนี ้อยกว่าสตั ว์นา้ํ ท่โี ตแล้ว 2. กจิ กรรมของสรีระ ความต้องการพลังงานท่ใี ช้ในการเคล่อื นทหี่ รอื วา่ ยน้ํา ในการ ต้านทานกระแสนา้ํ และทดแทนพลังงานทีส่ ูญเสยี ไปจากการตกใจ ปรมิ าณพลังงานต้องมเี พียงพอใน กิจกกรรมนี้ก่อน แล้วจงึ นําพลังงานทเี่ หลือไปใชใ้ นการเจรญิ เติบโต 3. อุณหภมู ิ เปน็ ปจั จยั สําคัญท่ีสุดในความตอ้ งการพลงั งาน ปลาเป็นสัตวเ์ ลอื ดเยน็ ต้องการพลังงานเพื่อรกั ษาหรือควบคุมอณุ หภูมใิ นร่างกายใหค้ งที่ อุณหภมู ใิ นรา่ งกายข้นึ อยู่กบั อุณหภูมิของนํา้ เปน็ หลกั เม่อื อุณหภูมิของนา้ํ ต่าํ ลง ปลากล็ ดกิจกรรมของตวั เองดว้ ย เช่น ลดการกนิ อาหาร เกิดอาการเฉอื่ ย เมอ่ื อุณหภมู สิ งู ข้นึ ปลามีอาการว่องไวขน้ึ ด้วย 4. ความเครียด ปลาใช้พลงั งานเพอ่ื ต่อต้านความเครียด ซง่ึ มาจากสภาพแวดล้อม ไดแ้ ก่ ความหนาแนน่ การเคล่ือนยา้ ย อาหารคุณภาพตา่ํ น้าํ เสีย ความเคม็ ปรมิ าณออกซิเจน คาร์บอนไดออกซด์ทล่ี ะลายนาํ้ ความเป็นกรดเปน็ ด่าง และอืน่ ๆ
2 แหล่งพลงั งานของปลาหรอื สัตว์นาํ้ คือโปรตนี และไขมนั เปน็ หลัก แตกต่างจาก สัตวเ์ ลอื ดอุ่นท่ใี ชไ้ ขมนั และคาร์โบไฮเดรตเปน็ หลัก เน่ืองจากปลามีประสทิ ธิภาพในการย่อย คารโ์ บไฮเดรตค่อนข้างตํา่ สตั ว์นํ้าใชพ้ ลงั งานประมาณ 70% เพอ่ื กจิ กรรมตา่ งๆ และการเจรญิ เติบโต ส่วนทเี่ หลือ 30% สูญเสยี ไปกับการขบั ถ่าย ความตอ้ งการพลงั งาน หรือ Metabolizable Energy Requirement (ME) คือพลงั งานที่สตั ว์นาํ้ ไดจ้ ากอาหารลบออกดว้ ยพลงั งานทีส่ ูญเสยี จากการขับถา่ ย ของเสยี ออกจากรา่ งกายทั้งที่เหงอื ก และท่ชี ่องขบั ถา่ ย ME ถกู นาํ ไปใชใ้ นขบวนการเมตาบอลซิ ึมของ สัตว์น้าํ ความตอ้ งการพลังงานจากอาหารเพื่อเพ่มิ การเจริญเตบิ โต 1 กก. ในปลาแตล่ ะชนดิ มีค่า ใกลเ้ คยี งกนั คอื 4,000 kcl ดงั นั้นในการสร้างสตู รอาหารสตั วน์ ้าํ ตอ้ งคาํ นงึ ถงึ พลังงานท่ีสตั ว์นา้ํ ได้รับ ดว้ ย (ประเสรฐิ และคณะ, 2525; กล่มุ วิจัยอาหารสตั ว์น้าํ , 2534 และ นฤมล, 2549) สารอาหารท่สี าํ คัญ อาหารสัตว์นํา้ ต้องมีโภชนาการ หรือ Nutrition คือส่ิงที่ทาํ นุบํารงุ รา่ งกายเพ่อื ให้ บรรลุถึงจุดที่ตอ้ งการเพอ่ื ทํากิจกรรม เซลลท์ าํ การแปลงวตั ถตุ ่างๆมาใชใ้ ห้เป็นประโยชน์ ในอดตี เกษตรกรไมเ่ ขา้ ใจถึงโภชนาการ แต่ปัจจบุ นั มีการเห็นคุณคา่ ทางโภชนาการ เพราะเหน็ ถึงประโยชน์ เชน่ การปอ้ งกันโรคท่ีเกิดจากการขาดธาตอุ าหารจําเป็น ทาํ ให้รา่ งกายออ่ นแอ ไมม่ ภี มู ิตา้ นทานโรค หรอื มีสารอาหารบางอย่างในรา่ งกายมากเกินไป ไดแ้ ก่ ไขมัน เป็นตน้ สารอาหารสําคัญทม่ี คี วาม จําเปน็ ต่อสตั ว์นํ้า ได้แก่ คาร์โบไฮเดรต โปรตนี ไขมนั วติ ามนิ และแรธ่ าตุ 1. คาร์โบไฮเดรต ไดแ้ ก่ แปง้ น้ําตาล ใยพชื (ตารางที่ 1) เป็นแหล่งใหพ้ ลงั งานแก่ สง่ิ มชี วี ติ (แตน่ ้อยกวา่ ไขมนั ) ทม่ี รี าคาถูกที่สุดหาง่าย เป็นองคป์ ระกอบของสิ่งมชี วี ิตทกุ ชนดิ พบมาก ในพืชเกดิ ข้ึนจากขบวนการสังเคราะหแ์ สง พลังงานเหล่านไี้ ด้สะสมอยู่ในพืช เมอ่ื สตั วน์ า้ํ กินเขา้ ไปกท็ าํ ใหไ้ ดพ้ ลงั งานสาํ หรบั ใชใ้ นการดํารงชีวิตอยู่ และสามารถแปรรูปไปเป็นไขมนั เพือ่ เกบ็ เปน็ พลังงาน สาํ รอง คารโ์ บไฮเดรตใหค้ ่าพลงั งานความร้อนเฉลย่ี 2.5 กโิ ลแคลอรี่/กรัม ปลายอ่ ยและดดู ซึมนํ้าตาล ได้ดีกวา่ แป้ง แตป่ ลาใชป้ ระโยชน์จากแป้งไดด้ กี วา่ นํา้ ตาล ส่วนใยพชื หรอื เซลลโู ลสปลาย่อยไดน้ ้อยมาก หรอื ไม่ได้เลย ดังน้นั แป้งเป็นคาร์โบไฮเดรตทม่ี คี วามสาํ คญั ตอ่ การนาํ มาทําอาหารปลามากกวา่ น้าํ ตาล และเซลลโู ลส โดยท่ัวๆไปปลาย่อยแปง้ ได้ 25-70% แต่ผนั แปรไปตามชนดิ สัตว์น้าํ ซง่ึ สัตว์น้ํามี ความสามารถในการย่อยคารโ์ บไฮเดรตไดแ้ ตกต่างกัน เช่น ปลาRainbow trout ยอ่ ยกลูโคส ไดร้ อ้ ย ละ 90 แต่ย่อยแปง้ ดิบไดแ้ คร่ ้อยละ 20 เมอื่ ทาํ แป้งให้สกุ สามารถเพม่ิ ประสทิ ธิภาพในการย่อยได้สูงขึน้ ประมาณ 25-30% (ตารางที่ 2) ปลาทุกชนดิ มนี าํ้ ยอ่ ยแปง้ อย่จู าํ กัด สามารถยอ่ ยแปง้ ได้แคจ่ าํ นวน หน่ึง ดงั นน้ั ถ้าเพม่ิ ปรมิ าณแปง้ ลงไปในอาหารส่งผลให้ประสทิ ธิภาพในการย่อยแป้งลดลง เชน่ ปลากิน เน้อื ยอ่ ยแป้งในอาหารท่ีมแี ปง้ 20 % ได้ถงึ 68% แต่ถ้าเพม่ิ แป้งในอาหารเป็น 60% ปลากลับย่อย แป้งได้เพยี ง 26% (ลดลงจากเดิม 40%) ถงึ แมป้ ลาไม่สามารถย่อยเซลลโู ลส แตเ่ ปน็ ตวั กระตุน้ ใหเ้ กิด การขบั ถา่ ย โดยใยพชื ทีม่ ปี ริมาณไมเกิน 8% ชว่ ยทําให้อาหารเคลอื่ นที่ผา่ นทางเดินอาหารช้าลงทาํ ให้ มเี วลาดูดซึมสารอาหารได้มากข้ึน ปลาบางชนดิ มแี บคทเี รียชว่ ยย่อยเซลลโู ลส ในความต้องการ คาร์โบไฮเดรตของสตั ว์น้ํา เช่นใน ปลาcatfish ควรมคี าร์โบไฮเดรตท่ยี ่อยไดไ้ ม่เกิน รอ้ ยละ 20 ของ อาหารท้งั หมดเพราะถ้ามากเกินไปทําให้เกดิ การสะสมไกลโคเจนทีต่ บั ทาํ ใหป้ ลาเป็นโรคตบั เป็นโรค อว้ น ปลาท่ีกินท้งั พชื และสตั ว์ หรือ omnivore เชน่ ปลาสวายสามารถผสมแปง้ สกุ ได้ถงึ รอ้ ยละ 60 ของอาหารท้ังหมด ปลานลิ ตอ้ งการคารโ์ บไฮเดรตถึงรอ้ ยละ 40 ความจําเป็นต้องใสค่ ารโ์ บไฮเดรต อกี ประการคือเพ่ือประสานยึดองค์ประกอบของอาหารหรอื บายดเ์ ดอรเ์ ขา้ ด้วยกนั ในรูปเมด็ หรือก้อน ทาํ
3 ใหก้ ารละลายของอาหารในนํ้าช้าลง ลดการสูญเสยี คณุ คา่ ทางอาหาร ได้แก่ แป้งเหนียว สารเหนียว และยงั ชว่ ยทาํ ใหอ้ าหารลอยนา้ํ เช่นอาหารปลาดุก จําเปน็ ต้องมีแปง้ 40-50% แตถ่ ้าใสม่ ากเกินไปทาํ ใหค้ ุณค่าของอาหารลดลง (ประเสรฐิ และคณะ, 2525; กลุม่ วิจัยอาหารสัตว์นํ้า, 2534 และ นฤมล, 2549) ตารางท่ี 1 แหล่งคาร์โบไฮเดรตในธรรมชาติ คารโ์ บไฮเดรต แหลง่ ท่ีพบ นาํ้ ตาล นา้ํ ผลไม้ น้ําผึ้ง น้ํานมสตั ว์ นํา้ ตาลจากอ้อย นา้ํ ตาลจากสับปะรด นํา้ ตาลจากการสลายแป้ง น้าํ ตาลจากนม แป้ง เมลด็ พืช เชน่ ข้าว ขา้ วโพด ข้าวฟา่ ง ข้าวสาลี ข้าวเหนยี ว หวั พืช เช่น มันสําปะหลงั เผอื ก มนั แกว ใยพชื พชื ผกั ทุกชนดิ ทีม่ า: กลมุ่ วิจยั อาหารสตั วน์ ้าํ (2534) ตารางท่ี 2 ความสามารถในการยอ่ ยแปง้ ของปลา แป้ง % การยอ่ ยได้ ปลากินทั้งพชื และสัตว์ ปลากนิ เนื้อ แป้งขา้ วโพด (ดบิ ) 26 แป้งขา้ วโพด (สุก) 59 แปง้ (ดบิ ) 38 แป้ง (สุก) 69 ทีม่ า: กลมุ่ วิจยั อาหารสัตวน์ าํ้ (2534) 2. โปรตนี หรอื body builder แหล่งทม่ี าไดแ้ ก่ สัตว์ พชื และสาหร่าย เป็นอนิ ทรีย์ สารทม่ี ีมากทส่ี ดุ ในร่างกายของสัตวน์ ้ํา สตั ว์น้ําท่มี ชี วี ิตต้องการโปรตนี ตลอดเวลา เพอ่ื ไปสรา้ งการ เจริญเติบโต ซอ่ มแซมส่วนทส่ี ึกหรอ สรา้ งฮอร์โมน เอน็ ไซม์ หายใจ ให้พลงั งาน และองค์ประกอบท่ี เกยี่ วกบั การสบื พนั ธ์ุ และขยายพนั ธ์ุ โดยสัตวน์ ํา้ วัยอ่อนต้องการโปรตนี สงู กว่าสตั ว์นํ้าทโี่ ตเตม็ วัยเพราะ พื้นท่ีสมั ผสั นาํ้ ของสัตว์นํ้าวัยออ่ นมีนอ้ ยกว่าสตั วน์ า้ํ ทโี่ ตแลว้ ทําให้ตอ้ งใช้พลังงานต้านแรงผลักดนั ของ นํา้ มากกว่า (ตารางท่ี 3) ปลาหรอื สตั วน์ ้ําต้องการโปรตนี มากกวา่ สัตว์บก (ประมาณรอ้ ยละ 30-50 ใน อาหาร) โดยอาหารปลาcatfish มโี ปรตีน 25-40% คณุ ภาพของโปรตนี สูงขึ้นเม่ือใชโ้ ปรตนี จากอาหาร หลายๆแหล่งทาํ ใหม้ ปี ระสิทธภิ าพดีขนึ้ โปรตนี ประกอบไปด้วยกรดอะมโิ นมากกวา่ 24 ชนดิ แตท่ สี่ ัตว์ น้าํ ต้องการมีเพยี ง 19 ชนิด โดยมกี รดอะมิโนที่มีความจาํ เปน็ (essential amino acids) ตอ่ ปลา 10 ชนดิ ไดแ้ ก่ Arginine Histidine Isoleucine Leucine Methionine Phenylalanine Threonine Tryptophan Lysine และ Valine (ตารางท่ี 4) กรดอะมิโนท้ัง 10 ตวั น้เี ปรียบเสมอื นเสาคาํ้ จุนบา้ น หรือร่างกายสัตว์น้าํ นอกจากสัตวน์ า้ํ ตอ้ งการโปรตีนท่รี ะดบั แตกต่างกันตามชนดิ และวยั ของสตั ว์น้าํ แล้ว ยงั ตอ้ งการกรดอะมโิ นที่จําเปน็ ในปริมาณทต่ี ่างกันอีกดว้ ย ปลาที่ไดร้ ับกรดอะมโิ นทจี่ าํ เปน็ ไม่ ครบถ้วนทาํ ใหป้ ลาเจริญเตบิ โตช้า รปู รา่ งเปล่ียนไป เชน่ ถา้ ขาด Tryptophan ทาํ ใหก้ ระดกู สนั หลงั
4 ของปลาคดงอส่งผลใหป้ ลามรี ูปรา่ งคดงอ (scolosisและ lordosis) ถ้าขาดไลซนี ปลามอี าการครบี หลัง และหางเป็นแผลขาดกร่อน มอี ตั ราการตายสูง ขาดMethionine ปลามอี าการตาเป็นตอ้ อาหารทีม่ ี Valine มากเกินไปทาํ ให้ไปยับย้งั การเจรญิ เติบโต และเกิดการเปน็ พิษของกรดอะมิโนเป็นตน้ โปรตนี ในสตั วม์ ีกรดอะมโิ นท่ีจาํ เป็นครบทุกตัวแต่โปรตนี ในพชื มีกรดอะมิโนท่จี ําเป็นครบแตป่ รมิ าณบางตัวไม่ มากพอ สว่ นโปรตนี ในสาหรา่ ยเช่นสาหร่ายเกลยี วทองมีกรดอะมโิ นทจ่ี าํ เป็นครบทุกตวั เชน่ กัน ความ ต้องการโปรตีนของสัตวน์ า้ํ หรอื ปลาเปน็ ปจั จยั หลักในการสรา้ งสูตรอาหารของสัตว์นา้ํ (ตารางท่ี 5) ตารางที่ 3 ระดบั โปรตีนในอาหารกุ้งทะเลท่ีขนาดตา่ งๆ ขนาดของกุ้ง (กรมั ) ระดับโปรตนี ในอาหาร (%) 0.0002-0.25 50 0.25-1.0 45 1.0-3.0 35 ทม่ี า Akiyama et al. (1991) ตารางที่ 4 คา่ เฉล่ยี ความต้องการกรดอะมิโนท่ีจําเป็นของสัตว์นาํ้ ทวั่ ไป กรดอะมโิ นทีจ่ าํ เปน็ ปรมิ าณทส่ี ัตวน์ ํา้ ตอ้ งการ (% ของโปรตนี ) Arginine 4.5 Histidine 1.9 Isoleucine 2.8 Leucine 4.0 Methionine 3.6 Phenylalanine 6.3 Threonine 3.1 Tryptophan 0.7 Valine 3.5 Lysine 5.3 ตารางที่ 5 ความต้องการโปรตนี ในอาหารของสัตว์นาํ้ เศรษฐกจิ ชนิดสัตวน์ ้าํ ปริมาณที่สัตวน์ ํา้ ต้องการ (% ของโปรตนี ) ปลานลิ 34+8 ปลาสวาย 27+2 ปลาดกุ ลูกผสม 35+5 ปลาชอ่ น 48+5 ปลาไน 35+2 ปลาดุกดา้ น 30+2 ปลากะพงขาว 48+2 กงุ้ ก้ามกราม 34+5 กงุ้ กุลาดาํ 43+7
5 ปัจจัยสําคัญทต่ี อ้ งนาํ มาพิจารณาคอื ความสามารถในการยอ่ ย และดูดซึมอาหารของ ปลา โดยคํานึงถึงค่าสัมประสิทธ์กิ ารย่อยสารอาหารของปลา ส่วนมากสตั วน์ ํา้ สามารถยอ่ ยโปรตนี จาก สัตว์ไดด้ ีกวา่ จากพชื (ประเสริฐ และคณะ, 2525; กลมุ่ วจิ ัยอาหารสัตวน์ ํ้า, 2534, วิมล, 2537 และ นฤมล, 2549) 3. ลปิ ิด หรือไขมันเป็นสารอาหารท่ใี หพ้ ลังงานสงู สุด ไขมนั 1 กรมั ให้พลงั งาน 8-9 กิโลแคลลอร่ี เป็นหน่งึ ใน 3 ของสารอาหารหลกั ที่จําเป็นของอาหารสัตว์น้ํา (โปรตีน ไขมนั และ คารโ์ บไฮเดรต) มีความสําคญั รองจากโปรตนี ไดแ้ ก่ ไขมนั ข้ผี งึ้ นาํ้ มนั phospholipid glycolipid และsterols โดยไขมันเปน็ ของแขง็ ส่วนนาํ้ มนั เป็นของเหลวท่อี ุณหภมู ปิ กติ แหลง่ ทมี่ าไดแ้ ก่ พชื และ สตั ว์ ไขมนั จากพชื อย่ใู นรปู ของเหลว เช่นน้ํามนั ขา้ วโพด น้าํ มนั ถัว่ เหลอื ง ไขมนั ในสตั ว์ส่วนใหญ่อยใู่ น รปู ของแข็ง ไขมันในสตั วม์ ีคอเลสเตอรอล แต่ของพืชไม่มี ไขมันไมล่ ะลายนาํ้ ไขมันมีอยใู่ นทุกเซลล์ ของส่งิ มชี วี ิต เปน็ ส่วนประกอบของผนงั เซลล์ เยื่อหมุ้ หัวใจ เย่ือห้มุ ประสาท ปอ้ งกนั ไม่ให้ ฮอรโ์ มน และวติ ามินซมึ ออกไปนอกเซลล์ ทาํ ให้รา่ งกายอบอ่นุ เป็นตัวกนั การกระทบกระเทอื นของอวัยวะ ภายใน ใหพ้ ลงั งาน ชว่ ยละลาย และดดู ซึมวติ ามนิ บางชนิดได้แก่ เอ ดี อี เค ใหก้ รดไขมนั ท่ีจาํ เป็นตอ่ ร่างกาย เป็นตัวพาลปิ ดิ อ่ืนๆไปทีต่ ับ และสว่ นต่างๆของร่างกาย ไขมันในรา่ งกายของสตั ว์ แบ่งเป็น 2 ประเภท ได้แก่ ไขมนั คงตวั หรือ Constant fat มีอยู่ในปรมิ าณที่นอ้ ยแต่ตอ้ งมีตลอดไป เมื่อสตั วข์ าด อาหารรา่ งกายจะไม่ดงึ ไขมันตัวนอี้ อกมาใช้ และ ไขมนั ไม่คงตวั หรือ variable fat มีในร่างกายสตั ว์ เปน็ พลังงานสํารอง เมื่อขาดแคลนอาหารไขมันสว่ นน้จี ะถูกดงึ มาใช้ กรดไขมัน แบง่ เป็น กรดไขมันที่ อ่ิมตัว (ไขมันสตั ว์ มะพร้าว และปาลม์ ) มจี ดุ หลอมเหลวสงู มากกว่า 60 องศาเซลเซยี ส โดยแขง็ ตัวที่ อุณหภมู หิ ้อง ถ้าไขมนั ท่ปี ลากนิ เขา้ ไปในรา่ งกายมีจุดหลอมเหลวสงู กว่าอณุ หภูมิในตัวปลาทําใหไ้ ขมัน อย่ใู นรปู ของแขง็ เป็นกอ้ นท่ีลําไส้ เกิดการยอ่ ยท่ไี มส่ มบรู ณ์ ดูดซมึ ได้ช้า และกรดไขมนั ทไี่ มอ่ ม่ิ ตวั (นํา้ มนั ปลา น้าํ มนั ตบั ปลา และนํ้ามนั ตบั ปลาหมึก) จุดหลอมเหลวต่ํา อยใู่ นสภาพเป็นของเหลวท่ี อุณหภูมิหอ้ ง มีความสาํ คญั เนอ่ื งจากเปน็ กรดไขมนั ท่จี าํ เปน็ (essential fatty acids หรอื EFA) เพราะสตั วน์ าํ้ ไมส่ ามารถสงั เคราะห์ได้เอง ต้องได้รบั จากอาหารเทา่ นั้น เป็นตน้ กําเนดิ ของ prostaglandin หรือสารท่ีควบคุมการหดตัวของกล้ามเนอ้ื เรยี บท่มี ดลกู เร่งการตกไข่ ควบคมุ การ หล่ังฮอรโ์ มนในร่างกาย และความดนั โลหิต ในกรดไขมนั ที่ไม่อม่ิ ตวั มีกรดไขมนั ทีจ่ าํ เปน็ (เพราะสัตว์นํ้า ไมส่ ามารถสร้างเอง) ไดแ้ ก่ lenoleic (w6โอเมกา้ 6) และlenolenic (w3โอเมกา้ 3) โดยสตั ว์น้ําได้นํา กรดไขมันทง้ั 2 ตวั ไปเพ่ือไปสร้าง arachidonic acid ซึ่งเป็นองค์ประกอบผนังเซลลใ์ นรา่ งกาย ไดแ้ ก่ สมอง กล้ามเนอื้ และตับ ปลาท่ีขาดกรดไขมันท่ีจาํ เป็นทําใหเ้ จรญิ เตบิ โตชา้ เซลลค์ รีบหางตาย ตับซีด มีไขมันมาก ผวิ ขาวบรอนซ์ ท้องบวม เมด็ เลอื ดแดงแตก หายใจเร็วข้นึ กว่าปกติ ปลานิลต้องการ n-6 fatty acids (18:2n6โอเมกา้ 7) ทรี่ อ้ ยละ 0.5 ( Lovell, 1998) กุง้ ก้ามกรามตอ้ งการ n-6 fatty acids ส่วนกงุ้ ทะเล Penaeus spp.ต้องการกรดไขมนั ดงั ตารางที่ 6 ไขมันจากสตั วม์ wี 3 หรือโอเมกา้ 3 สูง สว่ นไขมนั จากพชื มีw6 หรอื โอเมก้า 6 สงู นอกจากกรดไขมันยังมลี ปิ ิดที่สําคัญโดยเฉพาะสตั วน์ า้ํ ทม่ี ีเปลือก (ตารางท่ี 6) นั่นคอื คอเลสเตอรอล ซึ่งเป็น sterols ท่ีพบในสตั วเ์ ป็นสารจําเป็นในการสร้าง น้าํ ดี ฮอรโ์ มนเพศ และฮอร์โมนลอกคราบ จําเปน็ ตอ่ การสรา้ งเซลลใ์ หม่ และphospholipid ทีเ่ ปน็ องค์ประกอบของผนังเซลล์ และช่วยลาํ เลยี งกรดไขมันไปยังสว่ นตา่ งๆของร่างกาย ปรมิ าณไขมนั ใน อาหารควรสัมพันธ์กบั ปรมิ าณโปรตีน และสารอาหารอื่นๆ ชนิดสตั ว์น้ํา ลกั ษณะของอาหาร (แห้ง หรือเปยี ก) การยอ่ ยไดข้ องไขมนั และอณุ หภมู ิของนาํ้ ระดบั ไขมนั ทใ่ี สใ่ นอาหารสัตวน์ ้ํา (ตารางที่ 7) ได้แก่ ปลานลิ และปลาดุกไมเ่ กิน 10% กุง้ ควรตํา่ กวา่ 10% ถ้าใส่ไขมนั สงู เกินไปทาํ ให้เกิดออกซิไดส์
6 ส่งผลให้เกิดการหนื ดังนั้นอาหารทีม่ ีไขมนั สงู ตอ้ งใสส่ ารกันหืน เกบ็ ในทีม่ ดื และมอี ุณหภมู ิต่าํ ๆ (ประเสริฐ และคณะ, 2525; กลมุ่ วจิ ัยอาหารสัตวน์ าํ้ , 2534 และ นฤมล, 2549) ตารางที่ 6 ระดับกรดไขมนั ทเ่ี หมาะสมในอาหารกุ้งทะเล กรดไขมัน ระดบั ความต้องการ (%) Linolenic acid(18:3n3) 0.3 Linoleic acid (18:2n6) 0.4 Eicosapentaenoic (20:5n3) 0.4 Decosahexaenoic acid (22:6n3) 0.4 ที่มา : Akiyama et al. (1991) ตารางที่ 7 ความต้องการลิปิดในรูปแบบตา่ งๆ (% อาหาร) สัตวน์ ้ํา กรดไขมนั ท่ีจําเปน็ phospholipid คอเลสเตอรอล ปลานลิ 1% w6 (2%นา้ํ มนั พชื ) 0.05% - ปลาน้าํ จดื ท่ัวๆไป 1% w3+1% w6 (4%นาํ้ มันพชื ) 0.05% - ปลาทะเล และน้ํากร่อย 1% w3 (4%นาํ้ มันปลา) 3% - กงุ้ น้ําจดื 0.75% w3 (3%นํา้ มนั ปลา) - 0.5%(3%ปลาหมึก+ 5%หัวกุ้งป่น) กุ้งทะเล 1% w3 (4%นํา้ มันปลา) 3% 0.5%(3%ปลาหมกึ + 5%หวั กุ้งป่น) ที่มา :วิมล (2537) 3. วิตามนิ เปน็ สารทีส่ ตั ว์นํา้ ตอ้ งการในปรมิ าณทีน่ อ้ ย แตข่ าดไมไ่ ด้ มาจาก vital+amine หมายถึงสารประกอบทีส่ าํ คัญเทา่ ชวี ิต สามารถเกิดข้ึนเองตามธรรมชาติ และเกิดจาก การสังเคราะห์ วิตามนิ ที่ความสาํ คญั ตอ่ สตั วน์ าํ้ มีประมาณ 15 ชนิด ดังนี้ ก. กลมุ่ ทลี่ ะลายในไขมัน น้ํามนั เนย อีเทอร์ และแอลกอฮอร์มี 4 วติ ามนิ ดังนี้ - วติ ามนิ เอ ชว่ ยเกยี่ วกับการมองเหน็ ช่วยเรง่ การเจริญเติบโต รกั ษาเย่ือบุระบบ ตา่ งๆให้แข็งแรง ควบคุมการสรา้ งเซลลใ์ หม่ และกระดูกให้เปน็ ไปอยา่ งปกติ สตั วท์ ุกชนิดตอ้ งการ วิตามนิ เอ ในพืชไม่มีวิตามนิ เอ แตจ่ ะแฝงอยู่ในรูปคาโรตนี มสี เี หลอื ง หรือ pro vitamin A ซึ่งร่างกาย สัตวส์ ามารถเปลี่ยนให้เป็นวติ ามินเอ หรือ active vitamin A ได้ แตป่ ลาไมส่ ามารถเปลีย่ นได้ เนอ่ื งจากขาดน้ํายอ่ ยท่ีแตกโมเลกลุ ของคาโรตนี ไปเป็นวติ ามนิ เอ ถา้ ขาดวติ ามินเอ ปลาตาขนุ่ ตาบวม ปดู และอักเสบ การสรา้ งกระดูกอ่อน และกระดกู เปน็ ไปอย่างไม่ปกติทําใหก้ ระพุง้ แก้มหงิกงอ เจริญเติบโตชา้ แหล่งวิตามนิ เอพบในผัก ผลไมส้ เี ขียว และสเี หลือง นํา้ มันตบั ปลา นม ไข่แดง ถา้ ไดร้ ับวติ ามินเอมากเกนิ ไป เกิดการสะสมในร่างกายเกิดโทษ (เพราะร่างกายไมส่ ามรถขบั ออกมาได้ เหมอื นวิตามนิ ทลี่ ะลายในน้ํา) ไดแ้ ก่ ตบั โต ม้ามโต - วิตามนิ ดี รา่ งกายสามารถสร้างได้ โดยปฎกิ ริยากับแสงแดดต่อร่างกาย วิตามนิ ดีมี บทบาทในการใชป้ ระโยชน์ของแคลเซยี ม และฟอสฟอรัส ทาํ หน้าที่ดดู ซมึ ฟอสฟอรัส และกรดอะมิโน ท่อี ยูใ่ นไตกลบั คืนมา มสี ว่ นรว่ มในการสร้างฟนั มีสว่ นในการเจรญิ ของกระดกู วิตามินดีมีหลาย รูปแบบ แต่ทสี่ ําคัญคือวติ ามินD2 และวิตามนิ D3 ถ้าขาดวติ ามินดีทาํ ใหไ้ มส่ ามารถใชป้ ระโยชน์ของ
7 แคลเซียม และฟอสฟอรสั ไดเ้ ตม็ ท่ี อตั รารอดตายลดลง แหล่งท่มี วี ติ ามนิ ดีคือไขไ่ ก่ นา้ํ มนั ตับปลา ตับ ยสี ต์ และอาหารทน่ี ํามาผึง่ แดด ถ้าไดร้ บั วิตามนิ ดีมากเกนิ ไป (เพราะรา่ งกายไม่สามรถขับออกมาได้ เหมอื นวิตามินท่ลี ะลายในน้าํ ) วิตามินท่เี หลอื ใชเ้ ปน็ พิษตอ่ ตับ ทาํ ใหต้ ับพกิ าร การเจรญิ เตบิ โตชะงัก ทําให้กระดกู โพรง - วติ ามนิ อี เปน็ วิตามนิ ทท่ี นต่อความร้อน มบี ทบาทป้องกนั สารทม่ี ี double bond ในกลา้ มเนอื้ เรยี บไม่ให้ถกู oxidize ไป (ปอ้ งกันการหืน) หรอื เปน็ antioxidant ช่วยรักษาคณุ สมบตั ิ ในการให้สารซมึ ผ่านเซลล์ของเสน้ เลอื ดฝอย และหวั ใจ ควบคุมกล้ามเนอื้ หวั ใจให้ทาํ งานไดป้ กติ ช่วย ในการฟกั ไข่ของปลา ถ้าขาดวติ ามนิ อที ําใหเ้ จรญิ เติบโตชา้ โลหติ จาง ระบบสบื พนั ธผุ์ ิดปกติ หรือเป็น หมนั ตัวงอ อตั ราการตายสูง ตับเหลอื ง ตับมไี ขมันมาก เมด็ เลอื ดเปราะ ตกเลือดท่ีไต ทอ้ งบวม ตัวสี ซดี ตาโปน ลาํ ตวั และครีบมสี ซี ีด กระพ้งุ เหงอื กบดิ เบยี้ ว แหลง่ วิตามินอี มีในพืชสีเขยี ว และในเมลด็ พืช จมูกขา้ วสาลี นํา้ มันถว่ั เหลอื ง นา้ํ มันข้าวโพด รําละเอยี ด ถา้ ได้รบั วติ ามนิ อมี ากเกินไป (เพราะ ร่างกายไมส่ ามรถขบั ออกมาไดเ้ หมอื นวิตามินทลี่ ะลายในนาํ้ ) ทาํ ให้ตับพกิ าร เบอ่ื อาหาร สีลาํ ตัวเขม้ ตาย - วิตามินเค จดั เป็นวิตามินที่เปน็ สว่ นประกอบเอนไซมท์ ่ที าํ ให้เลือดจบั ตัวแข็งเรว็ ขนึ้ ป้องกนั เลอื ดออกไมห่ ยดุ ถา้ ขาดวิตามินเคมีผลทําให้เลือดแข็งตวั ช้าลง 3-5 เทา่ แผลหายช้า ท้องบวม เลอื ดคั่งตามเหงือก และตา โดยเฉพาะกลา้ มเน้อื ทมี่ ีเส้นเลอื ดฝอยไปหล่อเลี้ยง ถา้ ปลาขาดวติ ามนิ เค นานๆทําให้เปน็ โรคโลหิตจาง แหล่งทมี่ ีวิตามินเค ไดแ้ ก่ ใบพชื สด ปลาปน่ เนือ้ ปน่ และตบั ข. กลุ่มท่ลี ะลายในนาํ้ พบในพชื ผกั ผลไม้ ยสี ต์ มี 11 วติ ามนิ ดังนี้ - วิตามนิ บี1 หรือไทอามีน (Thiamine) ละลายได้ท้งั ในนํา้ และแอลกอฮอล์ มกี ล่ิน และรส คงสภาพได้ดใี นสภาวะที่เป็นกรดออ่ น แต่สลายตัวได้ง่ายในสภาพเป็นกลางหรือด่าง เป็น ส่วนประกอบของ coenzyme a ร่วมในปฎิกริยาสันดาปคารโ์ บไฮเดรตใหส้ มบรู ณ์ ถา้ ขาดวติ ามนิ บ1ี ทําให้ปฎิกริยาไมส่ มบรู ณ์ ทําใหเ้ กดิ การคัง่ คา้ งของกรดไพรอู วิค และกรดแลคตกิ ในสมองและ กล้ามเนอื้ การใชค้ าร์โบไฮเดรตไม่ได้ผล มผี ลต่อการทาํ งานของระบบประสาท และกลา้ มเนื้อ ชัก ทํา ใหป้ ลาตกใจง่าย เสียการทรงตัวว่ายหมุนไปมา ที่ฐานครบี มรี อยช้ําเลือด ท้องบวม รา่ งกาย เจริญเติบโตชา้ สมองไม่พัฒนา แหลง่ วิตามนิ บ1ี พบในยสี ต์ เมล็ดพืชที่ปุ่มงอก ราํ ขา้ ว ปลาป่น ปัจจบุ นั สามารถสังเคราะหไ์ ด้ ขอ้ ควรระวังอย่าผสมวติ ามินบ1ี ร่วมกับเนอื้ ปลาดบิ เพราะทําให้ลด ประสิทธภิ าพของวติ ามินบี 1 - วติ ามินบ2ี หรอื ไรโบเฟลวนิ (Riboflavin) เปน็ ผลึกสีเหลือง ละลายทง้ั ในนาํ้ แอลกอฮอล์ และในด่าง สลายตัวได้ง่ายในสภาพที่เป็นด่าง และถกู แสงแดด ทนความร้อนได้ดีใน สภาพแห้ง และทนตอ่ การออกซไิ ดซ์ในสภาพทเี่ ปน็ กรดหรอื เปน็ กลาง ร่วมในปฎกิ รยิ าการหายใจของ เนื้อเยอ่ื ท่เี ส้นเลือดไปเล้ยี งนอ้ ย เปน็ สารรว่ มสรา้ งพลงั งานในขบวนการชีวเคมีตา่ งๆของรา่ งกาย องค์ประกอบของ enzyme ช่วยในการสลายตวั ของนา้ํ ตาล ช่วยรา่ งกายในการใช้ โปรตนี ไขมัน คาร์โบไฮเดรต อย่างมีประสิทธภิ าพ ใช้แลกเปลย่ี นออกซเิ จนในเน้ือเยอื่ ท่ีสําคัญ เช่น ตา ทํางาน ร่วมกบั วติ ามนิ บ6ี ในการเปลยี่ นทรบิ โตแฟนไปเปน็ ไนอาซีน หรือ nicotinic acid หรอื วติ ามินบี3 ซึ่ง ใชใ้ นลปิ ิด metabolism ถา้ ขาดวติ ามินบี2 ทําใหร้ ะบบประสาทส่วนกลางทํางานผิดปกติ เมด็ เลอื ด แดงเสื่อมสมรรถภาพ เบ่อื อาหาร มา่ นตาผดิ ปกติ เลนซต์ าขนุ่ โรคกลวั แสง ตาแดงชํ้า ตาตอ้ ตาบอด ปอด หัวใจชา้ํ ไตพิการ หวั ทู่ ตัวสน้ั ป้อม ผวิ คลา้ํ หนวดกดุ เหงือกซีด ตบั ซีด ตกเลอื ดตามลําตัวและ
8 ครีบ อตั รารอดตายตํ่า แหล่งวติ ามนิ บ2ี ได้แก่ นม ตับ หวั ใจ ยีสต์ ถวั่ เหลอื ง ถ่วั ลสิ ง ไก่ ปลาปน่ กงุ้ ป่น และมลู สัตว์ ข้อควรระวังควรปอ้ งกันไมใ่ หโ้ ดนแสงแดด - วติ ามนิ บี3 หรอื ไนอาซนี (nicotinic acid) เป็นผลึกสขี าว ละลายได้ท้งั ในนํ้า และ แอลกอฮอล์ ทนความรอ้ นท้งั ในสภาพทเ่ี ปน็ กรด และดา่ ง เป็นตวั รว่ มในปฏิกรยิ าถ่ายอีเล็คตรอน ช่วย เผาผลาญไขมนั และโปรตีนในรา่ งกาย ทํางานร่วมในขบวนการทางชีวเคมี มีองค์ประกอบเปน็ สารที่ สาํ คญั ซ่งึ ทาํ งานร่วมในปฏิกริยาต่างๆมากมายในรา่ งกาย ถ้าขาดวติ ามินบ3ี เบอื่ อาหาร กระเพาะและ ลาํ ไสใ้ หญเ่ ปน็ แผลบวม ประสาทผิดปกติ ผิวหนงั มีลกั ษณะแห้งไหม้เป็นแห่งๆ กลา้ มเน้อื กระตุก เคลือ่ นไหวช้า ว่ายนํา้ ผดิ ปกติ เสียการทรงตัว ขากรรไกรผดิ รูปรา่ ง ตกเลือดทีผ่ วิ หนังและครีบ แหล่ง วติ ามนิ บ3ี ไดแ้ ก่ ยสี ต์ ตับ ไต หัวใจ ถวั่ ผกั สีเขยี ว ขา้ วสาลี นม และไข่ - วติ ามินบ5ี หรอื กรดแพนโททนิ ิก (Pantothenic acid) เปน็ นา้ํ มันสีเหลือง ใช้ใน รูปผลกึ ของเกลือแคลเซยี มสขี าว ทนต่อ oxidizing และ reducing agent สลายตวั ไดง้ ่ายเมอื่ ถกู ความรอ้ นสงู เปน็ องค์ประกอบของ coenzyme A เก่ยี วขอ้ งกบั การสรา้ งพลงั งานจากสารอาหาร พวกโปรตนี ไขมนั และคารโ์ บไฮเดรต มีสว่ นช่วยในการสงั เคราะหไ์ ขมนั คอเลสเตอรอล เมด็ เลือดแดง สารฮอรโ์ มน จากสเตอรอยด์ ถ้าขาดวิตามนิ บ5ี ปลาหยดุ กินอาหาร เบอื่ อาหาร การเจรญิ เติบโต ลดลง ผิวหนังตกเลือด โลหติ จาง มเี ลือดค่ังบรเิ วณซี่เหงือกทาํ ให้ซเ่ี หงอื กบวม และปลายซ่ีเหงอื กแผ่ เปน็ แผน่ รวมกนั ผวิ หนงั เปน็ แผล ว่ายนํ้าผดิ ปกติ แหล่งกรดแพนโททินกิ ราํ ขา้ ว รําข้าวสาลี ยสี ต์ ตับ ไต หัวใจ มา้ ม เนอ้ื ปลา ถัว่ ลสิ ง และcalcium pantothenic - วติ ามนิ บี6 หรือไพรดิ อกซนิ (Pyridoxine) สลายตวั ได้งา่ ยเม่ือโดนแสง ทนตอ่ ความรอ้ นท้งั ในสภาพท่เี ป็นกรด และด่าง ร่วมปฎกิ รยิ าในการสนั ดาปโปรตีนใหเ้ ป็น ATP ร่วมกบั วติ ามนิ บี2 ในการเปลีย่ นทรบิ โตแฟนไปเป็นไนอาซนี หรอื nicotinic acid มีสว่ นร่วมในการสรา้ ง mRNA เป็น coenzyme สาํ หรับใช้ protein catabolism ชว่ ยสร้าง antibody ถา้ ขาดตามนิ บ6ี ทํา ให้หายใจถ่ีเร็ว เลือดออกตามผวิ หนงั ระบบประสาทผิดปกติ เกล็ดตั้ง ตาโปน หงุดหงดิ กระวนกระวาย ว่ายนาํ้ หมนุ ตายกระทันหนั และตวั แขง็ หลังจากตายอย่างรวดเร็ว แหล่งวติ ามินบ6ี ได้แก่ ยสี ต์ ราํ เมล็ดธญั ญพชื ไข่แดง ตับ นม - วติ ามนิ บ7ี หรอื ไบโอติน (Biotin) ละลายไดใ้ นน้าํ และละลายในแอลกอฮอลไ์ ด้ เลก็ นอ้ ย ทนตอ่ ความรอ้ น และแสง แตถ่ กู ทาํ ลายได้ดว้ ยกรด ดา่ ง หรือ oxidizing agent เป็นตวั ร่วม ในการถา่ ยเทคาร์บอนไดออกไซด์ เกย่ี วกบั การสังเคราะหไ์ ขมันในปฏกิ รยิ า elongationให้มโี ครงสร้าง ยาวข้นึ มีส่วนในขบวนการสร้างพลงั งานจากสารอาหาร และสงั เคราะหส์ ารจากแอมโมเนียทตี่ ้องการ กําจดั ทงิ้ การแบ่งเซลล์ มคี วามสําคญั ต่อการเจริญเตบิ โต มคี วามสาํ คญั ตอ่ ระบบประสาท และ กล้ามเน้อื ถา้ ขาดวติ ามนิ บ7ี การเจริญเตบิ โตลดลง มแี ผลที่ลาํ ไส้ใหญ่ กล้ามเนือ้ ลีบและกระตกุ มีแกน ซี่เหงอื กหนา แต่ซีด ว่ายน้าํ ผดิ ปกติ สีตวั ซีด แหลง่ วิตามนิ บ7ี ได้แก่ ตบั ไต ยีสต์ นม ไข่ ไบโอติน สังเคราะห์ - วิตามินบ8ี หรอื อนิ โนซิทอล (Inositol) ผลึกสขี าว ละลายไดใ้ นนาํ้ แตไ่ มล่ ะลายใน แอลกอฮอลห์ รอื อเี ทอร์ เปน็ องคป์ ระกอบของผนังเซลล์ เปรยี บเสมือนกาวยึดเซลล์เขา้ ด้วยกัน ทํา หนา้ ท่ีรว่ มกับ Choline ในการรักษาระดบั ไขมันในร่างกายไมใ่ ห้ไปสะสมท่ีตบั เป็นแหลง่ คารโ์ บไฮเดรตของกลา้ มเนอื้ ถา้ ขาดวติ ามนิ บี8 เจรญิ เตบิ โตชา้ การยอ่ ยช้า ทอ้ งบวมมีนํ้าขัง โลหิตจาง สีคลํา้ ไขมนั สะสมทีต่ บั มาก มแี ผลตามตัวและครบี ลาํ ไสเ้ ล็กมสี เี ทา ตกเลือดในลําไสเ้ ลก็ แหลง่ วิตามิน บ8ี ได้แก่ ถั่ว สมอง หวั ใจ ยสี ต์ กากส้มหรอื มะนาว
9 - วิตามินบี9 หรือโฟลกิ (Folic acid) ผลึกรูปสเ่ี หลย่ี ม ละลายได้ทัง้ ในนา้ํ และใน แอลกอฮอล์อย่างเจือจาง ตกตะกอนกบั เกลอื ของโลหะ ในสภาพที่เป็นกรดสลายตวั ได้งา่ ยเมอื่ ถูกความ ร้อนหรือแสงแดด มีความสาํ คัญตอ่ การเจรญิ เตบิ โตเป็น growth factor และป้องกันโรคโลหติ จางใน ปลา สร้างเมด็ เลือดแดงท่สี ่วนหน้าของไต เป็นตัวรับส่งคาร์บอนเดยี่ วในร่างกาย ถ้าขาดวิตามินบี9 เบ่ืออาหาร เหงือกซีด โลหติ จาง ตกเลือดทีไ่ ต และลาํ ไสเ้ ลก็ เม็ดโลหติ แดงมีลกั ษณะเปน็ รูปรกั บีต้ ิด เป็นคู่ๆ มนี ํ้าในช่องทอ้ ง สตี ัวคลํา้ ครบี บางขาดงา่ ย การเจรญิ เตบิ โตลดลง แหล่งวิตามินบ9ี ได้แก่ ใบ พืชสีเขียว ยีสต์ ตบั ไต เนื้อและเครอื่ งในปลา ถ่ัวเหลือง เมลด็ ธญั ญพชื - วติ ามนิ บี12 หรอื Cyanocobalamin ในรปู ผลึกสแี ดง ทนความร้อนได้เลก็ น้อย เมือ่ อยูใ่ นสภาพเปน็ กลาง สลายตวั ไดง้ า่ ยในสภาพเป็นกรดหรอื ดา่ ง ช่วยป้องกันโรคโลหติ จาง ทาํ หน้าท่ีร่วมกับกรดโฟลกิ ในการสร้างเม็ดเลอื ดแดง รักษาสภาพของเน้ือเย่อื สมอง ช่วยสงั เคราะห์ คอเลสเตอรอล ถา้ ขาดวติ ามินบี12 เม็ดเลอื ดแดงแตกง่าย และมีรปู ร่างผดิ ปกติ ปรมิ าณ Hemoglobin ตาํ่ โลหติ จาง coenzyme แหล่งวิตามินบ1ี 2 ไดแ้ ก่ ปลาปน่ เคร่ืองในปลา ตับ ไต อาหารทีใ่ ส่วิตามินบี12ควรเก็บในท่ีเย็น และไมค่ วรเกบ็ ไวน้ าน - โคลนี (Choline) ละลายในน้าํ ทนความรอ้ นเม่ืออยูใ่ นสภาพเป็นกรด สลายตัวใน สภาพเปน็ ด่าง เพราะโคลนี เปน็ ด่างแก่ เป็นองค์ประกอบของเซลล์ชว่ ยในการลาํ เลยี งไขมัน ทําหน้าท่ี ร่วมกบั วิตามนิ บี8ในการรกั ษาระดับไขมันในร่างกายไมใ่ หไ้ ปสะสมทตี่ ับ ใชใ้ นการสร้างสารประกอบ ใหมๆ่ ท่รี ่างกายต้องการ เพิม่ ประสทิ ธภิ าพการใชส้ ารอาหาร ถ้าขาดโคลีน การเจริญเตบิ โตลดลง ประสิทธภิ าพการเปลีย่ นอาหารเป็นเนื้อปลาตาํ่ มไี ขมันสะสมทตี่ บั ตกเลือดทีไ่ ตและลาํ ไส้เล็ก ตับโต ลําไส้และไตแดงชา้ํ แหล่งโคลีน ไดแ้ ก่ ไข่แดง เคร่ืองในสัตว์ ถว่ั เหลอื ง ถว่ั ลิสง จมูกข้าว ข้าวโอ๊ต กะหลํา่ ปลี กะหลาํ่ ดอก เนอ้ื สตั ว์ - วติ ามินซี (Ascorbic acid) เปน็ ผลึกสีขาว ไม่มีกลิ่นละลายในนํ้า เมอ่ื อยูใ่ นสภาพท่ี เปน็ ด่างถกู oxidized ไปเปน็ dehydroascorbic acid ได้งา่ ย มปี ระสิทธภิ าพของการทาํ งานตํ่า สลายตวั ง่ายเมอื่ โดนความรอ้ น เป็นสว่ นประกอบของเอนไซม์ เกย่ี วกับสร้างโปรตนี คอลลาเจน เมด็ เลือดแดง ภูมคิ ุ้มกนั สรา้ งกระดกู อ่อน และกระดูก ชว่ ยให้แผลหายเปน็ ปกติ ถ้าขาดวิตามนิ ซี ทาํ ให้ การสรา้ งกระดกู อ่อน และกระดกู ผดิ ปกติ กระดกู สนั หลังคดงอ กระดูกอ่อนที่ครีบ ขากรรไกรผดิ ปกติ เหงือกออ่ นแอไมเ่ จริญเทา่ ทคี่ วร เน้ือบริเวณฐานครบี แดงช้ํา เป็นแผลหายช้า มกี ารตกเลอื ดทต่ี า ปาก เพดานปาก ตามกระพุ้งเหงือก ตามลําตัว ตบั ไต ลาํ ไส้เล็ก และกล้ามเนอื้ ความตา้ นทานโรคลดลง การเจริญเตบิ โตลดลง ตวั ดํา ตาย แหลง่ วติ ามินซี ได้แก่ กะหลํา่ สม้ มะนาว แมลง ตับ ไต หนงั ปลา วิตามนิ ซีสังเคราะห์ ปกตวิ ิตามนิ มอี ยู่บา้ งในวัสดุท่ีนาํ มาทาํ อาหารสัตวน์ าํ้ อย่แู ลว้ แต่เพอื่ ปอ้ งการขาด วติ ามนิ อาจตอ้ งผสมเพม่ิ เขา้ ไป (ประเสรฐิ และคณะ, 2525; กลมุ่ วจิ ยั อาหารสัตวน์ า้ํ , 2534 และ นฤ มล, 2549) 4. แรธ่ าตุ เป็นสารอาหารท่สี ําคัญต่อการดาํ รงชวี ิตของปลาหรือสตั วน์ ้าํ ให้กจิ กรรม ต่างๆภายในร่างกายดําเนนิ ไปอย่างปกติ เพ่อื ทาํ ไปสรา้ งเนอื้ เยื่อตา่ งๆเพื่อเป็นโครงสร้างของร่างกาย ระบบการจดั สมดลุ ย์ ปลาไดร้ บั แร่ธาตหุ ลายชนดิ จากนาํ้ ผา่ นทางเหงือก และบางสว่ นจากวัสดทุ น่ี ํามา ทําอาหารแตก่ ็ยงั ไมเ่ พียงพอกับความตอ้ งการ เพราะบางส่วนสญู เสียไประหว่างข้นั ตอนการผลติ หรอื ปลาใชป้ ระโยชน์ธาตนุ น้ั ๆจากวัตถุดบิ ไดน้ ้อย ยากตอ่ การยอ่ ย และดูดซึม จึงจาํ เป็นตอ้ งได้รับจาก อาหาร แบ่งแรธ่ าตอุ อกได้เป็น 2 กล่มุ ดงั นี้
10 ก. แรธ่ าตหุ ลกั (Macro mineral) เปน็ แร่ธาตหุ ลกั ทร่ี า่ งกายต้องการในปริมาณท่ี มากมี 7 ธาตแุ ตม่ ีเพียง 3 ธาตุที่ตอ้ งใสเ่ พิ่มในอาหาร ดงั นี้ 1. แคลเซียม Calcium (Ca) เปน็ สารหลักในการสร้างกระดูก เกล็ด การหดตัวของ กล้ามเนอื้ การแข็งตวั ของเลอื ด นํา้ ย่อยไดแ้ ก่ Lipase และ Protease การทาํ งานของระบบประสาท การจัดสมดุลในรา่ งกาย ปลาดูดซึมแคลเซียมจากน้ําไดม้ ากหรอื นอ้ ยข้ึนอยู่กับคุณภาพของนํา้ ว่าเป็น น้ําอ่อน หรอื น้าํ กระดา้ ง และปริมาณฟอสฟอรสั ในนํ้าและในอาหารถา้ มมี ากพอมผี ลทําให้ปลาดูดซมึ แคลเซยี่ มจากน้ําไดม้ ากขึน้ ส่วนการดดู ซมึ แคลเซียมในลาํ ไส้ของปลานั้นตอ้ งอาศยั วิตามนิ D3 เปน็ ตวั ช่วยจึงดดู ซมึ ไดด้ ี อาหารสตั วน์ าํ้ ทม่ี สี ่วนประกอบวตั ถดุ ิบจากพืชในปริมาณทมี่ ากสง่ ผลให้ ประสิทธภิ าพการดูดซมึ แคลเซียมลดลง นอกจากนัน้ ยงั ข้ึนอยู่กับความเป็นกรดเป็นด่างในทางเดิน อาหาร ถา้ ทางเดินอาหารมีสภาพเป็นกรดปลาสามารถใชป้ ระโยชนจ์ ากแคลเซียมในอาหารได้ดกี ว่า 2. ฟอสฟอรสั Phosphorus (P) เป็นธาตทุ จี่ ําเปน็ ในการสร้างกระดูกร่วมกับ แคลเซยี ม สร้างพลังงาน และเปน็ องคป์ ระกอบของเซลล์เมมเบรน เปน็ รหัสของกรรมพนั ธุ์ควบคุมการ สืบพันธุ์ และการเจริญเติบโต ใช้ในรปู อนินทรีย์ และอินทรีย์ ปลาดดู ซมึ ฟอสฟอรสั ไดจ้ ากนํา้ ได้แตใ่ น ปรมิ าณทีน่ ้อย ปลาดดู ซมึ ฟอสฟอรัสจากอาหารไดด้ ีกวา่ แตข่ นึ้ อยกู่ บั แหล่งวตั ถุดิบฟอสฟอรัสในอาหาร ถ้าเป็นพชื ดดู ซึมได้นอ้ ยมาก แต่ถา้ เปน็ สตั ว์ เช่นปลาป่นดูดซมึ ได้ดีพอสมควร ปลาท่ีมีกระเพาะ เช่น ปลาดกุ ปลาช่อน ดดู ซึมฟอสฟอรัสได้ดีกวา่ ปลาทีไ่ มก่ ระเพาะ เชน่ ปลาไน นอกจากน้ียังข้ึนอยูก่ ับ ปรมิ าณแคลเซยี มในอาหารอกี ดว้ ยเพราะถ้ามแี คลเซียมมากเกนิ ไปทาํ ใหป้ ลาย่อยฟอสฟอรัสไดน้ ้อยลง ถา้ ขาดฟอสฟอรสั ปลาเตบิ โตช้า หัวกระโหลก และกระพุ้งเหงือกของปลาส้ันกว่าปกติ 3. แมกนิเซียม Magnesium (Mg) ประมาณรอ้ ยละ 70 ของแมกนิเซียมอย่ใู น กระดูกและเกลด็ เป็นตวั ชว่ ยเสรมิ ให้ enzyme ในรา่ งกายใชป้ ระโยชนจ์ าก ไขมนั คาร์โบไฮเดรต โปรตนี ช่วยสรา้ งกระดกู มบี ทบาทต่อรา่ งกายในการใชว้ ิตามนิ บ1ี แมกนิเซียมมมี ากทงั้ ในเนอ้ื เยื่อของ พชื และสตั ว์ แต่ปลาสามารถนําแมกนิเซยี มในเน้อื เยื่อสัตว์ไปใช้ไดม้ ากกวา่ ปลาดดู ซึมแมกนเิ ซียมได้ จากน้ําเชน่ กนั แต่ในน้ําจดื มีแมกนเิ ซยี มนอ้ ยไมพ่ อเพียงจาํ เป็นต้องได้จากอาหาร แต่ปลาทะเลไม่ ตอ้ งการเพราะไดแ้ มกนเิ ซยี มจากน้ําทะเลเพยี งพอ ปลาท่ีขาดแมกนเิ ซียม มอี าการชกั ขากรรไกรแขง็ แต่ถ้าไดร้ ับแมกนิเซียมมากเกินไปทาํ ใหป้ ลามอี าการทางประสาท ข. แรธ่ าตุรอง (Trace mineral) เปน็ แร่ธาตทุ รี่ า่ งกายต้องการในปรมิ าณที่นอ้ ยมาก มี 7 ธาตดุ ังนี้ 1. เหลก็ (Fe) ในรูปอนมุ ลู ferrous (Fe++) เปน็ ประโยชน์ต่อปลาเนอ่ื งจากปลาดดู ซึมไดด้ ี เหลก็ เปน็ ตัวนําออกซิเจนในปลา และมีผลต่อระบบเอนไซมใ์ นรา่ งกาย เปน็ องคป์ ระกอบเม็ด เลอื ดแดง ถา้ ขาดเหล็กทําใหเ้ ป็นโรคโลหติ จาง 2. ไอโอดนี Iodine (I) เปน็ องค์ประกอบของฮอร์โมนทช่ี ่วยปอ้ งกันโรคคอหอยพอก ถ้าขาดไอโอดีนทําให้เกิดโรคคอหอยพอกในปลา 3. สงั กะสี Zinc (Zn) เป็นองค์ประกอบเอน็ ไซมย์ ่อยโปรตีน และคารโ์ บไฮเดรต เป็น สว่ นสาํ คัญในโครงสรา้ งและหนา้ ทีข่ องอนิ ซูลนิ มบี ทบาทในความอยากอาหาร ถา้ ขาดสงั กะสสี ่งผลให้ ปลามีเลนซ์ตาผิดปกติ 4. ซลี เี นยี ม Selenium (Se) ทาํ หนา้ ทีค่ ลา้ ยวติ ามนิ อี ชว่ ยการคงสภาพของเซลล์ เมมเบรน ปอ้ งกันโรคตบั ล้มเหลว (Liver necrosis) และ White muscle แตถ่ ้าไดร้ ับมากเกนิ ไปมผี ล ทาํ ใหป้ ลาโตชา้ อัตราการตายสงู
11 5. ทองแดง Copper (Cu) เป็นองคป์ ระกอบของ Hemocyanin ของเลือดในสัตว์มี เปลือก ได้แก่ กงุ้ ปู ชว่ ยการพัฒนาการกระดูก จําเปน็ ต่อการสรา้ งเมด็ เลอื ดแดง ถ้ามีมากเกินไปส่งผล ใหป้ ลาโตช้า และเป็นโรคโลหติ จาง เนื่องจากทองแดงไปขดั ขวางการดูดซมึ ธาตเุ หล็ก 6. แมงกานีส Manganese (Mn) เปน็ องค์ประกอบเอ็นไซม์ท่ียอ่ ย ไขมนั โปรตนี และคารโ์ บไฮเดรต เก่ียวขอ้ งกบั การสรา้ งกระดูก การสร้างเมด็ โลหติ แดง และการเปน็ หมัน 7. โคบอลต์ Cobalt (Co) จําเป็นในการสร้างวติ ามนิ บี 12 และเม็ดเลอื ดแดง ปริมาณแรธ่ าตทุ ี่สตั ว์น้ําตอ้ งการที่นาํ มาผสมในอาหารตามตารางที่ 8 (ประเสรฐิ และ คณะ, 2525; กลมุ่ วจิ ยั อาหารสตั วน์ ํา้ , 2534 และ วิมล, 2537) ตารางที่ 8 ปรมิ าณแร่ธาตทุ ่สี ตั ว์นํ้าต้องการ แรธ่ าตุ ปรมิ าณ แคลเซียม (%) 0.3-0.5 ฟอสฟอรสั (%) 0.6 แมกนเิ ซียม (%) เหล็ก (มก./กก.) 0.04-0.05 ไอโอดนี (มก./กก.) 30 สังกะสี (มก./กก.) 1-5 ซีลเี นียม (มก./กก.) 150 ทองแดง (มก./กก.) แมงกานีส (มก./กก.) 0.15-0.40 โคบอลต์ (มก./กก.) 1.5-5.0 ที่มา :วิมล (2537) 12 0.05 การยอ่ ยอาหาร (Digestion) อาหารสัตวน์ าํ้ มีประโยชน์หรือไมข่ นึ้ อยู่กบั ความสามารถในการย่อย และดูดซึม นาํ ไปใชป้ ระโยชนข์ องสัตว์น้าํ หรอื ปลา โดยมปี จั จยั หลายๆอย่างทม่ี ผี ลตอ่ อัตราการยอ่ ยอาหาร ดงั นี้ 1. ชนิดของสตั วน์ ํา้ มีความแตกตา่ งในระบบทางเดินอาหาร ทําใหป้ ลาหรอื สตั ว์ น้าํ ย่อยอาหารแตล่ ะชนิดได้ไมเ่ ท่ากนั เช่น ปลาที่มกี ระเพาะสามารถยอ่ ยฟอสฟอรสั ในกระดูกปน่ ได้ แต่ปลาในวงศ์ Cyprinidae ไม่มีกระเพาะทแ่ี ทจ้ ริง ไมส่ ามารถยอ่ ยฟอสฟอรสั ในกระดกู ปน่ ได้ 2. อายุของสัตวน์ าํ้ สตั ว์นํ้าหรอื ปลาทอ่ี ายุน้อยระบบการย่อยอาหารยงั ไม่พฒั นา อยา่ งเต็มท่ี ทาํ ใหป้ ระสทิ ธิภาพในการยอ่ ยสารอาหาร เช่นโปรตีน และแปง้ ได้นอ้ ยกวา่ ปลาทโ่ี ตแลว้ 3. ความเครียด ท่เี กดิ จากหลายสาเหตุ ได้ แก่ โรค ส่ิงแวดล้อม มผี ลทาํ ใหก้ ารย่อย อาหารผิดปกติ เช่น การขนยา้ ยปลา ทาํ ใหป้ ลาไม่กนิ อาหาร และขับถา่ ยมากผดิ ปกติ 4. อุณหภูมิ ปลาเป็นสตั ว์เลือดเย็น อุณหภมู ิร่างกายจงึ เปลยี่ นแปลงไปตามอุณหภูมิ น้าํ ทอ่ี าศัยอยู่ เมือ่ นาํ้ มอี ณุ หภมู ิสูงขน้ึ ปลากินอาหารไดม้ ากเพราะระบบย่อยอาหารทํางานเรว็ ขึน้ มี นาํ้ ย่อยออกมามาก และนํา้ ยอ่ ยมปี ระสิทธภิ าพมากขึน้ ปลากินอาหารในฤดรู ้อนไดด้ กี วา่ ในฤดูหนาว 5. องคป์ ระกอบของอาหาร ถือเปน็ ปัจจยั ท่สี าํ คัญเพราะเกษตรกร หรอื ผู้ผลิตอาหาร สามารถเพิม่ ประสทิ ธิภาพการย่อยให้สงู ขึ้นไดด้ งั น้ี
12 5.1 ชนดิ วัตถุดบิ โดยท่ัวไปสัตวน์ ํา้ สามารถย่อยวัตถดุ บิ ท่ีมาจากสัตว์ไดด้ กี ว่าพชื เนอ่ื งจากพชื มีผนังเซลลท์ ่ที งั้ หนาและแข็งแรงกวา่ สัตว์ ทําให้ยากต่อการยอ่ ยทาํ ใหไ้ มส่ ามารถดึง สารอาหารน้ันๆออกมาใช้ประโยชน์ได้ 5.2 ขนาดวตั ถดุ ิบ ปลายอ่ ยวัตถุดิบขนาดเลก็ ท่บี ดละเอยี ดได้ดีกวา่ วัตถุขนาดใหญ่ หรือหยาบ เพราะนาํ้ ยอ่ ยสามารถเข้าได้ท่ัวถงึ วัสดขุ นาดเล็กไดม้ ากกว่าวัสดุขนาดใหญ่ 5.3 ความสุกของวตั ถดุ ิบ โดยเฉพาะแป้งถา้ ทําให้สุกโดยการน่ึงหรอื ต้มมีประโยชน์ กับปลามากกวา่ แปง้ ดบิ เพราะแปง้ ดิบไปจับตัวทางเคมกี บั น้ํายอ่ ยในทางเดนิ อาหาร ทําให้น้ําย่อยมี ประสทิ ธภิ าพลดลง 5.4 ปรมิ าณแปง้ ในอาหาร ปลามีนา้ํ ย่อยแป้งได้ปรมิ าณจํากดั หากมีแปง้ มากเกนิ ความสามารถของนาํ้ ย่อย ส่งผลใหป้ ระสทิ ธภิ าพการยอ่ ยแปง้ ลดลง และยังทาํ ใหป้ ลายอ่ ยโปรตนี ได้ นอ้ ยลงอกี ดว้ ย เนื่องจากแปง้ ทไี่ มถ่ ูกย่อยสามารถเคล่ือนทผ่ี า่ นทางเดนิ อาหารไดอ้ ย่างรวดเร็วพร้อมกับ นําโปรตีนบางสว่ นออกตามไปดว้ ย ความสามารถของปลาในการยอ่ ยวตั ถดุ บิ จากตารางท่ี 9 มีส่วนชว่ ยในการตดั สินใจ เลือกวัตถุดบิ ที่เหมาะสมมาใชใ้ นการทาํ อาหารปลา (กล่มุ วจิ ัยอาหารสตั วน์ า้ํ , 2534) ตารางท่ี 9 เปอร์เซน็ ตก์ ารย่อยโปรตีน ไขมนั และคารโ์ บไฮเดรตของปลาไน และปลาดุกจากวตั ถุดิบ ชนิดต่างๆ วตั ถุดิบ % การยอ่ ยโปรตีน % การยอ่ ยไขมัน % การยอ่ ยคาร์โบไฮเดรต ปลาไน ปลาดกุ ปลาไน ปลาดุก ปลาไน ปลาดกุ สาหร่าย แหน 65.8 - -- -- ปลาปน่ 80 - -- -- เน้ือป่น 90.3 85.2 -- -- ขนนกปน่ - 75 -- -- เลอื ดปน่ - 68.5 -- -- ไข่แดง 84.7 - -- -- แปง้ มนั สาํ ปะหลัง 95.3 - -- -- เมล็ดขา้ วโพดสุก -- -- 95.5 - แปง้ มันฝรัง่ ดิบ 88 - 79 76 84.3 66 แป้งมนั ฝรง่ั สกุ -- - 96 - 78 แปง้ ข้าวโพด -- -- 54 - ขา้ วเจา้ ปน่ -- -- 85 - ข้าวสาลี 89.5 85.2 91.5 97 90.0 - กากถ่ัวเหลอื ง 85.5 83.8 - 96 - 59 กากถว่ั ลิสง 78.1 79.2 86.0 81 83.5 - กากฝา้ ย 92.1 - 90.5 - 73.9 - 77 - 87 81 39.4 17
13 ตารางท่ี 9 (ตอ่ ) % การย่อยโปรตนี % การย่อยไขมัน % การยอ่ ยคารโ์ บไฮเดรต วตั ถุดิบ ปลาไน ปลาดุก ปลาไน ปลาดุก ปลาไน ปลาดุก กากเมลด็ ทานตะวัน 76.6 - 86.4 - 26.7 - เมล็ดยาสูบ 92 - -- 71 - รํา - 71 -- -- น้าํ มนั ขา้ วโพด -- - 97.3 -- นํา้ มนั ปลา -- - 97 -- อาหารสําเรจ็ รูป 87.2 91.3 73.7 80.7 82.8 97.3 อาหารธรรมชาติ อาหารสตั วน์ าํ้ แบง่ ไดเ้ ป็น 2 ชนดิ ไดแ้ ก่ อาหารที่ผลติ และอาหารธรรมชาติ โดย อาหารธรรมชาติเกิดขึ้นเองในแหล่งนํา้ ธรรมชาติ ได้แก่ แพลงก์ตอนพืช แพลงกต์ อนสัตว์ สัตว์หนา้ ดิน ตัวอ่อนแมลง ไส้เดอื นนํ้า สัตวเ์ กาะติด พรรณไม้นา้ํ กุง้ และปลา ปัจจุบนั มอี าหารธรรมชาตหิ ลายชนดิ ที่สามารถผลติ ไดแ้ ละนํามาใช้อนุบาลสัตว์น้ําวัยอ่อน ทําใหม้ ีอัตรารอดตายสูง เพราะอาหารธรรมชาติ มีคุณคา่ ทางโภชนาการสูง แบ่งไดด้ ังนี้ ก. แพลงก์ตอนพืช ไดแ้ ก่ Chaetoceros spp. Chlorella spp. Spirulina spp. (ภาพที่ 1) 1. Chaetoceros spp เป็น สาหรา่ ยจาํ พวก Diatom มีโปรตนี 36.1% คารโ์ บไฮเดรต 49.2% และไขมัน 20.7% (Ben-Amos et al., 1987 อ้างตาม สพุ ศิ และคณะ, 2538) มสี เี หลอื งใชเ้ ลีย้ งกุ้ง ปู วยั zoea 2. Chlorella spp. เป็นสาหรา่ ยสีเขยี วมโี ปรตีนสงู ถงึ 51-58% ไขมนั 14-22% คารโ์ บไฮเดรต 12-17% (Becker, 2007) ไฟเบอร์ วิตามนิ และแร่ธาตุ ใช้เป็นอาหารโรตเิ ฟอร์ และ ไรแดง 3. Spirulina spp. หรือสาหรา่ ยเกลยี วทอง เป็นสาหรา่ ยสีเขียวแกมน้ําเงนิ ผนัง เซลลบ์ าง มีโปรตีนสงู ถงึ 63% คารโ์ บไฮเดรต 18% ไขมนั 5% เถ้า 9% ความช้นื 5% (ยุวด,ี 2544) กรดอะมิโนท่ีจําเปน็ ทุกชนดิ วติ ามนิ และแร่ธาตุ และยงั มีรงควตั ถุ หรือสารสีอีกดว้ ย ใชใ้ นอาหารผสม เลย้ี งลูกปลาวยั อ่อน และเลยี้ งปลาสวยงาม ก ข ภาพท่ี1 Chlorella sp. (ก) และ Spirulina sp.(ข)
14 ข. แพลงก์ตอนสตั ว์ได้แก่ โรตเิ ฟอร์ และ ไรแดง (ภาพที่ 2) 1. โรตเิ ฟอร์ ทสี่ ามารถนํามาเพาะเลีย้ งได้ในปรมิ าณมากคอื Brachionus plicatilis Muller,1786 อยู่ใน Phylum Rotifera มีโปรตีน 60.48-65.03% ไขมัน 8.35-14.90% และเถา้ 14.93-18.12% นํามาเลีย้ งลูกกงุ้ ทะเลระยะ Mysis ทดแทนไรน้าํ เค็ม หรอื Artemia ที่ต้องสัง่ ซอ้ื จาก ต่างประเทศ (วารินทร์ และคณะ, 2548) และยังเป็นอาหารลูกปลากะพงขาว ปลากะรัง และปลา กะพงแดง (ธดิ า และคณะ, 2531) 2. ไรแดง ทส่ี ามารถนาํ มาเพาะเลย้ี งได้ในปริมาณมากคอื Moina macrocopa (Straus, 1820) อยู่ใน Phylum Arthropoda อนั ดบั Cladocera มีฝา (valve) หุม้ 2 ฝาแต่ปดิ ไม่ สนิท (ธนาภรณ์ และวชิ มยั , 2550) มีโปรตีนสงู 74.09% คารโ์ บไฮเดรต 12.5% ไขมนั 10.19% เถา้ 3.47% (สันทนา, 2529) นาํ มาอนุบาลลูกปลานา้ํ จดื และเลย้ี งปลาสวยงาม กข ภาพที่ 2 (ก) Brachionus plicatilis Muller, 1786 และ(ข) Moina macrocopa (Straus, 1820) การสรา้ งสูตรอาหาร (Feed formulation) อาหารสัตวน์ า้ํ โดยท่วั ๆไปมสี ว่ นผสมของวสั ดอุ าหารตงั้ แต่ 2 ชนดิ ขึ้นไป เพราะไมม่ ี วัสดุอาหารใดท่มี โี ภชนาการครบถว้ น การสรา้ งสตู รอาหารคือการหาสว่ นผสมของอาหารท่ีให้ โภชนาการ เช่น โปรตีน หรอื พลังงาน ตามที่ต้องการ การสร้างสูตรอาหารได้เอง สามารถเลอื กใชว้ สั ดุ อาหารในท้องถ่นิ (ตารางที่ 10, 11และ12) ทม่ี รี าคาถกู หาได้งา่ ย ช่วยลดตน้ ทนุ การผลิตสัตวน์ าํ้ ได้ (ประเสรฐิ และคณะ, 2525; กลมุ่ วิจัยอาหารสัตวน์ าํ้ , 2534 และ วิมล, 2537) ตารางท่ี 10 องค์ประกอบวัสดุอาหารท้องถ่ิน วัสดุอาหาร ความชน้ื โปรตีน ไขมนั กาก NFE เถา้ ปลาปน่ 9.7 55 6 2.4 3.3 24.6 ปลาสด 67.5 18.0 13.0 0 0 1.5 เลือดป่น 10.4 81.5 1.0 0.7 1.6 4.8 ขนไก่ป่น 8.1 84.2 2.8 1.0 0.5 3.4 เนอ้ื และกระดูกป่น 7.4 49.1 10.3 2.6 0.7 29.9
ตารางที่ 10 (ตอ่ ) 15 วัสดุอาหาร ความชนื้ โปรตีน ไขมนั กาก NFE เถา้ 14.2 2.6 30.0 กงุ้ ป่น 10. 40.6 2.6 2.3 3.1 15.6 0 0 1.2 เศษไกป่ น่ 6.5 57.5 15.0 0 4.9 3.4 10.6 13.7 36.1 ไส้ไก่ 73.7 13.9 11.2 6.5 25.1 8.4 7.0 27.1 5.1 ปลาหมกึ ป่น 8.1 74.8 8.8 11.3 28.8 6.9 6.4 24.2 10.4 ปปู ่น 6.5 31.0 2.1 12.0 45.4 7.0 9.4 49.5 3.2 กากถ่ัวเหลอื ง 11.8 46.9 1.3 0.5 75.2 4.2 12.3 40.6 13.1 กากถั่วลสิ ง 7.0 48.0 5.8 0.8 77.2 1.2 2.5 70.0 1.7 กากเมลด็ ฝา้ ย 9.8 41.7 1.5 9.9 53.5 5.8 1.9 71.4 1.9 กากเมล็ดงา 8.0 40.4 10.6 3.0 71.8 5.0 กากมะพรา้ วอัด 8.5 20.8 6.3 ใบกระถนิ ปน่ 10.0 23.9 2.9 ปลายขา้ ว 11.6 7.1 1.4 ราํ ละเอยี ด 10.0 12.2 11.8 ขา้ วโพด 11.2 9.4 0.2 ขา้ วสาลี 12.1 12.0 1.7 รําข้าวสาลี 12.1 14.7 4.0 ขา้ วฟ่าง 11.2 10.6 3.0 มันสาํ ปะหลัง 13.5 2.2 0.5 NFE คาร์โบไฮเดรตที่ละลายนํา้ ตารางท่ี 11 องคป์ ระกอบของวัตถุดิบ และวัตถุดิบแปรรูป วัสดุอาหาร โปร ีตน ไข ัมน เย่ือใย คา ์รโบไฮเดรต เถ้า แคลเซียม ฟอสฟอ ัรส ไนโตรเจน โปแตสเซียม ปลาป่น 63.9 6.8 0.6 4.0 17.6 4.14 2.67 10.22 0.4 ปปู น่ 31.6 2.1 10.3 7.2 0.45 กากถัว่ เหลืองปน่ 44.3 5.3 5.7 29.6 40.9 15.15 1.63 5.05 1.77 ราํ ละเอยี ด 12.4 13.16 11.6 39.9 1.74 กากมะพรา้ ว 20.0 11.6 11.5 42.6 6.0 0.29 0.66 7.09 1.95 กากถั่วลสิ ง 43.5 7.6 13.3 23.4 1.15 รําข้าวสาลี 16.4 4.5 10.0 53.1 13.3 0.08 1.36 1.98 1.23 ยีสต์แห้ง 38.8 1.9 6.1 30.2 - เลอื ดปน่ 82.2 1.9 0.9 0.9 6.0 0.21 0.64 3.41 0.09 กระดกู ป่นอบไอน้ํา 7.5 1.2 1.5 3.2 - แปง้ สาลีขาว 10.8 0.9 0.3 75.6 5.2 0.16 0.45 6.96 0.05 กากเมลด็ ป่าน 35.2 4.6 8.9 36.7 1.24 ข้าวโพด 8.5 3.8 2.0 68.0 6.1 0.13 1.29 2.62 0.28 14.0 - - 6.21 5.7 0.32 0.25 13.15 82.1 30.14 14.53 1.2 0.4 0.02 0.09 1.73 5.7 0.37 0.86 5.63 1.2 0.02 0.27 1.36
16 ตารางที่ 12 ปริมาณธาตุแคลเซียมและฟอสฟอรัสในสารทใ่ี ชเ้ ติมอาหารผสม ชนิด %แคลเซียม %ฟอสฟอรัส กระดูกปน่ แห้ง 29.0 13.6 ไดแคลเซยี มฟอสเฟต 26.5 20.5 หินปูนบด 33.8 - ถ่านกระดูก 22 13.1 แคลเซยี มฟอสเฟต 17.0 21.0 โซเดียมฟอสเฟต - 22.4 ไดแอมโมเนียมฟอสเฟต - 20.0 เปลอื กหอยนางรมปน่ 35.0 - วิธกี ารสรา้ งสตู รอาหารมีดังน้ี (ประเสรฐิ และคณะ, 2525) ก. โดยใชว้ ิธรี ูปส่เี หลี่ยม Square method balance (Morrison, 1961) โดยมีวธิ ี ทําดงั นี้ 1.วาดรูปสี่เหลี่ยม 2. ตรงกลางใส่เปอร์เซ็นตโ์ ปรตนี ทตี่ อ้ งการใหม้ ีในอาหาร 40 3. ใสเ่ ปอร์เซน็ ตโ์ ปรตนี ของวัสดอุ าหารทนี่ ํามาทําอาหารที่มมุ บน และมุมลา่ งซา้ ย สาํ หรบั อาหารสตั ว์นํา้ วยั ออ่ นท่ีใชว้ ัสดอุ าหารเพียง 2 ชนดิ ไข่ 35 สไปรูไลนา 60 40 4. ลบเปอร์เซน็ ตโ์ ปรตีนของไข่ และสไปรูไลนาออกจากเปอร์เซ็นตโ์ ปรตนี ของอาหาร ผสม ใส่ไวใ้ นมมุ ตรงขา้ ม ไข่ 35 ลบ 20 40 + 5 ลบ สไปรูไลนา 60 25
17 5. ผลลบทไ่ี ด้คอื อตั ราสว่ นของไข่ และสไปรไู ลนา โดยคิดเปน็ ร้อยละของหนว่ ย นํ้าหนกั ดังน้ี อาหารผสม 25 สว่ น มีไข่ 20 สว่ น อาหารผสม 100 สว่ น มีไข่อยู่ 20x100 = 80% 25 อาหารผสม 25 สว่ น มสี ไปรไู ลนา 5 ส่วน อาหารผสม 100 ส่วน มปี ลาป่นอยู่ 5x100 = 20% 25 6. ตรวจสอบความถูกตอ้ งของผลที่ได้ จากตารางท่ี 13 ตารางท่ี 13 โปรตีนในอาหารผสมของสูตรอาหารทส่ี ร้าง ส่วนผสม % %โปรตีนในสารอาหาร %โปรตนี ในอาหารผสม ไข่ 80 35 80x35 = 28 สไปรูไลนา 20 60 100 20x60 = 12 รวม 100 100 40 กรณที ีใ่ ช้วัสดอุ าหารมากกว่า 2 ชนดิ เช่นอาหารปลาดุก ปลาชอ่ น ที่ต้องใสแ่ ป้ง เหนียวเพอื่ ชว่ ยใหอ้ าหารเกาะตวั กันไดด้ ี และคงรูปอยู่ในนาํ้ ไดน้ านอกี ทั้งยังตอ้ งเสรมิ วิตามิน และแร่ ธาตุ สามารถคํานวนไดด้ ังนี้ ตอ้ งการอาหารผสมปลาดุก 100 กก. ให้มีโปรตีนในอาหาร 40% โดยใช้ ปลาปน่ กากถว่ั เหลอื ง รํา และปลายขา้ ว โดยใช้ปลาปน่ : กากถ่ัวเหลอื ง = 1:1 และรํา: ปลายขา้ ว = 2:1 โดยมีแป้งเหนยี ว 20% แร่ธาตุ 2% และวติ ามิน 1% 1. วัสดทุ กี่ ําหนดปริมาณแนน่ อนใหโ้ ปรตีน 20x10.9 + 2x0 + 1x0 = 2.18% 100 100 100 ดงั นนั้ เหลือโปรตีน = 40-2.18 = 37.82% สว่ นผสมปลาป่น กากถ่ัวเหลือง รํา และปลายข้าว 100 – 20 - 2 – 1 = 77 กก. สว่ นผสมปลาปน่ กากถัว่ เหลือง ราํ และปลายขา้ ว 77 กก. ตอ้ งมีโปรตีน 37.82 กก. สว่ นผสมทั้ง 4 อย่าง 100 กก ต้องมโี ปรตีน 37.82x100 = 49.12 กก. 77 แยกหาโปรตีนแต่ละคู่ จากตารางที่ 14
ตารางท่ี 14 ปรมิ าณโปรตนี ของวัสดุอาหาร 18 ส่วนผสมอาหาร สว่ นท่ใี ช้ %โปรตีน ปรมิ าณโปรตนี 12.7 2x12.7 = 25.4 รํา 2 9.6 1x9.6 = 9.6 ปลายขา้ ว 1 รวม 3 61.5 35.0 เฉล่ยี 1 44.0 11.6% ปลาป่น 1 1x61.5 = 61.5 กากถวั่ เหลือง 1 1x44.0 = 44.0 รวม 2 105.5 เฉล่ีย 1 52.25% รํา 2 11.6 3.13 ปลายขา้ ว 1 ลบ 49.12 ปลาปน่ 1 ลบบ กากถ่ัวเหลือง 1 52.25 37.52 40.65 ราํ +ปลายข้าว 3.13 สว่ น ใน 40.65 ส่วน คดิ เปน็ เปอร์เซ็นต์ 3.13 x100 = 7.7% 40.65 ดังน้นั รํา = 7.7x 2/3 = 5.13 % ดงั นน้ั ปลายขา้ ว = 7.72 x 1/3 = 2.57 % ปลาปน่ + กากถ่ัวเหลือง 37.52 สว่ น ใน 40.65 ส่วน คดิ เปน็ เปอร์เซน็ ต์ 37.52 x 100 = 92.52% 40.65 ดงั น้ัน ปลาปน่ 92.3 x 1/2 = 46.15% ดังนน้ั กากถั่วเหลือง = 92.3 x 1/2 = 46.15% ปลาปน่ กากถวั่ เหลอื ง รํา และปลายขา้ ว 77 กก. มีปลาป่น + กากถ่ัวเหลือง 37.52x77 = 71 กก. 40.65 มีปลาปน่ และกากถั่วเหลอื งอย่างละ 71/2 = 35.5 กก. ปลาป่น กากถ่ัวเหลือง ราํ และปลายข้าว 77 กก มีรํา+ปลายขา้ ว 3.13x77 = 6 กก. 40.65 มีราํ 6x2/3 = 4 กก. มีปลายข้าว 6x1/3 = 2 กก. ตรวจสอบความถูกตอ้ งของผลทไ่ี ดต้ ามตารางที่ 15
19 ตารางที่ 15 ปรมิ าณโปรตนี ของอาหารผสมของสูตรอาหารทีส่ รา้ ง สว่ นผสมอาหาร ปริมาณ %โปรตีนในสารอาหาร %โปรตีนในอาหารผสม ปลาป่น 35.5 61.5 กากถว่ั เหลือง 35.5 44.0 35.5x61.5 = 21.8 รํา 4 12.7 100 ปลายข้าว 2 9.6 แปง้ เหนยี ว 20 10.9 35.5x44.0 = 15.6 แรธ่ าตุ 2 0 100 วติ ามิน 1 0 รวม 100 4x12.7 =0.5 100 2x9.6 = 0.19 100 20x10.9 = 2.18 100 2.0x0 = 0 100 1x0 = 0 100 40.27% วธิ ีรูปสเ่ี หลยี่ มสามารถใชห้ าสมดลุ ยข์ องพลงั งาน วิตามิน และแร่ธาตไุ ด้เชน่ เดยี วกบั โปรตีน ข. การสรา้ งสูตรอาหารให้มีทง้ั ปริมาณโปรตนี และพลังงานตามตอ้ งการ โดยการใช้ สมการทางพีชคณิต เหมาะสาํ หรบั ทําอาหารทดลอง ตัวอยา่ งเชน่ หาสว่ นผสมของราํ และถ่วั เหลอื งทจี่ ะใหอ้ าหารผสมมโี ปรตนี 30% และพลังงาน 220 kcal Metabolizable Energy (ME) /100 กรัม ใหร้ าํ มโี ปรตนี 8.2% และพลงั งาน 1.992 kcal /100 กรมั ถัว่ เหลือง มโี ปรตีน 44% และพลังงาน 2.438 kcal /100 กรัม สมมตุ ใิ ห้ x = กรมั ของรําในอาหารผสม 100 กรัม Y = กรัม ของถัว่ เหลอื งในอาหารผสม 100 กรมั 0.082x + 0.44y = 30 (1) 1.992x + 2.438y = 220 (2) (1) x 1.992 1.992x + 10.69y = 728.78 (3) 0.082 (3) -(2) 8.251y = 508.78 Y = 61.66 แทนค่า y ใน (1) 0.082x + 0.44x61.66 = 30 0.082x = 30 – 27.13 X = 2.87 0.082
20 X = 34.97 ตรวจสอบผลของอาหารตามตารางที่ 16 ตารางที่ 16 ปรมิ าณโปรตีน และพลังงานในอาหารผสม ส่วนผสม % %โปรตีน พลงั งาน โปรตีน (%) พลังงาน (kcal) รํา 34.97 8.2 34.97x1.992 = 69.66 1.992 34.97x8.2 = 2.87 ถัว่ เหลอื ง 61.66 44 100 61.66x2.438 = 150.32 รวม 96.63 2.438 61.66x44 = 27.13 219.98 100 30 ในการสร้างสูตรอาหารควรคาํ นงึ ถึงปรมิ าณวัสดุอาหารทีใ่ ช้ไดส้ งู สุดด้วยเพราะการใส่ วัสดอุ าหารเหล่านัน้ มากเกนิ ไปทําใหค้ ุณค่าอาหารสตั ว์นา้ํ นั้นๆลดลง (ตารางท่ี 17 และ18) ตารางที่ 16 บายด์เดอร์ทใ่ี ช้ในการผสมอาหาร บายด์เดอร์โปรตีน (%ทีใ่ ช)้ บายดเ์ ดอรค์ ารโ์ บไฮเดรต (%ท่ีใช้) บายดเ์ ดอรส์ งั เคราะหแ์ ละธรรมชาติ (%ที่ใช)้ กลเู ต้น (3-10%) แปง้ ขา้ วโพด (30%) บาสฟนิ (1%) เจลลาตนิ (2-5%) ข้าวสาลี (20%) กัวกมั (2%) เลอื ด (2%) ขา้ วเจ้า (20-30%) ยางมนั สาํ ปะหลัง (5%) ไข่ขาว (5-10%) แป้งสุก (10%) อะควาบายด์ (2%) หางนมผง (2%) กากนา้ํ ตาล (2-4%) เบนโทไนท์ (3%) ทมี่ า: วมิ ล (2537) ตารางท่ี 18 เปอรเ์ ซ็นตค์ า่ เฉลี่ย และค่าสูงสดุ (คา่ ในวงเลบ็ ) ของวัสดอุ าหารทใ่ี ช้ทาํ อาหารสตั ว์นํ้า วสั ดุอาหาร ปลากนิ เนอื้ ปลากินทั้งพชื และสตั ว์ กุง้ ทะเล กงุ้ นา้ํ จดื ปลาป่น ไม่จาํ กดั ไม่จาํ กัด ไม่จํากดั ไม่จาํ กดั ปลาสด ไม่จํากัด ไมจ่ าํ กดั ไมจ่ าํ กดั ไม่จาํ กดั เลอื ดปน่ 7.5(10) 3(10) 6(10) 610) ขนไกป่ น่ 5(15) 5(20) 0(15) 0(20) เน้อื และกระดูกปน่ 10(20) 10(25) 7(15) 9(20) กุง้ ป่น 10(25) 7(25) 23(ไม่จํากดั ) 20(ไม่จาํ กัด) เศษไกป่ ่น 5(15) 7(20) 0(15) 0(20) ปลาหมึกป่น 0(ไมจ่ าํ กัด) 0(ไมจ่ ํากดั ) 25(ไมจ่ ํากัด) 11(ไมจ่ าํ กัด) กากถวั่ เหลือง 42(35) 35(40) 0(20) 0(30) กากถั่วลสิ ง 10(15) 20(25) 7(15) 13(25) กากเมลด็ ฝา้ ย 10(15) 15(20) 0(10) 0(15)
21 ตารางท่ี 17 (ตอ่ ) ปลากินเนือ้ ปลากนิ ทัง้ พืชและสัตว์ ก้งุ ทะเล กุง้ นํา้ จืด 0(15) 15(35) 7(15) 21(25) วัสดอุ าหาร 3(5) 4(10) 0(5) 4(10) กากมะพรา้ วอัด 10(15) 15(35) 12(35) 26(35) ใบกระถนิ ปน่ 8(20) 26(35) 10(15) 3035) ราํ ละเอยี ด 10(20) 15(35) 10(20) 18(35) ข้าวโพด 0(20) 18(35) 0(15) 0(35) ข้าวสาลี 0(15) 0(35) 8(15) 10(25) ข้าวฟา่ ง มันสาํ ปะหลงั ทมี่ า: วิมล (2537) การทําอาหารทดสอบ (Preparation on test diet) อาหารทดสอบเปน็ อาหารท่ใี ชใ้ นการทดลองวิจยั ในหอ้ งปฎบิ ัตงิ านของนักวจิ ัย ทางด้านอาหารสัตว์นา้ํ ซ่ึงตา่ งจากอาหารสัตวน์ ้ําทว่ั ๆไป อาหารทดสอบจัดเป็นอาหารสมบรู ณแ์ บบ ประกอบไปด้วยสารอาหารท่ีมคี ณุ ภาพครบถว้ นตอ่ การเจริญเตบิ โตของสัตวน์ าํ้ รสชาดดี มขี นาด เหมาะสมกับสตั ว์นาํ้ ท่ใี ช้ทดลอง คงทนอยู่ในนา้ํ ไดน้ านเพียงพอ ใชแ้ หล่งวสั ดุที่มีคณุ ภาพ ย่อยงา่ ย ไมม่ ี พษิ ตอ่ สัตวน์ าํ้ ท้งั ทางตรง และทางอ้อม ไม่จําเปน็ ต้องราคาถูก เชน่ โปรตนี นยิ มใช้ casein และ gelatin ในอตั ราสว่ น 5:1 จดั เป็นแหล่งโปรตนี คณุ ภาพดี และไม่มวี ติ ามนิ สาํ หรบั ใชก้ ารทดลองท่ี เกย่ี วกบั วติ ามิน ไขมนั นิยมใช้ นา้ํ มนั ขา้ วโพด ถว่ั เหลือง หรือนาํ้ มันปลา แป้งนยิ มใช้ในรปู dextrin ซึง่ เป็นรูปแบบหน่ึงของแปง้ ทีส่ ตั ว์นํา้ สามารถย่อยไดเ้ ปน็ อยา่ งดี วิตามนิ และแรธ่ าตุ โดยใชแ้ บบ สาํ เร็จรูปแตล่ ะตัวนาํ มารวมกัน สารเหนียวเป็นพวก cellulose ช่วยให้วสั ดอุ าหารจบั ตัวและคงทนอยู่ ในนํา้ ไดน้ านพอสมควร ไมม่ คี ณุ คา่ ทางโภชนาการ อาหารทดสอบสว่ นใหญ่เป็นอาหารเปยี กจงึ นยิ มใส่ วุน้ (agar) หรอื carboxymethyl cellulose (CMC) เพอ่ื ลดการสญู เสยี อาหารเมอ่ื อยู่ในน้ําโดยใส่ ประมาณ 2-5% การทําอาหารทดสอบจําแนกตามสารอาหารท่ีต้องการทดสอบดังน้ี (Lovell, 1989; N.R.C., 1973; N.R.C., 1977 และประเสรฐิ และคณะ, 2525) 1. การทําอาหารทดสอบวติ ามนิ เมือ่ ต้องการทดสอบว่าวติ ามนิ ตัวใดตวั หนึง่ มผี ลตอ่ การเจริญเตบิ โต ลักษณะอาการ ตา่ งๆ หรอื เพื่อการดาํ รงชีวติ ของสตั ว์น้าํ ใหล้ ะเวน้ การเติมวติ ามนิ ดังกลา่ วลงไปในวิตามนิ รวมจาก ตารางท่ี 19 และ 20
22 ตารางท่ี 19 ชนิดและปริมาณวติ ามนิ ทใี่ ชใ้ นอาหารสมทบ และอาหารสมบรู ณแ์ บบ วิตามนิ อาหารแห้ง 1 กก.* อาหารสมทบ อาหารสมบรู ณ์แบบ วิตามนิ A 2000 IU 5500 IU วติ ามนิ D3 220 IU 1000 IU วิตามิน E 11 IU 50 IU วติ ามนิ K 5 มก. 10มก. ไทอามนี 0 20 มก. ไรโบเฟลวิน 2-7 มก. 20 มก. ไนอาซนี 17-18 มก. 100 มก. D-Calcium pantothenate 7-11 มก. 50 มก. ไพริดอกซิน 11 มก. 20 มก. ไบโอติน 0 5 มก. อินโนซิทอล 0 100 มก. โฟลกิ 0 5 มก. วติ ามนิ B12 2-10 ไมโครกรมั 20 ไมโครกรัม โคลนี 440 มก. 550 มก. วติ ามิน C 0-100 มก. 30-100 **มก. IU international unit *ปริมาณที่กําหนดไวไ้ มไ่ ดเ้ ผอ่ื ไว้สาํ หรับการสญู เสียทเี่ กิดจาการผลิตหรอื การเก็บรักษา ** ปริมาณวติ ามนิ C ปกติ 100 มก./อาหาร 1 กก. โดยเฉพาะบอ่ ที่มีผลผลิตสัตวน์ า้ํ สงู กวา่ 80 กก./ไร่ ตารางท่ี 20 ชนดิ และปรมิ าณวัสดุท่ใี ชท้ าํ อาหารทดสอบวิตามินกับปลาดกุ อุย วัสดุ ปริมาณในอาหาร (%) Casein (ชนดิ ไมม่ วี ิตามนิ ) 29 Corn dextrin 30 นํ้ามนั พืช (ถว่ั เหลือง) 6 วติ ามนิ รวม * 2 แร่ธาตุรวม** 4 แปง้ Cellulose 20 Carboxymethyl cellulose 3 gelatin 6 *วติ ามนิ ตามตารางท่ี 19 สูตรสมบูรณแ์ บบ ** แร่ธาตตุ ามตารางท่ี 22 สตู รสมบูรณ์แบบ
23 2. การทาํ อาหารทดสอบกรดอะมิโน อาการหรอื การ เมื่อต้องการทดสอบกรดอะมิโนตัวใดทีม่ ผี ลตอ่ การเจริญเตบิ โต ดาํ รงชวี ิตของสตั วน์ า้ํ ใหล้ ะเว้นการเตมิ กรดอะมิโนชนดิ น้ันตามตารางท่ี 21 ตารางที่ 21 ชนดิ และปริมาณของวัสดุที่ใช้ทําอาหารทดสอบกรดอะมิโน วัสดุ ปรมิ าณในอาหาร (%) Amino acid mixture3 33 Corn, dextrin 20 Cellulose, powder 20 Corn, oil 7 Fish oil 4 Carboxymethyl cellulose 10 Vitamin mixture1 Mineral mixture2 4 1 วติ ามนิ ตามตารางที่ 19 สูตรสมบรู ณแ์ บบ 2 2 แรธ่ าตตุ ามตารางท่ี 22 สตู รสมบรู ณแ์ บบ 3 Amino acid mixture กรัม/100 กรัมของสารแห้ง ดังน้ี Arginine 2.4 Tryptophan 0.5 Histidine 1.2 Tyrosine 1.9 Isoleucine 1.9 Valine 1.9 Leucine 2.8 Glycine 3.5 Lysine 2.4 Alanine 1.7 Methionine 0.9 Aspartic acid 2.4 Phenylalanine 1.9 Cystine 0.3 Threonine 1.2 Glutamic acid 3.8 Proline 2.3 ตารางที่ 22 ชนดิ และปริมาณแร่ธาตทุ ่ีใช้ในอาหารสบทบและอาหารสมบรู ณ์แบบ วิตามนิ อาหารสมทบ* กรัมต่ออาหาร 100 กรมั CaCO3 0.750 อาหารสมบรู ณแ์ บบ** MnSO4.H2O 0.030 ZnSO4.7H2O 0.070 1.480 CuSO4.5H2O 0.006 0.035 FeSO4.7 H2O 0.050 - NaCl 0.750 0.003 KIO3 0.0002 0.050 0.60 0.001
24 ตารางที่ 21 (ตอ่ ) กรมั ต่ออาหาร 100 กรมั วิตามนิ อาหารสมทบ* อาหารสมบรู ณ์แบบ** CaHPO4.2 H2O 2.00 2.07 MgSO4 - 0.30 ZnCO3 - 0.015 CoCl2 - 0.00017 NaMoO4.2 H2O - 0.00083 NaSeO3 - 0.00002 *เป็นอาหารที่ประกอบดว้ ยสารอาหารที่จําเป็นต่อร่างกายไมค่ รบถ้วนตามที่สัตว์นํา้ ชนิดนน้ั ๆ ต้องการ **เปน็ อาหารท่ีประกอบดว้ ยสารอาหารทจ่ี ําเปน็ ต่อการเจริญเตบิ โตอย่างครบถว้ นสมบรู ณ์ วิธีทาํ อาหารทดสอบชนดิ เปยี กมขี ัน้ ตอนดังนี้ 1. ชง่ั วัสดทุ ี่นํามาใชแ้ ต่ละตวั แลว้ แยกเกบ็ แตล่ ะตัว 2. นาํ วสั ดทุ กุ ตัวยกเวน้ พวกนํ้ามันมารวมกนั ในเครือ่ งผสมแบบมใี บพัด (Hobart mixer) ประมาณ 6-7 นาที ควรใส่วสั ดทุ ใ่ี ชป้ ริมาณมากท่สี ุดก่อน แลว้ ใส่วัสดุทใ่ี ชน้ ้อย เชน่ วติ ามิน แรธ่ าตุ สารกนั รา คัน่ ตรงกลาง แล้วใส่วสั ดทุ ม่ี ปี ริมาณมากอนั ดบั รองไว้ข้างบน 3. หลงั จากคลุกเคลา้ ดแี ล้วดว้ ยเครือ่ งผสม เติมนา้ํ สุกอนุ่ ลงไป 35 % โดยนา้ํ หนัก เช่นทําอาหาร 1 กก เตมิ นํา้ 350 ซซี ี เปดิ เครอื่ งผสม 7-8 นาที ทําให้อาหารผสมรวมกบั นํ้ามลี ักษณะ เป็นผงรว่ น สามารถนาํ มาทาํ เป็นแผ่น หรือปนั้ เป็นก้อนได้ 4. นําอาหารผสมทีไ่ ดเ้ ขา้ เครื่องบดอัดออกเปน็ เส้น โดยเลือกหนา้ แว่นให้พอเหมาะ กับขนาดสตั ว์นา้ํ หรือปลาทน่ี ํามาทดลอง 5. นาํ อาหารผสมท่ไี ด้เปน็ เสน้ แท่งยาว มาหกั หรือตดั ใหเ้ ปน็ แท่งเล็กๆ แลว้ เก็บใน ภาชนะหรือถุงพลาสติกท่ีกนั นาํ้ ได้ นาํ ไปแช่แข็ง การแช่แข็งทําให้อาหารคงสภาพความสมบรู ณท์ าง โภชนาการไวไ้ ด้นาน ก่อนนําอาหารทดสอบไปทําการทดลองตอ้ งนํามาวิเคราะห์คณุ ค่าอาหาร และ พลงั งานเสมอ สตู รอาหารทใ่ี ช้เลยี้ งสตั วน์ าํ้ สูตรอาหารสตั วน์ าํ้ ทนี่ าํ เสนอเป็นของสัตว์นํา้ เศรษฐกจิ ในประเทศไทย ได้แก่ ปลานลิ ปลานิล (ตารางท่ี 23 และ24) ปลาตะเพยี น (ตารางที่ 25) ปลาดกุ ใหญ่ (ตารางที่ 26) ปลาดุกเลก็ ถงึ ขนาดกลาง (ตารางที่ 27) ลกู ปลาไน ลกู ปลาตะเพียน และลกู ปลานลิ (ตารางท่ี 28) ลกู ปลาดุก ด้าน ลูกปลาดุกอุย และลกู ปลาชอ่ น (ตารางที่ 29) ปลาดกุ ปลาช่อน และปลาบู่(ตารางท่ี 30) ปลา สวาย (ตารางท่ี 31) แม่ปลาสวาย แมป่ ลาปลาไน และแมป่ ลายีส่ กเทศ (ตารางท่ี 32) ปลากะพง และ กะรงั (ตารางท่ี 33) กุ้งกา้ มกรามเล็ก (ตารางที่ 34) กงุ้ กา้ มกราม (ตารางที่ 35) กงุ้ ทะล (ตารางที่ 36) (ประเสรฐิ และคณะ, 2525 และ วิมล, 2537) และสูตรอาหารสัตวน์ ้าํ โดยใชว้ ัสดุทอ้ งถ่ินที่มอี ยูใ่ นแต่ ละภาคเพื่อลดต้นทนุ ตามตารางที่ 37-83 (พศิ มัย, 2549)
25 ตารางที่ 23 สตู รอาหารปลานลิ 1 เปอรเ์ ซ็นต์โดยนํ้าหนัก 77.0 วสั ดุ 23.0 รําละเอียด ปลาปน่ เปอรเ์ ซน็ ตโ์ ดยนํ้าหนัก 12 ตารางที่ 24 สตู รอาหารปลานิล 2 6 41 วัสดุ 40 ปลาป่นอัดนํา้ มัน 1 กากถ่วั ลสิ งปน่ ราํ ละเอียด เปอร์เซ็นต์โดยนา้ํ หนัก ปลายขา้ วบดหรอื มันเส้นบด 12 วิตามิน + แรธ่ าตุ 23 40 ตารางที่ 25 สตู รอาหารปลาตะเพียน 20 4 วสั ดุ 1 ปลาป่นอัดนํา้ มนั กากถว่ั ลิสงป่น เปอร์เซ็นตโ์ ดยน้ําหนกั รําละเอียด 17 แปง้ หรอื ขา้ ว 17 ใบกระถนิ ป่น วิตามิน + แร่ธาตุ 18.4 22 ตารางที่ 26 สตู รอาหารปลาดุกใหญ่ 24 1.6 วสั ดุ ปลาป่นอดั น้ํามัน กากถ่ัวเหลืองปน่ กากถ่ัวลสิ งป่น รําละเอียด ปลายขา้ ว วติ ามิน + แรธ่ าตุ
26 ตารางท่ี 27 สตู รอาหารปลาดกุ เล็กถึงขนาดกลาง วัสดุ เปอร์เซ็นต์โดยนาํ้ หนกั ปลาป่นอัดนํ้ามัน 23 กากถั่วเหลอื ง 23 กากถว่ั ลิสง 23 รําละเอียด 14 ปลายข้าว 15.4 วติ ามนิ + แร่ธาตุ 1.6 ตารางท่ี 28 สตู รอาหารลกู ปลาไน ลูกปลาตะเพียน และลูกปลานลิ วสั ดุ เปอรเ์ ซ็นตโ์ ดยนํ้าหนกั ปลาปน่ อดั นาํ้ มนั 30 ราํ ละเอยี ด 45 กากถั่วปน่ 24 วติ ามนิ + แร่ธาตุ 1 ก่อนผสมอาหารผง รอ่ นวัสดุอาหารท่เี ตรยี มไว้ตะแกรงเบอร์ 16 หรอื 16 ช่องตารางนิ้ว แลว้ นาํ เข้าเครื่องผสมอาหาร 18-20 นาที ใหล้ ูกปลากินในรูปผง ตารางท่ี 29 สตู รอาหารลกู ปลาดกุ ดา้ น ลูกปลาดกุ อยุ และลูกปลาชอ่ น วัสดุ เปอรเ์ ซ็นต์โดยนาํ้ หนัก ปลาป่นอดั น้าํ มัน 56 รําละเอยี ด 12 กากถัว่ ลิสงปน่ 12 แปง้ เหนยี ว 14 น้ํามนั ปลา 4 วิตามนิ + แรธ่ าตุ 1.6 สารเหนียว 0.4 ผสมอาหารทงั้ หมดทัง้ หมดในเครื่องผสมอาหารนานประมาณ 18-20 นาที การใช้โดยผสมนํา้ เย็น 30 เปอร์เซ็นต์ โดยนํา้ หนักแล้วขยําป้นั เป็นกอ้ นใหล้ ูกปลากิน
27 ตารางที่ 30 สตู รอาหารปลาดกุ ปลาช่อน และปลาบู่ วัสดุ เปอรเ์ ซ็นตโ์ ดยนาํ้ หนัก ปลาเปด็ บด 60 แปง้ บด 19 รําละเอียด 20 วิตามนิ + แรธ่ าตุ 1 ผสมส่วนผสมทั้งหมดโดยการใชเ้ ครอื่ งโมป่ ลาแล้วเก็บใส่ไหหรือโอง่ ปดิ ฝาใหแ้ นน่ ตารางที่ 31 สตู รอาหารปลาสวาย วัสดุ เปอร์เซ็นตโ์ ดยนํ้าหนกั ปลาป่น 10 กากถวั่ เหลือง 35 ปลายขา้ วบด 50 ไดแคลซีย่ มฟอสเฟต 3 วติ ามนิ + แร่ธาตุ 1 ตารางที่ 32 สตู รอาหารแมป่ ลาสวาย แมป่ ลาปลาไน และแม่ปลาย่สี กเทศ วัสดุ เปอรเ์ ซน็ ตโ์ ดยนา้ํ หนกั ปลาปน่ อัดนา้ํ มัน 16 กากถั่วลสิ งป่น 24 กากถวั่ เหลืองปน่ 14 ราํ ละเอยี ด 30 ปลายข้าวบดหรือมันเส้นบด 15 วิตามนิ + แร่ธาตุ 1 ตารางที่ 33 สตู รอาหารปลากะพง และกะรัง วัสดุ เปอรเ์ ซน็ ตโ์ ดยนาํ้ หนกั ปลาเป็ดบด 46 ปลาปน่ 26 กากถ่ัวเหลือง 10 เนื้อและกระดกู ป่น 4 ราํ ขา้ วสาลตี ิดแปง้ 4 นํา้ มันปลา 3 สารเหนยี ว 5 เน้ือหอยปน่ 2 วติ ามิน + แร่ธาตุ 1
28 ตารางที่ 34 สตู รอาหารกุ้งก้ามกรามเล็ก เปอร์เซ็นต์โดยน้ําหนกั 10 วสั ดุ 25 ปลาป่น 5 เปลือกกงุ้ ปน่ 5 กากถว่ั ลสิ ง 26 กากถั่วเหลอื ง 26 รําละเอียด 3 รําถัว่ เขยี ว น้ํามนั ปลา เปอร์เซน็ ต์โดยน้าํ หนัก 10 ตารางที่ 35 สตู รอาหารกุ้งก้ามกราม 25 5 วสั ดุ 5 ปลาป่น เปลือกกุ้ง 25.8 กากถ่วั ลสิ ง 25.8 กากถ่ัวเหลอื ง ปลายขา้ ว 3 ราํ ละเอียด 0.4 นํา้ มันปลา สารเหนียว เปอร์เซน็ ต์โดยนํา้ หนัก 27 ตารางท่ี 36 สตู รอาหารกุง้ ทะเล 15 10 วสั ดุ 5 ปลาปน่ 5 กากถ่วั เหลือง 5 รําละเอียด 8 กากถ่ัวลิสง 10 ใบกระถนิ ปน่ 10 กากเมลด็ งา 4 แป้งมันสําปะหลัง 1 เนอื้ และกระดูกปน่ กากมะพรา้ วอัด ข้าวโพดปน่ วิตามนิ + แรธ่ าตุ
29 ตารางที่ 37 สตู รอาหารสาํ หรับพ่อแมป่ ลากนิ เน้อื (สูตร1) วตั ถดุ บิ (%) โปรตนี 50% โปรตนี 45 % ปลาป่น(58-60%) 54 45 เนอื้ หมึกป่น 55 กากถวั่ เหลือง 15 16 แป้งสาลี 13 - ปลายข้าว - 19 ยีสต์ 2 2 สารเหนยี ว 55 นา้ํ มนั ถว่ั เหลอื ง 11 นา้ํ มันตบั หมกึ หรือปลาทะเล 2 2 เลซติ นิ * 11 วติ ามนิ และแรธ่ าตุรวม** 0.3 0.3 วติ ามินซี (97%) 0.2 0.2 วติ ามนิ อี (50%) 0.3 0.3 สาหรา่ ยสไปรูไลนา 1 1 รําสกัดนา้ํ มัน 0.2 2.2 รวม 100 100 ราคาอาหาร บาท/กก. 49.98 42.28 * เลซิตนิ อยูใ่ นรปู ของเหลวขน้ ดงั นน้ั ก่อนผสมอาหารจะตอ้ งนาํ มาละลายในน้ํามนั ถวั่ เหลือง หรือนํา้ มันปลาทะเลเพื่อให้กระจายตัวดี ** ปรมิ าณวติ ามนิ และแร่ธาตุรวมใช้ตามทีร่ ะบขุ า้ งถุงหากซื้อแบบท่ีขายทางการคา้ ตารางที่ 38 สูตรอาหารสําหรบั พอ่ แมป่ ลากนิ เน้ือ (สตู ร2) วัตถุดบิ (%) โปรตนี 50% โปรตีน 45 % ปลาปน่ (58-60%) 48 42 เน้อื หมกึ ป่น 5 5 หวดี กลเู ตน 5 5 กากถั่วเหลอื ง 15 16 แป้งสาลี 10 - ปลายข้าว - 13 ยสี ต์ 5 5 สารเหนียว 5 6 นํา้ มันถั่วเหลือง 1 1 น้ํามันตับหมกึ หรือปลาทะเล 2 2 เลซิตนิ * 1 1 วิตามินและแรธ่ าตุรวม** 0.3 0.3
30 ตารางท่ี 38 (ตอ่ ) วตั ถดุ ิบ (%) โปรตีน 50% โปรตีน 45 % วิตามินซี (97%) 0.2 0.2 วติ ามนิ อี (50%) 0.3 0.3 สาหร่ายสไปรูไลนา 1 1 ราํ สกดั น้ํามัน 1.2 2.2 รวม 100 100 ราคาอาหาร บาท/กก. 45.3 42.48 * เลซิตนิ อยู่ในรูปของเหลวขน้ ดังนัน้ กอ่ นผสมอาหารจะตอ้ งนาํ มาละลายในนา้ํ มนั ถว่ั เหลือง หรอื น้ํามันปลาทะเลเพือ่ ใหก้ ระจายตัวดี ** ปริมาณวติ ามนิ และแรธ่ าตุรวมใชต้ ามที่ระบุข้างถุงหากซอื้ แบบท่ีขายทางการค้า ตารางที่ 39 สตู รอาหารสําหรับพ่อแม่ปลากินทง้ั พืชและสตั ว์ วัตถดุ บิ (%) โปรตีน 40% โปรตนี 35% (กนิ สัตว์มากกวา่ พืช) (กินสัตวม์ ากกวา่ พืช) ปลาป่น (58-60% โปรตนี ) 45 37 หมกึ ปน่ 55 กากถว่ั เหลอื ง 16 16 ปลายข้าว 15 21 ยีสตข์ นมปงั (Saccharomyces serivease) 5 5 สารเหนียว 55 นํา้ มันถ่ัวเหลือง 11 นํ้ามนั ตับหมกึ หรอื ปลาทะเล 11 เลซติ ิน* 11 วติ ามนิ และแรธ่ าตรวม** 0.3 0.3 วิตามินซี (97%) 0.2 0.2 วิตามินอี (50%) 0.3 0.3 สาหรา่ ยสไปรไู ลนา 11 ราํ สกัดนํ้ามัน 4.2 6.2 รวม 100 100 ราคาอาหาร บาท/กก. 37.45 35.31 * เลซิตินอยใู่ นรปู ของเหลวข้น ดังน้ันกอ่ นผสมอาหารจะต้องนํามาละลายในนํ้ามนั ถั่วเหลือง หรือน้าํ มันปลาทะเลเพื่อใหก้ ระจายตวั ดี ** ปริมาณวติ ามนิ และแรธ่ าตรุ วมใชต้ ามที่ระบุขา้ งถงุ หากซอ้ื แบบทข่ี ายทางการค้า
31 ตารางที่ 40 สตู รอาหารสาํ หรับพอ่ แมป่ ลากินท้งั พืชและสัตว์ (กินพืชมากกวา่ สัตว์) วัตถุดิบ (%) โปรตีน 32% โปรตนี 28% ปลาปน่ (58-60% โปรตนี ) 32 21 หมกึ ปน่ 55 กากถวั่ เหลอื ง 16 22 ปลายขา้ ว 26 33 ยสี ต์ 2 2 สารเหนียว 55 นํา้ มนั ถว่ั เหลือง 11 น้าํ มนั ตับหมึกหรอื ปลาทะเล 1 1 เลซติ นิ * 11 วติ ามนิ และแรธ่ าตรวม** 0.3 0.3 วิตามนิ ซี (97%) 0.2 0.2 วติ ามนิ อี (50%) 0.3 0.3 สาหร่ายสไปรูไลนา 11 ราํ สกดั น้าํ มัน 9.2 7.2 รวม 100 100 ราคาอาหาร บาท/กก. 34.42 32.52 * เลซติ ินอยู่ในรปู ของเหลวขน้ ดังนน้ั ก่อนผสมอาหารจะตอ้ งนาํ มาละลายในนํา้ มนั ถั่วเหลอื ง หรอื น้ํามนั ปลาทะเลเพ่อื ใหก้ ระจายตัวดี ** ปริมาณวติ ามนิ และแรธ่ าตรุ วมใชต้ ามทีร่ ะบขุ า้ งถุงหากซื้อแบบท่ขี ายทางการค้า ตารางที่ 41 สตู รอาหารสาํ หรับพอ่ แม่กุ้งก้ามกราม วตั ถดุ ิบ (%) โปรตนี 40% โปรตีน 35% ปลาปน่ (58-60% โปรตนี ) 37 37 หมึกปน่ 5 5 หวั กุง้ ปน่ 5 5 กากถ่วั เหลอื ง 16 16 ยสี ต์ 5 5 ปลายข้าว - 20 แปง้ สาลี 15 - หวีดกลูเตน (wheat gluten) 5 - สารเหนียว - 6 นาํ้ มนั ถวั่ เหลือง 1 1 นํา้ มนั ตบั หมกึ หรือปลาทะเล 2 2 เลซิตนิ * 1 1 วิตามินและแรธ่ าตุรวม** 0.3 0.3
32 ตารางท่ี 41 (ตอ่ ) วัตถุดิบ (%) โปรตีน 40% โปรตีน 35% วติ ามนิ ซี (97%) 0.2 0.2 วติ ามินอี (50%) 0.3 0.3 สาหรา่ ยสไปรไู ลนา 11 รําสกัดนํา้ มนั 6.2 0.2 รวม 100 100 ราคาอาหาร บาท/กก. 49.01 37.75 * เลซิตนิ อยใู่ นรูปของเหลวข้น ดงั นัน้ ก่อนผสมอาหารจะต้องนาํ มาละลายในนาํ้ มนั ถั่วเหลอื ง หรือนาํ้ มันปลาทะเลเพอ่ื ใหก้ ระจายตวั ดี ** ปรมิ าณวิตามินและแร่ธาตุรวมใช้ตามท่รี ะบุขา้ งถุงหากซ้อื แบบทข่ี ายทางการค้า ตารางที่ 42 สตู รอาหารสําหรบั พอ่ แมป่ ลากินเน้อื (สูตร1) วัตถดุ บิ (%) โปรตีน 45% โปรตีน 45% ปลาป่น (58-60% โปรตีน) 46 53 หมกึ ปน่ 10 10 หวั กงุ้ ปนุ่ 55 กากถ่ัวเหลือง 16 14 แปง้ สาลี 10 - ปลายขา้ วบดละเอียด - 10 หวดี กลูเตน 5- วุ้น - 2 นาํ้ มนั ถ่ัวเหลอื ง 11 เลซติ นิ * 11 นาํ้ มนั ตบั หมึกหรือปลาทะเล 2 2 วติ ามินและแรธ่ าตรุ วม** 0.3 0.3 วิตามนิ ซี (97%) 0.2 0.2 วติ ามนิ อี (50%) 0.3 0.3 สาหร่ายสไปรไู ลนา 11 ราํ สกัดน้ํามนั 0.2 2.2 รวม 100 100 ราคาอาหาร บาท/กก. 42.98 42.28 * เลซิตนิ อยู่ในรปู ของเหลวขน้ ดงั น้นั ก่อนผสมอาหารจะตอ้ งนาํ มาละลายในน้ํามนั ถ่ัวเหลือง หรือนาํ้ มนั ปลาทะเลเพื่อใหก้ ระจายตัวดี ** ปริมาณวิตามินและแรธ่ าตุรวมใช้ตามที่ระบุขา้ งถุงหากซือ้ แบบท่ขี ายทางการคา้
33 ตารางที่ 43 สตู รอาหารสําหรบั พอ่ -แมป่ ลาสวยงามกลุม่ กนิ ท้งั สตั วแ์ ละพืช (สตู ร1) วัตถดุ ิบ (%) กินทัง้ สัตวแ์ ละพชื กินทั้งสตั วแ์ ละพชื โปรตนี 35% โปรตีน 35% ปลาปน่ (58-60% โปรตีน) 26 33 หมกึ ป่น 55 หวั ก้งุ ปุ่น 55 กากถ่วั เหลอื ง 16 16 แป้งสาลี 20 - ปลายข้าว - 20 หวีดกลูเตน 5- ยีสต์ 5 5 วนุ้ - 2 นํา้ มนั ถั่วเหลอื ง 11 เลซติ ิน* 11 น้ํามันตบั หมึกหรอื ปลาทะเล 2 2 วติ ามินและแรธ่ าตรุ วม** 0.3 0.3 วิตามินซี (97%) 0.2 0.2 วติ ามนิ อี (50%) 0.3 0.3 สาหรา่ ยสไปรไู ลนา 11 รําสกดั นํ้ามนั 12.2 8.2 รวม 100 100 ราคาอาหารบาท /กก. 41.65 51.36 ราคาอาหารสาํ เร็จรูป บาท/กก. 1,000-2,000 1,000-2,000 * เลซติ ินอยู่ในรูปของเหลวข้น ดงั นนั้ ก่อนผสมอาหารจะต้องนาํ มาละลายในนํ้ามันถว่ั เหลือง หรอื นํา้ มนั ปลาทะเลเพอ่ื ให้กระจายตวั ดี ** ปรมิ าณวติ ามินและแรธ่ าตรุ วมใชต้ ามที่ระบขุ า้ งถุงหากซอ้ื แบบท่ีขายทางการคา้ ตารางท่ี 44 สตู รอาหารสาํ หรบั พ่อ-แมป่ ลาสวยงามกลุ่มกนิ ทง้ั สัตวแ์ ละพชื (สูตร2) วัตถดุ ิบ (%) กินทั้งเนอ้ื และพืช กนิ ท้ังเนื้อและพืช โปรตนี 32% โปรตีน 32% ปลาปน่ (58-60% โปรตนี ) หมึกปน่ 30 30 หัวกุ้งป่น 5 5 กากถั่วเหลือง 5 5 แป้งสาลี 16 16 ปลายข้าว 20 - - 15
34 ตารางที่ 44 (ตอ่ ) วตั ถุดิบ(%) กนิ ทง้ั เนื้อและพชื กนิ ท้งั เน้ือและพชื โปรตนี 32% โปรตีน 32% สารเหนยี ว (อลั ฟ่าสตาชท์) - 5 ยสี ต์ 5 5 น้ํามันถ่ัวเหลอื ง 11 เลซติ นิ * 11 นา้ํ มนั ตับหมกึ หรอื ปลาทะเล 1 1 วิตามนิ และแรธ่ าตุรวม** 0.3 0.3 วิตามินซี (97%) 0.2 0.2 วิตามนิ อี (50%) 0.3 0.3 สาหรา่ ยสไปรูไลนา 11 ราํ สกดั นํ้ามัน 14.2 14.2 รวม 100 100 ราคาอาหาร บาท/กก. 33.52 30.9 ราคาอาหารสาํ เรจ็ รูป บาท/กก. 1,000-2,000 1,000-2,000 * เลซติ นิ อยใู่ นรูปของเหลวขน้ ดงั นัน้ ก่อนผสมอาหารจะตอ้ งนาํ มาละลายในนํ้ามันถั่วเหลอื ง หรือน้ํามันปลาทะเลเพอื่ ใหก้ ระจายตัวดี ** ปรมิ าณวติ ามนิ และแรธ่ าตรุ วมใชต้ ามท่รี ะบขุ า้ งถงุ หากซ้ือแบบทขี่ ายทางการค้า ตารางที่ 45 สตู รอาหารปลาลดต้นทนุ เขตภาคตะวันออกเฉยี งหนอื สอจ.- อน.1 (โปรตนี 40%) ชนดิ วัตถุดิบ %โปรตีน ปรมิ าณที่ใช้ ราคาวัตถุดบิ บาท/กก.* ปลาป่น 58 24 32 มันเสน้ บด 3 14 8 โปรตนี ขา้ วโพดสกัด (Corn gluten) 68 30 28 กากเมลด็ ทานตะวันสกัดน้าํ มัน 21 25 15 ยสี ด์ (Saccharomyces serivisae) 45 0.5-1 90 น้าํ มนั ปลาทะเล 1 90 น้าํ มันถ่ัวเหลือง 2 42 นํ้ามันปาล์ม 2 42 เกลือทะเลป่นละเอยี ด(ทม่ี กี ารเสริมไอโอดนี ) 0.2 25 วติ ามนิ และแรธ่ าตุรวม** 0.25-0.50 80 รวม 100 * ราคาวสั ดุดบิ มีการเปลย่ี นแปลงและบางชนิดมีเฉพาะฤดูกาล ** ปรมิ าณวิตามินและแรธ่ าตุรวมใช้ตามทีร่ ะบขุ ้างถุงหากซอ้ื แบบทข่ี ายทางการคา้ หมายเหตุ: สถาบันวิจยั อาหารสตั ว์นํา้ จืด (สอจ.) เขตภาคตะวนั ออกเฉียงหนอื 1 (อน.1)
35 ตารางท่ี 46 สตู รอาหารปลาลดต้นทุนเขตภาคตะวนั ออกเฉยี งหนือ สอจ.- อน.1 (โปรตนี 28%) ชนิดวัตถดุ บิ %โปรตนี ปรมิ าณทีใ่ ช้ ราคาวตั ถุดิบบาท/กก.* ปลาปน่ 58 22 32 มันเส้นบด 3 22 8 กากเมลด็ ทานตะวนั สกดั น้ํามนั 21 30 15 กากงาอัดนํา้ มัน 33 21 18 นํ้ามันปลาทะเล 1 90 นํา้ มนั ถ่วั เหลือง 2 42 นา้ํ มนั ปาลม์ 1 42 เกลอื ทะเลป่นละเอยี ด (ทมี่ กี ารเสริมไอโอดีน) 0.2 25 วิตามินและแรธ่ าตุรวม** 0.25-0.50 80 รวม 100 * ราคาวสั ดุดิบมีการเปล่ียนแปลงและบางชนดิ มเี ฉพาะฤดกู าล ** ปริมาณวิตามนิ และแรธ่ าตุรวมใชต้ ามทีร่ ะบุขา้ งถุงหากซอ้ื แบบท่ีขายทางการคา้ หมายเหตุ: สถาบันวจิ ัยอาหารสัตว์นาํ้ จดื (สอจ.) เขตภาคตะวันออกเฉยี งหนอื 1 (อน.1) ตารางที่ 47 สตู รอาหารปลาลดตน้ ทุนเขตภาคตะวนั ออกเฉยี งหนอื สอจ.- อน.1 (โปรตนี 20%) ชนดิ วัตถุดิบ %โปรตีน ปริมาณที่ใช้ ราคาวตั ถุดบิ บาท/กก.* ปลาปน่ 58 11 32 มนั เสน้ บด 3 36 8 กากเมล็ดทานตะวนั สกดั น้าํ มัน 21 30 28 กากงาอดั นา้ํ มัน 33 18 15 นา้ํ มนั ถวั่ เหลอื ง 1 42 น้าํ มันปาล์ม 2 42 เกลือทะเลป่นละเอียด (ที่มีการเสรมิ ไอโอดีน) 0.2 25 วติ ามินและแรธ่ าตรุ วม** 0.25-0.50 80 ไดแคลเซยี มฟอสเฟต (AR.grade) 1 25 รวม 100 * ราคาวสั ดุดิบมีการเปลยี่ นแปลงและบางชนดิ มีเฉพาะฤดูกาล ** ปริมาณวติ ามินและแรธ่ าตุรวมใช้ตามที่ระบุขา้ งถงุ หากซ้ือแบบท่ขี ายทางการคา้ หมายเหตุ: สถาบันวิจยั อาหารสตั วน์ าํ้ จดื (สอจ.) เขตภาคตะวันออกเฉียงหนอื 1 (อน.1)
36 ตารางท่ี 48 สตู รอาหารปลาลดต้นทนุ เขตภาคตะวนั ออกเฉยี งหนือ สอจ.- อน.2 (โปรตนี 40%) ชนิดวัตถุดบิ %โปรตีน ปรมิ าณทใ่ี ช้ ราคาวตั ถดุ บิ บาท/กก.* ปลาป่น 58 23 28 มันเสน้ บด 3 20 6 โปรตนี ขา้ วโพดสกัด (Corn gluten) 68 26 22 กากงาอดั นาํ้ มัน 33 24 11 ยสี ด์ (Saccharomyces serivisae) 45 1 90 นา้ํ มันปลาทะเล 1 65 นา้ํ มันถว่ั เหลือง 2 32 นํา้ มนั ปาล์ม 2 28 วิตามินและแรธ่ าตรุ วม** 0.25-0.50 80 รวม 100 * ราคาวสั ดดุ ิบมกี ารเปลยี่ นแปลงและบางชนดิ มเี ฉพาะฤดกู าล ** ปริมาณวติ ามนิ และแรธ่ าตุรวมใช้ตามทรี่ ะบขุ ้างถงุ หากซ้อื แบบทข่ี ายทางการค้า หมายเหต:ุ สถาบนั วจิ ยั อาหารสัตวน์ ํา้ จืด (สอจ.) เขตภาคตะวนั ออกเฉียงหนอื 2 (อน.2) ตารางท่ี 49 สตู รอาหารปลาลดต้นทุนเขตภาคตะวันออกเฉียงหนอื สอจ.- อน.2 (โปรตนี 28%) ชนดิ วตั ถดุ บิ %โปรตีน ปริมาณท่ีใช้ ราคาวัตถุดบิ บาท/กก.* ปลาปน่ 58 22 28 มันเส้นบด 3 34 6 กากงาอัดนํ้ามัน 33 25 11 กากถ่วั เหลือง 44 14 14 นา้ํ มนั ปลาทะเล 1 65 นํ้ามนั ถัว่ เหลือง 2 32 นาํ้ มนั ปาล์ม 1 28 วติ ามนิ และแรธ่ าตรุ วม** 0.25-0.50 80 รวม 100 * ราคาวสั ดดุ บิ มกี ารเปลีย่ นแปลงและบางชนดิ มเี ฉพาะฤดูกาล ** ปริมาณวิตามินและแรธ่ าตรุ วมใช้ตามทร่ี ะบขุ า้ งถงุ หากซ้ือแบบทขี่ ายทางการค้า หมายเหตุ: สถาบนั วิจยั อาหารสัตวน์ า้ํ จดื (สอจ.) เขตภาคตะวนั ออกเฉยี งหนอื 2 (อน.2)
37 ตารางท่ี 50 สตู รอาหารปลาลดต้นทนุ เขตภาคตะวนั ออกเฉียงหนอื สอจ.- อน.2 (โปรตีน 20%) ชนดิ วัตถดุ ิบ %โปรตนี ปรมิ าณทีใ่ ช้ ราคาวัตถุดิบบาท/กก.* ปลาป่น 58 11 28 มนั เส้นบด 3 40 6 กากงาอัดนํา้ มัน 33 25 11 รําสกัดน้าํ มัน 14 8 6 กากถัว่ เหลอื ง 44 12 14 นํ้ามนั ปาลม์ 3 28 วิตามนิ และแรธ่ าตุรวม** 0.25-0.50 80 ไดแคลเซียมฟอสเฟต (AR.grade) 1 25 รวม 100 * ราคาวัสดุดบิ มกี ารเปลยี่ นแปลงและบางชนิดมีเฉพาะฤดูกาล ** ปรมิ าณวติ ามนิ และแร่ธาตรุ วมใช้ตามทรี่ ะบขุ า้ งถุงหากซอ้ื แบบที่ขายทางการค้า หมายเหตุ: สถาบนั วจิ ัยอาหารสัตวน์ า้ํ จืด (สอจ.) เขตภาคตะวันออกเฉยี งหนอื 2 (อน.) ตารางท่ี 51 สตู รอาหารปลาลดต้นทนุ เขตภาคตะวันออกเฉียงหนือ สอจ.- อน.3 (โปรตีน 40%) ชนิดวตั ถดุ บิ %โปรตนี ปรมิ าณทใ่ี ช้ ราคาวัตถุดิบบาท/กก.* ปลาปน่ 58 24 28 มันเสน้ บด 3 19 6 โปรตีนข้าวโพดสกดั (Corn gluten) 68 30 22 กากกระเจี๊ยบ 28 20 5 ยสี ด์ (Saccharomyces serivisae) 45 1 90 น้าํ มันปลาทะเล 1 65 นาํ้ มันถวั่ เหลอื ง 2 32 น้ํามนั ปาลม์ 2 28 วติ ามินและแรธ่ าตรุ วม** 0.25-0.50 80 รวม 100 * ราคาวัสดดุ ิบมีการเปลย่ี นแปลงและบางชนิดมเี ฉพาะฤดกู าล ** ปริมาณวิตามินและแร่ธาตรุ วมใชต้ ามทร่ี ะบขุ ้างถงุ หากซอื้ แบบทข่ี ายทางการคา้ หมายเหต:ุ สถาบนั วจิ ยั อาหารสตั ว์น้าํ จืด (สอจ.) เขตภาคตะวนั ออกเฉยี งหนอื 3 (อน.3)
38 ตารางท่ี 52 สตู รอาหารปลาลดต้นทนุ เขตภาคตะวันออกเฉียงหนือ สอจ.- อน.3 (โปรตนี 28%) ชนดิ วตั ถุดบิ %โปรตนี ปริมาณท่ีใช้ ราคาวตั ถุดิบบาท/กก.* ปลาปน่ 58 22 28 มนั เส้นบด 3 28 6 กากกระเจยี๊ บ 28 25 5 กากงาอัดนํา้ มัน 33 20 11 น้าํ มันปลาทะเล 1 65 น้ํามนั ถ่ัวเหลือง 2 32 น้าํ มนั ปาล์ม 1 28 วิตามินและแรธ่ าตุรวม** 0.25-0.50 80 รวม 100 * ราคาวสั ดุดบิ มกี ารเปลี่ยนแปลงและบางชนดิ มเี ฉพาะฤดูกาล ** ปรมิ าณวิตามนิ และแรธ่ าตุรวมใช้ตามท่ีระบุขา้ งถงุ หากซอื้ แบบทข่ี ายทางการคา้ หมายเหต:ุ สถาบันวจิ ัยอาหารสตั วน์ ้ําจดื (สอจ.) เขตภาคตะวันออกเฉยี งหนือ3 (อน.3) ตารางที่ 53 สูตรอาหารปลาลดตน้ ทนุ เขตภาคตะวนั ออกเฉียงหนือ สอจ.- อน.3 (โปรตีน 20%) ชนิดวตั ถุดิบ %โปรตนี ปริมาณท่ใี ช้ ราคาวตั ถุดิบบาท/กก.* ปลาปน่ 58 11 28 มันเส้นบด 3 40 6 กากงาอดั นํ้ามัน 33 25 11 ราํ สกัดนํ้ามนั 14 8 6 กากถัว่ เหลอื ง 44 12 14 น้าํ มนั ปาล์ม 3 28 วิตามินและแรธ่ าตุรวม** 0.25-0.50 80 ไดแคลเซียมฟอสเฟต (AR.grade) 1 25 รวม 100 * ราคาวัสดุดบิ มกี ารเปล่ียนแปลงและบางชนดิ มีเฉพาะฤดูกาล ** ปริมาณวิตามินและแร่ธาตรุ วมใช้ตามท่ีระบุข้างถงุ หากซอื้ แบบทข่ี ายทางการค้า หมายเหตุ: สถาบันวจิ ยั อาหารสัตวน์ ํา้ จดื (สอจ.) เขตภาคตะวันออกเฉียงหนอื 3 (อน.3)
39 ตารางท่ี 54 สตู รอาหารปลาลดตน้ ทนุ เขตภาคตะวนั ออกเฉียงหนอื สอจ.- อน.4 (โปรตีน 40%) ชนิดวัตถุดบิ %โปรตีน ปริมาณทีใ่ ช้ ราคาวัตถดุ บิ บาท/กก.* ปลาป่น 58 24 28 มนั เส้นบด 3 20 6 โปรตีนข้าวโพดสกัด (Corn gluten) 68 24 22 กากเมลด็ น่นุ อัดนา้ํ มัน 32 25 11 ยสี ด์ (Saccharomyces serivisae) 45 1 90 นํา้ มนั ปลาทะเล 1 65 นาํ้ มันถวั่ เหลอื ง 2 32 นาํ้ มนั ปาลม์ 2 28 เกลือทะเลปน่ ละเอยี ด (ท่มี กี ารเสริมไอโอดนี ) 0.2 25 วิตามนิ และแรธ่ าตรุ วม** 0.25-0.50 80 รวม 100 * ราคาวสั ดดุ ิบมีการเปล่ยี นแปลงและบางชนิดมเี ฉพาะฤดกู าล ** ปรมิ าณวิตามินและแรธ่ าตุรวมใช้ตามที่ระบุข้างถงุ หากซอ้ื แบบท่ีขายทางการคา้ หมายเหต:ุ สถาบันวจิ ยั อาหารสตั วน์ ํา้ จดื (สอจ.) เขตภาคตะวนั ออกเฉียงหนือ4 (อน.4) ตารางที่ 55 สตู รอาหารปลาลดต้นทุนเขตภาคตะวันออกเฉียงหนือ สอจ.- อน.4 (โปรตนี 28%) ชนิดวตั ถุดิบ %โปรตนี ปรมิ าณทีใ่ ช้ ราคาวัตถดุ ิบบาท/กก.* ปลาปน่ 58 22 28 มนั เส้นบด 3 25 6 กากเมล็ดนนุ่ อดั นา้ํ มัน 28 25 11 กากงาอดั นาํ้ มัน 33 15 11 กากถ่วั เหลือง 44 8 14 นํ้ามนั ปลาทะเล 1 65 นํ้ามนั ถ่วั เหลือง 2 32 นา้ํ มนั ปาล์ม 1 28 เกลอื ทะเลปน่ ละเอยี ด (ทีม่ ีการเสริมไอโอดีน) 0.2 25 วติ ามนิ และแรธ่ าตรุ วม** 0.25-0.50 80 รวม 100 * ราคาวสั ดดุ บิ มีการเปลี่ยนแปลงและบางชนิดมีเฉพาะฤดูกาล ** ปรมิ าณวิตามนิ และแร่ธาตุรวมใชต้ ามท่รี ะบุขา้ งถุงหากซ้ือแบบทขี่ ายทางการค้า หมายเหต:ุ สถาบันวจิ ัยอาหารสัตวน์ ํา้ จืด (สอจ.) เขตภาคตะวนั ออกเฉียงหนือ4 (อน.4)
40 ตารางท่ี 56 สตู รอาหารปลาลดตน้ ทนุ เขตภาคตะวันออกเฉียงหนอื สอจ.- อน.4 (โปรตนี 20%) ชนิดวัตถดุ ิบ %โปรตีน ปรมิ าณทใ่ี ช้ ราคาวัตถุดบิ บาท/กก.* ปลาปน่ 58 11 28 มันเสน้ บด 3 41 6 กากเมล็ดนุ่นอัดนาํ้ มัน 28 25 11 กากงาอัดน้าํ มัน 33 18 11 น้าํ มันถ่ัวเหลือง 1 32 น้าํ มนั ปาลม์ 3 28 เกลือทะเลป่นละเอียด (ที่มีการเสรมิ ไอโอดนี ) 0.2 25 วติ ามินและแรธ่ าตรุ วม** 0.25-0.50 80 ไดแคลเซยี มฟอสเฟต (AR.grade) 1 25 รวม 100 * ราคาวัสดุดบิ มีการเปลีย่ นแปลงและบางชนิดมเี ฉพาะฤดูกาล ** ปรมิ าณวติ ามินและแร่ธาตรุ วมใช้ตามที่ระบุขา้ งถงุ หากซื้อแบบท่ีขายทางการค้า หมายเหตุ: สถาบันวิจัยอาหารสัตวน์ ้าํ จดื (สอจ.) เขตภาคตะวนั ออกเฉยี งหนอื 4 (อน.4) ตารางที่ 57 สตู รอาหารปลาลดตน้ ทนุ เขตภาคตะวันออกเฉียงหนือ สอจ.- อน.5 (โปรตนี 40%) ชนดิ วัตถุดบิ %โปรตีน ปรมิ าณทใ่ี ช้ ราคาวัตถดุ ิบบาท/กก.* ปลาป่น 58 24 28 มนั เส้นบด 3 24 6 ดกั แดไ้ หมแห้งปน่ 55 40 15 กากถ่ัวเหลือง 44 8 14 ยสี ด์ (Saccharomyces serivisae) 45 1 90 นาํ้ มันปลาทะเล 1 65 นาํ้ มนั ถวั่ เหลือง 1 32 วติ ามินและแรธ่ าตุรวม** 0.25-0.50 80 รวม 100 * ราคาวสั ดดุ ิบมกี ารเปลย่ี นแปลงและบางชนดิ มเี ฉพาะฤดกู าล ** ปริมาณวติ ามนิ และแร่ธาตรุ วมใชต้ ามทร่ี ะบขุ ้างถุงหากซ้ือแบบที่ขายทางการคา้ หมายเหตุ: สถาบนั วิจยั อาหารสตั ว์นา้ํ จืด (สอจ.) เขตภาคตะวนั ออกเฉยี งหนอื 5 (อน.5)
41 ตารางที่ 58 สูตรอาหารปลาลดต้นทนุ เขตภาคตะวนั ออกเฉียงหนือ สอจ.- อน.5 (โปรตนี 28%) ชนิดวัตถดุ ิบ %โปรตีน ปริมาณทใี่ ช้ ราคาวตั ถดุ ิบบาท/กก.* ปลาปน่ 58 22 28 มันเส้นบด 3 48 6 ดักแดไ้ หมแห้งปน่ 55 27 15 น้ํามันปลาทะเล 1 65 นํ้ามนั ถั่วเหลือง 1 32 วิตามินและแรธ่ าตุรวม 0.25-0.50 80 รวม 100 * ราคาวัสดดุ บิ มกี ารเปลีย่ นแปลงและบางชนดิ มีเฉพาะฤดูกาล ** ปริมาณวติ ามินและแร่ธาตุรวมใช้ตามท่ีระบขุ ้างถุงหากซอื้ แบบทข่ี ายทางการคา้ หมายเหตุ: สถาบนั วจิ ัยอาหารสตั ว์น้าํ จืด (สอจ.) เขตภาคตะวนั ออกเฉียงหนอื 5 (อน.5) ตารางท่ี 59 สตู รอาหารปลาลดต้นทุนเขตภาคตะวนั ออกเฉยี งหนือ สอจ.- อน.5 (โปรตนี 20%) ชนิดวตั ถดุ บิ %โปรตนี ปรมิ าณทีใ่ ช้ ราคาวัตถดุ ิบบาท/กก.* ปลาป่น 58 11 28 มนั เส้นบด 3 41 6 ดกั แดไ้ หมแหง้ ป่น 55 24 15 ราํ สกัดนาํ้ มนั 14 20 6 นํา้ มันปาลม์ 3 28 วิตามนิ และแรธ่ าตรุ วม 0.25-0.50 80 ไดแคลเซียมฟอสเฟต (AR.grade) 1 25 รวม 100 * ราคาวัสดุดบิ มกี ารเปล่ียนแปลงและบางชนดิ มเี ฉพาะฤดูกาล ** ปรมิ าณวติ ามินและแร่ธาตุรวมใชต้ ามท่ีระบุข้างถงุ หากซอ้ื แบบท่ขี ายทางการคา้ หมายเหต:ุ สถาบนั วิจยั อาหารสัตวน์ ํ้าจดื (สอจ.) เขตภาคตะวนั ออกเฉยี งหนอื 5 (อน.5)
42 ตารางท่ี 60 สูตรอาหารปลาลดต้นทนุ เขตภาคใต้ สอจ.- ขต.1 (โปรตนี 40%) ชนดิ วัตถุดิบ %โปรตนี ปรมิ าณทใ่ี ช้ ราคาวัตถดุ บิ บาท/กก.* ปลาป่น 58 24 28 มันเสน้ บด 3 14 6 โปรตีนขา้ วโพดสกดั (Corn gluten) 68 30 22 กากเมลด็ ยางพาราอัดนํา้ มนั 28 20 9 กากถว่ั เหลือง 44 5 14 ยสี ด์ (Saccharomyces serivisae) 1 90 นา้ํ มนั ปลาทะเล 1 65 น้ํามันถวั่ เหลอื ง 2 32 นํา้ มนั ปาลม์ 2 28 เกลอื ทะเลป่นละเอยี ด(ท่มี ีการเสริมไอโอดนี ) 0.2 25 วติ ามินและแรธ่ าตรุ วม** 0.25-0.50 80 รวม 100 * ราคาวัสดดุ บิ มกี ารเปลย่ี นแปลงและบางชนิดมเี ฉพาะฤดกู าล ** ปรมิ าณวิตามนิ และแร่ธาตุรวมใชต้ ามท่ีระบุขา้ งถงุ หากซอื้ แบบท่ีขายทางการค้า หมายเหต:ุ สถาบันวิจัยอาหารสตั ว์นํ้าจดื (สอจ.) เขตภาคใต1้ (ขต.1) ตารางที่ 61 สตู รอาหารปลาลดต้นทุนเขตภาคใต้ สอจ.- ขต.1 (โปรตนี 28%) ชนดิ วตั ถุดบิ %โปรตนี ปริมาณท่ีใช้ ราคาวัตถุดิบบาท/กก.* ปลาป่น 58 22 28 มันเส้นบด 3 32 6 กากเมลด็ ยางพาราอัดน้ํามัน 24 24 9 กากถ่วั เหลอื ง 44 17 14 นํ้ามนั ปลาทะเล 1 65 น้าํ มนั ถว่ั เหลือง 2 32 นาํ้ มันปาลม์ 1 28 ยสี ด์ (Saccharomyces serivisae) 45 0.2 90 เกลอื ทะเลปน่ ละเอยี ด(ทมี่ ีการเสริมไอโอดีน) 0.2 25 วิตามินและแรธ่ าตรุ วม** 0.25-0.50 80 รวม 100 * ราคาวสั ดดุ บิ มีการเปลยี่ นแปลงและบางชนดิ มเี ฉพาะฤดกู าล ** ปริมาณวิตามนิ และแรธ่ าตุรวมใช้ตามที่ระบขุ ้างถุงหากซ้ือแบบที่ขายทางการค้า หมายเหต:ุ สถาบันวิจัยอาหารสัตว์นาํ้ จดื (สอจ.) เขตภาคใต้1 (ขต.1)
43 ตารางที่ 62 สตู รอาหารปลาลดตน้ ทนุ เขตภาคใต้ สอจ.- ขต.1 (โปรตีน 20%) ชนดิ วัตถุดบิ %โปรตีน ปรมิ าณทใ่ี ช้ ราคาวัตถุดิบบาท/กก.* ปลาปน่ 58 11 28 มันเสน้ บด 3 38 6 กากเมลด็ ยางพาราอัดนํา้ มนั 68 24 9 กากถ่ัวเหลอื ง 28 16 14 นํา้ มนั ปาลม์ 44 3 28 ยสี ด์ (Saccharomyces serivisae) 0.2 90 ราํ อัดน้าํ มัน 76 เกลือทะเลป่นละเอยี ด(ที่มกี ารเสริมไอโอดนี ) 0.2 25 วติ ามนิ และแรธ่ าตรุ วม** 0.25-0.50 80 ไดแคลเซียมฟอสเฟต (AR.grade) 1 25 รวม 100 * ราคาวสั ดดุ ิบมีการเปลย่ี นแปลงและบางชนิดมเี ฉพาะฤดูกาล ** ปรมิ าณวติ ามนิ และแร่ธาตุรวมใชต้ ามทีร่ ะบขุ า้ งถงุ หากซื้อแบบทข่ี ายทางการคา้ หมายเหตุ: สถาบันวจิ ัยอาหารสตั วน์ ํา้ จืด (สอจ.) เขตภาคใต้1 (ขต.1) ตารางที่ 63 สตู รอาหารปลาลดตน้ ทนุ เขตภาคใต้ สอจ.- ขต.2 (โปรตนี 40%) ชนดิ วตั ถดุ บิ %โปรตนี ปริมาณทใ่ี ช้ ราคาวตั ถุดิบบาท/กก.* ปลาป่น 58 24 28 มนั เสน้ บด 3 10 6 โปรตนี ขา้ วโพดสกัด (Corn gluten) 68 30 22 กากเมลด็ ยางพาราอัดนํา้ มัน 28 13 9 กากมะพร้าว 20 16 8 ยสี ด์ (Saccharomyces serivisae) 45 1 90 น้าํ มนั ปลาทะเล 1 65 นํา้ มันถัว่ เหลือง 2 32 นํา้ มนั ปาลม์ 2 28 เกลอื ทะเลป่นละเอียด(ที่มีการเสริมไอโอดีน) 0.2 25 วติ ามินและแรธ่ าตุรวม** 0.25-0.50 80 รวม 100 * ราคาวสั ดุดิบมีการเปลยี่ นแปลงและบางชนดิ มีเฉพาะฤดูกาล ** ปริมาณวติ ามนิ และแร่ธาตุรวมใชต้ ามท่ีระบขุ า้ งถุงหากซ้ือแบบท่ีขายทางการคา้ หมายเหต:ุ สถาบนั วิจัยอาหารสัตว์นาํ้ จืด (สอจ.) เขตภาคใต2้ (ขต.2)
Search